พลังงูไฟ( กุลฑณี )

ฝึกแล้วมันขนาดนั้นเลยหรอครับท่านsuwi น่ากลัวแฮะ- -

 

ถ้ารู้จักควบคุมพลังของงูไฟ ท่านสามารถนำมาใช้ประโยชน์ต่อมวลมนุษย์ชาติจะทำให้ได้ประโยชน์มหาศาลครับ

 

ไม่เห็นด้วยเลยนะครับ จริงๆแล้วถ้าเขียนดีๆจะมีประโยชน์ต่อผู้ที่เผชิญกับมันอยู่
ช่วยให้รู้และเข้าใจหาทางแก้ไขเพื่อให้เขาได้ไม่ต้องทนทุกข์กับงู

แต่ท่านบอกหาทางแก้เอาเองแล้วกัน มันเหมือนเป็นคำพูดที่ไม่รับผิดชอบอย่างไงอย่างงั้น

ยิ่งคำพูดตัวใหญ่ข้างบน "กล้าเสี่ยงบ้าก็เอา อยากได้ของดีมันต้องแลก กล้าบ้ากล้าเสี่ยง " เกิดมีคนเอาตามอย่างท่านแล้วผลที่ได้มันเจอแต่ความทรมารละท่านจะได้บาปติดตัวไหม คิดนิดหนึงนะ การเขียนอะไรออกไปควรคำนึงนึกถึงคนส่วนใหญ่ไว้ด้วยนะครับ ไม่ใช่อยากจะเขียนตามใจฉันก็จะเขียน
ถ้าคนที่เข้าใจและรู้ดีรู้ซึ้งก็จะไม่ไปยุ่งไม่ไปลองกับมันแต่ถ้าเป็นพวกชอบอยากลองอยากรู้นึกว่ากูเก่งละก็ ถ้าโชคดีฝึกสำเร็จก็ดีไป ถ้าโชคร้ายมันไปเลื้อยไปทั่วไม่ยอมออกละท่านเขาเป็นบ้าแล้วแล้วบาปใครเล่าครับ คนเราความอดทนไม่เท่ากัน พื้นฐานความรู้นิสัยไม่เหมือนกันครับ อย่าคิดว่าคนอื่นเขาจะเหมือนๆเรา ที่แย่กว่าก็มีดีกว่าก็มี

ถ้าเขียนดีๆจะมีประโยชน์กับผู้ที่เผชิญกับงูโดยไม่ได้ตั้งใจและกำลังเป็นทุกข์กับพิษของมัน แต่ถ้าเขียนอย่างที่ผมเห็นก็เป็นบาปต่อผู้เขียนเองละครับ เพราะท่านกำลังชักชวนทางอ้อมให้ผู้ที่อยากลองอยากรู้มาเผงิญกับงูร้าย
บางสิ่งบางอย่างมันอันตรายเกินไปแม้สิ่งนั้นจะมีประโยชน์อยู่ก็ตาม

เหมือนสอนเด็กให้ก่อกองไฟทำอาหาร ถ้าเด็กมีสติปัญญาดีก็ทำได้ไม่เป็นไร แต่ถ้าเด็กคนไหน ทำได้ไม่ดีก็โดนไปลวกไปเจ็บตัวเจ็บใจจะเจ็บขนาดไหนก็แล้วแต่เวรแต่กรรมหรือ?? ถ้าคนสอนเด็กให้ก่อกองไฟคิดสักนิดว่าเด็กมันฉลาดไม่เท่ากันต้องสอนให้ระวังและเตือนถึงอันตรายและแนะนำว่าถ้าใครทำไม่ไหวทำไม่ได้หรือไม่กล้าทำก็อย่าทำ ส่วนเด็กๆก็ปลอดภัยเพราะไม่ต้องเสี่ยงเจ็บตัวโดยไม่จำเป็น

ผมแค่มาบอกเฉยๆนะครับ ว่าเขียนอะไรควรคำนึงถึงผู้อ่านสักนิดนะครับ เพราะที่นี่ใครก็สามารถเปิดเข้ามาอ่านได้ คนหลายๆวัยเข้ามาอ่าน ครับ

 

ไม่เคยรู้มาก่อน

 

<TABLE class=tborder id=post668823 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>triangle-w<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_668823", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 06:31 AM
วันที่สมัคร: Mar 2007
ข้อความ: 514 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 2,035 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 3,828 ครั้ง ใน 513 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 439


</TD><TD class=alt1 id=td_post_668823 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ suwi
การปลุกงูไฟให้ตื่นขึ้น มีคุณอนันต์ และก็มีโทษอย่างมหันต์
ศึกษาให้ดี ในคุณ และโทษ
ให้คุณอย่างไร เพราะเหตุใด มีข้อแม้หรือไม่ อะไรบ้าง
ให้โทษอย่างไร เพราะเหตุใด มีข้อแม้หรือไม่ อะไรบ้าง ควบตุมอย่างไร
ศึกษาให้ดี ในวิธีควบคุมให้อยู่ในครรลอง

เมื่องูไฟตื่น จะเป็นผู่มั่นใจในตัวเองสูง ศึกษาสิ่งใดก็รู้เห็นได้เร็ว รู้ลึกซึ้ง ปรึกษาใคร ถามใคร ก็ไม่มีผู้ใดให้ความกระจ่างได้ ท้ายสุด กูรู้มากกว่า ไม่เห็นผู้ใดในสายตา และที่สุดของที่สุด กูคือผู้ยิ่งใหญ่เหนือฟ้า เหนือกว่าอินทร์ พรหม ยม ยักษ์ เข้าไปสำนัก ตำหนักใด องค์ทรงถึงกับแตกกระเจิง ด้วยไม่อาจต้านอำนาจพลังแห่งงูไฟได้

ที่ข้ากล้ากล่าวเช่นนี้ เป็นเพราะ เมื่อหลาย..ๆ..หลายปีที่ผ่าน ข้าเองก็มีสภาพเป็นเช่นนี้
ครูบาอาจารย์ ที่ว่าแน่ๆ ตะเวณไปหาไปคุย เฮอะ... ล้วนรู้น้อยกว่าข้าทั้งสิ้น แกล้งตั้งปัญหาถาม ตอบไปๆมาๆสามวาสองศอก ล้วนไร้ปัญญาทั้งสิ้น ตอนแรกข้าก็ใหญ่คับฟ้า ท้ายสุดก็รู้ด้วยตัวเองว่ายิ่งใหญ่นัก ข้าคือผู้ใหญ่เหนือฟ้า
เพียงไปยืนใกล้(7-8ก้าวได้มั้ง) ผู้เป็นร่างทรงเจ้าพ่อเจ้าแม่ทั้งหลาย ยังไม่ทันทำอะไร ร่างทรงเหล่านั้นก็เรอ อ้วกแตกอ้วกแตนโอกอ๊าก จะเป็นจะตายให้ได้
ข้าปรามาสไปทั่ว (มีความปรารถนา) ตั้งตนเป็นอาจารย์ เที่ยวสั่งสอนผู้คน ทั้งยัดทั้งเยียด แต่ไม่มีผู้รับได้ แหม...ไอ้พวกนี้โง่สิ้นดี อุตส่าห์สอนของดีๆไห้ เสือก..ไม่มีปัญญารับ ไอ้พวกงี่เหง้า...

(เอ...แบบนี้ในสายตาคนทั่วไปเรียกอะไรหว่า..)

แต่ข้าน้อยโชคดี ผู้วางพื้นฐานทางจิตให้ข้าน้อย ได้วางหลักการสอนสั่งไว้ดี
เพียงข้าถูกกระตุ้นเล็กน้อย ข้าน้อยก็ละลึกได้

เมื่อตรึกรู้ภายใน-ภายนอก ข้าน้อยก็รู้ว่าความรู้ทั้งภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติที่มีอยู่ และเข้าใจว่ายิ่งใหญ่เหนือฟ้านั้น น้อยนิดนัก
และยิ่งตรึกในทวิลักษณ์แห่งธรรม โอ้ความรู้ที่มี น้อยกว่าน้อย น้อยกว่าเศษธุลี

เมื่อข้าน้อย นำวิธีการในสิ่งรู้ เข้าเรียบเรียงสิ่งที่ฝึก สิ่งที่รู้ใหม่หมด โอ้น่าหวาดเสียวนัก รอดมาได้ย่างไรนี่......
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ถ้ารู้จักควบคุมพลังของงูไฟ ท่านสามารถนำมาใช้ประโยชน์ต่อมวลมนุษย์ชาติจะทำให้ได้ประโยชน์มหาศาลครับ
</TD></TR></TBODY></TABLE>

เรียนคุณสามเหลี่ยมฯ
เท่าทีทราบ ท่านอยู่ในสายของพลังจักวาล ซึ่งเกี่ยวข้องกับงูไฟตัวนี้โดยตรง
ถ้าจะกรุณา บอกวิธีฝึก และควบคุมงูไฟตัวนี้ให้เพื่อนพี่น้องทราบบ้างก็ดีครับ

ตัวผมมาในสาย เกษา โลมาฯ บังเอินผ่านไปพบงูตัวนี้ เล่นกับมันแบบไม่รู้เรื่องเลยเพี้ยนไปพักใหญ่

วิธีการของผม คือวางอุเบกขา และไม่ยุ่งกับมัน มันก็ค่อยๆสงบไปเอง แต่วิธีนี้ จะไม่ได้ประโยชน์อะไรจากงูตัวนี้เลย

 

"เรียนผูกก็ต้องเรียนแก้" เองนะฮะ

ใครเขาจะรับประกันให้คุณได้ เรื่องทางจิต จิตคุณเอง
บางทีครูบาอาจารย์เขาก็เอาคุณไม่อยู่ เวลางูไฟมันตื่น
เขาถึงคัดนักคัดหนาไม่มอบวิชชาให้ง่ายๆ ไม่รับศิษย์ง่าย
ยิ่งคนสมัยนี้ไม่มีนิสัยจิตสุขุมอ่อนน้อมที่จะรับคำสอนใคร
มีแต่จิตเป็นลูกค้า ให้ครูมาบริการเอาอกเอาใจ พูดชม

"ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" อย่าลืมฮะ

ไม่มีครูบาอาจารย์คนไหนช่วยคุณไปได้หมด เขาได้แต่
แนะนำทางคุณ แก้ปัญหาบ้างในยามที่คุณพบปัญหา
แบบที่เขาผ่านมาได้ แต่เขาแก้ให้คุณเองไม่ได้หรอก
คุณต้องหัด "รับผิดชอบตัวเอง" ไม่ใช่สักแต่จะให้ครูบา
อาจารย์มารับผิดชอบ ทำนิสัยแบบนี้ไม่มีครูคนไหนรับ
เป็นศิษย์หรอก ใครเขาจะถ่ายทอดวิชชาดีๆ ลับๆ ให้คุณกัน

"สติ" สำคัญที่สุดเวลาฝึกลมปราณ

ตอนผมได้สัมผัสงูตัวนี้ ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามันตื่นแล้ว
จนได้มาอ่านกระทู้นี้เข้า ถึงได้รู้ว่ามันตื่นมานานแล้ว
เป็นสิบปี และปั่นป่วนชีวิตผมมากมาย มีอีกหลาย
คนที่งูไฟตื่นแล้วแต่เขาไม่รู้ตัว ตื่นในเวลาไร้สติ
ซึ่งเป็นปัญหามาก

ปัจจุบันผมแก้ด้วย "ธรรมจักร" ลมปราณสายนี้
"รู้นอก รู้ใน" ไม่ติดทั้งสองส่วน จึงรู้ได้ทันทีเวลา
งูไฟตื่น ก็มี "สติ" รู้ตัวและควบคุมมันได้ทัน
และรู้อีกว่ามันตื่นได้เวลาไหน และด้วยเหตุใดบ้าง
มีหลายวิธีที่จะปลุกให้มันตื่น แต่ผมไม่บอกคุณหรอก

แบร๋ๆๆๆๆๆ

(one-eye) (one-eye) (one-eye)

 

พี่ท่านมีการไม่บอกอีก แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะเราฝึกสายมั่ว^_^ถามหน่อยครับผมดันไปถึงแค่ท้ายทอยเองอ่ะครับ เพิ่งทำได้ 2วัน วันละ 5-10นาที วันแรกดันถึงกลางหลังตรงหัวใจ วันที่สองถึงท้ายทอย แล้วถ้าดันถึงจักร 6 7 มันจะมีอาการมั้ยครับ(อาการเพี้ยน) ก็เลยคิดก่อนจะดันให้ถึงดีมั้ย จะได้เตรียมตัวเตรียมใจก่อน - -

 

วิธีการปลดปล่อยงูไฟ ไม่ใช่เรื่องง่ายครับ คงบอกในกระทู้ไม่ได้ครับ เดี๋ยวมีปัญหาแน่นอนครับ เอาไว้วันที่ 9 พบกันแล้วมาปรึกษากันดีกว่าครับ สำคัญที่สุดต้องเปิดจักระได้ 100 % ก่อนครับ สายพลังจักรวาลมีโอกาศมากกว่าจริงๆครับ
(one-eye) (one-eye) (one-eye)

 

อาการไม่จำเป็นต้องเพี้ยนเสมอไป
หากปราณสายนี้ไม่กลับเข้าที่
ไปอาศัยในจักระอื่นอยู่
ก็จะไปรบกวนระบบที่จักระนั้น
และทำให้การทำงานของจักระนั้นๆ
ได้รับผลกระทบ เช่น จักระหัวใจ
ก็ส่งผลเรื่องหัวใจ


หากคุณต้องการให้มันทะลุ
ก็ต้องใช้แรงมากๆ แรงที่มาก
ที่สุดและง่ายที่สุด คือ
ไปล่อ "หมา" ให้หมามันไล่เห่า
เวลามันไล่เหา จะมีปราณสายหนึ่ง
พุ่งออกจากก้นด้านหลัง
แล้ววูบผ่านด้านหลังขึ้นมาที่หัว
อย่างรวดเร็ว เหมือนคนเห็นผีแล้วหัวตั้ง


คุณจะรู้สึกเหมือนหัวตั้ง
เวลาคนเห็นผี ก็เพราะปราณสายนี้ตื่น
มันตื่นเพื่อทำหน้าที่ปกป้องชีวิตคุณ
บางคนตื่นแล้วแต่ทะลวงไม่ออก
เลยทำให้ผมร่วง และเป็นไข้สั่น
ที่เรียกว่า "ไข้หัวโกร๋น"


คุณให้หมามันไล่ มันก็จะตื่น
เวลามันตื่น มันอาจส่งผลต่อฮอร์โมน
ในร่างกายได้ เช่น อดีนาลีน
หากคุณควบคุมมันได้ มันจะไม่กระทบ
แล้วใช้กำลังของมันในการทำงาน
ได้มากกว่าปกติ


พลังนี้เกิดแล้วสลายเร็ว
อยู่ประมาณ ๑ ถึง ๒ ชม.
เหมาะสำหรับทำกิจหนักสั้นๆ


สำคัญที่สุดคือ "สติ" ลองดู...

 

อนึ่ง ปราณทุกสายจะต้องรู้จัก "ปลุกให้ตื่น"
ตื่นแล้ว "ใช้งาน" และ "ควบคุม" จากนั้น
ก็ "เก็บเข้าที่" หรือ "ระบายเศษออกให้หมด"

หากไปฝึกปราณสายไหนไม่มีปัญหา
แสดงว่า "ปราณยังไม่ตื่น" เรียกว่า
ได้แต่ "กระบวนท่า" หรือ "วิชาการ"
แต่ไม่ได้ลมปราณของจริง


ฝึกเองรู้เอง ของจริง กับอุปทาน มันต่างกัน

 

ของผมก็ตื่นเอง
กว่าจะรู้ว่ามันคืออะไร ก็มาเข้าเวปพลังจิตนี่แล้ว

โดยทั่วๆไปถ้าตื่น แล้วไม่ไปกระตุ้นมันต่อ
เดาว่า...**มันจะเสื่อมไปเอง**

อย่าง นักมวยไทเก็ก หรือ ฝึกพวกโยคะ
ครูจะให้คุณยืดร่างกาย หรือ นวดร่างกาย จนเข้าที่จึงเริ่มฝึก
หรือฝึกไปพร้อมๆกับ ยืด หรือ นวด
มวยบางมวย ต้องหัดตั้งแต่นิวรณ์ยังไม่มี คือ ตั้งแต่เด็กๆ
หรือบางสายวิชาใช้วิธีกินยา

ถ้าไม่มีความจำเป็นอะไรในชีวิต เช่น
ต้องการเป็นนักมวยชิงแชมป์โลก...
หรือเป็นแพทย์แผนอนุรักษ์นิยม...หรืออะไรเทือกๆนั้น
อย่าไปยุ่งกับมันเลยครับ

 

ช่วยผมอีกนิดนะครับ คือถ้าจะไปล่อ หมา คงไม่ไหวมั้งครับ เอาแบบดันธรรดาพอ อย่างเช่น สะสมพลังแล้วดัน หรืออื่นๆๆ ถ้าผมไปล่อ มีแต่ตายลูกเดี่ยว

 

(b-smile) รบกวนถาม .. คุณคนขายธูป ด้วยค่ะ
เคยไปฝึกสมาธิหมุน แต่นานมากแล้วนะคะ ช่วงแรกๆอาจบังคับไม่อยู่ กลัวมาก กลัวอาการออกตอนเรียน แล้วเจะคุมมันไม่อยู่ คือทิ้งไปนานแล้วนะคะ แต่อาการข้างเคียง ที่ตามมา บางครั้งในช่วงที่เรานั่งสมาธิ มือค่ะ มือออก อาการเหมือน ปั้นอากาศเป็นลูกกลมๆ แล้วใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แล้วเก็บเข้ามาที่ศรีษะค่ะ แปลก บางครั้ง มือออกอาการอ่อนมาก นิ้วมือโบก อ่อน มากๆ คือเราปล่อยค่ะอยากดูว่าจะเป็นงัยต่อไป โปกไปโปกมากลายเป็นไหว้พระ แบบ ปนร่ายรำ ^^! ก้อมี แต่ที่ดีตรง สามารถควมคุมได้ คือถ้าอยากทำแค่ปล่อยใจว่างๆ ซักพัก อาการออกแล้ว รู้สึกใช้สมาธิไม่มาก ท่าที่มาประจำคือท่าไหว้พระแบบแปลกๆ ตอนไปฝึกเต็มกำลังที่วัด นั่งปุ๊บ มือออกเลยค่ะ ก้อ ^^! สับสนเล็กน้อง ( ชั้นจะทำไงดี ) ฝืนไม่ได้ด้วย ประจำเลยค่ะ
หลังๆ นี่พยายามให้เลยความนิ่งตรงนี้ไปอีก หน่อย อาการจะออกค่ะ ..
.. คำถามคือ ถ้าเป็นคุณ คนขายธูป คุณจะฝึกต่อไปแบบไหนค่ะ


ขอบคุณค่ะ

 

อย่ากลัวตาย ถ้าริจะฝึกลมปราณ
ให้มันเห่า จ้องมันแล้วตั้งสติไว้
มันไม่มากัดคุณทันทีหรอก
แล้วตั้งจิตดูพลังปราณที่เคลื่อนไหว
อย่าให้จิตหลุดออกไป ตาจ้องหมา
จิตดูปราณในร่างที่เคลื่อน
ดูทั้งนอกในพร้อมกัน


ตั้งสติให้เต็มที่


ถ้าไม่ใช้วิธีนี้คุณก็ต้องไปนั่งสมาธิบนหิมะ
หรือนั่งตากน้ำตกเย็นๆ อย่างที่พระทิเบตเขาทำกัน


จะเอาวิชชาสุดยอด มันไม่ได้ง่ายด้วยการให้คนมาพูดชม
มันจะได้ก็เมื่อคุณลงมือเลี่ยงเป็นเสี่ยงตายกะมันนะฮะ

 

เราสามารถมีทิพยจักษุญาณ หรือ อภิญญาได้
โดยไม่ต้องไปวอแวกับมัน

ผมเดาจากหลายท่านในเวปนี้
ไม่เคยยุ่งกับการเดินลมปราณแบบผลาดแผลง อะไรทั้งนั้น
ยังสามารถมีทิพยจักษุญาณ มีอภิญญาได้เลย

 

\


เป็นการฝึกวิชชาธรรมจักรหรือสมาธิหมุนที่ถูกต้องแล้วครับ
ถ้าไม่มีอาการแบบนี้แสดงว่า "ปราณธรรมจักร" ยังไม่ตื่น
เวลาปราณสายนี้ตื่น จะดึงคุณลงสู่เกรียวกรรม ย้อนรอย
สู่อดีตชาติ และทำท่าทางเหมือนในอดีตชาติ

มันจะย้อนไปเรื่อยๆ คุณต้องดูมัน "สักแต่ว่าดู" อย่าไปห้าม
อย่าไปบังคับ ปล่อยไปดูมันไป เราจะทำท่าทาง อย่ากลัว
อย่ากังวลว่าคนจะหาว่าเราบ้า มันจะแสดงอดีตชาติออกมา

คุณจะเริ่มระลึกชาติได้ ได้ญาณระลึกชาติเร็วกว่ากรรมฐานตัวอื่น
คุณอาจทุ่มเทจริงๆ ฝึกต่อเนื่องสัก ๓ ถึง ๗ วัน รับรองว่าคุณ
ระลึกชาติได้เยอะแน่


เมื่อคุณจิตดิ่งย้อนลงอดีตชาติ บางครั้ง จิตคุณสับสน
ไม่รู้ว่าตอนนี้มันชาติไหน ทั้งๆ อยู่ในชาติภพปัจจุบัน
บางครั้ง คุณอยู่ๆ ทำอะไรแปลกๆ ในที่ทำงานได้


วิธีแก้คือ คุณต้องระลึกถึง "ปมในอดีตชาติ" ของคุณให้ออก
แล้วแก้ไขปมนั้น จิตจะวางคลายปมในอดีตชาติ จิตคุณจะ
ก้าวหน้า ปราณก็ก้าวหน้า ไปเร็วกว่ากรรมฐานทุกสายที่ฝึกกัน


คุณระลึกชาติได้อย่างไรอย่าลืมมาเล่าให้ผมฟังบ้างนะฮะ

ขอให้โชคดีฮะ...

 

กรรมฐานบางตัวฝึก ๑๐ ปี เทียบเท่าเดิมลมปราณธรรมจักรเพียง ๑๐ วัน
พระลามะ และพระโพธิสัตว์บารมีมากฝึกวิชชานี้กันทั้งนั้นครับ

 

ผมก็ไม่ได้ต่อยมวยเก่งอะไร
และพลังลมปราณอะไรของผมก็ไม่เวิร์ค
ที่พูดนี้ไม่ได้ถ่อมตัว ไม่ได้กั๊ก เชื่อเหอะ...ผมไม่ใช่คนถ่อมตัว

หรือจะคิดว่าผมอิจฉากลัวท่านเก่งกว่าก็ได้

แต่...เชื่อเหอะ...เอามันไว้เป็นทางเลือกสุดท้ายดีกว่า..เนาะ

 

เมื่อสำเร็จกุลฑาลิณีและธรรมจักรแล้วประสานพลังสองสายได้
ตั้งจิตบริสุทธิ์ตลอดเวลา ก็ได้ "พลังจักรวาล" ขั้นสูงสุดเป็นของแถมครับ


กลไกลของลมปราณสองสายจะทำงานประสานกัน
เมื่อจิตตั้งอยู่บนความบริสุทธิ์ "พลังจักรวาล" ก็ได้ตามมา

 

ซื้อธูปแถมโอ่งจ้า หนุมา.....และพรรคพวก (คนเดียวกันเช่น คนขายทูป , ฤษีผู้นำสาร ,เหลียงขงเบ้.....ฯลฯ) ไม่ซื้อแช่งน๊า

อ้างเทพ อ้างภัยพิบัติ อ้างธรรมะ มาสารพัดแล

ดูเถอะเดี๋ยวขายที่หลบภัยทางเหนือ ให้อีก


อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ หนุมาน ผู้นำสาร
*** ธูป ๗ ดอก ****

การอธิษฐาน ด้วยธูป ๗ ดอก
๗ คือ สัญญลักษณ์ของ โลกุตตระ พระไตรปิฎก
อธิษฐานด้วย ธูป ๗ ดอก
แสดงว่า ...ฤษีแปลงสาร อธิษฐานต่อ โลกุตตระ พระไตรปิฎก !!!!
เขาผู้นั้น...จะเข้าถึง โลกุตตระธรรม ต่อไป

- " หนุมาน ผู้นำสาร "
</TD></TR></TBODY></TABLE>
<!-- / message -->โหหหหห สัจจะ
<!-- / message -->