พญานาคกับอดีตที่ผ่านมา

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย คุรุวาโร, 1 กันยายน 2012.

  1. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ฮั่นแน่...มาววเจงๆๆๆ ด้วย
    กับก่อนมะ กับแล้วก็แก้ม จาด้ายยสร่างมาวววว
    จ๋วยป่ะ....บอกให้มาคุยกับพี่บ้างจิ พี่เห็นเค้ายิ้มให้ทุ๊กกกกวันเยยยย

    เวลาจะขอเค้าถ่ายรูป ต้องบอกก่อนทุ๊กที ไม่งั้นไม่ยอมยิ้มให้อ่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2012
  2. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    จบแล้วกั๊บบบบ :cool:
     
  3. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ธุลีจักรวาล

    เมื่อแหงนหน้ามองท้องฟ้ายามค่ำคืน ดวงดาวพราวพร่างฟ้าสามารถสะกดใจเราให้สงบได้ ในยามนั้นแหละที่เราจะระลึกได้ถึงตำแหน่งแห่งหนที่แท้จริงของเราในจักรวาล

    ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่มาจากไหน คุณจะรู้สึกถึงความกะจิริดของตัวเองเมื่ออยู่ต่อหน้าดวงดาวนับล้านและทางช้างเผือกที่พาดผ่านฟ้า ดวงดาวเหล่านี้มีขนาดมโหฬารเกินจินตนาการ บ้างก็เป็นดาราจักรที่กว้างหลายปีแสง แต่แล้วกลับกลายเป็นแค่จุดเล็ก ๆ ระยิบระยับเบื้องหน้าเรา


    ใช่หรือไม่ว่าแท้จริงเราไม่ต่างจากธุลีของจักรวาล การปรากฏตัวของเราบนพื้นโลกนั้นแม้จะเป็นเหตุการณ์อันยิ่งใหญ่ของใครบางคน แต่ก็ไม่ต่างจากการเกิดขึ้นของฝุ่นผงเม็ดหนึ่งในจักรวาล พันปีนั้นนานเกินกว่าที่ทุกคนใฝ่ฝันจะอยู่ในโลกนี้ แต่นั่นเทียบไม่ได้เลยกับอายุหลายพันล้านปีของดวงดาวแต่ละดวงบนท้องฟ้า มิไยต้องเอ่ยถึงอายุของจักรวาล


    เมื่อดาวดวงหนึ่งแตกดับ อาจเกิดแรงสั่นสะเทือนไปยังดวงดาวใกล้เคียง แต่แทบไม่มีความหมายเลยสำหรับจักรวาลที่มีดาวแสนล้านดวงเกลื่อนกล่นเต็มฟ้า เมื่อดาราจักรที่ไกลหลายร้อยปีแสงระเบิดกัมปนาท เราเคยรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนหรือไม่ อย่างมากที่สุดก็เป็นแค่แรงกระเพื่อมเล็ก ๆ ที่เครื่องมืออันละเอียดอ่อนเท่านั้นสามารถดักจับได้ แล้วเหตุใดเราจึงคิดว่าการตายของเราเป็นปรากฏการณ์อันยิ่งใหญ่ที่โลกจะไม่มีวันลืม


    เป็นเพราะเราคิดว่าตัวเรานั้นเป็นคนสำคัญ จึงเห็นความปรารถนาของตัวเองเป็นเรื่องใหญ่ที่สุด ยิ่งคิดว่าตัวเองใหญ่คับฟ้า ก็ยิ่งเป็นทุกข์อย่างยิ่งเมื่อไม่สมหวัง อดไม่ได้ที่จะกราดเกรี้ยวต่อโลกทั้งโลก และเมื่อถึงวันที่จะลาลับโลก เราอดสงสัยไม่ได้ว่าโลกจะขับเคลื่อนอย่างไรเมื่อไม่มีเรา แต่ความจริงก็คือการตายของเรานั้นไม่ได้ต่างอะไรเลยกับการหายวับของฝุ่นธุลีในอวกาศ โลกก็ยังหมุนอยู่ต่อไป และในที่สุดก็จะลืมเรา


    ตราบใดที่ยังคิดถึงแต่ตัวเอง ก็ย่อมสำคัญผิดคิดว่าฉันคือคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เป็นประหนึ่งศูนย์กลางของโลก ที่ทุกคนต้องหมุนรอบ แต่เมื่อเปิดตาเบิ่งมองท้องฟ้ายามดึก แสงระยิบระยับของดวงดาวเต็มฟ้าสามารถสาดส่องใจเราให้สว่างไสวและโปร่งเบา ความทุกข์จะลดลงและรู้สึกเจียมเนื้อเจียมตัวมากขึ้น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • star01.jpg
      star01.jpg
      ขนาดไฟล์:
      920.4 KB
      เปิดดู:
      49
  4. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440
    พี่รั้งเขาว่าต้องอยู่เป็นคู่นะคะ อิอิ :cool:

    สุขสันต์วันเกิดด้วยคนจ้าาาา...

    ชอบชื่อพระยาดาวไข่ฟ้าจังเลยค่ะ... นึกถึงไข่ดาว อิอิ :cool:
     
  5. saekue20

    saekue20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +757
    งง อ่า สุขสันต์ วันพฤหัสบดี มะใช่หรือ
     
  6. saekue20

    saekue20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +757
    พี่ nouk ผมจำได้ว่า พี่เคยโพส บทสวด บารมี สามสิบทัศน์ ใช่มั้ย
    ผม ขอ ฉบับ ย่อ ได้มั้ย ครับ
     
  7. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ถ้างั้นลองเอาแบบนี้ไปสวดดูนะคะ สวดแล้วจำง่ายค่ะ แค่ครั้ง 2 ครั้ง ไ่ม่ต้องดูอีกเลย
    สวดได้เองปร๋อออออ

    คำไหว้บารมี 30 ทัศ(แบบครูบาศรีวิชัย)

    ทานะ ปาระมี สัมปันโน , ทานะ อุปะปารมี สัมปันโน , ทานะ ปะระมัตถะปารมี สัมปันโน
    เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเปกขา ปาระมีสัมปันโน , อิติปิ โส ภะคะวา​

    สีละ ปาระมี สัมปันโน , สีละ อุปะปารมี สัมปันโน , สีละ ปะระมัตถะปารมี สัมปันโน
    เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเปกขา ปาระมีสัมปันโน , อิติปิ โส ภะคะวา​

    เนกขัมมะ ปาระมี สัมปันโน , เนกขัมมะ อุปะปารมี สัมปันโน , เนกขัมมะ ปะระมัตถะปารมี สัมปันโน
    เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเปกขา ปาระมีสัมปันโน , อิติปิ โส ภะคะวา​

    ปัญญา ปาระมี สัมปันโน , ปัญญา อุปะปารมี สัมปันโน , ปัญญา ปะระมัตถะปารมี สัมปันโน
    เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเปกขา ปาระมีสัมปันโน , อิติปิ โส ภะคะวา​

    วิริยะ ปาระมี สัมปันโน , วิริยะ อุปะปารมี สัมปันโน , วิริยะ ปะระมัตถะปารมี สัมปันโน
    เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเปกขา ปาระมีสัมปันโน , อิติปิ โส ภะคะวา​

    ขันตี ปาระมี สัมปันโน , ขันตี อุปะปารมี สัมปันโน , ขันตี ปะระมัตถะปารมี สัมปันโน
    เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเปกขา ปาระมีสัมปันโน , อิติปิ โส ภะคะวา​

    สัจจะ ปาระมี สัมปันโน , สัจจะ อุปะปารมี สัมปันโน , สัจจะ ปะระมัตถะปารมี สัมปันโน
    เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเปกขา ปาระมีสัมปันโน , อิติปิ โส ภะคะวา​

    อะธิฏฐานะ ปาระมี สัมปันโน , อะธิฏฐานะ อุปะปารมี สัมปันโน , อะธิฏฐานะ ปะระมัตถะปารมี สัมปันโน
    เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเปกขา ปาระมีสัมปันโน , อิติปิ โส ภะคะวา​

    เมตตา ปาระมี สัมปันโน , เมตตา อุปะปารมี สัมปันโน , เมตตา ปะระมัตถะปารมี สัมปันโน
    เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเปกขา ปาระมีสัมปันโน , อิติปิ โส ภะคะวา​

    อุเปกขา ปาระมี สัมปันโน , อุเปกขา อุปะปารมี สัมปันโน , อุเปกขา ปะระมัตถะปารมี สัมปันโน
    เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเปกขา ปาระมีสัมปันโน , อิติปิ โส ภะคะวา​

    ทะสะ ปาระมี สัมปันโน , ทะสะ อุปะปารมี สัมปันโน , ทะสะ ปะระมัตถะปารมี สัมปันโน
    เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเปกขา ปาระมีสัมปันโน , อิติปิ โส ภะคะวา

    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ นะมามิหัง
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=6ZifLG1ak5Y&feature=channel&list=UL"]บารมี 30 ทัศ ครูบาเจ้าศรีวิชัย By Mayagoon - YouTube[/ame]
     
  8. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    บทสวดบารมี 30 ทัศ

    บารมี 30 ทัศน์ คือ คาถาและคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าที่ประเสริฐ กล่าวถึงแนวทางสำหรับผู้ปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้า เพื่อบรรลุโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล ซึ่งพระพุทธองค์ได้ปฏิบัติมาแล้วในภพชาติต่างๆ ประมาณ 500 ชาติ

    ซึ่งบารมี 30 ทัศน์นี้ แม้ท่านที่ไม่ได้ตั้งจิตอธิษฐานปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้าถ้าได้สวดเป็นประจำ จะยิ่งเพิ่มบุญบามีมากมายมหาศาลประมาณค่ามิได้ และบทสวดนี้สืบทอดโดยครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย

    การสวดนั้นต้องอยู่ในสมาธิที่แน่วแน่ จิตอย่าส่าย มุ่งจิตไปรวมที่ตัวอักขระในแต่ละตัว จะเกิดบารมีมากมายจนประมาณค่ามิได้
     
  9. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    บทนี้คงย่อไม่ได้ค่ะ เพราะถ้าย่อแล้วคงไม่ครบ 30 ทัศแน่นอนค่ะ
     
  10. แหมบศรี

    แหมบศรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2012
    โพสต์:
    422
    ค่าพลัง:
    +1,067
    เป็นบทสวดที่ชอบมากเลยคะ

    เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเปกขา
     
  11. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ถ้างั้น จำแบบหยาบๆ ไปก่อนแล้วกันนะคะ น้องsaekue
    บารมี 30 ทัศ ได้แก่

    1. ทานบารมี
    2. ศีลบารมี
    3. เนกขัมมะบารมี
    4. ปัญญาบารมี
    5. วิริยะบารมี
    6. ขันติบารมี

    7. สัจจะบารมี
    8. อธิษฐานบารมี
    9. เมตตาบารมี
    10. อุเบกขาบารมี
    แต่ละบารมี ให้ระลึกถึงการบำเพ็ญเป็นบารมีขั้นต้น บารมีขั้นกลางหรืออุปบารมี และบารมีขั้นสูงสุดหรือปรมัตถบารมี
    พอจำได้แล้ว ค่อยมาถามหาแบบละเีอียดอีกที

    ทุกคืนที่พี่สวดมนต์ พี่ก็ไม่ได้สวดบทบารมี 30 ทัศนะคะ แต่พี่ใช้วิธีอธิษฐานรวมบารมี
    30 ทัศของพระพุทธเจ้่าทุกพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระโพธิสัตว์เจ้าทุกพระองค์ พระอรหันตขีณาสพเจ้าทุกพระองค์ พระอริยะเจ้าทุกพระองค์ และบารมี 30 ทัศ ของตนเองตั้งแต่อดีตต้นชาติจนถึงปัจจุบันชาติ ให้รวมลงเป็นปัจจุบันขณะ แล้วก็แผ่เมตตาออกไปค่ะ
     
  12. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440
    เก๊าขอโต๊ดดดดดดดดด.... เห็นคำว่า happy กับเทียน คิดว่าวันเกิดใครเฉยเลย

    แหะๆ... มั่วนิ่มอีกแล้วเรา :cool:
     
  13. saekue20

    saekue20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +757
    ขอบคุณครับพี่
     
  14. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ขอส่งท้ายคืนนี้ ด้วยเรื่องแก้วมณีโชติ แล้วกันเนอะ แก้วมณีโชติหรือจะเรียกอีกอย่างว่า แก้วสารพัดนึก ก็ได้ค่ะ

    แก้วมณีโชติ คือแก้ววิเศษ หรือแก้วจินดามณี หรือแก้วสารพัดนึก สามารถเปล่งแสงได้ในตัวเองดุจแสงจากหลอดไฟนีออน หรือดุจแสงพระจันทร์เพ็ญ และสามารถดลบันดาลให้ผู้ที่เป็นเจ้าของ และผู้เลื่อมใสศรัทธาได้รับสิ่งที่ตนเองปรารถนา

    คนไทยเราจึงรู้จักในนาม แก้วจินดามณี หรือแก้วสารพัดนึก แต่ก็เพียงแค่ได้ยินชื่อในนิยาย ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วแก้วสารพัดนึกมีลักษณะอย่างไร หรือเป็นเพียงนิยายปรัมปราที่เล่าสู่กันฟัง

     
  15. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    [FONT=&quot]มหาแก้วมณีโชติรส (ดวงแก้วมณีโชติ)[/FONT]
    [FONT=&quot]
    เป็น ๑ ในของคู่บารมีของพระมหาบุรุษ หากพระองค์ท่านมิได้ออกบวชเพื่อตรัสรู้เป็น พระพุทธเจ้า เพราะหากมหาบุรุษผู้ใดไม่ออกบวช มหาบุรุษผู้นั้นจะได้เป็นพระมหาจักรพรรดิผู้มีอำนาจครอบครองได้ทั้งไตรโลก (อันเป็นเหตุให้พระเจ้าสุทโธทนะไม่อยากให้เจ้าชายสิทธัตถะบวช) [/FONT]

    [FONT=&quot]เมื่อถึงกาลที่พระมหาจักรพรรดิอภิเษกเป็นกษัตริย์อย่างสมบูรณ์ สมบัติทั้ง ๗ ประการอันคู่บารมีพระมหาจักรพรรดิ คือ จักร แก้ว ช้างแก้ว ม้าแก้ว นางแก้ว ขุนพลแก้ว ขุนคลังแก้ว และมหาแก้วมณีโชติรสนี้ ก็จะเสด็จมาหาพระมหาจักรพรรดิและถวายการอารักขาตามหน้าที่แห่งตน

    ซึ่งในกรณีของมหาแก้วมณีโชติรสนั้น หากพระมหาจักรพรรดิองค์ใหม่ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์โดยสมบูรณ์แล้ว เมื่อ ใดก็ตามที่พระมหาจักรพรรดินั้นนึกถึงแก้วมหามณีโชติรส แก้วมณีผู้เป็นพญาของเหล่าแก้วมณีและรัตนะทั้งหลายนี้ ก็จะเหาะออกมาจากคูหาอันเป็นที่พำนักซึ่งซ่อนอยู่ในเขาวิบูลบรรพตพร้อมด้วย แก้วมณีที่เป็นบริวาร ๘๔๐๐๐ ดวง มาหาพระมหาจักรพรรดิผู้เป็นนายทันที[/FONT]
     
  16. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    [FONT=&quot]อำนาจ วิเศษของแก้วมหามณีโชติรสคือมีรัศมีที่สว่างหากเย็นและนิ่มนวลดุจแสงจันทร์ วันเพ็ญ จึงสามารถให้แสงสว่างแก่ผู้ที่หลงอยู่ในความมืดได้ และแสงของแก้วมหามณีโชติรสยังสามารถขจัดความมืดทั้ง ๔ ประการได้อีกด้วย[/FONT]
     
  17. Thidanakin

    Thidanakin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +2,067
    อ้าววววว งั้นพี่ก็ดูผิดด้วยเหมือนกัน

    ขอโทษคร๊าาาา ที่ไม่ดูให้ดีซะก่อน ข้าเจ้าขออำภัย
     
  18. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ตำนานพระแก้วมณีโชติ(ฉบับย่อ)......สมเด็จโตฯ นิมิต

    พระ พุทธศาสนาผ่านไป 2,500 ปี จะเกิดกลียุค มนุษย์รบราฆ่าฟันกันเอง โลกมนุษบ์จะพบภัยพิบัติจากโรคระบาดที่ร้ายแรงมาคร่าชีวิตผู้คนและสัตว์ให้ล้มตายเป็นจำนวนมาก แต่คนที่แขวน "พระแก้วมณีโชติ" ติดตัว จะปลอดภัยจากอันตรายทั้งหลายทั้งปวง!!!......

    สมเด็จโตฯได้นิมิตบอกหลวงปู่ทิพย์ พระอรหันต์แห่งถ้ำเชียงดาว จ.เชียงใหม่ ปัจจุบันท่านได้ละสังขารไปแล้ว อนุญาตให้เปิดเผยเรื่องราว "พระแก้วมณีโชติ" พระแก้วกายสิทธิ์ที่เทวดาสร้างถวายบูชาพระพุทธเจ้า ท่านเล่าว่า......
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เมื่อครั้งสมัยพุทธกาล องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์ชีพอยู่ พระพุทธองค์ทรงจาริกเที่ยวประกาศเทศนาธรรม สั่งสอนเวไนยสัตว์ พระพุทธองค์ทรงเสด็จจาริกมายังถิ่นต่างๆ ทรงพยากรณ์ที่ต่างๆ มากมาย และประทาน "พระเกษาธาตุและพระพุทธบาท" อันทรงสมควร และทรงเล็งด้วยพระพุทธญาณ ว่าต่อไปจะเป็นที่อุดมในธรรม

    เมื่อเสด็จจาก "ดอยจอมทองและดอยน้อย" (ปัจจุบันอยู่ในเขตอำเภอจอมทอง เชียงใหม่) ก็เสด็จต่อมายัง "ดอยกรอม" (ปัจจุบันอยู่ในเขตอำเภอฮอด เีชียงใหม่) ทรงพยากรณ์ว่า "ต่อไปเมื่อตถาคตปรินิพพานได้ 100 ปี ณ ที่แห่งนี้ จะเกิดนครใหม่ ที่มีความรุ่งเรืองทางพระพุทธศาสนาอย่างมาก มีนามว่า "ทิพย์มหานคร"
     
  20. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เมืองนี้ปรากฏพระเถระองค์หนึ่งนามว่า "พระธรรมราช" เป็นพระอรหันต์ที่มีฤทธิ์ศักดามาก เป็นที่เคารพนับถือของเหล่ามนุษย์และพญานาค ตลอดจนเทวดาทั้งหลาย

    พระธรรมราชคิดว่า พระพุทธศาสนาจะรุ่งเรืองได้ต้องให้คนทั้งหลายระลึกถึงพระพุทธคุณ จึงคิดจะสร้างพระพุทธรูปองค์เล็กจำลอง เป็นรูปของพระพุทธเจ้า เพื่อให้เป็นที่พึ่งของเหล่ามนุษย์ แต่จะสร้างด้วยทองคำหรือเงิน ก็จะทำให้มนุษย์เกิดความโลภ ทำอันตรายต่อรูปจำลองของพระพุทธเจ้า

    ความคิดนี้ รู้ไปถึงมหาพรหม ผู้มีนามว่า "ชินะปัญจะระ" ท่านจึงแปลงร่างเป็น "ชีปะขาว" นำเอา "แก้ว มณีโชติ" ที่ถือเป็นแก้วกายสิทธิอยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิต มาถวายให้พระธรรมราช พระธรรมราชจึงให้ช่างแกะสลักในเมือง ช่วยกันแกะเป็นรูปจำลองของพระพุทธเจ้า ปรากฏว่าช่างแกะสลักไม่สามารถที่จะแกะสลักแก้วมณีโชติได้!!!.......
     

แชร์หน้านี้

Loading...