พระครูสมุห์ทองดี วัดบางด้วนนอก

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย modpong, 2 เมษายน 2010.

  1. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ........
    ...หวัดดีครับ..คุณวิทย์..ขอบคุณครับ..พิมพ์นี้ไม่เคยเห็นนะครับ..เนื้อน่าจะไม่ใช่ครับ..เพราะแห้ง..และ..หยาบไปหน่อย..ไป..ปี๙๓..นี่..เนื้อแน่น..ละเอียดครับ
    ...ถ้าเป็นออกทีหลังอาจเป็นได้..แต่เท่าที่ทราบ..ทางวัดไม่ได้แกะพิมพ์ใหม่..ใช้ของปี ๙๓ ทั้งสิ้น..คือ..สมมุติว่า..ปี ๙๓ มีพิมพ์นี้จริง..พระของคุณวิทย์..ก็..จะออกมารุ่นหลังครับ...แต่ต้องยอมรับว่า..เนื้อพระสวย..และพิมพ์ละเอียด..ของวัดบางด้วน..พิมพ์ไม่ละเอียดครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2013
  2. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .............
    .......................................................................................
    ....ถ้าจะพูดถึง...พระผงหลวงปู่เผือก..ก็ต้อง"ขุดสระ"..พุทธคุณแทนพระสมเด็จได้เลย
    ..สำหรับ..คนที่มีประสพการณ์เขาว่า...และเมื่อพูดถึงเนื้อ..ก็"ขุดสระ"..อีกเพราะ..มีความ
    กลมกลืน..สวยงาม..เฉกเช่น..พระสมเด็จวัดระฆัง.....
    .....แต่ตั้งแต่..."ขุดสระ"...มาถึง..."สมเด็จอก..วี"...จนถึง.."รัศมีอินโดจีน"....สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์
    ...แต่มี..มากน้อย..แตกต่างกัน..และ..สามารถ..สังเกตได้ชัด...เรียกว่า..ถ้าไม่มีสิ่งนี้....
    ......คุณฟันธง...ได้เลย....ปลอมแน่นอน.........นั่นคือ..มวลสารชนิดหนึ่ง..ที่บรรดาพระผง
    ส่วนใหญ่..หรือ..แม้กระทั่ง..พระเนื้อดิน...นิยมใส่ลงไปด้วย...ที่วงการพระ..เรียกว่า...
    ..............................ว่านดอกมะขาม.....................................................................
    ....ซึ่ง...เป็นมวลสารขนาดเล็ก..แต่มีสีสันเป็นเอกลักษณ์...คือ..สีออกโทน..น้ำตาล..อมแดง
    ...หรือ..อะไรคล้ายๆนั้น...เวลา..จะเริ่มหัดดู..พระผง...พวกอาจารย์ที่สอน..จะแนะนำ...
    ...ว่า..สิ่งที่เห็นนี้คือ..อะไร....................................................
    .........สำหรับ.."ขุดสระ"...นั้นจะมี..น้อยที่สุด..ในบรรดา..พระผงของท่าน...แต่เมื่อเข้าแว่นส่อง
    ...ไม่ว่า...ตำแหน่ง..ไหน..ก็ต้องเจอ.....
    .............ส่วนรุ่นอื่นนั้น..จะมากกว่า..และ...ถือว่า..ในพระผง...ในยุคเดียวกัน...จากสำนักอื่น..
    ...ก็จะมีมากกว่า..เขา......
    ..........ก็แน่นอน..เมื่อ..พระผงวัดบางด้วนปี ๒๔๙๓...เนื้อหา..ส่วนผสม..และผง..ดำเนินการ
    ส่วนใหญ่..โดยหลวงปู่เผือก....ก็เลย..ทำให้...กลายเป็นเอกลักษณ์..ในเนื้อหา..ไปด้วย....
    .....อย่างที่ผมบอกไปคราวที่แล้ว..ว่า...พระผงรุ่นอินโดจีน..ของหลวงปู่เผือก..นี่เนื้อหา...
    เหมือนกับ ปี ๙๓ มาก..ซึ่งผมสังเกตแม้กระทั่ง..ปริมาณ...ว่านดอกมะขาม...ที่กระจายตัวใน
    เนื้อ..ก็..ใกล้เคียงกัน...นี่ถ้า..เอาพิมพ์รัศมี..ของวัดกิ่งแก้ว...เอามากดที่วัดบางด้วนด้วย...
    ...ผมเชื่อว่า..ต้องเซียนฝีมือดีจริงๆ..ถึงจะแยกออก....
    ..............ความแกร่งในเนื้อ..เช่นเดียวกับ..ของวัดกิ่งแก้ว....เรียกว่า...เอามาปล่อยลงจาน
    กระเบื้อง...สูงยังไง..ก็ได้..ตกลงมาไม่แตก..แน่นอน (ผมทดลองมาแล้ว..หลายครั้ง)..
    และเสียง..กระทบดังกังวาล..สดใสมาก...(..วิธีการทดสอบ..พระ.สมัยก่อน..กลับไป..
    อ่านใน..ผม..พระ..และสาระยุคก่อนได้)...ก็ขนาด..ขุนแผนที่ผม..เอารูปมาให้ดูนี้...
    ผมใช้ลวดสายโทรศัพท์..ถักโปร่ง..และ..ห้อยเปลือยๆ..ใส่อาบน้ำ..ใส่นอน..ไปทำงาน
    ..เรียกว่า ๒๔ ชั่วโมง...ไม่มีถอด..ใส่อยู่หลายเดือน...พระยังอยู่ในสภาพใกล้เคียงเดิม
    ไม่บวม..ไม่ฟ่าม..ไม่เปื่อย..ใดๆทั้งสิ้น....ถ้าคุณเคยเห็น.."ขุดสระ"..ที่เค้าเลี่ยมเงินหุ้มข้าง..มาแต่เดิม
    ..เปิดหน้า..เปิดหลัง....เงินที่เลี่ยมงี้โทรม..ดำ..คราบอะไรต่อมิอะไร..ฝังอยู่เต็ม..แต่ลองส่อง
    ผิวพระได้...เหมือนเดิม..หรือ..ใกล้เคียงเดิม..เรียกว่า..แทบไม่สึก.....
    ..............................ต่อตอนหน้าครับ...................
     
  3. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .................................................................................
    ....ที่เห็น..ผิวมันๆ..นั่น..ก็ไม่ได้ขัดนะครับ...ผิวพระดั้งเดิมไม่ได้มัน..แต่เมื่อ
    เอามาถูกเนื้อ..ถูกผ้า..ตามธรรมชาติ..ที่สวมใส่ธรรมดา...มันก็เหมือนขัดไปเอง
    ...แต่นี่คือ..คุณสมบัติของพระเนื้อแกร่ง..คือ..พอ..ผิวจากไม่มัน..กลายเป็น..มันแล้ว
    ...คราวนี้..ก็แทบไม่สึก..ลงไปอีก....
    ......เนื่องจากผมขยายรูปมาเยอะ..ถึงจะไม่ชัดเท่าไหร่...ท่านจะมองเห็น..ว่านดอกมะขาม
    ได้...
    .......แต่ถ้าพระไม่ได้ถูกใช้..หรือ..ขัด....ก็ต้องเข้าแว่นหน่อย..เพราะ..ผิวดั้งเดิม..มันจะมีแป้ง
    โรยพิมพ์บางๆ..กลบไปบ้าง
    .......ที่สำคัญที่จะพบ..ได้เห็นเป็น..ส่วนใหญ่..ของรุ่นปี๙๓ คือ..
    ...................การปริแตก..ของ..ผิว..ลงไปถึงเนื้อ........
    ..เมื่อท่านสังเกต..ที่ภาพ..จะเห็นที่แขน..ทั้งสองข้าง..และที่ขอบ...ไม่ใช่เป็นการ..แตกราน
    ..แบบที่..เกิดการหดตัว..ไม่เท่ากัน..ของผิว..กับ..เนื้อข้างใน..(..เป้นยังไง..ไปหาอ่านใน..
    ผม..พระ..และ..สาระยุคก่อนได้)...แต่น่าจะเกิดจาก..ส่วนผสมความแห้งมาก..แห้งน้อย
    เมื่อตอนเอาไปใส่ในพิมพ์...ลักษณะการกด..การถอดพิมพ์..และการวางตากไว้...
    มากกว่า...อย่างบอกไปแล้ว..ทางชาวบ้านที่บางด้วน..ที่มาช่วยกันนั้น..ก็ไม่มีประสบการณ์
    ทำพระผงมาก่อน..ไม่เหมือนอย่างที่วัดกิ่งแก้ว.....
    ............ถ้า..พิมพ์เล็ก..อย่างพิมพ์นางพญา..แทบจะไม่เกิด..หรือ..ถ้ามีก็เป็นส่วนน้อย...
    (สังเกตจากพระ..ที่บ้าน)
    .................ผิวด้านนอก...ดั้งเดิม..จะเนียนๆ..เหมือนเราลูบแป้งเด็ก..ไปบนแขน...
    ........สีส่วนใหญ่จะ..เป็นเหลืองนวลๆอมน้ำตาลหน่อยๆ...แต่ก็มี..ที่สีอมเทานิดๆ..
    ......แต่ที่แน่นอน..คือ..ไม่ขาว....
    ............มวลสาร..หนาแน่น..ทั้งที่เป็นจุดดำๆเล็ก..ว่านดอกมะขาม(ออกแดงๆ)...จุดขาวๆ
    เล็กๆ..ปะปนกัน.....
    ............เนื้อละอียดมาก...................
    ......................................................................................
    ......สำหรับรุ่น..ต่อมา...ผมคิดว่าน่าจะสร้างเพิ่ม..ครั้งแรก..ประมาณ ๒๕ พุทธศตวรรษ...
    ..เพราะเป็นการ..ฉลอง..ที่ทุกวัด..ก็จะทำกันทั้งนั้น.....
    ........รุ่น ๙๓ นี้..ไม่ได้หมดจากวัดไป..ตั้งแต่ปีแรกๆ..นะครับ..ท่านทำไว้เยอะ....
    ...ท่านก็ทยอยแจก..มาทุกปี..ไม่ว่า..กฐิน..ผ้าป่า..วันพระสำคัญ....ก็คงร่อยหรอลงไป
    เรื่อยๆ...เวลาพ่อผมไปเยี่ยมท่าน..ท่านก็เอามาแจก....
    ............ผมว่า..ท่านทำเพิ่ม..อีกไม่กี่ครั้ง..ไม่น่าเกิน..๓ ครั้ง....
    ....เรียกว่า..ผงเดิมเหลือจากปี๙๓ หมด..ท่านก็คงเลิก...เพราะตอนที่ผมบวช...จำปีไม่
    ได้แน่นอน..ประมาณ ๒๕๒๕ มั้ง...ปีนั้น..ท่านก็..ทำแต่..เหรียญอย่างเดียว...
    ...แต่ก็ยังพอมี..พระผง..ที่ทำมาก่อนหน้า..แจก..สำหรับบางคนด้วย....
    ..............แต่หลังจากสึกแล้ว...ผมก็ไม่แน่ใจว่า..ทำอีกรึเปล่า.....
    ................ตอนหน้าผม..จะมาพูด..ถึง...พระผงที่ทำเพิ่มกันภายหลัง......
     
  4. คิดบวก+

    คิดบวก+ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +360
    สวัสดีครับคุณลุง ขอฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกศิษย์อิกคนนะครับ
    เรื่องของว่านดอกมะขามเกิดจากอะไรหรือครับ ทำไมต้องเป็นหนึ่งในส่วนผสมที่ต้องมีในการสร้างพระ
    และเราจะสังเกตุอย่างไรในกรณีที่เจอว่านดอกมะขามปลอม
    ขอบพระคุณครับ
     
  5. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ...สวัสดี..และยินดีต้อนรับครับ...
    ....ที่มาจริงๆ..นี่หลายกระแสครับ..และที่เรียก..ว่านดอกมะขาม..ที่เห็นอยู่ในพระ..ก็ไม่เหมือนกัน..คราวนี้มันคล้ายๆกัน..นักเลงพระ..ก็เลยเรียกรวมไปอย่างเดียวกัน....
    ๑. ว่านดอกมะขาม..ที่อยู่ในพระเนื้อดิน...มันมากับดินเลยครับ..อยู่ในดินที่ลักษณะออกเป็นดินเหนียว...ผมไม่ยืนยันว่า..มันเป็นอะไร..แต่กระจายอยู่ในเนื้อดิน..สังเกตพระลำพูน..พระเนื้อดินจากสุโขทัย..พิษณุโลก..กำแพงเพชร..จะปรากฎ..กระจายอยู่เต็มไปหมด...ผมทำงานอยู่แถบนี้..เวลาขุดดินลงไป..เอาขึ้นมาสดๆ..ก็จะมองเห็นได้...แต่ถ้ามองให้ลึก..จะต่างจาก..ทางภาคกลาง..ตอนเหนือ..อย่างนครสวรรค์..ชัยนาท..สิงห์บุรี..จนถึงลพบุรี..ที่มีเช่นกัน..แต่จะเล็กกว่า..และกระจายตัวอยู่น้อยกว่า..ที่ผมไม่ฟันธงว่า..เป็นแร่อะไร..เพราะผมไม่ได้พิสูจน์ด้วยตัวผมเอง..ผมก็ไม่เชื่อใครทั้งนั้น..ไม่อยากเอาขี้ปากชาวบ้านมาพูด.....
    ๒. ว่านดอกมะขามในพระ..เนื้อผง...คนละอย่างครับ..เป็นเม็ดๆชัดเจน..รูปร่างรีๆ..สีเข้มกว่า..ใหญ่กว่า..ขนาดอาจมีแตกต่างกันไปบ้าง...
    อย่างในพระผง..ของหลวงปู่เผือก..นี่ถือว่า..จะใหญ่กว่า..วัดระฆัง..หน่อยนึง..ตอนที่เข้าส่วนผสม..ผมว่าน่าจะเป็นแบบ..ผงๆ..อันนี้..มีสิทธิที่เป็น..สว่นหนึ่ง..ส่วนใด..ของพืชได้..แต่ไม่ยืนยันครับ
    .....จะทำยังไงเมื่อเจอดอกมะขามปลอม..ก็มีอย่างเดียวจดจำรูปแบบของ..ทั้งสองอย่างที่กล่าวมาให้แม่น..และต้องดูจากของจริงไม่ใช่ในหนังสือ..หรือ..จอคอมพ์..แต่เดี๋ยวนี้ผมบอกให้เลย..ว่าดูยาก..เพราะของปลอม..เขาพัฒนาไปเยอะ..คุณต้องดูอย่างอื่นประกอบด้วย..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤษภาคม 2013
  6. คิดบวก+

    คิดบวก+ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +360
    ขอบพระคุณครับ
     
  7. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ................................................................................................
    .....ข้อสังเกต..คือ..เนื้อ..จะค่อยๆหยาบขึ้น..ตามลำดับครั้งที่ทำ....
    .......รวมทั้งมวลสาร...ลดน้อยลง....ซึ่งเป็นเครื่องแสดง..แจ่มชัดว่า......
    ...ท่านอาศัย..ผงเก่า..ในปี๙๓ มาสร้าง...และ..เมื่อหลังจากปี..๙๓ แล้ว
    ทาง..วัดกิ่งแก้ว..ก็คงไม่ได้มาสร้างด้วย..ซึ่งการผสมผง...และการทำออกมา
    เลย..ได้เนื้อไม่เนียน..และ..ไม่แน่น..เท่ารุ่นแรก.....
    .....สีนั้น..จะออกขาวขึ้น...หรือไม่ก็ออกเทา..ออกน้ำตาลอ่อนๆก็มี....
    ...ส่วนที่ผิว..เมื่อเข้าแว่นส่องจะเห็น..ชัดเจนว่า..ต่างกันมาก..ไม่เนียน...
    ..มีเป็นสัดส่วนไม่น้อย..ที่..เมื่อถอดพิมพ์ออกมา..คราบน้ำปูน..ที่แยกตัวออกมา
    ...จะฉาบอยู่ที่ผิว..ทำให้ส่วนที่ว่านั้น..ดูเหมือน..กับ..เหนอะๆ..ไปด้วยคราบ
    น้ำปูน...แป้งโรยพิมพ์ที่ติดอยู่ก็..ขาว..ไม่อมเหลืองแบบปี ๙๓...ความแกร่งลดลง
    ...เพราะ..ผมเทียบโดยใช้..พิมพ์เดียวกัน..มาปล่อยลงจาน..กระเบื้องเปรียบเทียบ
    ...ที่สร้างคราวหลังๆ..เสียงจะทึบกว่าสังเกตได้...เพราะปี๙๓..เสียงใสมาก..
    ...การแตกปริ..จากผิวลงไปถึง..เนื้อ...จะพบบ้าง..แต่ไม่มาก..เท่าปี ๙๓
    .........ท่านอย่าแปลกใจ..ที่ผมมากล้าเปรียบเทียบได้..ก็เพราะ...หลวงอาให้..พ่อผม
    มาตลอด..และ..คราวละมากๆ..หลากหลายพิมพ์...พ่อผมก็ทยอย..เอาแจกลูกหลาน
    ..ญาติ..คนที่มาอวยพร..ในวาระต่างๆ...ในช่วงหลายสิบปีมานี่...จนเกือบหมด...
    ....ผมก็เลยมีโอกาศเอามาเปรียบ..ตั้งข้อสังเกตได้ดังนี้......
    ............ถ้าท่านอ่านมาตั้งแต่ต้น..จะเล่าให้ทราบถึง..ความสนิท..ของทั้งสองท่านอยู่แล้ว
    ...อีกอย่าง..เป็นเหมือน..พี่น้อง..และวัยใกล้เคียงกัน..แต่เพราะ..ท่านเป็นพระ..พ่อผม..
    เป็นทหาร..ก็เลย..ทำให้..โอกาศพบกันได้ลำบาก.....
    ไม่เหมือนอย่าง....หลวงปู่เผือก..กับ..อาจารย์สิน...ที่แทบ..ไม่เคยห่างกัน....เดี๋ยวองค์นี้
    ก็ไปจำวัด..ของเพื่อน..ผลัดกันไปกันมา...เป็นสาเหตุ..ที่คนรุ่นเก่าแถว..บางด้วน..ครอบ
    ครอง..พระรุ่นขุดสระ..และวัตถุมงคลหลวงปู่เผือก..ไว้..เป็นรองแค่คนแถววัดกิ่งแก้ว
    ..ถ้าท่านแจกที่โน่น..ท่านก็เอามาแจกที่วัดบางด้วนด้วย.....(ไม่นับวัตถุ..มงคลของท่าน
    หลังอาจารย์สินเสียแล้วนะครับ)....แต่เดี๋ยวนี้..แทบไม่เหลือแล้ว..ลูกหลานเอาไปปล่อย
    กันหมด...
    ............ตอนหน้า..ผมจะมาว่า..เรื่องเหรียญปี ๙๓ กัน
     
  8. คิดบวก+

    คิดบวก+ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +360
    สวัสดีครับคุณลุง
    ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆครับ
     
  9. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ....สวัสดีครับ..คุณ คิดบวก....
    ..........................
    ...........................................................................................................
    .................เรื่องเหรียญปี๙๓ นี่ยิ่งไปกันใหญ่...เพราะที่เอามา..ลงขายในเว็บ..
    ....ก็บอกว่า...ปี๙๓ กันหมด..เพื่อ..จะได้อาศัย..พลังขับเคลื่อนราคา..จาก
    ..หลวงปู่เผือก...และ..หลวงพ่อบุตร วัดใหญ่บางปลากด....
    ..................ผมบอกไว้ตั้งแต่ตอนต้นแล้ว...ว่า...ผมเขียนเรื่องนี้..ไม่ได้ต้องการ
    ผลักดัน..เรื่องพระของท่าน...เป็นเรื่องเล่าประวัติ..พระองค์หนึ่ง..ที่ไม่มีชื่อเสียง
    ...ตอนเริ่มเขียนใหม่ๆ...พิมพ์ชื่อไป...ยังหาไม่เจอซักเหรียญ...เจอแต่เหรียญที่ทำ
    ในคราวเดียวกันคือ...หลวงพ่อบุตร...บอกปีทำผิดมั่ง..ถูกมั่ง..บางเจ้าก็รู้ก็บอกว่า
    ..ออกที่วัดบางด้วน...บางเจ้าก็ไม่รู้ก็เลยไม่บอก......
    ......เพราะอาศัยชื่อท่านก็ปล่อยได้ราคาแล้ว...บางเจ้าก็บอกไปเลยว่า..เหรียญรุ่น๒
    .........ผมเอง..นะ..ระวังตัวมาก...เพราะตัวเองก็เห็นแล้วที่ห้องกระทู้นี้...หลายเจ้า
    ทั้งผลัก..ทั้งดัน..มีอ้างนิยายกัน..สารพัด...เพื่อ..ให้..หลวงพ่อตัวเอง..ที่เชียร์จะได้
    ดัง...แล้วก็...เริ่มโชว์ของ...ผลพลอยได้ก็ตามออกมา...ซึ่งผมไม่ชอบ..ไม่นิยม...
    ......ตัวผมมีปณิธาน..อยู่แล้ว....ในเรื่องผมถึง..ไม่เจาะจง...หรือ..โชว์ของ.....
    ............เพื่อให้ผู้อ่าน..จะได้รู้ว่า...เจตนาผมเป็นยังไง...........................
    ................แต่พอมาถึง...พ.ศ...นี้..ผ่านมา ๓ ปี....พิมพ์ชื่อเข้าไป...ขึ้นรูปกันพรึดเลย..
    ....นั่นก็เลยทำให้..ผมกลับมา..ไขข้อข้องใจกัน..อีกครั้ง........
    ............ผมว่าบังเอิญ..ทางวัด..เก็บบล็อค..ไว้ดีมาก....ถ้าเทียบ..กับ..หลวงพ่อเงิน
    วัดดอนยายหอม..แค่รุ่น ๒ หรือ ๒๕๐๐ สนิมกิน..บล็อค...ปัมพ์ออกมา....ก็เห็น
    ได้เลย..ว่า..สนิมขุม..กิน........................
    .................ผมว่า..ท่านใช้บล้อคเดิม..ทำออกมาหลังจากปี ๙๓ ไม่ต่ำกว่า ๓ หรือ ๔
    ครั้ง....แต่ผิวเหรียญยังดูแทบ..ไม่ออก.......
    .......อย่างที่บอกคราวที่แล้ว...จะกี่รุ่นสมัยที่ท่านยังอยู่..ท่านก็ขนมาให้พ่อเพียบ....
    ...มันเลยบอกความแตกต่างได้........................
    .........แต่ที่ผมจะพูดต่อไปนี้..เป็นข้อสันนิษฐาน..ตามหลักฐาน..ข้อมูล..ของผม..
    ความสมเหตุ..สมผล...ความน่าจะเป็น..เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ที่อยากได้..เหรียญ
    ปี๙๓ จริงๆเลือก..เพื่อความั่นใจ..เพื่อป้องกัน..การสับสน..กับรุ่นหลังๆ.........
    .................ถ้าผู้ที่อ่าน..ผม..พระ..จำได้...ผมเคยเล่าว่า...ตั้งแต่ผมยังไม่ได้สนใจพระ
    จริงๆจังๆ...ประมาณ ประถม ๔ ผมชอบรื้อ..ห้องพระของพ่อ..แล้วก็..เอาพระมาดู
    ..เป็นของแปลกดี..เท่านั้น....ผมก็เห็นเหรียญปี ๙๓ นี่แล้วและ..ที่จำได้ขึ้นใจ..เพราะ
    มันมีหลายเหรียญมาก..เป็น..สิบกว่าขึ้นไป..เหมือนกันหมด..แต่ที่สะดุดตา..อีกอย่าง
    ...มีเหรียญอีกแบบ..นึงเป็นคนละองค์กัน..มีหลายเหรียญ..เและ..จำนวนใกล้เคียง
    กับ..แบบแรก..........แต่มันมี..ความสวยที่..เหมือนกัน..อยู่อย่างนึง.............นั่นคือ..
    ...เหรียญทุกเหรียญ...ชุบทอง..สวยมาก..เหลืองอมส้ม....ก็แค่นั้น...พอเริ่มมาสนใจ
    พระจริงๆ...ก็กลับมาดูอีกครั้ง..คราวนี้เรามาใหม่..ในมาดนักเลงพระรุ่นเด็ก....สนใจ
    พิมพ์..สนใจรุ่น...พอมารื้อดูอีกครั้ง...ก็มาถามที่มาที่ไป...กับพ่อ........
    ............พ่อผม..ก็เริ่มให้รายละเอียด...ที่มา..ที่ไป....
    .........................ต่อตอนหน้าครับ..........................
     
  10. joke k9

    joke k9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +182
    ขอบคุณมากครับ พี่มด ที่มาตอบให้

    ปล. ถ้า พี่มด จำได้ว่า หลวงพ่อทองดี มรณภาพเมื่อปีอะไร ก็บอกกันด้วยนะครับ เพราะว่าหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตไม่ได้เลยครับ ..... ขอบคุณครับ
     
  11. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ...เอ้อ..กลับปกติ..ซะถี..เพี้ยนไปหลายวัน
    ..ลงบทความลำบากจริงๆ....
    .........สวัสดีคุณ Joke...จนใจจริงๆ...จำไม่ได้..น่าจะ ๒๕๔-..ต้นๆ..หรือไม่ก็..๒๕๓- ปลายๆ..นี่แหละ...
     
  12. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    สวัสดีครับคุณอา และสมาชิกทุกท่านเข้ามาติดตามได้เหมือนเดิม เว็ปเป็นปกติเสียทีครับ
     
  13. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ...หวัดดีเช่นกัน..เฉียวฟง...
    ..โอ้โห..ไอ้สองสามวันแรก..เพี้ยน...วันสุดท้ายเดี่้ยงไปเลย..เกือบหมดMOOD..ส่งข้อความนี่เลือกอะไร..ไม่ได้เลย..ต้องเขียนเป็นโค๊ตเอา...
    ...............................................
    ...........................................
    (....ความจริง...ตอนนี้..น่าจะเป็นตอนแรกของกระทู้นี้..ด้วยซ้ำ...แต่เพราะ..ผมไม่อยาก
    พูดถึงตัวเอง..เท่าไหร่...แต่พอดี..ตอนนี้..เกี่ยวพันกับเรื่อง..ก็ขอเล่าซะเลย...)
    .......พ่อผม..ก็..บอกว่า..อ้าวนี่..พระของหลวงอาดี..ไง...ท่านก็เคยแจกให้เราด้วยซ้ำ
    ...จำ..หลวงอาได้รึเปล่า....
    ....ผมก็ถึงบางอ้อ..นึกหน้าท่านออก..แล้วก็เรื่องอื่นๆด้วย...ผมก็เลยตอบพ่อไปว่า
    ...ครับ..ผมจำได้...................
    .......ปกติ...สมัยก่อนโน้น...ตังแต่ผมจำความได้...ทุกวันสงกรานต์..ทุกคนในครอบครัว
    จะต้องไป..ที่บ้านปู่ที่อยู่กลางเมืองปากน้ำ..เลย...เพื่อไป..ทำบุญกระดูก..และ..อุทิศส่วน
    กุศล..ให้บรรพบุรุษ..ทุกปี..ไม่มีเว้น(จนตอนหลัง..ไฟใหม้บ้านหมด...ต้องมาทำที่โรง
    พยาบาลสงฆ์แทน)...ก็จะนิมนต์พระมาสวด...หลวงอาดี..คือ..พระลำดับที่ ๒ เรียงตาม
    อวุโส..ทุกครั้ง..และ..ทุกปี(..อันดับแรกก็เจ้าเดิม..ไม่เปลี่ยน..เป็นพระครูที่วัดกลางวรวิหาร)
    ...ทุกครั้ง..พอพระสวดเสร็จแล้ว..เตรียมจะกลับ...พอต้องพาลูกทุกคนไปกราบหลวงอา
    ..และก็บอกเกือบจะทุกครั้ง..คงกลัวลูกลืม..ว่า..หลวงพี่ดี..ท่านเป็นญาติสนิทเรานะ...
    ...บางครั้งก็ได้รับแจกพระ...แต่ผมไม่เคยดู...ใส่กระเป๋า..ไม่สนใจ...แม่ต้องคอยมาตามเก็บ
    จากกระเป๋า..เอาไปเก็บไว้อีกที..เพราะซนกระโดดไปกระโดดมา..เดี๋ยวพระ..หล่นร่องกระดาน
    (...บ้านเรือนไทย...ตั้งแต่สมัยต้นๆ ร.๕..ยกพื้นสูง)...เวลา..ท่านอยู่ที่บ้านปู่..อยู่กับ..ญาติหลาย
    คนท่านจะอารมณ์ดี..มีมุข..เยอะแยะ..จะไม่เหมือนเวลา..อยู่ที่วัด.....ก็ทั้งหน้าตา..บุคคลิก
    ท่านแปลกกว่า..พระองค์อื่น..และเป็นญาติ..ทำไม..ผมจะจำไม่ได้........
    ..........แต่นึกไม่ถึง...ว่าวันนึง...ผมต้องโคจรมาพบท่านอีก...ในฐานะ...พระลูกวัด..และ..ลูกศิษย์
    ................................................................................................................................
    .......พ่อผมบอกต่อว่า....รู้มั้ย....ยาธาตุ..ที่พ่อ..แม่..พวกเรากินกันนะ..ท่านเป็นคนทำนะ....
    ...............อันนี้..ผมได้เล่าไปบ้างแล้ว...และถือ..เป็นของเด็ด..ของท่าน........
    ............เรียกว่า...กินกระได...ทากระได..(..กินก็ได้...ทาก็ได้..)...........
    ........เรื่องเกี่ยวกับท้อง...ทั้งหมด..ท้องเสีย..ท้องผูก..ท้องอืด...กรดกัดกระเพาะ...เสียดท้อง
    ........คลื่นใส้...อาเจียร.................
    ..................แน่นอนมาก.......
    ....เรื่องใช้ทา..นี่ก็ได้..แมลงสัตว์กัดต่อย...ลมพิษ..ผื่นคัน...ก็แน่นอนอีกเช่นกัน(ยาท่าน..จะ
    เข้าพิมเสนด้วย...เวลากิน..หรือ..ทา..ก็จะเย็น)......
    ........นี่คือสาเหตุหลัก..ที่ท่าน..มีลูกศิษย์เป็น..พ่อค้า..คนจีน..แถบ..สำโรงมาก..ทั้งๆที่สำโรง
    หายา..หาหมอ..ง่ายจะตาย.........
    ..........ทุกปี..ไม่ต้องทำอะไร...ลูกศิษย์จะ..หาสมุนไพร..ตามสูตร..มาถวายครบถ้วน....
    ....เขาทำบุญเผื่อคนอื่น..แล้วก็ได้ยากลับไป..ไม่ได้ขายต่อ..เอาไว้ใช้เอง...อีกอย่าง...
    ป้ายฉลาก..เขียนบอกไว้เลย..ว่า..ถ้าใครเอาไปขายต่อ..ไม่ใช่ของอาตมา....
    ....แถวบางด้วน..บางหมู..บางโปรง...วัดสวนส้ม...ก็แห่..กันมารับยา..กันทั้งนั้น....
    ขนาดแถบ..บางหญ้าแพรก...วัดของหลวงพ่อเผย..ก็ยังต้องมาเอายาที่นี่...และ
    ...ด้วย..ส่วนเสริมนอกจาก..ตัวยา..ก็คือ..การเป็นยาคุณพระ..มีการปลุกเสกเฉพาะ..สูตร
    ..คล้ายๆ..กับ..ยาต้มใบมะกา...ของ..หลวงพ่อปาน..ซึ่งเป็นยาที่ต้องปลุกเสกเฉพาะ...
    จึง...เพิ่ม...พลังของยาในการบรรเทา..แก้ไข..โรค...ด้วย...(เรื่อง..ยานี้..ผมเล่ารายละเอียด
    อยู่ในเรื่องแล้ว)...........
    ............เขียนแล้วเพลินไปหน่อย..เลยไม่ได้วกเข้าเรื่องเหรียญ..ไว้ตอนหน้าแล้วกัน....
    .......................................................................................
     
  14. เขมทัต

    เขมทัต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2007
    โพสต์:
    623
    ค่าพลัง:
    +2,252
    รอติดตามตอนต่อไปครับ
     
  15. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,202
    เรียนสอบถามพี่ modpong นิดนะครับ ตามความคิดของพี่ คิดว่าพระรุ่นไหนของหลวงพ่อทองดี น่าใช้ที่สุดครับ และหายากหรือไม่ครับ การเล่นหาในท้องตลาดเป็นอย่างไรครับ
     
  16. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ....หวัดดี..น้องกำธร...จริงๆน่าใช้..ก็ต้องรุ่น ๒๔๙๓ นั่นแหละ..ประสพการณ์..เยอะแยะ..และ..ก็ควรจะเป็น..พระผง...มีหลายขนาด..ทั้งใหญ่..เล็ก..ราคาไม่แพง..หรอกถ้าไม่ใช่พิมพ์นิยม..๔๐๐-๕๐๐ ก็ได้แล้วมั้ง..มีทั้ง สามเหลี่ยม..(..นั่งสมาธิ..สดุ้งมาร)..
    สมเด็จ..มีหลายขนาด..หลายแบบ..อย่างเราดูพระเก่งอยู่แล้ว..อ่านไก้ด์ที่พี่บอก..น่าจะไม่ยาก..เนื้อต้องอมเหลือง..อมน้ำตาลหน่อยๆ..เนื้อจัด..มวลสาร..แน่น..และมาก..เนื้อละเอียด..แกร่ง..ผิวเนียน(เหมือนเอา..แป้งมาทาที่ผิว)...ดูไม่ยากหรอก..สำหรับเรา....เนื้อออกขาว..อย่าเอา..รุ่นหลัง
    (อ่านที่พี่แนะนำ..ให้ละเอียดก็..สบายแล้ว..คนมีประสพการณ์)
    ....หาไม่ยากนะ...ถ้าที่สนามพระที่ปากน้ำยิ่งง่าย..หรือแผงไหน..ที่ขายพระปากน้ำเป็นหลัก..ก็น่าจะมี...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2013
  17. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ....หวัดดี..เขมทัต....มาอ่านต่อที่นี่ด้วยเหือนกันเรอะ...เอาเลย...

    ............ผมก็ถาม..พ่อต่อ...ว่าแล้วพ่อได้มาตั้งแต่เมื่อไหร่(ตอนที่ผมถามน่าจะประมาณ
    ปี ๒๕๑๑- ๒๕๑๒ ตอนที่ผมเริ่มเล่นพระใหม่ๆ)....พ่อ..ผมก็บอกว่า..หลวงอาให้มานาน
    แล้ว...ถ้าประเมินจากคำว่านานแล้ว..ก็..ต้องมากกว่า..สิบปีขึ้นไป...ประกอบกับ..ตอนที่
    พ่อผม..ย้ายจากเพชรบุรี..มา..กรุงเทพ..ครั้งแรกนั้น..ประมาณปี ๒๔๙๕..ช่วงนี้..คงได้กลับ
    ไปเยี่ยมหลวงอาดี.....พ่อก็ไปหยิบอีกถุงมา..ก็ที่พูดถึงไว้เมื่อตอนที่แล้ว..ว่า..เป็นเหรียญชุบ
    ทองที่..สีเหมือนกัน..และมีมากเหมือนกัน...แล้วก้ไปหยิบพระผง..มาอีกถุงนึง...ใส่พระ..
    หลากหลายแบบ..จำนวนมากกว่า ๑๐ องค์...แล้วก็บอกว่า..ทั้งหมดนี่...ที่ท่านเอามาให้..
    ....อ้อ..ลืมบอกไปว่า....พ่อหยิบ..ถุงพระกริ่งมาด้วย........
    ครั้งแรก..แล้วก็บอกว่า..ท่านทำที่วัด..นิมนต์..หลวงปู่เผือก..หลวงพ่อบุตร..มาร่วมปลุกเสก
    ด้วย....ผมก็ล้วงไปที่ถุงเหรียญที่ผมสงสัย..แล้วหยิบมาดู..ก็เป็น..เหรียญเสมาหลวงพ่อบุตร
    นั่นเอง....แล้วก็เอา..พระผง..ออกจากถุงมาอีก...มานั่งดู.....พ่อผมบอกต่ออีกว่า...ท่านคง
    เก็บไว้เยอะ...ก่อนหน้านี้..ผมก็รื้อค้นพระมาอีกรอบแล้ว...ผมก็นึกได้..ว่าเห็นคล้ายๆกัน..
    ...ผมก็หยิบเป็นถุง..ที่มีทั้งเหรียญหลวงอาดี..ที่ออกเป็นนิเกิ้ลมั่ง..หรือชุบทองซีดๆมามั่ง
    ...รวมถึง..พระผง..ด้วย..เอามาให้พ่อดู(..แต่ไม่มีเหรียญหลวงพ่อบุตร)..เพื่อจะถาม....พ่อผม
    ก็บอกว่า...พวกนี้..ได้มาหลังๆ.......
    .............ผมถึงบอกว่า..ผมสามารถแยกแยะได้.....ช่วงนี้..เราจะพูดถึงเหรียญ..อย่างเดียว
    ......จาก..เหรียญปี๙๓..จำนวนมากที่ได้มาในครั้งแรก..จะเป็นชุบทองทั้งสิ้น...เหรียญ
    หลวงพ่อบุตร..ก็ชุบทองเช่นเดียวกัน...และในตลาดให้เช่าพระ..ไม่เคยปรากฎว่า..
    เหรียญหลวงพ่อบุตร..ออกที่วัดบางด้วน..มีเนื้ออื่น..หรือ..ชุบแบบอื่น.......
    .......ดังนั้น...จากข้อมูลและการประเมินของผม...ผมจึงเชื่อมั่นว่า....เหรียญพระครูสมุห์
    ทองดี..ที่ออกในปี ๒๔๙๓ นั้น.........
    ...........................มีแต่เหรียญทองแดงชุบทองเท่านั้น..ครับ............................
    ....ในยุคนั้น..ถ้าจะมีชุบ..ก็มีแต่..ชุบเงิน..เท่านั้น....ชุบนิกเกื้ล..ยังไม่มี.....
    ....สำหรับเหรียญเนื้ออัลปาก้านั้น...มาเริ่มมีเอาจริงๆ..ก็ ๒๕๐๐..อย่างเหรียญเสมา
    ๒๕ พุทธศตวรรษ....นั่นแหละครับ.......
    .............เหรียญชุบทองที่ทำครั้งหลัง..นั้นทองจะซีด...หรือ..ไม่ก็..เหลืองจ๋อย.....ครับ
    ......................ต่างจากรุ่นแรกชัดเจน...ต่อให้สึก..แล้วยังมองเห็นทองตามซอก...
    .................จะเป็น..สีเหลืองอมส้ม..ครับ....ซึ่ง..เหรียญชุบทองรุ่นๆปีใกล้กัน..และก่อน
    หน้า..ของหลวงพ่ออื่น..ก็จะเป็นแบบนั้น....ที่เขาเรียกว่า..สีทองเก่า..........
    ............ผมไม่ได้บังคับให่เชื่อ...แล้วแต่ท่าน...ผมวิเคราะห์ตามความน่าจะเป็น....
    ...และข้อมูลที่มากกว่า..คนอื่น......คนยุคนั้นที่เป็นกรรมการวัดไม่เหลือใครแล้วครับ..
    ..ถ้าจะมีเด็กหนุ่มๆมาช่วยตอนนั้น..ก็...อายุ แปดสิบกว่าตอนนี้...หลักฐานการสร้าง
    ก็ไม่รู้ไปอยู่ไหนแล้ว......ตอนผมบวชเมื่อปี ๒๕๒๕ นั้น.งผมยังได้คุย..กับคนที่ช่วย
    ดำเนินการ..พระรุ่นนี้..หลายคน...แล้วก็พูดกันถึง..เหตุการณ์ที่ไม่ทราบว่า..เป็นอะไร
    ...และ..เพราะเหตุใด...ผมไม่เอามาพูดถึง..ในตอนนั้น..เพราะเดี๋ยวจะหาว่า..เชียร์พระ
    ........................................................................................................................................
    .............ก็เป็นอันว่า...ถ้าใครคิดอยากจะเช่า..เหรียญที่ออกในปี ๙๓...เพื่อความมั่นใจ
    ...และหลีกเลี่ยงความเสี่ยง....ก็เลือกเอา..เฉพาะที่เป็นทองแดงชุบทอง...อย่างเดียว
    ........................................................................................................................................................
    ...แต่ถ้าจะเลือกเอาปีหลัง..เพราะถูก..และดีแน่นี่..ต้องที่ผมอยู่ใน..พิธีด้วยที่ผมเล่า
    ไปในเรื่อง...เหรียญทรงเสมา..ด้านหน้าพระประธานในโบสถ์(เก่า)...หลัง..เป็นยันต์" ทอ" และ..
    ยันต์เกราะเพชร..เป็นเหรียญรุ่นเดียวของท่านที่..ใช้ยันต์ ทั้ง สองอัน..ที่ท่านเรียน
    สำเร็จ..มาจาก..หลวงพ่อปาน...ท่านไม่ลงชื่อท่านใช้แต่คำว่า......
    .............................. ท.ม.ท. ............................ที่ด้านหลัง..แล้วก็วัดบางด้วนนอก...
    ....น่าเก็บนะครับ....เป็นเหรียญเดียวมั้ง..ในแวดวง...ที่ยันต์..ทั้งสองมา..อยู่ด้วยกัน..
    .......ราคา..ไม่เกิน ๑๐๐ บาท..แน่ๆ...เพราะคนจะไม่รู้ว่าเด็ด..ยังไง...สนามพระที่
    ปากน้ำ..ผมว่าหาไม่ยากหรอก...แล้วไม่มีปลอมแน่นอน.....
    .................................................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤษภาคม 2013
  18. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .................................................................................
    ....ส่วนเรื่องเหตุการณ์..วันที่ปลุกเสกในปี ๙๓ นั้น..บางท่านเอามาเล่า..ในเว็บ..
    เพื่อเสริม..ความศักดิ์สิทธิ์..เรียกความนิยม.....
    ..........ผมทราบมาก่อนหน้านี้นานแล้วครับ....ตั้งแต่ผมบวช...เพียงแต่ผมไม่เล่า
    ในเรื่อง..เพราะมันจะเว่อร์..และเป็นการเหมือนเชียร์...ซึ่ง..ไม่ใช่จุดประสงค์ผม
    ..........คือยังงี้.....ตอนผมบวช...มีคนแก่..อยู่คนนึง...แกจะมาวัดแทบทุกวัน....
    ..เรียกว่า...ป่วยนั่นแหละ..แกถึงจะไม่มา....เพราะ..แกเป็น..น้องเขย..ของหลวงอา
    (เป็นผัว..ของ..น้องสาวหลวงอา..ว่ากันแบบบ้านๆ)...เรียกว่า..คอยมาดูด้วย..เผื่อ
    ขาดเหลืออะไร..มีอะไรที่หลวงอาจะใช้...ก็เลยถือว่า..เป็นญาติกับผมไปด้วย...
    ......ผมก็สนิทกับแก...แล้วแกก็อยู่แถวนี้มานานมาก..มาวัดตลอดแบบนี้ละ..เป็น
    คนขยันขันแข็ง...สุภาพ..นิสัยดี...ผมก็เรียกแก..น้า..ตลอด(ทั้งตามศักดิ์..และ..อายุ
    อ่อนกว่า..พ่อผม)...เรื่องหลายๆเรื่องในแถบบางด้วน..และเรื่องเกี่ยวกับ..วัด..แกจึง
    รู้หมด...หลายส่วนที่อยู่ในบทความผม..ก็ได้มาจากแก..นี่แหละ.....ถ้าจำไม่ผิด...
    ....แกชื่อ..ชื้น..ใครๆ..ก็เรียกแก...ทิดชื้น....(หลังจากผมสึกครบพรรษาแล้ว...
    พวกญาติผู้ใหญ่ใน..บางด้วน..เขาก็เรียกผมว่า..ไอ้ทิด---).......
    ..............ตอนปลุกเสกปี ๙๓ นี่..แกอยู่ตลอด..แกบอกเหนื่อยมาก...ตั้งแต่..เตรียมการ
    ..ติดต่อ..ลงมือใช้แรงงานทุกอย่าง...เรียกว่า..งานสวนที่บ้านนี่..หยุดไว้เลย..มาช่วย
    ที่นี่..เช้ายันมืด..เป็น..อาทิตย์ๆ...ผมรู้เรื่องนี้..ครั้งแรก..ก็เพราะแก..เพราะหลวงอาดี
    ..ท่านไม่เล่า..ให้พ่อฟัง..เพราะท่านไม่ใช่คนมาอวดตัวเอง....
    ...............โบสถ์เก่า(ตอนนี้..สร้างโบสถ์ใหม่แล้ว)...ถ้าท่านกลับไปดูรูป..หลวงอาดี
    ที่หน้า ๑ จะเห็นเป็นลางๆ..อยู่หลังท่าน...เป็นโบสถ์โบราณ..สร้างมาแต่ปลายอยุธยา
    ..แล้วมา..ปฎิสังขรณ์ใหญ่..ทั้งโบสถ์และ..กำแพงแก้ว..เอาในสมัย..รัชกาลที่ ๓
    (มีเล่าในเรื่องแล้วครับ)....มีขนาดเล็กครับ....พอเอา..พระทั้งหมด..เข้าไปไว้....
    ...และ..ผู้มาปลุกเสก..อีก..ประมาณ ๕-๖ องค์...ก็เรียกว่า..แทบจะเต็ม..พื้นที่แล้ว
    ...เหลือ..พวกฆาราวาส..ที่ช่วย..ยกโน่น..ยกนี่...อีกไม่กี่คน..เท่านั้น..ในโบสถ์...
    ........คนอื่นที่เหลือ..ก็มาอยู่นอกโบสถ์กัน...........รวมทั้งแกด้วย...
    ............น้าแกบอกว่า..ปลุกเสกนี่..นานมาก..หลายชั่วโมง...แล้วแก..กับ..คนที่นอก
    โบสถ์..ก็ได้ยินเสียงดัง..มาจากในโบสถ์...เป้นเสียงหนักๆ..ครืดคราดๆ....เป็นเวลา
    นาน...แกก็ไม่รู้ว่าเป็นเสียงอะไร..พอ..หลวงทั้งหลายออกมาแล้ว...แกก็ต้องรีบไป
    ทำหน้าที่ต่อ...แล้วแกก็บอกว่า..เลยลืม..ถามคนข้างใน..ว่าเป็นเสียงอะไร...
    ..........สมัยนั้น..คนเราเคารพพระมาก..ไม่เหมือนสมัยนี้..เวลาพูดอะไรกับพระ..
    ต้องระวัง..และ..สำรวม..แกก็ไม่กล้าไปถาม..หลวงอา......
    ................ขนาดผมเอง...เป็นหลาน...ความจริงก็อยากรู้...แต่ผมคิดแล้ว..ไม่ถามดีกว่า
    ...เพราะถ้า....หลวงอาไม่ตอบ...แสดงว่า..ท่านไม่พอใจ...ตัวเราจะรู้สึกผิด..ซะมากกว่า
    .............................สำหรับบางท่าน..ที่ไปอ่านเจอเข้า..แล้วสงสัยว่า..ราคาคุย..เพื่อUP..
    ราคาพระรึเปล่า..ก็บอกเลยว่า...คงไม่ละครับ...ผมก็รับรู้มาทำนองนี้..จากคนอยู่ในเหตุ
    การณ์จริงเช่นกัน.....
    ........................................................................................................
    (...ที่เห็นด้านหลังท่านในรูปนี้..นั่นแหละครับ..โบสถ์ที่..ทำการปลุกเสกพระ..ในปี ๒๔๙๓..)


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2013
  19. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ........................................................................................................
    ........ผมพยายามมาแถลงไข..เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด...สำหรับผม...ไม่ว่ารุ่นหลัง
    จากปี ๙๓ มากี่รุ่น...จนถึง..ตอนที่ผมบวช...ผมก็เชื่อมั่นในตัวท่านอยู่ดี...ไม่ว่า..
    ท่านจะทำอะไร..ให้ใคร...(ไม่เคย..ขายวัตถุมงคลใดๆ)...ท่านก็ตั้งใจ..ทำทั้งสิ้น....
    ...แม้แต่..น้ำมนต์..ก็ยังมีขบวนการปลุกเสกที่แตกต่าง..จาก..หลวงพ่ออื่นๆ....ไม่ใช่
    ...แค่เอาสายสิญจน์มาผูกกับบาตร..ไหว้พระว่าคาถา..จุดเทียนตั้งปากบาตร..ว่าคาถา
    ..แล้วเอาเทียนจุ่ม..ดับลงในน้ำในบาตร..แล้วจบกัน..เหมือนอาจารย์อื่นๆ..ซึ่งผมก็เล่า
    ไปแล้ว...เพียงแต่ท่าน..ไม่ใช่พระที่จะทำวัตถุมงคล..แบบมหาอุตม์..คงกระพัน..
    ซึ่ง...มันเห็นผลได้เลย....ของท่านๆก็ทำแบบ..คุ้มครอง..แคล้วคลาด...มันก็ไม่เห็นผล
    ชัดเจน..แบบที่ว่า...อย่างปี ๙๓ นั้น...อาจารย์ที่มาร่วมปลุกเสกนั้น..ส่วนใหญ่..จะออก
    แนวบู๊..ทั้งนั้น..อย่างหลวงพ่อบุตร..นี่ขึ้นชื่อโด่งดังเรื่อง..ความเหนียว..คงกะพัน...
    หลวงพ่อเผย วัดบางหญ้าแพรก..ลูกพี่ลูกน้องหลวงอา..ก็มีชื่อเสียงด้านนี้..หลวงปู่
    เผือกไม่ต้องพูดถึง..ท่านครบเครื่องอยู่แล้ว....พระรุ่นนี้..จึงรองรับทุกด้าน...คนที่เอา
    ไปใช้..ก็มีทั้ง..แคล้วคลาด..คงกะพัน..มหาอุคม์..ครบเครื่องไปหมด....ประสพการณ์
    ที่เกิดขึ้นกับ..พระก็เลยเกิดขึ้นง่ายกว่า....สมัยก่อนโน้น..คนถิ่นอื่นที่มีประสพการณ์..
    เขาก็..คิดว่า..เป็นพระของหลวงปู่เผือก...มันก็เลยไม่แปลกอะไร...เพิ่งมาสิบ..ยี่สิบปี
    หลังนี่...ถึงได้ทราบว่า..ไม่ใช่พระของ..วัดกิ่งแก้ว.....
    ................หลวงอาดี...ท่านก็อุทิศชีวิตให้ศาสนา..ไม่ได้คิดเรื่องอื่น...เสียดาย..
    ..โรงเรียนปริยัติธรรม..ที่ท่านสร้างจากเงินที่ได้..วัตถุมงคลปี ๒๔๙๓ ซึ่งเป็นเรือนไม้
    สองชั้น(ตอนผมบวช..ก็เรียนที่นี่)...โดนรื้อไปเรียบร้อยแล้ว.....
    ...โรงเรียนวัดบางด้วน..ก็เกิดขึ้นเพราะท่าน....
    ....เพราะ..วัตถุประสงค์ท่านดี..เพราะแถบ..บางด้วนนั้น..วัดใกล้เคียงกัน...ก็ไม่มี..โรงเรียน
    ปริยติธรรม..การเดินทางไปเรียน..ต้องเดินทางด้วยเรือ..เป็นหลัก..ยิ่งเข้าพรรษา..ฝนตก
    ตลอด..พระก็ลำบาก..ไม่เหมือนสมัยนี้..ซึ่งเมื่อท่านไปรึกษา..ผู้ที่ท่านเคารพ...ทุกองค์
    ก็ยินดีช่วยเหลือ...แต่คิดดูว่า..วัดบางด้วนนอก..ยุคนั้น..คนในปากน้ำ..มีใครรู้จักบ้าง..
    ถ้าไม่ใช่คนละแวกนี้....ถึง..จะสร้างวัตถุมงคลขึ้นมา...นอกจากคนในบางด้วนด้วยกัน
    ใครจะมาทำบุญ...จริงๆผมว่าท่านเเอง..ก็ไม่ใช่อยากจะรบกวนใคร..ผ,อยู่กับท่านมาตลอด
    ๔ เดือน กว่า..รู้นิสัยท่านดี...ยังไง..มันก็ต้องพึ่งพา..ความมีชื่อเสียง..ของหลวงพ่ออื่นๆมา
    ช่วย...เพราะท่านเอง..ก็ยังไม่มีใครรู้จัก..ดูอย่างหลวงพ่อบุตรที่เป็นญาติผู้ใหญ่ท่าน...ถึง
    ขนาด..ยอมมาออกเหรียญของท่านให้ที่นี่..ตอนนั้น..ชื่อเสียงของ..หลวงพ่อบุตร..สำหรับ
    คนปากน้ำนั้น..ก็ไม่เป็นรอง..หลวงปู่เผือก..สามารถดึงคนมาได้มาก...สำหรับในครั้งโน้น
    ที่ผมไม่ได้เล่าถึง..อาจารย์อื่น..ที่มาร่วม...(เว้นแต่หลวงพ่อเผย)...เพราะชื่อเสียง..ของ
    หลวงปู่เผือก..กับ...หลวงพ่อบุตร..นะกลบ..ท่านอื่นหมด...อีกอย่าง..ท่านทั้งสองก็เป็น
    กำลังสำคัญ..ในการช่วยเหลือ..ภาระสำคัญครั้งนี้...แล้วอีกอย่างคือ..ไม่มีใครพูดถึง...
    หลวงพ่อท่านอื่น..ผมก็เลยไม่ทราบจริงๆ..ว่ามีท่านใดบ้าง..รู้เพียงแต่ว่า..มีอีก ๒-๓ องค์
    ..รวม..หลวงพ่อเผย วัดบางหญ้าแพรกด้วย..เท่านั้น...ทุกท่านรับทราบเจตนาดีของท่าน
    ..และ..เข้าใจว่า..คงต้องใช้วิธีนี้ละ..ถึง..จะระดมทุนได้.....สำหรับวัดที่..แทบไม่มีใครรู้จัก
    ...และ..สำหรับเจ้าอาวาส..ที่ไม่มีชื่อเสียง..อะไร.....
    ..................................สำหรับยันต์หลังเหรียญของหลวงอาดีนั้น....ผมเคยกล่าวไปบ้าง
    แล้ว..แต่ในเฉพาะ..คาถา..ด้านหลัง...แต่เหนือ..คาถานั้น..มียันต์อีกตัวที่..แปลกตา..
    .....สำหรับคนทั่วไป...แต่...ไม่แปลกตา..สำหรับ..คนบางปลากด...เพราะเป็นยันต์
    ..ประจำตัวของ..หลวงพ่อบุตร วัดใหญ่บางปลากด..นอกเหนือจากยันต์"ตรีนิสิงเห"..
    .......อาจเป็นการให้เกียรติ..สำนึกในพระคุณ..หลวงพ่อบุตร...ท่านจึงนำ..ยันต์"นะ"...
    ประจำตัว..ของหลวงพ่อบุตร..ซึ่งเข้าใจเอาว่า..หลังจากกลับจากวัดบางนมโคแล้ว...
    ท่านอาจไปขอเรียนเพิ่มจาก..หลวงพ่อบุตร..มาด้วย...จึงเอามาลงไว้ที่หลังเหรียญท่าน
    .....อยู่ที่..บนสุด..ด้านหลัง....ที่เหมือน..ตัว"จ"...นั่นแหละครับ.............เอามาลงไว้ด้วย
    ............แต่พอผมมานึกอีกที..ก็ไม่สมเหตุสมผลเหมือนกัน...เพราะถ้ายังงั้น...ตอนผม
    ถามท่านครั้งแรก(ที่เคยเล่าไปตั้งแต่ต้นแล้ว)...หลวงอาดีท่านว่า...ท่านได้เรียนกับ..
    หลวงพ่อบุตร..รึเปล่า..ท่านก็บอกว่า..ท่านปฎิเสธไปแล้ว..ตั้งแต่..อาจารย์สินเสียใหม่ๆ
    ...แต่..ท่านบอกว่า...หลวงพ่อบุตรเอาตำรา..มาให้ท่าน....อาจเป็นไปได้ว่า..ท่านอาจ
    มาเลือกเรียน..เอาเอง...เพราะวิชาบางอย่าง..ไม่จำเป็นต้องครอบ........
    .........หลวงพ่อประสิทธิ์ วัดไทรน้อย...ท่านบอกว่า...วิชาท่านส่วนใหญ่..รวมถึงเรื่อง
    การลงตะกรุดของท่านด้วย...ท่านเรียนเองจากตำรา.........
    .................แต่ที่..แปลกใจคือ..."นะ"..ของหลวงพ่อบุตร..ตัวนี้...ไม่เคยเห็น..ท่านใช้เลย
    ...ไม่ว่า..จะลง..ที่..รถยนต์..มอเตอร์ไซด์..ทำน้ำมนต์..หรือ...อย่างอื่น...ท่านใช้ยันต์"ทอ"
    ของ..หลวงพ่อปาน..เกือบทั้งหมด...
    ...............ก็เป็นปริศนาไป...แล้วกัน................................
     
  20. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .......................................................................................................................
    .......สิ่งที่ผมลืมถามท่าน..ว่า...ทำไม..ตอนนั้น..หลังเหรียญท่าน..จึงไม่ไได้ใช้...
    ยันต์เก่งของท่าน...ที่ท่านเชี่ยวชาญ..แล้วอุปเท่ห์..ก็มากมาย..ซึ่งในผ้ายันต์ปี ๒๔๘๕
    ท่านก็ใช้..ยันต์"ทอ"...ผมเองก็มานึกขึ้นได้..หลังจากสึก..ทำงานแล้ว.......
    ....ผมเข้าใจเอาเองว่า..ช่วงเวลานั้น..ตั้งแต่เตรียมการ..เนื่องจากเป็น PROJECT..ใหญ่โต
    ..สำหรับท่าน..ที่ต้องเตรียมการเป็นเดือนๆ...คงจะยุ่งน่าดู...ทั้งเหรียญท่าน..เหรียญหลวงพ่อ
    บุตร...กริ่ง(ตอนนี้ มีปลอมแล้วนะครับ.....เพราะพวกที่นิยม..หลวงปู่เผือก..แล้วอยากได้
    กริ่งท่าน...อย่างกริ่งชินราชปี ๒๔๘๕ นั้น...ราคาสูสี..กับ..กริ่งวัดสุทัศน์ปี ๒๔๘๕เลย
    (โดยเฉพาะ..เนื้ออัลปาก้า)..บางช่วงแพงกว่าอีก....ว่ากันเป็นหมื่นๆ..สู้ไม่ไหว.....เลย
    หันมาหา..ที่ท่านปลุกเสกที่วัดบางด้วนนอกแทน..หลักร้อยเอง..)....แล้วยัง..พระผง
    ..การแกะพิมพ์..ทำบล็อค...คงยุ่งพิลึก....คนที่ทำบล็อคเหรียญ...ก็คงไม่ได้ตัวอย่าง..
    ยันต์"ทอ"..จากท่าน...ก็..เลย..เอาคาถา...หลังเหรียญอาจารย์สิน(เจ้าอาวาสองค์ก่อน..
    ที่ผมเล่าประวัติไปแล้ว)..มาใส่แทนซะเลย..........
    .....เพราะ...ดู..ตามเหตุตามผล...แล้ว..ก็ต้องเป็น..ยันต์"ทอ".......
    ...........คราวนี้....หลังจากนั้น....เมื่อจะทำเหรียญใหม่..ท่านก็คง...ไม่อยากยุ่งยากอะไร..
    แล้วอีกอย่างนึง...การแกะบล็อคใหม่..ก็ต้องลงทุน...เหรียญท่าน..พระท่าน..ก็แจก..ลูกเดียว
    ไม่ได้..จำหน่าย..ก็เลยถึง..ใช้..บล็อคเดิม.....
    .............ก็มีมา..ตอนหลังช่วงที่ผมบวชนี่แหละ...ที่พวกลูกศิษย์..คงเบื่อแล้ว..เพราะใช้
    แบบเดิม..มาหลายรุ่น..มาปรึกษาท่านที่จะทำ..บล็อคใหม่...ท่านก็เลย...ไม่เอาหน้าท่าน
    ไปใช้..พระประธานแทน..แล้วก็ปิดบังตัวเอง...ใช้..ตัวย่อชื่อท่านแทน......พวกที่ไม่ใช่
    ลูกศิษย์ใกล้ชิด..รับไปเอาไปอ่าน..ก็เลย..งงเต็ก..คงนึกว่าท่าน..ใบ้หวยมั้ง.....
    ........ไม่เห็นเกี่ยวเลย.........ท.ม.ท. ......................
    ...........อีกอย่างที่ท่านเลือกพระประธาน...เพราะท่านบอกผมว่า..หลวงพ่อพระประธาน
    นี่ศักสิทธิ์นะ..อาศัยบารมีท่านมาคุ้มครอง....(..พระประธานนี้..ผมเคยเขียนมาแล้ว....
    ด้วยพุทธศิลป์..เป็น..พระพุทธรูปปูนปั้น..สมัยอยุธยา..ชัดเจน...หน้าผากกว้าง..กรามใหญ่
    .....ทรง..บึกบึน..พอสมควร......................................
    และ..รูปทรงเดิมนั้น..สัดส่วนงดงามครับ..แต่ทางกรมศิลป์..ไม่ได้มาขึ้นทะเบียนไว้...
    พอเริ่มผุพัง..ก็จ้างช่างมาซ่อมกันเอง...ผล..เละตุ้มเปะ..)........
    ............ส่วนด้านหลังเหรียญ..คราวนี้..จึงถึงเวลาซะที..ที่ท่านจะได้..เอาทั้ง..ยันต์"ทอ"..
    และ..ยันต์เกราะเพชร..มาอยู่ด้วยกัน...........................
    ...............................................................................
    .....ตอนที่ผมสึกนั้น...สุขภาพท่านก็เริ่มย่ำแย่ลงแล้ว......และจากการสอบถามญาติๆ..
    ตอนหลังจากผมสึก..ไปแล้ว..และกับที่ถามพ่อ...ท่านก็ไม่ดีขึ้น..มีแต่ค่อยๆแย่ลง......
    ......ซึ่งผมคิดว่า...เหรียญกลมท่านที่ออกมานั้น...ท่านก็คงไม่ได้ยุ่งอย่างอื่น..คงปลุกเสกอย่าง
    เดียวแล้ว......
    ...............ผมว่า..ไอ้ที่ผม..อยากจะเล่า..อยากจะบอก..ก็คงหมดแล้ว...........
    .......หวังว่า..ท่านที่สนใจ..ในพระครูสมุห์ทองดี...และ..วัตถุมงคล..ของท่านจะได้เข้าใจ
    อะไรๆ..มากขึ้น.............ขอบคุณครับ.................................
    ..........................................................................................................................


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2013

แชร์หน้านี้

Loading...