"พลังงานคลาสสิค" อีกหนึ่งทางเลือกที่ทำให้คุณมีพลังพิเศษและความยั่งยืน!

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อู่หยาจื่อ, 27 มิถุนายน 2012.

  1. ขุนบรม

    ขุนบรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +35
    มีดาบกับพระขรรค์ จะไปสู้รถถังได้ยังไง
    นี่แหละปัญหาของผม ใครช่วยไขหน่อยเถอะครับ

    จะบ้าตาย ชาติที่แล้วถือดาบคล่องมือ
    ชาตินี้ถือไปก็สู้รถถังไม่ได้

    ชาติก่อนโน้นเป็นผู้นำคนมากมาย
    ชาตินี้ จะหาใครมาติดตาม
    เค้าเปลี่ยนไปใช้ปืนไฟ กับกฎหมายระหว่างประเทศกันหมดแล้ว
     
  2. ขุนบรม

    ขุนบรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +35
    คำถาม

    พลังงานของพระเจ้าตากสิน อยู่ในตัวผม อย่างเข้มข้น
    เหมือนมีการสืบทอดอะไรบางอย่าง
    ทั้งที่ผมไม่ได้มีนามสกุลเชื้อสายพระเจ้าตากสิน
    และแน่ใจว่าตนเองไม่ได้เป็นพระเจ้าตากสินกลับชาติมาเกิด
    พลังงาน สด ใหม่ แบบ พร้อมจะสู้เพื่อชาติบ้านเมือง

    (สู้ยังไงล่ะ ต่อให้มีดาบ มีหอก ก็ยึดรัฐสภาไม่ได้!!!)

    คำถามสำคัญก็คือ เกิดขึ้นได้อย่างไร?
    ชาติที่แล้วผมเป็นทหาร ที่ทำงานให้พระเจ้าตากสินก็จริง
    แต่ผมเป็นทหารของ... ซึ่ง มีพลังงานอีกชุดหนึ่ง ที่ยิ่งใหญ่เหมือนกัน
    แต่ชาตินี้ กลับปรากฏว่า ผมมีแต่พลังงานของพระเจ้าตากสิน
    แม้อุปนิสัยจะดูอ่อนโยนเหมือน... เหมือนในชาติที่แล้ว
    พลังงานของพระเจ้าตากสินปรากฏเด่นชัดซ่อนอยู่ในตัวผมอย่างเข้มข้นมากมาย

    ซึ่งถ้าหากเป็นชุดพลังงานของ... ที่ผมเป็นทหารในสังกัดของพระองค์ท่านในชาติที่แล้ว ผลลัพธ์ไม่มีทางเป็นอย่างนี้แน่นอน แต่นี่ พลังงานในตัวผมมันมีปฏิกิริยาแบบเดียวกับพระเจ้าตากสินอยู่ในเมืองหลวง

    เรียกได้ว่า พอเกิดชาติใหม่ พลังงานก็เปลี่ยน

    จนได้แต่สงสัยว่า ชาตินี้ผมเป็นเชื้อสายพระเจ้าตากสินหรือนี่?

    พลังงานในอีกชุดหนึ่ง ไม่เข้ามาถึงตัวผมเลย เพราะพลังงานของพระเจ้าตากสินเข้มข้นกว่า ซึ่งไม่ตรงกับชาติที่แล้ว

    พลังงานสืบทอดมาด้วยวิธีใด เป็นปริศนาครับ
     
  3. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829

    ชำระล้างพลังงานเก่าเสียสิ
     
  4. เมขต์

    เมขต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,537
    ค่าพลัง:
    +119
    ยางม่ายโตหรอกครับ ฮ่าา ทานข้าวเย็นกันครับป๋มม ;D
     
  5. เมขต์

    เมขต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,537
    ค่าพลัง:
    +119
    ดวงตะวันปรากฏอยู่ ที่ใด ส่องแสงให้ทุกสิ่งงดงามเสมอครับ โมทนาสาธุครับ (rose)
     
  6. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    อย่าได้สนใจเรื่องจิตเลยครับ เพราะจิตไม่ใช่ของเรา จิตเป็นเพียงเครื่องมือชนิดหนึ่งเท่านั้นที่ต่อเชื่อมนามธรรมกับรูปธรรม สุดท้ายก็ต้องคืนทุกสิ่งกลับ
    คืนสู่ธรรมชาติอยู่ดี สิ่งที่ควรกระทำคือการชำระบาปของตนเอง

    ทำไมต้องชำระบาปของตนเอง ตัวอย่าง สัตว์นรกที่อยู่ในนรก ทำไมต้องไปเกิดในนรก ก็เพราะว่าไม่มีบุญเหลือมากพอกับกรรมบาปจึงต้องไปชำระบาป
    ในนรกเสียก่อน

    มนุษย์ที่เกิดบนโลกแต่ได้รับทุกขเวทนานี้ ก็เหมือนกันครับได้รับทุกข์ที่เกิดจาก ยักษ์ไม่ใช่เจ้ากรรมนายเวรหรอกครับ ยักษ์ที่มาทำหน้าที่คล้ายกับนายนิรบาล ที่ทำหน้าที่ทรมาณสัตว์นรก หรือเรียกภาวะอย่างนี้ว่า นรกบนดิน
    เพราะผู้ที่ถูกยักษ์ทำร้าย ก็เพราะยักษ์ตนนั้นมีหน้าที่เป็นนายนิรบาล

    ตราบใดที่ยังมีกรรมบาปคือยังมีเรื่องที่ต้องชำระกันต่อไปไม่มีเว้น

    ถามว่าเจ้ากรรมนายเวรไปไหน เจ้ากรรมนายเวรก็วนเวียนอยู่ในวัฎฎสังสาร
    ตามปกติหากมีกรรมก็รับกรรมไปตามระเบียบ เหมือนกัน

    จิตหวั่นไหว เพราะมีกรรมบาปติดตัว
    กรรมบาป ถูกสร้างมาเพราะยึดถือตัว มีอัตตา
    ทำอย่างไร ไม่ก่อกรรมบาป คือ ลดอัตตา ละอัตตา
    ทำอย่างไร ลดอัตตา ละอัตตา ถาม วสุธรรม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2012
  7. เมขต์

    เมขต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,537
    ค่าพลัง:
    +119
    เมื่อถึงเวลาหมดงานของจิต จิตก็คืนกลับบ้านครับ ทำงานของจิต จิตหวั่นไหวเพราะมีกรรม ก็ชำระกรรมไป ถอยออกมาดู เหนือละครกรรมของเรา ถอยเข้า ถอยออก ละวางได้ชั่วคราว ก็อาจเป็นกุศลแก่จิต เป็นบุญแล้ว หากอัตตาอุปทานที่ยึดมั่นเราไว้ มาจากความปราถนาทำให้บรรลุวัตถุประสงค์งานของจิตนั้นๆ จิตมีที่ไป ที่สิ้นสุด ที่จบลง ก็สมควรทำให้งานจบลงไหมครับ ตามที่ท่านหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า "สัจจะปลดพันธกิจ" ครับ ขอลาไปรักษาสัจจะ ชำระกรรม และเผาผลาญเชื้อกรรมของตนตามเวลาสมควรครับ
     
  8. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ดีแล้วครับ

    จิตจะไม่สั่นสะท้านเมื่อ เราได้รับการชำระกรรมให้สะอาด
    ไม่มีความบาป ไม่ใช่การฝึกจิตให้สงบ นั่นไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง

    มนุษย์ดั่งเดิม(7ใน10) กำเนิดมาแต่ละมิติมีความเห็นแก่ตัว แสวงหา
    แต่การอยู่รอด โดยมีอัตตาเป็นที่ตั้งเป็นเชื้อ ใครว่ากล่าวตัดเตือนก่ไม่ฟัง

    ธรรมชาติสร้างมนุษย์ให้มีดวงจิต เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจว่า เมื่อทำบาป
    ความสั่นไหวก็จะเกิดขึ้น บาปจะถูกบันทึกไว้ในสังขารขันธ์ ถูกแสดงออก
    มาทางดวงจิต เมื่อบาปมากจิตย่อมหวั่นไหว ไม่สามารถสงบระงับได้

    วิธีการถอดถอนคือการชำระบาปในสิ่งที่บันทึกกรรม จะเรียกอะไร
    ก็สุดแล้วแต่ แต่เราจะเรียกว่าสังขารขันธ์

    เหตุและที่มาของการควร คือทำดวงจิตให้สะอาด โดยชำระกรรมเก่าเสีย
    ก่อนที่นายนิรบาลหรือยักษ์ผู้มีหน้าที่มากระทำแทนเอง

    การฝึกจิตไม่จำเป็น ฝึกจิตให้ได้ฌานระดับสูง เพื่อการสงบนิ่ง เป็นวิธีการคิด
    ที่เสียเวลา และเปล่าประโยชน์ เพราะกรรมบาปไม่มลายหายไป

    ธรรมชาติสร้างมาย่อมมีเหตุ

    นรกเป็นที่ชำระกรรม และทำไม บนโลกมนุษย์จึงจะชำระกรรมไม่ได้
    นรกเป็นที่ให้สำนึก ทำไมบนโลกมนุษย์จึงไม่เป็นที่สำหรับสำนึกตนได้

    อาการเจ็บป่วย พิการ ย่อมมีสาเหตุ การแพทย์อาจจะกล่าวเรื่องการผิดปกติจาก DNA จากยีนหรือโครโมโซม แต่อะไรเป็นเหตุให้ยีนและโครโมโซมผิดปกติเล่า ...
    ความผิดปกติที่เกิดขึ้น บนกายสังขาร คือสัญญาณเตือนภัยให้เราได้รู้ว่า
    เรามีกรรมบาปอะไรบ้าง ... เมื่อรู้แล้วก็นิ่งมันเสีย...ฟ้าใหม่ก็รับประทานมันต่อไป
    ก็แล้วกัน....

    บนโลกมนุษย์มีการเปลี่ยนแปลง ที่รวดเร็ว
    หากไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่ยังอยู่บนโลกมนุษย์ก็ยากที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง

    บุรุษผู้ฝั่งแน่นด้วย ความอิจฉา ริษยา ก็คือบุรุษที่ห่างไกลจากมิติของการกลับคืน
    ตราบใดที่ยัง วนเวียนกับการ อิจฉา ริษยา แล้วคือการสร้างมิติที่ฝั่งตนเองไว้ตลอดกาล

    มนุษย์มีอิสระที่จะเป็น อิสระที่จะไป อิสระที่จะสร้าง
    ทำแต่สิ่งดี คิดแต่สิ่งดี สิ่ง ดี ก็จะ มาหาตนเอง
    ทำแต่สิ่งชั่ว คิดแต่สิ่งชั่ว สิ่ง ชั่ว ก็จะ มาหาตนเอง

    ดูเหมือนสัจจะธรรม แสนจะธรรมดา แต่สิ่งนี้ล่ะ คือ ของวิเศษที่สุด
    และขณะเดียวกัน ธรรมชุดเดียวกันก็คือนรก ได้เช่นกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2012
  9. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    คิดแต่สิ่งชั่ว คิดว่าผู้อื่นชั่วอย่างนั้น อย่างนี้

    การคิดคือการเปิดมิติ อย่างหนึ่ง
    การคิดคือการสร้างมิติ อย่างหนึ่

    คิดชั่ว สั่งความชั่วแผ่ขยายออกไป คือ การเปิดมิติเข้าหาสิ่งชั่วให้ได้เห็น
    ได้รู้ ว่ากลุ่มหรือพวกเดียวกันอยู่ที่ใด

    เมื่อผู้ที่เป็นพวกเดียวกันรู้ว่า มีความถี่หรือคลื่นเดียวกัน มีอยู่ก็จะมาหา
    และรู้เป้าหมาย และจะมาอยู่ด้วย

    บุคคลนั้นจะกลายเป็นบริวารของ สิ่งชั่วร้ายเหล่านั้น คือ มีเปรต มีอสูรกาย
    ต่างๆ มีวนเวียนอยู่ ใกล้ๆ คือจะได้กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์เหม็นอยู่ตลอดเวลา
    เช่น คาว บาง เน่า บาง

    เปรต และ อสูรกาย เหล่านี้ จะสามารถส่งความถี่ให้มนุษย์ที่มันวนเวียน อาศัย
    อยู่ ให้มีความคิด ความอ่าน เหมือนกับมันได้คือ ความโลภะ โมหะ หรือรวมไปถึง
    โทสะ ได้

    การเปลี่ยนแปลงเริ่มจาก มนุษย์

    มนุษย์เป็นผู้เริ่มต้นแสวงหา สิ่งไม่ดี เข้าหาตัว
    หลังจากนั้น สิ่งไม่ดีที่มาอยู่ ด้วยก็จะครอบงำ และมาขอพลัง

    ไม่ว่าสิ่งนั้นจะ เป้น เปรต อสูรกาย หรือ แม้นแต่เหล่าปู่พรหมฤษี ก็ เสมือนกัน ไม่แตกต่าง จากเหล่า เปรต อสูรกาย
     

แชร์หน้านี้

Loading...