วัตถุมงคลสายอธุยา สุพรรณบุรี..หลวงพ่อปาน หลวงพ่อสละ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ อื่นๆ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย benay, 1 กันยายน 2008.

  1. Somja

    Somja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +456
    ...ถ้าส่งของทาง EMS เมื่อไร ช่วยแจ้งหมายเลข EMS ให้ทราบด้วย...ครับ
     
  2. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,283
    ค่าพลัง:
    +15,622
    [​IMG]

    เหรียญหลวงพ่อโด่ วัดนามะตุมยุคแรกๆ

    นิยมนะครับ

    หายาก นานๆเจอที

    1,850 บาท พร้อมส่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_8414.JPG
      IMG_8414.JPG
      ขนาดไฟล์:
      174 KB
      เปิดดู:
      80
    • IMG_8415.JPG
      IMG_8415.JPG
      ขนาดไฟล์:
      136.2 KB
      เปิดดู:
      100
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 สิงหาคม 2014
  3. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,283
    ค่าพลัง:
    +15,622
    เหรียญนี้นับได้ว่าเป็นเหรียญยอดนิยมอันดับต้น ของจังหวัดอุตรดิตถ์และในพื้นที่ใกล้เคียงแถบภาดเหนือตอนล่างเลยทีเดียว ด้วยเจตนาเพื่อ รำลึกถึงเกียรติคุณและวีรกรรมที่กล้าหาญของพระยาพิชัยดาบหัก บรรดาข้าราชการและพ่อค้าตลอดจนประชาชนชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ จึงได้พร้อมใจกัน สร้างอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหักขึ้น เป็นอนุสรณ์ โดยมีกรมศิลปากรเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในการออกแบบและหล่อปั้นอนุสาวรีย์ จนเสร็จสมบูรณ์ จึงนำมาประดิษฐานไว้ที่หน้าศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ และได้ทำพิธีเปิดอนุสาวรีย์ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2512

    หลังจากนั้นทางจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัด นายเวทย์ นิจถาวร ได้ดำริให้มีการจัดสร้าง “เหรียญที่ระลึกพระยาพิชัยดาบหัก”ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการให้การเทิดทูนเกียรติประวัติและวีรกรรม ของพระยาพิชัยดาบหักให้เผยแผ่ไปกว้างาขวาง และแพร่หลายยิ่งขึ้น และ เพื่อเปิดโอกาสให้ข้าราชการและพ่อค้าประชาชนทั่วไปได้มีเหรียญพระยาพิชัยดาบหักไว้ เป็นเครื่องยึดเหนี่ยว สักการะบูชา และยึดถือเป็นแบบอย่างที่ดีสืบต่อไป

    เหรียญพระยาพิชัยดาบหัก เป็นเหรียญรูปไข่ ออกแบบและจัดทำโดยกองกษาปณ์ กรมธนารักษ์ ด้านหน้าเป็นรูปพระยาพิชัยดาบหัก จำลองจากอนุสาวรีย์ ส่วนด้านหลัง ลงยันต์และอักขระคาถาของ หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม และหลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย เรียกว่า “ไตรสรณะ”

    พิธี ปลุกเสกกระทำอย่างถูกต้องและสมบูรณ์แบบ จัดขึ้นในวันที่ 31 มกราคม พ.ศ.2513 ณ บริเวณที่ตั้งอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก หน้าศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยประธานดำเนินงานในขณะนั้น ได้แก่ พลโทสำราญ แพทยกุล แม่ทัพกองทัพภาคที่ 3 ได้กราบทูลสมเด็จพระสังฆราช(จวน) วัดมกุฏกษัตริยาราม เป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย และนิมนต์พระเกจิอาจารย์ผู้ทรงเวทวิทยาคุณที่มีชื่อเสียงและเป็นที่เคารพ นับถือของประชาชนจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศไทย ร่วมพิธีปลุกเสกเพื่อให้เกิดความขลัง ศักดิ์สิทธิ์ และสิริมงคลแก่ผู้บูชา

    เหรียญพระยาพิชัยดาบหักที่จัดสร้างในครั้งนั้น แบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ “เนื้อทองคำ เนื้อเงิน และเนื้อทองแดง” เฉพาะเหรียญทองคำ ด้วยทองคำบริสุทธิ์ 80 % มี น้ำหนักประมาณ 17 กรัม (กว่าหนึ่งบาท) จัดทำเพียง 189 เหรียญ เท่าจำนวนปีที่พระยาพิชัยดาบหักสิ้นชีวิตมาจนถึงปีที่จัดสร้าง ส่วนเหรียญเงิน จัดสร้าง 999 เหรียญ

    เหรียญที่ชมกันอยู่นี้ เป็นเหรียญทองแดง บล็อกนิยมที่เรียกกันว่า "บ. ขาด " เนื่องจากมีจุดสังเกตเป็นเอกลักษณ์ คือ ตัว บ. ของคำว่า "ดาบ" ขาด ไม่ต่อเนื่องเป็นเส้นเดียวกัน แม้ปัจจุบันค่านิยมยังไม่สูงมากนัก แต่หาชมเหรียญแท้ สภาพสวยสมบูรณ์ ผิวเดิม ได้ยากไม่แพ้เหรียญยอดนิยมเหรียญอื่นเลยทีเดียว


    สวยๆครับ

    ประกันแท้ตลอดชีพตามเคย

    ราคา 4,000 บาท พร้อมส่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_8416.JPG
      IMG_8416.JPG
      ขนาดไฟล์:
      129.1 KB
      เปิดดู:
      130
    • IMG_8417.JPG
      IMG_8417.JPG
      ขนาดไฟล์:
      123.7 KB
      เปิดดู:
      114
  4. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,283
    ค่าพลัง:
    +15,622
    คนที่ทันสมัยหลวงพ่อโต ได้เล่าว่า ในสมัยหลวงพ่อโต เมื่อท่านมีชื่อเสียงเรื่องรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ ผู้คนก็พากันมาให้ท่านรักษาโรคกันอย่างต่อเนื่อง หลวงพ่อต้องเกณฑ์ลูกศิษย์และชาวบ้านข้างวัด มาช่วยบดยาที่วัด โดยใช้เครื่องบดยาแบบโบราณใช้แรงคนบด พอบดยาเป็นผงเสร็จท่านก็ปรุงยาตามสูตรต่างๆ ส่วนใหญ่ท่านจะทำเป็นยาดองๆ ใส่ตุ่มกันเลยทีเดียว ชาวบ้านที่เจ็บไข้ได้ป่วยทั้งอำเภอแกลงสมัยนั้น จะพากันมาหาท่าน ท่านก็จะให้ไปตักยาดองในตุ่ม ใส่ขวดกลับไปทานที่บ้านเป็นสูตรยาครอบจักรวาลยอดเยี่ยมดีแล
    การรักษาผู้ป่วยของหลวงพ่อโตเล่ากันว่า แม้กระทั้งคนบ้าวิกลจริตก็จะมีญาติพี่น้องพามาให้หลวงพ่อรักษา บางรายมาถึงวัดใหม่ๆ ต้องล่ามขากันเลย หลวงพ่อโตรักษาให้ไม่นาน อาการบ้าคุ้มคลั่งก็หายเป็นปลิดทิ้งเป็นที่เสื่อมใส ศรัทธาจากชาวบ้านเป็นอย่างยิ่ง
    ในเรื่องของวิชาอาคมต่างๆ หลวงพ่อโต เป็นเถรานุเถระที่มีชื่อเสียงมาก เป็นที่เคารพ เลื่อมใสจากประชาชนทั่วทุกสารทิศ ทางวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลังของท่านมีชื่อเสียงยิ่งนัก ท่านมักจะได้รับการนิมนต์จากวัดต่างๆให้ไปร่วมพิธีพุทธาภิเษกนั่งปรกอธิฐานจิตมิได้ขาด งานสำคัญเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2507 สมเด็จพระวันรัต (ปุ่น) วัดพระเชตุพนฯ กรุงเทพฯ ได้นิมนต์ไปร่วมงานพุทธาภิเษกพระกริ่งสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระปรมานุชิตชิโนรสร่วมกับพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงอีก 16 รูป
    กาลสุดท้ายแห่งอายุขัย จวบจนเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2508 ขณะที่ท่านไปทำธุระที่จังหวัดจันทบุรีเกิดอาพาธจึงกลับมารักษาตัวที่พักสงฆ์เขาบ่อทอง แต่อาการก็ไม่ดีขึ้นบรรดาลูกศิษย์ต่างก็พาหลวงพ่อไปรักษาที่โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงค์ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี จนกระทั้งวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2508 หลวงพ่อโตได้ถึงแก่มรณภาพอย่างสงบที่โรงพยาบาล เมื่อเวลา 18:45น รวมสิริอายุ 90ปี 7 เดือน 22 วัน สร้างความเศร้าโศกเสียใจแก่ชาวอำเภอแกลงและใกล้เคียงเป็นอันมาก

    อีกหนึ่งบรมครูแห่งภาคตะวันออกครับ

    บารมีท่านศักสิทธิ์มาก เจ้าของยันต์เฑาะอันเลื่องลือแถบภาคตะวันออก

    เหรียญรุ่นสอง แท้ๆหาชมยาก รุ่นแรกไปไกลแล้วครับ

    ตามสภาพ ราคา 4,500 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_8403.JPG
      IMG_8403.JPG
      ขนาดไฟล์:
      152.5 KB
      เปิดดู:
      127
    • IMG_8404.JPG
      IMG_8404.JPG
      ขนาดไฟล์:
      136.2 KB
      เปิดดู:
      78
  5. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,283
    ค่าพลัง:
    +15,622
    ศิษย์สายตรงแห่ง หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า

    หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน

    สุดยอดพระเกจิแห่งอำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี องค์นี้เป็นเหรียญเสมารุ่น 3 จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2510 สภาพสวย พบเห็นน้อย นาน ๆ จะพบสักเหรียญ พระรุ่นนี้เล่นหากันเป็นสากล เป็นเหรียญรุ่น 3 ของหลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน ปรากฏตาม นิตยสารพระเครื่อง และ มีในรายการประกวดพระเครื่องงานใหญ่ รับประกันความแท้ให้ตลอดชีพ

    สวยๆ

    ราคา 2,200 บาทพร้อมส่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_8401.JPG
      IMG_8401.JPG
      ขนาดไฟล์:
      163.4 KB
      เปิดดู:
      107
    • IMG_8402.JPG
      IMG_8402.JPG
      ขนาดไฟล์:
      142.4 KB
      เปิดดู:
      91
  6. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,283
    ค่าพลัง:
    +15,622
    รายการพระเยอะมากลงในกระทู้ไม่หมด ดูเอาเองตามลิ้งค์ครับ.......

    ดูที่เวปตลาดพระครับ ร้านเบ็น วิเศษฯ.....



    http://www.taradpra.com/Store.aspx?storeNo=8381



    พระเครื่องนิยมทั่วไปเชิญที่ร้านท่าพระจันทร์....




    http://www.thaprachan.com/เบ็น%20วิเศษฯ



    เปลี่ยนมาใช้ไอดีโค้ดนี้นะครับ


    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG]


    </FIELDSET>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 245.jpg
      245.jpg
      ขนาดไฟล์:
      83.2 KB
      เปิดดู:
      56
    • 451.jpg
      451.jpg
      ขนาดไฟล์:
      107.7 KB
      เปิดดู:
      68
    • 496.jpg
      496.jpg
      ขนาดไฟล์:
      71.3 KB
      เปิดดู:
      52
    • 915.jpg
      915.jpg
      ขนาดไฟล์:
      80.7 KB
      เปิดดู:
      55
    • IMG_8215.JPG
      IMG_8215.JPG
      ขนาดไฟล์:
      92 KB
      เปิดดู:
      67
    • ฮฮิื.jpg
      ฮฮิื.jpg
      ขนาดไฟล์:
      80.1 KB
      เปิดดู:
      70
    • ฮึคจขช.jpg
      ฮึคจขช.jpg
      ขนาดไฟล์:
      117.8 KB
      เปิดดู:
      87
    • ละโด.jpg
      ละโด.jpg
      ขนาดไฟล์:
      127.9 KB
      เปิดดู:
      91
    • หลวงพ่อบุญยย.jpg
      หลวงพ่อบุญยย.jpg
      ขนาดไฟล์:
      39 KB
      เปิดดู:
      107
    • 349.jpg
      349.jpg
      ขนาดไฟล์:
      93 KB
      เปิดดู:
      51
    • 488.jpg
      488.jpg
      ขนาดไฟล์:
      89.8 KB
      เปิดดู:
      42
    • 520.jpg
      520.jpg
      ขนาดไฟล์:
      69.6 KB
      เปิดดู:
      53
    • 814.jpg
      814.jpg
      ขนาดไฟล์:
      105.5 KB
      เปิดดู:
      78
    • ฮนยยบ.jpg
      ฮนยยบ.jpg
      ขนาดไฟล์:
      94.6 KB
      เปิดดู:
      67
    • ฮมใฝง.jpg
      ฮมใฝง.jpg
      ขนาดไฟล์:
      82.7 KB
      เปิดดู:
      54
    • ฮทรตจ.jpg
      ฮทรตจ.jpg
      ขนาดไฟล์:
      67.3 KB
      เปิดดู:
      53
    • พ่อพัด.jpg
      พ่อพัด.jpg
      ขนาดไฟล์:
      132.3 KB
      เปิดดู:
      66
    • พ่อคำา.jpg
      พ่อคำา.jpg
      ขนาดไฟล์:
      84.4 KB
      เปิดดู:
      173
    • IMG_8226.JPG
      IMG_8226.JPG
      ขนาดไฟล์:
      105.7 KB
      เปิดดู:
      43
    • IMG_7686.JPG
      IMG_7686.JPG
      ขนาดไฟล์:
      111.2 KB
      เปิดดู:
      131
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2014
  7. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,283
    ค่าพลัง:
    +15,622
    [​IMG]

    พระพิมพ์ หลวงพ่อปาน ผงอุดเดิม

    วัดบางนมโค พิมพ์นกสมาธิ นิยม


    พิมพ์นี้พุทธคุณที่เล่าสืบต่อกันมา เหมาะกับ การทำมาหากิน เจริญรุ่งเรือง


    สำหรับพระหลวงพ่อปานเรื่องอิทธิคุณผมคงไม่ต้องโม้อะไรอีกแล้วครับเพราะเป็นพระตลาดและคล่องตัวมาก สมัยก่อนเขาว่ามีพระหลวงพ่อปานเท่ากับมีหมออยู่ประจำบ้านเชียวครับ


    รับประกันแท้ ตลอดชีพ (ตามมาตรฐานสากลนิยม)


    ผงเดิมน่าเก็บไว้บูชาครับ


    พระเครื่องของท่านผงเกราะเพชรสำคัญมากๆเลยน่ะครับ


    คัดแบบดูง่ายสบายตาครับองค์จริง ยันต์เด้งๆ ราคา 27,500 บาท พร้อมส่ง

    เก็บพระหลวงพ่อปานก็เหมือนเก็บเงินสดน่ะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_8507.JPG
      IMG_8507.JPG
      ขนาดไฟล์:
      74 KB
      เปิดดู:
      157
    • IMG_8508.JPG
      IMG_8508.JPG
      ขนาดไฟล์:
      109.7 KB
      เปิดดู:
      129
  8. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,283
    ค่าพลัง:
    +15,622
    [​IMG]

    พระพิมพ์ หลวงพ่อปาน ผงอุดเดิม

    วัดบางนมโค พิมพ์ครุฑกลาง อุล่าง


    พิมพ์นี้พุทธคุณที่เล่าสืบต่อกันมา เหมาะกับ ข้าราชการ ส่งเสริมความเจริญรุ่งเรือง


    สำหรับพระหลวงพ่อปานเรื่องอิทธิคุณผมคงไม่ต้องโม้อะไรอีกแล้วครับเพราะเป็นพระตลาดและคล่องตัวมาก สมัยก่อนเขาว่ามีพระหลวงพ่อปานเท่ากับมีหมออยู่ประจำบ้านเชียวครับ


    รับประกันแท้ ตลอดชีพ (ตามมาตรฐานสากลนิยม)


    ผงเดิมน่าเก็บไว้บูชาครับ


    พระเครื่องของท่านผงเกราะเพชรสำคัญมากๆครับ


    คัดแบบดูง่ายสบายตาแบบเบสิคครับ

    ถ้าผิวไม่ร่อนดินสีนี้ต้องห้าหมื่นครับ องนี้ตามสภาพ ราคา 32,000 บาท พร้อมส่ง

    เก็บพระหลวงพ่อปานก็เหมือนเก็บเงินสดน่ะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      85.5 KB
      เปิดดู:
      149
    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      568.8 KB
      เปิดดู:
      112
  9. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,283
    ค่าพลัง:
    +15,622
    <TABLE border=0 cellSpacing=3 summary="" cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD>




    </TD><TD></TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD></TD><TD>



    </TD><TD></TD></TR><TR><TD></TD><TD>



    </TD><TD></TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD></TD><TD>



    </TD><TD></TD></TR><TR><TD></TD><TD>



    </TD><TD></TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD></TD><TD>



    </TD><TD></TD></TR><TR><TD></TD><TD>

    [​IMG]


    </TD><TD></TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD></TD><TD>


    </TD><TD></TD></TR><TR><TD></TD><TD>หลวงปู่ พิมพ์มาลัย วัดหุบมะกล่ำ ต้นตำรับแห่ง เข็มทองคนองฤทธิ์


    ปฐมบท อานุภาพแห่งเข็มทองคนองฤทธิ์

    สิ่งที่จะนำเสนอต่อท่านผู้อ่านต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวของไสยเวท ที่เป็นภูมิปัญญาสยามที่อาจหาญกล่าวได้เต็มอย่างปากว่า เป็นของจริง และพิสูจน์ที่ไหน เมื่อใหร่ก็ได้ ไม่ใช่ลมปากที่พ่นออกไป และหาสาระพิสูจน์ไม่ได้ จนลูกหลานชาวสยามบางหมู่ที่หลงไหลภูมิปัญญา ขยะของชาติตะวันตกที่ไม่ใช่เครือญาติ ของพวกเขากล่าวหยามหยันสิ่งที่พวกเขาไม่เคยสัมผัส หรือจะคิดจะเข้ามาพิสูจน์จน เป็นการปรามาท บรรพชนเทือกเถาเหล่ากอของเขาเอง วิชาไสยเวทที่กล่าวถึงนั้น คือวิชาเข็มทองคนองฤทธิ์ ภูมิปัญญาตันตระแห่งสยามในอดีต ที่ผ่านพ้นกาลเวลามาพิสูจน์สัจจะแห่งศาสตร์ในปัจจุบัน

    วิชาเข็มทองที่กล่าวถึงอย่าเพิ่งคิดว่า เป็นการฝังเข็มเพื่อรักษาโรคอย่างชาวจีนโพ้นทะเล เขาทำกัน แต่เป็นวิชาไสยศาสตร์สาขาหนึ่ง ที่มีอานุภาพอเนกประการ ซึ่งก่อนจะสาธยาย ถึงรายละเอียดจะขอนำท่านผู้อ่านไปรู้จัก ประวัติพระเกจิอาจารย์รูปหนึ่ง แม้ว่าท่านจะ ละสังขารแล้วแต่เรื่องราวของท่าน เป็นตำนานสะท้านวงการไสยเวท สยามมาจนถึงปัจจุบัน พระเถระผู้ทรงอิทธิจิตรูปนั้นมีนามว่า หลวงปู่พิมพ์มาลัย แห่งวัดหุบมะกล่ำ ปรามาจารย์ วิชาเข็มทองคนองฤทธิ์ แห่งสยามยุค รัตนโกสินทร์

    .






    [​IMG]

    .

    วัดหุบมะกล่ำตั้งอยู่บ้านหนองรี ตำบลบ้านเลือก อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ถ้าเราเดินทางจากกรุงเทพฯไปทางถนนเพชรเกษมก็อยู่ราวประมาณ 70 กว่ากิโลเมตร วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่จะมีมาแต่ครั้งสมัยอยุธยาหรือไม่นั้นยังไม่พบหลักฐาน บรรดาโบราณวัตถุที่ พบก็บอกหลักฐานเพียงว่าสมัยรัตนโกสินทร์แต่วัดนี้นับว่าน่าจะก่อตั้งมานานกว่า เพราะพบตำราสรรพวิชาสาขาต่างๆมากมาย ทั้งที่เป็นภาษาขอมและมอญก็มีให้เห็นและที่มีอายุนานนับร้อยปีก็หลายเล่ม

    หลวงปู่พิมพ์ (มาลัย) พื้นเพท่านเป็นคนหนองรีโดยกำเนิด โยมบิดาชื่อว่า พา โยมมารดาชื่อ อ่วม เป็นชาวจังหวัดเพชรบุรีท่านเกิดในสกุล มาลัย ประมาณ พ.ศ.2441 ที่บ้านหนองรีนี่เอง ท่านเป็นบุตรคนที่ 4 ในจำนวน 5 คน ชิวิตในวัยเยาว์ท่านดำเนินอย่างเรียบง่ายเหมือนชาวชนบททั่วๆ เมื่ออายุครบเกณฑ์ท่านได้เข้าเป็นทหารรับใช้ชาติในหน่วยเสนารักษ์ในจังหวัดราชบุรีและอยู่ต่อเรื่อยมา จนประมาณ๖ปี ก็เกิดเบื่อหน่ายในฆารวาสวิสัย ชะรอยจะเป็นบารมีที่ท่าน สร้างสมมาในอดีตจึงมีวาสนากับผ้ากาสาวพัสตร์ นิยมในเพศบรรพชิตจึงลาออกจากทหาร มาอุปสมบทที่วัดตโหนดหลวง จังหวัดเพชรบุรี โดยมี พระอาจารย์แช่ม วัดบางนาเป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปูทองศุข อินทโชโต วัดตโหนดหลวง(พระเถระรูปนี้ท่านเป็นผู้ทรงวิทยาคมที่ยิ่งยงมากท่านหนึ่ง) เป็นพระกรรมวาจา เมื่ออุปสมบทแล้ว พระอุปัชฌาย์ให้ฉายาว่า มาลโย เมื่อท่านหลวงปู่พิมพ์ซึ่งขณะนั้นเป็นภิกษุใหม่ก็ได้ร่ำเรียนพระวินัย และปริยัติตามแนวทางแห่ง พระพุทธศาสนาอย่างคร่ำเคร่ง แล้วท่านยังได้รับความเมตตาถ่ายทอด วิชาไสยเวทย์จากหลวงปู่ทองศุข วัดตโหนดหลวง ซึ่งถือว่าเป็นพระคณาจารย์ ที่มีชื่อเสียงและบารมีมากรูปหนึ่ง ในสยามขณะนั้น ถึงขนาดมีการร่ำลือว่าผู้ที่มีบุญบารมีสูงยิ่งของประเทศในขณะนั้น ยังมาฝากตัวเป็นศิษย์ จนเป็นตำนานเล่าขานกันมาถึงปัจจุบัน อาจเป็นเหตุที่หลวงปู่พิมพ์ ท่านมีศักดิ์เป็นหลานสนิทของหลวงปู่ทองศุข วัดตโหนหลวง โดยที่โยมมารดา ของท่านเป็นพี่สาวหลวงปู่ทองศุข จึงทำให้ท่านได้รับความเมตตามากเป็นพิเศษ ท่านหลวงปู่พิมพ์ แม้จะมีศักดิ์เป็นหลานหลวงปู่ทองศุขท่าน ก็ไม่ถือดีกลับตั้งมั่นมุ่งมานะฝึกฝนเล่าเรียนสรรพวิชาที่ หลวงปู่ทองศุข วัดตโหนดหลวง เมตตาสั่งสอนให้โดยไม่ปิดบังอำพราง ด้วยความวิริยะ และบุญบารมี ที่ท่านหลวงปูพิมพ์ สั่งสมมาในอดีต ไม่นานท่านก็สำเร็จวิชาต่างๆทำได้เข้มขลังจนเป็นที่ไว้วางใจ ของหลวงปู่ทองศุข วัดตโหนดหลวง ขนาดให้หลวงปู่พิมพ์ (ซึ่งยังเพิ่งบวชได้ไม่นาน) เป็นอาจารย์สักยันต์ครู หลวงปู่ทองศุข (ตอนท่านก็ยังมีชิวิตอยู่)จนรวบรวมปัจจัยก่อสร้างกุฏิ

    .

    [​IMG]



    วัดตโหนดหลวงได้ถึงสองหลัง (พ.ศ.2481) นับว่าท่านหลวงปู่พิมพ์เป็นผู้หนึ่ง ที่สำเร็จวิทยาคมในตำหรับ หลวงปู่ทองศุข โดยหลวงปู่ทองศุข เอง เป็นผู้ให้ความไว้วางใจ หลังจากที่ท่านได้สำเร็จวิทยาคุณในสายหลวงปู่ทองศุข วัดตโหนดหลวงแล้ว ท่านยังเป็นผู้ใฝ่การศึกษาก็ขวนขวายหา พระอาจารย์องค์อื่นๆเพื่อร่ำเรียนวิทยาคมต่อไป ในสมัยนั้นมีพระเถระรูปหนึ่งในจังหวัดเพชรบุรีที่ยิ่งยง ด้วยวิทยาคมที่แปลกประหลาด หาวิทยาคมสายใดจะเทียบเคียงได้ยาก ด้วยวิทยาคุณ ที่ประสิทธิให้ศิษย์ มีความพิศดาร และเป็นลักษณะเฉพาะและเป็นวิชาสูงสุดทางไสยเวทสยาม แขนงหนึ่ง นั่นคือวิชาฝังเข็มทองคนองฤทธิ์นั่นเอง พระเกจิอาจารย์รูปนี้ ชื่อพระอาจารย์สมพงษ์ วัดหนองไม้เหลือง จังหวัดเพชรบุรี ในสมัยนั้นมี ผู้มาฝากตัวเรียนวิชาเข็มทองนี้ กับพระอาจารย์สมพงษ์กันเป็นจำนวนมาก แต่หาผู้ที่สำเร็จยากมาก เพราะต้องมีมานะบากบั่นทำจริง ฝึกกันจริงๆจึงจะสำเร็จได้ การฝังเข็มเป็นไสยเวท ที่มีมาช้านาน และเป็นความเชื่อของคนในสมัยนั้น การฝังเข็มนี่มีหลายตำรา ว่ากันทั้งเข็มเย็บผ้า เข็มสามกษัตริย์ เข็มสัตตะโลหะ แต่มักเป็นเข็มตาย คือฝังแล้วอยู่กับที่แบบฝังตะกรุด กับหลวงพ่อคูณที่วัดบ้านไร่ เมืองโคราช แต่วิชาที่หลวงปู่พิมพ์ที่ท่านเรียน กับพระอาจารย์สมพงษ์นี้พิสดารกว่าครับ คือหากทำสำเร็จแล้วเข็มทองคำ ที่ประจุอาคมเมื่อฝังผ่านชั้นหนังจะแสดงอิทธิคุณ เหมือนมีชีวิตพลิกตัวระเบิดเนื้อด้วยอำนาจอาคม ไปตามส่วนต่างๆของร่างกาย


    [​IMG]





    ผู้ฝังได้โดยไม่เกิดอันตรายใดๆ เข็มนี้ไปได้ทั่วตัวเว้น ตากับหัวใจ ที่ลงอาคมกรึงไว้ อย่างแน่นหนา และเป็นเคล็ดสำคัญที่วิทยาคมสำนักอื่น มิอาจถอดถอนได้เลย เรื่องเข็มที่วิ่งไปได้ทั่วตัวนี่ไม่ใช่เรื่องที่คุยกันเล่นๆ มีหลักฐานที่เป็นประจักษ์พยานโดยการถ่ายพิมพ์เอกเรย์มาแล้ว และผู้ที่ฝังเข็มหาก ถือองค์ภาวนาได้ จะสามารถเรียกเข็มทอง ให้ระเบิดเนื้อไปที่ส่วนใดๆของร่างกายโดยไม่เป็นอันตรายได้ เป็นความมหัศจรรย์อย่างเอกอุ ของวิทยาคมสายนี้ ส่วนอานุภาพของเข็มทอง เมื่อแสดงอิทธิฤทธิให้ประจักษ์ขนาดนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าวิเศษขนาดไหน เรียกได้ว่าครอบจักรวาลเลยทีเดียว เมื่อท่านหลวงปู่พิมพ์ได้รับ การถ่ายทอดวิชามาจากพระอาจารย์สมพงษ์ แล้วท่านต้องออกธุดงค์ เพื่อหาที่สงัดบำเพ็ญจิตให้เกิดอานุภาพ จึงจะสำเร็จวิชานี้ได้เพราะวิชานี้ หากพลังจิตไม่เข้มแข็ง อย่างเอกอุสุดยอดแล้ว จะไม่สามารถทำให้เข็มที่ฝังแสดงอานุภาพได้เลย

    .

    [​IMG]

    .



    การฝึกฝนผู้เรียนต้องเพียรภาวนา ตามเคล็ดวิชาจนจิต มีกำลังเข้มแข็ง จึงจะทำให้เข็มทอง ที่เสกในน้ำมันงา ลอยขึ้นมาได้จึงจะถือว่าสำเร็จและ เข็มที่ประจุอาคมจนสำเร็จแล้ว จะมี สภาพเป็นทิพย์เดินเหินไปมาเองได้เป็นอัศจรรย์ เล่ามาถึงตรงนี้ขอยืนยันอีกครั้งว่า จริงทุกคำและพิสูจน์ได้ด้วย หลวงปู่พิมพ์ฝึกฝนวิชาเข็มจนเชี่ยวชาญ ด้วยความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว ผลแห่งความพากเพียรของท่าน ขนาดพระอาจารย์สมพงษ์ วัดหนองไม้เหลือง ผู้ประสิทธิวิชาเข็มทองให้ยังยกย่องท่านว่า ทำได้ดีกว่าอาจารย์เสียอีก

    .
    [​IMG]

    .

    หลังจากสำเร็จ วิชาเข็มทอง ท่านหลวงปู่พิมพ์ได้ธุดงค์ เพื่อฝึกฝนจิตให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ในดินแดนกระเหรี่ยงถึง 17 ปี จนพูดภาษากระเหรี่ยงได้ เรียกว่านานพอสมควรทีเดียว ในระหว่างการเดินธุดงค์ ก็คงเหมือนพระรุกขมูลท่านอื่นๆ มีเรื่องพิสดารเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งท่านก็มิได้โอ้อวดเพียงเล่าให้หมู่ศิษย์ที่ใกล้ชิดฟัง เพื่อประดับสติปัญญาเท่านั้น คราวหนึ่งท่านธุดงค์ไปบ้านทัพใต้ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รับอาราธนาจากชาวบ้านท่านได้สร้างวัดขึ้น ในเวลาไม่นานโดยการสนับสนุนของโยม ฉลอง วุฒิวัฒน์ และนายจุรินทร์ ล่ำซำ คหบดีผู้ใจบุญชาวพระนคร และให้ชื่อวัดนั้นว่า วัดมาลัยทับใต้ เพื่อเป็นการรำลึกถึงหลวงปู่พิมพ์จนเท่าทุกวันนี้ ท่านหลวงปู่พิมพ์ธุดงค์เรื่อยมาจนราวพ.ศ.2502 โยมมารดาท่านป่วย ท่านจึงขึ้นจากวัดมาลัย เพื่อดูแล โยมมารดาท่านที่บ้านหนองรี ในช่วงนั้นพอดีวัดหุบมะกล่ำ กำลังทรุดโทรมอย่างหนัก ไม่ว่าโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ เสนาสนะและถาวรวัตถุอื่นๆ เกือบจะหาชิ้นดีแทบไม่ได้ มีหลวงตาแก่ๆชื่อหลวงตาปิ้น ปัญญาพโล(โยมตาพระอาจารย์ป้อมวัดหนองม่วง อดีตผู้ใหญ่บ้าน บ้านหุบมะกล่ำ)องค์เดียวเท่านั้น ยิ่งทำอะไรไม่ได้มากคงปล่อยตามยถากรรม ความที่ท่านเป็นเกลอเก่ากับหลวงตาปิ้น และเพื่ออยู่ดูแลโยมมารดาท่าน ท่านจึงปลงใจบูรณะวัดหุบมะกล่ำแต่นั้นมา

    .

    [​IMG]

    การที่ท่านธุดงค์ไปเสียนานช่วงแรกๆ จึงยังไม่มีศรัทธาจากชาวบ้านมาช่วยเท่าไรนัก ทำให้การบูรณะเป็นไปด้วยความยากลำบาก ท่านก็ไม่ย่อท้อด้วยความเป็นคนที่เด็ดเดี่ยวจริงจัง เรื่องนี้ศิษย์ที่ทันหลวงปู่จะทราบดีทุกคน แววตาของท่านคมกล้ามากไม่เคยมีใครกล้าสบตาท่านแม้สักคนเดียว ไม่มีเลยจริงๆ ท่านลงมือบูรณะทุกอย่างเอง ด้วยตัวท่านใครจะช่วยหรือไม่ ท่านหาใส่ใจไม่ ท่านใช้การกระทำเป็นสิ่งพิสูจน์ความจริงใจ ชาวบ้านเมื่อเริ่มเห็นก็ค่อยๆ เข้ามาช่วยเหลือ คนละไม้คนละมือ วัดหุบมะกล่ำจึงค่อยๆฟื้นคืน สภาพเจริญขึ้นทีละเล็กทีละน้อย ในยามที่ว่างจากการงานโดยเฉพาะ วันพระวันโกนท่านก็ไม่ทิ้งกิจ พระศาสนาได้เทศน์อบรมญาติโยม ความเคารพบูชา ศรัทธา จากชาวบ้านนับวันยิ่งเพิ่มทวี ด้วยคุณธรรมความดีของท่านเป็นที่เห็นประจักษ์ หลวงปู่พิมพ์ท่านครอง วัดหุบมะกล่ำ ประมาณ 17 ปี ตลอดเวลาได้

    .สงเคราะห์ชาวบ้าน และสานุศิษย์ด้วยธรรมะและวิทยาคมต่างๆ ที่ท่านได้ร่ำเรียนมาโดยเฉพาะวิชาเข็มทองคะนองฤทธิ์ จนเป็นที่เลื่องลือ ทำให้มีผู้หลั่งไหลมายัง วัดหุบมะกล่ำอย่างไม่ขาดสายและด้วยปัจจัยที่ญาติโยม เหล่านั้นถวายหลวงปู่พิม ท่านได้นำมาบูระณะ วัดหุบมะกล่ำให้เจริญได้อย่าง ผิดหูผิดตากว่าแต่ก่อนมาก เมื่อเข้าวัยชราท่านได้อาพาธ เป็นอัมพฤกษ์เดินไม่ค่อยสะดวก และล่วงโรยตามอายุขัย ซึ่งเป็นไปตาม กฏแห่งสังสารวัฏ ตามที่พระบรมศาสดาท่านตรัสสอนไว้ว่า เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย เป็นเรื่องธรรมดาของโลก หลวงปู่ท่านได้ละสังขาร เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2519 สิริรวมอายุได้ 78 ปีคงทิ้งไว้แต่คุณความดีและตำนานเข็มทองคะนองฤทธิ์ สุดยอดตันตระแห่งสยาม ให้เป็นที่กล่าวขานแก่อนุชนรุ่นหลังต่อไป
    ความศักดิ์สิทธิ์แห่งหลวงปู่พิมพ์มาลัย และวิชาเข็มทองนั้น เป็นที่เลื่องลือโจษขานจนไม่สามารถ นำมาบันทึกได้หมดในที่นี้ บรรดานักเลงหรือคนสู้คนในสมัยนั้น ต่างยอมรับนับถือในอิทธิบารมี ความศักดิ์สิทธิ์แห่ง วิชาเข็มทองคะนองฤทธิ์ ถ้วนทั่วทุกตัวคน เพราะต่างมีประสบการณ์ชนิดฉกาจฉกรรณ์ อย่างไม่มีพระเกจิอาจารย์รูปใด จะทำได้เสมอเหมือน ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่พิมพ์ เมื่อไม่นานมานี้เคยนำมาเผยแพร่ทางโทรทัศน์ทีวีสีช่อง๗ ในรายการมิติลี้ลับ จนเป็นที่ล่ำลือกันทั่วประเทศ ประจักษ์พยานที่ยืนยันความศักดิ์สิทธิ์ มีมากมายทั้งหลักฐาน และตัวบุคคล หากท่านผู้อ่านเป็นนักนิยมพระเครื่องคงรู้จัก หรือได้ยินนามนักนิยมพระเครื่องอาวุโสท่านหนึ่ง ที่มีความเชี่ยวชาญพระเครื่องในระดับต้นๆของเมืองไทย
    .


    .

    และยังเป็นผู้รู้กตัญญู ผ่านครูบาอาจารย์มามากมายมาย ทั้งรอบรู้บรรดาสรรพวิชาอาคม เนื่องจากรับการถ่ายทอดจากผู้รู้หลายท่าน ก็ยอมรับและสิโรราบในบารมี แห่งหลวงปู่พิมพ์มาลัย อย่างหมดข้อกังขาว่าเอกอุ เหนือพระคณาจารย์ใดใด ท่านนักนิยมพระเครื่อง ผู้นั้นคือ ท่าน ปรีชา เอี่ยมธรรม นักเขียนและนักนิยมพระเครื่องรุ่นลายคราม ที่หลายคนจะรู้จักในนาม จ่าเปี๊ยก หรือ อาเปี๊ยก ท่านผู้นี้เคยให้สัมภาษณ์กับรายการโทรทัศน์มิติลี้ลับ เรื่องวิชาเข็มทองและยังถ่ายเอกซ์เรย์ปรากฏ
    เข็มทองนับร้อยเล่มวิ่งตามตัว มีภาพหนึ่งที่แปลกมาก แม้แต่แพทย์ยังไม่สามารถอธิบายได้ คือภาพที่เอกซ์เรย์ได้มีภาพเข็มทอง ภาพหนึ่งที่ปรากฏแสงวิ่งเป็นสายยาวตลอดแนว กระดูกซึ่งการถ่ายเอกซ์เรย์ปกติ จะไม่เป็นเช่นนั้นพร้อมกันนี้ผู้เขียนได้เรียนขออนุญาตอาปรีชานำมาเผยแพร่ เป็นประจักษ์พยานยืนยันด้วยครับ ทั้งนี้มิใช่เป็นการอวดอ้างเพื่อหาอามิสใดใด แต่ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ที่จะให้ความจริงของศาสตร์นี้ได้ประจักษ์กับสายตาโลก มิให้ผู้เบาความที่หลงกล่าวตำหนิศาสตร์ เหล่านี้ว่าเป็นของเลือนลอย ได้สำนึกยอมรับใน ความศักดิ์สิทธิ์และภูมิปํญญาของบรรพชน เรื่องที่นำมาเสนอจึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงมีตัวตนจริง ที่น่าเชื่อถือให้ยืนยันได้ คุณอาปรีชาได้เมตตาเล่าให้ฟังอย่างเลื่อมใส ในหลวงปู่พิมพ์ว่าท่านเองสมัยยังหนุ่มๆ

    [​IMG]

    .



    พระครูวิมลประภากร(หลวงพ่อสวัสดิ์)อดีตเจ้าอาวาสวัดหุบมะกล่ำ





    โดยนิสัยที่เป็นคนสู้คน และผ่านภยันตอันตรายมาบ่อยครั้ง จึงต้องแสวงหาบรรดาเครื่องป้องกันตัว จึงแสวงหาพระเครื่อง และเข้าหาพระอาจารย์ที่มีวิชาเข้มแข็งแก่กล้าเพื่อหาของดีนั่นเองหลังจากท่านได้รับการฝังเข็มจาก หลวงปู่พิมพ์ แล้วก็ยังแสวงหาพระอาจารย์เก่งๆอีก คราวหนึ่งท่านไปหาปู่โทน หลำแพร ตาคลี จ. นครสวรรค์ อาจารย์ฆารวาส ผู้ทรงอธิจิตมีวิทยาคุณที่เข้มแข็ง เพื่อขอให้ท่านฝังเข็มทองในสายของท่านให้ ปู่โทนพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งก็บอกว่า อาจารย์ (หมายถึงหลวงปู่พิมพ์) ที่ฝังเข็มทองให้เอ็ง (อาปรีชา) เก่งมากเข็มของข้าสู้เขาไม่ได้ ข้าไม่สามารถฝังเข็มของข้าให้เอ็งได้หรอก ถ้าเอ็งจะฝังเข็มของข้าต้องให้อาจารย์เอ็ง เอาเข็มของท่านออกก่อน แต่อย่าทำเลย เพราะของๆท่าน ประเสริฐอยู่แล้ว

    ประวัติจากเวป กระฉ่อน



    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    เหรียญรุ่นแรก เนื้อทองแดง หลวงพ่อพิมพ์มาลัย

    รุ่นแรกปี 2504 เนื้อทองแดง บาง นิยมสุด

    สวยๆหาชมยากมากๆครับ

    โชว์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_8544.JPG
      IMG_8544.JPG
      ขนาดไฟล์:
      80.7 KB
      เปิดดู:
      78
    • IMG_8545.JPG
      IMG_8545.JPG
      ขนาดไฟล์:
      95.4 KB
      เปิดดู:
      55
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2014
  10. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,283
    ค่าพลัง:
    +15,622
    ประสบการณ์จากมงคลวัตถุของท่านที่ได้รับการกล่าวขานอย่างมากและร่ำลือกันมาจนถึงทุกวันนี้ อย่างที่บอกแต่ต้น ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องแคล้วคลาดจากภยันตรายภัยพิบัติทั้งหลายทั้งปวง และคงกระพันชาตรี โดยเฉพาะประสบการณ์ด้านระเบิด “ระเบิด” นับเป็นอาวุธร้ายแรงที่มีอานุภาพการทำลายล้างสูงกว่าอาวุธชนิดใด ๆ เพราะฤทธิ์เดชของมันสามารถสร้างความเสียหายให้กับทุกสิ่งทุกอย่างได้ในวง กว้าง แม้แต่ชีวิตผู้คนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงก็แหลกเหลวราพณาสูรได้ด้วยอานุภาพ ของมัน แต่แม้ฤทธิ์เดชของระเบิดจะร้ายแรงปานใด บางครั้งก็ไม่อาจสามารถทำอันตรายใด ๆ ต่อผู้ที่มี “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” ได้ ซึ่ง ก็มีให้เห็นอยู่เสมอ นับเป็นเรื่อง “เหนือลิขิต ประกาศิตฟ้าดิน” ที่ท้าทายเป็นอย่างยิ่ง อย่างเช่น เมื่อปี พ.ศ. 2524 มีครอบครัวของอาสาสมัคร รายหนึ่งคือ นายกู้เกียรติ บัวบาน ครอบครัวนี้มีอยู่ด้วยกัน 4 ชีวิตประกอบด้วย นายกู้เกียรติ ผู้เป็นสามีพร้อมทั้งภรรยา และบุตรชายอีก 2 คน ชื่อ ด.ช.สมเกียรติ และ ด.ช.เกียรติยศ มีบ้านพักอาศัยอยู่ที่ หมู่บ้านมะขามเอน ต.ป่าหวาย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
    นายกู้เกียรติ ปกติมีอาชีพทำไร่และเป็นอาสาสมัครของรัฐบาล มีหน้าที่คอยคุ้มครองหมู่บ้านจึงได้รับแจกอาวุธที่ใช้ในราชการสงคราม ซึ่งมีทั้ง ปืน และ ระเบิดสังหาร ไว้ใช้สำหรับการปฏิบัติงานตามหน้าที่ เนื่องจากที่ อ.สวนผึ้ง ในสมัยนั้น มีผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ชุกชุมมาก ซึ่งอาวุธเหล่านี้ยามเมื่อไม่ได้ใช้งานก็จะเก็บไว้ที่บ้านตลอดเวลา ในวันเกิดเหตุอันเป็นที่มาของเรื่องนี้ตรงกับวันพระขึ้น ๑๕ ค่ำ นายกู้เกียรติ และภรรยาได้ไปทำบุญที่ วัดทุ่งแหลม ตั้งแต่เช้าโดยปล่อยให้บุตรชายทั้งสองทำหน้าที่เฝ้าบ้านกระทั่งเวลาประมาณ ๐๘.๓๐ น. ผู้คนที่มาทำบุญในวัดต่างได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังสนั่นขึ้นเพราะวัดทุ่งแหลมอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้าน
    ครู่ต่อมาก็มีคนขี่มอเตอร์ไซค์มาด้วยสีหน้าตื่น ๆ พร้อมร้องบอกนายกู้เกียรติ ว่าที่บ้านเกิดระเบิดขึ้นและเห็นลูกชายของนายกู้เกียรตินอนจมกองเลือดทั้งสองคน ได้ยินเช่นนั้นนายกู้เกียรติและภรรยารีบซ้อนรถมอเตอร์ไซค์ของผู้ที่มาบอก ข่าวตะบึงกลับบ้านทันที เมื่อถึงบ้านจึงได้เห็นสภาพของลูกชายทั้งสอง ที่ทำให้ทั้งนายกู้เกียรติและภรรยา แทบจะเป็นลม เพราะเด็กชายทั้งสองสลบไม่ได้สติจากแรงระเบิด นายกู้เกียรติ รีบนำบุตรชายขึ้นรถไปโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ซึ่งพอหมอและพยาบาลของโรงพยาบาลเห็นสภาพลูกชายทั้งสองของนายกู้เกียรติแล้ว กลับไม่ยอมรับตัวไว้รักษาเพราะเกรงจะช่วยเด็กไม่ได้ เนื่องจากมีเครื่องไม้เครื่องมือไม่พร้อมที่จะรักษานั่นเอง จึงแนะนำให้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลในตัวเมืองจังหวัดราชบุรี
    นายกู้เกียรติ ไม่รอช้ารีบบึ่งไปโรงพยาบาลประจำจังหวัดราชบุรี ซึ่งพอไปถึงหมอรีบนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินเป็นขณะที่เด็กทั้งสองเริ่มรู้สึกตัว แล้วแต่ยังคงร้องโอดโอยอย่างคนที่อยู่ในอาการเจ็บปวดเพราะพิษสะเก็ดระเบิด ที่ฝังอยู่ตามร่างกาย เพราะหลายคนที่เห็นสภาพของเด็กแล้วต่างระบุว่า อาการของเด็กคงหนักมากและอาจไม่รอดชีวิตด้วยซ้ำ แต่หลังจากหมอได้ทำการชำระล้างบาดแผล เพื่อหาสะเก็ดระเบิด ปรากฏว่ามีสะเก็ดระเบิดตามร่างกายน้อยมาก สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ที่เห็นเหตุการณ์เป็นอย่างมาก และหลังจากนำสะเก็ดระเบิดออกพร้อมใส่ยาเสร็จเรียบร้อยแล้ว เด็กทั้งคู่ก็แทบจะไม่มีอาการอย่างใดเลย มีอาการเจ็บปวดก็เพราะบาดแผลระบมเท่านั้นเอง หมอจึงอนุญาตให้นำเด็กกลับบ้านได้ หลังจากกลับถึงบ้านและได้นอนพักเป็นเวลาเกือบค่อนวัน เด็กทั้งคู่จึงบอกเล่าเหตุการณ์ให้นายกู้เกียรติ ผู้พ่อฟังว่า นำลูกระเบิดมาแกะเล่นจึงทำให้เกิดระเบิดขึ้น และแรงระเบิดก็ทำความเสียหายให้ตัวบ้านไม่น้อย แต่เด็กทั้งคู่กลับมีบาดแผลจากสะเก็ดระเบิดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อเหตุกลับเป็นเช่นนี้นายกู้เกียรติ จึงเชื่อว่าเป็นเพราะ “พุทธบารมี” ของ “เหรียญหลวงปู่หนู วัดทุ่งแหลม” อย่างแน่นอน เพราะทั้งคู่ต่างแขวนคอไว้คนละเหรียญ.



    เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่หนู วัดทุ่งแหลม

    ราชบุรี บล้อคนิยม หูติ่ง

    สวยๆหลายๆหมื่นนะครับ สุดยอดเหรียญเหนียว ประสบการณ์ระเบิด มีด ปืน โชกโชนสมชายชาตรีจริงๆครับ อย่าคิดว่าผมพูดเล่น ไปถามคนท้องที่เองครับ

    ราคาตามสภาพ 12,500 บาท

    เช่าแล้ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_8550.JPG
      IMG_8550.JPG
      ขนาดไฟล์:
      104.7 KB
      เปิดดู:
      62
    • IMG_8551.JPG
      IMG_8551.JPG
      ขนาดไฟล์:
      101.2 KB
      เปิดดู:
      54
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2014
  11. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,283
    ค่าพลัง:
    +15,622
    เหรียญครูบาอินทวงศ์ วัดอินทขิล

    อ.ป่าซาง จ.ลำพูน รุ่นแรก ปี ๒๕๑๑

    เนื้อทองแดงกะไหล่ทองเดิมๆ ครูบาอินทวงศ์ ท่านหนึ่งของครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้านับถือ และเป็นอาจารย์ผู้ประสิทธิวิชาให้กับ ครูบาสุข วัดป่าซางน้อย (พระครูบวรสุขบท ชาตะสุโข) เป็นเหรียญประสบการณ์อีกเหรียญหนึ่งของเมืองป่าซาง ชมก่อนครับมาแบบเดิมๆครับผม

    ของดีมีประสบการณ์


    ราคา..2200..บาท


    ปิดให้พี่ j999 ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_8536.JPG
      IMG_8536.JPG
      ขนาดไฟล์:
      92.6 KB
      เปิดดู:
      67
    • IMG_8537.JPG
      IMG_8537.JPG
      ขนาดไฟล์:
      121.6 KB
      เปิดดู:
      78
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 สิงหาคม 2014
  12. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,283
    ค่าพลัง:
    +15,622

    พระราชธรรมวิจารณ์ หรือที่ชาวบ้านและลูกศิษย์ลูกหา มักเรียกท่านว่าหลวงปู่ธูป วัดแคนางเลิ้ง ท่านเป็นพระสงฆ์ที่น่าเคารพ แถมท่านยังมีวิทยาคมเข้มขลังอีกด้วย ท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้หลายอย่าง และสนน ราคาก็ยังไม่สูงมาก

    หลวงปู่ธูป ท่านเกิดที่ตำบลบางหลวงเอียง อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 11 เมษายน พ.ศ.2441 โยมบิดาชื่อ เดช โยมมารดาชื่อ ผ่อง ท่านกำพร้าบิดามารดาตอนอายุได้เพียงขวบเศษ ต่อมาท่านจึงได้มาอยู่กับญาติผู้ใหญ่ที่ กทม. คือเจ้าพระยาราชศุภมิตรและท่านผู้หญิงแปลก ระหว่างนี้ท่านก็ได้ศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่ กทม. และได้ศึกษาหนังสือขอม บาลีต่างๆ ที่วัดใกล้บ้านของท่าน

    ครั้นถึงปี พ.ศ.2463 ท่านจึงได้อุปสมบทที่วัดสุนทรธรรมทาน (วัดแค) นางเลิ้ง โดยมีท่านเจ้าคุณธรรมวโรดม (จ่าย) สายเจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอริยมุนี (หว่าง) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูพุทธบาล (เนตร) เจ้าอาวาสวัดสุนทรธรรมทาน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "เขมสิริ" เมื่ออุปสมบทแล้วท่านก็ได้ศึกษาพระธรรม และวิปัสสนากรรมฐาน กับพระครูพุทธบาล ต่อมาท่านก็ได้เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านเดิม ท่านก็จำพรรษาอยู่วัดบางนมโค จึงได้ศึกษาวิปัสสนากรรมฐานและพุทธาคมกับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลังจากที่ท่านได้เดินทางกลับมาที่ กทม.แล้ว ท่านก็ยังได้ไปเยี่ยมเยียนและศึกษากับหลวงพ่อปานอยู่เสมอ

    ต่อมาท่านก็ได้สนิทสนมกับหลวงพ่อขันธ์ วัดนกกระจาบ จึงได้มีโอกาสได้เรียนวิชาเชือกคาดเอวกับหลวงพ่อขันธ์อีกด้วย หลวงปู่ธูป นอกจากท่านจะได้เรียนกับหลวงพ่อปานและหลวงพ่อขันธ์แล้ว ท่านยังได้เดินทางไปเรียนกับหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ที่นครปฐมอีก หลวงพ่อแช่มและหลวงปู่ธูปได้เดินทางไปมาหาสู่กันอยู่ตลอด ต่อมาท่านก็ได้รู้จักกับหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ในคราวที่เดินทางไปที่วัดตาก้องนี้เอง และได้แลกเปลี่ยนวิชากัน

    หลวงปู่ธูปท่านเป็นผู้ขยันหมั่นเพียร เมื่อได้รับมอบหมายให้ทำกิจการใด ท่านก็ทำโดยไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย นำพระภิกษุสามเณรให้ช่วยกันทำกิจกรรมของวัดให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ท่านจึงเป็นกำลังสำคัญของพระครูพุทธบาล ในการช่วยปฏิสังขรณ์พัฒนาวัดจนเจริญรุ่งเรืองจนได้รับตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาส

    ในปี พ.ศ.2471 ท่านก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดสุนทรธรรมทาน หลังจากท่านเป็นเจ้าอาวาส ท่านก็ได้พัฒนาวัดจนเจริญรุ่งเรืองดังที่เห็นมาจนทุกวันนี้ ในปีพ.ศ.2477 ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระครูสัญญาบัตรที่พระครูสุนทรธรรมวิจารณ์ ต่อมาในปี พ.ศ.2495 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะที่พระสุนทรธรรมวิจารณ์ ในปี พ.ศ.2506 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณ ศักดิ์เป็นที่พระราชธรรมวิจารณ์

    ท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้หลายอย่าง ท่านเริ่มสร้างครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ.2482 โดยท่านสร้างร่วมกับหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง เป็นพระสมเด็จฐานสามชั้น พระรอด พระนางพญา และพิมพ์นางกวัก พระที่สร้างครั้งนี้เป็นพระเนื้อผง ผสมกับดินปูชนียสถาน และผงใบลาน ลงรักฉาบเนื้อ เนื้อในสีดอกเทา ด้านหลังจะเป็นรอยจารลึกลงไปในเนื้อทุกองค์

    เมื่อสร้างเสร็จท่านก็จะแจกจ่ายแก่ลูกศิษย์และผู้มาแสดงมุทิตาจิต ที่เหลือนอกนั้นนำไปบรรจุที่ใต้ฐานพระประธาน พระชุดนี้ปัจจุบันหาดูได้ยากสักหน่อย นอกจากนี้ท่านได้สร้าง
    ตะกรุด
    เชือกคาดเอว พระเนื้อผงรุ่นปีพ.ศ.2504 เหรียญปีพ.ศ.2513 และอื่นๆ อีกพอสมควร

    หลวงปู่ธูปเป็นที่รักเคารพของชาวบ้านละแวกนั้น อีกทั้งลูกศิษย์ลูกหาอีกมากมาย จนเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ.2533 ท่านจึงได้มรณภาพอย่างสงบ สิริอายุได้ 92 ปี พรรษาที่ 70



    เหรียญฉลองอายุ 80 ปี

    หลวงปู่ธูป วัดแคนางเลิ้ง

    เนื้อเงินลงยาสีเขียว

    นานๆเจอที 1,500 บาท พร้อมส่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_8546.JPG
      IMG_8546.JPG
      ขนาดไฟล์:
      117.1 KB
      เปิดดู:
      153
    • IMG_8547.JPG
      IMG_8547.JPG
      ขนาดไฟล์:
      120.3 KB
      เปิดดู:
      72
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2014
  13. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,985
    ค่าพลัง:
    +5,394
    ขอจองครับ-----------------------
     
  14. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,283
    ค่าพลัง:
    +15,622
    แหนบหน้าหมวกอาจารย์กริ่ง

    วัดโพธิ์ศรีสุขาราม (วัดโพธิ์เลี้ยว) จ.กาญจนบุรี

    ที่ระลึกในงานผูกพัทธสีมา ปี พ.ศ. 2504

    เนื้ออัลปาก้าลงยา เป็นของดีหายากมากๆ แหนบอาจารย์กริ่ง ถือว่ามีประสบการณ์มากมายที่สุดในบรรดาพระเครื่องของท่าน
    ด้านหลังมีรอยจารเต็ม ประสบการณ์นั้นสุดๆครับ ด้านมหาอุตม์ คงกระพัน เป็นที่เชื่อถืออย่างยิ่ง อาจารย์กริ่ง วัดโพธิ์เลี้ยว ท่านเป็นลูกศิษย์ของ หลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง จ.นครปฐม ท่านได้ร่ำเรียนวิชาอาคมต่างๆแม้กระทั่งพระราหูท่านก้ได้รับถ่ายทอดมาจนเป้นที่เลื่องลือไม่แพ้ครู ราหูท่านหายาก ด้านหลังมีจารเต็ม สร้างด้วยเนื้อตะกั่ว และกะลา เป็นที่แสวงหาของคนท้องที่อย่างมากเช่นกัน

    สภาพสวย

    ราคา 4,500 บาท พร้อมส่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_2394.JPG
      IMG_2394.JPG
      ขนาดไฟล์:
      125.8 KB
      เปิดดู:
      68
    • IMG_2395.JPG
      IMG_2395.JPG
      ขนาดไฟล์:
      113.7 KB
      เปิดดู:
      71
  15. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,283
    ค่าพลัง:
    +15,622
    พระกริ่งพรหมคุณ

    หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ

    สุสานทุ่งมนต์

    สวยๆพร้อมกล่องเดิม

    ราคา 3,650 บาท พร้อมส่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_8301.JPG
      IMG_8301.JPG
      ขนาดไฟล์:
      109.7 KB
      เปิดดู:
      71
    • IMG_8302.JPG
      IMG_8302.JPG
      ขนาดไฟล์:
      108.9 KB
      เปิดดู:
      56
    • IMG_8303.JPG
      IMG_8303.JPG
      ขนาดไฟล์:
      84.4 KB
      เปิดดู:
      68
    • IMG_8304.JPG
      IMG_8304.JPG
      ขนาดไฟล์:
      112.7 KB
      เปิดดู:
      58
  16. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,985
    ค่าพลัง:
    +5,394
    ได้โอนเงิน ๒๒๐๐ บาท(ธ.กรุงเทพ) เมี่อ ๒๘ สค. เวลาประมาณ๐๙.๐๒ น.เป็นค่าพระ ๑. เหรียญครูบาอินทวงศ์วัดอินทขิล ที่อยู่ ดูในpmครับ
     
  17. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,283
    ค่าพลัง:
    +15,622

    รับทราบครับผม
     
  18. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,283
    ค่าพลัง:
    +15,622
    รายการพระเยอะมากลงในกระทู้ไม่หมด ดูเอาเองตามลิ้งค์ครับ.......

    ดูที่เวปตลาดพระครับ ร้านเบ็น วิเศษฯ.....




    http://www.taradpra.com/Store.aspx?storeNo=8381



    พระเครื่องนิยมทั่วไปเชิญที่ร้านท่าพระจันทร์....




    http://www.thaprachan.com/เบ็น%20วิเศษฯ



    เปลี่ยนมาใช้ไอดีโค้ดนี้นะครับ



    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG]

    </FIELDSET>
     
  19. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,283
    ค่าพลัง:
    +15,622
    ประวัติ



    หลวงพ่อพระอุปัชฌาย์คง ยศถิโร



    วัดใหม่บำเพ็ญบุญ ต.ห้วยกรด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท

    หลวงพ่อคง หรือ พระอุปัชฌาย์คง อดีตเจ้าอาวาสวัดใหม่บำเพ็ญบุญ เป็นพระเถระผู้ทรงวิทคุณของ อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท และเป็นพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่าที่ประวัติของท่านไม่มีการบันทึกไว้เป็นหลักฐานแน่ชัด เป็นเพียงการเล่าขานสืบต่อกันมาจากผู้เฒ่าผู้แก่ กล่าวกันว่าท่านเป็นคนพื้นเพเดิมจากเมืองย่าโม ( นครราชสีมา ) เกิดเมื่อปี พ.ศ.2402 เดิมเป็นทาสเรือนเบี้ยของคหบดีมั่งคั่งอยู่ในเมืองโคราช งานที่ต้องทำคือ ทำไร่ไถนา เลี้ยงควาย และทำงานอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมาย วันหนึ่งในราวปีพ.ศ.2436 ได้เกิดฝนแล้ง ข้าวในนาเสียหาย โจรภัยชุกชุม ต่อมาได้เกิดเหตุการณ์โจรปล้นบ้านคหบดีและบังคับให้ท่านไล่ควายจำนวนหนึ่งฝูงเดินทางรอนแรมเรื่อยมา กระทั่งถึง ต.ห้วยกรด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท พวกโจรจึงเอาปืนที่ติดตัวมายกขึ้นจะยิงท่าน ท่านตกใจกลัวร้องขอชีวิต หัวหน้าโจรใจอ่อนจึงปล่อยให้ท่านหันหน้าเดินไปโดยห้ามหันหลังกลับจนกว่าจะมืด ท่านได้เดินไปเรื่อยๆ จนพบวัดใหม่จึงหยุดพักและแวะขออาหารเด็กวัดกิน เมื่อได้กินอาหารและพักที่วัดนี้ก็เกิดชอบ จึงบอกกับสมภารเจ้าวัดเพื่อขออยู่อาศัยและช่วยเหลืองาน พร้อมกับเล่าเรื่องอดีตในชีวิตให้ฟัง หลวงพ่อที่วัดใหม่มีความเมตตาจึงให้การอบรมสั่งสอน จนท่านมีความรู้แตกฉานด้านอักขระสมัย จากนั้นได้ขอรับการอุปสมบทในราวปีพ.ศ.2437 ศิษย์ของท่านเชื่อว่า ท่านได้ไปขอเรียนวิชาจากพระอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณในยุคนั้นถึง 3 ท่านคือ หลวงพ่อคง วัดบางกะพี้ อ.เมือง จ.ชัยนาท , พระอินทโมลีฯ (หลวงพ่อช้าง ) วัดพระบรมธาตุวรวิหาร อ.เมือง จ.ชัยนาท และหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท นอกจากนี้ ยังได้รับการประสิทธิ์ประสาทพุทธาคมจากฆราวาสคนหนึ่งนามว่า “ ปู่ทวดเยี่ยม “ หลวงพ่อคงท่านเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านห้วยกรด ซึ้งชาวบ้านตำบลนี้มีคุณลักษณะพิเศษประการหนึ่งคือ เป็นคนจริง กล้าพูด กล้าทำ หากใครเหลาะแหลาะไม่จริงจังแล้ว พวกเขาจะไม่ศรัทธาเชื่อถือ หลวงพ่อคงแม้ท่านจะเป็นคนต่างถิ่น แต่เมื่อปฏิบัติดี มีความตั้งใจมั่นคงเด็ดเดี่ยว จึงสามารถผูกมัดใจของชาวบ้านในละเวกนั้นได้ป็นอย่างดี เมื่อได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาส ท่านก็ได้บูรณะพัฒนาสิ่งก่อสร้างต่างๆ ไว้มากมาย รวมทั้งสนับสนุนด้านการศึกษาของพระเณร และลูกหลานชาวบ้านอย่างเต็มที่ เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ เครื่องรางของขลังที่มีชื่อเสียงมากคือ ตะกรุดใบลาน , ตะกรุดโทน รวมทั้งเหรียญรุ่นแรก พ.ศ. 2477 ที่ระลึกสร้างกุฏิ
    หลวงพ่อคง ได้ถึงกาลมรณภาพเมื่อวัมที่ 23 ม.ค.2480 สิริอายุคำนวณได้ 78 ปี พรรษาที่ 47 เมื่อท่านละสังขารแล้ว ศิษย์เอกของท่านที่มีชื่อเสียงต่อมาคือ หลวงพ่อโม วัดจันทนาราม และหลวงพ่อเชื้อ สุกกวณฺโณ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ ซึ้งพระคณาจารย์ทั้งสองได้มรณภาพล่วงไปนานแล้วเช่นกัน
    สำหรับวัดใหม่บำเพ็ญบุญ ตั้งอยู่หมู่ที่ 14 ต.ห้วยกรด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท สังกัดคณะสงฆ์นิกาย เชื่อกันว่าเป็นวัดโบราณชื่อเดิมว่า “ วัดใหม่ “ ปรากฏในแถลงการณ์คณะสงฆ์ปีพ.ศ.2483 ได้เปลี่ยนนามวัดเป็น “ วัดบำเพ็ญบุญ “
    ลำดับเจ้าอาวาสคือพระสมุห์คง ยศถิโร , พระครูสุชัยบุญญาคม ( หลวงพ่อเชื้อ สุกกวณฺโณ ) , พระครูสังฆรักษ์บุญเหลือ พุทฺธโชโต และ พระครูสมุห์ล้อม เตชพโล รูปปัจจุบัน (มรณภาพแล้ว) ขอบพระคุณข้อมูลและภาพจาก..คุณศักสิทธิ์ ลิ่วนภโรจน์



    เหรียญรุ่นแรกรุ่นเดียว

    ปี 2477

    หลวงพ่อคง วัดไหม่บำเพ็ญบุญ


    หาเหรียญแท้ๆชมยากมากน่ะครับ ประสบการณ์ บอกได้คำเดียวว่าแจ่ม เหนียวแน่นตามแบบฉบับเหรียญเก่าเมืองชัยนาท

    สวยๆหลักหมื่น

    ราคาตามสภาพ 2,800 บาท พร้อมส่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_9092.JPG
      IMG_9092.JPG
      ขนาดไฟล์:
      138.5 KB
      เปิดดู:
      81
    • IMG_9093.JPG
      IMG_9093.JPG
      ขนาดไฟล์:
      136 KB
      เปิดดู:
      92
  20. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,283
    ค่าพลัง:
    +15,622
    เหรียญก้นแมลงสาบทองแดง

    หลวงพ่อออด วัดบ้านช้าง บล็อคตาปิด



    พระนครศรีอยุธยา



    สุดยอดพระคณาจารย์ยอดนิยมอีกท่านหนึ่งที่คนท้องถิ่นและส่วนกลางยอมรับอีกท่านหนึ่งของวงการครับ เหรียญรุ่นแรกของท่านสวยๆก็ครึ่งแสนเข้าไปแล้วประสบการณ์มากมาย มหาอุตม์ คงกระพันมิเป็นรองใครครับ เก่งไม่เก่งมีอยู่ครั้งหนึ่งหลวงพ่อเสกเหรียญเสร็จกรรมการถือพานเหรียญออกจากโบสถ์มา ถูกทหารลูกศิษย์หลวงพ่อลองยิง แต่ไม่ถูกกรรมการสักนัด แต่เล่นเอากรรมการปัสวะราดเป็นทางน่ะครับ ว่างๆลองไปถามคนบ้านช้างดูน่ะครับ ทราบเรื่องนี้หลายท่านอยู่



    สภาพสวยมากขนาดผิวไฟแดง เกือบเต็มร้อย

    รุ่นประสบการณ์ ราคา บาท พร้อมส่ง

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_9085.JPG
      IMG_9085.JPG
      ขนาดไฟล์:
      123.1 KB
      เปิดดู:
      51
    • IMG_9086.JPG
      IMG_9086.JPG
      ขนาดไฟล์:
      161.9 KB
      เปิดดู:
      58

แชร์หน้านี้

Loading...