พลังงูไฟ( กุลฑณี )

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย 1111, 9 มีนาคม 2005.

  1. chaichara

    chaichara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +402
    สาธุครับ..

    พลังแห่งชีวิต

    พลังชีวิต..คือพลังแห่งธรรมชาติ

    สาธุครับ
     
  2. ชาไม่รู้

    ชาไม่รู้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    485
    ค่าพลัง:
    +878
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    อันนี้เรียกอะไรคะ? มีพลังอะไรไหม?
     
  3. ชาไม่รู้

    ชาไม่รู้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    485
    ค่าพลัง:
    +878
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    แล้วอันนี้ มันต่างกันยังไงคะ?
     
  4. ชาไม่รู้

    ชาไม่รู้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    485
    ค่าพลัง:
    +878
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    เกี่ยวกันยังไงคะ?
     
  5. จันทรุปราคา

    จันทรุปราคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +659
    เงาดวงอาทิตย์ในน้ำ จริงๆมันควรต้องเป็นเงาจันทร์
    เปรียบเหมือน รู้ธรรม แต่ยังไม่ได้ธรรมด้วยสภาวะ

    ดวงไฟ
    เก๊าะ ความสว่างไสว ของจิต ด้วยโลกียะฌาณ

    พระอาทิตย์ยามเช้า
    ก็ความสว่างไสวของจิต อันเป็นโลกุตตระ ญาณ

    แล้วมันเกี่ยวกันอะไรกะกระทู้ ห๊า คุณชาไม่รู้

     
  6. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543


    ได้พิจารณาดูหลายแง่หลายมุม ในประโยคที่ว่า "วิธีการของผม คือวางอุเบกขา และไม่ไปยุงกับมัน มันจะค่อยๆสงบไปเอง"
    คำพูดถ่อมตัวประโยคนี้ ค่อนข้างจะเป็นโทษต่อผู้ที่งูไฟตื่นแล้วมากกว่า

    วิธีที่ถูกต้อง ต้องหาทางให้งูไฟทยานทะลุขึ้นไปเหนือศีรษะให้ได้ ยิ่งสูงยิ่งดี จึงจะไม่เกิดโทษ หลังจากนั้นจึงค่อยวางอุเบกขา

    หากไม่สามารถดันให้ทะลุศีรษะได้ และพลังตกค้างตามทางผ่านเช่นบันเอว กลางหลัง ท้ายทอย หริอที่หัว จะก่อให้เกิดโทษต่อสุขภาพร่างกายแบบแปลกๆที่อาการหนักคือ ติ้งต้อง เพี้ยน ฟั่นเฟือน วิกลจริต ฯลฯ

    เคยพบคนไข้ 3 ราย มาด้วยอาการปวดศีรษะแบบล้างโลก และปวดแบบแปลกๆ บางครั้งปวดแบบข้างในมันโปงออกมาเหมือนหัวจะระเบิด บางครั้งปวดแบบเหมือนกับมีของแหลมทิ่มอยู่กลางกระหม่อม(จักรที่ 7)ตลอดเวลา และปวดแบบย้ายที่ไปมา ปวดทั้งวัน แบบหาสาเหตุไม่ได้ สรุปปวดแบบไม่มีเหตุผล
    สอบถามดูพบว่า 2 ท่านฝึกพลังจักรวาลมา อีกหนึ่งท่านฝึกพลัง..(จำไม่ได้)เป็นของจีน ได้สอบถามการฝึก แกก็ว่าแกไม่ค่อยรู้ลึกตื้นหนาบาง ฝึกไปเรื่อยๆ แต่ยิ่งฝึกอาการปวดก็ยิ่งเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ หลังการฝึกจะตึงที่ท้ายทอย หนักหัวร้อนรุ่ม และมึนไปทั้งหัว จึงเลิกฝึก แต่อาการต่างๆก็ยังเป็นอยู่ตลอดเวลา

    คนไข้กล่าวว่าทำอย่างไรก็ได้ขอให้หาย จึงขอให้คนไข้ตัดสินใจว่าจะฝึกพลังต่อโดยยอมเจ็บปวดต่อสักระยะ หรือจะตัดปัญหาโดยปิดจักรกระ
    ทุกคนกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ขอปิดจักระ และไม่ขอฝึกอีกต่อไปแล้วทรมารเหลือเกิน
    ตกลงจัดการปิดจักระให้ อาการต่างๆก็หายไปทันทีดังปลิดทิ้ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2007
  7. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ยังมีสิ่งที่น่ากลัวกว่างูไฟ สิ่งนั้นคือพายุหมุน
    เรื่องนี้น้อยคนนักที่รู้
    ให้ท่านทั้งหลายลองนึกดูถึงสภาพดินฟ้าอากาศ เมื่อมีความกดอากาศต่ำ ความกดอากาศสูง(ลมร้อน ลมเย็น) พัดสอบเข้าหากัน ผลักกันไปผลักกันมา(ให้ดูข่าวทาง TV เรื่องการเกิด ดีเปรสชั่น พายุหมุน จะเข้าใจ)

    พลังร้อนจากงูไฟ(ไทยเราเรียก สุริยะรัตมณี) ทยายขึ้นด้วยความเร็ว(ควบคุมไม่ได้) และความเย็นจากจันทรามณี(จักระที่ 7) ไหลดิ่งลง พลังทั้งสองสายไหลสอบเข้าหากันในกลางกาย อะไรจะเกิดขึ้น ทอนาโด หรือไต้ฝุนดีๆนี่เอง พัดผ่านที่ใหนพังทลายที่นั่น

    โชคดีที่กายมนุษย์เรามีทางหรือนที ในแนวขวางอยู่(เรียกทางเดินของอังคมังคานุสาลีวาตา) เป็นทางละบายพลังส่วนเกินจากการหมุนนี้ให้กลับเข้าสู่ สุมนานที (นทีแห่งพลังชีวิต) ทางระบายพลังชุดนี้มีชื่อเรียกเฉพาะว่า
    อัณฑพฤกษ์ อยู่บริเวณเอว
    กาลอัมพฤกษ์ อยู่บริเวณอก
    ชิวหาสดมภ์ อยู่บริเวณคอ

    แต่ถ้าเส้นทั้งสามนี้ มั้นกลวงไม่พอ คือมันตีบ หรือพายุหมุนนั้นมันแรงมากเกิน กว่าที่ทางระบายพลังนั้นรับได้ เตรียมตัวเดี้ยงได้เลย คุณกำลังจะมีบุญใหญ่หล่นทับ ได้นั่งกินนอนกิน

    การควบคุมพลังจากสุริยะรัตมณี(งูไฟ) จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ที่จะต้องเรียนรู้
    มันเป็นทั้งศาตร์ และศิลป
    ไม่ใช่ทำไปด้วยความประมาทและไง่เฃลา
     
  8. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    อาจารย์ สุวิ ครับ
    อยากเรียนกับอาจารย์ครับ
    รับนักเรียนหรือเปล่าครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2007
  9. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    เรียนถามอาจารย์สุวิ ครับ

    มวยที่ผมเรียนมี motto ว่า "แรงมาจากดิน"
    จะมีการรับแรงที่มากระทำที่แขน ที่ลำตัวจากภายนอก
    เช่นลูกเหล็ก หรือให้คนผลัก แล้วสลายแรงลงดิน
    และเมื่อจะใช้แรง จะต้องเป็นแรงจากดินเท่านั้น
    ต้องใช้แรงจากร่างกายให้น้อยที่สุด

    ประสพการณ์ของนักเรียนมวยในสำนักแต่ละท่านก็แตกต่างกันไป
    ท่านอาจารย์(ที่ประสิทธิ์วิชามวย) ท่านเป็นคนสมัยใหม่ไม่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์นัก
    ก็เลยไม่มีใครสนใจ เป็นอันว่าต่อยมวยเก่งเป็นอันใช้ได้

    ผลจากการจะเอาร่างกายเป็นทางผ่านของแรงสู่ดิน หรือจากดิน
    ผมจะเริ่มจากปวดฝ่าเท้า ก่อนในยุคแรก
    จากนั้นมาก็เข่า แล้วก็เอว จานั้นก็มาหลัง และสะบัก

    ตอนยุคที่มันมาคั่งในสะบัก นี่เริ่มเชื่อแล้วว่าพลังพวกนี้มีอยู่จริง
    เริ่มหายใจแล้วปวดๆเมื่อยๆ หายใจแล้วเสียดจี๊ด ตามชายโครง

    ล่าสุดนี่สิครับ มันขึ้นไปบนหัวครับ ปวดจนมึนไปหมด
    คิดอะไรก็ไม่ออก จำอะไรก็ไม่ได้ อยู่ดีๆก็อ่อนแรง จนผิดปรกติ
    บางทีก็เกร็งไปทั้งตัว

    ตอนนี้อาการทั้งหมดบรรเทาลงด้วยการกินยา ลมบาทจิต
    ตำรับของวัดแถวบ้าน ซึ่งครูบาอาจารย์ท่านให้จดไว้หลายปีแล้ว
    ลองไปเจียดมาทานดู ผลปรากฏว่าดีขึ้นมาก
    แต่ถ้าขาดยาเมื่อไหร่หละก็ โอ้...ดูไม่จืดแน่ๆ

    อาจารย์สุวิ ขอรับ อาการของผมมีโอกาศหายขาดหรือเปล่าครับ

    ***************
    กราบขออภัยท่านอาจารย์(ที่ประสิทธืวิชามวยให้ผม)
    ที่ไม่ประกาศชื่อสำนักมวย ทั้งที่ควรประกาศทั้งชื่อสำนักและชื่อครู
    เพราะแถวนี้นักไสยศาสตร์มาก กลัวไปรบกวนอาจารย์และคนที่สำนัก ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2007
  10. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    และมีแรงบางอย่างเกิดขึ้น จากการเพ่งอะไรซักอย่างจนจิตรวม

    คือ จะมีแรงอะไรซักอย่าง ถูกรีดขึ้นมาจาก รอยต่อระหว่างอวัยวะเพศและทวารหนัก
    รีดวืดขึ้นไปบนหัวได้ เหมือนเอามือรูดหลอดกาแฟ

    รู้แต่วิธีเอาขึ้นไม่รู้วิธีเอาลงครับ

    กราบขอความกรุณาท่านอาจารย์สุวิ
    อาการอย่างกระผมนี้ จากนี้ไปต้องทำยังไงต่อครับ

    ขอบพระคุณขอรับ
     
  11. วางแล้วว่าง

    วางแล้วว่าง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +61
    (b-smile) เออ .. คุณคนขายธูปคะ
    อาการระลึกชาติที่ว่า เราจะมีอาการแสดงไปตามนั้น ใช่ไม๊ ?
    อย่างเป็นหมา ก้อ ..ทำท่าหมาเดิน ๆ เป็นวงกลม สักพักตาย
    ฟื้นมาใหม่เป็น .. .. เป็นแบบนี้ไปสักพัก มาจบที่ท่า ไหว้พระปิดท้าย เจ้าค่ะ (b-cap) แบบที่หมุนแรงๆเคยไปหมุนที่สนามแล้วค่ะ 5555
    คนสอนเค้าบอกไว้อย่าไปกลั้น ก้อ .. ไม่เคยกลั้นค่ะปล่อยให้หยุดไปเอง ...
     
  12. วางแล้วว่าง

    วางแล้วว่าง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +61
    โอย ..มือไปกดถูก

    งี้ ..ก้อ ลองนั่งให้หมุนปล่อยดูไปซักพัก ใช่ไม๊ค่ะ ?
    ( มานอดกลัวไม่ได้อะ )

    แล้ว .. เมื่อวานนี้มานั่งอ่านดู ถ้าเราใช้ผลึกแร่ทรงพีรามิด วางข้างหน้า กะข้างหลัง นั่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออก
    กำกนดให้แสง พุ่งมาทางทิศตะวันออก ผ่านพีรามิด ทะลุผ่านตัวเราที่จุดจักระที่ 7 ไปกระทบพีรามิดอันข้างหลัง แล้วสะท้อนกลับไปจักระที่ 6 ทะลุไปข้างหน้า พุ่งไปที่พีรามิด แล้วพุ่งกลับมาที่จักระที่ 5 มาที่พีรามิดอีก จนครบทุกจักระ จากนั้น ให้แสงพุ่งออกไปทางทิศตะวันตก อย่างนี้เป็นงัยคะ เหมือนเป็นการเปิดจักระไม๊ ? (b-smile)
     
  13. คนขายธูป

    คนขายธูป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +2,964

    ถูกต้องแล้ว

    เมื่อชำระกรรมในกรรมฐานเบาบาง อภิญญาและตาพิเศษจะเปิด
    เมื่อถึงเวลาตามควร เช่น อาจเป็น ปัญญาจักษู หรือ ทิพย์จักษุ
    ก็แล้วแต่บุคคลไป การฝึกแบบนี้เป็น "สมถะ" ใช้ลดทอนกรรม
    ใช้กรรมได้ แต่ยังไม่อาจบรรลุธรรม

    คุณต้องพิจารณาการเกิดดับ เวียนรอบ วนแล้ววนอีก เหมือน
    สมาธิที่หมุนนั่น จนจิตวางคลายทั้งหมด เพื่อเข้าสู่อรหันต์ผล
    หากไม่พิจารณาสภาวธรรม ไม่วิปัสสนาต่อ

    ก็จะต้องไปเป็นพรหม แล้วมาเกิดอีก วนเวียนนับหนึ่งใหม่
    อย่าให้โอกาสทองหลุดไป เมื่อชดใช้กรรมไปเรื่อยๆ เบา
    บางลง ดวงตาจะเริ่มเปิด จะบรรลุง่ายกว่าไม่ชดใช้กรรม
     
  14. คนขายธูป

    คนขายธูป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +2,964
    การเปิดจักระในมุมมองของผม


    มีสามประตู คือ ประตูแนวดิ่ง ไล่จากจักระต่างๆ เชื่อมโยงถึงกัน
    เพื่อเปิดระบบระบายปราณให้หมุนเวียนดีไม่อุดตัน ดังนั้น หาก
    คุณมีปัญหาด้านการหายใจ อย่าแก้ด้วยการปิดกั้นทางเดินหายใจ
    เพราะนี่คือทางเดินธรรมชาติของมัน


    การเปิดจักระมีด้านหน้าด้านหลัง และแนวดิ่ง เช่น จักระที่ท้องน้อย
    ก็มีท้องน้อยด้านหน้าและหลัง และแนวดิ่ง คุณใช้วิธีนี้จะเปิดหน้าหลัง


    คิดว่าเป็น "วิชชาพลังจักรวาลของแท้" สมัยดึกดำบรรพ์ยุคพีรามิด
    คุณอาจได้วิชชานี้มาจากพระอาจารย์รัตน์ ซึ่งก็ไม่ผิด ทำถูกต้องแล้ว


    สำคัญมากๆ จิตคุณเวลาทำต้องบริสุทธิ์ ปราศจากนิวรณ์ห้าประการ
    หากมีนิวรณ์ พลัง "ปราณลบ" จะแทรกเข้ามาได้ ไม่เป็นผลดีต่อคุณ


    การเปิดจักระแนวดิ่ง ช่วยในการระบายขึ้นลง
    การเปิดจักระแบบคุณก็ไม่ผิด และใช้พลังจักรวาล
    ผ่านพีรามิดโดยตรง ทำให้ได้ ปราณดีจำนวนมาก
    ชำระล้างปราณเสียในร่างได้


    ขอให้ฝึกอย่างสม่ำเสมอ คุณเดินมาถูกทางแล้วฮะ
     
  15. วางแล้วว่าง

    วางแล้วว่าง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +61
    (b-wow) แล้ว .. ทำไมต้องไปเป็นพรหมด้วยหล่ะคะ ^^!
    แล้วการเปิดจุด จักระทั้ง 7 อย่างนี้ใช้ได้ไม๊คะ
    คิดได้เมื่อวานตอนอ่านเสร็จ เมื่อเช้าเลยลองดูค่ะ
    .. ระหว่างที่แสงพุ่งผ่าน ตัวไปเราจะรู้สึกเหมือน ไม่มีร่างกาย
    เบาๆ แต่จิตจะมีกำลังมาก คือ ..รู้สึกเลยว่ามีกำลัง ( อยู่ในขั้นทดลองค่ะ ) ในตอนนี้ คิดถึงพระท่าน ขอน้ำมนต์ท่านอาบตัวไปด้วย ;P
    ..
     
  16. คนขายธูป

    คนขายธูป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +2,964

    พวกชอบทำสมาธิแต่ไม่บรรลุมักได้จุติเป็นพรหม นี่คือ อานิสงค์ของสมาธิ

    คุณไม่ได้คิดเอาหรอกฮะ สมองมนุษย์มันเกิดมากี่ปีเอง มันคิดไม่ได้หรอก
    จิตเดิมแท้ของคุณมัน "ระลึกได้" ต่างหาก เป็นวิชชาเก่าของคุณเองใน
    อดีตชาติ มันอาจรื้อฟื้นเพราะคุณฝึกธรรมจักร (สมาธิหมุน) ของเก่าจะ
    มาเรื่อยๆ อย่าทิ้งมันครับ คุณต้องยอมรับ "จิตเดิมแท้" ของคุณเองว่ามัน
    คือ "ธาตุรู้" ที่ผ่านประสบการณ์มาไม่รู้กี่ชาติแล้ว ยาวนานกว่าสมอง


    มันช่วยชำระกายทิพย์คุณได้ วิธีที่คุณทำน่ะ
    มันมีหลากหลายวิธีที่คุณยุคพีรามิดเขาทำกัน
    บ้างก็หันหัวแนวเหนือใต้ใช้เส้นแม่เหล็กโลก
    ช่วยเป็น "พลังจักรวาล" ที่เขาเลือกชำระ
    เลือกชนิดของพลังจักรวาลที่บริสุทธิ์ต่างกันไป
    บ้างก็ภาวนา "อามิตาพุทธ" หรือ "นำโม อานีทอฝอ"
    ในระหว่างทำสมาธิ เพื่อเอาปราณบริสุทธิ์มาชำระกายทิพย์


    บางคนก็ถอดกายทิพย์ไปเอาปราณบริสุทธิ์มาอาบมากินเลยก็มี
    (ในภาวะกายทิพย์ถอดออกจะเห็นพลังจักรวาลที่ไปเอามานั้น
    เป็นลักษณะคล้ายสิ่งที่เราใช้อยู่ เช่น น้ำ, อาหาร, น้ำผึ้ง ฯลฯ
    สิ่งที่เห็นในนิมิตยามถอดกายทิพย์ คือของเป็นทิพย์ เป็นพลังงาน
    ที่เรียกรวมกันว่า "พลังจักรวาลทั้งนั้น" แล้วแต่จะสรรหากัน)


    ขอให้โชคดี วิชชาเฉพาะตัวคุณเอง อย่าทิ้งมัน
     
  17. จันทรุปราคา

    จันทรุปราคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +659



    (smile)
    อ่านแล้ว ขำคนถาม ถามน่าเอ็นดู๊ น่าเอ็นดู...

     
  18. คนขายธูป

    คนขายธูป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +2,964
    คุณเปิดจักระเพื่ออะไร?


    ก็เพื่อระบายปราณเสียออกได้สะดวกดี เหมือนคนไม่เป็นหวัดคัดจมูกไง
    แล้วหายใจเข้าเอาอากาศดีมา เดินลมปราณก็เช่นั้นเหมือนกันฮะ ก็เอา
    ปราณดีเข้า เอาปราณเสียออก การที่คุณเปิดแบบนี้ ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว
    สำหรับวิชชาสายของคุณเอง


    สำหรับท่านอื่นเปิดแนวดิ่ง อันนั้นเป็นวิชชาสายของเขา
    ขอให้เดินวิชชาสายของคุณให้ชำนาญจะได้ผลดีฮะ
     
  19. วางแล้วว่าง

    วางแล้วว่าง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +61
    อ้อ .. แล้วอย่าง นอนเปิดเพลงแบบผ่อนคลาย (เพลงบางเพลงฟังแล้วเหมือนเราไปอยู่ชายทะเล ) นอนแบบปล่อย .. ปล่อยใจคิดไปเหมือนเราไปนอนแช่น้ำที่ชายทะเลจริงๆ ผ่อนคลายตัวแบสุดๆ แล้วคิดถึงแสงเข้าทางจักระที่ 7 ทะลุไปตามจุดจักระทั้ง6 จนแสง สวยระยิบระยับไปทั่วร่าง แล้วเหมือนดันทะลุร่างเราไป ตอนนี้รู้สึกโล่งเบาสบายมากจนเหมือนเราไม่มีร่างกาย อดกลับจับความรู้สึกที่ตัวไม่ได้ ก้อไม่รู้สึกจริงๆ นะ เลยกลับไปที่เดิม เหมือนเรากลืนไปกับธรรมชาติ ใจสบายทำจนหลับไปค่ะ .. ทำแบบคนขี้เกียจนั่งสมาธิ

    อย่างนี้ คือ รับพลังจักวาลรึเปล่าคะ ?
    ตอนนี้กำลังไม่สบายเลยอยากลองทำสมาธิรักษาตัวดูค่ะ

    ก้อ คลำทางเอา ยึดแนวสบายใจ กับใจอยากทำเข้าไว้ ^^!
    แต่ไม่ทิ้งนึกพระแน่นอนคะ
     
  20. คนขายธูป

    คนขายธูป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +2,964

    ถูกต้องครับ


    นั่นคือการทะลวงลมปราณจักระบนลงล่างครบเจ็ดจักระ
    แสดงว่าคุณทะลวงได้หมดทุกทิศแล้ว ทำได้ดีมาก ก้าวหน้าครับ


    นั่นคือ "พลังจักรวาล" ที่ถูกต้องอีกรูปแบบหนึ่ง


    ที่สำคัญ ขอให้เลือกเพลงที่เปิด อย่าเป็นเพลงที่ทำให้จิตมี
    นิวรณ์ปน จะไม่ได้ผลดีเลย พวกเพลงวัยรุ่นร้องๆ กันใช้ไม่ได้


    ต้องใช้เพลง "บทสวดมนต์" จะดีที่สุด
    เมื่อจิตคุณสัมผัส "ธรรมะ" อันเป็น "ธรรมชาติ" ได้แล้ว
    เพลงพวกดนตรีบำบัด ที่มีเสียงแบบธรรมชาติ ก็ใช้ได้


    ขอให้ทำต่อไปครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...