มหาวิบัติใหญ่ ของประเทศไทยจะเกิดขึ้นในไม่เกิน 90 วันนี้แล้ว

กิจการด้านอบายมุขสิ่งเสพติดและการเสี่ยงดวงพนันขันต่อ
ก็จะรุ่งเรืองไปได้อีกนาน เพราะธรรมชาติของคนจะชอบทำ
ชอบลองของแปลกๆตั้งแต่วัยรุ่นๆแล้ว ฉะนั้น กิจการ
เหล่านี้จะมีลูกค้าหน้าใหม่เข้ามาสรวมแทนลูกค้าหน้าเก่า
ที่เข้าโลงไป ด้วยมะเร็งบ้างตับแข็งบ้าง ถุงลมโป่งพองบ้าง
หัวใจล้มเหลวบ้าง มีตัวตายตัวแทนหมุนเวียนกันไปไม่จบ


หากออกกฎหมายยกเลิกส่งเสริมฯจะเท่ากับพาประชาชน
ร่วมทำความดีไม่ทำร้ายสุขภาพตัวเองอีกต่อไป
ยอดความดีต้องไม่น้อยกว่า 50ล้านความดี
พอสู้ภัยพิบัติได้แบบไม่ต้องเกร็งเลยทีเดียว

 

ทำความดีไปพร้อมๆกันด้วยการปฏิบัติละเลิก อบายมุข
ทั้งหลายภายใต้การนำของผู้นำที่เข้าใจธรรมะ ด้วยรักและ
ห่วงใยประชาชน พญมารท่านก็คงไม่เห็นด้วยและหาวิธีขัด
ขวางทุกรูปแบบ เพราะเป็นการตัดวิบากกรรมของคนจำนวนมาก
ถ้าผู้นำใช้อารยะขัดขืน ก็อาจเจอภัยส่วนตัวชนิดที่คาดไม่ถึง

 

ความหวังเกี่ยวกับสุขภาพกายรวมถึงสุขภาพจิต
ที่หวังว่าจะตรากฏหมายออกมาโดย"สภาปฏิรูป
ประเทศ"แม้จะใช้เวลามากหน่อยก็ยังพอรอได้

แต่หากสภาปฏิรูปก็เมินเรื่องอบายมุขสากลต่างๆ
ก็ยังมีช่องทางที่จะขับเคลื่อนโดยสภาประชาชน
ในระดับชุมชนท้องถิ่น ต่างๆ โดยจะดำเนินการ
ผลักดันให้ประกาศใช้"ธรรมนูญสุขภาพ"เพื่อให้
เป็นกฎหมายที่เข้ามาปกป้องสิทธิด้านสุขภาพอนามัย
ในระดับจุลภาค ที่รัฐเองต้องตอบสนองต่อข้อเรียกร้อง
ด้านสุขภาพของประชาชน ไปพร้อมๆ กับการพัฒนาเศรษฐกิจ

ถึงจะสำเร็จภายหลังเกิดภัยพิบีติถล่มโลก ก็ยังดีกว่าอยู่แบบ
เก่าๆ ที่ต้องยอมนั่งมองนโยบายรัฐรุมโทรมประชาชนไปปีเเล้วปีเล่า

 

นีโอก็ไม่แน่ใจนะว่าในยามคับขันของมนุษย์ชาติ
ระหว่างพากันทำความดีแบบรวมหมู่โดยใช้กฎหมายบังคับ
อย่างเช่น ให้คนทั้งชาติเลิกผลิตเลิกเสพสิ่งเสพติดสากลโดย
พร้อมเพรียงกันเพื่อถวายเป็นราชสักการะ ตอบแทนบุญคุญ
แผ่นดินและพระเจ้าแผ่นดิน

กับพากันทำความดีแบบปัจเจกใครพร้อมใครทำ ใครกลัวใครทำ
หมายถึงทำบุญ ทำทาน รักษาศีล บำเพ็ญจิตภาวนา

อันไหนจะช่วยปกป้องชาติ และคนในชาติได้ผลชงัดกว่ากัน!!!

 

อุ บร๊ะ!!
ลุงไม่หมดมุขง่ายๆ หรอกนะจะบอกให้
แต่มุขมันเยอะนึกไม่ทัน!!

 

การมีสติกับการรู้ตัวทั่วพร้อม
เป็นสิ่งเดียวกัน ที่ต้องเกิดขึ้น
พร้อมๆกัน นี่ภาษาพระ!!?

 

ลุงแมวเหมียวเข้าใจว่าคนส่วนหนึ่งเข้ามากระทู้นี้เพราะคีย์เวิร์ดว่า"มหาวิบัติใหญ่"
ไม่ทราบว่าเข้าถูกหรือเปล่า!?!

 

ให้ทหารไปทลายซ่อง กับ สนามม้าให้หมดกทมก่อนเหอะลุง เวทีมวย บ่อนไก่ วัวชนอีกอีก ไม่งั้นใครพูดผมก็ไม่เชื่อ การเขียนโยบายกำจัดอบายมุขมันก็แค่สร้างภาพ หวยบนดินไม่มีมันก็แค่กลับไปอยู่ใต้ดิน มองโลกตามสภาพความเป็นจริงเป็นมั้ย นโยบาย หรือกฏหมาย แก้สันดานคนไม่ได้ มันทำได้ก็แค่ควบคุม รู้สึกสะอิดสะเอียนยังไงก็ไม่รู้ เวลาฟังคนพูดเรื่องประมาณนี้ โลกสวยงาม เอาสิ่งที่ตัวเองสนับสนุนมาเชียร์ กฎหมายแก้มันแก้ที่ปลายเหตุ เอาครอบครัวแก้นั่นแหละทางออกที่แท้จริง


โลกนี้มันไม่ได้สวยงามและมันไม่ง่าย

มองปัญหาผิดก็แก้ปัญหาผิด
เอาคนเล่นออกจากหวย กับ เอาหวยออกจากเล่น แนวคิดผมกะลุงต่างกันแค่เนี้ย

 

เดือดปุดปุดมาอีกตามเคยนะ เมื่อไรจะเลิกเดือดเสียที!?!

 

เห็นลุงโพสอะไรที่เข้าท่าสมเป็นคนเกิดมาก่อนผมหน่อยก็จะหาย
ที่จริงอยากจะให้ลุงมองปัญหาให้ลึกกว่าที่ลุงเห็นสักขั้นสองขั้นมากกว่าที่จะพูดแบบประโยคบรรทัดบนอ่านะ

เลิกเดือดไปนานเลยนะหนิ ตั้งอาทิตย์กว่า

 

นึกว่าเลิกเดือดได้ทุกวัน ก่อนนอน .. อิอิ

ที่ Zalievan พูดก็ฟังดูมีเหตุผลที่ดี ที่ว่ากฎหมายเป็นการควบคุมได้เท่านั้น
ดังนั้นก็น่าจะหมายความว่า ศีลธรรม ต่างหากที่ควรจะปลูกฝั่งให้กับเด็ก และคนในชาติ

ดังนั้น เริ่มต้นก่อนเลยนะ .. คำว่า สัมมาคารวะผู้ใหญ่ .. Zalievan เห็นด้วยมั้ย
และที่สำคัญลุงแมว แก่ก็เป็นคนดีเพียงพอนะ

 

อยากให้ลองสอดส่องหาคีย์เวิร์ดคำว่า"มหาสติ" สลับกับคำว่า"มหาวิบัติ..."กันบ้างเพื่อสร้างสมดุลย์
ให้กับอารมย์ที่จะไม่ปรุงเอียงไปทางอกุศลถ่ายเดียว

 

คือผมไม่ชอบความคิดที่ว่า เอะอะอะไรโทษคนที่ตัวเองเกลียด ๆ ๆ ตลอดไง ทั้ง ๆ ที่บางเรื่อง มันไม่เกี่ยวกับเขาเลย อะไร เบรคการสร้างพระใหญ่ ก็โทษ ระบอบทักษิณ อะไรแย่ ๆ ในสังคมเกิดขึ้นหน่อยคิดอะไรก็ไม่ออกก็โทษระบอบทักษิณ แล้วเชียร์อะไรที่มันไม่ได้ดีไปกว่าระบอบทักษิณเลย คือเชียร์และชื่นชมการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ถามจริง ลุงคิดว่าที่เขาทำ ๆ กันอยู่ มันใช่จริงเหรอ มันก็เลื่อนการทะเลาะกันของคนไทยไปอีกรอบแค่นันแหละ อาจจะ 10ปี 20 ปี 30 ปี 50 ปี เฮ้อ ที่จริงก็ไม่ชอบทักษิณหรอก แต่สงสารเขา สงสารลุงด้วย น่าสมเพช เฮ้อ มหาสติเหรอลุง เกลียดทักษิณจนเสียสติไปแล้วมากกว่า ผมไม่เก่งขนาดใช้มหาสติได้อย่างลุงหรอก ความรักกับความเกลียดทำให้คนตาบอดได้ขนาดนี้เลยเหรอ วิงเวียน

 

อ้อ!!

 

จิตวิสัยใคร??ที่เต็มไปด้วยความโกรธความเกลียดตลอดเวลา
หากมีอันต้องดับวูบลงในวินาทีทีนั้น พระบอก"ลงนรก"แล้ว
ใครจะไปสร้างเหตุให้จิตโกรธเกลียดอยู่เวลา!!!?

 

ผู้มีปัญญาต้องทำเหตุให้จิตวิสัย มีเมตตา มีให้อภัย
มีอโหสิกรรม กันตลอตเวลา
นั่นเป็น จิตของผู้ไม่ยึดดี ไม่ยึดชั่ว ที่เราควรเดินตาม

 

มีแบบเมตตาโหดไหมจ๊ะ
ไม่งั้น มารได้ใจ บรรลัยกันหมดนะจ๊ะ

 

คนมีเมตตาด้วย มีฤทธิ์ด้วย น่าสนุกนะ
เพราะจะไม่มีการฆ่าทำลาย มีแค่สั่งสอน
ให้รู้สำนึก แล้วก็ให้มีอิสรภาพเช่นเดิม

 

ฆ่า แบบในศาสนาเรา
ก็คือปล่อยวาง ปล่อยมันไปเต๊อะ...
ฝึกตนไม่ได้เสียแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องช่วย..
..

ครั้งหนึ่ง นายเกสี ผู้ฝึกม้าเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า นั่งถวายความเคารพเรียบร้อย ถูกพระองค์ตรัสถามว่า
“ท่านเป็นสารถีฝึกม้า มีชื่อเสียง ท่านฝึกม้าด้วยวิธีอย่างไร”
นายเกสีได้กราบทูลว่า
“ข้าพระพุทธเจ้าฝึกม้าด้วยวิธีละมุนละม่อมบ้าง ด้วยวิธีรุนแรงบ้าง ด้วยวิธีทั้ง ๒ ประกอบกันบ้าง”

พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสตอบว่า
“ถ้าม้าของท่านไม่รับการฝึกด้วยวิธีละมุนละม่อม
ไม่รับการฝึกด้วยวิธีรุนแรง ไม่รับการฝึกด้วยวิธีทั้ง ๒ ประกอบกัน ท่านจะทำอย่างไรกับม้านั้น”

“ถ้าม้าของข้าพระพุทธเจ้าไม่รับการฝึกด้วยวิธีละมุนละม่อม
ทั้งวิธีรุนแรง และวิธีทั้ง ๒ ประกอบกัน ข้าพระพุทธเจ้าก็ฆ่ามันเสีย ที่ทำอย่างนั้นเพราะเหตุไร เพราะเพื่อมิให้สำนักอาจารย์ต้องเสียชื่อเสียง”

ครั้นกราบทูลเช่นนั้นแล้ว ก็กราบทูลถามว่า
“สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นสารถีฝึกคนชั้นเยี่ยมยอดทรงฝึกคนด้วยวิธีใดเล่า พระพุทธเจ้าข้า”
พระองค์ทรงแสดงคล้อยตามวิธีฝึกม้าของนายกาสี ความว่า
"เราก็ฝึกคนด้วยวิธีละมุนละม่อมบ้าง ด้วยวิธีรุนแรงบ้าง ด้วยวิธีฝึกทั้ง ๒ ประกอบกันบ้าง "

วิธีละมุนละม่อม คือ แสดงสุจริต ความประพฤติดี และผลของสุจริต ความประพฤติดีนั้นว่า กายสุจริตอย่างนี้ ผลของกายสุจริตอย่างนี้ วจีสุจริตอย่างนี้ ผลของวจีสุจริตอย่างนี้ มโนสุจริตอย่างนี้ ผลของมโนสุจริตอย่างนี้ เทวดาเป็นอย่างนี้ มนุษย์เป็นอย่างนี้

วิธีรุนแรงเป็นอย่างไร คือ แสดงทุจริตและผลของทุจริตว่า การทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริตอย่างนี้
ผลของกายสุจริต วจีทุจริต มโนทุจริตอย่างนี้ นรกคติที่มีความเดือดร้อนเป็นอย่างนี้
กำเนิดสัตว์เดรัจฉานเป็นอย่างนี้ เปตวิสัยเป็นอย่างนี้ ฯลฯ”

นายเกสีได้กราบทูลถามว่า
“ถ้าผู้นั้นไม่รับการฝึกด้วยวิธีทั้ง ๓ นั้น พระองค์จะทรงทำอย่างไรกับเขา พระพุทธเจ้าข้า”

พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสตอบว่า
“ถ้าคนนั้นไม่รับการฝึกด้วยวิธีทั้ง ๓ นั้น เราก็ฆ่าเขาเสียเหมือนกัน” นายเกสีกราบทูลย้อนถามว่า

“ปาณาติบาต ไม่ควรแก่พระผู้มีพระภาคเจ้ามิใช่หรือ ไฉนจึงรับสั่งว่า เราก็ฆ่าเสีย กระนั้นเล่า”
พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสอธิบายว่า

“จริงซีเกสี ตถาคตไม่ควรฆ่าสัตว์ แต่ว่าคนผู้ใดไม่รับการฝึกด้วยวิธีละมุนละม่อม ไม่รับการฝึกด้วยวิธีรุนแรง ไม่รับการฝึกด้วยวิธีทั้ง ๒ ประกอบกัน ตถาคตก็ไม่นับคนผู้นั้นว่าเป็นคนควรกล่าวสั่งสอนอีกต่อไป

ทั้งเพื่อนพรหมจารีผู้รู้ทั้งหลาย ก็ไม่นับคนผู้นั้นว่าเป็นคนที่จะพึงว่ากล่าวสั่งสอนด้วย
ข้อที่ตถาคตไม่นับคนผู้นั้นว่าเป็นคนที่จะพึงว่ากล่าวสั่งสอนได้ต่อไป
ทั้งเพื่อนพรหมจารี ผู้รู้ทั้งหลายก็ไม่นับคนผู้นั้นว่า เป็นคนที่จะพึงว่ากล่าวสั่งสอนด้วยนั้น ชื่อว่าเป็นการฆ่าคนผู้นั้นเสียอย่างดีทีเดียว ในวินัยของพระอริยเจ้า”
นายเกสีได้กราบทูลสดุดีพระผู้มีพระภาคเจ้า และขอแสดงตนเป็นพุทธมามกะตลอดชีวิต

��ǤԴ㹡�þѲ�Ҥ������Ǿ�оط����� : ��֡���������������” �ҡ���͡ ����๪��� oknation.net

 

ลุงแมวเข้าใจว่าหน้าที่หลักของฝ่ายของพญามาร
คือชักชวนคนที่มีความลุ่มหลงเป็นทุนอยู่ก่อนแล้ว
ให้เข้าสู่หุบเหวแห่งความชั่วร้าย


ฉะนั้น ฝ่ายพญามาร
ทุกภาคส่วนจึงต้องทำหน้าหลักคือแสกนหาพลพรรค
จากมวลสัตว์โลกที่มีความอ่อนแอทางด้านสติปัญญา
ให้ไปเข้าร่วมสมทบเป็นบริวารแล้วสามัคคีกัน
สร้างความปั่นป่วนให้กับฝ่ายธรรมะ
เป้าหมายคือไม่ต้องการเห็นสัตว์โลกอยู่กันอย่างสันติสุข

นั่นเป็นภาระกิจของฝ่ายพญามาร!!