**พระกรรมฐานสาย ลป.ชอบ ลป.คำดี ลป.หลุย และครูบาอาจารย์สายต่างๆ**//

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Lo_olLo, 12 พฤษภาคม 2016.

  1. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,772
    ค่าพลัง:
    +11,815
    สาธุครับ....เดี่ยวผมจะรองลงพื้นทีดูครับ ว่าวัดท่านอยู่ที่ไหนอย่างไร เพราะผมก็พึ่งจะทราบนี้ละครับ อนุโมทนากับคุณโยมแถวหลังครับ แล้วเดี่ยวรออ่านรายละเอียดที่จะไปสอบถามดูครับ
     
  2. โยมแถวหลัง

    โยมแถวหลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +854
    ขอบคุณอาจารย์เป็นอย่างสูงครับ
    ต้องพึ่งคนพื้นที่จริงๆ เพราะท่านไม่เปิดเผยองค์ท่าน เท่าที่ทราบความเพียรท่านเข้มข้นมาก นั่งจนก้นแตก เดินจนเท้าแตกจนแทบเดินไม่ได้ ต้องเอาผ้ามาพัน
    ขอบคุณครับ
     
  3. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,772
    ค่าพลัง:
    +11,815
    แต่พอจะรู้ว่า
    พรุ่งนี้ วันพุธที่ ๑๙ เม.ย ๒๕๖๐
    ขอเชิญญาติธรรม ร่วมใส่บาตร ถวายจังหัน
    หลวงปู่ธนภัทร (ปู่เจม) จิรธัมโม ถ้ำหาด จ.เลย
    ณ.สวนแสงธรรม ถ.พุทธมณฑล สาย ๓
    รับบาตร เวลา ๐๗.๓๐ น

    ถ้าอย่างไรรองไป ทำบุญกับท่านดูก่อนก็ได้ครับ ท่านจะลง กทม ครับ อนุโมทนาครับ
     
  4. โยมแถวหลัง

    โยมแถวหลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +854
    ขอบคุณครับ ใกล้บ้านเลย
     
  5. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,772
    ค่าพลัง:
    +11,815
    วันนี้วันดี ศรีมงลคล
    วันที่ครูบาอาจารย์ เมตตาธรรมให้พระผงชุด
    ซุ้มกอ สมเด็จ 7 ชั้น "อะระหัน" เป็นวาระแรกครับ

    ?temp_hash=7878c6acbd07cc0ea4b33fa6311c850d.jpg

    สร้างได้ทั้งหมด 335 องค์ครับ

    ซุ้มกอ 241 องค์
    สมเด็จ 88 องค์
    พิมพ์หลวงปู่ทวด 4 องค์
    พิมพ์พระคำข้าว 2 องค์

    _temp_hash-4a90248da6cc1f6840ca96abfbf46f6a-jpg.4139424.jpg

    _temp_hash-ef27515e311c081e336dcdf80786dc8d-jpg.4139425.jpg

    _temp_hash-ef27515e311c081e336dcdf80786dc8d555-jpg.4139426.jpg





    *********

    ถวายหลวงปู่อร่าม 285 องค์
    จะเหลือแบ่งกันเพียง 50 องค์เท่านั้นครับ ในเว็ปเรานี้ผมจะแบ่งท่านผู้ศรัทธา ท่านละ 1 องค์ครับ ส่วนจะได้พิมพ์ไหนก็ รอลุ้นกันที่บ้านท่านนะครับ
    อนุโมทนาครับ

    ****************

    ?temp_hash=7878c6acbd07cc0ea4b33fa6311c850d.jpg

    พิเศษครับ วันนี้ผู้เขียนได้ นำพระผงชุดนี้ไปให้หลวงพ่อวิลาศ ปาสาทิโก อธิษฐานจิต ณ กุฎิที่วัดวารินทราวาส โดยท่านจับๆและพิจารณาดู ท่านว่า"พระพิมพ์งามแท้ พระหยัง" ผู้เขียนตอบว่า "พระซุ้มกอครับ เฮ็ด(ทำ)ถวายหลวงปู่อร่าม"


    ท่านถามว่า"วัดเพิ่นมีบล๊อกพิมติ(วัดท่านมีพิมพ์หรอ)" ผู้เขียนว่า"บล๊อกนี้พิมพ์นี้เฮ็ดเอาครับ(ทำเอา)"


    จากนั้นท่านก็อธิษฐานจิตอยู่พักหนึ่ง จนเวลาพอสมควร ผู้เขียนก็ขอโอกาสลากลับ พร้อมกับ กำลังจะยกกล่องพระไป

    หลวงพ่อท่านเมตตาว่า"เอาไว้นี้จักคืน สองคืนก่อนเดี่ยวหลวงตาจะแผ่เมตตาทำวัตร สวดมนต์ให้ดีๆ อธิษฐานทีเดียวสิใดหยัง(อธิษฐานจิตครั้งเดียวจะได้อะไร)"


    ผู้เขียนจึงกราบเรียนท่านว่า ..อย่างนั้นวันที่ 20 กระผมจะมาเอาเด้อครับหลวงพ่อ ท่านว่า"เออๆเอาไว้นี้ละสิเอาหลวงพ่อโสธรทับไว้เลย"


    **หลวงพ่อโสธรที่ว่านี้คือ หลวงพ่อโสธรแร่เหล็กน้ำพี้ ที่มีคนนำมาถวายท่านหน้าตัก 5 นิ้ว โดยท่านบอกว่าจะเสกทับปากกล่องที่มีพระให้ครับ**

    นี้เป็นความตั้งใจของครูบาอาจารย์ ที่ท่านเมตตาธรรมจริงๆครับ ฉะนั้นรุ่นนี้ใครได้ไปไม่ผิดหวังแน่นอน
    ท่านจะอธิษฐานจิตติดต่อให้ 2 คืน 3 วัน เลยทีเดี่ยวครับ


    **************

    สำหรับหลวงพ่อวิลาสนี้ ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่คำดี ปภาโส โดยตรง ร่วมยุคพรรษากับหลวงพ่อขันตี และ หลวงปู่พัน

    ท่านเกิดเมื่อ พ.ศ. 2486 และเมื่ออายุ 23 ปี ท่านก็ได้บวช โดยมี หลวงปู่ศรีจันทร์ วัณณาโภ อุปสมบทให้ได้ฉายาว่า"ปาสาทิโก"


    หลังจากบวชแล้ว ท่านก็เที่ยวธุดง แสวงหาธรรมรอบๆจังหวัดโดยท่านไม่ได้ไปไกลนัก แล้วท่านก็มาจำพรรษาที่ วัดวารินทราวาสนี้ เมื่อหลังอุปสมบทเลย(ปี2509ไปเที่ยวธุดงแต่ไปๆมาที่วัดนี้)


    ด้วยวัดท่านจำพรรษาอยู่ กับวัดถ้ำผาปู่ หลวงปู่คำดี อยู่ไม่ไกลกันนัก ท่านมักจะไปฟังเทศนาและอยู่ปฎิบัติธรรม แม้กระทั่งลงอุโบสถ วัดถ้ำผาปู่อยู่เสมอ

    ท่านอยู่ปฎิบัติกับหลวงปู่คำดี หลายสิบปี จนหลวงปู่คำดีมรณะภาพ ปี 2523 ท่านก็กลับมาจำพรรษาที่วัดวารินทราวาส จนปัจจุบัน....

    ปัจจุบันท่านอายุ 74 ปี พรรษา 51
    หลวงปู่ท่อน ญาณธโร เคยกล่าวชื่นชมหลงพ่อวิลาสไว้ว่า "ท่านวิลาศ ท่านมีดีของท่านนะ แต่ท่านไม่อวด"


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 เมษายน 2017
  6. โยมแถวหลัง

    โยมแถวหลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +854
    ขอบคุณครับอาจารย์
    เมื่อเช้าได้จัดจังหันแบบอ่อนๆ ไปถวายท่าน โชคดีได้ขอโอกาสรับบาตรท่าย และได้ถวายปัจจัยเพื่อใช้ส่วนองค์ท่านอีกจำนวนหนึ่ง
    ตอนแรกว่าจะถ่ายรูปท่านมา แต่เห็นท่านปรามคนอื่นว่าการถ่ายรูปพระเป็นการไม่สมควรยิ่ง อาจทำให้พระผิดวินัย ผู้ถ่ายจะเป็นบาปเป็นกรรมได้
    อนุโมทนาบุญกันครับ
     
  7. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,772
    ค่าพลัง:
    +11,815
    วันนี้ เวลา 16.30 น. ได้เดินทางไปถวายปัจจัย และ พระผงอรหันต์ แก่องค์หลวงปู่อร่าม ชินวังโส ไว้แจกในงานอายุวัฒนมงคล 91 ปี หลวงปู่อร่าม ในวันที่ 6-7 พ.ค. 2560 แล้วครับ

    ร่วมกันอนุโมทนาครับ
    ในการนี้หลวงปู่เมตตาอธิษฐานจิตพระชุดนี้เป็นเวลา 1 คืน กับอีก 2 วาระครับ สาธุๆครับ

    ?temp_hash=a1f094912e996a888601b45b33f97926.jpg


    ?temp_hash=ae33deb3ef3fa346628398be74861ebe.jpg

    ?temp_hash=7a140c63249c2af4e6f1839c730df4c9.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2017
  8. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,772
    ค่าพลัง:
    +11,815
    และหลวงปู่ได้เมตตามอบพระ ให้จำนวนไม่มากครับ ให้มาแจกศรัทธา ญาติโยมในการนี้ต่อ....ผมจึงจะจัดส่งให้ท่านสมาชิกที่ผมมีชื่ออยู่ ในจำนวนนี้นะครับ สาธุครับ...

    ?temp_hash=ae33deb3ef3fa346628398be74861ebe.jpg

    ?temp_hash=ae33deb3ef3fa346628398be74861ebe.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. โยมแถวหลัง

    โยมแถวหลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +854
    อนุโมทนาสาธุ กับทุกบุญที่อาจารย์ได้กระทำครับ
     
  10. โยมแถวหลัง

    โยมแถวหลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +854
    สวัสดีครับอาจารย์
    วันที่ 6-7 พค. นี้ อาจารย์จะไปร่วมงานมุทิตาสักการะหลวงปู่อร่ามไหมครับ ถ้าไปผมจะฝากปัจจัยไปร่วมบุญด้วยครับ
    ขอบคุณครับ
     
  11. runkey

    runkey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,114
    ค่าพลัง:
    +1,876
    สาธุ สาธุ ขออนุโมทนาบุญกับท่านอาจารย์ด้วยนะครับ สาธุ สาธุครับ
     
  12. api_suphot

    api_suphot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,108
    ค่าพลัง:
    +4,903
    สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนาบุญกับท่านอาจารย์ด้วยครับ
     
  13. api_suphot

    api_suphot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,108
    ค่าพลัง:
    +4,903
    ผมไม่ได้หายไปไหนนะครับเพียงแต่ผมไม่สามารถเข้าเวบพลังจิต โดยมือถือเครื่องใหม่และผมสมัครสามาชิกใหม่ก็ไม่ได้ครับ (เขียนจากมือถือเครื่องเก่าครับ)
     
  14. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,772
    ค่าพลัง:
    +11,815
    คงไม่ได้ไปครับ พอดีหมอนัดตรวจสุขภาพ แต่ได้ถวายปัจจัยพร้อมกับวันถวายพระไปแล้ว ครับ แต่ผมจะตั้งกองบุญเพื่อให้ศรัทธาสมาชิกได้ร่วมกันอยู่นะครับ เดี่ยวต้องรอโอกาสเหมาะๆครับ สาธุในกุศลจิตครับ
     
  15. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,772
    ค่าพลัง:
    +11,815
    'หลวงปู่พัน ฐิตธัมโม'
    วัดป่าสันติธรรม อ.เมือง จ.เลย

    ?temp_hash=1b2ff0417876964150c16fa18e6df11c.jpg

    หลวงปู่พัน เป็นพระเถระที่ชาวจังหวัดเลยให้ความเลื่อมใสศรัทธา เป็นพระเถระผู้ใหญ่สายคณะธรรมยุต เป็นพระที่เคร่ง ครัดในการวัตรปฏิบัติ

    ปัจจุบัน จำพรรษาอยู่ที่วัดป่าสันติธรรม บ้านน้ำภู อ.เมือง จ.เลย สิริอายุ 86 ปี พรรษา 39


    หลวงปู่พัน เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤศจิ กายน 2474 ที่บ้านนาโคก ต.นาอ้อ ปัจจุบันเป็น ต.ศรีสองรัก อ.เมือง จ.เลย โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายพา และนางเฟือย ไม่ทราบนามสกุล เป็นบุตรคนโตในจำนวน 6 คน

    จากหนังสือประวัติที่บรรดาลูกศิษย์ของท่านได้ทำออกมาเป็นที่ระลึก เมื่อปี พ.ศ.2547 ระบุว่า เมื่อตอนอายุยังน้อย ท่านได้บวชเป็นสามเณรที่วัดศรีจันทร์ ต.นาอ้อ อ.เมือง จ.เลย

    หลังจากบวชสามเณรแล้ว ท่านได้ติดตามพระอาจารย์ของท่าน คือหลวงปู่ครูบาน้อย ซึ่งหลวงปู่ครูบาน้อยนั้น เป็นพระเกจิที่มีวิทยาคมแก่กล้า ท่านได้ติดตามเล่าเรียนวิทยาคมกับพระอาจารย์ประมาณ 3 ปี

    ก่อนลาสิกขาออกมาช่วยครอบครัวพ่อแม่ทำไร่ทำนา จนอายุครบ 20 ปี ท่านจึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดศรีจันทร์ บ้านนาอ้อ บวชได้ 1 พรรษา ก็ลาสิกขามาแต่งงานกับนางคำพู มีตา มีบุตรชายหญิงด้วนกัน 3 คน

    ?temp_hash=1b2ff0417876964150c16fa18e6df11c.jpg

    ต่อมาภรรยาเสียชีวิต จึงได้กลับมาบวชอีกครั้งขณะอายุได้ 46 ปี โดยไปอุปสมบทที่วัดศรีสุทธาวาส อ.เมืองเลย โดยมี หลวงปู่ศรีจันทร์ วัณณาโภ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระสมุห์ไกรสีห์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการธีรพงศ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา "ฐิตธัมโม"


    ?temp_hash=1b2ff0417876964150c16fa18e6df11c.jpg

    หลังจากที่ท่านบวชเป็นพระแล้ว ท่านก็กลับมาจำพรรษาอยู่ที่ วัดถ้ำผาปู่ ฝึกอบรมกรรมฐาน ทำสมาธิ ภาวนาเดินจงกรมอยู่กับ หลวงปู่คำดี ปภาโส และ หลวงพ่อสีทน สีลธโร(ศิษย์ผู้ใหญ่หลวงปู่คำดี และเป็นพระพี่เลี้ยงท่าน)

    ฝึกทีแรก ท่านสอนให้ภาวนา พุทโธ เป็นคำบริกรรมอย่างเดียวอย่างอื่นท่านไม่ให้เอาอะไรทั้งสิ้น แม้แต่เวทมนต์คาถาวิชาอาคม ที่เคยได้ร่ำเรียนมากับ หลวงปู่ยาครูน้อยนั้น ท่านก็ให้เอาทิ้งให้หมด ให้มีแต่ พุทโธ อย่างเดี่ยว

    เวลานั่งภาวนา ท่านให้เอาจิตอยู่ที่ พุทโธ อย่างเดี่ยวไม่ให้คิดไปที่อื่น เวลาหายใจเข้าให้บริกรรม "พุท" เวลาหายใจออกให้บริกรรม "โธ" คิดภายในใจเท่า

    ท่านเล่าว่าหลวงปู่คำดี ท่านจะสอนว่า...ให้ให้ตั้งอกตั้งใจทำความเพียร นั่งภาวนาเดินจงกรมให้มากๆ เวลากลางคืนไม่ให้นอนก่อน สี่ทุ่ม เวลากลางวันไม่ให้นอนก่อนเที่ยง เวลาเช้าให้ตื่นตีสี ให้มีเวลาทำความเพียรให้มากๆ อย่าปล่อยให้วันคืนปีเดือน ล่วงไปเสียไป


    หลวงปู่พัน ท่านก็ปฎิบัติตามคำสอนให้ปู่คำดี อย่างเคร่งครัด ตั้งหน้า ตั้งตาทำความพาก ความเพียรอย่างเต็มกำลัง ไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย ทั้งกลางวัน กลางคืน ยืน เดิน นั่งนอน ก็พยามทำอยู่อย่างนั้น

    เพราะจิตใจของท่านเคยได้รับความทุกข์ ความทรมานในทางโลกมาอย่างหนักหน่วงมาแล้ว
    ท่านจึงได้มุ่งมั่น ต่อความพรากความเพียร ภาวนาพุทโธๆๆๆ
    เท่าไร จิตก็ไม่อยู่กับพุทโธ จิตใจมีแต่แล่นไปตามความคิดตามอารมณ์ อยู่อย่างนั้น


    ท่านว่า..ด้วยครั้งบวชเข้ามาเริ่มปฎิบัติใหม่ๆ ท่านเกือบจะเป็นบ้าไปเลย อย่างนั้นแหละ เพราะจิตไม่ยอมอยุ่กับพุทโธ เสียทีเพราะอารมณ์ต่างๆที่เข้ามาขวางกั้นตันใจ พาให้จิตใจหลวงปู่ ท่านเศร้าหมอง

    แต่พอท่านปฎิบัตินานเข้าจิตของท่าน ก็เริ่มสงบลงปัญญาของท่านก็เกิดผุดขึ้นเกิดขึ้น คงเป็นเพราะวาสนาบารมีเก่าที่หลวงปู่พัน ท่านเคยได้สร้าง


    สมอบรมมาแล้ว แต่ปุเรชาติหนหลังครั้งก่อน เขามาช่วยดลบันดาลให้จิตใจของหลวงปู่พัน ท่านคิดออกได้คิดแก้ไขจิตใจของท่าน ที่เป็นห่วง กังวนอยู่นั้นให้สิ้นไป....

    ท่านจึงมาพิจารณาว่า....... ที่ครูบาอาจารย์ท่านสอนว่า ความจริง และ ความจำนั้นต่างกันมาก ดำรพาความรู้ความเห็นที่ เห้นความจริงด้วยจิต ด้วยใจนั้นเราจะเชื่อเราจะซึ้งอย่างถึงจิต ถึงใจเราอย่างมั่นคงไปจนตาย ส่วนความจำนั้น คือว่าเราอ่านมา จำมาจากตำรับ ตำราหรือฟังจากครูบาอาจารย์นั้น ถึงจะเชื่อก็เชื่ออย่างไม่ซึ้งถึงจิตถึงใจจริงๆ

    ?temp_hash=1b2ff0417876964150c16fa18e6df11c.jpg

    เล่าเรื่องภาวนาให้พระเณรฟัง

    เมื่อครั้งหลวงปู่พัน ปฎิบัติธรรมเริ่มเห็นความจริง เห็นอรรถ เห็นธรรมแล้ว ท่านก็เล่าเรื่องนี้ให้พระเณรฟัง เพราะมันกินใจ ลึงซิึงถึงใจท่านมาก ส่วนพระเณรพอได้ยินได้ฟังท่านเล่า ก็สักแต่ได้ยินเท่านั้น ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมาก เพราะมิใช่เรื่องของคนอื่น

    หลังจากหลวงปู่พัน ท่านได้ไปทำกิจวัตรประจำวาระ คือ ไปสรงน้ำและไปทำความสะอาดที่บริเวณกุฎิของหลวงปู่คำดี ผู้เป็นครูบาอาจารย์ของท่าน วาระสรงน้ำให้หลวงปู่คำดีนั้น 7 วันจะเวียนมาถึงหลวงปู่ครั้งหนึ่ง

    พอสรงน้ำหลวงปู่เสร็จ หลวงปู่คำดีท่านมานั่ง วาระวันนั้น ว่างจากญาติโยมที่มากราบท่าน หลวงปู่คำดี ท่านจึงได้โอกาสอารมพระเณร คำพูดที่ท่านพูดเปรยๆ ออกมาทีแรกนั้น ท่านได้พูดขึ้นว่า...."ผู้ใดนำเรื่องของตัวเองมาเว้า ผู้นั้นเอาความโง่ของโตมาขาย"


    ท่านได้พูดขึ้นอย่างนี้แหละ พอหลวงปู่พันท่านได้ยินดังนั้น ในตอนนั้นท่านจึงเกิดความคิดขึ้นว่า เอ๋....ที่หลวงปู่คำดีพูดนั้น ท่านพูดให้ใครน่อ ท่านคงพูดให้เรากระมัง "เอ๋......แล้วเราก็ไม่เคยได้ไปเล่าให้ท่านฟัง แต่ท่านมารู้ได้อย่างไร หรือมีพระเณรไปเล่าให้ท่านฟังหนอ" และตั้งแต่นั้นหลวงปู่พัน ท่านก็ไม่เคยเล่าเรื่องผลการปฎิบัติของท่านให้ใครฟังอีกเลย เพราะเรื่องพวกนี้ ครูบาอาจารย์ท่านไม่เล่าให้ใครฟังง่ายๆหรอก เพราะไม่เกิดประโยชน์เท่าที่ควร มันเป็นเรื่องส่วนบุคคล





     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 2797-64a3.jpg
      2797-64a3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      86.8 KB
      เปิดดู:
      41
    • cats.jpg
      cats.jpg
      ขนาดไฟล์:
      123.5 KB
      เปิดดู:
      59
    • uk5i6.jpg
      uk5i6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51.9 KB
      เปิดดู:
      42
    • vc145.jpg
      vc145.jpg
      ขนาดไฟล์:
      49.8 KB
      เปิดดู:
      47
  16. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,772
    ค่าพลัง:
    +11,815
    จิตได้ ฌาน

    ?temp_hash=5d9008e3dda06f68797bd73cb12c1dd4.jpg

    พอจิตของหลวงปู่พัน สงบจากอารมณ์ 4 อย่างที่ครบงำ ทำให้จิตใจของหลวงปู่เป็นทุกข์อยู่ในเวลานั้นได้จืดจาง บางเบาจากจิตใจลงไปแล้ว จึงได้นำเอาเรื่องจิตสงบนี้ มาสนทนากับพระสหมิตรธรรม ที่ปฎบิตัอยู่ด้วยกันฟัง

    พอหมู่เพื่อสหธรรมิกได้ยินดังนั้นเข้า พระบางรูปก็ตอบว่า....จิตสงบไมได้เป็นอย่างนี้ จิตสงบนั้นต้องสงบแน่นิ่วไปเลยซิ

    หลวงปู่พันตอบว่า.....แต่ผมไม่ได้เป็นแบบนั้น ผมนั้นมันสงบจากอารมณ์ที่เข้ามาครอบงำจิต ที่ทำให้ได้รับความทุกข์ ความเดือดร้อย วุ่นวายใจ นั้นสงบลง

    ซึ่งพระเพื่อนสหธรรมิตนั้น ไม่เข้าใจในความสงบของหลวงปู่ เพราะไปเข้าใจว่าการสงบเกิดขึ้นจากอารมณ์สมาธิธรรมเท่านั้น แต่พอออกจากสมาธิแล้ว ความวุ่นว่ายก็เข้ามาเหมือนเดิม

    เมื่อตกลงกันไม่ได้เช่นนั้น ก็ตั้งสิ้นใจไปถามหลวงปู่คำดี เพื่อให้ท่านชี้แนะ หลวงปู่พัน กราบเรียนหลวงปู่คำดีว่า

    เริ่มแรกปฎิบัตินั้น จิตใจของกระผมไม่มีความสงบเลย มีแต่ความวุ่นวายใจ แต่พอเริ่มปฎิบัติ จิตเริ่มพิจารณาธรรมหาอุบายะธรรมมาระงับ บางที่เดินจงกรมอยู่ เกิดนิมิต เหมือนตัวเองอยู่ด้านหน้า แต่พอเดินไป นิมิตนั้นกลับหายไป ซึ่งแรกๆก็เกิดความกลัวว่า ตัวจะหายไปแต่พอตั้งสติดู ก็รุ้ว่านี้คือนิมิต นิมิตนั้นก็หายไป

    จากนั้นจิตกระผมก็สงบจากความวุ้นวาย ฟุ้งซานทั้งหลายได้ จิตของกระผมเป็นอย่างนี้แหละกระผม

    พอเล่าจบ หลวงปู่คำดี ท่านก็พูดขึ้น พร้อมกับชี้นิ้วมือเข้ามาที่ตรงหัวใจท่าน แล้วท่านก็พูดว่า "มันเกิดจากนี้ ออกไปจากนี้ แล้วมันก็กลับมาอยู่นี้ดังนั้นแหละ"


    ท่านเลยมาพิจารณาว่า......นี้แหละเราไม่เคยเกิด เคยเป็นแบบนี้มาก่อนจึงเกิดอัศจรรย์ใจ ทั้งๆที่มันก็เกิดขึ้นจากใจเรานี้แหละ จากนั้นหลวงปู่คำดี ท่านพูดต่อว่า เออ อย่างนี้แหละดี มาพูดให้ครูบาอาจารย์ฟัง ให้หมู่ให้พวกได้ยินได้ฟังนี้แหละ แล้วหลวงปู่คำดีพูดต่อไปว่า นั้นแหละมันบ่ตั้งจเฮ็ด ตั้งใจทำกัน บ่เคยได้ยินพระเณร รูปใดองค์ใด มาพูด มาเล่าให้ฟังจักเทื่ออย่างนี้แหละ


    พอครูบาอาจารย์อธิบายให้ฟังแล้วเราถึงได้เข้าใจแล้วท่านยังได้พูดต่อไปอีกว่า เออ....ถ้าหากเป็นอย่างนั้น ก็แปลว่า ได้ ญาณ แล้ว ให้รักษาไว้ให้ดี อย่าให้ฌานเสื่อมนะ"ฌาน" นั้นคือ ที่อยู่ของจิต จิตถึงมีที่อยุ่แล้ว....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • photo.jpg
      photo.jpg
      ขนาดไฟล์:
      66.3 KB
      เปิดดู:
      34
  17. โยมแถวหลัง

    โยมแถวหลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +854
    อนุโมทนาสาธุ ครับอาจารย์
     
  18. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,772
    ค่าพลัง:
    +11,815


    ?temp_hash=212ff773faf6598a2ed7196bd433c173.jpg
    ครั้งหนึ่ง องค์หลวงปู่คำดี ปภาโส ได้กล่าวกับพระเณรว่า พระสมัยนี้ ไม่เหมือนพระสมัยก่อน เวลาออกพรรษา จะเที่ยงธุดง ไปแสวงหาธรรม ตามป่า ตามเขา ไป ขอข้ออรรถ ข้อธรรม จากครูบาอาจารย์ หลวงปู่เทสก์ หลวงปู่ขาว กัน....


    หลวงปู่พัน เมื่อท่านได้ยิน เช่นนั้น ท่านก็ขอโอกาสอนุญาตหลวงปู่สีทน และ หลวงปู่คำดี ออกธุดงไปเพื่อแสวงหาธรรมะ จากครูบาอาจารย์สมัยนั้น โดยหลวงปู่พัน หลังจากได้รับอนุญาตจากครูบาอาจารย์ ทั้งสองแล้ว ท่านก็มุ้งหน้าเที่ยววิเวก ไปกราบนมัสการหลวงปู่เทศก์ เทสรังษี เพื่อขอข้อธรรมมาปฎิบัติ ก่อน

    ?temp_hash=1eebbb1a263b23a590d97ae98868da15.jpg


    เมื่อครั้งถึงวัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย เวลาบ่ายกว่าๆ พักผ่อนสรงน้ำสรงท่า ตอนเย็นจึงเข้าไปกราบ หลวงปู่เทสก็ เทสรังสี

    หลวงปู่เทสก์ ท่านจึงถามไถ่ถึงที่มาที่ไป มายังไงจะไปที่ไหน หลวงปู่พันจึงกราบนมัสการเล่าให้หลวงปู่เทสก์ ฟังว่า....หลวงปู่คำดี ท่านแนะนำให้มาขอฟังธรรมจากหลวงปู่


    เมื่อหลวงปู่เทสก์ ท่านได้ยินดังนั้น ท่านก็ถามหลวงปู่พัน เกี่ยวกับเรื่องสมาธิที่ทำอยู่ ว่าเดี๋ยวนี้จิตเป็นอย่างไร มันอยู่อย่างไร มันไปมาอย่างไร มันได้รับความสงบมากน้อยแค่ไหน


    หลวงปู่พัน ท่านจึงเล่าตามความจริง ที่ท่านเป็นถวายให้หลวงปู่เทสก์ ท่านทราบทุกประการ.....

    และหลวงปู่เทสก์ ท่านก็ให้ข้อธรรมหลวงปู่พันว่า.....จิตกับใจนั้นเป็นคนละอันกัน แต่ปๆ มาๆ ก็อันเดียวกันนั้นแหละ จิตอันใด ใจก็อันนั้น เป็นข้อธรรมสั้นๆ แต่มีความหมายมากมายมหาศาล สำหรับพระที่มุ่งปฎิบัติเพื่อความหลุดพ้นทางจิตใจ เพื่อเอาใจออกจากทุกข์ จากวัฎฎสงสาร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Poo-Test.jpg
      Poo-Test.jpg
      ขนาดไฟล์:
      20.9 KB
      เปิดดู:
      40
    • yr825.jpg
      yr825.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51 KB
      เปิดดู:
      37
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2017
  19. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,772
    ค่าพลัง:
    +11,815
    ?temp_hash=ea6533c3148b0b1ebfbef9148ab7fd97.jpg
    เมื่อปี 2559 ครั้งเมื่อหลวงปู่พัน ท่านอาพาธเดินทางไปพักรักษาธาตุขันธ์ ณ โรงพยาบาลศรีนคริน จ.ขอนแก่น

    หลวงปู่ทุย (พระอาจารย์ปรีดา ฉันทกโร) วัดป่าดานวิเวก (วัดดงศรีชมภู) อ.โซ่พิสัย จ. บึงกาฬ....ได้เข้าเยี่ยมอาการอาพาธหลวงปู่พัน และได้พูดกับลูกศิษย์ ลูกหาที่ดูแลท่านว่า"ดูหลวงปู่ให้ดีๆนะ ท่านจะไม่มาเกิดอีกแล้วนะ ดูแลท่านดีๆ"

    ?temp_hash=ea6533c3148b0b1ebfbef9148ab7fd97.jpg
    หลวงปู่ทุย (พระอาจารย์ปรีดา ฉันทกโร)

    *******************

    ?temp_hash=dfe215b0b64a96083ac126408fcfff77.jpg

    ในทุกๆปีหลวงปู่พัน ท่านจะไปร่วมงานมุทิตาสักการะวันเกิด หลวงพ่อสมศรี อัตสิริ ในทุกๆปี เพราะท่านทั้งสอง เคยจำพรรษาด้วยกัน ณ วัดเขาสวนกล้วย ประมาณปี 2525 ซึ่งในปีนั้น ท่านได้จำพรรษากับ หลวงปู่จันทร์เรียน และ หลวงพ่อสมศรี

    **********
    ?temp_hash=8ed26fd5b695844e841ed712c4b80b84.jpg
    เกศาและเล็บ หลวงปู่พัน ฐิตธัมโม ในภาพจะเห็นเม็ดพระธาตุเล็กๆปรากฎให้เห็น
    (ขอบคุณภาพ จาก อ.แวว ทองแสนคำ ที่กรุณาเปิดผอบให้ดูครับ)



     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2017
  20. โยมแถวหลัง

    โยมแถวหลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +854
    สาธุ สาธุ สาธุ น้อมกราบพ่อแม่ครูอาจารย์ด้วยเศียรเกล้า
     

แชร์หน้านี้

Loading...