อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ปู ท่าพระ, 26 ธันวาคม 2013.

  1. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,049
    ค่าพลัง:
    +53,093
    สวัสดีครับ พี่ปู พี่เอ๊ะ พี่กูน พี่ตี๋ พี่โญ พี่ช้าง พี่รุ่ง พี่อ้วน พี่บอย พี่วรรณ น้องโอ๊ต คุณเหน่ง น้องเอ๋ น้องเขี้ยว พี่วุฒิ พี่กัน น้องกานต์ คุณแพน พี่ pp2 และทุกๆสมาชิกอัลบั้มพระด้วยครับผม
     
  2. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866
    สวัสดีครับ คุณเอ็ม ผมกำลังจะลงพระพอดีเลยครับ
     
  3. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) วัดอรัญญบรรพต จ.หนองคาย รุ่นประธานพร วรลาโภ ชุดทิ้งทวน 9 องค์ 7 ธันวาคม 2539

    พระสุธรรมคณาจารย์ ( หลวงปู่ เหรียญ วรลาโภ )
    วัดอรัญญบรรพต ตำบลบ้านหม้อ อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย
    หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ นามเดิมว่า เหรียญ ใจขาน หลวงปู่เหรียญท่านเกิด วันพุธที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2455 ตรงกับวัดขึ้น 2 ค่ำ เดือนยี่ ปีชวด ณ. บ้านหม้อ ตำบลบ้านหม้อ อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย โยมบิดา ชื่อ นายผา ใจขาน โยมมารดา ชื่อ นางพิมพา ใจขาน หลวงปู่เหรียญ ฯท่านมีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 7 คน หลวงปู่เหรียญฯ ท่านเป็นบุตรคนที่ 2 บรรดาพี่น้องผู้ที่เกิดร่วมบิดามารดาเดียวกัน 6 คนนั้นได้เสียชีวิตตั้งแต่ยังเล็ก ๆ ทุกคน เมื่อหลวงปู่เหรียญอายุได้ 10 ขวบโยมมารดาก็ถึงแก่กรรมจากไปเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่และครั้งแรกในวัยเด็ก ครั้นอยู่ต่อมาไม่นานโยมบิดาก็ไปมีภรรยาใหม่ หลวงปู่เหรียญ ฯ จึงได้ย้ายมาอยู่กับโยมยายจนได้อายุ 13 ปี และหลวงปู่ก็ได้เรียนหนังสือจนจบชั้น ป. 4 ระดับการเรียนอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก


    ข้อมูล web-pra.com/Shop/nattnana/Show/32262
     
  4. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) วัดอรัญญบรรพต จ.หนองคาย รุ่นประธานพร วรลาโภ ชุดทิ้งทวน 9 องค์ 7 ธันวาคม 2539

    จิตมีธรรม ปรารถนาออกบวช
    ในคราวนั้นข้าพเจ้าก็คิดว่าจะครองเรือนเช่นเดียวกับคนทั้งหลายที่เขาครองกันมาแล้วนั้น ครั้นเมื่ออายุย่างเข้า ๒๐ ปี เห็นจะเป็นด้วยบุญบารมีที่ข้าพเจ้าได้สร้างมาแต่ชาติก่อนมาดลจิตให้นึกถึงความทุกข์ในชีวิตอันเป็นปัจจุบัน โดยคิดเห็นว่าเกิดมาแล้วต้องทำการงาน และงานที่ทำนั้นก็ไม่รู้จักจบสิ้น เช่น ทำนา ทำปีนี้แล้วได้ข้าวใส่ยุ้งไว้รับประทานบ้าง ขายบ้าง ครั้นถึงปีใหม่มาข้าวในยุ้งก็จวนจะหมดแล้ว ต้องทำนาอีกต่อไปอย่างนี้ทุกปี จึงถามตัวเองว่าเมื่อไรจึงจะได้ยุติจากการทำนาทำสวนเล่า ตอบตนเองว่า ไม่มีทางยุติได้ถ้าไม่วางมือหนีไปบวชเสีย การทำนาทำสวนมีแต่ทุกข์ หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินและก็ไม่มีอะไรเป็นแก่นสารสักอย่างเดียว ตายแล้วก็ไม่ได้อะไรติดตัวไป มีแต่ทิ้งไว้ในโลกนี้ทั้งหมด และก็ได้ตั้งปัญหาถามตนเองต่อไปอีกว่า แล้วทำไมคนทั้งหลายจึงชอบใจกับความเป็นอยู่เช่นนี้นัก ตอบว่า เพราะคนทั้งหลายไม่ได้ใช้ปัญญาพิจารณาเหตุผลในเรื่องนี้ให้รู้เห็นโดยแจ่มแจ้งตามความเป็นจริง จึงไม่เบื่อหน่าย อนึ่ง สิ่งทั้งปวงในโลกนี้มิใช่ว่าจะอำนวยแต่ความทุกข์ให้เท่านั้น บางทีมันก็อำนวยความสุขให้เหมือนกัน ดังนั้น คนจึงติดมัน แต่บรรดานักปราชญ์ผู้มีปัญญาทั้งหลาย ท่านพิจารณาเห็นว่า มันเป็นความสุขชั่วคราวไม่ยั่งยืน ถ้าพิจารณาโดยสรุปแล้วก็เป็นทุกข์นั้นแหละมากกว่าความสุข อันความสุขที่ว่านี้ มันเป็นเพียงเหยื่อล่อให้ติดอยู่ในทุกข์เท่านั้น ไม่ใช่เป็นความสุขยั่งยืนแต่อย่างใด เพราะคนเราเกิดมาแล้วที่สุดก็ต้องตาย ร่างกายนี้เมื่อจิตละไปแล้วก็ต้องแตกสลายออกจากกัน ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย

    เมื่อพิจารณาถึงตอนนี้ปรากฏในใจว่า ร่างกายนี้แตกกระจายออกไปหมด เพ่งไปไหนก็เห็นแต่อากาศว่างไปหมดทั้งโลกอันนี้ปรากฏว่าไม่มีสัตว์ ไม่มีคนเลย ดังนั้นจึงเกิดความสังเวชสลดใจเป็นอย่างยิ่งว่า โอหนอโลกนี้ช่างไม่จิรังยั่งยืนจริงๆ ทำอย่างไรหนอเราจึงจะพ้นจากโลกนี้ไปได้ ตอบตนเองว่า มีแต่บวชเท่านั้นถึงจะพอมีหนทางพ้นได้

    ต่อจากนั้นจึงเกิดศรัทธาอยากบวชขึ้นมาในใจอย่างรุนแรงจนถึงกับเบื่อหน่ายต่อการงานทุกอย่าง จึงได้ขอลามารดาบิดาออกบวช บิดาขอร้องไว้ให้ช่วยทำยุ้งใส่ข้าวเสียก่อนจึงค่อยบวช เพราะยุ้งเก่าใช้มานานมันชำรุดมาก ตอบท่านว่าเห็นจะช่วยทำไม่ได้ดอก มือไม้อะไรอ่อนหมด ไม่สามารถจะทำงานต่อไปได้อีก ท่านเห็นว่าข้าพเจ้าอยากบวชอย่างรุนแรงมาก จึงได้อนุญาตให้ไปบวชตามประสงค์

    ข้อมูล dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=20708
     
  5. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,124
    สวัสดียามเช้าครับ สมช."อัลบั้มพระ" ทุกท่าน​
     
  6. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866
    สวัสดีครับพี่เอ๊ะ
     
  7. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,124


    สวัสดียามเช้าครับคุณเอ็ม คุณกันต์ และทุกท่านครับ
     
  8. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,124
    น้อมกราบหลวงปู่เหรียญ...
     
  9. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) วัดอรัญญบรรพต จ.หนองคาย รุ่นประธานพร วรลาโภ ชุดทิ้งทวน 9 องค์ 7 ธันวาคม 2539

    ออกบวช

    ข้าพเจ้าดีใจมาก ได้กราบลาท่านทั้งสองเข้าวัด เรียนครองบวชอยู่สิบห้าวันก็ได้บวชที่อุโบสถวัดบ้านหงษ์ทองอำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ในคราวนั้นเข้าบวชด้วยกันประมาณ ๘ รูป ซึ่งมี ท่านพระครูวาปีดิฐวัตร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์พรหม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ เมื่อบวชแล้วก็ได้กลับมาอยู่วัดโพธิ์ชัย บ้านหม้อ บวชเมื่อเดินมกราคม พ.ศ. ๒๔๗๕ อาจารย์วัดโพธิ์สอนให้ภาวนาอนุสสติ ๑๐ ข้าพเจ้าก็ท่องเอา แล้วก็บริกรรมในใจว่า พุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ ไปจนถึง อุปสมานุสสติ จบแล้วตั้งใหม่เรื่อยไป รู้สึกว่าจิตสงบเบิกบานดีพอสมควร ไม่เฉพาะแต่นั่งสมาธิเท่านั้นที่บริกรรม แม้แต่ยืนเดินนอนก็บริกรรมเป็นอารมณ์ติดต่อกันไป

    ๏ พรรษาแรกจำพรรษา ณ วัดศรีสุมัง อ.เมือง จ.หนองคาย

    ครั้นถึงเดือนพฤษภาคมปีนั้นเอง ก็ได้ไปจำพรรษาที่วัดศรีสุมัง อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย เพื่อเรียนนักธรรมต่อไป เมื่อจำพรรษาอยู่ที่วัดศรีสุมังนั้น ข้าพเจ้าได้เรียนถามเรื่องการภาวนากับท่านอาจารย์บุญจันทร์ รองเจ้าอาวาส และได้เรียนท่านว่า ผมภาวนาอนุสสติ ๑๐ อยู่ทุกวันนี้ไม่ทราบว่าถูกหรือไม่

    ท่านตอบว่า ถ้าให้ถูกตามหลักจริงๆ ก็คงไม่ถูก เพราะว่าการเจริญบริกรรมภาวนา ท่านสอนให้เลือกเอากรรมฐานบทใดบทหนึ่งที่ถูกกับจริตของตน แล้วบริกรรมแต่เฉพาะบทเดียวเท่านั้น จิตจึงจะสงบเป็นหนึ่งได้เร็ว ท่านได้แนะให้บริกรรมพุทโธเป็นอารมณ์ ข้าพเจ้าจึงได้บริกรรมพุทโธ ตั้งแต่นั้นมา

    ข้อมูล dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=20708
     
  10. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,124
    [​IMG]

    [​IMG]


    ผงรูปเหมือนรุ่นแรกท่านก๋งเตื่อง...
     
  11. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866
    [​IMG]
    หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ-หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี-หลวงปู่บัวพา ปญฺญาภาโส

    [​IMG]

    [​IMG]
    พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) วัดอรัญญบรรพต จ.หนองคาย รุ่นประธานพร วรลาโภ ชุดทิ้งทวน 9 องค์ 7 ธันวาคม 2539

    ในระหว่างนั้นบิดาท่านได้นำหนังสือของท่านพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม มาถวายหลวงปู่ เมื่ออ่านแล้วท่านรู้สึกสนใจในเรื่องกายานุปัสสนา ซึ่งในหนังสือได้แนะนำให้พิจารณากายแยกย่อยไปเป็นส่วนต่างๆ ให้สติได้รู้ว่า ร่างกายนี้ไม่ได้มีอะไรเป็นของตนสักอย่างเดียว เมื่อท่านพิจารณาได้ดังนี้จึงมีดำริจะออกไปอยู่ในป่า

    แต่ท่านก็ยังไม่อาจตัดสินใจได้เพราะใจหนึ่งอยากสึกไปครองเรือน แต่อีกใจหนึ่ง อยากออกปฏิบัติธรรมตามที่ตั้งใจไว้ พอดำริที่จะออกไปอยู่ป่าเท่านั้น มาร คือ กิเลส มันก็แสดงอาการขัดขวางไม่ให้ออกไปอยู่ป่าได้ ต่อจากนั้นจึงเกิดความรู้สึกนึกคิดขึ้นเป็นสองทาง ทางหนึ่งอยากสึกออกไปครองเรือน อีกทางหนึ่งอยากออกปฏิบัติเจริญสมถวิปัสสนาตามที่ตั้งใจไว้ พอตั้งใจจะออกป่า กิเลสก็มาสกัดไว้ไม่ให้ออกเป็นอยู่อย่างนี้ วันแล้วก็วันเล่า ไม่สามารถตัดสินใจลงทางใดทางหนึ่งได้ จึงตัดสินใจไม่ฉันข้าวหนึ่งวัน พอตกตอนค่ำลงเวลาประมาณสามทุ่ม ก็ห่มผ้าพาดสังฆาฏิแล้วทำวัตร เสร็จแล้วอธิษฐานในใจว่า

    "บัดนี้ข้าพเจ้าจะนั่งสมาธิภาวนาเพื่อพิจารณาตัดสินใจลงทางใดทางหนึ่งให้จงได้คือจะสึก หรือจะออกปฏิบัติ ถ้าหากข้าพเจ้าตัดสินใจลงทางหนึ่งทางใดไม่ได้ก็จะไม่ลุกจากที่นั่งนี้เลย"

    ท่านจึงได้นั่งสมาธิตัดสินใจ แล้วท่านก็ได้คำตอบว่าไม่สึกถึง 3 ครั้ง ซึ่งไม่นานท่านจึงได้ ออกจากวัดไปอยู่ป่าที่ผาชัน ริมฝั่งแม่น้ำโขง พร้อมกับศึกษาต่อกับท่านอาจารย์กู่ ธัมมทินโน ซึ่งท่านก็ได้รับฟังจนเข้าใจดี

    ข้อมูล dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=7305
     
  12. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,124
    [​IMG]


    [​IMG]
     
  13. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,049
    ค่าพลัง:
    +53,093

    กราบหลวงปู่เหรียญ


    สวยทั้งสององค์เลยครับ อยู่นั่นปกติพี่กันแขวนพระอะไรครับ
     
  14. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,124
    [​IMG]

    [​IMG]
     
  15. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866
    [​IMG]
    หลวงปู่ท่อน ญาณธโร-หลวงปู่จันทร์โสม กิตฺติกาโร-หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ

    [​IMG]

    [​IMG]
    พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) วัดอรัญญบรรพต จ.หนองคาย รุ่นประธานพร วรลาโภ ชุดทิ้งทวน 9 องค์ 7 ธันวาคม 2539

    ๏ นิมิตถึงท่านพระอาจารย์มั่น และได้พบท่าน

    ในคืนวันหนึ่งเดินทางไปไม่ถึงหมู่บ้าน จึงนอนอยู่กลางป่าข้างทางเดิน ปรากฏว่าคืนนั้นเองได้นิมิตเห็นท่านอาจารย์มั่นปรากฏภาพท่านยืนอยู่ตรงหน้า ท่านยิ้มเฉยๆ ไม่ได้กล่าวพูดอะไรด้วย ข้าพเจ้ารู้สึกมีความปีติเป็นอย่างยิ่งที่ได้นิมิตเห็นท่านอาจารย์ผู้ทรงคุณประเสริฐ แม้จะเห็นภาพท่านเฉยๆ ไม่ได้พูดด้วยก็นับว่าเป็นมงคลอย่างยิ่ง รุ่งเช้าได้ปรารภขึ้นก็ปรากฏว่า เพื่อนภิกษุก็ได้นิมิตเห็นท่านอาจารย์เช่นเดียวกัน เมื่อซักถามถึงลักษณะที่ปรากฏ ก็ได้ความว่าเป็นอย่างเดียวกันจึงทำให้มั่นใจอย่างยิ่งว่า ท่านได้เมตตามาปรากฏให้เห็นและเราต้องได้พบท่านแน่นอน

    ๏ พบท่านพระอาจารย์มั่น พ.ศ. ๒๔๘๑

    ครั้นเมื่อเดินทางไปถึงจังหวัดเชียงใหม่ ได้ไปที่วัดเจดีย์หลวง หลวงตาเกต ซึ่งเป็นสัทธิวิหาริกของท่านอาจารย์มั่น ทราบว่าเราประสงค์จะไปพบท่านอาจารย์ ได้เมตตาพาไปพบท่านที่ป่าละเมาะใกล้ๆโรงเรียนแม่โจ้ อำเภอสันทราย ซึ่งเป็นที่น่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก เพราะรูปร่างหน้าตาของท่านนั้นเหมือนกับที่ได้นิมิตเห็นทุกประการ เมื่อเข้าไปกราบไหว้ท่าน ท่านก็สนทนาปราศรัยด้วยเป็นอย่างดี เมื่อได้โอกาสจึงเรียนถามเรื่องภาวนาที่ทำมาแล้วนั้นว่าถูกหรือไม่ ท่านไม่ตอบว่าผิดหรือถูก ท่านกล่าวว่านักภาวนาทั้งหลายพากันติดความสุขที่เกิดจากสมาธิโดยส่วนเดียว เมื่อทำจิตให้สงบแล้วก็สำคัญว่าความสงบนั้นแหละเป็นความสุขอันยอดเยี่ยม จึงไม่ต้องการพิจารณาค้นคว้าหาความจริงของชีวิตแต่อย่างใด ท่านชักรูปเปรียบให้ฟังว่า ธรรมดาเขาทำนาทำสวน เขาไม่ได้ทำใส่บนอากาศเลย เขาทำใส่บนพื้นดินนี้แหละจึงได้รับผล ฉันใดโยคาวจรผู้บำเพ็ญเพียรทั้งหลาย ควรพิจารณาร่างกายนี้แหละเป็นอารมณ์ จนเกิดนิพพิทาความเบื่อหน่ายในนามในรูปนี้ ด้วยอำนาจแห่งปัญญานั้นแหละ จึงจะเป็นทางหลุดพ้นได้ ไม่ควรติดอยู่ในความสงบโดยส่วนเดียว

    ข้อมูล dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=20708
     
  16. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,049
    ค่าพลัง:
    +53,093

    สวัสดีครับพี่เอ๊ะ

    สวยงามมากครับ ชัดเจน
    :cool::cool::cool:
     
  17. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,124

    ขอบคุณครับคุณเอ็ม...
     
  18. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,049
    ค่าพลัง:
    +53,093

    จำได้ว่า พี่เอ๊ะ เพิ่งไปกราบท่านมา ชุดนี้ที่วัดออกหรือยังครับ

    เหรียญเสือคาบดาบ หลวงปู่ฮก (21)

    เปิดตลับพระใหม่

    เหรียญ เสือคาบดาบ หลวงปู่ฮก รตินธโร วัดราษฎร์เรืองสุข (มาบลำบิด) ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี จัดสร้างเพื่อสมทบทุนในการสร้างอุโบสถหลังใหม่

    เหรียญ เสือคาบดาบ ปี 2555 ลักษณะเหรียญเป็นแบบลักษณะเสมา มีรูปเหมือนหลวงปู่ฮกนั่งสมาธิเต็มองค์อยู่กลางเหรียญ ด้านข้างซ้าย-ขวามีพญานาค 2 ตน ใต้เหรียญมีสัญลักษณ์เสือคาบดาบ

    เสือ คาบดาบ ชาวจีนเชื่อกันว่า สัญลักษณ์ มงคลของเสือคาบดาบมีอานุภาพขจัดปัดเป่าอัปมงคลและสิ่งชั่วร้ายทั้งปวงให้หมด สิ้นไป เพียงแต่แขวน, ติดตั้งหรือประดับสัญลักษณ์เสือคาบดาบให้เหมาะสมกับทิศทาง จะได้รับพลานุภาพจากวัตถุมงคลชนิดนี้โดยตรง

    ทั้งนี้ยังสามารถนำสัญลักษณ์เสือคาบดาบไปปรับแก้ฮวงจุ้ยในทำเลที่ไม่ดีทั้งภายในและภายนอกบ้านหรือที่ที่ทำงาน

    ด้าน หลังเหรียญ เป็นอักขระยันต์หัวใจธาตุกรณีย์ "จะ ภะ กะ สะ" มาใส่ไว้ในยันต์ตารางและล้อมรอบด้วยอักขระหัวใจพระไตรปิฎก "มะ อะ อุ" ด้านบนเป็นนะอุณาโลม อักขระยันต์นี้เป็นอักขระยันต์ที่มีคุณวิเศษทางด้านเมตตามหานิยม

    อักขระ ยันต์หัวใจธาตุกรณีย์นี้บางครั้งก็ใช้เป็นธาตุหัวใจพระพุทธเจ้า มีอักขระ "จะ ภะ กะ สะ" โดยมีความเชื่อสืบต่อกันมาว่าเป็นคาถาที่มีคุณอนันต์ เป็นพระคาถาพุทธสุภาษิตบทหนึ่งที่น่าใช้ และมีอานุภาพเป็นเหตุเป็นผลตามธรรมะตรงๆ เป็นภาษิตที่พระพุทธองค์ไว้สั่งสอนสาวก แต่ละตัวมีความหมายดังนี้

    "จะ" หมายถึง จงละเว้นการคบคนชั่วเสีย

    "ภะ" หมายถึง หมั่นคบหาสมาคมด้วยบัณฑิต

    "กะ" หมายถึง ให้สร้างบุญ(ให้ทาน)ทั้งกลางวันและกลางคืน

    "สะ" หมายถึง ให้ระลึกถึงความไม่เที่ยงแห่งสังขารเป็นนิจ

    จัด สร้างจำนวนไม่มากนัก ผู้ที่มีความประสงค์ร่วมบุญร่วมกุศลในการสร้างอุโบสถ แวะเข้าไปทำบุญได้ที่วัดราษฎร์เรืองสุข (มาบลำบิด) จ.ชลบุรี
     
  19. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,124

    สวยครับคุณกันต์...
     
  20. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866
    [​IMG]
    นี่ครับ ชุดที่ติดตัวอยู่ตอนนี้ เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร เหรียญสุรสิทธิ์ (เหรียญรุ่นสองของหลวงปู่) แล้วก็พระปิดตาสมจินตนาครับ รอรูปหล่อรุ่นหนึ่งที่ให้เลี่ยมอยู่ที่เมืองไทยอยู่ครับ ยังไม่เสร็จเลย:':)'(
     

แชร์หน้านี้

Loading...