ร่วมบุญบูชาด่วน!!!ยอดพุทธาคม!!!ตะกรุดมหาลาภเงินเรียกเงิน

“ชาวบ้านที่เขาใส่บาตรเราเมื่อเช้านี้ เขายังไม่มีของดีๆ อย่างนี้ใช้เลย เราเป็นพระ อาศัยชาวบ้านเขากิน จะใช้ชีวิตที่ดีกว่าชาวบ้านเขาได้อย่างไร...”

ต่อมามีผู้นำรถเก๋งเก่าๆ มาถวายท่านคันหนึ่ง เพราะเห็นว่าวัดทรายขาวอยู่ห่างจากถนนสายหลักมากพอสมควร เวลาไปไหนมาไหนก็สุดแสนจะลำบาก ซึ่งท่านก็ปฏิเสธที่จะรับเหมือนกัน จนในที่สุดก็มีคนใจบุญนำรถจี๊ปเก่าๆคันหนึ่งมาถวาย และกราบเรียนท่านว่า

“รถคันนี้ไม่หรูหราอะไร ราคาก็ไม่แพง เป็นรถใช้งานจริงๆ ขอให้ท่านรับไว้เถอะ เวลาไปไหนมาไหนจะได้ไม่ต้องเดินไกลๆ...”

นั่นแหละท่านถึงยอมรับไว้ และใช้มันใน”กรณีจำเป็นจริงๆ”

 

แม้ว่าพระอาจารย์นองจะละสังขารไปแล้ว แต่ภาพของพระอริยสงฆ์ที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตายังคงสถิตอยู่ในใจของลูกศิษย์ทุกคน

โดยเฉพาะ”วัตถุมงคลรุ่นต่างๆ” ไม่ว่าจะเป็นหลวงปู่ทวด ตะกรุด ฯลฯ ที่ท่านได้สร้างขึ้นไว้ให้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของทุกคน รวมไปถึง”มรดกทางธรรม”ที่ท่านได้สั่งสอนให้กับผู้ที่ได้เข้าไปกราบไหว้ท่าน.....

สิ่งเหล่านี้แหละครับที่จะเป็นเครื่องเตือนใจให้ลูกศิษย์ทุกคนสร้างกรรมดีเหมือนวันที่ยังมี”พระอาจารย์นอง ธมมภูโต” ดำรงขันธ์และสั่งสอนศิษยานุศิษย์ทุกคน...

 

แต่แล้วที่กล่าวว่า ตะกรุดนารายณ์แปลงรูป เป็นตะกรุดในความฝัน เหมือนเรื่องราวของหลวงพ่อทวดซึ่งถือ
ว่าแปลกประหลาดมาก เรื่องราวเกี่ยวกับหลวงพ่อทวดที่เลื่องลือเป็นเรื่องในนิมิตแทบทั้งสิ้น มีเรื่องเล่าว่าอาจารย์ทิมท่าน
มีนิมิตว่า ปี 2497 ต้องสร้างพระรูปร่างแบบใด และเป็นที่นิยมมาจนปัจจุบันนี้

อาจารย์ทิมนิมิตว่าหลวงพ่อทวดให้มาช่วยบูรณะวัดประสาทบุญญาวาสที่ถูกไฟไหม้...
อาจารย์นองก็นิมิตว่าแม่นางจันทร์มาบอกและสอนวิธีการทำตะกรุดนารายณ์แปลงรูปพร้อมคาถากำกับ...
่้
พระอาจารย์เพ็งก็ได้รับการถ่ายทอดตะกรุดนารายณ์แปลงรูปในนิมิตเช่นกัน นับเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก กล่าว
คือ พระอาจารย์เพ็งได้นิมิตถึงอาจารย์นองมาสอนตะกรุดนารายณ์แปลงรูปถึง 2 ครั้ง 2 คราด้วยกัน

ครั้งที่ 1 อยู่ในช่วงระหว่างจัดงานพระอภิธรรมศพพระอาจารย์นอง อาจารย์เพ็งนิมิตว่าพ่อท่านนองมาบอกให้ช่วย
สร้างพระวิหารบรรจุอัฐิรูปหล่อท่านให้แล้วเสร็จด้วย ในนิมิตอาจารย์เพ็งบอกว่า จะให้หาเงินที่ไหน อาจารย์นองบอกจะ
สอนตะกรุดนารายณ์แปลงรูปให้แล้วจะหาปัจจัยต่างๆ ได้เอง ในนิมตอาจารย์นองมายืนอยู่หน้าพระอุโบสถ แล้วบอกสอน
อาจรรย์เพ็ง พอดีมีสามเณรองค์หนึ่งเดินผ่านมาและจะขอเรียนด้วย อาจารย์นองจึงสอนได้แต่ภาถาเสกนารายณ์แหลงรูป
แล้วเดินหายไปหลังศาลา อาจารย์เพ็งก็เดินตามไป เพื่อที่จะขอเรียนพระยันต์กำกับที่จารในตะกรุด พอดีมีผู้หญิงนุ่งขาว
ห่มขาวเดินมาขวางทางอีก อาจารย์นองจึงหายไป เป็นอันว่าในนิมิตครั้งแรกได้มาเฉพาะพระคาถาเสกนารายณ์แปลงรูป

ครั้งที่ 2 คืนหนึ่งอาจารย์เพ็งนิมิตว่าอาจารย์นองมาเรียกให้ท่านไปพบที่กุฏิแล้วสอนให้ทำตะกรุดเลย อาจารย์
เพ็งก็ตอบกลับไปว่าไม่ได้ เขียนไม่ได้ เพราะต้องมีการจารพระยันต์ และจารปลอกตะกรุดด้านใน อาจารย์นองก็เลยโมโห
พร้อมพูดดังๆ ว่า "ทำได้ซิว่ะ ทำไมจะทำไม่ได้ เขียน เขียนเลย" อาจารย์เพ็งก็เลยเขียน ซึ่งเขียนลงไปได้ จารพระยันต์ ก็ได้ อาจารย์นองก็บอกว่า "เห็นไหม บอกว่าได้ ก็ได้ซิว่ะ"
เป็นอันว่ากว่าจะได้วิชาตะกรุดนารายณ์แปลงรูปมา อาจารย์เพ็งนิมิตว่าอาจารย์นองมาสอนถึง 2 ครั้งจีงสำเร็จ ....

 

อาจารย์เพ็งได้เมตตาอธิบายให้ฟังว่า" การสร้างตะกรุดนารายณ์แปลงรูปนั้นมีขั้นตอนที่ยุ่งยากมาก เพราะต้อง
มีการลงจารพระยันต์ด้านในปลอกตะกรุด ในตะกรุดมีการลงพระยันต์ที่ไม้มงคลหรือแผ่นโลหะมงคลไว้ด้านใน แล้วจึง
ปิดให้สนิท พร้อมว่าคาถานารายณ์แปลงรูปกำกับ นับเป็นสิ่งมงคล 3 ประการในตะกรุดนารายณ์แปลงรูปในดอกเดียว...

จึงกล่าวได้ว่าอาจารย์เพ็ง เจ้าอาวาสวัดทรายขาวรูปปัจจุบัน เป็นผู้ได้รับการถ่ายทอดการสร้าง ตะกรุดนารายณ์
แปลงรูปอันลือลั่นจากพ่อท่านนอง รวามทั้งเครื่องไม้เครื่องมือ วิธีการสร้างก็อยู่กับอาจารย์เพ็งทั้งหมด ในปัจจุบันนี้ถึง
แม้จะมีผู้คนไปกราบไหว้บูชาหลวงปู่ทวด พ่อท่านนอง และขอบูชาตะกรุดนารายณ์แปลงรูปกันเป็นจำนวนมาก แต่ไม่
สามารถจะบูชาตะกรุดกันได้อย่างทั่วถึง

ในการจัดสร้างวัตถุมงคลครั้งนี้ พระอาจารย์เพ็ง เจ้าอาวาสวัดทรายขาว ซึ่งเป็นพระที่เคร่งในศีลาจาวัตร มี
วัตรปฏิบัติงดงาม เป็นพระสมถะเรียบง่าย ไม่ยึดติด มากด้วยเมตตาบารมี ได้เมตตาจัดสร้างตะกรุดนารายณ์แปลงรูป
ให้มากที่สุด โดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย เพราะจะเป็นตะกรุดนารายณ์แปลงรูปรุ่นแรกที่พระอาจารย์เพ็งลงได้ลง
ตะกรุด แล้วเข้าพิธีพุทธาภิเษกให้เข้มขลังยิ่งขี้น ประกอบกับพระอาจารย์เพ็งมีอายุมากถึง 80 ปีแล้ว จึงบอกทำทั้งทีก็
ให้มีคุณค่ามากๆ เลย จึงให้จัดสร้างเป็นทั้งตะกรุดเงิน และตะกรุดทองเลย นับเป็นเมตตาบารมีที่แผ่ให้กับศิษยานุศิษย์แต่ก็หมดไปแล้วผมได้ดอกเดียวเหมือนกัน...แต่นี่ก็บอกท่านให้ช่วยทำวิชานารายณ์แปลงรูปลงในพระหลวงพ่อทวดให้แล้วท่านว่าใช้ได้เหมือนธารบุญธารธรรมจะบอกกล่าวเล่าสิบอีกครั้ง...
ที่อยู่ต่างที่ต่างถิ่นไกลปัตตานีลังกาสุกะ จะได้มีโอกาสบูชาเครื่องมงคลจากยอดวิชา 'ตะกรุดนารายณ์แปลงรูป' ไว้ป้องกันอุปัทวภัย และเป็นสิริมงคลกับตนเอง
หมายเหตุ ตะกรุดมหาลาภเงินเรียกเงินพ่อท่านทวีเสกด้วยนารายณ์แปลงรูปเหมือนกันเพราะท่านสนิทสนมกับอาจารย์นองดี ท่านเสกเข้าถึงดีขลังแท้แม่นางจันทร์ท่านไม่หวงวิชาเหมือนที่กล่าวกันครับ ร่างทรงท่านที่ทรายขาวก็มีครับเธอเป็นครูที่ทรายขาวนั่นแล....

 

ตอนนั้นวัดประสาทมาออกทุนสร้างให้ท่านอาจารย์เพ็งครับ ตอนนี้เกลี้ยงแล้ว...ตะกรุดนารายณ์แปลงรูปจึงหายากสุดยากเหมือนกันครับ.....

 

แน่ะ มีอุบคาถาอิสลามไว้อีก คงจะท่องออกเสียงยากกระมัง เพราะภาษายาวีคงจะออกเสียงให้ถูกต้องได้ยาก เดี๋ยวจะออกเสียงเพี้ยน แล้วความหมายจะเปลี่ยน

 

ตะกรุดนารายณ์แปลงรูปนั้นท่านอาจารย์นองท่านสั่งทำปลอกที่ร้านทองตลาดนาประดู่ซึ่งเป็นร้านทองญาติผมเองครับ...ท่านอาจารย์นองท่านมานั่งที่ร้านบ่อยนอกจากนี้ท่านยังเสกของเสกมงคลให้เสมอผมตอนนั้นยังไปนั่งดูด้วยท่านกาศครูนานมากผมยังจำได้ไม่ลืม...

 

ครับ กลัวเสียงยากเพราะจะงงงงงๆกันใหญ่ครัย แฮ่...

 

สงสัยมานาน เพราะอ่านผ่านตามาหลายครั้งแล้ว คำว่า กาศครู คืออะไร เป็นแบบเดียวกันกับโองการไหว้ครูหรือเปล่า รบกวนช่วยให้ความกระจ่างด้วยเถิด

 

กาศครู...คือ ประกาศนามราชครู ครูพระ ครูคาถา ครูทุกวิชามาบันดาลให้ศักดิ์สิทธิ์เป็นกายสิทธิ์มีผล......ครับผม..

 

มีสองท่านแจ้งมาว่าสัมผัสพลังงานของตะกรุดมหาลาภเงินเรียกเงินแล้ว แรงมีพลังงานที่รู้ได้ ปัจจังตังสวดมนต์มากๆจะรู้ได้ครับ...ด้วยความเคารพครับ

 

พ่อท่านเอียดวัดหนองช้างแล่น จังหวัดตรัง อาจารย์พ่อท่านทวี(ท่านบวชหน้าศพท่าน)


พระครูธรรมกิจโกศล อาจารย์นองวัดทรายขาว พระเถระที่พ่อท่านทวีเคารพ


พระครูวิสัยโสภณ (อาจารย์ทิม)วัดช้างให้ ผู้มีเมตตาธรรม ผู้ประสิทธิประสาทวิชาให้พ่อท่านทวีวัดบ้านไร่พัฒนาราม

 

ตะกรุดมหาลาภเงินเรียกเงิน ร่วมบุญ 200บาท ค่าส่ง60บาท
พระผงทวีลาภพ่อท่านคล้าย ร่วมบุญ100บาท ค่าส่ง60บาท
สีผึ้งสาลิกาป้อนเหยื่อ ร่วมบุญ100บาท

 

ประวัติคุรุอาจาริยาจารย์..พ่อท่านทวี
...พ่อท่านเอียด ธัมมปาโล(พระครูวุฒิโสภณ) วัดหนองช้างแล่น อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ท่านเกิดเมื่อปี 2412 บวชเรียนมาตั้งแต่เป็นสามเณร พอบวชเป็นพระก็ไปศึกษาวิชาที่วัดเขาอ้อ กับ อ.ทองเฒ่า อยู่ที่วัดเขาอ้อ ทั้งหมด 16 พรรษา แล้วก็กลับมาจำพรรษาที่วัดหนองช้างแล่น จน มรณะภาพในปี 2502 เหรียญรุ่นแรก สร้างปี 2491 ทำบุญอายุครบ 80ปี จำนวน1000 เหรียญ พุทธคุณไม่ต้องพูดถึงเหนียวสุดๆ มีประสบการณ์ด้านมหาอุดและคงกระพัน มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนครับ ส่วนคาถาไม่ได้มีการบันทึกไว้ครับ ตอนนี้ยังไม่มีของปลอม เพราะเหรียญแท้นั้นจะบางมากจนไม่สามารถทำปลอมได้ ส่วนเหรียญรุ่นสอง นั้น จะคล้ายๆกับรุ่นแรก แต่เหรียญจะหนากว่ากันมาก

 

มีคนเล่าว่า พ่อท่านเอียดวาจาสิทคือ มีคนบอกให้พ่อท่านเอียดรีบไปขึ้นรถไฟ ช้าเดี่ยวไม่ทัน พ่อท่านเอียดบอกว่าเดี่ยวรถไฟจอดรอกูเอง พอรถไฟมาถึงก็หยุดจริง

 

พ่อท่านบวชพระในงานศพพ่อท่านเอียดนั่นเอง..และการสืบวิชาก็เน้นสายวิชาพ่อท่านเอียดที่เป็นสายเขาอ้อโดยตรง....

 

พ่อท่านเอียด" ท่านเป็นเนื้อนาบุญของ.."ตักศิลา-เขาอ้อ" ท่านศึกษาวิชาต่างๆที่สำนักอยู่เกือบสองทศวรรต ศึกษากับพระอาจารย์ที่จำเริญยิ่งด้วยปัญญา เช่น พระอาจารย์ทองเฒ้า และหรือพระอาจารย์ในยุคประมาณ พ.ศ.2430-พ.ศ.2450.........การสร้างเหรียญรุ่นแรกของพ่อท่าน ได้จัดสร้างตาม.."ศาตร์ของสำนักเขาอ้อ"..กล่าวคือ..การแปรธาตุ..การแยกธาตุ..การรวมธาตุ พ่อท่านเอียดได้ทำพิธีหลอมโลหะด้วยตัวเองที่วัด จำนวนการสร้างประมาณ 1000 เหรียญ คือตามจำนวนชาวบ้านและลูกศิษย์ในบริเวณพื้นที่ไกล้วัด...


............................"เหรียญหยุดกระสุน"...ด้วยปริมาณการสร้างที่น้อย แต่ผู้ศรัทธาที่มีต่อท่านหรือวัตถุมงคลของท่านมีมาก เนื่องด้วยในช่วงเวลาที่บ้านเมืองไม่ค่อยปกติ ทุกคนหาที่พึ่ง ในความศรัทธา..คนตรัง..คนใต้..รวมไปถึงประเทศมาเลเซีย ต่างก็แสวงหามาครอบครอง มาเป็นที่พึ่งมาเป็นสี่งยึดเหนี่ยว.........

 

ความรู้สายเขาอ้อกระจายไปทั่วภาคใต้จะแถลงความจริงให้ทราบครับ...
สายกรุงเทพ ที่เด่นคือ สายอาจารย์ชุม ไชยคีรี
สายตรัง มีหลายสายเพราะส่วนใหญ่เป็นสายเขาอ้อทั้งหมดเชื่อในยุคอาจารย์ปาล วัดเขาอ้อได้ขนตำรามาที่ตรังมาก
สายสงขลา นครศรีธรรมราช ยะลา นราธิวาส ล้วนสืบต่าวิชาเขาอ้อมาทั้งสิ้น...ที่ปัตตานี คือพ่อท่านทวี พ่อท่านเขียว เรียนของเขาอ้อมาทั้งนั้นครับ....

 

ยะลา สายวัดหลักห้าที่สืบต่อวิชาเขาอ้อจากอาจารย์ชุม และสำนักวัดเขาเจียก พัทลุง กับบอาจารย์หมุน วัดเขาแดง พัทลุง
มาเลเซีย พ่อท่านครน ก็ศิษย์เขาอ้อ...
วิชาเขาอ้อจึงยังไม่สิ้น!!!

 

เขาอ้อจะไม่ทางเสื่อมทราม...ไม่มีทางตกต่ำ เพราะภูมิวิชายังคงปรากฏทั่วไป....ที่วัดหลักห้ายะลา วิชากระสุนคดยังปรากฏในยุคตาหลวงทอง เจ้าอาวาสองค์สำคัญ....