ลำนำเพลงรักของนักกลอน

สวดมนต์ข้ามปีที่บ้าน ที่สกลนครค่ะ
ทีแรกคิดว่าจะไปไหนดี ระหว่างวัดพระธาตุเชิงชุม กับวัดป่าสันติธรรม
แต่ด้วยอากาศที่เย็นจัด
อยู่บ้านน่าจะดีที่สุดค่ะ
ป่านนั้น ก็ยังได้ยินเสียงพระเท่านให้พร
เป็นอะไรที่มีความสุขมากค่ะ

 

<object width="960" height="720"><param name="movie" value="//www.youtube.com/v/HBmiz3wLvxQ?hl=;autoplay=1&amp;version=3"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="//www.youtube.com/v/HBmiz3wLvxQ?hl=;autoplay=1&amp;version=3" type="application/x-shockwave-flash" width="960" height="720" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>​

รับพรอันเป็นมงคลจากพ่อหลวงของปวงชนชาวไทยครับ

ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ​

 

สวัสดีปีใหม่คิดหวังสิ่งใดเป็นมงคลแล้วไซร้ให้สมดั่งใจเทอญ

 

ด้วยรัก....
ภาพนี้แทนคำพูดได้นับพันคำ
ฉันรักเธอนะ ห่วงใย...ดูแลตัวเองด้วยล่ะ

 

ฉันรักเธอนะ ...

 

ช่วงปีใหม่ สงสารน้องหมาที่สุดค่ะ
คนยิงปืน จุดพลุ จุดประทัด
น้องหมาที่บ้านกลัวมากๆ

 

สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้
ได้ไปกราบพระอาจารย์
ท่านเมตตาเล่าเรื่องของหลวงปู่ภูพานให้ฟัง
ก็เลยเกิดความสนใจใคร่รู้เพิ่มเติมค่ะ

 

พระครูปลัดศรีธรรมวัฒน์ (พระเจนยุทธนา จิรยุทโธ)หรือบุคคลทั่วไปเรียกว่า “หลวงปู่ภูพาน” เกิดเมื่อ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๐๒ บุตรของนายเจน- นางศรีสะอาด เดชจุ้ย สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษา ม.ศ.๓ ปี ๒๕๑๘ จากโรงเรียนสกลราชวิทยานุกูล และศิลปศาตรบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ปี ๒๕๔๕ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ได้บรรพชาเป็นสามเณร ปี พ.ศ. ๒๕๑๙ โดยหลวงปู่สังข์ เจ้าคณะตำบลมหาชัย อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์เป็นพระอุปัฌาย์ ได้จำพรรษาเพื่อปฏิบัติหลวงปู่สังข์และปฏิบัติธรรมอยู่วัดแก้งกะอาม เป็นเวลาประมาณ ๑ เดือนก็ขออนุญาตออกธุดงค์ไปตามป่าเขาต่างๆ ปฏิบัติธรรมอย่างหนักตลอดระยะเวลาประมาณ ๔ ปี การปฏิบัตินั้นได้รับผลขึ้นตามขั้นตอน สามารถใช้ชีวิตกลางป่าเขา ถ้ำที่มีอันตรายอย่างยิ่งได้อย่างปลอดภัยราบรื่น เพียงเดือนเดียวก็สามารถเข้าวิเวกในป่าเพียงองค์เดียวในป่าลึก ชาวบ้านที่พบเห็นต่างพากันเชื่อว่าท่านต้องเป็นผู้ทรงคุณธรรมวิเศษจึงบอกเล่าต่อกันมา พากันเรียกขานท่านว่า”หลวงปู่ภูพาน” ในตอนแรกท่านก็ไม่ยอมรับชื่อนี้ แต่ไม่ทัดทานความเชื่อถือของชาวบ้านได้ ก็จำต้องปล่อยให้บุคคลทั่วไปใช้นามว่า”หลวงปู่ภูพาน” ระยะต่อมากำลังมีการก่อสร้างพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ เจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่กำลังอยู่ในโครงการก่อสร้างได้นิมนต์ท่านมารับบิณฑบาตที่พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ และได้สร้างกุฎีหลังเล็กๆ ให้จำพรรษาที่สำนักสงฆ์ภูดินแดงซึ่งไม่ไกลจากหมู่บ้านนัก เมื่อท่านมีอายุครบอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เจ้าหน้าที่จึงนำเรื่องกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงทราบฯ ทรงพระกรุณาพระราชทานเครื่องอัฐบริขาร อุปสมบทเป็นพระภิกษุ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกายที่วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร ได้รับฉายา”ฉนทธมโม” โดยพระเทพวิมลเมธี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูวิจิตรสกลการเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระมหาสมศักดิ์ฯ เป็นพระอนุศาสนาจารย์ เป็นเวลา ๓ ปี จากนั้นได้เปลี่ยนญัตติเป็นพระภิกษุ สังกัดสำนักสงฆ์คณะธรรมยุตที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ด้วยเหตุผลที่ว่าแนวทางที่คณะธรรมยุตประพฤติตามท่ได้ศึกษามาต้องกับอุปนิสัยของท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปฏิปทาของหลวงปู่เสาร์ กนตสีโลและหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต โดยสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก (วาสนมหาเถระ) ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์จารย์ พระราชสิทธิโมลีเป็นพระกรรมวาจาจารย์ เจ้าคุณมหาคณิสรเป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาใหม่ว่า”จิรยุทโธ” จำพรรษาที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ๕ พรรษา จากนั้นก็กลับมาจำพรรษาอยู่ ณ วัดป่าภูดินแดง ตำบลพังขว้าง อำเภอเมืองสกลนครเป็นต้นมาถึงปัจจุบัน ท่านได้ทำงานเพื่อศาสนา การทำงานและผลงานเพื่อการพัฒนาชุมชนของท่าน ด้วยเมตตาจิตของท่าน กอปรกับกำลังศรัทธาของศิษยานุศิษย์จึงทำให้เกิดผลงานพัฒนาชุมชนขึ้นในจังหวัดสกลนครและจังหวัดใกล้เคียงในด้านต่างๆ ดังต่อไปนี้

 

(๑.)ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและการพัฒนาจิตใจของประชาชน ท่านเป็นผู้ศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างมั่นคง มีวัตรปฏิบัติชอบอยู่เสนาสนะอันสงบเงียบ เมื่อเข้าถึงธรรมชาติจึงได้เข้าใจธรรมะ จึงใช้ความรู้ความสามารถทางด้านพุทธศาสนาเป็นกุศโลบายในการสร้างความสัมพันธ์กับชุมชน โดยเริ่มต้นทำนุบำรุงวัดที่มีอยู่แล้วในชุมชน โดยกระตุ้นให้ประชาชนร่วมใจกันสร้างศาลา วัด โบสถ์ วิหาร ถวายพระประธาน จัดงานประเพณีเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา บรรยายธรรมและขยายไปถึงส่วนราชการ โรงเรียน สถาบันการศึกษาในจังหวัดสกลนครและจังหวัดใกล้เคียง ดังจะเห็นได้จากบทบาทด้านต่างๆ ดังนี้ (๑.๑) การเป็นวิทยากร วิทยากรบรรยายให้กับสถาบันการศึกษา ประชุมสัมมนาและวันสำคัญต่างๆ ในส่วนราชการ หน่วยงานและองค์กรเอกชน เป็นวิทยากรถวายความรู้พระสงฆ์ในการประชุมพระสังฆาธิการทุกระดับภาค ๘ (เขตจังหวัดสกลนคร) “บทบาทของพระสงฆ์กับการช่วยเหลือประชาชน” อบรมพระนวกะ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม (๑.๒)การแสดงพระธรรมเทศนาและบรรยายธรรม (๑.๓)การเผยแพร่พุทธศาสนาด้วยสิ่งพิมพ์ เป็นวิทยากรการแสดงพระธรรมเทศนาแล้วนำเอาหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าประยุกต์เข้ากับเหตุการณ์ปัจจุบันในสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ เช่น หนังสือพิมพ์ โปสเตอร์ เอกสาร เพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้อ่านเข้าใจปรับตัวเองให้อยู่รอดในสภาวะความวุ่นวายในปัจจุบัน โดยเฉพาะทุกสิ่งพิมพ์จะกระตุ้นให้คนไทยรักชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ สิ่งพิมพ์จะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนและผู้ศรัทธา (๑.๔)การทำนุบำรุงวัดและการสร้างถาวรวัตถุ แม้จะเป็นพระสายปฏิบัติ แต่เนื่องจากเห็นว่าประชาชนในท้องถิ่นยังต้องการถาวรวัตถุทางพระพุทธศาสนา เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวในเบื้องต้นจึงได้ดำเนินการสร้างและปรับปรุงวัดในชนบทที่ขาดแคลนและห่างไกลความเจริญหลายแห่ง

 

(๒.)ด้านการสาธารณสุขพื้นฐานและสาธารณูปโภค ได้พัฒนาชุมชนและท้องถิ่น โดยให้ประชาชนยึดมั่นตามแนวทางพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นจุดหลักสำคัญของสังคมไทย กระตุ้นให้ผู้นำชุมชนได้มีบทบาท ได้รวบรวมความสามัคคีและความคิดจากชาวบ้านเพื่อดำเนินกิจกรรมต่างๆ ส่งเสริมให้มีการสร้างศาลาอนามัยประจำหมู่บ้านและโรงเรียนในชุมชน พร้อมทั้งอุปกรณ์ปฐมพยาบาล เวชภัณฑ์ โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสกลนคร

 

(๓.)ด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้านและภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นผู้นำในการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางโดยได้ก่อตั้ง”ศูนย์อนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นบ้านหทัยภูพาน” ขึ้นภายในวัดโนนสวรรค์ ประกอบด้วยบ้านทรงไทยอีสานและรวบรวมศิลปวัตถุโบราณ เครื่องใช้ประจำบ้านตั้งแต่สมัยโบราณ ให้ความร่วมมืออำนวยความสะดวดในการจัดนิทรรศการ จัดขบวนแห่งานประเพณี การแสดงทางวัฒนธรรมของชาวบ้าน โรงเรียน สถาบันการศึกษา องค์การต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ

 

(๔.)ผลงานทางด้านอนุรักษ์วัฒนธรรม จัดตั้งชมรมปราสาทผึ้งโบราณ บ้านโนนสวรรค์ อำเภอเมืองสกลนคร, ให้การสนับสนุนจังหวัดในการจัดวัฒนธรรมประเพณีเพื่อการต้อนรับแขกเมืองบุคคลสำคัญ เช่น สนับสนุนจัดบายศรีสู่พระขวัญ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถและพระบรมวงศานุวงศ์เมื่อเสด็จแปรพระราชฐานประทับแรม ณ พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ ขบวนวัฒนธรรมประเพณีอีสานเพื่อถวายการต้อนรับสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ ๒ แห่งสหราชอาณาจักรและเจ้าฟ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินบะระ พระราชสวามี เนื่องในวโรกาสเสด็จพระราชดำเนินเยือนจังหวัดสกลนครอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ ๓๑ ตุลาคม – ๑ พฤศจิกายน ๒๕๓๙, จัดขบวนวัฒนธรรมสกลทวาปี ในอดีตนำขบวนแห่ปราสาทผึ้งทุกๆ ครั้งในวันออกพรรษา, จัดการแสดงแสงสีเสียงและสื่อผสมประวัติเมืองสกลนครในงานกาชาดประจำปี จังหวัดสกลนคร, จัดการแสดงแสงสีเสียงและสื่อผสม ชุดภูวา- นากระแด้งและขบวนถวายเครื่องราชสักการะ (ปีกาญจนาภิเษกทรงครองราชย์ ๕๐ พรรษา ๒๕๒๙), จัดการแสดงแสงสีเสียง ตำนานนิทานพื้นบ้านเรื่อง ผาแดง-นางไอ่ ณ วัดพระธาตุนารายณ์เจงเวง, สนับสนุนจัดแสดงตำนานนิทานพื้นบ้าน เรื่องผาแดง-นางไอ่ ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร, สนับสนุนการเดินทางไปเผยแพร่วัฒนธรรมพื้นบ้าน ณ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์, จัดการแสดงแสงสีเสียงและสื่อผสม ออนซอนอีสานครั้งที่ ๑ (ปี ๒๕๔๕) ครั้งที่ ๒ (ปี ๒๕๔๖) และชุดเทิดไท้องค์ราชินีครบรอบ ๗๒ พรรษา, มอบผ้าไหม ผ้าพื้นเมือง เครื่องประดับที่ได้รับบริจาคจากหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ให้กับวิทยาลัยนาฏศิลป์ร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นผู้เก็บรักษาเพื่อใช้ในการเรียนการสอนและเป็นศูนย์เผยแพร่วัฒนธรรมท้องถิ่นอีสานต่อไป

 

(๕.)ด้านส่งเสริมอาชีพชาวบ้านในชุมชน ส่งเสริมสนับสนุนศูนย์ศิลปาชีพในพระราชดำริสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ, สร้างบ้านไทอีสาน เพื่อเป็นที่ประทับทรงงาน ณ บ้านบ่อเดือนห้า อำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร, สร้างอาคารเอนกประสงค์ให้กลุ่มเย็บจักร บ้านกวนบุ่น ตำบลจันทร์เพ็ญ อำเภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร, ตกแต่งภายในอาคารผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานสนามบินจังหวัดสกลนคร