อารมณ์เฉยๆแบบอุเบกขาที่เกิดขึ้นระหว่างวันเป็นฌาณได้ไหม ถ้าได้ เป็นฌาณระดับใด

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Shinozuke, 30 กันยายน 2015.

  1. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
  2. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,611
    ค่าพลัง:
    +3,015
    อารมณ์เฉยๆแบบอุเบกขาที่เกิดขึ้นระหว่างวันเป็นฌาณได้ไหม ถ้าได้ เป็นฌาณระดับใด




    อารมณ์เฉยๆ ระหว่างวัน
    เป็นอารมณ์อุเบกขาญานอย่างหนึ่ง
    ถ้าทำได้ โดยที่ไม่ขับยานพาหนะ
    ก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด
    แต่ถ้าหากทำ ขณะที่ขับยานพาหนะอยู่
    จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
    และ ข้อเสียอีกข้อคือ
    จะมีคนหาว่าคุณเป็นคนไม่ค่อยสนใจใลก
    หรือ สิ่งรอบตัว บางครั้ง จะเรียกคุณว่า
    พวกสมาธิสั้น แต่จริงๆ แล้ว
    เป็นคนละเรื่องกัน
    โดยเฉพาะ พระที่ทรงวิปัสสนา
    ย่อมต้องผ่านขั้นนี้มาก่อนทั้งสิ้น

    อารมณอุเบกขาญาน
    หากเกิดขึ้นเสมอๆ จนเรารู้สึกได้
    แสดงว่า คุณได้เข้าญานโดยที่ไม่ต้องหลับตาแล้ว
    มันเกิดจากความเคยชิน
    ของผู้ที่เข้าญานได้ลึกๆ
    จะเกิดได้บ่อยๆ เมื่อเวลาที
    เราเกิดความกลัวจัดๆ หรือ
    บีบคั้นจัดๆ หรือ นิงจัดๆ หรือ
    เมื่อมีอะไรมากระทบจิต

    ข้อดีอีกข้อของผู้ที่ได้ ถึง ขั้นนี้คือ
    เวลาโลกธรรมแปด มากระทบจิตใจ
    คุณก็ใช้อารมณ์เฉยๆ หรือ อุเบกขาจิต นั้น
    วางใส่โลกกระทำแปดชนิดนั้น
    เมื่อฝึกทำจนคล่อง
    จิตก็จะสงบได้ แม้ในขณะที่ไม่ได้นั่งแข้าญาน

    ข้อดีข้อต่อไป ก็คือ
    สามารถใช้เป็นฐานในการฝึก อรูป ขั้นอากาส ต่อไป

    ข้อดี ข้อต่อไป เป็นฐานของ การทำวิปัสสนา

    ิข้อดี ยังมีอีกเยอะแยะ จนบรรยายไม่หมด
    ไว้ให้คุณถึงจุดนั้นแล้ว
    คุณก็จะเข้าใจได้เอง
    เพราะปฏิบัติ ได้ถึงแล้ว
    ภูมิธรรมก็ย่อมจะสูงขึ้นตาม
    ส่วผู้อื่น บรรยายเช่นใด
    อันนั้นเป็นเพียงความเห็นด้านเดียว




     
  3. Shinozuke

    Shinozuke Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2015
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +60
    แล้วถ้าจิตใจ ที่เป็นสมาธิ เป็นฌาณที่วางอุเบกขาได้
    ฌาณ ในขณะที่วางอุเบกขาอยู่นี้ คือ ฌาณอะไรหรือครับ
    ขอรบกวนท่านโปรดชี้แนะด้วยครับ
     
  4. Shinozuke

    Shinozuke Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2015
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +60
    ตรงนี้นี่แหละครับ ที่อยากศึกษาดู ว่าตรงกับฌาณอะไรน่ะครับ เลยลองถามท่านผู้รู้ดู ปฏิบัติผมพอได้ แต่ทฤษฎีผมไม่ได้เรื่อง คนในนี้ คนที่ปฏิบัติเก่งมี ทฤษฎีเก่งพร้อมสมบูรณ์ด้วยก็มี เลยลองถามดูน่ะครับ
     
  5. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,611
    ค่าพลัง:
    +3,015





    อุเบกขาญาน หรือ อารมณ์อุเบกขา
    ก็คือ ญานสูงสุดของรูปญาน
    เป็นขั้นที่สี่ หรือ บางอาจารย์อาจจะเรียกว่าขั้นที่ห้า ก็ได้เหมือนกัน
    เรียงจาก วิตก วิจาร ปิติ สุข และ เอกัตคตา
    ซึ่งเอกัตคตา ตัวนี้ ก็คือ อุเบกขาญาน นั่นเอง

    เป็นญานที่ใครได้แล้ว จะรู้สึก เหมือน ตัวเองได้บรรลุธรรมแล้ว
    เพราะมันนิ่งสงบมา อย่างที่ไม่เคยเป็น ไม่เคยได้มาก่อน
    จนบางครั้ง หรือ บางคน หรือ บางคณะ
    เรียกว่า การบรรลุธรรม เพราะมันนิ่งสงบ เหมือนไม่มีกิเลส
    จึงหลงเข้าใจว่า บรรลุธรรมแล้ว

     
  6. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

    ถาม-ตอบ ปัญหาธรรม วันที่ ๕ กันยายน ๒๕๕๒

    ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

    ...
    พูดธรรมะของพระพุทธเจ้า พูดอภิธรรมไง อารมณ์เป็นอย่างนั้น อะไรนะ สังขารุเบกขาญาณ โคตรภูญาณ ญาณ ๑๖ แต่ ซ่อนไว้นะ ซ่อนปัญญาเกิดเอง สมาธิเกิดเอง ซ่อนไว้ข้างหลังนะ สังขารุเบกขาญาณเลยนะ อารมณ์อย่างนี้จะเป็นอารมณ์อุเบกขานะ โอ๋ อุเบกขานี้เป็นอารมณ์ของพระอรหันต์นะ องค์ของอารมณ์พระอรหันต์ต้องเป็นอารมณ์อุเบกขานะ ส้นตีน!

    อุเบกขามันก็เป็นอุเบกขาเว้ย อุเบกขามันก็มีสุขมีทุกข์เว้ย เห็นไหม อุเบกขามันเวทนา ๓ ไง สุขเวทนา ทุกขเวทนา อุเบกขาเวทนา มันเวทนา ๓ มัน อัพยากฤต อัพยากฤตก็คืออุเบกขา แล้วอารมณ์พระอรหันต์อะไร อารมณ์หัวตออย่างนั้นคืออารมณ์พระอรหันต์เหรอ อุเบกขาคืออารมณ์หัวตอไง อารมณ์เฉยอยู่มันจะลงสุขกับทุกข์ อารมณ์พระอรหันต์เป็นหัวตออย่างนั้นเหรอ

    ...


    http://www.sa-ngob.com/index.php
     
  7. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ถาม : เมตตาในอุเบกขาเป็นอย่างไร ?

    ตอบ : เมตตาในอุเบกขา ก็คือ เมื่อช่วยเขาไม่ได้ก็วางเฉย แต่ไม่ได้เฉยอย่างเดียว ถ้ามีโอกาสเมื่อไรก็พร้อมที่จะช่วยอีก

    ถาม : แล้วอุเบกขาในเมตตา ?

    ตอบ : อุเบกขาในเมตตาก็แค่กลับข้างกันเท่านั้น

    ถาม : เฉยก่อนแล้วค่อยช่วย ?

    ตอบ : ไม่ใช่ ถ้าหากว่าสงเคราะห์เกินประมาณ พวกคนพาลจะได้ใจ จึงต้องรู้จักการสงเคราะห์คนในระดับที่พอเพียงด้วย จึงจะเป็นอุเบกขาในเมตตา

    ถาม : คนที่เป็นพุทธภูมิ เขามักจะห่วงคนอื่นมากกว่าห่วงตนเอง อันนี้ไม่ใช่ทางสายกลาง จะวางกำลังใจอย่างไร ?

    ตอบ : วางกำลังใจอย่างนั้นแหละ ถ้าไม่ห่วงคนอื่นมากกว่าตนเอง ก็ไม่ใช่พุทธภูมิ..!

    กำลังใจของพุทธภูมิ เราจะเอาในเรื่องของหลักธรรมไปวัดไม่ได้ ส่วนที่เราเห็นว่าเป็น อัตกิลมถานุโยค ก็คือเกินกำลัง แต่สำหรับท่าน ท่านทำได้ เราแบกข้าวสารได้กระสอบหนึ่ง แต่ถ้าเป็นช้าง ๗-๘ กระสอบ โยนใส่หลังก็ยังเฉย เราจะไปวัดด้วยเหตุผลธรรมดาไม่ได้ เพราะกำลังใจท่านมากกว่า

    ถาม : ถ้าเมตตาสูงแล้วคนรับเขารับไม่ได้ จะกลายเป็นโทษแก่เขาหรือไม่ครับ ?

    ตอบ : เมตตาจะต้องมีปัญญาประกอบด้วย อย่างที่ว่ามาแสดงว่าคุณมีเมตตาอย่างเดียว ในเรื่องบารมี ๑๐ นี้ ถ้าหากว่าเราทำตัวใดตัวหนึ่ง อีก ๙ ตัวก็จะมาด้วย โดยเฉพาะสำคัญที่สุดก็คือ ปัญญาบารมี ต้องดูวาระ ดูโอกาส ว่าควรที่จะปฏิบัติอย่างไร

    ถ้าหากว่าเป็นใน สัปปุริสธรรม ก็คือ กาลัญญุตา รู้กาลเทศะ เวลาไหนเหมาะ เวลาไหนควร รู้ ปุคคลปโรปรัญญุตา รู้ว่าแต่ละบุคคลมีความต้องการอย่างไร

    ถาม : พูดง่ายๆ ก็คือ โดยพื้นฐานของกำลังใจควรมีเมตตา คิดว่าจะให้อยู่ ส่วนจะเป็นเวลาไหนอย่างไร ต้องใช้ปัญญาประกอบเข้าไป ?

    ตอบ : มีปัญญารู้ว่าเวลาไหนควรจะอุเบกขา ไม่ใช่มีแต่เมตตาอย่างเดียว


    สนทนากับพระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เก็บตกบ้านอนุสาวรีย์ ต้นเดือนมีนาคม ๒๕๕๔



    ที่มา : เก็บตกบ้านอนุสาวรีย์ ต้นเดือนมีนาคม ๒๕๕๔ (เดือนสุดท้าย) - หน้า 6 - กระดานสนทนาวัดท่าขนุน
     
  8. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    พระท่านเทสน์ถูกครับ. เริ่มผิดก็ผิดทั้งขบวน เริ่มถูกก็ถูกทั้งขบวนการ สาธุ
    อุเบกขา คือการยอมรับ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ไม่ไช่เฉยๆ เห็นสัตว์โดนฆ่าเราช่วยไม่ทัน วางอุเบกขา ไม่ใช่เฉยๆข่างแ..งมัน แต่เป็นการยอมรับในธรรมชาติ ว่าสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม เราทำอะไรไม่ได้ ให้วางอุเบกขาอย่านำมาเป็นอารมณ์ มันเป็นณาญตรงไหน ถ้าเป็นณาญอวกาศนะพอได้555555
     
  9. Shinozuke

    Shinozuke Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2015
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +60
    แหม่ แจกส้นตีนซะแล้วววววววววววววววววว
    ถ้าจะคุยถึงเวทนา 3
    ก็ถ้าเขาไม่ได้จะต้องไปยินดีพอใจ หรือไม่พอใจ หลงไหลไปกับสุขกับทุกข์
    ถ้าไม่ให้อุเบกขาวางไว้ งั้นจะให้ทรงอารมณ์สุขค้างไว้ ทุกข์ค้างไว้อย่างนั้นหรืออย่างไร จะค้างไว้ทำขี้เกลืออะไร
    พระอรหันต์นี่ต้องมีสุขค้างไว้หรอ หรือว่าต้องมีทุกข์ค้างไว้อย่างนั้นหรืออย่างไร
     
  10. Shinozuke

    Shinozuke Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2015
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +60

    อุเบกขามันไม่ได้มีสุขมีทุกข์
    สุขก็ส่วนสุข ทุกข์ก็ส่วนทุกข์ อทุกขมเวทนาหรืออุเบกขาก็อยู่ในส่วนของอุเบกขา จะไปบอกว่าอุเบกขามันมีสุขมีทุกข์ได้อย่างงัย
    แล้วถ้าไปบอกว่า "อุเบกขามันเวทนา ๓ ไง สุขเวทนา ทุกขเวทนา อุเบกขาเวทนา"
    ไปว่าอย่างนี้ มันก็เข้าใจว่า สุข ทุกข์ น่ะอยู่ในอุเบกขานะสิ
    ทั้งๆที่ความเป็นจริงแล้ว สุข ทุกข์ อุเบกขา มันแยกกันอยู่ส่วนใครส่วนมัน ภายใต้เวทนา 3 นู่น
     
  11. Shinozuke

    Shinozuke Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2015
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +60
    ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับท่าน แต่กระผมยังมีความสงสัยอยู่
    อุเบกขาญาน นี้ ที่บอกว่าเป็นญานที่ใครได้แล้ว จะรู้สึก เหมือน ตัวเองได้บรรลุธรรมแล้ว งั้นหมายความว่า เค้าก็ยังไม่บรรลุธรรมน่ะสิครับ
    ขอถามว่า
    แล้วผู้ที่เขาบรรลุธรรมแล้วจริงๆ เขาจะไม่มี อุเบกขาญาน หรือครับ?
    ถ้าไม่มีนี่ สังขารุเปกขาญาณ นี่ก็น่าจะเกิดยากเหมือนกันนะผมว่า
    แล้วถ้ามี เราจะบอกว่าคนที่มี อุเบกขาญาน ไม่ใช่ผู้ที่บรรลุธรรม ได้อย่างงัยอ่ะครับ
    ถ้าถามอะไรไม่สุภาพต้องขอเมตตาอโหสิด้วยครับ มันน่าพิจารณาน่ะ
     
  12. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    ก็ต้องไปเปิด พระวินัยปิฏก ฮับ

    พระวินัยปิฏก ระบุชัดว่า

    ใครก็ตาม ไม่ว่าจะ บรรลุ หรือไม่บรรลุ เสือกทะลึ่ง บอกว่า ตนมีญาณ ตนมีจิตเปิด
    ตำสำเร็จฌาณฮา เฮว อะไรก็ตาม ปรับอาบัติ คือ ผิดศีล หมด !!!

    ทั้งนี้เพราะอะไร

    เพราะ ญาณ จะมีไม่ได้ หากไม่เกิด สัญญา ขึ้นมาก่อน

    แล้ว สัญญาเนี่ยะ มันไม่เที่ยง มันเป็นของเกิดดับ

    ใครก็ตาม อ้าง ญาณ ค้างเติ่ง สำคัญว่า ตนมี ก็ จาติง้าวสถาณเดียว
    คือ ไม่รู้ว่า สัญญาไม่เที่ยง ปรารภสิ่งที่ไม่ใช่ ธรรม ว่าเป็น ธรรม

    ทีนี้

    ต้องทำความเข้าใจ สังขตธรรม อสังขตธรรม ด้วย ...ถึงจะเข้าใจ สภาพ
    ที่ ญาณดับไป แต่ทำไม ไม่หวลกลับไปเกิดอีก ไม่จมโลกอีก

    พวกที่ ภาวนาไม่เป็น เป็น สัตว์สัญญาเสีย กำหนดรู้ความไม่เที่ยงของสัญญาไม่ได้
    ให้สังเกตเลย พวกนี้ จะอ้างการมีญาณ จะอ้างการบรรลุ แต่ กลับ กล่าวว่า
    สิ่งนั้นเป็น "กุปธรรม"

    คือ สามารถทำให้หายไป บรรลุอนาคามีแล้ว อรหันต์แล้ว ทำให้หายไป แล้ว
    กลับมา สู่โลก เพื่อโปรดสัตว์

    ไปประกาศ อกุปธรรม( ธรรมที่พ้นแล้วพ้นเลย ไม่มหวลกลับ ) ให้กลายเป็น
    กุปธรรม (บรรลุแล้ว อ้างว่า ตนมีเมตตา กลับมากู้โลก )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2015
  13. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    ไม่เชื่อ ชิโนะสุเกะ ลอง ถามตนเองสิ มี อุเบกขาธรรม ไหม !?

    ถ้า ชิโนะสุเกะ ตอบว่า "มี" ร้อยละร้อย จมโลกอยู่อย่างเดิม

    พอจะตอบว่า "ไม่มี" ต้นทุนการปฏิบัติ สัมมาทั้งหลาย หายไปไหน !? อะไรมัน ทับ
     
  14. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    อุเบกขาเป็นเวทนา ชนิดหนึ่ง
    เกิดจากสองผัสสะ

    (ถ้า)
    ความลับ ไม่มีในโลก คือสัจจะนิรันดร์(Axiom)
    (แล้ว)
    อะไรคือความลับ

    ไม่มี ข้างใน
    โลก ข้างนอก

    อะไร ข้างใน
    ความลับ ข้างนอก
     
  15. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    นามมันดับไป
    เหมือนกะเราไปเซเว่น
    พนักงานชอบถามว่า รับขนมจีบซาลาเปา เพิ่มมั้ยคะ

    เราตอบไปว่ารับรักดีกว่า

    เหมือนกะขึ้นรถเมล์ รถสองแถว
    กระเป๋าบอกเดินในเลยพี่ชิดในเลยพี่

    เราขึ้นรถเราก็บอกไม่
    กะเป๋าเป็นแฟนพี่เถอะ

    บางที่พนักกงานเซเว่น
    อาจจะรักลูกค้าทุกคนแต่เขิน เลยถามรับขนมจีบซาลาเปา

    บางทีกระเป๋ารถเมล์อาจจะรักผู้โดยสารทุกคนแต่เขินหนะ

    คำว่ารัก
    คำว่ากลัว
    คำว่าไม่รู้

    มันมีแบบ นามมันดับไปหนะ
     
  16. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    ในคำภีร์เต๋า
    เค้าเขียนไว้ว่า
    อำนาจขั้นหยาบ มาจาก ความกลัว
    พอคุ้นเคยสนิทสนม ก็มาจาก ความรัก
    ปราณีตถึงที่สุด มาจาก "ไม่รู้"
     
  17. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    อายตนะ
    คือ
    ไม่มี (มะโน)
    ความลับ (ธรรมารมณ์)

    เกิดจาก สี่รูปหรือนามประกอบกัน
    เราชักนามออกหนึ่ง

    มันก็จะเกิดความไม่สมดุลขึ้น
    ไม่สามารถเกิดผัสสะได้
    เมื่อไม่มีผัสสะก็ไม่มีเวทนา
     
  18. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    อารมณ์เฉยอย่างเดียวไม่พอ ควรทำอานาปานสติกำหนดสติหรือคำบริกรรมว่า " ไม่มีความไม่พอใจเลยหนอๆๆๆๆ... " ด้วย
     
  19. Shinozuke

    Shinozuke Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2015
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +60
    เฉยในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงว่าเฉยๆอย่างเดียว ถ้าเฉยอย่างเดียว มันไม่สามารถพิจารณาวางอุเบกขาได้ กระผมหมายถึงเฉยในแบบที่มีสติปัญญามากำกับสมบูรณ์พร้อมด้วยน่ะครับ
     
  20. Shinozuke

    Shinozuke Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2015
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +60
    อุเบกขา อยู่ใต้เวทนา
    ถ้าไม่มีเวทนา
    แล้วพระพุทธเจ้าท่านจะเอามาเป็นเครื่องประกอบอยู่ในขันธ์ สอนพวกเราได้อย่างไรล่ะครับ
    ถ้าไม่มีเวทนา
    แล้วท่านจะเอาอะไรมาแยก เป็นเวทนา ๒,เวทนา ๓,เวทนา ๕,เวทนา ๖,เวทนาเจตสิก ล่ะครับ
    เวทนามันก็เกิดของมันไปตามปกติอยู่แล้ว
    ถ้าเราว่า ผู้ที่สามารถเห็นเวทนาอย่างนี้ คือผู้จมโลก
    อย่างนี้พระพุทธเจ้าผู้เห็นเวทนาและแยกให้พวกเราดูออกเป็นประเภทต่างๆก็เป็นผู้ที่จมโลกน่ะสิครับ
    มันน่าพิจารณาน่ะ ถ้าก้าวร้าวไม่สุภาพยังงัยต้องกราบขออภัยด้วยนะขอรับ ถือว่าสนทนาธรรมกันนะขอรับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...