ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>จีนสั่งอพยพผู้คนเรือนแสน! หวั่นน้ำจาก

 

ผมขออนุญาตินำคำทำนายเมื่อ 2 ปีที่แล้วมาให้อ่านกันอีกครั้งนะครับ เจ้าของบทความนี้เขียนไว้ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. 2548 เวลา 11:09 น. ที่เว็บหาดใหญ่ ไอทีดอทคอม ใช้นามปากกาว่าพลังจิต ซึ่งผมเห็นว่าเหตุการณ์ตามคำทำนายนี้เริ่มปรากฎเป็นจริงแล้ว จึงนำมาเผยแพร่ให้ได้รับรู้โดยทั่วกันครับ

ดวงชะตาบ้านเมือง.....ฝันร้ายประเทศไทย

ทางออกของความขัดแย้งระหว่าง ทักษิณ-สนธิ ไม่มี แต่จะมีแต่ทางไปนรกด้วยกันทั้งชาติ เพราะอีกไม่นานจะเกิดการปะทะกันใหญ่โตระหว่างม็อบ บ้านเมืองจะวุ่นวายหนัก จน จนท.ออกมาปราบไม่ไหว แล้วบานปลายไปเรื่อย

สุดท้ายหุ้นตกกันระนาว, บริษัทฯต่างๆพากันเจ็งระนาว เพราะรัฐบาลจะไม่มีเวลามาบริหารบ้านเมือง ในเมืองหลวงจะเกิดจลาจลไปถึงปลายปีหน้า(มีม็อบต่างๆประจันหน้ากัน ) แล้ว ผู้คนในบ้านเมืองจะอยู่กันอย่างแร้นแค้น บริษัทฯทั้งหลายพากันปิดตัวไปตามๆกัน ปี 50 ต้นปียุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ ก็จะไม่ราบรื่นอีกมีการปลุกระดมล้างแค้นกันวุ่นวาย คราวนี้จะหนักและบานปลายยิ่งกว่าตอนฟองสบู่แตกเตรียมตัวเตรียมใจกันไว้ให้ดีเถอะ

ใครมีสตางค์ก็เก็บๆกันไว้ให้ดี อย่าหลงภาพลวงตาเพราะสถานการณ์ตอนนี้มันกำลังเดินทางไปสู่เส้นทางนรก ที่กำลังจะมาถึงอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า(การจลาจลวุ่นวาย) นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมหลวงตามหาบัวจึงได้เชิญผู้ใหญ่ 2 คน(ที่มากด้วยทิฐิ)มาคุยกัน โดยหลวงตาเป็นกาวประสานใจ เพราะหลวงตามองเห็นด้วยญาณว่าอีกไม่ช้าไม่นานคนทั้งชาติจะประสบชะตากรรมเช่นใด พลอยติดร่างแหไปเพราะคน 2 คนทะเลาะกัน แล้วทำให้ชาติล่มจมไปทั้งหมด ใครที่เคยใช้ชีวิตสมถะอยู่อย่างสันโดษก็จะไม่ทุกข์มากหรอก ส่วนผู้ที่ฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมเตรียมตัวเป็นขี้ครอกเดินตามตรอกได้แล้ว.....นรกกำลังจะมา

- พลังจิต -

ที่มา http://www.hatyaiit.com/webboard/view.php?category=com&wb_id=448

หมายเหตุ ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นในปี 48 ตามคำทำนาย แต่ดูจากสถานการณ์ในปัจจุบันนี้แล้ว มีแนวโน้มเป็นไปได้สูงมากว่าเหตุการณ์ตามคำทำนายนี้จะกลับมาเกิดขึ้นในปี 51 ก็เป็นได้เพราะฉะนั้นเพื่อความไม่ประมาทเราก็ควรเตรียมพร้อมเอาไว้ เพื่อรับมือกับเหตุการณ์นี้เอาไว้ให้ดีครับ​

 

อาฟเตอร์ช็อกในจีนเมื่อวานทำลายบ้านเรือนไปกว่า 420,000 หลัง

​

ปักกิ่ง 28 พ.ค. - จีนเกิดอาฟเตอร์ช็อกอีก 2 ครั้ง เมื่อวานนี้ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 63 คน และบ้านเรือนพังทลายมากกว่า 420,000 หลัง และแม้เครือข่ายตรวจจับแผ่นดินไหวแห่งชาติจีนระบุว่า อาฟเตอร์ช็อก 2 ครั้งที่เกิดขึ้น วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.4 และ 5.7 ตามมาตราริกเตอร์ แต่สำนักงานตรวจสอบธรณีวิทยาของสหรัฐกลับยืนยันว่า วัดแรงสั่นสะเทือนได้เพียง 4.5 และ 5 ตามมาตราริกเตอร์

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า อาฟเตอร์ช็อกเกิดที่เมืองชิงฉวนในมณฑลเสฉวน และเกิดที่เมืองหนิงเชียงในมณฑลฉ่านซี และเฉพาะที่เมืองชิงฉวนเพียงแห่งเดียว ก็พบผู้บาดเจ็บไปถึง 63 คน โดย 6 คนมีอาการสาหัส

อาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นในช่วงที่ทางการจีนกำลังอพยพประชาชนจำนวนมากในมณฑลเสฉวน เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ระเบิดกองดินหินที่พังถล่มลงมาปิดกั้นทางไหลของแม่น้ำ เพราะถ้าปล่อยให้กองดินหินปิดกั้นทางไหลของแม่น้ำต่อไปเรื่อย ๆ อาจส่งผลให้น้ำล้นทะลักดันหินจนแตก พร้อมกับแรงดันน้ำที่พุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ดังกล่าว แต่ถ้าเจ้าหน้าที่ค่อย ๆ ระเบิดกองดินกองหินทีละจุด ก็จะช่วยบังคับทิศทางการไหลของแม่น้ำได้ดีขึ้น

ทางการจีนอพยพประชาชนในมณฑลเสฉวนได้มากถึง 158,000 คน ก่อนช่วงเที่ยงคืนของเมื่อวาน ตามเวลาท้องถิ่น เป็นการอพยพผู้คนเกือบ 170 ชุมชนที่ประสบเหตุแผ่นดินไหว ตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา และคาดว่าตัวเลขชาวจีนที่ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนอาจพุ่งสูงกว่า 1 ล้านคน หากมีเค้าลางว่าแม่น้ำเจี้ยนเหออาจล้นทะลักจนดันให้กองดินหินที่ปิดกั้นอยู่แตกทลายไป และน้ำก็จะพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว กลายเป็นน้ำท่วมฉับพลัน ก่อให้เกิดอันตรายในพื้นที่ดังกล่าว. - สำนักข่าวไทย

2008-05-28 10:38:55

มีผู้เสียชีวิต 23 คนจากพายุฝนและน้ำท่วมในจีน​

​

ปักกิ่ง 28 พค. - สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุฝนพัดกระหน่ำและน้ำท่วมในจีนเพิ่มเป็น 23 คนแล้ว โดยมีรายงานยืนยันผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 คนในใจกลางมณฑลหูเป่ย

ผู้เคราะห์ร้าย 3 คนเสียชีวิตจากเหตุฟ้าร้องฟ้าผ่าขณะพายุฝนพัดผ่านพื้นที่ในมณฑลหูเป่ย ซึ่งพายุฝนที่ก่อให้เกิดน้ำท่วมทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 คน และสูญหาย 12 คนในมณฑลกุ้ยโจว รวมทั้งมีผู้บาดเจ็บ 166 คน และต้องอพยพประชาชนกว่า 4,600 คนออกจากพื้นที่นับตั้งแต่น้ำท่วมและพายุฝนกระหน่ำที่เมืองกุ้ยหยาง เมืองเอกของมณฑลกุ้ยโจวเมื่อคืนวันอาทิตย์ อุทกภัยทำลายบ้านเรือน 58 หลัง สะพาน 2 แห่ง ทางหลวง และเสาไฟฟ้า ทำให้ไฟดับในเมือง 8 แห่ง กระทบประชาชน 26,000 คน ศูนย์พยากรณ์อากาศในเมืองหวูฮั่น รายงานว่า สภาพอากาศจะดีขึ้นในวันนี้ ส่วนสภาพอากาศที่ย่ำแย่ในมณฑลเสฉวนซึ่งเผชิญเหตุแผ่นดินไหวเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน อาจเป็นอุปสรรคต่อการบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัย .-สำนักข่าวไทย

2008-05-28 08:01:10

อิสราเอลมีอาวุธนิวเคลียร์อย่างน้อย 150 ชุด​

​

วอชิงตัน 27 พค.- อดีตประธานาธิบดี จิมมี่ คาร์เตอร์ ของสหรัฐ ระบุ อิสราเอลมีอาวุธนิวเคลียร์อย่างน้อย 150 ชุด ในคลังสรรพาวุธ ซึ่งที่ผ่านมา อิสราเอลก็ไม่เคยยืนยันในเรื่องนี้มาก่อน แต่เป็นที่รู้กันว่า อิสราเอลมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง หลังนักวิทยาศาสตร์รายหนึ่ง แอบเผยข้อมูลดังกล่าวออกมา เมื่อช่วงทศวรรษที่ 1980

อดีตประธานาธิบดีคาร์เตอร์ ได้พูดถึงเรื่องนี้ ระหว่างให้สัมภาษณ์ในที่ประชุมสื่อมวลชน ในแคว้นเวลส์ ประเทศอังกฤษ และเมื่อผู้สื่อข่าวได้ซักถาม ทำนองว่า สหรัฐจะดำเนินนโยบายอย่างไร ถ้าพบว่า อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์จริง นายคาร์เตอร์ จึงได้หยิบยกข้อมูลเรื่องอาวุธนิวเคลียร์ขึ้นพูด โดยระบุว่า สหรัฐมีอาวุธนิวเคลียร์มากกว่า 12,000 ชุด สหภาพโซเวียตก็มีอาวุธนิวเคลียร์พอ ๆ กับสหรัฐ ส่วนอังกฤษ และฝรั่งเศส มีหลายร้อยชุด ขณะที่อิสราเอลมีอาวุธนิวเคลียร์ 150 ชุด หรืออาจจะมากกว่านั้น

ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่คาดว่า อิสราเอลมีหัวรบนิวเคลียร์ ประมาณ 100 ถึง 200 ชุด เป็นการอ้างอิงมาจาก นายมอร์เดคาย วานูนู นักวิทยาศาสตร์ซึ่งเคยทำงานอยู่ที่โรงปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ดิโมน่า ประเทศอิสราเอล แต่นำความลับเรื่องอาวุธนิวเคลียร์ของอิสราเอล มาเปิดเผยต่อหนังสือพิมพ์ ซันเดย์ ไทมส์ เมื่อช่วงทศวรรษที่ 1980 จึงทำให้หลายฝ่ายเข้าใจว่า อิสราเอลมีอาวุธนิวเคลียร์มานับจากนั้น

และแม้สหรัฐจะเป็นพันธมิตรที่แนบชิดของอิสราเอล แต่ก็ไม่เคยออกมายืนยัน หรือ ปฏิเสธอย่างเป็นทางการ ในเรื่องดังกล่าว ถ้อยแถลงของอดีตประธานาธิบดีจิมมี่ คาร์เตอร์ ที่ยืนยันชัดเจนว่า อิสราเอลมีอาวุธนิวเคลียร์อย่างน้อย 150 ชุดนั้น จึงทำให้อดีตผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองกองทัพอิสราเอล ไม่พอใจ และมองว่า อดีตผู้นำสหรัฐไม่น่าพูดออกมาเช่นนั้น ในช่วงที่นานาประเทศ กำลังพยายามไม่ให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง -สำนักข่าวไทย

2008-05-27 11:34:40

ไอเออีเอระบุงานวิจัยหัวรบนิวเคลียร์ของอิหร่านยังน่าเป็นห่วง

​

เวียนนา 27 พ.ค.- ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) ระบุว่า งานวิจัยหัวรบนิวเคลียร์ของอิหร่านยังคงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง และอิหร่านควรเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับขีปนาวุธให้มากขึ้น

ไอเออีเอระบุในรายงานฉบับล่าสุดเรื่องอิหร่านว่า อิหร่านปิดบังข้อมูลการทดลองระเบิดความรุนแรงสูงที่เกี่ยวข้องกับโครงการนิวเคลียร์ พร้อมเผยว่าอิหร่านกำลังเดินเครื่องปั่นเหวี่ยงเพิ่มสมรรถนะแร่ยูเรเนียม 3,500 เครื่องที่โรงงานนิวเคลียร์ในเมืองนาทานซ์ เพิ่มขึ้นจากต้นปีเล็กน้อย และกำลังทดลองเครื่องปั่นเหวี่ยงที่มีความทันสมัยกว่าเดิม รายงานฉบับนี้ซึ่งจะนำเสนอต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติระบุว่า การวิจัยของอิหร่านเรื่องการทดลองระเบิดความรุนแรงสูงและโครงการยวดยานด้านขีปนาวุธยังคงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง อิหร่านจะต้องชี้แจงอย่างเป็นรูปธรรมต่อโครงการเหล่านี้และข้อมูลอื่น ๆ ที่อาจมีแง่มุมทางทหารแม้ว่าไอเออีเอยังตรวจไม่พบว่ามีการใช้วัสดุนิวเคลียร์ในโครงการเหล่านี้ก็ตาม

ด้านสำนักข่าวฟาร์สของอิหร่านรายงานอ้างคำกล่าวของนายอาลี อัสการ์ โซลตาเนียห์ ทูตอิหร่านประจำไอเออีเอว่า รายงานของไอเออีเอชี้ชัดว่าโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านเป็นโครงการเพื่อสันติ เพราะไม่มีหลักฐานแม้แต่น้อยว่ามีการบิดเบือนกิจกรรมนิวเคลียร์หรือวัสดุนิวเคลียร์ไปใช้ทางทหาร ขณะเดียวกันนายเกรกอรี ชูลท์ ทูตสหรัฐประจำไอเออีเอกล่าวว่า อิหร่านกำลังขัดขวางความพยายามของไอเออีเอในการตรวจสอบว่าอิหร่านดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ เนื่องจากรายงานล่าสุดของไอเออีเอชี้ชัดว่าอิหร่านไม่ได้ให้ข้อมูลที่จำเป็นต่อไอเอออีเอ รวมทั้งการเข้าถึงเอกสารและบุคคลเพื่อหาข้อมูล.-สำนักข่าวไทย

2008-05-27 07:37:00

ที่มา http://news.mcot.net/international/index.php?page=1

 

อิหร่าน ยังไม่มีหัวรบ แค่อยากมี จะโดนเอาตาย

ยิว มีหัวรบ 150 ลูก ไม่มีใครว่าอะไร

อ่านข่าวแล้วงง นะ ใหนละ ความยุติธรรม

น่าจะทำลายให้หมดโลกไปเลย ห้ามทุกชาติมี ดีที่สุด

 

โลกร้อน” วิกฤตสุขภาพ 51 เด็ก-คนแก่-คนป่วย เหยื่อ! สารพัดโรค<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>28 พฤษภาคม 2551 08:07 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> เปิดรายงานสุขภาพคนไทย “โลกร้อน” วิกฤตสุขภาพปี 2551 เด็ก-คนแก่-คนป่วย เหยื่อสารพัดโรคระบาด รวมถึงภัยพิบัติซ้ำซาก รุนแรงหนักกว่าเดิม ชี้อีก 3 ปีขยะล้นเมืองไทย

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> รศ.ดร.กฤตยา อาชวนิจกุล อาจารย์ประจำสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยถึงการจัดทำรายงานสุขภาพคนไทย ปี 2551 ว่า ในปีนี้ได้ชูประเด็นโลกร้อน โดยใช้ชื่อรายงานว่า โลกร้อน:ภัยคุกคามจากน้ำมือมนุษย์ ซึ่งจะเป็นการนำเสนอผลกระทบของการที่อุณหภูมิของโลกในช่วง 150 ปีที่ผ่านมา ที่เคยอยู่ที่ 14 องศาเซลเซียส ได้ขยับสูงขึ้น 0.7 องศาเซลเซียส ที่อาจจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างมหันต์ในโลก ทั้งนี้รายงานสุขภาพคนไทย 2551 ระบุว่าภาวะโลกร้อนจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ เช่น การเผชิญหน้าภัยพิบัติบ่อยครั้งกว่าที่เคย เนื่องจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ส่งผลให้เกิดลมฟ้าอากาศผิดปกติและมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มความรุนแรงมากกว่าในอดีต โดยเฉพาะปรากฏการณ์น้ำท่วม ความแห้งแล้ง การเกิดคลื่นความร้อน พายุ ไฟป่า ฯลฯ นอกจากนี้ยังพบว่า ภาวะโลกร้อนจะส่งผลให้เกิดโรคติดต่อแพร่ระบาดหนักกว่าเดิม ตัวการสำคัญตัวหนึ่งก็คือ ยุง ซึ่งเป็นพาหะนำโรคระบาดร้ายแรงหลายชนิด เช่น ไข้เลือดออก มาลาเรีย แมลงวัน นำโรคอุจจาระร่วงและอหิวาตกโรค และหนู นำโรคฉี่หนูและโรคอื่นๆ อีกหลายชนิด

รศ.ดร.กฤตยา กล่าวอีกว่า ในรายงานสุขภาพคนไทย 2551 ยังระบุด้วยว่า คลื่นความร้อนที่เกิดขึ้นในโลกจะคุกคามสุขภาพของมนุษย์ โดยในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ได้เกิดคลื่นความร้อนรุนแรงถี่ขึ้น แต่ละครั้งส่งผลต่อชีวิตคนนับพัน นับหมื่น ทั้งในเอเชีย ออสเตรเลีย อเมริกาและยุโรป โดยเหยื่อสำคัญของการเกิดคลื่นความร้อนแต่ละครั้งคือ เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่กำลังเจ็บป่วย เพราะสภาพดังกล่าวทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและพลังงานไปมากกว่าปกติ

สำหรับ 10 สถานการณ์เด่นด้านสุขภาพปี 2551 ประกอบด้วยเรื่องหลักๆ คือ การแก้กฎหมายข่มขืนและกฎหมายใหม่คุ้มครองผู้ถูกกระทำรุนแรง : อีกหนึ่งความคืบหน้าของงานยุติธรรมความรุนแรงต่อผู้หญิง, สี่ปีความรุนแรงของไฟใต้....ความถี่ไม่ลด ความโหดร้ายขยายตัว, ถึงเวลาต้องป้องกันและแก้ไขปัญหาทำแท้งเถื่อนให้ได้ผล, ไข้เลือดออกระบาดหนักจากภาวะโลกร้อน, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์...ปิดกั้นเสรีโลกออนไลน์?, มาบตาพุด..ทุกข์ท้น มลพิษท่วม, อีกเพียง 3 ปี ขยะล้นเมืองไทย, “เรตติ้งทีวี” ภารกิจของผู้ใหญ่เพื่อผู้ชมตัวน้อย,ทำอย่างไรสงครามปราบมะเร็งปากมดลูกจึงจะมาถูกทาง และโอนสถานีอนามัยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คืนสุขภาพ...ให้ประชาชน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

วันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6390 ข่าวสดรายวัน


"ในหลวง"ทรงเตือนคนไทย-รับภัยพิบัติ

พลังงาน ทดแทน ระวังเฟ้อ



ในหลวงทรงมีพระราชดำรัสแสดงความเป็นห่วงเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทรงให้เตรียมพร้อม ประเทศไทยอาจเกิดแผ่นดินไหวได้ เป็นสิ่งที่น่ากลัว ให้เตรียมตัวเตรียมใจรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น พร้อมทั้งทรงเล่าเคยประสบมาแล้วที่เชียงใหม่ ทรงแนะนำให้ฟังผู้เชี่ยวชาญถึงวิธีการรับมือ นอกจากแผ่นดินไหวแล้วก็ยังมีภัยน้ำท่วม และภัยจากพายุ

เมื่อเวลา 16.57 น. วันที่ 27 พ.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จลง ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาส ให้นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ นำคณะเอกอัครราชทูต และกงสุลใหญ่ไทยที่ปฏิบัติราชการอยู่ในต่างประเทศ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับพระราชทานพระบรมราโชวาท ในโอกาสที่กระทรวงการต่างประเทศ จัดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ไทยประจำปี 2551

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสความตอนหนึ่งว่า "เราจะต้องพยายามที่จะวางตัว และให้รู้ว่าเราเป็นคนไทย เป็นคนที่สามารถที่จะวางตัวอย่างดี แล้วก็เป็นตัวอย่างกับสัตว์โลกนั้นว่า เป็นคนที่ไม่เหมือนกับคนอื่นในโลก ฉะนั้นเราก็ต้องวางตัวให้ดี แล้วก็จะต้องพยายามฝึกฝนตัวให้เป็นคนไทย ต่างกับคนอื่นในโลก แต่การที่วางตัวต่างกับคนอื่นในโลก ต้องเข้าใจว่าวางตัวอย่างไม่ได้แปลกประหลาด ไม่ใช่สัตว์ประหลาด เป็นสัตว์พิเศษ เป็นคนที่มีความคิดที่ดี มีความคิดที่ไม่เหมือนคนอื่น เรามีความคิดที่พิเศษ วิเศษจากคนต่างชาติ ถ้าเรามีการทำการเกษตรเพื่อเป็นอาหาร หรือเป็นสิ่งที่ขายต่างประเทศมากเกินไป เราก็ไม่ผลิตอะไรที่มาช่วยให้การเป็นอยู่ดีขึ้น"

"อันนี้เป็นสำคัญ ตอบยากว่าแค่ไหนพอเหมาะ ได้เห็นมาว่าเอะอะอะไรจะทำอะไรก็เห่อกัน เห่อว่าจะทำอะไรให้มากเกินไป ถ้าทำการเกษตรเพื่อเป็นพลังงานทดแทน นี่แหละคงหมายความว่าอย่างนั้น พลังงานทดแทน ถ้ามากเกินไปลงท้ายก็เฟ้อ อย่างแผ่นดินไหวทางประเทศที่จะมีแผ่นดินไหวก็มีหลายแห่ง โดยเฉพาะเขตแดนใกล้พม่านี้ก็มี มีแผ่นดินไหว แล้วเขาก็ถามว่าอยากไปอยู่ที่ไหนที่ไม่ค่อยมี เขาก็บอกว่า แถวภาคอีสานมีน้อย แต่ภาคอีสานก็มี แผ่นดินไหวมีทุกแห่งในโลกนี้ ก็ต้องเตรียมตัวเตรียมกาย เตรียมใจว่าในประเทศไทยก็อาจจะมีทุกเมื่อ แผ่นดินไหว หรืออะไรที่น่ากลัว"

"แผ่นดินไหวข้าพเจ้าเองก็เคยเจอที่เชียงใหม่ ตอนนั้นป่วย ไม่สบาย นอนอยู่ใต้โต๊ะ ก็คงแปลกนะ นอนอยู่ใต้โต๊ะ นอนใต้โต๊ะเนี้ยถูกต้อง ตามเรื่องของป้องกันแผ่นดินไหว แต่ตอนนั้นแผ่นดินยังไม่ไหว ก็ไปนอนอยู่ใต้โต๊ะแล้ว ก็ป่วย ก็ตามไปตามมาก็ไม่ได้เป็นอะไร หัวโหนกไม่ได้หัวโน แต่ก็น่ากลัวเหมือนกัน เห็นมีโอ่ง มีอะไรเหมือนวิ่งไปวิ่งมา วิ่งไปวิ่งมาในห้อง ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเตรียมตัว มีพี่เลี้ยงของสมเด็จพระเทพฯ ได้เห็นโอ่งวิ่งไปวิ่งมา บอกอย่ามาหลอกผีเลย อย่ามาหลอก เขาไม่เชื่อ ไม่เชื่อว่ามีผี แต่เขาก็เห็นว่าผีมันหลอกจริงๆ คือโอ่งมันวิ่งไปวิ่งมา เหมือนภัยพิบัติเนี้ย เหมือนผีหลอก โอ่งใหญ่ๆ เหมือนวิ่งไปวิ่งมา แต่เคราะห์ดีตอนนั้นไม่ได้มีอะไร โอ่งก็ไม่แตก"

คือวันที่มีภัยพิบัติ มีได้หลายอย่าง ก็ต้องเตรียมตัวว่ามีได้ อันนี้ก็ที่จะเตรียมตัวทำยังไง ก็ผู้เชี่ยวชาญอย่าง คุณสมิทธ (สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ) เขาบอกวิธีทำอย่างไรให้ ต้องเชื่อกันบ้าง เพราะถ้าคนที่มีความรู้ ก็ต้องฟังอยู่บ้าง ในเมืองไทยอาจมีภัยพิบัติ ภัยพิบัติมีอยู่ได้หลายแห่ง ฉะนั้นก็ เขาก็ต้องเตรียมใจ เตรียมกาย และเตรียมสถานการณ์ ที่จะดูว่าจะมีอย่างไร ถ้าดูจริงๆ เมืองไทยเนี้ย ก็นับว่าดีมาก ที่ไม่ค่อยมีเหตุการณ์ แต่ก็เกิดขึ้นก็มีอยู่แล้ว คือน้ำท่วมก็มี แผ่นดินไหวก็มี พายุก็มี ก็ต้องเตรียมที่จะมีพายุ แต่อาจไม่รุนแรงเท่าที่จะเป็น"

 

พูดอย่างไรแต่ก็มิได้นำพา<O</O
ขอนำคำพูดของอีป่วนในหนังที่ได้ฉายทางช่อง 7<O</O
สีที่จบไปแล้ว มาขึ้นหัวเรื่องไว้<O</O
ผมพยายามเตือนผู้ที่มีความดี ให้ซื้อของกินของใช้<O</O
เตรียมไว้ใช้ในยามฉุกเฉินมา 2

 

ระบบ Repeater ยามเกิดภัยพิบัติ
โดยคุณ นาคา<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_674093", true); </SCRIPT> สมาชิก​

​

ขออภัยครับผม เนื่องจากช่วงนี้มีการกระทบ จากภัยธรรมชาติบ่อยขึ้นครับผม แน่ใจ ว่า...

ระบบสื่อสาร ย่านประชาชน ควรจะมีระบบ ทวนสัญญาณ เพื่อช่วยเหลือและเฝ้าระวังหรือเตรียมการใว้ด้วยครับ

ในส่วน นักวิทยุสมัครเล่น ระบบทวนสัญญาณ ที่ใช้กันก็ยังไม่ครอบคลุมมากนัก ในหลายพื้นที่ ทางเหนือ หรือ อีสาน น่ะครับ

จากการเดินทางในช่วงนี้ เกือบรายเดือนของผม ผมจะพกวิทยุสื่อสาร ย่านสมัครเล่น และ ย่านประชาชน ด้วยแต่บางเส้นทางจาก กทม. ยังติดต่อไม่ค่อยได้ นอกจากเพื่อนๆ ย่านสมัครเล่นจะเปิดระบบ ทวนสัญญาณ

หรือเปิดระบบ Ecolink ที่สามารถคุยฟังข่าวสารกันใด้ และเมื่อมีเหตุ จึง สามารถ ติดต่อเพื่อนวิทยุสมัครเล่น ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เข้าแก้ไขช่วยเหลือได้ ครับ

ระบบ Ecolink เป็นระบบที่นักวิทยุสมัครเล่น ใช้วิทยุสื่อสารต่อระบบเข้ากับ สายโทรศัพท์ความเร็วสูง ผ่านระบบ internet เพื่อให้สามารถพูดคุย ฟังข่าวสารกันได้ทั่วโลก (เท่าที่คนๆ นั้นจะสามารถรับคลื่นวิทยุสื่อสารได้ ครับ ) จึงมักจะได้ยิน เพื่อนนักวิทยุสมัครเล่น คุยกันจากเชียงใหม่กับเพื่อนๆทาง ยะลา , นครศรีฯ , USA หรือ...

---เป็นไปใด้ไหมครับ ที่เราจะเตรียมความพร้อมใว้ก่อน ในการเปิดระบบ Repeater 1 ชุดก่อนครับ โดยดูที่พื้นที่ที่เหมาะสมก่อน น่ะครับ--

ไม่แน่ใจครับแต่มีความเป็นห่วงขึ้นมาในจิตครับ (อาจจะคิดมากไปครับผม)

ย่านสมัครเล่นจาก กทม. มีระบบ repeater เกือบตลอดเส้นทางครับ จาก กทม.- เพชรบุรี - ประจวบ -ชุมพร -ระนอง- ตะกั่วป่า -พังงา -เขาหลัก -โคกกลอย -ภูเก็ต ---- กระบี่ เขาพนม , เขาวัดถ้ำเสื่อ - หลังสวน - สุราษฎร์ - สมุย -นครศรีฯ -----

เท่าที่อ่านติดตามในกระทู้บ้างบางครั้ง มีข้อมูลเพื่อนในกลุ่มหลายท่าน มีกระแสจิตที่สามารถ ส่ง- รับ กันใด้ดีขึ้นครับ ขออนุโมทนาครับ

-------------------------------------------------------------------------

kananun<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_674975", true); </SCRIPT> หัวหน้ากลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ

พี่สนั่นเพิ่งคุยให้ฟังเรื่องนี้เลยครับ ราวกับใจตรงกันว่า มีความจำเป็นต้องมีระบบรีพีตเตอร์นี้จริงๆ อย่างค่อนข้างเร่งด่วน

----------------------------------------------------------------

zz<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_674141", true); </SCRIPT> (ท่านสนั่น)สมาชิก

ขอบคุณครับ...เพิ่มเติมคือ...กำลังจัดทำ repeater 1 ชุด...ตั้งบริเวณ...ซุ้มบอล อ.พยุหะคีรี...ครับ
<!-- / message --><!-- sig -->

กำหนดความถี่รีพีตเตอร์ซุ้มบอล

ตั้งความถี่เครื่องวิทยุสื่อสารของท่านดังนี้
ความถี่รับ...CH 10
ความถี่ส่ง...CH 50 ใช้ CTCSS โทน 1

หากท่านใช้เครื่องวิทยุสื่อสารรุ่น Spender TC-245HA ให้ใช้ช่องหน่วยความจำช่อง191 เพื่อความสะดวกในการเรียกชื่อ หากเป็นเครื่องวิทยุสื่อสารรุ่นอื่นให้กำหนดช่องหน่วยความจำเป็นช่องใดๆก็ได้...ตามต้องการ

วิธีโปรแกรมความถี่ดูเพล็กซ์ (Duplex) ของเครื่องวิทยุสื่อสาร Spender TC-245HA

1. กดปุ่มตัวเลข 010 เพื่อเปลี่ยนความถี่เป็นช่อง 10 (ความถี่รับ)
2. กดปุ่ม F จากนั้นหมุนปุ่มโรตารี่ ให้เลขช่องหน่วยความจำแสดงเป็นเลข 191
3. กดปุ่ม MR เพื่อบันทึกความถี่ในการรับ ลงในหน่วยความจำช่อง 191
4. กดปุ่มตัวเลข 050 เพื่อเปลี่ยนความถี่เป็นช่อง 50 (ความถี่ส่ง)
5. กดปุ่ม F แล้วกดปุ่ม CTCSS จะปรากฏอักษร CT ที่หน้าจอ
6. กดปุ่ม F แล้วกดปุ่ม T.SEL (Tone Selection) หน้าจอจะแสดงความถี่โทน CTCSS
7. หมุนปุ่มโรตารี่ให้เปลี่ยนเป็นเลข 1 (หมายความว่าใช้ CTCSS โทน 1)
8. กดปุ่มใดๆเพื่อออกจากการตั้งค่า CTCSS
9. กดปุ่ม F แล้วกดปุ่ม REV เพื่อบันทึกความถี่ในการส่ง ลงในหน่วยความจำช่อง 191
10. เสร็จสิ้นการโปรแกรม
11. เมื่อต้องการใช้งานให้กดปุ่มตัวเลข 191 ก็จะเป็นการติดต่อกับรีพีตเตอร์ที่ซุ้มบอล

หมายเหตุ

1. รีพีตเตอร์ซุ้มบอลสามารถใช้งานตั้งแต่...จังหวัดสิงห์บุรี...เป็นต้นไป
2. ให้โปรแกรมช่องหน่วยความจำที่ 161-199 ด้วย เพื่อเรียกใช้งานกรณีมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงความถี่รีพีตเตอร์ใหม่

ตารางความถี่รีพีตเตอร์



พื้นที่คลอบคลุม (จากการคำนวณ)


(คลิ๊กที่รูปเพื่อดูภาพขนาดใหญ่)

เนื่องจากรีพีตเตอร์ซุ้มบอลเป็น...รีพีตเตอร์แบบแสวงเครื่อง...กล่าวคือ...เมื่อทดสอบการใช้งานได้แล้วก็จะปิดและถอดเก็บ...จะเปิดให้บริการในช่วงเกิดภัยพิบัติเท่านั้น

จึงเรียนมาเพื่อทราบ

-------------------------------------------------------------------------<!-- / message --><!-- attachments -->

 

มีข่าวต่างประเทศ ว่า ที่โคลัมเบีย ก่อนเกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันสองวันก่อนนี้

มีการปรากฏภาพของพระแม่มารีบนก้อนหิน เพื่อเป็นการเตือนก่อนเกิดแผ่นดินไหว

พวกเราเองในทริปวิสาขบูชาที่คำชะโนด ก็ปรากฏภาพเมฆรูปเจ้าแม่กวนอิม บนท้องฟ้าอย่างชัดเจนเช่นกัน

และมีการพบภาพเจ้าแม่กวนอิมอีกครั้งบนผนังถ้ำที่ วัดถ้ำป่าไผ่ อ.ลี้ จ.ลำพูนอีกด้วย

ระมัดระวังกันเอาไว้อย่าได้ประมาทในการทำความดีกันครับ

 

<TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left width="70%" colSpan=2>โหร คมช.เล่นไม่เลิกฟันธงสมัครนั่งนายกไม่ครบปี

มิถุนายน เกิดภัยพิบัติ​

​

เขียนโดย INN NEWS ​

</TD></TR><TR><TD class=createdate vAlign=top colSpan=2>ศุกร์, 23 พฤษภาคม 2008

</TD></TR><TR><TD vAlign=top colSpan=2>
โหรวารินทร์ ฟันธง "สมัคร" นั่งนายกฯ ไม่ครบปี ขณะ อภิสิทธิ์ ยังหมดสิทธิ์ฝันตำแหน่งผู้นำประเทศ ระบุ เดือน มิ.ย. ไทยเจอภัยพิบัติหลายระลอก

นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ เจ้าสำนักสุขิโต อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า การที่ตนออกมาทำนายว่า จะเกิดเหตุการณ์นองเลือดนั้น เพราะมีความเป็นห่วงในสถานการณ์บ้านเมือง ขณะนี้วิบากกรรมประเทศยังไม่หมดและ ในเดือนมิถุนายนนี้ จะเกิดภัยพิบัติ โดยเฉพาะทางภาคเหนือและใต้

ส่วนดวงของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี การที่จะอยู่ครบเทอมเป็นเรื่องลำบาก โดยเฉพาะแค่ปีนี้ก็ถือว่าลำบากแล้ว ส่วน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์นั้น ยังไม่สามารถที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ เช่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งดวงชะตา จะดีขึ้นในปี 52 ดังนั้น ช่วงนี้คนไทยควรร่วมกันทำความดีและผู้ใหญ่ควรหันหน้าหากัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุร้ายที่รุนแรง

โหรวารินทร์ ยังบอกด้วยว่า ที่ผ่านมา พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช. ไม่ได้เดินทางมาปรึกษาเรื่องดวงชะตากับตนและไม่อยากให้สังคมมองว่าตนเป็นโหร คมช. การที่ทำนายเหตุการณ์ทั้งหมด เพราะห่วงบ้านเมืองและไม่ได้อยู่ข้างใคร


ที่มา http://www.nationsiam.com/index2.php?option=com_content&task=view&id=1897&Itemid=82&pop=1&page=0




</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ฟังในหลวงในข่าวเมื่อวานแล้วน่าจะไม่ประมาทกันดีกว่านะ
คุณจูเนียร์เนี่ยกล้าคิดจังฝืนกฏไตรลักษณ์
เลยมันมีเกิดขึ้นมาในอดีตนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว
เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปเป็นธรรมดาอนิจจังทุกขังอนัตตาไงค่ะ
ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน
แต่ตอนที่เข้าเว็ปไม่ได้หลายวันคิดถึงทุกคนในเว็ปมากเลย
วันเสาร์ก่อนเอาเสบึยงที่เตรียมไว้ไปบริจาคที่คณะเหลืองรังษีวัดบวรไปช่วยพม่าแล้ว
ขากลับจากกรุงเทพเลยแวะซื้อมาใหม่เอาแบบทานได้เลยพวกขนมปังต่างๆพอใกล้หมดอายุก็แจกเด็กๆรับประทานได้บุญด้วยไม่ประมาทด้วยแสนสุขใจ

 

เรียนขอคำอธิบายเพิ่มเติมแต่ละหัวข้อและระยะเวลาด้วยได้มั้ยครับ??
หรือตามความเห็นของคุณควรเตรียมตัวอย่างไร Effective ที่สุด
(โดยเฉพาะที่เกี่ยวกะปัจจัย 4, ภาวะสภาพเศรษฐกิจ, เรื่องระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน และการสื่อสารในประเทศ)
ใจจิงอยากจะให้จัด Priority สิ่งที่ต้องเตรียมตัวเตรียมใจไว้ก่อนน่ะครับ เพราะเห็นรายละเอียดเตรียมการเยอะ ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี

ต้องขอขอบคุณล่วงหน้า และทุกๆ คนในนี้ที่ร่วมกันตักเตือน กันตลอดมานะครับ

 

<TABLE class=tborder id=post1232637 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> วันนี้, 11:25 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #2 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>Falkman<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1232637", true); </SCRIPT>
สมาชิก
สมาชิกยอดฮิต



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 04:21 PM
วันที่สมัคร: Jul 2006
สถานที่: Falkland
ข้อความ: 3,730 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 6,997 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 37,471 ครั้ง ใน 3,688 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 3449


</TD><TD class=alt1 id=td_post_1232637 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ MOUNTAIN
วันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6390 ข่าวสดรายวัน


"ในหลวง"ทรงเตือนคนไทย-รับภัยพิบัติ

พลังงาน ทดแทน ระวังเฟ้อ



ในหลวงทรงมีพระราชดำรัสแสดงความเป็นห่วงเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทรงให้เตรียมพร้อม

ประเทศไทยอาจเกิดแผ่นดินไหวได้ เป็นสิ่งที่น่ากลัว

ให้เตรียมตัวเตรียมใจรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น พร้อมทั้งทรงเล่าเคยประสบมาแล้วที่เชียงใหม่ ทรงแนะนำให้ฟังผู้เชี่ยวชาญถึงวิธีการรับมือ นอกจากแผ่นดินไหวแล้วก็ยังมีภัยน้ำท่วม และภัยจากพายุ


"อันนี้เป็นสำคัญ ตอบยากว่าแค่ไหนพอเหมาะ ได้เห็นมาว่าเอะอะอะไรจะทำอะไรก็เห่อกัน เห่อว่าจะทำอะไรให้มากเกินไป ถ้าทำการเกษตรเพื่อเป็นพลังงานทดแทน นี่แหละคงหมายความว่าอย่างนั้น พลังงานทดแทน ถ้ามากเกินไปลงท้ายก็เฟ้อ

อย่างแผ่นดินไหวทางประเทศที่จะมีแผ่นดินไหวก็มีหลายแห่ง โดยเฉพาะเขตแดนใกล้พม่านี้ก็มี มีแผ่นดินไหว


แล้วเขาก็ถามว่าอยากไปอยู่ที่ไหนที่ไม่ค่อยมี เขาก็บอกว่า แถวภาคอีสานมีน้อย แต่ภาคอีสานก็มี แผ่นดินไหวมีทุกแห่งในโลก


ก็ต้องเตรียมตัวเตรียมกาย เตรียมใจว่าในประเทศไทยก็อาจจะมีทุกเมื่อ แผ่นดินไหว หรืออะไรที่น่ากลัว"


"แผ่นดินไหวข้าพเจ้าเองก็เคยเจอที่เชียงใหม่ ตอนนั้นป่วย ไม่สบาย นอนอยู่ใต้โต๊ะ ก็คงแปลกนะ นอนอยู่ใต้โต๊ะ นอนใต้โต๊ะเนี้ยถูกต้อง ตามเรื่องของป้องกันแผ่นดินไหว


แต่ตอนนั้นแผ่นดินยังไม่ไหว ก็ไปนอนอยู่ใต้โต๊ะแล้ว ก็ป่วย ก็ตามไปตามมาก็ไม่ได้เป็นอะไร หัวโหนกไม่ได้หัวโน แต่ก็น่ากลัวเหมือนกัน เห็นมีโอ่ง มีอะไรเหมือนวิ่งไปวิ่งมา วิ่งไปวิ่งมาในห้อง ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเตรียมตัว มีพี่เลี้ยงของสมเด็จพระเทพฯ ได้เห็นโอ่งวิ่งไปวิ่งมา บอกอย่ามาหลอกผีเลย อย่ามาหลอก เขาไม่เชื่อ ไม่เชื่อว่ามีผี แต่เขาก็เห็นว่าผีมันหลอกจริงๆ คือโอ่งมันวิ่งไปวิ่งมา เหมือนภัยพิบัติเนี้ย เหมือนผีหลอก โอ่งใหญ่ๆ เหมือนวิ่งไปวิ่งมา แต่เคราะห์ดีตอนนั้นไม่ได้มีอะไร โอ่งก็ไม่แตก"


คือวันที่มีภัยพิบัติ มีได้หลายอย่าง ก็ต้องเตรียมตัวว่ามีได้ อันนี้ก็ที่จะเตรียมตัวทำยังไง ก็ผู้เชี่ยวชาญอย่าง คุณสมิทธ (สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ)

เขาบอกวิธีทำอย่างไรให้ ต้องเชื่อกันบ้าง เพราะถ้าคนที่มีความรู้ ก็ต้องฟังอยู่บ้าง

ในเมืองไทยอาจมีภัยพิบัติ ภัยพิบัติมีอยู่ได้หลายแห่ง ฉะนั้นก็ เขาก็ต้องเตรียมใจ เตรียมกาย และเตรียมสถานการณ์



ที่จะดูว่าจะมีอย่างไร ถ้าดูจริงๆ เมืองไทยเนี้ย ก็นับว่าดีมาก ที่ไม่ค่อยมีเหตุการณ์ แต่ก็เกิดขึ้นก็มีอยู่แล้ว คือน้ำท่วมก็มี แผ่นดินไหวก็มี พายุก็มี ก็ต้องเตรียมที่จะมีพายุ แต่อาจไม่รุนแรงเท่าที่จะเป็น"
</TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

คนจะอยู่ในป่าหรือป่าจะอยู่ในคน คนรู้จริงหาได้ยาก คนรู้มากหาได้ง่าย

 

ความฝันเทพสังหรณ์
สัญญาณเตือนจากเบื้องบน​

​

 

เปิดเอกสารลับ เซอร์ไอแซค นิวตัน พยากรณ์"วันสิ้นโลก!"

เปิดเอกสารลับ เซอร์ไอแซค นิวตัน พยากรณ์"วันสิ้นโลก!"



เปิดเอกสารลับ เซอร์ไอแซค นิวตัน พยากรณ์"หลายสิ่งหลายอย่างที่ยอดอัจฉริยะนักวิทยาศาสตร์โลก "เซอร์ไอแซค นิวตัน" คิดและพูดเอาไว้ล้วนเป็นความจริง พิสูจน์ได้ ไม่ว่าจะเป็นทฤษฎีชื่อเข้าใจยากอย่าง ทวินาม ไฮเปอร์โบลา หรือการคิดค้น "กฎแห่งการเคลื่อนที่" อันลือลั่น ซึ่งเรียกกันสั้นๆ ว่า "กฎ 3 ข้อของนิวตัน" ไปจนถึงทฤษฎีที่คนทั่วโลกทั้งร่ำเรียน ได้ยินติดหูกันมานานหลายร้อยปี เช่น กฎแรงโน้มถ่วงและแคลคูลัส

วันนี้ถ้า "นิวตัน" จะกระตุกเตือนบอกผ่านเอกสารบันทึกเก่าแก่..
โลกต้องถึงกาลอวสาน แตกดับลงไปภายในอีก 53 ปี..

คุณจะเชื่อหรือไม่..!?

เซอร์ไอแซค นิวตัน ชาวอังกฤษ อัจฉริยะแห่งศตวรรษที่ 17 ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์หลายสาขา ทั้งฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ จากโลกนี้ไปแล้ว 280 ปี แต่เอกสาร รวมทั้งบันทึกการค้นคว้า ความนึกคิดต่างๆ ยังคงได้รับการเก็บรักษาอย่างดี ส่วนหนึ่งถูกเก็บอยู่ในตู้นิรภัยของหอสมุดแห่งชาติ กรุงเยรูซาเล็ม ประเทศอิสราเอล

ปัจจุบัน หอสมุดแห่งชาติอิสราเอล ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยฮิบรู เยรูซาเล็ม นำ "เอกสารนิวตัน : นิวตัน เปเปอร์ส" ตัวจริงที่เก็บรักษาไว้มาจัดนิทรรศการ "ความลับของนิวตัน" เปิดแสดงให้สาธารณชนได้เห็นกับตาตนเองเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

ภายหลังจากก่อนหน้านี้ มีเพียงนักวิชาการกลุ่มเล็กๆ เท่านั้นที่มีสิทธิได้เห็นเอกสารเหล่านี้

"เอกสารนิวตัน" คงอยู่ผ่านความผันแปรแห่งยุคสมัยนับร้อยปี เปลี่ยนมือจากคนรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่น กระทั่งตกมาอยู่ในความดูแลของหอสมุดอิสราเอล ตั้งแต่ปีค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) ศาสตราจารย์ยามินา เบน เมนาเชม จากภาควิชาปรัชญา ม.ฮิบรู ผู้ทำหน้าที่บอกเล่าความเป็นมาของเอกสารชุดนี้ กล่าวว่า

หลักที่นิวตันใช้พยากรณ์ "วันสิ้นโลก" หรือ "วันโลกแตก" และบันทึกไว้ในเอกสารเมื่อปีค.ศ. 1704 (พ.ศ. 2247) นั้น ไม่ได้ใช้หลักตรรกะทางคณิตศาสตร์-วิทยาศาสตร์ แต่เป็นการถอดรหัส ไขปริศนาถ้อยคำที่เขียนอยู่ใน "พระธรรมดาเนียล" ในพระคริสตธรรมคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม (ไบเบิล)

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถอดรหัสพระธรรมดาเนียล บทที่ 12 ซึ่งนิวตันตีความ ว่า โลกจะถึงคราวดับสูญภายหลังจาก "จักรวรรดิโรมัน" ก่อตั้งครบ 1,260 ปีโดยประมาณ เมื่อคำนวณดูแล้วจึงเท่ากับ โลกมนุษย์จะต้องแตกในปีค.ศ. 2060 (พ.ศ. 2603) หรือภายในเวลาอีกแค่ 53 ปีนับจากนี้

"โลกอาจดับสูญหลังจากนั้น แต่ข้าพเจ้าก็ไม่เห็นถึงเหตุผลใดที่โลกจะพบจุดจบเร็วกว่านั้นเช่นกัน "สิ่งที่ข้าพเจ้าอ้างถึงไปนี้มิได้หมายมั่นจะยืนยันว่าวันสิ้นโลกจะมาถึงเมื่อไร "แต่ทำไปเพื่อต้องการหยุดกลุ่มคนเพ้อฝันที่ชอบทึกทักทำนายวันสิ้นโลกขึ้นมาเองอยู่บ่อยๆ

"กระทั่ง ทำให้คำทำนายอันศักดิ์สิทธิ์ต้องเสื่อมเสียไร้ความน่าเชื่อถือมากขึ้นไปตาม คำทำนายผิดๆ ทั้งปวง" นิวตัน เขียนถึงเหตุผลที่ตัดสินใจพยากรณ์วันโลกแตกด้วยตนเอง


ศ.ยา มินา อธิบายว่า ในเอกสารยังมีข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่า นิวตันมีความเชื่อในศาสนาอย่างลึกซึ้ง แม้จะเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ตามหลักแล้วจะเชื่อเฉพาะในสิ่งที่พิสูจน์ได้

โดยบันทึกหัวข้อหนึ่ง นิวตันศึกษารายละเอียดโครงสร้างของวิหารยิวในเยรูซาเล็มอย่างเจาะลึกทุกมิติ
เพราะเชื่อว่าวิหารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสะท้อนโครงสร้างจักรวาลอันไพศาล จากการตรวจสอบเอกสารพบพื้นเพความมุ่งมั่นทางวิทยาศาสตร์ของนิวตัน มีแรงผลักดันมาจากศาสนานั่นเอง นั่นเพราะเขาต้องการใช้วิทยาศาสตร์เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ว่าพระเจ้าทรงทำอะไรกับโลกของเราบ้าง

ตามความเข้าใจของนิวตัน การเข้าถึงพระองค์จึงสามารถกระทำได้ผ่านการศึกษาธรรมชาติและพระคัมภีร์ เพื่อหาหนทางเข้าถึงสัญญาณที่พระองค์ทิ้งเอาไว้ "นิวตันไม่เชื่อในเรื่องของ ตรีเอกภาพ เขาเชื่อว่ามีพระเจ้าองค์เดียวเท่านั้น แม้นพระเยซูคริสต์เป็นพระบุตรแห่งพระเจ้า แต่พระเยซูก็ไม่ใช่พระเจ้า..

"นิวตันไม่แสดงความคิดนี้ต่อสาธารณชน เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้ศาสนจักรเข้ามาขัดขวางการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ของเขา..

"ในยุคสมัยนิวตัน มีผู้คนพูดถึงวันสิ้นโลกกันอย่างกว้างขวาง..

"นิวตันจึงมีความ คิดว่าพระเจ้าทรงมีแผนการสำหรับวันสิ้นโลกเอาไว้แล้ว มนุษย์ไม่มีอำนาจจะไปเปลี่ยนแปลงหรือพยากรณ์ใดๆ ทั้งสิ้น" ศ.ยามินา กล่าว
ที่มาจาก ‏

 

มรณานุสติค่ะ...ยึดความตายเป็นอารมณ์ เราไม่ทราบว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด...

มีสติรู้อยู่...ก็จะอยู่บนความไม่ประมาท ไม่ตื่นตูมแต่ควรตื่นตัวและเตรียมการ

ฟังพระราชดำรัสของในหลวงทรงเตือนพสกนิกรของพระองค์แล้ว

พวกเราทุกคนยิ่งต้องตั้งอยู่บนความไม่ประมาท...

พระองค์ท่านเคยตรัสว่าพายุไม่เข้าไทย...ก็คือไม่เข้า....ทั้งๆ ที่นักวิชาการทั่วโลกก็บอกว่าไทยต้องเจอแน่ๆ

ครั้งนี้ตรัสว่ามีภัยพิบัติเกิดขึ้นได้ทุกที่...เตือนให้ระวังและเตรียมการ...

เราก็ควรน้อมรับด้วยการ...

เตรียมกาย (ดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อรับมือกับภัยพิบัติ)

เตรียมใจ (หมั่นเจริญสติ เพื่อให้มีความมั่นคงในอารมณ์ ไม่หวั่นไหวและหวาดกลัวเมื่อมีเหตุร้ายมาถึง)

และเตรียมสถานการณ์ (เตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์ และสถานที่ให้พอเหมาะ พอประมาณ พร้อมที่จะสามารถรับสถานการณ์ได้บ้าง)