ลดกระหน่ำปีใหม่..วัตถุมงคล.ทั่วประเทศ และเกจิอื่นๆ..เริ่มหน้า61เป็นต้นไป

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ญาณวโร นามะ, 26 มิถุนายน 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที39 เหรียญกรมหลวงชุมพรฯ ปี20 หลวงพ่อฤาษีลิงดำ สภาพสวยแชมป์ เปิดบูชาองค์ละ 450 บาท รับประกันแท้ตลอดชีวิต
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0512.JPG
      IMG_0512.JPG
      ขนาดไฟล์:
      55.1 KB
      เปิดดู:
      76
    • IMG_0513.JPG
      IMG_0513.JPG
      ขนาดไฟล์:
      52.3 KB
      เปิดดู:
      74
    • IMG_0514.JPG
      IMG_0514.JPG
      ขนาดไฟล์:
      61.8 KB
      เปิดดู:
      80
  2. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที40 หลวงปู่ทวด วัดห้วยมงคล เนื้อว่านพร้อมกล่อง เปิดบูชาองค์ละ 69 บาท รับประกันแท้ตลอดชีวิต
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0445.JPG
      IMG_0445.JPG
      ขนาดไฟล์:
      40.2 KB
      เปิดดู:
      220
    • IMG_0446.JPG
      IMG_0446.JPG
      ขนาดไฟล์:
      55 KB
      เปิดดู:
      212
    • IMG_0447.JPG
      IMG_0447.JPG
      ขนาดไฟล์:
      54.4 KB
      เปิดดู:
      215
  3. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    ******UPDATEพระที่ยังเหลือให้บูชา******

    รายการที1 เหรียญหลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม กะไหล่เงิน ปี 22 สภาพสวยกริ๊บ เปิดบูชาองค์ละ 150 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>
    รายการที2 เหรียญเสมาหลวงพ่อคง วัดเขาสมโภชน์ จ.ลพบุรี หลังพระพุทธเจ้าเปิดโลก สภาพสวย เปิดบูชาองค์ละ 150 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>
    รายการที3 รูปหล่อหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พร้อมกล่องเดิม สภาพสวย เปิดบูชาองค์ละ 150 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>
    รายการที4 เหรียญหลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก รุ่นเมตตา เนื้อนวโละ พร้อมกล่องเดิม สภาพสวย เปิดบูชาองค์ละ 400 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>รายการที5 เหรียญหลวงพ่อโอภาสี ศิษย์สร้างถวาย สภาพสวย เปิดบูชาองค์ละ 120 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>
    รายการที6 รูปหล่อหลวงปู่ทวด พร้อมกล่องเดิม สภาพสวย เปิดบูชาองค์ละ 150 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>
    รายการที8 พระกริ่งพระพุทธโสธร วัดพิกุลเงิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี **รุ่น 1** หลวงพ่อแฉ่ง และเกจิชื่อดังร่วมปลุกเสก ตอกโค๊ต ชื่อวัด ใต้ฐาน เนื้ออัลปาก้า เปิดบูชาองค์ละ 530 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>
    รายการที8 หรียญสมเด็จโตฯ 118ปี วัดระฆัง กะไหล่ทองเดิม พร้อมกล่องเดิมครับเปิดบูชาองค์ละ 330 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>
    รายการที9 สมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่สร้างโดยพระครูโฆษิตสมณคุณเมื่อ ๒๖ กันยายน ๒๕๓๘ ด้านหลังตรายางชัด เปิดบูชาองค์ละ 320 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต

    <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>รายการที10 ปรกใบมะขาม หลวงปู่ม่น เนื้อเงิน พร้อมกล่องเดิมครับ เปิดบูชาองค์ละ 350 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    </fieldset>
    รายการที11 พระผงหลวงพ่อเกษม รุ่นบารมี81 พร้อมกล่องเดิมครับ เปิดบูชาองค์ละ 199 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต
    หลวง พ่อเกษม เขมโก เป็นพระสงฆ์ที่ปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นโดยแท้จริง อันจริยาวัตรของท่านหลายอย่างยังคงเป็นคำกล่าวขวัญกันอยู่ อย่างเช่น การขบฉันของท่าน ท่านก็ฉันแต่น้อย สองสามวันท่านจะฉันเพียงมื้อเดียวโดยท่านฉันรวม คือของคาวและของหวานเทรวมกัน บางครั้งท่านยังฉันข้าวบูดอีก ท่านนั่งบริกรรมกลางแดดในฤดูร้อนจนผิวหนังไหม้ ท่านนั่งบริกรรมท่ามกลางสายฝนในหน้าฝน ท่านนั่งบริกรรมท่ามกลางอากาศหนาวเย็นของภาคเหนือ ตลอด ๓ เดือนเต็ม (นั่งบริกรรมกลางแจ้งโดยไม่เข้าร่มเลย) เคยมีผู้สอบถามหลวงพ่อถึงสาเหตุที่ท่านนั่งบริกรรมกลางแจ้ง ท่านก็ตอบว่า " เพื่อให้รู้เหตุของทุกข์ จะได้รู้จักการหลุดพ้นทุกข์ " และที่น่าแปลกอีกอย่างก็คือ ระยะเวลาใน ๑ ปี หลวงพ่อจะอาบน้ำเพียงครั้งเดียว และนับจากปี ๒๕๑๔ เป็นต้นมาท่านก็มิได้อาบน้ำอีกเลย แต่ท่านกลับไม่มีกลิ่นตัว ไม่มีเหงื่อ แม้ว่าท่านจะออกนั่งภาวนาตากแดดก็ตามที เท่าที่ดูแล้วหลวงพ่อท่านกลับมีผิวพรรณผ่องใส ซึ่งท่านคงต้องเป็นผู้ตอบเองว่า เพราะอะไร และเป็นเพราะเหตุนี้กระมัง วัตถุมงคลที่ผ่านการอธิฐานจิตจากท่านจึงมีอานุภาพสูง แม้ว่าหลวงพ่อท่านจะละสังขารไปแล้วก็ตามที พระผงรุ่น บารมี 81 จัดสร้างเมื่อ 28 พย. พ.ศ.2535 เป็นพระผงยอดนิยมของท่านและของวงการพระเครื่อง มวลสารศักดิ์สิทธิ์ต่างๆมากมาย สภาพสวย ดูง่ายสบายใจ พร้อมกล่องเดิมจากวัด <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>รายการที12 พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อเกษม ปี29 พร้อมกล่องเดิมครับ เปิดบูชาองค์ละ 199 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>
    รายการที13 เหรียญรุ่นสร้างกุฏิ หลวงพ่อบ่ายวัดช่องลม ปี 20 เปิดบูชาองค์ละ 179 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>รายการที14 เหรียญกรอบรูป 5 รอบ หลวงพ่อเกษม เปิดบูชาองค์ละ 349 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>
    รายการที15 เหรียญหลวงพ่อเกษม 12 นักษัตร เหรียญทองแดงขัดเงา โรงกษาปณ์เมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลียเหรียญ 12 ราศี กันชง ได้ทุกปี เปิดบูชาองค์ละ 1420 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>
    รายการที16 เหรียญในหลวงครองราชย์ 50 ปี สภาพสวยพร้อมกล่องเดิม เปิดบูชาองค์ละ 99 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>รายการที17 เหรียญหลวงปู่บุดดา ถาวโร ปี31 สภาพสวย สำนักสงฆ์สองพี่น้อง เปิดบูชาองค์ละ 350 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>
    รายการที18 เหรียญที่ระลึกทอดผ้าป่า ปี18 หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช ตอกโค๊ตตัว ท รมดำเปิดบูชาองค์ละ 300 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>
    รายการที19 เหรียญสมเด็จโต พรหมรังสี รุ่น118ปี พิมพ์ใหญ่ เปิดบูชาองค์ละ 280 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>
    รายการที21 สมเด็จหลวงพ่อเปิ่นขี่เสือฝังตะกรุด พร้อมกล่อง เปิดบูชาองค์ละ 99 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>
    รายการที22 เหรียญหลวงพ่อเดิมย้อนยุค ออกปี52 ที่วัดหนองโพธิ์ สภาพสวย เปิดบูชาองค์ละ 99 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>
    รายการที24 หลวงปู่ทวดรุ่น 5 แช๊ะ หน้าแมว(อาปาเช่) (กรรมการ)สภาพสวย พร้อมกล่องเดิมๆ เปิดบูชาองค์ละ 1300 รับประกันแท้ตลอดชีวิต
    ประสบการณ์อันลือลั่น ยิง 5 ครั้งยังแช๊ะ เลยชื่อรุ่นว่า 5 แช๊ะ
    <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG] [​IMG] </fieldset>รายการที25เหรียญหลวงปู่ศรี ด้านหลังหลวงปู่เย็น วัดสระเปรียญ เปิดบูชาองค์ละ 350 บาท รับประกันแท้ตลอดชีวิต
    หลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ ท่านเป็นอาจารย์ใหญ่ทางวิปัสสนากรรมฐานที่พระเกจิดังๆหลายรูปมาเรียนวิชากับ ท่านเช่นหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม หลวงพ่อทอง วัดพระปรางค์และอีกหลายองค์ <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG]</fieldset>
    รายการที26 รูปถ่ายหลวงพ่อจรัญนวกะ หน้าหลวงพ่อเดิม ขอบกระจกพร้อมเลี่ยมเดิมๆ เปิดบูชาองค์ละ 550 บาท รับประกันแท้ตลอดชีวิต <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG]</fieldset>
    รายการที30 พระสมเด็จพุทธไชยศรี พิมพ์สมเด็จปรกโพธิ์ ว่าน ๑๐๘ หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว ปี ๒๕๑๘ สวยเปิดบูชาองค์ละ 1600 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต
    พระ สมเด็จพุทธไชยศรี พิมพ์สมเด็จปรกโพธิ์ ว่าน ๑๐๘ หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ปี ๒๕๑๘ พระสภาพสวยสมบูรณ์ ปลุกเสก 3 วาระ ชุมนุมยอดพระเกจิอาจารย์จากทั่วประเทศ ร่วมพุทธาภิเษก ณ.วัดกลางบางแก้ว อาทิ หลวงปู่เขียว วัดหรงบน หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม พระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ วัดดอนศาลา หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงพ่อแสง วัดคลองน้ำเจ็ด หลวงพ่อบุญมี วัดอ่างแก้ว หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู หลวงพ่อคลิ้ง วัดถลุงทอง หลวงพ่อสุด วัดกาหลง หลวงพ่อคูณ วัดสระแก้ว หลวงพ่อเส็ง วัดบางนา หลวงพ่อทอง วัดก้อนแก้ว ฯลฯ <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>รายการที31 กระดานพิมพ์ปรกโพธิ์ เนื้อตะกั่วเก่า หลวงพ่อนารถ วัดศรีโลหะฯ จ.กาญจนบุรี ออกปี 2520 สวยเปิดบูชาองค์ละ 350 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>รายการที32 เหรียญเสมาเล็กหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม สภาพสวยเปิดบูชาองค์ละ 150 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>
    รายการที32 เหรียญในหลวง พระชนมายุ 72 พรรษา เนื้ออัลปาก้า สภาพสวยเปิดบูชาองค์ละ 250 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต


    เหรียญ อาร์มที่ระลึกในหลวง พระชนมายุ 72 พรรษา เนื้ออัลปาก้า กระทรวงมหาดไทย สร้าง ปี 2542 ด้านหลังเป็นตราสัญลักษณ์ ภปร. ออกโดยกระทรวงมหาดไทย เหรียญนี้สวยมาก ผิวเดิมๆ อนาคตดีมาก และไม่ค่อยได้พบเห็นมากนั้นเพราะสร้างน้อย เหรียญนี้บรรจุซองพลาสติกเดิมๆของกระทรวงมหาดไทยครับ
    <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>รายการที33 เหรียญในหลวง พระชนมายุ 72 พรรษา เนื้อเงิน สภาพสวยวิ้งๆๆเปิดบูชาองค์ละ 1750 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>รายการที34 เหรียญมหาเศรษฐี หลวงปู่แหวน สภาพสวยเปิดบูชาองค์ละ 120 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>รายการที36 เหรียญกรมหลวงชุมพรฯ ร.ล.ชุมพร หาดทรายรี ปี32 สภาพสวยแชมป์ ผิวปีกแมงทับ เปิดบูชาองค์ละ 200 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต
    <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>รายการที37 เหรียญกรมหลวงชุมพรฯ ร.ล.ชุมพร หาดทรายรี ปี36 สภาพสวยแชมป์ เปิดบูชาองค์ละ 200 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>รายการที37 แหนบที่ระลึกองค์พระปฐมเจดีย์ กะไหล่ทองลงยา สภาพสวยเปิดบูชาองค์ละ 100 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>รายการที30 เหรียญแจกแม่ครัว หลวงพ่อกวย กะไหล่ทอง ปี 52 สร้างย้อนยุค สวยเปิดบูชาองค์ละ 420 บาท (แถวพื้นที่เช่ากัน พันกว่าๆแล้วครับ) ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต
    เหรียญนี้มีประสบการณ์ครับคนมาเช่าที่วัดจนของหมดในเวลาแปปเดียว(ตอนนี้วัดไม่มีให้บูชาแล้วครับ)เหรียญนี้สวยแชมป์ไม่ผ่านการใช้
    <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>รายการที31 กริ่งหลวงพ่อโสธร พิมพ์หน้าใหญ่นิยม กะไหล่ทอง ปี49 พร้อมกล่อง สวยเปิดบูชาองค์ละ 120 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>รายการที32 รูปหล่อพระพุทธชินราช พิมพ์ต้อ ปี36 ออกวัดพระศรีฯพร้อมกล่องเดิม มีโค๊ตใต้ฐาน สวยเปิดบูชาองค์ละ 480 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต
    -พระพุทธชินราช รุ่น อินโดจีน (ย้อนยุค) เสาร์5 ออกโดยวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก ปลุกเสกพิธีใหญ่ เสาร์ 5 ปี 2536 องค์ นี้เป็นเนื้อทองเหลืองใต้ฐานตอกโค๊ตอกเลา โค๊ตเลข 5และโค๊ตธรรมจักร ขนาดฐานกว้างประมาณ 2 ซม.ความสูง 3.7 ซม. รูปร่างโดยทั่วไปจะเหมือนกับรุ่นอินโดจีนที่ ออกปี 2485 มากเพราะเป็นพิมพ์ย้อนยุค ท่านผู้ใดสนใจพระพุทธชินราชอยู่แล้วต้องการบูชาแต่ไม่สามารถเช่าหาบูชารุ่น อินโดจีน ปี 2485 ได้ ขอแนะนำพระพุทธชินราช รุ่น อินโดจีน (ย้อนยุค) เสาร์ 5 องค์นี้ครับ เพราะเจตนาการสร้างดี พิธีดีและยิ่งใหญ่ รับรองไม่ผิดหวังครับ <fieldset class="fieldset"> <legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG]
    </fieldset>
    รายการที33 รูปหล่อพระพุทธชินราช พิมพ์แต่ง ปี36 ออกวัดบวรพร้อมกล่องเดิม มีโค๊ต3จุด ตรงหลัง1จุดและใต้ฐาน2จุด องค์นี้ติดรางวัลที่3 งาน จปร. ที่พึ่งผ่านไป (ใบประกาศต้องรออีกประมาณ45วัน)พิเศษองค์นี้เนื้อนวะแก่ทอง ซึ่งสภาพนี้หายากครับ สภาพสวยเปิดบูชาองค์ละ 1850 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต(รูปถ่ายไม่สวยเท่าองค์จริง)
    พระ พุทธชินราช 80 พรรษา สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก วัดบวรนิเวศวิหาร มีพระเมตตาคุณประทานพระอนุญาตให้จัดสร้าง สิ่งมงคลสักการะพระพุทธชินราช ในวโรกาสฉลองครบรอบ 80 พรรษา พิธีีมหาพุทธาภิเษก-สมโภชน์ ครั้งยิ่งใหญ่ของเมืองพิษณุโลก ในรอบปี 2536 พิธีพุทธาภิเษกใหญ่ 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 1. พิธีพุทธภิเษก วันที่ 16 สิงหาคม 2536 ณ วิหารพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก และครั้งที่ 2. พิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดบวรนิเวศวิหาร โดยสมเด็จพระสังฆราชเป็นองค์ประธานในพิธีพระพุทธชินราชรุ่นนี้จัดสร้างด้วย กันทั้ง หมด 3 เนื้อ คือ 1. ทองคำ 2. เนื้อเงิน และ 3.เนื้อนวะ พระเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิวิทยาคุณทั่วประเทศ นั่งบริกรรมปลุกเสก พิธีกรรมเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ตามหลักโบราณจารย์สำหรับพระพุทธชินราช 80 พรรษา สมเด็จพระสังฆราช องค์นี้เป็นเนื้อนวโลหะแก่ทองครับ มีการตอก 3 โค้ดที่ใต้ฐานและที่ด้านหลังองค์พระ ยังไม่ผ่านการใช้งาน สภาพเดิม ๆ สวยงามมาก น่าสะสม เริ่มหายากแล้ว เก็บได้รีบเก็บ ท่านที่ชอบพระสวยรับรองไม่ผิดหวังครับองค์นี้สวย ผิวเดิมๆน่าบูชามากขนาดองค์พระสูง 3.7 ซ.ม. ฐานกว้าง 2.0 ซ.ม.บูชาพร้อมกล่องเดิมจากวัด <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>
    รายการที36 ปิดตามหาลาภ 7 รอบ หลวงพ่อเพี้ยนวัดเกริ่นกฐิน จ.ลพบุรี เนื้อเงิน สวยเปิดบูชาองค์ละ 280 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 กรกฎาคม 2011
  4. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที37 พระหลวงพ่อเงิน+หลวงพ่อเดิม รุ่นสร้างอุโบสถเงินล้าน วัดหนองจิก ปี36 พร้อมกล่องเดิม เปิดบูชาองค์ละ 550 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>รายการที38 รูปหล่อหลวงพ่อเงิน รุ่นฟ้าคำรณ ต๊อกโค๊ต พร้อมกล่องเดิม สภาพสวย สวยเดิมๆคราบเบ้าเพียบ เปิดบูชาองค์ละ 1200 บาท ราคาแบ่งเบาๆครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิต <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>รายการที39 เหรียญกรมหลวงชุมพรฯ ปี20 หลวงพ่อฤาษีลิงดำ สภาพสวยแชมป์ เปิดบูชาองค์ละ 450 บาท รับประกันแท้ตลอดชีวิต <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>รายการที40 หลวงปู่ทวด วัดห้วยมงคล เนื้อว่านพร้อมกล่อง เปิดบูชาองค์ละ 69 บาท รับประกันแท้ตลอดชีวิต <fieldset class="fieldset"><legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    </fieldset>
     
  5. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที41 เหรียญเสมา 7 รอบ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี เนื้อทองเหลือง พร้อมกล่อง เปิดบูชาองค์ละ 300 บาท รับประกันแท้ตลอดชีวิต
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0020.JPG
      IMG_0020.JPG
      ขนาดไฟล์:
      74.2 KB
      เปิดดู:
      83
    • IMG_0021.JPG
      IMG_0021.JPG
      ขนาดไฟล์:
      62.7 KB
      เปิดดู:
      75
    • IMG_0019.JPG
      IMG_0019.JPG
      ขนาดไฟล์:
      52.5 KB
      เปิดดู:
      71
  6. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    หลวงพ่อจรัญ รุ่น 7 รอบ (84 ปี) เปิดรับจองที่วัด อัมพวัน จ.สิงห์บุรี (จองได้ที่ใต้กุฎิหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม เท่านั้น ) จองที่วัดอัมพวันที่เดียวเท่านั้นไม่มีศูนย์จองครับ
    พระอุโบสถวัดอัมพวัน สร้าง 31 มีนาคม 2513 ในสมัยที่พระครูภาวนาวิสุทธิ์ (เจ้าอาวาสวัดอัมพวัน) โดยภายในมีพระพุทธชะโลธร พระประธานในโบสถ์แบบสุโขทัย ปางสะดุ้งมารเนื้อปูนปั้น สร้าง 4 ศอก 9 นิ้ว แท่นชุกชีแบบอยุธยา สร้างปิดทองปิดกระจกสลับแพรวแพรวระยับสะดุดนัยตาเป็นสถานที่หลวงพ่อจรัญ อธิฐานจิตในพระอุโบสถแห่งนี้ ในการสร้างวัตถุมงคล " ฉลองอายุวัฒนะมงคล 84 ปี (7รอบ)" ทีทางวัดได้อนุญาติให้พระครูวิมลสุตราภรณ์ดำเนินการจัดสร้างและเปิดจองวัตถุ มงคลรุ่นนี้ได้ที่ ใต้กุฎิหลวงพ่อจรัญ จิตธมฺโม แห่งเดียวเท่านั้นติดต่อพระครูสังฆรักษ์ธเนศ โทร 086-7987464 -แจ้งข่าวพิธีอธิฐานปลุกเสกวัตถุมงคลรุ่นฉลองาอายุวัฒนะ 84 ปี (7 รอบ) โดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระธรรมสิงหบุราจารย์ ในวันอังคารที่ 2 สิงหาคม 2554 ตรงกับขึ้น 3 ค่ำเดือน 9 เวลา 15.59 น. โดยมีพระสงฆ์ 9 รูป สวดธรรมจักร โดยมีพระครูปัญญาประสิทธิคุณ รองเจ้าอาวาสวัดอัมพวัน เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ติดต่อสอบถามสำนักงานวัดอัมพวัน โทร 03-659-9381 ,พระครูสังฆรักษ์ธเนศ โทร 086-798-7464 ,พระครูธรรมธรนิลพจน์โทร 086-798-2017 เปิดจองตั้งแต่บัดนี้จนถึง 31 กค 2554 รับวัตถุมงคล วันที่ 10 สิงหาคม 2554 ครับ รายการที่ 4.3 เหรียญเสมา ฉลอง 84 ปี (7รอบ) พระธรรมสิงหบุราจารย์ เนื้อนะวหน้าเงิน สร้าง1,084 องค์ -รายการที่ 4.4 เหรียญเสม 84 รอบ (7รอบ) พะธรรมสิงหบุราจารย์เนื้อเงินลงยา สร้าง 3,084 องค์ รายการที่ 4.1 เหรียญเสมาฉลอง 84 ปี( 7 รอบ) พระธรรมสิงหบุราจารย์ เนื้อทองคำ สร้าง 184 องค์ ตอนนี้ได้ทำการทุบบล็อคไปแล้วครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 141554.jpg
      141554.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45.5 KB
      เปิดดู:
      57
    • 2542522.jpg
      2542522.jpg
      ขนาดไฟล์:
      74.5 KB
      เปิดดู:
      58
    • 22424224.jpg
      22424224.jpg
      ขนาดไฟล์:
      74.9 KB
      เปิดดู:
      61
    • 25455205.jpg
      25455205.jpg
      ขนาดไฟล์:
      72.7 KB
      เปิดดู:
      60
    • 25424522424.jpg
      25424522424.jpg
      ขนาดไฟล์:
      65.9 KB
      เปิดดู:
      57
  7. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที42 เหรียญครึ่งองค์รูปไข่ 7 รอบ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี เนื้อทองเหลือง พร้อมกล่อง เปิดบูชาองค์ละ 300 บาท รับประกันแท้ตลอดชีวิต
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0030.JPG
      IMG_0030.JPG
      ขนาดไฟล์:
      55.9 KB
      เปิดดู:
      69
    • IMG_0031.JPG
      IMG_0031.JPG
      ขนาดไฟล์:
      54.9 KB
      เปิดดู:
      71
    • IMG_0029.JPG
      IMG_0029.JPG
      ขนาดไฟล์:
      46.7 KB
      เปิดดู:
      65
  8. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที43 เหรียญครึ่งองค์รูปไข่ 7 รอบ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี เนื้อทองแดง พร้อมกล่อง เปิดบูชาองค์ละ 300 บาท รับประกันแท้ตลอดชีวิต
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0033.JPG
      IMG_0033.JPG
      ขนาดไฟล์:
      57 KB
      เปิดดู:
      44
    • IMG_0034.JPG
      IMG_0034.JPG
      ขนาดไฟล์:
      55.2 KB
      เปิดดู:
      48
    • IMG_0032.JPG
      IMG_0032.JPG
      ขนาดไฟล์:
      50.3 KB
      เปิดดู:
      41
  9. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที44 เหรียญเสมา 7 รอบ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี เนื้อทองแดง พร้อมกล่อง เปิดบูชาองค์ละ 300 บาท รับประกันแท้ตลอดชีวิต
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0023.JPG
      IMG_0023.JPG
      ขนาดไฟล์:
      73.2 KB
      เปิดดู:
      70
    • IMG_0024.JPG
      IMG_0024.JPG
      ขนาดไฟล์:
      54.9 KB
      เปิดดู:
      76
    • IMG_0022.JPG
      IMG_0022.JPG
      ขนาดไฟล์:
      45.1 KB
      เปิดดู:
      74
  10. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที45 เหรียญเสมา 7 รอบ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี เนื้อทองแดงชุบทองลงยา พร้อมกล่อง ชุด3องค์ เปิดบูชาองค์ละ พีเอมหรือโทรถาม บาท รับประกันแท้ตลอดชีวิต
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0035.JPG
      IMG_0035.JPG
      ขนาดไฟล์:
      43.3 KB
      เปิดดู:
      62
    • IMG_0036.JPG
      IMG_0036.JPG
      ขนาดไฟล์:
      73.6 KB
      เปิดดู:
      71
    • IMG_0037.JPG
      IMG_0037.JPG
      ขนาดไฟล์:
      59.9 KB
      เปิดดู:
      65
    • IMG_0038.JPG
      IMG_0038.JPG
      ขนาดไฟล์:
      75.9 KB
      เปิดดู:
      63
    • IMG_0039.JPG
      IMG_0039.JPG
      ขนาดไฟล์:
      56.5 KB
      เปิดดู:
      63
    • IMG_0040.JPG
      IMG_0040.JPG
      ขนาดไฟล์:
      78.7 KB
      เปิดดู:
      70
    • IMG_0041.JPG
      IMG_0041.JPG
      ขนาดไฟล์:
      57.4 KB
      เปิดดู:
      56
  11. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที46 เหรียญครึ่งองค์รูปไข่ 7 รอบ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี เนื้อเงิน พร้อมกล่อง เปิดบูชาองค์ละ พีเอมหรือโทรถาม บาท รับประกันแท้ตลอดชีวิต
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0043.JPG
      IMG_0043.JPG
      ขนาดไฟล์:
      54.4 KB
      เปิดดู:
      64
    • IMG_0044.JPG
      IMG_0044.JPG
      ขนาดไฟล์:
      47.5 KB
      เปิดดู:
      62
    • IMG_0045.JPG
      IMG_0045.JPG
      ขนาดไฟล์:
      65.9 KB
      เปิดดู:
      65
  12. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที47 รูปเหมือน 7 รอบ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี เนื้อสัตตโลหะ พร้อมกล่อง เปิดบูชาองค์ละ 450 บาท รับประกันแท้ตลอดชีวิต
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0026.JPG
      IMG_0026.JPG
      ขนาดไฟล์:
      45.2 KB
      เปิดดู:
      92
    • IMG_0027.JPG
      IMG_0027.JPG
      ขนาดไฟล์:
      53.1 KB
      เปิดดู:
      77
    • IMG_0025.JPG
      IMG_0025.JPG
      ขนาดไฟล์:
      51.5 KB
      เปิดดู:
      83
  13. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที48 เหรียญเสมา 7 รอบ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี เนื้อทองแดงรมดำ พร้อมกล่อง เปิดบูชาองค์ละ 300 บาท รับประกันแท้ตลอดชีวิต
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0047.JPG
      IMG_0047.JPG
      ขนาดไฟล์:
      67.9 KB
      เปิดดู:
      69
    • IMG_0048.JPG
      IMG_0048.JPG
      ขนาดไฟล์:
      57.1 KB
      เปิดดู:
      69
    • IMG_0046.JPG
      IMG_0046.JPG
      ขนาดไฟล์:
      48.4 KB
      เปิดดู:
      68
  14. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที49 เหรียญเสมา 7 รอบ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี เนื้อนวะ พร้อมกล่อง เปิดบูชาองค์ละ พีเอมหรือโทรถาม บาท รับประกันแท้ตลอดชีวิต
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0049.JPG
      IMG_0049.JPG
      ขนาดไฟล์:
      58.6 KB
      เปิดดู:
      42
    • IMG_0050.JPG
      IMG_0050.JPG
      ขนาดไฟล์:
      60.3 KB
      เปิดดู:
      43
    • IMG_0051.JPG
      IMG_0051.JPG
      ขนาดไฟล์:
      50.9 KB
      เปิดดู:
      42
  15. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที50 ตะกรุด 7 รอบ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี พร้อมซอง เปิดบูชาองค์ละ 450 บาท รับประกันแท้ตลอดชีวิต
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0052.JPG
      IMG_0052.JPG
      ขนาดไฟล์:
      54.9 KB
      เปิดดู:
      117
    • IMG_0053.JPG
      IMG_0053.JPG
      ขนาดไฟล์:
      23.9 KB
      เปิดดู:
      108
  16. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที51 นางพญาพิมพ์ใหญ่ ชุดพรหมบุรี 2496 หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี เปิดบูชาองค์ละ พีเอมหรือโทรถาม บาท รับประกันแท้ตลอดชีวิต
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0121.JPG
      IMG_0121.JPG
      ขนาดไฟล์:
      26.4 KB
      เปิดดู:
      226
    • IMG_0122.JPG
      IMG_0122.JPG
      ขนาดไฟล์:
      23.6 KB
      เปิดดู:
      225
  17. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที52 สมเด็จเนื้อดินหลัง4ปาง หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี หายาก เปิดบูชาองค์ละ พีเอมหรือโทรถาม บาท รับประกันแท้ตลอดชีวิต
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0120.JPG
      IMG_0120.JPG
      ขนาดไฟล์:
      34.9 KB
      เปิดดู:
      226
    • IMG_0118.JPG
      IMG_0118.JPG
      ขนาดไฟล์:
      37 KB
      เปิดดู:
      216
  18. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที53 สมเด็จหลวงปู่นาควัดระฆัง พิมพ์แหวกม่าน ปี 2495 เนื้อผสมผงเก่าวัดระฆัง องค์นี้เนื้อจัด สวยๆ แท้ดูง่าย หายากแล้วครับ เปิดบูชาองค์ละ พีเอมหรือโทรถาม บาท รับประกันแท้ตลอดชีวิต
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    ประวัติพระเทพสิทธินายก (หลวงปู่นาค โสภณเถระ) วัดระฆังโฆษิตาราม กทม
    ย้อน หลังไปเมื่อกว่าแปดสิบปีก่อนโน้น ดินแดนแห่งที่ราบสูงนครราชสีมา หรือที่ชาวบ้านชาวเมืองเรียกติดปากมาจนบัดนี้ว่า "เมืองโคราช" เด็กชายนาคฯ ได้ถือปฏิสนธิ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ.2427 เวลา 19.10 น. เศษ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 9 ปีวอก จุลศักราช 1246 ท่านมาจากตระกูลและพื้นเพเดิมของผู้มีอันจะกินและมีบรรดาศักดิ์สูงของตระกูล "มะเริงสิทธิ" ปู่ทวดของท่านมียศบรรดาศักดิ์เป็นที่ "หลวงเริง" และปู่ของท่านแท้ ๆ คือ ขุนประสิทธิ์ (อยู่) นายอากรเมืองโคราชในยุคนั้น และย่าของท่านชื่อ ท่านฉิม บิดาของท่าน คือ นายป้อม มะเริงสิทธิ มารดาชื่อ นางสวน บุตรพระวิเศษ (ทองศุข) และท่านอิ่ม ท่านเป็นบุตรคนที่ 1 มีพี่น้องร่วมบิดามารดา 4 คน ชาย 2 คน หญิง 2 คน ดังนี้
    1.พระเทพสิทธินายก (นาค โสภณเถระ)
    2.พระภิกษุโชติ (ถึงแก่มรณภาพแล้ว)
    3.นางทุเรียน ประภาวดี
    4.นางอุดร จุลรัษเฐียร
    ใคร ก็รู้ ..... เมืองโคราชสมัยกว่าแปดสิบปีนั้น ห่างไกลจากกรุงเทพพระมหานครประหนึ่งคนละฟากฟ้า เพราะการคมนาคมไม่สะดวกเหมือนปัจจุบันนี้ การไปมายังไม่มีทางรถไฟและถนนหนทาง หลวงปู่นาคเล่าว่า เมืองโคราชสมัยที่ท่านยังเป็นเด็กนั้น ห่างตัวเมืองออกไปเล็กน้อยล้วนแต่เป็นป่าเปลี่ยว มีแต่สัตว์ป่าที่ดุร้ายนานาชนิด ทางเดินที่จะผ่านเข้าสู่เมืองหลวงกรุงเทพพระมหานครเป็นป่าดงพงพีทุระกันดาร อย่างแสนสาหัสจนเรียกกันว่า "ดงพญาเย็น - ดงพญาไฟ" ซึ่งผู้คนจำนวนไม่น้อยมาพบจุดจบเมื่อผ่านดงมหาภัยแห่งนี้ ปัจจุบันคนที่เกิดในยุคนี้อาจไม่รู้จักหรือลืมชื่อเสียแล้ว
    เด็กชาย นาค มะเริงสิทธิ เหมือนกับลูกชาวบ้านชาวเมืองทั้งหลายที่เจริญวัยขึ้นมา อยากหาความรู้ใส่ตัวเพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่วงศ์ตระกูล แต่โคราชยังไม่มีโรงเรียนเกิดขึ้น มีแต่วัดวาอารามเท่านั้น พ่อแม่จึงส่งเด็กชายนาค ฯ มาฝากไว้กับพระครูสังฆวิจารย์ (มี) ซึ่งเป็นลุงของท่านที่วัดบึงใกล้ประตูชุมพลเดี๋ยวนี้ ซึ่งท่านได้สั่งสอนวิชาให้ตามสมควร ท่านจึงได้บวชเป็นสามเณรตั้งแต่นั้นมา อาศัยที่ท่านเป็นคนฉลาดเล่าเรียนเก่ง พระอาจารย์ที่เป็นครูสั่งสอนภาษาบาลีและภาษาไทย จึงแนะแนวทางให้ท่านเดินทางเข้ามาศึกษาต่อในสำนักดี ๆ ในกรุงเทพฯ เพื่อความเจริญรุ่งเรืองต่อไป
    สามเณรนาค อายุ 13 ปี หาโอกาสเดินทางอยู่เป็นเวลาแรมเดือน จึงสบโอกาสเมื่อมีกองคาราวานวัวต่างและเกวียนราว 30 กว่าคน จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ท่านจึงขอร่วมเดินทางมากับเขา ด้วยสมความตั้งใจ ท่านเล่าว่าตอนที่เดินทางมาหลายสิบวันนั้น ใกล้จะถึงเมืองสระบุรี ท่านได้เห็นกุลี (กรรมกร) เป็นจำนวนมากกำลังทำงานกรุยทางสร้างทางรถไฟอยู่แล้ว เมื่อถึงสระบุรีแล้วท่านรู้สึกไม่ค่อยสบาย จึงขอแยกจากกองคาราวาน เข้าขอฝากตัวเป็นศิษย์กับพระภิกษุรูปหนึ่งในวัด "ทองพุ่มพวง" อำเภอเสาไห้ ซึ่งหลวงนิเทศ นายอำเภอเสาไห้ ผู้เป็นน้าช่วยอุปการะ ท่านอาศัยอยู่ในวัดนี้หลายเดือนและศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมต่อไปด้วย แต่ท่านก็มิได้ละความตั้งใจที่จะเข้าศึกษาพระธรรมวินัยในกรุงเทพฯ ให้ได้ในกาลข้างหน้า
    ท่านกล่าวว่า ต่อมาท่านได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ สมความตั้งใจ มีญาติในกรุงเทพฯ แนะนำพาท่านซึ่งยังเป็นเณรไปฝากไว้กับท่านอาจารย์เลื่อม ซึ่งเป็นพระลูกวัดของวัดระฆังโฆษิตาราม มีกุฏิอยู่หน้าวัดใกล้ปากคลอง และปัจจุบันนี้ได้สร้างเป็นโรงเรียนสตรีวัดระฆัง
    พระอาจารย์เลื่อม เป็นพระหลวงตาที่ชราภาพมาก และเคร่งครัดในพระพุทธศาสนา มีลูกศิษย์ลูกหามาก โดยที่ท่านเป็นพระสอนทางวิปัสสนากรรมฐาน ท่านเฝ้าสั่งสอนวิชาการต่าง ๆ ให้ด้วยความรักความเอ็นดู เพราะสามเณรนาคเป็นผู้ว่านอนสอนง่ายสมองปราดเปรื่อง
    ตอนนั้น .... ท่านเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆษิตาราม คือ พระธรรมโตรโลกาจารย์ ซึ่งต่อมาได้เลื่อนขึ้นเป็น สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ม.ร.ว.เจริญ อิศรางกูร) สมเด็จองค์นี้เป็นศิษย์ของสมเด็จองค์เก่า คือ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังษี) นั่นเอง พระธรรมไตรโลกาจารย์มองเห็นหน่วยก้านและบุคลิกลักษณะของสามเณรแล้ว พิจารณาเห็นว่าจะดีเด่นเป็นเอกในวันข้างหน้า ท่านจึงได้รับอุปการะและสั่งสอนในสำนักของท่านทั้งภาษาไทยและภาษาบาลี
    ความ เจริญรุ่งเรืองของบ้านเมืองสมัยนั้น เพิ่งจะเริ่มขึ้นชั่วคนละฟากข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา นับได้ว่าวัดระฆังฯ อยู่ใกล้กำแพงเมืองหลวงหรือเรียกกันว่าใกล้ปืนเที่ยงที่สุดวัดหนึ่ง วัดระฆังฯ มีอาณาเขตกว้างใกญ่ไพศาล รายล้อมไปด้วยสวนและนาอยู่ใกล้ ๆ เป็นดินแดนแห่งความสงบวิเวกวังเวง เหมาะสมที่จะบำเพ็ญพรตพรหมจรรย์ของภิกษุสงฆ์ ท่านเล่าว่า ท่านอาจารย์นวล ผู้เชี่ยวชาญทางภาษาบาลี เดิมเคยจำพรรษาอยู่สำนักวัดมหาธาตุ ได้ข้ามฟากมาสอนภาษาบาลีอยู่ในสำนักวัดระฆังฯ และเป็นอาจารย์ของท่านด้วย
    เมื่อ สามเณรนาคฯ มีอายุครบ 15 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าแปลเปรียญธรรม ประโยค 3 เป็นครั้งแรกต่อหน้าพระที่นั่งรัชกาลที่ 5 และกรรมการสงฆ์ล้วนแต่เป็นพระเถรานุเถระผู้ใหญ่ผู้ทรงสมณศักดิ์หลายรูป ปรากฏว่าสามเณรนาคฯ แปลได้เป็นเปรียญธรรมประโยค 3 ได้รับพระราชทานเครื่องไทยทานอัฎฐบริขารจากพระหัตถ์ของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 ด้วยองค์หนึ่ง

    สามเณรนาคฯ ได้เป็นมหาสามประโยคแล้วสมความตั้งใจ ท่านมิได้หยุดยั้งเพียงเท่านี้ คงพยายามศึกษาเล่าเรียนต่อไปจนเมื่ออายุครบ 21 ปี สามเณรนาคฯ เข้าแปลหน้าพระที่นั่งอีกครั้งหนึ่งและได้เปรียญธรรมประโยค 4 นับว่าสามเณรนาคฯ เป็นผู้คงแก่เรียนซึ่งหาได้ยากในยุคนั้น ซึ่งแต่ละครั้งที่เข้าสอบจะมีพระภิกษุและสามเณรสอบเปรียญได้เพียงไม่กี่รูป
    ระยะ นั้นท่านเจ้าอาวาส พระธรรมไตรโลกาจารย์ จึงทรงอุปการะบวชสามเณรนาค ผู้มีอายุครบบวชแล้วเป็นพระภิกษุสงฆ์ต่อไป โดยได้ทรงนิมนต์พระเถระผู้ทรงสมณศักดิ์สูงมาเป็นพระอุปัชฌาย์และพระกรรมวาจา จารย์ ต่อหน้าองค์พระประธานในพระอุโบสถวัดระฆังโฆสิตาราม ดังต่อไปนี้
    ************************************************************
    สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฤทธิ์) อธิบดีสงฆ์ วัดอรุณราชวราราม ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์
    สมเด็จพระวันรัต (ดิษ) อธิบดีสงฆ์ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์ ทรงเป็นพระกรรมวาจาจารย์
    พระธรรมโกษาจารย์ (แพ) วัดสุทัศน์เทพวราราม
    พระธรรมไตรโลกาจารย์ (ม.ร.ว.เจริญ อิศรางกูร) ทรงเป็นผู้บอกอนุสาสน์

    *************************************************************
    พระ มหานาค ป.ธ. 4 ซึ่งต่อมาชาวบ้านเรียกชื่อท่านสั้น ๆ ว่า "มหานาค" และรับฉายาจากองค์พระอุปัชฌาย์ว่า "โสภโณภิกขุ" ได้เข้าแปลเปรียญธรรมได้ประโยค 5 ภายหลังบวชเป็นพระแล้วใหม่ ๆ ต่อจากนั้นท่านมหานาคไม่ได้เข้าแปลเพื่อสอบเปรียญธรรมเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งในขณะนั้นมีการศึกษาเปรียญธรรมถึงประโยค 6 เนื่องด้วยท่านมีภาระยุ่งกับงานของวัดมากขึ้น โดยเป็นผู้รับใช้ใกล้ชิดในพระคุณเจ้าสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ม.ร.ว.เจริญ อิศรางกูร)
    - ต่อมาในปี พ.ศ.2464 ท่านโสภโณภิกขุ (มหานาค) ได้รับสัญญาบัตรพัดยศเป็นที่ พระธรรมกิติ
    - พ.ศ.2467 - 2468 ภายหลังจากสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ม.ร.ว.เจริญ อิศรางกูร) มรณภาพแล้ว พระธรรมกิติได้รับหน้าที่รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตารามแทน และเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อมาจนมรณภาพ .. (1)
    - พ.ศ.2475 ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรพัดยศที่ พระราชโมลี
    - พ.ศ.2500 ได้รับพระราชทานเลื่อนขึ้นเป็นที่ พระเทพสิทธินายก


    ใน สมัยที่ท่านกำลังศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมประโยค 4 - 5 ท่าน ได้ศึกษาทางวิปัสสนากรรมฐานกับท่านอาจารย์ที่วัดอรุณราชวราราม (วัดแจ้ง) และวัดพลับ (เจริญภาส) เพิ่มเติมอีกโดยได้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดซึ่งต้องใช้เวลาเพียรพยายามศึกษา เล่าเรียนอยู่ประมาณ 10 ปี ก็สามารถใช้เป็นมูลฐานกระทำชาญวิปัสสนาส่งกระแสจิตได้ ต่อมาได้เปิดสอนทางวิปัสสนากรรมฐานขึ้นในศาลาการเปรียญของวัดระฆังโฆษิตาราม เกี่ยวกับการสอนวิปัสสนานี้ได้เคยปรากฏว่า ครั้งหนึ่งผู้เข้าศึกษานั่งสมาธิจิตทางวิปัสสนา ได้นั่งทำจิตถอดวิญญาณไปดูนรกสวรรค์ และท่องเที่ยวไปในสถานที่ต่าง ๆ เป็นเวลา 2 วัน ก็ยังไม่คืนสติ คงนั่งสมาธิอยู่เช่นนั้น ท่านเจ้าคุณพระเทพสิทธินายก ในฐานะที่เป็นผู้อำนวยการฝึกสอนอยู่ ได้นั่งสมาธิส่งกระแสจิตไปติดตามวิญยาณของผู้นั่งสมาธิรายนี้ และไปพบในสุสานวัดดอน ตรอกจันทร์ ปรากกว่ากำลังเที่ยวเพลิดเพลินอยู่ ท่านจึงส่งกระแสจิตเตือนวิญญาณนั้นให้กลับคืนเข้าร่างเดิมเพราะล่วงมา 2 - 3 วันแล้ว หากล่าช้าไปจะคืนเข้าร่างเดิมไม่ได้ ร่างกายก็อาจจะเน่าเปื่อยไป วิญญาณของชายผู้นั้นจึงได้สติแล้วกลับคืนมาเข้าร่างเดิมที่นั่งสมาธิอยู่ใน ศาลาการเปรียญวัดระฆังโฆสิตาราม นอกจากนี้ได้เคยปรากฏว่าคุณโยมของท่านป่วยอยู่ทางจังหวัดนครราชสีมา โดยมิได้ส่งข่าวถึงท่าน แต่ท่านสามารถทราบได้และนำหยูกยาไปปฐมพยาบาลได้ถูก เพราะท่านใช้อำนาจกระแสสิตทางวิปัสสนา ดังนี้ การกำหนดจิตอันกระทำให้เกิดพลังจิตขึ้นได้จึงเป็นเหตุให้พระคุณเจ้าได้คิด สร้างพระสมเด็จขึ้น เมื่อปี พ.ศ.2484 โดยอาศัยตำราของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังษี) ซึ่งขณะนั้นเป็นระยะเวลาที่ได้เกิดสงครามมหาเอเชียบูรพาขึ้น ทั้งนี้เพื่อจักได้แจกจ่ายให้ทหารได้ติดตัวไปในสมรภูมิ เป็นกำลังใจและบำรุงขวัญทหารอีกส่วนหนึ่งด้วย

    พระเทพสิทธินายก (นาค โสภโณ) ในตอนที่ท่านมีอายุใกล้ 70 ใคร ๆ ก็เรียกท่านว่า "หลวงปู่นาค" แม้ว่าท่านจะมีร่างกายสมบูรณ์ชราภาพมากขึ้นตามวัยและสังขาร ท่านก็มิได้ละเลยทางศาสนกิจ ท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ของกุลบุตรทุกชั้นวรรณะมากมาย ท่านเป็นผู้สร้างกรรมดีมีเมตตาอันเป็นยอดปรารถนาต่อศิษยานุศิษย์และประชาชน ทั่วไปไว้มากมาย มิได้สะสมทรัพย์สินอันใดไว้ จนถึงกาลมรณภาพ เมื่อวันศุกร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ.2514 เวลา 4.45 น. ณ โรงพยาบาลศิริราช จังหวัดธนบุรี ท่านก็จากไปอย่างสงบปราศจากความกระวนกระวายด้วยโรคชรา ขอวิญญาณของท่านจงบรรลุถึงฟากฟ้าสรวงสวรรค์ คงเหลือไว้แต่คุณงามความดีอันสูงส่ง สุดที่จะนำมาเขียนไว้ในที่นี้ รวมศิริอายุของท่านได้ 87 ปี อยู่ในสมณเพศถึง 75 ปี และเป็นเจ้าอาวาสมาแล้ว 47 พรรษา นับว่าท่านเป็นผู้ที่อยู่ในสมณเพศและเป็นเจ้าอาวาสที่นานที่สุดรูปหนึ่ง

    คณะ ศิษยานุศิษย์ผู้บันทึกประวัติของท่าน "หลวงปู่นาค" ขอกราบนมัสการแทบเท้าของหลวงปู่นาค หากข้อความตอนหนึ่งตอนใดผิดพลาดหรือขาดตกบกพร่องโปรดเมตตาให้อภัยด้วยเถิด ...... คณะศิษยานุศิษย์


    คัดลอกบทความมาจาก : หนังสือประวัติพระเทพสิทธินายก วัดระฆังโฆษิตาราม และ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) พิมพ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ พระเทพสิทธินายก (นาค โสภณเถระ) อดีตเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม ณ วัดระฆังโฆสิตาราม ธนบุรี 15 มิถุนายน 2514 จำนวนพิมพ์ 2000 เล่ม โดยเจ้าคุณเที่ยง คณะ๕

    ตอนที่ 2สำหรับการเรียนเวทย์มนต์และวิปัสสนากรรมฐานนั้น ท่านได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์และศึกษากับ ๔สมเด็จ ดังนี้

    ๑.สมเด็จ พระพุทธโฆษาจารย์(ฤทธิ์) วัดแจ้ง (ปัจจุบันเรียกว่า “วัดอรุณราชวรวิหาร”) ผู้เป็น อุปัชฌาย์ของหลวงปู่นาคนั่นเอง ท่านมีอาคมแก่กล้าในด้านทำเครื่องรางของขลัง โดยเฉพาะตะกรุดหน้าผากเสือ สำนักนี้ไม่เป็นสองรองใคร ครั้นพอท่านเรียนวิชานี้สำเร็จ การจะหาหนังเสือมาทำนั้นต้องไปฆ่าสัตว์ตัดชีวิตซึ่งมันบาปนัก ท่านจึงนำมาดัดแปลงลงในโลหะต่างๆ เช่น ทองคำ เงิน นาค ทองแดง อลูมิเนียมและตะกั่ว ลักษณะการลงและบริกรรมคาถากำกับในตัวตระกรุด ท่านก็จะทำไว้ให้มีฤทธิ์อยู่หลายแบบ เช่นดอกนั้นเด่นด้านคงกระพัน ดอกนี้เด่นด้านค้าขาย เมตามหานิยม ดอกนู้นเน้นด้านมหาอุต ซึ่งในสมัยนั้นใครที่เข้าไปขอ ท่านก็จะเมตตาหยิบให้พร้อมอธิบายวิธีการใช้ให้
    (สำหรับวัดแจ้งหรือวัดอรุณนี้ จะมีอ้างในส่วนของ ตอนที่๓:พระพิมพ์ในวัดแต่มีออกนอกวัดด้วยนะครับ)

    ๒.สมเด็จ พระสังฆราช(แพ) วัดสุทัศน์ราชวรวิหาร สมัยนั้น ดำรงค์สมณศักดิ์เป็นพระธรรมโกษาจารย์ ซึ่งเป็นพระอนุสาวนาจารย์(พระคู่สวด)ในสมัยที่หลวงปู่นาคบวชเป็นพระภิษุนั่น เอง หลวงปู่นาคได้รับการถ่ายทอดและศึกษาวิชาการลงยันต์ ๑๐๘ ชนิดครบสูตรในการลงยันต์เททองพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ ซึ่งเป็นตำหรับวิชาสุดยอดของการสร้างพระกริ่งในสายวัดสุทัศน์นี้
    (สำหรับ วัดสุทัศน์ หากตามประวัติจะทราบว่า หลวงปู่นาคท่านจะสนิทกับพระครูมูล ซึ่งโยงถึงกันได้ว่าเป็นศิษย์ร่วมรุ่นเดียวกันนั่นเอง เกจิ ๒ ท่านนี้ไปมาหาสู่กันบ่อยครั้งครับ จึงไม่แปลกที่พระสมเด็จของพระครูมูลถึงได้มีมวลสารพระสมเด็จเก่าของวัดระฆัง ไปผสมกันเป็นจำนวนมาก และบางครั้งก็พบว่าพิมพ์สมเด็จมีหน้าตาและพิมพ์พระเกศบัวตูมของพระครูมูลมี มาปรากฎในแบบแม่พิมพ์ที่หลวงปู่นาคท่านกดพระด้วยครับ จะมีไปขยายความกันในตอนที่๓:พระใน-นอก พิมพ์)

    ๓.สมเด็จพระพุทธโฆษา จารย์(ม.ร.ว.เจริญ อิศรางกุล ณ อยุธยา) ในสมัยที่ท่านดำรงสมณศักดิ์เป็น พระธรรมไตรโลกาจารย์ และเป็นเจ้าอาวาสวัดระฆัง สืบต่อจากสมเด็จพระพุทธบาทปิลันท์ (ม.ร.ว.ทัศน์ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา)
    เป็น ที่ทราบกันดีอยู่แล้วนะครับว่า สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(เจริญ) ท่านเป็นศิษย์องค์สุดท้ายของสมเด็จพุทธจารย์โต ในสมัยบั้นปลายชีวิตสมเด็จโต สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(เจริญ) ท่านได้เรียนสำเร็จวิชาการทำผงวิเศษจากสมเด็จโตและเป็นกำลังสำคัญในการลบและ จัดทำผงวิเศษทั้ง๕ชนิด เพื่อถวายให้สมเด็จโตสร้างพระวัดระฆังฯรุ่นแรก มาถึงยุคที่ท่านเป็นพระอาจารย์ให้หลวงปู่นาค ท่านก็สอนการทำผงนี้ให้จนสำเร็จครบหลักสูตรเช่นกัน ดังนั้นพระสมเด็จที่หลวงปู่นาคท่านสร้างจึงเป็นพระที่มีสูตรการสร้างเหมือน กับพระสมเด็จวัดระฆังรุ่นแรกนั่นเอง

    ๔.สมเด็จพระสังวรนุวงศ์ เถร(ชุ่ม) วัดราชสิทธาราม(วัดพลับ) เกจิท่านี้เป็นอาจารย์สอนวิปัสสนาให้กับหลวงพ่อพริ้ง วัดบางประกอกนั่นเอง หลวงปู่นาคก็ได้มาเรียนวิปัสสนากรรมฐานที่สำนักนี้จนสำเร็จเช่นกัน
    หลังจากที่ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(เจริญ) ท่านมรณภาพแล้ว หลวงปู่นาคก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆษิตาราม องค์ที่๙

    ***********************************************************
    สำหรับเรื่องการสร้างวัตถุมงคลต่างๆ

    โดย เฉพาะประเภทพระเนื้อผงนั้น ท่านจะเน้นถึงความสำคัญเกี่ยวกับผงวิเศษที่นำมาบดผสมในการสร้างทุกครั้ง ใช้ผงถูกต้องตามสูตรที่สมเด็จพุทธจาร์ยโตสร้างเลยครับ โดยเรียนมาจาก พุทธโฆษาจารย์ เจริญ หลวงปู่ได้สร้างวัตถุมงคล ทั้งสมเด็จ และพระเนื้อผง และเหรียญ ไว้เป็นจำนวนมาก เท่าที่ทราบไม่ต่ำกว่า 50 พิมพ์ขึ้นไป ทางวัดจัดสร้างบ้าง ลูกศิษย์สร้างบ้าง และวัดอื่นสร้างบ้างและมาให้ท่านปลุกเสกให้บ้าง พระยุคแรกประมาณปี 2484 จนถึงปี 2495 ท่านได้สร้างพระเป็์นจำนวนมาก โดยได้ผสมผงเก่าสมเด็จโต ผงพระปิลันทร์ ผลอิทธิเจ ซึ่งหลวงปู่ได้ปลุกเสกเองตามตำรับสมเด็จโต พรหมรังสี โดยได้นำผงเก่าทั้งหมดมาปั้นเป็นแท่งและเขียนอักขระยันต์ลงแผ่นกระดาน 108 ครั้้ง จึงได้ลบผงบนกระดานนำมาสร้างพระสมเด็จและพระเนื่้อผงต่างๆ เช่น วัดประสาทในปี 2506 วัดจังหวัดอยุธยา วัดละครทำ วัดชิโนรส และวัดอื่นอีกหลายวันที่ยังไม่ได้อ้างถึงครับ

    การปลุกเสกวัตถุมงคล

    หลัง จากพิมพ์พระเสร็จ หลวงปู่นาคท่านจะให้ลูกศิษย์นำพระเครื่องทั้งหมดไปไว้ในพระอุโบสถ หลังจากทำวัตรสวดมนต์เย็นเสร็จแล้ว ท่านจะปิดประตูโบถส์ อยู่เพียงลำพังท่านเดียว และทำการปลุกเสกพระจนถึงเที่ยงคืน จึงกลับกุฏิจำวัด รุ่งขึ้นจึงนำพระเครื่องทั้งหมดมาไว้ที่วิหารสมเด็จโต ทำการปลุกเสกตอนกลางคืนอีกวาระหนึ่ง จากนั้นก็นำมาทำการปลุกเสกในกุฏิของท่านอีกครั้งเป็นอันเสร็จสิ้นพิธีการ ปลุกเสกพระ สาเหตุที่ท่านทำเช่นนี้ ท่านได้เมตตาเล่าให้ฟังว่า...หลวงพ่อพระประธานในโบสถ์ ท่านศักดิ์สิทธิ์ เราเป็นเพียงตถาคตมาอาศัยสถานที่ท่านพำนัก จะทำสิ่งใดก็ต้องบอกกล่าวท่าน และให้ท่านช่วยปลุกเสกให้ด้วยจึงจะถูกต้อง ...ส่วนที่นำเข้าวิหารสมเด็จโต เพราะสมเด็จโตนี้ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดระฆังฯมาก่อน และ เป็นครูบาอาจารย์ขอข้า จะทำอะไรก็ต้องบอกกล่าวท่านก่อน แล้วให้ท่านมาร่วมรับรู้และช่วยกันปลุกเสกแผ่พลังจิตพระเครื่องเหล่านี้ด้วย จึงจะสมบูรณ์
    ฉะนั้นพระเครื่องทุกรุ่นที่หลวงปู่นาคท่านได้จัดสร้างขึ้น จึงเป็นที่เชื่อว่า เต็มเปี่ยมไปด้วยพุทธานุภาพ ครบทุกด้าน (เมตตา มหานิยม โชคลาภ และแคล้วคลาดจากสรรพภัยอันตรายต่างๆได้อย่างดีเยี่ยม)...
    ประวัิติการสร้างพระสมเด็จ ตอนที่ 2

    หลวง ปู่นาคท่านเป็นพระมหาเถระผู้ใหญ่ อยู่ในวัยแปดสิบเศษ รูปร่างอ้วนท้วน หน้าตาเปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณา และมีศีลจริยาวัตรงดงาม ประพฤติธรรมอยู่เป็นเนืองนิจ มีอิทธิจิตในระดับที่สูง ดังนั้นจึงเป็นที่เชื่อถือกันอย่างกว้างขวางว่าหลวงปู่นาคทรงความ ศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นพระสมเด็จที่ปลุกเสกโดยหลวงปู่นาคจึงเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย
    ท่านเจ้าคุณใหญ่หรือหลวงปู่นาคท่านทำพระสมเด็จอยู่เสมอตามความจำเป็น และความต้องการของญาติโยม แต่เป็นการทำไปเรื่อย ๆ ตามแต่สะดวกและความพร้อมของผู้ทำคือบรรดาเด็กวัดและพระเณรในคณะหนึ่ง ไม่ได้จัดตั้งเป็นการพิธีใหญ่และทำพระเป็นจำนวนมาก ๆ เพื่อจำหน่ายเป็นพุทธพาณิชย์ดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

    วันไหนมีการทำพระสมเด็จ ท่านเจ้าคุณใหญ่หรือพระเถระชั้นผู้ใหญ่ประจำกุฏิใหญ่ก็จะผสมผงมาแล้วเสร็จ ใส่ในกาละมังบ้าง ในถังบ้าง และให้บรรดาพระเณรรวมทั้งเด็กวัดช่วยกันพิมพ์พระที่บริเวณชั้นล่างด้านหน้า ของกุฏิใหญ่

    การทำพระสมเด็จของหลวงปู่นาค จะใช้ผงปูนปลาสเตอร์เป็นพื้น ผสมกับผงพระเก่าที่เหลือจากการทำรุ่นก่อน ๆ สืบทอดกันมา เหมือนกับน้ำมนต์ในวิหารสมเด็จที่ใช้น้ำใหม่เติมน้ำมนต์ในโอ่งที่ทำมา ตั้งแต่ครั้งเจ้าประคุณสมเด็จ

    นอกจากนี้ ยังใช้ผงธูปจากกระถางธูปในโบสถ์ ผงตะไคร่น้ำจากพระปรางค์และพระเจดีย์ในวัดระฆัง แม้กระทั่งดอกไม้สำหรับบูชาพระประธานในโบสถ์มาตากแห้งแล้วบดเป็นผง และใช้ข้าวก้นบาตรรวมทั้งกล้วยซึ่งบดทั้งเปลือกเป็นส่วนผสมด้วย

    เมื่อผสมผงได้ที่ตามตำรับเก่าแก่ของวัดระฆังแล้ว ก็จะพิมพ์ลงในแบบพิมพ์พระซึ่งแกะสลักในแผ่นไม้ บางแผ่นก็มีพิมพ์พระหนึ่งองค์ บางแผ่นก็สอง หรือสาม หรือห้าองค์ ตามแบบต่าง ๆ ที่วัดระฆังเคยทำมา และทรงอันเป็นที่นิยมมากก็คือแบบพิมพ์ทรงพระประธานทรงใหญ่

    ในบรรดาเด็กวัดที่ช่วยกันทำพระสมเด็จนั้น ก็มีโอฬารหัวหน้าเด็กวัดคณะหนึ่งเป็นเจ้ากี้เจ้าการควบคุมเด็กวัด แต่ก็ยังมีพระผู้ใหญ่คอยควบคุมดูแลอยู่อีกชั้นหนึ่ง

    พระที่พิมพ์ก็จะเป็นพระสมเด็จซึ่งเรียกกันว่าพระสมเด็จวัดระฆังรุ่นหลวงปู่ นาค มีทั้งทรงพิมพ์ใหญ่ ทรงเจดีย์ ทรงปรกโพธิ์ และอีกหลายแบบสุดแท้แต่แม่พิมพ์ที่พระผู้ควบคุมการจัดทำจะจัดมาให้ทำ

    วันไหนพิมพ์พระได้เท่าใดก็จะมีการนับจำนวนทวนสอบจนตรงกัน แล้วพระเถระผู้ควบคุมการทำพระก็จะยกเอาถาดใส่พระซึ่งพิมพ์เสร็จแล้วขึ้นไป ข้างบน เพราะหลังจากนั้นก็จะเป็นขั้นตอนการปลุกเสกตามแบบฉบับและกรรมวิธีของวัด ระฆังที่สืบทอดมาตั้งแต่ครั้งเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี

    พระสมเด็จเหล่านั้นจะถูกนำไปบรรจุกล่องและวางไว้ในห้องพระของท่านเจ้าคุณ ใหญ่ซึ่งเป็นห้องโถงอยู่ชั้นบนของกุฏิใหญ่นั้น จากนั้นก็จะมีการวนสายสิญจน์จากพระประธานของห้องพระ วนลงมาเวียนรัดรอบกล่องพระนั้นจนครบถ้วนทุกกล่อง

    ทุกวันหลังจากหลวงปู่นาคท่านสวดมนต์ไหว้พระแล้ว ท่านก็จะเข้าสมาธิภาวนาพระคาถาชินบัญชร แล้วเพ่งพลังจิตและอธิษฐานจิตตามกรรมวิธีปลุกเสกพระสมเด็จวัดระฆัง และจะเพิ่มเวลาทำสมาธิภาวนาแผ่พลังจิตมากขึ้นสำหรับวันพระและถ้าเป็นห้วง เวลาในเทศกาลเข้าพรรษาก็ยิ่งเพิ่มเวลามากขึ้นไปอีก

    บางครั้งหลวงปู่นาคก็จะให้นิมนต์พระสงฆ์ในคณะหนึ่งมาสวดพระปริตรและสวดพระ คาถาชินบัญชรปลุกเสกพระด้วย และบางทีในวันพระใหญ่คือวันขึ้น 15 ค่ำและวันมหาปาวารนา หลวงปู่นาคก็จะให้พระขนกล่องพระสมเด็จเข้าไปในโบสถ์ วนสายสิญจน์มาจากพระประธานมายังกล่องพระ

    ในบางทีเมื่อมีงานบวชหลวงปู่นาคก็จะให้ขนกล่องพระเข้าไปในโบสถ์ด้วย นัยว่าการสวดญัตติจตุตถกรรมนั้นในอุปสมบทพิธีนั้นมีผลมากต่อการปลุกเสกพระ เครื่องให้เป็นพระ.
    พระสมเด็จวัดระฆังรุ่นหลวงปู่นาคทรงความศักดิ์สิทธิ์และมีอิทธิปาฏิหาริย์ เลื่องชื่อลือกระฉ่อน มาตั้งแต่ครั้งที่หลวงปู่นาคยังมีชีวิตอยู่ และเมื่อท่านเจ้าคุณสิ้นบุญไปแล้วพระสมเด็จวัดระฆังรุ่นหลวงปู่นาคก็ยิ่งมาก ค่าและหาได้ยากขึ้นทุกที
    พระสมเด็จแท้ที่หลวงปู่นาคทำนั้น เป็นการทำเพื่อหาเงินมาบูรณะพัฒนาวัดระฆังซึ่งเสื่อมทรุดต่อเนื่องมาแต่อดีต ศาสนสถานทั้งหลายภายในวัดทรุดโทรมอย่างเห็นได้ชัด จะมัวรอเงินจากผ้าป่ากฐินศาสนสถานก็คงพังพินาศหมดสิ้น เพราะเหตุนี้หลวงปู่นาคท่านจึงคิดอ่านทำพระสมเด็จขึ้นเป็นอภินันทนาการแก่ ผู้ที่มาทำบุญกับวัด
    พระที่หลวงปู่นาคปลุกเสกเสร็จแล้วได้มอบไว้ แก่พระลูกศิษย์ซึ่งจะทำบัญชีจำหน่ายสำหรับผู้ใจบุญที่มาทำบุญกับวัด โดยหลวงปู่นาคมิได้จับต้องถือเงินหรือเก็บเงินไว้ด้วยองค์ท่านเองเลย

    ผงที่เหลือจากการทำพระแต่ละคราวก็จะเก็บใส่กะละมังไว้ แล้วขนขึ้นไปไว้บนกุฏิหลวงปู่นาค ซึ่งท่านมักจะวางไว้ข้างๆ โต๊ะหมู่บูชา

    พระที่ผ่านการทำและผ่านการปลุกเสกดังกล่าวนี้ หากถึงคราววันมหาปวารณาช่วงเข้าพรรษาหลวงปู่ก็มักจะให้พระลูกศิษย์นำไปไว้ใน โบสถ์ วางไว้หน้าพระประธาน โดยมีการนับจำนวนอย่างเข้มงวด ครั้นพ้นวันมหาปวารณาแล้วหลวงปู่นาคก็ให้นำพระเหล่านั้นกลับไปเก็บไว้ที่ กุฏิของท่านดังเก่า ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะหลวงปู่นาคท่านรู้กรรมวิธีว่าวันเวลาและการใดที่จะ อาศัยพลังแห่งความบริสุทธิ์และพลังอำนาจจิตของคณะสงฆ์เข้าเสริมพลังจิตที่ ท่านเจ้าคุณได้ปลุกเสกไว้แต่เดิม

    พระสมเด็จวัดระฆังที่ผ่านกระบวนการจัดทำและกระบวนการปลุกเสกตามตำรับที่สืบ ทอดกันมาตั้งแต่ครั้งยุคสมัยเจ้าประคุณสมเด็จนั้นจึงเป็นที่หวังและเป็นที่ วางใจกันโดยทั่วไปว่าทรงไว้ซึ่งพุทธคุณ มีความศักดิ์สิทธิ์ สามารถปกป้องคุ้มครองภยันตรายทั้งปวงได้ และเป็นเครื่องส่งเสริมความเป็นสิริมงคลให้แก่ผู้มีความศรัทธาต


    วัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมและวงการพระรู้จักกันดี

    พระเนื้อผงรุ่นแรก สร้างปี 2485 ประกอบด้วยพิมพ์ทรงเทวดาอกตัน-อกร่อง เทวดาขัดเพชร และพิมพ์สามเหลี่ยม พิมพ์ปรกโพธิ์ พิมพ์ ขาโต๊ะ และอีกหลายพิมพ์ที่ไม่ได้กล่างถึง กล่าวเฉพาะพิมพ์ที่นิยม วงการรู้จักพอสมควร

    พระ เนื้อผงรุ่นสอง สร้างปี 2495 ประกอบด้วยพิมพ์สมเด็จโต นั่งบริกรรม พิมพ์ปรกโพธิ์ ฝังและไม่ฝังตะกรุด พิมพ์พระประธาน ฝังและไม่ฝังตะกรุด นางพญา พิมพ์พระประจำวัน คะแนนฐานสิงห์ รูปหล่อ เหรียญโล่ และเหรียญข้าวหลามตัด นอกจากนี้ยังมีอีกหลายรุ่น สร้างในปี พ.ศ.2499,2500,,2504,2507,2509 และรุ่นสุดท้ายคือรุ่นแซยิด 7 รอบ ปี 2511 และอีกมากมายที่ยังไม่ได้กล่าวถึง จะกล่าวเฉพาะพิมพ์ที่นิยม หรือพิมพ์ที่วงการรู้จักกันพอสมควรครับ
    พุทธคุณและประสพการณ์ที่เล่าต่อกันมา

    พุทธคุณในพระของหลวงปู่นาค มีทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด คงกระพัน เรียกว่าครอบจักวาล ซึ่งพลังจิตของท่านเป็นรัศมีทองคำ

    ตัวอย่างที่มีประสพการณ์

    เช่น มีทหารมาขอพระของท่านไปลองยิงที่ต้นมะตูมหน้าวัดระฆัง โดยเอาไปพระไปแแขวนไว้แล้วเอาปืน ยู.เอส ของทหาร ลองยิงปรากฎว่ายิงไม่ออก ทหารที่ไปลองนึกว่ากระสุนด้านจึงหันกระบอกไปทางอื่นปรากฏว่าปืนยิงลั่นดัง สนิน ทหารทั้ง 2 นายจึงไปขอขมากับหลวงปู่ ทำใ้ห้คนแตกตื่นไปกันแน่นกุฎิหลวงพ่อ มีทั้งหารบก ทหารอากาศ และตำรวจ และประชาชนอีกมากมาย ขนาดเรียกว่าพระพิมพ์ยังไม่ทันแห้งก็มายืนรอรับกันทีเดียวครับ.

    พระสมเด็จของหลวงปู่นาค วัดระฆัง เป็นพระสมเด็จที่มีส่วนผสมของเศษแตกหักของสมเด็จวัดระฆังที่ท่านได้เก็บรวบ รวมไว้เป็นจำนวนมาก จากการที่มีประชาชนนำเศษแตกหักของพระสมเด็จมาทิ้งไว้ที่วัดและการค้นพบพระ สมเด็จจำนวนมากบนหลังคาโบสถ์วัดระฆัง ซึ่งท่านได้นำพระสมเด็จที่แตกหักทั้งหมดร่วมกับการสร้างผงพุทธคุณของท่านตาม ตำรับของสมเด็จโต ทำให้พระสมเด็จของท่านโดยเฉพาะพระในยุคต้น ๆ ช่วงปี 2485-2495 มีเนื้อหามวลสารจัดจ้านน่าบูชายิ่งนัก ซึงนับว่าเป็นพระตระกูลสมเด็จที่มีเนื้อหามวลสารของพระสมเด็จวัดระฆังผสมไว้ มากที่สุด มากกว่าสำนักอื่นที่ท่านได้มอบบางส่วนไปผสมผงสร้างพระให้วัดอื่น เช่น สมเด็จนายเผ่า วัดอินทรวิหาร ปีั 95
    แต่เนื่องจากท่านได้สร้างพิมพ์ทรง ของพระสมเด็จต่าง ๆ ไว้มากมาย ในวงการจึงนิยมเล่นหากันเฉพาะพิมพ์นิยมบางพิมพ์ของท่านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ตัวใครเห็นก็ทราบว่าเป็นพระของท่าน เช่น พิมพ์เทวดาสามชั้นหูบายศรี พิมพ์ปรกโพธิ์ พิมพ์ชิ้นฟัก พิมพ์รูปเหมือนสมเด็จโต พิมพ์ซุ้มระฆัง เป็นต้น ส่วนพิมพ์อื่น ๆ ไม่ค่อยนิยมเช่าหากัน สำหรับพระสมเด็จของท่านที่มีเนื้อหาจัดจ้าน แก่ผงพระสมเด็จ หรือ มีการฝังตะกรุดไว้เป็นพิเศษ ตั้งแต่ 1ดอก 2 ดอก หรือ 3 ดอก จะหาได้ยากมากและเป็นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยจะเช่าหากันในราคาสูงกว่าปกติหลายเท่า
    เป็นที่น่าแปลกใจมากพระสมเด็จ ของหลวงปู่นาค วัดระฆังไปมีชื่อเสียงโด่งดังในประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์เป็นอย่างมาก ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจากประเทศดังกล่าวมากว้านซื้อกลับไปยังประเทศของตน เป็นจำนวนมาก ทำให้จำนวนพระสมเด็จของหลวงปู่นาค วัดระฆังในปัจจุบัน มีจำนวนลดลงเป็นอย่างมาก พระเก๊และพระยัดวัดจึงมีมากมาย ถึงแม้ว่าพระของท่านราคาอาจยังไม่แพง แต่อนาคตน่าจะได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะผสมผงเก่่าสมเด็จโตและปลุกเสกอย่างพิถีพิถัน อีกทั้งประสพการณ์และพุทธคุณของท่านก็ครบเครื่องครอบจักรวาล

    ส่วนทางด้วนเมตตามหานิยมนั้น ก็มีผู้ประสพกับตนเองมากมาย เมื่อเกิดขัดสน ทุกข์ยากขึ้นมาก็เอาพระของหลวงปู่ขึ้มาภาวนา อธิษฐานนึกถึงท่าน ก็จะบันดาลให้ธุรกิจที่ท่านทำอยู่ประสพความสำเร็จดั่งมุ่งหวัง หรือเวลาเกิดเหตุคับขัน ก็ขอให้ภาวนานึกถึงท่านให้แคล้วคลาดจากอันตรายที่จะเกิดขึ้นผ่านพ้นไป ซึ่งผู่เขียนขอบอกแต่เพียงว่า ใครมีพระของท่านแล้ว จะมีลาภ ชีวิตจะปลอดภัย

    แม้ว่าท่านจะอายุมากตามวัย แต่ร่างกายท่านก็สมบูรณ์เปี่ยมด้วยราศี ใบหน้าของท่านเปลี่ยมด้วยเมตตาใครไปหาเจอท่าน ขอพระจากท่านฟรีๆ หรือเช่าพระจากกรรมการวัด ท่านก็จะเมตตาเจิมแป้งเสกให้อีกครั้ง ครั้งท่านยังเป็นมหาที่ได้รับการแต่งตั้งให้กรรมการตรวจทรัพย์ ปรากฎว่าหลังท่านมรณภาพแล้ว ท่านเหลือเพียง 50 สตางค์เท่านั้น ส่วนใหญ่เงินที่ท่านได้มาก็จะบริจาคช่วยเหลือคนตกยาก และบริจาคกับสิ่งก่อสร้างของวัดจนหมด คงเหลือแต่ความดี และความศรัทธาที่ทุกคนมีให้แดหลวงปู่ หากเทียบตอนท่านกำลังดัง ก็เหมือนหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี จะได้ัไปปลุกเสกเกือบทุกงาน เพราะบารมี และความมีเมตตาของท่านนั้นเอง
     
  20. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำกับหลวงปู่นาค สำเร็จอรหันต์ เรื่องที่ 1

    หลวง พ่อฤาษีลิงดำเล่าว่า....เจ้าคุณเทพสิทธินายกหลวงปู่นาค วัดระฆัง เป็นคนดีในกรุงเทพฯ ในระยะใกล้ๆ หลวงปู่นาค วัดระฆัง นี่เคยรู้จักกับอาตมามาหลายปี เอาขั้นรู้จักนะ ไม่ใช่ดันไปเป็นเพื่อนกับท่าน ครั้งหนึ่ง ท่านไปที่วัดบางซ้ายนอก อำเภอเสนา จังหวัดอยุธยา เดี๋ยวนี้เขายกขึ้นเป็นอำเภอบางซ้ายแล้ว อาตมานอนหลับ พอท่านไปถึงท่านก็จับขากระตุก พอลุกขึ้นมาเห็นเป็นหลวงพ่อนาค เลยรีบลุกขึ้นกราบ แล้วปูพรมให้ท่าน อาตมาก็ไม่ใช่พระวัดนั้น จะไปเทศน์ ถึงเวลากลางคืนเขานิมนต์ท่านไปปลุกพระ ปูพรมแล้วท่านก็นั่ง แล้วก็มีพระมหาไว พระครูอดุลย์ วรวิทย์หรืออะไรก็ไม่ทราบ อดุลย์ก็แล้วกัน มหาไวเจ้าคณะอำเภอบางซ้ายคนปัจจุบัน หยิบพระให้องค์หนึ่งเป็นพระทำใหม่ ถามว่าพระองค์นี้เขาปลุกเสกใช้ได้ไหมขอรับ พอท่านหยิบปั๊บท่านก็บอกเลย บอกว่าพระที่ปลุกเสกพระองค์นี้น่ะรูปร่างขาวๆ ท้วมๆ ใช่ไหม อายุประมาณสัก 30 ปี พระครูอดุลย์ก็บอกว่าใช่ ท่านบอกว่า อือ เขาเก่งเหมือนกันนะ เขาเก่งเหมือนกัน ทำหนักไปในด้านคงกระพันชาตรี นี่เป็นจุดหนึ่งของหลวงพ่อนาคนะ เราเล่ากันจุดเล็กๆ ก็แล้วกัน.ตอนต่อไป

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำกับหลวงปู่นาค สำเร็จอรหันต์ เรื่องที่2

    ร้อยเอกไพบูลย์ นายทหารช่าง ช.พัน 1 สมัย ปี พ.ศ. 2502 หรือจะเป็น 2503 ก็ไม่ทราบ ปีนั้นอาตมาไปพักฟื้นที่วัดชิโนรสาราม จังหวัดธนบุรี หลังกองเรือเล็ก กองทัพเรือ ร้อยเอกไพบูลย์ก็ไปบวชอยู่ด้วย เวลาบวชก็อยากเจริญกรรมฐาน ก็สอนให้ตามแบบฉบับเท่าที่รู้ ความจริงก็ไมได้รู้มากนัก พอรู้บ้าง ไอ้รู้บ้างก็ไม่ใช่ว่ารู้ดี เท่าที่มีความรู้ก็สอนไป แกนั่งปั๊บคืนแรก เห็นคน 3 คน มายืนดำ ตัวใหญ่อยู่ข้างๆ ความจริงอาตมานั่งอยู่อีกห้องหนึ่งก็เห็นเหมือนกัน รู้ว่าเพื่อนเก่าของร้อยเอกไพบูลย์มาเยี่ยม เพราะตัวแกดำๆ แกเคยเป็นกุมภัณฑ์ ตอนเช้าแกก็รายงานเรื่องการเห็นให้ทราบ ไม่เป็นไรหรอก เพื่อนเขามาคุ้มครอง แกก็กลัว คืนที่ 2 ทึ่ 3 แกก็ยังแสดงความกลัว ก็เลยนึกว่านี่ท่าจะไม่เป็นเรื่อง ถ้าขืนกลัวหนักๆ ประสาทจะแย่ ดีไม่ดีจะเป็นบ้าเอา พูดเท่าไรแกก็ไม่เชื่อแล้ว ก็เลยบอกว่าเอายังงี้ก็แล้วกัน คืนที่ 4 นี่ หาดอกไม้ธูปเทียนเข้าไปหาหลวงพ่อนาค วัดระฆัง เพราะในพรรษานั้นท่านสอนพระกรรมฐาน ตอนค่ำก็ไปนมัสการท่านก่อนสองทุ่ม เวลาสองทุ่ม ท่านลงมือให้นักปฏิบัติกรรมฐานเจริญกรรมฐาน เวลาทุ่มเศษๆ ก็ไปพบท่าน เลยบอกร้อยเอกไพบูลย์ เป็นพระแล้ว เข้าไปนมัสการ พอส่งพานให้ท่าน พอกราบเงยหน้าขึ้นมาท่านก็บอกเลย จะไปกลัวทำไมผี ไอ้ 3 คนที่มันมายืนอยู่ข้างๆ นี่มันเพื่อนเก่าของเรานี่ เขามายืนอารักขารักษาความปลอดภัยให้ ไม่น่าจะกลัว ต่อจากนี้ไปไม่ต้องกลัวนะ เรามีครูบาอาจารย์ (เวลานั้นถือฉันเป็นครู ) ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งหมด เราจะได้ดีนะ ทำให้ดีจะได้ดี นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ท่านรู้ เอาเรื่องที่ท่านรู้โดยไม่ต้องบอกมาคุยกัน ท่านจะรู้เพราะอะไรก็ช่าง.ตอนต่อไป

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำกับหลวงปู่นาค สำเร็จอรหันต์ เรื่่องที่ 3

    ตา นี้มาอีกเรื่องหนึ่ง เรื่องรถนายทหารหาย นายทหารคนนี้ก็เป็นทหารผู้ใหญ่แล้ว ไม่เอาชื่อมาคุยดีกว่า เป็นอันว่าเรื่องก็มาจากร้อยเอกไพบูลย์ เหมือนกัน ร้อยเอกไพบูลย์ มารายงานให้ทราบบอกรถเจ้านายหาย ไปดูหนังที่โรงหนังสือคิงส์หรือแกรนด์ก็ไม่ทราบ เป็นรถประจำตำแหน่ง ไม่ทราบว่าไปไหน เขาบอกให้ดูให้ด้วย เลยบอกว่า ถ้าหลวงพ่อนาคยังมีชีวิตอยู่ ฉันจะไม่ยอมพยากรณ์ ข้าวของดีๆ มีค่าสูงยังมีอยู่ละก็ไอ้ของญี่ปุ่นไม่น่าจะขาย ไม่น่าจะโฆษณา อ้าว ไม่ได้แอนตี้ของญี่ปุ่นกะเขานา นี่เปรียบเทียบให้ฟัง ของเยอรมันทำของแข็งแรง ของญี่ปุ่นทำของไม่แข็งแรง ขายราคาถูก ก็แบบความรู้ของอาตมากับความรู้ของหลวงพ่อนาค ความรู้ของหลวงพ่อนาคเหมือนของเยอรมัน แข็งแรงมั่นคง ของดีจริงๆ ไอ้ของอาตมานี่มันของญี่ปุ่นใช้อะไรไม่ค่อยได้ บางมันก็ดีแต่ไม่ดีเสียมากกว่าดี ก็เลยบอกว่า ถ้าหลวงพ่อนาคยังมีชีวิตอยู่ ฉันไม่ดูให้แก แกไปหาหลวงพ่อนาค ก็ไปหาหลวงพ่อนาคกัน พร้อมกับจ้าวนายของเขาเอาดอกไม้ธูปเทียนไป พอประเคนดอกไม้ธูปเทียน 2 คน ก็กราบ กราบพอเงยหน้าขึ้นมาท่านก็พูดเลยว่า ไอ้รถของคุณน่ะ ไม่ต้องไปวิตกกังวลหรอก พรุ่งนี้เวลาประมาณสักบ่าย 5 โมง จะมีตำรวจเอามาส่งให้ ตำรวจเขาจับไว้ ทางด้านสายเหนือของจังหวัดพระนคร เลี้ยงดูกันตามสมควร คือเราขอบใจเขา พอพูดจบท่านก็ถามว่าเออ ขอโทษเถอะไอ้ฉันมันคนแก่พูดเลอะเทอะไปนี่มาธุระอะไรกันนี่ พอเท่านั้นแหละ พ่อเจ้าประคุณ 2 คน ก็บอกว่าจบเรื่องแล้วขอรับหลวงพ่อ เรื่องนี้ก็มีแค่นี้นะ ฟังแค่นี้แล้วก็คิดไว้ด้วยว่าท่านรู้แบบไหน นี่ไม่บอกให้ฟังเพราะเป็นเรื่องเล่าให้ฟัง.

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำกับหลวงปู่นาค สำเร็จอรหันต์ เรื่องที่ 4


    แล้ว ก็มีอีกตอนหนึ่ง นายตำรวจสมัย คุณเผ่า เวลานี้ยังรับราชการอยู่ เป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่แล้วไม่ออกชื่อหรอก ประเดี๋ยวแกจะว่าเอา ออกชื่อไม่ได้ สมัยนั้นเป็นร้อยตำรวจโท พระของแกหาย พระพุทธรูปขนาด 5 นิ้ว ราคาก็ร้อยกว่าๆ แต่ว่าคนไปล้วงคองูเขียวตายเข้านี่มันโมโห ที่เรียกว่างูเขียวตายเพราะอะไร เพราะเวลานั้น แกไปรับราชการไปทำงาน ไปอยู่เวรที่โรงพัก ทีนี้พระอยู่ที่บ้าน คนขโมยที่บ้าน จะหาว่าแกเผอเรอไม่ระมัดระวังไม่ได้ เพราะแกไม่ได้อยู่ ก็เหมือนกับงูเขียว แต่ว่าตายแล้ว เพราะบ้านมันจะคุ้มครองอะไรได้
    เมื่อพระแกหายก็มาถาม แกถามว่าพระของผมใครลักเอาไปขอรับ ก็เลยบอกว่าคุณจะมาถามอะไรฉัน ในเมื่อพระของคุณหาย แล้วอีกประการหนึ่งท่านที่มีความรู้ดีกว่าฉัน คือหลวงพ่อนาค ถ้าคุณอยากจะรู้คุณไปถามหลวงพ่อนาคก็แล้วกัน แล้วคุณจำไว้นะ ถ้าหากว่าหลวงพ่อนาคยังมีชีวิตอยู่เพียงใด ถ้าหากว่าคุณมีความขัดข้องใดๆ ก็ตาม ถ้ามาถามฉัน ฉันจะไม่บอก เพราะว่าหลวงพ่อนาคดีกว่าฉันหลายล้านเท่า ไปหาหลวงพ่อนาคก็แล้วกัน เป็นอันว่าแกก็ไปหาหลวงพ่อนาค พอเอาดอกไม้ธูปเทียนไป ก็กราบ เจตนาของแกมีอยู่ว่า ถ้าแกรู้ตัวเมื่อไรแกจะยิงทิ้งทันที ในฐานะที่ย่องมาล้วงคองูเขียวตาย คือบ้านคำว่างูเขียวในที่นี้หมายถึงบ้านแล้วก็ตาย เพราะบ้านมันพูดไม่ได้มันเลื้อยไม่ได้ เหมือนกับงูเขียวตาย ไม่มีพิษ แต่ว่าเจ้าของพระเป็นงูเห่าแล้วก็มีพิษมาก อาตมาก็ทราบเจตนาของแก สีหน้าของแกบอกอาการของแกบอก คิดว่าอีตานี้ถ้ารู้ตัวเมื่อไรแกยิงทิ้งแน่ เพราะสมัยนั้นเป็นสมัยยิงทิ้ง
    แก กราบลงไป 3 วาระ พอเงยหน้าขึ้นมา หลวงพ่อนาคหรือท่านเจ้าคุณเทพสิทธินายก องค์เดียวกันก็บอกว่า คุณ คุณจะไปฆ่าจะไปแกงเขาทำไม คุณคิดจะไปฆ่าเขานะประโยชน์มันดีที่ไหน พระพุทธรูปองค์เดียวราคา 100 กว่าบาท เวลานี้คุณเป็นร้อยตำรวจโทกินเงินเดือนเท่าไร แล้วต่อไป ถ้าคุณยังไม่ออกคุณอาจจะได้เลื่อนยศเป็นนายพันนายพลก็ได้ แล้วเงินเดือนมันเดือนละเท่าไร ถ้าคุณไปฆ่าเขาตายบังเอิญเขาต่อสู้ หมายความวาญาติของเขาฟ้องร้องขึ้นมา คดีถึงโรงศาลคุณก็จะติดคุกติดตะราง เมื่อเวลาคุณติดคุกติดตะรางน่ะ เงินเดือนจะได้หรือเปล่า เงินเดือนมันก็ไม่ได้ ศักดิ์ศรีของคุณก็เสียไป อนาคตก็ถูกบั่นทอน แล้วลูกเมียข้างหลังก็จะมีแต่ความลำบาก จะหากินเองมันจะสะดวกที่ไหน นี่คุณคิดไม่ถูกนี่ พระราคา 100 กว่าบาท แล้วคุณคิดจะฆ่าเขานอกจากนั้นคุณตายแล้ว คุณยังจะต้องตกนรกอีก เมื่อเราอยากได้พระใหม่ เราก็ไปซื้อมาใหม่ มันก็หมดเรื่องกันไป ท่านพูดมากกว่านี้นา แนะนำถึงเรื่องสวรรค์เรื่องนรกอยู่นาน ประมาณค่อนชั่วโมง เมื่อพูดจบ ท่านก็ถามว่าขอโทษเถอะคุณ คุณมาธุระอะไร ฉันน่ะเป็นคนแก่นะ พูดเลอะๆ เลือนๆ แบบนี้ บางทีใครเขามาก็พูดส่งเดชไปตามอารมณ์ คนแก่นะคุณนะ อย่าถือสาหาความกันคนแก่เลย พ่อเจ้าพระคุณ ร้อยตำรวจโทคนนั้น เวลานี้เป็นนายพันแล้ว ใครก็ช่างแกก็เลยกราบอีก 3 ครั้ง บอกหลวงพ่อขอรับ เรื่องที่ผมต้องการจะรู้น่ะ จบไปแล้วขอรับ ที่หลวงพ่อพูดน่ะ ตรงตามความเป็นจริง ท่านก็บอก เอ๊อะ ยังงั้นเรอะ ขอโทษเถอะ ไอ้ฉันคนแก่มันก็พูดส่ง บางทีนั่งอยู่คนเดียวมันก็พูดนาคุณนา ไม่ได้พูดแต่กับคุณหรอก เวลาเห็นใครเขาบางทีมันก็นึกอยากจะพูดส่งไปยังงั้นแหละ แต่หลายคนเขาก็พูดว่าไอ้ที่พูดน่ะมันตรงตามความเป็นจริง ไอ้ธุระที่เขามามันก็หมดไป ฉันว่ามันก็เป็นเรื่องบังเอิญนะ นี่เป็นเรื่องของหลวงพ่อนาคตอนหนึ่งนะ ท่านผู้ฟัง ท่านจะคิดว่าหลวงพ่อนาคท่านรู้เรื่องยังงี้ได้ด้วยอะไร ด้วยญาณหรือเดาก็ตามใจเถอะ ไม่ได้ว่าอะไรนะ นี่มาเล่าสู่กันฟังเท่านั้น.

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำกับหลวงปู่นาค สำเร็จอรหันต์ เรื่องที่ 5
    แล้วก็มีอีกตอนหนึ่ง นายตำรวจสมัย คุณเผ่า เวลานี้ยังรับราชการอยู่ เป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่แล้วไม่ออกชื่อหรอก ประเดี๋ยวแกจะว่าเอา ออกชื่อไม่ได้ สมัยนั้นเป็นร้อยตำรวจโท พระของแกหาย พระพุทธรูปขนาด 5 นิ้ว ราคาก็ร้อยกว่าๆ แต่ว่าคนไปล้วงคองูเขียวตายเข้านี่มันโมโห ที่เรียกว่างูเขียวตายเพราะอะไร เพราะเวลานั้น แกไปรับราชการไปทำงาน ไปอยู่เวรที่โรงพัก ทีนี้พระอยู่ที่บ้าน คนขโมยที่บ้าน จะหาว่าแกเผอเรอไม่ระมัดระวังไม่ได้ เพราะแกไม่ได้อยู่ ก็เหมือนกับงูเขียว แต่ว่าตายแล้ว เพราะบ้านมันจะคุ้มครองอะไรได้
    เมื่อพระแกหายก็มาถาม แกถามว่าพระของผมใครลักเอาไปขอรับ ก็เลยบอกว่าคุณจะมาถามอะไรฉัน ในเมื่อพระของคุณหาย แล้วอีกประการหนึ่งท่านที่มีความรู้ดีกว่าฉัน คือหลวงพ่อนาค ถ้าคุณอยากจะรู้คุณไปถามหลวงพ่อนาคก็แล้วกัน แล้วคุณจำไว้นะ ถ้าหากว่าหลวงพ่อนาคยังมีชีวิตอยู่เพียงใด ถ้าหากว่าคุณมีความขัดข้องใดๆ ก็ตาม ถ้ามาถามฉัน ฉันจะไม่บอก เพราะว่าหลวงพ่อนาคดีกว่าฉันหลายล้านเท่า ไปหาหลวงพ่อนาคก็แล้วกัน เป็นอันว่าแกก็ไปหาหลวงพ่อนาค พอเอาดอกไม้ธูปเทียนไป ก็กราบ เจตนาของแกมีอยู่ว่า ถ้าแกรู้ตัวเมื่อไรแกจะยิงทิ้งทันที ในฐานะที่ย่องมาล้วงคองูเขียวตาย คือบ้านคำว่างูเขียวในที่นี้หมายถึงบ้านแล้วก็ตาย เพราะบ้านมันพูดไม่ได้มันเลื้อยไม่ได้ เหมือนกับงูเขียวตาย ไม่มีพิษ แต่ว่าเจ้าของพระเป็นงูเห่าแล้วก็มีพิษมาก อาตมาก็ทราบเจตนาของแก สีหน้าของแกบอกอาการของแกบอก คิดว่าอีตานี้ถ้ารู้ตัวเมื่อไรแกยิงทิ้งแน่ เพราะสมัยนั้นเป็นสมัยยิงทิ้ง
    แกกราบลงไป 3 วาระ พอเงยหน้าขึ้นมา หลวงพ่อนาคหรือท่านเจ้าคุณเทพสิทธินายก องค์เดียวกันก็บอกว่า คุณ คุณจะไปฆ่าจะไปแกงเขาทำไม คุณคิดจะไปฆ่าเขานะประโยชน์มันดีที่ไหน พระพุทธรูปองค์เดียวราคา 100 กว่าบาท เวลานี้คุณเป็นร้อยตำรวจโทกินเงินเดือนเท่าไร แล้วต่อไป ถ้าคุณยังไม่ออกคุณอาจจะได้เลื่อนยศเป็นนายพันนายพลก็ได้ แล้วเงินเดือนมันเดือนละเท่าไร ถ้าคุณไปฆ่าเขาตายบังเอิญเขาต่อสู้ หมายความวาญาติของเขาฟ้องร้องขึ้นมา คดีถึงโรงศาลคุณก็จะติดคุกติดตะราง เมื่อเวลาคุณติดคุกติดตะรางน่ะ เงินเดือนจะได้หรือเปล่า เงินเดือนมันก็ไม่ได้ ศักดิ์ศรีของคุณก็เสียไป อนาคตก็ถูกบั่นทอน แล้วลูกเมียข้างหลังก็จะมีแต่ความลำบาก จะหากินเองมันจะสะดวกที่ไหน นี่คุณคิดไม่ถูกนี่ พระราคา 100 กว่าบาท แล้วคุณคิดจะฆ่าเขานอกจากนั้นคุณตายแล้ว คุณยังจะต้องตกนรกอีก เมื่อเราอยากได้พระใหม่ เราก็ไปซื้อมาใหม่ มันก็หมดเรื่องกันไป ท่านพูดมากกว่านี้นา แนะนำถึงเรื่องสวรรค์เรื่องนรกอยู่นาน ประมาณค่อนชั่วโมง เมื่อพูดจบ ท่านก็ถามว่าขอโทษเถอะคุณ คุณมาธุระอะไร ฉันน่ะเป็นคนแก่นะ พูดเลอะๆ เลือนๆ แบบนี้ บางทีใครเขามาก็พูดส่งเดชไปตามอารมณ์คนแก่นะคุณนะ อย่าถือสาหาความกันคนแก่เลย พ่อเจ้าพระคุณ ร้อยตำรวจโทคนนั้น เวลานี้เป็นนายพันแล้ว ใครก็ช่างแกก็เลยกราบอีก 3 ครั้ง บอกหลวงพ่อขอรับ เรื่องที่ผมต้องการจะรู้น่ะ จบไปแล้วขอรับ ที่หลวงพ่อพูดน่ะ ตรงตามความเป็นจริง ท่านก็บอก เอ๊อะ ยังงั้นเรอะ ขอโทษเถอะ ไอ้ฉันคนแก่มันก็พูดส่ง บางทีนั่งอยู่คนเดียวมันก็พูดนาคุณนา ไม่ได้พูดแต่กับคุณหรอก เวลาเห็นใครเขาบางทีมันก็นึกอยากจะพูดส่งไปยังงั้นแหละ แต่หลายคนเขาก็พูดว่าไอ้ที่พูดน่ะมันตรงตามความเป็นจริง ไอ้ธุระที่เขามามันก็หมดไป ฉันว่ามันก็เป็นเรื่องบังเอิญนะ นี่เป็นเรื่องของหลวงพ่อนาคตอนหนึ่งนะ ท่านผู้ฟัง ท่านจะคิดว่าหลวงพ่อนาคท่านรู้เรื่องยังงี้ได้ด้วยอะไร ด้วยญาณหรือเดาก็ตามใจเถอะ ไม่ได้ว่าอะไรนะ นี่มาเล่าสู่กันฟังเท่านั้น.

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำกับหลวงปู่นาค สำเร็จอรหันต์ เรื่องที่ 6


    ตานี้มาคุยกันต่อไปถึงเรื่องของหลวงพ่อนาค ก็คือพระลงอเวจี พระองค์นี้ก็ออกชื่อไม่ได้เหมือนกัน ถ้าออกชื่อเมื่อไรอาตมาเห็นจะติดตะรางเมื่อนั้น เพราะลูกศิษย์เยอะเหลือเกิน พระที่วัดไหน จังหวัดไหน ก็ไม่บอกอีกเหมือนกัน ถ้าใครขืนเดา เดาผิดแล้ว จะมาโทษกันไม่ได้นะ ไม่ยอมรับ บอกไว้ก่อนนะว่าไม่ยอมรับ เรื่องนี้ไม่รับ ใครอย่ามาถามเลยยันตาย ไม่พูดหรอก ถ้าขืนพูดเมื่อไรมันตายก่อนเวลา ไม่เอาแล้วเรื่องจริง
    เรื่องก็มีอยู่ว่า วันหนึ่งมีอาจารย์วิปัสสนา สมัยโน้น สมัยยังไม่ถึงกึ่งพุทธกาล ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังมากสมัยนั้น สมถะ วิปัสสนาเพิ่งจะก้าวขึ้นสู่ระดับตาของชาวโลก ความจริงสมถวิปัสสนามาตรฐานนี่มีมานานแล้ว ตั้งแต่พระพุทธเจ้าทรงอุบัติ หรือก่อนพระพุทธเจ้าทรงอุบัติ แล้วพระพุทธเจ้าก็มาคิดใหม่ ค้นคว้าใหม่ ได้อริยสัจแล้วก็สอนกันเรื่อยมา ยังระบบนิพพาน ต่อมาเมื่อพระพุทธเจ้านิพพานแล้วก็สอนกันเรื่อยมา แล้วมาหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็เกิดมีวิปัสสนาเบสิคเกิดขึ้นอีกหน่วยหนึ่ง แต่ท่านก็เรียกว่าวิปัสสนาเหมือนกัน อันนี้สำหรับผลอาตมาจะไม่พยากรณ์ เพราะว่าไม่ได้เข้าไปร่วมสำนัก จะถือว่าไม่มีผลน่ะไม่ได้ ความจริง การเจริญวิปัสสนาย่อมเป็นไปตามอัธยาศัยของบุคคล จะทำให้เหมือนกันน่ะมันไม่ได้ แบบเดียวกัน แต่พลิกแพลงไปคนละจังหวะกัน เหมือนกัน ได้ผลดีเหมือนกัน อย่าไปโทษกันนะ นักวิปัสสนา ถ้าทำไม่เหมือนกันละอย่าไปว่าเขาผิด อย่าไปว่าเขาถูก ปล่อยเขา เพราะเรื่องผลมันเป็นปัจจัตตัง รู้เอง แล้วการบรรลุมรรคผล มีกิริยาไม่เหมือนกัน อย่างแม่ชีคนหนึ่ง ไม่ใช่นางภิกษุณี ฟังเทศน์มาเกือบล้มเกือบตายไม่ได้อรหัตผล พอกลับมาถึงกระท่อม ตักน้ำล้างเท้าก่อนจะขึ้นกระท่อม น้ำไหลไปแล้วก็หยุด แล้วมองดูน้ำ นึกว่าชีวิตเรากับน้ำมีสภาพเหมือนกัน เมื่อมีการเคลื่อนไปในที่สุดก็หยุด ไม่ช้าเราก็ตายเราจะเกิดสักกี่ชาติก็มีสภาพเป็นแบบนี้ เท่านี้ท่านก็บรรลุอรหันต์ พระบางองค์ฟังเทศน์เกือบตายไม่ได้สำเร็จอรหันต์ ไปนั่งดูพยับแดด พอตอนเย็นพยับแดดหายไป สำเร็จอรหันต์ เห็นเป็นอนัตตาเทียบกับตัว นี่การเป็นอรหันต์บรรลุมรรคผล มีจริยาท่าทางไม่เหมือนกัน แต่กำลังจิตเหมือนกัน ฉะนั้นอาการของการเจริญวิปัสสนาแต่ละสำนักไม่เหมือนกัน แต่ถ้าใช้กำลังจิตถูกต้อง ตรงกับที่พระพุทธเจ้าแนะนำ ก็เป็นอันว่าใช้ได้ ฉะนั้นวิปัสสนาแบบเบสิค แบบไหนก็ช่าง ใครเป็นอาจารย์ก็ช่าง ใครเป็นต้นคิดก็ช่าง ไม่พูดให้ฟัง ท่านจะมีผลเป็นยังไง ท่านก็สอนกับท่านผู้เจริญเท่านั้นจะทราบผล พวกเราทุกคนภายนอกจะรู้ผลไม่ได้ ฉะนั้นอย่าไปประณามกัน ว่าของคนนั้นไม่ดีของคนนี้ไม่ดี ดีเหมือนกัน อย่างน้อยที่สุดก็ดีที่เคยเจริญ มีจิตตกอยู่ในสันโดษ ถ้าว่านั่งทำตัวเป็นตัวเองอยู่สักพักหนึ่งก็ยังดี ดีกว่าไม่ได้ทำเลย

    ตานี้มาว่ากันถึงอาจารย์ผู้นี้ ท่านเป็นอาจารย์สอนวิปัสสนาแบบเบสิค สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ท่านเริ่มต้นก่อน หรือใครจะก่อนท่านก็ไม่ทราบ รู้ว่าองค์นี้มีชื่อเสียงฟุ้งขจรไปมาก ต่อมาท่านก็ตาย เรื่องธรรมดาตาย ไม่ใช่ของผิดธรรมดา คนเกิดมาแล้ว ไม่ตายไม่มี เมื่อตายแล้วเขาก็ทำศพ มีนายทหารเรือหลายคนไปนั่งอยู่ แล้วมีนายทหารเรือบางท่านบวชเป็นพระ อาตมาก็ย่องไปกับเขาเหมือนกัน แต่ว่าไม่ได้ไปในฐานะบังสุกุลหรือพระเทศน์ ไม่ได้สตางค์คราวนั้น ผีพระองค์นี้ไปแล้วก็จน ไม่ได้เงินมา ก็มีหลายพันผีที่ไปแล้วได้เงินมา แต่เพราะอาศัยได้เงินผีได้ของผีมาใช้ เลยไม่ช้าอาตมาก็เป็นผีเหมือนกัน เพราะดันไปใช้ของผีเข้า กินข้าวในงานผี ใช้ผ้าเขาเผาผี เขาถวายผ้าไตร เงินในงานของผีเขาติดกัณฑ์เทศน์ ค่ามาติกา บังสุกุลเขาถวาย ขืนใช้เข้าไปชื่อผีมันก็ติดมากลายเป็นผีไปหลายครั้งแล้ว


    เมื่อปี พ.ศ. 2515 หามตัวเข้าโรงพยาบาล ไม่กินข้าวไม่กินน้ำมา 9 วัน เกือบเป็นผี แต่ความจริงถ้าเป็นผีเสียตอนนั้นน่ากลัวมันจะสบาย เพราะอะไร เห็นที่อยู่สวยแจ๋วเทียว สวยกว่าการตายทุกครั้งหมด แต่คราวนี้ไม่ทันตาย ใจมันเห็น แหมมันสวยจริงๆ อยากไปอยู่จัง ช่างเถอะจะไปอยู่เมื่อไหร่ก็ช่าง ไม่ดิ้นรน เพราะมีความหวังอยู่แล้ว
    ตา นี้เมื่อพระองค์นั้นตาย อาตมาก็ไป ไปฐานะไปเผาพระ มีนายทหารเรือคนหนึ่ง ตอนนั้นเป็นเรือเอก ชื่อเรือเอกเสงี่ยม จำนามสกุลไม่ได้เสียแล้ว แกบวชพระแล้วก็นั่งอยู่ใกล้หลวงพ่อนาค พอนั่งใกล้ๆ แล้วก็ถามหลวงพ่อนาคว่า หลวงพ่อนาคขอรับ ท่านองค์นี้ตาย เขาจัดศพเป็นงานใหญ่ หลวงพ่อมีความรู้สึกเป็นยังไงขอรับ หลวงพ่อนาคก็บอกว่าเอ๊อะ ข้าจะมีความรู้สึกยังไง ก็ในเมื่อคนมันไปอเวจีเสียแล้ว อาตมานั่งรองลงมาข้างท้ายก็สงสัย ท่านบอกว่าคนนี้ไม่ใช่พระ ก็ยกมือพนมกราบเรียนถามท่านว่า หลวงพ่อหมายถึงใครขอรับ คำว่าคนไปอเวจีน่ะ ท่านก็เลยตอบว่า ไอ้คนที่เขาจัดงานศพวันนี้น่ะซิไปอเวจี ก็เลยกราบเรียนท่านว่า หลวงพ่อเป็นพระนะขอรับ ไม่ใช่คน ท่านบอกว่าพระเมื่อไร ข้าเรียกคนนี่ยังสูงไปแล้วนา แต่ความจริงมันเป็นสัตว์นรกมาตั้งแต่ก่อนตาย ไอ้คนเราจะตาย จะเป็นพรหมต้องเป็นพรหมก่อนตาย ถ้าจะเป็นเทวดาก็ต้องเป็นเทวดาก่อนตาย จะเป็นสัตว์นรกก็เป็นสัตว์นรกก่อนตาย ใครจะไปนิพพานก็เข้าถึงนิพพานก่อนตาย ก็เจ้านี่มันเป็นสัตว์นรกก่อนตาย นี่ไปอเวจีแล้ว เสร็จกัน แล้วท่านก็เผา เมื่อเขาเผาเสร็จ เอาดอกไม้จันทน์ไปใส่แล้วก็กลับมา กลับมาที่กุฏิ พวกคณะนายทหารเรือด้วยแล้วก็มีคนหลายคนตามหลวงพ่อนาคมา เมื่อท่านนั่ง พวกเราก็กราบอีกวาระหนึ่ง เพราะมีความเคารพเต็มที่ สำหรับหลวงพ่อนาคนี่ อาตมามีความเคารพเต็มที่ หมายความว่า เคารพหมดตัว ไม่มีเหลือ ไม่เคยนึกตำหนิว่า ตรงไหนของท่านไม่ดี ไอ้ร่างกายน่ะไม่ดีจริง แต่ด้านจิตใจของท่านดีจริงๆ หายาก ไหว้มานานเรียกว่าไหว้ตั้งแต่ก่อนออกจากรุงเทพฯ ไปอยู่ต่างจังหวัด องค์นี้เต็มใจไหว้ แต่งบางคนที่มียศใหญ่ บางทีไหว้นิดเดียว ยกมือขึ้น 10 นิ้ว แต่ว่าให้นิ้วเดียว ทั้งนี้เพราะว่าอะไร เพราะว่าเกรงใจ ยศใหญ่แต่ใจสกปรก สำหรับท่านที่มียศใหญ่แต่ใจสะอาดก็มีเยอะ อันนี้ไหว้หมด 10 นิ้ว แล้วก็แถมหัวด้วย เป็นอันว่าเมื่อท่านมาแล้ว ถึงกุฏิก็กราบ กราบแล้วก็คุยกัน คุยหลายเรื่อง แต่ไม่ใช่เรื่องพระองค์นั้น คุยไปคุยมาก็เลยถามว่าหลวงพ่อขอรับ หลวงพ่อตายแล้วไปไหน ข้าจะไปรู้หรือหว่า นี่ข้ายังไม่ตายนี่ เลยกราบเรียนท่านว่าคนอื่นเขาตายหลวงพ่อรู้นี่ว่าไปอเวจี แล้วหลวงพ่อตายแล้วหลวงพ่อจะไปไหนล่ะ ท่านก็บอกข้ายังไม่ตายนี่ ข้ายังไม่รู้ บอก ต้องรู้ขอรับ หลวงพ่อบอกนี่ ว่าตายแล้วจะไปเป็นพรหมก็ต้องเป็นพรหมก่อนตาย ถ้าจะเป็นเทวดาก็ต้องเป็นเทวดาก่อนตาย ถ้าจะไปนิพพานก็ต้องเห็นนิพพานก่อนตาย จะลงนรก อบายภูมิ เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน ก็ต้องถึงสภาพอย่างนั้นก่อนตาย ตานี้ผมถามหลวงพ่ออีก ก่อนตายนี่หลวงพ่อไปไหน แล้วก็เวลาตายแล้วหลวงพ่อจะไปไหน ท่านก็นั่งมองหน้า บอก แหม ไอ้นี่มันปากตะไกรจริง อาจารย์มันถึงเรียกไอ้ลิงดำ มันไม่ใช่ปากคน ปากลิง บอกดีขอรับปากลิงกินได้ทุกอย่าง ท่านก็หัวเราะชอบใจ บอกเอางี้ก็แล้วกันนะ ถามว่าเอาไงขอรับ เอางี้ เจ้าคุณธรรมพี่ชายข้านา คำว่าพี่ชายอาจจะไม่ใช่พี่ตัวก็ได้ เพราะว่าเป็นคนรุ่นก่อน เรียกว่าบวชก่อนเจ้าคุณธรรมนี่ เวลาท่านจะตาย ท่านเจ็บหนัก ท่านได้อรหัตผลตอนนั้น แล้วก็เวลาท่านตายท่านก็เลยไปนิพพาน แล้วข้าไปไหนข้าไม่รู้ว่ะ เวลาตายข้าจะไปไหนข้าไม่รู้ ก็เลยกราบเรียนท่านว่าคนที่จะรู้ว่าคนอื่นได้ฌานสมาบัติขนาดไหนก็ดี หรือเป็นพระอริยเจ้าอันดับไหนก็ดี ถ้าตัวเองเข้าไม่ถึง ตามพระไตรปิฎกท่านบอกว่าไม่รู้ เหมือนกับคนเรียนหนังสือ คนเรียนประถมปีที่ 1 จะไปรู้เรื่องของประถมปีที่ 4 ไม่ได้ พวกเรียนประถมปีที่ 4 จะรู้เรื่องของชั้นมัธยมไม่ได้ คนที่เรียนชั้นมัธยมจะไปรู้เรื่องตามหลักวิชาการของคนที่เรียนมหาวิทยาลัย ไม่ได้ นี่กฎของความจริงเป็นยังงี้ แล้วถ้าหลวงพ่อไม่เป็นอรหันต์ แล้วจะรู้ว่าเจ้าคุณธรรมเป็นพระอรหันต์ได้ยังไง ท่านบอกกูไม่รู้โว้ย ก็นึกเอายังงั้นนี่หว่า นึกว่าท่านเป็นพระอรหันต์อีตอนใกล้จะตาย พ่อเล่นไม่ตายแบบนี้ พ่อเอาหัวขนเอาเฉยๆ
    ก็เป็นอันว่าเรื่องของหลวงพ่อนาคสำหรับวันนี้นะยุติกันเพียงเท่านี้.
    เรื่องดูใจเวลาปลุกพระ นี่เรื่องมันเกี่ยวกันกับอาตมา ต้องขอประทานโทษบรรดาท่านผู้อ่านหรือท่านผู้ฟัง เมื่อฟังแล้วอ่านแล้วก็อย่าคิดว่าอาตมาเป็นผู้วิเศษ อย่าคิดยังงั้นนะ จงคิดเสียว่าอาตมาก็เป็นเถรหัวล้านธรรมดาๆ ไม่มีอะไรดีกว่าท่านผู้ฟัง เกิดแล้วก็แก่ แก่แล้วก็เจ็บ เจ็บแล้วก็ตาย กินแล้วก็ขี้ ตื่นแล้วก็หลับ ธรรมดา ปวดเมื่อยไม่สบาย ปวดฟันตาฟ้าหูฟางเหมือนกัน พูดจาเอะอะโวยวายหยาบคายก็ได้ พูดนิ่มนวลก็ได้ ทำท่าเป็นผู้ดีก็ได้ ทำท่าเป็นสิงห์หน้าพลับพลาก็ได้ ทำเป็นหมาเห่าชาวบ้านก็ได้ เป็นทุกอย่าง ไอ้ที่ทำอย่างนั้น เพราะใจมันเป็นอย่างนั้น ไม่เหมือนหลวงพ่อนาค ท่านดีจริงๆ เลยยอมรับนับถือท่าน
    มาครั้งหนึ่ง ที่วัดชิโนรสาราม ธนบุรี ตอนนั้น สมัยนั้น เจ้าคุณสุวรรณเวที(ทองดี) อดีตเป็นพระของวัดระฆังมาเป็นเจ้าอาวาส ท่านก็ทำพิธีพุทธาภิเศก ปลุกพระเรียกว่าบวชพระพุทธเจ้า พระเครื่องนี่เขาทำรูปเปรียบพระพุทธเจ้าบ้าง บางทีก็ทำรูปเปรียบของพระสงฆ์ แต่วันนั้นทำรูปเปรียบเฉพาะพระพุทธเจ้า ก็เลยเรียกว่าไปบวชพระพุทธเจ้ากัน ปลุก ไม่ใช่บวชกระมัง ท่านกำลังหลับ ไปปลุกให้ตื่น ท่านมีหน้าที่ปลุกเขานิมนต์มา 9 องค์ พระอะไรบ้างก็ไม่ทราบ แต่เท่าที่รู้จักมีอยู่หลายองค์ แต่พูดถึงอยู่ 2 องค์ คือ หลวงพ่อนาค กับพระครูธรรมาภิราม พระแขนสั้นแขนยาวนครปฐม นอกนั้นที่รู้จักก็มีชื่อเสียงโด่งดังเหมือนกัน ในสมัยนี้ก็โด่งดัง สมัยนั้นก็โด่งดังอีก 7 องค์ แต่ไม่พูดถึงหรอก คือพูดถึงไม่ได้ เดี๋ยวจะถูกด่า เวลาท่านปลุกพระ สำหรับพระครูธรรมาภิราม รู้จักอาตมาดี อาตมาเรียกหลวงน้า พอเจอะท่านเข้าก็คุยตามแบบฉบับ ทีแรกก็ทำท่าเป็นพระติ๋มๆ เพราะไม่เคยรู้จักใคร พออาตมาเข้าไปก็เลยออกท่าตามแบบฉบับ ออกท่าอะไรทราบไหม ท่าลิง ก็ไปยั่วท่านด้วยอาการต่างๆ ท่านก็ทำโน่นทำนี่ ชาวบ้านเขาก็เลยรู้สึกว่าท่านจะล่อกแล่กไปหน่อย ก็เลยบอกว่าหลวงน้า ไอ้แก้วน้ำน่ะ มันอยู่ไกลผม หลวงน้าช่วยหยิบมาให้ทีเถอะ ท่านบอก เฮ้ย แขนกูหยิบไม่ถึงนี่หว่า ก็เลยบอก เอ๊อะ พระจะปลุกพระนี่ เอาพระที่ไม่มีฤทธิ์มามันก็เสีย เสียของเปลืองที่ ไม่เอา ถ้าหยิบแก้วน้ำไม่ได้ก็นิมนต์กลับวัด ไม่มีประโยชน์ พระแบบนี้ ความจริงตอนนั้นพระคณาจารย์หลายองค์ก็นั่งอยู่ด้วย แต่เราไม่เกี่ยว เราคุยกับน้าชาย ท่านบอกไอ้นี่มันดูผิดคนนี่หว่า หนอยแน่มันดูถูกนี่หว่า หาว่ากูหยิบไม่ได้เรอะ ก็ตอบว่าไม่ได้ดูถูก แต่ว่าหยิบไม่ถึง นิมนต์กลับวัดเลย เอามารกที่ พระประเภทนี้ เสียศักดิ์ศรีครูบาอาจารย์ นี่เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อปานนะ แล้วก็เป็นหลานชายหลวงพ่อปานด้วยนะ ไม่ใช่ลูกศิษย์อย่างเดียว มองหน้าเป๋ง เออ มึงดูถูกกู กูก็เอาได้วะ เรื่องอะไร ท่านก็ยื่นแขนซ้ายออกไปมันก็ไม่ถึง เลยเอาแขนขวาตบตรงข้อศอก บอกแขนยาวออกไปซิหว่า ไอ้แขนมันค่อยๆ ยาวออกไปๆ ความจริง ไอ้แก้วน้ำตั้งอยู่ห่างสุดแขนท่านสักเมตรหนึ่งเห็นจะได้หรือเมตรเศษๆ ในที่สุดท่านก็หยิบแก้วน้ำมาส่งให้ คนพวกนั้นมองกันตาตั้งหมดแปลกใจว่าพระทำได้ ท่านก็บอก ไอ้นี่มันเป็นยังงี้ละ ถ้าไปเจอะมันเข้าทีไรมันทำเสียผู้ใหญ่ทุกทีแหละ มันให้เล่นอย่างโน้นเล่นอย่างนี้ ไม่เล่นมันก็ว่า เราจะให้มันทำมั่งมันก็บอกว่ามันลูกศิษย์รุ่นหลัง มันเล็กกว่า มันไม่ทำ นี่ให้มันทำอะไรซี มันไม่ทำหรอก แล้วมันก็ไม่ทำจริงๆ เพราะอะไร เ พราะว่า หลวงน้า คือหลวงพ่อปานนะ ท่านเรียกหลวงน้า หลวงน้าท่านสั่งมันไว้ ห้ามไม่ให้ทำ มันก็เลยเลิกทำ ไอ้นี่เคารพคำสั่งครูบาอาจารย์จริงๆ ไอ้เราไม่ถูกจำกัดนี่ มันก็เลยใช้ให้เราทำอะไรต่ออะไรเรื่อยไป ชาวบ้านเขาถามว่าไม่โกรธมันรึ ลูกหลาน บอก โกรธมันยังไงไปด่ามันเข้าซี ดีไม่ดีมันล้วงย่ามเอาสตางค์หมด ไม่ได้หรอก ไปด่งไปด่ามันไม่ได้หรอก ถ้ามันจะว่าอะไร จะใช้อะไรก็ต้องตามใจมัน เดี๋ยวมันไม่ชอบในมันก็หยิบก็ล้วงเอาตามพอใจ เขาก็ถามว่าไม่บาปเรอะ มันจะบาปยังไง มันลูกมันหลาน มันเอาไปแล้วก็เลยนึกให้มันไปเลย ไม่เอาโทษเอาโพยกับมัน นี่เล่าเรื่องตอนต้นนะ สำหรับครูธรรมาภิราม
    ทีนี้ถึงเวลาปลุกพระจริงๆ เก้าองค์เข้าไปนั่ง อาตมาเองคิดในใจ ว่าเราก็ไม่มีความรู้อะไร ความดีด้านสมาธิก็ไม่มีอะไร เพราะเป็นคนธรรมดาๆ เป็นพระเดินผ่านหน้านรกไปผ่านหน้านรกมา เดินห่างนรกอยู่ครึ่งนิ้วเท่านั้นเอง ถ้าเผลอเมื่อไรหัวก็ทิ่มนรกเมื่อนั้น ก็เลยนึกในใจว่าเอาพระ 9 องค์นี้องค์ไหนมีอานุภาพมากบ้าง อยากรู้ก็เลยเข้าไปในโบสถ์ เขาปลุกในโบสถ์ ไปนั่งอยู่ท้ายอาสนสงฆ์ สำหรับพระที่ปลุกพระเขาทำเก้าอี้ให้นั่ง เอาไม้ไผ่มาทำเก้าอี้ เขาบอกว่าถ้าปลุกด้วยเก้าอี้ไม้ไผ่มันขลังดี ไอ้นั่นเรื่องของอุปาทาน ไม่เกี่ยว เรื่องของคนคิด
    เมื่อ ไปนั่งอยู่ท้ายอาสนสงฆ์ตั้งจิตอธิษฐาน อาราธนาบารมีพระพุทธเจ้า คือมองดูพระประธานเป็นกำลัง ขอบารมีพระพุทธเจ้าได้โปรดสงเคราะห์ ข้าพระพุทธเจ้าอยากจะดูอานุภาพจิตของพระแต่ละองค์ที่มานั่งปลุกพระในวันนี้ ถ้ากระแสจิตของบุคคลใด มีขนาดเท่าใด มีอานุภาพอย่างไรก็ขอให้ปรากฏแก่อารมณ์ของข้าพระพุทธเจ้า นึกเท่านี้นะ อธิษฐานเอาตามเรื่อง ตามเรื่องของคนที่ไม่มีฌานสมาบัติชั้นดีอย่างเขาหรืออาจจะไม่มีเลย พออธิษฐานเท่านั้นก็จับลมหายใจเข้าออก ทำจิตสงบนิดหนึ่ง ก็เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ นี่เป็นอำนาจของพุทธานุภาพจริงๆ นะ ไม่ใช่ความดีของอาตมา เห็นกระแสจิตของพระทุกองค์ใสแจ๋ว เหมือนกับเห็นของในเวลากลางวัน สำหรับกระแสจิตหลวงพ่อนาคนี่พุ่งออกมาใหญ่เหลือเกิน คลุมเครื่องรางของขลังทั้งหมด เรียกว่าแสงสว่างของจิตแทรกลงไปในเครื่องของขลังอยู่ที่ผิดด้านหน้า ยันข้างล่างสุด เรียกว่าคลุมหมด อาบลงไปหมดเลย โพลงสว่างชัด ของพระครูธรรมาภิราม พุ่งออกมาเหมือนหอก เป็นกระแสเล็กแต่พุ่งแรงมาก แสดงว่าพระครูธรรมาภิราม เป็นพระนักเลง ชอบคงกระพันชาตรี ของหลวงพ่อนาคนี่เต็มไปด้วยอำนาจพระพุทธบารมีจริงๆ มีความเยือกเย็นสบายๆ ยังไงชอบกล แต่พระอีก 9 องค์ มองดูไปแล้วกระแสจิตไม่ได้ออกมา เหมือนกับจุดเทียนจุดริบหรี่ ปักอยู่ในอกนั่นเองอยู่เฉยๆ เป็นดวงนิดหนึ่ง แล้วก็อยู่ในอกเฉยๆ ก็นั่งดูอยู่ยังงั้นจนกว่าเขาจะเลิกปลุกกัน
    เมื่อ ถึงเวลา 23 น. เศษๆ ก็หมดสัญญาณการปลุก ความจริงการปลุกพระนี่ ไม่ต้องใช้เวลามาก ถ้าใช้เวลามากแล้วไม่มีผล ควรจะให้พระกำหนดกันเอง ปลุกพร้อมกัน ใครเต็มเมื่อไรก็พัดผ่อนได้เมื่อนั้น แต่ยังไม่ลุกออกมา ยังงี้จะดีมาก แล้วเวลาปลุกพระ ต้องใช้กำลังสมาธิสูงมาก ถ้าพระได้สมาบัติยังต่ำหรือโยเยอยู่ ยังไม่มั่นคงนัก จิตจะส่ายไปตามกระแสสวด ผลจะไม่ดี แต่ว่าที่ทำกันเวลานี้ ก็มีพระสวดพุทธาภิเศกควบไปด้วย เขาเอาแบบมาจากไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ว่าเอาแบบมาจากไหน แต่ว่ามันจะดีหรือไม่ดีแค่ไหนก็ตามเรื่อง หากมีพระกำลังจิตดีก็ใช้ได้ ถ้าพระกำลังจิตไม่ดีก็เลยนั่งหลับตา อีตอนนั่งหลับตาใครจะรู้ว่าทำอะไรบ้าง บางวัดก็เกณฑ์กันตลอดรุ่งไม่เห็นมีประโยชน์ เคยไปร่วมกับเขาเหมือนกัน ถ้าเกณฑ์ตลอดรุ่งดีไม่ดีก็นั่งหลับเลย
    ตา นี้ พอเขาเลิกทำพิธี พระอาจารย์ทุกองค์ก็ลงมา พอลงมาเสร็จท่านก็ไปนั่งกันตามหน้าอาสนสงฆ์แต่ไม่ถึงท้าย อาตมานั่งอยู่ทางท้ายกับพระสมุห์สมบูรณ์ พอลงมานั่งกันเรียบร้อย หลวงพ่อนาคก็บอกว่านี่ท่านพวกนี้รู้ไหม ไอ้ขโมยมันมานั่งขโมยอยู่ พระพวกนั้นก็ทำหน้าล่อกแล่กๆ มีพระครูธรรมาภิรามองค์เดียวยิ้ม หันมายิ้มด้วยแสดงว่าท่านรู้ก็เลยยิ้มกับท่าน แต่หลวงพ่อนาคท่านก็ทำเฉย ทำไม่รู้ไม่ชี้ บอกท่านทั้งหลายรู้หรือเปล่า ไอ้ขโมยมันมานั่งขโมยอยู่ ท้ายอาสนสงฆ์ แล้วก็มีญาติโยมคนหนึ่งถามว่าขโมยอะไร ถามขโมยอะไรเจ้าค่ะหลวงพ่อ ท่านก็บอก มันไม่ได้ขโมยอะไรหรอก มันมานั่งขโมยดูใจพระปลุกพระ ไอ้ขโมย มันนั่งอยู่ท้ายอาสนสงฆ์
    ตา นี้เวลาที่ท่านลงมาแล้วเขาขอพระท่าน ท่านก็แจก เวลาท่านแจกไปขอท่านมั่ง ท่านไม่ให้ บอกไอ้นี่ขโมย ไม่ให้ละ ทำได้อย่างที่เขาทำนี่ ทำได้ไปทำเอาเองซี ท่านไม่ให้ ก็มีพระหลายองค์ท่านมองหน้า ท่านก็เลยบอกว่าไอ้นี่แหละขโมย ขโมยดูใจพระทุกองค์ มันรู้ ว่าใจพระองค์ไหนเป็นยังไง นี่มันทำได้นะพระนี่ มันทำได้ ทำได้คล้ายๆ ข้าแหละ แต่ไอ้ข้ากับมันใครดีกว่ากันข้าไม่รู้หรอก แต่วันนี้ท่านผู้ฟังจำไว้นะ ว่าอาตมาไม่ดีเท่าหลวงพ่อนาค แล้วก็ดียังไม่ใกล้หลวงพ่อนาค ยังไกลอยู่นะ เพราะยังเป็นปุถุชนคนธรรมดา ยังเป็นคนปวดอุจจาระ ปวดปัสสาวะ มีหนาว มีร้อน มีเมื่อย มีหิว มีกระหาย รู้เปรี้ยว รู้เค็ม รู้เผ็ด แล้วมีอารมณ์ เสียงดังบ้าง ดุบ้าง ด่าบ้าง ว่าบ้าง คำสุภาพบ้าง ยิ้มแย้มแจ่มใสบ้าง หน้าบึ้งขึงจอบ้าง อย่างนี้อย่าชมกันว่าดีนะ เป็นอาการของคนเลว แต่มันยังอยากจะเลวอยู่ก็ปล่อยมันไป ตายเมื่อไร เลิกเมื่อนั้น.
    เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2514 หลวงพ่อทราบข่าวว่า หลวงปู่นาคมรณภาพ หลวงพ่อกำลังปลงสังขารพอสบายก็ปรากฏ แสงสว่างพุ่งมาทางศรีษะมีแสงสว่างมาก แต่ก็ไม่คิดสงสัยเพราะเวลาที่มีอารมณ์สบายมักจะปรากฏว่า จะมีแสงพระพุทธรํศมีแบบนั้นเสมอๆ แต่ว่าวันนี้เป็นแสงสว่างธรรมดา ไม่มีแสงอื่นมาผสม ก็เลยคิดว่าเป็นพระอรหันต์องค์ใดองค์หนึ่งมาสงเคราะห์ พอดีเพลียมากจึงหลับไปไม่ได้สนใจ ต่อมาคุณนิดมาบอกว่าท่านเจ้าคุณเทพหรือหลวงพ่อนาค วัดระฆังมรณภาพแล้ว พอดีช่วงนั้นหลวงพ่อฤาษีเป็นหวัด ทานยาจึงไปอีกรอบ พอตื่นขึ้นมาถึงเวลา 19.55 น หลวงพ่อกะว่าจะไปเที่ยวหน่อย จึงได้ถอดกายทิพย์พบสมเด้จองค์ปฐม ( หมายถึงพระพุทธเจ้าองค์แรกที่เกิดขึ้นมาในโลก) ท่านมายืนคุม และได้กราบทูลถามท่านว่า ท่านเทพสิทธินายก หรือหลวงปู่นาค วัดระฆังไปไหน สมเด็จท่านก็ตอบว่าไปนิพพาน แล้วทูลถามสมเด็จท่านว่า ท่านเป็นอรหันต์ระดับไหน ท่านตอบว่าเป็นพระอรหันต์ระดับวิชชาสาม และทรงมโนมยิทธิ แต่ทิพจักษุญาณสดใสเป็นพิเศษ เลยทูลลาสมเด็จองค์ปฐมเพื่อไปหาหลวงพ่อนาค

    เมื่อไปถึงชั้นดาวดึงส์ ก็ไปเจอเทวดามากมายจะไปไหว้พระจุฬามณี เลยถามหาหลวงพ่อนาค เทวดาบอกว่ากำลังจะมาที่พระจุฬามณี ก็พอดีเจอหลวงพ่นาคท่านมาพอดี ท่านสว่างมากเหลือเกิน ท่าทางสง่างดงามมาก ท่านถามว่ามาหาฉันทำไม หลวงพ่อฤาษีบอกว่าไม่รู้จะไปไหนก็ลองตามท่านดู แล้วถามท่านว่าท่านมีทิพยจักษุญาณแจ่มใสมาก ผมทำไม่ได้อย่างท่าน และขอให้ผมแจ่มใสเหมือนท่านบ้างได้ไหม ท่านบอกว่ารักษาสมาธิที่ศูนย์ไว้เป็นปรกติก็แล้วกัน มันจะคล่องตัวเอง และชำระใจให้สอาด มันจะสว่างมากเอง เวลาสมควรจึงลาท่านไปต่อ.(ย่อมาจากหนังสือของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ชื่อหนังสือธรรมปฎิบัติ เล่มที่ 23 )
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...