ปุถุชน....คนช่างสงสัย...

รายงาน
การเชื่อมต่อพลังงานพัฒนาตามลำดับ บางครั้งรุนแรง ดึงหัวแทบหลุด ตัวแทบลอย
งูไฟ กลายร่างแล้ว
จักระที่ ผีเย็บ เปิดแล้ว
พลังกระจายทัวร่าง สัมผัส อนูพลังงานซ่านทั่วร่าง
จันเจ้าขา 4 ดวงนี้ ถ้าหมายถึง ธาตุ4 ธาตุลมยกระดับได้ ในจุดที่เดินลมเหมาะสม
ถูกวิธี กะจะลดเวทนากาย ในกรณีที ท่านขันทมาร มาเยียม สามารถเข้าไปแก้ไข
สัญญา เวทนากาย ให้ตรงกับค่าความเจ็บปวดทีเป็นจริง โดยตัด อุปทานความเจ็บปวด
ทีเกินจริงออก คือ ความรู้สึกเจ็บปวดทีเกิดจาก การนั่ง ทีว่าน้ำตาไหล น้ำลายยืด นั้น
จะเหลือเพียง รู้ว่ามีอยู่ หน่วงๆไม่รุ่นแรง ไม่ส่งผลรบกวน การภาวนา
ทีนี้ ที่เหลือ 3กองธาตุ จับอารมณ์ไม่ถูก ต้องขอคำชี้แนะ ครับ
มีปุจฉา มาว่า ให้พิจรณา แยกกายเป็น3ส่าน แล้วกะมีรูป สามเหลียมปรากฎขึ้นมา
พร้อม ถูกตัดแบ่ง ออกเป้็น ส่วนฐาน ส่วนกลาง ส่วนบน จบแค่นี้
กะลองนั่งดู ท่อนล่างใต้ สะดือลงไป ยึดตรึงเป็นเนื้อเดียวกัน แต่ไม่ เข้าใจว่าจะไปต่อ
อย่างไร
ช่วงนีกะ มืดบอด ไปไม่เป็น งง มหางง
กราบขอบพระคุณ ครับ

 

สามเหลี่ยมเป็นกิริยาระหว่างทางของ
การหนุนเพื่อที่จะส่งพลังงานได้ในอนาคต
ซึ่งมันจะต้องรวมเป็นหนึ่งก่อน
และสามเหลี่ยมก็มักจะมาพร้อมกับดวงตาดวงเดียว
ที่ทางโลกเรียกว่า รา บางทีอาจจะได้เข้าไปอยู่
ในปิรามิด โดยรวมคือเป็นเรื่องปกติที่คนจะใช้
พลังงานงานแบบภายนอกได้จะต้องผ่านกันทุกคน
ปล.แค่เพียงแต่เล่าให้ฟัง.ไม่ต้องไปยึดอะไรนะครับ
เพราะเป็นเรื่องปกติธรรมดา.

 

ดูรูปออกก็จะเข้าใจที่ส่วนตัวเคยผ่านมาได้ทั้งหมด
เพราะรวมไว้ในนี้ให้หมดแล้วครับ
ปล.พยายามสังเกตุรายละเอียดดีๆนะครับ
ทุกรายละเอียดมีนัยยะซ่อนไว้หมดครับ (^_^)

 

จากรูป คงต้องกราบขอบพระคุณอย่างสูง
วันนี้ช่วง 11.00น เดินออกไปซื้อของ ขาไปกะ เดินพลังไปตลอด
ขากลับ เริ่มสังเกตุดู เงาตัวเอง รู้สึกสี ดำมากกว่าทีเคยเห็นมา
กะเลยสังเกตุที่ ขอบของเงา กะเห็นเป็นเส้นแสงสีขาวสว่าง รอบเงา
ต่อด้วยแสงอรุณ( เหลือง ส้ม แดง) ทั้งหมดหนาประมาณ 1นิ้ว ตลอดทาง
แต่ถ้าหยุด จะไม่เห็น ถ้าเดินเห็น ตลอด แปลกดี

หลายวันก่อน ขณะนั่ง นิมิต เห็นตัวเองนั่งอยู่ใน ลูกแก้วๆ มีแสงสว่างเล็กน้อย
แต่ผิวยังขุ่น หลังจากนั้น ส่วนใหญ่ทีนั่งหลับตา กะจะเป็นอุกหนิมิต นี้ ตลอด ผิวขุ่น
หน้าจอ จะเหมือนเปิด tvแต่ ไม่ถูกช่องสัญญาน ติดตรงนี้มาหลายวันแล้ว
ขออนุญาติ ขอคำแนะนำ ครับ

 

ไม่ได้เข้ามาอ่านสะนาน พี่นพก็ยังบรรยายธรรมและการปฏิบัติธรรมได้เทพสุดๆเหมือนเคย
ไอ้ผมมันก็มีแต่ตัณหา โดนบททดสอบที่ไม่มีวันชนะ บททดสอบทางโลก นารีพิฆาต ฯลฯ
การปฏิบัติก็ย่ำอยู่กับที่ ตอนนี้ทำได้แต่บุญ ถวายสังฆทาน วิหารทาน บริจาคโลงศพ บริจาคโลหิต ฯลฯ
ปล.เห็นรูปภาพที่พี่ลงนี้มีใจหึกเหิมอยากฝึกยังไงไม่รู้ เพราะเท่ห์ดีครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ pig_cryy

 

อย่าลืมเจริญสติช่วงเอี้ยว
(ช่วงที่ทำอะไรประจำจนเคยชิน เช่น เข้าห้องน้ำ
เดินไปล้างมือ เดินไปรถ เดินไปทานข้าวฯลฯ
พอนึกภาพออกเนาะ) หลังจากนั้นพอเห็นนิมิตปุบ
ให้กำหนดทิ้งปั๊บ เห็นทิ้งๆๆๆๆๆอย่างเดียว อย่าเผลอไปพยายาม
รักษาให้เห็นนาน แล้วเข้าใหม่ จนกว่าจะอยู่สภาวะเดียวกัน
และนิมิตหาย เด่วมันจะไปต่อได้เอง(^_^)

 

ช่วงนี้เฟสของท่านโพธิ ธรรมญาน (ท่านที่ป๋านบเคยแนะนำว่าใครอยากฝึกกสิณลองสอบถามท่านดู) มีพาขอขมากรรมแบบเป็น vdo เสียง แล้วท่านอับเดทสอนธรรมะตลอดต่อเนื่องทุกวัน ขนาดปึกๆอย่างหนูนั่งอ่านทำความเข้าใจที่ท่านอธิบายคือแบบว่าเข้าใจง่ายมาก ท่านยกตัวอย่างประกอบด้วย คล้ายๆกับเวลาป๋าอธิบายแล้วยกตย.ประกอบเป็นข้อๆเลย ขอบคุณป๋านบที่แนะนำเฟสท่านนะคะ หนูว่างมะไหร่นั่งอ่านหรือเปิดฟังตามตลอดเลย
แต่ท้องคนที่ 3 มานี้ขี้เกียจนั่งสวดมนต์มากๆ ปวดหลังก็มาก เลยอาศัยเปิดฟังไลฟ์สดวัดหลวงตาม้าสวดพระคาถาจักรพรรดิ์ไปหรือเปิด vdo เสียงของท่านโพธิ ธรรมญานฟังไปแทน ไม่ขยันสวดมนต์เหมือนท้องที่ 2 เลยง่ะ

 

แสดงว่าต้องมีอะไรดีมากกว่าปกติ
ท่าทางที่จะมาเกิดจะไม่ใช่ธรรมดาแน่ๆ
ถึงมีเหตุการณ์แบบนี้
ช่วงนี้ยังไงก็ต้องฝืนเน้อ
ไม่งั้นมันจะดลให้ไม่ทำเลย (^_^)

 

มันมีอะไร???

ปล. จะเห็นไหนเนี่ย ToT

 

แถมอีกรูป

 

ถือว่าจังหวะดี ปกติถ้าถ่ายนก
เวลาบิน มีเวลาไม่เกิน ๕ วินาที
แล้วแต่ดวง. ว่าจะถ่ายได้ไม่ได้...

 

ถามป๋านบ มีพี่ท่านนึง (เคยออกรายการธรรมะรายการนึง)ที่หนูเคารพเค้าอยากทราบว่าสิ่งที่แกกะแฟนเห็นคืออะไร ลักษณะ "หัวเป็นคน ลำตัวเป็นนกมีปีกมีลายคล้ายนกเค้าแมวหน้าซีดๆ บินมาเกาะแอบดูบ้านแกเมื่อสามวันก่อน แต่พอแฟนแกไปส่องกับเค้าตกใจบินหนีไป"

 

เคสนี้จริงก็พึ่งเคยเจอเหมือนกัน
เห็นเรียกว่า อัลรากาลีร่า(เสียงประมานนี้)
มีความสามารถด้านสัมผัสและพลังงาน
มีเมตตาแต่ทุกอย่างที่มี
จะมีการควบคุมอีกทีหนึ่งจาก
ผู้ที่มีบารมีท่านหนึ่ง
คนที่ควบคุมเป็นหญิง ที่อยู่จะมีปลายยอด
คล้ายๆปลายยอดทัชมาฮาล

ใส่หมวกแบบคนทางด้านซ้าย
คาดว่าน่าจะเป็นคนที่ใส่หมวกแบบนี้
เลี้ยงไว้ ประมานนี้หละครับ
ปล.พอขำๆเน้อ

 

ขอบคุณป๋าค่ะที่ช่วยไขข้องใจ หนูก๊อปปี้ไปให้พี่เค้าอ่านแล้ว

มาถึงคำถามหนูเองเรื่องเหยียบหญ้า เนื่องจากไม่ได้ทำทุกวัน (หลายวัน) พอมาเหยียบเมื่อวันก่อนโอ้โฮ แค่เริ่มหายใจเข้าพุท ออกโธ มันเหนื่อยมากกกกก ใจนี่เต้นตุบๆและเร็วมากแทบจะทะลุเสื้อเลยค่ะ ทำยังไม่จบปฐวีกสิณัง หนูจะเป็นลมเลย ทำไมถึงเป็นแบบนี้คะ? เป็นเพราะเรากำลังท้องหรือเป็นเพราะเราห่างหายการทำสมาธิปรับสมดุลร่างกายมานานถึงได้เหนื่อยจนจะเป็นลมแบบนี้?

 

นานๆทีก็อย่างนั้นหละคับ
แต่ปกติไม่ควรมากขนาดทำให้เหนื่อยได้
นั่นแบบ อ.ที่คุณหมิงแล้ว 555
ลองอ่านดูต่อไปนี้

เรื่องพลังงานเราควรปล่อยให้เป็นไปของมันเอง
โดยธรรมชาติ จากการที่จิตเรามันคลายตัวเอง
ด้วยของมันเองมันและจะเป็นไงก็ช่างมันให้เฉยๆ

การเหยีบยหญ้าช่วยส่งให้พลังงาน
กลับคืนสู่ธรรมชาติวิธีการหนึ่งเท่านั้นเอง

แต่การเข้ามาข้องเกี่ยวในส่วนใดส่วนหนึ่ง
ของพลังงานแบบไม่ธรรมชาติ
ท้ายสุดปกติเราจะต้อง
ปรับให้ร่างกายคืนสู่ธรรมชาติ
ทันที ณ เวลานั้นๆ
เราจะรู้สึก โล่ง โปร่งคลาย
นี่คือกลับสู่ธรรมชาติ

ไม่งั้นจะเกิดการ
ขาดสมดุลย์ หรือระบบพลังที่ควรเป็น
ธรรมชาติมันจะพร่องได้(ขาด เกิ๊น )
หรือที่คนมักจะไม่รู้คือสะสมจนขาดสมดุลย์
ถ้าเราไม่รู้และเข้าใจธรรมชาติตรงนี้
มันจะส่งผลให้ร่างกายพร่อง
ส่งผลค่ออารมย์ เป็นโรคอะไร
ก็ตามที่ไม่หายขาดซักทีได้
โดยมากจะเป็นโรคที่ร้ายแรงด้วย

ให้สังเกตุว่าขณะที่ทำการปรับสมดุลร่างกาย
พลังงานจะออกจากกายไปภายนอก
หรือแม้แต่รักษาก็จะปรับที่ผิวขึ้นไปภายนอก
เพื่อปรับสมดุลย์ให้ร่างกายคืนสู่ธรรมชาติภายนอก
นี่คือหลักสังเกตุง่ายๆ

ถ้าพลังงานที่หมุนวนเกาะกาย
ไม่ว่าแขนหรือขาที่จะชัด หรือส่วนใดๆของกาย
ยังเป็นวิบากอยู่ คือกะแสที่จรเข้ามา
นึกภาพคล้ายๆตอนจิตเกิดนั่นหละ
เราถึงต้องมา มำบุญกรวดน้ำ อุทิศส่วนกุศล
เพื่อให้น้ำเป็นดังสะพานนำพลังงานไปภายนอก
และความเย็นช่วยปรับกะแสร้อนจากภายนอกนั่นเอง

ปล.วิถีพลังงานคือการปรับสมดุลย์
ให้คืนสู่ธรรมชาติ ถ้าไปเกี่ยวแบบไม่ธรรมชาติ
เราต้องส่งมันคืนธรรมชาติทันที
ปกติบุคคลที่เข้าใจเล่นกับพลังงานจะรู้ดี
หากไปเล่น แต่ขาดการส่งคืนธรรมชาติ
ณ เวลานั้น มันจะกลายเป็นวิบากที่จะย้อนคืน
ทั้งผู้ส่งและผู้รับ ถ้าสะสมนานๆ
จะเป็นสาเหตุที่ทำให้เป็นโรคที่
รักษาไม่หายขาดโรคใดโรคหนึ่งที่ร้ายแรงได้
อย่างที่คาดไม่ถึง อาจเพราะ
เพราะเวลาปกติจิตยังไม่คลายตัว
หรือไม่รู้วิธีที่ทำให้จิตคลายตัว
หรือจิตไม่รู้สภาวะคลายตัวเป็นอย่างไร
เพื่อส่งพลังงานคืนสู่ธรรมชาตินั่นเอง
ตรงนี้เล่าให้ฟังเฉยๆนะ

** เรื่องเหนือธรรมชาติมันมีได้
เราเข้าถึงได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีแบบธรรมชาติ
หรือไม่ธรรมชาติ หรือทั้งสองวิธีร่วมกัน
แต่ประเด็นสำคัญคือ เข้าถึงแล้ว
ต้องกลับคืนสู่ธรรมชาติทันที ณ เวลานั้นๆ
ไม่งั้นธรรมชาติในกายเรามันจะขาดสมดุลย์
และหากสะสมมันจะทำให้ร่างกายพร่องได้
อย่างคาดไม่ถึง***
เล่าให้ฟังเป็นข้อคิดและหลักสังเกตุ

 

ถ่ายในระยะ 1 เมตร กล้องมือถือนะ(เก่งโครต ชมตัวเอง ^_^ )

 

ขอโชว์บ้างจิ
ออกตัวก่อนว่า รูปพวกนี้ถ่ายตอนอุณหภูมิประมาณ 4 องศา นิ้วงี้แข็งจนแทบกดชัตเตอร์ไม่ไหว เลยได้มาประมาณนี้

 

แถมๆ นกนางนวลกำลังคาบอาหารไปฝากลูกๆ

 

ส่วนรูปนี้ถ่ายใกล้ๆบ้าน

 

ป๋มชื่อเมาส์มุท เป็นอะบิสสิเนี่ยนฮับ