รักดีศจ เกลียดชั่วจะฝึกจิตยังงัยฮับ

ถ้าบำเพ็ญเพียรมันก็ต้องมีความลำบาก
บ้างล่ะนะ
ไม่ใช่เสพกินเสพนอนแบบผู้ไม่เห็นทุกข์
ของความเกิด
หลงๆเพลินๆ แบบเทวดาพอหมดเวลา
ก็ตกสวรรค์จิฮับ

 

ยอมรับสิ่งที่มันเป็นครับ ถ้ายังยอมรับไม่ได้ ก็คงต้องสืบค้นสาเหตุที่ทำให้มันเป็นแบบนั้น

บางสิ่งที่เราเกลียด ก็มีเหตุผลที่ทำให้มันเป็นแบบนั้น
บางอย่างที่เราชอบก็มีเหตุผลที่ทำให้มันเป็นแบบนั้น

สืบสาวถึงเหตุและผลทีทำให้เรา ชอบหรือเกลียดสิ่งใด (ค้นตัวเองให้พบ)
ถ้รู้เหตุผลแล้วเรายอมรับเหตุผลนั้นได้ เราจะสามารถอยู่กับสิ่งที่เราชอบหรือเกลียดได้ง่ายขึ้นครับ

เมื่อรู้สาเหตุที่แท้ทรู ว่าสิ่งนี้ ๆ เกิดขึ้นจากอะไร เราก็คงจะสามารถยอมรับสภาพของ สิ่งที่มีผลต่อใจเราได้ครับ อาจจะทำให้เรารู้สึกยอมรับสภาพ หรือปล่อยวางสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้นได้บ้าง

สิ่งต่าง ๆ มันก็เป็นไปของมันอย่างนั้นเอง หน้าทีเราไม่ใช่การตัดสินมัน แต่เป็นการยอมรับสิ่งที่มันเป็น


ในกรณีที่สิ่งที่เราเกลียดหรือชอบ เป็นคน เราก็มักจะหลีกเลี่ยงคนที่เกลียดหรือชอบไม่ได้หรอกครับ
แต่
คนเราเอง บ่อยครั้ง ก็ไม่ชอบมุมมองที่คนอื่นมองเราเหมือนกัน คนเรามักจะสบายใจเมื่อได้อยู่กับคนที่ยอมรับและเข้าใจเราเสมอ ๆ

ยอมรับสภาพที่ ต้องเจอ ต้องไม่เจอ ต้องทำงานด้วย ต้องอยู่ด้วยไปก็แล้วกันครับ

 

อาการที่เกี่ยวเนื่อง
กับขันธ์ 5 เป็นสังขาร เป็นการปรุงแต่ง
และเกิดดับ
ทั้งสิ้น
ไม่เอามายึด ไม่พยายามทำอะไร
เพื่อให้เกิดอะไร
เพียงแค่รู้ซื่อๆรู้ตรงๆ
ไม่ยึดทั้งผู้รู้ (คือตัวเราที่เป็นขันธ์ 5)
และสิ่งที่ถูกรู้ (.อาการทั้งหลายของจิต)
คือหนทางไปสู่การสิ้นทุกข์
ของจริงสดๆร้อนๆมีอยู่
เชิญ มาหลังไมค์เลยฮับ( หลังไมค์
ไม่ใช่แก๊งค์ใจถึงพึ่งได้นะฮับ)

 

สมมุติว่าผมรู้การทำงานของ ขันธ์ 5 ผมว่า ผมก็ยังรู้ซื่อ ๆ ไมได้อยู่ดีแหละ
เพราะผมมองว่า ถึงรู้ ผมก็น่าจะยังไปตัดสินหรือไป ชอบไม่ชอบอะไร ๆ อยู่ดี

ถ้าเป็นผม ผมว่า ถึงผมจะ รู้ว่าใจทำงานอย่างไร แล้วใจยังชอบไม่ชอบอยู่ มันก็ยังคงชอบไม่ชอบอยู่อย่างนั้นแหละ เลยแก้ที่ความชอบไม่ชอบดีกว่า

จะมองอะไรให้เฉยอย่างไร

อาจจะเสียเวลาไปบ้าง เพราะโง่ ตัดความพอใจด้วยการรู้การทำงานของขันธ์ 5 ไม่เป็น ก็ทำแบบนี้ไปก่อน

ตอนนี้ผมทำได้แค่นี้แหละลุง ทำมากกว่านี้ยังไม่ได้ ผมยอมรับสภาพของผมตรงนี้แล้ว ก็ได้แต่ทำ ๆ สิ่งที่ตัวเองทำได้ไป

้พราะผมรู้ซื่อ ๆ ไม่ได้ ผมเลยพยายามทำความเข้าใจสิ่งต่าง ๆ เพื่อที่จะได้ ใส่ใจสิ่งต่าง ๆ ให้น้อยลงแทน เมื่อเข้าใจแล้ว ก็ทำให้ พอที่จะวางเฉยได้บ้าง ก็เท่านั้นแหละ

แต่การรู้ซื่อ ๆ เป็นทางที่ถูกในศาสนาพุทธ มั้งนะ แต่ ผมยังไม่ถึงขั้นนั้น