ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

^
^
แปลเป็นภาษาไทยได้มั๊ย ?

 

Ohh, they will developing

 

555 ขอบคุณคร้าบ พี่หม่องกำลังก้าวหน้าทางด้านทหาร
นิวเลียร์อยู่ใกล้ปลายจมูกเรานี่เอง

 

เลบานอนจ่อสงครามกลางเมือง
​

<TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top>กลุ่มนักรบฝ่ายค้านนำโดยกองกำลังติดอาวุธเฮซบอลเลาะห์ บุกยึดพื้นที่เป็นวงกว้างในกรุงเบรุต เมืองหลวงเลบานอน ในการต่อสู้วันที่ 3 กับกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลผสมที่ได้รับการหนุนหลังจากสหรัฐ

แหล่งข่าวด้านความมั่นคงเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า การต่อสู้ของสองฝ่าย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 11 ศพ บาดเจ็บกว่า 20 คน ในเหตุการณ์สู้รบครั้งรุนแรงที่สุดในเลบานอน นับตั้งแต่ช่วงสงครามกลางเมืองระหว่างปี 2518-2533 โดยกลุ่มติดอาวุธที่สนับสนุนเฮซบอลเลาะห์ ได้เข้ายึดหนังสือพิมพ์อัล-มุสตักบัล และสถานีโทรทัศน์ฟิวเจอร์นิวส์ ของนายซาอัด อัล-ฮาริรี แกนนำรัฐบาลผสมของเลบานอน และบังคับให้ระงับการออกอากาศ

นอกจากนี้ยังร่วมมือกับกลุ่มอะมัล บุกยึดสำนักงานกลุ่มฟิวเจอร์ ของนายฮาริรีทั่วพื้นที่กรุงเบรุต รวมทั้งบ้านพักของรัฐมนตรีว่าการและรัฐมนตรีช่วยของเลบานอน ตลอดจนปิดถนนที่มุ่งหน้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติในกรุงเบรุต เหตุรุนแรงครั้งนี้มีขึ้นหลังจากรัฐบาลเลบานอนประกาศว่า เครือข่ายการสื่อสารทางทหารของกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ผิดกฎหมาย ซึ่งนายเซย์เยด ฮัสซัน นัสรัลลาห์ ผู้นำกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ กล่าวว่า การตัดสินใจดังกล่าวของรัฐบาลเท่ากับประกาศสงครามกับกลุ่ม ด้าน นายฮาริรี บุตรชายของอดีตนายกฯ ราฟิก ฮาริรี ที่ถูกลอบสังหารเมื่อปี 2548 เรียกร้องต่อกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ให้ถอนกำลังนักรบออกจากพื้นที่ เพื่อฉุดเลบานอนให้พ้นจากขุมนรก

ขณะที่แหล่งข่าวใกล้ชิดนักการเมืองชาวมุสลิมนิกายสุหนี่ กล่าวว่า มีจรวดอาร์พีจีลูกหนึ่งถูกยิงตกใส่กำแพงบ้านพักของนายฮาริรี แต่ไม่มีผู้ใดบาดเจ็บ ทั้งนี้ การต่อสู้ในเลบานอน อาจส่งผลกระทบต่อภูมิภาคตะวันออกกลาง เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ขัดแย้งระหว่างชาวสุหนี่กับชาวชีอะห์กำลังตึงเครียดขึ้น ขณะที่อิหร่านประชาชนส่วนใหญ่นับถือนิกายชีอะห์ ให้การสนับสนุนกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ ส่วนชาติอาหรับที่นับถือนิกายสุหนี่ อย่างซาอุดีอาระเบียกับอียิปต์ให้การสนับสนุนรัฐบาลเลบานอน
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ราคานํ้ามันโลกทะลุ126ดอลลาร์
​

<TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top>ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังขยับสูงขึ้นไม่หยุด เมื่อวันศุกร์ทำสถิติใหม่ทะลุ 126 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือโอเปก ยืนยันว่าตลาดยังคงมีปริมาณน้ำมันเพียงพอ แต่เชื่อว่าความผันผวนของตลาดเป็นผลจากการเก็งกำไร

ราคาน้ำมันดิบไลท์ สวีท ที่ตลาดนิวยอร์ก งวดส่งมอบเดือน มิ.ย. ทะยานขึ้นไปทำสถิติใหม่ที่ 126.20 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ (9 พ.ค.) ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาดลอนดอน ทำสถิติสูงสุด ครั้งใหม่ที่ระดับ 125.90 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันยังคงพุ่งทะยาน หลังจากนายอับดัลลา ซาเลม เอล-บาดรี เลขาธิการ โอเปก กล่าวยืนยันว่า ไม่มีการขาดแคลนน้ำมันดิบในตลาดโลก ซึ่งเป็นการบอกปัดเสียงเรียกร้องจากสหรัฐ ที่ต้องการให้เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน เพื่อฉุดดึงราคาให้ลดต่ำลง

นายเอล-บาดรี กล่าวอีกว่า ความปั่นป่วนในตลาดทุนและการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ทำให้นักลงทุนหันไปหาแหล่งทุนที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า โดยเฉพาะในตลาดซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า จึงทำให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้น ทั้งนี้กลุ่มโอเปกซึ่งมีสมาชิก 13 ประเทศ ผลิตน้ำมันราวร้อยละ 40 ของน้ำมันโลก โดยโควตาผลิตในปัจจุบันอยู่ที่ 32 ล้านบาร์เรลต่อวัน

การตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารกลางยุโรป ช่วยให้สกุลเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ โดยอัตราซื้อขายล่าสุดอยู่ที่ 1 ยูโรต่อ 1.5466 ดอลลาร์

นอกจากนั้นการทำนายโดยกลุ่มนัก วิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ที่มองว่าราคาน้ำมันดิบอาจพุ่งสูงขึ้นถึง 150-200 ดอลลาร์ สหรัฐต่อบาร์เรล ภายใน 2 ปีข้างหน้า ยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น

ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 25 นับตั้งแต่ต้นปี 2551 และเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่านับตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว ซึ่งช่วงนั้น ราคาน้ำมันอยู่ที่ประมาณ 62 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล.
</TD></TR></TBODY></TABLE>


ที่มาhttp://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=163415&NewsType=1&Template=1

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ทอร์นาโดถล่มมิสซูรี-โอคลาโฮมา ตายอย่างน้อย16ราย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>11 พฤษภาคม 2551 12:22 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=336 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=336> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ทอร์นาโดถล่ม</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเจนซี - มีพลเรือนอย่างน้อย 16 รายเสียชีวิตเมื่อวันเสาร์(10)ในมิสซูรีและโอคลาโฮมา หลังโดนทอร์นาโดหลายลูกพัดถล่มในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ของทั้งสองมลรัฐฯกล่าว

ความรุนแรงของทอร์นาโดที่เล่นทางทางตอนใต้ของมิสซูรี ได้คร่าชีวิตพลเรือนไป 10 ราย โฆษกฝ่ายจัดการเหตุฉุกเฉินมิสซูรี ซูซี สโตนเนอร์บอก "การติดต่อกับพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ชนบทแย่มาก หลายแห่งถูกตัดขาดจากไฟฟ้า บางทีอาจมีจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก"

ด้านมลรัฐฯโอคลาโฮมา มีพลเรือน 6 คน ในปิเชอร์ เมืองเล็กๆทางตะวันออกเฉียงเหนือ เสียชีวิต "ตามหลักฐานที่ปรากฎพบว่ามีพื้นที่ 24 บล็อคได้รับความเสียหาย" มิเชลัน โอเตน โฆษกกระทรวงจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินโอคลาโฮมาระบุ

เธอบอกต่อว่า แบรด เฮนรี ผู้ว่าการรัฐโอคลาโฮมา ได้สั่งการให้ทหารกองกำลังรักษาดินแดนเข้าไปยังเมืองปิเชอร์ ในช่วงเช้าวันนี้(11) เพื่อช่วยเหลือปฏิบัติการกู้ภัยและช่วยชีวิต

ภาพข่าวของสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นรายงานจากปิเชอร์ เป็นภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นบริเวณกว้าง บ้านหลายหลังถูกพัดออกจากที่ตั้ง ขณะที่ต้นไม้หลายต้นและแผ่นโลหะปลิวร่อนยังกับกระดาษ

โอเตน กล่าวว่าความพยายามค้นหาผู้สูญหายในปีเชอร์ต้องถูกระงับ เนื่องจากไม่ปลอดภัยต่อทีมช่วยเหลือที่มีแต่ไฟฉาย ซึ่งต้องเคลื่อนตัวผ่านซากปรักหักพังในช่วงเวลากลางคืน

เหยื่อส่วนใหญ่ในมิสซูรี อยู่ในเมืองนิวตันเคาน์ตี ทางตะวันตกเฉียงใต้ใกล้เขตรัฐโอคลาโฮมา โดย โฮเวิร์ก เบิร์ดซง นายกเทศมนตรีนีโอโช บอกว่ามีผู้เสียชีวิตสองรายเนื่องจากทอร์นาโดเล่นงานยานพาหนะจนพลิกคว่ำ

"มีทรัพย์สินเสียหายอย่างร้ายกาจเป็นจำนวนมาก" เบิร์ดซง ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัทพ์ "ผมเห็นบ้านหลายหลังถูกทำลาย รถบางคันพลิกคว่ำ ต้นไม้ถูกถอนรากถอนโคนและกระแสไฟถูกตัดขาด...มีผู้คนหลายสิบคนได้รับบาดเจ็บ"

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"โคอาลา" อยู่ลำบากเมื่อโลกร้อนเพราะ "ยูคา" ผลิตสารพิษมากขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>11 พฤษภาคม 2551 09:01 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1></TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>ใบยูคาถูกปากโคอาลาน้อยลงเมื่อคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นส่งผลต่อความเป็นพิษในใบไม้เพิ่มขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เอพี - ไม่ใช่แค่หมีขั้วโลกที่เดือดร้อนเมื่อโลกร้อนขึ้น แต่ที่ซีกโลกใต้ "โคอาลา" ก็อยู่ลำบากเมื่อคาร์บอนไดออกไซด์สูงขึ้นได้เพิ่มความเป็นพิษให้กับ "ยูคาลิปตัส" อาหารจานหลักของสัตว์ประจำถิ่นออสเตรเลีย

เอียน ฮูเม (Ian Hume) ศาสตราจารย์เกียรติคุณทางด้านชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ (Sydney University) ประเทศออสเตรเลีย พร้อมด้วยทีมวิจัยพบว่าความเป็นพิษในใบยูคาลิปตัสเพิ่มขึ้นเมื่อปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นเนื่องจากปรากฏการณ์เรือนกระจก โดยคาร์บอนไดออกไซด์ในใบยูคาลิปตัสส่งผลกระทบต่อความสมดุลของสารอาหารและสารต้านโภชนาการ (anti-nutrients) ซึ่งเป็นได้ทั้งสารที่เป็นพิษและสารที่รบกวนการย่อยสารอาหาร

"การเพิ่มขึ้นของคาร์บอนไดออกไซด์เอื้อให้ต้นยูคาผลิตสารต้านโภชนาการซึ่งมีองค์ประกอบของคาร์บอนออกมามากกว่าสารอาหาร ดังนั้นในส่วนใบจึงกลายเป็นพิษต่อโคอาลา" ฮูเมกล่าว และยังประเมินอีกว่าระดับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปัจจุบันจะเป็นผลให้เกิดการลดลงของประชากรโคอาลาอย่างสังเกตได้ช่วง 50 ปี เนื่องจากการขาดแคลนใบยูคาลิปตัสที่มีรสชาติถูกปาก

ยูคาลิปตัสบางสายพันธุ์มีโปรตีนสูง แต่ก็มีสารต้านโภชนาการอย่างแทนนิน (tannin) จับกับโปรตีนดังกล่าวทำให้โคอาลาไม่สามารถย่อยโปรตีนนั้นได้ ทั้งนี้ในจำนวนยูคาลิปตัสกว่า 600 สปีชีส์ในออสเตรเลียนั้นมีเพียง 25 สปีชีส์เท่านั้นที่โคลาอาเลือกกิน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของระดับความเป็นพิษในต้นยูคาลิปตัสจะยิ่งลดความหลากหลายในการหาใบไม้ที่มีรสอร่อยของโคอาลา

"โคอาลาออกลูกเพียงปีละ 1 ตัวเท่านั้นภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสม แต่หากลดคุณค่าสารอาหารของใบยูคาลิปตัสลง ก็จะกลายเป็นว่าโคอาลามีลูกได้เพียง 1 ตัวในทุกๆ 3-4 ปีเท่านั้น" ฮูเมกล่าว

ด้านฮิวจ์ ไทน์เดล-บิสโค (Hugh Tyndale-Biscoe) นักสรีรวิทยาสัตว์มีกระเป๋าหน้าท้อง อธิบายคำพยากรณ์ของฮูเมถึงการลดลงของจำนวนโคอาลาว่าเป็นการคาดเดาแต่ก็น่าเชื่อถือ โดยยูคาลิปตัสมีสารอาหารเพียงเล็กน้อยอยุ่แล้วและโคอาลาก็ปรับตัวให้เข้ากับอาหารที่ข้นแค้นด้วยการนอนหลับเพื่อประหยัดพลังงาน

"การดำรงอยู่ของโคลาอาไม่มั่นคงเอามากๆ พวกมันต้องนอนถึงวันละ 20 ชั่วโมง และก็ใช้เวลาที่เหลืออีก 4 ชั่วโมงไปกับอย่างอื่น บางครั้งบางคราวก็กินใบไม้และตลอดทั้งปีอาจมีสักครั้งที่ตามโคอาลาตัวอื่นเพื่อจับคู่"

"ตอนนี้โคอาลาได้หายไปแล้วจากพื้นที่บางส่วนของออสเตรเลีย แต่ก็ยังคงมีอยู่มากในพื้นที่อื่นๆ และไม่น่าจะถูกล้างบางเพราะการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ แต่พวกมันก็ถูกย้ายถิ่นฐานไปจากต้นไม้ที่มีสารอาหารมากซึ่งอยู่บนพื้นดินที่สมบูรณ์ เนื่องจากการขยายตัวของการทำฟาร์มเกษตรและชานเมือง" ไทน์เดล-บิวโคกล่าว.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9510000053821

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ไทยเตรียมประณามกัมพูชาช่วงชิงเขาพระวิหาร </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>24 มกราคม 2551 22:41 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

ปราสาทเขาพระวิหาร​

โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงประเทศไทยเตรียมประณามการกระทำของกัมพูชา ที่พยายามสร้างหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เป็นเท็จ ในการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหาร ทั้งนี้ฝาก"บิ๊กจิ๋ว"ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานในการแก้ปัญหาสำคัญของชาติ เข้าไปแก้ไขเรื่องดังกล่าวด้วย​

พล.ท.พิชษณุ ปุจฉาการ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมสภากลาโหม ว่าทางการไทยได้เตรียมที่จะทำการประณามการกระทำของกัมพูชา ที่เห็นแต่ประโยชน์ส่วนตน รวมถึงพยายามสร้างหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เป็นเท็จ และชักชวนประเทศต่างๆให้เห็นชอบและช่วยเหลือกัมพูชา ในการขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก​

ทั้งนี้จะมีการประท้วงกัมพูชาอย่างเป็นทางการ โดยอาศัยช่องทางทางการทูต และองค์กรระหว่างประเทศ ตลอดจนต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ต่างประเทศเข้าใจถึงข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตามยังได้ฝากให้รัฐบาลใหม่ที่จะแต่งตั้ง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการแก้ไขปัญหาความสำคัญของชาติ เข้ามาดูแลเรื่องดังกล่าวด้วย​

ที่มา http://www.manager.co.th/Politics/Vi...=9510000010164​

อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
โดยหนุมาน ผู้นำสาร​

กองทหารกัมพูชา​

แผนสนับสนุน...ขอมเพื่อนบ้าน....โดยสนับสนุนให้ทุนพัฒนาประเทศเพื่อนบ้านขอม และส่งเสริมให้ขอมมีกองทัพที่ทันสมัย อย่ารวดเร็ว...กองทัพไทยจึงตามไม่ทัน....เมื่อถึงเวลาที่ด้ามขวานทองเริ่มหัก ขอมจะอ้างประวัติศาสตร์โบราณ ที่ขอมเคยเกี่ยวข้องกับดินแดนขวานทองทางตะวันออกของไทยในอดีต....ขอมจึงวางแผนเข้ามาปักธงที่บางประกง....เกาะสีชัง และชายฝั่งตรงข้าม คือ จุดที่เขาจะนำมาอ้างได้...เพราะ ประเทศสอง เริ่มเล็งของดี ของมีค่า ของมีพลัง ที่อยู่ในอ่าวไทย....เมื่อ ขอมยึดสำเร็จ ประเทศสองจะมีส่วนทันที เพราะ เพื่อนขอม เป็นมีนายใหญ่ คือ ประเทศสอง​

 

*** สถานการณ์ ****

กำลัง...
ดำเนินตาม....
โอ้...ชะตาฟ้าลิขิต

รอเพียง....การต้อนรับ สัจจะ
คือ...ต้อนรับ พระไตรปิฎก โลกุตตระธรรม
เพื่อต้อนรับสิ่งศักดิ์สิทธิ์....มาหักเหแสง เบี่ยงเบนกรรม

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** อนุโมทนา ****

ขอบคุณ ท่านที่เชื่อและปฏิบัติตนด้วยสัจจะ
ด้วยอำนาจสัจจะธรรม โลกุตตระธรรม คำสอนของพระพุทธเจ้า
โปรดนำพาท่านพบ ธรรม๔ มรรค๔ ผล๔ นิพพาน๑ ต่อไป

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ขอทุกท่านเมตตาตาตน ****

ข้าพเจ้า...ไม่หวังผลประโยชน์อันใดจากทุกท่าน
ปรารถนาเพียง....ให้ทุกท่านหลุดพ้นจากบ่วงพันธะกรรม

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** โลกุตตระโปรด ****

สององค์รวมเป็นหนึ่ง
กระมุกยุทธศาสตร์
กระมุกข้าวสารไทย

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ภาพถ่ายดาวเทียมวันนี้ 11 พค เวลา 14.11 น.

 

พายุก่อตัวใหญ่กว่าประเทศฟิลิปปินน์เยอะเลยครับ ดูสีแล้วเป็นพายุระดับสี่

ปีนี้ช่วงมรสุม หน้าฝนนี้ ไทยเองก็คาดว่าจะต้องเผชิญกับพายุขนาดใหญ่อีกหลายลูกครับ

 

ประเทศหนึ่ง กับ ประเทศสอง
เริ่มเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง​

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>จีนปกป้องพม่า สกัดแรงกดดันนานาชาติ ยันไม่ยุ่งภายใน-เคารพอธิปไตยเจ้าบ้าน</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>11 พฤษภาคม 2551 19:42 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=320 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=320> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ทหารพม่ากำลังลำเลียงความช่วยเหลือที่จีนส่งมาให้ผู้ประสบภัยนาร์กิสในแดนหม่องที่สนามบินกรุงร่างกุ้งวันที่ 10 พ.ค. </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>เอเจนซี-นานาชาติและองค์กรความช่วยเหลือระหว่างประเทศรุมจี้จีน ให้บีบพม่าเปิดประตูกว้างรับความช่วยเหลือนานาชาติ แต่จีนยืนยันว่าประชาคมโลกต้องเคารพอธิปไตยของรัฐบาลหม่อง

เมื่อวันเสาร์(10 พ.ค.) องค์กรด้านสิทธิมนุษยชน หรือฮิวแมน ไรซ์ วอทช์ได้ออกโรงเรียกร้องจีนในฐานะพันธมิตรที่ใกล้ชิดและคอยช่วยเหลือรัฐบาลทหารพม่ามาตลอด ช่วยหว่านล้อมหรือกดดันผู้นำทหาร ให้เลิกจำกัดการรับความช่วยเหลือจากต่างชาติ เพื่อบรรเทาทุกข์ของประชาชนผู้ประสบภัยจากพายุไซโคลนครั้งประวัติการณ์ ผู้นำพม่ารายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตและสูญหายอยู่ที่ราว 60,000 คน ขณะที่สหประชาชาติหรือยูเอ็น เตือนว่ายอดผู้เสียชีวิตและสูญหายจากไซโคลนนาร์กิสที่แท้จริง อาจสูงกว่าที่ทางการพม่ารายงานลิบลิ่ว โดยทางสหรัฐฯ บอกว่าตัวเลขอาจถึง 100,000 คน

ขณะนี้ จีนสัญญาให้ความช่วยเหลือเหยื่อนาร์กิสในพม่า 5.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ในวันเสาร์ จัมโบ เจ็ทของจีน ก็ได้ขนเสบียงข้าวของ 58 ตัน มาถึงกรุงย่างกุ้ง นับเป็นการขนส่งความช่วยเหลือแก่พม่าระลอกที่สาม

แต่จีนก็ยังปกป้องผู้นำทหารพม่า จากแรงกดดันนานาชาติ ที่กำลังบีบให้พม่าเปิดประตูรับเจ้าหน้าที่จากหน่วยความช่วยเหลือนานาชาติเข้าไปในประเทศ โดยจีนยังยืนยันจุดยืนไม่แทรกแซงกิจการภายในประเทศอื่น ซึ่งดูจะสะท้อนความวิตกการตรวจสอบการจัดการปัญหาทิเบตและในพื้นที่อื่นๆของจีน

ในสัปดาห์นี้ จีนได้สกัดข้อเสนอให้หัวหน้าหน่วยสิทธิมนุษยชนของยูเอ็นแถลงสถานการณ์พม่าในคณะมนตรีความมั่นคง โดยชี้ว่าชาติต่างๆไม่ควรนำประเด็นนี้ สู่เกมการเมือง

 

หมอนิดออกมาเตือน ให้ระวังเรื่องแผ่นดินไหวและน้ำท่วม​

​

ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับชลประทานให้เฝ้าระวัง

 

วิญญาญชาวพม่ามาขอส่วนบุญกุศล...
โดยุคุณ amm. สมาชิก

ภาพประกอบจาก http://www.dmc.tv/​

เมื่อคืนนั่งสมาธิแผ่เมตตาเหมือนทุกๆวัน...หลับไป...เหมือนกึ่งฝันกึ่งตื่น...จิต
เห็นเหล่าวิญญาญมากมายมาหา...เราแผ่เมตตาให้...เหล่าวิญญาญบอกว่าเป็น
ชาวพม่า...สะดุ้งตื่นมาแผ่เมตตาอีกครั้ง...หลับไปก็เห็นเช่นเดิมอีก...และเขา
เหล่านั้นก็บอกว่าตนเป็นชาวพม่า...เป็นผู้ที่ได้รับเคราะห์กรรมที่เกิดขึ้น...เป็นอยู่
อย่างนี้ทั้งคืนจนเหนื่อย...เนื่องจากเหมือนไม่ได้หลับเลย...เพราะจิตจะแผ่
เมตตาตลอด...เพื่อให้เขาพ้นจากทุกขเวทนาที่เกิดขึ้น...​

จนเช้าตื่นสายเลย...ลุกขึ้นมาจะไปทำสังฆทานที่วัด...เปิดดูทีวี...เป็นช่วงข่าวพอ
ดี...เห็นข่าวบอกว่าประชาชนชาวพม่ากลัวผีผู้ประสบเคราะห์กรรม...จนต้องหนี
ไปนอนที่วัดกัน...เนื่องจากได้ยินเสียงร้องไห้โหยหวลระงม...จนชาวพม่านอน
กันไม่ได้...เอ....อ่านข่าวหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งก็ลงข่าวเช่นกัน...​

เราจึงโทรศัพท์ไปหาอาจารย์ที่แพร่ท่านบอกว่า...เหล่าวิญญาญผู้ตายได้
รับความทุกข์ทรมานมาก...เพราะตายโดยไม่รู้ตัวกัน...กว่าจะรู้ตัวกันก็
นานหลายวัน...และศพก็ไม่มีผู้มากระทำการบำเพ็ญกุศล...จึงกลายเป็น
วิญญาญไร้ญาติขาดมิตร...มีแต่ความโศกเศร้าเสียใจ...​

วันนี้ตั้งใจจะสวดมนต์แผ่เมตตาให้เขาเหล่านั้น...จึงขอวิงวอนผู้มีจิต
เมตตา...ช่วยกันทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เขาเหล่านั้นด้วย....​

แอ๋มคาดหวังว่าเหล่าชาวเวปพลังจิต...ผู้มีจิตเมตตาจะส่งพลังแห่งความ
รัก...ความอบอุ่น...ส่งพลังแห่งจิตเมตตาที่เราสั่งสมมาไปให้เขาเหล่า
นั้น...แอ๋มขอกล่าวขอบพระคุณล่วงหน้ากับท่านผู้มีเมตตาจิตทุกท่านนะ
คะ...​

ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=128072​