ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ด้วยหลักการแพทย์แผนไทย / วิธีฝึกและใช้พลัง(ปราณยาม)ในการรักษาโรค

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย suwi, 25 มกราคม 2008.

  1. tt8777

    tt8777 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +77
    ถ้างั้นรบกวนขอไฟล์ด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ
     
  2. aries2947

    aries2947 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    2,031
    ค่าพลัง:
    +11,622
    มหาโมทนาบุญด้วยนะครับ
    ขอรบกวนส่งให้ด้วยได้ไหมครับ
    ขอบคุณครับ
    aries_pipat@hotmail.com

    (aries_pipat@hotmail.com)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2012
  3. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +1,035
    เอางี้นะครับ โหลดเอาเลยครับแปะไว้แล้ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. wuttstock

    wuttstock เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +132
    ขออนุโมทนาบุญด้วยครับคุณ upanya มีประโยชน์มากครับ
    ขออนุโมทนาบุญกับอาจารย์ suwi ด้วยครับผม

     
  5. saimon2550

    saimon2550 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +1
    สวัสดีครับ อ.สุวิ ผมอายุ 42 ปี เป็นโรคโรซาเซีย และเซ็บเดริม หน้าแดง และหน้าลอก มาตั้งแต่เด็ก รวมทั้งเป็นตุ่มคันมาตลอด จนปัจจุบันก็ยังไม่หาย ขาดความมั่นใจในการพบปะผู้คนมาตลอดครับ มีโรคประจำตัวคือ ความดันโลหิตสูงด้วย รบกวน อ. ช่วยแนะนำด้วยครับ (ผมเป็นสมาชิกใหม่ครับ ถ้ามีอะไร รบกวนแนะนำด้วยครับ, รวมทั้งวิธีการซื้อยาด้วยครับ)
     
  6. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +1,035
    ช่วงนี้อ.คงวุ่นวายอยู่กับงานสมุนไพรแห่งชาตินะครับ

    ถ้าจำไม่ผิดโรคหน้าแดงเคยมีคนถามแล้วลองโหลดที่ผมแปะไว้ไปเสริตดูพลางๆก่อนครับ
     
  7. suwi2

    suwi2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    285
    ค่าพลัง:
    +5,308
    ในวิชชาการทั้งหลาย มีทั้ง วิชชาเป็น และวิชาตาย

    วิชชาเป็น หมายถึง วิชาที่มีชีวิต ดิ้นได้ มีการเจริญงอกงาม มีการขยายตัวทั้งในเชิงลึกและกว้าง มีการเปลี่ยนแปลงตัวมันเอง ให้ดีขึ้น ให้ ฯลฯ

    แต่วิชาตาย เป็นวิชาที่หยุดนิ่งแล้ว ไม่เจริญงอกงามอีก แต่ก็ยังคงมีคนใช้อยู่บ้าง
    เป็นวิชาที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เดิมเป็นเช่นไรเมื่อร้อยปี พันปี หมื่นปีที่แล้ว
    วันนี้ในปัจจุบัน ก็ยังคงเป็นเช่นนั้น ไม่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งโครงสร้างและวิธีการใช้ เช่น
    พวกพระเวทย์ พระไสย์ พันปีที่แล้วเป็นเช่นไร วันนี้ก็เป็นเช่นนั้น
    พวกคัมภีร์แพทย์แผนไทย ก็เช่นกัน หลายร้อยปีที่ผ่านมา เป็นเช่นใด วันนี้ก็เป็นเช่นนั้น
    โดยเฉพาะสูตรยา แก้โรคต่างๆ ไม่มีคนกล้าแก้ ไม่มีคนปรับปรุงยา
    โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ มันปรับตัวเจริญล้ำยุคไปแล้ว มีโรคแปลกๆใหม่ๆมากมาย
    แต่ยา ก็ยังคงสูตรยาตำรับยาเดิมๆ จะไปสูกับโรคไหวหรือ

    แต่ที่ไอ้หมอสุวิมันเรียนรู้นี่ มันเรียนหัวใจของแพทย์แผนไทย เป็นวิชชาเป็น ที่เจริญงอกงามได้
    ยาแต่ละตัว ที่มันใช้ ล้วนถูกปรับให้เจริญก้าวหน้าตามโรคต่างๆได้ทัน ยาถูกปรับแทบทุกครั้งที่ทำใหม่

    ที่บอกกล่าวไว้นี้ ก็เพื่อผู้ที่นำความรู้ที่ไอ้หมอเขียนไว้ สี่ห้าปีที่แล้ว รวมเล่มเอาไว่อ่านหาความรู้ ความบันเทิง
    จงรู้ไว้ว่า ความรู้นั้นๆเป็นวิชชาเป็น ที่ดิ้นได้ไม่หยุดนิ่ง
    สูตรยาที่ดีที่สุดในสมัยหลายๆปีที่แล้ว วันนี้อาจเป็นยาที่สุดห่วย มีข้อเสียมากมาย แต่ก็จะมีสูตรยาใหม่ๆมาทดแทน

    ความรู้และตำรายาของไอ้หมอสุวิที่ คุณยุปัญญา รวบรวมไว้ศึกษา เป็นสิ่งดี แสดงความเปลี่ยนแปลงในขบวนการเติบโตทางการแพทย์ของไอ้หมอมัน
    ขอให้ทุกคนที่ได้ศึกษา จงเข้าใจในขบวนการแห่ง"วิชชาเป็น"
    จะได้ใช้ประโยชน์สูตรยาต่างๆได้อย่างถูกต้อง "เพื่อยังประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน ให้สมบูรณ์พร้อม ด้วยความไม่ประมาทเถิด"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2012
  8. ไม่เป็นไร

    ไม่เป็นไร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +142
    อ.สุวิ คะ หนูได้ส่งพีเอ็มถึงอาจารย์นะคะ
     
  9. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    กลับมาแล้วจ้า ถ้าตอบใครไม่ครบ ทวงถามนะจ้า


    ได้ตอบ PM กลับไปแล้วนะ
     
  10. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543


    ในคนที่สมบูรณ์ ธาตุพลังงานสามตัว ต้องสมดุลย์กัน คือ
    ปิตะธาตุ(มี พัทธะ อพัทธะ และกำเดา)
    วาตะธาตุ(มี หทัยวาตะ สุมนาวาตะ และ สัตถกะวาตะ)
    เสมหะธาตุ(มีคูถเสมหะ อุระเสมหะ และสอเสมหะ)

    โรคโรซาเซีย หรือ โรคหน้าแดง เกิดจาก ปิตะธาตุพิการ
    ตัวที่พิการคือ อพัทธะ และกำเดา ทำให้เลือดร้อน(ง่าย)

    ตัวที่แก้อาการปิตะพิการ ก็คือ การเพิ่มเสมหะธาตุ และปรับพลังงานให้สมดุลย์
    ตัวยาที่ใช้ในการปรับสมดุลย์ง่ายๆ ก็คือ ใช้ตรีผลา เพื่อปรับ ในส่วนของ พัทธะ และอพัทธะ (ใช้อัตราส่วน มะขามป้อม สมอพิเภก สมอไทย = 1:1:2)
    ส่วนในเรื่องกำเดา ให้ใช้ยาเขียว หรือยาที่ชื่อ จันทลีลา

    ดังนั้น ยาง่ายๆ ในการรักษาโรค โรซาเซีย คือ ตรีผลา + ยาเขียว (หรือจัทลีลา) นั่นเอง
    ปัญหาที่ตามมา คือจะต้องกินยาตรีผลา และยาเขียว ปริมาณมากน้อยเท่าใดจึงพอ

    จำนวนที่แน่นอน คงต้องให้ผูรู้คำนวนจากธาตุแล้ว
    หรือให้ใช้จิตเข้าไปอ่านจากโครงสร้างของร่างกายเอา

    แต่โดยปกติ ก็ให้ใช้ ตรีผลา สักมื้อละ ๒-๔ เม็ด วันละ ๒- มื้อ
    และยาเขียว มื้อละ ๕-๙ เม็ด วันละ ๒-๓ มื้อ


    ส่วนโรคเซ็บเดริมนั้น เกิดจากเชื้อรา+ไวรัส หรือแบคที่เรียบางอย่าง(อาจเป็นยีสต์)+ไวรัสบางชนิด หรืออาจจะทั้งสามชนิดผสมกัน
    ยาที่ใช้รักษา ก็เป็นพวกตะกูลยาชะระน้ำเหลืองเสีย เช่นยาเหงือกปลาหมอ

    แต่เมื่อโรคโรซาเซียและเซ็บเดริม เกิดขึ้นในคนผู้เดียวกัน ก็จะรักษาได้ยากขึ้น
    คงต้องใช้ยาที่ปรุงเป็นพิเศษแล้ว

    ยาของหมอสุวิที่จะใช้รักษาโรคนี้มี
    จันทลีลา
    กาญจน์มณี
    ปลาหมอทอง

    ต้องการยา ติดต่อผ่าน PM
     
  11. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    อาการเหนื่อยง่าย มี ๒ กรณีคือ
    ๑. มาจากกระบังลมทำงานไม่ดี(เป็นอัมพฤกษ์อ่อนๆ)ทำให้หายใจสั้น หายใจไม่เต็มปอด
    บางครั้งหยุดหายใจเอาดื้อๆ พอรู้สึกตัว ก็รีบตะเกียกตะกายรีบหายใจ ทำให้เหนื่อย
    โรคนี้ค่อนข้างอันตราย เวลานอน จะหายใจไม่ค่อยได้เต็มที่ เวลาตื่นนอนมาจะเพลียมาก บางคนเป็นไหลตาย
    แต่คุณเพิ่งเป็นไม่นาน สบายใจได้ โรคไม่หายใจเวลานอนคงยังไม่ถึงขั้นน่าตกใจ
    เหตุแห่งโรคนี้เกิดจาก แกนสมองมีเลือดเข้าไปเลี้ยงไม่พอ กระแสประสาทที่เข้าไปเลียงกระบังลม จึงเป็นอัมพฤกษ์
    หรือ กระแสประสาทจากแกนสมองถูกบล็อกจากโรคบางอย่างเช่น กรดไหลย้อน ทำให้กระบังลมไม่ทำงาน
    (กระบังลมเป็นตัวทำให้ปอดขยายและหดตัว)

    ๒.เกิดจากเส้นเลือดหัวใจตีบตัน
    ตัวคุณเองตรวจหัวใจแล้ว ผลไม่เป็นโรคนี้
    และผมก็เช็คซ้ำแล้วคุณไม่เป็นโรคนี้แน่นอน


    แต่สิ่งที่พบคือ ไฟธาตุในตัวต่ำมาก คล้ายกินอาหาร หรือยา ที่มีรสเย็นเป็นประจำ ทำให้ไฟธาตุถูกทำลาย
    อาจจะเป็น(เดาๆเอานะ) ชาเขียว น้ำใบย่านาง ฯลฯ

    ดังนั้นสรุปได้เลยว่าคุณเป็นโรคกรดไหลย้อนแล้ว
    การแก้ไขง่ายๆ ให้ไปซื้อยา โสมสกัดที่มีขายในร้านขายยามากินสักพัก กินก่อนนอนนะ ๑ เม็ด
    และให้ซื้อ ตรีผลามากินมื้อละ ๒ เม็ด วันละ ๒-๓ มื้อ (เช้า กลางวัน เย็น)

    หรือจะอุดหนุนซื้อยาหมอไปกินก็ได้นะ
    มียาปลูกเตโช กาณจน์มณี และขมิ้นทอง
     
  12. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    ปั้นขนาดเม็ดมะยม กินครั้งละ ๒ เม็ด เช้า และก่อนนอน
    ใช้นมเปรี้วเป็นกระสายา
    ผมจะมีสีเข้มขึ้นช้าๆ พวกผมร่วง ก็จะมีผมอ่อนขึ้นด้วย (ถ้ารากผมยังไม่ตาย)

    ใช้เวลานานที่เดียว มากกว่า ๖ เดือน จึงจะเห็นชัด
     
  13. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    อาการในข้อที่ ๑ ให้ทำยาดังนี้
    ๑. ต้นม่านพระอิทร์ ๑ กำมือ
    ๒. ข่าแก่ เท่าหัวแม่ตีน
    ๓. ใบมะกรูด ๑ กำมือ
    ใส่หม้อต้ม จนข่าสุก
    ทั้งกินและอาบ(หรือชะโลม/ทา)
    จะหายขาด

    อาการในข้อที่ ๒ ใช้ยาประสะไพล
    เซริทร์หาดูในกูเกิล เขาจะบอกสูตรการทำให้เสร็จ
    บางที่เขาทำสำเร็จรูปไว้ขายด้วย

    ยาตัวนี้หมอสุวิก็ทำขาย
    ปรับสูตรใหม่ ให้ชื่อว่ายา "ประสะไพลทอง"
     
  14. ไม่เป็นไร

    ไม่เป็นไร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +142
    เปิดพีเอ็มอ่านแล้ว ขอบคุณ อ.สุวิ ค่ะ
     
  15. poonoy

    poonoy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +219
    ขอบคุณค่ะ
     
  16. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +1,035
    เรียนคุณหมอกวาวแดงและกวาวดำหากผู้ชายกินมาก ประมาณ1-2เม็ดพุดทราต่อวันแต่กินช่วงสั้นประมาณ2เดือน
    จะเป็นอันตรายอย่างไรครับ
    ถึงกับเป้นมะเร็งหรือเปล่าครับ
     
  17. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +1,035
    คุณหมอครับ ไปงานสมุนไพรแห่งชาติมาครับ เจอมะตูมนิ่ม นัยะว่าใช้ปรุงยาลูกแปลกแม่
    กลับมาหาข้อมุลเพิ่มเติม ยังสับสนวิธีการปรุงกับสัดส่วนยาครับ
    ในตำราบอกว่าใช้มะตุมนิ่ม1ลูก กล้วยน้ำไทย1หวี พริกไทย1ทะนาน นึ่งให้สุกแล้วเอามาบดรวมกันตากแห้งแล้ว
    บดผงปั้นลูกกลอน ยังงงอยู่ไม่รู้เข้าใจถูกมั๊ยครับ ถ้าเราเอามะตูมมาคั่วแล้วผสมกล้วยกับพริกไทยร่อน จะได้เหมือนกันหรือเปล่าครับ
    และยาสูตรนี้บังคับผสมน้ำผึ้งหรือเปล่าครับ

    ตกลงมะตุมนิ่มกับมะตูมธรรมดา มีสรรพคุณต่างกันอย่างไรครับ

    ยาลูกแปลกแม่มีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะตามตำราประเภททำให้ธาตุในตัวสมดุลถูกต้องมั๊ยครับ

    ขออภัยที่ถามเยอะนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2012
  18. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    คำว่า ขนาดเท่าเม็ดพุทรา(ไทย) นี่ ฟังเผินๆนะ
    บางคนก็นึกถึง เม็ดในพุทราที่เป็นเมล็ดแข็งๆนะ มันไม่ใหญ่นัก(ใหญ่กว่าเม็ดในมะยมไม่มาก
    แต่บางคนกลับไปนึกเอาลูกพุทรา ทั้งเนื้อและเมล็ดใน
    การนึกทั้งสองแบบนี่มันต่างกันแยะนา

    เอาว่าเป็นเม็ดในพุทราก็แล้วกันนะ(ไอ้เมล็ดแข็งๆข้างในนะ)
    ยากราวเครือ กินขนาดนี้ วันะ ๑-๒ เม็ดนี่ ยังถือว่าปกติไม่มากไป
    แต่ปกติทั่วๆไป จะกินยาเพียง ๑ เม็ดต่อวันนะ
    ถ้ากินมาก ถึง ๒ เม็ดนะ ถ้ากินตลอด(กินนาน) ยาจะเผาร่างให้ดำคล้ำและผอมเกร็ง(แต่แข็งแรงนะ)

    ดังนั้นคำถามที่ถามมา คำตอบคือไม่มีอันตรายถึงชีวิต
    ส่วนเรื่องมะเร็งนี่ ไม่เกียวกัน ยกเว้นในร่างกายของผู้นั้นมีเชื้อมะเร็งอยู่แล้ว

    และปกติกราวเครือจะมีพิษอ่อนๆอยู่ ซึ่งร่างกายปกตืจะขับออกได้
    ถ้ากินมากเกิน อาจสะสมในตัวให้เป็นโทษแก่ร่างกายได้
    (มีพิษธาตุร้อน(ไฟ)มากเกินทำให้ร่างกายเสียสมดุลย์ ความเจ็บป่วยจะเกิดจากการเสียสมดุลย์นี้)

    การแก้พิษ โบราณเราใช้ ตรีผลาผสมกับกราวเครือ ตั้งแต่ 1:1 , 2:1 , 3:1 ,.........
    แล้วแต่จุดประสงค์ในการใช้งาน เช่น
    ใช้เป็นยาอายุวัฒนะทั่วๆไป ส่วนใหญ่ ก็อยู่ที่ อัตราส่วน 2:1 ถึง 4:1
    ส่วนการบำรุงเส้นผม บำรุงสายตานี่ ต้องใช้ ตรีผลาแยะหน่อย อัตราส่วนจึงเป็น 10:1
    เพราะยาบำรุงเส้นผมและสายตาอยู่ที่ตรีผลาเป็ส่วนใหญ่ ส่วนกราวเครือ งานนี้เป็นผู้ช่วย
     
  19. ไข่ต้ม14

    ไข่ต้ม14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +385
    สวัสดีคะอาจารย์ หนูมารายงานผลจากการกินยา เดือนที่สอง จากการสังเกตแล้วประจำเดือนมาปกติและไม่มีกลิ่นแล้วค่ะ อาการปวดท้องมีนิดหน่อยแต่ไม่มาก และที่สำคัญตอนนี้รู้สึกว่าหอบหืดไม่ค่อยแสดงอาการเลย ไม่เหนื่อยเวลาเดินขึ้นบันได สามารถออกกำลังกายได้บ้างค่ะ ตอนนอนตอนกลางคืนก็หายใจสะดวกขึ้นค่ะ ต้องขอบคุณอาจารย์ที่มียาดีๆ และยังเป็นสมุนไพรไม่มีอันตราย เท่ากับยาแผนปัจจุบัน หนูว่าร่างกายแข็งแรงขึ้นค่ะ จึงอยากให้อาจารย์ทราบเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงว่ามีแนวโน้มดีขึ้นมากเลยค่ะ
     
  20. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    ยาลูกแปลกแม่ เป้นยาอายุวัฒนะของสัตรี (มีฮอโมนเพศหญิง-มาจากกล้วยน้ำไท)
    ตัวยามีเพียง สามตัว มะตูมนิ่ม กล้วยน้ำไท และเมล็ดพริดไทย
    หากเทียบสรรพคุณ กัยยาอายุวัฒนะพระนาราย์(สูตร ทิ้งท่อง ตะโกนา ฯ) ยาลูกแปลกแม่ ดีกว่ามาก เพราะความสมดุลย์ของธาตุ ลงตัวกว่า
    แต่ถ้าปรับสูตรยาพระนารายณ์ให้ลงตัว สรรพคุณ ก็กินกันไม่ลง
    ยาลูกแปลกแม่จึงเป็นยาสำหรับสัตรี ยาพระนารายณ์เป็นยาสำหรับบุรุษ

    มะตูมนิ่ม เป็นมะตูมพันธ์พิเศษ ที่เมื่อผลสุกผิวของผลจะนิ่ม เอานิ้วกดดูจะออกนิ่ม(เหมือนผิวส้มโอแข็งๆ) ปัจจุบัน หายาก
    แต่มะตูมธรรมดานี่ ผิวจะแข็งเป็ก เอาเล็บหยิกยังหยิกไม่ลงเลย
    การทำยา
    มะตูมนิ่ม ใช้ทั้งเนื้อและเปลือก
    กล้วยน้ำไท ใช้ผลสุก แกะเอาเฉพาะเนื้อ (ปัจจุบันก็หายากเช่นกัน)
    พริกไทยนี่ ให้ใช้พริกไทยร่อนดีที่สุด(แต่บางที่ ท่านว่าเป็นพริไทยดำนะ)

    วิธีทำแต่โบราณนี่ เขาเอาทั้งสามตัวมานึ่งให้สุก แล้วเอาลงครกตำให้แหลก
    แล้วใส่โหลเก็บไว้กิน ปั้นกินเช้าเย็น ครั้งละ ๑ เม็ด ขนาดเท่าลูกพุทราไทย(ทั้งเนื้อทั้งเมล็ด)
    แต่บางท่าน หลังจากตำจนแหลกดีแล้ว ก็เอามาแผ่เป็นแผ่นบางๆ ตากแดดจนแห้งสนิทแล้ว เอามาบดเป็นผง เก็บไว้กิน(บางท่านก็ผสมน้ำผึ้งปันลูกกลอนกิน)
    ลองซิมมูเลทดู อัตราส่วนที่ลงตัวที่สุด สำหรับตำรับนี้คือ
    มะตูมนิ่ม กล้วยน้ำไท พริกไทยร่อน = 2 : 3.5 : 7 (เรียกว่าตำรับของสดก็แล้วกัน)

    ปัจจุบัน การทำยานี่เขามีเครื่องอบแห้ง จึงนิยม อบให้แห้งแล้วเอามาบดอีกที่
    ได้ซิมมูเลทดู อัตราส่วนของตำรับอบแห้งนี่ ไม่ยักเหมือน ตำรับของสดนิ
    มะตมนิ่ม กล้วยน้ำไท พริกไทยร่อน (ของแห้ง) = 1 : 1.75 : 10.5

    ยาตำรับนี้ไม่บังคับ ผสมน้ำผึ้ง
    ผสมก็ได้ ไม่ผสมก็ได้ ลองซิมมูเลทดู ไม่ต่างกันมากนัก
     

แชร์หน้านี้

Loading...