หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)

ระยะระหว่างทางที่จะเข้าไปวัดภูดานไห ต้องอาศัยการสังเกตให้ดี หากถึงที่ทำการ อบต.กุดหว้า แล้วก็ต้องชะลอรถกันแล้ว
และฝากให้สังเกตเพิ่มเติมแบบละเอียดขึ้นอีกหน่อย คือ
ถัดจาก อบต.กุดหว้า จะมี ที่ทำการหน่วยพิทักษ์ป่าไม้ และไม่ไกลกันก็จะมี ปั๊มน้ำมันเล็ก ๆ ปั๊มนึง
ต่อจากนั้นก็จะเป็นสวนยางพาราอยู่ประมาณ 2 สวน (ไม่นับสวนที่อยู่หลังปั๊มน้ำมัน)
ตรงสวนสุดท้ายก่อนจะถึง บ้านหลังคาสีฟ้า (อาจจะสังเกตลำบากเพราะมีต้นไม้บัง) ต้องชะลอรถให้ช้าลงกว่าเดิม
ถ้าเลยบ้านหลังคาสีฟ้าไปแล้ว จะเป็นทางโค้งผ่านทุ่งนาและขึ้นเนินเขา นั่นหมายความว่า เลยทางแยกเข้าวัดภูดานไหแล้วครับ

ปล. ใครที่ไม่เคยไปหรือไม่แน่ใจให้จอดรถแวะถามที่ อบต.กุดหว้าได้ครับ
(รู้สึกว่าจะมีหน่วย อปพร. ประจำการอยู่เกือบตลอดเวลา ให้พี่ ๆ แถวนั้นนำทางไปจนถึงทางเข้าวัดได้)

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับผม

 

วันนี้ได้พูดคุยกับท่านนนต์หลายๆเรื่อง พร้อมกับพิจารณารูปพระกลุ่มนี้ไปด้วย
ยอมรับว่ามึนหัว...จนต้องเปลี่ยนไปหน้าอื่นก่อน...หึหึ ของเปิ้นแฮงแต้ด้วยเตโช!ก่ะ

 

ขอบคุณสำหรับการเพิ่มเติมข้อมูลนี้ครับ
ผมสังเกตุ อปพร.หลายครั้งแล้วว่า...จะขับตามอารักขาองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ขณะบิณฑบาตเสมอๆ (คิดไปเองหรือเปล่าก็ไม่ทราบนะครับ)

ผมได้ฤกษ์เดินทางไปกลับแล้วคือ 3-5 ก.พ. 55 ครับผม

 

เล็ก-อลังการ์ ไร้เทียมทาน

 

"ขออนุญาตแทรกมุมน้อยๆครับ"
วันนี้ช่วงเย็น...ผมได้แวะที่บ้านพี่สาวท่านหนึ่งที่แต่ก่อนผมพักอาศัยอยู่ย่านนั้น และมีที่ดินแปลงใหญ่แปลงหนึ่งอยู่ติดกันกับที่พัก ขณะนี้เขากำลังลงเสาเข็มเพื่อสร้างตึกแถวสองชั้นจำนวน 5 ห้อง แล้วพี่ท่านนี้ได้จองซื้อไว้ ณ แถวมุมติดถนนสองข้างพอดี...ประมาณว่ากั๊กไว้ยังไม่อยากให้ใคร เนื่องจากติดบ้านตัวเอง ดูแลง่ายดี แต่เอาเข้าจริงๆก็ไม่สามารถซื้อไว้ได้ เพราะติดปัญหาเรื่องเงิน จะเสนอต่อให้คนอืนก็เสียดายยิ่งนัก ก็เป็นจังหวะดีของผมที่มาเยี่ยมแกพอดี(อีกแล้ว) แกก็เลยบอกต่อผมให้ซื้อไว้ด้วยเถิด ประมาณว่าขอร้องกันเลย...ผมก็เลยเดินไปดูที่จริงๆเลย โอ้...ประมาณว่าอารมณ์ผูกพันธ์เดียวกับที่ได้พบที่ที่จะปลูกบ้านหลังนี้ และเป็นที่ที่แต่ก่อนผมอยากจะซื้อเก็บไว้มากๆ แต่เจ้าของท่านไม่ยอมขาย จะเก็บไว้ทำไรไม่ทราบได้ (ตอนนี้ทราบแล้ว) เป็นว่าผมตกลงซื้อไว้หนึ่งห้องแถวราคาล้านเจ็ด ก็เป็นเรื่องดีๆเรื่องหนึ่งในต้นปีนี้ ที่ผมปีติยินดีมากๆจนอดไม่ได้ที่จักเขียนเล่าสู่กันฟัง

ที่ดินที่แม่สอดแพงขึ้นๆทุกวันจากแสนเป็นล้าน ยิ่งกำลังจะยกเป็นเขตปกครองพิเศษ ก็ยิ่งแพงเข้าไปใหญ่ ทำให้หลายวันมานี้ผมเป็นกังวล ที่ไม่สามารถหาซื้อที่เก็บไว้ทำมาหากินในอนาคตเลย เหตุการณ์นี้...ช่างพอดีกับความอยากของผมจังเลยครับ

 

ตาร้อนผ่าวเลย.......555555555555+

 

(^)(^)(^)

ท่านนนต์ได้พระพุทธรูปองค์งามล้ำค่า ท่านสมบัติได้ที่ดินแปลงสวยสูงราคา แล้ว D-Crew จะมีวาสนาได้อะไรบ้างน้อ....

 

รับทราบครับและพร้อมไปร่วมงานวาระเดือน"กุมภามุทิตาสักการะแด่องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช"วันเสาร์-อาทิตย์ที่ 4-5 กุมภาพันธ์ 2555

 

ก็ขอภาวนาให้ท่านได้ในสิ่งที่ปรารถนานะครับท่าน :D-

มีเรื่องเล่าต่อครับ...
ในวันที่ทาสีห้องน้ำกับองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ ท่านก็ได้ถามไถ่ถึงการงาน บ้านช่อง เป็นอย่างไรบ้าง ?

ในเรื่องงานผมก็บอกท่านว่าก็ดี เขาขึ้นเงินเดือนให้ปีละประมาณสองครั้ง และเกินเกณฑ์ความต้องการของกระผมไปนานแล้ว
ส่วนบ้านและที่ดินก็ได้อาศัยครอบครองแล้ว (พ้นขีดอันตราย)

ท่านก็ได้บอกต่อว่า การมีบ้านของญาติโยม ก็เปรียบเหมือนวัด...หากเป็นเจ้าอาวาส การจะสร้างหรือทำอะไรก็สะดวกดี...
ตามปกติฆราวาสที่ปฏิบัติธรรม มักจะได้ในสิ่งที่เจริญเสมอๆ
ผมก็ได้บอกท่านต่อว่า หากได้เพิ่มมาอีกก็ดีจะได้เหลือมากๆเพื่อจะสร้างกุศลต่อไปครับ หุหุ ฯลฯ

ก็คิดว่า หากเราหมั่นสร้างงานสร้างกุศลอย่างต่อเนื่อง ไม่ท้อถอย รับรองว่าทุกอย่างที่ปรารถนาจะตามมาอย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว
จึงอยากเอาชีวิตของผม ที่ดำเนินมาโดยเริ่มจากศูนย์ มีเพียงสองตา หนึ่งสมอง สองมือ และสองเท้าเท่านั้นที่พ่อแม่มอบให้
เป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จและการกระทำ(กรรม)และความพยายามครับ

เช่นเดียวกับการสร้างวัดแห่งภูดานไห องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านเปิดโอกาสให้เราได้สร้างบุญบารมีกับท่านอย่างเต็มที่
โดยเริ่มจากทรายเม็ดแรกๆในการสร้างรากฐาน ไม้เก่าแผ่นแรกๆในการสร้างกุฏิ มาบัดนี้เราก็เริ่มจะไปไกล
เรากำลังร่วมกันสร้างศาลาอันสง่างามหลังนี้ พร้อมกับการปฏิบัติธรรมสะสมบุญชำระกิเลสไปด้วย
จะมีสถานปฏิบัติธรรมที่ไหนอีกเล่า ที่เปิดโอกาสอันกว้างขวางให้เรากระทำได้เช่นนี้อีกเพื่อนธรรมทั้งหลาย

 

มะพร้าวที่หิ้วมาขายสวน:

จิตมีธรรมชาติ(คุณสมบัติ)อย่างไร

๑. ดิ้นรน กวัดแกว่ง รักษายาก ห้ามยาก มักถูกอารมณ์(ที่ชอบ)ครอบงำ
๒. เกิด-ดับ สืบต่อกันอย่างรวดเร็ว(มาก)อยู่ตลอดเวลา (เกิดภพ หรือ ภาวะ)
๓. ฝึกให้ดีก็ได้ ฝึกให้เลวก็ได้
๔. จิตดั้งเดิมนั้นผ่องใส ไม่ดีไม่เลวไม่ทุกข์ไม่สุขด้วยตัวเอง จะดีหรือเลว ทุกข์หรือสุขต้องอาศัยเจตสิก[คือ เวทนา สัญญา และ สังขาร(ที่ถนัดในเรื่องการปรุงแต่ง)]
๕. จิตสามารถปรุงแต่งสิ่งต่างๆได้อย่างกว้างขวาง ดังคำที่ว่า "จิตสามารถทำธรรมทั้งหลายให้วิจิตร"
ก. ทำให้สัตว์(โลก)มีภาววิสัย(พฤติกรรม)ต่างกัน
ข. มีทั้งที่เป็นเรื่องดี เรื่องชั่วและเรื่องที่ไม่ดีไม่ชั่ว
ค. สั่งสมบุญ-บาป และ (สืบ)สันดาน ถ่ายทอดจากดวงหนึ่งสู่ดวงหนึ่งต่อๆไปต่อเนื่องแบบข้ามภพข้ามชาติ
ง. รักษาวิบาก(ผลของกรรม)ไว้เพื่อรอโอกาสที่จะมาถึง
จ. รับและรู้ซึ่งอารมณ์ ทางทวารทั้ง ๖ อยู่เสมอ
ฉ. ทำหน้าที่เป็นประธานของ รูป นาม ทั้งปวง


...นักลักธรรม....

 

ได้ดวงตาเห็นธรรม ประเสริฐยิ่งกว่าสิ่งใดๆ

 

.......................ฯลฯ เขาขึ้นเงินเดือนให้ปีละประมาณสองครั้ง ฯลฯ.............


แบบนี้ไม่ตาร้อน อย่างเดียวแล้วละท่าน ถึงขั้น อิจฉาเลยเชียวแหละ

โมทนาสาธุ กับคุณความดีของท่านสมบัติ ทั้งดีคิดและดีทำ คนดี คนบุญถึงพร้อมย่อมได้รับผลดีเป็นสิ่งตอบแทนเสมอ นี่คือธรรม

 

โมทนาสาธุและเดินทางโดยสวัสดิภาพเด้อ..

 

โมทนาสาธุครับ

...นักจำธรรม...

 

หากท่านใดอยากจะเปิดญาณสัมผัสของตัวเอง ให้ท่านอธิษฐานจิต แล้วเพ่งที่ภาพพระพุทธรูปเหล่านี้ และกำหนดจิตดึงพลังมาที่ดวงตาที่สามตรงกลางเหนือระหว่างคิ้ว แล้วจะปรากฏมีพลังแผ่ซ่านเข้าไปที่ตาที่สาม และจะแผ่ไปทั่วร่างกายได้ หากท่านปรับธาตุขันธ์ไม่เป็น ก็อาจจะมึนศรีษะและเกิดอาการหนักหน่วงที่ตาที่สามได้ ค่อยๆเรียนรู้ไปนะครับ

ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์
20 มกราคม 2555

 

พิธีทำความสะอาดองค์พระ,สรงน้ำพระพุทธรูปหน้าถ้ำหลังเขา(หลังภูดานไห)
วาระสงกรานต์ปี 54 ครับ (ภาพในอดีต)







ครูชาติตอนบวชพระ

คุณแม่ครูชาติ มาปฏิบัติธรรมด้วย

 

กราบ กราบ กราบ​

สิ่งที่ผมสังเกตุเห็นบ่อยๆ องค์ท่านจะรัดมัดระวังและขอขมาต่อพระพุทธปฏิมากรทุกครั้ง
อันว่า...นะโม แปลว่าความนอบน้อม คือคาถาเมตตาที่ท่านเมตตาสอนศิษย์ให้เจริญรอยตามครับ

สงกรานต์ปี 55 เชื่อว่า นรธ. ทุกๆท่านน่าจะได้ขึ้นไปร่วมขอขมาฯ สรงน้ำ ณ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้โดยพร้อมเพรียงกัน

 

กราบขอบคุณในความเมตตาครับ ท่านอาจารย์

 

พลังพุทธานุภาพแบบไร้ขีดจำกัด​

ท่านทั้งหลาย ในช่วงเวลานี้ มีปรากฏการณ์บางอย่างที่กำลังเกิดขึ้นก็คือ พระเครื่องและวัตถุมงคลทั้งหลายที่มีอยู่กับผม และนักรบธรรมบางท่าน ได้แสดงอภินิหาริย์ คือ กลายเป็นพระที่มีพลานุภาพแบบสูงสุดคือ ไร้ขีดจำกัดแทบทุกองค์ (ตามที่หลายๆคนเข้าใจกัน) นั่นอาจเป็นเพราะบุญบารมีเก่าที่พวกเราได้สร้างพระมาแทบทุกยุคสมัยตั้งแต่อดีตชาติกระมัง หรือจิตดวงเดิมในการอธิษฐานจิตพระก็ยังติดตามตัวมาในภพนี้ก็ได้ เมื่อจับสิ่งใดแค่เอ่ยจิตสิ่งเหล่านั้นกลับมีพลังเพิ่มขึ้นมาอย่างมหาศาล ที่พูดมาทั้งหมดล้วนมีพยานเป็นประจักษ์และรับรู้ด้วยตัวเอง คนแล้วคนเล่า (ทริงเท็จเกินกว่านี้ ผมไม่ทราบ) แต่จะขอพูดตามเหตุการณ์เท่านั้น ยังไม่ขอรับรองในสิ่งที่เกิดขึ้นว่าจริงแท้แน่นอนแล้ว ​

เมื่อสามวันที่ผ่าน มีด็อกเตอร์ท่านหนึ่งเป็นอาจารย์อยู่ที่สถาบันแห่งหนึ่งที่โคราช พร้อมเจ้าหน้าที่หนึ่งคน มาหาผมที่มหาวิทยาลัย มีเรื่องอจินไตยเกิดขึ้นมากมาย ผมได้มอบพระสมเด็จที่ประดับพระบรมสารริกธาตุและพระหลวงปู่ทวดพิมพ์กลักไม้ขีดวังหน้าให้คนละหนึ่งองค์ พร้อมกับอธิษฐานจิตให้อีกครั้ง ดร.ท่านนั้น ก่อนมาพบผมท่านได้อธิษฐานจิตให้พบครูอาจารย์และบางอย่างไว้ พอวันต่อมามีเหตุให้เข้ามารู้จักกับผมเสมือนเป็นการบังเอิญ เมื่อพบกันแล้วผมได้ยื่นสร้อยประคำเหล็กไหลไพลดำพร้อมพระพุทธปฐวีธาตุของพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช เพื่อพิสูจน์ญาณสัมผัสของทั้งสองท่าน ปรากฏว่าทั้งสองคนเห็นพญานาคจำนวนมากมาย มีครบทั้งสี่ตระกูล และมีพลังมหาศาลจนมือไม้สั่น มีแสงสว่างเจิดจ้า เมื่อสนทนากันพอสมควรผมได้มอบพระให้ทั้งสองท่าน โดยผมมอบพระสมเด็จประดับพระบรมสารีริกธาตุปี 2411 แก่ด็อกเตอร์(โก๋) ผมบอกให้นำกลับไปภาวนาและปรับธาตุขันธ์ ท่านได้ทำตามโดยการนำพระวางไว้บนมือขณะนั่งภาวนาสมาธิ ปรากฏว่ามีพลังมหาศาลวิ่งเข้ามาพร้อมกับปรากฏภาพเทวดาสวมเครื่องทรงสีเหลืองอร่ามเข้ามาพร้อมกับสอนวิธีปรับธาตุขันธ์ ทันใดนั้น พระได้ดึงมือด็อกเตอร์วนขึ้นเหนือศรีษะเลยไปนิ่งอยู่เหนือท้ายทอยอย่างอัศจรรย์ พอตอนเช้าท่านรีบไปใส่บาตรก็ปรากฏเทวดาองค์เดิมเข้ามาแต่สีของเครื่องทรงกลายเป็นสีน้ำตาล พอมาอีกวัน(เมื่อวาน) ท่านได้โทรมาบอกผมว่า พระที่ท่านนำไปเลี่ยมพลาสติกและใส่กรอบเงินนั้น พลังได้ดันพลาสติกแตกระเบิดออกมาเป็นที่ฉงนยิ่งนัก ​

หลังจากนั้น ท่านสุทนได้โทรมาบอกผมเช่นกันว่า พระสมเด็จวัดระฆังของท่านได้ดันกรอบพลาสติกแตกระเบิดเช่นกัน และก่อนหน้านั้นก็แตกระเบิดออกมาหลายองค์ ท่านสุทนเล่าให้ฟังว่า หลังจากที่ได้กลับจากการพบกันกับผมและดร.ณัฐชัย เมื่อวันที่ผมไปถ่ายรูปปริญญาที่ มศว ก่อนปีใหม่ (23 ธันวาคม 2554) วันนั้นปรากฏพระเบื้องบนได้เสด็จมาเพื่อสงเคราะห์พวกเรา และได้ปรับธาตุขันธ์กันภายใต้คลื่นพลังที่หนักหน่วงอยู่นานหลายนาที ต่างเป็นพยานซึ่งกันและกันทั้งสี่คน (ขอสงวนรายละเอียด) เมื่อกลับไปถึงบ้าน จะหยิบจับพระองค์ใดก็ปรากฏมีพลังมหาศาลวิ่งออกมาจากพระองค์นั้น กลายเป็นพลังไร้ขีดจำกัดแบบมหัศจรรย์แทบทั้งสิ้น นอกจากนั้น พระหรือวัตถุมงคลของท่านสมบัติ ก็ล้วนมีพลังไร้ขีดจำกัดเช่นเดียวกัน​

ท่านทั้งหลาย คำบอกเล่าของผมและเพื่อนธรรมหลายๆคนที่ท่านกำลังอ่านอยู่นี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวอจินไตยที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงกึ่งกลางพระพุทธศาสนา จะจริงเท็จแค่ไหนตัวท่านเองจะเป็นผู้พิจารณาตามหลักกาลามสูตร ผมเพียงแต่มีหน้าที่นำมาบอกกล่าวตามความจริงที่เกิดขึ้นเป็นปัจจัตตัง ความจริงเท็จที่สูงกว่านั้น ผมมิอาจรู้ได้ จึงโปรดใช้วิจารณญาณเอาเองนะครับ​

ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์
20 มกราคม 2555​

​

​