เกจิเรืองนามแห่งแดนใต้และไสยเวท...

ค้นหาข้อมูลมาให้ค่ะ

พ่อท่านแก้ว ปุญญภาโค วัดเขาปูน อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช

ศรัทธาแห่งธรรมของสาธุชน เปรียบเสมือนสายธารที่จะต้องไหลรวมกันหลายเป็นแม่น้ำสายใหญ่ที่หล่อเลี้ยง ชีวิตหลายๆชีวิตให้อุดมสมบูรณ์ แต่การที่จะรวบรวมเอากำลังแห่งศรัทธามารวมกันอยู่ในจุดเดียวกันได้นั้น จะต้องมีศูนย์กลางเชื่อมโยงจิตใจของคนเหล่านั้นไว้ จนสามารถทำให้จากพื้นที่อันรกร้างว่างเปล่า กลายเป็นศาสนสถานที่อันเป็นที่รู้จักและเชิดหน้าชูตาของชาวจังหวัดนครศรี ธรรมราชมาจนถึงทุกวันนี้ นั่นคือ พระธาตุชัยมณีศรีฆะโลก

ศูนย์กลางแห่งศรัทธาของชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชผู้ที่ ปฎิบัติดีปฏิบัติชอบ อีกทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกก่อสร้างศาสนสถานมากมายให้เป็นอนุสรณ์แก่ชาว จังหวัดนครศรีธรรมราชอีกด้วยนั่นก็คือ ท่านพระครูสมุห์แก้ว ปุญญภาโค แห่งวัดเขาปูน อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นที่รู้จัก และให้ความเคารพศรัทธาเรียกกันโดยทั่วไปว่า พ่อท่านแก้ว หรือ อาจารย์แก้ว ผู้รวบรวมเอาศรัทธาประชาชน ชาวนครฯ ช่วยกันก่อสร้าง พระธาตุชัยมณีศรีฆะโลก จากคนเป็นสิบ เพิ่มเป็นร้อย เป็นพัน เพื่อร่วมสร้าง สิ่งศักดิ์สิทธิ์นี้ขึ้นมา สายธารที่หลั่งไหลไม่ขาดสายที่ร่วมบริจาคทั้งกำลังเงิน กำลังกายรวมถึงกำลังใจที่ส่งผ่านไป ทำให้องค์พระธาตุสร้างออกมาได้สำเร็จเรียบร้อย แม้ว่าอุปสรรคจะมากมายก็ตาม แต่ก็ไม่มีอะไรเกินไปกว่าความอุตสาหะ ความพยายามไปได้

พ่อท่าน แก้ว หรือ ท่านพระครูสมุห์แก้ว ปุณณภาโค ได้เปิดเผยเกร็ดชีวิตและประวัติอันเป็นที่มาของการเข้าสู่ร่มกาสาวพัตรว่า แต่ดิมนั้นท่านมีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ตำบลสันทราย อำเภอฝาง จ.เชียงใหม่ เป็นบุตรของ นายพรหม และนางจันทร์ เมฆลา เกิดเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2485 โอกาสทางการศึกษาของท่านนั้นต้องจบลงเพียงชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เท่านั้น เนื่องจาก เนื่องจากโยมบิดาได้มาเสียชีวิตลง ท่านอาจารย์แก้ว จึงต้องบวชเป็นสามเณรในวันฌาปนกิจศพของบิดา อันเป็นผลพวงให้ ท่านอาจารย์แก้ว ได้เริ่มศึกษาพระธรรมวินัยเรื่อยมา จนเกิดความซาบซึ้งในพระธรรมคำสอน จนท่านอายุครบอุปสมบท จะด้วยบุญญาบารมีหรือจังหวะแห่งชีวิตก็มิอาจทราบได้ ท่านอาจารย์แก้ว ได้รับความเมตตาจากพระคุณท่าน หลวงปู่แหวน สุจิณโน พระเถระชั้นผู้ใหญ่อันเป็นที่เคารพศรัทธาชาวล้านนา และประชาชนทั่วประเทศ เป็นพระอุปัฌชาย์ จึงได้ติดตามหลวงปู่แหวนออกธุดงค์ไปยังที่ต่างๆ ประมาณเวลาได้ 6 พรรษา หลวงปู่แหวน จึงได้หยุดธุดงค์ เป็นเหตุให้ ท่านอาจารย์แก้ว ต้อง ออกธุดงค์ต่อเพียงลำพัง เดินทางไปเรื่อยๆ ผ่านภาคอีสาน เลยไปถึงประเทศลาว และกัมพูชา อีกประมาณ 3 พรรษา ก่อนจะกลับมาลาสิกขามาใช้ชีวิตฆราวาส มีครอบครัวและบุตรธิดารวม 4 คน

ชีวิตฆาราวาส ของพ่อท่านแก้วหาได้มีความสงบสุขไม่ ท่านจึงต้องกลับเข้ามาอุปสมบทใหม่อีกครั้ง จากนั้นท่านก็ได้ออกธุดงค์ไปยังภาคต่างๆ อีกครั้งเพราะท่านได้รู้ซึ้งถึงสัจจธรรมแห่งชีวิตแล้วว่า ความสุขใดมากมายหมื่นแสนย่อมมลายหายไปไม่ยั่งยืน เหมือนความสุขแห่งพระบวรพุทธศาสนา ภายใต้ร่มกาสาวพัตรอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้หามีไม่ ท่านจึงออกเดินธุดงค์แต่เพียงผู้เดียวอีกครั้ง หลังจากที่ท่านได้เดินทางกลับจากพม่า และกลับมาพักที่เชียงใหม่อีกระยะหนึ่ง ด้วยโชคชะตาคงเป็นผู้กำหนดและลิขิตไว้แล้ว พ่อท่านแก้ว ได้เกิดนิมิตอันอัศจรรย์ ว่าได้เดินทางไปท่องเที่ยวยังดินแดนสวรรค์ชั้นฟ้า

โดย ครั้งนั้นทำให้ท่านได้ทราบว่าหากท่านจะได้มาอยู่บนสวรรค์ชั้นนี้แล้ว ท่านต้องปฏิบัติกิจอันเป็นมหากุศลในดินแดนที่ซึ่งห่างไกล ณ จุดนี้เองทำให้ พ่อท่านแก้ว ตั้งจิตแน่วแน่อธิษฐานธุดงค์ว่า จะออกจาริกแสวงบุญไปยังที่ที่ท่านไม่เคยไปมาก่อน แต่ไม่ว่าจะเป็นประเทศไทยในแถบภาคเหนือ อีสาน รวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว กัมพูชา หรือกรุงชิง ประเทศจีนตอนใต้ที่เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นที่ซึ่ง พ่อท่านแก้ว ไปจาริกแสวงบุญมาแล้วทั้งสิ้น ท่านจึงตั้งใจออกธุดงค์ทางใต้จุดเริ่มต้นของการประกอบกิจมหากุศลของ พ่อท่านแก้ว ซึ่งต้องพบกับอุปสรรคมากมายนานัปการ ชาวบ้าน ผู้เลื่อมใสศรัทธาในตัว พ่อท่านแก้ว ต่างพากันโจษจันถึงบุญญาบารมีของท่านอย่ามมากมาย จนเป็นที่มาแห่งศรัทธามหาศาลไม่ว่า พ่อท่านแก้ว

 

คุณ Aimee2500 เยี่ยมมากครับ ยกให้เป็นคลังข้อมูลเลย ถือโอกาสฝากอีก 3 องค์ครับ หลวงพ่อบุญ ติสสโร องค์เนื้อผงว่าน หลวงพ่อชุม ปุญญมุนี และหลวงพ่อพร้อม วัดคลองแดน 2 องค์หลังอยู่คนละด้านในเหรียญเดียวกัน

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

 

อ่านจบหมดแล้วตื่นเต้น น่าติดตามมากครับคุณนวล

เด๋ว ขอ อนุญาติลง พระของทาง อ.รือเสาะ ให้ชมนะครับ ^^

 

เหรียญหลวงพ่อชุมพร้อม วัดคลองแดน รุ่นแรก ปี 17
วัดคลองแดน เป็นวัดหนึ่ง ตั้งอยู่ที่ บ้านคลองเดน หมู่ที่ 1 ตำบลรามแก้ว(สมัยก่อนเป็น ต. เขาพังไกล) อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นวัดเก่าแก่ของตำบลรามแก้ว เนื่องจากในอดีตตำบลรามแก้วมีศูนย์รวมธรรมอยู่ที่วัดคลองแดน ซึ่งโบสถ์มีลักษณะทรงโบราณ และยังคงสภาพเดิมจนถึงปัจจุบัน ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้สืบไป คลองแดนซึ่งเป็นคลองกันเขตแดนระหว่าง จ. สงขลา กับ จ. นครศรีธรรมราชเหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญ ทีสร้างสำหรับผู้ที่มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญ ในงานณาปนกิจศพหลวงพ่อพร้อม ปี พ.ศ. 2517 (20 บาท รับไป ๑ เหรียญ) เป็นเหรียญสองหน้า เป็นรูปหลวงพ่อพร้อมครึ่งองค์ อีกด้านหนึ่งของเหรียญเป็นรูปเหมือนหลวงพ่อชุม ซึ่งเป็นอาจารย์สำนักแห่งวัดคลองแดนในอดีต เหรียญในภาพเป็นพิมพ์นิยม ซึงสร้างประมาณ 3000 เหรียญ ซึ่งไม่พอกับความต้องการของประชาชนที่มีความศรัทธากับหลวงพ่อ เหรียญรุ่นนี้ได้หมดไปจากวัดหลังจากงานศพหลวงพ่อไม่นาน หลังจากนั้นไม่นานทางวัดได้สร้างเพิ่มขึ้นมาแต่หน้าหลวงพ่อจะแตกต่างจากเดิม ไปมากซึ่งแยกกันไม่ยาก หลวงพ่อพร้อมท่านผู้นี้เก่งมากครับสร้างวัดมาแล้วหลายวัดครับไม่ว่าจะเป็น วัดคลองแดนและร.ร. วัดคลองแดน พร้อมอุปถัมภ์ วัดในดงโจร ลานขอย อ. ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ล่าสุดได้สร้างวัดอยู่ที่ บ้านธรรมรัตน์ อ. บางสะพาน ท่านมรณภาพที่นี้ ลูกศิษย์ได้พาศพของท่านกลับวัดคลองแดน กล่าวกันว่าท่านเป็นคนสร้างบ้านธรรมรัตน์ซึ่งอยู่ในดงโจรในสมัยนั้น เหรียญนี้นอกจากได้รับนิยมของคนตำบลคลองแดนมากแล้วยังได้รับความนิยมของคน บ้านธรรมรัตน์เป็นอย่างมากชนิดห้อยติดตัวตลอดเวลา ไม่ว่าแต่ผู้เฒ่าผู้แก่ ตาสีตาสา ยายมียายมา กระทั้งเด็กหนุ่มเด็กสาว เอาเป็นว่าห้อยเดี่ยว พร้อม-ชุม ทั้ง บ้านธรรมรัตน์อย่างนั้นแห่ละ เหรียญนี้ถึงแม้จะเป็นเหรียญตายคือสร้างหลังจากหลวงพ่อพร้อมมรณภาพไปแล้วแต่ เหรียญนี้ก็ได้รับความนิยมกันอย่างกว้างขวาง เนื่องจากมีประสบการณ์เป็นที่ประจักมากมายบวกกับความศรัทธาของชาวบ้านและ ความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน แล้วยังได้มีเกจิอาจารย์สายระโนดกับสายหัวไทรปลุกเสกกันอย่างคับคั่ง ดังนี้ 1. หลวงพ่อเลื่อน วัดดอนผาสุก 2. หลวงพ่อกลับ วัดเถรแก้ว 3. หลวงพ่อโตก วัดใหญ่ 4. หลวงพ่อเมื่อย วัดสว่างอารมณ์ 5. หลวงพ่อปลอด วัดหัวป่า ฯลฯ ท่านผู้อ่านที่เคารพทุกท่านเมื่อลงไปยังภาคใต้ผ่านไปทาง อ.ห้วไทร จ.นครศรีธรรมราช เข้าไปกราบพระพุทธรูปทองคำและประวัติพ่อท่านอีกหลายองค์นะ เลยไปประมาณ 12-13 กม. ก่อนจะถึง อ. ระโนด จะมีทางแยกขวามือทางเข้า ต. คลองแดน ไปอีกประมาณ 3-4 กม.ก็จะถึงวัดแล้ว หรือ เข้าไปที่ อ. หัวไทร ถามไถ่ชาวบ้านที่นั่นถึงวัดคลองแดน รับรองทุกคนรู้จักเป็นอย่างดีและช่วยเหลือนำพาสู่วัดคลองแดนด้วยความยินดี วัดนี้ผู้สร้างคือพ่อท่านชุม ท่านมีลูกศิษย์มากมายเช่น พ่อท่านเรือง วัดหัววัง หลวงปู่ เลื่อน วัดผาสุการาม หลวงพ่อพร้อม วัดคลองแดน หลวงพ่อรุ่ง วัดรามแก้ว หลวงพ่อเหมื่อย วัดสว่างอารมณ์

 

พระผงรูปเหมือนหลวงปู่บุญ วัดสารวัน ปี 37

 

ไม่ผิดหวังจริงๆ ขอบคุณ คุณ Aimee2500 อีกครั้งครับ หาประวัติที่มานานมากแล้ว

สำหรับเหรียญนี้ผมคงประเภทใกล้เกลือกินด่างอย่างเขาว่ากัน ผมอยู่ที่บางสะพาน 11 ปีจากนั้นก็ไปๆมาๆตลอด บ้านธรรมรัตน์ก็เป็นพื้นที่ทำงานเข้าไปบ่อย ได้เหรียญนี้มาก็ไม่ได้สอบถามประวัติเก็บไว้สงสัยเล่นอยู่อย่างนั้น เพิ่งรู้ว่ามีของดีอยู่กับตัวก็วันนี้เอง...

 

เห็นเขียนว่ารือเสาะ...แต่ไม่รู้ประวัติ ครับคุณนวล..^^

 

เหรียญพระพุทธราษฏร์ วัดราษฏร์สโมสร นราธิวาส 2507
สร้างปี 2507 เพื่อเป็นที่ระลึกในงานสมโภชพระพุทธราษฎร์สโมสร รุ่นนี้สร้างด้วยเนื้ออัลปาก้าเพียงอย่างเดียว

 

​

[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]วัดราษฎร์สโมสร ถือได้ว่าเป็นวัดประจำอำเภอที่มีประวัติศาสตร์น่าสนใจ
และควรศึกษามากมาย แต่ได้รับการเผยแพร่สู่สาธารณชนไม่มากนัก
วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๔๖๘ โดยได้รับการบริจาคที่ดินจาก
ขุนอุปการประชากร เจ้าอาวาสองค์แรกคือ หลวงพ่อพลับ อินทโชโต
ซึ่งต่อมาท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ
ในพระราชทินนามว่า พระไพโรจน์นราธิคุณ เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส[/FONT]


[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]
พระไพโรจน์นราธิคุณ(พลับ อินทโชโต) วัดราษฎร์สโมสร อ.รือเสาะ
อดีตเจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส เกิด วันอาทิตย์ที่ ๑๘ มีนาคม ๒๔๓๖
มรณะภาพเมื่อ ๙ กันยายน๒๕๑๔ ศพไม่เน่าเปื่อยแข็งเป็นหินแต่น่าเสีย
ดายกรรมการวัดมีมติให้เผา หลวงพ่อเรียนคาถาอาคมหลายสำนักมีอาจารย์
หลายองค์ แต่องค์ที่คนทั่วไปรู้จักกันมากๆคือ ๑.หลวงพ่อครน วัดบางแซะ
มาเลเซีย ๒.หลวงปู่นาค วัดหัวหิน ประจวบฯ ๓.หลวงพ่อเชย วัดท่าควาย
สิงห์บุรี ฯลฯ เท่าที่ผมรู้ท่านชอบฉันท์น้ำโค๊กกับขนมโคและชอบดูหนังตลุง
ซึ่งเป็นที่มาของค่านิยมการแก้บนหลวงพ่อพลับด้วยขนมโคและฉายหนังตลุง[/FONT]

​

[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]ภายหลังจากที่ท่านมรณภาพ เมื่อวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๑๔ พุทธศาสนิกชน
ชาวรือเสาะได้ร่วมกันสร้างศาลามณฑปขึ้นในปี ๒๕๑๙ เพื่อประดิษฐานรูปเหมือน
ของท่าน ซึ่งท่านได้หล่อขึ้นด้วยทองแดงไว้ ตั้งแต่ปี ๒๕๐๔ และพุทธศาสนิกชนทั่ว
ไปให้ความเคารพสักการะมาตราบจนทุกวันนี้ ปัจจุบันวัดราษฎร์สโมสร ยังคงเป็น
จุดศูนย์รวมของเหล่าพุทธศาสนิกชน ทั้งในอำเภอรือเสาะ และอำเภอใกล้เคียง
รวมถึงพุทธศาสนิกชนประเทศเพื่อนบ้าน เช่นประเทศมาเลเซีย ต่างพากันมาเยี่ยม
ชมและสักการะบูชาอยู่เสมอ ภายใต้การต้อนรับดียิ่งจาก พระครูวรปัญญาประยุต
(เจ้าคณะตำบล) เจ้าอาวาสวัดราษฎร์สโมสร องค์ปัจจุบัน

[/FONT]

 

​

[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]พระพุทธราษฎร์ (หลวงพ่อโต) สร้างขึ้นภายในปี ๒๔๙๕ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้น
ปางสมาธิ ประดิษฐานในวิหารครอบใหญ่ ถือได้ว่าเป็นอันดับต้นๆของประเทศ
ปั้นโดยนายช่างจากบ้านช่างหล่อ บางกอกหน้อย กรุงเทพฯ พระพักตร์แบบพิมพ์
พระพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก ข้อมูลเพิ่มเติม คุณย่าผมเคยเล่าให้ฟังว่าภายใน
พระพุทธราษฎร์ได้บรรจุพระธาตุ ซึ่งพระธาตุจะอยู่ภายในขันขนาดเล็กลอยอยู่ใน
อ่างน้ำมนต์ขนาดใหญ่ ส่วนพระธาตุหลวงพ่อพลับได้รับมาจากประเทศอินเดีย

[/FONT]​

​

[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]วิหาร เป็นวิหารประดิษฐานพระพุทธราษฎร์ (หลวงพ่อโต) มีลักษณะทาง
สถาปัตยกรรมอันงดงามยิ่ง บริเวณทางเข้าประตูด้านหน้ามีปูนปั้นรูปพระยม
และ พระอินทร์ ยืนเฝ้าประตู ส่วนประตูด้านหลัง มีท้าวเวฬุวัน และอาฬวกยักษ์
ยืนเฝ้าประตูอยู่เช่นกัน ตรงมุมเชิงบันไดทั้งสี่ด้านมีรูปปั้นสิงโตประดิษฐานในท่ายืน
ด้านละหนึ่งตัว ซึ่งมีความพิเศษและพิสดารยิ่ง เพราะสามารถฉี่และกรนได้ กล่าวได้
ว่าเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่น่าสนใจ[/FONT]​

​

​

[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]โบราณวัตถุ เก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ซึ่งหลวงพ่อพลับได้จัดสร้างขึ้น ตั้งอยู่ภายใน
พระวิหารหลวงพ่อโต มีวัตถุโบราณเก่าแก่คู่บ้าน คู่เมือง ประมาณ ๕๐๐ ชิ้น
แต่ละชิ้นมีอายุนับร้อยปี ประกอบด้วยวัตถุโบราณสมัย ทรารวดี ศรีวิชัย ลพบุรี อยุธยา[/FONT]
​

​

[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]อุโบสถ เป็นอุโบสถเก่าแก่คู่กับวัดราษฎร์สโมสร ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทาง
พุทธศาสนาสำหรับพระสงฆ์ ภายในอุโบสถมีพระพุทธรูปเก่าแก่ประดิษฐานเป็นองค์พระประธาน[/FONT]​

​

[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]แป๊ะก๋ง ซำปอกงสร้างขึ้นพร้อมวัดราษฎร์สโมสร ในปีพ.ศ.๒๔๖๘
เป็นที่เคารพสักการะของชาวไทยเชื้อสายจีนในอำเภอรือเสาะและ
อำเภอใกล้เคียง แป๊ะก๋ง ซำปอกง องค์จริงสร้างด้วยกระเบื้องกวางไส
และได้ถูกโบกทับเอาไว้ภายใน โดยหลวงพ่อพลับได้รับมอบองค์แป๊ะก๋ง
มาจากชาวจีน ซึ่งนำมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ และในศาลแป๊ะก๋งมีครกหิน
โบราณอายุกว่า๒๐๐ปีตั้งอยู่[/FONT]
​

​

 

อ่านหมดแล้วครับ คุณAimee2500..
ขอบคุณมากครับ ขอมูลละเอียดดีครับเพิ่งรู้ประวัติ เยี่ยมเลยครับ..^^

 

1ใน2องค์นี้ เป็นรุ่นแรก สร้าง9องค์ ไม่รู้องค์ไหน.(บิดาบอกมาแล้ว..ลืม)

 

วัดราษฎร์สโมสร (พระเครื่อง)

[SIZE=-1]วัดราษฎร์สโมสร (พระเครื่อง)
[/SIZE]
[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]พระครูไพโรจน์สาสนกิจ รุ่นแรก สร้างขึ้นในปี พ.ศ.๒๕๐๔ ซึ่งท่าน
ได้สร้างตามนิมิตฝันขึ้น ซึ่งพระพุทธนิมิตนี้มีด้วยกันสามปาง คือ
๑.ปางพุทธลีลา ๒.ปางขุนแผนนั่งแท่น ๓.ปางรูปหลวงพ่อพลับ เป็น
พระเครื่องรางของขลังทรงคุณอันวิเศษมีอานุภาพ๑๐๘ประการ ตาม
แต่ปราถนา คุณวิเศษหนักไปทาง เมตตามหานิยม แคล้วคลาด ป้องกัน
สรรพอันตราย พระเครื่องพุทธนิมิต ได้เข้าพิธีปลุกเสก ๓ วัน ๓ คืน
ในปรำพิธีการตรงกับวันอังคาร ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๔ ตลอดพิธีมี
หลวงพ่อพลับ เป็นประธานในการปลุกเสก พระภิกษุเกจิอาจารย์ต่างๆ
และในพิธีได้มีวิญญาณอาจารย์คง วิญญาณขุนแผนเข้าประทับทรง
ปลุกเสกตลอดพิธี แล้วนำเข้าไปปลุกเสกในอุโบสถหลวงพ่อโตอธิฐาน
ปลุกเสก ๑ พรรษาเต็ม จึงทำการแจกจ่าย ปัจจุบันพระเครื่องรูปหล่อ
หลวงพ่อพลับนี้เป็นที่หมายปองของนักสะสมพระเครื่องและบรรดา
ทหาร ตำรวจ ทั้งในและนอกพื้นที่ เพราะเรื่องพุทธานุภาพ ไม่ต้องพูดถึง
และข้อมูลนี้ไม่เคยได้รับการเปิดเผยจากที่ไหนมาก่อน นอกจากพุทธศาสนิกชน
อำเภอรือเสาะ และใกล้เคียง ซึ่งผมได้ค้นเจอเอกสารชิ้นสำคัญนี้ภายในบ้าน
ซึ่งอยู่ในสภาพที่เปื่อยและขาดเป็นบางบริเวณ ซึ่งคุณย่าของผมได้เก็บเอาไว้
ผมได้เอามาสแกนเอามาแจกจ่ายผู้ที่สนใจ สำหรับพระคาถาปลุกเสกก็อยู่
อยู่ภายในเอกสารชิ้นนี้ด้วย[/FONT]

 

วัดราษฎร์สโมสร (พระเครื่อง)

วัดราษฎร์สโมสร (พระเครื่อง)

[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][/FONT][FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif] [/FONT]​

[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]รูปเหมือนพระครูไพโรจน์นราธิคุณ สร้างโดยพระครูวิบูลธรรมานุวัตร
หรือที่ชาวอำเภอรือเสาะเรียกกันติดปากว่าท่านนุ่ม วัตถุประสงค์ในการ
สร้างเพื่อที่จะนำปัจจัยมาบูรณะวัด และนับว่าเป็นพระเครื่องรูปเหมือน
หลวงพ่อพลับเป็นรุ่นที่สอง และสวยงามมากทีเดียว แต่ว่ามีข้อผิดพลาด
อยู่เล็กน้อยคือ ตัวหนังสือที่องค์หลวงพ่อจะเขียนผิด ซึ่งในขณะนั้น
หลวงพ่อพลับได้รับพระราชทานสมณะศักดิ์เป็นท่านเจ้าคุณแล้ว จึงไม่
มีคำว่าพระครูนำหน้า ที่ถูกต้อง เขียนว่าพระไพโรจน์นราธิคุณ และอีก
ประการหนึ่ง รูปเหมือนหลวงพ่อรุ่นนี้ไม่ได้มีการจัดพิธีปลุกเสก ได้แต่นำ
องค์พระมาเข้าไปยังมณฑปหรือศาลาหลวงพ่อพลับ แล้วนำไปตั้งไว้บน
มือของรูปหล่อบูชาหลวงพ่อพลับแล้วท่านนุ่มจุดธูปอาราธนาอัญเชิญให้
ดวงวิญญาณของหลวงพ่อพลับมาช่วยปลุกเสก เนื่องท่านนุ่มไม่มีความรู้
เกี่ยวกับพิธีปลุกเสกวัตถุมงคล[/FONT]​

[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif] [/FONT]​

[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]พระกริ่งศิลาเพชร สร้างขึ้นโดยพระไพโรจน์นราธิคุณ (หลวงพ่อพลับ)
สร้างขึ้นในปี พ.ศ.๒๕๑๑ นับว่าเป็นพระเครื่องอีกองค์หนึ่ง ที่มีคุณวิเศษ
เหลือล้น สำหรับผู้ที่ห้อยพระกริ่งศิลาเพชร องค์นี้ ต่างพูดเป็นเสียงเดียว
กันว่า พุทธคุณสูงจริงๆ จนเป็นที่ยอมรับของ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ
และพุทธศาสนิกชนทั่วไป ซึ่งแต่ละคนที่พบประสบการณ์ จากพระองค์
กริ่งองค์นี้ เล่าว่า แคล้วคลาดปลอยภัย จากสาตราวุธ ต่างๆมาได้อย่าง
น่าอัศจรรย์เหลือเชื่อ ซึ่งพระกริ่งศิลาเพชร องค์นี้หายากมาก ราคาในพื้น
ที่ก็สูง แถมยังออกไปอยู่ในประเทศมาเลเซียอีกเป็นจำนวนมาก เพราะสมัย
ก่อนได้มีชาวจีนมาเลเซียศรัทธา ในคุณวิเศษของพระองค์นี้ และบูชาออก
ไปเป็นจำนวนมาก จากหนึ่งคนที่พบประสบการณ์เล่ากันปากต่อปาก จนภาย
หลังมากันหลายสิบคน หรือแม้ปัจจุบันตำรวจในพื้นที่อำเภอรือเสาะ ที่ทำงาน
ท่ามกลางความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้ ต่างก็พบประสบการณ์
ทางด้านแคล้วคลาด ป้องกันสาตราวุธ มหาอุด อยู่หลายท่าน จนกระทั่ง
นิมนต์เข้ากรอบพระทองคำ ห้อยกันอย่างสง่างาม
[/FONT]​

 

​

[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif] เรื่องจริงที่ต้องเชื่อ สำหรับ พระพุทธราษฎร ศีล5 พระบูชาขนาด 5 นิ้ว
เนื้อโลหะที่ให้บูชาแค่องค์ละ 5 บาท นายสมคิด ตั้งธนชัย จัดสร้างขึ้นเพื่อ
ให้ชาวพุทธมีความศรัทธาและความเชื่อมั่นในพระพุทธศาสนา ไม่เลอะเทอะ
ไม่หลงทาง เชื่อในสิ่งที่เห็น ปฏิบัติได้ คิดดี ทำดี สิ่งดีๆ ก็จะเกิดขึ้นในชีวิต
พระพุทธราฎร ศีล5 พระพุทธ หมายถึง พระพุทธเจ้า ราษฎร หมายถึง พวก
เราท่านทั้งหลาย ศีล5 ผู้ที่ประพฤติปฏิบัติตามนี้มีความสุขแน่นอน ผู้ใดได้ไว้
ครอบครอง ถือว่าโชคดีมากๆ เพราะเนื้อองค์พระเนื้อเดียวกับองค์พระขนาด
มหึมาที่ นายสมคิด ตั้งธนชัย เป็นประธานจัดสร้างเพียงผู้เดียว บางคนอาจ
พูดว่า การทำบุญสร้างพระประธานคนเดียว อาจจะอายุสั้น เพราะบุญมากเกิน
ไป นายสมคิดบอกว่า แล้วที่ซิ่งมอเตอร์ไซด์ไปประสบอุบัติเหตุตาย ตั้งแต่อายุ
ยังน้อยหรือดื่มน้ำเมาจมน้ำตาย สงสัยไปสร้างพระใหญ่มาจึงได้อายุสั้นเพราะ
ฉะนั้นถ้าจะให้อายุยืนยาวก็ไม่ต้องทำอะไร แต่ตนไม่คิดเช่นนั้น การทำบุญคน
เดียว โดยไม่ต้องบอกบุญและไม่ทำให้ใครเดือดร้อน หรือทำให้ใครลำบากใจ
ไม่ใช่ว่าโอ้อวดหรืออวดเก่ง ถ้าคิดว่ามาหาผลประโยชน์ในการจัดสร้างพระ
เอาเงินเข้ากระเป๋าตนเองสู้เก็บเงินไว้เฉยๆดีกว่าโดยไม่ต้องทำอะไร อย่างน้อย
ก็ไม่ต้องทำบาป ตามความเชื่อของชาวพุทธ [/FONT]​

[FONT=Microsoft Sans Serif, MS Sans Serif, sans-serif][/FONT]​

[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]พระพุทธราษฎร ศีล5 ซึ่งเป็นพระพุทธรูปโลหะ ขนาดหน้าตักกว้าง
12.345 เมตร ประดิษฐาน ณ วัดราษฎร์สโมสร ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ
จ.นราธิวาส เป็นการท้าทายและวัดพลังศรัทธาของพุทธศาสนิกชนคนหนึ่ง
ที่กล้าพอสำหรับการเดินหน้าโครงการแม้จะเกิดเหตุการณ์ฆ่ารายวัน ต้อง
ทำงานท่ามกลางกระสุนปืนและเสียงระเบิด แต่โครงการดังกล่าวยังเดินหน้า
อย่างต่อเนื่อง โดยไม่เกรงกลัวอันตรายใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเชื่อว่าในพลังแห่ง
บุญจะทำให้สำเร็จ [/FONT]​

[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]
[/FONT]
[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]พระพุทธราษฎร ศีล5 จัดสร้างมากถึง 11,111 องค์ โดยจัด 5พิธีมหา
พุทธาภิเษก 5ภาค นายสมคิดนำพระหลวงปู่ทวดเนื้อว่าวรุ่นแรกปี 2497
พิมพ์ต่างๆ จำนวน5องค์ พร้อมเหรียญเนื้อทองคำ พระพุทธราษฎร ศีล5
จำนวน55องค์ ทั้งสองรายการเพื่อจับฉลากแจกฟรี สำหรับผู้ที่เช่าเหรียญ
กลมพระพุทธราษฎร ศีล5 เส้นผ่านศูนย์กลาง 3 ซม. เหรียญละ5บาท [/FONT] [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]

[/FONT]
[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]

พระบูชา พระพุทธราษฎร ศีล5 เนื้อโลหะ หน้าตัก5นิ้ว ให้บูชาองค์ละ5บาท
พูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ เชิญมาพิสูจน์ความจริงโดยจะให้เปิดจอง พร้อมกันทั้ง
2วัด ณ วัดบพิตรพิมุข กรุงเทพฯ 5,555องค์ ในวันที่5 ธันวาคม 2549 เพียง
วันเดียวเท่านั้น ตั้งแต่เวลา 9.11-15.11 น. รับพระวันที่ 5 ธันวาคม 2550
หลัง5พิธีมหาพุทธาภิเษก 5ภาค วันจองให้นำ 1.ทะเบียนบ้านตัวจริงพร้อมสำ
เนา 2.บัตรประชาชนของผู้จองที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านพร้อมสำเนา 3.เงิน5
บาทไม่ขาดไม่เกินไม่รับทอน เพื่อความรวดเร็ว (เพื่อเป็นการกระจายบุญให้ทั่ว
ถึง จึงขอสงวนสิทธิ์ในการบูชาได้เพียงบ้านละ 1 องค์เท่านั้น) (พระบูชามีเบอร์
และโค๊ตทุกองค์) ผู้ที่ผิดหวังจากพระบูชาจะมีเหรียญแบบกลมเนื้อโลหะโดย
จะให้บูชาเพียงเหรียญละ5บาทเช่นกัน ท่านละ1เหรียญเท่านั้น [/FONT]
[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]ภาพที่เกี่ยวข้อง[/FONT]
[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]













[/FONT]

 

ขอบคุณข้อมูลครับ

ผมได้เหรียญท่านมาเหรียญนานแล้ว เคยได้ข่าวท่านช่วยสร้างโรงพยาบาล

 

พระผงว่านชานหมากพ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน (หลัง สข.๑)
จัดเป็นพระเครื่องหรือวัตถุมงคลที่ชาวบ้านทางภาคใต้ให้ความนิยม และศรัทธากันมาก แม้ว่าพระรุ่นนี้ จะราคาไม่สูงเหมือนเหรียญหรือวัตถุมงคลบางรุ่นของท่านก็ตาม แต่พระรุ่นนี้ก็เป็นที่เชื่อถือและนิยมทางภาคใต้มานานแล้ว พระเนื้อว่านรุ่นสข.๑ นี้ว่าพระรุ่น (พิมพ์ที่มีสข.๑ ด้านหลังเช่นรูปเหมือนพ่อท่านคล้าย นางกวัก พระประจำวัน) ประกอบด้วย ว่านที่นำมาสร้างพระรุ่นนี้ รวมกันแล้วมีนับเป็นร้อยๆ ชนิด. ชานหมาก เป็นของดีอีกอย่างหนึ่งของพ่อท่านคล้ายที่ชาวบ้านอยากได้กันมาก นอกจากว่านและชานหมากที่เป็นมวลสารหลักดังกล่าวข้างต้นแล้ว ก็ยังมีมวลสารอื่นๆ อีกหลายอย่างอาทิเช่น
*ผงวิเศษ
*เกสรดอกไม้ฯ
ซึ่งมวลสารเหล่านี้ พ่อท่านคล้ายได้นำมาปลุกเสกรวมกับว่านและชานหมากอยู่นานหลายปีจนกระทั่งมาถึงในปี พ.ศ. 2500 ซึ่งเป็นวาระมงคลที่มีการฉลองสมโภชพระพุทธศาสนาเจริญมาครบ 2,500 ปี ท่านจึงได้นำเอามวลสารเหล่านี้ไปทำการบดจนละเอียด แล้วนำมาคลุกเคล้ากับ "น้ำมนต์" ผสมจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นก็นำไปกดพิมพ์ในแม่พิมพ์ซึ่งมีอยู่ดวยกันหลายพิมพ์ เช่นพิมพ์รูปเหมือน พิมพ์พระประจำวัน พิมพ์นางพญา พิมพ์นางกวัก ฯลฯ ซึ่งการกดพิมพ์ก็ใช้เวลาอยู่นานเป็นเดือนๆ จนได้พระจำนวนมากพอเป็นหมื่นๆ องคื พ่อท่านคล้ายได้ทำการปลุกเสกเดี๋ยวตลอด 7 คืนเต็มๆ ซึ่งพอเสร็จพิธีแล้วท่านก็ได้มอบสายสิญจน์ที่ใช้ในการปลุกเสกทั้งขดแก่พ่อท่านเดช (สำหรับพ่อท่านเดชนี้ ภายหลังเมื่อพ่อท่านคล้ายได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดพระธาตุน้อยแล้ว ก็ได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดสวนขันแทนพ่อท่านคล้าย) โดยท่านได้บอกให้พ่อท่านเดชเดาสายสิญจน์ที่ใช้ในการปลุกเสกพระเนื้อว่านรุ่น สข.๑ นี้แจกแก่ชาวบ้านทั่วไป พ่อท่านเดชสังสัยจึงถามเหตุผล พ่อท่านคล้ายก็บอกว่า "ต่อไปจะหาพระรุ่นไหนศักดิ์สิทธิ์เหมือนรุ่นนี้ไม่มีอีกแล้ว" พ่อท่านเดชก็ยิ่งสงสัยขึ้นไปอีก จึงถามเหตุผลอีกครั้ง พ่อท่านคล้ายก็บอกว่า "ตอนปลุกเสกอยู่นั้น เทวดาที่องค์ต่อกี่องค์ ลงมาช่วยกันหมด" นี่แหละจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมชาวบ้านภาคเขาถึงได้ศรัทธาพระรุ่นนี้กันมา

*พระผงว่านชานหมากพ่อท่านคล้ายพิมพ์นางกวักใหญ่ (หน้า-หลัง)
*พระผงว่านชานหมากพ่อท่านคล้ายพิมพ์พ่อท่านคล้าย สข.๑(หน้า-หลัง)


หนังสือ
๑๐๘
พระดีที่มองข้าม
ษรวัฒน์

 

นางกวักหลวงพ่อปลอดครับ



มีอะไรชี้แนะเพิ่มเติมได้ครับ

 

เอามาแจมมั่ง เนื้อผงล้วนๆ



กว่าจะได้มากล่อมจนน้ำลายแห้ง กว่าน้องเพชรจะใจอ่อนแบ่งให้

 

สวัสดีค่ะ....
ได้นางกวักมา....กวักให้เข้ามาดูแน่เลย....
ต้องดื่มน้ำเยอะๆนะคะ.....กว่าจะได้มา.....
อยากไปวัดหลวงตาปลอด....ยังไม่เคยไปเลยค่ะ