รู้อะไร ให้รู้ตรงๆ

เอาแบบนี้ นิวรณ์ ไหนลองระลึกกลับไปซิว่า ตนเอง ยกคำพระศาสดามาพูดกี่ครั้ง
แม้กระทั่งในกระทู้นี้ มีคำพระศาสดากี่ครั้ง
ไหนลอง ยกคำหลวงปู่มั่น หรือ เทศของพ่อแม่ครูอาจารย์ มาซิว่า มีพุทธพจน์กี่คำ

เอาพุทธพจน์บ้าง อภิธรรมบ้าง มาอธิบายในสิ่งพื้นฐานที่ทุกคนมองเห็นกันอยู่แล้วทำไม
ต้องเอาสิ่งที่ทุกคนเข้าใจอยู่แล้วแต่มองผ่านไป ออกมาพูดให้เห็นได้ มันจึงจะเรียกว่า เพื่อประโยชน์ต่อผู้อ่าน ผู้ฟัง

ที่ผ่านมา พวกรู้มากนี่แหละตัวดี มันเอาศัพท์แสงยากๆ ออกมาแสดงภูมิรู้ของตน ประเภทที่พูดแล้วชาวบ้านไม่รู้เรื่อง นี่ยิ่งทะนงตนว่า กูรู้มากกว่าผู้อื่น
อ่านไปอ่านมา ไอ้ห่า มันก็เรื่องง่ายๆ แถวบ้านนอกกูนี่หว่า

การบัญญติ ก็เพื่อให้เป็นฟอร์ม เป็นแบบเป็นแผนแต่ ธรรมชาตินั้นมันอยู่ในวิถีนึกคิดของคนอยู่แล้ว ไม่ต้องไปอ้างบัญญัติมาก มันก็ต้องผ่านกันมาแล้วทั้งสิ้น

อย่างอแงเป็นเด็กไม่ยอมแพ้เลย เล่าปัง

 

โอย ลุง ป่านนี้แล้ว เวลาเจอคำบาลี มองเห็นเป็นแค่ ศัพท์แสง เท่านั้นหรือครับ

มันไม่ได้มีค่าเป็นแค่ ศัพท์แสง ที่เอาไว้คุยอวดโก้ๆ นะครับ นี่หากยังเห็นเป็นแบบนี้
อยู่แล้วเป็นเหตุให้ ไม่นิยมยกคำของตถาคต ผมก็ยิ่งมั่นใจว่า สัทธรรมนั้นเสื่อม
เพราะบริษัท4

ส่วนเรื่อง พุทธพจน์ ออกมาจากปากตน ปากใครหรือไม่ ที่ผมฟังแล้วปลื้มมาก
ที่สุดก็ หลวงพ่อราชรี ท่านกล่าวประมาณนี้

คนเราเวลาปฏิบัติเข้าถึงวิมุตติ สิ้นตัณหา เหล่านี้ใช้การตรัสรู้ของตนเอง แต่เวลา
ออกมาเทศนาสั่งสอน คำทุกคำที่ออกจากปาก จะต้องรู้สึกว่า หยิบยืมคำของพระ
พุทธองค์มาใช้ทั้งหมด ไม่มีคำไหนที่เป็น สาสนังของตน

เนี่ยะ ประมาณนี้

แต่ ลุงเวลาพูดนี่ ผมมองไม่ออกว่า มีความทราบซึ้งแบบนั้นอยู่ไหม

มันเหมือนไม่มีมากกว่า แล้วยิ่งใครยกพุทธพจน์มา ลุงจะเอามาปรับ
ให้เป็นคำตน โดยไม่จำเป็น

เข้าใจ ตรงคำว่า โดยไม่จำเป็นไหมครับ ก็ประมาณว่า ยังไม่มีใครถามเลย
หรือ ยังไม่มีใครทำท่าทีสงสัย หรือ พูดวกวนอะไรเลย ลุงก็ โพล่งเอาคำของ
ตถาคตมาปรับให้เป็น คำตนเสียก่อนแล้ว

แล้วลุงก็ งง ใช่ไหมว่า แล้วกรณีตัวผมหละ ผมพูดอะไร ก็นะ ผมก็จะดูว่า
มีคนสงสัยตรงไหนหรือเปล่า ถ้ามี ผมก็จะชี้ประเด็น หากตรงนั้น ตรงนี้ มี
ข้อสงสัย ก็ขอให้ หลักในการทำความเข้าใจ วิจัยดังนี้ คือ ให้ไปทำเอา ให้
ไปพิจารณาเอา ไม่ได้สอนให้เชื่อ หรือ รับไปแบบ ป้อนเข้าปาก

อะไรของลุงนะ สำนวนที่ลุงชอบ เลียนแบบเขามาใช้

"ให้จดจำไว้"

ผมไม่เคยลงท้ายว่า ให้จดจำไว้ ผมจะลงว่า ลองไปพิจารณาเอา ซึ่งมันต่าง
กันเยอะ

ต่างยังไง ก็ถ้า ภาษาไทยพูดขนาดนี้ ไม่เข้าใจ ก็ ขี้เกียจอธิบายครับ

 

ก็เพราะตนเอง สติปัญญาน้อยนี่ เลยเข้าใจอะไรผิดเพี้ยนไปทั้งหมด

ถ้าจะบอกว่า เมื่อเข้าใจธรรมย่อมซึ้งในคำพูดของพระพุทธองค์ นั้นเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว

แต่มันคนละเรื่องกับการ บอกผู้อื่น
เวลาเอ็งบอกคนอื่น เอ็งเอาพุทธพจน์ไปบอกหรือ เขาจะได้ถามกลับมาว่า นั่นแปลว่าอะไร นี่แปลว่าอะไร

อย่างเช่น เวลาไปพูดคำว่า ถิรสัญญา เนี่ย จนป่านนี้ยังงงกันอยู่เลยมั้ง แปลว่าอะไรหว่า
ตกลงระลึกได้นี่ ถิรสัญญา หรือเปล่าหนอ


นิวรณ์ ไปกิน แวเลี่ยม สักหน่อย แล้วก็ไปนอนจะทำให้ชีวิตดีขึ้น

 

ลุงนั้นแหละ ไปหาอะไรแก้ อิจฉา ได้แล้ว

พูดนั่นพูดนี่ ก็ วก ไปเรื่องเดียว ที่ตัวเองพลาดพลั้งแบบโง่ๆ

มันเลยผูกขาไว้ไง ไฟมันจะติด มันก็ลุกตรงนั้นแหละ

เคยได้ยินคำสอนหลวงพ่อราชรีไหม

พุทโธๆ นี่อะไร คือ สัญญา

แล้ว ไอ้ พุทโธๆ จนจิต ระลึกพุทโธเอง มันคือ อาการจิตมีอย่างไรต่อ
สัญญา นั้นหละเอ่อ

แล้วทำไมมันเป็นอย่างนั้น ก็ จิตมันโง่ เอาอะไรล่อให้เกาะ ก็เกาะ

เนี่ยะ เขาต้องการสอนให้รู้เข้ามาชัดๆว่า จิตมันโง่ หาอะไรให้เกาะ
มันก็เกาะ

พอรู้ว่าจิตโง่ ก็ปล่อยสิ ปล่อยได้ไหมหละ ทำยังไงจะปล่อยได้
แล้วจริงๆ ต้องปล่อยไหม มันก็จะแจ้งกันเข้ามา ไม่เห็นจะมีอะไร
ให้เข้าใจยาก

สัญญาทั้งนั้น สัญญาจนแนบแน่น แต่ พอเจอคำว่า ถรีสัญญา โง่เอาดื้อๆ
ขึ้นมาว่าไม่รู้จัก

 

เอาอีก บริบทไหม บริบทที่ว่า จิตคือพลังงาน

พลังงานเวลามันคงที่ บ้านลุง เคยเรียนเคยสอนกันไหมว่า พลังงานมันเสถียร

เวลา จิตตั้งมั่น ไม่ส่งออก หรือ มีสติ คือ จิตมันพลังงานที่สงบ คงที่ ใช่ไหม

ก็ พลังงานเสถียรได้ ทำไมกับไอ้คำว่า ถิรสัญญา มันจะสื่อแล้วไม่รู้เรื่องขึ้นมาหละ

* * * *

เสถียร คำไทย ยืมมาจากคำบาลีคือ ถิระ

 

อย่าเล่นตลกอยู่เลย นิวรณ์ เอาเวลาไปปฏิบัติธรรมดีกว่า
สติสัมปชัญญะ ไม่มีเอาเสียเลย
กลายเป็นศิษย์ ไม่มีครูไปได้

 

งง หละซี่

อย่าบอกนะ ไปแอบแปลคำว่า ถิระสัญญา คือ สัญญามันเที่ยง

คนโง่เท่านั้นแหละ ที่ ไปหยิบความหมาย เชิง สัญญาเที่ยง มาใช้

เพราะอะไร เพราะ ความโง่เต็มกระบาล ก็เขาก็สอนกันทั่วอยู่ว่า

สัญญามันไม่เที่ยง ก็อุตสาห์ไปหยิบคำว่า ถิรสัญญา คือ สัญญาเที่ยง
ไปเที่ยวปรักปรำเขา หัวเราะเยาะเขา ทั้งๆที่ ตัวเองหนะ โง่ หยิบอรรถ
สาระผิดธรรมเอง

 

ผมว่านะ ลุงไป หยิบศพเด็กปลาบู่ มาเหยียบเล่น อย่างที่ลุงทำวันนี้ ต่อดีกว่าไหม

เพราะไป แทงหวยถูกข้างไว้แล้วนี่ งานนี้ เหยียบศพเด็กปลาบู่ ได้อีกนานเลย

 

เอ้า ก็เมื่อวานใครหละ เข้าไปในกระทู้ เกี่ยวกับ ท่านพุทธทาส สอนเรื่อง
ปฏิจสมุปบาทในชีวิตประจำวัน

ถ้าเป็นความเห็น คำว่า เพี้ยน เลอะเทอะ มันเป็นคำที่ไม่ใช้เพื่อต่อว่า

แต่เป็นคำแนว เสนอความเห็น เท่านั้น ก็ นะ

ยังไงๆ คนทั่วไป เห็นข้อความแบบนี้ เขาก็เข้าใจกันทั้งนั้นแหละว่า กำลังด่าพระ

* * **

แล้ว ไอ้เรื่อง พุทธวิสัย อะไรนั้น ป่านนี้แล้ว ยังแยกไม่ออกอีกเหรอ

เวลา คนเขากล่าวว่า ปรารถนาพุทธภูมิ มันก็เป็นแค่ การปราถนาพุทธภูมิ
ซึ่งก็เป็นการฝึกตนให้มี พุทธวิสัย

ฝึกให้มี

ไม่ได้หมายความว่า มี

ฝึกให้มีมากๆ ไม่ใช่ลำพัง แค่ มี ฮะเอ่อ งง เต็ก

 

แล้วการมาทิ้งข้อความนี้ไว้ บ้านคุณเรียกว่า เงียบเหรอ

แล้วอย่าลืมนะ นี่เป็น บอร์ดสนทนา ไม่ใช่ สนทนาสด ดังนั้น

มันเป็น ระบบฝากข้อความ ให้คุณเข้ามาอ่านภายหลัง มันไม่
มีหรอก มาเล่นลับหลังตอนกูไม่อยู่ เขาไม่พูดกัน คือ เขารู้ๆ
กันว่า มาเมื่อไหร่ ก็อ่านไปสิ ตรงหน้า ต่อหน้า เลย

 

เอาก็เอา

ความเห็นก็ความเห็น

ความเห็นของคุณมันไม่เข้าข้างฝ่ายไหน ไม่ได้กระตุ้นฝ่ายใดให้ เห็นตาม เลยเนาะ

 

damrong ฟิวส์ขาดแบบแตกกระจายเลยหรือเดี๋ยวก็โดนใบแดงหรอกฐานพูดไม่เพราะผิดกฏ

 

..พี่นิวรณ์..เขาชอบทำตัวเป็น.."สายล่อฟ้า"..!
.. มันก็เลยเป็นเรื่องธรรมดาที่จะถูกฟ้าผ่าครับ..เข้ามาอ่านและเข้ามาสาธุ ท่านขันธ์..ที่มาสอนพี่นิวรณ์ให้ถอดสายล่อฟ้าครับ สาธุ

 

รู้ตรงๆ ตกลงรู้อะไรครับ หรือ แค่รู้มันไปตรงๆ

แล้วหน้าที่สติ ระลึกได้ หมายรู้นั้น

ระลึกอะไรในขณะนั้น หมายรู้อะไรในขณะนั้น

หรือไม่ต้องหมายรู้อะไร แค่รู้มันไปตรงๆ

สวัสดีปีใหม่ครับ ^^

 

หลง เอ็งกลับไปอ่านคำอธิบายใหม่แล้วพยายาม ตั้งสติทำความเข้าใจก่อน เรื่องมันไม่ใช่ง่ายๆที่ระดับสติปัญญาอย่างเอ็งจะเข้าใจได้ง่ายๆ ตั้งใจทบทวนอ่าน ไม่ใช่ยังไม่เข้าใจแล้วตั้งคำถามเป็นเด็กกวนบาทา

 

รู้ตรงๆ มันกว้างมาก

- เพ่งก็ได้ เพ่งแบบไม่คิดอะไรด้วย หรือ

- อยู่ที่ตัวรู้แบบเป็นเรื่องเป็นราวเลย แต่ไม่รู้อะไร หรือ

- อยู่ที่ตัวรู้แบบเป็นเรื่องเป็นราวเลย รู้เหมือนกันว่าไม่รู้อะไร หรือ

- รู้ว่านี่เดิน นี่นอน นี่จิต นี่สงบ หรือ

 

ฮี่ ฮี่ ฮี่

มาแล้วเหรอ คนดี มาหอมแก้ม1ที จ๊วบ!!

* * * *

ว่ากันต่อ

พี่สับสน สังเกตไหม ระหว่างที่สมาชิกเว็บขัดขวางการหลุดพ้น ศิษย์
สายพระป่า ต้นธาตุต้นธรรมเดียวกัน กำลัง ฝัดเหวี่ยงถึงพริกถึงขิงมะกรูด
มะนาวข่าตะไขร้หอมซอยข้าวคั่ว

มันมี คนๆหนึ่ง นอกสายกรรมฐานเลย นอกมากๆ มันทำ หล่อ อยู่คนเดียว

เนี่ยะ เขาทำงานสำเร็จได้น่าชมเชยทีเดียว

ในการไปส่งคำถามทางวัดนั้นที ไปเยี่ยมวัดนี้ที เอา คำสอนวัดนี้ไปถาม
วัดนู้น เอาคำสอนวัดนู้นไปบอกวัดนี้ แต่ส่วนใหญ่ได้ผลแค่วัดเดียวที่มี
ข้อความตอบกลับเสมอ

แล้วเขาก็ได้โอกาสค่อยๆ ย่องกินรวบทั้งหมด ระหว่างที่ ครอบครัวกรรม
ฐานกำลัง งง งวย

เขาจะอาศัยช่องสอดไส้ จิตเที่ยง ให้แง็บกัน โอย ผมดูแล้วก็ขำ

ศิษย์พระป่าแต่ละคน ไหว้ปล๊กๆ สาธุๆ คำสอนนี้เลิศๆ ค่อยทิ้งคำสอน
ที่ตนกำลัง งง หรือ ถกเถียงกันอยู่ อย่างเนบเนียน

เสร็จโก๋ แกงทำมาพูด กบฏศาสนา ยกจวักซดซวบๆๆ

 

หลง คำถามที่เอ็งพูดมานั่นแสดงถึง ภูมิธรรมเลยว่า ไปไม่ถึงไหน
พายเรือในอ่าง ถึงว่าอย่าเพิ่งมาถามเลย ไปอ่านทำความเข้าใจก่อน
เรียนอยู่ป 1 จะมาถามคำถามปริญญาตรี ถ้าไม่เข้าใจก็ต้องโทษตัวเองก่อนว่า ภูมิรู้เรายังไม่ถึง

 

เอ้า พึ่งเห็นข่าว เขาว่า วัดนั้นปิดระบบถามตอบผ่านเว็บอีก

โอยยยย

กบฏศาสนา ทำมาพูด ทำงาน เข้าเป้า โว้ยย !!!

มิน่า ช่วงนี้ขยันกลับมาโพส ( แปะของเก่า อีกรอบ )

 

สำหรับ เล่าปัง ยังตลกย้อมใจตนเองไม่พออีกหรือ อย่างว่าแหละ ของมันเจ็บแค้น
เสียรู้ ให้คนไม่รู้ธรรมสอนเอา หลงเอาว่าเขาเป็นที่พึ่ง ที่ไหนได้พากันไปเข้ารกเข้าพง เมื่อรู้แล้วกลับตัวยังไม่สาย นี่ยังปล่อยให้กิเลสมันหลอกเอาพยายามให้ของปลอมเป็นของจริงจนได้ คนแบบนี้ถ้าเล่นพระก็ถือพระปลอมแล้วทึกทักว่าเป็นพระแท้อยู่นั่นแหละ พูดง่ายๆคำเดียวคือ ทำใจไม่ได้ จบ เป็นผมหละกระอักเลือดไปนานแล้ว