มีราคะ ตัณหา มากๆๆๆๆ พิจารณาอย่างไรจึงจะละได้

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย kengkenny, 13 พฤษภาคม 2009.

  1. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    สามห้า.. 5 5 5
     
  2. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ร่างกายน้ำตามันไหล แต่ข้างในมันหัวเราะ เยาะ เยาะ 5 5 5 เลย งง
     
  3. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    การฝึก ตามรู้ มันก้ต้องไล่แต่อนุบาลล่ะ พอตามรู้อนุบาลได้ มันก็ตามรู้ ปอหนึ่ง และตามรู้ ปอสอง ไปจนรับปะรินยาน่ะล่ะ เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือกิเลสยังมีกิเลส .....เหนือ ปอหนึ่ง ยังมี ปอสอง ...ม่ายประมาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 พฤษภาคม 2009
  4. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ที่พี่ณุ บอกก็มีเหตุผล
    แต่สิ่งที่เราคิดว่าอะไรคือความทุกข์ อะไรคือห่วง และบ่วง
    การมองอะไรกว้าง ๆ เล็ก ๆ บ้าง บางทีมันก็แก้็กันได้
    พี่ณุ อาจจะว่าคิดผิดก็ได้ ก็นะ มันเป็น Bord แสดงความคิดเห็นผิดถูกก็ตอบกันไป ครับผม
     
  5. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    น้ำมันหอยปรุงรสเลี่ยนๆ ...[​IMG]
     
  6. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ตามรู้ก็อยู่ที่บางช่วงบางจังหวะจะสื่อสาร ตามรู้กับ สังเกตุใจ ก็เหมือนๆกัน ไปเรื่อยๆ ตามรู้อันไหนได้ก็ตามรู้อันนั้น มีอันไหนโผล่มาก็ดูอันนั้น ...ไม่มีไรมากหรอกจ้า

    แต่ความอัศจรรย์มันเกิดเมื่อ ตามรู้ได้ บ่อยๆ แล้วมันไปรู้เองนี่ล่ะ
     
  7. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    นั่งทำงาน รอเครื่องเรนเดอ โอ้ย มันนานจัง
     
  8. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    ก็นั้นแหล่ะ ขนาดศึกษาธรรมมะมาตั้งนาน ยังได้แค่นี้เอง บางทีก็เผลอทำอะไรที่มันไม่สร้างสรร
    แล้วทำลายอีก เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการ และไปปรุงแต่งว่าเขาเป็นแบบนั้น แบบนี้ เขาบอกว่าขาดหิริโอตะปะและขาดปัญญา จะรู้อะไรเยอะแยะไปหมด แต่ขาดการแยกแยะ อันนี้มันช่วยไม่ได้จริง ๆ กรรมใครก็กรรมมัน ในการแสดงธรรม จิตดีหรือไม่ดี มันสื่อให้เห็นได้จริง ๆ นะ ใครได้ใครไม่ได้ ช่างมันเถอะ
     
  9. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
  10. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424

    ขอแชร์ความเห็นนะครับ

    จริง ๆ จะว่าไปแล้ว ทุกข์มันเกิดเพราะความหลงสังขาร (ความปรุงแต่ง) อันเนื่องมาจากความไม่รู้ไม่เข้าใจ อาศัยการเผลอขาดสติ และความเคยชินเดิม ๆ จึงหลงปรุงลากยาวจนกลายเป็นการหลงยึดมั่นถือมั่น เป็นภพเป็นชาติฯ ขึ้นมา เรียกว่า ทั้งหลงและทั้งยึดที่หลงนั้นด้วยอย่างนี้เอง หน้าที่ของเราจึงคือการฝึกสติขึ้นมาเพื่อให้รู้ทันด้วยและทำความเข้าใจกับเรื่องความหลง (ตามความเป็นจริง) ไปด้วย เพื่อให้เกิดปัญญาไม่หลงสร้างเหตุอันเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ขึ้นมาอีก ทั้งหมดคือ กระบวนการดับสังขาร คือความปรุงแต่ง ดับอวิชชา คือความไม่รู้ ใช่หรือไม่ อันนี้น่าสนใจนะ

    การฝึกให้เห็นอย่างท่านว่า ก็ถือว่า อยู่ในกระบวนการดับสังขาร ดับอวิชชาเหมือนกัน ดับสังขารฝ่ายเกิด ด้วยการใช้สังขารฝ่ายดับเข้ามาแก้ (เช่น อสุภกรรมฐาน) ใช้คิดบวกแก้คิดลบ ใช้ความเห็นถูกแก้ความเห็นผิด ที่สุดเมื่อความเห็นถูกแจ่มช้ดแล้ว ต่อไปสังขารฝ่ายเกิด (ทำนองนี้หรือทำนองอื่น ๆ) ก็จะค่อย ๆ ลดน้อยถอยกำลังลงเอง ความตั้งมั่นจะมีมากขึ้น การพึ่งพาความปรุงแต่งทั้งหลายก็จะลดลง ๆ ไปด้วย คิดเท่าที่จำเป็นจะคิด จนในที่สุด ไม่หลงคิด หรือคิดอย่างหลง ๆ อีกต่อไป

    ขอบคุณครับ
     
  11. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    นั่นแหละ ที่จะพูดถึง [​IMG]

    มันน่ากลัวที่สุดเลยนะ ที่เราพูดขอโทษ ตามที่เขาอยากได้ยิน[​IMG]

    แต่ทว่า เขาก็ล่วงรู้อีกว่า เราพูดไม่ตรงกับใจ[​IMG] ซึ่งเขาจะรอให้
    เราพูดขอโทษอีกครั้ง [​IMG] ..แต่เราคิดว่า เราพูดไปแล้ว.....ทำให้....

    พลาด และไม่จบ น่ากลัวสุดๆเลย ผู้หญิงที่เขาเป็นคู่ของเรานะ
    เขาจะอ่านใจเราออก[​IMG]...ทั้งนี้เพราะ ผู้หญิง จะมีธรรมชาติส่งออกนอก[​IMG]
    ด้วยจิตเมตตาฟังเสียงสัตว์ [​IMG]...อวโลกิเตศวร(ย่อย)[​IMG]
     
  12. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วิษณุ12 [​IMG]
    บาง ทีก็งงนะ ทำไมตัวเอง เสียใจ แต่ทำไมเหมือนไม่เสียใจ งงม๊ะ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    แบบนี้ผมใช้คำว่า เพราะมันลงไปไม่ถึงใจ หรือ ไม่อินได้ป่าวครับ
     
  13. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ของพี่วิษณุ ผมไม่รู้ แต่ของผมนะ

    ไม่ใช่ไม่อิน เป็นเพราะเราเห็นใจของเรามันไม่ได้ เสียใจ จนกระทั่งอยาก ขอโทษ

    หรือ เราเห็นชัดเลยว่า หากเราพูดของโทษ ใจมันไม่ได้ขอโทษด้วย ซึ่งเราก็รู้ว่า
    สาวเจ้าที่เป็นแฟนเขาเห็น ดังนั้น เราก็จะเงียบ ไม่อยากพูดความเท็จ

    แต่เชื่อไหมว่า สาวเจ้าก็จะเห็นอีกว่า เราต้องทนทุกข์กับใจที่มันไม่ตรงนั้น แต่
    อย่างไรเสีย เขาก็อยากให้เราพูดคำว่า ขอโทษ อยู่ดี

    ทำให้ พูดไม่ตรงใจ เขาก็รู้ และเกิดปัญหา แต่ถ้าไม่พูด ก็เกิดปัญหาเช่นกัน

    ดังนั้น น้องๆ หนูๆ ที่ยังไม่มีแฟนแบบว่า แต่งงาน แต่งการ ก็ไตร่ตรองให้ดีเน้อ

    ยากส์สุดๆ น่ากลัวกว่ากามกิเลสอีก เพราะ เป็นพันธนาการลงระดับจิตกันเลย สำหรับเรื่องคู่
    ชีวิตที่เวียนว่ายคู่กันมา ...และอะไรแบบนี้ เราไม่รู้เลยนะ ว่าการเห็นแบบนี้
    สามารถเอามาเจริญสติเพื่อความหลุดพ้นได้ มันง่ายที่จะเห็นจนคิดว่าไม่สำคัญ

    แต่พอจะทำกลับทำไม่ได้ ไม่สามารถเห็นแบบนั้นเพื่อเจริญสติได้ด้วยการตั้งใจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2009
  14. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    เพ้อเจ้อ นั่นเพราะว่าปรุงแต่งมากเกินไป ของคน

    ทำอะไร ทำแบบธรรมดาไม่เป็น ต้องย้อนไปนั้น ย้อนมานี่

    ตรงนี้แหละ ใครดูไม่ออกก็นึกว่าปัญญา และ คุณธรรม แต่สำหรับผมมันคือ บาป ที่ถือทิฎฐิเอาไว้ แล้วมองไม่เห็นทิฎฐินั้น
     
  15. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    คนเราเวลา ทะเลาะกัน มันต้องเห็นความผิดของตน
    แม้ไม่เสียใจ แต่ก็ต้องรู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด ทีนี้ สิ่งที่ผิดสิ่งที่ถูกมันไม่ใช่อยู่ที่เหตุผล
    ที่โต้แย้ง แต่มันอยู่กับเหตุผลที่ว่า "เป็นผู้ชายทำไมจึงยอมให้กับแฟนในเรื่องเล็กน้อยไม่เป็น" นั่นแหละเหตุผล จะให้มีเหตุผลดีกว่าจนไม่เห็นว่าเราผิด เท่าใดก็ตาม แต่นั่นแหละคือความผิด

    ผุ้ชายบางคนนี่ เหตุผลร้อยแปด แต่ว่าลืมไปว่า ความเข้าใจว่าความผิดพลาดเล็กน้อยของผู้อื่นเป็นเรื่องธรรมชาติที่ไม่ควรต้องใช้เหตุผล นั่นแหละ คือเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะคู่รักตัวเอง
     
  16. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    อิน กับศรัทธา นี่มัน แยกกันยากจริง ๆ สุด ๆ เลยล่ะ
     
  17. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424

    แบบนี้ต้องมีพื้นฐานกำลังภายในก่อนมั้ยครับ มันถึงจะตั้งมั่นเป็นผู้รู้ผู้ดูได้จริง ๆ

    ส่วนมาก กว่าจะเป็นผู้รู้ผู้ดูจริง ๆ นะโดนซะอ่วม เพราะวิบากของงาน ของการดำเนินชีวิต บวกกับความเคยชินเดิม ๆ ในรูปแบบต่าง ๆ ที่อาจจะตามกิเลสเขาไม่ทัน ดูเขาไม่ออก มันมาคอยชักชวนยิก ๆ แล้วก็หลงทำตามไปแล้วแบบไม่รู้ตัวเลย


    ยากนะ นันทิราคะ ความเพลินพอใจนี้มันเนียนมาก ๆ

    แหม! ผมนี่ช้าเลยกว่าผมจะพิมพ์เสร็จเขาโต้ตอบกันไป 3 ตอนแล้ว หุๆๆๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2009
  18. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ตอบท่าน นิวรณ์ และท่าน Tboon เลย


    เอ... ไม่รู้ศัพย์ช่างจะเรียกว่าอะไร แต่การฝึกตามรู้ไปเรื่อยๆ

    เวลาอาการที่กระทบแบบรุนแรง เรากลับตั่งมันรู้ รู้สึกได้ว่า มันเย็นที่ใจ ไม่อัดแน่น ... บางคนจะว่าเราเฉยชาเป็นงั้นไป
    บางคนก็ว่าไม่เดือดร้อนอะไรเลยเหรอ ..ก็แปลกดี
     
  19. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    แจ่ม

    ใช่ มันต้องภาวนาสะสมมาหลายชาติแล้ว จึงจะเห็นอะไรแบบนั้น

    อย่างกรณีพี่ ณุ ที่เขาพูดว่า งงๆ อันนั้นไม่ใช่ งง แต่เป็นความตื่นที่
    มันชำแลกออกไปได้ยาก ไม่รู้ว่ากำลังเห็นอะไร หากรู้ว่ากำลังเห็น
    อะไร จะเกิดการย้อนดูผู้รู้ เพราะตอนที่เห็นนี่ไม่ใช่เห็นตัวโกรธ หรือเห็น
    โทษะ แต่จะเป็นการเห็นการปรุงแต่งจิต หากเห็นก็จะแหวกฉืบออกไป

    ที่มันบังไว้ก็คืออวิชชา ( กรณีนี้ คุณ TBoon น่าจะเข้าใจ ว่าเป็นการ
    เห็นแบบไหน ถ้าเป็นคนอื่นเขาจะคิดว่า เรากำลังคิด ) และที่เห็นได้(เฉพาะ
    คนเคยฝึกสติมาก่อน) ตอนที่ไปเห็นขณะทะเลาะกับคู่นั้นจะพบว่า โกรธ
    พยาคติ มันย้อมใจเราไม่ติด 1 และ กามราคะก็ย้อมเราไม่ติด ดังนั้น สภาวะจิตตอน
    นั้นจะตั้งมั่นรู้ มีสมาธิจิต ขาดแต่ตัวปัญญาจะเห็น นิดเดียวเอง (แบบนี้
    แล้วอย่าไปเผลอทะเลาะเพื่อดูหละ - โดนกิเลสมันหลอกแต่แรกเลย )

    ดังนั้น บางที เรื่องของคนสองคน ก็มักไม่เอามาสอนธรรมกันเท่าไหร่
    เพราะคนๆหนึ่งจะแหวกออกไปได้ แต่อีกคนติด คนที่เข้าไปสอนจะ
    เผลอกระทำกรรมใหญ่ สอนธรรมได้แต่บาป เพราะพ้นได้คนเดียว

    เหมือนเรื่อง กามนิต วาสิทฐี ที่วาสิทฐีบรรลุโสดาบันได้ แต่กามนิตรู้สึกว่า
    ตกนรกไปพักนึงก่อน จึงกลับไปเจอ วาสิทฐีในสวรรค์ วาสิทฐีกำลังจะเข้า
    นิพพานเพราะหมดอาสวะ โชคดีเจอกันเสียก่อน วิสิทฐีเลยได้เตือนให้กามนิต
    ระลึกได้ครั้งตอนได้รับคำสอน เลยบรรลุเหมือนกัน ...แต่อันนี้เขาว่าเป็นเรื่อง
    แต่ง และพึ่งรู้มาว่า เป็นนิยายดัดแปลงมาจาก เซน ของญี่ปุ่นนู้นเลย
     
  20. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ศรัทธา ของนานากร กำลังเกิดนะ ก็ตรงที่เริ่มเห็นว่า ปัญญาญาณทำงาน
    อย่างไร มาอย่างไร ต้องเตรียมไว้หรือเปล่า แต่จะต้องเห็นแบบนั้นซ้ำๆ จน
    กระทั่งเริ่มมั่นใจ เมื่อนั้นจะเรียกว่า ศรัทธา มันเกิด

    ศรัทธา ก็คือ ศรัทธาในปัญญาญาณที่มันเกิด

    หากศรัทธาลงไปที่ตัวนี้แนบแน่น จะเห็นเลยว่า มันมีแต่การรู้ลงปัจจุบัน
    ไม่ติดอดีต และอนาคต และปัญญาญาณตัวนี้จะรู้ลึกๆว่าเป็นไปเพื่อ
    การหมดอาสวะ

    ซึ่งจะต่างกับอิน ที่มันเป็นไปเพื่อเรื่องอื่นๆ ที่ไม่ใช่เพื่อนิพพาน เช่น เพื่อ
    อภิญญา เพื่อเป็นไอสตน์ เพื่อเป็นหมอหมาที่ไม่พลาด ฯลฯ
     

แชร์หน้านี้

Loading...