วัตถุมงคลพระพิราพ พ่อแก่ ฤๅษี พระอาจารย์ศิริพงศ์ ต้นตำหรับวัตถุมงคลพระพิราพ

หนุมานฌาณกล้ารุ่นนี้มีอิทธิฤทธิ์สูงส่งครับ

ทุกองค์ผ่านพิธีกรรมที่ถูกต้องตามหลักเทวะศาสตร์ ดังนั้นทุกรูปทุกองค์ที่ท่านเห็นจึงมีชีวิตจิตใจ

เขาเรียกว่าเป็น ของเป็น คือเป็นของมีชีวิต ไม่ใช่ของตายเหมือนอย่างดินสอยางลบทั่วไป

ผู้ที่รับไปแล้วหากหมั่นไหว้หมั่นเรียกอาราธณาบ่อยครั้งเข้าก็จะยิ่งเพิ่มความขลังเป็นทวีคูณ

ของแบบนี้ยิ่งบอกกล่าวยิ่งมีพลัง ยิ่งนานวันเข้าก็ยิ่งเพิ่มความขลัง

ผู้ที่ได้ไปโชคดีมีวาสนาจริงๆ

อย่างไรก็ตามผู้ที่มาพบกระทู้นี้เข้าอาจไม่ทันที่จะเป็นเจ้าของ แต่ก็ขอบอกว่าวัตถุมงคลของพ่อครูทุกชิ้นทุกองค์นั้น ล้วนเป็นของเป็นมีพลังชีวิตพลังงานเหนือโลกซ้อนอยู่ภายใน มีตัวมีเจตสิกทุกองค์ไป

ใครรับไปแล้วให้พกติดตัวไว้ครับ อาราธณาทุกเช้าเย็นบอกกล่าวกับท่านยากจะไปไหนมาไหนเหมือนว่าท่านเป็นพ่อเป็นแม่เป็นครูเป็นอาจารย์อย่างนั้นแหละแล้วจะเห็นผลไวจริงๆ

 

http://www.monnut.com/board/index.php?topic=2808.0
ขุนแผน ร้อยชู้ อู่ทรัพย์ นับอนันต์ เนื้อดินเผาพิมพ์เล็กหลังจารดินสอ "นะเอา" ด้วยลายมือพ่อจำนวน ๒๐ องค์

"นะเอา" ตัวนี้เป็น นะเอา ทางสายศิลปิน หมายเอา "ร่างกาย ดวงจิต ชีวิตและวิญญาณ" เป็นนะเรียกความผูกพันให้มีผู้ฅนมาอุปถัมภ์ค้ำชูเกื้อหนุนตัวเราให้ก้าวหน้า สู่ความเจริญรุ่งเรือง เป็นนะฝ่ายเมตตาล้วนๆ

วันเสาร์ที่ ๗ มกราคม ๒๕๕๕ ก่อนที่พ่อจะให้ท่านณรงค์ฤทธิ์จุดเทียนชัยเพียง ๓ นาที วรรณพขึ้นมาในปริมณฑลพิธีพร้อมส่งห่อพระขุนแผนเนื้อดินเผาพิมพ์เล็กให้พ่อ แล้วพูดว่า อาจารย์เล็กทำเสร็จรีบส่งมาให้จากเมืองเหนือ พ่อให้วรรณพนำไปวางบนผ้าแดงที่โต๊ะพิธี เมื่อเสร็จพิธีมอบประสิทธิ ศรีหนุมานฯ พ่อนำพระขุนแผนเนื้อดินเผาทั้งหมดมาจาร "นะเอา" พร้อมว่าคาถากำกับ เป็นมหาอุดมมงคลเสร็จพ่อทำพิธีดับเทียนชัย

พระขุนแผน ร้อยชู้ อู่ทรัพย์ นับอนันต์ นี้ มีเสน่ห์ในตัว ตั้งแต่ลักษณะของพุทธพิมพ์ถึงความสุดยอดแห่งมหาเมตตาพาร่ำรวย ผู้แกะพิมพ์เกิดวันจันทร์ ผู้ดำเนินการจัดสร้างเกิดวันเสาร์ ผู้ทำพิธีอธิษฐานจิตเกิดวันเสาร์ จารในพิธีศรีหนุมานฯ ผู้เป็นมหามิตรกับพระเสาร์ "โอม.... ชัยยะ.... สิทธิ.... มหาโภคา สันนิจะยังยันติ"

สวัสดี มาสร้างดีแลกเอาไป

ศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ
๘ มกราคม ๒๕๕๕​

 

เทศกาลตรุษจีนปีมังกร พ.ศ. ๒๕๕๕ นี้ เป็นมหาอุดมมงคลสำหรับพี่น้องไทยเชื้อสายจีน ด้วยมีคหบดีไทยเชื้อสายจีนที่ได้รับความคุ้มครอง จากพ่อครูฤๅษีพระภรตมุนี และ ปู่องค์พระพิราพ สำนึกในพระคุณของท่าน นำอ่างน้ำทิพย์ของเซียนซือจากประเทศจีน อายุกว่าร้อยปี ที่เต็มไปด้วยอักขระ เครื่องหมาย และ สัญลักษณ์ อันเป็นมหามงคลของจีน มาตั้งในปริมณฑลเรือนพระภรตมุนี ให้พ่อใช้บรรจุ "น้ำทิพย์ฟ้าประทานพร"

ประโยชน์ให้ผู้มาบูชาพ่อแก่ และ ปู่ ประจำเรือนพระภรตมุนี ได้นำประพรมตนเอง บุคคลในครอบครัว บ้านเรือน และ พื้นที่ทำกิน เพื่อแก้การชงปี ชงเดือน ชงวัน พระเคราะห์แทรก พระเคราะห์จร พระเคราะห์เสวยอายุ ล้างอาถรรพ์ขจัดป้องกันภัย เพิ่มมหามงคลสมบูรณ์พูนสุข

สวัสดี ของเขาดีจริง
๑๔ มกราคม ๒๕๕๕
ศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ

 

​

จากสีผึ้งมัทรี น้ำมันผูกรัดมัดสวาทบาดจิต ขุนแผน ร้อยชู้ อู่ทรัพย์ นับอนันต์ ที่มีผู้ร่วมบูชาสามารถรวมทุนทรัพย์ไถ่ชีวิตโคได้ ๕ คู่ พร้อมตั้งเครื่องบวงสรวงสังเวยพลีกรรมขอประทานบารมี สร้างรูปเคารพ "พระฤๅษีอิศวรอัศวัตถ์ และ พระพิราพศิวนาถ" ได้จำนวนหนึ่ง สำหรับให้ลูกบนเรือนพระภรตมุนีได้นำไปบูชาในวันเปลี่ยนนักษัตรปีมะโรง ๒๕๕๕ นี้ เพื่อความเป็นมหาอุดมมงคล

สวัสดี เตรียมสถานที่อันเหมาะสมไว้รอได้เลย

ศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ
๒๑ มกราคม ๒๕๕๕​

 

พระฤๅษีอิศวรอัศวัตถ์ นี้เห็นครั้งแรกก็เกิดศรัทธาขึ้นทันที และนึกถึงคำว่า อัศวัตถ์ ซึ่งหมายถึงต้นโพธิ์ต้นไม้ตรัสรู้แห่งองค์สมณะโคดม และมีคำบรรยายในทางคติฮินดูว่า ต้นอัศวัตถ์นั้นเป็นปริศนาธรรมที่มีความหมายทางธรรมอย่างลึกซึ้งและแยบยลดัง นี้ว่า

อัศวัตถ์" เป็นอรูปธรรมของต้นไม้ชนิดหนึ่ง ในโลกนี้จะเห็นรูปร่างของต้นไม้นี้ไม่ได้เลยยอดโคน และที่เกิดก็ไม่มี เป็นต้นไม้อมตะ ไม่รู้จักแก่และตาย ไม่เสื่อมสูญ มีรากอยู่เบื้องบน มีกิ่งอยู่เบื้องต่ำ มีใบเป็นพระเวท ผู้ใดรู้จักต้นไม้นั้น ผู้นั้นชื่อว่า เป็นผู้รู้พระเวท (ธรรมชาติ) สาขาของต้นไม้นั้นงอกด้วยคุณที่ประกอบด้วย สัตวะ รชะ ตมะ มีอารมณ์เป็นพืชผล รากได้แผ่ไปทั้งเบื้องบน และเบื้องล่าง รากซึ่งมีกรรมเป็นเครื่องผูกพัน ได้แผ่เป็นลำดับไป แม้ในมนุษย์โลกเบื้องล่างอีกด้วย

หมายความว่า ต้น "อัศวัตถะ" นี้เปรียบเสมือนกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ รากคือดวงอาทิตย์ที่ส่องลำแสงลงมา โลกและดาวนพเคราะห์ทั้งหลายคือ กิ่งของต้นไม้นี้ ใบคือสิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่งอกเงยขึ้น แผ่พืชพันธุ์สืบเชื้อสายตามลำดับต่อเนื่องกันลงไป พืชผลคือวิบาก อันมาจากการกระทำของสิ่งมีชีวิตซึ่งจะงอกเงยไปตามกรรมที่กระทำ

ดัง นั้นฤๅษีอิศวรอัศวัตถ์ จึงมีความหมายอย่างลึกซึ้งในตัวชัดเจนว่า คือพระฤๅษีผู้เป็นอวตารแห่งพระศิวะเจ้า ผู้เป็นเจ้าแห่งพระเวทย์แลพระธรรมทั้งปวง เป็นผู้ควบคุมจักรวาลทั้งหมด เป็นเจ้าชีวิตของสรรพสัตว์ทั้งปวง

ในขณะเดียวกันคงเป็นที่รู้ว่าพระอิศวร คือ จอมโยคีหรือ จอมฤๅษีสูงสุด ที่ฤๅษีทั้งปวงต่างเคารพบูชาพระองค์อย่างยิ่ง

พระอิศวรมีรูปเป็นฤๅษีและมีการขนานพระนามต่างๆกัน เช่นฤๅษีอิศวร ฤๅษีสามตา

อย่างไรก็ตามเมื่อพลิกกลับไปดูทางตำนานของฮินดูพบว่า

ฤาษีหรือโยคีผู้เป็นศิวะอวตารที่โด่งดังและนับถือกันมากที่สุดมีพระนามว่า พระศิวะมหามุนี ใช้ชื่อนี้กันตรงๆ

แต่นิยมเรียกง่ายๆว่า บาบาจี ซึ่งแปลตามความหมายอย่างไทยๆได้ว่า พ่อใหญ่

มีเรื่องเล่ากันว่าบาบาจีหรือพระศิวะมหามุนีนี้เป็นจอมโยคีที่ไม่มีวันตาย ดำรงชีวิตอยู่นานนับพันๆปี

ภายใต้เทือกเขาหิมาลัยอันสลับซับซ้อน ตั้งแต่หลายพันปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน

ทุกวันนี้ ยังมีผู้ศรัทธา แสวงหาพระองค์ พยายามปีนป่ายเทือกเขาหิมาลัยเพื่อตามหาพระศิวะมหามุนี

บางคนก็ได้พบบางคนก็ไม่ได้พบแล้วแต่วาสนา เชื่อกันว่าหากใครได้พบและฝากตัวเป็นศิษย์

บุคคลผู้นั้นจะบรรลุธรรมสูงสุดและเป็นผู้ไม่มีวันตาย

ในตำนานบันทึกไว้ว่าบุคคลที่ได้พบมหาคุรุบาบาจีหรือพระศิวะมหามุนีมาแล้วคือ ท่านคุรุลาหิริมหาสัย

มีช่วงชีวิตอยู่ราวๆรัชกาลที่ ๕ ของไทย

เรื่องของพระศิวะมหามุนีทางอินเดียนั้นฟังแล้วก็คล้ายกับเรื่องของหลวงปู่โลกอุดร

ซึ่งหลายคนมักเรียกว่าหลวงปู่ใหญ่เช่นกัน

เมื่อสืบลงไปพบว่าเรื่องของพระศิวะมหามุนีในร่างของโยคีหนุ่มนั้น เริ่มโด่งดังในอินเดียมาตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ ๑

และผู้นำเรื่องราวมาตีแผ่จนเป็นที่นับถือกันทั่วโลกคือ ท่านโยคานันทะ ศิษย์หลานของท่านลาหิริมหาสัยนั่นเอง

ท่านโยคานันทะเป็น โยคีอินเดียท่านแรกที่ไปเผยแพร่โยคะประเภทการทำสมาธิ การเข้าฌานที่ประเทศอเมริกาในช่วง
ก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่ ๑ ในปัจุจบันทั้งอเมริกา ฝรั่งเศษ และอีกหลายประเทศทั่วโลกมีการสร้างพระอิศวรหรือพระศิวะ
ใน ปางของมหาฤๅษีมีรูปร่างคล้ายมนุษย์ ใบหน้าหนุ่มหล่อเหลา ไม่มีหนวดไม่มีเครา ตามคติและรูปลักษณ์ของบาบาจี ตามตำนาน แต่ในเมืองไทยยังไม่ค่อยมีคนรู้จักเท่าใดนัก เพราะขาดการศึกษาค้นคว้า

จะรู้จักก็แต่พระศิวะมหาเทพเพียงรูปลักษณ์เดียวเท่านั้น

เป็นสิริมงคลแก่ชาวเรือนพระภรตมุนีเหลือเกินที่ได้กราบไหว้องค์พระฤๅษีอิศวรอัศวัตถ์

พระฤๅษีผู้เป็นภาคหนึ่งแห่งองค์อิศวรเจ้า พระฤๅษีผู้เป็นอมตะ ผู้คอยอยู่บนโลกนี้เพื่อทำหน้าที่สั่งสอนบุคคล
อันควรแก่การสั่งสอนเพื่อเป็นครูทางจิตวิญญาณให้แก่โลกนี้ต่อไปตามคติความเชื่อแห่งชนชาวฮินดู

พระฤๅษีอิศวรอัศวัตถ์ พระสิทธาผู้วิเศษที่สามารถบันดาลทุกสิ่งให้ผู้ศรัทธาได้สมปรารถนา พระองค์คือพระเป็นเจ้า
ที่ สำแดงร่างในรูปของบรมครู ในร่างแห่งจอมฤๅษี มีคำสรรเสริญพระองค์ว่า ทุกครั้งที่กล่าวนามของพระองค์ด้วยความเคารพศรัทธาบุคคลผู้นั้นจะได้รับพร จากพระเป็นเจ้าทุกครั้งทุกคำไป

พระองค์มีพรวิเศษในการบำบัดโรค มีพรวิเศษในการชำระกรรมเก่าทั้งปวงให้หมดสิ้นไป มีพรวิเศษที่จะควบคุมปรากฏการณ์ทุกอย่างในโลกให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์ สาวกผู้ภักดีทั้งหลายจะพ้นจากความตาย โรคร้ายและหายนะ
แต่จะพบกับสันติสุขตลอดกาล

 

พระพิราพศิวนาถ
คราวที่แล้วกล่าวไว้เกี่ยวกับ พระฤๅษีอิศวรอัศวัตถ์ ว่าเป็นจอมฤๅษีองค์อวตารแห่งพระศิวะเจ้า มีสัญลักษณ์แห่งพระศิวะคือดวงตาที่สาม ณ กึ่งกลางหน้าผาก ส่วนอีกพระองค์หนึ่งนั้นคือ

พระพิราพศิวนาถ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งภาคของพระศิวะ เรื่องพระพิราพหรือพระไภรวะของทางฮินดูนี้คืออย่างเดียวกัน ตามตำนานกล่าวว่าเมื่อครั้งที่พระพรหมกล่าวดูหมิ่นพระศิวะทำให้พระศิวะพิโรธและตัดเศียรที่ ๕ ของพระพรหม เมื่อตัดแล้วเศียรที่ ๕ ของพระพรหมติดอยู่กับมือจะสลัดอย่างไรก็ไม่ออก พระพรหมบอกทางแก้ให้โดยกล่าวว่าเพราะเราคือพระพรหมเป็นพระเป็นเจ้าเช่นท่าน ด้วยเหตุนี้เศียรของเราจึงติดกับมือของท่าน และจะหลุดออกต่อเมื่อพระศิวะไปบำเพ็ญในป่าช้า นี่คือที่มาของพระศิวะในภาคพระไภรวะตามวรรณคดีของฮินดู ปางนี้ถือว่าพระศิวะเจ้าเป็นเจ้าแห่งป่าช้ามีภูติผีเป็นบริวาร เป็นเทพเจ้าแห่งความตาย ภัยสงคราม

แต่เดิมไม่มีใครรู้จักพระพิราพรู้ก็รู้แต่น้อย ขาดการศึกษาอย่างจริงจัง จะมีก็แต่พ่อครูที่รักและเคารพทั้งอนุรักษ์และสร้างสรรค์ผลงานเกี่ยวกับพระพิราพทั้งภาพวาด หัวโขน รูปปั้นเต็มองค์ในอิริยาบทต่างๆเช่นในท่ารำองค์พระ ในท่านั่งประทับห้อยพระบาท รวมทั้งในรูปวัตถุมงคล เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ลูกๆและผู้ศรัทธาทั้งหลาย

การสร้างแต่ละครั้งพ่อครูจะเน้นย้ำเรื่องการพลีการบวงสรวงให้ถูกต้อง ท่านจะเน้นย้ำว่าท่านไม่ได้เสก แต่เป็นเรื่องของครูของเทวดาของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านจะมาเมตตาทำให้

เสมือนว่าท่านมาอธิษฐานจิตด้วยองค์ท่านเอง เป็นเมตตาของท่านโดยตรง ใครได้ไปก็เท่ากับว่ามีพลังของท่านติดตามคุ้มครองไปด้วย

ครั้งนี้ท่านได้สร้างพระพิราพศิวนาถในท่าประทับนั่งขัดสมาธิ ทรงตบะฌานแรงกล้า ภูติผีปีศาจกลัวเกรง ประทับอยู่ ณ ที่ใด บังเกิดความร่มเย็นเป็นสุขแก้ทุกข์โทษสารพัด ขจัดภัยพิบัติทั้งปวง บันดาลความร่มเย็นเป็นสุข ส่งเสริมอำนาจวาสนา บันดาลความรุ่งโรจน์แห่งดวงชะตาทำมาค้าขายก็เจริญรุ่งเรือง

พระพิราพเป็นภาคดุแห่งพระศิวะ ทรงเป็นเทพแห่งความตาย ในขณะเดียวกันก็ทรงประทานชีวิต ความมีอายุยืน ทรงเป็นเจ้าแห่งโรคร้ายในขณะเดียวกันก็ทรงบำบัดโรคาพยาธิบันดาลความแข็งแรง ความอยู่ยงคงกระพัน ผู้บูชาพระองค์ท่านย่อมพ้นภัยจากโรคภัย มีอายุยืน พระพิราพทรงเป็นเทพแห่งสงครามในขณะเดียวกันก็ทรงประทานสันติสุขความสงบร่มเย็น ดุจเดียวกันกับพระพิฆเนศเทพเจ้าแห่งอุปสรรค ก็ทรงเป็นผู้ขจัดอุปสรรคด้วยเช่นกัน

ขอความสวัสดีมีทรัพย์จงบังเกิดแก่ทุกท่าน

 

ขอสอบถามครับคือผมยินชื่อของพระอาจารย์ศิริพงศ์ มานานแล้วและอยากจะบูชาองค์พระพิราพขนาดบูชา อยากสอบถามว่าจะบูชาได้ที่ไหนและบูชาองค์ละเท่าไหร่ครับ

 

องค์พระพิราพศิวนาถ อยู่ในขั้นตอนการสร้างและทำพิธีครับ ส่วนองค์พระพิราพ ท่ารำ ขนาดบูชา ไม่มีให้บูชาแล้วครับ

 

คุณปลัด หลงรักคลั่งสวาท

คุณปลัด หลงรักคลั่งสวาทสร้างจากมวลสารสำคัญ คือ ยอดรัก ยอดสวาท ยอดกาหลง ผสมครั่ง และแป้งเจ็ดดาวเสาร์เคล้าราหู อัดขึ้นพิมพ์สำเร็จเป็นคุณปลัดสองหัวมอบให้ผู้ศรัทธาในองค์ศิวะมหาเทพได้ใช้ เปิดโชค เปิดลาภ เปิดทิศ เปิดทาง ผูกจิตมัดใจ มีฅนอุปถัมภ์ค้ำชูให้กิจการงานอาชีพเจริญรุ่งเรืองตั้งแต่ปี ๒๕๔๓

ปลัดหลงรักคลั่งสวาทดังกล่าว สร้างแบ่งใช้กันเฉพาะกลุ่ม ได้ผลจนเป็นที่แพร่หลายมีผู้นิยมเสาะหาทำให้ผู้ฉกฉวยโอกาสปั่นราคาจนแพง ลิบลิ่วเป็นหลักหมื่นต้นๆ ถึงขั้นมีของปลอมออกขายกันตามตลาดนัดพระเครื่อง

ผู้ได้ยินกิตติศัพท์พากันมาถามหากับตัวพ่อว่า ยังมีเหลืออยู่บ้างไหมพ่อตอบปฏิเสธกลับไปทุกรายเพราะสร้างยากเย็นเหลือเกิน ใครไม่ได้ร่ำเรียนจากสายฮินดูพราหมณ์สายตรงไม่สามารถทำคุณปลัดตำรับนี้ได้ อย่างเด็ดขาด ไม่ต้องคิดอะไรมากแค่คำนวณฤกษ์ยามตั้งพลีกรรมเสาร์เคล้าราหูจำนวน ๗ ครั้งก็ยากเย็นแสนเข็ญสิ้นค่าใช้จ่ายมากมาย

วันนี้ น้องๆ ร่วมสถาบันเชื้อสายจีนมากราบสวัสดีปีใหม่สะกิดสะเกาเซ้าซี้ถามถึงวิชาปลัด เจ็ดเสาร์เคล้าราหูที่พ่อเรียนสมัยยังหนุ่มๆ ว่ามีบ้างไหม ถ้าไม่มีไม่เป็นไรปีนี้มีดาวคู่ชู้มากมายหลายคู่ พี่ช่วยทำให้ผมใหม่ ผมออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด พ่อตอบไปว่าพอมีแต่ไม่มากขยักเก็บไว้เพราะทำยากเย็น คุณน้องทั้งหลายรีบซื้อเครื่องสังเวยมาขอรับมอบประสิทธิไปเรียบร้อย ๙ ตัว

พ่อให้โอวาทตามระเบียบว่า เมียเขาห้ามเด็ดขาด นอกนั้นลุยได้ตามชอบ พ่อแม่เขาไม่ยอมไม่เป็นไรถ้าตัวเด็กมันยอมคืนนี้ล่ะโว้ยไม่ใครก็ใครมีได้มี เสีย

สวัสดี จิตใจที่ดีเป็นสุดยอดของเสน่ห์เมตตา

ศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ
๒๓ มกราคม ๒๕๕๕
monnut.com​

 

ให้บูชาเท่าไหร่หรอครับพี่?

 

ไปที่กระทู้ ขุนแผนร้อยชู้ พระอาจารย์ศิริพงศ์ ได้เลยครับ

 

วัตถุมงคลของพ่อครูทุกรุ่นทุกพิมพ์ล้วนมีค่ายิ่งกว่าเงินทองที่ใครต่อใครมาตั้งราคาให้

การลงภาพวัตถุมงคลชุดนี้ในนิตยสารพระเครื่องก็เนื่องด้วยต้องการให้ทุกท่านรับรู้ว่าพิมพ์พระเครื่องวัตถุมงคลทั้งหมดนี้พ่อครูท่านคิดท่านสร้างของท่านมา

ที่ผ่านมามีหลายคนหลายคณะที่นำแบบของท่านไปลอกเลียนแล้วแอบอ้างว่าเป็นพิมพ์ของตัวเอง เดี๋ยวนี้ของปลอมเยอะมาก ระวังกันหน่อยนะครับ

 

สำหรับชูชกรุ่นเศรษฐีเสพสมบรมสุขที่พ่อสร้าง มีจำนวน ๘๘ ชิ้น เท่านั้น เพราะสร้างใช้กันเฉพาะกลุ่มโดยนำผงอิทธิเจสายศิลปินมาผสมกับว่านกวักเงิน กวักทอง ดินสอฤๅษี ลูกส้มโอมือ และยอดมะตูม หล่อขึ้นเป็นชิ้นงานขนาดกว้าง ๑ นิ้ว ยาว ๒ นิ้ว รูปชูชกคู่นางอมิตดา ด้านหลังรูปคุณปลัดจารลายมือเศรษฐีเสพสมบรมสุขลงทองคลุกด้วยผงเจิมสีแดงมอบ ให้ผู้ร่วมหารค่าใช้จ่ายในการจัดสร้าง ไม่ได้เผยแพร่บุคคลทั่วไปเพราะไม่ค่อยเหมาะสม

เหตุที่มีผู้เสาะหากันมากเพราะมีผู้นำไปใช้เจรจาติดต่อการค้าแล้วประสบผล สำเร็จมากราย มีฅนภายนอกเข้ามาขอพ่อ แต่พ่อไม่ให้เป็นเหตุให้ผู้ที่หารค่าใช้จ่ายบางฅนนำออกขายที่ตลาดพระเครื่อง ราคา ๑๕,๐๐๐ บาท ถึง ๒๕,๐๐๐ บาท ก็ยังมีผู้สู้ราคาซื้อหากัน ซึ่งพ่อรู้สึกเฉยๆ ไม่ตื่นเต้นตามกระแสเพราะของพ่อมันดีที่ทำให้ฅนอื่นรวย พ่อยังเก็บและแบ่งให้ลูกบางฅนที่มีความศรัทธาต้องการจริงแต่ต้องออกปากขอ อย่างน้อย ๕ ถึง ๗ ครั้ง ซึ่งพ่อก็ยังคงราคาเดิมที่หารค่าใช้จ่ายครั้งแรกไม่ได้บวกเพิ่มราคาตามกระแส ท้องตลาด

ที่พ่อตอบกระทู้นี้อย่าถือว่ากล้าขอแล้วพ่อจะให้ง่ายๆ สิ่งที่ได้ง่ายเกินไปไม่มีค่าหรอก มันต้องมาทำความดีแลกเพราะฅนอย่างพ่อใช่ว่าใครเอาเงินมาฟาดหัวเล่นได้ง่ายๆ

เรื่องแปลกที่ขอแทรกไว้ตรงนี้คือ หลังจากหนังสือพระเครื่องอภินิหารเล่ม ๑๔๖ ออกวางตลาด มีฅนหมั่นไส้ถามพ่อว่า ลงโฆษณาว่าหมดแล้ว หมดแล้วทุกรายการ จะลงโฆษณาหาพระแสงอะไร พ่อจำเป็นต้องตอบไปว่า เพราะลูกกระผมเงินเหลือใช้ ใครจะทำไม คุณลองทำตามอย่างที่ลูกกระผมทำบ้างสิ กลัวแต่คุณไม่กล้า ผู้ถามจ๋อยหมับไปเลย

สวัสดี พ่อก็กวนส้นตีนอย่างนี้แหละ
ศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ
​

 

<table style="font: inherit; color: inherit;"><tbody><tr><td style="font: inherit; color: inherit;" valign="top"></td><td style="font: inherit; color: inherit;" valign="top"></td></tr><tr><td style="font: inherit; color: inherit;" valign="top"></td><td style="font: inherit; color: inherit;" valign="top">

</td></tr></tbody></table>
ที่มา http://www.monnut.com/board/index.php?topic=2879.0
วันเสาร์ที่ ๔ กุมภาพันธ์ เวลาบ่ายโมงครึ่ง อาจารย์อ้วนหมอผี ศิษย์น้อง พ่อครู ได้เข้ารับมอบตะกรุดเมตตาคู่แช่ในน้ำมันผูกรัดมัดสวาทบาดจิต เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง โดยตระกรุดนี้ได้นำหัวโขนพ่อครูฤๅษีเนื้อโลหะชนวนมวลสารพิเศษขนาดจิ๋วสวม ด้านปลายของตระกรุดทั้งสองข้าง กำกับเพิ่มความขลังด้วยมนต์แห่งเทพฤๅษี แล้วบรรจุลงในหลอดน้ำมันผูกรัดมัดสวาทบาดจิตเสน่หาพาร่ำรวย ตระกรุดนี้ถือได้ว่าเป็นตระกรุดที่ครบเครื่องทุกด้านทั้งอำนาจ ครูบาอาจารย์ และเรื่องเสน่ห์เมตตาพาร่ำรวย

หลังจากอาจารย์อ้วนรับมอบตระกรุดเรียบร้อยแล้วจึงสนทนากับพ่อครูและอาจารย์ ทิพยจักร นักเขียนชื่อดัง ในเรื่องวัตถุมงคลและพลังเหนือโลก หลังจากสนทนาเสร็จ ๒ อาจารย์ชื่อดังจึงขอลากลับ

คงไม่ต้องอธิบายว่า ตะกรุดเมตตาคู่แช่ในน้ำมันผูกรัดมัดสวาทบาดจิต ดีและประสบการณ์อย่างไรขนาดอาจารย์อ้วน หมอผีท่านยังมารับมอบไปบูชา

 

<table style="font: inherit; color: inherit;"><tbody><tr><td style="font: inherit; color: inherit;" valign="top"></td><td style="font: inherit; color: inherit;" valign="top"></td></tr><tr><td style="font: inherit; color: inherit;" valign="top"></td><td style="font: inherit; color: inherit;" valign="top"></td></tr></tbody></table>
หัวโขนหนุมานฌาณกล้าสร้างด้วยกระดาษสาจารอักขระเลขยันต์ เขี้ยวมุก ฟันมุก ตามุก ตั้งเครื่องเขียนสีพลีกรรมครบถ้วนตามแบบโบราณทราบค่าใช้จ่ายที่แน่นอนแล้ว ผู้ต้องการชำระค่าใช้จ่ายได้ ใครจ่ายก่อนสร้างให้ผู้นั้นก่อนเพียง ๑๙ ฅนเท่านั้น รับมอบประสิทธิพร้อมกันวันเถลิงนักษัตร

สวัสดี แม้จะเป็นหัวโขนเล็กแต่ราคาไม่เล็ก

ศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ
๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕​

 

เรียนพี่วีระ

ผมขออนุญาต แสดงหลักฐานการโอนเงินตามรายละเอียดที่แจ้งทาง PM ครับ

ขอบคุณครับ

 

วัตถุมงคลรูปเคารพ พระแม่กาลีพระพิราพ ทั้งเนื้อผงและเนื้อโลหะนับว่าเป็นสุดยอด วัตถุมงคลแห่งยุค ๘ ยิ่งในช่วงปี ๒๕๕๕ นี้ นับว่ายิ่งมีความสำคัญ ผู้ที่ได้บูชาจะได้รับการคุ้มครอง ให้รอดพ้นจากพลังลบ อันได้แก่ อำนาจจาก ลมเพลมพัด คุณไสย

มายาศาสตร์ มนต์ดำ ภูติผีปีศาจ หรือพลังร้ายอันเกิดจากฮวงจุ้ย พลังร้ายอันเกิดจากดาวนพเคราะห์ พลังร้ายอันเกิดจากการต้องอาถรรพณ์ หรือ ด้วยมีไฝ ปาน จุดตำหนิ ที่เป็นอาถรรพณ์ ส่งผลร้ายต่อเจ้าตัว

ผมมี เรื่องเล่าประสบการณ์ เกี่ยวกับพระแม่กาลีพระพิราพ ด้วยว่า มีผู้อ่านท่านนึงนับถือบูชาพระแม่กาลี แล้วเกิดอาการรุ่มร้อน กระวนกระวายใจ มีอันต้องไปหาชายอื่น ที่ไม่ใช่สามีมาสมสู่ จนเจ้าตัวรู้สึกทุกข์ร้อนกับอาการที่เกิดขึ้นแบบนี้

ที่สุดก็โทรมา ปรึกษาผม จึงแนะนำเธอผู้นั้นตามคำสั่งสอนของพ่อครูไปว่า ให้หมั่นถือศีล กินมังสวิรัติ ในวันเกิดของตัวให้ได้ พอครั้งแรกที่เธอผู้นี้ได้ฟังวิธีแก้ไขเบื้องต้นไป ก็รู้สึกขนลุกปีติและเกิดศรัทธาในพ่อครูตั้งแต่ยังไม่เห็นตัว

จาก นั้นผมนำเรื่องนี้ เรียนให้พ่อครูท่านทราบ ถึงความทุกข์ของหญิงสาวผู้นี้ ท่านเมตตาให้ภาพพระแม่กาลีหลังพระพิราพ และพระผงพระแม่กาลีพระพิราพเนื้อสีเหลือง หลังจากที่ส่งวัตถุอันเป็นมงคลไปแล้ว ปรากฏว่าหญิงสาวผู้นี้โทรมาขอบคุณผม

เป็นการใหญ่พร้อมเล่าให้ฟังว่า

๑ ตัวเองสามารถตกลงกับชายคนอื่นๆที่เคยมายุ่งเกี่ยวได้หมด ไม่ต้องเกรงกลัวว่าจะมีปัญหาครอบครัวขึ้นมา

๒ รู้สึกเย็น รู้สึกว่าความปรารถนาที่ร้อนแรงลดลง บังเกิดความร่มเย็นเป็นสุขในจิตใจตนเองและทำให้สามีและลูกมีความสุขมีความ สามัคคีในครอบครัว

๓ ดีมากเรื่องลาภผลการเงิน

ซึ่งหลังจาก นั้นไม่นานหญิงสาวผู้นี้ก็โทรมาเพื่อขอบูชาพระแม่กาลีพระศิวะนาฏราชเนื้อผง แดงเพิ่มอีก ๑ องค์ด้วยความศรัทธาเชื่อมั่นอย่างจริงใจ

ในยุคนี้หรือ ยุคไหนๆก็มีพลังเหนือโลกแฝงเร้นและส่งผลทั้งทางตรงทางอ้อม ยิ่งในปัจจุบันทางโหราศาสตร์ฮวงจุ้ยถือว่าโลกเข้าสู่ยุค ๘ กินเวลาถึง ๒๐ ปี เป็นยุคประตูผีเปิด ไสยศาสตร์ระบาดหนัก จึงยิ่งเป็นช่วงเวลาที่ต้องหาครูดี และของดีไว้คุ้มครองตัว

จะได้พ้นจากอำนาจมืด พลังลบที่มองไม่เห็น การบูชาพระเป็นเจ้าในรูปของพระแม่กาลี ถ้าบูชาไม่ถูกหลักขาดความรู้ ไม่สามารถควบคุมตัว ชีวิตจิตใจได้ก็อาจเกิดผลที่เราไม่ปรารถนาทำให้จิตใจวุ่นวายรุ่มร้อนขึ้นได้

โชค ดีที่บารมีของพ่อครูแผ่ไปถึงหญิงสาวผู้นี้ ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้ว่าจะไปโดนใครต่อใครหลอก ให้เสียสิ่งที่ไม่ควรเสียไม่ว่า เวลา เงินทองและเนื้อตัวอีกมากต่อมากเท่าใด

ขอคุณครูจงรักษาให้ข้าพเจ้าอยู่เย็นเป็นสุข

 

ผมอายุ18ปีอยากเช่าพระพิราพของพระอาจารย์ศิริพงศ์ครับ(ถูกโฉลกและศรัทธา)
ไม่ทราบว่ามีราคาแบบไหนที่พอเก็บได้บ้างครับช่วงนี้ตามเก็บพระพิราพพระอาจารย์ศิริพงศ์และพระพิราพหลวงปู่กาหลงอยู่ครับ

 

ส่งข้อความส่วนตัว(PM) ไปแล้วนะครับ ..........