หลวงพ่อพวง หลวงพ่อกวย หลวงปู่หมุน ธรรมะหลวงปู่เทพโลกอุดร

รูปหล่อลอยองค์หลวงปู่บุดดา 100 ปี รุ่นบรรจุแป้งเสก

ปี 2535 วัดกลางชูศรีเจริญสุข จ.สิงห์บุรี


​

ราคาบูชา 600 บาท

 

พระกริ่งใหญ่จีน วทบ.42 เนื้อทองผสม วัดเล่งเน่ยยี่ ปี 2542


​

ปลุกเสกวัดเล่งเน่ยยี่ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ.2542 พระสวย หมายเลข 2450

ราคาบูชา 1,200 บาท

 

พระผงพุทธหิรัญราช ของหลวงพ่อเวก พิมพ์นางพญาสภาพสวยสมบูรณ์แบบพิเศษ​

เนื้อน้ำตาลเทา สวยมากมีหน้าตาและพิเศษหลังจารยันต์ ​

​

พระผงพุทธหิรัญราช ของหลวงพ่อเวก พิมพ์นางพญาสภาพสวยสมบูรณ์แบบพิเศษ
พระชุดนี้ ได้รับความกรุณาจากคนพื้นที่ ศิษย์ของหลวงพ่อเวกช่วยจัดหามาให้โดยพระองค์ที่ไม่ค่อยสวยนัก ได้ถูกขอแบ่งบูชาไปต่างประเทศจำนวนหนึ่ง พระพุทธหิรัญราช ไม่ได้เด่นทางคงกะพันตามรูปธรรมที่เจอกันมามากแล้ว แต่พุทธคุณหลักของท่านคือ เมตตา-มหานิยม รองลงมาคือหนุนความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าในชีวิต เรื่องแคล้วคลาดคงกะพันนั้น ชาวบ้านถือว่าเป็นพื้นฐานธรรมดาๆที่เชื่อกันได้เต็มร้อยและสบายใจ เรื่องการถล่มด้วยอาวุธสงครามสองกระบอกประมาณกว่าครึ่งร้อยนัด แต่ไม่โดนเป้าเลยสักนัด ที่คนใน อบต.ท่าเสน อ.บ้านลาดเมื่อหลายปีก่อน ยังเก็บอยู่ในความทรงจำได้ดี เป้าหมายเป็นศิษย์ ลพ.เวก แขวนด้วยพระผงพุทธหิรัญราชเดี่ยวๆ แม้แต่ทหารเกณฑ์ในพื้นที่ หากจะต้องลงภาคใต้ในสามจังหวัดอันตราย ก็มักไปขอยืมพระพุทธหิรัญราชจากเจ้าอาวาสไปคล้องติดตัวและรอดปลอดภัยเสมอมา เมื่อกลับมาแล้วก็นำพระไปส่งคืนวัด เป็นอย่างนี้มาหลายคนและหลายครั้งแล้ว

เมื่อหลายปีก่อนนั้น เจ้าอาวาสวัดดังเรื่องดูดวงครั้งยังไม่เป็นเจ้าอาวาส ได้มาที่บ้านลาด เพชรบุรีเพื่อหาพระผงของหลวงพ่อเวกจากวัดลาดศรัทธาธรรม แต่หลวงพ่อสมนึกไม่สามารถให้เช่าบูชาได้แม้จะมีเก็บรักษาอยู่บ้าง เพราะเป็นคำสั่งเสียสืบทอดผ่านมาจากหลวงพ่อเวกผู้สร้างไว้ว่า “พระของท่านดีเกินค่าเงิน ผู้ที่มีศรัทธาจริงเท่านั้นจึงจะได้ไป มิให้คิดค่าบูชา” ทางวัดดังริมทะเลจึงได้สอบถามหาจากคนใกล้เคียงละแวกวัดโดยการแนะนำของหลวงพ่อสมนึกและพบว่า มีคนใกล้ๆเก็บไว้มากกว่า 80 องค์รายหนึ่ง แต่เอาไปจำนำกับคนใกล้วัดไว้ จึงมีการไถ่ถอนขึ้นมาและขอเช่ากลับไปวัดริมทะเลทั้งหมดเพื่อนำไปแจกคนที่มาวัดตามแต่โอกาสตามแต่กรณีๆและไม่ได้พระแบบนี้ทุกคนไป รวมทั้งยังใช้รักษาโรคร้ายแรงหายได้อย่างประหลาดและหายแล้วหลายราย คนบางคนและพระสงฆ์บางองค์ไม่ได้แค่ใช้ฝนทำยาเท่านั้น แต่ยังกัดกินเนื้อพระไปด้วยเลยเพื่อรักษาโรคที่หมอรักษาไม่ได้แล้ว แม้ทุกวันนี้เจ้าอาวาสวัดริมทะเลยังเดินทางไปขอบูชาพระเครื่องทุกแบบพิมพ์ของหลวงพ่อเวกทั้งเนื้อผงและเหรียญตามที่มีคนใกล้วัดรวบรวมไว้รอทุกเดือนในราคาสูงกว่าท้องถิ่นมาก(คนแถบวัดลาดศรัทธาธรรมรู้เรื่องนี้กันหลายคนและพร้อมยืนยัน) และบางทีก็มอบให้พระเกจิผู้ตัดกรรมในวัดอีกสองท่านเป็นผู้เดินทางไปรับที่เพชรบุรีด้วยตนเอง(มีชื่อเสียงเรียงนามและพยานพร้อม) จนพระเครื่องแท้ๆจำนวนมากๆที่หลวงพ่อเวกเคยแจกคนใกล้วัดแทบไม่มีเหลืออยู่แล้วในปัจจุบันเพราะลูกหลานพวกเด็กรุ่นหลังเอามาขายหาเงินกันหมดแล้ว และยังเอาของทำเลียนแบบไปวางล่อใจกันเสียอีก นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมพระเครื่องยอดแห่งพุทธคุณดังกล่าว จึงมีผู้ได้รับมาจากวัดตัดกรรมริมทะเล แม้แต่พระพุทธหิรัญราชที่สร้างไว้นั้น ก็ได้ขออนุญาตเจ้าอาวาสวัดลาดศรัทธาธรรม ที่เพชรบุรีเพื่อจำลองแบบดั้งเดิมของหลวงพ่อพระพุทธหิรัญราชองค์ที่หลวงพ่อเวกและหลวงพ่อเงินร่วมสร้างไว้แต่เดิม เพื่อไปติดตั้งไว้ที่วัดริมทะเลแต่เพิ่มเติมเครื่องทรงด้านบนพระเศียรเล็กน้อย

เมื่อได้คุยกับท่านเจ้าอาวาสตามข้อมูลดังกล่าวแล้ว เพื่อให้แน่ใจก็ยังได้หาข้อมูลอื่นๆกับพระสงฆ์องค์อื่นในวัดของหลวงพ่อเวกก็ตรงกันทุกประการ เมื่อไปคุยกับคนใกล้วัดอีกทีก็พบว่าจริงทุกอย่าง หลายอย่างบางเรื่องมีรายละเอียดอีกมากที่เบี่ยงเบนไปจากเส้นตรงของความเป็นจริง รวมทั้งหลวงพ่อองค์ปัจจุบันของวัดในเพชรบุรี ยังเป็นผู้ทำนายให้เกจิดังย่านวัดริมทะเลว่าจะได้เป็นเจ้าอาวาสแทนองค์เก่าแน่นอนแม้เกจิองค์นั้นจะเถียงว่าเป็นไปไม่ได้หรอก (ตอนนั้นเจ้าอาวาสองค์เก่าวัดนั้นยังอยู่) แต่ขอเล่าเท่าที่อยากเล่า แค่นี้ก็พอเพียงให้หายสงสัยว่า ทำไมพระพิมพ์ทั้งสามแบบของหลวงพ่อเวก จึงมีผู้ได้รับมาจากวัดดูดวงแถบชายทะเล นี่คือเหตุผลจริงๆที่อยู่ข้างๆความโด่งดังของดาราและนักธุรกิจที่พบสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตใหม่จนลือกันลั่นท้องทะเล กว่าสองชั่วโมงที่กราบสนทนาเรื่องต่างๆมากมาย ยังได้รู้เรื่องของหลวงพ่อเวกอีกมากในมุมลึกๆน่าสนใจที่ท่านไม่อยากเล่าให้คนตื่นข่าวหรือคิดว่าโฆษณาชวนเชื่อ ท่านขอเก็บไว้ให้เป็นเรื่องเฉพาะตน ท่านยังสอนการดูพระเนื้อผงทั้งสามพิมพ์และนำมาให้ชมอีกด้วย ของดีแบบนี้มีปลอมมานานหลายปีแล้ว ดูเนื้อเป็นหลักไว้ก่อน ดูพิมพ์เป็นรองจะดีที่สุด หากรู้รายละเอียดการสร้างก็จะดูง่ายมากเข้า จำเอกลักษณ์เฉพาะของเนื้อพระหรือลายมือจารให้ดีๆก็พอเอาตัวรอดได้ระดับหนึ่ง ส่วนพระผงของท่านนั้น ยากจะหาของแท้แล้ว ทั้งคณะนักธุรกิจชาวสิงคโปร์ นักหล่อพระฝีมือเยี่ยมในสมุทรสาครและวัดดังริมทะเล สั่งกว้านเก็บทุกแบบ ทุกเนื้อทุกราคาจนในทุกวันนี้

แร่ที่หลวงพ่อเวกนำมาบดผสมในเนื้อพระนั้นสำคัญที่สุด ทำให้พระมีอิทธิฤทธิ์สูงส่งเหนือแค่การปลุกเสกธรรมดาอย่างการสร้างพระทั่วๆไป มีแร่สำคัญมากกว่า 9 อย่าง เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันรู้ว่าแร่ชื่ออะไรบ้างมาจากที่ใด แต่ท่านขอไม่บอกเพราะแค่นี้ก็หากันไม่ได้แล้ว แร่บางอย่างอยู่ลึกใต้ดินกว่าสิบเมตร แต่ลพ.เวกก็เอามาได้อย่างแปลกประหลาดโดยไม่ต้องใช้รถขุดแต่จะทำได้ครั้งเดียว บางอย่างไม่มีใครเห็นว่ามีในที่ตรงนั้น แต่หลวงพ่อเวกก็ทำพิธีขอเทวดาเจ้าที่และเอามาได้จนเห็นว่ามีจริงๆ พระสิบทัศน์ที่ทำไว้ยุคแรกนั้น ลพ.เงินได้ร่วมเสกด้วยที่วัด

มีคำพูดหนึ่งที่ท่านเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันท่านเล่าให้ฟังว่า หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอมยังขอนำพระสิบทัศน์ของหลวงพ่อเวกกลับไปแจกศิษย์ที่นครปฐมด้วย โดยบอกว่า “เวกเอ๊ย พระสิบทัศน์ของมึงเก่งกว่าของกูอีกว่ะ กูจะเอากลับไปแจกคนทางโน้นบ้างนะ” (กราบขออภัยหากไม่สุภาพ แต่เป็นคำพูดที่ท่านเล่ามาแบบนี้และยังมีแบบที่ยิ่งน่ารักกว่านี้) พระพุทธหิรัญราชองค์ที่วัดลาดศรัทธาธรรมนั้น ลพ.เงิน วัดดอนยายหอม ก็มาเป็นประธานหล่อให้ ลพ.เวกเป็นศิษย์ ลพ.เงินร่วมสมัยพร้อมกับ ลพ.แช่ม แต่ ลพ.เวกไปจำพรรษาที่วัดจินดาราม ใกล้ๆวัดดอนยายหอม ได้วิชาลี้ลับมามากมายทั้งจาก ลพ.เงิน และจากการธุดงค์ฝึกจิตในป่าเขาลำเนาไพร ท่านเป็นเกจิที่ดุและละเอียดในการพิจารณาคน ตอนท่านอยู่บ้านลาด ไม่มีใครกล้าเข้าห้องของท่านเลย

ท่านที่สงสัยว่าเรื่องราวเหล่านี้จริงหรือไม่หรืออยากรู้มากกว่านี้ สามารถกราบเรียนสอบถามกับท่านเจ้าอาวาสวัดลาดศรัทธาธรรมได้เลย ท่านเป็นพระที่ดีมาก สมถะ นิ่ง สงบ ไม่อยากมี ไม่อยากดังไม่อยากเด่น ปฏิเสธหนังสือพระเครื่องทุกรายที่ไปขอเรื่องมาลงในสื่อ แม้จะต้องหาเงินไปสร้างโบสถ์หลังใหม่อีกมากหลายล้านบาทแทนโบสถ์เก่าหลังเล็กๆที่สร้างก่อนรัชกาลที่ 1 จนเสียหายชำรุดมากแล้ว(กรมศิลปขึ้นทะเบียนแล้ว แต่ไม่มีงบซ่อมบำรุง) แต่เมื่อมีคนมาขอบูชาพระของ ลพ.เวกที่ท่านเก็บรักษาไว้ ท่านก็ไม่ให้บูชา แม้จะมีคนตั้งราคาให้องค์ละหลายหมื่น ก็ไม่สนใจ ท่านจะไม่ตีราคาเป็นเงินและยังรักษาสัจจะที่ให้ไว้ต่ออาจารย์ของท่านอย่างเคร่งครัด จะทำบุญกับวัดก็ทำไปแต่ไม่แลกด้วยพระเครื่อง และวัดนี้ทั้งวัด จะไม่มีตู้รับบริจาคเงินค่าใช้จ่ายต่างๆเลยแม้แต่ตู้เดียว ไม่มีตู้จำหน่ายพระเครื่อง ไม่มีลูกศิษย์วัยรุ่นหรือเด็กวัดแม้คนเดียว เจ้าอาวาสและพระสงฆ์ในวัดต้องทำทุกอย่างเองทั้งรดน้ำต้นไม้ ปัดกวาดเช็ดถู ทำความสะอาดวัดและงานในวัดอื่นๆ

เดินทางไปวัดมามากหลายแห่งแล้วแต่เจอเพียงที่เดียวที่เป็นแบบนี้ เจ้าอาวาสท่านบอกว่าพระของ ลพ.เวก นี้รับรองคุณภาพว่าดีจริงๆและท่านเองก็มีประสบการณ์มากับตัวหลายอย่าง คนในพื้นบ้านละแวกนั้นใช้ติดตัวเวลาไปหาปลา เมื่องูกัดก็เอาพระมาปิดปากแผลแม้จะกัดขาก็ใช้ได้ ไม่ตายแน่นอน เรื่องคุ้มครองนั้นมีประสบการณ์มากจนเป็นที่ยอมรับมาตั้งแต่สมัยหลวงพ่อเวกยังอยู่ ต่อไปจะต้องตัดแบ่งกันใช้ตามคำพูดของเกจิอาจารย์ผู้สร้างไว้ เล่ามามากมายเพียงเพื่ออยากเชิดชูเกียรติคุณของหลวงพ่อเวกโดยสุจริตใจ และได้พยายามเลี่ยงการกล่าวให้บุคคลที่สามเสียหายอย่างเต็มที่แล้ว หากมีส่วนใดกระทบอารมณ์ส่วนลึกของผู้ใดไปบ้างก็กราบขออภัยไว้ด้วย และผมเองก็ไม่มีพระพุทธหิรัญราชเก็บตุนไว้มากมายเช่นที่บางคนคิดอยู่ มีแค่สี่ห้าองค์และคิดว่าให้เป็นการพิจารณาของผู้ที่อ่านเอาเองในเรื่องราวเหล่านี้

หลวงพ่อเวกสร้างพระผงไว้เพียงสามแบบคือพิมพ์สิบทัศน์ พิมพ์สี่เหลี่ยมและพิมพ์สามเหลี่ยม เป็นการตัดขอบพระด้วยมือ จึงทำให้ขนาดไม่เท่ากันในแต่ละครั้ง ทั้งยังไม่ได้ผสมเนื้อสร้างครั้งเดียวแต่ผสมหลายครั้งโดยใช้แม่พิมพ์เดิม และเนื้อจะมีสามโซน พิมพ์สิบทัศน์จะมีน้อยที่สุด พิมพ์สามเหลี่ยมจะมีมากกว่าแบบอื่นๆและพระยุคแรกๆจะตัดชิดองค์พระมากกว่าพระที่กดออกมาในครั้งหลังแต่หลวงพ่อเวกปลุกเสกให้ทุกองค์ โดยคำบอกเล่าคือ "พระที่ท่านแจกไว้นี้ ให้ใช้ติดเนื้อติดตัว" ความหมายของคำโบราณแบบนี้ ลองพิจารณากันดูครับว่าทำไมต้องเลี่ยมเปิดหน้าหรือเปิดหลังในพระของท่าน

พระผงทุกเนื้อจะมีแร่เป็นผงเกร็ดระยิบระยับทั้งสีเงินและสีทองผสมอยู่ในเนื้อและยิ่งใช้ไปให้เนื้อพระถูกสัมผัสมากเท่าไรยิ่งจะพบว่าเนื้อของพระผงนี้จะมีแร่ต่างๆมากมายฝังอยู่ด้านใน เนื้อเทาแก่สีดำจะเชื่อกันว่าเน้นทางคงกะพันและมหาอุด เนื้อออกสีน้ำตาลจะเชื่อกันว่าเน้นวาสนาและโชคลาภ เนื้อเทาอมขาวจะเชื่อกันว่าเน้นเมตตา-มหานิยม แต่ทุกๆแบบจะมีของปลอมทำออกมาได้ใกล้เคียงมากในทุกวันนี้

เชื่อแน่ว่าพระผงพุทธหิรัญราชของหลวงพ่อเวกนี้ จะเป็นพระหลักสากลนิยมอีกแบบหนึ่งของเมืองเพชรบุรีและเป็นที่นิยมกันของคนไทยจำนวนมากในวันหน้า หากมีโอกาสพบเจอของแท้ๆที่ใด ก็บูชามาติดตัวไว้ได้เลย เพราะมีคนสั่งเก็บทุกแบบทุกเนื้อเพื่อส่งให้คนต่างแดนที่ออกใบสั่งหาจำนวนมาก จนแทบจะไม่พบกันแล้วสำหรับพระผงบางพิมพ์ ใครอยากร่วมบุญกับหลวงพ่อเวกก็เชิญแวะไปวัดลาดศรัทธาธรรม อ.บ้านลาด เพชรบุรี ขอสมทบทุนทำบุญกับเจ้าอาวาสตามกำลังศรัทธา เพื่อร่วมสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ที่กำลังก่อสร้างอย่างเรียบง่ายและพอเพียงสำหรับใช้ในกิจของสงฆ์ พร้อมแวะกราบขอพรพระพุทธหิรัญราชรวมทั้งกราบสังขารของหลวงพ่อเวกที่อยู่ในโลงมุกซึ่งตั้งอยู่บนศาลาเรือนไม้ของวัดนี้

ขอลงบทสวดเพื่อนมัสการขอพร พระพุทธหิรัญราชไว้ในกระทู้นี้เลยครับ
คัดลอกมาจากหนังสือของวัดลาดศรัทธาธรรม อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี

คำนมัสการบูชาพระพุทธหิรัญราช
ตั้งนะโม 3 ครั้ง แล้วกล่าวดังนี้
"พุทธัสสังฆ์สะระนัง คัชฉามิ อิติปิพุทโธ โสภะคะวา
พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา พุทธะหิรัญญะราชา
อะระหันตาธาตุ โลกพรหมมะเทวดา ครูอุปัชฌา อาจาริยัง
มาตาปิตุนัง อะหังอะภิวันทิยะบูชา ทิพพะมนตา ปัญญาจักขุ

มหาเดชา มหายะสา มหาโภคา มหาปัญญา สัพเพเทวาปิยักขาจะ
สัพเพมะนุสสาปิยักขาจะ สัพเพสะมะณาปิยักขาจะ สัพเพพระราชา
พระราชินี พระราชบุตรา พระราชบุตรี ปิยักขาจะ จตุทิสาปะโชตะ
เนราชะมุข เขมะธุระ สัทธังโกรธังมะมะ ปะมุนจันติ
สัพพะสุขขะ สวัสดิมหาลาภา พุทธะหิรัญราชะ ประสิทธิ ภะวันตุเม"

คำภาวนาอธิษฐาน ขอความสำเร็จจากพระพุทธหิรัญราช
โคตะโยคะ มาวะจะระเจ้า พุทธังอธิษฐานมิ ธัมมังอธิษฐานมิ
สังฆังอธิษฐานมิ พุทธังอานุภาวังปะริสุทโธ ธัมมังอานุภาวังปะริสุทโธ
สังฆังอานุภาวังปะริสุทโธ อิติปิโสภะคะวา อะระหังสัมมาสัมพุทโธ
พุทธังยะ สังธะนังโภคัง สัพพะลาภัง อาคัชฉาหิ มามามิ
ธัมมังยะ สังธะนังโภคัง สัพพะสุขขัง อาคัชฉาหิ มามามิ
สังฆังยะ สังธะนังโภคัง สัพพะเมตตากรุณานัง อาคัชฉาหิ มามามิ
โสมานะ กะริสาทาโส.

คำภาวนาก่อนเดินทางสำหรับผู้ที่บูชาพระพุทธหิรัญราช
"พุทโธ เสฐโฐ จะภะคะวา อะระหัง อะระหัง สุคะโตติ"


ปิดรายการนี้แล้วครับ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_9191631", true); </SCRIPT>

 

จองครับ

 

จองครับ

 

จองครับ

 

จองครับ

 

ขอบูชาครับ

 

เศียรพ่อปู่ฤาษีสมิงพราย หลวงปู่กาหลง วัดเขาแหลม สระแก้ว ​

เนื้อสังขวานรโบราณพันปี ปี 2549 สร้าง 1,999 องค์ หมายเลข 426 ​

​

หลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว วัดเขาแหลม อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว พระผู้มีวาจาประกาศิตด้วยเขี้ยวแก้วกลางเพดาน ปัจจุบันท่านมรณภาพไปแล้วเมื่อปี2552 หลวงปู่กาหลงเป็นพระผู้มีวัตรปฏิบัติเคร่งครัด 1 ปีสรงน้ำ 1 ครั้ง หลวงปู่เคยเล่าว่าเคยสิ้นลมหายใจมรณภาพมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยท้าววิษณุกรรมมารับ แต่โบสถ์วัดเขาแหลมหลังที่ 9 ยังสร้างไม่เสร็จจึงต่ออายุขัยให้ " ของ ๆ ฉัน ๆ ตั้งใจทำมากับมือต่อไปจะมีค่ายิ่งกว่าทองคำจะหายากยิ่งกว่าเพชร ถ้าฉันไม่แน่จริงคงสร้างโบสถ์ได้ไม่ถึง 8 หลัง หรอก" หลวงปู่บวชตั้งแต่อายุ 20 ปี เป็นเวลากว่า 69 พรรษาในร่มกาสาวพัตร์ จึงได้มีโอกาสศึกษาวิชากับครูบาอาจารย์หลายท่าน เช่น หลวงพ่อเนียม วัดนาบุญ ปทุมธานี หลวงปู่ช้าง วัดเขียนเขต ปทุมธานี หลวงปู่ด๊วด วัดกลางคลอง 4 ปทุมธานี หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง นครปฐม หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา และศึกษาสายวิชาหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า วัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์เป็นที่เล่าขานอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน ช่วยชีวิตผู้คนมาแล้วมากมาย ทั้งในด้านป้องกันภัยอันตราย และด้านเมตตาโชคลาภ ค้าขายดี

สำหรับวัตถุมงคลที่หลวงปู่กาหลง ได้ทำการปลุกเสกและมีชื่อเสียงมากอย่างหนึ่งคือ ฤาษีปู่สมิงพราย ซึ่งท่านได้จัดสร้างไว้มีทั้งแบบพระบูชา ชนิดพกติดตัว เช่น รูปหล่อลอยองค์ และ เศียรพ่อปู่ เนื้อโลหะ เนื้อผง สำหรับให้ลูกศิษย์นำไปบูชาติดตัว หลวงปู่กาหลง ให้ความยกย่องนับถือพ่อปู่ฤาษีสมิงพรายมากๆ เพราะเป็นอาจารย์ที่มาสอนวิชาให้หลวงปู่กาหลง ตอนที่ท่านธุดงค์ได้พบกับพ่อปุ่ทางสมาธิ และพ่อปู่คอยให้ความช่วยเหลือติดตามหลวงปู่กาหลง อยู่เสมอ หลวงปู่กาหลง บอกว่าพ่อปู่เก่งและขลังมาก หลวงปู่กาหลง สร้างพ่อปู่ออกมาหลายรุ่น ได้รับความนิยมจากลูกศิษย์มากมาย เพราะมีประสบการณ์เยอะ ทั้งหน้าที่การงาน ค้าขาย ชีวิตเจริญรุ่งเรือง และด้านโชคลาภ หมั่นบูชาและภาวนาให้ดีจะประสบแต่ความเจริญรุ่งเรือง และผู้ที่บูชาไปก็ได้พบกับเรื่องอภินิหาร หรือประสบการณ์แปลกๆมามากแล้ว ใครมีปัญหาเดือดร้อน ลองอธิษฐานดูครับ ถ้าจะให้ขลังเป็นพิเศษสวดคาถากำกับอีกที

หลวงปู่ฤาษีสิงห์สมิงพราย ท่านเป็นอาจารย์ของ หลวงปู่กาหลง ผู้ซึ่งประสิทธิ์ประสาทวิชาให้แก่หลวงปู่กาหลงทางจิต หลวงปู่เล่าว่าวันหนึ่งได้ใส่กุญแจกุฎิแล้ว เมื่อกลับมาและเปิดเข้าไปกลับพบรูปปั้นของฤาษีท่านหนึ่งและแปลกใจว่า ใครนำ เข้ามาเคยได้ยินแต่พระธาตุเสด็จแต่ทำไมองค์ฤษี ซึ่งใหญ่มาก กลับมาวางอยู่ในกุฏิได้ โดยที่กุญแจกุฎิก็ยังคงปิดไว้ไม่มีใครเข้าไป ท่านจึงนั่งสมาธิและพบว่า ฤาษีท่านนี้ คือฤษีสิงห์สมิงพรายบอกว่าจะมาช่วย ลป.กาหลงสร้างโบสถ์

ตั้งจิตอธิษฐานนึกถึงหลวงปู่ฤาษีสิงห์สมิงพรายตามปรารถนา ผู้ที่บูชาไปต่างมีประสบการณ์มาแล้วมากมาย ทั้งเรื่องหน้าที่การงาน การค้าขาย ช่วยให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง และเสริมด้านโชคลาภ ถ้าเจ้าของหมั่นบูชาและภาวนาให้ดีจะประสบแต่ความสุขความเจริญรุ่งเรืองและก็ยังสามารถได้พบกับปาฏิหารย์กันมามากแล้วจากการบอกเล่าของลูกศิษย์ ซึ่งส่วนใหญ่จะได้ประสบยามเมื่อถึงคราวอับจน หรือมีความเดือดร้อนจริงๆ หากจะบูชาให้ถวายพวงมาลัย หมากพูลและมวนยาด้วยจะดีมาก

คาถาบูชาพ่อปุ่ฤาษีสิงห์สมิงพราย
กล่าว นะโมฯ 3 จบ
ยะมะหัง ครูอาจาริยัง สะระณังคะโต อิมินาสักกาเรนะตัง ครูอาจาริยัง อภิปูชะยามิ
ทุติยัมปิ ยะมะหัง ครูอาจาริยัง สะระณังคะโต อิมินาสักกาเรนะตัง ครูอาจาริยัง อภิปูชะยามิ
ตติยัมปิ ยะมะหัง ครูอาจาริยัง สะระณังคะโต อิมินาสักกาเรนะตัง ครูอาจาริยัง อภิปูชะยามิ
โอมกูจะครอบฟ้าแลแผ่นดิน กูจะครอบพระสมุทรแลสายสินธุ์ กูจะครอบพระอินทร์แลพระพรหม กูจะครอบพระยมแลพระกาฬ กูจะครอบท้าวจัตตุโลกบาลทั้งสี่ กูจะครอบทั้งตัวกู กูเป็นลูกปู่สิงห์สมิงพราย ครูกูจึงจะใช้ให้เรียกคุณมนต์ดลแลจ่ามนต์แลพระยามนต์ อย่าได้ไกลจากตนกู โอมประสิทธิแก่กูสวาหะฯ
นะโมพุทธา ยะ ธาพุทโมนะ นะมะภะทะ จะพะกะสะ นะมะอะอุ

พิธิกรรมปลุกเสก หลวงปู่กาหลงประกอบพิธิอธิษฐานจิต ปลุกเสกอัญเชิญทิพยสภาวะจิตวิญญานปู่ฤาษีมาสถิตเป็นครั้งแรกในพิธิไหว้ครู และอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวตลอดระยะเวลา ๑ ปีเต็ม

แบ่งให้บูชา 3.200 บาท

 

ขุนแผนพรายพยนต์ (ผงเบญจกุมาร) หลวงพ่อช้าง กันตสีโล วัดหนองยายเม้า จ.นครราชสีมา​

​

หลวงปู่ช้าง กนฺตสาโล สำนักสงฆ์หนองยายเม้า อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ท่านเกิดเมื่อวัน จันทร์ ที่ 9 พ.ศ. 2475 อายุ 77 ปี เมื่อสมัยก่อนโยมพ่อโยมแม่ย้ายมาอยู่บ้านชำผักแพว อ.แก่งคอย จ.สระบุรี โยมพ่อโยมแม่มีอาชีพหลักคือทำสวนทำนา แต่โยมพ่อนั้นเป็นผู้ที่มีวิชาในตัวจึงมีคนมาให้โยมพ่อของหลวงปู่ช้างนั้นทำพิธีถอนของ รักษาคนที่โดนกระทำ โยมพ่อของหลวงปู่ช้างนั้นในยุคนั้นต้องถือว่าเป็นผู้ที่มีอาคมจัด หรือเก่งที่สุดองค์หนึ่ง ทั้งเรื่องรักษาผู้ที่มีผีเข้า โดยกระทำและเป็นผู้ชำนาญในวิชาผูกหุ่นเป็นอย่างมาก หลวงปู่ช้างท่านบอก ในสมัยโยมพ่อไปรักษาผู้โดนของนั้น หลวงปู่ช้างตอนเด็กก็จะติดตามไปด้วยจนซึมซับในวิชาต่างๆอยู่ตลอด จนกระทั้งได้อายุ ๑๐ ขวบ โยมพ่อก็เริ่มสอนวิชาต่างๆให้และในสมัยนั้นหลวงปู่ช้างท่านก็สามารถที่จะผูกหุ่นพยนต์ห็ผู้อืนแทนโยมพ่อได้เมือหลวงปู่ช้างท่านได้อุปสมบทท่านก็ได้ศึกษาด้วยตนเองกับพระอาจารย์หรือศึกษาต่อจากอาจารย์ที่ได้รับการถ่ายทอดวิชา หลวงปู่ช้างท่านได้ออกเดินธุดงธ์เพื่อแสวงหาครูบาอาจารย์เพื่อที่จะศึกษาวิชาต่างๆเพิ่มเติม หลวงปู่ช้างท่านบอกว่ากว่าจะได้เรียนวิชาจากครูบาอาจารย์แต่ละองค์นั้นสุดแสนจะลำบากเพราะว่าแต่ละองค์จะรับเป็นศิษย์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ในสมัยนั้นเมื่อท่านธุดงธ์กลับมาฝั่งไทยแล้วท่านก็ได้ไปจำพรรษาอยู่ในวัดแถบโคราชจนกระทั้งญาติโยมกราบนิมนต์ให้ท่านมาสร้างวัดในสถานที่ว่างเปล่าในปัจจุบัน

ขุนแผนพรายพยนต์ หลวงพ่อช้าง วัดหนองยายเม้า จ.นครราชสีมา สุดยอดวิชาขุนแผนผนึกกับวิชาหุ่นพยนต์ ซึ่งเป็นวิชาที่ขุนแผนใช้ในราชการสงครามสมัยอยุธยา(เรื่องราวของประวัติศาสตร์ที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำเอามาเล่าขานให้ฟัง ที่ไม่ใช่วรรณคดีขุนแผนที่สุนทรภู่แต่งขึ้น) ซึ่งขุนแผนท่านเชียวชาญวิชานี้มากการไปรบทัพจับศึกในแต่ละครั้งไม่ต้องนำทหารไปมากก็รบชนะทุกครั้ง หลวงพ่อช้างท่านมีดำริให้สร้าง ขุนแผนพรายพยนต์ขึ้นเป็นครั้งแรก รูปลักษณะเป็นรูปเคารพขุนแผนทรงเครื่องประทับนั่งในซุ้มเรือนแก้ว ในแบบสมาธิราบ ส่วนอาสนะฐานล่างเป็นเศียรกุมารทองเรียงกัน 5 เศียร ด้านหลังเป็นรูปหุ่นพยนต์อาคมอยู่ภายในกรอบ ด้านบนเป็นยันต์พุทธซ้อน มีอุณาโลมอยู่ด้านบน มีตัวขอม “นะ มะ อะ อุ” อยู่ด้านล่าง ส่วนยันต์ที่อยู่ด้านข้างหุ่นพยนต์เป็นหัวใจอิทธิฤทธิ์ ส่วนด้านล่างเป็นหัวใจอาถรรพณ์ ว่าน 108 ฯลฯ พอจะจำแนกได้ดังนี้ ผงอิทธิคุณต่าง ๆ ที่หลวงพ่อช้างรวบรวมไว้ และให้บรรดาลูกศิษย์นำมาถวาย เช่น ผงพุทธคุณ, ผงจินดามณี, แป้งเสก, ผงพันชาติ, สีผึ้งมหานิยมของหลวงพ่อช้าง ว่านมงคลต่าง ๆ มากมาย ดิน 7 โป่ง, ดิน 7 ท่า, ดิน 7 สระ, ดินทางสามแพร่ง 7 แห่ง, ยอดรักยอดสวาท, ยอดกาหลง, เถาวัลย์หลงกลางป่าช้า, ใบรู้นอน 7 ชนิด, ไคลเจดีย์เสมาโบสถ์ ฯลฯ

ขุนแผนพรายพยนต์ มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์จำเพาะของสำนักหนองยายเม้า “หลวงพ่อช้าง” ท่านได้เอาวิชาความรู้ที่ได้ศึกษามาจากครูบาอาจารย์ นำวิชาการมาประยุกต์ผสมผสานไว้ใน ขุนแผนพรายพยนต์ ได้อย่างกลมกลืนและลงตัวเป็นอย่างมาก ผสมผสานวิชาได้เป็นหนึ่งเดียว วิชาขุนแผน, วิชาปลุกพรายกุมารทองและวิชาผูกหุ่นพยนต์อาคม 3 วิชาเป็นสายอาคมที่หลวงพ่อช้างท่านสำเร็จวิชามา หลวงพ่อช้างท่านบอกศิษย์อยู่เสมอว่า “จะทำอะไรต้องทำให้เขาดี ๆ ถ้าไม่ดีไม่อยากให้เอาไป นอกจากไม่ดีแล้วยังเสียชื่อเราอีก” และการที่หลวงพ่อช้างนำ 3 วิชาอาคมมาบรรจบรวมกันนัยว่า จะเป็นการสร้างเสริมฤทธิ์ซึ่งกันและกัน จะช่วยเหลือสงเคราะห์เพื่อนมนุษย์ได้

อิทธิฤทธิ์ของกุมารทองทั้ง 5
ตนที่ 1 มีอานุภาพคุ้มครองป้องกัน เตือนภัย ทรงฤทธิ์มาก
ตนที่ 2 มีอานุภาพทางเมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์
ตนที่ 3 มีอานุภาพทางโชคลาภ ลาภลอย อุดมลาภ
ตนที่ 4 มีอานุภาพทางค้าขาย ผูกจิต มัดใจ เรียกคน (อธิษฐานบอกกล่าว)
ตนที่ 5 มีอานุภาพทางเสริมยศ มีสง่าราศี เสริมดวง อำนาจวาสนา
ขุนแผนพรายพยนต์ มีพลังครบเครื่องครอบคลุมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเสน่ห์ เมตตามหานิยม ค้าขายโชคลาภ เดชะมหาอำนาจ แคล้วคลาดป้องกันภัยภยันตราย มีกุมารทองและหุ่นพยนต์คอยให้ความช่วยเหลืออยู่ด้วยนับว่าครบเครื่อง

แบ่งให้บูชา 700 บาท

 

พระพุทธนราวันตบพิธ พ.ศ.2542​

​

พระพุทธนราวันตบพิธ เป็นพระที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณให้ประชาชนซึ่งเป็นพสกนิกรของพระองค์ได้มีไว้เป็น สายใยกับพระองค์ท่าน เพราะมีมวลสารสำคัญ คือเส้นพระเจ้า (พระเกศา) ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในมวลสารพระด้วย

ในวาระอันเป็นมิ่งมงคลสมัยอย่างยิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระ ชนมพรรษา 72 พรรษา ปี 2542 ทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน พระบรมราชานุญาตให้จัดสร้างพระพุทธนราวันตบพิธขึ้น เนื่องจากพระองค์ทรงทราบว่า สมเด็จจิตรดาที่ทรงสร้างด้วยพระองค์เอง มีผู้ต้องการและเสาะแสวงหากันมาก เมื่อมีโอกาสที่เหมาะสมจึงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สร้างพระสำหรับ พสกนิกรผู้จงรักภักดีของพระองค์ท่าน โดยให้เป็นพระที่เกี่ยวเนื่องกับพระบาทสมเด็จเจ้าอยู่หัวที่ใครๆ ก็สามารถบูชาได้

เมื่อคราวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงผนวชเมื่อปี พ.ศ.2499 ที่วัดบวรนิเวศวิหาร และเสด็จมาประทับ ณ พระปั้นหยา วัดบวรนิเวศวิหาร ได้ทรงสถาปนาพระพุทธปฏิมาประจำพระองค์ไว้ในพระบวรพระพุทธศาสนา เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2499 สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ได้ถวายพระนามพระพุทธปฏิมานี้ว่า "พระพุทธนราวันตบพิธ" ได้เชิญขึ้นประดิษฐานไว้ ณ พระปั้นหยาเป็นพระราชกุศลสืบไป

องค์พระพุทธนราวันตบพิธ เป็นพระยืนยกพระหัตถ์ทั้งสอง ปางห้ามสมุทร อันเป็นพระประจำพระชนมวาร คือ วันจันทร์ ประทับยืนบนฐานกลมบัวคว่ำบัวหงายบนตั่งแข้งสิงห์เหนือหน้ากระดาน และมีฐานภัทรบิฐ สัญลักษณ์ประจำพระองค์รองอีกชั้นหนึ่ง ความสูงถึงสุดพระรัศมี 36.5 เซนติเมตร ลงรักปิดทองตลอดทั้งองค์พระและฐาน

คณะกรรมการจัดสร้างขณะนั้น คือ พลอากาศตรีกำธน สินธวานนท์ องค์มนตรี เป็นประธานกรรมการอำนวยการ และนายวัลลภ เจียรวนนท์ กรรมการบริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นกรรมการดำเนินงาน เพื่อเป็นอนุสรณ์ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระ ชนมพรรษา 72 พรรษา และเพื่อให้พสกนิกรชาวไทยได้ร่วมบริจาคทรัพย์เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย โดยเสด็จพระราชกุศลสมทบทุนมูลนิธิชัยพัฒนา เมื่อนำความกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดสร้างพระพิมพ์เป็นพระเนื้อผง จากต้นแบบพระพุทธนราวันตบพิธพระพุทธรูปฉลองพระองค์

ประการสำคัญที่สุดได้พระราชทานมวลสารส่วนพระองค์ โดยเฉพาะเส้นพระเจ้า (เส้นพระเกศาของพระองค์) ให้นำมาผสมในเนื้อพระ เพื่อให้พสกนิกรได้อยู่ใกล้ชิดพระองค์ตลอดไป พระเนื้อผงที่จัดสร้างเป็นพระประทับยืนยกพระหัตถ์สองข้างบนพื้นที่ทำเป็นรูป ซุ้มโค้งแหลม สูง 3.2 เซนติเมตร ด้านหลังประดิษฐานตราสัญลักษณ์เฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา

เนื้อหามวลสาร นอกจากเส้นพระเจ้าและมวลสารส่วนพระองค์แล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังพระราชทานมวลสารมหามงคลอีกประการหนึ่งคือ พระจีวรที่องค์ครองคราวเสด็จออกผนวชเมื่อปี พ.ศ.2499 นอกจากนั้น คณะกรรมการยังได้รวบรวมมวลสารจากพระธาตุสำคัญทุกปีเกิด จากวัดสำคัญ 143 วัดทั่วประเทศ สถานที่สำคัญอันได้แก่ ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน ในอินเดียและศรีลังกา นอกจากนี้ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ก็ได้ทรงพระราชทานมวลสารพุทธมงคลสำคัญมาร่วมสร้างพระพิมพ์พระพุทธนราวันตบพิธ อีกจำนวนมาก สำหรับการผสมมวลสารมหามงคลพระราชทานนั้น อาจารย์อนันต์ สวัสดิ์สวนีย์ ซึ่งเป็นนายช่างแห่งกองช่างสิบหมู่ กรมศิลปกร ได้นำมวลสารมหามงคลทั้ง 3 ประการ มาซอยและย่อยให้เป็นผงละเอียดยิบ เพื่อจะได้ผสมมวลสารอย่างอื่นอย่างทั่วถึง เพราะฉะนั้นประชาชนทุกท่านมีสิทธิ์ได้รับมวลสารมหามงคลอย่างถ้วนทั่วกัน

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทรงเป็นองค์ประธานประกอบพิธีมหาพุทธาภิเศก เมื่อวันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ.2542 โดยสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ทรงมอบให้สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว) วัดสระเกศ เป็นประธานเจริญพระพุทธมนต์และจุดเทียนชัย มีพระเถระและพระคณาจารย์ รวม 72 รูปทั่วประเทศ อาทิ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม กรุงเทพมหานคร หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญบรรพตหนองคาย หลวงปู่ท่อน ญาณธโร วัดศรีอภัยวัน เลย หลวงพ่อพวง สุวีโร วัดป่าปูลู สกลนคร หลวงพ่อบุญเพ็ง กัปปโก วัดป่าวิเวกธรรม ขอนแก่น หลวงปู่หงส์ พรหมปัญโญ วัดเพชรบุรี สุรินทร์ หลวงพ่อม่วง วัดยางงาม ราชบุรี หลวงปู่ทิม วัดพระขาว พระนครศรีอยุธยา ฯลฯ

แบ่งให้บูชา 550 บาท

 

วันนี้ 08 มิ.ย.57 เวลา 19.10 น. โอนเงินตามรายการจอง 6,500 บาท ที่อยู่ pm.

 

โอนค่าบูชา มัจฉานุ ให้แล้วครับ
รายละเอียดแจ้งทาง PM

 

ผมจัดส่งพระให้แล้ววันที่ 9 มิถุนายน 2557 เวลา 16.53 น. EMS เลขที่ EL 2269 1665 6 TH

ขอบคุณครับ

 

พระบูชาเนื้อดินเผา(6) บรรจุกรุใต้ฐานพระพุทโธคลังวัดสารนาถ อ.แกลง จ.ระยอง


​

ท่านที่สนใจพระบูชาเนื้อดินเผา ที่ออกมาจากกรุใต้ฐานพระพุทโธคลังของวัดสารนาถฯ เมื่อสิบกว่าปีก่อนคราวบูรณะฐานพระประธาน นำมาแบ่งให้บูชากัน เป็นพระที่สร้างไว้เมื่อปี 2506 และมีหลายพิมพ์ อธิษฐานจิตปลุกเสกโดยคุณแม่บุญเรือน ลป.ทิม วัดละหารไร่ ลพ.โต วัดเขากะโดน และคณาจารย์มีชื่อเสียงอีกครึ่งร้อย

พระบูชาชุดนี้ดีทางความเจริญก้าวหน้าและความร่มเย็นสมบูรณ์พูลสุข เช่นเดียวกับคำอธิษฐานด้วยสมาบัติของคุณแม่บุญเรือนที่ประจุไว้ในพระพุทโธคลัง ส่วนใหญ่จะตกอยู่กับคนทางระยอง เป็นพระที่มีรูปปรากฎอยู่บนโต๊ะหมู่บูชาของ ลพ.คร่ำ วัดวังหว้า คนสะสมสายนี้รู้จักและเสาะหากันทุกคน เพียงแต่ไม่มีพระให้บูชากันเท่านั้น เจ้ากรมพระหลักสาย ลป.ทิม(คุณ น.) ก็กว้านเก็บไปหลายองค์

พระบูชาที่สร้างในพิธีฉลองพระอุโบสถวัดสารนาถฯ อ.แกลง จ.ระยอง ปี 2506 เป็นพระเนื้อดินเผา ขนาด 9 นิ้ว ด้านหลังประทับตรายันต์และไม่ประทับก็มี บางองค์จารสดด้านหลัง พระชุดนี้มีการนำออกมาจากใต้ฐานของพระพุทโธคลังเท่านั้น คนที่สะสมพระเครื่องสายนี้(คุณแม่บุญเรือน)ล้วนรู้จักกันดีและเป็นของที่หายากมานานแล้ว ร้านค้าและบ้านเรือนในระยองหลายร้านล้วนมีบูชาไว้ พระบูชาที่ลงไว้ ล้วนเป็นของเก่า และแท้ทุกชิ้น

พระบูชาเนื้อดินเผา(6) บรรจุกรุใต้ฐานพระพุทโธคลังวัดสารนาถ อ.แกลง จ.ระยอง สูง 9 นิ้ว หนักเกือบหนึ่งกิโลกรัมและเป็นที่รู้จักกันดีนานแล้วสำหรับนักสะสมที่รู้ข้อมูล ตอนที่เปิดออกให้บูชาเมื่อก่อนนั้น ก็หมดทันทีโดยไม่มีเหลือหลุดรอดออกไปข้างนอก

องค์นี้ให้บูชา PM ครับ

 

ผมจัดส่งพระให้แล้ววันที่ 10 มิถุนายน 2557 เวลา 08.46 น.

คุณ วิคิด EMS เลขที่ EL 2269 2059 3 TH

คุณ Roj_56 EMS เลขที่ EL 2269 2060 2 TH

ขอบคุณทุกท่านครับ

 

ขอราคาองค์นี้ด้วยครับ

 

ขอราคาสมเด็จรุ่นสุดท้ายด้วยครับ

 

หนุมาน หลวงพ่อผินะ วัดสนมลาว​

​

หนุมานลอยองค์ หลวงพ่อผินะ พิมพ์ทรงแบบนี้ออกที่วัดสนมลาว มี 2 แบบด้วยกันทั้งแบบทาสีและไม่ทาสี...ว่ากันว่าใครก็ตามที่อยากได้หนุมานของหลวงพ่อผินะท่านนั้น..ท่านให้ไปท่องคาถาและอาการให้ครบก่อนถึงจะได้ไป...พุทธคุณของหนุมานนั้นโดดเด่นครอบคลุมไปทั่วทั้งเรื่องเมตตานั้นก็ยิ่งกว่าขุนแผนเสียอีก..ตะลุยไปทั่วทั้งบนบก,ใต้น้ำ,อากาศ..ผู้ที่รู้เรื่องราวของหนุมานนั้นต่างรู้ดีครับว่าเมตตาอย่างไร...อีกทั้งคงกระพันไม่มีวันตายอีกต่างหาก....หลวงพ่อผินะท่านอธิฐานจิตไว้เป็นเยี่ยมครับ...หนุมานแบบลอยองค์นั้นมีไม่มากครับ

ให้บูชา 2,200.บาท

 

พระเจ้ารวยทันใจ หลวงพ่อเกิด วัดเขาดิน​

เนื้อผงว่านมหาเศรษฐี ฝังตะกุดเงินคู่+เม็ดพระธาตุ ​

​

พระครูอุดมชัยกิจ หรือหลวงพ่อเกิด ปัณฑิโต วัดเขาดิน ต.หนองมะโมง กิ่ง อ.หนองมะโมง จ.ชัยนาท ปัจจุบันท่านอายุ 72 ปี ท่านเป็นศิษย์รุ่นสุดท้ายของหลวงพ่อกบ สำนักเขาสาริกา และเป็นศิษย์น้องของหลวงพ่อโอภาสี แห่งอาศรมบางมด ปัจจุบันศิษย์กรรมฐานสายหลวงพ่อกบ เหลือเพียงหลวงพ่อเกิดองค์เดียวเท่านั้น ท่านเป็นพระที่อยู่ติดดิน แต่จิตเหนือดิน พระผู้อยู่ใต้ฟ้า แต่มีจิตเหนือฟ้า พระผู้มีจิตแก่กล้า และเป็นบูรพาจารย์ที่ปล่อยวาง ปัจจุบันหลวงพ่อเกิดเป็นที่ศรัทธาของลูกศิษย์ทุกชนชั้นทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศอย่างกว้างขวาง แม้มิได้ดังทะลุฟ้า แต่ศรัทธาที่ศิษยานุศิษย์มีต่อท่านนั้นมิเคยถดถอย มีแต่ทวีคูณขึ้นทุกวัน ท่านมีฤทธิ์เพราะความบารมี มีปาฏิหาริย์เพราะความดีและคุณธรรม

พระเจ้ารวยทันใจ เจ้าแห่งโชคลาภ จำลองแบบมาจากท้าวกุเวรเจ้าแห่งขุมทรัพย์ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ร่ำรวย เนื้อผงว่านมหาเศรษฐี ฝังตะกุดเงินคู่+เม็ดพระธาตุ สร้างเพียง 372 องค์ องค์นี้คัดสภาพสวยมาก เส้นเกศาหลวงพ่อเกิดงอกยาวจากองค์พระ 1 ซม. ขนาดพระ 2*3 ซม.

ปิดรายการนี้แล้วครับ