ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย modpong, 8 พฤษภาคม 2010.

  1. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    หลวงพ่อวัดท่าซุง แม่ผมเคยมีประสบการณ์ครับ เดี๋ยวก็อบปี้มาให้อ่านครับ เล่าไว้ในอีกกระทู้นึงครับ
     
  2. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    สังฆานุภาพ
    ในเช้าวันหนึ่ง เมื่อผมเรียนอยู่ประมาณ ม.ต้น แม่ผมตื่นมาพร้อมกับทำหน้าแปลกใจ และเล่าความฝันให้ฟัง(เล่าให้คนอื่นฟัง แต่ผมนั่งอยู่ด้วย) แม่ได้เล่าว่า เมื่อคืนฝันว่ามีพระแก่ๆ ตัวใหญ่ ผิวดำๆ ใส่แว่นด้วย มาบอกว่า ให้ไปช่วยหน่อย ที่หมอชิต โดนเหยียบย่ำอยู่ จะแย่แล้ว ไปช่วยด้วยน่ะ แม่ผมก็รู้สึกว่า ความฝันมันเหมือนจริงมากๆ พอเล่าเสร็จ ในวันเดียวกันนั้นเอง แม่ผมก็มีเหตุจะต้องไปแถวๆนั้น(คือหมอชิต) พอไปถึงแม่ผมก็นึกขึ้นได้ว่า เหมือนในฝันเลย แล้วก็คิดว่าจะไปช่วยพระตรงไหนเนี่ย!! ไม่เห็นมีพระซักกะองค์ เดินไปเดินมาอยู่พักนึง ก็นั่งตรงจุดที่เขามีเก้าอี้ติดกันยาวๆ แล้วก็มองไปที่พื้น ช่วงนั้นหน้าฝน คนเดินไปเดินมา พื้นก็แฉะ เป็นโคลนดำๆ ระหว่างที่นั่งอยู่นั้น แม่ผมก็มองไปมองมา แล้วก็มองที่พื้นตรงที่คนเดิน เห็นก้อนอะไรดำๆ คนเดินเหยียบกันไปเหยียบกันมา แต่ไม่มีใครสนใจ แม่ผมเห็นอย่างนั้นก็สงสัย ก็เลยหยิบขึ้นดู ปรากฏว่าเป็นพระเครื่องชนิดเหรียญ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใครเพราะว่าเปรอะโคลน แม่บอกว่าตอนหยิบขึ้นมาก็ขนลุกแล้ว พอเอาไปล้างเสร็จ แม่บอกว่า หน้าเหมือนเลย เหมือนพระที่มาเข้าฝัน แล้วแม่ก็กลับมาบ้าน เอามาอวดกัน ว่าตัวเองไปตามความฝันแล้วเจอ เหรียญนั้นคือเหรียญหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ยุคแรกๆ ครับ (แล้วก็โยงกับเรื่องเทวานุภาพนิดนึง แม่ผมไม่เคยเห็นรูปหลวงพ่อฤาษีเลยซักครั้ง ตอนไปวัดท่าซุง พอแม่ผมเห็นรูปหลวงพ่อฤาษีที่ศาลาแก้วร้อยเมตร แม่ผมก็อุทานว่า ...เออ!!..ใช่จริงๆแหละ องค์นี้แหละที่ไปเข้าฝันกูตอนนั้น) ต่อมาเหรียญนี้พี่ชายที่เขาเล่นพระเขาก็มาขอแม่ไป แล้วก็แขวนขึ้นคอในคืนถัดไปเท่านั้น แกก็ขับมอเตอร์ไซด์ ด้วยความที่อดนอนหรือเมาก็ไม่แน่ใจ ไปประสานงานกับสิบล้อเข้าให้ พี่ผมกระเด็นออกมาอยู่ข้างถนน บนสะพานกรุงเทพฯ เหมือนจะสลบไป พอพี่ร่วมกตัญญูแกเอาผ้าดิบมาห่อตัวพี่ชายผม พี่ผมก็ลุกขึ้นมา แล้วก็บอกว่า ไม่ได้เป็นอะไร (แต่ว่าสภาพรถแมงกาไซด์ ไม่ต้องคิดว่าจะซ่อมครับ เลิกคิดได้) พี่อาสาสมัครก็บอกว่า ไปตรวจที่โรงพยาบาลหน่อยน่ะครับ ชนขนาดนี้บางทีอาจช้ำใน พี่ผมก็บอกว่า ไม่เป็นไรหรอก วันรุ่งขึ้น มาหาแม่ บอกว่ารถชนเมื่อวาน ตอนที่ชน เหมือนมีพระดำๆมาอุ้มไปไว้ที่ฟุตบาท ไม่เจ็บตรงไหนเลย แต่ว่าตอนนี้เหรียญนั้นไม่รู้อยู่ไหนแล้วครับ อาจจะขายกินแล้วก็ได้ พี่คนนี้เขาค่อนข้างนิสัยไม่ค่อยจะดีครับ (ด่าพี่ตัวเองซะอย่างนั้น) ไอ้ตัวผมก็ผิดว่าตามผิด ถูกก็ว่าถูก ตรงๆ ครับ นี่คือสังฆานุภาพ
     
  3. พลศิริ

    พลศิริ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    7,978
    ค่าพลัง:
    +18,982
    แม่นอ้ายแม่น สังฆานุภาพครับ
     
  4. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    เทวานุภาพ เทวดาที่วัดท่าซุงfficeffice" />>>
    วันหนึ่งเมื่อสองปีที่แล้ว ครอบครัวผม นำโดยแม่ พี่สาว แฟนพี่สาว ตัวผมเอง ได้พาแม่ไปเที่ยววัดท่าซุงกัน ตอนนั้นแม่ผมป่วย มีอาการเบาหวานลงขา ทำให้ขาบวมเปล่ง และต้องเดินโดยใช้ไม้เท้าช่วย เวลาลงน้ำหนัก แม่ก็จะต้องมีหน้าตาที่ทรมาน แต่ทำไงได้ พี่สาวผมปีนึงถึงสองปี จะกลับมาจากต่างประเทศเสียครั้งนึง พอกลับมาก็จะไปเข้าปฏิบัติธรรม เวลามีประมาณหนึ่งเดือน ก็จำเป็นที่จะพาแม่ไปเที่ยวบ้าง พอขับรถไปถึงวัดท่าซุงแล้ว พาแม่ลงไปไหว้ ในหลายจุด พอถึงวิหารทองคำ (ที่สร้างใหม่ ใหญ่ๆ อาจจะเรียกไม่ถูกขออภัยครับ) ผมก็เห็นว่าข้างในมันสวยดี อยากให้แม่ได้เข้ามาดูซักครั้ง แม่รออยู่ข้างล่าง ขึ้นบันไดไม่ไหว เจ็บขามากๆ >>
    ผมก็เลยบอกแม่ว่า .... ขึ้นมาเหอะแม่ สวยน่ะ มาทั้งทีแล้วก็>>
    แม่.......เออ..มึงขึ้นไปเหอะ แม่ไม่ไหว ...>>
    ตัวผม.......ถ้างั้นจะพยุงเข้าไปดู..>>
    พี่สาว.....เออ...ช่วยกันพาแม่ขึ้นไปดีกว่า>>
    สองพี่น้องก็ช่วยกันพยุงแม่ขึ้นไปข้างบน โดยผ่านบันไดไปประมาณสองขั้น แต่ตัวแม่ก็หนักเอาการ พี่สาวผมก็ตัวเล็ก ผมก็ตัวเล็ก แม่ก็ออกจะอ้วนนิดหน่อย ก็รู้สึกหนักทั้งคู่ จนเหมือนแม่จะขึ้นไม่ได้>>
    ผมก็พูดลอยๆขึ้นว่า......เอ้า!! เทวดาที่วัดท่าซุงเยอะไม่ใช่หรอ มาช่วยพยุงแม่ขึ้นไปดูวิหารหน่อย แม่อยากดู >>
    หลังจากนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ แม่ผมตัวเบามากๆ ในทันใด และสายตาผมก็มองไปที่พื้นที่แม่เหยียบ (ตรงบันได) ปลายเท้าของแม่ผมอยู่ติดพื้นนิดเดียว แทบจะไม่ติดพื้นเลยก็ว่าได้ ผมก็งงไปนิดนึง>>
    ก็เลยมองหน้าพี่สาว ... ซึ่งพี่สาวก็มองหน้าผม..แบบแปลกใจ ...... แบบว่ารู้กันว่ามีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้น>>
    แล้วผมก็เอ่ยขึ้นว่า เออแหะ ... เบาจริงๆด้วย>>
    พี่สาว... มองหน้าผมแบบตาลุกโพลง >>
    ส่วนผม...ก็ยิ้มครับ......เพราะว่าแม่ตัวเบาไม่หนัก ทั้งตอนขึ้นและตอนลง โดยที่พี่สาวไม่พูดอะไรกับผมเลย >>
    เที่ยวกันเสร็จ พอกลับมาถึงบ้าน หลังจากพี่สาวผมไม่พูดอะไร เหมือนอึ้งๆ ก็เลยถามผมว่า>>
    พี่สาว.....นัน.....แกทำได้ไงว่ะ >>
    ผม...............ทำไรอ่ะพี่>>
    พี่สาว.....ก็เรื่องที่วัดไง>>
    ผม.......อ้าว!! พี่รู้สึกด้วยหรอว่าแม่ตัวเบา แทบไม่ติดพื้น>>
    พี่สาว......เออดิ๊ ไม่น่าเชื่อเลย ฉันเลยไม่กล้าพูดกับแก แล้วแกกล้าพูดตอนนั้นได้ไง>>
    ผม..... ผมทำอะไรไม่ได้หรอกพี่ ก็พูดขอเทวดาไป ท่านก็คงจัดให้มั้ง >>
    แม่......เออ..กูก็รู้สึกว่าตัวกูเบา แทบไม่ต้องก้าวเดิน>>
    ผม...(ด้วยความคะนองปาก).......ผมเก่งหรือป่าวพี่ใช้เทวดาได้ด้วย ฮ่าๆๆ>>
    พี่สาว...เออ..แล้วแกทำได้ไง>>
    ผม......ก็บอกว่าไม่ได้ทำอะไร เทวดาที่วัดเขาทำพี่ ตัวผมไม่ได้มีฤทธิ์อะไร แค่พูดเล่นๆ แต่เป็นจริง ผมยังไม่เชื่อตัวเองเลย!>>
    แต่มีข้อชวนคิดครับ ตอนสองปีที่แล้ว ผมค่อนข้างคลั่งวิปัสสนากัมมัฏฐานเอามากๆ ยิ่งช่วงเข้าพรรษาด้วย ไม่เคยขาดเลยครับ ว่างเมื่อไหร่เป็นต้องภาวนา ขับรถมอไซด์ยังจับกสินลมเล่น แต่ทำไม่เคยได้เลยครับ แต่รู้สึกว่าเวลาไปไหนมาไหน มันใช้เวลาไม่นาน ภาวนาว่า วาโยกะสินัง ไปเรื่อยๆ เชื่อหรือไม่ว่า ผมขับเวป 110 จากลพบุรีบ้านผม มากรุงเทพฯ ในกลางสาทร ใช้เวลา 1.30 นาที แต่ว่าเวลาทำอะไรแปลกๆได้ ถ้าจะทำซ้ำ ไม่เคยทำได้เลย ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เคยถามหลวงพ่อ ท่านก็บอกว่า ใจมีกิเลส คือภาวนาไปแล้วอยากให้มันเกิดผลอย่างนั้น อย่างนี้ มันจะไม่เกิด ก็เลยเข้าใจครับ จบแล้วสำหรับเทวานุภาพ ต่อไปเป็นสังฆานุภาพ แต่เป็นเรื่องของแม่ผม เรื่องของผมลงจนแทบหมดมุขแล้วครับพี่น้อง
    สิ่งเหล่านี้ที่เกิดขึ้น ก็จะตราตรึงอยู่ในใจของผม พี่สาว และแม่ผม ตลอดไป เพราะว่าจะเล่าไปก็ไม่ค่อยมีใครเชื่อ แต่เป็นการยืนยันว่าเทวดามีอยู่จริง
     
  5. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    สองเรื่องอ่านกันหนุำกๆครับ กับหลวงพ่อวัดท่าซุง ก็อบปี้มาจากกระทู้เดิมของผมครับ
     
  6. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
     
  7. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..................
    ...สนุกดี..และ..เป็นประสพการณ์ที่เยี่ยมยอด..สำหรับตัวเอง..และ..ผู้อื่นที่
    เขาอิจฉา..อยู่...........
    .....สำหรับ..อาเอง...นั้น..ไม่เคยรู้สึกว่าท่านดำเลย...ตอนที่ผมและท่านได้มีโอกาศพบกัน(..บางท่านที่ไม่เคยพบ..ตัวเป็นๆ..ของท่าน..อาจจะว่าเป็นวาสนา..แต่สำหรับ..อาคิดว่า..เป็นโชคชะตา..มากกว่า)...อาก็เคยเล่าไปแล้ว..ที่กระทู้นี้..และที่อื่นด้วย
    ......คือ..อาเห็นตั้งแต่..ระยะ ประมาณ ๘ เมตรได้(ที่ซอยสายลม..เมื่อต้นปี ๒๕๑๕)..อาก็ว่า..เอ้..ท่านบอกว่าตัวท่านเป็นลิงดำ..อาก็ว่า..ท่านไม่เห็นดำตรงไหน..ผิวก็แบบคนภาคกลาง..ออกดำแดง..ธรรมดา..
    ..ไม่ใช่อย่าง..พวกสิงห์..หรือ..พวกวิเศษฯ..ที่อาว่า..พวกนี้ส่วนใหญ่..ดำดี..สีไม่ตก...
    ...อายืนที่ประตู..ท่านนั่งอยู่ข้างในสุด..แล้วระยะการมองท่าน..ก็สั้นเข้าสั้นเข้า..จนถึงตัว..อาก็ว่า..ท่านไม่ดำอยู่ดี..ขนาดตอนจ้องท่านชัดๆตรงหน้า..แล้วอาก้มหัว..ท่านก็ชะโงกมาเป่าหัวใกล้ๆ..ขนาดสัมผัสถึง..ลม..ที่เป่ามาปะทะหัวได้..ลูบหัวอีกที...แล้วอาถอยออกมานั่ง..ระยะห่างท่านประมาณ..๑เมตรครึ่ง..อยู่ตั้งนาน..นั่งไปก็มองท่านคุยไป....ก็เป็นคนผิวสองสีธรรมดา..ก็ไม่ทราบนะ..หรือตัวเองอาจจะคุ้นกับ..คนผิวคล้ำๆ..
    ซะมาก..
    ...เอ้า..ขอบคุณาสำหรับบทความ..และ..เป็นกำลังใจให้
     
  8. เด็ก น้อย

    เด็ก น้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    516
    ค่าพลัง:
    +3,045
    มาเจอกระทู้ดีๆ อีกแล้วครับ
    กำลังอ่านตั้งแต่หน้าแรกอยู่ ..........
    อีกซักพักจะตามมาหน้าสุดท้ายครับ 555.
     
  9. พลศิริ

    พลศิริ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    7,978
    ค่าพลัง:
    +18,982
     
  10. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .............
    ....ขอบคุณ..สำหรับ..คำชม..และยินดีต้อนรับครับ..
    ..คุณเด็กน้อย....แต่แปลกใจอย่าง...
    ..เห็นปี..ที่คุณสมัครสมาชิก..ก็ใกล้เคียงกับ..ผม..
    ...เกือบ..จะ ๔ ปีแล้ว..แต่ไม่เคย..ทดลองเปิดอ่านเลย
    .....หรือ..ไม่เคยสังเกตเห็นเลย........
    ....แสดงว่า..กระทู้นี้ต็อกต๋อยมาก.....ก็ดีครับ...
    ..ลองดูของที่..ไม่ใช่ของนิยม..บ้าง..อาจจะพบ
    ..อะไรดีๆ..ไปเรื่อยๆ
     
  11. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ...........
    ....หวัดดี..พลสิริน้องรัก..น้องรุ่ง..และ..สวนพลู...
    .......................
    ...ต่อจากตอนที่แล้ว...
    ..........................
    ..................................................................................
    .....สาเหตุที่..คนกดพระรอดเลือกวิธีนี่..น่าจะมาจากสาเหตุ...
    ๑. ต้องการความรวดเร็ว..ในการทำพระแต่ละองค์..ก็ตามที่ผมเคยให้เหตุผล..มาแล้วส่วนนึงด้วย
    ......การ..ที่จะมาคอยดัน..ปีกที่ปลิ้นออกมา..มันเสียเวลา..เพราะมันจะให้เนื้อด้านหลังโป่งและ..ยู่
    ...แล้วต้องมานั่ง..ตบแต่งด้านหลังใหม่..อีกอย่างหลังพระก็จะ..อูม..เกินงาม.......
    ....การพับทำได้ง่าย..พอถอดพระออกจากพิมพ์..ก็พับได้เลย..เพราะปีกพระบาง..และเนื้อยังนิ่มอยู่
    ..แล้วถึง..เอาไปตาก..ผึ่งลม
    ๒.ถ้าจะ..มาตัดปีก..ด้านล่างออก..มันก็เสียเนื้อพระไป..โดยใช่เหตุ..เพราะส่วนที่ตัดไปเนื้อจะแห้ง
    ..เอาไปปน..กับ..เนื้อที่ผสมได้สัดส่วนดีอยู่แล้ว..ก็จะทำให้..เสีย..ต้องมากวนผสมใหม่อีก..
    ต้องเอาไปรวมกันให้ได้เยอะๆ..หลายๆองค์..ถึงจะเอามาเติมน้ำผสมใหม่แยกไปต่างหาก...
    ....ตัดไม่ดี..กินเข้าไปในกรอบองค์พระ..ก็ต้องทำใหม่อีก...
    ๓. ผลพลอยได้...คือ..ทำให้พระ..สามารถ..ตั้งได้..ถ้าเลือกใช้วิธีตัดปีก..พระจะตั้งไม่ได้..เพราะ
    ปีกบาง...
    ๔. ถ้าตัดแต่ปีก..ด้าล่างอย่างเดียว..มันก็คงดูแปลก..ถ้าจะให้ดี..ก็ควรจะตัดทั้งหมด..ยิ่งช้า
    เข้าไปใหญ่.......
    .....แต่ข้อเสีย..ของมันก็เยอะ..ซึ่งผมก็นึกได้ไว้ก่อนหน้าแล้ว..แต่ผมจะกล่าวถึง..หลังจากการ
    ทดลองของผม.....
    ..................................................................................
    ....ผมคิดทบทวน..เก็บรายละเอียด..ในสมองกันพลาด..ซักพักจนได้ที่..ผมก็จึง..วางแผน..และ..
    เตรียมการทดลองของจริง..ว่า..ที่ผม..วิเคราะห์..นะ..มันถูกต้องหรือไม่.....
    .....ต้นแบบ..ง่ายมาก..พวกพระแจกในงานศพ..กฐิน..ผ้าป่า..เวลาทำบุญไป..สมัย ๓๐-๔๐ ปีก่อน
    ทั้งของผมเอง..ก็มากกว่า..สิบองค์แล้ว..ของพ่ออีก..รวมกันมากกว่า..๕๐ องค์..พระรอดทั้งนั้น
    ...ผมก็เลือกเอา..ที่ใกล้เคียงที่สุด..เนื้อไม่สน....เพียงแต่ต้องมีขบวนการเพิ่มเติมเล็กน้อย..
    ..............ต่อตอนหน้า.................
     
  12. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .......
    ...ไม่หวัดดี..ใคร..เพราะ..ไม่มีใครมาPOST...
    ................................
    ...ต่อจากตอนที่แล้ว....
    .........................
    .........................................................
    .....ก่อนจะทำ..อะไรทั้งหมด..ผมก็ตะไบ..ปีกพระทิ้งออกก่อน...เพราะเราจะทำแบบ...
    ...ดังนั้น..แบบจะต้องไม่มีปีกมาปน..เนื่องด้วยปีกพระที่เกิด..ไม่ได้เกิดจากต้นแบบ...จากนั้น
    ..ก็..ตัดปลายตะเกียบไม้ไผ่..ออกมาสองชิ้น..ยาวประมาณ ๑ นิ้ว...เอามาติดกับ..หลังพระ...
    ที่ส่วนบนอัน..ส่วนล่างอันนึง..ด้วยกาวช้าง(..พระองค์นี้..ยังไง..ก็ไม่ได้สนใจอยูแล้ว)..
    ...สาเหตุที่ผม..ต้องทำแบบนี้..เพราะผมรู้อยู่แล้วว่า..จะเอาอะไรทำแบบ..และผม..ไม่อยาก
    แซะ..พระออก...เดี๋ยวอาจจะทำให้..แม่พิมพ์..มีตำหนิได้.....จากนั้น..
    ....ก็แค่..ผมเอายาทาเล็บแบบเคลือบใส(..เคยสอนรูปแบบการใช้มาแล้ว)...มาทา..ผิวให้ทั่ว..
    ...จะได้ถอดพิมพ์ง่าย..คือ..ทำให้ผิวมันซะ..แบบก็จะได้เนียนด้วย.....
    ...........จากนั้นผม..ก็เลือก..กล่องใส่พระ..(มีเป็นเข่ง)..ที่ลึกหน่อย..ให้มากกว่าความหนา..พระรอด
    เท่าตัว...ซื้อเทียนมาแล้ว..ก็เผาเทียนหยดลงไปในกล่อง...จนได้ระดับที่ต้องการ..เนื่องจาก
    เราเผาต่อเนื่องและเทียนหนา...ความร้อนมันสะสม...แม้จะส่วนที่ลึกลงไปก็ยังไม่แข็ง...
    ...ผมก็สามารถ..ค่อยๆจับปลายตะเกียบที่ติดไว้กด..พระรอด(คว่ำหน้าลง)..จนได้ระดับที่ต้องการ
    ...แล้ว..ไม่ได้ตามต้องการ..ผมก็ใช้ปากเป่าช่วยให้ผิวด้านบน..เย็นก่อนเพื่อ..เทียนด้านบนแข็งดี...
    ..จะได้เอามือออกได้....เสร็จแล้วก็..เอากล่องไปตั้งทิ้งไว้หน้าพัดลม..เป่าให้เทียน..แข็งตัวเร็วๆ..
    .......เมื่อผมจับกล่อง..และ..หลังพระ..ว่ามันเย็นดีแล้ว..ก็แสดงว่า..เทียนแข็ง..เรียบร้อย....
    .......ผมก็จับปลายตะเกียบ..ดึงขึ้นตรงๆ..เนื่องจาก..พระองค์เล็ก..ตะเกียบ๒อัน..มันก็เรียงติดกัน
    ..ก็เลยง่าย..มือซ้ายจับกล่อง..มือขวา..ก็รวบตะเกียบมั้งสองด้วย..นิ้วหัวแม่กับ..นิ้วชี้..ค่อยๆดึงขึ้น
    ตรงๆ..ก็หลุดได้ไม่ยาก..เพราะผมมีประสพการณ์ทำแบบนี้มาเยอะแล้ว..ที่แน่ๆ..ใครอยากทำมั่ง..
    ต้องให้พระเย็น..ด้วย..ไม่ใช่เทียนอย่างเดียว..ไม่งั้น..องค์พระจะขยายตัวใหญ่กว่าปกติ..อันเนื่อง
    มาจาก..ความร้อนที่สะสมอยู่ข้างใน......
    ..........เมื่อผม..ได้แม่พิมพ์..ด้านหน้า..ก็ต้องตบแต่งอีกคือ...พยายามเลียนแบบ..แม่พิมพ์หิน..คือ
    ..ผิวด้านบน..แม่พิมพ์..ต้องเรียบ..ไอ้งานนี้..ต้องละเอียดพิถีพิถันหน่อย..ความจริงถ้า..ผมใช้..ปูน
    ซีเมนต์ขาวยาแนวห้องน้ำทำแม่พิมพ์..ขั้นตอนหลังนี่ก็จะง่าย..เพราะ..ตบแต่งไม่มาก..และ..
    ..แบบแข็ง...แต่ผมไม่ค่อยอยากใช้เพราะ..เราใช้ปริมาณนิดเดียว..เปิดมาใช้ต้องรีบปิด..และเสี่ยง
    ทำให้ปูนส่วนที่เหลือ..ชื้นแข็งด้วย..บ้านผมต้นไม้เยอะ..ในบ้านยังชื้นเลย..ไม่คุ้ม......
    ...........ผิวเทียน..มันก็ไม่เรียบหรอกครับ..นูนๆ..ต่ำ...แต่..ผมเผื่อ..ไว้แล้ว..ตอนกดพิมพ์..ว่า...
    ควรจะกดลึกเพิ่มขึ้นเท่าไหร่..เพราะผมต้องปาดผิวเทียนด้านหน้าให้เรียบ..ในภายหลัง....
    ...แต่ไม่ลืม..คือ..ผมขูดเทียนลึกลงไปเป็นเส้น..แนวขนานกับ..กรอบพิมพ์..ห่างออกมา..
    ประมาณ ๒ มม. เพื่อเป็นตัวกำหนดความกว้างปิก..(เว้นเฉพาะที่..ฐาน..เพราะ..ยังไง..มันก็
    เกิน..อยู่แล้ว..)
    .........................ต่อตอนหน้า...................
     
  13. เดินตามพระ

    เดินตามพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    201
    ค่าพลัง:
    +1,595
    สวัสดีครับคุณอา modpong .คุณสวนพลู.และพี่ๆ.เพื่อนสมาชิกที่ติดตามอ่านทุกท่าน.
    เข้ามาติดตามอ่านเรื่องดีๆมีสาระความรู้ต่อครับ.
     
  14. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    สวัสดีครับคุณอา และสมาชิกทุกท่านมาตามอ่านบทความพระรอดตอนต่อไปครับ
     
  15. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ............
    ...หวัดดี..เดินตามพระ..และ..เฉียวฟง หลานรัก..
    ..ต่อจากตอนที่แล้ว...
    ......................
    ......................................................................
    ....ครั้งนี้..ผมก็ใช้วิธีลองแบบง่ายๆ...ใช้ดินน้ำมันแทน..ดิน..ต้องซื้อใหม่ลงทุนหน่อยเอาแบบ..
    ..ของนอก..แบบเนื้อไม่แข็ง...ดินน้ำมันราคาถูก..คุณภาพจะต่ำ..ปั้นไปปั้นมา..เนื้อจะแข็งขึ้นเรื่อยๆ
    ...เพราะน้ำมันที่อยู่ในเนื้อระเหยออกง่าย..และ..ออกมาติดอยู่ที่มือ..บางส่วน..
    .....การปั้น..ปริมาณ..รูปทรงก่อนกดพิมพ์..ก็เป็นไปตามที่..กล่าวมาตามที่ผมคิดไว้ล่วงหน้า
    (ย้อนกลับไปดูได้..)..แต่ทุกครั้งที่ลองกดพิมพ์..ผมก็ต้องเป่าแป้ง..ลงที่พิมพ์อยู่ดี..เพื่อให้..พระ
    ถอดจากพิมพ์ได้ง่าย......เมื่อเคาะ..ออกจากพิมพ์
    (....แต่ก็ต้องทำ..หลายครั้งครับ..กว่า..จะกะขนาดปริมาณดิน..ให้พอดี....)
    ......ทุกอย่าง..มันก็เป็นไปตามที่ผมคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า...ก็คือ..พอกด..ลงไปเต็มๆ..ดินปีกที่
    ส่วนฐาน..มันก็ยื่นออกมาเยอะจริงๆ..ปลิ้นออกมาตามนิ้วที่กด.....ส่วนด้านข้างและบน..ผมก็กด
    ไล่ขอบ..ไม่ให้เกินแนวที่ผมขูดไว้......ใช้เวลาไม่นานครับ..ในการกด..แต่ละครั้ง..เมื่อคล่องแล้ว..
    ...ผม..กดไว้เป็น..๑๐ อัน..ถอดออกมา..วางเรียงบนใบตองสดที่หงายท้องขึ้น.....(..หาง่าย..เพราะ
    ไอ้หลังบ้านผม..มันปลูกกล้วย..ติดกับรั้วผมหลายต้น..และ..ผมต้องคอยตัดเป็นพระจำ..)
    ............ซึ่ง...รูปแบบนี้..คือ..การตากพระเนื้อดิน..ที่ทำกันมาแต่..โบราณ..ซึ่งผมเชื่อมั่นว่า..ในยุคนั้น
    ก็น่าจะเป็นเช่นเดียวกัน...คุณคงสังเกตว่า..ขนมไทยทั้งหลาย..เขาใช้ใบตองห่อ..ก็..เพราะ..ไข
    หลังใบตอง..ซึ่งเป็นฝุ่นขนาดเล็กละเอียดยิ่งกว่าแป้งนั้น..จะป้องกัน..หรือ..เป็นตัวกัน..ไม่ให้
    ขนม..คาว..หวาน..อะไรก็เหอะ..ไม่ติด..กับตัวใบตอง...ไม่ว่า..จะเผา..จะนึ่ง..ยังไง..ก็ไม่ติด....
    ..........เรียกว่า..เอากาวที่ว่าเหนียว..หรือ..หรือ..เทปกาวทุกชนิด..มาแปะ..ยังไม่ติดเลย....
    .......ฉันใด..ฉันนั้น..เนื้อพระ..ที่เป็นลักษณะออกเหนียวๆหน่อย..ก็ไม่ติดเช่นกัน......
    .....ข้อดีอีกอย่าง..ถ้า..เราซ้อนใบซัก ๓-๔ ชั้น...มันจะทำหน้าที่รองรับการกระแทกตัว..หล่น
    ลงมาจากแบบ..ได้ยอดเยี่ยมที่สุด..รับประกันว่า..ให้พระขนาด..หลวงพ่อจุก..ลพบุรี..ทิ้งลงมา..
    ..จะไม่มีร่องรอยบู้เด็ดขาด...เพราะแต่ละใบ..มันจะทำหน้าที่..สลายพลังงาน..และ..กระจาย..
    ถ่ายพลังงาน..ออกไปรอบตัว........
    .......วิธีตามแบบแผนโบราณ..เขาก็จะเอาใบตองหงาย(ท้องขึ้น)..จัดวางเรียง..และ..ซ้อนทับกัน
    ..บนกระจาด..ให้เต็ม..(หรือ..กระด้งฝัดข้าว..นี่แหละครับ..เด็กรุ่นใหม่ไม่รู้จัก..ไปเปิดในเน็ต..เอา)
    ...เตรียมๆ..ไว้พอกับ..จำนวนพระที่จะทำ....ใบๆนึง..อย่างเอามาตากพระรอดนี่..ได้น่าจะ..
    ประมาณ ๕๐ องค์ ครับ....ข้อดีในการใช้กระจาดคือ..อะไร..ทราบหรือไม่....
    ....ก็คือ..เคลื่อนย้ายที่ได้...หนีแดดได้...หนีฝนได้................
    .......ทั้งหมดนี้..ขอยกย่องภูมิปัญญา..คนโบราณ..ว่าสุดยอด..ยิ่งใหญ่..เหนือ..ไอ้คนยุคนี้มากมาย
    ..................ต่อตอนหน้า.................
     
  16. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,202
    หวัดดีครับพี่ modpong มารอรับความรู้ดี ๆ อากาศเปลี่ยนแปลงช่วงนี้ รักษาสุขภาพด้วยครับพี่
     
  17. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    สวัสดีครับคุณอา..มาติดตามอ่านบทความพระรอดตอนต่อไปครับ อากาศเปลี่ยนแปลงแล้วคุณอาดูแลสุขภาพด้วยนะครับ
     
  18. MasterTest

    MasterTest เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    625
    ค่าพลัง:
    +1,031
    สวัสดีครับคุณครู _/\_
    มาติดตาม+ศึกษาต่อครับ ^__^
    อ่านเรื่องพระรอดแล้วผมคันไม้คันมือจัง เดี๋ยวหาดินน้ำมัน Blutack ได้แล้วจะลองถอดพิมพ์ดูมั่งครับ
    (เคยซื้อที่เซ็นทรัลแผนกเครื่องเขียนเอามาติดขาตั้งลำโพงเมื่อนานมาแล้ว ไม่รู้ตอนนี้ยังมีขายอยู่หรือเปล่าครับ) ^__^
     
  19. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    ***ตามอ่าน ตอน ต่อไปครับ หนาวแล้ว พี่
    และ คิดว่าทุกๆท่าน คงจะชอบกันนะครับ***
     
  20. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .........................
    ...ครูว่า..น่าจะมีนะ...ที่ B2S....เรื่องอุปกรณ์แบบนี้..มันมีแต่จะมากยี่ห้อขึ้น...B2Sที่ลาดพร้าว..นี่เพียบ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...