วัวธนูรุ่นแรก หลวงปู่เท อายุ 102 ปี วัดยี่งอ จ.นราธิวาส ประสบการณ์แรง น.94

รับทราบยอดโอนคะ

 

น้ำเต้าดูดทรัพย์หลวงพ่อสด มีเหลือไม่กี่ลูกแล้วนะคะ สนใจรีบบูชากันได้เลยคะ

 

ผมโอนให้แล้วนะครับ เวลา 14.27 น. สลิปเดี๋ยวผมอัพให้ดูครับ มันไม่ยอมขึ้นมาให้ดู
นาย ธีระศาสตร์ นาคขำ 125/7 ม.5 ซ.ลุ่มพัฒนา1 ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 11130

 

สอบถาม

โอนเงินของรายการไหนคะพี่

 

โอนเงินของรายการไหนคะพี่

 

สลิปครับ

 

ช่วงนี้ค่อนข้างเงียบๆ เลยมีวัตถุมงคลดีมาให้ได้ชม ได้บูชากันคะ

 

<a href="http://www.mx7.com/view2/zlr2BXzCx8DMldHH" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/ae4/Vobojw.jpg" /></a>

 

<a href="http://www.mx7.com/view2/zlr2BXzCx2mF7Sy6" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/15b/xUs0cC.jpg" /></a>

 

ลองมาดูประวัติพ่อท่านแสงกันสังหน่อยนะคะ
ประวัติพ่อท่านแสง วัดศิลาลอย
ในหนังสือสุทธิระบุว่าท่านเกิดวันที่ ๑๑ เดือนพฤศจิกายน ปีวอก ตรงกับพ.ศ.๒๔๖๓ โยมพ่อชื่อนวน โยมแม่ชื่อ ยก นามสกุล เอมโอ พ่อท่านแสงอุปสมบทเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๕ ขณะอายุ ๒๒ ปี ได้รับฉายาว่า อาภาสโร ณ โบสถ์วัดศิลาลอย โดยมีพระอุปัชฌาย์แก้ว พุทธมุนี วัดดีหลวงมาเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์เมฆ วัดเชิงแส เป็นพระกรรมวาจาจารย์และพระอาจารย์ดำ ติสฺสโร วัดศิลาลอย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ (ต่อมาในภายหลังได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ดำ) เมื่อบวชแล้วได้อยู่ปรนนิบัติรับใช้ร่ำเรียนวิชากับพระอุปัชฌาย์ดำมาตลอด ตราบจนกระทั่งท่านมรณภาพในปีพ.ศ. ๒๔๙๙ รวมระยะเวลาที่ร่ำเรียนกับพระอุปัชฌาย์ดำถึง ๑๔ ปี (พระอุปัชฌาย์ดำ ติสฺสโร นี้เป็นพระเถราจารย์ผู้ทรงเวทย์วิทยาคมเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านย่านนั้นกิตติคุณของท่านเป็นที่เลื่องลือไปทั่วแถบถิ่นลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา อีกทั้งยังเป็นพระเกจิหนึ่งใน ๔ รูปที่พระอาจารย์ทิมอาราธนาให้นั่งปรกพระว่านรุ่นแรกหลวงปู่ทวดของวัดช้างให้ ปี พ.ศ. ๒๔๙๗) ระหว่างที่อยู่ร่ำเรียนกับพระอุปัชฌาย์ดำนั้น พ่อท่านแสงยังได้ไปเรียนกับพระครูสุเมธสิทธิคุณ(นามสกุลเดิม พรหมมินทร์)ซึ่งเป็นพี่ชายของโยมแม่ ที่วัดศาลาแก้ว ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน

 

<a href="http://www.mx7.com/view2/zlGBjcQPUUoDrhdi" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/e04/z5lpgg.jpg" /></a>

 

พระครูสุเมธรูปนี้มีวิชาอาคมแก่กล้าไม่น้อยกว่าพระอุปัชฌาย์ดำแต่ประการใด เพราะสามารถใช้คาถาผูกปากจระเข้ไม่ให้อ้ากัดคนได้ เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่าในสมัยก่อนคลองข้างวัดศาลาแก้ว มีจระเข้อาศัยอยู่ ไม่มีใครกล้าลงเล่นน้ำ แต่พระครูสุเมธฯท่านอนุญาตให้เด็กวัดศาลาแก้วลงเล่นน้ำได้ โดยต้องมาบอกท่านก่อน จากนั้นท่านก็จะว่าคาถาสะกดผูกปากจระเข้ไว้ ทำให้จระเข้ไม่สามารถอ้าปากกัดเด็กได้ หากเด็กๆเล่นน้ำกันเพลินไปหน่อย ท่านก็จะเดินไปตามเด็กให้ขึ้นมา ท่านบอกว่าหากผูกไว้นานเกินไปเดี๋ยวจระเข้มันจะอึดอัด หายใจไม่ออกตาย พอเด็กขึ้นมาจากน้ำกันหมดแล้วท่านจึงคลายสะกดปล่อยให้จระเข้โผล่ออกมาให้เห็นได้ เรื่องราวปาฏิหาริย์ของท่านชาวบ้านย่านนั้นทราบดี นอกจากพระเกจิอาจารย์ทั้ง๒แล้ว พ่อท่านแสงยังได้เรียนกับพระอาจารย์วุ่น สุวณฺโณ วัดประดู่ และพ่อท่านเมฆ วัดเชิงแส ซึ่งก็เก่งทางคาถาอาคมรอบด้านมีความขลังไม่แพ้กันเลยทีเดียว พ่อท่านเมฆหรือพระครูเมฆประสิทธิ์ นั้นท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดเชิงแสใต้ ในขณะที่ท่านมีชีวิตอยู่ได้รับการเคารพนับถือจากชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงมากเพราะท่านเป็นพระมีวาจาสิทธิ์ ครั้งหนึ่งที่ทางการจับโจรผู้ร้ายได้และตัดสินให้มีการประหารที่ลานวัดเชิงแสใต้ ซึ่งปัจจุบันเป็นสนามฟุตบอลของโรงเรียนชุมชนวัดเชิงแส แต่ปรากฏว่าฟันอย่างไรโจรก็ไม่ตายเพราะหนังเหนียว ทางการจึงไปนิมนต์พระครูเมฆมาแผ่เมตตาและบอกกับโจรคนดังกล่าวว่า”ให้ไปเกิดใหม่” สิ้นคำเมื่อเพ็ชรฆาตใช้ดาบฟัน ปรากฏว่าครั้งนี้โจรคอขาดกระเด็น นอกจากพ่อท่านเมฆจะเป็นพระที่มีวาจาสิทธิ์แล้วท่านยังมีความศักดิ์สิทธิ์อื่นๆรอบด้านด้วย หากนายหนังตลุงหรือมโนราห์คณะใดผ่านวัดเชิงแสใต้ แล้วไม่แวะกราบนมัสการท่าน ก็มักจะปวดท้อง และร้องไม่ออก เป็นแบบนี้เหมือนกันทุกคณะ แต่หลังจากกราบขอขมาหรือระลึกถึงท่านอาการดังกล่าวจะหายไปเป็นปลิดทิ้งในทันที หลังจากที่พ่อท่านเมฆได้มรณภาพแล้ว ชาวบ้านได้ทำการเผาศพท่านที่โรงเรียนชุนชนวัดเชิงแส เมื่อเผาเสร็จแล้วกลับเกิดสิ่งมหัศจรรย์ที่ยังปรากฏให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้คือ มีต้นโพธิ์เกิดขึ้นในบริเวณกองฟอน กองขี้เถ้าของท่านอย่างน่าอัศจรรย์ และเมื่อไม่นานมานี้ก็มีข่าวว่า ชาวบ้านซึ่งอยู่บ้านน้ำกระจาย จังหวัดสงขลา ถูกคู่อริใช้ปืนยิงแต่ไม่เป็นอะไร เพราะแขวนเหรียญพระครูเมฆปี ๑๗

 

ดังนั้นหากเราดูประวัติความเป็นมาของพระอาจารย์แต่ละรูปของพ่อท่านแสงแล้ว คงจะคาดเดาได้ว่าพ่อท่านฯนั้นคงไม่ใช่พระสูงวัยผู้เป็นเจ้าอาวาสธรรมดาๆที่เคยไปเป็นผู้จัดทำพระผงหลวงปู่ทวดรุ่นแรกให้วัดพะโคะในปีพ.ศ.๒๕๐๕ อย่างที่หลายคนเคยคิดแน่ เหตุที่หลายๆคนคิดเช่นนั้นก็เพราะพ่อท่านแสง ท่านเป็นพระที่เก็บตัว ไม่แสดงวิชาอะไร แต่สิ่งที่ท่านซ่อนไว้นั้น ผมก็แอบล่วงรู้เข้าจนได้ เมื่อได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์ของท่านในขณะที่ทุกคนมองข้ามท่านไป สรรพวิชาต่างๆได้พรั่งพรูออกมาแบบว่าเรียนเกือบแทบไม่ทัน สืบความไปๆมาๆทำให้ทราบว่าวิชาของพระเกจิอาจารย์ในย่านนั้นได้รับการถ่ายทอดมาจากสมเด็จเจ้าพระโค๊ะหรือหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดเมื่อกว่า๔๐๐ปีที่แล้วเป็นส่วนใหญ่ ถ้ามองกันให้ลึกลงไปอีกก็เป็นวิชาแบบเดียวกับภาคกลางที่สืบมาจากกรุงศรีอยุธยา เมื่อครั้งที่หลวงปู่ทวดขึ้นไปเรียนธรรมโดยพำนักอยู่ที่วัดแคราชานุวาส อย่างเช่น วิชาลงยันต์โสฬสโพธิสัตว์ที่ท่านอุปัชฌาย์ดำของท่านถ่ายทอดไว้นั้น ด้านหน้าก็แทบไม่แตกต่างกัน มีเพียงคาถาที่ลงทับหลังเท่านั้นที่อุปัชฌาย์ดำท่านลงคาถาโพธิสัตว์แทนไตรสรณคมณ์

 

<a href="http://www.mx7.com/view2/zlr2BXzCx2mF7Sy6" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/15b/xUs0cC.jpg" /></a>


หลวงปู่ทวดเนื้อว่านย้อนยุควัดพะโคะ องค์ธรรมดา แบ่งบูชาให้องค์ละ 199 บาท

 

<a href="http://www.mx7.com/view2/zlr2BXzCx8DMldHH" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/ae4/Vobojw.jpg" /></a>

หลวงปู่ทวดเนื้อว่านย้อนยุควัดพะโคะ องค์พิเศษ แบ่งบูชาให้องค์ละ 2499 บาท

 

#หลวงพ่อโป๋_วัดวังแดงเหนือ_บรมครูของพระเกจิดังหลายรูป
หลวงพ่อโป๋ วัดวังแดงเหนือ พระเกจิร่วมสมัยกับ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ หลวงพ่อชม วัดพุทไธสวรรค์ พระญาณไตรโลกฉาย วัดพนัญเชิง ท่านเป็นบรมครูผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้พระเกจิอาจารย์ที่โด่งดังในยุคที่ผ่านมาหลายท่านคือ หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน จ.สระบุรี หลวงพ่อตั๋ง วัดโพธิ์เอน แต่คนเล่นพระในปัจจุบันหลายคนไม่ค่อยรู้จักหลวงพ่อโป๋ เพราะท่านทำวัตถุมงคลออกมาไม่มาก มีเพียงฤๅษีอุ้มบาตร หรือ บางคนเรียกว่าพระอุปคุตยืนอุ้มบาตร ซึ่งปัจจุบันหาได้ยากมาก ส่วนเหรียญรุ่นแรกของท่านที่มีประสบการณ์มากมายนั้นสร้างขึ้นเมื่อท่านมรณภาพแล้วโดยหลวงพ่อแจ่ม(ลูกศิษย์)เป็นผู้สร้างและปลุกเสก ดังนั้น...หลวงพ่อแจ่ม.....นี่ท่านต้องไม่ธรรมดาแน่....

<a href="http://www.mx7.com/view2/zo8jjNx5h5NFREBz" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/e2a/Dxo9Yd.jpg" /></a>

 

#หลวงพ่อแจ่ม_วัดวังแดงเหนือ_ผู้สร้างพระขรรค์ศักดิ์สิทธิ์
สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ในจ.พระนครศรีอยุธยา มีพระเกจิอาจารย์เรืองวิทยาคุณหลายต่อหลายองค์โด่งดังขึ้น เพราะสร้างวัตถุมงคลออกมาแล้วมีประสบการณ์ความศักดิ์สิทธิ์มาก ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ ผู้เป็นศิษย์ของหลวงพ่อโป๋และหลวงพ่อสา มากไปกว่านั้นท่านยังไปขอเรียนวิชาการสร้างพระขรรค์อันทรงฤทธิ์กับอาจารย์พิ่มอีกด้วย เล่ากันว่าวิชาการสร้างมีดหมอ (พระขรรค์) อันซับซ้อนและศักดิ์สิทธิ์นี้หลวงพ่อนอก็มาเรียนเหมือนกัน แต่ไม่สำเร็จ จึงต้องหันไปเรียนวิชาอื่นแทน
ต่อมามีดหมอของหลวงพ่อแจ่มโด่งดังมากเพราะอานุภาพเป็นที่ประจักษ์ ถึงขนาดชาวอยุธยาพูดกันว่า "ตะกรุดต้องหลวงพ่อนอ มีดหมอต้องหลวงพ่อแจ่ม" แต่ใช่ว่าวัตถุมงคลของหลวงพ่อแจ่มจะมีประสบการณ์ขลังเพียงแค่มีดหมอ เหรียญและพระขุนแผนของท่านก็เกิดประสบการณ์จนเป็นที่นิยมเหมือนกัน

<a href="http://www.mx7.com/view2/zo8poCW2HA0aWfvL" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/971/2wjR6P.jpg" /></a>


<a href="http://www.mx7.com/view2/zo8jfxMTS7JRcKmS" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/c86/RTonHk.jpg" /></a>

 

<a href="http://www.mx7.com/view2/zo8sBv0DMwKyxUlf" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/114/omIiBp.jpg" /></a>

 

#พระสมเด็จบรรจุอัฐิหลวงพ่อแจ่ม
ด้วยความเข้มขลังในพุทธาคมและความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อแจ่ม ทำให้หลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง หลวงพ่อตั๋ง วัดโพธฺ์เอน รวมไปถึงหลวงพ่อฉาบ วัดคลองจัน ก็ยังมาเรียนวิชาจากท่าน แต่พระเกจิอาจารย์เหล่านี้ต่างก็มรณภาพไปหมดแล้ว เหลือเพียงศิษย์ก้นกุฏิที่ลงพระขรรค์ (มีดหมอ) แทนหลวงพ่อแจ่มในยามชราเพียงรูปเดียวเท่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่ และศิษย์ของท่านผู้นี้ได้สร้างพระสมเด็จรุ่นแรกขึ้นมาใน พ.ศ.2536 โดยนำอัฐิของหลวงพ่อแจ่มมาผสมลงไปในเนื้อพระจนหมด ปรากฏว่าเกิดประสบการณ์มากมายจริงๆ จะเรียกว่ามากกว่าพระดังๆราคาแพงๆเกือบทุกสำนักก็ว่าได้

 

#ประวัติหลวงพ่อชิน_วัดวังน้ำเขียว
ในยามที่หลวงพ่อแจ่มชราภาพนั้นท่านได้ถ่ายทอดวิชาทั้งหมดให้กับลูกศิษย์รูปหนึ่งซึ่งท่านสอนกรรมฐานให้มานานแล้วชื่อว่า พระชิน โดยท่านให้พระชินยกครูและสอนจนสำเร็จทุกวิชา จึงทำการครอบครูให้พระชินเป็นผู้ทำมีดหมอ พระขรรค์ แทนท่าน จากนั้นหลวงพ่อแจ่มก็ทำการปลุกเสกกำกับอีกรอบหนึ่งก่อนมอบให้ญาติโยมตลอดมา ตราบจนกระทั่งท่านมรณภาพลง
เมื่อทำการปลงศพหลวงพ่อแจ่มแล้ว พระชินก็ได้อยู่กับเจ้าอาวาสวัดวังแดงรูปต่อมาระยะหนึ่ง จากนั้นหลวงพ่อลมูล วัดเสด็จก็มานิมนต์หลวงพ่อชินไปทำมีดให้ท่านอยู่หลายปี กระทั่งโยมอุปัฏฐากของหลวงพ่อชินได้ไปขอตัวท่านมาสร้างวัดวังน้ำเขียว ซึ่งอยู่กลางป่าลึกในเขตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์(ห่างจากยอดเขาที่เป็นเขตชายแดนประเทศไทย-พม่าประมาณ 6 กิโลเมตร) เรื่องราวของพระหนุ่มผู้สืบทอดวิชาแท้ๆของหลวงพ่อแจ่มจึงเงียบหายไปตามกาลเวลา
กระทั่งผู้เขียนได้ไปพบท่านเข้า ทำให้ต่างฝ่ายต่างดีใจมาก เมื่อท่านทราบว่าผู้เขียนเคยได้รับความรู้วิชาการทำมีดของหลวงพ่อแจ่มมาจากหลวงพ่อฉาบ วัดคลองจันทร์ และเรียนรู้วิชาอื่นๆของหลวงพ่อแจ่ม มาจากหลวงพ่อตั๋ง วัดโพธิ์เอน หลวงพ่อชินจึงได้ทบทวนวิชาและแจกแจงกลเม็ดเคล็ดลับให้ จากนั้นท่านก็ทำการประสิทธิให้อีก