พระเครื่องเพื่อความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม: ราคาบ้านๆ พิธีเจตนาดี พุทธคุณสูงเก็บไว้เสริมดวงชาตา

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ทองทวี, 8 มิถุนายน 2024.

  1. ทองทวี

    ทองทวี “นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา" สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +1,770
    550762_0.jpg
    เหรียญหลวงปู่บุญ โสมภี รุ่น ทวีพร
    หลวงปู่บุญ โสภโณ เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2474 ที่บ้านหนองม่วง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ท่านเป็นผู้สนใจในด้านพุทธศาสนาและการศึกษาธรรมมาแต่เยาว์
    เมื่ออายุ 20 ปีครบบวชท่านได้เข้าบรรพชาอุปสมบทสู่ร่มเงาแห่งผ้ากาสาวพัสตร์ โดยมี หลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม พระเกจิดังในยุคนั้น เป็นอุปปัชฌาจารย์ หลวงปู่บุญสนใจการศึกษากับครูอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณทั้งสายบรรพชิตและสายฆราวาส ได้แก่
    หลวงปู่เส็ง วัดประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ผู้สร้างเหรียญโภคทรัพย์ นางกวักอันโด่งดัง
    หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน จ.ปราจีนบุรี ศิษย์หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท
    หลวงพ่อคล้าย จันทสุวัณโณ วัดสวนขัน นครศรีธรรมราช ผู้มีวาจาศักดิ์สิทธิ์
    หลวงพ่อคง สุวัณโณ วัดวังสรรพรส จันทบุรี ได้ศึกษาวิชาเสือสมิงมหาอำนาจ
    ขุนนครเขต ท่านขุนผู้นี้มีนิวาสสถานอยู่เกาะสีชัง ชลบุรี ด้วยความเป็นจองขมังเวทย์ทางเสน่ห์เมตตามหานิยม ท่านมีวิชาอาคมมหาเสน่ห์ โดยเฉพาะวิชาการเรียกสุตรลบผงปถมังตำหรับโบราณขนานเอก และหลวงปู่บุญก็ได้ตำราวิชาการลบผงปถมังตำหรับนี้สืบมา
    และได้มีโอกาสเรียนวิชากับหลวงปู่หิน วัดระฆังโดยเฉพาะการเขียนสูตรลบผงพุทธคุณ ตำหรับเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี ) อีกด้วย

    ท่านเป็นพระเกจิแห่งยุคอีกองค์หนึ่งที่มีวัตรปฏิบัติงดงาม มีจิตใจที่เปี่ยมไปด้วยเมตตา วัตถุมงคลของท่านที่สร้างแต่ละครั้งครา ล้วนได้รับความนิยมด้วยแรงศรัทธาและประสบการณ์ ทั้งด้านเมตตาค้าขาย คงกระพันชาตรี ทวีโชคโภคทรัพย์
    หลวงปู่บุญ โสภโณ เป็นพระเถระที่เจริญด้วนพรหมวิหารธรรม ท่านรับอุปการะเด็กน้อยผู้ด้อยโอกาสชาวไทยภูเขา ให้มีโอกาสได้รับการศึกษาจนสำเร็จการศึกษาไปแล้วว่ากว่าสองพันราย สร้างบุคคลากรให้แก่พระพุทธศาสนา ทั้งด้านปริยัติและปฏิบัติ ทั้งพระภิกษุและสามเณรหลายร้อยรูปนี่คือประจักษ์พยานที่เป็น”รูปธรรมสัมผัสได้” แห่งจิตอันเป็นบุญ
    หลวงปู่บุญ โสภโณ ประกอบกับองค์ความรู้จากการเล่าเรียนวิทยาคมกับพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิชาอาคมขมังชื่อดังในอดีตร่วมร้อยรูป

    เหรียญ “ทวีพร” หลวงปู่บุญท่านเกิดในสกุล “ทวีพร” ในโอกาสทำบุญอายุครบ 81 ปี ท่านได้จัดสร้างเหรียญ “ทวีพร”อันเป็นนามมงคลและเป็นนามสกุลของท่านเป็นครั้งแรก พุทธคุณด้านเมตตาค้าขาย คงกระพันชาตรี ทวีโชคโภคทรัพย์

    บูชา 400 บาท รวมค่าส่งพระ รับประกันความพึงพอใจ

    ขอให้ท่านที่ได้บูชาพระ/เครื่องรางนี้ไปมีความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งขึ้นค้าขายร่ำรวยๆ สุขภาพแข็งแรงทั้งครอบครัว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 550761_0.jpg
      550761_0.jpg
      ขนาดไฟล์:
      263.4 KB
      เปิดดู:
      36
  2. ทองทวี

    ทองทวี “นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา" สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +1,770

    572124_0.jpg
    พระผงกระโหลกหน้าผาก ครูบาสม วัดป่าแดด อ.สารภี ปี 2516

    ครูบาสม วัดป่าแดด(วัดมงคลวราราม) อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ผู้เป็นอาจารย์ถ่ายทอดวิชาต่างๆ ให้ครูบาสิงห์แก้ว(ครูบาผีกลัว) แห่งวัดปากกอง ครูบาสมท่านเป็นสหธรรมมิกกับท่านครูบาเจ้าศรีวิไชย ตามคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ ครูบาสมมีวิชาอาคมแก่กล้ามาก ทั้งการหายตัว แปลงกายเป็นเสือ จนได้รับสมญานามว่า "เสือสม" จากชาวบ้าน และคนอีกมากมาย อย่างเช่น การนอนบนยอดใบตองกล้วย กระโดดลงน้ำบ่อหายตัว เป็นต้น มีอยู่ครั้งหนึ่ง ครูบาปากกองไปขอเป็นศิษย์ครูบาสม และมีพระไปด้วยกัน 3 รูป ครูบาสมท่านได้จำแลงกายเป็นเสือ พระอีก 2 รูปวิ่งหนี แต่ครูบาปากกอง ท่านได้นิ่งนั่งลงต่อหน้าเสือ ครูบาสมท่านจึงได้รับครูบาปากกองไว้เป็นศิษย์เอก ถ่ายทอดวิชาให้หมด ซึ่งเป็นที่มาของตะกรุดต่างๆ ของครูบาปากกอง จะมีชื่อว่าเสือนำหน้าหลายรุ่น แต่ครูบาสมท่านไม่ได้สร้างเหรียญวัตถุมงคลไว้ จึงไม่ค่อยมีใครรู้จักท่าน จะมีก็แต่ตะกรุดที่ทำให้ญาติโยม ส่วนชาวบ้านคนในพื้นที่จะรู้ดี สำหรับพระผงรุ่นนี้ ครูบาสิงห์แก้ว วัดปากกอง เป็นเจ้าพิธีในการจัดสร้าง โดยท่านเป็นผู้กดพระเอง โดยผงที่นำมาจัดสร้างนั้นเป็นผงพุทธคุณนานาชนิดที่ท่านได้รวบรวมไว้ อาทิเช่น ผงอิทธิเจ(ของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ) ผงปัทธมัง ผงตรีนิสิงเห ที่สำคัญคืออัฐิส่วนกะโหลกหน้าผากครูบาสม วัดป่าแดด ตามความเชื่อที่ว่าสรรพวิชาทั้งหมดของท่านอาจารย์จะไปรวมอยู่ตรงหน้าผาก สำหรับพระเกจิที่ร่วมปลุกเสกในยุคนั้นถือเป็นสุดยอดพระเกจิในยุคนั้นทั้งหมดมี 9 รูป ได้แก่ 1. ครูบาสิงห์แก้ว วัดปากกอง 2. ครูบาบุญมา วัดแม่สะลาบ 3. ครูบาบุญมี วัดท่าสะต๋อย 4. ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง 5. ครูบาคำแสน วัดป่าดอนมูล 6. ครูบาคำแสน วัดสวนดอก 7. ครูบาคำตั๋น วัดดอนจืน 8. ครูบาผัด วัดศรีดอนมูล 9. ครูบาคำปัน วัดหม้อคำตวง สำหรับพระผงครูบาสม วัดป่าแดด นี้ท่านครูบาสิงห์แก้ว วัดปากกอง(ผู้เป็นศิษย์เอก) จะพกติดย่ามทุกครั้งที่ไปร่วมงานปลุกเสก พุทธคุณนั้นเน้น ป้องกันภูตผี ปีศาจ คุณไสย เป็นมหาอำนาจ เมตตามหานิยม

    บูชา 1200 บาท รวมค่าส่งพระ รับประกันความพึงพอใจ

    ขอให้ท่านที่ได้บูชาพระ/เครื่องรางนี้ไปมีความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งขึ้นค้าขายร่ำรวยๆ สุขภาพแข็งแรงทั้งครอบครัว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 572123_0.jpg
      572123_0.jpg
      ขนาดไฟล์:
      171 KB
      เปิดดู:
      44
  3. ทองทวี

    ทองทวี “นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา" สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +1,770
    555745_0.jpg

    เหรียญหลวงพ่อคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน รุ่นสร้างโรงพยาบาลหลังสวน

    ท่านเป็นชาวหลังสวนมีนามเดิมว่า คล้อย ทองเสมียน เกิดเมื่อวันที่ 11 ม.ค.2463 ที่บ้านปากลา ต.ขันเงิน อ.หลังสวน จ.ชุมพร ในวัยเยาว์ท่านได้ไปศึกษาเรียนนอโม และอักขรวิธีจาก พระอาจารย์ชุบ สุวณฺโณ วัดปากสระ ท่านเข้าพิธีอุปสมบทที่วัดขันเงิน เมื่อวันที่ 26 ก.ค.2504 โดยมี หลวงพ่อจันทร์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา “ฐานธัมโม” ท่านได้มุ่งมั่นในด้านปฏิบัติวิปัสสนา และสนใจศึกษาพระเวทวิทยาคม หากรู้ว่ามีพระอาจารย์ที่ไหนเก่งๆ จะไปฝากตัวเป็นศิษย์ เพื่อขอเรียนสรรพวิชาต่างๆ และนอกจากศึกษานอโมและอักขระวิธีจากพระอาจารย์ชุบแล้ว ท่านยังได้ศึกษาวิชาจากพระเกจิอาจารย์สายเขาอ้อหลายรูป อาทิ พระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ วัดดอนศาลา หลวงพ่อคง สิริมโต วัดบ้านสวน พระอาจารย์หมุน วัดเขาแดง จากนั้นได้ไปศึกษาเพิ่มเติมจาก หลวงพ่อแดง ติสโส วัดแหลมสอ เรียนวิชาการประสานกระดูกกับ พระครูอาทรธรรมวัตร วัดปากสระ เมื่อมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดถ้ำเงิน ท่านได้ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจากตำรับตำราของหลวงพ่อแดง พุทโธ อดีตเจ้าอาวาสที่เป็นพระเกจิอาจารย์ร่วมยุคสมัยกับกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ท่านมีชื่อเสียงทางด้านการเป่าทองเข้าตัว วิชานี้หลายคนได้ประจักษ์ในพุทธคุณด้านเมตตามหานิยม และท่านยังเป็นพระนักพัฒนาที่สร้างคุณูปการแก่ชุมชน สังคม และบูรณปฏิสังขรณ์ศาสนสถานต่างๆ ในวันศุกร์ที่ 25 ต.ค.2539 ท่านก็ละสังขารอย่างสงบ.

    เหรียญ หลวงพ่อคล้อย ฐานธัมโม วัดถ้ำเขาเงิน จ.ชุมพร วางศิลาฤกษ์ตึก โรงพยาบาลหลังสวน ปี 2537 ตอกโค๊ดชัดเจน

    บูชา 500 บาท รวมค่าส่งพระ รับประกันความพึงพอใจ

    ขอให้ท่านที่ได้บูชาพระ/เครื่องรางนี้ไปมีความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งขึ้นค้าขายร่ำรวยๆ สุขภาพแข็งแรงทั้งครอบครัว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 555744_0.jpg
      555744_0.jpg
      ขนาดไฟล์:
      161.2 KB
      เปิดดู:
      33
  4. ทองทวี

    ทองทวี “นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา" สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +1,770
    550922_0.jpg
    เหรียญแสตมป์ หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า ระยอง รุ่นอรัญปิยวงศ์ ปี ๒๕๓๗
    หลวงปู่คร่ำ ยโสธโร พระเกจิคณาจารย์แห่งภาคตะวันออก ที่มีชื่อเสียง มีอายุยืนยาวเกิน ร้อยปี หลวงปู่คร่ำยังเป็น พระสงฆ์ร่วมยุคกับ พระอาจารย์ทิม ธัมมธโร วัดช้างให้, หลวงปู่ศรีจันทร์วัดเลยหลง หลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก หลวงปู่บุดดา หลวงพ่อเกษม เขมโก ท่าน
    เกิดที่บ้านวังหว้า เมื่อวันพุธที่ 20 ต.ค. 2440 เมื่ออายุครบ 20 ปี อุปสมบทที่วัดวังหว้าโดยมี พระครูสังฆการบูรพทิศ วัดราชบัลลังก์ เป็นพระอุปัชฌาย์ได้รับฉายาว่า “ยโสธโร”ท่านศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย ศึกษาหนังสือขอมจนอ่านและเขียนได้และตำราวิชาการโดยได้ฝากตัวเป็นศิษย์ ของหลวงพ่อโต วัดเขาบ่อทอง เพื่อเรียนวิปัสสนากัมมัฏฐานและตำราแพทย์แผนไทย หลวงปู่คร่ำเป็นพระหมอต่อกระดูกที่เลื่องลือโดยใช้น้ำมันมนต์รักษา และท่านเป็นพระเกจิที่เชี่ยวชาญวิทยาคม ได้รับนิมนต์ไปปลุกเสกวัตถุมงคลทั่วประเทศ มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องวัตถุมงคล ทุกรุ่นล้วนได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่ผู้นิยมพระเครื่องวัตถุมงคลต่างๆ หลวงปู่คร่ำ ยโสธโร ถึงแก่มรณภาพ วันที่ 1 ธ.ค.2540 ที่โรงพยาบาลสมิติเวชศรีราชา

    เหรียญแสตมป์ หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า ระยอง รุ่นอรัญปิยวงศ์ ปี ๒๕๓๗หลังยันต์ห้า ด้านหลังตอกโค้ด สวยๆ น่าบูชา

    บูชา 500 บาท รวมค่าส่งพระ รับประกันความพึงพอใจ

    ขอให้ท่านที่ได้บูชาพระ/เครื่องรางนี้ไปมีความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งขึ้นค้าขายร่ำรวยๆ สุขภาพแข็งแรงทั้งครอบครัว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 550921_0.jpg
      550921_0.jpg
      ขนาดไฟล์:
      221.4 KB
      เปิดดู:
      31
  5. ทองทวี

    ทองทวี “นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา" สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +1,770
    550795_0.jpg
    เหรียญหลวงพ่อสม สุชีโว วัดโพธิ์ทอง อ่างทอง ปี 2555 ตอกหมายเลขกำกับ
    หลวงพ่อสม สุชีโว เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งจังหวัดอ่างทอง ท่านยังเป็นพระแพทย์แผนโบราณ พระนักการศึกษา พระนักปกครองและพระนักพัฒนา หลวงพ่อสม ได้ไปศึกษาวิทยาคมเพิ่มเติมกับน้า คือ หลวงพ่อเก็บ แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ซึ่งหลวงพ่อเก็บ เป็นลูกศิษย์หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า พระเกจิชื่อดัง
    หลวงพ่อสม สุชีโว ท่านมรณภาพ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2557 สิริอายุ 85 ปี พรรษา 61

    บูชา 300 บาท รวมค่าส่งพระ รับประกันความพึงพอใจ

    ขอให้ท่านที่ได้บูชาพระ/เครื่องรางนี้ไปมีความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งขึ้นค้าขายร่ำรวยๆ สุขภาพแข็งแรงทั้งครอบครัว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 550794_0.jpg
      550794_0.jpg
      ขนาดไฟล์:
      285.1 KB
      เปิดดู:
      36
  6. ทองทวี

    ทองทวี “นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา" สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +1,770
    550914_0.jpg
    เหรียญหลวงพ่อทองเบิ้ม วัดวังยาว กุยบุรี ปี2538

    หลวงพ่อทองเบิ้ม วัดวังยาว เกิด ๔ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๕๔ อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นามบิดา ม่องลั่น ลิบลับ นามมารดา นางพิม ลิบลับ ได้อุปสมบทเมื่อ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๔๗๕ ณ วัดวังยาว ตำบลกุยบุรี อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีพระสุเมธีวรคุณ (เปี่ยม จนฺทโชโต) อดีตเจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ วัดเกาะหลัก ต.เกาะหลัก อ.เมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๐ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดวังยาว และได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลกุยบุรี ท่านได้มรณภาพลง ในวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๒ ชาวบ้านทั่วไปกล่าวขานและยกให้ท่านศักสิทธิ์เรื่อง "ปากพระร่วง" วาจาท่านศักสิทธิ์ยิ่งนัก ที่สำคัญสรีระของท่านยังไม่เน่าเปื่อยอีกด้วย

    เหรียญหลวงพ่อทองเบิ้ม วัดวังยาว กุยบุรี เนื้อทองแดง โค้ด ทบ ปี2538

    บูชา 200 บาท รวมค่าส่งพระ รับประกันความพึงพอใจ

    ขอให้ท่านที่ได้บูชาพระ/เครื่องรางนี้ไปมีความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งขึ้นค้าขายร่ำรวยๆ สุขภาพแข็งแรงทั้งครอบครัว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 550913_0.jpg
      550913_0.jpg
      ขนาดไฟล์:
      222.4 KB
      เปิดดู:
      36
  7. ทองทวี

    ทองทวี “นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา" สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +1,770
    550937_0.jpg
    เหรียญหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จ.ลำพูน ปี2536
    พร้อมพระธาตุข้าวบิณฑ์
    ครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระบาทห้วยต้ม (ข้าวต้ม) อ.ลี้ จ.ลำพูน ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ อดีตชาติ ท่านคือพระฤๅษีวาสุเทพ ท่านออกธุดงค์ตั้งแต่ยังหนุ่ม ครูบาศรีวิชัยซึ่งเป็นอาจารย์องค์แรกของท่านเคยทำนายตอนที่ท่านยังเป็นเณรว่า ท่านจะเป็นผู้มาสร้างวัดพระพุทธบาทห้วยต้มแห่งนี้ นอกจากนั้นท่านยังเป็นลูกศิษย์ของครูบาพรหมจักร และครูบาอภิชัย ขาวปี ที่มรณะแล้วร่างไม่เน่าเปื่อยอีกด้วย ท่านได้เรียนวิชาทางจิตจากตำราเก่าสมัยอยุธยาที่พระเก่งๆ ในสมัยโบราณนำมาซ่อนไว้ในถ้ำเพื่อไม่ให้ตกไปอยู่ในมือพวกพม่า โดยเทวดามาบอกที่ซ่อนคัมภีร์นี้ เมื่อท่านฝึกสำเร็จแล้วท่านจึงนำเข้าไปเก็บรักษาไว้ในเจดีย์ที่วัด ท่านฉันเจและชอบฉันลูกเกาลัด ที่แปลกก็คือท่านชอบไปเข้าฝันคนทั่วไป เช่นเคยไปเข้าฝันบอกตัวยาแก้โรคกระเพาะให้ คนตายแล้วฟื้นเล่าว่าได้ไปพบครูบาศรีวิชัยท่านบอกให้มากราบครูบาวงศ์เพราะท่านเป็นพระอริยะ และเทวดาที่วัดพระบาทห้วยต้มบอกวัดนี้จะเป็น 1 ใน 3 วัด ที่จะอยู่ได้จนครบ 5,000 ปี
    ชานหมากกลายเป็นพระรอด
    ประมาณปี ๒๕๓๘ ขณะที่หลวงพ่อเข้ารับการตรวจสุขภาพและรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช ต้องนอนพักที่ศิริราช เพื่อรอผลการตรวจวันนั้นมีลูกศิษย์กลุ่มหนึ่งทราบข่าว และได้เข้าไปเยี่ยม หลังจากกราบนมัสการหลวงพ่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนที่ทุกคนจะกลับ ต่างก็เห็นหลวงพ่อกำลังหยิบชานหมากแห้งๆ มาไว้ในมือเพื่อที่จะแจก ทุกคนที่ไปกราบท่านในวันนั้นต่างก็ดีใจที่จะได้รับแจกชานหมากในขณะที่ท่านกำลังส่งให้ถึงมือแต่ละคนนั้น ยังเป็นเพียงชานหมากธรรมดาเท่านั้น พอตกถึงมือแต่ละคนแล้วชานหมากนั้นกลับกลายเป็นพระรอด เรื่องนี้เป็นเรื่องอจินไตย
    ศิษย์เก่าแก่ของหลวงพ่อท่านหนึ่งซึ่งอยู่ที่กรุงเทพฯ ครั้งหนึ่งได้นิมนต์หลวงพ่อครูบาชัยวงศ์มาพักที่บ้าน ระหว่างที่เดินทางมาบ้านของเธอ หลวงพ่อได้เมตตามอบหลอดแก้วเล็กๆ ซึ่งบรรจุเส้นเกศาของท่านไว้ มาให้บูชาติดตัว เมื่อเธอได้รับหลอดแก้วบรรจุเส้นเกศาของหลวงพ่อ ก็ได้เก็บไว้เฉยๆ ประมาณ ๔-๕ ปี จึงได้เอาหลอดแก้วนั้นไปเลี่ยมทอง เพื่อใช้ห้อยคอติดตัวเป็นประจำวันหนึ่งได้มีคนรู้จักและสนิทกันมาทักทาย และได้ขอดูหลอดแก้วที่ได้มานั้น เมื่อได้พิจารณาดูสักครู่ ก็ได้ถามว่า หลอดแก้วนี้บรรจุทับทิมเอาไว้ด้วยหรือ เธอรู้สึกแปลกใจที่ถูกถามเช่นนั้น ได้ตอบไปว่าไม่ได้ใส่อะไรเพิ่มเข้าไปเลย ตั้งแต่ได้มา คงมีแต่เส้นเกศาของหลวงพ่อสีเทาขาวบรรจุอยู่เต็มภายในนั้นอย่างเดียว คงยืนกรานเช่นนั้นแต่ทว่า เพื่อนคนนั้นได้ท้วงว่าก็เห็นอยู่นี่ไง จึงได้หยิบมาพิจารณาดูอย่างละเอียดอีกครั้ง แล้วก็ต้องแปลกใจและดีใจเป็นอย่างมาก ที่ได้เห็นว่าภายในหลอดแก้วนั้น นอกจากจะมีเส้นเกศาของหลวงพ่อ แล้วยังมีเม็ดทับทิมเล็กๆ อยู่ภายในนั้นด้วย ต่างคิดว่าคงเป็นเพราะบุญฤทธิ์และความเมตตาของหลวงพ่อเป็นแน่ เส้นเกศาของท่านจึงได้กลายเป็นพระธาตุสีทับทิมเหมือนปาฏิหาริย์
    พระธาตุเสด็จในสำลี
    เจ้าของพระธาตุ เล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่าเธอได้มีโอกาสเดินทางไปทำธุระกับหลวงปู่ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ระหว่างทางที่หยุดเติมน้ำมัน หลวงปู่ควักเอาสำลีเปล่าๆ ออกมาเช็ดขี้ตา เช็ดเสร็จแล้วท่านก็ส่งให้เธอ จากนั้นเธอก็ได้เก็บติดตัวมาโดยตลอดเพราะปกติเป็นคนชอบกลัวผี จึงเอาสำลีที่ได้พับเก็บไว้ในผ้ายันต์มาตลอดเป็นเวลานับ ๑๐ ปีหลังจากหลวงปู่มรณภาพ ได้มีสารวัตรคนหนึ่งซึ่งเคยได้ยินมาว่า เธอมีผ้ายันต์ของหลวงปู่ จึงอยากจะเห็น และได้ขอเธอดู เมื่อเธอเปิดให้ดูก็พบว่ามีพระธาตุจำนวน ๖ องค์อยู่ในสำลี ซึ่งเธอเก็บไว้ในผ้ายันต์ เธอจึงแปลกใจว่าพระธาตุที่ไหนมาอยู่ในสำลีของเธอ ทั้งๆ ที่ตอนแรกที่หลวงปู่ให้มา เป็นเพียงแค่สำลีเปล่าๆ ที่ใช้เช็ดขี้ตาของหลวงปู่ ด้วยบุญบารมีของหลวงปู่แท้ๆ แม้แต่ขี้ตาก็ยังกลายเป็นพระธาตุขึ้นมาได้ และยังมีพระธาตุอื่นๆ เสด็จมารวมอยู่ด้วย

    บูชา 600 บาท รวมค่าส่งพระ รับประกันความพึงพอใจ

    ขอให้ท่านที่ได้บูชาพระ/เครื่องรางนี้ไปมีความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งขึ้นค้าขายร่ำรวยๆ สุขภาพแข็งแรงทั้งครอบครัว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 550938_0.jpg
      550938_0.jpg
      ขนาดไฟล์:
      253.2 KB
      เปิดดู:
      40
  8. ทองทวี

    ทองทวี “นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา" สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +1,770
    550865_0.jpg
    รูปหล่อนั่งบัวอุดกริ่ง 7 รอบ หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน สร้างศาลาสำนักสงฆ์ บ้านตาโคล ปี 2529

    บูชา 600 บาท รวมค่าส่งพระ รับประกันความพึงพอใจ

    ขอให้ท่านที่ได้บูชาพระ/เครื่องรางนี้ไปมีความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งขึ้นค้าขายร่ำรวยๆ สุขภาพแข็งแรงทั้งครอบครัว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 550864_0.jpg
      550864_0.jpg
      ขนาดไฟล์:
      205.1 KB
      เปิดดู:
      39
  9. ทองทวี

    ทองทวี “นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา" สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +1,770
    550470_0.jpg
    รูปหล่อห่มคลุมหรือรูปหล่อรุ่น2 หลวงปู่ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง ปี 39
    รูปหล่อห่มคลุม หลวงปู่ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง ปี 39ปลุกเสก 2 พิธี
    พีธีแรกหลวงปู่ครูบาอินได้เมตตาอธิษฐานจิตเดี่ยวในอุโบสถวัดฟ้าหลั่ง เป็นเวลานาน 4 เดือนเต็ม
    พิธีที่ 2 ทำพิธีพุทธาภิเษก 3 วัน ระหว่างวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ - ๒ มีนาคม ๒๕๔๐ วัดฟ้าหลั่งได้จัดงานฉลองมงคลอายุ ๘ รอบ ถวายหลวงปู่ครูบาอิน อินฺโท พร้อมทั้งจัดงานสมโภชพระบรมธาตุเจ้าฟ้าหลั่งซึ่งสร้างเสร็จในปีเดียวกัน จึงได้นำรูปหล่อและพระพุทธรูปเข้าพิธีพุทธาภิเษกครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นพิธีพุทธาภิเษกครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวัดฟ้าหลั่ง
    ใน พิธีพุทธาภิเษก หลวงปู่ครูบาอิน อินฺโท ได้ให้พระเณรและคณะศรัทธาชาวบ้าน ลำเลียงรูปหล่อและพระพุทธรูป เข้าไปตั้งบริเวณฐานองค์พระบรมธาตุ แล้วจัดปะรำพิธีรอบองค์พระธาตุ เพื่อให้พระเถระ ครูบาอาจารย์ที่นิมนต์มาได้นังปรกปลุกเสก โดยมีพระเกจิอาจารย์ที่เป็นที่มีฃื่อเสียงในยุคนั้นร่วมพิธีจำนวนมากอาธิเช่น พระครูชัยวงศ์วิวัฒน์ (หลวงปู่ครูบาน้อย ชยวํโส) วัดบ้านปง พระครูสุภัทรศีลคุณ (หลวงปู่ครูบาดวงดี สุภทฺโท) วัดท่าจำปี (ปัจจุบันได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระมงคลวิสุต) พระธรรมสิทธาจารย์ (หลวงปู่หนู ถาวโร) วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร พระโพธิรังษี วัดพันตอง พระราชรัตนากร วัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ (ปัจจุบันได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพวรสิทธาจารย์) พระสุพรหมญาณเถระ (พระอาจารย์ทอง สิริมํคโล) วัดพระธาตุศรีจอมทอง (ปัจจุบันได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพสิทธาจารย์) พระครูมงคลคันธวงศ์ (ครูบาศรียูร คนฺธวํโส) วัดมงคล (ทุ่งแป้ง) พระครูสถิตธรรมวัตร (ครูบาดวง ฐิตวโร) วัดศรีทรายมูล (กู่ลายมือ) พระครูบุญมี สุเมโธ (ครูบาบุญมี) วัดศิลามงคล ครูบาติ๊บ ปภากโร วัดท่าวังพร้าว พระครูวุฒิธรรมวิมล (ครูบาดำ) วัดดอยหล่อ พระครูมนูญธรรมาภรณ์ (ครูบาอิ่นคำ) วัดมหาวัน (เชียงใหม่) พระครูมงคลคณาทร (ครูบาคำปัน) วัดหม้อคำตวง พระครูสิงหวิชัย (ครูบาสิงห์ สิริวิชโย) วัดฟ้าฮ่าม หลวงพ่อต๋า ปัญญาวุฒโฒ (ครูบาต๋า) วัดอุโบสถบ้านเหล่า พระครูปัญญาธรรมวัฒน์ (พระอาจารย์อินทร ปัญยาวัฑฒโน) วัดสันป่ายางหลวง ฯลฯ และยังมีพระเถระจากทุกวัดในเขตอำเภอจอมทอง (และอำเภอดอยหล่อในปัจจุบัน) พระเถระจากทั่วจัดหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดลำพูน เข้าร่วมสวดมนต์ตั๋น อธิษฐานจิตตลอดระยะเวลาสามวัน.

    บูชา 800 บาท รวมค่าส่งพระ รับประกันความพึงพอใจ

    ขอให้ท่านที่ได้บูชาพระ/เครื่องรางนี้ไปมีความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งขึ้นค้าขายร่ำรวยๆ สุขภาพแข็งแรงทั้งครอบครัว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 550469_0.jpg
      550469_0.jpg
      ขนาดไฟล์:
      162.7 KB
      เปิดดู:
      37
  10. ทองทวี

    ทองทวี “นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา" สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +1,770
    550517_0.jpg
    พระนักธรรม หลังยันต์ หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน รุ่นที่ 2 วัดสร้างยันต์ ส ม้วนโลก มีโค้ดรูปศาลาในพิมพ์
    ปิดรายการนี้ให้คุณ seento แล้ว
    พระนักธรรมนี้ แต่เดิมหลวงพ่อทรงท่านสร้างแจกแก่พระที่จะไปสอบนักธรรมที่ท้องสนามหลวง ผลปรากฏว่าพระชุดนั้นสอบผ่านนักธรรมตรีทุกองค์ เป็นที่ฮือฮามาก จนเป็นประเพณีว่า ก่อนไปสอบ จะต้องไปขอพระเรียนเก่งจากท่านทีนี้ชาวบ้านเห็นพระสอบได้ ก็มาขอให้ลูกหลาน ใช้ได้ผลกันทุกคน จนเป็นพระที่สร้างชื่อให้กับท่านเป็นอย่างมาก
    พระนักธรรมนี้จะมี 2 รุ่น สร้างในปีเดียวกัน โดยรุ่นแรกทางศูนย์พระเครื่องแห่งหนึ่งใน กทม. สร้างมาถวายต่อมาเมื่อหมดแล้วแต่ยังเป็นที่ต้องการกันมาก ทางวัดก็เลยจัดสร้างรุ่นที่ 2 ขึ้นมา โดยแกะบล๊อคใหม่ ด้านหลังเป็น ยันต์ ส ม้วนโลก มีโค้ดรูปศาลาในพิมพ์ มีขนาดเล็กประมาณ 1.2 x 2.0 ซม. มีทั้งหนาและบาง ขึ้นอยู่กับคนกด ถ้าหนาจะเป็นยุคแรกๆ มวลสารทั้งหมดทางวัดจัดเตรียมการเอง เช่น ผงดอกไม้บูชาพระ ว่านต่างๆ โดยเฉพาะว่านสบู่เลือด ผงชันเพชรจากพระมหาบุษบกพระแก้วมรกต ผงกระเบื้องโมเสสจากวัดพระแก้ว ผงว่านห้าร้อยชนิดของหลวงปู่พรหมมา เขมจาโร ผงส่วนตัวของพระสวัสดิ์ที่ท่านสะสมไว้ ผงดินก้นบ่อน้ำ ผงจากจีวรหลวงพ่อ เส้นเกศา แร่บางไผ่ กระดาษสา
    พระอาจารย์ท่านหนึ่ง ท่านสงสัยว่าพระที่ใช้แล้วเรียนเก่งมีด้วยเหรอ ท่านจึงเอาพระมาเข้าสมาธิดู ไม่ถึงนาที ท่านลืมตาแล้วบอกว่า “พลังขึ้นแรงเหมือนจะไม่ให้เราอยู่นิ่งและสว่างวาบโล่งไปทั้งหัว” ตอนหลังเพื่อนกันเอาพระนักธรรม 10 องค์ห่อผ้า แล้วขอท่านว่าดูเลย แบบไม่ต้องอาราธนาว่าอะไร พอท่านดูเสร็จแกะห่อออก ท่านบอกเลย พระนักธรรมนี่ไม่ใช่แค่เรียนเก่ง แต่หลวงปู่ลงทุกด้าน ทั้งเมตตาโภคทรัพย์ แคล้วคลาดคุ้มครองก็ลง ท่านบอกว่า พระนักธรรมนี่แรง แขวนเดี่ยวได้สาเหตุที่พระนักธรรมทำให้เรียนเก่งก็เพราะบารมีส่วนตนของท่าน เพราะหลวงพ่อทรงท่านท่องปาฏิโมกข์ได้ชำนาญมาก ท่านมีบารมีด้านสติปัญญา เลยอาศัยบารมีด้านนี้ของท่านมา ที่สมองโล่งก็เกี่ยว บารมีท่านก็เกี่ยวเคยมีคนถามหลวงปู่ว่าทำไมพระนักธรรมคนห้อยแล้วถึงเรียนเก่งท่านบอกว่า “พระสารีบุตรท่านปัญญาล้ำเลิศเพียงใด ท่านก็เชิญมาไว้ในพระนักธรรม”

    บูชา 800 บาท รวมค่าส่งพระ รับประกันความพึงพอใจ

    ขอให้ท่านที่ได้บูชาพระ/เครื่องรางนี้ไปมีความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งขึ้นค้าขายร่ำรวยๆ สุขภาพแข็งแรงทั้งครอบครัว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 550516_0.jpg
      550516_0.jpg
      ขนาดไฟล์:
      159 KB
      เปิดดู:
      41
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2024
  11. ทองทวี

    ทองทวี “นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา" สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +1,770
    572100_0.jpg
    เหรียญหลวงปู่เดินหน อิเกสาโร หลังพระนเรศวร วัดทุ่งสมอ กาญจนบุรี ปี 2540

    เหรียญหลวงปู่ เดินหน อิเกสาโร ที่ระลึกในพิธีเททอง หล่อรูปเหมือน หลวงปู่ เดินหน อิเกสาโร วัดทุ่งสมอ จังหวัดกาญจนบุรี ปี 2540 เนื้อทองแดง

    อ่านเรื่องนี้ดูนะครับ เหรียญนี้ได้จากวัดตอนไปทำบุญนานมากแล้วครับ

    - จากหนังสือกฎแห่งกรรมเล่มที่ ๘ หน้าที่ ๙๕ – ๑๒๓พิมพ์ครั้งที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๔๘
    เมื่อมีผู้รู้ว่าข้าพเจ้าสนใจเรื่อง “วิญญาณ” ก็มีท่านที่เคารพนับถือและเพื่อนฝูงได้แนะนำ และได้สละเวลาพาไปสถานที่ต่าง ๆให้ไปรู้ไปเห็น และมีผู้ส่งเรื่องจิตตานุภาพกับวิญญาณมาให้มากด้วยกัน นี่เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อมีความสนใจสิ่งใดก็มีผู้แนะนำในสิ่งที่สนใจนั้น ฉะนั้นข้าพเจ้าก็ต้องขอขอบคุณท่านที่ได้กรุณาแนะนำ และส่งเรื่องมาให้จำนวนมาก ซึ่งบัดนี้ข้าพเจ้าจะขอแนะนำเรื่องที่ได้ไปพบเห็นด้วยตนเอง ได้พยายามขอลงนามจริงของบุคคลที่รู้เห็นในเรื่องนี้ และสถานที่เกิดเหตุขึ้นเท่าที่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าของนามมาให้ เมื่ออ่านแล้วจะได้ใช้เวลากับปัญญาพิจารณาดูเพื่อให้เข้ากับเรื่อง“จิตตานุภาพ และวิญญาณ” เพื่อท่านจะได้ไม่หลงเชื่อลมๆ แล้ง ๆ ดังเรื่องที่ได้เล่าไปนี้
    บ่ายวันหนึ่งข้าพเจ้าได้รับโทรศัพท์ แม้เรื่องจะผ่านมานานหลายปีแล้วก็ดี ข้าพเจ้าก็จำได้ว่าวันนั้นเป็นวันเสาร์ เสียงที่พูดมาทางโทรศัพท์นั้นบอกว่า “นี่เชื้อพูด คืนนี้อยากจะให้คุณไปพิสูจน์เรื่องเข้าทรงของหลวงปู่ ที่วัดทุ่งสมอ เมืองกาญจนบุรี มีเวลาไปได้ไหม” แม้จะไม่ต้องบอกชื่อ ข้าพเจ้าก็จำเสียงได้ว่าเป็น คุณเชื้อ แนวบุญเนียร จึงย้อมถามไปว่า “คืนนี้มีอะไรพิเศษหรือ พอจะคุ้มกับเวลาที่ต้องเสียไปไหม” เสียงตอบบอกว่า “คืนนี้หลวงปู่จะเรียกวิญญาณทหารญี่ปุ่น และทหารฝรั่งตายในสงครามที่เมืองกาญจนบุรีมากินเลี้ยง ผมจะรีบไปก่อน แล้วคุณตามผมไปในภายหลังนะ ตกลงไหม?”
    ข้าพเจ้าเกิดความสนใจมาทันทีอยากรู้อยากเห็นเรื่องวิญญาณทหารญี่ปุ่นและฝรั่ง เป็นเรื่องใหม่แปลกสำหรับข้าพเจ้าจึงรีบบอกไปว่า “ตกลงผมจะเอารถตามคุณไปภายหลัง”
    เสียงคุณเชื้อบอกว่า“คุณไม่ต้องเอารถไปเอง คุณประพัฒน์และคุณมนตรีจะเอารถมารับคุณที่บ้านขอให้คุณนำทางเพราะทั้งสองฅนไปไม่ถูก เพราะไม่เคยไป”
    ข้าพเจ้ารีบบอก “ตกลง”
    ตกลงบ่ายวันนั้นคุณประพัฒน์นำรถมารับข้าพเจ้าที่บ้าน โดยมีคุณมนตรีติดตามมาด้วย คุณประพัฒน์มีฅนขับมาพร้อมข้าพเจ้าก็ไม่ให้เสียเวลาเพราะแต่งตัวคอยอยู่แล้ว รีบขึ้นรถเดินทางจากบ้านข้าพเจ้ามุ่งหน้าข้ามสะพานพุทธฯ และตั้งจุดตรงไปเมืองกาญจนบุรีโดยไม่แวะที่ใด เวลานั้นถนนฝั่งธนบุรียังไม่เรียบร้อยยังมีอิฐทราย ดิน กองอยู่ข้างทางตลอดไปเป็นทางยาวหลายกิโลเมตร รถวิ่งไม่สะดวกนัก (อยู่ในราวปี พ.ศ.๒๕๐๙ ผู้เรียบเรียง)
    รถได้ผ่านเข้าเขตเมืองกาญจนบุรีก็พอดีย่ำค่ำเราได้แวะเติมน้ำมัน และแวะร้านอาหารปากทางที่จะเข้าในตัวจังหวัด กินอาหารเย็นแล้วสนทนากันอย่างสนุกสนานพักรถพักฅนพอสมควรแก่เวลาแล้วก็ออกเดินทางต่อไป ซึ่งข้าพเจ้าเคยไปที่วัดทุ่งสมอก่อนหน้านี้ไม่นานมาครั้งหนึ่งแล้วในเวลากลางวัน ไม่เคยเดินทางในเวลาค่ำคืนจำได้เพียงว่าเมื่อออกจากทางแยกเข้าจังหวัดแล้วประมาณสิบกว่ากิโลเมตรก็จะเข้าถึงเขตวัดซึ่งอยู่ริมถนนใหญ่ที่จะผ่านไปอำเภอพนมทวน ถนนเวลานั้นยังเป็นลูกรังไม่เรียบร้อย รถจึงวิ่งช้ากว่าธรรมดา การเดินทางจะเอาอย่างใจนึกไม่ได้ เพราะใจมนุษย์นั้นเร็วที่สุดเร็วกว่าแสงหรือเร็วกว่ายานใด ๆ ในโลก
    เราได้สนทนากันมาในรถอย่างสนุกสนานตลอดทางลืมมองดูว่าจะเข้าถึงทางเข้าวัดหรือยัง ทั้งทางก็มืดไม่เห็นสองข้างทางเลย รถวิ่งเลยทางเข้าวัดทุ่งสมอไปถึงอำเภอพนมทวน ข้าพเจ้าจึงรู้ว่ารถเราเลยวัดทุ่งสมอมาไกลแล้วที่สุดเราก็ให้ฅนขับกลับรถย้อนกลับมาถึงวัดทุ่งสมอ คืนนั้นเป็นคืนข้างแรม ทั้งทางเข้าวัดก็มืดสนิทถนนที่รถวิ่งไปมาไม่มีรถยนต์สวนทางหรือตามหลังเป็นคืนที่วิเวกวังเวงเงียบสงัดชอบกล
    เมื่อรถเราเข้าไปในเขตวัดผ่านต้นไม้ใหญ่ปกคลุมตัววัดภายใน เราก็มองเห็นมีรถยนต์จอดกันเป็นทิวแถว รู้สึกว่ารถส่วนมากไปจากกรุงเทพฯส่วนรถที่มาจากเมืองกาญจนบุรีก็มีบ้างไม่กี่คันเรารู้สึกว่ารถรถของเราเดินทางมาถึงล่าสุดเป็นคันสุดท้ายในคืนนั้น เพราะต้องเสียเวลาเลยไปแล้วย้อนกลับมาอีก ข้าพเจ้าชวนพวกลงจากรถเดินขึ้นไปที่กุฏิท่านสมภารรู้จักท่าน (สมภารวัดในเวลานั้นคือ พระครูวิบูลธรรมประภาส หรือ หลวงพ่อเบี่ยง อุทโย) เพราะเคยมาครั้งหนึ่งแล้วข้าพเจ้าได้พบผู้ที่คุ้นเคยมากท่าน มีทั้งนายทหารและนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ชั้นนายพลหลายท่าน และทั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ชั้นพิเศษและผู้พิพากษา ผู้มีชื่อและข้าราชการอื่น ๆ อีกมาก เราต่างนั่งสนทนาอยู่บนกุฏิท่านสมภาร นอกนั้นก็ยังมีชาวเมืองกาญจนบุรีจำนวนไม่น้อยที่ข้าพเจ้ารู้จักหลายท่านด้วยกัน ที่เดินเตร่อยู่ใกล้โบสถ์และต้นไม้ บริเวณนั้นมีทั้งอาหารและเครื่องดื่มขาย มีไฟจุดสว่างไสวคล้ายงานออกร้านคืนนั้นรู้สึกว่าจะมีฅนล้นหลามในเขตบริเวณวัดบนกุฏิเรามองเห็นเครื่องเซ่น เช่น เป็ดย่าง ไก่ตอน อย่างละหลายตัว อาหารอื่น ๆ อีกหลายอย่าง และเหล้าจำนวนไม่น้อยใส่ถาด ผลไม้ต่าง ๆ จัดไว้เป็นถาด ตั้งเตรียมไว้เรียงรายคิดแน่ใจว่าเครื่องเซ่นเหล่านี้คงจะเอาไปเลี้ยงวิญญาณทหารฝรั่งและทหารญี่ปุ่นที่เสียชีวิตลงในเมืองกาญจนบุรีฅนทรงยังหนุ่ม เพิ่งสึกจากพระซึ่งบวชอยู่ที่วัดทุ่งสมอมาก่อนทราบว่าการบวชครั้งนั้นแก้บน
    ครั้งก่อนข้าพเจ้ามาเวลากลางวัน และเคยเห็นการเข้าทรงของหลวงปู่มาแล้ว ครั้งนั้นฅนเป็นร่างทรงยังเป็นพระภิกษุ เมื่อเวลาเข้าทรงก็นุ่งขาวห่มขาวไว้ข้างนอกทับผ้าเหลืองไว้ข้างในเวลานั้นข้าพเจ้าก็ไม่ทราบว่าผิดวินัยสงฆ์หรือไม่ ไม่เคยคิดและไม่รู้และไม่เคยเห็นมาก่อน
    ครั้งนั้นการเข้าทรงวิญญาณหลวงปู่ที่ในโบสถ์วัดทุ่งสมอเป็นเวลาบ่าย การเข้าทรงจะต้องปิดไฟปิดประตูหน้าต่างโบสถ์ให้หมด เพราะหลวงปู่ไม่ชอบแสงสว่างก่อนจะเข้าทรง ฅนทรงจะจุดธูปเทียน คุกเข่าหันหน้าไปทางพระประธานในโบสถ์ บริกรรมเสร็จแล้วก็กราบลง ๓ ครั้ง แล้วก็มานั่งขัดสมาธิพนมมือที่จัดอาสนะไว้ มีหมอนอิงหลายใบรองรับอยู่ข้างหลังป้องกันหัวกระแทกทั้งเวลาเข้าและเวลาออกจากทรง ร่างทรงนั่งนิ่งบริกรรมอีกครู่หนึ่งก็สั่นทั้งตัว ก้นกระโดดสูงจากพื้นอาสนะที่นั่งหลายครั้งหลับตาเกร็งข้อตัวสั่น ครู่หนึ่งก็ฟุบหน้าลงแล้วตัวก็อ่อนพับไปข้างหน้า ครู่หนึ่งก็ค่อย ๆเงยหน้าขึ้นมากลายเป็นฅนแก่ นั่งก้มหน้าก้มหลังค่อมพูดเสียงสั่น ๆ ยานคาง มีคุณเชื้อ คอยนั่งปฏิบัติอยู่ข้าง ๆ เมื่อหลวงปู่เข้าทรงแล้ว คุณเชื้อก็หยิบซิกการ์จุดส่งให้หลวงปู่สูบ แสดงว่าหลวงปู่ชอบซิกการ์มาก
    ข้าพเจ้าอดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมหลวงปู่ชอบสูบซิกการ์มากมวนแล้วมวนอีกติดต่อกันไม่หยุดปาก เริ่มตั้งแต่เข้าทรงคิดว่าหลวงปู่จะติดยาซิกการ์มาแต่อดีตชาติก็ไม่ใช่ เพราะหลวงปู่บอกว่า ได้นั่งมรณภาพในถ้ำมาตั้งร้อยกว่าปีแล้ว ข้าพเจ้าคิดว่าสมัยนั้นคงไม่มีซิกการ์สูบแน่ ซิกการ์เป็นยาเสพย์ติดนิดหนึ่ง ที่สูบได้ไม่ผิดกฎเหมือนบุหรี่ต่าง ๆที่มีขายในท้องตลาด แถมยังโฆษณาชักชวนฅนให้สูบ เพื่อการค้าแต่โทษของบุหรี่ไม่มีใครพูดถึง ข้าพเจ้าอดคิดไม่ได้ว่าชีบานาสงฆ์ ไม่ควรสูบ ไม่รู้ว่าครั้งแรกใครรู้ว่าหลวงปู่ชอบสูบซิกการ์ และเป็นผู้นำไปถวายนะ ซิกการ์อย่างดีมาจากต่างประเทศราคาแพงหีบหนึ่งเป็นร้อย ๆ บาท แต่ข้าพเจ้าก็ไม่พูด เพียงแต่นึกในใจฅนเดียว แต่แล้วก็คิดกลับว่า อันซิกการ์นั้นถ้าฅนไม่เคยสูบ ลองได้สูบมวนต่อมวนติดต่อกันไม่ขาดปาก ก็มีหวังมึนเมา คงทนไม่ไหวที่ต้องสูบอยู่หลายชั่วโมง ตามปกติฅนทรงไม่สูบบุหรี่ เมื่อเข้าทรงจึงเป็นเรื่องแปลกและมหัศจรรย์ คงจะแสดงให้เห็นอภินิหารของหลวงปู่ก็ได้
    ครั้งแรกที่ข้าพเจ้าเขียน เห็นการเข้าทรงในโบสถ์ของหลวงปู่ยังไม่ละเอียดขอเติมว่า จำได้ว่าหลังจากพระฉันเพลแล้วพวกศิษย์ก็ขนเสื่อขนหมอนและกระโถนเข้าไปจัดทำที่สำหรับหลวงปู่ประทับทรง เตรียมไว้ให้เรียบร้อย รู้สึกว่าคุณเชื้อสนใจมาก เอาใจใส่ในการประทับทรงของหลวงปู่ ตลอดจนหาเครื่องใช้เพื่อบริการในเรื่องนี้ตลอด
    ข้าพเจ้าขอย้อนต่อทวนข้อความเพิ่มเติมตอนหลวงปู่เข้าทรงครั้งแรกที่ได้มาเห็น พอร่างทรงเงยหน้าขึ้นแหมือนฅนแก่หลังค่อม พูดเสียงสั่น ๆ ในสภาพของฅนแก่ ฅนใกล้เคียงก็หยิบกระโถนให้บ้วนน้ำลายที่ไหลยืดออกจากปาก รินน้ำใส่แก้วให้ท่านบ้วนปาก คุณเชื้อก็รีบเปิดหีบนำซิกการ์มาจุดแล้วส่งให้สูบ พอร่างทรงหลวงปู่สูบซิกการ์พ่นควันบุหรี่ครู่หนึ่งรู้สึกอารมณ์ดี เงยหน้าขึ้นมามองดูผู้ที่อยู่ใกล้ ๆ แล้วค่อย ๆหันซ้ายหันขวา พูดอะไรถามอะไรครู่หนึ่งแล้วก็เอียงคอไปมา แม้ในโบสถ์จะปิดประตูหมด ก็ยังมีแสงเทียนจากหน้าพระประธานพอจะมองเห็นได้
    ข้าพเจ้านั่งห่างออกมาหลายช่วงฅน คอยพิจารณาดูท่าทางการเข้าประทับทรงของหลวงปู่อยู่ตลอดเวลา
    แต่แล้วก็เห็นหลวงปู่ส่ายตามองดูซ้ายขวา แล้วกวักมือมาทางเรานั่ง ข้าพเจ้าหันไปมองดูฅนข้างหลังและฅนข้าง ๆแต่ก็ไม่รู้ว่าหลวงปู่จะกวักมือเรียกใคร ก็คิดแต่ในใจว่าคงไม่ใช่เราแน่ เพราะเราเป็นฅนใหม่พึ่งมาเป็นครั้งแรก หลวงปู่ไม่เคยรู้จักเรามาก่อน
    ฅนอื่นส่วนมากหลวงปู่รู้จักมาก่อนแล้ว เพราะเคยมาหาประจำทุกครั้ง ฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงนั่งมองดูเฉยอยู่
    เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจ หลวงปู่ก็ให้คุณเชื้อก้มลงแล้วกระซิบที่ข้างหู ซึ่งคุณเชื้อนั่งใกล้ชิดคอยปฏิบัติหลวงปู่อยู่แล้ว คุณเชื้อก็ชะเง้อมองมายังข้าพเจ้าพลางกวักมือบอกว่า“หลวงปู่อยากพบ”ข้าพเจ้าหันไปมองดูเพื่อให้แน่ใจ ชี้ตัวเองเป็นคำถาม ก็ได้รับคำตอบจากคุณเชื้อโดยการพยักหน้าและกวักมือ
    ข้าพเจ้าค่อยๆคลาน ผู้ที่นั่งล้อมวงก็หลีกทางให้เข้าไปอยู่ตรงหน้าหลวงปู่ กราบท่านแล้วก็นั่งนิ่งโดยไม่เอ่ยปากถามอะไร และไม่มีปัญหาอะไรจะถาม ไม่รู้จะพูดอะไร
    เสียงหลวงปู่หัวเราะหึๆ แล้วพูดว่า “เอ่อ เจ้านี่ได้สร้างกรรมทำดีไว้มาก หมั่นมาหาปู่แล้วปู่จะให้ของดีพิเศษกับเจ้ารอไปก่อน” แล้วท่านก็ให้ข้าพเจ้าก้มหัวลงและก็เป่าลงในกลางกระหม่อม เสร็จแล้วท่านก็ให้โอวาท ล้วนเป็นหลักธรรมที่ควรแก่การปฏิบัติ ข้าพเจ้าได้แต่ฟังจำไม่ได้ จึงไม่ได้เขียน
    หลังจากข้าพเจ้าคลานออกมานั่งนอกวงล้อมแล้ว ปล่อยให้ผู้อื่นที่คอยรอจะเข้าอยู่แล้วคลานเข้าไปกราบ อยากทราบปัญหาชีวิตอนาคต ขอให้ท่านแนะทาง เมื่อท่านแนะให้แล้วก็ขอของดีไว้ป้องกันตัว ข้าพเจ้าก็ได้พยายามคอยสังเกตเห็นหลวงปู่เป่าหัวพรมน้ำมนต์แล้ว ผู้นั้นก็ทวงได้ของดีจากท่าน เพราะเห็นท่านทำท่าลืม ท่านทำปากท่องอาคมเสียงพึมพำ แล้วก็เอามือคว้าอากาศตรงหน้า แล้วก็ยื่นพระเครื่องมาให้ท่านผู้นั้นหนึ่งองค์
    ภายหลังมีหลายท่านที่เข้าไปขอของดีบ้าง ท่านก็คว้าอากาศแล้วหยิบพระมามอบให้ผู้ต้องการ ข้าพเจ้าเห็นก็รู้สึกเป็นเรื่องแปลกมหัศจรรย์ เพราะผู้ที่ได้พระนั้น ล้วนแต่เป็นพระต่างแบบกันองค์เล็กบ้างโตบ้างไม่เท่ากัน นักเลงพระอยู่ในที่นั้นด้วยบอกว่า เป็นพระเก่าแท้และหายาก ครั้งหลังท่านให้ข้าพเจ้าเข้าไปหา แล้วเอามือคว้าอากาศตรงหน้าท่าน แล้วก็ได้พระติดมือมาหนึ่งองค์ กว้างขนาด ๒ นิ้วมือฅนและยาว ๓ นิ้ว แล้วก็มอบให้ข้าพเจ้า เมื่อนักเลงพระอยู่ในนั้นขอดูแล้วก็บอกว่า นี่เป็นพระทุ่งเศรษฐีเก่าแท้ ข้าพเจ้าได้นำพระองค์นั้นมาเก็บไว้ห้องพระที่บูชาไม่ได้แขวนคออย่างผู้อื่น และต่อมาพระองค์นั้นก็หายไปจากห้องพระอย่างลึกลับ ทำให้ข้าพเจ้านึกเล่นขำ ๆว่าหลวงปู่เห็นข้าพเจ้าไม่ค่อยสนใจ คงคว้าอากาศมาหยิบเอาคืนไปให้ผู้อื่นแล้วก็ได้
    บ่ายวันนั้นจำได้ว่านอกจากพระแล้ว ท่านยังได้แจกตะกรุดทองคำ ซึ่งทราบว่าตะกรุดทองคำนี้ คุณเชื้อนำแผ่นทองคำแผ่บางม้วนเป็นตะกรุด ไปถวายให้ท่านปลุกเสก เมื่อท่านปลุกเสกแล้ว ผู้ที่สนิทชิดชอบกับคุณเชื้อได้กันมาหมดทุกฅนสำหรับผู้ที่มีสร้อยคอมีพระแขวน เป็นพวงใหญ่และเล็กอยู่แล้ว ต่างก็ถอดสร้อยจากคอออกมอบให้หลวงปู่ ขอให้ท่านร้อยตะกรุดให้ ท่านก็รับมารวม ๆ กัน มีผู้เอาไฟฉายส่องดูสายสร้อย เห็นมีสายสร้อยมากเส้นเล็กบ้างโตบ้าง แล้วท่านได้เอาสร้อยเท่าจำนวนตะกรุดมารวมกัน กอบกำไว้ในสองมือครู่เดียวก็ยกขึ้นเป่าพรวด!!เป็นที่น่าอัศจรรย์เหมือนเล่นกล ปรากฏว่าตะกรุดทุกดอก ได้ร้อยเข้าไปอยู่ในสร้อยทองคำ โดยไม่ต้องปลดขอสับอย่างเรียบร้อยหมดทุกเส้น แล้วมอบคืนให้เจ้าของทุกฅน ทำให้พิศวงงงงวยไปตามกัน ส่วนข้าพเจ้านั้น ไม่มีสายสร้อยห้อยพระ จึงได้แต่ห่อกระดาษใส่กระเป๋าเท่านั้น นี่เป็นเรื่องแปลกที่ได้เห็นอภินิหารของหลวงปู่ ที่วัดทุ่งสมอในเวลานั้นเป็นครั้งแรก ที่ข้าพเจ้าไปเห็นด้วยตาตนเอง

    บูชา 900 บาท รวมค่าส่งพระ รับประกันความพึงพอใจ


    ขอให้ท่านที่ได้บูชาพระ/เครื่องรางนี้ไปมีความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งขึ้นค้าขายร่ำรวยๆ สุขภาพแข็งแรงทั้งครอบครัว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 572099_0.jpg
      572099_0.jpg
      ขนาดไฟล์:
      117.3 KB
      เปิดดู:
      40
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 สิงหาคม 2024
  12. ทองทวี

    ทองทวี “นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา" สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +1,770
    550439_0.jpg
    รูปหล่อหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก รุ่นสร้างโรงพยาบาลเขาย้อย จ เพชรบุรี ปี2537

    หลวงพ่อยิดท่านเกิดเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2476 นามเดิมว่ายิด ศรีดอกบวบ บิดาชื่อ แก้ว มารดาชื่อพร้อย มีพี่น้องร่วมสายโลหิต 7 คน ท่านเป็นคนที่ 4 เมื่ออายุ 6 ขวบ บิดามารดาได้นำไปฝากเป็นศิษย์ พระอาจารย์หวล วัดนาพรม ได้ศึกษาอักขระเลขยันต์และฝึกปฏิบัติสมาธิกับพระอธิการหวล และครูหลี แม้นเมฆ มีความสนใจในด้านวิชาอาคม สักยันต์และร่ำเรียนศึกษาพระธรรมวินัย และได้ออกธุดงค์วัตรกับพระอุปฌาย์ตั้งแต่ยังเป็นสามเณร โดยออกธุดงค์เป็นเวลา 4ปี และได้ลาสิกขามาช่วยบิดามารดาทำไร่ทำนาตอนอายุ 14 ปี และในช่วงนี้นี่เองที่หลวงพ่อเริ่มมีชื่อเสียงจากการสักยันต์ เนื่องจากเพื่อน ๆ ในวัยเดียวกัน ได้ลองให้หลวงพ่อสักให้แล้วเกิดมีประสบการณ์ จึงเล่ากันปากต่อปากและมีผู้มาสักยันต์มากขึ้น (ขณะนั้นอายุประมาณ 17-19 เท่านั้น)เมื่ออายุได้ 20 ปีก็ได้อุปสมบทตามประเพณี โดยมีหลวงพ่ออินทร์ วัดยางเป็นพระอุปฌาย์ พระอธิการหวล เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับ ฉายาว่า จันทสุวัณโณ และได้ศึกษาด้านวิชาอาคม เพิ่มเติมโดยฝากตัวเป็นศิษย์กับหลวงพ่อศุข วัดโตนดหลวง และได้ออกธุดงค์ศึกษากรรมฐานหายเข้าป่าหลายปีจนได้กลับมาวัดนาพรหม ในปี พ.ศ. 2487 ก็ได้ทราบข่าวการป่วยของบิดา จึงคอยดูแลจนกระทั่งบิดาเสียจึงลาสิกขาออกมาดูแลมารดาซึ่งแก่ชรามาก และได้แต่งงานมีครอบครัว ส่วนลูกศิษย์เก่า ๆ ที่ได้จากการสักจากหลวงพ่อ พอรู้ข่าวก็ได้มาสักกันเพิ่มขึ้นจนมีชื่อเสียงโด่งดัง แต่มีบางคนที่ได้รับการสักยันต์จากหลวงพ่อแล้วกลับประพฤติตนเป็นอันธพาล จนทางตำรวจท้องที่ต้องขอร้องอาจารย์ยิด(ขณะนั้น) ให้เพลา ๆ การสักยันต์ลง ต่อมาจึงมีการเลือกเฟ้นจนแน่ใจแล้ว จึงจะทำการสักให้ จนกระทั่งปี 2518 จึงได้อุปสมบทอีกครั้งที่วัดเกาะหลัก โดยมีหลวงพ่อเปี่ยมเป็นพระอุปฌาย์ ได้รับฉายา จันทสุวัณโณ เช่นเดิม ซึ่งขณะนั้นท่านอายุ 51 ปี เมื่ออุปสมบทแล้วก็เดินทางไปจำพรรษาเป็นพระลูกวัดที่ วัดทุ่งน้อย อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ ได้พบกับอุบาสิกาใจบุญ 2 ท่าน ยกพื้นที่ดินว่างเปล่าพื้นที่ 21 ไร่ 2 งาน ให้โดยปรารถนาให้ท่านสร้างวัดขึ้น ที่ดินผืนนี้เต็มไปด้วย ป่าไผ่ และดงต้นหนาม ซึ่งหลวงพ่อได้ปลูกกระต๊อบหลังเล็ก ๆ ไว้ และก็เริ่มถางป่าไผ่ พัฒนาไปเรื่อย ๆ จนพื้นที่รกทึบเริ่มโล่งมากขึ้น จนกระทั่งบรรดาลูกศิษย์ที่ได้รับการสักยันต์ และพวกที่เคยได้รับการรักษายาสมุนไพร ได้รู้ข่าวการสร้างวัดใหม่ของหลวงพ่อก็ได้มาร่วมกันสร้างวัดด้านผู้ชายก็ช่วยถากถาง ผู้หญิงก็ช่วยหุงหาอาหาร แจกจ่ายและได้รวมกันสร้างกุฏิขึ้นเป็นสำนักสงฆ์ ในขั้นแรก และต่อมาได้พัฒนาเป็นวัดต่อมาจึงมีการเลือกเฟ้นจนแน่ใจแล้ว จึงจะทำการสักให้ จนกระทั่งปี 2518 จึงได้อุปสมบทอีกครั้งที่วัดเกาะหลัก โดยมีหลวงพ่อเปี่ยมเป็นพระอุปฌาย์ ได้รับฉายา จันทสุวัณโณ เช่นเดิม ซึ่งขณะนั้นท่านอายุ 51 ปี เมื่ออุปสมบทแล้วก็เดินทางไปจำพรรษาเป็นพระลูกวัดที่ วัดทุ่งน้อย อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ ได้พบกับอุบาสิกาใจบุญ 2 ท่าน ยกพื้นที่ดินว่างเปล่าพื้นที่ 21 ไร่ 2 งาน ให้โดยปรารถนาให้ท่านสร้างวัดขึ้น ที่ดินผืนนี้เต็มไปด้วย ป่าไผ่ และดงต้นหนาม ซึ่งหลวงพ่อได้ปลูกกระต๊อบหลังเล็ก ๆ ไว้ และก็เริ่มถางป่าไผ่ พัฒนาไปเรื่อย ๆ จนพื้นที่รกทึบเริ่มโล่งมากขึ้น จนกระทั่งบรรดาลูกศิษย์ที่ได้รับการสักยันต์ และพวกที่เคยได้รับการรักษายาสมุนไพร ได้รู้ข่าวการสร้างวัดใหม่ของหลวงพ่อก็ได้มาร่วมกันสร้างวัดด้านผู้ชายก็ช่วยถากถาง ผู้หญิงก็ช่วยหุงหาอาหาร แจกจ่ายและได้รวมกันสร้างกุฏิขึ้นเป็นสำนักสงฆ์ ในขั้นแรก และต่อมาได้พัฒนาเป็นวัดหนองจอกในปัจจุบัน หลวงพ่อยิดได้มรณะภาพเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2538 สิริอายุ 71 ปี 30 พรรษา หลวงพ่อยิดได้เริ่มสร้างวัตถุมงคลแบบทดลองสร้างดูพุทธคุณตั้งแต่สมัยเป็นอาจารย์ยิด โดยสร้างเป็นตะกรุดเพียงไม่กี่ดอก ได้มาเริ่มสร้างวัตถุมงคลแบบจริง ๆ จัง ๆ ก็ตอนสร้างวัดหนองจอกนี่เอง โดยสร้างเป็นเหรียญรูปหล่อ และปลัดขิก และสร้างเรื่อยมา เพราะลูกศิษย์ลูกหาต่างแสวงหา เพราะต่างก็เชื่อมั่นในพุทธคุณของวัตถุมงคลที่หลวงพ่อจัดสร้างขึ้น ปัจจุบัน วัตถุมงคลของหลวงพ่อยิดได้รับความนิยมมาก แต่ราคายังถูกอยู่คือ จะอยู่ประมาณ หลักร้อยถึงหลักพันต้น ถ้าสนใจอยากบูชาไว้คุ้มครองตัว ให้จดจำลักษณะให้ดีแล้วจะได้ของดีไว้บูชาครับ เมื่อพูดถึง “ปลัดขิก” นับเป็นเครื่องรางของขลังที่พระเกจิอาจารย์ดังในอดีตหลายองค์นิยมสร้างกันอาทิ หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก ฉะเชิงเทรา,หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ชลบุรี,หลวงพ่อโสก วัดปากคลองบางครก เพชรบุรี, ฯลฯ ปลัดขิกของแต่ละท่าน ล้วนโด่งดัง-เข้มขลังด้วยประสบการณ์ เล่าขานสืบมาจนทุกวันนี้ หนึ่งในเกจิอาจารย์ที่สร้างตำนาน “ปลัดขิก” จนดังสะท้านประเทศก็คือ “หลวงพ่อยิด จนฺทสุวณฺโณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองจอก อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ วิทยาคมของท่านนั้นแก่กล้าขนาดที่ว่า สามารถเสกปลัดขิกบินรอบวัด ก่อนจะแจกจ่ายให้ญาติโยม นี่คือเรื่องจริงที่หลายๆ คนได้ประจักษ์กับสายตามาแล้ว เรื่องแปลกของหลวงพ่อยิดเรื่องหนึ่งก็คือ ท่านสรงน้ำปีละครั้ง ในเดือน 4 ในวันอาทิตย์แรกของข้างแรม สาเหตุก็เนื่องมาจาก ท่านได้รับปากกับอาจารย์ที่สอนวิชาอาคมให้สมัยที่ยังเป็นฆราวาส เมื่อเรียนจบแล้ว ท่านก็อาบน้ำ จนกระทั่งบวชเป็นพระก็สรงน้ำปีละครั้งตลอดมาจนมรณภาพ

    บูชา 700 บาท รวมค่าส่งพระ รับประกันความพึงพอใจ

    ขอให้ท่านที่ได้บูชาพระ/เครื่องรางนี้ไปมีความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งขึ้นค้าขายร่ำรวยๆ สุขภาพแข็งแรงทั้งครอบครัว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 550438_0.jpg
      550438_0.jpg
      ขนาดไฟล์:
      166.1 KB
      เปิดดู:
      35
  13. ทองทวี

    ทองทวี “นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา" สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +1,770
    555781_0.jpg
    เหรียญครูบาศรีวิชัย ออกวัดสารภี จ.เชียงใหม่ ปี 2515
    เหรียญครูบาศรีวิชัย วัดสารภี จ.เชียงใหม่ จัดสร้างโดยคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ เป็นยันต์ตรีนิสิงห์เหแบบล้านนา ด้านหลังเป็นยันต์ครูของท่านครูบาวัดปากกอง และท่านครูบาวัดปากกองได้อธิฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวให้ด้วยโดยกำหนดพิธีมหาพุทธาภิเษกพระพุทธสิหิงค์จำลอง 9 เมษายน 2515 ณ วัดพระธาตุดอยสุเทพ ปลุกเสกในพิธีเดียวกันกับพิธีมหาพุทธาภิเศกใหญ่โดยยอดพระคณาจารย์ทั่วประเทศ 108 รูป ทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันตก ภาคตะวันออก ภาคใต้ อธิฐานจิตโดย สุดยอดพระเกจิอาจารย์ 108 รูปทั่วฟ้าเมืองไทย ร่วมปลุกเสกในพิธี
    รายนามคณาจารย์อย่างเช่น-หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี-หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง-หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม-หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม-อาจารย์นำ แก้วจันทร์-หลวงพ่อเกษม เขมโก ลำปาง-ท่านพระครูสิริธรรมโฆษิต วัดปากกอง-ครูบาชุ่มโพธิโก วัดวังมุย ลำพูน-ครูบาคำแสน คุณาลังกาโล วัดป่าดอนมูลเชียงหใหม่-ครูบาพรหมมา วัดพระพุทธบาทตากผ้า-อาจารย์ชุม ไชยคีรี (ฝ่ายฆราวาส)
    พระเครื่องและวัตถุมงคลชุดนี้ นับเป็นพิธีปลุกเสกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดพิธีหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ในสมัย นั้นเลยก็ว่าได้ เหรียญครูบาศรีวิชัยรุ่นนี้ถือเป็นยอดวัตถุมงคลที่ผู้มีจิตเคารพศรัทธาในครู บาศรีวิชัยควรมีไว้บูชาเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะทำพิธีมหาพุทธาภิเษกใหญ่โดยยอดคณาจารย์ในสมัยนั้น นับเป็นพิธีปลุกเสกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่เลยก็ว่าได้ พระดี มีประสบการณ์ ครับ

    บูชา 700 บาท รวมค่าส่งพระ รับประกันความพึงพอใจ

    ขอให้ท่านที่ได้บูชาพระ/เครื่องรางนี้ไปมีความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งขึ้นค้าขายร่ำรวยๆ สุขภาพแข็งแรงทั้งครอบครัว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 555780_0.jpg
      555780_0.jpg
      ขนาดไฟล์:
      119.1 KB
      เปิดดู:
      29
  14. ทองทวี

    ทองทวี “นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา" สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +1,770
    555674_0.jpg
    พระสมเด็จสันติสุข หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน
    (พิธีกริ่งสันติสุข วัดหลวงปรีชากุล)
    เนื้อผงพุทธคุณผสมว่าน สภาพดี ปี ๒๕๑๕ พิธีใหญ่ พุทธาภิเษก ๑๐๙ รูป วัดบ้านด่าน จ.ปราจีนบุรี เนื้อพระแก่มวลสารเก่า มีส่วนผสมของ พระสมเด็จวัดระฆัง วัดบางขุนพรม วัดเกศไชโย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ที่ชำรุดแตกหักมาผสม และพระเนื้อดินกำแพงเพชร มวลสารในการจัดสร้างมีว่าน ๑๐๘ ชนิด
    พิธีพุทธาภิเษกจัดขึ้นสร้างในวันเสาร์ที่ ๔ มี.ค. 2๒๕๑๕ (เสาร์ห้า) พระผงผสมว่าน รุ่นสันติสุข หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน สร้างปี ๒๕๑๕ พร้อมกริ่งสันติสุข มีพระเกจิอาจารย์เข้าร่วมพุทธาภิเษกจำนวนรวมทั้งสิ้น ๑๐๙ รูปอาทิเช่น๑.หลวงพ่อผิว วัดสง่างาม ๒.หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน ๓.หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิตร ๔.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ๕.หลวงปู่เส่ง โสภโณ วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ๖.หลวงพ่อมิ่ง วัดกก ๗.พระอาจารย์ผ่อง จินดา วัดจักรวรรดิราชาวาส (วัดสามปลื้ม) ๘.หลวงพ่อชื่น วัดตำหนักเหนือ ๙.หลวงพ่อลมูล วัดเสด็จ
    ๑๐.หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ ๑๑.หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช ๑๒.หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ๑๓.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง ๑๔.หลวงพ่อแกร วัดส้มเสี้ยว๑๕.หลวงพ่อโอด วัดจันเสน ๑๖.ครูบาวัง วัดบ้านเด่น จ.ตาก๑๗.พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร

    ในพิธีพระสวดคาถาพุทธาภิเษก-สวดคาถาจักรพรรดิ์ตราธิราช โดยมีสมเด็จพระวันรัต วัดพระเชตุพน เป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย และ ฯพณฯจอมพลถนอม กิตติขจร เป็นประธานจุดเทียนชัยบูชาพระรัตนตรัย พลตรี ศรีศักดิ์ ธรรนรักษ์ ผู้ว่าราชการปราจีนบุรี เป็นประธานบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระอาจารย์ไสว สุมโน วัดราชนัดดา เป็นเจ้าพิธีฝ่ายสงฆ์ พระราชครูวามเทพมุนี ประธานพราหมณาจารย์แห่งประเทศไทย เป็นเจ้าพิธีฝ่ายพราหมณ์ จึงนับเป็นพิธีมหาพุทธาภิเษกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเมื่อประกอบพิธี และมีการฉลองสมโภช ๕ วัน ๕ คืน

    บูชา 600 บาท รวมค่าส่งพระ รับประกันความพึงพอใจ

    ขอให้ท่านที่ได้บูชาพระ/เครื่องรางนี้ไปมีความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งขึ้นค้าขายร่ำรวยๆ สุขภาพแข็งแรงทั้งครอบครัว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 555673_0.jpg
      555673_0.jpg
      ขนาดไฟล์:
      161.3 KB
      เปิดดู:
      34
  15. ทองทวี

    ทองทวี “นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา" สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +1,770
    572118_0.jpg
    พระขุนแผนซุ้มไผ่นะหน้าทอง หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม จ.อยุธยา
    หลวงพ่อเอียด อินฺทวํโส วัดไผ่ล้อม จ.อยุธยาเกจิอยุธยา มีชื่อเสียงโดงดังในทางเมตตาและมีจริยวัตรงดงามน่าเลื่อมใส ท่านได้อุปสมบท ณ วัดไผ่ล้อม อำเภอบางบาล พระนครศรีอยุธยาโดยมีหลวงพ่อตุ้ม จนฺทโชติ วัดจันทราราม เป็นพระอุปัชฌาย์ และในปี พ.ศ.2497 ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม หลวงพ่อเอียด ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อแจ่ม สำหรับหลวงพ่อแจ่มนั้นท่านเป็นพระเถระที่เก่งมากท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อขันวัดนกกระจาบ ซึ่งหลวงพ่อขันท่านนั้นเป็นศิษย์หลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า สำหรับผ้ายันต์หลวงพ่อขันวัดนกกระจาบยุคท้ายๆ จะเป็นลายมือของหลวงพ่อแจ่ม และลายมือของหลวงพ่อเอียด เนื่องจากลายมือหลวงพ่อเอียดนั้นลงอักขระยันต์ได้สวยงามมาก หลวงพ่อเอียดท่านยังได้มีโอกาสร่ำเรียนวิชากับหลวงพ่อสังข์ วัดน้ำเต้า อาจารย์ของหลวงปู่ทิม วัดพระขาว และเรียนวิชากับหลวงพ่ออินทร์วัดเกาะหงส์ หลวงพ่อแจ่มวัดวังแดงเหนือ

    วัตถุมงคลหลวงพ่อเอียด ท่านสร้างพระเครื่องเป็นครั้งแรกเมื่อ 2513 เป็นพระเนื้อผงพิมพ์สมเด็จหลังกอไผ่ ซึ่งเป็นพระที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน และหายาก มีราคาสูง และต่อมาท่านได้สร้างวัตถุมงคลอีกหลายแบบ เช่น พระเหรียญพิมพ์ต่างๆ พระผง รูปเหมือน รูปหล่อ แหวนเงิน กำไลเงิน ตะกรุดเงิน ขันน้ำมนต์ ผ้ายันต์ ฯลฯ วัตถุมงคลเหล่านี้ท่านสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในวาระต่างๆ และเพื่อหาปัจจัยในการก่อสร้างและบูรณะถาวรวัตถุของวัดไผ่ล้อมหลวงพ่อเอียดท่านละสังขาร ในวันที่ 29 มกราคม 2558 สิริอายุรวม 87 ปี

    พระผงขุนแผนซุ้มไผ่นะหน้าทอง หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม จ.อยุธยาที่ระลึกทำบุญงานทำบุญฉลองอายุ 6 รอบ 72 ปี ของหลวงพ่อเมื่อปี 2544 เนื้อผงพุทธคุณผสมเส้นเกศา

    บูชา 700 บาท รวมค่าส่งพระ รับประกันความพึงพอใจ

    ขอให้ท่านที่ได้บูชาพระ/เครื่องรางนี้ไปมีความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งขึ้นค้าขายร่ำรวยๆ สุขภาพแข็งแรงทั้งครอบครัว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 572117_0.jpg
      572117_0.jpg
      ขนาดไฟล์:
      169.8 KB
      เปิดดู:
      29
  16. ทองทวี

    ทองทวี “นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา" สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +1,770
    560425_0.jpg
    เหรียญนั่งพาน หลวงพ่อเริ่ม ปรโม วัดจุกกะเฌอ ชลบุรี ปี 2537

    หลวงปู่เริ่ม ปรโม อดีตเจ้าอาวาสวัดจุกกะเฌอ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เป็นพระเกจิอาจารย์ ชื่อดังแห่งเมืองชลบุรี ศิษย์ร่วมสำนักกับหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง เกิดในตระกูลเฉียงเอก วันที่ 7 ก.ค.2448 ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มีพี่น้องรวมทั้งสิ้น 11 คน ท่านมีอุปนิสัยฝักใฝ่ในพระพุทธศาสนามาตั้งแต่เยาว์วัย อายุครบ 20 ปี ท่านเข้าพิธีอุปสมบท ที่วัดแหลมฉบัง มีพระครูสุนทรธรรมรส วัดอ่างศิลา เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์รูปแรกคือ หลวงพ่ออ่ำ
    วัดหนองกระบอก จ.ระยอง เจ้าตำรับเครื่องรางแพะอันลือลั่น วิชาที่ได้จากหลวงพ่ออ่ำ คือ วิชาฝนแสนห่าและสีผึ้งเจ็ดจันทร์ และะท่านไปเรียนวิชาทำปลัดขิกกับหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ เรียนวิชาหนังหน้าผากเสือกับหลวงพ่อสาย วัดหนองเกตุน้อย ชลบุรี เรียนวิชาทำผง 12 นักษัตรจากหลวงปู่เทียน วัดโบสถ์ ปทุมธานี และวิชาอื่นๆ จากพระเกจิอาจารย์อีกหลายท่าน อาทิ หลวงพ่ออ่อง วัดหนองรี ชลบุรี, หลวงพ่อผุย วัดหน้าพระธาตุ, เจ้าคุณศรีฯ วัดอ่างศิลา
    สำหรับพระอาจารย์องค์สำคัญ คือ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จ พระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อยู่ ญาโณทโย) วัดสระเกศ กทม. ได้ไปขอศึกษาวิชาการสร้างพระปิดตา วิปัสสนากัมมัฏฐานและโหราศาสตร์ จนมีความเชี่ยวชาญ สามารถดูดวงชะตาราศี เปลี่ยนดวงและสลับดวงชะตาได้นอกจากด้านพุทธาคมแล้ว ยังมีความแตกฉานในวิชาแพทย์แผนโบราณด้วยด้านวัตถุมงคลสร้างไว้และปลุกเสกไว้หลายรุ่น บางรุ่นนั้นมีมูลค่าบูชาสะสมค่อนข้างสูง มรณภาพ เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2538 สิริอายุ 90 ปี พรรษา 70


    บูชา 500 บาท รวมค่าส่งพระ รับประกันความพึงพอใจ

    ขอให้ท่านที่ได้บูชาพระ/เครื่องรางนี้ไปมีความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งขึ้นค้าขายร่ำรวยๆ สุขภาพแข็งแรงทั้งครอบครัว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 560424_0.jpg
      560424_0.jpg
      ขนาดไฟล์:
      218.2 KB
      เปิดดู:
      30
  17. ทองทวี

    ทองทวี “นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา" สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +1,770
    560429_0.jpg
    เหรียญหยดน้ำหลวงปู่วรพรตวิธาน รุ่นอยู่เย็นเป็นสุขวัดศรีสะเกษ อ.พล จ.ขอนแก่น

    หลวงปู่วรพรตวิธาน นามเดิมท่านชื่อ “พันธ์ ทับงาม” เกิด 1 ธันวาคม พ.ศ. 2444 ที่บ้านน้ำอ้อม อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด หลวงปู่เป็นบุตรคนที่ 4 ในบรรดา พี่น้อง 8 คน ของคุณพ่อศิลา ทับงาม และ คุณแม่ ทอง ทับงาม ใน ปี พ.ศ. 2465 อายุได้ 21 ปี จึงได้รับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมี พระครูธรรมสังฆบาล เป็นพระอุปัชฌาย์ มีฉายาเป็นชื่อภาษาบาลีว่า “ติสฺโส” ซึ่งแปลว่า สาม อันหมายถึง พระรัตนตรัย ได้แก่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นั่นเอง หลวงปู่ท่านเป็นผู้มีวิชาอาคมขลังมาก ได้เรียนวิชาอาคมมาจาก 5 อาจารย์ คือ หลวงศรีธรรมศาสตร์ อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม พระอาจารย์ขัน วัดบ้านท่าสะแบง จังหวัดร้อยเอ็ด พระอาจารย์ขัน วัดท่าสะแบงนี้ท่านเป็นผู้มีวิชาอาคมรูปหนึ่งในภาคอีสานในสมัยนั้นไม่ว่าจะเป็นวิชาอาคมทางด้านเมตตามหานิยม, คงกระพันชาตรี, แคล้วคลาด, มหาอุด ป้องกันขับไล่คุณไสย ภูติผีปีศาจ หลวงปู่วรพรตได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมจนหมดแล้วหลวงปู่ก็ได้ไปศึกษากับอาจารย์บ้านฟ้าเหลี่ยม อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด เกจิอาจารย์ดังรูปหนึ่งในสมัยนั้น หลังจากนั้นได้ไปศึกษากับ หลวงปู่ชม ฐานธัมโม แห่งวัดกู่พระโกนาจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของท่าน หลวงปู่ชมรูปนี้ท่านมีวิชาอาคมมาก มีอิทธิปาฏิหาริย์หลวงปู่ท่านได้ศึกษาวิชาอาคม และวิปัสนากัมมัฏฐานอยู่ 2 ปี ก็ได้กราบลาหลวงปู่ชม ท่านได้ออกเดินธุดงค์ไปกับ หลวงพ่อผาง จิตฺตคุตฺโต หลวงปู่วรพรต ได้ธุดงผ่านดงพญาเย็น-พญาไฟ ผ่านไปประเทศลาว พม่า เขมร เรื่องราวตอนที่ท่านเดินธุดงค์ไปนั้นมีมากมาย แต่ท่านก็ผ่านอุปสรรคนั้นมาได้
    อภินิหารเหยียบรถกระดกขึ้น
    หลวงปู่ได้แสดงปาฏิหาริย์ให้ปรากฏแก่สายตาของผู้คนเป็นครั้งแรก คือ เรื่องหลวงปู่เหยียบรถกระดก(ลอยขึ้น) เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2503 หลวงปู่จะออกเดินทางจาก อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น ด้วยรถโดยสาร เพื่อจะไปจังหวัดร้อยเอ็ด รถคันที่หลวงปู่จะขึ้นเป็นรถสองแถวขนาดใหญ่ ตามธรรมดาโดยทั่วไปแล้ว พระเณรจะต้องนั่งด้านหน้าติดกับคนขับ เพื่อจะได้ไม่ปะปนกับผู้โดยสารคนอื่น แต่รถคันนี้มีผู้หญิงนั่งเต็มอยู่ด้านหน้าแล้ว ด้านหลังรถยังพอมีที่นั่งได้ คนขับรถจึงบอกให้หลวงปู่ขึ้นทางท้ายรถ หลวงปู่ก็ได้ปฏิบัติตาม แต่ก่อนจะขึ้นรถหลวงปู่ได้พูดกับคนขับรถว่า “โยม รถจะไม่เดี่ยงหรือ” (เดี่ยง แปลว่า “กระดก”) คนขับก็บอกว่า “หลวงพ่อนิมนต์ก้าวเหยียบขึ้นได้เลย รถมันไม่เดี่ยงหรอกเพราะรถรับน้ำหนักได้หลายตัน” พอคนขับพูดจบ หลวงปู่ก็ก้าวเท้าขึ้นรถ ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นทันที ด้านหน้ารถลอยขึ้น คนขับรถเห็นเช่นนั้นถึงกับตกตะลึงจึงกราบนิมนต์หลวงปู่มานั่งด้านหน้า โดยให้พวกผู้หญิงไปนั่งด้านหลัง ตั้งแต่นั้นมาสมญานาม “หลวงปู่วรพรตเหยียบรถเดี่ยง” จึงเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป หลวงปู่วรพรตวิธาน ท่านได้มรณภาพ เมื่อวันที่ 20 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2544 ณ วัดจุมพล ตำบลก้านเหลือง อำเภอแวงน้อย จังหวัดขอนแก่น รวมสิริอายุได้ 101 ปี

    เหรียญหยดน้ำ หลวงปู่วรพรตวิธาน วัดจุมพล ออกวัดศรีสะเกษ จ.ขอนแก่น อายุ101ปี รุ่นอยู่เย็นเป็นสุข เนื้อทองแดง

    บูชา 300 บาท รวมค่าส่งพระ รับประกันความพึงพอใจ

    ขอให้ท่านที่ได้บูชาพระ/เครื่องรางนี้ไปมีความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งขึ้นค้าขายร่ำรวยๆ สุขภาพแข็งแรงทั้งครอบครัว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 560428_0.jpg
      560428_0.jpg
      ขนาดไฟล์:
      240.1 KB
      เปิดดู:
      29
  18. ทองทวี

    ทองทวี “นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา" สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +1,770
    20220106_221929.jpg
    เหรียญ101ปีหลวงปู่สุภา วัดเขารัง ภูเก็ต

    พระมงคลวิสุทธิ์ (สุภา กนฺตสีโล) วัดสีลสุภาราม(เขารัง)ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ท่านเป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดสีลสุภาราม ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปูศุข วัดมะขามเฒ่า และ พระอาจารย์สีทัตต์ วัดท่าอุเทน จังหวัดนครพนม เป็นพระเถระคณาจารย์ที่มีพรรษาแก่กล้า และมีอายุยืนถึง 116 ปี 98 พรรษา ตั้งแต่แผ่นดินรัชกาลที่ 5 นับเป็นเวลาถึง 5 แผ่นดิน และเชี่ยวชาญพุทธาคมมากที่สุดรูปหนึ่งในรูปปัจจุบันท่านธุดงค์ข้ามไปยัง ประเทศเขมร ลาว พม่า จีน อินเดีย และอัฟกานิสถาน ได้ศึกษาและเปลี่ยนวิชากับพระเกจิอาจารย์ชื่อดังเช่น หลวงพ่อเดิม หลวงพ่อจาด หลวงพ่อจง หลวงพ่อทบ และหลวงพ่อโอภาสี พระเครื่องที่ออกนามในวัดสารอด รุ่นเสด็จกลับ เป็นพระเครื่องที่ได้รับความนิยมสูงสุดของท่านเช่นเดียวกับเครื่องราง แมงมุมเรียกทรัพย์ และ จระเข้อาคม อันขึ้นชื่อลือชา

    เหรียญเหลี่ยมพิมพ์ยืน อายุครบ 101 ปี เนื้อทองแดงรมดำ ปี 2539 ทันท่านปลุกเสกคับ พุทธคุณทุกด้านราคาบ้านๆ

    บูชา 300 บาท รวมค่าส่งพระ รับประกันความพึงพอใจ

    ขอให้ท่านที่ได้บูชาพระ/เครื่องรางนี้ไปมีความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งขึ้นค้าขายร่ำรวยๆ สุขภาพแข็งแรงทั้งครอบครัว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. ทองทวี

    ทองทวี “นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา" สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +1,770
    542112_0.jpg
    รูปหล่อหลวงพ่อพระใส(ฝังพลอยแดง) กะไหล่ทอง ปี 2545 วัดโพธิ์ชัย หนองคาย
    หลวงพ่อพระใส เป็นพระพุทธรูปหล่อในสมัยล้านช้าง ตำนานเล่าสืบต่อว่า พระธิดา ๓ องค์ ได้หล่อพระพุทธรูปขึ้น ๓ องค์ และตั้งชื่อตามนามของตนไว้ว่า พระเสริม พระสุก และพระใส มีขนาดลดหลั่นกันตามลำดับ เดิมทีประดิษฐาน ณ เมืองเวียงจันทน์ สปป.ลาว จนมีการอัญเชิญพระพุทธรูปทั้ง ๓ องค์ แต่เกิดพายุใหญ่ ที่บ้านหนองกุ้ง อ.โพนพิสัย ทำให้พระสุกจมลงน้ำ ยังเหลือแต่พระเสริม พระใส ที่นำขึ้นมาถึงหนองคาย พระเสริม ถูกอัญเชิญประดิษฐานไว้ ณ วัดโพธิ์ชัย ส่วนพระใส ได้อัญเชิญประดิษฐานไว้ ณ วัดหอก่อง (ปัจจุบันคือวัดประดิษฐ์ธรรมคุณ) ต่อมารัชกาลที่ ๔ โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระทั้ง ๒ ไปกรุงเทพฯ ด้วย แต่พอมาถึงวัดโพธิ์ชัย หลวงพ่อพระใสได้แสดงปาฏิหาริย์จนเกวียนหักจึงอัญเชิญไปไม่ได้ ได้แต่พระเสริม ไปประดิษฐาน ณ วัดปทุมวนาราม ส่วนหลวงพ่อพระใสได้อัญเชิญประดิษฐาน ณ วัดโพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย จนถึงปัจจุบัน

    บูชา 600 บาท รวมค่าส่งพระ รับประกันความพึงพอใจ

    ขอให้ท่านที่ได้บูชาพระ/เครื่องรางนี้ไปมีความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งขึ้นค้าขายร่ำรวยๆ สุขภาพแข็งแรงทั้งครอบครัว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 542111_0.jpg
      542111_0.jpg
      ขนาดไฟล์:
      178.9 KB
      เปิดดู:
      29
  20. ทองทวี

    ทองทวี “นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา" สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +1,770
    555620_0.jpg
    รูปเหมือนปั๊มรุ่น1หลวงพ่อเบี่ยง วัดทุ่งสมอ กาญจนบุรี

    วัดทุ่งสมอ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี เป็นวัดโบราณแห่งหนึ่ง สร้างโดยชาวบ้านกลุ่มหนึ่งซึ่งมีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนาที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานอยู่ ณ บริเวณบ้านทุ่งสมอในปัจจุบัน ซึ่งได้ปรากฏความเจริญรุ่งเรืองอย่างมากในสมัยของ พระครูวิบูลธรรมประภาส (หลวงพ่อเบี่ยง อุทโย) อดีตเจ้าอาวาสองค์ที่ 7 พระเกจิอาจารย์เรืองนามของ อ.พนมทวน

    หลวงพ่อเบี่ยง เกิดในสกุล “ดอกนาค” เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2459 ณ ต.หนองโรง อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี เป็นบุตรของนายเก๋ นางบาง มีพี่น้องรวม 6 คน พออายุครบบวชได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดห้วยสะพาน เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2479 โดยมีพระปลัดหรุง วัดทุ่งสมอ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายาทางธรรมว่า “อุทโย” ได้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยจนสอบได้นักธรรมเอกในสำนักเรียนวัดห้วยสะพาน เมื่อปีพ.ศ.2486

    ด้านวิชาไสยเวทพุทธาคม ได้รับการถ่ายทอดจากพระปลัดหรุง หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ หลวงพ่อดี วัดเหนือ หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม และศึกษาวิชาธรรมกายกับหลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญ จนมีความเชี่ยวชาญ สำหรับสหธรรมิกที่สนิทสนมคุ้นเคยกันมากคือ หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม งานปลุกเสกพระ ท่านทั้งสองมักจะได้รับนิมนต์ไปในพิธีคู่กันเสมอ จนเป็นที่รู้กันว่า คงกระพันต้องหลวงพ่ออุตตมะ แต่เมตตา ต้องไปหาหลวงพ่อเบี่ยง

    หลวงพ่อเที่ยงท่านยังเป็นพระผู้มากไปด้วยเมตตาธรรม คอยช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากเสมอ ทำให้บรรดาชาวบ้านตลอดจนพระเณรในวัดเคารพศรัทธาท่านเป็นอย่างมาก พระในวัดทุกรูปท่านจะอบรมให้อยู่ในระเบียบอันสมควรแก่สมณเพศ ส่วนชาวบ้านที่มาทำบุญท่านก็จะคอยอบรมให้ละซึ่งกิเลสและความชั่ว หันมาประพฤติปฏิบัติธรรมสร้างความดีเสมอมา

    ในด้านวัตถุมงคลที่ท่านสร้างไว้สมัยยังมีชีวิตอยู่นั้น มีด้วยกันมากมายหลายแบบ ที่นิยมมากได้แก่ เหรียญปั๊มรูปเหมือนหลวงพ่อในโบสถ์ ผู้นำไปสักการะบูชาแล้วเกิดประสบการณ์อภินิหารทางด้านแคล้วคลาด เช่น อุบัติเหตุรถคว่ำไม่เป็นอะไร เคยมีผู้นำไปให้ลูกหลานห้อยคอบูชา แล้วอธิษฐานขอให้รอดจากการถูกเกณฑ์ทหาร ซึ่งส่วนใหญ่มักจะบนท่านด้วย “ภาพยนตร์” หรือเรียกง่ายว่า “บนหนัง” แล้วจับได้ใบดำกันแทบทั้งนั้น อีกอย่างหนึ่งซึ่งสร้างชื่อเสียงให้ท่านมาก ก็คือ“สีผึ้ง” มีพุทธคุณเยี่ยมทางเมตตามหานิยม และเจรจาค้าขาย

    รูปหล่อปั้มรุ่นแรก หลวงพ่อเบี่ยง วัดทุ่งสมอ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี จัดสร้างในวาระทำบุญครบรอบ 80 ปี พ.ศ.2539

    บูชา 700 บาท รวมค่าส่งพระ รับประกันความพึงพอใจ

    ขอให้ท่านที่ได้บูชาพระ/เครื่องรางนี้ไปมีความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งขึ้นค้าขายร่ำรวยๆ สุขภาพแข็งแรงทั้งครอบครัว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 555619_0.jpg
      555619_0.jpg
      ขนาดไฟล์:
      113.4 KB
      เปิดดู:
      28

แชร์หน้านี้

Loading...