* ผู้ร่วมบุญกองนี้ให้ติดต่อขอรับเงินคืน *ชุดรวบรวมพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุหายาก

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย พระชยภัทร อนามโ, 11 กันยายน 2008.

  1. ตะติยะทาส

    ตะติยะทาส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    372
    ค่าพลัง:
    +846
    เป็น กำลัง ใจ ครับ

    มาร ไม่ มี บาร มี ไม่ เกิด ครับ
     
  2. ต้อมบ้านสวน

    ต้อมบ้านสวน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +264
    ผมว่าคนที่หลอกเอาพระธาตุปลอมมาหลอกให้พระชยภัทรเพื่อมาให้คนอื่นบูชานั้นแหละเป็นต้นเหตุซึ่งผมว่าเขาอ่านกระทู้แล้วน่าจะละอายต่อบาปบ้างออกมาแก้ให้พระชยภัทรเพื่อถ่ายบาปก็น่าจะพออำนวยนะครับ
     
  3. Bar

    Bar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +164
    ขอเป็นกำลังใจให้พระคุณเจ้า ขออาราธนาท่านทำประโยชน์เพื่อศาสนาต่อไปครับ อย่าเพิ่งท้อ ที่ผ่านมาถือเป็นประสบการณ์ในการบำเพ็ญ
     
  4. mc

    mc เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +5,633
    ไม่ทราบว่ามีผู้มาติดต่อขอรับเงินคืนแล้วหรือยังครับ
    และท่านมีปัจจัยพอที่จะคืนเขาหรือเปล่าครับ
    เนื่องจากท่านเป็นพระหากปัจจัยไม่พอที่จะคืนเขา(เอาไปทำบุญหมดแล้ว) คงหาหยิบยืมที่ไหนลำบาก หากมีญาติธรรมชาวเวปช่วยเป็นกำลังใจอยู่มาก คงยินดีที่จะสละเงินเพื่อช่วยให้ท่านหมดหนี้สินนี้ได้ครับ ถือว่าเป็นการทำบุญสองชั้นได้ทำบุญร่วมกับท่านและได้ช่วยให้ท่านคลายทุกข์ แต่อยากให้ท่านออกมาแจงรายละเอียดเรื่องเงินทำบุญและเงินที่เขาเรียกคืนครับ เมื่อได้ครบตามจำนวนแล้ว อยากให้ท่านยุติการบอกบุญด้วยวิธีนี้ และหากยังปรารถนาที่จะบำเพ็ญด้านนี้อีกควรหาลูกศิษย์ที่ใว้ใจได้ ให้เป็นหน้าที่ของฆราวาสดูเหมาะกว่า ส่วนพระธาตุนั้นต้องบอกที่มา ว่าได้มาอย่างไร เสด็จมาเอง มีคนถวายมา มีชื่อ
    นามสกุลด้วยยิ่งดี ถือว่าให้เกียรติ์แก่เจ้าของพระธาตุด้วย หรือได้มาจากสัมผัสเป็นพระธาตุเทพนิมิตร ไม่ใช่มาจากกระดูกแต่เป็นของที่เทพหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านเนรมิตขึ้นมาหรือมีพลังของเทพให้สัมผัสได้ เพียงเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้คนปฏิบัติดี ให้มั่นใจในความดีในสิ่งที่ตนกระทำอยู่เท่านั้นแหละครับ
     
  5. mc

    mc เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +5,633
    ผมเซฟเรื่องของพระธาตุเทพนิมิตรของคุณศรัณธร(ครรชิต) ยกเชื้อ ไว้ครับ เพราะพระธาตุส่วนใหญ่ผมได้มาจากคุณศรัณธรเช่นกัน ขออนุญาตินำเรื่องราวมาเผยแพร่นะครับ
    <TABLE class=tborder id=post854577 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] 09-12-2007, 08:13 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>เฮียปอ ตำมะลัง<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_854577", true); </SCRIPT>
    ผู้ร่วมสนับสนุนบริจาค

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Mar 2007
    สถานที่: ตำมะลัง ไม่ใช่ ประตูน้ำ
    ข้อความ: 8,297
    ได้ให้อนุโมทนา: 18,100
    ได้รับอนุโมทนา 57,399 ครั้ง ใน 8,124 โพส
    <IF condition="">
    </IF>พลังการให้คะแนน: 3360 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_854577 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->พระธาตุเทพนิมิต
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message --><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=795 align=center bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD><TABLE style="BACKGROUND-REPEAT: no-repeat" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" background=/images/back/bg_logo.gif border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width="76%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width="98%" height=286><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width="100%" height=30><TABLE style="BORDER-BOTTOM: black 1px solid" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="99%"><TBODY><TR><TD class=txtintro vAlign=bottom noWrap width="18%">บทความ</TD><TD vAlign=bottom width="82%">
    [​IMG]ฉบับที่ 658 ปีที่ 28 ปักษ์แรก เดือนมีนาคม พ.ศ. 2546​
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top height=459><TABLE style="BACKGROUND-POSITION: right 50%; BACKGROUND-IMAGE: url(/images/back/bg_02.gif); BACKGROUND-REPEAT: repeat-y" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width="89%" height=455><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>ประสบการณ์ลี้ลับ: พระธาตุเทพนิมิต</TD></TR><TR><TD>
    โดย สายทิพย์
    </TD></TR></TBODY></TABLE>“มนุษย์” เมื่อเกิดมาต้องอาศัยทั้งบุญและกรรมทั้งดีและไม่ดีซึ่งจะคอยส่งผลในชาติปัจจุบัน ความดีที่เราได้กระทำมาในแต่ละภพชาติจะมากหรือน้อยก็ตาม เมื่อถึงคราวคับขันที่เราต้องพบกับเคราะห์กรรมหนักหนา กุศลจากกรรมดีเท่านั้นที่จะช่วยผ่อนหนักให้คลายลงได้

    ดังครอบครัวของ ครรชิต ยกเชื้อ ข้าราชการหนุ่มกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นครอบครัวของผู้มีจิตใจงดงาม หมั่นสร้างทานบารมีสะสมบุญกุศลอย่างสม่ำเสมอนับจากสร้างพระพุทธรูปมากมายหลายสิบองค์ และปล่อยชีวิตสัตว์น้อยใหญ่ พระพุทธรูปที่ครรชิตสร้างในแต่ละองค์มีความหมายต่างกันทั้งหมดโดยเป็นการเห็นจากนิมิตแล้วนำมาสร้าง ทุนที่ใช้สร้างก็มาจากกระแสธารของผู้ใจบุญที่ตั้งใจจะมาสร้างบุญกุศลร่วมกันทั้งสิ้น

    “ผมสร้างพระองค์แรกคือ เจ้าแม่กวนอิม เพราะมีเหตุที่ผมสนใจในเรื่องพระธาตุของเจ้าแม่กวนอิม และโดยปกติผมก็สวดคาถาของเจ้าแม่อยู่บ่อยๆ แล้วก็เคยเจอปาฏิหาริย์จากท่าน อย่างเคยนิมิตเห็นท่านหลายครั้ง มีอยู่ครั้งหนึ่งคิดว่าคงจะกึ่งๆ คือเคลิ้มๆ อยู่ ก็นิมิตไปว่า เห็นยอดภูเขาเต็มไปหมดเลยและเห็นเจ้าแม่กวนอิมยืนอยู่สวยมาก ท่านเดินมาเหยียบพื้นหินจนเป็นรอยฝ่าเท้าขึ้นมาแล้วท่านก็หายไป พอหายไปปั๊บรอยฝ่าเท้าบนหินก็กลายเป็นดวงแก้วลอยขึ้นมา ผมก็รับมาโอบไว้แล้วก็ตื่น แล้วยังมีเหตุการณ์อื่นอีกอย่าง เวลาจะขอสิ่งไหนก็มักจะได้ เมื่อขอได้บ่อยๆ ก็มาชดใช้ท่านโดยการกินเจเดือนเดียว ซึ่งแปลกไม่เคยกินแต่ก็ทำได้”

    และก็เป็นความเชื่อกันมาช้านานว่าผู้ที่หมั่นสร้างกุศลผลบุญ เมื่อเก็บสะสมบุญไว้มากๆ เข้า ผู้นั้นจะสามารถใช้บุญของเขาอธิษฐานขออะไรก็ได้ สำหรับครรชิตแล้วดูเหมือนจะเป็นจริงตามนั้น เพราะสิ่งที่เขาปรารถนามานานคือ “พระธาตุ” และเขาก็ได้พระธาตุจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย โดยเชื่อว่าเทพประทานมาให้ ซึ่งเรื่องนี้ครรชิตได้เล่าให้ฟังว่า

    “พระธาตุที่เสด็จมาครั้งแรกคือพระธาตุของเจ้าแม่กวนอิม ท่านเสด็จมาในลักษณะเหมือนเม็ดกรวดเม็ดทรายอยู่บนโต๊ะบูชาแถวบริเวณรูปหล่อท่าน พอได้มาปั๊บไม่กี่วันก็มีพี่คนหนึ่งเขามีญาณเจ้าแม่ฯอยู่ เขาได้มาเอาพระธาตุของเจ้าแม่ฯ ไปบรรจุในรูปเหมือนเจ้าแม่ฯที่เขาสร้างวันที่เขามาในวันนั้นพอดี ผมจุดเทียนไว้ 2 เล่ม ซึ่งพอผมเดินเข้าไปปรากฏว่าเทียนเล่มหนึ่ง หยดลงมาเหมือนกับเป็นรูปเจ้าแม่ฯปานนั่ง อีกเล่มหนึ่งเหมือนกับเจ้าแม่ฯ ปางยืนอุ้มเด็กที่ผมบูชาไว้ ตอนนี้ก็ยังเก็บไว้ ก็แปลกนะฮะ เรื่องเทียนนั่นบางคนหาว่าผมไปหยดเอง ผมบอกผมไม่ได้หยด ผมไม่ได้มีความพยายามขนาดนั้น”

    ครรชิตได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่ “พระธาตุ” เสด็จมาหาในหลายๆ เหตุการณ์ให้ฟังอีกว่า
    “พระธาตุองค์อื่นๆ ส่วนใหญ่ก็เสด็จมาเองโดยการอธิษฐานและมีคาถาอัญเชิญคือพระธาตุที่ได้มานี่จะมีอยู่หนึ่งเสด็จมาเอง สองมีคนเอามาให้ สามไปเอามาจากในถ้ำ กรณีเอามาจากในถ้ำก็มีอยู่หลายแห่ง เช่น พระธาตุคนธรรพ์ ได้มาจากถ้ำนางแก้ว จังหวัดยะลา บางคนไปเอามาใช้บดเป็นยาซึ่งแปลกเขาจะอยู่ในเสาข้างในถ้ำ เวลาน้ำท่วมเขาจะหนีขึ้นมาเองเลย แล้ววันที่ไปเอาเนี่ยปรากฏว่าผมเคยเห็นคนตัวดำๆ นุ่งผ้าสีแดง เดินนำหน้า ผมก็สะกิดถามพี่เขา ‘เห็นมั้ย’เห็นคนตัวดำๆ นุ่งผ้าเตี่ยวมั้ย’

    ‘ถ้ำนางแก้วนี่อยู่ติดกับสวนยางพาราแต่ก่อนปากถ้ำมีต้นกล้วยตานีขึ้นปิดเต็มหมด แล้วมีพระรูปหนึ่งนิมิตเห็นถ้ำนี้ท่านเลยเดินทางมาและเจอ พอเข้าไปในถ้ำท่านก็พบดินกลมๆ จากธรรมชาติซึ่งสามารถนำมาบดยาได้ แล้วภายในถ้ำก็ยังมีคล้ายๆ เรซิน (เป็นเม็ดกลมเล็กสีเหลือง) ซึ่งผมอยากได้ก็เลยอธิษฐานขอ พอกลับถึงกรุงเทพฯ ไม่นานก็เสด็จมาที่บ้านมาอยู่ในชามที่วางไว้ ผมก็สงสัย’เอ๊ะ’ใครเอาอะไรมาใส่ไว้คิดว่าเป็นเรซินรึเปล่า ผมก็เลยเอาไปถวายพระอาจารย์ภูษิตลูกศิษย์หลวงตามหาบัว ซึ่งสร้างวัดอยู่ที่กาญจนบุรี ท่านก็บอกว่า ‘เอ๊ะ’นี่บุพโพธาตุ (พระธาตุน้ำเหลือง) นี่’ จากนั้นผมก็เอาไปถวายให้หลวงปู่พวง สุวีโร วัดป่าภูโร จังหวัดอุดรธานี ที่นั่นมีคนเข้าทรงมาขอลองของปรากฏว่า มีอาการชักกันทั้งทีมต้องทำพิธีขอขมา ไม่งั้นเขาบอกว่าจะเอาถึงตาย”

    นอจากพระธาตุที่เล่ามาแล้วยังมีพระธาตุจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกประเภทหนึ่งที่ครรชิตบอกว่าเสด็จมาแต่ละครั้งต้องมาพร้อมกับเหตุการณ์ชวนระทึกทุกครั้งไปคือ “พระธาตุพระยามัจจุราช”

    “พระธาตุพระยามัจจุราชองค์นี้มาเองโดยการอธิษฐาน ซึ่งจะพิสดารมากคือเวลาที่จะได้ของท่านมาเนี่ยต้องเจอเหตุการณ์รุนแรง ต้องเกี่ยวข้องกับความตาย วันที่เสด็จมาวันนั้น ผมไปนั่งอยู่ที่ป้ายรถเมล์ท่าน้ำพระราม ๗ มันรู้สึกยังไงบอกไม่ถูก ซักพักก็เห็นเด็กตีกัน ฟันกันเลือดออกกระฉูดวิ่งผ่านหน้าไป กำลังนั่งมองอยู่ก็มีวัตถุกระเด็นมาตกข้างตัว (ซึ่งก็คือพระธาตุ) พอเราจะไม่หยิบก็เหมือนมันร้อน เดินไปแล้วต้องกลับมาหยิบ พอได้มาก็นั่งเรือแล้วก็เห็นศพคนตายลอยมาติดท่าน้ำอีก เจอเหตุการณ์อย่างนี้อยู่บ่อยจนต้องบอกว่ารู้แล้วๆ จริงๆ แล้วสิ่งเหล่านี้คือ “พระธาตุเทพนิมิต” ซึ่งถ้ามีบุญท่านก็จะนิมิตมาให้เพียงแต่ความใส สะอาด ความสวยงามมันขึ้นอยู่กับคุณธรรมของแต่ละองค์ที่จะได้ การอัญเชิญพระธาตุก็ต้องตั้งใจดี มีศรัทธา พระธาตุที่ผมบูชาวันดีคืนดีก็จะมีกลิ่นหอมฟุ้งออกมา ถ้าบูชาดีพระธาตุก็จะแตกออกมาเองเป็นการแสดงปาฏิหาริย์ให้เห็นเพื่อเป็นกำลังใจ”

    พระธาตุเทพนิมิตที่ครรชิตมีนั้นเชื่อว่ามาจากเทพยดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลายองค์ ซึ่งถือกันว่าพระธาตุทุกองค์จะมีเทพเทวดามาพิทักษ์รักษาเพราะเป็นยอดวัตถุมงคลสูงสุด และเชื่อว่าผู้ที่จะบูชาพระธาตุหรือพระธาตุจะเสด็จมาหาจะต้องประกอบด้วยผลบุญบารมีคือในอดีตชาติเคยร่วมในการสังคายนาพระไตรปิฎกกับพระหันต์บางรูป เมื่อพระอรหันต์องค์นั้นดับขันธ์นิพพานไปแล้ว ก็จะเกิดแรงอธิษฐานให้พระธาตุเสด็จมาโปรดเป็นการตอบแทนคุณความดีแก่ผู้ที่เคยสร้างความดีในอดีตชาติร่วมพัฒนา

    ทุกวันนี้ควรชิตดำเนินชีวิตโดยยึดหลักทางสายกลางแห่งองค์สมเด็จพระสัมนาสัมพุทธเจ้า ไม่ละเลยในเรื่องการทำบุญ เพราะเขาเชื่ออย่างหนึ่งว่าคนเราเกิดมาต้องอาศัยบุญและกรรมเป็นตัวหนุน โดยครรชิตได้ทิ้งท้ายด้วยคำพูดที่เป็นแง่คิดที่ดีว่า’

    “ผมชอบคำของหลวงปู่โต ท่านว่า เราไปขออะไรจากเทพ พรหม เทวดา บางรั้งท่านก็ให้ไม่ได้ แต่ถ้าเราไม่ขอ เราสร้างบุญกุศลของเราไปเรื่อยๆ เราทำๆๆ จนถึงที่สุด เมื่อถึงจุดๆ หนึ่ง ฟ้า ดิน ก็ต้านไม่อยู่ยังไงก็ส่งผลมาให้เรา เราควรสร้างบุญกุศลทำบุญไปเรื่อยๆ หากมีโอกาส เพราะเมื่อมาถึงจุดนี้ผมเชื่อมั่นและยืนยันได้เลยว่า วิบากกรรมเป็นตัวกำหนดชีวิตเราให้เป็นไป”


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top height=17>ที่มา นิตยสารหญิงไทย</TD></TR><TR><TD vAlign=top bgColor=#ff99ff height=32></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <!-- / message --><!-- sig -->__________________
    "หลังดื่มเหล้าแล้วเจ้ายังคงรักษาสติสัมปชัญญะ รักษากิริยาสง่างามอยู่ได้ไหมจุดนี้เจ้าจึงเทียบกับพระอริยเจ้าไม่ได้บางครั้งพระอริยเจ้าอุบัติมาในโลกเพื่อล้อเล่นชีวิต"
    "ไม่โกรธดีกว่าถือศีล"
    [​IMG]

    <!-- / sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. mc

    mc เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +5,633
    ส่วนพระธาตุที่ท่านจะให้ไปไว้ที่วัดกุสาวดี อินเดีย ผมยังยินดีรับอยู่ครับ ส่งไปที่อยู่ของคุณอนุชาได้เลยครับ ผมจะให้ท่านที่สัมผัสได้ดูอีกที ส่วนที่ไม่แน่ใจจะบรรจุไว้ที่วัด ส่วนที่แน่ใจจะจัดแสดงไว้เป็นพิพิธภัณฑ์เหมือนที่จัดไว้ที่วัดธัมธโร แคนเบอร่า ออสเตรเลียครับ
    ส่วนหนี้สินของท่านที่นำไปทำบุญขอให้บอกมาเถอะครับ ผมจะส่งปัจจัยไปถวายช่วยร่วมๆกันครับ
     
  7. akep

    akep เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2005
    โพสต์:
    257
    ค่าพลัง:
    +464
    ผมก็จะช่วยด้วยครับ
     
  8. เจษฎา เยี่ยมคำน

    เจษฎา เยี่ยมคำน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,332
    ค่าพลัง:
    +5,413
    ผมโอนเงินให้แล้วนะครับ 1000 บาท เมื่อวันที่13กัยายน 2551เวลา 16.14น.แล้วแต่หลวงพี่จะใช้ในงานพุทธศาสนาครับ ขอหลวงพี่มีจิตใจเข้มแข็ง สร้างความเพียรต่อไปนะครับ
     
  9. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    โยมก็จะขอช่วยด้วยเจ้าค่ะ เพราะโยมมีความเืชื่อมั่นในความดีของพระคุณเจ้า และเชื่อว่าสิ่งที่พระคุณเจ้าทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ โยมเป็นคนนึงที่ได้รับพระบรมสารีริกธาตุจากพระคุณเจ้าจำนวน 3 องค์ ที่สีออกเป็นสีน้ำตาลแดง ตอนนี้วางอยู่บนหิ้งพระที่บ้าน โยมยังติดต่อสอบถามไปยังพระคุณเจ้าเลยว่า แล้วพระบรมสารีริกธาตุที่จะให้ช่วยแจกยังไม่ได้จัดส่งมาให้ใช่ไหมเจ้าค่ะ โยมขอเป็นกำลังใจให้พระคุณเจ้าๆค่ะ คืนเงินโยมเขาไปเสีย เพื่อให้เขาหยุดการดำเนินคดีเจ้าค่ะ แล้วนิมนต์พระคุณเจ้าอย่าได้สึกออกไปเพราะเรื่องนี้เลยนะเจ้าค่ะ กาลหน้าก็คงต้องระมัดระวังขึ้นเจ้าค่ะ

    ถือเสียว่าครั้งนี้มันเกิดความผิดพลาดโดยที่พระคุณเจ้าไม่ได้ตั้งใจ ยังมีคนอีกหลายๆคนที่พร้อมจะเป็นกำลังใจให้พระคุณเจ้านะเจ้าค่ะ จะทำการใดค่อยๆคิดเจ้าค่ะ กุศลผลบุญจะนำพาปัญญาให้เกิดเอง

    ขอบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์จงได้โปรดทรงเมตตาให้พระคุณเจ้า พบกับทางออกที่บริสุทธิ์งดงามด้วยเทอญ

    โยมนำพระธรรมคำกลอนมาฝากเป็นกำลังใจให้พระคุณเจ้าสู้ต่อไปเจ้าค่ะ อย่าได้ท้อแท้เลยเจ้าค่ะ


    คนยังมีกิเลสขังดังน้ำฝาด ทั้งไปมราศจากทมะสัจจะสิ้น
    จักครองผ้ากาสาว์ปิดกายิน เป็นมลทินแก่ผ้าหาสมควร
    ส่วนคนใดคลายกิเลสมีเจตมั่น ในศีลอันผ่องผุ้ดสุดสงวน
    ความฝึกหัดสัจซึ้งถึงทั้งมวล เขาย่อมควรครองผ้ากาสาว์ครันฯ

    (พระมหาทองสุก สุวณณสุกโก)

    พระมุนีเที่ยวไปที่ในบ้าน ไม่ระรานศรัทธาโภคาเขา
    เหมือนภมรลิ้มรสกำหนดเอา ไม่ให้เฉาดอกกลิ่นสีบินไปฯ

    (พระเทพกิตติมุนี)

    อย่าดุหมิ่นบุญกรรมจำนวนน้อย จักไม่ต้อยตามต้องสนองผล
    แม้ตุ่มน้ำเปิดหงายรับสายชล ย่อมเต็มล้นด้วยอุทกที่ตกลง
    อันนักปราชญ์สั่งสมบ่มบุญบ่อย ทีละน้อยทำไปไม่ไหลหลง
    ย่อมเต็มด้วยบุญนั้นเป็นมั่นคง บุญย่อมส่งสบสถานวิมานทองฯ
    (พระหรมจริยาจารย์)
     
  10. ROJKAJORN

    ROJKAJORN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +5,350
    ไม่ได้เข้ามา 2 วันเพิ่งทราบข่าว ถ้าหลวงพี่ไม่สบายใจเรื่องพระธาตุจะตรวจสอบพระธาตุก่อนก็ได้ครับ ถึงไม่ได้พระธาตุก็ตั้งใจจะช่วยเท่าที่จะทำได้อยู่แล้วครับ จริงๆแล้วคนที่ร่วมทำบุญกับหลวงพี่ท่านนั้นจะไม่โมโหเลยถ้าเขาตั้งใจจะทำบุญจริงๆ ไม่ได้ทำเพื่อหวังได้ของ เพราะเมื่อหวังอยากได้แล้วไม่ได้ดังหวังมันก็เลยเกิดโทสะขึ้น จริงคือเท็จ เท็จคือจริง ทุกอย่างก็คือสิ่งสมมุติทั้งสิ้น ขอให้หลวงพี่ยึดชีวประวัติครูบาเจ้าศรีวิชัยให้ดีครับ ท่านเผชิญอุปสรรคต่างๆมามากกว่าจะมีคนเข้าใจ พุทธภูมิก็ต้องฝ่าด่านอย่างนี้ ต้องเหนื่อยกับอุปสรรคต่างๆที่มาทดสอบจิตใจเรา ขอให้หลวงพี่ผ่านอปสรรคครั้งนี้ไปได้นะครับ
     
  11. พระธรรมกาโม

    พระธรรมกาโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    319
    ค่าพลัง:
    +192
    ขอให้กำลังใจ ท่านชยภัทร ด้วยคน สิ่งต่างๆล้วนเป็นโลกธรรมทั้งนั้นถ้าเอาจิตเข้าไปยุ่งกับกายมันก็จะเกิดทุกข์ ผู้กำลังบำเพ็ญบารมีก็ต้องมีอุปสรรค์เป็นของธรรมดา ขอให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี อย่าท้อถ้อยนะคับ และขอให้ท่านระวังสักนิดว่าขนาดในวงการพระสงฆ์ก้อต้องมี แบ่งพรรคแบ่งพวก อิจฉาบ้าง เป้นของธรรมดา ถ้าทำอะไรเกินหน้าเกินตาก็จะถูกเพ่งเล็ง ผมกับท่านก็คงมาในจุดหมายเดียวกันทำเพื่อพระศาสนา และพระนิพพาน
    ตามที่ครูบาอาจารย์ได้แนะนำ ขอให้อดทนและผ่านไปได้ด้วยดีนะครับ
    ขอนมัสการอีกครั้ง
    ถ้าเหนื่อยกายก็ให้พักให้สบาย แต่กำลังใจมันถอยไม่ได้ทำให้ถึงจุดหมายได้ในสักวัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2008
  12. natspdo

    natspdo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,041
    ค่าพลัง:
    +1,505
    ผู้รู้ข่าวไม่สบายใจเลย... คิดว่าน่าจะตั้งกระทู้เตือนสติ กับท่านผู้ซึ่งขาดสติกำลังทำบาปที่มึความคิดจะสึกพระ...
    ที่ห้องกฎแห่งกรรม
    หัวข้อ "การทำบาปกล่าวโทษเกินเหตุอันควรกับพระสงฆ์ผู้สร้างประโยชน์กับสังคม"
     
  13. หนึ่ง1

    หนึ่ง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,638
    จริงๆครับ บางคนก็กล่าวแรงเกินไป ทั้งที่ท่านเน้นในด้านร่วมสร้างบุญกับวัดต่างๆเป็นพุทธบูชา
     
  14. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ไม่แน่ใจว่า มาจากคนที่จังหวัดหนึ่งแถวอีสานตอนบนหรือไม่ แต่อย่าไปหาคำตอบเลยครับ จะทำให้ลำบากใจกันเปล่าๆ ให้ "กฎแห่งกรรม" ตัดสินดีกว่าครับ

    โมทนาครับ อภัยทานให้กันและกันนะครับ
     
  15. nunnapath

    nunnapath เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    280
    ค่าพลัง:
    +256
    ขอเป็นกำลังให้พระชยภัทร
    หากทุกคนคิดดี ทำสิ่งที่ดี ก็ต้องได้สิ่งที่ดีตามมา
    ถ้าหากคิดจะทำบุญแล้ว ถึงจะได้หรือไม่ได้สิ่งของกลับมา
    แต่ก็ยังได้คุณค่าทางใจมาไม่ใช่หรือ อย่างน้อยก็มีปิติกับการได้ทำบุญแล้ว
    สิ่งที่ได้รับจากพระชยภัทร ถึงแม้จะมีค่าหรือไม่มีค่าแต่อย่างน้อยบุญที่ทำไปแล้ว
    ก็มีค่าทางด้านจิตใจเราก็พอ
     
  16. Antarctic

    Antarctic เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2008
    โพสต์:
    386
    ค่าพลัง:
    +1,367
    หลวงพี่คะ ช่วงนี้ก็ถือว่าเป็นการฝึกขันติบารมี และเมตตาบารมี ไปก่อนแล้วกันนะคะ

    ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม
     
  17. jarawoot

    jarawoot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,762
    ค่าพลัง:
    +6,940
    ไม่ทราบว่ารับรองอย่างไรว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุ (เป็นบทความของผู้โพสต์เองครับ)<O:p</O:p







    <HR align=center width="100%" color=white noShade SIZE=1>

    อยากทราบที่มาพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุละเอียดชัดเจนกว่านี้ครับ
    ...........................................................<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    *** การรับรองพระบรมสารีริกธาตุหรือพระธาตุไม่สามารถรับรองได้ทำไมผมกล่าวเช่นนี้ตลอด 10 ปีมาผมได้เจอคำถามแบบนี้ตลอดมาและมีข้อกังขามากจนไม่รู้จักจบสิ้นครับผมจึงเขียนข้อความสั้นๆเรื่อง"การกำเนิดพระธาตุ"ไว้แจกทั่วไปแต่ก้อโดนครูบาอาจารย์เตือนไว้ควรให้เฉพาะผู้ที่มีความศรัทธาและต้องการศึกษาเพราะมิเช่นนั้นเป็นจะการปรามาสไปเสียเพราะมันเป็นเรื่องอจินไตยขนาดบุคคลผู้ทรงชาน 3- 4 คน อาจมีความเห็นไม่ต้องกัน <O:p</O:p
    *** ฉะนั้นจึงไม่ผิดที่จะต้องอาศัยการเล่าขานการรับรองจากผู้รู้ครูบาอาจารย์จากประสบการณ์และจากตำราเป็นพื้นฐานในการศึกษาดังเช่นการจะที่จะเขียนหนังสืออ่านออกได้ก้อจะต้องศึกษาจาก กก่อนแต่หลังจากนั้นจะสามารถอ่านได้คล่องแคล่วผสมสระได้ดีหรือไม่ต้องอาศัยการศึกษาปฏิบัติให้เพิ่มขึ้นและถูกต้องนะครับ <O:p</O:p
    *** ลองอ่านบทความดูนะครับหลังจากนั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณของแต่ละท่านนะครับ<O:p</O:p
    ..........................................................................
    “ การกำเนิดพระธาตุ”<O:p</O:p
    “ทานบารมี”<O:p</O:p<O:p</O:p
    พระธาตุเป็นธาตุกายสิทธิ์ที่มีความพิเศษไม่ว่าในเรื่องรูปพรรณสัณฐาน,สีสัน,พลัง จนก่อเกิดปาฏิหาริย์แสดงให้เห็นเป็นที่น่าอัศจรรย์ใจแก่ผู้ที่มีบุญบารมีเนืองๆ จนมีการศึกษาค้นคว้าทั้งที่ปรากฏอยู่ในตำราและคำบอกเล่ามาเทียบเคียงกันมา จนคิดว่าเป็นบรรทัดฐานกันอยู่ในทุกวันนี้ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ดีสำหรับการที่จะเริ่มต้นศึกษา แต่จะเป็นผลร้ายต่อไปในภายภาคหน้าถ้าไม่ได้ศึกษาว่าเหตุใดที่ทำให้เกิดเป็นพระธาตุ พระธาตุเกิดมาจากอะไร ใครเป็นผู้ที่รู้จริง ที่รู้จริงจริงแค่ไหนก็เหมือนการปฏิบัติธรรมทุกคน”ทำดี ทำถูกทาง แต่จะถึงแก่นแท้หรือไม่”ทำไมไม่มองย้อนดูการปฏิบัติของตนเองเสียก่อน เพราะการเกิดศรัทธาย่อมเกิดทุกสิ่งๆ แต่ความศรัทธาก็ทำลายทุกๆสิ่งๆได้เช่นกัน สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ความมหัศจรรย์ปาฎิหาริย์เกิดขึ้นได้เสมอ แต่ไม่ควร”งมงาย”มารวมกับคำว่า”ศรัทธา”ความงมงายสามารถที่ชะล้างพิสูจน์ให้กระจ่างได้ ด้วยปัญญาและการศึกษาปฏิบัติทั้งภายนอกและภายในของจิตใจเราเอง ซึ่งจะนำพาไปสู่ความศรัทธาที่ถูกต้อง ถูกทาง ถึงแก่นแท้<O:p</O:p

    พระธาตุก่อกำเนิด 3 หัวข้อใหญ่ในขณะนี้<O:p</O:p
    1.เกิดจากธรรมชาติ<O:p</O:p
    2.เกิดจากธาตุสี่ขันธ์ห้าของมนุษย์<O:p</O:p
    3.เกิดจากการสรรสร้างบันดาล<O:p</O:p

    1.เกิดจากธรรมชาติ คือเกิดจากธาตุใดธาตุ(ดิน,น้ำ,ลม,ไฟ)หนึ่งเป็นต้น รวมตัวประชุมธาตุเกิดเป็นรูปพรรณสัณฐานและสีสัน ต่างๆดังที่ปรากฏตามตำราเป็นหลัก รูปพรรณสัณฐานที่นอกเหนือตำราเราไม่มีสิทธิที่จะรู้ได้เลยหรือเปล่า? ว่าใช่หรือไม่ใช่ ถ้าพูดถึงพลังงานที่สถิตย์อยู่ในแต่ละธาตุธาตุทุกอย่างย่อมมีสะสารพลังงานมากน้อยไม่เท่ากันตามหลักการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ เพราะจะปฎิเสธเรื่องอย่างนี้ก็มิได้เพราะอารยธรรมตะวันตกที่มีความเจริญก้าวหน้าได้มีการศึกษาพลังงานที่เกิดจากสะสารในรูปพรรณสัณฐานต่าง เช่น หินในตระกูลต่างๆ เป็นต้นที่มีบทความปรากฏวางจำหน่ายในท้องตลาดซึ่งมีการตื่นตัวแสวงหากันมาก บางอย่างวิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถที่จะหาคำตอบได้เลย <O:p</O:p

    ความรู้ตัวของผมเองที่ศึกษาเรื่องพระธาตุมาไม่น้อยถึง 10 ปีนั้น ช่วงแรกแทบจะเป็นโรคประสาทกันไปในระหว่างโลกแห่งวิทยาศาสตร์กับโลกแห่งจิตวิญญาณ จนกระทั่งศึกษาปฏิบัติขัดเกลาจิตใจเป็นพื้นฐานให้เริ่มมีความเข้าใจธรรมชาติ(ธรรมะ)ทำให้สามารถที่จะเริ่มแยกแยะบางสิ่งบางอย่างออกมา โดยมีเหตุและผลพอสมควรถึงจะไม่ใช่เสียทั้งหมด จนมีเหตุที่ได้ไปอัญเชิญพระธาตุจากตามสถานที่ต่างๆ<O:p</O:p

    1.1 พระธาตุที่เกิดและประดิษฐ์สถานอยู่ในธารน้ำไหลที่ไหลผ่าน ซึ่งผมคิดว่าเป็นหนอนที่อยู่ในแอ่งเล็กๆอยู่ทั่วลำธารที่ไหลผ่านซึ่งอยู่ใต้ระดับน้ำไม่ลึกมากนัก เมื่อลองลงไปหยิบขึ้นมาดูปรากฏว่าเป็นหินปูนที่มาเกาะรวมตัวกันเป็นรูปพรรณสัณฐานต่างๆตรงในตำราพระธาตุเพียงแต่จะมีกลิ่นคาวมากเป็นพิเศษ เป็น แท่งคล้ายข้อกระดูก,เม็ดกลม เป็นต้นในส่วนเม็ดเล็กเป็นมีสีน้ำตาลอ่อนมีลักษณะคล้ายกับพระธาตุที่อัญเชิญมาจากเขาสามร้อยยอดในบางส่วนเป็นครั้งแรก<O:p</O:p

    1.2 ล่าสุดผมมีโอกาสเข้าถ้ำพระธาตุที่ จ.ลพบุรี ได้พบการเกิดพระธาตุอีกแบบหนึ่งที่น่าอัศจรรย์ใจเป็นอย่างมากระหว่างที่ไปตามถ้ำส่วนต่างๆมีสถานที่แห่งหนึ่งเป็นแอ่งน้ำทอดยาวลึกเข้าไม่ต่ำกล่า 4-5 เมตรน้ำไม่ลึกมาก บริเวณที่มีดินตรงริมน้ำมีวัตถุสีดำมีรูปพรรณสัณฐานดังพระธาตุมากมายนับไม่ถ้วน หยิบขึ้นมาดูจับบีบดูปรากฏว่าเป็นดินเหนียวสีดำที่มีความละเอียดมาก คิดว่าถ้ามีความแข็งคงเป็นพระธาตุชนิดหนึ่งแน่นอน หลังจากนั้นไปตามแอ่งที่ประดิษฐ์สถานพระธาตุที่มีลักษณะเป็นหินปูนมารวมจับเกาะเป็นรูปพรรณสันฐานต่างกลับปรากฏดินเหนียวสีดำอยู่ปนปะปรายบางแห่งไม่มากก็น้อย พร้อมกับมีเม็ดหินสีดำกลมบ้างรีบ้างทั้งเล็กทั้งใหญ่คิดว่าเป็นแร่เหล็กเป็นธาตุกายสิทธิ์ที่บางท่านเรียกว่าเหล็กไหลเพลิง,เหล็กไหลน้ำ เป็นต้น<O:p</O:p

    ผมคิดว่าดินเหนียวสีดำที่จับตัวเป็นเม็ดสัณฐานต่างๆนี้ คงรอเวลาที่จะเคลือบเป็นชั้นๆเกิดสีสันแตกต่างกันไปอีกแบบหนึ่งก็เป็นไปได้ เป็นต้น ส่วนหนึ่งผมได้อัญเชิญพระธาตุที่กำลังเกาะจับตัวอยู่ครึ่งยังคงสภาพอีกครึ่งหนึ่งเมื่อนำมาเปรียบเทียบสัณฐานก็จะเปรียบเทียบได้กับ”พระธาตุบิณฑะปาติยะ ที่มีสัณฐานดังกลีบกนก”ที่เกิดจากเปลือกหอยชนิดหนึ่งที่แตกออกมาเป็นชิ้นมีหินปูนมาเกาะจับรวมตัวกัน “พระธาตุจุลนาคะ”สัณฐานมีปุมเล็กๆเกิดจากแท่งหินปูนขนาดเล็กแตกหักออกมาเป็นชิ้นแล้วมีหินปูนมาเกาะจนเต็มไม่สามารถจะมองเห็นลักษณะเดิมได้ นี้คือการเกิดพระธาตุที่เกิดจากธรรมชาติแบบหนึ่ง ซึ่งยังมีมากมายหลายอย่างจนเราคาดไม่ถึง โดยเฉพาะที่สำคัญน่าอัศจรรย์พระธาตุเหล่านี้เหมือนมีใครอัญเชิญไปประดิษฐ์สถานตามแอ่งตามชั้นอย่างสวยงาม <O:p</O:p

    2.เกิดจากธาตุสี่ขันธ์ห้าของมนุษย์ เกิดจากที่บุคคลปฏิบัติตามคำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าแนวทางมรรคแปด จนล่วงลุจนสามารถยกภูมิจิตภูมิธรรมเป็นพระอริยะเจ้าตั้งแต่พระอริยะบุคคลชั้นต้นจนถึงพระอรหันต์มิจำเป็นว่าจะต้องบวชอยู่ในสมณะเพศและผนวกด้วยบุญบารมีที่ท่านได้สร้างสมกันมาประกอบกันไปจนเกิดแปรสภาพจากกระดูกธรรมดาเป็นพระธาตุ ซึ่งเป็นหลักฐานที่ยืนยันว่า”เมื่อเดินทางมรรคแปด โลกย่อมไม่ว่างเว้นพระอริยะเจ้า”หนทางหนึ่ง ซึ่งทุกท่านสามารถที่จะศึกษาประวัติครูบาอาจารย์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจนกระดูกแปรสภาพกลายเป็นพระธาตุตามหนังประวัติที่ลูกศิษย์พิมพ์ไว้เป็นที่ระลึกเอาไว้หรือหนังสือต่างๆ สำหรับกระดูกของพระผู้ทรงชานหรือผู้ทรงชานบางท่านจะแปรเป็นลักษณะเป็นแก้ว,เป็นสีทองแดง เป็นต้น ซึ่งจะไม่มีความสวยงามสดใสดังของพระอริยะเจ้าจะเรียกว่า”ธาตุกายสิทธิ”<O:p</O:p

    3.เกิดจากการสรรสร้างบันดาล ที่ผมกำจัดความเพื่อให้เข้าใจว่าเป็นธาตุที่เกิดจากวิทยาศาสตร์ส่วนหนึ่ง(จากการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์)และอีกส่วนหนึ่งเกิดจากการฤทธิ์อำนาจบุญบารมีของเหล่าเทวดา,พระโพธิสัตว์,พระอริยะเจ้า ที่ดลบันดาลอธิษฐานรวมธาตุเป็นวัตถุธาตุที่มีพลังความศักดิ์สิทธิ์และรูปพรรณสัณฐานแตกต่างกันตามภูมิจิตภูมิธรรม ในส่วนที่เกิดจากวิทยาศาสตร์เช่น เม็ดยากันชื้นมีเหตุปรากฏที่วัดป่าทะเมนชัย สาขาวัดหนองป่าพง ตรงพระเจดีย์จะปรากฏมีพระบรมสารีริกธาตุ(เม็ดยากันชื้น)เสด็จโปรดให้ญาติธรรมที่ไปสักการะบูชาจนเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตว่ามีการโปรยลงมาเป็นการกระทำขึ้นมา เป็นต้น ถ้าทุกท่านเห็นครั้งแรกก็จะบอกว่าเป็น”เรซิน, เม็ดยากันชื้น”ตามที่เรารู้จักสิ่งนั้นกันมา ดูจากภายนอกหรือแยกธาตุก็เป็นเช่นนั้น ดังคำว่า “ธาตุเปลี่ยนธาตุ” 1.นอกใช่ – ในใช่ , 2.นอกไม่ใช่ – ในใช่ , 3.นอกใช่ – ในไม่ใช่ , 4.นอกไม่ใช่ – ในไม่ใช่ “ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากจะอธิบายที่จะให้เข้าใจกันง่ายๆ บางคนติดตำรา บางคนติดความคิดความรู้ที่ถ่ายทอดกันมาโดยการพิสูจน์เช่น พระบรมสารีริกธาตุหรือพระธาตุต้องลอยน้ำได้..! เป็นต้น มีของจริง ย่อมมีของปลอม มันเป็นเรื่องของโลกครับ<O:p</O:p

    เพราะการที่เราได้ปฎิบัติและสัมผัสจนเกิดประสบการณ์นั้นเป็นสิ่งที่จะยืนยันได้ดีที่สุด การนำเสนอนี้มิได้มีเจตนาอื่นๆที่จะนำท่านไปนอกขอบเขตพระศาสนาหรือขัดแย้งลบหลู่ปรามาสพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุนะครับ นอกจากให้แนวคิดนำไปปฏิบัติทางจิตควบคู่ไปด้วยกับการบูชาพระธาตุว่าจริงๆแล้ว“การปฏิบัติเช่นไร ที่ทำให้เกิดพระธาตุในรูปแบบต่างๆได้” เพราะพระบรมสารีริกธาตุหรือพระธาตุมิใช่ทำให้เกิดความพ้นทุกข์ เพียงแต่จะทำให้เกิดขวัญกำลังใจมีศรัทธาในการปฏิบัติเพื่อยกจิตพัฒนาดังการกำเนิดพระธาตุและมีอีกหลายสิ่งที่จะต้องศึกษาควบคู่กันไปด้วย<O:p</O:p

    พระศาสนาองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันนี้เป็นศาสนาที่เน้นปัญญาให้รู้เหตุและผล เพื่อทำความเข้าใจในธรรมชาติของตนเองให้ถ่องแท้ เมื่อถึงวันนั้นเราก็จะเข้าใจธรรมชาติทั้งปวงนะครับ……เพราะทุกอย่างไม่จีรังยังยืน มองให้กว้าง ทำให้ถึง ที่หมายเดียวกันคือความพ้นทุกข์….นิพพานนังปัจจโยโหนตุ… <O:p</O:p
    ………………………………………………………………………………………………………..<O:p></O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2008
  18. Ong

    Ong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +12,861
    สู้ๆครับ ตามประวัติครูบาฯ หลายองค์

    ท่านก็เคยผจญวิบาก อย่างนี้ครับ

    มีบางท่าน ถูกจับห่มผ้าขาวก็มี
    พระคุณเจ้าอย่าท้อนะครับ
     
  19. ราชภพ

    ราชภพ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +9
    ขอเป็นกำลังใจให้พระคุณเจ้าด้วยค่ะเรื่องงานบุญอื่นใดที่พระคุณเจ้าต้องการให้ช่วยเรื่องปัจจัยก็บอกมาได้ค่ะยินดีช่วย
     
  20. พระชยภัทร อนามโ

    พระชยภัทร อนามโ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,667
    ค่าพลัง:
    +728
    เจริญพรคุณโยมทุกท่าน

    ก่อนอื่นอาตมาต้องขออนุโมทนาบุญกับคุณโยมทุกท่านด้วยที่ได้เข้ามาให้กำลังใจกับอาตมา

    เนื่องจากหลายวันนี้ที่อาตมาไม่ค่อยได้เข้าอินเตอร์เน็ตก้เพราะว่าถูกท่านเจ้าอาวาสท่านเรียกตัวเข้าไปคุยเรื่องพระบรมสารีริกธาตุ

    ก่อนอื่นต้องขออธิบายรายละเอียดก่อนเลย เรื่องมีอยู่ว่าอาตมาได้รับพระบรมสารีริกธาตุมาชุดหนึ่งซึ่งอาตมาได้แยกเก็บไว้ต่างหากเพราะว่าอาตมาเองเห็นแล้วมีความรู้สึกแปลกๆและพระบรมชุดนี้อยู่ในช่วงที่กำลังตรวจสอบจึงไม่สามารถมอบให้ท่านใดไปได้ แต่วันก่อนที่จะเกิดเหตุ 1 วันได้มีญาติโยม 3 ท่าน ได้มาหาอาตมาและมารับพระบรมและพระธาตุโยมเขาค่อนข้างศรัทธามาก โยมเขาเห็นพระบรมชุดนี้อยู่ เขาจึงขอไว้แต่ว่าอาตมาเองได้ห้ามแล้วว่ากำลังตรวจสอบอยู่อย่าเพิ่งเอาไปเลย แต่ด้วยที่โยมเขาศรัทธาเลยตื้อขออาตมา ด้วยความใจอ่อนอาตมาก้ต้องให้ไปแต่ได้บอกโยมเขาแล้วว่าให้แยกไว้ก่อนนะ เพราะว่าตรวจสอบเสร็จเมื่อไหร่แล้วจะโทรไปแจ้ง และในขณะที่โยมเขาเดินทางกลับอาตมาเองก้ได้รู้ผลของพระบรมชุดนั้นว่าไม่ใช่ของจริง อาตมาเองจึงทำการโทรไปแจ้งโยมท่านนั้น จึงทำให้โยมเขารู้สึกเสียใจในเรื่องพระธาตุว่าเป้นของปลอม โยมเลยคิดว่าพระธาตุที่อาตมานั้นเป้นของปลอมทั้งหมด ในวันรุ่งขึ้นโยมจึงโทรหาท่านเจ้าอาวาสว่าอาตมาเป้นพระหลอกลวง พระ 18 มงกุฏ อาตมาเองก็ งง สิ ทั้งที่บอกแล้ว เขามาโวยวายบอกกับท่านเจ้าอาวาสให้ศึกอาตมาเพราะว่ากลัวอาตมาจะไปหลอกลวงคนอื่นอีก อาตมาจึงถูกเรียกตัวเข้าไปคุย แต่ตอนนั้นยังไม่ทราบเรื่องที่โยมเขาฟ้องหลวงพ่อท่าน ท่านก้เล่าให้ฟัง อาตมาเองก้อึ้งแบบตั้งหลักไม่ทัน ก้ได้แต่โดนบ่นใหญ่เลย ท่านจึงบอกว่าจะให้เลือกว่าถ้าจะอยู่ต่อให้นำพระธาตุและพระบรมมาไว้ที่ท่านให้หมดเลยและห้ามยุ่งเรื่องพระบรม ส่วนถ้าอาตมายอมศึกจะมอบพระบรมและพระธาตุให้คืน อาตมาเองก้ทำอะไรไม่ถูกมึนและงง จึงนั่งคิดสักครู่จึงบอกว่าขออยู่ต่อ แต่จริงๆแล้วโยมเขายืนยันว่าให้ศึกอย่างเดียว แต่ด้วยความเมตตาของหลวงพ่อท่าน ท่านจึงหาหนทางให้อาตมาเลือก ในวันรุ่งขึ้นอีกวันโยมท่านนั้นก็โทรมาบอกหลวงพ่อว่าอย่าศึกพระเพราะว่ามีพระบรมและพระธาตุจริงอยู่ด้วย ในวันนั้นเองโยมได้โทรมาขอขมากับอาตมาเองซึ่งอาตมาเองก้ไม่เคยโกรธอยู่แล้วเพราะตั้งอยู่ในพรหมวิหาร 4 โยมได้เล่าว่าได้นำพระธาตุพระปัจเจกไปทุบโดยใช้ค้อนทุบปรากฎว่าทุบเท่าไรก้ไม่แตก เอาไปเจียร เจียรเท่าไรก้ไม่เข้า เอาเลื่อยมาเลื่อยก้เลื่อยไม่เข้า ส่วนพระธาตุนั้นได้เอาค้อนทุบแต่พอทุบแตกแล้วโยมบอกว่าเห้นเป็นชั้นๆ ซึ่งโยมบอกว่าใช่ของจริง จึงได้โทรมาขอขมาและหาแนวทางแก้ไขในเรื่องนี้ แต่ว่ามันก้สายไปเสียแล้วที่จะแก้ไขเพราะว่าอาตมาเองได้เคลียกับทางวัดเรียบร้อย ในตอนนี้ก้ได้แต่ทำใจอย่างเดียว อาตมาเองเจอเรื่องอย่างนี้บ่อยแต่ไม่รุนแรงเท่านี้ครั้งนี้ก้ถือว่าเป็นช่วงทดสอบไป เพราะอาตมาเองพอโดนเรื่องอย่างงี้ก้มีเครียดบ้างแต่ด้วยอาตมาเองเจริญพรหมวิหาร 4 จึงทำให้ทำใจได้ไว จนโยมหลายท่านที่โทรมาค่อนข้างจะงง และพระในวัดเองก็งง กับเรื่องที่อาตมา ครูบาอาจารย์ท่านยังบอกว่าทำใจได้เร็วมากนะ ดีดี ทำต่อไป ท่านได้แต่ยิ้ม

    พระบรมและพระธาตุทั้งหมดทั้งที่ถวายวัด บรรจุองค์พระ บรรจุพระเจดีย์ แจกจ่ายให้โยมนำไปบูชาและชุดที่นำมาให้ร่วมบุย อาตมายืนยันว่าเป้นของแท้แน่นอน เพราะผู้ที่ตรวจสอบพระตุให้อาตมานั้นเป็นโยมท่านนึงแต่โยมไม่ให้เอ่ยนามของโยม โยมท่านนี้เรียนจบ ปริญญาโท ด้านโบราณคดี และอีกอย่างโยมท่านนี้เป้นลูกศิษย์ของครูบาอาจารย์ท่านนึ่งไม่ขอเอ่ยนามท่านกลัวลูกศิษย์ท่านจะหาว่าเอาชื่นท่านมาแอบอ้าง โยมท่านนี้มีภูมิจิตที่สูงสามารถตรวจสอบว่าพระธาตุองค์ใดจริง องค์ใดปลอม จึงขอให้ญาติโยมที่ได้รับจงมั่นใจ

    อาตมาได้มาตอบกระทู้แจ้งให้ญาติโยมทุกท่านทราบเรียบร้อยแล้วนะเพราะหายไปหลายวันเดี๋ยวโยมหาว่าอาตมาหนีหน้าไป อาตมาเองไม่กลัวอยู่แล้วเพราะจะทำอะไรก็ระมัดระวังเต็มที่แล้วแต่ก็ยังมีพลาด แต่ก็ขออนุโมทนาบุญกับคุณโยมทุกท่านที่ได้เข้ามาให้กำลังใจในกระทู้ และหลายท่านก้ได้ให้แนวคิดกับอาตมา ส่วนช่วงเวลาที่อาตมาเองนั้นไม่มีพระบรมคงจะต้องอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบนักธรรมตรีและต้องทำงานตามที่หลวงพ่อท่านสั่งเอาไว้ว่าให้สอนกรรมฐานโยมบ้าง อาตมาเองก็จะช่วยสอนได้เท่าที่จะทำได้ตามกำลังของอาตมาเองที่ศึกษามา

    อาตมาขอขอบคุณทุกความห่วงใยจากญาติโยมทุกท่านที่ได้มาตอบในกระทู้ ทั้งที่โทรมาหาและทั้งที่ส่ง sms มาหาด้วย

    เจริญพรคุณโยม

    พระชยภัทร อนามโย
     

แชร์หน้านี้

Loading...