พระแก้วบารมี

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 2 กรกฎาคม 2010.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    การสร้างพระแก้วบารมีจากแก้วกายสิทธิ์

    แก้วบารมีกายสิทธิ์ต่าง ๆ ล้วนเกิดขึ้นมาจากธาตุธรรมชาติผ่านกาลเวลานานนับประมาณมิได้ เกิดขึ้นจากแผ่นพื้นดินแห่งพระแม่ธรณี

    แก้วบารมีกายสิทธิ์ที่สำคัญมีสีขาวใสบริสุทธิ์ หรือมีสีหมอก สีชา สีเขียว สีฟ้า สีชมพู แดง หลากหลายสี มีจักรพรรดิ์กายสิทธิ์รักษามีฤทธิ อำนาจ อานุภาพมากแตกต่างกัน

    หินแก้วสีขาวใส จะนำมาเจียรนัยเป็นดวงแก้วบารมี มาแกะสลักเป็นพระแก้วอันศักดิ์สทธิ์ มีการแกะเป็นพระศรีอารย์ พระโพธิสัตว์กวนอิม พระสังกัจจาย มีบางปางถือดวงแก้วบารมี แก้วมณีโชติ แก้วสารพัดนึก ใช้บำเพ็ญธรรม สมาธิจิต ดีเยี่ยม แม้เจริญวิชาธรรมกาย ก็เป็นผลยิ่ง

    แก้วบารมีกายสิทธิ์สีชมพู เป็นแก้วกายสิทธิขนาดใหญ่ และเล็ก ตามแต่ท่านผู้มีบารมีครอบครอง มีสีสวย ทำให้เจริญตาเจริญใจ นิยมนำมาเป็น ดวงแก้วบารมี เป็นพระพุทธรูปไว้บูชา เป็นแก้วที่มีค่ามาก ในยุคสมัยหลวงพ่อสดท่านต้องการมาทำวิชาธรรมกายชั้นสูงกลับหาได้ยากยิ่ง เพิ่งมาขุดพบ และมีมากในยุคนี้ ดังนั้นเมื่อพบของดี ควรหามาเก็บไว้บูชาเสริมสร้างบารมีแก่ตนและครอบครัว


    แก้วกายสิทธิ์สีม่วง เป็นหินแก้วกายสิทธิ์ที่หายาก และมีค่ามาก เพราะปัจจุบันชาวโลกยอมรับ จัดเป็นรัตนชาติ นิยมมาเจียรนัยเม็ดพลอย มีความเชื่อถือกันทุกชาติภาษาว่าเป็นแก้วสำคัญตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ภาษาอังกฤษเรียกว่า พลอยอามิทิสท์ นำมาเจียรนไนเป็นพระพุทธรูป ดวงแก้ว หรือนำมาเป็นหินแก้วผลึกทั้งอันตั้งในบ้านเรือนเสริมสร้างพลังให้กลับสถานที่ และผู้อยู่อาศัย มีสีม่วงสดเจริญตาเจริญใจ ช่วยในการบำบัดรักษา ทำสมาธิ วิชาธรรมกาย ทำสมาธิได้โดยง่าย

    แก้วกายสิทธิ์สีน้ำชา มีลักษณะขาวใส เนื้อแกร่ง พบได้ยากและมีค่ามาก นำมาแกะเป็นดวงแก้ว เป็นพระสังกัจจาย พระพุทธรูป มีราคาแพง ช่วยในการฝึกสมาธิขั้นสูงได้อีกด้วย

    แก้วกายสิทธิ์ทั้ง 4 ชนิดนี้ จะพบในแบบผลึกธรรมชาติเป็นก้อน เป็นแท่ง หรือแกะสลักเป็นพระพุทธรูป พระสังกัจจาย พระแม่กวนอิม เป็นดวงแก้ว และเครื่องประดับตัว ก็จะมีผลในด้านกาย และใจ ช่วยบำบัดรักษากายใจให้มีความสุขทั้งทางโลกและทางธรรม

    แก้วบารมีกายสิทธิ์ชนิดที่มีรูปร่างเป็นแท่งหกเหลี่ยม ตามธรรมชาติ เรียกเป็นภาษาบาลีในพระไตรปิฏกว่าหินแก้วผลึก (ผลิกะ) เรียกตามภาษาท้องถิ่นเหนือ "หินแก้วกายสิทธิ์โป่งข่าม" เมื่อพบเป็นก้อนแก้วขาวใส หรือมีม่านเมฆ หมอก ผลึกเงิน ทอง นาก ช่อแก้ว ไหมทอง ไหมเหล็ก หรือแก้วขนเหล็ก ก็เก็บไว้ประจำบ้านเรือน หรือใส่ติดกายก็จะมีอานุภาพป้องกันภัย เสริมสร้างราศี มีอำนาจ บารมี เมตตาในตัวตน มีความวิเศษศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่นิยมนับถือมาแต่โบราณกาล ท่านว่าช่วยป้องกันไฟ ถ้าพบผลึกเหลี่ยมทั้งสองด้าน เรียกแก้วกายสิทธิ์แก้วโตน หรือแก้วกายสิทธิ์พระปัจเจกพุทธเจ้าชาวเหนือนิยมหาเก็บไว้บูชากับบ้านเรือน ช่วยให้ร่มเย็นเป็นสุข คุ้มภัยอันตรายต่าง ๆ ได้ นิยมเก็บรักษาไว้ตามธรรมชาติ ไม่ตัด หรือเจียรนัยเป็นอย่างอื่นเพราะจะเสียพลังอานุภาพ ความวิเศษศักดิ์สิทธิ์จะน้อยลงไป แก้วกายสิทธิ์แก้วโตนนี้มีฤทธิเดชหายไปมาเองได้จัดเป็นแก้วปาฏิหาริย์ มีอานุภาพมาก ใครมีแก้วกายสิทธิ์นี้ติดตัว แตน ต่อ ผึ้ง แมลงป่อง ตะขาบสัตว์มีพิษจะไม่ทำร้าย ช่วยให้แคล้วคลาดจากอุปทวันตรายทั้งปวง ประสบผลมาแต่ยุคโบราณแล้ว จัดเป็นแก้วกายสิทธิ์หายาก เรียกว่ากายสิทธิ์สำเร็จ หรือกายสิทธิ์พระปัจเจกพุทธเจ้า
    <!-- / message --><!-- edit note -->
     
  2. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    แก้วบารมีกายสิทธิ์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือ ในอำนาจบารมี

    คือแก้วบารมีโป่งข่าม ในตำนานล้านนาโบราณ ได้กล่าวถึงแก้วกายสิทธิ์ที่พระอินทร์ ประทานให้แก่มนุษย์ผู้มีบุญบารมีสั่งสมมาดีแล้วเพื่อคุ้มครองรักษา ให้ผู้ครอบครองมีความสุข แห่งโลก อันมีความเจริญรุ่งเรืองในสิ่งปรารถนา ทุกประการ และความสุขทางธรรมเป็นการช่วยเจริญสมาธิ ภาวนา ให้เป็นผลสำเร็จได้โดยง่าย เป็นทางเข้าถึงเหตุแห่งมรรค ผล นิพพาน

    ดวงแก้วบารมีกายสิทธิ์ ที่หล่นลงมาจากฟากฟ้า จากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มีทั้งหมด 24 ดวง หรือ 24 ตระกูลดังนี้

    1.แก้วมหานิลไชยโชค มีลักษณะแก้วสีดำดุจนิล
    2.แก้ววิทูรย์ เป็นแก้วที่มีหลายสีด้วยกันในที่นี้ไม่ได้ระบุว่าเป็นสีใด
    3. แก้วผักตบ เป็นแก้วที่มีสีดังผักตบชวา
    4. แก้ววิทูรย์ฝนแสนห่า มีลักษณะลายในเนื้อแก้วดัง สายฝนตกลงมาจากฟ้า เมื่อส่องกับแดดแล้วดูเหมือนยามที่ฝนตกแดดออกนั่นเอง
    5. แก้วบัวรกต หมายถึงแก้วสีเขียวมรกต
    6. แก้วสุริยะประภา เป็นแก้วมีสีแดงดั่งพระอาทิตย์
    7. แก้วประภาชมชื่น
    8. แก้ววชิระเป็กพรหมสามหน้า แก้วชนิดนี้มีหลายชนิด เช่นการเกิดลายในแก้วเป็นรูปสามเหลี่ยมอยู่ภายใน หรือการเกิด เป็นแก้วชั้นสูงมารวมตัวกันในเนื้อแก้วตัวเดียวดวงเดียว
    9. แก้ววิทูรย์ขันธะ
    10. แก้วปทมัคราค มีสีแดง บางชนิดมีลายเรียกว่าดาวหรือ สตาร์อยู่ด้วย
    11. แก้วจันทะแพงค่าหมื่น
    12. แก้วสุริยะ
    13. แก้วมหานิลทรายคำ
    14. แก้วพระยาอิศวร
    15. แก้ววิทูรย์องค์วิเศษขนบุ้งเทศไหมสน
    16. แก้วก้อแดงผจญปราบแพ้ศัตรู
    17. แก้วสีปะสีใสสะอาด
    18. แก้วปะทัมก่าน
    19. แก้ววิทูรย์เทศ
    20. แก้ววิทูรย์ผิวเผือก เป็นแก้วน้ำตันไม่ใส แต่สีออกงาช้าง หรือแก้วงาช้าง
    21. แก้วหมอกมุงเมือง เป็นแก้วน้ำใน แต่มีลายเมฆอยู่ภายใน บ้างดูเหมือนเมฆ บ้างดูเหมือนหมอกคลุม
    22. แก้วเนระกันตี
    23. แก้วมธุระกันตี
    24. แก้วอินทรนิลเผือก

    แก้วทั้ง 24 ดวงนี้ถือว่าเป็นแก้วชั้นสูงมีค่ามาก บางชนิดยังไม่อาจเห็นของจริงได้ ตามตำนานกล่าวว่า แก้วทั้ง 24 ดวงนี้แต่โบราณกาลมีกฏหมายลงโทษว่า หากผู้ใดครอบครองย่อมมีความผิด เพราะคนโบราณเชื่อว่าผู้ที่จะครอบครองจะมีอำนาจวิเศษเหนือปุถุชนคนธรรมดา และอาจก่อการกบฏ ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายให้แก่บ้านเมือง แก้ววิเศษจึงเป็นของล้ำค่าที่ควรคู่เก็บไว้แต่พระราชวงศ์ชั้นสูงที่ปกครองบ้านเมืองเท่านั้น


    http://forums.apinya.com
     

แชร์หน้านี้

Loading...