เรื่องเด่น มนุษย์ต่างดาวติดต่อเราหรือยัง-ควรบอกว่า เมื่อไหร่จะไป

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย chandayot, 18 เมษายน 2012.

  1. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    [​IMG]--ปลาอานนท์--
    ------------------------------------
    [​IMG] ภาพวาดเต็มหน้าของพระแม่อุมา ผู้ไม่มีความแก่ความตาย ผู้นำความชื่นใจให้แก่บรรดาสาวกทั่วโลก คนอินเดียนิยมสวดอ้อนวอนท่านป็นประจำทุกวัน แต่บทสวดแรก จะสรรเสริญพระพิฆเณศก่อน

    [​IMG] พระแม่ทุรคาเทวี ประทับบนหลังเสือ ความแตกต่างกับปางพระแม่กาลีคือ พระแม่กาลีเป็นนางยักษ์ ผิวดำ กำลังแลบลิ้น เป็นเพราะเมื่อเทวดามีการรบกับยักษ์ อยู่ๆเสด็จแม่ก็เปลี่ยนไป กลายเป็นรูปร่างนางยักษ์ เข้าเข่นฆ่าพวกอสูรนั้นอย่างดุร้าย จนได้ชัยชนะ พระแม่ทรงฮึกเหิมจะกระทืบบาท พระศิวะท่านกลัวโลกจะสลาย จึงทอดร่างลงรองรับบาทท่าน --เมื่อเห็นว่าที่ทรงกระทืบอยู่คือพระสวามี เสด็จแม่จึงแลบลิ้นออกมาด้วยความอาย มีเรื่องเล่ามาอย่างนี้ครับ--ผมดูภาพ และเล่าเรื่องเทพเหล่านี้ด้วยความสุขมากครับ
    [​IMG]

    --จขกท.จะเปลี่ยนศาสนาหรือไร ปล่าวครับ เอาผมไปฆ่าให้ตายก็ยังเป็นชาวพุทธแบบแท้ๆ การได้พูดถึง -ชื่นชมต่อเหล่าบรรดาเทพ ซึ่งผมถือเสมือนเป็นญาติผู้ใหญ่ของผมเป็นสิ่งที่ดี คนเรามีพี่ป้าน้าอาแล้วต้องเปลี่ยนศาสนาไปด้วยหรือไร หรือถ้าผมนับถือทุกศาสนา ถือว่าเป็นหนึ่งเดียวกัน แปลว่าผมจะเลิกนับถือพุทธศาสนาก็หาไม่ การนับถือทุกศาสนา กับการไม่มีศาสนานั้นต่างกันนะครับ คิดๆๆๆๆๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2012
  2. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    Read More »
    เทวาลัยพระศรีมหากาลี

    [​IMG] มิถุนายน 7, 2554 [​IMG] admin
    [​IMG]เทวาลัยพระศรีมหากาลี ตั้งอยู่บริเวณถนนบรมราชชนนี ระหว่างพุทธมณฑลสาย 3 กับ พุทธมณฑลสาย 4 ภายในตกแต่งได้สวยงาม ดูน่าเกรงขาม และการตกแต่งพระแม่กาลี บรรดาเทพ รวมทั้งนางฟ้า ได้ตกแต่งด้วยอัญมณี โดยเฉพาะบริเวณดวงตา ให้ความรู้สึกดูเหมือนจริง

    -------------------------------------------------------
    ทำความรู้จักคนที่เกิดวันอาทิตย์กันเถอะ
    [​IMG] มิถุนายน 7, 2554 [​IMG] admin
    ดวงอาทิตย์เป็นไม้บรรทัดของดาวเคราะห์และเป็นที่มาของพลังงานและชีวิต ก็ถือเป็นดาวเคราะห์ชายเพื่อวัตถุประสงค์โหราศาสตร์ Sun โดยทั่วไปหมายถึงพ่อของบุคคลในดวงที่มีหน้าที่ในการพาคนต่อชีวิตและมันยัง หมายถึงบรรพบุรุษและนั่นคือเหตุผลที่ใด ๆ ของผลกระทบทางลบต่อดาวเคราะห์ดวงอาทิตย์ทำให้เกิดลักขณาในดวงชะตา ดวงอาทิตย์ยังหมายถึงคนในอำนาจเช่นหัวหน้า, ความสูงส่ง ผู้บัญชาการจัดอันดับเจ้าหน้าที่ของรัฐรัฐบาลตัวเองให้มีประสิทธิภาพนักการเมือง และข้าราชการตำรวจและแพทย์จำนวนมากดังนั้นสิ่งอื่น ๆ และบุคคลที่เกิดวันอาทิตย์ โดยทั่วไปหมายถึงบุคคลวิญญาณชีวิต มีพลังงานให้คุ้มกัน คืออำนาจในการต่อสู้กับโรคและรักษาสุขภาพ โดยทั่วไปสายตา, ความสามารถในการผลิตเด็กที่มีสุขภาพดีและเด็กเพศชายโดยเฉพาะอย่างยิ่งการ เป็นผู้นำคุณภาพ ผู้ว่าการและ การควบคุมในหมู่สิ่งอื่น ๆ

    ขอบคุณเว็ป โหโรไก๊ด์
    -------------------------------------
    แล้วจริงหรือเปล่าที่เขาบอกว่าคนที่มีองค์ในเป็นเทพ หรือแม่อุมา
    บางครั้งครอบครัวจะไม่เป็นสุขหรือมีปัญหาเช่นเขาหวงร่างประมาณนี้ค่ะ ----Rainbow
    -----------------------

    --แน่นอนครับ เคยมีคนเล่าให้ฟังว่า บางคนเป็นหญิง ไปซักเสื้อผ้าให้ลูกผัวด้วยมือก็ไม่ได้ จะทำให้เจ็บป่วย หรือปวดแขน
    (ลองคิดง่ายๆว่า เทพบางองค์ไม่เคยเกิดมาเป็นมนุษย์เลย มนุษย์นั้นเจอปัญหาสารพัดทุกๆวันนะ ส่วนเทพไม่เคยเลย คิดอะไรก็ได้ตามใจทุกอย่าง)

    --สามีคนแรกของพี่สมคิด พี่ภรรยาผม เขาเป็นคนอีสาน ชอบทำบุญ กฐินผ้าป่า ทอดทีไรก็ได้เมียเพิ่มหนึ่งคน ด้วยความที่ผิดศีลกาเม ไม่เลือกว่าลูกเขาเมียใคร ตายโดยการหายสาบสูญ คิดดูว่าตายโดยไม่พบพระ นั้นเหมือนเป็นคนบาปหนา ไม่ได้สวดส่งวิญญาณเลย
    --คนนี้เขาชอบทะเลาะ และตี-เตะพี่สมคิด เขาว่าคนลาวนั้นตีเมียเก่ง ปากก็ร้องโอ๊ยๆอย่าทำพี่ แต่เตะไม่หยุด จนเทพทนไม่ไหว ปู่ผาแดงเข้าผาง เตะพี่หวาดซะ จนแทบตายคาตีน เข็ดเลย

    --จริงแล้วเทพไม่ได้เรื่องมาก แต่ทนคนที่มีระดับศีลธรรมต่ำไม่ได้--- แต่ก็ไม่ได้ฆ่า หรือทำอะไรที่เป็นบาป เพราะเทพตั้งอยู่ในพรหมวิหารทั้งสี่อย่าง องค์ที่มีฤทธิ์มากนั้นท่านไม่ได้สนใจเรื่องเล็กๆน้อยๆ อย่างกับการเชืือดไก่บูชาเจ้าแม่กาลี นั้นก็เหนือคำว่าบาปกรรม หรือนรก เพราะกฏเหล่านี้ใช้กับท่านไม่ได้ (ปรีชาเล่าให้ฟัง)

    --ผมเคยพบผู้กำกับหนังตกยาก ท่านเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ เวลาผ่านพระพิฆเณศ จะใจดี ชอบเด็ก รู้สารพัดศาสตร์ และทุกศาสนา
    ถ้าเราคิดว่า เป็นการแตกแยกของบุคคลิก ตามที่วิชาจิตวิทยาตื้นๆของฝรั่งน่ะ ผิดถนัดเลย เพราะท่านมา แล้วไม่เจอร่างคนนี้ ท่านทำไงรู้ไหมครับ ท่านเข้าแฝงอีกร่างหนึ่ง ซึ่งเป็นคริสเตียน กำลังนินทาร่างท่านอยู่ นั่งเก้าอี้แล้วหงายหลังโครม นอนๆอยู่ที่พื้น--ดิ้นแถกๆมาฟาดฝาเหมือนมือยักษ์จับฟาด แล้วเด้งตัวขึ้นมานั่งขัดสมาธิได้--- ท่านถาม "ร่างกูอยู่ไหน" เป็นไปได้หรือว่า บุคคลิกแอบแฝงของคนหนึ่ง จะเข้ามาแฝงอีกคนหนึ่ง "ไม่มีคำอธิบายทางจิตวิทยา" ซึ่งแปลให้ก็ได้ว่า --หมอฝรั่งบอกว่า"กรูไม่รู้แล้วโว้ย"
    ----------------------------การแบ่งวรรณะ----------
    วรรณะ

    <!-- /firstHeading --><!-- bodyContent --><!-- tagline -->จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
    <!-- /tagline --><!-- subtitle -->
    <!-- /subtitle --><!-- jumpto -->

    <!-- /jumpto --><!-- bodycontent -->วรรณะ ในหลักความเชื่อของศาสนาฮินดู ได้แบ่งคนที่อยู่เป็น 4 วรรณะ (varna) มีหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไปตามความสำคัญของแต่ละบุคคล เพื่อแบ่งหน้าที่ทางสังคม คือ
    1. กษัตริย์ (Kshatriyas) - บุคคลผู้อยู่ในชั้นการปกครอง บ้านเมือง
    2. พราหมณ์ (Brahmins) - บุคคลผู้อยู่ในชั้นสั่งสอนผู้คน ให้มีความรู้ ขนบธรรมเนียม ประเพณี
    3. ไวศยะ (Vaishyas) หรือ แพศย์ - บุคคลผู้อยู่ในชั้นการใช้ วาจา ค้า ขาย
    4. ศูทร (Shudras) - บุคคลผู้อยู่ในชั้น แรงงาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2012
  3. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    [​IMG]
    เจ้าแม่กาลี ลักษณะตามที่เล่าไปแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2012
  4. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ---------------[​IMG] คนแขกเรียกสเด็จแม่อุมามหาเทวีว่าอย่างไร

    ตอบ ปรีชาเรียกท่านว่า มริยะมะ (หรือมารียัมม่า มะ แปลว่า แม่ บวกคำว่า อริยะ แล้วก็มะอีก คือแม่ของแม่ทั้งหลาย) เสด์จแม่ยิ่มสวย บลิกดี น่ารักมากขอบอก --ถ้าสนิทกันแล้วท่านชอบหยอกเย้าพวกเราเล่น(สมัยเรียน ปี 1) บางครั้งท่านมา ท่านพูดว่า "ช่วงนี้คลื่นลมแรง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง" หรือแซวว่า "ชื่นใจจริงๆ เหมือนดื่มน้ำทิพย์จากสวรรค์" ล้วนแต่หยอกเราเรื่องไปจีบผู้หญิงทั้งสิ้น ทำเอาพวกเราอายม้วนต้วน เพราะท่านแซวโดนใจจังๆ

    [​IMG] ปางนี้คือ ตรีเทวี-- สามองค์รวมเป็นหนึ่ง
    ถ้าเป็นพระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหม--รวมเป็นหนึ่ง เรียกว่าพระตรีมูรติ บางคนคิดว่า ประทานความสำเร็จเรื่องความรัก-- คิดได้ไง มันยังไม่ถูก ต้องคิดว่า ท่านประทานให้ได้้สารพัด -แต่อยู่ในกฏแห่งกรรมสิครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2012
  5. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ---[​IMG]------------------------
    [​IMG]

    [​IMG]

    เวลาคนอินเดีย ตะโกนว่า โอม ศรีคเณชนะมะ จิกี --คล้ายๆยังงี้ต้องตอบว่าอย่างไร
    --ตอบ ตะโกนไปคำเดียว "เจ" ก็จบ----เจ แปลเป็นไทยว่า ชัย --แปลงมาเป็นคำว่า ชัยยะ หรือ ไชโย ในภาษาไทย

    http://magic.fix.gs/index.php?action=printpage;topic=732.0 ความรู้เรื่องพระแม่ต่างๆตามความเชื่อศาสนาฮินดู


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2012
  6. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    บางคนอาจจะคิดว่า คุณเจษฎารู้เรื่องเหล่านี้ได้ยังไง หรือว่าแกล้งทำว่ารู้
    --ตอบ เพราะได้คุกคลีกับคนที่นับถือท่านไสบาบา อย่าง ดร.อาจอง-- มิสซิสลอเรน และหลายๆคน ที่ปัจจุบันอยู่ที่ รร.ศรีสัตยาไส ลำนารายณ์ ลพบุรี โรงเรียนในฝันของเด็กๆ
    --- อย่างคุณลุงปัญญา บอกว่าได้พบท่านแล้วหูตาสว่างไสว สุขภาพแข็งแรง ลุงปลัดโกเมศท่านก็ได้ตาทิพย์ คุณเกียรติชัยได้สร้อยที่ท่านไสบาบาเสกให้จากกลางอากาศ เป็นทองแท้ 95 เปอร์เซนต์ ส่วนผมไม่ได้พบปาฏิหารย์อะไรเลยครับ แต่ฝันเห็นท่านหลายครั้ง เป็นฝรั่งตัวโต ผมทองยาวสลวยเป็นเกลียวๆ ที่รู้เพราะท่านชวนร้องเพลงภชัน และก็ได้พบท่านผ่านร่างภรรยาดังกล่าว

    --แรกสุด การสวดบูชาเทพ ที่เรียกว่า สวดภชัน จะสวดบท กายาตรีมนตรา ขอบคุณทั้งสามโลก- โอม บูร บูรวะ สวะฮา..ทาท สะวิทูร วาเรเนียม..
    --ต่อมาก็สวดบททั่วไป แต่ต้องสรรเสริญพระพิฆเณศก่อน
    สุดท้ายสวดบูชาไฟ หรือ อารตีครับ ----อาสวะโตมา สัดยากัมมาย่า...
    -----------------------------------------------------------------------------


    สงครามครูเสด ---เกิดขึ้นยาวนาน บางปีเกิดถึง 9 ครั้ง---(อังกฤษ: The Crusades; อาหรับ: الحروب الصليبية ; อัลฮุรูบ อัศศอลีบียะหฺ/ หรือ الحملات الصليبية /อัลฮัมลาต อัศศอลีบียะหฺ‎ แปลว่า สงครามไม้กางเขน) คือ สงครามระหว่างศาสนา ซึ่งอาจหมายถึงสงครามระหว่างชาวคริสต์ต่างนิกายด้วยกันเอง หรือชาวคริสต์กับผู้นับถือศาสนาอื่นก็ได้ แต่โดยส่วนใหญ่มักหมายถึงสงครามครั้งใหญ่ระหว่างชาวมุสลิมและชาวคริสต์ ในช่วงศตวรรษที่ 11 ถึง 13
    สงครามครูเสด เป็นสงครามศาสนาระหว่างชาวคริสต์จากยุโรป และ ชาวมุสลิม เนื่องจากชาวคริสต์ต้องการยึดครองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และ เมืองคอนสแตนติโนเปิลหรือเมืองอิสตันบูลประเทศตุรกีในปัจจุบัน ซึ่งแต่เดิมเป็นของอาณาจักรโรมอยู่ก่อนแล้วที่กองทัพอิสลามจะเข้ามาที่นี้
    ในตอนเริ่มสงครามนั้นชาวมุสลิมได้เข้าปกครองดินแดนศักดิ์สิทธิ์อยู่ เนื่องมาจากโซยุเตริก(น่าจะชื่อคอลีฟหะหุในภาษาอิสลาม) ผู้นำโลกอิสลามได้เข้ายึดครองดินแดนแห่งนี้ ซึ่งเป็นยุคของคอลีฟะหฺอุมัร (634-44) ซึ่งเป็นผู้นำทางศาสนาและการเมืองของอาณาจักรอิสลามที่เป็นสถานที่สำคัญของสามศาสนาได้แก่ อิสลามยูได และ คริสต์ ในปัจจุบันดินแดนแห่งนี้คือ ประเทศอิสราเอล

    http://th.wikipedia.org/wiki/สงครามครูเสด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2012
  7. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    วันพฤหัสบดี ที่ 24 กันยายน 2552
    แขกเคือง Pretty Woman
    Posted by ThelastKGB , ผู้อ่าน : 1396 , 00:02:10 น.
    หมวด : ดารา/นักร้อง/คนดัง <!-- retweet and facebook --><!-- keep in file social.html --><!-- end retweet and facebook -->
    [​IMG] พิมพ์หน้านี้ [​IMG] <!--blog vote-->[​IMG] โหวต 0 คน

    <TABLE class=blog_center_data><TBODY><TR><TD>จูเลีย โรเบิร์ต นางเอกชื่อดังของฮอลลีวู้ดสร้างความไม่พอใจให้ชาวบ้านในอินเดีย ที่ถูกห้ามไม่ให้เข้าไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ในช่วงเทศกาลสำคัญ ระหว่างที่เธอกำลังถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องใหม่ภายในวิหารใกล้กับกรุงนิวเดลี


    [​IMG]
    เว็บไซท์หนังสือพิมพ์เทเลกราฟ ของอังกฤษ รายงานว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เมื่อทีมรักษาความปลอดภัย ที่ประกอบไปด้วยการ์ด 350 คน รถยนต์กันกระสุนหลายคัน และเฮลิคอปเตอร์อีก 1 ลำ ได้ปิดทางเข้าวิหาร อัชราม ฮารี มัณฑีร์ และปิดกั้นไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปสวดมนตร์ภายในวิหารในตอนเช้า เพื่อถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง อิท, เพรย์ , เลิฟ ที่จูเลีย โรเบิร์ตรับบทเป็นผู้หญิงที่หวังว่าจะค้นพบตัวเองตามหลักความเชื่อตามศาสนาฮินดู

    นอกจากนี้ทางการยังได้ระดมกำลังตำรวจกว่า 100 นาย อารักขาอยู่ด้านนอกวิหารและยังมีกำลังพล ที่เป็นทั้งตำรวจในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ ในจำนวนเกือบเท่ากันอยู่ภายในวิหารอีกด้วย


    เรื่องนี้ได้สร้างความโกรธแค้นให้กับบรรดาชาวฮินดู ที่หวังจะได้เฉลิมฉลองกันในช่วงเริ่มต้นเทศกาล นวราตรี ซึ่งเป็นเทศกาลบวงสรวงพระแม่อุมา ที่จัดขึ้นเป็นประจำในเดือนตุลาคมของทุกปี ชาวฮินดูเหล่านี้บอกว่า ช่วงนี้เป็นเทศกาลนวราตรี จะขัดขวางไม่ให้พวกเขาเข้าไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาไม่ได้


    โรเบิร์ตส ได้พักอยู่กับลูก ๆ 3 คน ที่พาโทดี พาเลซ ซึ่งเป็นบ้านของ ซาอีฟ อาลี ข่าน นักแสดงบอลลีวู้ดชื่อดัง ท่ามกลางการอารักขาของการ์ดติดอาวุธ 40 คน รายงานระบุว่า การอารักขาความปลอดภัยให้โรเบิร์ตส ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า ราวกับระดับประธานาธิบดีของอินเดีย และการก้าวล่วงเข้าไปยังวิหารศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดู ทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่อเธอ


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    เทพเจ้า พระผู้สร้างจากต่างดาว
    --ในทางวิทยาศาสตร์ คิดว่ามีสิ่งที่ทรงปัญญาสร้างสรรสิ่งต่างๆอย่างมีระเบียบ เช่น ดาวจะเล็กหรือใหญ่ จะอยู่ในระยะห่างที่พอดี ตามสมการของ โบ๊ด
    กิ่งไม้ ฟ้าผ่า เป็นไปตามรูปแบบของอนุกรม แมนเดลโบร และจูเลียเซ็ท
    --ดอกทานตะวัน รูปทรงก้นหอย การแตกกิ่งของพืชเกิดจากอนุกรมของฟิโนแบกซี่ หรืออัตราส่วนทองคำ
    --เหล่านี้เชื่อว่าเป็นการสร้างของจิตจักรวาล ที่ไร้ตัวตน แต่บันดาลการสร้างสรรอยู่ตลอดเวลา และทำการเข้าใจจักรวาล ผ่านความเข้าใจของมนุษย์


    ---ได้มีการ ติดต่อทางจิตกับชาวต่างดาว ที่เรียกว่า แชนเนิลลิ่ง อยู่ๆก็มีวิญญาณที่ทรงความรู้เข้ามา บอกว่า ท่านคือผู้สร้างจิตวิญญาณของมนุษย์ โดยให้ต่างไปจากพวกอื่น คือให้มีจิตอิสสระ เลือกที่จะทำดีหรือชั่วได้ แต่ได้มาหลงงมงายอยู่ในโลกนี้ด้วยความยึดติดในวัตถุและความสุข
    ------- "คือจะมีบางช่วงที่เราได้แตกตัวออกเป็นวิญญาณเล็กๆมากมาย และก็กลายมาเป็นวิญญาณของพวกมนุษย์---เหมือนการอาบน้ำที่ทำให้เกิดหยดน้ำมากมาย"... "พอจบการเดินทาง-- วิญญาณทั้งหลายก็กลับมาเป็นตัวเรา" เหล่านี้เหมือนคำสอนในเรื่องของพระพรหม และ ปรมาตมันอย่างไม่มีผิดเพี้ยน ท่านบอกว่า อยู่ในเขตเย็น อาจจะเป็นหลุมดำ หรือมิติอื่น --มีความถี่ราว 92 เมกะเฮิทซ์ และใช้เครื่องแปลภาษาฝังไว้ที่ท้ายทอยของคนทรง แต่เป็นเครื่องจักรไร้มวลสาร คือพลังงานก้อนหนึ่ง

    ---เราคือสิ่งที่บอกได้ยากว่าเป็นอย่างไร เหมือนมี 9 วิญญาณรวมกันเป็นหนึ่งคน เรียกเราว่า เดอะไนน์(กลุ่มเก้า)ก็ได้

    ---เหล่านี้มาจากปากคำที่เราเรียกได้ว่าเป็นชาวต่างดาว แต่เนื้อความเหมือนศาสนาฮินดูมาก
    --นาซ่าดักฟังการสนทนาทางวิทยุอวกาศ เป็นเสียงคล้ายคน กำลังพูดถึงคำสอนพระกฤษณะ ในคัมภีร์ภทวัท คีตา
    [​IMG]

    [​IMG] วิทยาศาสตร์เพิ่งจะค่อยๆรู้จัก พลังงานจักรา ที่อยู่ในตัวของคนเรา แต่โยคีอินเดียรู้มาไม่ต่ำกว่าสามพันปี แถมยังมองเห็นรังสีออร่าจากกายทิพย์ของมนุษย์อีกด้วย
    --สงครามครูเสด http://www.baanjomyut.com/library/war_of_religions/01.html

    --ขอพักแป๊บนึง ขอค้นเรื่อง เดอะไนน์ สำคัญมากครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2012
  9. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    [SIZE=+6]Plan Nine From Outer[/SIZE]
    [SIZE=+6]Space [/SIZE]

    --------------------------------------------------------------------------------

    One New Age channelling cult, above all the rest, has had a huge - very disturbing influence on hundreds of thousands of devotees worldwide. Known as 'The Nine', its disciples include cutting edge scientists, multi-millionaire industrialists and leading politicians. This exclusive extract based on The Startgate Conspiracy by Lynn Picknett and Clive Prince looks at the sinister origins of The Nine

    I am the beginning. I am the end. I am the emissary. But the original time I was on the Planet Earth was 34,000 of your years ago. I am the balance. And when I say "I" - I mean because I am an emissary for The Nine. It is not I , but it is the group…We are nine principles of the Universe, yet together we are one.
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=959><TBODY><TR><TD width=713>The declaration above is typical of the channelled pronouncements of the Council of Nine – or just ‘The Nine’. They contain all the usual New Age ingredients of grandiose statements, shaky grammar and unprovable predictions. But unlike all the other channelling cults, that of The Nine has serious clout. Perhaps the reason for this is that they claim to be the Ennead, or the nine major gods of ancient Egypt (see panel). Or could there be another reason, one that owes more to The X-Files than the Pyramid Texts?
    Although The Nine may appear to be quintessentially a modern phenomenon, our research uncovered its truly astonishing pedigree. In fact, the story begins nearly 50 years ago, in a private research laboratory in Glen Cove, Maine, called the Round Table Foundation, run by a medical doctor named Andrija Puharich (also known as Henry K Puharich).Set up in 1948 to research the paranormal, among the noted psychics studied at the Foundation were the famous Irish medium Eileen Garrett and the Dutch clairvoyant Peter Hurkos (Pieter van de Hirk).Prominent members included the influential philosopher and inventor Arthur M Young and the socialite Alice Bouverie (née Astor).</TD><TD width=246>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    In December 1952, Puharich brought into his laboratory an Indian mystic named Dr D G Vinod, who began to channel The Nine or ‘the Nine Principles’. In the months before Vinod returned to India, a group met regularly to hear The Nine’s channelled wisdom. Never known for their modesty, The Nine proclaimed themselves to be God, stating "God is nobody else than we together, the Nine Principles of God."
    Three years later, there appeared to be independent confirmation of their existence. In Mexico, Puharich and Young met Charles and Lillian Laughead, former Christian missionaries who were by then prominent in the burgeoning UFO contactee movement. (For a description of their involvement in the Dorothy Martin circle, see Jerome Clark’s ‘When Prophecy Failed’ in FT117.) Back in the States a few weeks later, Puharich received a letter from the Laugheads containing messages received by their group’s channeller. This message also claimed to come from the Nine Principles, even – amazingly – including references to the earlier communications transmitted through Dr Vinod. Could The Nine possibly be for real?
    Perhaps the answer is embedded in the career of Puharich himself. After disbanding the Round Table Foundation in 1958, he worked for 10 years as an inventor of medical devices and achieved international recognition as a parapsychologist, most famously studying the Brazilian psychic surgeon, Arigo (José Pedro de Freitas). But all that was to pale into insignificance because, in 1971, Puharich discovered Uri Geller.
    At their first meetings in Tel Aviv in 1971, Puharich hypnotised Geller in an attempt to find out where his abilities came from. As a result, the young Israeli started to channel ‘Spectra’ – an entity which claimed to be a conscious super-computer aboard a spaceship. However, Puharich suggested to him that there might be a connection with the Nine Principles, and Spectra readily agreed that there was. The Nine claimed that they had programmed Geller with his powers as a young child.
    Through Geller, The Nine alerted Puharich to his life’s mission, which was to use Geller’s talents to alert the world to an imminent mass landing of spaceships that would bring representatives of The Nine. However, Geller – by now an international psychic superstar – bowed out in 1973 and has resolutely turned his back on The Nine ever since. Puharich had to find other channels.
    He joined up with aristocratic former racing driver Sir John Whitmore and Florida-based psychic and healer Phyllis Schlemmer. They found a new channeller – a Daytona cook known to history only by the pseudonym ‘Bobby Horne’ – who lived to regret his dealings with The Nine. Driven to the brink of suicide by their constant demands, he too dropped out of the scene – his despair being dismissed by Whitmore as "signs of instability". After this, Phyllis Schlemmer was appointed the authorised spokesperson for the entity – known simply as ‘Tom’ – who represented The Nine

    Puharich, Whitmore and Schlemmer then set up Lab Nine at Puharich’s estate in Ossining, New York. The Nine’s disciples included multi-millionaire businessmen (many hiding behind pseudonyms and including members of Canada’s richest family, the Bronfmans), European nobility, scientists from the Stamford Research Institute and at least one prominent political figure who was a personal friend of President Gerald Ford.
    We also know that Lyall Watson (then the darling of the alternative scene because of his seminal 1973 book Supernature) was involved, as was the influential counter-culture guru Ira Einhorn – and Gene Roddenberry, creator of Star Trek.
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=905><TBODY><TR><TD width=756>The key to predicting eclipses is noticing that they occur in cycles, or at more or less regular intervals. The Sun goes round the sky once a year; the Moon once a month. This means that, every month, the Moon ‘overtakes’ the sun. This happens at the New Moon, and this is when solar eclipses occur. But, of course, we don’t get an eclipse every New Moon. This is because the Moon has an elliptical orbit: sometimes it passes above the Sun when it overtakes it, sometimes below. But the Moon’s elliptical orbit has its own cycle: it returns to the same place it started from every 18 years or so. Thus – if seen from the same place on Earth – an eclipse will be followed by another one just over 18 years later.</TD><TD width=149>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    Roddenberry was part of that circle in 1974 and 1975, and even produced the screenplay for a movie about The Nine. How much he was influenced by them is unknown, although it is said that some of their concepts found their way into the early Star Trek movies, and The Next Generation and Deep Space Nine (what a giveaway!) series.

    (There is a character named ‘Vinod’ in one Deep Space Nine episode.) Another key player in Lab Nine was Dr James J Hurtak, who was appointed Puharich’s second-in-command by The Nine. In fact, Hurtak had been independently channelling The Nine since 1973.
    Puharich and Whitmore commissioned British writer Stuart Holroyd to write an account of their adventures, which appeared in 1977 as Prelude to the Landing on Planet Earth (retitled Briefings for the Landing on Planet Earth in paperback)
    n this extraordinary book the true identity of the Nine – and of Tom – was finally revealed. Far from being the chummy character that his rather avuncular name suggests, Tom is actually Atum, the creator-god of the ancient Egyptian religion of Heliopolis, and Uncle Tom with his eight mates are none other than the Great Ennead of Heliopolis,
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=900><TBODY><TR><TD width=760>But even with such impressive contacts, all was not well with Puharich. Lab Nine broke up in 1978 after a series of mysterious events that culminated in an arson attack on the Ossining estate, and he fled to Mexico, claiming that he was being persecuted by the CIA. He returned to the USA two years later, and appears to have played no further part in The Nine story. He died in 1995 after falling down the stairs in his South Carolina home.
    However, The Nine continued. Not only did Schlemmer and Whitmore continue their mission, but Dr Hurtak has also moved on. He has become a major player in the unfolding millennial drama currently being played out at Giza, but perhaps more importantly he has established himself as a New Age guru par excellence, travelling the world giving workshops on his book of channelled revelations from The Nine, The Keys of Enoch. Written and laid out in classic Biblical style, its darkly apocalyptic vision has huge numbers of influential devotees.This we find very worrying. </TD><TD width=140>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>


    Another Nine channel – an Englishwoman named Jenny O’Connor – was introduced to the avant garde Esalen Institute in San Francisco by Sir John Whitmore. She and The Nine became so influential there that they held seminars and – unbelievably – were actually listed on the Institute’s staff, even successfully ordering the sacking of its chief finance officer and the reorganisation of its entire management structure..
    This should concern us, because many influential people attended The Nine’s Esalen seminars, including Russians who were part of the Institute’s Soviet Exchange programme. Some of these later rose to prominence in the Gorbachev regime and were instrumental in the downfall of Communism. (The Esalen Institute now runs the US branch of the Gorbachev Foundation.)
    The Nine are very much still with us. One of their recent channels, who is also in contact with Tom, is the American writer David M Myers. He is co-author with Britain’s David S Percy of that extraordinary tome Two-Thirds, a history of the galaxy and the human race according to Myer’s otherwordly contacts (who clearly have no sense of the absurd). Percy – best known as a champion of the ‘Face on Mars’ and the ‘hoaxing’ of the Apollo moon landings – was at one time part of the Schlemmer circle.
    Among the other major proponents of the ‘monuments’ of Mars and their alleged connection with ancient Egypt is none other than Dr James Hurtak – The Nine’s great prophet – who has promoted this idea since as long ago as 1973. Richard C Hoagland – familiar to FT readers as another unrepentant ‘Mars Face’ enthusiast – is also clearly under The Nine’s spell. David Myers and David Percy were, respectively, American and European Director of Operations for Hoagland’s Mars Mission. In fact, his interpretation of the ‘monuments’ of Mars comes directly from The Nine. Flake though he may appear (increasingly in these hallowed pages), but his influence over huge swathes of the hungrier mystery seekers is undeniable. This is the man who addresses rapt audiences at the United Nations.
    But it is in the New Age channelling circuit that The Nine have truly come into their own. In any other circles their true agenda would no doubt have been rumbled long ago, but this is the New Age. Anything The Nine say must be sweetness and light, right? But an objective reading of their divine pronouncements reveal the first stirrings of something very nasty in Paradise.
    Their words appeared in 1992 as the book The Only Planet of Choice, credited to ‘transceiver’ Schlemmer and edited by Mary Bennett (a one-time member of the Schlemmer circle who also edited Myers and Percy’s Two-Thirds). This has had an unprecedented influence over the New Age. According to Palden Jenkins (editor of an earlier edition of Only Planet) more and more New Age channelling groups are ‘realising’ that the real source of their wisdom is The Nine.8 In fact, we have discerned what amounts to a campaign by The Nine – or their adherents – to ‘take over’ the New Age. It would be a mistake to underestimate the economic or even political potential of this vast subculture – rich pickings indeed.

    But The Nine’s influence does not extend merely to New Age channelling circles. Andrija Puharich, James Hurtak and Richard Hoagland have all lectured at the United Nations in New York. And individuals connected with The Nine are also known to have influence with Vice-President Al Gore.
    Of course, if The Nine really are the ancient gods of Egypt, then surely there could be fewer more significant events than their return. One may be justified in thinking that the more leading politicians who fall under their influence the better; but are they really the ancient Ennead of Egypt? Can it be that they have actually returned to sort us all out, scattering love and enlightenment from their high moral ground?
    Tom, in The Only Planet of Choice, chooses his words carefully as he explains that all the races of the Earth were seeded from space-gods – except one, the "indigenous race", the blacks. He is very careful to urge us not to make an issue out of this. After all, it’s not the black race’s fault that they have no divine spark like the rest of us.

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=923><TBODY><TR><TD width=758>But The Nine’s influence does not extend merely to New Age channelling circles. Andrija Puharich, James Hurtak and Richard Hoagland have all lectured at the United Nations in New York. And individuals connected with The Nine are also known to have influence with Vice-President Al Gore.
    Of course, if The Nine really are the ancient gods of Egypt, then surely there could be fewer more significant events than their return. One may be justified in thinking that the more leading politicians who fall under their influence the better; but are they really the ancient Ennead of Egypt? Can it be that they have actually returned to sort us all out, scattering love and enlightenment from their high moral ground?</TD><TD width=165>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>


    Tom, in The Only Planet of Choice, chooses his words carefully as he explains that all the races of the Earth were seeded from space-gods – except one, the "indigenous race", the blacks. He is very careful to urge us not to make an issue out of this. After all, it’s not the black race’s fault that they have no divine spark like the rest of us.
    Perhaps the most disturbing aspect of the history of The Nine is its relationship to the career of Andrija Puharich. Recent research has revealed Puharich to have a distinctly sinister side. As an Army doctor in the 1950s, he was deeply involved with the CIA’s notorious MKULTRA mind control project (see panel). He – together with the infamous Dr Sidney Gottlieb – experimented with a variety of techniques to change or induce actual thought processes… even to creating the impression of voices in the head. These techniques included the use of drugs, hypnosis and beaming radio signals directly into the subject’s brain. And, significantly, he was engaged in this work at exactly the same time that The Nine made their first appearance at the Round Table Foundation. The Foundation itself is now known to have been largely funded by the Pentagon as a front for its medical and parapsychological research. Puharich was still working for the CIA in the early 1970s, when he brought Uri Geller out of Israel.
    Puharich’s use of hypnosis is particularly interesting in The Nine circle. In the case of Uri Geller and Bobby Horne, he first hypnotised them and then suggested that they were in touch with The Nine – and lo, they were! Ira Einhorn – a close associate of Puharich’s during the 1970s – confirmed to us that he believed that Puharich was "humanly directing" The Nine communications.
    The evidence we have gathered strongly suggests that Tom and his fellow gods originated, not in the stars, but behind closed doors as part of a CIA mind control experiment. And what happened to that experiment? Now with hundreds of thousands of devotees, some in very high places, can The Nine be deemed a success? Of course, that depends very much on what the CIA had in mind. With their subtle racist propaganda, perhaps the flaky New Age Nine should worry the hell out of us.

    A fully annotated version of this article appears in Fortean Times 126
    ©John Brown Publishing / Fortean Times 99
     
  10. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    แผนหมายเลขเก้าจากอวกาศ--เป็นเรื่องรวมๆ ของคำสอนของพระเจ้าจากอวกาศ ที่มีผลต่อความเชื่อแบบนิวเอจ รวมทั้งการสร้างภาพยนต์ต่างๆ รวมทั้ง ดิเอกซ์ไฟล์

    ----หนึ่งลัทธินิวเอจ ที่ได้มาจากการ แชนเนิลลิ่ง-channeling เหนือทั้งหมดได้มีขนาด- อิทธิพลรบกวนมาก มีสาวกหลายร้อยหลายพันทั่วโลก หรือเป็นที่รู้จักในฐานะ 'เก้า', สาวกของเขารวมถึงนักวิทยาศาสตร์ที่รอยต่ออุตสาหกรรม เศรษฐีและนักการเมืองชั้นนำ พิเศษ ตือ Startgate โดย Lynn Picknett และไคลฟ์เจ้าชายมองไปที่ต้นกำเนิดของ"เก้า" ผมเริ่มต้น ผมติดต่อคุณ--แต่เวลาเดิมผมบนโลกคือ 34,000 ปีที่ผ่านมาของคุณ ฉันมีสมดุล และเมื่อผมพูดว่า "ฉัน" - ผมหมายถึงเพราะผมคือทูตสำหรับเก้า มันไม่ได้เป็นฉัน แต่ก็เป็นกลุ่มที่เราเป็น ... เก้าหลักการของจักรวาลยังอยู่ด้วยกันเราเป็นหนึ่งการประกาศดังกล่าวเป็นปกติของ pronouncements ช่องทางของสภาเก้า - หรือเพียงแค่ 'เก้า' พวกเขามีทั้งหมดส่วนผสมยุคใหม่ของความยิ่งใหญ่ การคาดการณ์สั่นคลอนไม่สามารถพิสูจน์ได้ แต่ไม่เหมือนทุกๆลัทธิ channeling อื่น ๆ ที่เก้ามีอิทธิพลอย่างจริงจัง บางทีเหตุผลนี้ก็คือพวกเขาอ้างว่าเป็น เอ็นเนียด--Ennead หรือเก้าเทพที่สำคัญของอียิปต์โบราณ หรืออาจมีเหตุผลอื่นใดอย่างหนึ่งที่เป็นมากขึ้นในการ X-Files กว่าตำราสร้างพีระมิด? แม้ว่าเก้าอาจปรากฏเป็นแก่นสารปรากฏการณ์ที่ทันสมัย​​, การวิจัยของเราพบสายเลือดที่น่าอัศจรรย์อย่างแท้จริงของมัน ในความเป็นจริงเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเกือบ 50 ปีที่ผ่านมาในห้องปฏิบัติการวิจัยเอกชนในเกลนคอฟ, รัฐเมน, ที่เรียกว่ามูลนิธิตารางที่ดำเนินการโดยแพทย์ที่มีชื่อ Andrija Puharich (ที่รู้จักกันว่าเฮนรี่เค พูฮาริช). ตั้งขึ้นในปี 1948 เพื่อ การวิจัยอาถรรพณ์หมู่ นักจิตวิทยา-psychics สังเกตศึกษาที่มูลนิธิขนาดกลางไอลีการ์เร็ตไอริช และชาวดัตช์ผู้มีญาณทิพย์ปีเตอร์ เฮอร์คอส (Pieter Van de HIRK). คนที่โดดเด่นรวมถึงนักปรัชญาที่มีอิทธิพลและนักประดิษฐ์ของอาเธอร์เอ็มสาวและสังคมอลิซ Bouverie (née Astor)ในเดือนธันวาคม 1952, Puharich นำเข้ามาในห้องปฏิบัติการของเขา อินเดียลึกลับ

    ----ชื่อดร. DG Vinod ที่เริ่มช่องเก้าหรือ 'เก้าหลักการ' ในเดือนก่อนที่จะอดกลับไปอินเดียกลุ่มพบเป็นประจำจะได้ยินภูมิปัญญาช่องเก้าของ ไม่เคยรู้จักกันพอประมาณของพวกเขาเก้าประกาศตัวเองเป็นพระเจ้าเซน "พระเจ้าคือไม่มีคนอื่นมากกว่าที่เราร่วมกันเก้าหลักการของพระเจ้า" สามปีต่อมามีปรากฏให้เป็นอิสระจากการยืนยันการดำรงอยู่ของพวกเขา ในเม็กซิโก Puharich และหนุ่มสาวได้พบกับชาร์ลส์และลิเลียน Laughead, เผ​​ยแผ่ศาสนาคริสต์ในอดีตที่ถูกโดยที่โดดเด่นแล้วในการเคลื่อนไหว ผู้ติดต่อชาวต่างดาว-UFO contactee (สำหรับคำอธิบายของการมีส่วนร่วมของพวกเขาในโดโรธีมาร์ตินวงกลมให้ดู Jerome ของ Clark 'เมื่อคำพยากรณ์ล้มเหลว' ใน FT117.)

    ย้อนกลับไปในสหรัฐอเมริกาไม่กี่สัปดาห์ต่อมา Puharich ได้รับจดหมายจาก Laugheads ที่มีข้อความที่ได้รับโดย channeller กลุ่มของพวกเขา ข้อความนี้ยังอ้างว่าจะมาจากหลักการเก้าแม้ - amazingly - รวมทั้งการอ้างอิงถึงการสื่อสารที่ส่งผ่านก่อนหน้านี้ดร Vinod สามารถเก้าอาจจะเป็นจริงเหรอ?บางทีคำตอบที่ถูกฝังอยู่ในอาชีพของตัวเอง Puharich หลังจากที่แยกวงมูลนิธิตารางรอบ

    ---ในปี 1958 เขาทำงานเป็นเวลา 10 ปีเป็นนักประดิษฐ์ของอุปกรณ์ทางการแพทย์และประสบความสำเร็จได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติเป็น parapsychologist ชื่อเสียงการศึกษาศัลยแพทย์กายสิทธิ์บราซิล, Arigo (José Pedro de Freitas) แต่สิ่งที่เป็นไปซีดลงเล็กน้อยเพราะในปี 1971 Puharich ค้นพบ มร. ยูริ เกลเล่อร์-- Uri Gellerในการประชุมครั้งแรกของพวกเขาใน เทล อาวีฟTel Aviv ในปี 1971 Puharich สะกดจิต Geller ในความพยายามที่จะหาที่ความสามารถของเขามาจาก เป็นผลให้หนุ่มสาวชาวอิสราเอลเริ่มต้นที่ 'Spectra' ช่อง - นิติบุคคลซึ่งอ้างตัวว่าเป็นสติซุปเปอร์คอมพิวเตอร์บนเรือยานอวกาศ อย่างไรก็ตาม Puharich แนะนำให้เขาว่าอาจจะมีการเชื่อมต่อกับเก้าหลักการและ Spectra พร้อมเห็นพ้องกันว่ามี "เก้า"อ้างว่าพวกเขาได้ตั้งโปรแกรม Geller กับพลังของเขาเป็นเด็กหนุ่ม

    ผ่าน Geller, เก้าแจ้งเตือน Puharich ภารกิจชีวิตของเขาซึ่งก็คือการใช้พรสวรรค์ของ Geller เพื่อแจ้งเตือนโลกที่จะเชื่อมโยงไปถึงมวลใกล้ของยานอวกาศที่จะนำมาซึ่งผู้แทนของเก้า แต่ Geller - โดยขณะนี้ซูเปอร์สตาจิตนานาชาติ - คำนับออกในปี 1973 และได้เฉียบขาดหันกลับมาของเขาในเก้านับตั้งแต่ Puharich ได้เพื่อหาช่องทางอื่น ๆ
    เขาเข้าร่วมกับการแข่งรถขับขุนนางอดีตเซอร์จอห์น Whitmore และฟลอริด้าที่ใช้พลังจิตและ healer Phyllis Schlemmer พวกเขาพบ channeller ใหม่ - เดย์โทนาปรุงอาหารที่รู้จักกันในประวัติศาสตร์เท่านั้นโดยใช้นามแฝง 'บ๊อบบี้ฮอร์น' - ที่อาศัยอยู่ที่จะเสียใจของเขาด้วยการติดต่อเก้า การขับเคลื่อนเพื่อปากของการฆ่าตัวตายตามความต้องการของพวกเขาอย่างต่อเนื่องเขามากเกินไปหลุดออกไปจากฉาก - สิ้นหวังของเขาถูกไล่ออกโดย Whitmore เป็น "สัญญาณของความไม่แน่นอน"
    หลังจากนี้ฟิลลิ Schlemmer ได้รับการแต่งตั้งโฆษกที่ได้รับอนุญาตสำหรับกิจการ - ที่รู้จักกันเพียงเป็น 'ทอม' - ที่เป็นตัวแทนเก้า


    Puharich, Whitmore และ Schlemmer แล้วตั้งค่า Lab เก้า ณ นิคม Puharich ใน Ossining, นิวยอร์ก สาวกเก้าของการรวมธุรกิจหลายเศรษฐี (ที่ซ่อนหลายหลังนามแฝงและรวมถึงสมาชิกของครอบครัวที่ร่ำรวยที่สุดของแคนาดา, Bronfmans), ขุนนางยุโรป, นักวิทยาศาสตร์จากสแตมฟสถาบันวิจัยและอย่างน้อยหนึ่งรูปทางการเมืองที่โดดเด่นที่เป็นเพื่อนส่วนบุคคลของประธานาธิบดีเจอรัลด์ฟอร์ด
    .

    นอกจากนี้เรายังรู้ว่า Lyall Watson (แล้วที่รักของฉากทางเลือกเพราะน้ำเชื้อ Supernature หนังสือของเขา 1973) มีส่วนร่วมเป็นเป็นผู้มีอิทธิพลที่เคาน์เตอร์วัฒนธรรม-guru Ira Einhorn - และยีนเด็น, ผู้สร้าง Star Trek

    กุญแจสำคัญในการทำนายสุริยุปราคาจะสังเกตเห็นว่าพวกเขาเกิดขึ้นในรอบหรือตามช่วงเวลาที่มากหรือน้อยกว่าปกติ อาทิตย์จะไปรอบท้องฟ้าปีละหนึ่งครั้ง; ดวงจันทร์เดือนละครั้ง ซึ่งหมายความว่าทุกเดือน 'แซง' ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ นี้เกิดขึ้นที่นิวมูนและนี้คือเมื่อสุริยคราสเกิดขึ้น แต่แน่นอนเราไม่ได้รับคราสทุกนิวมูน ทั้งนี้เป็นเพราะดว​​งจันทร์มีวงโคจรเป็นวงรี: บางครั้งมันผ่านไปอาทิตย์เมื่อมันมายังพวกมันบางครั้งด้านล่าง แต่ดวงจันทร์โคจรเป็นวงรีของมีวงจรของตัวเอง: มันจะกลับไปที่สถานที่เดียวกันจะเริ่มต้นจากทุก 18 ปีหรือดังนั้น
    ดังนั้น - ถ้าเห็นได้จากสถานที่เดียวกันบนโลก - คราสจะตามมาด้วยอีกคนหนึ่งเพียงกว่า 18 ปีต่อมา



    เด็นเป็นส่วนหนึ่งของวงกลมที่ในปี 1974 และ 1975 และแม้กระทั่งการผลิตภาพยนตร์สำหรับภาพยนตร์เกี่ยวกับเก้า
    เท่าไหร่ที่เขาได้รับอิทธิพลมาจากพวกเขาเป็นที่รู้จักแม้จะได้มีการกล่าวว่าบางส่วนของแนวความคิดของพวกเขาพบวิธีที่พวกเขาเป็นภาพยนตร์ในช่วงต้น Star Trek และคนรุ่นต่อไปและห้วงอวกาศเก้า (สิ่งที่แถม!) ชุด


    (มีตัวละครที่ชื่อว่า 'Vinod' ในพื้นที่หนึ่งเก้าตอน Deep.) อีกผู้เล่นที่สำคัญในแล็บเก้าคือดรเจมส์เจ Hurtak ที่ได้รับการแต่งตั้ง Puharich ของสองในคำสั่งโดยเก้า
    ในความเป็นจริง Hurtak ได้รับอิสระ channeling เก้าตั้งแต่ปี 1973
    Puharich และ Whitmore ทหารอังกฤษนักเขียนจวร์ต Holroyd การเขียนบัญชีของการผจญภัยของพวกเขาซึ่งปรากฏว่าในปี 1977 เป็นโหมโรงเพื่อเชื่อมโยงไปถึงเมื่อ Planet Earth (สรุป retitled สำหรับ Landing บนโลกในปกอ่อน)

    n นี้หนังสือที่พิเศษตัวตนที่แท้จริงของเก้า - และของทอม - ถูกเปิดเผยในที่สุด
    ห่างไกลจากการเป็นเพื่อนกันตัวละครที่ชื่อ avuncular แต่เขาชี้ให้เห็นทอมเป็นจริง Atum, ผู้สร้างพระเจ้าของศาสนาอียิปต์โบราณของ Heliopolis และลุงทอมกับเพื่อนแปดของเขาเป็นใครอื่นนอกจาก Ennead ใหญ่ของ Heliopolis,

    แต่แม้จะมีรายชื่อที่น่าประทับใจดังกล่าวทั้งหมดไม่ได้ดีกับ Puharich Lab เก้ายากจนขึ้นในปี 1978 หลังจากที่ชุดของเหตุการณ์ลึกลับที่ culminated ในการโจมตีลอบวางเพลิงในที่ดิน Ossining และเขาหนีไปเม็กซิโกอ้างว่าเขาถูกข่มเหงโดยซีไอเอ เขากลับไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาสองปีต่อมาและดูเหมือนจะมีการเล่นที่ไม่มีส่วนต่อไปในเก้าเรื่อง
    เขาเสียชีวิตในปี 1995 หลังจากตกบันไดในเซาท์แคโรไลนาของเขาที่บ้าน
    อย่างไรก็ตามยังคงเก้า Schlemmer และ Whitmore ไม่เพียง แต่ดำเนินการต่อภารกิจของพวกเขา แต่ดร Hurtak ได้ย้ายยัง เขาได้กลายเป็นผู้เล่นหลักในละครเรื่องพันปีแฉขณะนี้กำลังถูกเล่นออกมาที่กิซ่า แต่อาจสำคัญกว่าเขาได้จัดตั้งตัวเองเป็นอายุ guru นิวเลิศ, เดินทางรอบโลกให้การประชุมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับหนังสือของเขาจากการเปิดเผยช่องทางจากเก้า คีย์ของเอนอ็อค
    เขียนและวางในสไตล์คลาสสิกในพระคัมภีร์ไบเบิลและการมองเห็นสันทราย darkly ที่มีจำนวนมากที่มีอิทธิพล devotees.This เราพบมากกังวล




    อีกเก้าช่อง - อั​​งกฤษชื่อเจนนี่โอคอนเนอร์ - ถูกนำไปเปรี้ยวจี๊ด Esalen สถาบันในซานฟรานซิสโดยเซอร์จอห์น Whitmore
    เธอและเก้ากลายเป็นผู้มีอิทธิพลมีที่พวกเขาจัดสัมมนาและการ - ไม่น่าเชื่อ - ถูกระบุไว้จริงในพนักงานของสถ​​าบันแม้ประสบความสำเร็จในการสั่งซื้อชิงทรัพย์ของเจ้าหน้าที่การเงินและหัวหน้าของการปรับโครงสร้างของโครงสร้างการจัดการของทั้ง ..

    นี้ควรพิจารณาอย่างเราเพราะหลายคนมีอิทธิพลร่วมเก้าของการสัมมนา Esalen ได้แก่ รัสเซียที่เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมการแลกเปลี่ยนของสถ​​าบันของสหภาพโซเวียต เหล่านี้บางส่วนในภายหลังเพิ่มขึ้นเป็นสำคัญในระบอบการปกครอง Gorbachev และมีเครื่องมือในการล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์
    (Esalen สถาบันตอนนี้ทำงานสาขาสหรัฐของมูลนิธิ Gorbachev.)

    เก้าเป็นอย่างมากยังอยู่กับเรา หนึ่งในช่องทางของพวกเขาล่าสุดที่ยังอยู่ในการติดต่อกับทอมเป็นนักเขียนชาวอเมริกันเดวิดไมเออร์เอ็ม เขาเป็นผู้เขียนร่วมกับสหราชอาณาจักรเดวิดเพอร์ซี่ S ของ Tome พิเศษที่สองในสามประวัติศาสตร์ของกาแลคซีและเผ่าพันธุ์มนุษย์ตาม Myer ของผู้ติดต่อ otherwordly (ที่ชัดเจนมีความบ้าบอคอแตกยังไม่มี)
    เพอร์ซี่ - ที่รู้จักกันดีในฐานะแชมป์ของ 'ใบหน้าบนดาวอังคาร' และ 'hoaxing' จากชานอพอลโลดวงจันทร์ - อยู่ที่ส่วนใดส่วนหนึ่งเพียงครั้งเดียวของวงกลม Schlemmer

    ผู้เผยพระวจนะที่ยิ่งใหญ่ของเก้า - - ผู้ที่ได้รับการส่งเสริมความคิดนี้มาตั้งแต่เป็นเวลานานที่ผ่านมาเป็น 1,973 ท่ามกลางผู้เสนอรายใหญ่อื่น ๆ ของ 'อนุเสาวรีย์' ของดาวอังคารและการเชื่อมต่อที่ถูกกล่าวหาของพวกเขากับอียิปต์โบราณไม่มีใครอื่นนอกจากดรเจมส์ Hurtak คือ ริชาร์ด C Hoagland - คุ้นเคยกับ FT ผู้อ่านเป็นคนที่กระตือรือร้นอีกไม่เสียใจทีหลัง 'ใบหน้าของดาวอังคาร - นอกจากนี้ยังเป็นที่ชัดเจนภายใต้เก้าของการสะกดคำ เดวิดไมเออร์และดาวิดเพอร์ซี่ตามลำดับผู้อำนวยการฝ่ายอเมริกันและยุโรปจากการดำเนินงานสำหรับ Hoagland ของดาวอังคารภารกิจ ในความเป็นจริงการตีความของเขา 'อนุเสาวรีย์' ของดาวอังคารมาโดยตรงจากเก้า เกล็ดแม้ว่าเขาอาจจะปรากฏขึ้น (เพิ่มมากขึ้นในหน้าเหล่านี้ที่สักการะบูชา) แต่อิทธิพลของเขามากกว่า swathes ใหญ่ของ hungrier ผู้ลึกลับจะปฏิเสธไม่ได้
    นี้คือคนที่อยู่ผู้ชมปิติยินดีอย่างมากที่สหประชาชาติ

    แต่มันมีอยู่ในวงจรนิวอายุ channeling ที่เก้าได้อย่างแท้จริงมาเป็นของตัวเอง ในวงการอื่น ๆ วาระที่แท้จริงของพวกเขาจะไม่มีข้อสงสัยได้รับการครางยาวที่ผ่านมา แต่นี้เป็นยุคใหม่ สิ่งที่เก้าพูดจะต้องเป็นความหวานและแสงใช่ไหม?
    แต่การอ่านวัตถุประสงค์ของพระเจ้าของพวกเขา pronouncements เปิดเผย stirrings แรกของบางสิ่งบางอย่างที่น่ารังเกียจมากในพาราไดซ์

    คำของพวกเขาปรากฏตัวขึ้นในปี 1992 เป็นหนังสือที่โลกเท่านั้นจากการเลือกของเครดิตเพื่อ Schlemmer 'transceiver และแก้ไขโดยแมรี่เบนเน็ตต์ (สมาชิกเพียงครั้งเดียวของวงกลม Schlemmer ที่ยังแก้ไขได้ไมเออร์และเพอร์ซี่ของสองในสาม-) นี้ได้มีอิทธิพลประวัติการณ์มากกว่ายุคใหม่ ตามที่ Palden เจนกินส์ (บรรณาธิการของรุ่นก่อนหน้านี้ของ Planet เท่านั้น) กลุ่มใหม่มากขึ้นอายุ channeling จะ 'รู้' ว่าที่มาที่แท้จริงของภูมิปัญญาของพวกเขาคือ Nine.8 ในความเป็นจริงเรามี discerned ปริมาณสิ่งที่แคมเปญโดย เก้า - หรือสมัครพรรคพวกของพวกเขา - จะ 'ใช้เวลามากกว่า' ยุคใหม่
    มันจะเป็นความผิดพลาดที่จะประมาทที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจหรือทางการเมืองแม้กระทั่งวัฒนธรรมอันกว้างใหญ่นี้ - pickings ที่อุดมไปด้วยแน่นอน


    แต่อิทธิพลของเก้าไม่ขยายเพียงเพื่อวงการใหม่อายุ channeling Andrija Puharich เจมส์ริชาร์ด Hurtak และ Hoagland ได้ทั้งหมดแสดงปาฐกถาที่สหประชาชาติในนิวยอร์ก
    และบุคคลที่เชื่อมต่อกับเก้าเป็นที่รู้จักกันที่จะมีอิทธิพลกับรองประธานาธิบดีอัลกอร์
    แน่นอนถ้าเก้าจริงๆเป็นเทพเจ้าโบราณของอียิปต์แล้วแน่นอนว่าอาจมีเหตุการณ์สำคัญน้อยลงกว่าผลตอบแทนของพวกเขา หนึ่งอาจเป็นธรรมในการคิดว่านักการเมืองเพิ่มเติมชั้นนำที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของพวกเขาที่ดีกว่า แต่พวกเขาจริงๆ Ennead โบราณของอียิปต์?
    สามารถจะเป็นที่ที่พวกเขาได้กลับจริงเพื่อจัดเรียงพวกเราทุกคนที่ออกกระจายความรักและความตรัสรู้จากพื้นดินของพวกเขาทางศีลธรรมสูงหรือไม่

    ทอมในโลกเฉพาะในการเลือกเลือกที่คำพูดของเขาอย่างที่เขาอธิบายว่าทุกเผ่าพันธุ์ของโลกถูกเมล็ดจากพื้นที่พระเจ้า - ยกเว้นหนึ่ง, "การแข่งขันพื้นเมือง", คนผิวดำ เขาเป็นคนระมัดระวังมากที่จะผลักดันให้เราไม่ให้ปัญหานี้ออกจาก
    หลังจากที่ทุกมันไม่ใช่ความผิดของการแข่งขันสีดำที่พวกเขาไม่มีจุดประกายของพระเจ้าเหมือนที่เหลือของเรา



    แต่อิทธิพลของเก้าไม่ขยายเพียงเพื่อวงการใหม่อายุ channeling Andrija Puharich เจมส์ริชาร์ด Hurtak และ Hoagland ได้ทั้งหมดแสดงปาฐกถาที่สหประชาชาติในนิวยอร์ก
    และบุคคลที่เชื่อมต่อกับเก้าเป็นที่รู้จักกันที่จะมีอิทธิพลกับรองประธานาธิบดีอัลกอร์
    แน่นอนถ้าเก้าจริงๆเป็นเทพเจ้าโบราณของอียิปต์แล้วแน่นอนว่าอาจมีเหตุการณ์สำคัญน้อยลงกว่าผลตอบแทนของพวกเขา หนึ่งอาจเป็นธรรมในการคิดว่านักการเมืองเพิ่มเติมชั้นนำที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของพวกเขาที่ดีกว่า แต่พวกเขาจริงๆ Ennead โบราณของอียิปต์?
    สามารถจะเป็นที่ที่พวกเขาได้กลับจริงเพื่อจัดเรียงพวกเราทุกคนที่ออกกระจายความรักและความตรัสรู้จากพื้นดินของพวกเขาทางศีลธรรมสูงหรือไม่




    ทอมในโลกเฉพาะในการเลือกเลือกที่คำพูดของเขาอย่างที่เขาอธิบายว่าทุกเผ่าพันธุ์ของโลกถูกเมล็ดจากพื้นที่พระเจ้า - ยกเว้นหนึ่ง, "การแข่งขันพื้นเมือง", คนผิวดำ เขาเป็นคนระมัดระวังมากที่จะผลักดันให้เราไม่ให้ปัญหานี้ออกจาก
    หลังจากที่ทุกมันไม่ใช่ความผิดของการแข่งขันสีดำที่พวกเขาไม่มีจุดประกายของพระเจ้าเหมือนที่เหลือของเรา

    บางทีด้านรบกวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของเก้าคือความสัมพันธ์ของตนกับอาชีพของ Andrija Puharich การวิจัยล่าสุดได้พบ Puharich ที่จะมีด้านที่น่ากลัวอย่างชัดเจน ในฐานะที่เป็นแพทย์ทหารบกในปี 1950 เขาได้หลวมตัวกับซีไอเอของโครงการฉาวโฉ่ MKULTRA ควบคุมจิตใจ (ดูแผง) เขา - ร่วมกับดรเลวซีดนีย์ Gottlieb - ทดลองกับความหลากหลายของเทคนิคในการเปลี่ยนแปลงหรือทำให้เกิดกระบวนการคิดที่เกิดขึ้นจริง ... แม้จะสร้างความประทับใจของเสียงในหัว เทคนิคเหล่านี้รวมถึงการใช้ของยาเสพติด, การสะกดจิตและยิ้มแย้มแจ่มใสสัญญาณวิทยุโดยตรงในเรื่องของสมอง และอย่างมีนัยสำคัญเขาได้ร่วมในงานนี้ที่ตรงเวลาเดียวกับที่เก้าปรากฏตัวครั้งแรกของพวกเขาที่มูลนิธิตารางรอบ มูลนิธิตัวเองเป็นที่รู้จักกันในขณะนี้จะได้รับเงินทุนสนับสนุนส่วนใหญ่โดยเพนตากอนเป็นด้านหน้าสำหรับการวิจัยทางการแพทย์และ parapsychological ของมัน
    Puharich ยังคงทำงานให้กับซีไอเอในช่วง 1970S เมื่อเขานำ Uri Geller ออกจากอิสราเอล
    การใช้ Puharich ของการสะกดจิตเป็นที่น่าสนใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเก้าวงกลม ในกรณีที่ Uri Geller และบ๊อบบี้ฮอร์นเขาครั้งแรกที่สะกดจิตพวกเขาแล้วชี้ให้เห็นว่าพวกเขาอยู่ในการติดต่อกับเก้า - และแท้จริงพวกเขา!
    Ira Einhorn - บริษัท ร่วมอย่างใกล้ชิดของ Puharich ในช่วงปี 1970 - ได้รับการยืนยันกับเราว่าเขาเชื่อว่า Puharich ก็คือ "มนุษย์ปุถุชนผู้กำกับ" เก้าสื่อสาร

    หลักฐานที่เราได้รวบรวมขอเสนอแนะว่าทอมและพระเจ้าเพื่อนของเขามาไม่ได้อยู่ในดาว แต่ปิดประตูเป็นส่วนหนึ่งของการทดลองการควบคุมจิตใจของซีไอเอ และสิ่งที่เกิดขึ้นในการทดสอบที่? ขณะนี้มีหลายร้อยหลายพันสาวกบางคนในสถานที่สูงมากสามารถเก้าถือว่าประสบความสำเร็จ? แน่นอนว่าขึ้นอยู่อย่างมากกับสิ่งที่ซีไอเอมีในใจ
    ด้วยการโฆษณาชวนเชื่อของพวกเขาชนชั้นบอบบางอาจยุคใหม่ที่ไม่สม่ำเสมอเก้าควรกังวลนรกออกจากเรา


    รุ่นบันทึกย่ออย่างเต็มที่ของบทความนี้ปรากฏอยู่ในแทรนไทม์ 126

    ©จอห์นบราวน์ตีพิมพ์ / แทรนไทม์ 99





    เดี๋ยวกลับมาแก้คำแปลให้ครับ---
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กรกฎาคม 2012
  11. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    จำต้องปิดปากพวกแฟนคลับซะด้วยเพลง ---วันนี้ขอเสนอ หมวยสิงคโปร์ โอลิเวีย อึ้ง-Olivia Ong เพลง ฉันไร้รัก All out of Love ดนตรีมีกีต้าร์เล่นแบบชึ่งๆ จิ๊กโก๋ แต่เท่ เพลงต้นฉบับ เป็นของ แอร์ ซัพพลายAir Supply อ่ะ

    อัพ โหลดไทย :: ฝากรูป ฝากไฟล์ฟรี ! รองรับไฟล์ถึง 500MB :: ดาวน์โหลด allaoutoflov-plain.mp3 ::

    (มีสาวๆ ถามว่า เกิดวันเสาร์เวลา ตี 1 จะนับว่าเป็นวันเสาร์หรืออาทิตย์ดีล่ะ)

    โหราศาสตร์ นับเอาพระอาทิตย์ขึ้น จึงเป็นวันใหม่นะครับ--ฟันธง-โชะ ครับ
    -------------------------
    ยินดีครับ-ที่มีคนเข้าใจในสิ่งที่ผมสื่อ บางครั้ง ความคิดมันเกิดขึ้นแวบๆ แล้วต้องรีบเขียน ซึ่งต้องนั่งตรงนี้เท่านั้น ผมเองมีอีกเครื่องข้างล่าง มีสายเน็ตยาว 20 เมตร แต่ไม่เคยใช้เลย เพราะจะเขียนไม่ออกสักตัว ก็แปลกดีครับ หรือว่า เทพท่ามาช่วยเขียน ตอนจะทำเครื่องเสียงทีก็มาช่วยออกแบบ ปรับเสียงกัน แหม รู้ใจจังเลย ได้ยินข่าวว่า มีนักคิด นักวิทย์กล่มหนึ่ง บีบให้กระทรวงศึกษาของเกาหลี เขียนแบบเรียนว่า "ทุกๆสิ่งพระเจ้าสร้าง ไม่ต้องหาเหตุผลอื่น"
    อย่างนี้ก็ไม่ดีครับ รู้สึกไม่สบายใจ ต่อไปวิทยาศาสตร์ก็ไม่สำคัญ จะคิดจะสร้างอะไร ก็ไม่ต้องทำ เพราะทุกๆสิ่งพระเจ้าสร้างมาดีอยู่แล้ว รู้สึกว่ามีนักปราชญ์ชื่อ นิทเซ่ บอกว่า "พระเจ้าตายแล้ว"
    เพื่อให้คนหันมาพึ่งตนเองกันเสียบ้าง

    --พระพุทธองค์ให้พึ่งตนเอง ไม่ใช่พระเจ้า หรือดวงดาว หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ

    ---จริงๆแล้ว พระพุทธองค์ทรงทราบทุกอย่าง --โลกนี้ใครสร้าง เรื่องจิตวิญญาณหลุดพ้นไปรวมกับพระพรหม หรือแดนนิพพาน เป็นสิ่งเดียวกัน แต่ท่านถือว่า เมื่อบรรลุธรรมแล้ว-หลุดพ้นจากวัฏจักรเวียนตายเวียนเกิด- ทุกคนก็ต้องทราบความจริงอยู่ดี ถ้าแปลบาลีดีๆ ความรู้ที่ผ่านญาณมาสู่จิตทิพย์ของท่าน 49วันและคืนนะครับ ไม่ใช่7วัน7คืน

    -การที่พระพุทธองค์ท่านไม่สอนตามแนวทางพราหมณ์ ก็เหมือนกับล้อเกวียน ถ้าไปตามร่องเดิม ไม่นานก็จะลงไปซ้ำรอยเดิม ทุกๆคนจะอ้อนวอน บูชาเทพเพื่อความพ้นทุกข์ โดยไม่คิดจะทำอะไรเพื่อช่วยตนเองเลย
    - การบรรลุธรรมนั้นทำแทนกันไม่ได้ จะประสิทธิ์ประสาทให้มีก็ไม่ได้ ถ้าเป็นยุคพระศรีอารย์ ที่บรรลุธรรมได้ง่าย ก็อาจเป็นเพราะการจัดระเบียบสังคมให้ร่มเย็นเป็นสุข ผู้คนไม่อดอยาก มีความพร้อมที่จะบรรลุธรรมอย่างไม่ยากเย็น แค่สะกิดใจนิดนึงก็ถึงธรรมแล้วครับ อย่างกับได้ฟังหญิงสาวร้องเพลงว่า "ถ้าเธอไม่มีใจให้ฉัน ก็จบกัน" ก็บรรลุเลยครับ เห็นๆ

    --บางคนเป็นคริสต์ เป็นอิสลาม พุทธ ทุกคนก็อยากจะตรวจสอบศาสนาของตนว่าเป็นเหตุเป็นผลหรือไม่ ตามหลักวิทยาศาสตร์ไหม ซึ่งอาจจะมีการบันทึกมาผิดเพี้ยนไป (รู้สึกว่า ภรรยาผมบอกว่า พระเจ้าของหลายศาสนา เป็นภาคหนึ่งของพระศิวะ และชอบให้คนสวดสรรเสริญท่าน-เห็นอ้วนๆ ทะลึ่งๆ แบบนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องเทพ จะบ้าตาย))

    - อย่างในภูมิภาคทะเลทราย ผู้คนยังชีวิตด้วยการฆ่า แพะ แกะที่เลี้ยงไว้ คือต้องเลือกระหว่างการสงสารแพะ กับชีวิตตนและลูกเมีย คำสอนจึงเป็นไปอย่างนั้น เพื่อตัดสินใจได้ง่ายๆ

    --ซึ่งจริงๆแล้วผมสนใจพุทธศาสนา เพราะ--หนึ่ง ก็อยากรู้อยู่เหมือนกัน สอง ต้องการจับผิดพระพุทธองค์-- สาม อยากจะเอาชนะเพื่อน คนที่ชื่อปรีชา-- เค้าถอดจิตได้ตั้งแต่อายุ 15 แต่เขาเป็นคนเชื้อแขก ซึ่งเป็นทั้งอิสลามและฮินดู เราก็เลยอยากจะเอาชนะเขาครับ

    --แต่ผมก็ยอมแพ้พระพุทธองค์ครับ เท่าที่นึกได้ก็มี
    1. คำสอนมีหลักของเหตุผล เรียกว่าเป็นตรรกกะศาสตร์ ทดลองได้ ทดสอบได้ พิสูจน์ได้ทุกขั้นตอน
    2. มีการจัดจำแนกเป็นหมวดหมู่ ทั้งๆที่ในพระไตรปิฏกเหมือนข้อมูล แปดหมื่นสี่พันเรื่อง เรียกว่าเราสามรถมองเห็นสภาพสังคม การปกครอง ชีวิตความเป็นอยู่ในยุคนั้นได้ และเมือมีปัญญา ท่านก็แก้ไข และสรุปจนจบเรื่องนั้นๆ
    3. เป็นคู่มือของมนุษย์ได้ หลักการควรปฏิบัติของสามร ภรรยา บุตร นายจ้างลูกจ้าง ผู้ปกครอง
    4. เต็มไปด้วยสุภาษิตและคำสอน

    --แม้ว่าพระพุทธองคืจะเรียนมาทางหลักการของฮินดู แต่คำสอนของพระองค์แตกต่างออกมาอย่างเห็นได้ชัดเจน แม้แค่ศัพท์ทางศาสนา ก็ไม่เหมือนกัน (ถึงแม้จะมีนักบวชฮินดูที่แต่งกายคล้ายกันก็ตาม)

    -เรียกว่าท่านปฎิวัติสังคมใหม่ สร้างกลุ่มพลังบริสุทธิ์ของคนที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง หรือทางโลกใดๆ และต้องยอมรับว่า คนกว่าครึ่งค่อนโลก ตัดสินใจเลือกพระพุทธศาสนา มาเป็นเส้นทางการดำเนินชีวิต ฝรั่งบอกว่า พระองค์ปฏิวัติชีวิตจิตใจตนเอง และช่วยปฏิวัติชีวิตให้กับผู้อื่น ความสุขสงบของโลกที่มีอยู่ได้ เพราะพุทธศาสนานี่เอง และเป็นกุญแจสำคัญที่ชาวโลกคิดว่า เมืองไทยนี้ดี คนไทยเป็นคนดี และ เหมือนว่าคนไทยได้ถือรหัสลับที่จะช่วยให้โลกรอดพ้นวิกฤติ และไร้สงครามตลอดไป

    --เหล่านี้ดึงดูดคนเป็นล้านๆ ให้มาเมืองไทย โดยที่พวกเขาเองก็ไม่รู้ตัวเหมือนกัน เหมือนพวกแมลงที่ต้องการหาแสงสว่าง

    --สถานีบีบีซี ค้นคว่าไปจน ได้อะไรบางอย่าง แล้วออกมาบอกว่า พระเยซู และเพื่อนนักบวชอีกสองคน คือนักบวชในพุทธศาสนา-โอ ความจริงนั้นเป็นสิ่งที่เรายากจะคาดคิด หรือจินตนาการไปถึงได้

    --ลามะหนุ่มที่มีคนฮือฮาไปทั่วโลก แท้จริงท่านเกิดในเวลาเดียวกับพุทธองค์หรือไม่ ในยูทอ้วเคยมีวิเคราะห์ไว้ แต่ถุกลบไปแล้ว ท่าบอกว่า การเอาชนะความหิวนั้นยากลำบากมาก ปัจจุบัน ท่านได้มาพิจารณาหลัก-แก่นพุทธศาสน์ คือ ปฏิจจสมุปบาทแล้วครับ--ถ้ามีข่าวอะไรดีๆ ก็คือท่านได้บรรลุธรรมเท่านั้นครับ หากเดินเส้นทางสายนี้ ต้องสำเร็จแน่ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2012
  12. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ขอโทษครับที่หายไป พอดีข้อมูลเยอะเกิน ต้องลบออกจากฮารดดิสก์น่ะครับ

    ---จากที่เราพูดถึงพระพรหมผู้สร้าง และทางวิทยาศาสตร์ก็เชื่่อว่า มีสิ่งหนึ่ง เป็นพลังงานสร้างสรรที่มีความรู้ความสามารถมหาศาล ชื่อว่า จิตจักรวาล เป็นผู้สร้างและจัดระบบดวงดาวต่างๆ ด้วยระบบระเบียบทางคณิตศาสตร์ และรูปแบบระบบพฤติกรรมของอนุภาคต่างๆทางฟิสิกส์--- จากอะตอม จนขึ้นมาถึงระดับเซล เป็น คน พืช สัตว์ ซึ่งก็มีระบบต่างๆในร่างกายอยู่ดี

    ---ซึ่งจากปรัชญาเซ็น-เต๋า ยังคงจำได้ไหมว่า "สรรพสิ่งรวมเป็นหนึ่ง แต่หนึ่งนั้นมิใช่หนึ่ง หนึ่งนั้นคืออะไร" ถ้าทางเต๋า เต๋าก็คือชื่อสมมุมติเรียก "สิ่งหนึ่ง" ทางเซ็น ก็เรียกว่า เป็นเซ็น --ธยาน-ญาณ- หรือจิตรู้แจ้ง- จิตเดิมแท้ เรียกง่ายๆว่า ปรัชญา อทไวตะ (อะ แปลว่า ไม่ใช่ ทไวตะแปลว่าสอง)พูดง่ายๆก็คือโลกประกอบขึ้นจากพลังหนึ่งเดียว--Oneness

    --และก็มีปราชญ์บางพวก คิดว่าโลกนี้ต้องประกอบด้วยสิ่งคู่ คือ เราตื่นมาก็พบ ชาย-หญิง พระอาทิพย์--พระจันทร์ เย็น--ร้อน อ่อน--แข็ง สั้น-ยาว หนาว-ร้อน แสดงว่าโลกนี้ต้องเกิดจ่างสิ่งคู่ เรียกว่า ปรัชญาทไวตะ (อย่างภาษาบางชาติ เช่นฝรั่งเศส ภูเขา ทะเล ยังมีเพศชายหญิงเลย)ของ

    ---จริงๆแล้วมันจะเป็นคู่หรือเดี่ยวกันแน่ ท่าน ไส บาบา บอกว่า เดิมทีพลังงานบริสุทธิ์จากจิตจักรวาล หรือพระเจ้า-จะเป็นรูปทรงกลม มีความสมบูรณ์ในตัวเอง แต่ต่อมาจิตจักรวาลอยากจะสร้างสรรสิ่งต่างๆ จึงเปลี่ยนตัวเอง ให้เป็นทรงรี เหมือนลูกรักบี้ หรือผลสมอ แล้วก็เกิดเป็นปลายสองขั้ว สิ่งต่างๆหรือสรรพสิ่งในโลก ก็เกิดขึ้นจากพลังที่ไหลเวียนระหว่างสองขั้วนี้

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2012
  13. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ขอโทษด้วยครับ ข้อมูลแน่นเกินฮาร์ดดิสก์ ป้อนข้อความแล้วหาย ฝนก็ตก ทำให้ปวดเมื่อยคล้ายจะเป็นหวัด ที่งอกงามคือต้นไม้ครับ

    --ช่วงนี้่กำลังบ้ามีด ความจริงดาบก็มีหลายเล่ม แต่เป็นของเทพ ค้นบนหิ้งเทพ
    มีตรีศูลทองเหลืองหนักมาก มีดหมอทรงอีเหน็บเล็กๆบางๆหรือเรียกว่า เหน็บเหนือ
    ถ้าใบกว้างกว่านี้จะเป็นเหน็บกลาง คือ มีดเหน็บภาคกลาง และมีดทรงนี้เป็นภูมิปัญญาไทยครับ

    --ความบ้ามีด บ้าโลหะนี้ เช่น ผมชอบลูบคลำคืมที่เนื้อเหล็กดีๆ แม้แต่มีดปอกผลไม้ยังชอบมันเลยครับ
    --เจอมีดอีกอัน เป็นของมนๆ ในมีดกลมคล้ายเต่าหนึ่งตัว มีลวดลายคล้ายพระ ด้ามเป็นกระดูกกวาง เป็นของที่สั่งทำ

    -มีดอันแรกแข็งมาก เอาตะไบจีนถูจนฟันหายไปหมดเลย ก็สะอาดมานิดนึง แสดงว่าเนื้อเหล็กแข็งมากๆ และคมมาก ดีที่ยังไม่โดนบาดสักที ชั้นล่างมีมีดเหน็บอีกอันใช้ฟันไม้ อันนี้ก็ฟันไม้ได้ แม้ว่ายาวประมาณคืบ แต่สันมันหนามากครับ

    --จริงๆแล้ว มีแผ่นเหล็ก หรือตะไบ เราก็เอามาทำมีดได้ ใช้เหล็กพื้นๆ หรือเศษเหล็กก็ทำได้ มันขึ้นอยู่กับการชุบให้แข็ง คือเผาไฟแล้วจุ่มในน้ำมัน ให้เย็นตัวเร็วๆ ก็จะเกิดแรงเค้นในเนื้อเหล็กมันจะแข็ง -Hardening และเช่นกัน ถ้าเผาแล้วให้เย็นช้าๆ เหล็กก็จะเกิดความอ่อนตัว-annealing การทำมีดหรือดาบ ต้องมีความอ่อนตัวที่สัน แต่ตรงคมต้องชุบแข็ง ดังนั้นจึงมีวิธีพอกโคลนตรงสัน ดาบจะเป็นลายตรงความคม เรียกว่า ฮาม่อน

    --ในโลกนี้มีดาบวิเศษสามชนิด คือดาบน้ำพี้จากเหล็กน้ำพี้ สอง ดาบซามูไร (ดาบคาตาน่า)เหล็กสูตรพิเศษ เดิมคงเก็บมาจากตามลำธารกระมัง สาม--ดาบอาหรับ หรือดาบดามัสกัส มาจากแร่เหล็กในทะเลทราย

    ปัจจุบันสวีเดนทำเหล็กนี้ขาย กก.ละ 9 พันบาท

    --ปัจจุบัน วท.สามรถสังเคราะห์เหล็กน้ำพี้ได้ ตีแล้วจะเป็นลายคล้ายเนื้อไม้ และฝรั่งก็สังเคราะห์เหล็กดามัสกัสได้เช่นกัน สแตนเลส ก็นิยมมาทำมีดกัน แต่ต้องเป็นชนิดเนื้อแน่น 440อะตอมอะไรแบบนั้น มีดที่แข็งแกร่งมาก ทำจาก ตะไบ ตลับลูกปืน เครื่องมือที่ผสมโครเมี่ยม วานาเดี้ยม แต่ที่ดีกว่านี้ ก็เป็นพวกมีดผ่าตัด ดีกว่านั้นอีก ก็ใช้คมของหินแก้ว หรือหินภูเขาไฟ

    --มีใครเป็นผู้หญิงแล้วหลงไหลมีด เครื่องยนกลไก อิเลคทรอนิกส์ เหมือนผู้ชายมีไหมครับ
    --โพสหน้าจะเล่าเรื่อง มดมีตาทิพย์ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2012
  14. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    อาจารย์ เส็ง ปุสโส ท่านเป็นอาจารย์วิปัสสนา ท่านว่า มีน้ำตาลยู่ที่ไหนมดก็ขึ้น แต่ถ้าเอาไปไว้ที่ไหนก็ตาม ถ้าเอาน้ำหล่อไว้ มดจะไม่ไปไกล้กราย จะไม่ไปออตามขอบๆของน้ำ แสดงว่า มันมองเห็นของที่อยู่ไกลๆ หรือมดมีตาทิพย์น่ะเองครับ---ไม่ต้องเขียนข้างกระปุกน้ำตาลว่า "เกลือ" เพราะมดมันอ่านภาษาไทยไม่ออกครับ
    -----การนำปัญญาไปใช้ในเรื่องต่างๆ มีครั้งหนึ่งดราพี่น้อง เดินทางไปช่วยโรงงานทำแผ่นยาง ที่ระยอง ซึ่งจะมีน้ำเสียที่เหม็นมากๆ เพราะน้ำยางบูดเน่า เราก็ไปฟัง และดูระบบทั้งหมด (ลูกชายเจ้าของมาเป็นลูกศิษย์ของพี่สาว) โรงงานนนี้ทำก้อนยางส่งเมืองนอกเป็นส่วนใหญ่ แล้วเราก้ไปทานข้าวกัน ก็คุยกันว่า จะหาสารที่ทำให้ตะกอน(สารแขวนลอย ยางไม้)ตกตะกอนไว ต้องซื้อสารเฟอรัส
    มาเป็นถังๆ เราก็ถามพี่สาวว่า สนิมเหล็กหรือดินสีแดงๆ เป็นเฟอริค หรือ เฟอรัส พี่สาวบอกว่าคือ เฟอรัส "งั้นก็น้ำละลายดินแดงนี่แหละ ไม่ต้องไปซื้อแล้ว--- อาทิตย์ต่อมา เราก็เอาน้ำเสียมาทดลองกับน้ำดินแดง ปรากฏว่า ได้ผลดีครับ---นี่แหละ หากพื้นความรู้ดี มีความคิดใคร่ครวญบ่อย สติปัญญาก้เกิดขึ้นไม่ต้องไปหาที่ไหน จริงๆแล้วผิดหวังเล็กน้อยที่เจาไม่รับเราเป็นที่ปรึกษาน่ะครับ

    --ข่าวน่ากลัว พายุไต้ฝุ่นลูกใหม่ เตรียมเข้าเวียดนาม ฮ่องกง--ตอนนี้เข้าถึงปักกิ่งแล้ว สะพานขาดเลยครับ
    --ข่าวดี หมดอีที สุดแม่น มาไทย บอกปีนี้น้ำไม่ท่วมแน่ หมอดูเป็นคนตัวเตี้ยๆ รู้สึกว่าเป็นผู้หญิงนะครับ<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2012
  15. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    เนื่องจากขณะนี้กำลังบ้าเรื่องมีดทุกชนิด นั่งดูถึงเช้าทุกคืน มีวารสาร เบลด ของฝรั่ง ดีมากเลย--ลองนึกถึงมีด มีคู่กับคนเรามาตั้งแต่ยุคโบราร ปัจจุบันอยู่บนโต๊ะอาหารของฝรั่งอยู่เลย เพราะฝรนั่งชอบทานเนื้อสัตว์ เค้ก ขนมปัง เนย ก็ต้องใช้มีดหั่นทั้งนั้น
    --คนขับรถควนมีมีที่ใช้ตัดเข็มขัดนิรภัยได้ ทุบกระจกได้ รวมทั้งมีไฟฉายในตัวด้วยครับ

    -----
    --สิ่งที่รัฐบาลอเมริกันปกปิดมีสองข้อ 1 การมีอยู่ของมนุษย์ต่างดาว
    --สอง การมีอยู่ของภืภพใต้โลก และมนุษย์ใต้โลก --ดินแดนนี้เรียกว่า อะการ์ธา แชงกริล่า --ชัมบัลล่า ถ้าไทยเรียก คงจะเรียกดินแดนลับแล หรือ ดินแดนใต้โลกครับ

     
  16. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    จิตแพทย์บอกสังคมไทยกำลังมีปัญหา ในเมื่อคนในครอบครัวเริ่มนิยมแก้ปัญหาด้วยความรุนแรงถึงกับ ใช้การ "ฆ่า" กัน เป็นคำตอบสุดท้าย

    [​IMG]
    กล้าขอ กล้าให้ !? นางแบบสาวใจเด็ดควัก กกน.ให้แฟนคลับ

    อึ้งทั้งงาน เมื่อนางแบบสาวยอมถอดชุดชั้นในมอบเป็นของขวัญพิเศษให้กับแฟนคลับหนุ่มของเธอในงานเปิดตัวอัลบั้มรวมภาพถ่ายเล่มใหม่
    อ่านเพิ่ม

    กล้าขอ กล้าให้ !? นางแบบสาวใจเด็ดควัก กกน.ให้แฟนคลับ

    [​IMG]ภาพ © ent.ifeng.com
    อึ้งทั้งงาน เมื่อนางแบบสาวยอมถอดชุดชั้นในมอบเป็นของขวัญพิเศษให้กับแฟนคลับหนุ่มของเธอในงานเปิดตัวอัลบั้มรวมภาพถ่ายเล่มใหม่
    "กลอเรีย หวัง" นางแบบสาววัย 31 ปี มอบของขวัญสุดพิเศษให้กับแฟนคลับ โดยการยอมถอดกางเกงในที่เธอใส่อยู่ยื่นให้กับแฟนคลับหนุ่มคนหนึ่งในงานเปิด ตัวอัลบั้มรวมภาพถ่ายเล่มใหม่ พร้อมกับพูดทั้งรอยยิ้มว่า "กางเกงในที่ให้ไปยังมีไออุ่นจากร่างกายของเธอติดอยู่เลย" กลอเรีย หวัง เริ่มโด่งดังและเป็นที่รู้จักจากข่าวที่เธอเป็นหนึ่งในสาวๆของดาราหนุ่มจอม อื้อฉาว เฉินกว้านซี
    แม้ว่าข่าวสุดอื้อฉาวของเฉินกว้านซี เมื่อปี 2008 จะไม่ปรากฏรูปภาพของเธอ แต่นางแบบสาวคนนี้ก็เป็นที่รู้จักกับการให้สัมภาษณ์ถึง เฉินกว้านซี อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งหลายคนคิดว่าเธอพยายามเกาะข่าวของอาเฉินเพื่อผลักดันให้ตัวเองมีชื่อ เสียงและเธอก็ทำสำเร็จด้วยสิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2012
  17. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ดาบซามูไร ตำนานของอาวุธสังหาร และงานศิลปะ

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD height="100%" vAlign=top width="85%">ทุเรียนแดง" (red durian)

    (ชื่อวิทยาศาสตร์ของมันคือDurio gravolens )


    เป็นทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองของรัฐSabah ประเทศมาเลเซีย

    (เห็นเค้าว่าพบที่นี่ที่เดียวในโลก)

    รัฐนี้อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะบอเนียว

    กลิ่นไม่รุนแรงเหมือนทุเรียนทั่วไป

    </TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%"><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=smalltext width="100%" colSpan=2><HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">[​IMG]
    [​IMG] 519870.jpg (27.1 KB, 425x341 - ดู 1737 ครั้ง.)
    [​IMG]
    [​IMG] 519871.jpg (36.38 KB, 400x300 - ดู 376 ครั้ง.)
    [​IMG]
    [​IMG] 519872.jpg (49.48 KB, 600x435 - ดู 371 ครั้ง.)
    [​IMG]
    [​IMG] 519873.jpg (215.06 KB, 602x452 - ดู 372 ครั้ง.)
    [​IMG]
    [​IMG] 519874.jpg (57.23 KB, 3

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2012
  18. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    [​IMG] sailom ァ



    • Member
    • [​IMG][​IMG]
    • [​IMG]
    • กระทู้: 186
    • I Keep None for Myself.

    [​IMG]
    "หมวยจีนสวยนำหน้า" ปั่นจักรยานรณรงค์ลดมลภาวะ

    « เมื่อ: ตุลาคม 16, 2011, 10:47:16 AM »


    [​IMG]

    เอเอฟพี - ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าปักกิ่งติดเมืองมลพิษหนาแน่นเป็นอันดับ 10 ของโลก และมีข่าวมลพิษ
    ตามมาอีกมากมาย จนทำให้หลายคนเชื่อว่า ไม่นานนี้แดนมังกรอันรุ่งเรืองคงจมกองมลพิษเป็นแน่

    แต่... ก็ยังมีกลุ่มนักปั่นจักรยานชาวจีน นำโดยสาวหมวยรุ่นใหม่ไฟแรง ร่วมกันปั่นจักรยานรณรงค์เรียก
    ร้องให้ผู้ใช้รถใช้ถนน ลดการใช้พาหนะเครื่องยนต์ที่พ่นควันพิษ ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 23 ก.ย.
    2554 ที่ผ่านมา

    กิจกรรมดี ๆ เช่นนี้เกิดในช่วงเส้นทางเมืองเจิ้งโจว ในมณฑลเหอหนาน

    ขณะนี้ยอดขายรถยนต์ในจีนกำลังพุ่งพรวด ส่งผลต่อปัญหาจราจรติดขัด ควันรถทำอันตรายสุขภาพ
    และสิ่งแวดล้อม

    สมาคมจักรยานจีน เผยว่า ยอดขายจักรยานในปี 2553 ภายในจีนอยู่ที่ 816 ล้านคัน ซึ่งหากประ
    ชาชนหันมาใช้จักรยานแทนรถยนต์ ก็จะช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมได้ส่วนหนึ่ง “คนจีนต้องช่วยกันคนละ
    ไม้คนละมือ”

    ชมภาพปั่นจักรยานลดปัญหามลพิษ (ภาพเอเอฟพี)

    [​IMG]


    [​IMG] บันทึกการเข้า
    [​IMG]

    อย่าปล่อยให้ปัจจุบัน กลายเป็น ...อดีต ที่แก้ไขไม่ได้
    อย่าปล่อยให้ปัจจุบัน กลายเป็น ... อนาคตที่ไร้ทางเลือก




    [​IMG] เรียวมะจัง



    • อ้วนดำอ้วนดำ
    • .577 Nitro Express 3"
    • [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    • [​IMG]
    • กระทู้: 39,444
    • เพศ: [​IMG]
    • สิ่งที่ทำให้คนเราสุขหรือทุกข์..คือใจของตัวเราเอง..






     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2012
  19. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    โอ้โห ชาวจีนสมัยใหม่นี่ไอเดียบรรเจิด ทำให้การลดมลพิษ ประหยัดพลังงาน ที่เป็นเรื่องน่าเบื่อ กลายเป็น เป็นที่น่าชื่นชม--ทันสมัยอินเทร็นด์ไปได้ง่ายๆ--อย่างนี้เรียกว่า "แผนหญิงงาม หรือ"แผนพรี๊ตตี้พุ่งชน"ครับ
    ------------------------------------
    จับผิด "คนอวดผี" ต้มคนดูหรือเปล่า?

    [​IMG]ภาพ © พลังจิต
    โอละพ่อ ฉาวอีกระลอก เมื่อชาวเน็ตรุมจับผิดรายการ "คนอวดผี" ในช่วงล่าท้าผี ว่ากำลังต้มคนดูหรือเปล่า? เพราะสถานที่ที่ใช้ถ่ายทำเหมือนจะซ้ำกัน แค่เปลี่ยนเนื้อเรื่องใหม่เท่านั้น
    สังคมเน็ตออกมาตั้งข้อสังเกตุแฉข้อมูลรายการผีชื่อดัง รายการคนอวดผี ในช่วงล่าท้าผี โดยได้รวบรวมคลิปรายการช่วงที่ออกมาอากาศมาเปรียบเทียบกันอย่างชัดเจน พร้อมตั้งข้อสังเกตุว่าสถานที่ที่ใช้ถ่ายทำเหมือนจะซ้ำกัน เพียงแค่เปลี่ยนชื่อตอนเท่านั้น เนื่องจากมีลักษณะคล้ายกันหลายที่ อาทิ คลิปช่วงล่าท้าผีออกอากาศในวันที่ 30 พฤษภาคม 2555 เป็นเรื่องเกี่ยวกับบ้านร้างของสองตายายที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นเข้าไปฆ่าชิง ทรัพย์ และคลิปรายการช่วงล่าท้าผีออกอากาศในวันที่ 6 มิถุนายน 2555 ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับบ้านร้างของสองตายายที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นเข้าไปฆ่าชิง ทรัพย์ และคลิปรายการช่วงล่าท้าผีที่ออกอากาศในวันที่ 5ตุลาคม 2554 เป็นเรื่องเกี่ยวกับบ้านร้างของสองสามีภรรยาที่ฆ่ารัดคอภรรยาแล้วฆ่าตัวเอง ตาม
    อย่างไรก็ตามทางรายการ คนอวดผี ยังไม่ได้ออกมาให้ข่าวเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด
    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    [​IMG]
    คลิปร้อน! เหยื่อสาวไร้ทางสู้ โดนชายหนุุ่มกว่า 30 คนรุม

    คลิ ปดังกล่าวถูกบันทึกโดยตากล้องสมัครเล่นที่เห็นเหตุการณ์ เป็นเหตุการณ์ที่ชายหนุ่มในวัยฉกรรจ์กว่า 30 คน ได้รุมทำร้ายหญิงสาวรายหนึ่งในย่านบันเทิงของอินเดีย

    คลิปร้อน! เหยื่อสาวไร้ทางสู้ โดนชายหนุุ่มกว่า 30 คนรุม

    [​IMG]ภาพ © ข่าวสุดออนไลน์
    คลิปดังกล่าวถูกบันทึกโดยตากล้องสมัครเล่นที่เห็นเหตุการณ์ เป็นเหตุการณ์ที่ชายหนุ่มในวัยฉกรรจ์กว่า 30 คน ได้รุมทำร้ายหญิงสาวรายหนึ่งในย่านบันเทิงของอินเดีย
    เกิดเหตุการณ์รุนแรงในอินเดีย เมื่อชายหนุ่มกลุ่มใหญ่จำนวน 20-30 คน ได้เข้ารุมทำร้ายร่างกายหญิงสาวที่เมืองกูวาฮาติ รัฐอัสสัม หลังจากที่เธอเพิ่งเดินออกมาจากแหล่งบันเทิงย่านใจกลางเมืองของอินเดีย เธอถูกรุมกระชากตัวอย่างรุนแรง บางคนใช้บุหรี่จี้ตัว พยายามจับเธอทุ่มลงพื้น และบางคนได้เข้าลวนลามโดนการจับหน้าอกและพยายามถอดเสื้อเหยื่อสาวในคลิป กว่าเหตุการณ์จะสงบเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานกว่า 45 นาที จึงสามารถระงับเหตุการณ์วุ่นวายนี้ได้
    ส่วนสาเหตุการทำร้ายร่างกายเด็กสาวในครั้งนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามตัวตัวบุคคลที่อยู่ในคลิปเพื่อมาสวบสวน โดยกำหนดผู้ต้องหาเอาไว้ทั้งหมด 13 คน
    --------------------------------------------------------------------------------


    ปูหน้าสะบัด!! โดนตบจังๆ.. NOAA ของสหรัฐฯ สรุปผลวิจัยน้ำท่วมไทยเพราะนโยบายรัฐผิดพลาด ไม่ใช่ภัยธรรมชาติ ชี้ชัดปริมาณน้ำไม่ได้มากจนผิดปกติ
    <TABLE style="BACKGROUND: white" class=t_table width=500><TBODY><TR><TD width=500></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE style="BACKGROUND: white" class=t_table width=500><TBODY><TR><TD>"เอแบคโพลล์"เผยเสียงปชช.กว่าร้อยละ 61 ยอมรับผลตัดสินศาลรธน.ในปมแก้รธน. พร้อมเรียกร้องให้ยุติแบ่งสี และหันมาสร้างความปรองดองได้แล้ว แถมหนุน"ย</TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD>เอแบคโพลล์เผยเสียงปชช.กว่าร้อยละ61ยอมรับผลตัดสินศาลรธน.ในปมแก้รธน.พร้อมเรียกร้องให้ยุติแบ่งสีและหันมาสร้างความปรองดองได้แล้วแถมหนุนยิ่งลักษณ์ให้ทำงานต่อด้านผอ.เอแบคโพลล์แนะนายกฯใช้โอกาสนี้นำร่องปฎิรูปการเม… </TD></TR>[tr]---------------------------------</TBODY></TABLE><TABLE style="BACKGROUND: white" class=t_table width=500><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD colSpan=2><TABLE style="BACKGROUND: white" class=t_table width=500><TBODY><TR><TD>ซัมซุงเผย แอปเปิลส่งจดหมายเตือนร้านมือถือให้หยุดขาย Galaxy Nexus/Tab</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE style="BACKGROUND: white" class=t_table width=500>[/tr]จากกรณีแอปเปิลขอให้ศาลสั่งห้ามขาย Galaxy Tab 10.1 และ Galaxy Nexus ในสหรัฐ ซึ่งภายหลังซัมซุงก็ยื่นอุทธรณ์และศาลก็ยกเลิกคำสั่งห้ามขายเป็นที่เรียบร้อย เว็บไซต์ FOSS Patents ค้นพ บว่าในเอกสารคำร้องของซัมซุงมีหลักฐานแนบมาเป… </TBODY><TBODY></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2012
  20. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ----เชื่อหรือไม่ว่า มีดเดินป่าสุดสวยคลาสสิก เป็นฝีมือจากผู้หญิงกลุ่มแม่บ้านทหารในค่ายพระราม6 เพชรบุรี

    --เชื่อหรือไม่ว่า อดีตช่างทำปืนเถื่อนแถวอุทัยธานี ทำมีดขายราคาหลักพัน ถึงราคาหลักแสน โดยใช้เหล็กคุณภาพสูงจากสวีเดน สามารถใช้มีดแทงทะลุแผ่นเหล็กได้ ตีออกมาจะเป็นลวดลายสวยคล้ายเนื้อไม้ เรียกว่า เหล็กดามัสคัส-Damucus Iron

    --สุดยอดนักรบ ปางลิงม่า ฮัสสัน แห่งเผ่าโมโร ฟิลิปปินส์ ใช้กริชสู้กับกองทัพทหารอเมริกัน ปรากฏว่า ต้องใช้กระสุน 33 นัดจึงสยบเขาลงได้ ตั้งแต่นั้นมา ทางกองทัพจึงออกแบบปืน 0.45 มม.ซึ่งลูกใหญ่กว่า ให้แรงปะทะที่สูงกว่า (เอาเปรียบนักรบโบราณ)

    5.The Moros c1900

    แค่คนไทยทำมีดคนเดียว ยังมีสวยๆขนาดนี้ เจ้าอื่นๆก็ไม่แพ้กันขอบอก ร้านนี้ทำส่งลูกค้าแถวนอร์เวย์และอื่นๆ คือร้านคุณ เปี๊ยก โบวี่ เชียงใหม่ครับ มีหลายคนที่ดำเนินอาชีพทางนี้ เป็นเด็กวัยรุ่น 18-19 ก็มี หากินทางนี้ไม่ตันหรอกครับ มีหลายๆคนที่สะสมมีดเป็นงานอดิเรกครับ ยิ่งชาวต่างประเทศนี้ชอบมากๆ เงินถึง และตาถึง
    http://www.konrakmeed.com/webboard/upload/lofiversion/index.php?t665.html

    จะพาไปดูมีดอรัญญิก ก็เที่ยวตลาดน้ำอยุธยาซะก่อน

    http://www.oknation.net/blog/print.php?id=594495
    มีมีดสวบงาม มีดของฝาก ให้ของขวัญกันตอนคริสมาส เช่นด้ามเป็นเขากวาง หอยมุก ปะการัง ใบมีดสีรู้ง สีแมลงทับ สวยสุดๆ ยิ่งมีไฮเทค ชุบไททาเนียม(โลหะที่แข็งมาก) ทำให้มีความคม และแข็งแกร่งมากขึ้น คนอินเดีย คนจขีน เดี๋ยวนี้ก็รวยมากขึ้นแล้ว ชาวนาจีนมีตังเที่ยวรอบโลกได้

    --มีดพับเล็กๆ ของช่างแขก หรือเจ้าอื่น ราคาสองหมื่น ถึง 35,000 บาท คนซื้อบินมาจากเมืองนอกก็มี ลองดูดาบอรัญญิก ขนาดซามูไรยาว ราคาเพียง 3-400 บาทเอง
    --มีดพับเล็กๆ ของนอกราคาประมาณ 4-9 พันบาท ของไทยทำ ทำตามหลักวิชาและสวย ราคาสองพันกว่าบาท ยิ่งใช้เหล็กแพงๆ เครื่องมือธรรมดาไม่สามรถตัดมันได้ ดอกสว่านเจาะไม่เข้า ต้องใช้หัวที่ชุบไททาเนี่ยมครับ

    http://gungold.com/forum/index.php?topic=5234.0

    - ยิ่งค้นคว้าก้ยิ่งชอบมีดขึ้นทุกที วันนี้ก็นำมาลองใช้ หลังจากไปค้นพบว่าบ้านนี้มีมีดใช้งานราว เกือี๊สามสิบเล่ม และได้ขัดสนิมแล้ว คืนก่อนก้ดูวารสารของฝรั่ง ชื่นชมความสวยของมันจน ถึงตีห้า ประกอบกับเข้าเว็บนี้ไม่ได้ด้วย แหะๆ

    --คนโบราณ ตั้งแต่ไม่มีเหล็กก็ใช้มีดหิน ขวานหิน โดยกะเทาะจนมันมีคม มีดที่เป็นพวกกระเบื้องเซรามิคก็มี อุกาบาตก็มำมีดได้ คราวนี้คนก็เลยใช้ช่วยตัดอาหารพวกเนื้อให้เป็นชิ้นเล็กๆ ต่อมาก็ใช้มีดในการต่อสู้ ถึงขั้นรบ และทำสงครามกัน การพัฒนามีดดาบก็เป็นไปอย่างกว้างขวาง แต่เห็นรูปทรงก็รู้ว่าของชาตใด เช่น ดาบจีน กระบี่จีน ดาบยุโรป ดาบดามัสกัส ดาบไทย-พม่า ดาบซามูไรมีหลายแบบ ของนินจาก็ไปอีกแบบ
    --มีดไทยเก่งที่สุดทำได้หลายๆอย่างมากกว่ามีดชาติอื่น คือ อีเหน็บ ทำกับข้าว เหลาไม้ ฟันไม้


    --ที่บ้านนี้มีมีดที่ข้างหม้อหุงข้าว ใช้แกะถุงอาหาร ตัดซองมาม่า ซองลูกอมของภรรยา(เด็กน้อยบ้าน) เป็นมีดธรรมดา แต่ด้ามเป็นไม้อย่างดี ผมซื้อมีดที่ชายแดนจีนมา 2 หยวนเอง 10บาทครับ เป็นแสตนเลส แหลมเป๊๊ยบ
    --อาชีพต่างๆ นักดำน้ำ นาวิกโยธิน คอมมานโด แรมโบ้ นักปีนเขา มีดอยู่รอด(เล่มเดียวทำทุกอย่าง) การตั้งแค้มป์ มีดเดินป่า ก็อีกแบบ มีดโบวี่นั้นสามารถเลื่อยกระดูกสัตว์ได้ มีดที่มีคล้ายใบเลื่อยตรงคม จะตัดได้เร็วมาก มีดขว้าง มีดเล็บเหยี่ยว (คารัมบิต)


    ----แม้กระทั่งการขับรถถ้าเกิดอุบัติเหตุ รถจะไฟใหม้--ระเบิด เราจะใช้อะไรตัดสายนิรภัยออกมาล่ะและต้องเป็นมีดที่เบา ขนาดเล็ก เอาห้อยคอไว้ได้ ทุกอย่างมีขายหมดครับ และออกแบบมาใหม่เรื่อยๆ มีดสวยๆจากจีน ราคา300บาท เหล็กก็อาจจะดี เทียบเท่ากับของยุโรป 6พันบาท หน้าตาไม่ต้องห่วง จีนก๊อปมาเหมือนเด๊ะ


    เด็กช่างกล ทั้งชายหญิง พกมีดดาบขึ้นรถเมล์ 20กว่าเล่ม... อ๋อ พวกเด็กๆก็หัดใช้สินค้าไทยกันแล้ว ดีกว่าใช้ของนอกราคาหลายพันครับ แหะๆ

    Survival knife
    From Wikipedia, the free encyclopedia
    Jump to: navigation, search
    Jimmy Lile "Next Generation" First Blood

    Survival knives are knives intended for survival purposes in a wilderness environment, often in an emergency situation when the user has lost most of his/her main equipment. Military units issue some type of survival knife to pilots in the event their plane may be shot down. Survival knives can be used for trapping, skinning, wood cutting and other uses. Hunters, hikers, and outdoor sport enthusiasts use survival knives. Some survival knives are heavy-bladed and thick; others are lightweight or fold in order to save weight and bulk as part of a larger survival kit. Their functions often include serving as a hunting knife.[1]
    Contents

    --มีดยังชีพ(มีดรอดชีวิต--มีดช่วยชีวิต คือของหน่วยกู้ภัยครับ) ใช้เพื่อการอยู่รอด ในภูมิประเทศที่รกร้าง ในตัวด้ามจะกลวง บรรจุของได้หลายอย่างเช่นไม้ขีดกันน้ำ
    http://www.knife-depot.com/knife-387419.html
    [​IMG]

    มีดเหน็บกระเป๋า--มีดช่วยเหลือ(กู้ภัย)ขนาดกระทัดรัด http://www.knife-depot.com/knife-185402.html

    มีดโบวี่ โบวี่เป็นชื่อคนที่คิดมีดแบบนี้ครับ

    แรมโบ้ ภาค 3 http://www.knife-depot.com/knife-313988.html

    มีดคอมมานโด http://www.knife-depot.com/knife-313721.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...