ปรากฏการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นขณะผมนั่งสมาธิครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย cb33, 5 ตุลาคม 2007.

  1. ไอ้ใบ้

    ไอ้ใบ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,254
    ค่าพลัง:
    +7,241
    นั่งทับเส้น โลหิตไหลเวียนไม่เต็มที่ครับ
     
  2. fujiayu

    fujiayu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,001
    ผมเองก็เป็นครับ ขาชาและที่คอ เป็นเรื่องปรกติมากกว่า
    อย่างที่คุณ พ้น บอก การหมุนเวียนของโลหิตไม่เต็มที่
    นั่งทับขา่ก็ต้องมีอาการ ขาชา ผมเองนี่ยกขาออกไม่ได้เลย
    ต้องใช้มือช่วย อาการหมุน ก็เคยเป็น อย่าลุกจากที่เลย
    ไม่อย่างงั้นจะปวดหัวหรือหัวหมุนทั้งวัน อาการคลื่นไส้ก็เคย
    เป็น ปวดหัวก็เคย หายใจไม่ค่อยออกก็เคย ยิ่งนั่งจิตก็ยิ่งสับสน
    โดยเฉพาะหลังจากนั่งเสร็จก็เคย เวลาไม่สบอารมณ์ยิ่งทำให้
    จิตแสดงตัวโกรธออกมากว่าที่เคยเป็น เหมือนกับหญ้าที่ถูกหินทับไว

    การนั่งก็หนีไม่พ้นคำว่า เวทนา เกิดกับทุกคน อยากให้่ไป
    อ่านของ หลวงพ่อจรัล ท่านสอนไว้ดีมาก
    http://www.jarun.org/v6/th/home.html
     
  3. pongthanaR

    pongthanaR สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +9
    ขอถามอะไรนิดหน่อยนะครับพอดีผมเป็นสมาชิกใหม่แล้วมาเห็นกระทู้นี้เข้าเลยอยากเล่าให้ฟัง
    มีอยู่ครั้งหนึง่ที่ผมนั่งสมาธิแล้วได้ยินเสียงบอกว่า"เลิกได้แล้ว" ผมก็ไม่สนใจแล้วก็นั่งต่อจนมีเสียงอีกว่า"เลิกได้แล้วไม่งั้นจะหายไปตลอดกาล" หลังจากนั้นผมก็รีบลืมตาทันทีเลยแล้วผมก็ไปเล่าให้อาจารย์ที่โรงเรียนซึ่งท่านก็นั่งสมาธิเหมือนกันท่านบอกว่า อาจจะเป็นเสียงของมารที่มารบกวนไม่ให้ผมนั่งสมาธิ
    ผมเลยอยากรู้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรท่านผู้รู้ช่วยตอบผมด้วยนะครับ
    ขอบคุณครับ
     
  4. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    มารทั้ง ๕

    มารทั้ง ๕ นี้จะเป็นตัวขวางไม่ให้เราบรรลุความสำเร็จ นั่นเองซึ่งมีดังนี้

    ๑.ขันธมาร ความปวดซึ่งเกิดจากการปรุงแต่งของร่างกายส่วนต่าง ๆ เมื่อออกจากฌานแล้วความปวดนั้นจะตามออกมาด้วย ต้องใช้เวลาสักพัพใหญ่จึงค่อย ๆหายไปเอง ซึ่งก็เป็นกรรมชนิดหนึ่งนั่นเอง

    ๒.กิเลสมาร ความปวดซึ่งเกิดจากกิเลสของตนเองเป็นตัวปรุงแต่งขึ้นมา เมื่อออกจากฌานแล้วความปวดนั้นจะหายไปทันที

    ๓.อภิสังขารมาร ความเจ็บปวดที่เกิดจากกรมเก่า เมื่อนั่งฌานครั้งใดก็ต้องปวดตรงจุดเดิมทุกครั้ง ซึ่งจะปวดไปจนกว่าจะหมดจากกรรมนั้น ๆ

    ๔.เทวปุตตมาร คือ เทวดาที่เป็นมิจฉาทิฐิ ในระหว่างที่เรานั่งสมาธิมารทั้งหลายจะไม่สามารถที่จะทำอะไรเราได้ในรัศมี 1 วา รอบตัวเรา เพราะขณะที่นั่งฌานนั้น จิตเราเป็นพรหม ซึ่งสูงกว่าเทวดาทั้งหลาย แต่เทวปุตตมารก็สามารถสร้างปัญหาให้เราได้ เช่น ทำของหล่น , พยายามทำให้เราเสียสมาธิ
    ของคุณฯ เขาทำให้เสียสมาธิโดยการเรียกชื่อ

    ๕.มัจจุมาร เป็นมารชนิดที่ร้ายแรงที่สุดซึ่งก็คือความตาย ขึ้นอยู่กับกรรมของแต่ละคนว่าจะถึงเมื่อไร เช่น บางคนชีวิตไม่เคยรู้จักธรรมะเลย แต่พอได้พบธรรมะ กำลังจะทำความดี ก็ดันมีกรรมมาตัดรอนทำให้ถึงความตายเสียก่อน อย่างนี้เรียกว่า มัจจุมารเอาไปกิน

     
  5. v.mut

    v.mut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2006
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +274
    ตามอาการที่คุณ Cb107 เล่ามานั้น ที่หลังทำใจแข็ง ๆ สักนิด วางจิตวางใจเป็นอุเบกขา ตั่งมั่น ให้ผ่านอาการนี่ไป ก็จะข้ามขึ้นไปอีกชั้นหนึ่ง

    เป็นเพราะยังไม่ชำนาญนั้นเอง

    วิธีแก้ไข คราวหน้าเจออาการนี่ ให้ประคองความรุ้สึกเอาไว้โดยไม่ให้ตกใจกระเพื่อมไหว แล้วหายใจเข้าออกลึกๆ ช้าๆ สักสองสามครั้ง หลังจากนั้นก็ระลึกรู้ลมตามปรกติธรรมดาเหมือนเดิม ประครองรู้ปล่อยวาง พอเป็นอีกก็ทำเหมือนเดิมอีก อาการติดขัด เกร่ง ก็จะหายไป เป็นวิธีแก้วิธีหนึ่ง

    พละ ของ สติ และ สมาธิ จะต้อง คู่เคียงกันไป พร้อม กัน

    การเข้าสมาธิ อย่าเพิ่งรีบปล่อย หรือ ให้ลมหายใจละเอียดเร็วจนเกินไป ให้ระลึกรู้ลมชัดเอาไว้ก่อน สั่งสมพละ ของสติ และ สมาธิไปเรื่อย ๆ เมื่อมีกำลังพอที่จะพลิกขึ้น ก็จะเป็นไปเอง พอลมละเอียดลงอาการดังกล่าวก็จะไม่เกิดขึ้น ส่วนคนที่ชำนาญแล้วคือ พละมากแล้วก็จะไม่เป็นปัญหา

    ลองพิจารณาดู
     
  6. ปานโสม

    ปานโสม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +18,151
    อนุโมทนา กับทุกท่าน...ในความเมตตา
    ชี้แนะแก้ปัญหา ในการฝึกฝนกรรมฐาน

    เทคนิคนี่เป็นเรื่องเฉพาะตัวตามความถนัดจริงๆ
    การเจริญฌาณ อนุโลม-ปฏิโลม
    หลักๆก็ใช้สติพอถอยมาที่อุปจารสมาธิ ก็เจริญควบอาณาปานสติ
    หรือธาตุ4 หรือ อสุภะ
    เก็บละเอียดไปเรื่อยๆ ให้สติละเอียดมากขึ้น
    เพราะช่วงต่อระหว่างฌาณต่างๆนี่ หากสติไม่ทันจะไม่ค่อยเห็นเลย
    บางคนเดินฌาณไวมากไวจนเกินไป ต้องย้อนกลับมาหัดเดินช้าๆ
    เพราะหากติดฌาณ แล้วไม่รู้ทางแก้ ก็จะติดกันนานนม


     
  7. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    โอ้เก่งๆทั้งนั้นเลย
    ผมไม่มีความรู้อะไรมาก บอกก็ไม่ค่อยถูก ไม่รู้ว่าแต่ล่ะท่านเป็นยังไง
    ไม่รู้ว่าฝึกกันยังไง

    แต่เรื่องแสงเป็นเรื่องปกติ หากทำสมถสมาธิ แบบอาณา แสงมันจะเกิดขึ้น อย่าลืมตา เพราะลืมตาไปมันก็ไม่เห็น และเรื่องหมุนอีก อยู่ในขั้นอุปจารสมาธิ ไม่ต้องสนใจมาก แค่รู้ว่ามีแสงเว้ย มันหมุนเว้ย สักพักมันจะค่อยๆหายครับ เรื่องมีแสง เรามักจะคิดว่ามีอะไรมาโผล่ตรงหน้าหรือเปล่าถึงมีแสง ความจริงมันไม่มีครับ ไม่มีอะไรเลย บางคนตัวลอย อันนี้น่าตกใจกว่า เพราะเกิดตกใจลืมตามา มันจะตก อิอิ

    ส่วนไอ้แขนหายนั้นมันเริ่มเข้าญาณ สี่แล้ว จิตจะไม่รับรู้เกี่ยวกับร่างแล้ว( ผมก็ไม่ได้รู้มาก ตอนนี้ยังไม่เคยเข้าถึงญาณสี่เลย แต่เคยเป็นสมัยเด็กๆ)

    วิธีการถอดก็ไม่ยาก ก็แค่มารับรู้สัมผัสในร่างกาย รู้ว่ามันอยู่ท่าไหน แล้วค่อยไปที่ลมหายใจ ภาวนาว่าพุทโธ หลังจากนั้นก็หายใจยาวๆแรงๆให้รู้ลมเข้าออก แล้วก็ลืมตา (วิธีถอดจากญาณสี่ ผมฝึกคนเดียว ไม่มีใครสอนผมยังถอนเป็นเลย ถอนมันง่ายว่าเข้านะครับ)
     
  8. West Wind

    West Wind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    149
    ค่าพลัง:
    +564
    สำหรับข้าพเจ้า จะมีความรู้สึกเหมือนมีวงแหวนสีขาวมัวๆ หลายๆวง
    พุ่งจากวงหัวไปข้างหน้า พอเรายิ่งเพ่งตามวงกลมนั้นไปเรื่อยๆ จะรู้สึกเพลิน
    ยิ่งเพ่งก็เหมือนพยายามตามวงกลมนั่นไปข้างหน้าให้ทัน ...
    พอลองถอยออกจากการเพ่งตามวงกลมนั่นไป
    ก็จะพบแต่ความว่างเปล่า คือความมืดสนิท ความรู้สึกตัวก็กลับมา

    อาการนี้คืออะไรคะ
     
  9. fujiayu

    fujiayu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,001
    ไปที่นี่ http://luangpor.com/
    เลือกบท อานาปานุสติกัมมัฏฐาน
    รับรองได้ว่าเข้าใจทุกอย่างท่านสอนดีมาก
     
  10. combasion

    combasion เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +598
    อนุโมทนา ทุกท่านครับ
    ผมก็ฝึกสมาธิคนเดียวคับไม่มีอาจารย์สอนเหมือนกัน แต่ทุกตำราที่ผมอ่านก็ถือว่าเป็นอาจารย์ผมหมดละ แต่ผมก็ไม่เคยสนใจอาการของปิติ หรือว่า ฌาณ เลย เวลาผมนั่งสมาธิอะครับ ผมทำผิดเปล่าครับ คือ ถ้าเกิดอาการ อะไรต่างๆ ไม่ว่าจะมีแสงสว่าง หรือ ภาพอะไรที่เรากลัวขึ้นมา ผมจะคิดว่า เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป แล้วใช้สติมาจับที่จิตที่กำลังกลัว แล้วใช้ปัญญาพิจารณาว่าทำไมเราถึงต้องกลัว เรากลัวทำไม แล้วเราจะเจอคำตอบเอง ที่ผมทำก็ทำอย่างนี้อะคับ ไม่รู้ว่าทำผิดเปล่าช่วยชี้แนะด้วยนะครับ เพราะประสบการณ์ผมยังน้อยอยู่
     
  11. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,514
    ค่าพลัง:
    +27,181
    ตัวล่อให้เสียเวลา
     
  12. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,514
    ค่าพลัง:
    +27,181
    ตามความกลัวทันก็ประสบการณ์ไม่เบาแล้วหละ
    มาจนถึงขั้นนี้ไปต่อที่วัดเอาแล้วกันเน้อ
     
  13. ศิษย์น้อย

    ศิษย์น้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    427
    ค่าพลัง:
    +3,047
    พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษี เทศน์ไว้ครบถ้วนทุกอาการ
    ผมจำชื่อตอนไม่ได้..
    ลองๆ ค้นดูในบอร์ดเสียงพระธรรมเทศนานะครับ

    โมทนาบุญด้วยครับ

    เรื่องแสงไม่มีอะไรต้องไปสนใจมันนะครับ
    รักษาพุท-โธ ต่อไป
    (เว้นแต่ ใครที่ฝึกมโนมยิทธิ)

    อาการขาชาๆ เหน็บๆ จากการนั่งนานๆ
    หลวงพ่อให้เราหาท่านั่งที่สบายๆ
    เช่นนั่งพับเพียบ
    หรือจะนั่งเหยียดขา นั่งเก้าอี้ก็ได้

    ถ้าตรงส่วนขาของเราถูกกดทับนานๆ
    เลือดไหลเข้าไปเลี้ยงได้ไม่สะดวก
    ก็จะเกิดอาการชาได้ครับ

    (ยกเว้น ผู้ปฏิบัติขั้นอุกฤตนะครับ)

    คำตอบดังกล่าวเหมาะสำหรับผู้ฝึกสมาธิขึ้นสมถะภาวนานะครับ
    ผู้ฝึกขึ้นอุกฤต..ก็อ่านข้ามไปได้เลยขอรับ
     
  14. combasion

    combasion เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +598
    เมื่อก่อนตอนอยู่ ม.ต้น และ ม.ปลาย ผมจะเป็นคนอารมณ์ร้อน ขี้โมโห แล้วผมลองมาฝึกสมาธิ เพื่อที่จะได้อารมณ์เย็นลง เพื่อลดความขี้โมโห ผลก็คือ อารมณ์โกรธหรือโมโหมันไม่แสดงออกมา แต่มันถูกกดด้วยอารมณ์สมาธิ แต่มีอยู่วันผมได้ทะเลาะกับแฟน แทนที่อารมณ์โกรธไม่แสดงออกมา อย่างทุกครั้ง แต่กับระเบิด ออกมามากมายกว่าเดิมจนรู้สึกได้ ผมจึงรู้ว่าสมาธิไม่ได้แก้อาการขี้โมโหของผมเลยมันแค่ไปกดไม่ให้มันแสดงออกมา จนผมมาอ่านคำสอนของพระอาจารย์ท่านหนึ่งต้องขออภัยเพราะผมก็จำชื่อท่านไม่ได้ละ ท่านสอนให้มีสติรู้เท่าทันอารมณ์ ไม่ว่า ความสุข ความทุกข์ หรือเฉยๆ ให้จิตเป็นเพียงแค่ตัวรู้ รู้แล้วก็วาง ซึ่งทำให้ผมสามารถรู้ทันอารมณ์โกรธได้เมื่อรู้แล้วเราก็วาง
    แล้วหลักนี้ผมก็เอามาใช้กับการนั่งสมาธิด้วย คือ รู้ให้ทันอารมณ์ ตอนนั่งสมาธิ คือผมเคยนั่งสมาธิครั้งหนึงแล้วรู้สึกว่า มีบางอย่างพุงขึ้นไปข้างบนอย่างรุนแรง ในขนาดนั้นเองผมรู้สึกกลัวมาก พอตั้งสติได้เท่านั้นก็เอาสติมาจับ แล้วถามตัวเองว่า กลัว อะไร คำตอบที่ได้ จากจิตคือ ผมกลัวตาย โดยก่อนหน้านี้พอตื่นนอนผมต้องคิดถึงความตายเสมอ คิดถึงความตายจนคิดว่าตัวเอง นั้นไม่กลัวตายแน่ๆ แต่พอเจอเหตุการณ์นี้จึงพบว่าตัวเองยังกลัวตายอยู่ มันกลัวจิงๆผมบรรยายไม่ถูกจิตมันบอกว่ากลัวมากๆ ถึงตรงนี้ผมยังหาทางแก้ไม่ได้
    ใครพอรู้วิธีแก้ช่วยบอกทีครับ จักขอบพระคุณอย่างสูง
    สุดท้ายขอขอบคุณทุกท่านสำหรับคำแนะนำดีๆ
     
  15. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,514
    ค่าพลัง:
    +27,181
    หายใจเข้าก็นึกว่า ตายแน่
    หายใจออกก็นึกว่าตายแน่
    สวดอิติปิโสสามห้องทุกวัน
     
  16. fujiayu

    fujiayu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,001
    ข้อความโดยคุณ combasion ผมเองก็เคยกล่าวไว้แล้ว
    มันเหมือนกับหญ้าที่ถูกหินทับไว้ ดีัใจด้วยกับคุณ combasion
    ที่เห็นอารมณ์จิตบางอย่าง เช่น โกรธ คนที่นั่งมานาน
    เวลาที่แสดงออกมานี่ มันรุนแรงดีแท้ๆ ถือเป็นเรื่องปรกติ
    ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ให้ไปฟังเวบ http://luangpor.com/
    มีเวลาก็ฟังไปครับ ผมเองยังอัดไว้ฟังเวลากลางคืน มีประโยชน์
    มาก หลวงพ่อท่านเข้าใจสอน
     
  17. Gyroscope

    Gyroscope Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +38
    ผมก็ขอถามด้วยคนนะครับ

    คือว่าตอนนั่งกรรมฐานอยู่รู้สึกว่ามันนิ่งมากครับ
    มันรู้สึกว่ากลางหน้าผากมันหมุนวน
    (เป็นเกือบอาทิตย์เลยพอเลิดนั่งกรรมฐานก็ไม่หายครับ)
    แล้วก็มีเหมือนก้อนกลมๆอยู่ที่ท้องครับรู้สึกว่าจะใสมากๆเลยครับ
    พอนั่งต่อไปสักพักก็เกิดแสงส่องมาที่ดวงตาครับสว่างจ้าเลยครับ
    รู้สึกว่าตอนนั้นเย็นไปทั่วทั้งต้วเบามากๆครับ
    ตอนนั้นมันรู้สึกยังไงไม่รู้บอกไม่ถูกครับ
    แล้วก็เหมือนตัวเราระเบิดแตกออกเป็นเหมือนแก้วละเอียดออกไปทั่วครับ

    และบางเวลาผมก็เห็นเงาของตัวเองมี2เงาครับมีเงาทึบกับเงาใสเป็นเเก้วครับ

    ใครพอรู้ช่วยอธิบายให้ผมทีครับ
     
  18. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,514
    ค่าพลัง:
    +27,181
    ไปฝึกต่อที่นี่เลย
    http://www.dhammakaya.org/
    มีรถมารับที่หน้าโรงเรียนวัดสระเกศ
    ราวๆ6โมงเช้า
    ทุกวันอาทิตย์
     
  19. combasion

    combasion เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +598
    ขอบคุณครับ สำหรับคำแนะนำ ผมลองเข้าไปดูในเวบละครับ เห็นในเวบมีสนฝึกมโนยิทธิด้วย ผมมีข้อสงสัย หลายอย่างครับ สำหรับผู้ที่เคยฝึกนะครับ
    1 คนที่เคยฝึกแล้วเห็นเทวดา นรก สวรรค์ หรือ สิ่งที่อยู่นอกเหนือที่ตามนุษย์สามารถมองเห็นนี้ เป็นของจริงหรือ ว่าสมองเราปรุงแต่งมันขึ้นมาครับ ถ้ามันเป็นของจริง แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราไม่ปรุงแต่งขึ้นมา
    2 ถ้าเราสามารถฝึกสำเร็จแล้ว แต่ ว่าเราเอาไปใช้ในสิ่งที่ผิด แล้วมันเสือม เราสามารถฝึกใหม่ได้อีกครั้งไหมครับ
     
  20. fujiayu

    fujiayu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,001

แชร์หน้านี้

Loading...