ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

kananun · 4 พฤษภาคม 2008

หลุมยุบ(Sinkhole)

*สายด่วนกรมทรัพยากรธรณี สอบถาม แจ้งเรื่องหลุมยุบ โทร. 02-6219791-4 ในเวลาราชการ
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR class=style6 borderColor=#111111><TD style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-BOTTOM: medium none"></TD><TD style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-BOTTOM: medium none">-แผนที่แสดงพื้นที่เกิดหลุมยุบ</TD><TR class=style6 borderColor=#111111><TD style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-BOTTOM: medium none"></TD><TD style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-BOTTOM: medium none">-สถิติหลุมยุบในประเทศไทย</TD><TR class=style6 borderColor=#111111><TD style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-BOTTOM: medium none" width="26%"></TD><TD style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-BOTTOM: medium none" width="74%">-แผนที่แสดงพื้นที่เสี่ยงภัยหลุมยุบในประเทศไทย</TD><TR class=style6 borderColor=#111111><TD style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-BOTTOM: medium none"></TD><TD style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-BOTTOM: medium none">-แผนที่แสดงพื้นที่เสี่ยงภัยหลุมยุบในภาคใต้</TD></TR><TR class=style6 borderColor=#111111><TD style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-BOTTOM: medium none"></TD><TD style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-BOTTOM: medium none">-แผนที่รายจังหวัดที่มีพื้นที่ที่มีโอกาสเกิดหลุมยุบ</TD></TR><TR class=style6 borderColor=#111111><TD style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-BOTTOM: medium none"></TD><TD style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-BOTTOM: medium none">-รายชื่อตำบล-อำเภอ-จังหวัดที่มีพื้นที่ที่มีโอกาสเกิดหลุมยุบ</TD></TR><TR class=style6 borderColor=#111111><TD style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-BOTTOM: medium none"></TD><TD style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-BOTTOM: medium none">-คู่มือแนวทางปฏิบัติในพื้นที่ที่มีโอกาสเกิดหลุมยุบ</TD></TR><TR class=style6 borderColor=#111111><TD style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-BOTTOM: medium none"></TD><TD style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-BOTTOM: medium none">-ประกาศเตือนภัยหลุมยุบ</TD></TR><TR class=style6 borderColor=#111111><TD style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-BOTTOM: medium none"></TD><TD style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-BOTTOM: medium none">-ประกาศขอความร่วมมือการแจ้งข้อมูล</TD></TR><TR class=style6 borderColor=#111111><TD style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-BOTTOM: medium none"></TD><TD style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-BOTTOM: medium none">-รายงานสรุปพื้นที่สำรวจหลุมยุบ</TD></TR><TR class=style6 borderColor=#111111><TD style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-BOTTOM: medium none"></TD><TD style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-BOTTOM: medium none">-รายงานการตรวจสอบหลุมยุบที่เกี่ยวข้องกับรอยร้าวของอาคาร</TD></TR><TR class=style6><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>

junior phumivat · 4 พฤษภาคม 2008

ลิงตัวปิดหู พูดว่า ......

ลิงตัวปิดตา พูดว่า ......

ลิงตัวปิดปาก พูดว่า ......

ภาพลิงสามตัวเอามือ ปิดหู ปิดตา ปิดปาก นี้

เป็นภาพปริศนาธรรมทางพุทธศาสนาที่มีมาแต่โบราณ

เป็นภาพที่มีความหมายลึกซึ้งมากจนได้รับการแพร่หลายไปทั่วโลก

สุญญตาธรรม

เปรียบจิตคน เหมือนลิง กลิ้งไปมา
หัดปิดหู ปิดตา ปิดปากบ้าง
ไม่ยินดี ยินร้าย สิ่งต่างต่าง
ปล่อยจิตวาง ว่างไว้ ไร้ตัวกู

เมื่อจิตว่าง วางได้ ไร้ตัวตน
ไม่ต้องมัว สะละวน ปิดตาหู
มีสิ่งใด ให้เห็น ให้ตาดู
สักแต่รู้ จิตไม่ยึด ไม่เกาะตาม

อันความทุกข์ มีได้ เพราะใจยึด
ดิ้นไม่หลุด ติดพัน เพราะใจหาญ
กล้าไปแต่ง เป็นตัวกู ของกูตาม
มีแต่พาล ให้เกลือกกลั้ว ในชั่วดี

อันจิตว่าง ใจว่าง ตามแต่เดิม
ไม่ต้องเสริม ไม่ต้องตัด ให้บัดสี
ปล่อยจิตใจ เป็นธรรม- ชาติดี
ทุกอย่างมี ล้วนไม่หลุด ไม่ติดใคร

อันความว่าง ว่างอยู่แล้ว ตามธรรชาติ
ไม่ต้องอาจ ไปเสริมแต่ง ให้ว่างใหม่
ธรรมชาติ ล้วนสมบูรณ์ อยู่ภายใน
หัดเข้าใจ เช่นนั้นเอง ในตัวเรา

หัดฝึกจิต ให้แยบคาย เมื่อผัสสะ
ใช้ตบะ ใช้ปัญญา อย่าได้เขลา
เมื่อกระทบ อย่ากระเทือน เป็นตัวเรา

ปล่อยให้เขา เป็นธรรม ของเขาเอย

อันความรู้ ในธรรมขั้น สุญญตา
อย่าเพ่งหา ในที่ใด สหายเอ๋ย
ตถตา แจ้งอยู้แล้ว ตามที่เคย
ฝึกให้เคย ทุกสิ่งว่าง แล้วในตัว

นพ.ดิลก พูนสวัสดิ์

อ้างอิงhttp://xchange.teenee.com/index.php?showtopic=51173

junior phumivat · 4 พฤษภาคม 2008

มณฑปพระศรีอาริยเมตไตรย

มณฑปพระศรีอาริยเมตไตรย ศาสนาขององค์สมเด็จพระสมณโคดม ครบ 5,000 ปี พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า

พันปีแรก จะมากไปด้วย พระปฏิสัมภิทาญาณ
พันปีที่สอง จะมากไปด้วย พระฉฬภิญโญ (อภิญญาหก)
พันปีที่สาม จะมากไปด้วย พระเตวิชโช (วิชชาสาม)
พันปีที่สี่ จะมากไปด้วย พระสุกขวิปัสสโก
พันปีที่ห้า จะมากไปด้วย พระอนาคามี

หลังจาก 5,000 ปี โลกจะว่างจากพระพุทธศาสนา เรียกว่า พุทธันดร ในช่วงที่ว่างพระพุทธศาสนา ก็จะมีพระปัจเจกพระพุทธเจ้ามาตรัสท่านก็สงเคราะห์ คนในขั้นต้นคือ ทานกับศีล ไม่เหมือนพระพุทธเจ้า สำหรับกัปนี้ชื่อว่า ภัทรกัป จะมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ 5 พระองค์

องค์ที่หนึ่ง คือ สมเด็จพระกกุสันโท
องค์ที่สอง คือ สมเด็จพระโกนาคมน์
องค์ที่สาม คือ สมเด็จพระพุทธกัสสป
องค์ที่สี่ คือ สมเด็จพระสมณโคดม (ปัจจุบัน)
องค์ที่ห้า องค์ต่อไปคือ พระศรีอาริยเมตไตรย

คนที่จะไปเกิดในศาสนาของพระศรีอาริยเมตไตรย คนสวยทุกคน มีผิวเหลืองเนื้อละเอียด จะมีอายุถึง 8 หมื่นปี ไม่มีคนจน มีแต่คนรวย การสัญจรสะดวกสบาย เข้าถึงธรรมทุกคน คนเลวจะไม่มีในศาสนาของพระองค์ มณฑปพระศรีอาริยเมตไตรย เป็นมณฑปติดกระจก มี 2 ชั้น ชั้นบนประดิษฐานพระศรีอาริยเมตไตรยประทับยืนทรงเครื่องเทวดา พระหัตถ์ซ้ายทรงจักร พระหัตถ์ขวาทรง พระขรรค์ ปิดทองคำเปลวและแผ่นเงิน

"จักร" หมายถึง ธรรมจักร มีความหมายว่า คนใดมีกิเลสหนามาก มีทิฏฐิมานะหนามากต้องใช้จักรปราบปราม

"พระขรรค์" มีความหมายว่า คนใดที่มีกิเลสน้อยก็ใช้ "พระขรรค์" เคาะหรือถู หรือขูดก็หายทุกคนที่ต้องการเกิดในสมัยท่านให้รักษาศีล 5 และกรรมบถ 10 เป็นปกติ ทุกวัน

งานเททองหล่อพระศรีอาริยเมตไตรย เมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2537 เวลา 14.00 น. มี สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ เป็นองค์ประธาน มีญาติโยมพุทธบริษัท ถวายทองคำรวม 50 กิโลกรัมเศษ

<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>

</FIELDSET>


____________________________________________________________

>>>โลกใบนี้ไม่มีทางหยุดหมุน ถ้าโลกใบนี้มีพลังงานแห่งรัก<<<

<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1>

junior phumivat · 4 พฤษภาคม 2008

ไฟล้างโลก และพระศรีอาริย์ตรัส
<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1>

เรื่องรู้เลยตาย : ไฟล้างโลก และพระศรีอาริย์ตรัส (บันทึก เมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๒)
ความจริงเรื่องรู้เลยตาย หรือรู้ก่อนเกิดนี้ ฉันเองไม่ใคร่อยากจะพูด และไม่อยากจะเชื่อถือนัก เพราะดูแล้วมันเลยธงไปไม่น้อยเลย แต่มาอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง คนเขียนๆ เรื่องรู้เลยตาย และรู้ก่อนเกิดไว้มากมาย เช่น รู้ว่า เมื่อสิ้นศาสนานี้แล้ว ไฟบันลัยกัลป์จะไหม้ถึงภวคพรหม ดูเรื่องมันมากมายนัก ฉันสงสัยไม่หายว่า ไฟอะไรจะดันไปไหม้แม้แต่เทวดาและพรหม ดูมันพิลึกพิลั่นมากมายเกินพอดี เมื่ออารมณ์สงสัยเกิดขึ้น ฉันก็อดที่จะอยากรู้ความจริงไม่ได้ ในที่สุดคืนของวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๒ นนทากับ ประสบสุข มาฝึกกรรมฐาน ฉันนั่งคุมกรรมฐาน ความสงสัยเรื่องรู้เลยธงเกิดขึ้นมาขวางจิต จึงถามท่านผู้รู้ที่เป็น สัพพัญญูวิสัย ท่านทรงพยากรณ์ให้ทราบดังนี้

หลังสิ้นพระพุทธศาสนา : หลังจากกึงพุทธกาลไปแล้ว ๔,๐๐๐ ปี (เลยพุทธศาสนาครบ ๕,๐๐๐ ปีไปอีก ๑,๕๐๐ ปี) จะมีไฟล้างล้างโลก ล้างแต่มนุษย์เท่านั้น ไม่ลามไปถึงเทวดา ท่านบอกว่า ความชั่วที่จะเป็นเหตุให้ไฟล้างนั้น เป็นผลของสัตว์ที่สร้างอกุศลกรรมมาก มารวมกันอยู่ เป็นสมัยสัตว์นรกครองโลก มีแต่ความเร่าร้อน หาความสงบสุขไม่ได้ ความจริงแล้วมันเริ่มมีความเร่าร้อนตั้งแต่ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปีแล้ว จากนั้นไป พวกอธรรมเกิดมาก มีอำนาจวาสนามาก ทำให้ความสงบสุขไม่มี เพราะพวกอธรรมเป็นพวกเห็นแก่ตัว มากกว่าเห็นแก่ส่วนรวม

หลังจากไฟล้างโลกแล้ว : โลกจะร้างไม่มีต้นหญ้ากอไม้ แม้แต่น้ำในมหาสมุทรก็ไม่มีไปครบ ๑,๐๐๐ ปี หลังจากนั้นแล้วจะมีฝนใหญ่ตกลงในมนุษย์โลก แม่น้ำและมหาสมุทรจะเต็มไปด้วยน้ำ พื้นโลกจะชุ่มชื้น ต้นหญ้า ต้นไม้ จะเริ่มงอกงามขึ้นเป็นลำดับ จนโลกทั้งโลกกลายเป็นป่าไม้

หลังจากที่โลกเขียวชอุ่ม ไปด้วยต้นหญ้าใบไม้นั้น : ทิ้งระยะนาน ๑ หมื่นปี สัตว์โลกเริ่มเกิด สัตว์และคนที่มาเกิดยุคต้นนั้น ไม่ได้อาศัยบิดามารดาเป็นแดนเกิด มาเกิดแบบ อุปปาติกะ คือ มาเกิดด้วยอำนาจกรรม คือเป็นตัวคนขึ้น จะยังไม่มีพระอาทิตย์ พระจันทร์ส่องแสง มีแสงเกิดจากอำนาจบุญของแต่ละคน คือมีแสงสว่างออกจากตัวเองเป็นสำคัญ เรื่องอาหารนั้นนระยะแรกยังไม่ต้องการอาหาร มีความอิ่มด้วยธรรมปิติ เพราะแต่ละคนที่มาเกิด ล้วนแล้วแต่มาจากเทวดาหรือพรหมทั้งนั้น ไม่มีสัตว์นรกหรือเปรตเจือปน โลกจึงเต็มไปด้วยความสุข หาความทุกข์ไม่ได้ นอจากกฏธรรมดา คือ ความเสื่อมของสังขาร เรื่องการทะเลาะยื้อแย่งไม่มี คนทุกคนเป็นคนสวยหมด ผิวเหลือง เนื้อละเอียดทั้งหญิงและชาย มีแต่คนรวย ไม่มีคนจน มีแต่คนใจบุญ ไม่มีใครใจบาป

พระศรีอาริย์มาตรัส : เมื่อโลกมีมนุษย์ และสัตว์บริบูรณ์ มีดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์แล้ว ระยะเวลานับแต่มีสัตว์โลกเกิดในโลก เวลาล่วงมาได้ล้านปี คนสมัยนั้นีอายุครองตนได้ ๔ หมื่นปีเป็นอายุขัย ท่านว่าตอนนั้นพระศรีอาริย์จะมาตรัสเป็นพระพุทธเจ้า เขตที่ท่านลงมาตรัสสมัยปัจจุบันเรียกว่า เขตเมืองพม่า

คณะคอยพระศรีอาริย์ : คนกลุมหนึ่ง ที่บำเพ็ญบารมีคอยพระศรีอาริย์ ตามปฎิญญาที่ให้ไว้หลายพุทธสมัยนั้น ท่านหัวหน้าทรงนามว่า "โกสีห์" จะสร้างเมืองแถวด้านเหนือของเมืองพม่า เรียกว่า เชียงตุง ปัจจุบัน ให้ชื่อเมืองว่า สีหนคร รวบรวมลูกหลานทั้งหมดมาร่วมบำเพ็ญกุศล และเป็น อุปฐากใหญ่ ของพระศาสนา ในที่สุดก็นิพพานทั้งตระกูล

ในศาสนาพระศรีอาริย์ : เรื่องพระศรีอาริย์นี้ เวลานี้ชักยุ่งมากทีเดียว เพราะไม่ว่าไปทางไหน ก็พบพระศรีอาริย์เกลื่อนไปหมด ที่โน่นก็พระศรีอาริย์ ที่นี่ก็พระศรีอาริย์ เล่นเอาชาวบ้านอานกันเป็นแถว เพราะอยากเป็นบริวารพระศรีอาริย์ ส่วนพวกร้านค้าก็บอกว่า ระหว่างนี้เข้ายุคภาษีอาน ฟังแล้วคล้ายๆ กัน....ฯลฯ

มาพูดกันเรื่อง พระศรีอาริย์กันดีกว่า เรื่องภาษีอานนั้นพูดไม่ออกแล้ว พอใจหรือไม่พอใจก็ต้องเสีย เป็นเรื่องของยุคทมิฬ ห้ามพูด เมื่อบ้านเมืองยุ่ง ทางกลุ่มศาสนาก็พลอยกลุ้ม เพราะเมื่อมีความเดือดร้อน ชาวบ้านก็อยากพบพระศรีอาริย์ เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุข คราวนี้เองเป็นเหตุให้พระศรีอาริย์อวตาร หรือโงนเงนเหมือนต้นตาลลงมาไม่ทราบ เกิดมีพระศรีอาริย์โผล่หน้ามาพร้อมกันหลายองค์ อยู่ตามถ้ำ ตามเขาบ้าง ตามกลุ่มชนในชนบทบ้าง ไม่รู้ว่าอวตารลงมาอย่างไรพร้อมกัน ในยุคเดียวกันตั้งหลายอาน บางรายก็สวดด่อน เขาว่าอย่างนั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาสวด เขาสวดกันอย่างไร บางรายเฉพาะที่เขาตะพาบ เมืองอุทัย เห็นสวดดะไม่ใช่สวดด่อน ที่เมืองลพบุรีก็มี รายนั้นทำงานมงคล นิมนต์พระผีมาสวดเป็นแถว เห็นตั้งอาสนะไว้ แต่ไม่เห็นมีพระ มีคนเขาบอกว่าท่านนิมนต์หลวงพ่อศุข หลวงพ่อปาน หลวงพ่อแช่ม ฯลฯ และอีกหลายท่าน ให้มาสวดมนต์ ในงานยกธงธรรมจักร นิมนต์พระผีมานี่ ลดค่าครองชีพดีมาก ท่านสวดมนต์ก็เสียงไม่ดัง นั่งก็ไม่เปลืองที่ เลี้ยงอาหารก็ไม่เปลือง สบายใจดีแล เรื่องอย่างนี้มันเป็นไปไม่ได้ นอกจากจะโกหกเพื่อหวังลาภผลเท่านั้นเอง เอาอะไรเป็นจริงเป็นจังไม่ได้ ขึ้นไปบนสวรรค์ทีไร พบพระสรีอาริย์ทุกคราว แถมท่านบอกมาด้วยว่า "ที่เข้าทรง และว่าฉันไปนั้น ฉันไม่เคยไปเลย" เรื่องก็จบเพียงแค่นี้

ต่อไป มาพูดกันถึงศาสนาพระศรีอาริย์กันดีกว่า ท่านว่า ศาสนาของท่านนั้น มีผลดังนี้

๑. คนสวยทุกคน มีผิวเหลือง เนื้อละเอียด คนแก่ที่สุด มีทรวดทรงเท่ากับคนอายุประมาณ ๒๐ ปีเศษสมัยนี้เท่านั้นเอง อายุคนสมัยนั้นท่านว่ามีอายุถึง ๔ หมื่นปีเป็นอายุขัย

๒. สมัยของท่าน ไม่มีคนจน มีแต่คนรวย มีต้นไม้สารพัดนึกอยู่ในที่ทุกสถาน สัตว์นรก เปรต อสุรกาย มีจิตใจชั่วร้าย ยังไม่มีโอกาสเกิดในสมัยของพระองค์ ท่านที่จะไปเกิดที่นั้น ต้องเป็นเทวดา หรือพรหมเท่านั้น โลกจึงมีแต่ความสุข ไม่มีตำรวจทหาร มีแต่พ่อบ้านแม่เรือน

๓. การสัญจรไปมาสะดวกสบาย ไปไหนก็พายเรือตามน้ำ

๔. คนเข้าถึงธรรมทุกคน ท่านว่าคนที่เจริญสมถะพอมีญาณ หรือมีวิปัสสนาญาณบ้างพอสมควรจะเข้าถึงธรรมพิสมัยได้โดยฉับพลัน คือเป็นพระอริยเจ้า คนที่ได้อริยะต้นแล้ว จะเข้าถึงอรหัตผลได้โดยฉับพลัน

คนที่ทำบุญไว้น้อย คือฟังคาถาพัน และปฏิบัติตามแต่ไม่สมบูรณ์ อย่างต่ำก็เข้าถึงสรณคมน์ อย่างสูงก็ได้อริยะ ที่เป็นอย่างนี้เป็นเพราะท่านบำเพ็ญบารมีถึง ๑๖ อสงไขย กำไรแสนกัป ท่านบำเพ็ญบารมีมาก คนเลวจึงเข้าแทรกแซงในศาสนาของพระองค์ไม่ได้ น่าเกิดจริงๆ
เรื่องกระจุ๋มกระจิ๋มอย่างนี้อย่างนี้ เขียนไว้ให้อ่านเล่น จริงหรือไม่จริง ไม่มีผลที่จะพิสูจน์ได้ด้วยตำรา ต้องอาศัยฌานและญาณช่วยจึงจะทราบผลแน่นอน ถ้าวิริยะอุตสาหะแล้ว ไม่ช้าก็พากันมีความรู้สึกที่จะพิสูจน์ได้ ฟังไว้แต่อย่าเชื่อ และอย่าเพิ่งปฏิเสธ จนกว่าเราจะมีฌานและญาณพอจะพิสูจน์ได้ สำหรับเรื่องนี้ขอยุติเท่านี้ วันหน้าถ้ามีเวลาพอ จะเอาเรื่องโลกเกิดมาเขียนให้อ่านเล่น

พระพุทธเจ้าแม้พระองค์เองก็ไม่ได้บังคับให้เชื่อให้ใครศรัทธา
เธอเองก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อเรา แต่ให้พิสูจน์ด้วยการปฎิบัติ ให้รู้แจ้งเห็นจริงเสียก่อน ไม่ใช่ถือฟังตามๆกันมา

junior phumivat · 4 พฤษภาคม 2008

ดวงเมือง

พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

ผู้ถาม : ขณะนี้ดวงประเทศชาติกำลังแย่ หลวงพ่อมีวิธีแก้ไขตามพุทธศาสนา อย่างเช่นการสะเดาะห์เคราะห์ใหญ่จะช่วยชาติได้หรือไม่ ลูกๆจะช่วยประเทศชาติในด้านใดบ้างเจ้าคะ......? (2530 )

หลวงพ่อ : มันของไม่ยากเลยนะ ให้ดวงของประเทศชาติมา ถ้าเอาอะไรผูกไว้ฉันจะช่วยแก้ออกให้ (หัวเราะ) ดวงประเทศชาติเป็นอย่างไรนะ ฉันไม่เคยรู้เขาเลย

ผู้ถาม : เป็นดวงเมืองหรือเปล่าครับ.......?

หลวงพ่อ : ดวงเมืองหรืองดวงกรุงเทพฯ มันมี 2 ดวงนะ เอาอย่างนี้ดีกว่า ดวงมันเป็นวิชาของโหร ถ้าตามพุทธศาสนาเขา เรียกว่ากฎของกรรม อย่างนี้ถูกกว่านะ กฎกรรมนี่เราแก้กันไม่ได้

สมมุติว่าสีมันเข้มเราก็พยายามเอาสีหนึ่งเข้ามาผสมให้มันจาง สีมันไม่จางแต่สีอื่นมันทับ นั้นคือกฎของกรรมที่ทำให้คนลำบาก คือบาปในชาติก่อน เราสร้างบุญให้มันเยอะ

การสร้างบุญให้มันเยอะ ไม่ใช่ต้องใช้เงินเยอะ การใช้เงินเยอะบางทีกุศลไม่มาก ไม่แน่อย่างพวกที่เจริญกรรมฐาน บูชาพระสวดมนต์ จิตสะอาดขึ้น ทำอย่างนี้เรื่อยๆไปก็แล้วกัน วิธีแก้อีกวิธีหนึ่ง ที่ท่านย่าบอกไว้

คือให้ว่าคาถาเงินล้าน ด้วยความตั้งใจ อย่างน้อยวันละ 30 จบ ไม่ต้องจบครั้งเดียวนะ หลายครั้งในวันเดียวนะอย่างนี้จะแก้ความฝืดเคืองได้<O
ค่อยๆ แก้ แล้วไม่ต้องไปแก้ดวงเมือง แก้ดวงเมืองของเราก็แล้วกัน ใช่ไหม ถ้าดวงของเราดีทั้งหมด เมืองของเราก็ดีด้วย.<O

.ธรรมปฏิบัติเล่ม 15 โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน<O

(พระมหาวีระ ถาวโร ) วัดจันทาราม จ. อุทัยธานี<O

junior phumivat · 4 พฤษภาคม 2008

เรื่องที่ ๑๖๔

พระเทวทัตตายจากความเป็นคนไปอยู่ในอเวจีมหานรก

"..พระเทวทัตเคยจองล้างจองผลาญพระพุทธเจ้ามาหลายแสนกัป เพราะต้นเดิมที่เดียวเป็นคนไม่ดีคือ พระเทวทัตเป็นพ่อค้าทุจริต ส่วนพระพุทธเจ้าเป็นพ่อค้าเหมือนกันแต่เป็นพ่อค้าสุจริต วันหนึ่งมีหญิงแก่คนหนึ่งเคยเป็นคนอยู่ในตระกูลมหาเศรษฐีเก่ารับช่วงตกทอดกันมาหลายชั่วคนแล้ว แต่เวลานั้นกลายเป็นคนจน ในตระกูลเศรษฐีนี้มีถาดทองคำ เหลืออยู่ใบหนึ่ง ต่อมาพระเทวทัตไปขอซื้อแกก็เอามาขายให้เพราะเป็นคนจน เมื่อท่านดูแล้วก็ทราบว่าเป็นทองเนื้อดีแต่เห็นว่าเป็นคนจนก็เลยบอกว่า "ทองนี้ไม่ใช่ทองจริงๆ เป็นทองปลอม" จึงตีราคาในฐานะทองปลอมให้ แกก็ไม่ขายเพราะทราบดีว่าเป็นทองเนื้อบริสุทธิ์ พระเทวทัตก็คิดว่าถ้าไม่ซื้อพ่อค้าคนอื่นก็คงไม่ซื้อ ไม่ช้าแกก็ต้องจำใจขายให้กับท่านเอง <O></O>
ต่อมาพ่อค้าพระพุทธเจ้าไปพบเข้าเห็นว่าเป็นทองดีจริงๆ เนื้อทองบริสุทธิ์ ก็ให้ราคาเท่าทองคำธรรมดาแกก็ยอมขาย พอพระเทวทัตทราบเข้าก็เจ็บใจจึงจองล้างจองผลาญพระพุทธเจ้า โดยหยิบทรายมา ๑ กำมือแล้วก็หว่านลงไปประกาศว่า<O></O>
"เราจะขอจองล้างจองผลาญท่านต่อไปเท่าเมล็ดทราย ๑ กำมือนี้ หมายความว่า ๑ ชาติเท่ากับ ๑ เม็ด จนกว่าจะหมดเมล็ดทราย"<O></O>
ต่อมาเมื่อสมเด็จพระทศพลเป็นพระบรมโพธิสัตว์ไปเกิดทุกๆ ชาติ พระเทวทัตก็ตามจองล้างจองผลาญตลอดเวลา ก่อนชาติสุดท้ายปลายมือสมัยพระพุทธเจ้าเกิดเป็นพระเวสสันดร พระเทวทัตก็มาเกิดเป็นชูชก จนมาถึงชาติสุดท้ายพระเทวทัตมาเกิดเป็นพี่ของพระนางพิมพาซึ่งเป็นพระชายาของพระสิทธัตถะราชกุมาร ที่มาเป็นพระพุทธเจ้า และก็เป็นลูกของลุงพระพุทธเจ้าเอง ความจริงก็เป็นญาติสนิทกัน <O></O>
ต่อมาเมื่อพระพุทธเจ้าทรงบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว บรรดาพระญาติก็พากันออกบวช พระเทวทัตก็ออกบวชด้วย เมื่อบวชแล้วก็ได้ฌานโลกีย์ ได้อภิญญาสมาบัติสามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ เนรมิตอะไรต่อมิอะไรได้ ต่อมาก็มีความกำเริบใจ เพราะอกุศลกรรมเข้าสนับสนุน คิดจองล้างจองผลาญพระพุทธเจ้า ไปยุพระเจ้าอชาตศัตรูให้กบฏต่อพระราชบิดา และพระเทวทัตก็กบฏต่อพระพุทธเจ้า คิดฆ่าพระพุทธเจ้าและก็จ้างคนฆ่าพระพุทธเจ้า ทำสังฆเภทคือทำสงฆ์ให้แตกกัน และยังคิดฆ่าคนทั้งหลายอีกด้วย ในเมื่อพระเทวทัตเลวจัดขนาดนี้ ในที่สุดแผ่นดินทนไม่ไหว ทนความหนักของความเลวไม่ได้ แผ่นดินจึงแยกปล่อยให้พระเทวทัตลงไปยืนกางแขนกางขาถูกหอกเสียบอยู่ในอเวจีมหานรก<O></O>
นรกขุมที่ ๑ ถึงขุมที่ ๗ หรือนรกขุมอื่นๆ บรรดาสัตว์นรกทั้งหลายมีการเคลื่อนไหวได้ แต่นรกขุมใหญ่ขุมที่ ๘ ที่เรียกว่า "อเวจีมหานรก" ไม่มีการเคลื่อนไหว<O></O>
คำว่า "อจลัง" แปลว่า "ไม่หวั่นไหว"<O></O>
นรกขุมนี้มีกำแพงพิเศษทั้งข้างล่าง ข้างบน และทั้ง ๔ ด้านปิดหนา ท่านได้ฌานเวลาลงต้องลงทางปล่อง จะเห็นพระเทวทัตยืนอยู่ เบื้องบนด้ามหอกฝังอยู่กำแพงด้านบน ปลายหอกเสียบตั้งแต่หัวพระเทวทัตทะลุตูดและลงไปปักอยู่กับกำแพงด้านล่าง ด้านหน้าด้ามหอกติดอยู่กับกำแพงด้านหน้า ตรงกลางหอกติดอยู่ที่อกพระเทวทัต ด้านปลายหอกไปปักอยู่ที่กำแพงด้านหลัง ด้านข้างก็เหมือนกัน ทั้งมือ ทั้งเท้า ทั้งตัว ถูกเสียบด้วยหอกหลายสิบเล่ม ดูร่างกายของท่านไม่ไหวติงเลย ไมใช่ตายแต่ดิ้นไม่ไหวเพราะถูกหอกเสียบตรึงหมด และหอกที่เสียบก็เป็นเหล็กแล้วก็เป็นไฟ กระดูกของท่านแดงฉานเหมือนกับเหล็กที่ถูกไฟเผาไหม้จนสุก และไฟก็พุ่งเข้ามาทั้ง ๖ ด้าน ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่อย่างนี้สิ้นเวลา ๑ กัป ถ้าทำบาปพอดิบพอดีสำหรับลงนรกขุมนี้ แต่ถ้าทำบาปเลยพอดีพอครบ ๑ กัปแทนที่จะผ่านขุมนี้ไปได้ก็ต้องเสวยทุกข์ในนรกขุมนี้ต่อไปอีกเป็นกัปๆ นับเป็นกัปๆ อย่างเทวดา เทวดาที่ทำบุญเลยพอดี เขาเกิดเป็นเทวดาตั้ง ๖๐ กัปบ้าง ๑๐๐ กัปบ้าง แต่อายุของเทวดา ๑,๐๐๐ ปีทิพย์บ้าง ๒,๐๐๐ ปีทิพย์บ้าง มันไม่ถึงกัป ก็ตายจากเทวดาปั๊บแล้วก็เกิดเป็นเทวดาปุ๊บทันที เสวยสุขต่อไปในความเป็นเทวดา.."<O></O>
<O></O>

junior phumivat · 4 พฤษภาคม 2008

บัดนี้ จะได้วิสัชนาในเรื่อง " พระอนาคตวงศ์ "โดยพุทธภาษิตปริยาย มีเนื้อความตามพระบาลีว่า
เอกัง สะมะยัง..
ครั้งหนึ่งสมเด็จพระสรรเพชรพุทธเจ้า เสด็จยับยั้งอาศัยใกล้กรุงสาวัตถีมหานครวะสันโต ..
เมื่อสมเด็จพระชินวรผู้ทรงญาณสำราญพระอิริยาบถ เข้าพระพรรษาอยู่ในบุพพาราม
อัน นางวิสาขา สร้างถวายสิ้นทรัพย์ ๒๗ โกฏิฯ
ครั้งนั้นพระองค์ทรงปรารภซึ่ง พระอชิตเถระ ผู้เป็นหน่อบรมพุทธางกูร " อาริยเมตไตรยเจ้า "ให้เป็นเหตุ องค์สมเด็จพระบรม โลกเชฏฐ์จึงตรัสพระธรรมเทศนาแสดงซึ่งพระโพธิสัตว์ทั้ง๑๐ องค์ อันจะมาตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล ครั้งนั้นพระธรรมเทศนาสารีบุตรเถรเจ้า จึงกราบทูลอาราธนา พระองค์ก็นำมาซึ่ง " อดีตนิทาน "แห่งองค์สมเด็จพระพิชิตมารทั้ง ๑๐ พระองค์ที่จะมาตรัสรู้ในอนาคตกาลเบื้องหน้าต่อไปเป็นใจความว่า

" เมื่อศาสนาพระตถาคตครบ ๕๐๐๐ ปีแล้วฝูงสัตว์ก็มีอายุถอยลงคงอยู่ ๑๐ ปีเป็นอายุขัย ครั้งนั้นแล..จะบังเกิดมหาภัยเป็นอันมาก มี " สัตถันตรกัป " คือ เป็นกัปที่มนุษย์ทั้งหลายจะวุ่นวายเป็นโกลาหล เกิดรบพุ่งฆ่าฟันซึ่งกันและกันจะจับไม้และใบหญ้าก็กลายกลับเป็นหอกดาบแหลนหลาว อาวุธน้อยใหญ่ไล่ทิ่มแทงกันฝูงมนุษย์ทั้งหลายที่มีปัญญา ก็หนีไปซุกซ่อนตัวอยู่ใน ซอกห้วยหุบเขาจะเหลืออยู่ก็แต่มนุษย์ที่มีปัญญา นอกกว่านั้นแล้วก็ถึงซึ่งพินาศฉิบหายเป็นอันมาก
เมื่อพ้น ๗ วันล่วงไปแล้ว มนุษย์ทั้งหลายที่ซ่อนเร้นอยู่นั้นเห็นสงบสงัดเสียงคนก็ออกมาจากที่ซ่อนเร้น ครั้นเห็นซึ่งกันและกันก็มีความสงสารรักใคร่กันเป็นอันมาก เข้าสวดสอดกอดรัดร้องไห้กันไปมา บังเกิดมีความเมตตากรุณากันมากขึ้นไป ครั้งตั้งอยู่ใน " เมตตาพรหมวิหาร " แล้วก็อุตสาหะรักษาศีล ๕ จำเริญกรรมฐานภาวนาว่า
อะยัง อัตตะภาโร อันว่ากายของอาตมานี้ อนิจจัง หาจริงมิได้ ทุกขัง .. เป็นกองแห่งทุกข์ ฝ่ายเดียวหาสัญญาสำคัญมั่นหมายมิได้ ด้วยกายอาตมาไม่มีแก่นสาร.. "
เมื่อมนุษย์ทั้งหลายปลงปัญญาเห็นในกระแสพระกรรมฐานภาวนาดังนี้เนือง ๆอายุของมนุษย์ทั้งหลายก็วัฒนาจำเริญขึ้นไป ที่มีอายุ ๑๐ ปีเป็นอายุขัยนั้นค่อยทวีขึ้นไปถึง ๒๐ ปีเป็นอายุขัย ค่อยทวีขึ้นไปทุกชั้นทุกชั้น จน อายุได้ร้อย พันหมื่น แสน โกฏิ จนถึงอสงไขยหนึ่ง
ครั้นนานไปเห็นว่าไม่รู้จักความตายแล้วก็มีความประมาทมิได้ปลงใจลงในกอง ทุกขัง อนิจจัง อนัตตาอายุก็ถอยน้อยลงมาทุกทีจนถึง ๘ หมื่นปี ฝนก็ตกเป็นฤดู คือ ๕ วันตก ๑๐ วันตก ใน "ชมพูทวีป " ทั้งปวงมีพื้นแผ่นดินราบคาบสม่ำเสมอเป็นอันดี
เกตุมดีราชธานี
ครั้งนั้น กรุงพาราณสี เปลี่ยนนาม ชื่อว่า เกตุมดี โดยยาวได้ ๑๖ โยชน์โดยกว้างได้ ๑ โยชน์ มีไม้กัลปพฤกษ์เกิดทั้ง ๔ ประตูเมือง มีแก้ว ๗ ประการประกอบเป็นกำแพงแก้ว ๗ ชั้นโดยรอบพระนคร
ครั้งนั้น มหานฬการเทพบุตรก็จุติลงมาเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิราช ทรงพระนามว่า พระเจ้าสังขจักรพรรดิเสวยศิริราชสมบัติ ในเกตุมดีราชธานี เป้นพระราชาที่ทรงธรรมครอบครองแผ่นดินมีมหาสมุทรทั้ง ๔ เป็นขอบเขต และในท่ามกลางพระนครนั้น มี " ปราสาท "อันสำเร็จไปด้วยแก้ว ๗ ประการ ผุดขึ้นมาจากมหาคงคา ลอยขึ้นมายังนภากาศมาตั้งอยู่ในท่ามกลางพระนคร ปราสาทแก้วนี้ ในสมัยพุทธกาลเป็นปราสาทแห่ง "พระเจ้ามหาปนาท " ( ในตอนนี้ จะขอแทรกประวัติไว้ด้วยดังนี้ )
ประวัติพระเจ้ามหาปนาท
อันว่า ปราสาทของพระเจ้ามหาปนาทนั้น เป็นปราสาทที่ท้าวสักกเทวราช ตรัสสั่ง วิษณุกรรมเทพบุตร ลงมาสร้างถวายพระราชา กล่าวคือ ..สมัยก่อนที่พระพุทธเจ้าจะทรงอุบัติขึ้นนั้น ยังมี ช่างเสื่อลำแพน ๒ คนพ่อลูกได้พากันสร้างบรรณศาลาแล้วด้วยไม้อ้อและไม้มะเดื่อเพือถวายแด่พระปัจเจกพุทธเจ้าแล้วทั้ง ๒คนก็ช่วยกันอุปถัมภ์บำรุงพระปัจเจกพุทธเจ้านั้นด้วยปัจจัย ๔
ครั้นพ่อลูก ๒คนนั้นตายแล้ว จึงได้ไปบังเกิดในเทวโลก ส่วนบิดายังอยู่ในเทวโลกฝ่ายบุตรได้จุติจากเทวโลก ลงมาเกิดเป็นพระราชโอรถของ พระเจ้าสุรุจิ และพระนางffice:smarttags" /> มหาปนาทกุมาร เวลาได้เสวยราชย์แล้ว จึงมีพระนามว่าพระเจ้ามหาปนาท ต่อมาท้าวสักกเทวราชได้ตรัสสั่งให้วิษณุกรรมเทพบุตรลงมาสร้างปราสาทถวายแก่พระเจ้ามหาปนาทนั้น

junior phumivat · 4 พฤษภาคม 2008

ภาพปริศนาธรรมครับ ลิงhttp://video.clipmass.com/movie/86072105840090

เกษม · 4 พฤษภาคม 2008

คนไทยในกรุงย่างกุ้งปลอดภัยจากพายุไซโคลนนาร์กีส

กระทรวงการต่างประเทศ 4 พ.ค. - นายบรรสาน บุนนาค เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีพายุไซโคลนนาร์กีส ได้พัดเข้ากรุงย่างกุ้ง สหภาพพม่า ตั้งแต่เช้าวันที่ 3 พฤษภาคม 2551 ว่าพายุลูกดังกล่าวได้สร้างความเสียหายให้กับกรุงย่างกุ้งอย่างรุนแรง โดยระบบไฟฟ้า น้ำประปา โทรศัพท์ ในพื้นที่ส่วนใหญ่ถูกตัดขาด ระบบสื่อสารได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ต้นไม้ที่มีอายุกว่าร้อยปีในกรุงย่างกุ้ง ทานแรงพายุไม่ได้และโค่นลงเป็นจำนวนมาก ทำให้ถนนถูกปิดกั้น และสนามบินต้องปิดทำการ เนื่องจากไม่มีไฟฟ้า และสภาพอากาศ การบินไทยยังคงไม่สามารถ ทำการบินได้ในวันนี้

สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ตั้งศูนย์ประสานงานการให้ความช่วยเหลือ และส่งเจ้าหน้าที่เดินทางโดยรถยนต์ และเดินเท้า ไปเยี่ยมคนไทยที่เดินทางไปท่องเที่ยวอยู่ตามโรงแรมต่าง ๆ เช่น ที่โรงแรม Park Royal โรงแรม Chatruim และโรงแรม Kandagyi ซึ่งพบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวไทยรวมกันกว่าร้อยคน และทุกคนปลอดภัย ไม่มีรายงานว่ามีผู้ได้รับอันตราย หรือความเสียหายใด ๆ และขณะนี้โรงแรมส่วนใหญ่ยังคงมีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ นอกจากคนไทยที่เดินทางไปท่องเที่ยวแล้ว ยังมีคนไทยที่พำนักอาศัยในกรุงย่างกุ้งระยะยาวอีกประมาณ 400 คน ซึ่งขณะนี้ไม่พบว่ามีผู้ได้รับอันตรายจากพายุดังกล่าว

สำหรับการสื่อสารโทรคมนาคมในกรุงย่างกุ้งถูกตัดขาดเกือบทั้งหมด ผู้ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนต้องติดต่อกับญาติ สามารถติดต่อไปยังสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 354-6200 ต่อ 105 หรือ 116 หรือ 119 หรือ 120 . - สำนักข่าวไทย

2008-05-04 17:27:05

นาร์กีส ทำระนองน้ำท่วมแล้ว

ระนอง 4 พ.ค. - อิทธิพลจากพายุดีเปรสชั่น "นาร์กีส" ส่งผลให้จังหวัดระนองน้ำท่วมแล้ว หลังจากที่ฝนตกหนักมาตลอดทั้งวัน ประกอบกับน้ำทะเลหนุนสูง

หลังเกิดฝนตกหนักตลอดทั้งวันที่จังหวัดระนอง จากอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่นนาร์กีส ทำให้เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมาได้เกิดน้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนและร้านค้าในเขตเทศบาลเมืองระนอง ทางเทศบาลไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน เนื่องจากเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนเข้ามาพอดี โดยระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 30 - 40 เซนติเมตร ประชาชนต้องขนย้ายข้าวของเครื่องใช้ขึ้นไปไว้บนที่สูง ขณะนี้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำกระสอบทรายออกไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนแล้ว ขณะที่ทางจังหวัดได้ประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณเชิงเขา และใกล้ทางน้ำไหล ให้ระมัดระวังดินโคลนถล่ม และน้ำป่าไหลหลากในช่วงนี้

ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ที่อ่อนกำลังลงมาจากพายุดีเปรสชั่น "นาร์กีส" ได้อ่อนกำลังลงอีก และจะสลายตัวในคืนนี้ แต่ยังคงทำให้ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนาแน่นต่อเนื่องไปอีกจนถึงวันพรุ่งนี้ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระมัดระวังอันตรายจากฝนที่ตกสะสมอยู่ตามแนวเขา ที่อาจส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมในที่ลุ่มบางพื้นที่ได้ในระยะ 1 - 2 วันนี้. - สำนักข่าวไทย

2008-05-04 22:14:20

เชียงราย-ระนองฝนตกหนักเฝ้าระวังน้ำเปลี่ยนสี

ภูมิภาค 4 พ.ค.- ปภ.เชียงราย ห่วงน้ำป่าหลากฉับพลันจากฝนตกต่อเนื่อง เตือนบ้านเรือนริมฝั่ง 3 อำเภอ เตรียมรับมือ-เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะหากน้ำเป็นสีขุ่นแดง ส่วนระนองเปิดศูนย์ล่วงหน้าช่วยผู้ประสบภัย ขณะที่ย่านชุมชนน้ำท่วมขังฉับพลัน

นายณรงค์ อินโส รักษาราชการแทนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ประกาศย้ำเตือนประชาชนพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำสายและแม่น้ำคำ ตั้งแต่ อ.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่จัน และ อ.เชียงแสน ระวังน้ำล้นตลิ่งและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ หลังจากตลอดคืนที่ผ่านมาฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ทำให้แม่น้ำหลายสายมีปริมาณเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะแม่น้ำคำที่ไหลมาจากดอยแม่สลอง อ.แม่ฟ้าหลวง บางจุดเชี่ยวกรากและสีขุ่นแดง โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเวรยามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ที่ จ.ระนอง ท้องฟ้ามืดคลึ้มและฝนตกหนักมาตลอดทั้งวัน สถานีอุตุนิยมวิทยาระนอง อ.เมือง วัดปริมาณน้ำฝนได้ 150 มิลลิเมตร และว่ายังมีฝนตกต่อเนื่องไปถึงวันที่ 5 พฤษภาคมนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระมัดระวังอันตราย ส่วนชาวเรือระวังการออกทะเล โดยเฉพาะเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางจังหวัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากวันนี้มีน้ำท่วมขังฉับพลันถนนบางสายในเขตเทศบาลเมืองระนอง และไหลเข้าบ้านเรือนราษฎรบางส่วน ทางสำนักงานป้องกันฯ เร่งนำกระสอบทรายไปช่วยเหลือ พร้อมกับเฝ้าสังเกตสีของน้ำอย่างใกล้ชิด เนื่องจากแม่น้ำลำคลองมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะคลองหาดส้มแป้นที่ไหลผ่านเขตเทศบาลฯ.-สำนักข่าวไทย

2008-05-04 16:52:31

เชียงใหม่ประชุมด่วนรับมือฝนตกหนักดอยอินทนนท์

เชียงใหม่ 4 พ.ค. - นายชุมพร แสงมณี ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ เรียกประชุมปลัดอำเภอ กำนันผู้ใหญ่บ้าน ทั้ง 24 อำเภอ ช่วงเช้าที่ผ่านมา (4 พ.ค.) เพื่อเตรียมรับมือผลกระทบจากพายุนาร์กีส เนื่องจากขณะนี้มีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ พร้อมทั้งการแจ้งเตือนราษฎรพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะ อ.แม่วาง อ.จอมทอง และ อ.แม่แจ่ม

นอกจากนี้ ให้จัดเวรยามเฝ้าระวังสถานการณ์ต้นน้ำ เพราะหากเกิดน้ำป่าไหลหลากจะเข้าอพยพราษฎรได้ทันที เนื่องจากบนยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง มีฝนตกหนัก วัดปริมาณน้ำฝนมากถึง 196.4 มิลลิเมตร อาจเกิดน้ำป่าหลากท่วมหมู่บ้านบริเวณเชิงเขา ล่าสุดในตัวเมืองเชียงใหม่ท้องฟ้ามืดครึ้มและมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย

2008-05-04 13:46:07

เร่งหาสาเหตุปลาอ่างเก็บน้ำห้วยหลวงลอยตายเกลื่อน

อุดรธานี 4 พ.ค.- นักวิชาการ มรภ.อุดรธานี เก็บตัวอย่างน้ำของอ่างเก็บน้ำห้วยหลวงพิสูจน์หาสาเหตุปลาลอยตายจำนวนมากนานนับสัปดาห์ พร้อมเดินหน้าตรวจละเอียดถึงต้นน้ำและจุดใกล้เคียง ด้านชาวบ้านเผยก่อนปลาตายสีน้ำผิดปกติ

นายธวัชชัย สิงหศิริ อาจารย์ภาควิชาสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี เข้าเก็บตัวอย่างน้ำทางทิศใต้ของอ่างเก็บน้ำห้วยหลวง พื้นที่ ต.หนองบัวบาน อ.หนองวัวซอ วันนี้ (4 พ.ค.) เพื่อตรวจวิเคราะห์หาสาเหตุปลาธรรมชาติจำนวนมากลอยตายและส่งกลิ่นเหม็น มีทั้งปลานิลและปลาตะเพียน โดยปลาส่วนใหญ่ไม่มีร่องรอยบาดแผล

ชาวประมงในพื้นที่ระบุว่า แม้เคยมีปัญหาปลาตายเมื่อ 3 ปีก่อน แต่ไม่มากเท่าปีนี้ พบว่าปลาเริ่มทยอยตายช่วงอ่างเก็บน้ำปิดประตูส่งน้ำให้เกษตรกรปลูกพืชฤดูแล้ง หรือฝนตกใหม่ๆ แต่หลังจากฝนตกติดต่อกัน 2-3 วัน มีปลาตายติดต่อกันมากว่าสัปดาห์ และยังไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ จึงไม่รู้สาเหตุ ครั้งแรกคิดว่าถูกวางยาเบื่อ แต่ขณะนี้เชื่อว่าไม่ใช่น่าจะมาจากน้ำเสียจากสารเคมีปนเปื้อนในการทำเกษตรกรรม เพราะก่อนเกิดปัญหาปลาตาย น้ำมีสีน้ำตาลใส ไม่มีกลิ่นเหม็น อยู่ประมาณ 1-2 สัปดาห์ จึงคืนสู่ภาวะปกติ

นายธวัชชัย กล่าวว่า ผลวิเคราะห์เบื้องต้นพบว่าค่าออกซิเจนยังปกติ มีค่าเป็นด่างเล็กน้อย ซึ่งจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยเฉพาะพื้นที่ต้นน้ำและรอบบริเวณอ่างเก็บน้ำ

นายธวัช ประทุมพงษ์ ผอ.สำนักงานสิ่งแวดล้อม ภาค 9 อุดรธานี กล่าวว่า แม้ยังไม่ได้รับรายงานปัญหาปลาตาย แต่จะให้เจ้าหน้าที่รีบเข้าไปตรวจสอบโดยเร็ว เพราะเป็นเรื่องสำคัญ.-สำนักข่าวไทย

2008-05-04 15:28:27

เรือประมงภูเก็ตหยุดแล้วกว่าครึ่งเจอทั้งพายุ-น้ำมันแพง

ภูเก็ต 4 พ.ค.- นายสมยศ วงศ์บุญยกุล นายกสมาคมประมงจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ปัญหาของเรือประมงนอกจากเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิงแพง รวมทั้งน้ำมันเขียวสำหรับเรือประมงขณะนี้ราคาอยู่ที่ลิตรละกว่า 30 บาท และล่าสุดยังต้องประสบกับอิทธิพลของพายุนาร์กีส ทำให้ทะเลอันดามันมีคลื่นลมแรงสูงถึง 2-4 เมตร และขณะนี้ต้องหยุดออกทะเลแล้วครึ่งหนึ่งจากทั้งหมดกว่า 200 ลำ เพื่อความปลอดภัยและให้คุ้มกับต้นทุนในการออกทำประมง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตามชายหาดใน จ.ภูเก็ต หลายแห่งเจ้าหน้าที่ปักธงแดงห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำในระยะนี้ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจมน้ำจากพายุ เนื่องจากหลายพื้นที่ยังมีฝนตกอย่างหนัก.-สำนักข่าวไทย

2008-05-04 14:18:33

ที่มา http://news.mcot.net/local/index.php?page=1

เกษม · 4 พฤษภาคม 2008

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ไซโคลนเพชฌฆาต!! พม่าตายเกลื่อน 241 ศพ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 พฤษภาคม 2551 19:54 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=left border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ยับเยิน-- ภาพถ่ายล่าสุดวันที่ 4 พ.ค.2551 โดยสำนักข่าวเสียงประชาธิปไตยพม่าของฝ่ายค้านในต่างแดน แสดงให้เห็นสภาพท้องถนนกรุงย่างกุ้งซึ่งเกะกะด้วยต้นไม้กิ่งไม้ แผ่นป้ายโฆษณาและบิลบอร์ดใหญ่น้อยถูกพายุไซโคลนนาร์ยิสพัดถล่มเสียหายหนักในคืนศุกร์จนถึงวันเสาร์ (2-3 พ.ค.) โทรศัพท์และไฟฟ้าถูกตัดขาด นับศพผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 241 คน (ภาพ: AFP).</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

ผู้จัดการออนไลน์-- เจ้าหน้าที่ทางการพม่ากล่าวว่า พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 241 คน จากเหตุการณ์พายุไซโคลนนาร์ยิส (Nargis) พัดถล่มตั้งแต่คืนวันศุกร์จนถึงวันเสาร์ (2-3 พ.ค.) ที่ผ่าน ขณะที่พายุลูกนี้สร้างความเสียหายหนักกินอาณาบริเวณกว้าง จากชายฝั่งอ่าวเบงกอลจรดชายแดนไทย

"ตามข้อมูลล่าสุดที่ได้รับ ทั้งหมดก็คือ มีผู้เสียชีวิต 29 คนในเขตย่างกุ้ง กับราวๆ 222 คน ในเขตอิรวดี" เจ้าหน้าที่กระทรวงแถลงข่าวพม่าผู้หนึ่งกล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพี

ทางการได้ประกาศเขตภัยพิบัติในอาณาบริเวณ 5 ภูมิภาคของประเทศครอบคลุมเขตอิรวดี ย่างกุ้ง พะโค จนถึงรัฐมอญกับรัฐกะเหรี่ยงที่ติดชายแดนไทย

ไซโคลนนาร์ยิสพัดขึ้นฝั่งที่บริเวณปากแม่น้ำอิรวดีในตอนบ่ายวันศุกร์ ที่นั่นอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ห่างจากกรุงย่างกุ้งราว 220 กิโลเมตร ก่อนจะเคลื่อนตัวเข้ากระหน่ำเมืองหลวงเก่า ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศ

แรงลมเฉลี่ยตั้งแต่ 190-240 กม./ชม. ทำความเสียหายให้แก่กรุงย่างกุ้งอย่างหนัก ไฟฟ้าดับทั้งเมือง เหมือนถูกตัดขากจากโลกภายนอก เนื่องจากไฟฟ้าดับทั้งเมือง สายโทรศัพท์ขาดและเสียหาย ข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่เกือบเป็นอัมพาต

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>เริ่มเก็บกวาด-- ภาพถ่ายวันที่ 4 พ.ค.2551-- ตำรวจระดมกำลังออกเก็บกวาด ทำความสะอาดและเคลื่อนต้นไม้กิ่งไม้ สิ่งกีดขวางต่างๆ ออกจากท้องถนน เมื่อวันอาทิตย์ (4 พ.ค.) นี้. (ภาพ: AFP) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ภัยพิบัติครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนจะมีการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งรัฐบาลทหารกำหนดจัดขึ้นทั่วประเทศในวันที่ 10 พ.ค.ที่จะถึงนี้ อันเป็นรัฐธรรมนูญฉบับแรกนับตั้งแต่มีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งสุดท้ายปี 2533

ดูเหมือนว่าเขตชายฝั่งอ่าวเบงกอล ในแคว้นอิรวดีจะถูกพัดกระหน่ำรุนแรงและได้รับความเสียหายมากที่สุด แต่กรุงย่างกุ้งก็ไม่ได้เบาไปกว่านั้น

เสาไฟจราจร บิลบอร์ดกับแผ่นป้ายโฆษณาขนาดใหญ่น้อยถูกลมแรงพัดตีจนหักพังเสียหาย ต้นไม้ใหญ่จำนวนไม่น้อยในเขตใจกลางเมืองถูกพัดจนโค่นลงแบบถอนราก ทับรถยนต์และบ้านเรือนราษฎรเป็นจำนวนมาก

น้ำประปาถูกตัดไปหลายย่านของตัวเมือง ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีเห็นชาวบ้านจำนวนมากหิ้วถังน้ำออกหาน้ำตามร้านค้าและสถานที่ต่างๆ ที่ยังพอมีน้ำไหล

หลังคาบ้านเรือนราษฎรและสถานที่ราชการจำนวนมากถูกแรงลมพัดหายไป มีรถเมล์และแท็กซี่เพียงไม่คันที่กล้าฝ่าสิ่งกีดขวางตามท้องถนนออกให้บริการประชาชนในวันอาทิตย์ (4 พ.ค.) นี้

เจ้าหน้าที่กระทรวงแถลงข่าวกล่าวว่ามีเรือหลายลมถูกพายุพัดจมลงที่ท่าเรือย่างกุ้ง แต่ไม่มีคนอยู่บนนั้น ขณะที่ทางการได้ปิดท่าอากาศยานนานาชาติจนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ทุกเที่ยวบินต้องไปลงจอดที่เมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งอยู่ห่างขึ้นไปทางเหนือราว 300 กม.

"เราได้ส่งทหารออกปฏิบัติการกู้ภัยและบรรเทาภัย ตอนนี้ทหารกับตำรวจกำลังทำความสะอาดเมือง" เจ้าหน้าที่คนเดียวกันกล่าว

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ลำบากถ้วนหน้า-- ภาพถ่ายวันที่ 3 พ.ค.2551 ชาวบ้านงเดินฝ่าฝนลุยน้ำในกรุงย่างกุ้งหลังไซโคลนนาร์ยิสพัดกระหน่ำนานกว่า 10 ชั่วโมงกรุงย้างกุ้งเสียหายหนัก และยังไม่ทราบสภาพการถูกทำลายของเมืองใหญ่แห่งอื่นๆ เนื่องจากการสื่อสารถูกตัดขาด (ภาพ: AFP). </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>พายุนาร์ยิสพัดกระหน่ำจากต้นทางที่ก้นอ่าวเบงกอลติดกับบังกลาเทศ อาละวาดลงตามแนวตะวันออกเฉียงใต้

ยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเมืองชายฝั่งต่างๆ ตลอดจนโรงแรมรีสอร์ทสำหรับนักท่องเที่ยว ทั้งที่บริเวณหาดชองตา (Chaungtha) เงวซอง (Nghwe Saung) และ งาปาลี (Ngapali) ซึ่งเป็นปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยมในเขตอิรวดี เนื่องจากการสื่อสารโทรคมนาคมถูกตัดขาด

เจ้าหน้าที่ทางการยังแสดงความวิตกว่าประชาชนคนยากจนที่อาศัยในแหล่งเสื่อมโทรมเขตรอบๆ เมืองหลวงเก่า จะได้รับผลกระทบหนักที่สุด

เจ้าของร้านขายอาหารแห่งหนึ่งได้บอกเล่าข่าวคราวที่ได้ยินจากเจ้าของร้านน้ำชาแห่งหนึ่งที่อ้างว่าเห็นเด็กๆ ที่บางคนไม่ได้สวมเสื้อผ้า กำลังอดข้าวและต้องเข้าไปพักอาศัยในบริเวณวัดที่อยู่ใกล้เคียง

ยังไม่ทราบว่าการทำลายล้างของพายุลูกนี้จะพายุลูกนี้จะส่งผลกระทบถึงการลงประชามติในวันที่ 10 พ.ค.นี้หรือไม่ ชาวบ้านหลายคนกล่าวว่าตนเองได้ยินข่าวคราวจากเจ้าหน้าที่ทางการว่างานนั้นอาจจะต้องเลื่อนออกไป.

</TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE>
ที่มา http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9510000052102

เกษม · 4 พฤษภาคม 2008

หมอนิด ทำนาย "การเมืองวุ่น"
(บทความนี้เป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคล ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ)

นายกิจจา ทวีกุลกิจ(หมอนิด)

Falkman · 4 พฤษภาคม 2008

รายงานแผ่นดินไหวในรอบ 15 วัน <table bordercolordark="#ffffff" bordercolorlight="#d9d9d9" border="1" bordercolor="#d9d9d9" cellpadding="3" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr class="RH"> <td>วันที่</td> <td>เวลา</td> <td>จุดศูนย์กลาง</td> <td>ละติจูด</td> <td>ลองจิจูด</td> <td>ขนาด</td> <td>ลึกจากพื้นดิน</td> <td>หมายเหตุ</td> </tr> <tr class="RADS" align="center"><td>04 พ.ค. 51</td><td> 17:55</td><td align="left">อ. ปลายพระยา จ. กระบี่ ประเทศไทย</td><td>8° 38' 20'' N</td><td>98° 44' 10'' E</td><td>2.7 </td><td> </td><td align="left"> </td></tr><tr class="RDS" align="center"><td>04 พ.ค. 51</td><td> 13:59</td><td align="left">ประเทศพม่า</td><td>21° 34' 10'' N</td><td>98° 04' 49'' E</td><td>3.6 </td><td> </td><td align="left">จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวห่างจาก อ.เมืองเชียงราย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 256 กิโลเมตร </td></tr><tr class="RADS" align="center"><td>22 เม.ย. 51</td><td> 02:31</td><td align="left">อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่</td><td>18° 54' 00'' N</td><td>98° 58' 00'' E</td><td>3.9 </td><td> </td><td align="left"> </td></tr> <tr class="RF"> <td> </td> <td>เวลาไทย</td> <td> </td> <td> </td> <td> </td> <td>ริกเตอร์</td> <td>กิโลเมตร</td> <td>
</td></tr></tbody></table>

เกษม · 5 พฤษภาคม 2008

โหรคมช.ฟันธง "ปฏิวัติ" นองเลือด...
สีเขียวรีเทิร์น!

นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ (โหร คมช.)

เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2551 นายวารินทร์ได้ทำนายดวงเมืองอีกครั้ง ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองร้อนๆ เสี่ยงต่อการเผชิญหน้า โดยชี้ว่า การก้าวเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ นายสมัคร สุนทรเวช เป็นเพราะอาศัย"บุญ" ของผู้อื่นทำให้มีปัญหาอยู่เสมอ และกรรมของชาติบ้านเมืองยังไม่จบสิ้น ซึ่งจะให้ดีขึ้นต้องรอถึงปี 2552 ถึงจะค่อยๆ ดีขึ้น

โหรวารินทร์ทำนายว่าในช่วงที่กำลังจะเปลี่ยนผ่านนี้ ดูแล้ว "สีเขียว" ยังต้องกลับเข้ามาประคับประคองดูแลประเทศชาติต่อไป

"ผมเคยบอกแล้วว่า ถึงอย่างไรกลุ่มนี้ก็ยังไม่หลุดไป ยังต้องอยู่อีกหลายปี เป็นกลุ่มสีเขียวที่อยู่ในปัจจุบัน และกลุ่ม คมช.ด้วยคือยังเหมือนไม่หมดหน้าที่ ครั้งก่อนที่ทำก็เพื่อประคอง ไม่ได้ทำจริงๆ"

โหรวารินทร์เล่าถึงเบื้องหลังการปฏิวัติครั้งที่ผ่านมาด้วยว่าเคยบอกให้ พล.อ.สนธิว่าขึ้นไปทำปฏิวัติเถอะ แต่เวลาปีเดียวไม่พอในการที่จะทำอะไรต่ออะไรให้เรียบร้อย ซึ่งก็เห็นแล้วว่า พอขึ้นต้นไม่ทันไรก็ลงแล้ว และได้ผลแค่การยุติไม่ให้เกิดการประหัตประหารกันเท่านั้น

"ผมเห็นตั้งแต่แรกในช่วงเดือนมกราคม 2549 ว่าแผ่นดินจะเดือดร้อนวุ่นวายคนจะประหัตประหารกัน และผมเห็นผู้นำรัฐบาลจะถูกปองร้าย ท่านสนธิก็ถามว่า ถ้าอย่างนั้นมันไม่ยุ่งเหรอ แต่ผมเห็นท่านถือธงนำออกมา จะต้องมีการปฏิวัติ ท่านก็ถามผมว่าใครจะปฏิวัติ ผมก็บอกว่าก็ท่านไง เพราะผมเห็นท่านถือธง ซึ่งมีความหมายว่าท่านคือผู้นำชัยมาสู่บ้านเมือง

กลุ่มคนที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงหรือ "ปฏิรูป" รอบใหม่นั้นโหรวารินทร์บอกว่า เป็นคนกลุ่มใหม่และกลุ่มเก่าประคองกัน แต่การปฏิรูปครั้งนี้คงจะวุ่นวายถึงขั้น "นองเลือด"

"จะมีการปฏิรูป แต่ครั้งนี้จะต่างจากครั้งที่แล้ว จะวุ่นวายหนัก อาจจะมีการปะทะเสียเลือดเนื้อ ส่วนจะมากหรือน้อยไม่รู้ ต้องดูก่อน แต่ในภาพที่เห็นช่วงต้นปี เห็นว่ามีการตายเป็นเบือ"

ส่วนสาเหตุโหรวารินทร์เชื่อว่า คงไม่ได้เกิดจาก พ.ต.ท.ทักษิณชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีโดยตรง แต่น่าจะมาจากคนในกลุ่มของท่าน ทั้งรัฐมนตรีที่อยู่ในรัฐบาลนี้และผู้ที่เสียประโยชน์ด้วย รวมถึงบางคนใน 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย

ชนวนที่จะทำให้เกิดการปะทุ จะเกิดจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการเช็กบิลขั้วการเมืองฝ่ายตรงข้าม ซึ่งจะก่อให้เกิดความขัดแย้งตามมาอย่างหนัก

แต่ก่อนจะถึงขั้นนั้น จะเกิด "ภัยธรรมชาติ" ขึ้นมาก่อน และจะรุนแรงน้องๆ สึนามิ...คล้ายแผ่นดินไหว และภูเขาไฟระเบิด

นอกจากนี้ในปีนี้อาจจะมีการสูญเสียบุคคลสำคัญ ระดับผู้ใหญ่ที่รู้จักกันทั่วประเทศอีกด้วย

โหรวารินทร์มองว่าลำพังนายสมัคร (สุนทรเวช) คงแก้ไขปัญหานี้ได้ลำบาก แม้ตอนนี้จะพยายามหาทางแก้ แต่เนื่องจากเข้ามาตัวคนเดียว และมีกองทัพเท่านั้นที่ให้การสนับสนุน จึงยากที่จะแก้ไขปัญหาได้ แต่อย่างน้อยนายสมัครก็ยังมี "อำนาจเต็ม" ในอันที่จะยุติปัญหานี้ได้

"อำนาจเต็มอยู่ที่นายสมัคร อย่างน้อยเป็นนายกฯ ก็มีอำนาจยุบสภาได้ และทำได้ก่อนที่จะเกิดเหตุ ถ้าไม่อยากให้เกิดเหตุมีทางเดียว คือ ยุบสภา ซึ่งโอกาสเป็นไปได้สูง"

เขามองว่ารัฐบาลชุดนี้จะบริหารประเทศไม่พ้นปี 2551 เอาแค่พ้นเดือนพฤษภาคมไปให้เสียก่อนและต่อจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณและนายสมัคร จะแตกแยกกัน เพราะผลบุญของทั้งคู่หมดกัน และผลกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่หมดยังต้อง "อาญาแผ่นดิน" ด้วย

โหรวารินทร์ยังให้จับตา การกลับเข้าประเทศครั้งที่สาม ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ดีอีกด้วย...

"การกลับมาครั้งแรกของ พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่มีอะไร ครั้งที่สองลูกน้องก็เข้ามาเหมือนเดิม สถานการณ์เริ่มนิ่ง แต่คอยดูการกลับมาครั้งที่สาม ให้คอยดูว่ามันจะเริ่มวุ่น"

เมื่อให้ฟันธงว่าใครจะเป็นนายกฯคนต่อไป โหรวารินทร์ตอบว่า ยังไม่เห็นใครมีบารมีพอ หากขึ้นมาก็ดำรงตำแหน่งไม่นาน นายอภิสิทธิ์ก็มีสิทธิ์ขึ้น แต่ขึ้นมาแล้วก็ไม่นาน และความเป็นไปได้ที่นายสมัครจะยุบสภาแล้วจับมือ พล.อ.อนุพงษ์ช่วยกันดูแลบ้านเมืองยังมีอยู่

ส่วนแนวโน้มที่จะปฏิวัติแล้วให้ทหารขึ้นมาปกครองเองนั้นโหรวารินทร์ก็ยอมรับว่า "เป็นไปได้" เช่นกัน โดยถ้าเป็น พล.อ.อนุพงษ์เผ่าจินดา ก็อาจจะเป็นได้ แต่ตอนนี้บารมียังไม่ถึง

"ผมจะดูเรื่องบุญและกรรมเสริมกัน ผมเคยบอกว่าท่านอยู่ในเก้าอี้ ผบ.ทบ.ไม่ครบ3 ปีอาจจะเป็นการพลิกขึ้น หรือย้ายออก ยังแกว่งอยู่ ยังมีบุญค้ำอยู่ ซึ่งไม่เกินปี 2552 ตอนนี้บุญขึ้นมาแล้วแต่ยังไม่ต่อบุญ"

โหรวารินทร์ย้ำว่าเหตุเหล่านี้ต้องเกิดขึ้นแน่นอน ดังนั้น ในวันที่ 6-7 เมษายน2551 สำนักสุขิโตจึงประกอบพิธีทำบุญสืบชะตาประเทศ และเบิกเนตรพระพุทธรูปปางพิชิตมาร เพื่อนำขึ้นประดิษฐาน ณ พุทธมณฑลล้านนา จ.เชียงใหม่รวมถึงการหล่อพระประจำวันเกิดทั้งหมด 9 ปางโดยมีตัวแทนเหล่าทัพ และอดีตสมาชิก คมช. เข้าร่วมพิธีพร้อมพรั่งเช่น พล.อ.สนธิบุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช. พล.อ.วินัยภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.อ.ชลิตพุกผาสุข ผบ.ทอ. พล.ร.อ.สถิรพันธุ์เกยานนท์ ผบ.ทร. พล.อ.จิรเดชคชรัตน์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ซึ่งเป็นตัวแทนของพล.อ.อนุพงษ์เผ่าจินดา ผบ.ทบ. รวมถึงพล.ท.สำเริงศิวาดำรงค์ แม่ทัพภาคที่ 3

"ขณะนี้ยังมีปัจจัยในการต่อบุญได้อยู่ อิทธิฤทธิ์แพ้บุญ แต่บุญแพ้กรรม กรรมคือตัวกำหนด กรรมจะหมดหรือจะคลายไปต่อเมื่อมีการอโหสิกรรม บ้านเมืองก็เช่นเดียวกัน ผมคงช่วยได้ในระดับหนึ่ง แต่คงไม่ได้ทั้งหมด" โหรวารินทร์ทิ้งท้ายไว้แบบปลงๆ

ที่มา หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.kanmuang.org/forum/data/10/0033-1.html

Falkman · 5 พฤษภาคม 2008

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า <table cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td align="right"> สำหรับพิมพ์ </td> </tr> <tr> <td> <table bordercolordark="#ffffff" bordercolorlight="#d9d9d9" border="1" bordercolor="#d9d9d9" cellpadding="3" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr class="14BWhite" align="center" bgcolor="#0f6aaa"> <td colspan="2" align="center" height="35">ระหว่างวันที่ 5 พฤษภาคม 2551 - 11 พฤษภาคม 2551</td> </tr><tr bgcolor="#ffffff"> <td class="subtitle" valign="top" width="140"> การคาดหมาย </td> <td> ในช่วงวันที่ 5 และ 8-11 พ.ค.มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง ทำให้บริเวณประเทศไทยโดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันตก ภาคตะวันออก และภาคกลาง มีฝนตกชุกหนาแน่น กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ สำหรับทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมคลื่นลมมีกำลังแรง ส่วนในช่วงวันที่ 6-7 พ.ค. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้ปริมาณฝนลดลงและคลื่นลมอ่อนกำลังลงข้อควรระวังในระยะนี้ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย อาทิเช่น บริเวณจังหวัดเชียงราย แม่ฮ่องสอน ตาก กาญจนบุรี ระนอง พังงา จันทบุรีและตราด ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก สำหรับชาวเรือในทะเลอันดามันกับอ่าวไทยตอนบนให้ระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 5-6 พ.ค. และ 8-11 พ.ค. นี้ไว้ด้วย </td> </tr> <tr bgcolor="#faf6f6"> <td class="subtitle" valign="top" width="140"> ภาคเหนือ </td> <td> มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 6-9 พ.ค.จะมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

</td> </tr> <tr bgcolor="#ffffff"> <td class="subtitle" valign="top" width="140"> ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ </td> <td> มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 10-11 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม/ชม.

</td> </tr> <tr bgcolor="#faf6f6"> <td class="subtitle" valign="top" width="140"> ภาคกลาง </td> <td> มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางพื้นที่ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 9-11 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

</td> </tr> <tr bgcolor="#ffffff"> <td class="subtitle" valign="top" width="140"> ภาคตะวันออก </td> <td> มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งส่วนมากตามบริเวณเทือกเขาและชายฝั่งโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 8-11พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า2 เมตร </td> </tr> <tr bgcolor="#faf6f6"> <td class="subtitle" valign="top" width="140"> ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) </td> <td> มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 40-70 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 8-11 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตรบริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า2 เมตร </td> </tr> <tr bgcolor="#ffffff"> <td class="subtitle" valign="top" width="140"> ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) </td> <td> มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่เกือบตลอดช่วง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตรบริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า3 เมตร

</td> </tr> <tr bgcolor="#faf6f6"> <td class="subtitle" valign="top" width="140"> กรุงเทพมหานครและปริมณฑล </td> <td> มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ โดยจะมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 9-11 พ.ค.มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม/ชม.

</td> </tr> <tr><td colspan="2" align="right" bgcolor="#accdd4">ออกประกาศ 5 พฤษภาคม 2551</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>

Falkman · 5 พฤษภาคม 2008

'น้ำมัน-พายุ'เรือเล็กเทียบท่า กระทบอาหารทะเลแพง [5 พ.ค. 51 - 12:25]

http://www.thairath.co.th/online.php?section=newsthairathonline&content=88603

ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (5 พ.ค.) ว่า ช่วงวันหยุดยาวแหล่งท่องเที่ยวสำคัญตามเกาะต่างๆ ที่จ.ตรัง ยังคงได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่เจ้าหน้าที่ยังต้องใช้เรือขนาดใหญ่ในการรับส่งนักท่องเที่ยว เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากทะเลอันดามันยังคงมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร แม้พายุนาร์กีสจะอ่อนกำลังไปแล้ว ประกอบกับเรือเล็กกว่า 400 ลำ ได้จอดเทียบท่ามานานกว่า 2 เดือนแล้ว เนื่องจากทนแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นจากราคาน้ำมันแพงไม่ไหว เช่นเดียวกับเรือประมงขนาดเล็กที่ไม่กล้าออกหาปลา ทำให้อาหารทะเลลดน้อยลง และมีราคาสูงขึ้นเกือบเท่าตัว

ไซโคลนนาร์กีสถล่มพม่า เสียชีวิตเพิ่มอย่างน้อย351ศพ [5 พ.ค. 51 - 09:30]

http://www.thairath.co.th/online.php?section=newsthairathonline&content=88595

วันนี้ (5 พ.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศอ้างสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลทหารพม่า รายงานเมื่อวันอาทิตย์ ว่า พายุไซโคลน "นาร์กีส" มีความเร็วลม 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พัดขึ้นฝั่งที่ประเทศสหภาพพม่า ตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้พัดกระหน่ำเข้าพื้นที่แถบสามเหลี่ยมปากแม่น้ำอิระวดี และนครย่างกุ้ง เมืองหลวงเก่าของประเทศสหภาพพม่า ทำให้มีผู้เสียชีวิต 241 คน

ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุไซโคลน"นาร์กีส"ในประเทศสหภาพพม่าเพิ่มเป็นอย่างน้อย 351 คน <o></o> มีรายงานระบุว่า บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำอิระวดี ได้รับผลกระทบหนักมาก ทั้งจากฝน ลม และคลื่นในแม่น้ำ อาคารมากกว่า 20,000 หลังในแถบสามเหลี่ยมปากแม่น้ำพังทลาย ไฟฟ้า โทรศัพท์และประปาใช้การไม่ได้ การติดต่อสื่อสารกับนครย่างกุ้งเป็นไปอย่างยากลำบาก ขณะที่รัฐบาลทหารพม่าประกาศพื้นที่ 5 แห่งเป็นเขตภัยพิบัติ รวมทั้งแถบลุ่มแม่น้ำอิระวดี นครย่างกุ้ง กับพะโค และรัฐกระเหรี่ยงกับรัฐมอน รัฐบาลทหารพม่าได้สั่งการให้กองทัพเข้าร่วมในปฏิบัติการกู้ภัย และเก็บกวาดซากความเสียหาย ขณะที่ชาวย่างกุ้งหลายคนบ่นว่าทหารออกมาให้ความช่วยเหลือน้อยมาก

อุตุฯเตือนชุมพร นํ้าท่วมฉับพลัน [5 พ.ค. 51 - 10:22]
ภายหลังจากที่พายุไซโคลน “นาร์กีส” มีความเร็วลม 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พัดขึ้นฝั่งที่ประเทศพม่าไปเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา และในวันที่ 4 พ.ค. พายุมีศูนย์กลางอยู่บริเวณชายแดนประเทศสหภาพพม่าและจังหวัดแม่ฮ่องสอนของประเทศไทย หรือที่ละติจูด 19.7 องศาเหนือ ลองจิจูด 97.8 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดผลกระทบอย่างมากต่อสภาพ ดินฟ้าอากาศของไทยในระยะนี้
สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศเตือนฉบับที่ 14 ความว่า สำหรับสภาพอากาศทั่วไปของประเทศไทยในขณะนี้ ยังอยู่ในอิทธิพลของพายุไซโคลน “นาร์กีส” ที่อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันที่ 4 พ.ค. ที่ผ่านมา และได้ อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง เมื่อเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน โดยปกคลุมอยู่บริเวณชายแดนประเทศพม่าและจังหวัดแม่ฮ่องสอนของประเทศไทย คาดว่าหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงดังกล่าวจะสลายตัวในช่วงกลางคืนของวันเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ลักษณะเช่นนี้จะยังคงทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบน โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก มีฝนตกชุกหนาแน่นและตกหนักในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ตาก กาญจนบุรี ราชบุรี ชุมพร ระนอง จันทบุรี และ ตราด โดยเฉพาะพื้นที่ “อ.พะโต๊ะ” จ.ชุมพร และ “อ.กะเปอร์” จ.ระนอง ให้ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 6 พ.ค.
ส่วนคลื่นลมฝั่งทะเลอันดามันตอนบน ตั้งแต่ จังหวัดนครศรีธรรมราชขึ้นมา ยังคงมีกำลังแรงและคลื่นตามชายฝั่งสูง 2-3 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2 เมตร แต่ในพื้นที่ที่มีฝนตกจะมีคลื่นสูง 3 เมตร ขอให้ชาวเรือในอ่าวไทยระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และส่วนทะเลฝั่งอันดามัน เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 4-6 พ.ค. นี้

แม่นายมล · 5 พฤษภาคม 2008

เห็็นข่าวตัววิ่งจากทีวี (ASTV) มีแผ่นดินไหววันนี้ (5/05/51) รู้สึกได้่ทีี่กระบี่
ความแรง 2 ริกเตอร์กว่าๆ นานราว 30 วินาที ยังไม่มีรายละเอียดมา
ใกล้ลอยเลื่อนคลองมะรุ่ยด้วยแหละ อืมม....

CASIO12 · 5 พฤษภาคม 2008

น้ำมันแพง))))))))))

อาหารขาดแคลน))))))

พายุกระหน่ำ )))))))

มันจะมาไม้ใหนอีกนะเนี่ย

Falkman · 5 พฤษภาคม 2008

CASIO12 said: ↑

น้ำมันแพง))))))))))

อาหารขาดแคลน))))))

พายุกระหน่ำ )))))))

มันจะมาไม้ใหนอีกนะเนี่ย
Click to expand...

ตอนนี้อากาศเริ่มร้อนมากอีกแระ ต้องระวังพายุจู่โจม : bat:

Falkman · 5 พฤษภาคม 2008

เืมื่อวานพาเพื่อน(ชาวฟิลิปปินส์) ไปล่องเรื่อแม่น้ำเจ้าพระยา เห็นผักตบชวาเยอะมาก ผักตบหายไปช่วงหนึ่งแล้ว ตอนนี้เริ่มมาแพร่พันธุ์อีกแระ ไม่รู้จะไปแจ้งใครดี

Falkman · 5 พฤษภาคม 2008

BREAKING NEWS

<script type="text/javascript">document.write(cnnRenderT1TimeStamp(1209988931677));</script>

4,000 dead in Myanmar cyclone

Almost 4,000 people have died and another 3,000 remain missing in Myanmar as a result of this weekend's devastating cyclone, state media reported Monday. The soaring death toll was announced as the reclusive southeast Asian country's ruling military junta issued a rare appeal for international assistance in the face of an escalating humanitarian crisis