พระโพธิสัตว์ พระผู้ทรงเป็นดั่งพลังของแผ่นดิน

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย 5314786, 3 พฤษภาคม 2014.

  1. สุวฑฒโน

    สุวฑฒโน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +16
    ทรงพระเจริญ
     
  2. buakwun

    buakwun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    2,830
    ค่าพลัง:
    +16,613
    ท่านทรงเป็นพลังของแผ่นดินจริง ๆ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
     
  3. DR-NOTH

    DR-NOTH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    581
    ค่าพลัง:
    +1,276
    ในหลวงของปวงชนชาวไทยนั้นทรงเปี่ยมล้นด้วยพระเมตตา มีจิตมหาโพธิสัตว์ ทรงบำเพ็ญบารมีธรรมได้อย่างประเสริฐ...
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญขอรับ..

    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ (ควรมิควรแล้วแต่จะทรงพิจารณา)
     
  4. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,801
    [​IMG]

    ธรรมะ หรือ อธรรม

    ครั้งหนึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ สกลนคร พระท่านเก่ง ใช้ปัญญานำ ตอนนั้นเสด็จพระราชดำเนินผ่านถานพระเด็กรุ่นใหม่คงไม่รู้จักถานพระ ไม่ใช่ฐานรองรับพระพุทธรูป แต่หมายถึงห้องน้ำ ส้วม ศัพท์โบราณเรียกว่าถาน ถานพระเรียงกันเป็นแถวพระท่านก็ให้ไปเก็บรวบรวมมาใส่เพื่อต่อท่อมาลงในหลุมก๊าซชีวภาพ แล้วก็ต่อท่อเข้าโรงครัว

    พระองค์ท่านเสด็จฯ มาถึงก็รับสั่งถามเจ้าอาวาสว่า..
    "พระคุณเจ้า...ถานพระที่ใช้ถ่ายของเสียที่ถ่ายออกมาเป็นธรรมะหรือเป็นอธรรม"

    เจ้าอาวาสก็ตอบว่าเป็นอธรรม พระองค์ท่าก็เสด็จพระราชดำเนินไปตามท่อ ไปถึงบ่อชีวภาพที่กำลังเดือดปุดๆ ตรัสถาม "พระคุณเจ้า ตรงนี้เป็นธรรมะหรืออธรรม"

    พระคุณเจ้าก็กราบทูลว่า ยังเป็นอธรรมอยู่เพราะเป็นของบูด ของเสีย ของเน่า เมื่อพระองค์ท่านเสร็จพระราชดำเนินต่อไปตามท่อนั้น เข้าไปในครัว ปรากฏว่ากำลังต้มน้ำอยู่ เพื่อจะชงชาถวายพระองค์ท่านก็ตรัสถามอีก... "พระคุณเจ้าตอนนี้เป็นอธรรมหรือธรรมะ"

    พระคุณเจ้ากราบทูลว่าเป็นธรรมะแล้ว เพราะว่าเกิดประโยชน์ขึ้นแล้ว...

    ธรรมะสอนอะไร เรื่องนี้สอนให้คนเราใช้ชีวิตครบวงจร ต้องใช้ให้ครบประโยชน์จึงเกิดขึ้นได้ บริโภคเข้าไป ถ่ายออกมา มีกระบวนการแปรสภาพออกมาเป็นก๊าซนำมาใช้ได้อีก มูลยังอยู่ในบ่อนั้น เมื่อล้างบ่อชีวภาพ มันอาจย่อยสลายไปหมด ก็นำไปใส่เป็นปุ๋ยที่ต้นไม้ ต้นไม้นั้นก็เกิดงอกงาม เป็นพลังงานให้ต้นไม้ ต้นไม้แตกกิ่งก้านสาขา แตกใบออกมาร่วงหล่น ไม้บางอันก็ถูกนำไปเผาเป็นถ่านต่อกันไปไม่รู้จบ เราเรียกกันอย่างง่ายๆ ว่า การพัฒนาอย่างยั่งยืนนั้นเอง...
     
  5. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,801
    [​IMG]

    คุณพระเศวตฯ ช้างเผือกคู่พระบารมี

    เรื่องเล่าของ “ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช” ที่ “สร้อยสรวง แสนสุรศิลป์”
    ย่นย่อมาเล่าไว้ว่าด้วยช้างเผือกคู่พระบารมีของในหลวงกับหมาน้อยตัวหนึ่ง

    “เมื่อคุณพระเศวตฯ ยังเป็นลูกช้างเล็กๆ อยู่ที่บ้านกำนันในจังหวัดยะลา และยังไม่ได้ถวายตัวขึ้นระวางนั้น ปรากฏว่านางเบี้ยว (สุนัข) เป็นโรคอย่างหนักขนาดชักกระตุกไปทั้งตัว แทบจะเอาชีวิตไม่รอดอยู่แล้ว แต่ก็สู้อุตส่าห์กระเสือกกระสนคลานมาถึงที่คุณพระเศวตฯ อยู่ และเลียกินน้ำอาบของคุณพระเศวตฯ เข้าไป อาการป่วยทั้งปวงก็หายเป็นปกติ เดินเหินได้ตามเดิม รอดชีวิตมาได้

    นางเบี้ยวก็กตัญญูรู้คุณ ติดตามคุณพระเศวตฯ เรื่อยมา ไม่ยอมห่าง
    คุณพระก็เมตตาเอ็นดูนางเบี้ยวถือว่านางเบี้ยวเป็นหมาของคุณพระ

    เมื่อถึงคราวที่คุณพระเศวตฯจะต้องเข้ามาอยู่กรุงเทพฯเพราะเป็นช้างต้นขึ้นระวางแล้ว
    ทั้งคุณพระเศวตฯและนางเบี้ยวก็ทุรนทุรายเดือดร้อนมาก นางเบี้ยวร้องทั้งกลางวันและกลางคืน
    จะตามคุณพระมาด้วย

    เมื่อความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท จึงมีพระราชกระแส ว่า ช้างทั้งตัวยังเอาไปได้
    ทำไมหมาอีกตัวเดียวจะเอาไปไม่ได้ ให้เอาหมาไปด้วยเถิด สงสารมัน อย่าไปพรากมันเลย

    นางเบี้ยวติดตามเข้ามาอยู่กับคุณพระเศวตฯ เล็กในสวนจิตรลดาด้วย และเป็นที่รักชอบของคนในวัง เมื่อเข้ามาอยู่ในรั้วในวังก็เลื่อนฐานะขึ้นเป็นแม่เบี้ยว บางคนเรียกคุณเบี้ยวด้วยซ้ำไป และได้ออกลูกออกหลานไว้ที่โรงช้างนั้นเป็นจำนวนมาก

    แม่เบี้ยวตายไปหลายปีแล้ว แต่คุณพระเศวตฯ ก็ยังเลี้ยงลูกหลานแม่เบี้ยวสืบมา เวลาคุณพระเศวตฯ ออกเดินในสวนจิตรลดาหมาคุณพระทั้งปวงก็วิ่งตามเป็นฝูงและเชื่อฟังคุณพระทุกอย่าง

    เมื่อครั้งพระนางเจ้าอลิซาเบธแห่งกรุงอังกฤษเสด็จพระราชดำเนินที่พระตำหนักจิตรลดา คุณพระเศวตฯ ก็มายืนคอยรับเสด็จ หมาทั้งปวงของคุณพระก็มาวิ่งเล่นกันอยู่เต็มสนาม

    ผมบังเอิญไปเห็นเข้าก็เข้าไปกระซิบคุณพระว่า หมา กระจัดกระจายเต็มทีแล้ว คุณพระได้ยินดังนั้น ก็ร้องเหมือนเสียงแตร หมาทั้งปวงก็วิ่งกลับมารวมกันอยู่บริเวณต้นไม้ใกล้ๆ คุณพระ ไม่ซุกซนต่อไป มีอยู่ตัวหนึ่ง ซึ่งคุณพระออกจะรักมาก วิ่งเข้ามาอยู่ใต้ท้องคุณพระ อาศัยคุณพระเป็นเงาบังร่ม

    [​IMG]

    ควาญเล่าว่า เวลากลางคืนหมาหลายสิบตัวเหล่านี้ จะนอนแวดล้อมคุณพระ ใครเดินเข้าไป
    .นเวลากลางคืนก็จะเห่าขึ้นพร้อมกัน และถ้าใครขืนเดินตรงไปถึงตัวคุณพระ ก็คงโดนหมารุมกัดแน่ๆคุณพระเศวตฯ เล็กมีความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างน่าอัศจรรย์
    แลเห็นพระองค์ต้องยกงวงขึ้นจบถวายบังคมทุกครั้งโดยไม่ต้องมีใครบอก และถ้าเสด็จพระราชดำเนิน
    ลงไปเยี่ยมที่โรงช้าง คุณพระก็จะเฝ้าฯ ไป และถวายบังคมไปเป็นระยะไม่มีขาด

    จนพระกรุณาตรัสว่า "ไม่ต้องถวายบังคมบ่อยถึงเพียงนั้น” คุณพระจึงจะหยุดถวายบังคม
     
  6. ศรีธรรม

    ศรีธรรม สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +1
  7. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,801
    [​IMG]

    “ความดีสร้างกำลังใจ เป็นเหมือนการฉีดยาป้องกันโรค”

    ...เราต้องทำในสิ่งที่ดีที่ชอบตลอดไปเป็นเวลานานอาจน่าเบื่อ แต่แม้กระนั้นอย่างเพิ่งท้อใจ แม้กระนั้น บางทีเราทำตลอดชีวิตแล้วก็ยังไม่พอ แต่ทำไมเมืองไทยอยู่ได้ก็เพราะว่าบรรพบุรุษของเราทำมาเป็นแรมปีเป็นร้อยๆ ปีทำมาด้วยความสุจริตใจ…

    ...ประเทศไทยนี่ทำไมอยู่ได้ ก็เพราะพวกเราทุกคน ถ้าเราสร้างความดีคือทำปฏิบัติในสิ่งที่บริสุทธิ์ใจที่สุจริต ที่ตั้งใจดีมันอาจมีผิดพลาดบ้าง แต่ว่าไม่ได้ตั้งใจผิดพลาด...

    ...ตั้งใจทำดี ก็เป็นการสร้างกำลังของบ้านเมือง ทำให้เป็นเหมือนฉีดยาป้องกันโรค ซึ่งถ้าเราฉีดยาป้องกันโรควันนี้ พรุ่งนี้ไม่ใช่ไม่ได้ผล หมอก็ทราบดี ถ้าเราฉีดยา ต้องได้ครบโดสถึงจะป้องกันโรคภัยไข้เจ็บได้...

    ...การป้องกันให้ครบโดส เราต้องทำในสิ่งที่ดีที่ชอบตลอดไปเป็นเวลานานอาจน่าเบื่อ แต่แม้กระนั้นอย่างเพิ่งท้อใจ แม้กระนั้น บางทีเราทำตลอดชีวิตแล้ว ก็ยังไม่พอ...

    ...แต่ทำไมเมืองไทยอยู่ได้ ก็เพราะว่าบรรพบุรุษของเราทำมาเป็นแรมปีเป็นร้อยๆ ปีทำมาด้วยความสุจริตใจ...

    ที่มา :พระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หนังสือคำพ่อสอน ในโครงการตามรอยเบื้องพระยุคลบาทด้วยความรักและความดี 60 ปี 60 ล้านความดีถวายในหลวง น้อมเกล้าถวายในหลวง
     
  8. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,801
    [​IMG]
    [​IMG]

    ความซื่อสัตย์

    ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง เด็กๆ จึงต้องฝึกฝนอบรมให้เกิดมีขึ้น
    ในตนเอง เพื่อจักได้เติบโตขึ้นเป็นคนดีมีประโยชน์ และมีชีวิตที่สะอาด ที่เจริญมั่นคง

    พระบรมราโชวาท พระราชทานเพื่อเชิญลงพิมพ์ในหนังสือวันเด็ก ปี พุทธศักราช 2531
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤษภาคม 2014
  9. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,801
    [​IMG]



    ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดี และคนไม่ดี ไม่มีใครที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด
    การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุขเรียบร้อยจึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี

    หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีปกครองบ้านเมือง
    และควบคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้


    พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
     
  10. Tingel

    Tingel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2007
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +184
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
     
  11. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,801
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,801
    [​IMG]

    งาน

    “งานทุกอย่างมีบุคคลซึ่งมีชีวิตจิตใจ มีความนึกคิดเป็นผู้กระทำ ถ้าผู้ทำมีจิตใจไม่พร้อมจะทำงาน
    เช่น ไม่ศรัทธาในงาน ไม่สนใจผูกพันกับงาน ผลงานที่ทำก็ย่อมบกพร่อง ไม่คงที่ ต่อเมื่อผู้ปฏิบัติ
    มีศรัทธา เข้าใจซึ้งถึงประโยชน์ของงาน พร้อมใจและพอใจที่จะขวนขวายปฏิบัติงานโดยเต็มกำลัง
    ความสามารถ งานจึงจะดำเนินไปได้โดยราบรื่น และบรรลุผลตามที่มุ่งหมาย”

    พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๓๖
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,801
    [​IMG]

    กาแฟเพียงต้นเดียว

    เมื่อประมาณ40กว่าปีมาแล้ว ทางภาคเหนือของประเทศไทย โดยเฉพาะชาวบ้านที่อยู่กันตามภูเขา
    นิยมปลูกพืชที่เรียกกันว่า ฝิ่น ซึ่งพืชนี้สามารถนำมาสกัดเป็นยาเสพติดร้ายแรงได้มากมาย
    และประเทศไทยในขณะนั้นก็เป็นแหล่งเพาะปลูก ฝิ่น เป็นอับดับต้นๆของโลก

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงค้นคว้าพัฒนาและหาวิธี ว่าทำอย่างไรชาวบ้านแถบภาคเหนือ
    จึงจะเลิกปลูกฝิ่นได้ จึงได้ทรงวิจัยและทดลอง นำพืชเศรษฐกิจ ที่คาดว่าน่าจะเจริญเติบโตได้ดี
    ในแถบนี้และมีราคาสูง ให้ชาวบ้านได้ทดลองปลูก ซึ่งในตอนนั้นก็คือต้น กาแฟ

    พระองค์ได้ทรงเสด็จขึ้นเขาสูงชัน ด้วยความยากลำบาก อยู่หลายต่อหลายครั้ง
    เพื่อชักชวนให้ชาวเขาหันมาเพาะปลูกกาแฟแทนฝิ่น

    จนเมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๗ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ไปทอดพระเนตรไร่กาแฟ
    ที่ชาวกะเหรี่ยงปลูกไว้ บริเวณพื้นที่บ้านอังกาน้อย ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่

    โดยที่ไร่แห่งนั้นมีต้นกาแฟเพียงต้นเดียว

    มีพระราชกระแสกับข้าราชบริพารที่อยู่ในขบวนเสด็จฯ ที่ไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ในการเสด็จฯ
    ข้ามเขาสูงมาเพื่อการนี้ด้วยพระสุรเสียงที่เปี่ยมไปด้วยพระเมตตาว่า

    "...แต่ก่อนเขาปลูกฝิ่น เราไปพูดจาชี้แจงชักชวนให้เขามาลองปลูกกาแฟแทน
    กะเหรี่ยงไม่เคยปลูกกาแฟมาก่อน ยังดีที่กาแฟไม่ตายเสียหมด แต่ยังเหลืออยู่หนึ่งต้นนั้น
    ต้องถือว่าเป็นความก้าวหน้าสำหรับกะเหรี่ยง..."


    จึงต้องเสด็จฯ ไปทอดพระเนตรจะได้แนะนำเขาต่อไปว่า ทำอย่างไรกาแฟจึงจะเหลืออยู่
    มากกว่าหนึ่งต้น ปรากฏว่าปีต่อมาราษฎรชาวกะเหรี่ยงดอยอินทนนท์ขายกาแฟได้เป็นเงิน
    ต่อไร่ต่อปีสูงกว่าที่เคยขายฝิ่นได้สำเร็จ

    วันนี้กาแฟของในหลวงที่ทรงพระราชทานกลับให้เกษตรกร ไม่ได้เป็นเพียงต้นกาแฟ
    ที่สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรเท่านั้น แต่ยังเป็นต้นกำเนิดของกาแฟอาราบิก้าโครงการหลวง
    และ อาราบิก้าในประเทศไทยอีกนับพัน หมื่น แสนต้นในวันนี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,801
    [​IMG]

    ทรงลำบากตรากตรำเพื่อประชาชนผู้ยากไร้...

    “...เวลาเสด็จฯ ไปที่ไหน พระองค์จะเสด็จฯ พระราชดำเนินนำไปก่อน เราก็วิ่ง
    คนในขบวนก็วิ่งกันกระเจิง ตามเสด็จฯ ไม่ค่อยทัน พระองค์ทรงพระราชดำเนินเก่ง...”

    “...เวลาเสด็จพระราชดำเนินก็จะทรงนำ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
    และบางครั้งก็ต้องทรงช่วยให้เสด็จฯ ขึ้นเขา แล้วก็ ทรงร้องเพลงลูกทุ่งอยู่บนเขา
    ’ตายแน่คราวนี้ต้องตายแน่ ๆ“

    เวลาตามเสด็จฯ จึงลำบาก จะวิ่งหนีเข้าร่ม หรือแอบไปกินอะไรอย่างนี้ไม่ได้
    ไม่ใช่ว่าพระองค์ทรงห้ามไม่ให้เรากิน ไม่ให้เราหลบแดด
    พระองค์ก็ทรงไม่หลบแดด ไม่ได้เสวยด้วยเหมือนกัน

    บางครั้งพระองค์เองทรงประสงค์ให้คนที่ตามเสด็จฯ ได้รับประทานด้วยซ้ำ
    เมื่อรับประทานเสร็จแล้วจะได้พร้อมที่จะทำงาน
    แต่ส่วนใหญ่เจ้าภาพจะบอกว่า พวกนี้ไม่สุภาพ
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังไม่เสวย แล้วทำไมถึงกินก่อน
    เป็นบาปกรรม คนเขาก็คิดอย่างนั้น พระองค์เองทรงลำบากกว่าคนอื่นเสียด้วยซ้ำ
    ตากแดดก็ตากด้วยกัน เพราะฉะนั้น ฉันนี่มีวิตามินดีเยอะมากเลย กระดูกแข็งแรง...”

    (เรื่องเล่าจากพระเทพฯ ‘หลักทรงงาน’ ในหลวงของคนไทย)
     
  15. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,801
    [​IMG]

    “...เวลาตามเสด็จฯ นั้น หากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงขึ้นเขา
    เราก็ต้องปีนเขาด้วย พระองค์ทรงรับสั่งว่า การทำงานพัฒนา ร่างกายเราต้องแข็งแรง...”

    “...ฉันเคยฝึกให้แบกของเดินขึ้นเขา เพราะถ้าเกษตรกรพื้นที่สูงอยากให้เราเดิน
    ขึ้นไปดูไร่ของเขาบนภูเขา ก็ควรพยายามไป เขาชี้ให้ไปดูอะไรก็ต้องไป

    ถึงแม้บนยอดเขาจะมีกาแฟเพียงต้นเดียวก็ต้องขึ้นไป

    บางครั้งปีนเขาตั้งหลายลูก เราก็ต้องไป เพื่อเป็นกำลังใจให้เกษตรกร และผูกมิตรด้วย ไม่ว่าจะเป็นใคร อยู่ที่ไหน พระองค์เสด็จฯ ไปทุกที่ ที่เห็นพระบรมฉายาลักษณ์ในหนังสือ ที่ พระองค์ทรงขับรถพระที่นั่งลงไปอยู่กลางน้ำ แถวจังหวัดนราธิวาส พอเปิดประตูออกไปเป็นพงหนามพอดี นอกจากลงน้ำแล้วยังมีพงหนามอยู่ในน้ำด้วย และพอเวลาเสด็จฯ ไปถึงที่ไหนก็จะทรงมีพระราชปฏิสันถารกับทุกคน จนมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งบอกว่า ถ้าขืนทรงทักคนทุกจุดอย่างนี้กว่าจะถึงวังก็ Good Morning

    และไปทีไรก็ Good Morning ทุกที...”.

    (เรื่องเล่าจากพระเทพฯ ‘หลักทรงงาน’ ในหลวงของคนไทย)
     
  16. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,801

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,801
    [​IMG]

    พระบรมฉายาลักษณ์เมื่อเสด็จทรงงานที่สามจังหวัดชายแดนใต้

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงไม่กลัวเกรงต่ออันตรายในชายแดนใต้
    เมื่อครั้งเสด็จไปทรงพระราชกรณ๊ยกิจสามจังหวัดชายแดนใต้ที่ในอดีตมีเหตุร้ายบ่อยครั้ง นำมาให้เป็นขวัญกำลังใจตำรวจ-ทหาร ที่รักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่นี้ครับ

    ประมาณปี ๒๕๑๔-๒๕๑๘ ใขณะนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีโครงการพระราชดำริเป็นโครงการแรก ช่วงที่พระองค์ท่านเสด็จฯ แปรพระราชฐานไปภาคใต้ คือ โครงการพรุบาเจาะ แล้วมีโครงการอื่นตามมาอีกหลายโครงการ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เหตุการณ์ทางบ้านเรา

    โดยเฉพาะที่นราธิวาส ยะลา ปัตตานี ค่อนข้างรุนแรง กลุ่มโจรสมัยนั้นไม่ค่อยทำร้ายเจ้าหน้าที่ แต่ทำร้ายประชาชน ถึงขั้นเคยเข้ามาจับพ่อค้าในตลาดนราธิวาสไปเรียกค่าไถ่ ไม่ให้ก็โดนฆ่า แต่พระเจ้าอยู่หัวท่านก็เสด็จฯ แปรพระราชฐานไปเยี่ยมเยียนราษฎรทุกปี พรุบาเจาะสมัยนั้นพูดได้ว่าเป็นที่ซ่อนแห่งหนึ่งของพวกโจร แต่พระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรเกือบทุกวัน เราก็ใจไม่ดี พระองค์ท่านเสด็จฯ ไปทรงงานในพื้นที่ที่อันตรายมาก

    แล้วเวลาพระองค์ท่านเสด็จฯ กลับมักจะเป็นเวลาค่ำ เส้นทางที่ผ่านเป็นถนนลูกรังฝุ่นตลบ ราษฎรมาตั้งโต๊ะบูชารับท่าน ทั้งชาวไทยพุทธและไทยมุสลิม มาคอยอยู่ตั้งแต่เย็นกระทั่งค่ำ สองทุ่ม สามทุ่มพระองค์ท่านทรงโปรดให้ขบวนจอดทุกครั้ง ถนนมืดมิดไฟไม่มีเลย ต้องเอาไฟฉายส่อง

    ชาวบ้านที่รอรับเสด็จฯ จะถวายกล้วย มะพร้าว เงาะ ทุเรียน ผลไม้ตามประเพณีของชาวปักษ์ใต้ พระองค์ท่านแวะรับทุกจุดไม่มีเว้น ผมดูแล้วหน่วยรักษาความปลอดภัยคงยากที่จะถวายอารักขา หากจะมีคนคิดไม่ดีกับพระองค์ท่าน แต่ด้วยพระบารมีโดยแท้ที่พระองค์ท่านได้ทรงตรากตรำทรงงานเพื่อความผาสุกของปวงชนชาวไทยโดยไม่เลือกศาสนาหรือเผ่าพันธุ์ จึงไม่มีราษฎรคนไหนที่จะไปคิดร้ายต่อพระองค์ท่านแน่นอน

    ข้อมูลโดย ท่านองคมนตรี สวัสดิ์ วัฒนายากร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,801
    [​IMG]

    “การจะพัฒนาทุกสิ่งทุกอย่างให้เจริญนั้นจะต้องสร้างและเสริมขึ้นจากพื้นฐานเดิมที่มีอยู่ก่อนทั้งสิ้น
    ถ้าพื้นฐานไม่ดีหรือคลอนแคลนบกพร่องแล้ว ที่จะเพิ่มเติมเสริมต่อให้เจริญขึ้นไปอีกนั้น ยากนัก
    ที่จะทำได้ จึงควรจะเข้าใจให้แจ้งชัดว่า นอกจากจะมุ่งสร้างความเจริญแล้ว
    ยังต้องพยายามรักษาพื้นฐานให้มั่นคง ไม่บกพร่อง พร้อมๆกันได้”

    พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๒๓
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 6536471cb.gif
      6536471cb.gif
      ขนาดไฟล์:
      143.9 KB
      เปิดดู:
      1,032
  19. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,801
    [​IMG]

    “ความเจริญของประเทศชาติ เป็นความเจริญส่วนรวม ซึ่งเกิดจากผลงานหรือผลของการกระทำ
    ของคน ทั้งชาติ ถือได้ว่าทุกคนแบ่งหน้าที่กันทำประโยชน์ให้แก่ชาติ ตามความถนัดและความสามารถ
    และเกื้อกูลกันและกัน ไม่มีผู้ใดจะอยู่ได้และทำงานให้แก่ประเทศชาติได้โดยลำพังตนเอง”

    พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๑๓
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 4.jpg
      4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      86.7 KB
      เปิดดู:
      1,088
  20. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,801
    [​IMG]

    “เป็นความจริงอยู่โดยธรรมดา ที่บุคคลในสังคมนั้นย่อมมีอัชฌาสัยจิตใจแตกต่างเหลื่อมล้ำกัน
    เป็นหลายระดับ ขึ้นอยู่กับพื้นฐานภูมิธรรมของตน บางคนก็มีความคิดจิตใจสูง
    มีความประพฤติปฏิบัติดีงาม เป็นคุณเป็นประโยชน์อยู่แล้วเป็นปกติ

    แต่บางคนไม่สามารถจะทำเช่นนั้นได้ เพราะยังไม่เห็นคุณค่าของการปฏิบัติดี
    จึงมักก่อปัญหาให้เกิดแก่สังคม คนเรานั้น สำคัญอยู่ที่ควรจะได้ปรารภปรารถนา
    ที่จะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเป็นลำดับ เพื่อให้ชีวิตเป็นสุข และเจริญรุ่งเรือง”

    พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทาน
    เพื่ออัญเชิญไปอ่านในพิธีเปิดการประชุมยุวพุทิกสมาคมทั่วประเทศ ครั้งที่ ๑๖
    ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๒๔
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...