ร่วมบุญบูชาด่วน!!!ยอดพุทธาคม!!!ตะกรุดมหาลาภเงินเรียกเงิน

ด้วยความเคารพครับทั้งพระทั้งตะกรุดบูชาติดตัวเถอะดีวิเศษทางจิตทางใจที่สุด ทว่าตะกรุดนั้นติดตัวง่ายกว่าเพราะด้วยลักษณะในการใช้จะคล่องแคล่วดีมากๆครับ..สาวๆมุสลิมมีตะกรุด(อาซีมัต)เลี่ยมพลาสติกกลัดติดในเสื้อก็เหมาะสมและต่างเห็นผลมาแล้วก็อย่างที่เล่าเมื่อเช้าข่าวด่วนจากพรรคพวกที่โคกโพธิ์ศิษย์พ่อท่านมีแค่สายสิญจน์กับรูปถ่ายพ่อท่านยังรอดเปลวไฟมาได้อย่างหวุดหวิดหาใช่ทางมหาลาภประการเดียวไม่..ครับ..ด้วยความเคารพ

 

ตะกรุดมหาลาภ...นี้ตอนแรกผมยังงงมีคนหาดใหญ่ไปคล้องคอให้เด็กๆที่เลี้ยงยากกวนพ่อแม่ก็ยังเลี้ยงง่ายขึ้นดีจริงๆตรงนี้ขอให้ท่านเชื่ออย่างเดียวพลังพุทธคุณช่วยได้แต่จิตใจต้องมั่นใจต้องมีศรัทธาจะเกิดประโยชน์ในทางโลกมากที่สุดครับ....พลังงานของผู้สำเร็จสมาธิอย่างพ่อท่านทวีมีอำนาจมากครับ...

 

สาธุ สาธุ สาธุ ขอให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมตลอดไปเถิด ประเทศไทย คนไทยจะได้อยู่กันอย่างสงบสุขเสียที รวมทั้งชาวโลก เพื่อนร่วมโลกทุกๆคนด้วย

 

เรื่องพระอาจารย์ทิมวัดช้างให้..ผู้มีเมตตาจิตในหัวใจ ...วันที่4พฤศจิกายน 2512ท่านพระครูไพโรจน์ธรรมรัต(พ่อท่านฉิ้นวัดเมือง) พร้อมด้วยคุณวิจิตร หิรัญรัต คุณประสงค์ อิฐรัตน์ และคุณชัยชาญ วิบูลย์ศิลป์ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดยะลา ได้นำรถยนต์ไปรับท่านเพื่อนำไปส่งที่สนามบินบ่อทอง ปัตตานี ท่านพระครูได้สั่งการมอบงานภายในวัดให้กับท่านพระครูปลัดนอง คือพระครูธรรมกิจโกศล เรียบร้อยแล้ว ท่านก็ห่มจีวรเข้าไปกราบพระประธานในอุโบสถเสร็จแล้วออกมาข้างนอกไปกราบหลวงพ่อทวดในมณฑป และที่สถูปหน้าวัด เป็นการลาไปรักษาตัวที่กรุงเทพฯ ที่ท่านพระครูวิสัยโสภณ อาจารย์ทิม..ไปกราบพระประธานในอุโบสถก็ดี ที่มณฑปและสถูปหน้าวัดก็ดีแต่ละแห่งใช้เวลาพอสมควร ทายกทายิกาที่เดินตามหลังคอยส่งขึ้นรถ ทุกๆคนที่นั่งลงยกมือไหว้ล้วนแต่หน้าตาเศร้าเป็นที่ผิดสังเกต แสดงว่ามีความทุกข์ความกังวลห่วงใยในการจากไปของท่านอาจารย์อย่างสุดซึ้ง
พอรถยนต์ออกจากวัดไปได้ครู่หนึ่งก็ถึงหน้าวัดนาประดู่ ท่านอาจารย์ทิมบอกกับคุณประสงค์ อิฐรัตน์ ซึ่งทำหน้าที่ขับรถให้แวะเข้าไปวัดนาประดู่ เพื่ออำลาท่านพระครูภัทรกรณ์โกวิทซึ่งเป็นอาจารย์ของท่าน ลงจากรถแล้วก็เข้าไปกราบลาท่านพระครูที่นั่งอยู่ในศาลามุงจากใต้ต้นพิกุล ท่านพระครูภัทรกรณ์โกวิทจะสั่งเสียอย่างไรบ้าง หรือท่านอาจารย์ทิมจะฝากวัดฝากวาไว้กับท่านอาจารย์อย่างไรบ้างก็ไม่มีใครทราบ เพราะยังไม่ได้ถาม ต่อจากนั้นก็ขึ้นรถไปสนามบินบ่อทอง เป็นการแปลกเหลือเกินที่ท่านอาจารย์ทิมไปอำลาท่านอาจารย์พระครูภัทรกรณ์โกวิทวันนั้น ตามปกติท่านไปไหนมาไหนก็ไม่เคยเข้าไปบอกลา มาครั้งนี้เหมือนกับเกิดสังหรณ์ใจอย่างไรทำให้คิดถึงแวะเข้าไปกราบลา เท่ากับเป็นลางร้าย บอกให้รู้ว่า ขอลาไปเป็นครั้งสุดท้าย และก็ช่างเป็นความจริง ...ก่อนหน้าที่จะไปกรุงเทพท่านยังฝากฝังพระหนุ่มองค์กับพระครูมนูญสมณการวัดพลานุภาพด้วย...ท่านพระครูผมฝากพระสักองค์นะ..... พระองค์ที่ท่านอาจารย์ทิมฝากฝังกับท่านพระครูวัดพลานุภาพ ก่อนลาไปคือ...พ่อท่านทวี เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่พัฒนาราม นั่นเอง...

 

ขอความเมตตา กรุณา ท่านเจ้าของกระทู้ อย่าใช้สีของตัวหนังสือที่อ่านยาก และเป็นผลเสียแก่สายตาได้ไหม เช่นสีเหลือง หรือสีออกเทาๆ เป็นต้น เพราะต้องใช้สายตาเพ่งมาก ขอความกรุณานะท่านนะ

 

สาธุๆๆๆครับผมกำลังรอคอย อย่างใจจด ใจจ่อ อิอิ ^ ^

 

ด้วยความเคารพครับ..ได้ครับจะใช้ตัวโตๆสีเข้มๆนะครับผม...ติดตามนะครับ ผมต้องทบทวนรื้อฟื้นสักนิดครับเพื่อการนำเสนอที่ดีครับผม..ขอบคุณครับ

 

หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ที่ปลุกเสกโดยพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ เนื่องจากหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ และพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ มีบุญสัมพันธ์กันอย่างมาก การปลุกเสกแต่ละครั้งหลวงพ่อทวดจะช่วยปลุกเสกให้เสมอเหตุใดถึง
กล่าวเช่นนั้น เพราะในสมัยที่พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ มีชีวิตอยู่ มีเจตนากุศลจะบูรณะวัดช้างให้ ที่เคยเป็นวัดร้าง ให้
เป็นวัดที่ใช้เป็นศูนย์ในการแผยแพร่พระพุทธศาสนา หลวงพ่อทวดเคยมาเข้าฝันว่าอยากได้อะไร ให้บอก แม้แต่การ
ปลุกเสกหลวงพ่อทวด เนื้อว่านปี 2497 พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ นั่งอยู่บนธรรมมาสน์ แต่ผู้คนที่ไปร่วมพิธี แม้แต่
กรรมการวัด ต่างเห็นพระภิกษุอายุ 90 กว่า ผิวคล้ำนั่งอยู่บนธรรมมาสน์ ถึงขนาดกรรมการวัด พูดขึ้นมาว่าพระอาจารย์ทิม
หายไปไหน ไหนบอกว่าจะปลุกเสกผู้เดียว และหลวงปู่องค์นั้นมาจากที่ใดเป็นใคร ทำไมพวกเราถึงไม่รู้ แต่พอปลุกเสก
เสร็จพระอาจารย์ทิม เดินออกจากโบสถ์ สมัยนั้นพระอาจารย์ทิม อายุประมาณ 40-50 ปี เท่านั้น แต่ทำไมคนถึงไม่เห็น
ท่านกลับเห็นเป็นหลวงปู่ อายุ 90 กว่า นั่งปลุกเสกบนธรรมมาสน์ ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์อย่างมาก และพระหลวงพ่อทวดที่ผ่านการปลุกเสกโดยพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ พุทธคุณสูงมาก แคล้วคลาดจากอันตราย ปืนยิงไม่ออก มีดฟันไม่เข้า
ทำน้ำมสนต์สะเดาลูก กรณีเด็กขวางท้องอยู่ซึ่งสมัยนั้นใช้วิธีทำคลอดแบบโบราณ ผลหลังจากดื่มน้ำมนต์ที่มีองค์หลวงพ่อทวดแช่อยู่ เด็กกลับลำคลอดออกมาปลอดภัยทั้งแม่และลูกเป็นที่กล่าวขวัญจนถึงปัจจุบัน กล่าวได้ว่าเป็นพระหลักเมืองใต้
และเป็นพระที่อยู่ในหัวใจของคนมากที่สุด นอกเหนือจากพระสมเด็จ...

 

ผมขอจอง
บูชา ตะกรุด 3 ดอก
พระผงทวีลาภ 1 องค์
ร่วมบุญบูชา พระสมเด็จพุทธกวัก ถ้ายังเหลืออยู่นะครับ

โอนแล้วจะแจ้ง ให้ทราบอีกทีครับ

 

จองบูชา ตระกรุด1 ดอก โอนแล้วจะแจ้งให้ทราบครับ

 

ท่านที่จองไว้จะเก็บไว้ให้ครับ..ขอบารมีพ่อท่านทวีรักษา ครับ สาธุอนุโมทนาบุญครับ

 

คาถาพระอาจารย์ทิมวัดช้างให้ ดีสารพัด..ขอมอบให้...ครับ
“นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ” ซึ่งก็คือพระคาถายอดหัวใจร้อยแปด อีกทีหนึ่ง ไม่ว่าจะใช้พระคาถาบทใด ต้องเอาพระคาถาบทนี้แทรกด้วยทั้งสิ้น สุดแต่จะกล่าวอุปเท่ห์วิธีใช้ได้มากมากสุดจะพรรณนา สารพัดจะใช้เถิด จะปลุกเสกหรือจะทำการใดๆก็ดี ทั้งทางอยู่ยง ทางเมตตา ใช้ได้ทั้งนั้น ท่านเปรียบเสมือนยาดำที่เข้าแทรกยาทุกขนาน ฉะนั้นเมื่อจะใช้คาถาบทใดๆจะเป็นในทางใดก็ตาม ให้เอายอดพระคาถานี้กำกับไปด้วยเสมอไป จะเกิดความขลังเหมือนใจนึก
ท่านใดนับถือหลวงพ่อทวด อาจารย์ทิม พ่อท่านทวีจริงๆ ใช้แล้วจงเกิดผลดังจิตหวัง..ขอประสิทธิเต....

 

ต่อให้อีกนิดครับ

ธาตุน้ำเน้นเมตตาเสน่.

นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ นะมะมะนะ นะอะอะนะ นะอุอุนะ

ใช้หลังจากบริกรรมคาถาหลักเสร็จเพื่ิอเพิ่มด้านเสน่เมตตา

 

ด้วยความเคารพครับท่านที่จองไว้จะเก็บไว้ให้ครับผม..

 

ด้วยความเคารพครับ..สำหรับการหนุนด้วยธาตุน้ำ..ที่ได้ประสิทธิมอบให้กันเป็นบุญแนะนำกันไว้ให้ภาวนานึกถึงพระ..การพิจารณาเสกคาถาด้วยจิตสมาธิครับ ท่านอาจารย์ท่านใช้กันง่ายๆนั่นแหละครับไม่มีอะไรสำคัญที่จิตท่านมีพลังมหาศาลดุจไอเย็นหนาวเหน็บดุจน้ำแข็งให้เป็นกระแสธาตุน้ำได้ บางท่านไม่ใช้อะไรเลยฝึกจิตสมาธิเป็นบาทฐานแล้วนึกจะใช้อะไรก็เป็นดังนั้นเพราะจิตท่านดีเสียแล้วทำอะไรก็เพี้ยงดีเพี้ยงขลัง คาถาทางภาคใต้มิได้ซับซ้อนอะไรเลยแต่เลขยันต์นั้นเป็นแบบเฉพาะที่สายอื่นๆจะไม่เข้าใจเด็ดขาดแต่ภาคกลางนั้นก็ดีครับมีกลเม็ดเคล็ดไม่เหมือนกัน..บางอาจารย์แต่งคาถาประดิษฐ์ยันต์เองก็ขลังได้ก็ดังเป็นต้นแบบให้ได้นิยมกันมายาวนาน..คาถาอาคมนั้นเป็นเพียงคำพูดที่แต่งมาเรียกว่า...สมมุติ ส่วนปรมัตถ์ที่เป็นที่สุดของธรรมต้องปฏิบัติเอาเองเพื่อให้เข้าถึง กระนั้น ปรมัตถ์และสมมุติ ก็สำคัญทั้งสอง ดั่งดอกบัวงามบริสุทธิ์ก็เกิดในโคลนตรมโดยปฏิเสธไม่ได้..ฉันนั้น ที่สุดในสายธรรมของพระบรมศาสดาคือ จิตที่บริสุทธิ์สบายไร้สิ่งเจือปนหมดการข้องแวะทุกอย่างครับ..ท่านใดต้องการแลกเปลี่ยนแนะนำสิ่งอะไรยิ่งดีครับ..เป็นมงคลแก่ทุกคนในสายธรรมเดียวกันครับ

 

ผมจำได้ว่าปีนั้นเป็นปี2542วัดช้างให้จัดพิธีพุทธาภิเษก ผมก็มีโอกาสไปช่วยงานวัดช้างให้กับเขาด้วย จำได้ว่าได้มีโอกาสนมัสการหลวงปู่ทิมวัดพระขาว อยุธยาท่านมานั่งบริกรรมปลุกเสกด้วย เรียนถามด้วยอาการนอบน้อมว่า..หลวงปู่มาเสกหลวงพ่อทวด หลวงปู่ทำอย่างไรขอรับ..หลวงปู่ยิ้มแล้วตอบอย่างเอ็นดูผมว่า...จะไปเสกท่านได้อย่างไรล่ะคุณเอ๋ยผมต่างหากที่จะต้องมาขอพึ่งบารมีท่านถึงปัตตานี ผมขอบารมีท่านนั่นแหละอาราธนาท่านด้วยความเคารพแล้วบริกรรมทำอารมณ์ให้เป็นสมาธิจิตด้วยอะไรก็ได้แล้วแต่จะใช้แล้วอธิษฐานจิตขอให้ท่านมาบันดาลให้เกิดความเป็นมงคลทั่วปริมณฑลพิธี ทำสมาธิให้สว่างไว้นะคุณแล้วอะไรๆก็ขลัง จิตสำคัญที่สุดนะ.....ผมจดจำคำท่านถึงวันนี้ครับ...และก็ไม่สงสัยในเรื่องคาถาอะไรแล้วเพราะมีประสบการณ์ชีวิตโชกโชนในสมรภูมิยิง ฟัน แทง และก็รอดได้เพราะนึกถึงพระเท่านั้น...ท่านสังเกตนะครับเกจิรุ่นใหม่มักไม่ขลังเพราะรู้เยอะเกินไปแต่พระเกจิของจริงรุ่นเก่าท่านเอาจริงครูให้มายังไงเอาตามนั้น เท่านี้จึงขลังสุดยอด...ครับ พระอาจารย์ทิม อาจารย์นอง พ่อท่านทวี พ่อท่านเขียว พ่อท่านพรหม พ่อท่านฉิ้น ท่านจิตดี อารมย์ทรงสมาธิกันทั้งนั้นท่านจึงขลังครับผม..

 

การลงตะกรุดก็เหมือนกันครับ..แต่ละตัวท่านเสกอะไรลงไปเราตามท่านไม่ทันหรอกครับ สำหรับท่านที่เรียนแบบครูพักลักจำตำราตามตลาดมีถมไปครับแต่จะขลังหรือไม่อยู่จิตสมาธิท่านทำให้เกิดพลังได้หรือไม่ครับ...แต่ที่ผมเชื่อมั่นคือวิชาที่ครูท่านมอบให้ด้วยวาจาท่านตั้งใจให้เรามาใช้ก็ขลัง ชาวบุญพลังจิตลองสังเกตดูจิตตัวเองเวลาภาวนาได้คาถาที่เอามาจากเน็ต...กับคาถาจากครูบาอาจารย์ท่านประสิทธิมอบให้นั้นต่างกันมีพลังกันคนละเรื่องเลย...คาถาต้องเรียนแบบมีครูนะครับ แล้วกรรมฐานต้องดีเยี่ยมด้วย การศึกษาก็ต้องท่องบ่นนั่งเสกนั่งภาวนาหากไม่ทำพลังไม่เกิดหรอกครับ...ท่านทำสมาธิให้เกิดจิตห้ามแกว่งจนเกิดอารมย์ในความสว่างและสบาย รักษาอารมย์ไว้นะครับ...พลังแรงเหลือเกินคุณๆครับ ด้วยความเคารพ ครูใครก็ครูคนนั้นคาถาจะไม่เหมือนกันครับ..

 

ตะกรุดมหาลาภ...ใช้แล้วอธิษฐานให้ดีให้นิ่งเกิดคุณให้ลาภให้รวยครับ

 

ท่านที่รัก..และใฝ่ในกุศลบารมีทุกท่านครับ..ด้วยความเคารพครับจึงขออนุญาตบอกท่านทั้งหลายด้วยว่า...พระอาจารย์ทิม ท่านมีพระน้องชายชื่อ พ่อท่านขาวหรือพระใบฎีกาขาว ท่านรักษาการณ์เป็นสมภารวัดช้างให้ได้พักหนึ่งตอนนั้นพ่อท่านทวีก็ยังอยู่วัดช้างให้..กรรมการวัดเอาเรื่องพระบีบพ่อท่านขาวให้ออกจากวัดในข้อหาไม่สามารถพัฒนาวัดช้างให้ได้ทั้งๆที่พ่อท่านขาวท่านเป็นพระบริสุทธิ์ใสซื่อท่านเป็นพระกรรมฐานไม่ยุ่งเรื่องการเงินอะไรเลย...ท่านจึงออกจากวัดช้างให้ไปอยู่วัดบ้านดีบ้าง วัดโน้นนี้จนสร้างสำนักสงฆ์ควนกรูดตรงหัวโค้งศูนย์ศิลปาชีพ..โรงเรียนรมส.นั่นแหละครับ..และท้ายสุดท่านมาพักกับพ่อท่านพลวัดนาประดู่ ทายาทพุทธาคมที่แท้จริงของพระอาจารย์ทิม และพระอาจารย์นองที่สามารถอาราธนาดวงจิตหลวงพ่อทวดมาประทับในวัตถุมงคลได้ของจริง...พ่อท่านขาวท่านเป็นเบาหวานจนต้องไปรักษาที่โรงพยาบายะลา และกลับมาที่วัดนาประดู่ครับ...ด้วยความเคารพ(เรื่องนี้พ่อท่านทวีท่านรู้เรื่องดีครับ..ท่านจดจำถึงความวุ่นวายในระบบนายทุนที่ทำให้เกิดความชุลมุนในวัดช้างให้ได้ท่านจึงอยู่เงียบๆสมถะแบบพระแท้ๆพระจริงๆ...)ด้วยความเคารพครับต้องขออภัยที่รื้อฟื้นเรื่องลบขึ้นมาหากพาดพิงกระทบใครผมขอน้อมรับความผิดนี้ไว้แต่เพียงผู้เดียวครับ...

 

ด้วยความเคารพครับ..สัจธรรมในโลกที่ว่า...มันเป็นเช่นนั้นเอง..มันเป็นอย่างนั้นจริงๆนิยามของผมในตอนนี้คือ ทำความดีเท่าที่จะทำได้เพื่อสนองคุณพระศาสนา..และบิดามารดาให้มากที่สุด..พ่อท่านทวีเคยให้ธรรมสอนจิตใจอยู่เสมอว่าให้เสียสละ ให้มีเมตตาต่อบุคคลอื่นด้วยจิตลึกด้วยจิตวิญญาณของเราเอง..ความผ่องใสทั้งกายใจจะเกิดขึ้นครับ...ทานเราทำได้ ศีลเราก็ทำได้ ภาวนาก็ต้องเน้นมากๆ พ่อท่านสอนมาน่ะครับผม...ภาวนาให้ภาวนาจนจิตสว่างเกิดอารมณ์สบายในดวงจิตนะครับ...จิตจะมีตัวรู้ผุดขึ้นมาให้แจ้งครับ....ผมทำตามท่านตลอดมา...