มีใครเคยมีอาการเหมือนฟ้าแล็บในหัวมั้ยคะ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Piccola Fata, 22 กรกฎาคม 2020.

  1. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,898
    ค่าพลัง:
    +4,609
     
  2. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,898
    ค่าพลัง:
    +4,609
    บางคนเกิดมามีชีวิตเหมือนไก่ตัวหนึ่งเท่านั้น ไก่เกิดมาโตขึ้นมีลูก พาลูกๆ คุ้ยเขี่ยหากินไปตามเรื่องราว ตกเย็นนอน เช้ามาก็กระโจนลงดินร้องกุ๊กๆ ออกหากินไป ตอนเย็นก็กลับมานอนอีกวันๆ หนึ่งทำอยู่อย่างนี้ ถ้ามนุษย์ใช้ชีวิตแบบนี้ ชีวิตจะมีประโยชน์อะไรไหม? ไม่มีประโยชน์ ก็เหมือนกับสัตว์ที่ไม่มีปัญญาเท่านั้นเอง คนเลี้ยงไก่ เขาจับมันยกขึ้นดูทุกวันๆ เอาอาหารให้กินเรื่อยๆ ไก่ก็นึกว่าเขารักเรา แต่เจ้าของเขาคิดว่านี่มันหนักเท่าไหร่แล้ว? พอจะเอาไปขายได้หรือยัง? เจ้าไก่ไม่รู้เรื่อง พอสอง-สามเดือนต่อมา เอาแล้ว...เขาเอาไปตลาดแล้ว
    .
    คนเราอยู่กันทุกวันนี้ก็คล้ายๆ อย่างนั้น ไม่ค่อยได้นึกถึงอันตรายชีวิต เพราะมัวแต่หลงไม่รู้เรื่องชีวิตตัวเอง จึงเหมือนกับไก่ในเข่งที่เขากำลังเอาไปขาย เขายกขึ้นรถก็ยังขันโอ๊กๆ สนุกสนาน ไปถึงที่แล้วเขาจับถอนขน ก็นึกว่าเขาทำความสะอาดให้ มันโง่ขนาดนั้น พอมีดเชือดเข้าไป โอ้!...มันตายนี่นะ ไม่เห็นชีวิตตัวเองไม่รู้จักแก้ไข จึงตายไปโดยไม่มีประโยชน์


    เราทุกคนก็เหมือนกัน ไม่รู้จักพอ ดิ้นรนไปทุกสิ่งทุกอย่าง ดิ้นรนในการทำมาหากิน หาชื่อเสียงเกียรติยศ แต่หาในทางที่ชอบก็ยังดีนะ บางคนดิ้นรนไปอิจฉาพยาบาทเขา มันไม่ค่อยดี คนขาดการฟังธรรมก็เป็นอย่างนั้น มันโง่ไปเรื่อยแหละ เราอิจฉาคนอื่นอยู่ ก็หาว่าเขาอิจฉาเรา คนพวกนี้ไม่ค่อยรู้จักตนเอง เป็นปทปรมะบุคคล พระพุทธองค์ท่านไม่สอนคนจำพวกนี้ เพราะมันสอนไม่ได้เป็นคนที่ถูกท่านทิ้ง

    ปทปรมะบุคคล ไม่ใช่คนไม่มีความรู้นะ เป็นคนมีความรู้อยู่ แต่ไม่ทำตามใคร ไม่ยอมเชื่อใคร ตาสีตาสา ไม่ได้เรียนหนังสือ...โง่! แต่ว่าเขาฟังถ้าครูบาอาจารย์แนะนำให้ทำอย่างนั้น ปฏิบัติอย่างนี้ เขาก็ทำ ไม่โต้แย้งอะไรมาก นี่เป็นคนไม่ค่อยมีความรู้แต่พอสอนได้


    แต่คนรู้แล้วไม่ทำ เป็นปทปรมะบุคคล เป็นคนใช้ไม่ได้ เพราะขาดธรรมะ ไม่สนใจธรรมะ

    +++++
    หลวงพ่อชา สุภัทโท
     
  3. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    อย่าวางจิตแบบนั้น ฮับ

    ให้กำหนดรู้ว่า มันมีมา ก็เพราะ เราภาวนา(เหตุ ถูก)

    มันมีไป ก็เพราะ เรา(ตก)จากภาวนา(เหตุ ดับ แต่เป็น ดับที่ เราพลาดนิดนึง)

    ถ้าวางจิตถูก ฟ้ามันจะแล๊บ จิตจะไม่ตกจากการ ภาวนา
    ก็จะสามารถเกิด ฟ้าแล็บต่อเนื่องก็ได้ ไม่ต่อเนื่องก็ได้
    หรือ ค้างเป็นความสว่างทั้งคืนก็ได้ ( แต่ไม่เท่ากับ สว่าง
    แบบฟ้าแล็บ มีเกิด มีดับ มีไตรลักษณ์ใช้ยกจิตออกจาก
    อุปทานในจิตนั้นๆ )

    ปล : ถ้าจิตมี ชวนปัญญา( อ่านว่า ชะวะน..)ไว ความสว่าง
    แบบนี้มีได้ในการระลึกถึงศีลที่รักษาได้ หรือ ทานที่พึ่ง
    ทำเป็นกริยา(ไม่ได้หวังผลตอบแทน)ไป บางคนจึงไม่
    ต้องไปนั่งภาวนาทั้งคืน สามารถอาศัย ศีลก็ได้ จาคะก็ได้
    เพื่อการตามเห็น ความดับของกุสลธรรมที่ควรเสพ(สว่าง
    สะอาด เบา) เพื่ออาศัยระลึก ไตรลักษณ์ ของจิตใจ รูป นาม
     
  4. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    ชวนปัญญาคืออะไรคะ แล้วอะไรเป็นเหตุให้เกิดชวนปัญญาได้บ้างคะ?
     
  5. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    ชะวะนะ ปัญญา ของ พระร่วมสมัย

    จะ อุปมาเหมือนการ เล่นแบดมินตัน

    โดยหมายเอา การ"เหย้าเรือน" กลับมาที่
    จุดกลางคอร์ต ได้ไว

    ซึ่งก็ไม่ได้หมายเอาว่า จะต้องกลางคอร์ต เป๊ะ
    แต่จะต้องมี การอ่านเกมส์ การอ่านกำลัง ที่ตน
    มี และใช้ให้เกิด ประโยชน์สูงสุด

    เช่น หากศึกษาคู่ต้อสู้มาก่อนว่า พอพี่แกหยอด
    หน้าเน๊ต เดี่ยวจะต้องตามด้วยลูกท้ายคอร์ต ก็จะ
    ต้องอ่านกำลังว่าตนมีพอไหม ที่จะรับลูกหยอด
    แล้วทำทีเหมือนแพ้ เข้าทาง แล้วก็รีบไป รับลูก
    ท้ายคอร์ตโดยมีกำลังพอจะเทคตัวขึ้น ตบ เพื่อ
    เอาชนะ

    การภาวนาก็คล้ายๆ กัน คือ จะต้องมี การอยู่
    กับปัจจุบันให้เร็วที่สุด ไม่ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นจะ
    เป็นกุศลชั้นสูง หรือ อกุศลชั้นต่ำขนาดไหน
    ก็ตามปรากฏ จิตจะต้อง "รู้อยู่ที่ฐาน" เห็นแต่
    ความใสของจิต ที่มันพร้อมจะแปรปรวนไป
    ตามทุกขสัจจ การตั้งอยู่ไม่ได้ มีความเป็นอนัตตา
    ของจิต ไปตามผัสสะกระทบ

    งง ไหมฮับ ....

    จะ งง หากไม่เคย ภาวนากลับ "เหย้าเรือน"
    ทางจิตมาก่อน เพราะ เอาแต่ ส่งจิตออกนอก
    เพื่อเป็น เพื่อเอา ก็จะไม่สามารถ เห็น ไตรลักษณ์
    (ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา ตามจริง ไม่ใช่ ติต่างคาด
    เดาว่าเห็น ) แล้วใช้ ไตรลักษณ์นั้น พินา กำลัง
    อ่านเกมส์การภาวนา ทวนกระแสกลับ

    ชะวะนะ จะมี รสทวนกระแสโลก

    ถ้าไหลตามโลก อะไรเกิดขึ้นก้ อู้ฮู อ้าฮา.....
    "รึว่าเราจะ.........."
    "นี่เรา.....แล้วฤาหนอ"

    ไหลตามโลกธรรม ก็จะไม่เป็นการฝึกให้มี ชะวะนะ

    ลองทดสอบ เล็กๆน้อยๆ ก็ได้ โดยให้เพื่อน
    เอาแบงค์มาจับหยอด แล้ว เราฝึกที่จะ หนีบ
    ด้วยสองนิ้วให้ทัน

    อาการ วางจิต ให้พร้อม ไม่มีความกังวล
    ประมาณกำลังตน และ อ่านเกมส์คนปล่อย
    ก็จะให้ รส ของการตามเห็น "การสลัดคืน"
    การประมาณอินทรีย์(เกมส์) และ พละ
    ได้เหมือนกัน แต่ทางที่ดี ควรฝึกกับกิจ
    กรรมที่เป็น กุศล ต่อการ ภาวนา

    ฟ้าแล็บ ปั๊ป เรากลับไป ภาวนาต่อ ก็จะมี ชะวะนะ

    ถ้า

    ฟ้าแล็บ ปั๊ป แล้วนั่งรอ นอนรอ คนมายอยก
    ว่าใช่ ว่าถูก หรือ นำเสนออะไรที่แปลกไป
    กว่าเดิม ก็ไม่ต้องไปพูดถึง การภาวนา(ซึ่ง
    จะเป็นเรื่อง การ ซ้ำ แต่ไม่ใช่ ย้ำคิดย้ำทำ )
     
  6. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    ปล : หากเข้าใจ ชะวะนะ ได้ถูกต้องแล้ว

    ควร อุปมาใหม่ ไม่เอาเรื่องเล่น แบดมินตั้น เพราะ
    จะเนิ่นช้าไป

    พระร่วมสมัย จะอุปมาให้ ยิ่งๆ ขึ้นไปว่า

    อุปมา ชะวะนะปัญญา เหมือน แมงมุม ที่อยู่
    กลางใย พอเหยื่อ ติดปุ๊ป จะต้องประมาณ
    โอกาสในการวิ่งไป จับ นามรูป มัดเป็นใย
    พันรอบทุกมุมของ ผัสสะ นิทาน นามรูป
    วิญญาณ เวทนา จนแน่นหนา แล้วก็รีบ
    กลับมา กลางใย เพื่อจับ นามรูปอื่นต่อ
    ทันที ไม่ไปจมกับ สมาบัติ แสงสว่าง
    เวิ้งๆ ว้างๆ ให้เสียเวลา

    หากทำได้ สังเกต ชะวะนะปัญญา ที่จะ ไวขึ้นเรื่อยๆ
    โดยที่ไม่มี สิ้นสุด แต่ ....

    แต่ แต่ละคนจะต้องการ ชะวะน ความไว ที่พอเพียง
    กับตน ไม่จำเป็นต้องไวมาก บางคน แค่ เห็นชะวะนะ
    ปัญญาเกิด ก็ ตัดเลย ( ติกขปัญญา ตัดปัญญา(ต่างๆ)ทิ้งด้วย)
     
  7. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,898
    ค่าพลัง:
    +4,609
    ที่เขาอุปมา ว่า "เหย้าเรือน" หมายถึง ความเป็นกลางของใจ น่ะนะ..

    เป็นอาการ "เฉย" กับทุกสิ่ง ทุกสภาวะ..

    หลวงปู่ไดโนเสาร์(หา สุภโร) จะบอกว่า "ละวาง แต่ ไม่ละเลย.."

    พอ เข้าใจ มั๊ย โยม..
     
  8. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    ชื่นชมการตอบประเด็นนี้ของคุณเล่าปังมากค่ะ แนนหาข้อมูลในกูเกิลยังไม่ค่อยมีคนอธิบายเรื่องนี้ได้ชัดเจนเท่าไหร่ น่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนที่สงสัยเรืาองนี้เช่นกันค่ะ

    ขอถามเพิ่มนะคะ ชวนปัญญา คือ มหาสติหรือไม่คะ ถ้าไม่ใช่ แล้วต่างกันยังไงคะ?
     
  9. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    “ ละวาง แต่ไม่ละเลยที่จะน้อมมาพิจารณาไตรลักษณ์”
    ใช่มั้ยคะ?
     
  10. แอลโอแอล

    แอลโอแอล Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +469
    อืม เจ้าของกระทู้ชื่อแนน เหรอคะ
    พอดีโดนยัดข้อหาว่าเป็น คนเดียวกันค่ะ
     
  11. กระร่อน

    กระร่อน จิตฺเตน นียติ โลโก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2020
    โพสต์:
    8,901
    ค่าพลัง:
    +994
    รู้แล้วละวางน่าจะเป็นวิชชา
    ส่วนมากการปฎิบัติตามวางให้ทันผัสสะเฉยๆ
     
  12. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    5555 แนนไม่เกี่ยวนะคะ น่าจะโดนกันถ้วนหน้าค่ะ
     
  13. กระร่อน

    กระร่อน จิตฺเตน นียติ โลโก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2020
    โพสต์:
    8,901
    ค่าพลัง:
    +994
    แนนโน๊เหรอ55
     
  14. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    ยกตัวอย่าง

    ในสมัยพุทธกาล มี พยานาค ไปท้า การเข้าสมาบัติ
    พร้อมทั้งแสดงฤทธิ์ กับ พระพุทธเจ้า

    เน้นว่า เดรัจฉาน ประมาณตัวเป็น เณร เป็น พระ แล้วไป
    เทียบตนกับ พระพุทธเจ้า เพื่อที่จะ สืบสานพระพุทธศาสนา
    ต่อจาก ศาสดา ( จริงๆ คือไม่เห็น หัว พระศาสดา )

    พระสารีบุตร ผู้เข้า นิโรธนสมาบัติได้ไวที่สุด ได้เสนอ
    ตัวแทน พระศาสดา แต่ พระศาสดาทรงห้ามไว้ ทั้งนี้
    เพราะ พยานาคจะต้อง แล่นสู่นารกแน่นอน

    พระโมคคัลลานะ ก็อาสาต่อ แล้วทรงอนุญาติให้พระโมค
    คัลลานะ ไปรับคำท้า แทนพระพุทธองค์

    ชวน อ่าน ชะวะนะ ของ พระโมคคัลลานะ พอกระดิ่ง
    เริ่ม พระโมคคัลลานะ ก็ นั่งอยู่ที่เดิม โดย พยานาค
    ก็เห็นว่า นั่งอยู่ทีเดิม ก็ ปรารภว่า ไม่เห็น พระโมคคัลลานะ
    จะทำอะไร พวกท่านแพ้แล้ว

    ที่ไหนได้

    พระโมคคัลลานะ บอกว่า ชวน ท่านไว ได้เข้าไป
    นั่งในปากพยานาค เข้าออกสมาบัติทั้ง8 พร้อมทั้ง
    สลับแสดงฤทธิ์ต่างๆ เสร็จหมดแล้วต่างหาก

    ดังนั้น

    ฟ้าแล๊บๆ เท่าไหร่ ถึงจะ ไว เท่าไหร่ ถึงจะพอ

    ในแง่ของความไว อย่าไป ประมาณ เท่าไหร่ก็ไม่พอ
    (ที่ว่า พระโมคลลานะ ไว พระสารีบุตร ไวกว่านั้น
    และ สำหรับพระศาสดา ก็ไม่ต้องไป ประมาณ )

    ส่วนความพอเพียง จขกท เท่านั้นที่จะ ทราบ
     
  15. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,898
    ค่าพลัง:
    +4,609
    ใช่ ส่วนนึงแต่ยังไม่ครบทั้งหมด นะ โยม นะ..

    ละวาง คือ มีสติอยู่กับรู้(ธาตุรู้มันมีมันเป็นมันรู้อยู่อย่างนั้นไม่เคยดับ ครูบาอาจารย์ทั้งหลายจะบอกว่าจิตไม่เคยตาย)

    เมื่อมีสติสัมปชัญญะบริบูรณ์ สภาวะรู้ หรือ ธาตุรู้ ก็ปรากฏ

    มันละเอียดลึกซึ้ง ถ้าอธิบายมากเดี๋ยวจะ งง..

    เอาเท่านี้ก่อนละกัน..
     
  16. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,898
    ค่าพลัง:
    +4,609
    ส่วน ละเลย มันเป็นการ ปล่อยปะละเลย คือ ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่มีความเพียร ไม่มีความอดทน..

    ละเลย เป็นคุณสมบัติของผู้ที่อินทรีย์+พละ ยังอ่อนอยู่..
     
  17. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    ชะวะนะ เป็น ปัญญาโลกๆ ขยันฝึก ขยันซ้อม
    ก็ จะทำ กิจที่ตน ถนัด ได้ คล่องแคล้วขึ้น
    ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ การตัดกิเลส

    ส่วน "สติ" แค่ การเจริญสติ ตรงนี้ก็ คนละเรื่อง
    กับ ชวนปัญญา แบบฟ้ากับเหว

    สติ ยังไม่รู้จัก

    มหาสติ ไม่ต้องไปกล่าวถึง
     
  18. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,898
    ค่าพลัง:
    +4,609
    "พุทธจริต" เรียนกับโยมเล่าปัง ศึกษากับโยมเล่าปัง นั่นแหละ มาถูกทางแล้ว..
     
  19. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,258
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    ถ้าไปถาม ครูบาอาจารย์โบรานๆ ท่านจะบอกว่า

    กำหนดรู้เฉยๆ ไม่อธิบายให้เรื่องยาว

    เพราะอะไรท่านจึงตอบแบบนั้น?
    เพราะว่า ผุ้ฝึก จะไปควานหาแต่ความสงสัยไปเรื่อยๆ

    การควานหาความสงสัยไปเรื่อยๆ คือการให้อาหาร นิวรณ์ไปเรื่อยๆ
    อวิชาก้เติบโตไปเรื่อยๆ

    แต่หากหยุดอยู่ที่รู้ กำหนดรู้อยู่เฉยๆ
    สติปัฏฐาน ก็จะได้อาหาร วิชชาและวิมุติ ก็จะเจริญขึ้น

    แหละอีกอย่างนึง คำบัญญัติ หรือ ชื่อเรียกอะไรก้แล้ว
    ในความเป็นจริงที่เจอ สภาวะ ย่นลงมามีแต่เกิด ดับ เกิด ดับไม่มีชื่อจะเรียก

    การกำหนดรู้เฉยๆ จึงจะเป้นการย่นเข้าไปหา ของการแทงตลอด
    ซึ่ง ผุ้ฝึก ย่อมเข้าไปประจักษ์ ด้วยตัวเองอยู่แล้ว
    เพราะเป้นหน้าที่ของจิต ตัวเอง
    ที่จะทำหน้าที่ไปตามกระบวนการของ วิชชาและวิมุติ ไปโดยอัตโนมัติ
    จึงเรียก ว่าไม่มีใครพาไปนิพพานได้ ไม่สามารถอุ้มใครไปนิพพานได้
    รู้ด้วยตัวเอง ในขั้นนี้จะไม่มีอาจารย์เข้ามาเกี่ยว ครูอาจารย์ ทำได้แต่ชี้ทาง


    ฉะนั้น วิถี ทางเข้าไปเห้น ไปทำลายอาสวะ คือ
    การกำหนดรู้อยู่เฉยๆที่จิตที่กาย ในทุกอย่างที่เกิด ดับ

    ผลงานจึงจะเกิดขึ้นเฉพาะตน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2020
  20. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    กลิ่น ...เสียง...สัมผัส...ฯลฯ หลังฟ้าแล๊บ
    ก็เป็น side effect ที่จะมี เป็นลำดับ

    ถามว่า ในหลักการภาวนา จะใช้ กำหนดรู้อะไร

    สามารถใช้ กำหนดรู้ว่า "จิตเคลื่อนออกจากฐาน"
    ทำให้ ไปรับรู้ ธรรมภายนอก อยู่ หากกำหนดรู้
    อยู่ได้ ก็ไม่ว่ากัน ...แต่ถ้า ไหลไปตามกลิ่น เสียง
    สัมผัส จนถูกย้อมติด(กลายเป็น ภพ) ก็จะ เคลื่อน
    ไปสู่ภพๆนั้น อาจจะมีการ ชื่นชมสมบัติ เห็นมากกว่า
    เดิม หรือไม่ก็เดินตามไป หรือไม่ ป่านนี้ก็ยังไม่ลืม
    ว่าวันนั้นมีคนนั้น คนนี้ ในชุดนั้น ชุดนี้ ใบหน้าอย่าง
    นี้อย่างนั้น มาหา ( ติดภพแน่นอน และ มีโอกาสชี
    ได้ว่า พอตายปั๊ป ก็จะไป ภพนั้น ตายเปล่า ไม่เห็น
    นิพพาน )

    นะ

    ถ้า จิตรู้ถึงฐาน จะเกิด การละ สมมุติบัญญติ มีแต่
    "ความดับ" ท่านั้นที่ ทราบชัด

    ทราบชัดความดับ

    ทราบชัดภพดับ อย่างนี้ๆ ไม่มีเรื่อง เก็บเอา
    มาเล่าเป็นตุเป็นตะได้

    รสของธรรม ต้อง ชนะรสทั้งปวง

    จะมา อิติปิโสภควือ ประจบสอพลออยู่ทุกวันใหม่ ไม่มี
     

แชร์หน้านี้

Loading...