ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    พระฯ ท่านพยากรณ์ว่า
    (จากนักปฎิบัติธรรมสายมโนมยิทธิท่านหนึ่งโปรดใช้วิจารณญาณ)


    [​IMG]
    ไพ่ใบต่อไปของอิลูมิเนติการ์ดที่เกี่ยวกับประเทศไทย

    หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษีฯ พาไปศึกษาธรรมในส่วนคำพยากรณ์ฯ กับพระฯ มีดังนี้คือ

    ในอนาคตอันใกล้นี้คนไทยจะปกครองโลกธาตุและจักรวาล เพราะเวลานี้พระโพธิสัตว์ใหญ่หลายท่านได้มาถือกำเนิดบนแผ่นดินไทยมานานแล้ว

    ถ้าหากว่าผู้ใดบำเพ็ญบารมีมาถูกต้องตามแบบแผนและกฎกติกาที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายบัญญัติไว้จริง โอกาสที่จะไปทำบุญและเข้าถึงธรรมจากท่านก็มีอยู่มาก ถึงแม้ผู้ที่มาปฏิบัติจะเข้าถึงธรรมอันบริสุทธิ์ได้มากก็จริงอยู่ แต่ถ้าจะไปรู้เรื่องส่วนตัวที่ละเอียดของพระโพธิสัตว์แต่ละท่านย่อมเป็นไปไม่ได้ เช่น จะไม่รู้ว่าท่านเป็นใครมาเกิด บำเพ็ญบารมีมาแล้วเท่าไร ได้รับคำพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าองค์ใดมา ในพุทธกาลนี้มีชื่อสมมติว่าอะไร และในพุทธกาลหน้ามีชื่อสมมติว่าอะไร

    เหตุปัจจัยที่จะทำให้คนไทยเป็นใหญ่ในโลกธาตุคือ

    ๑) ทรัพยากรบุคคล อันได้แก่ พระโพธิสัตว์ใหญ่หลายท่าน ซึ่งมาเกิดเป็นคนไทย ท่านเหล่านี้มีทั้งบุญฤทธิ์และอิทธิฤทธิ์ แม้แต่พรหมเทวดาที่อยู่ในทุกๆ ภพภูมิ ก็ยังให้ความเคารพท่านอยู่ตลอดเวลา

    ๒) ทรัพยากรธรรมชาติ อันมีอยู่มากมายในผืนแผ่นดินไทย เช่น น้ำมัน ทองคำ ยูเรเนียม รัตนชาติ รวมทั้งแร่ธาตุต่างๆ อีกจำนวนมาก

    พระฯ ท่านบอกว่าเวลานี้พระโพธิสัตว์ใหญ่หลายท่านต่างก็จำศีลภาวนากันอยู่ แต่คนส่วนใหญ่ในโลกธาตุยังไม่คิดถึงท่าน เพราะไปมัวเพลิดเพลินแต่ความสุขอันจอมปลอม เช่น กามสุขและอบายมุขต่างๆ ถ้าหากไม่ใกล้ตายด้วยมหันตภัยร้ายแรงเกือบทั้งโลก ก็ยากที่จะระลึกถึงท่านด้วยความจริงใจ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นไปตามกฎแห่งกรรมของสัตว์โลก

    ที่มา พระท่านพยากรณ์ว่า (นำมาจากเวปเวปหนึ่ง) - PaLungJit.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 9l07.jpg
      9l07.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45 KB
      เปิดดู:
      3,463
  2. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> พิจิตรระดมสูบน้ำออกจากตัวเมือง </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>พิจิตร 1 ก.ย. - เทศบาลเมืองพิจิตร ระดมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ เร่งระบายน้ำออกจากย่านชุมชนสถานที่ราชการ หลังระดับน้ำในแม่น้ำน่าน สูงเกินจุดวิกฤติ

    ย่านเศรษฐกิจการค้าใจกลางเมืองพิจิตร สถานที่ราชการ บ้านเรือน และถนนหลายสายจมอยู่ใต้น้ำ

    หลังระดับน้ำในแม่น้ำน่านสูงเกินจุดวิกฤติ โดยเฉพาะภายในเรือนจำจังหวัดพิจิตร ซึ่งมีน้ำท่วมสูงกว่าพื้นทีอื่น เจ้าหน้าที่ต้องใช้เรือแทนรถย้ายผู้ถูกคุมขังขึ้นไปบนเรือนนอนชั้น 2 ซึ่งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ต้องเร่งระดมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ระบายน้ำออกจากเรือนจำ ให้ไหลลงท่อน้ำทิ้งของเทศบาลเมืองพิจิตร

    ล่าสุดบางพื้นที่ระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว แต่ผู้ประกอบการร้านค้าไม่วางใจกับสถานการณ์ นำกระสอบทรายมากั้นหน้าร้าน หวั่นน้ำท่วมอีกระลอก ด้านเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองพิจิตร ระดมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 8 เครื่อง มาระบายน้ำออกตลอด 24 ชั่วโมง. - สำนักข่าวไทย


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>กทม.พร้อมรับมือน้ำเจ้าพระยาช่วง 3-5 ก.ย.นี้ </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>กทม.พร้อมรับมือน้ำเจ้าพระยาช่วง 3-5 ก.ย.นี้ เตรียมเจ้าหน้าที่พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเตรียมพื้นที่อพยพให้ชุมชนนอกแนวคันกั้นหากน้ำท่วมสูง

    นายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กล่าวว่า ในวันนี้กรมชลประทาน ได้ปล่อยน้ำเหนือจากเขื่อนเจ้าพระยา และเขื่อนพระราม 6 ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ที่ 2,531 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และระดับสูงอยู่ที่ประมาณ 1.62 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลางวัดที่บริเวณปากคลองตลาด ขณะที่ปริมาณน้ำที่ปล่อยมาจาก อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่ที่ 2,155 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทั้งนี้ จากที่กรมชลประทานได้ออกคำเตือนว่าในช่วง 3-5 กันยายานี้ จะมีร่องมรสุมเข้าภาคเหนือตอนล่างจะทำให้เกิดฝนตกหนักหนาแน่น ตั้งแต่ภาคเหนือถึงภาคกลางรวมถึง กทม. ซึ่งจากคำเตือนดังกล่าวทำให้ กทม.เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยได้จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์และเจ้าหน้าที่ประจำประตูระบายน้ำ จำนวน 200 กว่าจุด น้ำ รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่จากหน่วยเบสต์กว่า 700 นาย ให้มีความพร้อมตลอด 24ชั่วโมง เพื่อคอยอำนวยความสะดวกและช่วยเหลือประชาชนหากเกิดเหตุน้ำท่วมขึ้น

    นอกจากนี้ กทม.จะเฝ้าระวังติดตามชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำ จำนวน 13 เขต 27 ชุมชน รวมประมาณ 1,200 ครัวเรืออย่างใกล้ชิด

    หากเกิดน้ำท่วมอย่างรุนแรง กทม. ก็ได้จัดเตรียมพื้นที่ไว้สำหรับอพยพแล้ว โดยใช้พื้นที่ของโรงเรียนในสังกัด กทม. ในบริเวณใกล้เคียง อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นเดือนกันยายน จะต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เนื่องจากช่วงนี้มีปริมาณน้ำไหลผ่านตลอดเวลารวมถึง โดยให้แต่ละเขตนำแผ่นคาดการณ์น้ำขึ้น-ลงสูงสุดของกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ไปแจกตามบ้านที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือด้วย. -สำนักข่าวไทย

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สังคมทราม แม่ใจนรก โยนลูกแรกเกิด ทะลุดาดฟ้าโรงแรม ดับคาที่</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=middle align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=middle align=left>1 กันยายน 2554 </TD><TD vAlign=middle align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>

    <SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js"> {lang: 'th'}</SCRIPT>

    <TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=12 vAlign=bottom align=left>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=160 align=center><TABLE border=0 cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=middle width=165 align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=/images/linedot_vert3.gif width=4>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ตาก- สังคมเสื่อมทรามหนัก แม่ใจยักษ์ แอบขึ้นดาดฟ้าโรงแรมดังแม่สอดคลอดลูก ก่อนจับลูกในไส้ของตัวเองโยนจากดาดฟ้าชั้น 4 ตกกระแทกพื้นที่ดับคาที่ทั้งที่ยังมีสายรกติดอยู่

    เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (1 ก.ย.) ร.ต.ท.ฉัตรชัย สุธนะ พนักงานสอบสวน ทำหน้าที่ ร้อยเวร สภ.แม่สอด จ.ตาก รับแจ้งมีศพเด็กทารกถูกโยนจากดาดฟ้าโรงแรมแห่งหนึ่งหน้าบ้านพักนายอำเภอแม่สอด กลางใจเมืองแม่สอด

    จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.สุพจน์ นวรัตนารมย์ รอง.ผกก.สส .สภ.แม่สอด แพทย์เวรโรงพยาบาลแม่สอด และ อปพร.เทศบาลนครแม่สอด

    ที่เกิดเหตุอยู่ชั้นล่างข้างซอกตึกของโรงแรม พบศพเด็กทารกเพศหญิงนอนตายในสภาพตะแคง มีบาดแผลเต็มตัว แขนและขาหักทั้งสองข้าง ตามลำตัวยังมีรกติดอยู่เลือดไหลนองเต็ม

    จากการตรวจสอบบริเวณดาดฟ้าชั้น 4 พบรอยเลือดกระจายอยู่ข้างบ่อน้ำสำหรับใช้ซักล้าง มีผ้าปูเตียงสีฟ้าผืนขนาดใหญ่ เปื้อนคราบเลือดทั้งผืนทิ้งอยู่ ที่หลังคาชั้นสองพบมีผ้าที่ใช้ห่อศพเด็กทารกตกอยู่ และมีร่องรอยกระเบื้องหลังคาแตกเป็นรู เพราะถูกศพกระแทก

    เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า แม่เด็กทารกอาจจะเป็นสาวใจแตกที่เข้าพักในโรงแรม ก่อนหลบขึ้นไปบนดาดฟ้าเพื่อคลอดลูก

    หลังคลอด อาจเกิดความอับอายหรือหาทางออกไม่ได้ จึงตัดสินใจโยนเด็กทารกในสภาพตัวเป็นๆ จากดาดฟ้า กระแทกหลังคาตกลงพื้นที่ชั้นล่างเสียชีวิตคาที่ จากนั้นได้หลบออกจากโรงแรมไป

    ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามหาตัวแม่ใจยักษ์รายนี้ มาดำเนินคดีต่อไป


    www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000110514


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    =====================================


    31 ส.ค. 54



    น้ำท่วม?


    ในนิมิตเช้านี้ผมเห็นตัวเองอยู่ในบ้าน น้ำท่วมประมาณ 1 เมตร ผมค่อยๆเดินลุย
    น้ำไปยังห้องที่ติดตั้งตู้ไฟฟ้าเพื่อที่จะตัดวงจรไฟฟ้าออก ผมพยายามเดินเลี่ยง
    จุดที่มีเต้าเสียบไฟฟ้าเพราะกลัวกระแสไฟจะมาดูดตัวเอง






    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน


    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    "ธงช้างเผือก" ของประเทศสยาม

    [​IMG]

    ภาพประวัติศาสตร์แผนที่ประเทศสยามและภาพธงช้างเผือกของสยาม ที่ปรากฏคู่กับธงฝรั่งเศส ในการแสดงนิทรรศการภาพที่งดงามและหายากของสยามประเทศ ในงาน SIAM : Days of Glory ซึ่งจัดขึ้น ณ โรงแรมสยามซิตี้ กรุงเทพฯ เป็นภาพที่บอกเรื่องราวการฟันฝ่าอุปสรรคของสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง พร้อมทั้งข้าราชบริพารในสมัยนั้น ที่นำพาแผ่นดินสยามให้ผ่านพ้นยุคล่าอาณานิคมมาด้วยความยากลำบากเพียงใด

    คนไทยทุกคนควรหันกลับไปศึกษาเรื่องราวในประวัติศาสตร์ อุปมาว่าความเป็นชาติจะมั่นคงอยู่ได้ เสมือนการหยั่งรากลึกลงไปในแผ่นดินของต้นไม้ ประวัติศาสตร์คือ ความยาวของราก ความมากของรากของต้นไม้ที่แผ่ไว้ในแผ่นดิน

    เขียนโดย ปัญญา วารปรีดี
    วันอาทิตย์, ตุลาคม 17, 2010

    ที่มา http://padupacamp.blogspot.com/2010/10/blog-post_17.html

    [​IMG]

    เกร็ดความรู้เกี่ยวกับธงชาติสยาม

    ๑. ทำไมธงสยามจึงใช้พื้นธงเป็นสีแดง?

    ในสมัยโบราณ ประเทศสยามได้ใช้ธงแดงแทนความหมายของธงชาติเพื่อชักบนเสาใบเรือกำปั่นที่ไปค้าขายกับต่างประเทศมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาแล้ว

    ๒. ช้างเผือกที่อยู่ตรงกลางธงสยามมีที่มาอย่างไร?

    ช้างเผือกที่ปรากฏอยู่ตรงกลางธงสยาม มีที่มาก็คือในสมัยรัชกาลที่ ๒ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้โปรดให้ทำรูปช้างเผือกสีขาวอยู่ในวงจักรบนธงพื้นแดง เนื่องจากในสมัยพระองค์ท่านได้ช้างเผือกเอกถึง 3 ช้าง ได้แก่ พระยาเศวตกุญชร (พ.ศ. ๒๓๕๕) พระยาเศวตไอยรา (พ.ศ. ๒๓๕๙) พระยาเศวตคชลักษณ์ (พ.ศ. ๒๓๖๐)

    ๓. พระราชบัญญัติว่าด้วยแบบอย่างธงสยามออกเผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันเดือนปีและตรงกับ พ.ศ. อะไร?

    พระราชบัญญัติว่าด้วยแบบอย่างธงสยามถูกส่งไปพิมพ์ที่เมืองไลป์ซิก ประเทศเยอรมนี ออกเผยแพร่ครั้งแรกในสยามในสมัยรัชกาลที่ ๕ เพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้จัดทำธงอย่างถูกต้องตามแบบอย่างพระราชบัญญัติว่าด้วยแบบอย่างธงสยาม ซึ่งออกเมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๓๔ (ร.ศ. ๑๑๐)

    ที่มา http://pirun.ku.ac.th/~b5049059/5%20index.html

    ไม่มีชื่อประเทศไทย ในแผนที่อนาคต

    เป็นนิมิตที่ไม่ดีนักสำหรับหลายคน ผมอฐิธานจิต ให้จิตเคลื่อนไปถึงยังเวลาในช่วงที่ผมสิ้นอายุขัยตอน 82 ปี เพื่อไปดุว่าผมจะตายในสถานที่อย่างไร ตายขณะที่จิตทรงสมาธิหรือไม่

    ผมพบมีเรื่องประหลาด ที่ต้องเรียนถามครูบาอาจารย์ และท่านที่ฝึกจิตทั้งหลายครับ น่าประหลาดใจ ในขณะนั้น ไม่มีชื่อประเทศไทยแล้วครับ แต่เนื่องจากร่างจิตของผมยังไม่อาจเจรจาได้ ผมไม่แน่ใจว่าเราไปรวมกับลาวหรือเปล่าเพราะภาษา จับสำเนียงได้ประมาณนั้นครับ ฝากพี่ๆที่มีระดับจิตสูงกว่าผมไปดูด้วยครับ "ขอท่านอย่าอยู่ด้วยความประมาท" ครับผม

    วิกรม หลานพระคุณลุงเชียงใหม่

    ถึงตอนนั้นชื่อประเทศไทยได้ถูกเปลี่ยนเป็น "สยาม" อีกครั้งแต่ฝรั่งจะเรียกเราว่า "ไซแอม" มีผู้มีอภิญญาท่านหนึ่งเคยบอกผมไว้ตั้งแต่ปี 2545 ครับ แต่จะเปลี่ยนเมื่อไหร่ไม่ทราบครับ<!-- google_ad_section_end -->

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->tossapornk<!-- google_ad_section_end --> สมาชิก<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2829558", true); </SCRIPT>

    ที่มา ไม่มีชื่อประเทศไทย ในแผนที่อนาคต - PaLungJit.com

    ข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องกัน

    แนวโน้มการเปลี่ยนชื่อ “ประเทศไทย” ไปเป็นชื่อ “ประเทศสยาม”
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กันยายน 2011
  6. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]

    1 ก.ย. 54 สำนักข่าวต่างประเทศได้เผยภาพของกลุ่มนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งที่เฝ้าชมปรากฎการณ์คลื่นทะเลหนุน (tidal bore) พากันวิ่งหนีตาย
    ภายหลังคลื่นยักษ์ลูกใหญ่ได้ซัดข้ามเขื่อนริมแม่น้ำเฉียนถัง ในเมืองไห่หนิง มณฑลเจ้อเจียงของจีน ซึ่งจากเหตุดังกล่าวทำให้มีผู้บาดเจ็บรายหลายจากการถูกคลื่นโถมเข้าใส่ เดชะบุญที่ไม่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้น
    สำหรับปรากฎการณ์คลื่นทะเลหนุนนี้เป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นทุกปี และยังเป็นประเพณีในท้องถิ่นซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวได้นับพันคนในแต่ละปีอีกด้วย

    Mthai News

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    แท็ก : คลื่นยักษ์, คลื่นยักษ์ที่จีน
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ต่อไปชุมชนเมืองจะอยู่อาศัยไม่ได้ ไม่ปลอดภัย
    เปรียบได้กับต้นมะม่วงในเรื่อง"พระมหาชนก"

    [​IMG]

    [​IMG]

    ปริศนาธรรมต้นมะม่วงในเรื่อง"พระมหาชนก"

    ต้นมะม่วงอันปรากฏในพระมหาชนกชาดก เป็นปริศนาธรรม ซึ่งตีความได้หลายนัย ประกอบด้วยต้นมะม่วง หนึ่งมีผลอันโอชะ กับ อีกหนึ่งซึ่งไร้ผล ยังแต่ใบเขียวสดเต็มต้น (เปรียบได้กับชุมชนในตัวเมืองกับชุมชนในชนบท)

    “ วางรูปให้คู่กัน ” คุณธีระวัฒน์ คะนะมะ หนึ่งในศิลปินผู้วาดภาพประกอบพระราชนิพนธ์ เรื่อง พระมหาชนก อธิบายนัยยะแห่งการวาดภาพต้นมะม่วง “ เพราะว่าถึงตอนนี้ เป็นตอนที่กำลังจะบอกคนว่า นี่แหละคือสิ่งที่เราต้องมาเปรียบเทียบกันแล้ว ระหว่างสิ่งที่มีคุณค่า กับ สิ่งที่ไม่มีคุณค่าตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ”

    มะม่วงซึ่งออกผลอันโอชะ ภายหลังพระราชา คือพระมหาชนกเสวย บรรดามหาชนต่างยื้อแย่ง หวังจะเชยชิมบ้าง แต่ทว่า กระทำด้วยความละโมบและเขลาต่อผลอันจะบังเกิด จึงฉกฉวยกอบโกย จนมะม่วงนั้นแทบสิ้นไป

    รองศาสตราจารย์ เสฐียรพงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิต ได้ให้ทัศนะในเรื่องนี้ไว้ว่า “ มะม่วงมันให้ประโยชน์ ให้ผลไม้ให้กินแล้ว ก็น่าจะมีบุญคุณต่อคนที่กินผลมะม่วง แล้วทำไมต้องทำลาย เมื่อทำลายแล้ว แทนที่จะได้กินต่อไป ก็ไม่ได้กินเพราะหมดไปแล้ว เพราะฉะนั้นวิธีการที่ถูกต้องที่สุดคือ ต้องถนอมต้นมะม่วงนั้นไว้ ให้มันมีผลเหมือนเดิม หรือพัฒนาให้มันมีผลมากขึ้นไปกว่านั้น โดยวิธีใดก็ตามที่จะให้ผลิตผลได้มาก เพื่อจะได้แจกจ่ายให้ประชากรในเมืองได้กินมากๆ โดยทั่วถึงกัน.”


    ต้นมะม่วง ในบทพระราชนิพนธ์ หากจะเปรียบกับแผ่นดินไทยก็คงเป็นเช่นกัน ด้วยผู้คนสนใจแสวงประโยชน์ใส่ตน จนละเลยการรักษาซึ่งความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่า นั่นคือการทำลายตนเอง ด้วยแม้นแผ่นดินสิ้นประโยชน์ให้แสวงหา คนไทยจะอยู่ได้อย่างไร

    “ซึ่งผมคิดว่า ก็คงเหมือนสภาวะปัจจุบันนี้ ที่เรามีความล่มสลายทางเศรษฐกิจ” อาจารย์นนทิวรรธน์ จันทนะผะลิน ประติมากรผู้ปั้นแบบเหรียญพระมหาชนกให้ความเห็น “ซึ่งมีผลมาก พระองค์ท่านก็ให้รู้ว่า การที่จะบริโภคนั้นต้องบริโภคอย่างเพียงพอ และบริโภคอย่างยั่งยืน

    เพื่อที่ว่าหลังจากที่เราเก็บแล้ว ต้นมะม่วงก็ยังอยู่ และยังสามารถให้เป็นผลิตผลต่อคนอื่นๆต่อไปได้ด้วย อันนี้เป็นตัวอย่างที่ดีมาก ที่ให้สังคมไทยหันมามอง และก็มาใช้แนวทางในการบริโภคที่ยั่งยืน ในการมีชีวิตอยู่ต่อไปในวันข้างหน้า”

    ที่มา ปริศนาธรรมจากต้นมะม่วงในพระราชนิพนธ์
    ทศชาติชาดก เรื่อง พระมหาชนก ผู้ยิ่งด้วยวิริยบารมี ตอนที่ 14
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กันยายน 2011
  8. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    MThai News : สำนักข่าวต่างประเทศของจีนรายงานว่า เมื่อวันอังคารที่ 30 ส.ค. มีผู้พบเห็นยูเอฟโอ UFO ใน เมืองก่วงโจว มณฑลก่วงตง แล้วสามารถถ่ายคลิปไว้ได้ และมีคนนำมาโพสในเว็บไซต์ จนเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมาก
    ทั้งนี้รายงานข่าวแจ้งว่า นักข่าวได้สัมภาษณ์พยานหลายคนที่อ้างว่าเห็น UFO ลำดังกล่าว ซึ่งทั้งหมดบอกตรงกันว่า UFO ที่เห็นนั้น มีลักษณะกลมๆ และมีสว่าง อีกทั้งยังมีนักบินของสายการบิน ไชน่าเซาเทิร์น ได้โพสข้อความในบล็อกส่วนตัวว่า ขณะที่เขาอยู่ในห้องนักบินบนเครื่องบิน เขาได้เห็น UFO บินอยู่เหนือท้องฟ้าเมืองเซี่ยงไฮ้ สูงกว่าระดับ 10,000 เมตร ซึ่งเขายืนยันว่า ผู้ช่วยนักบินที่นั่งข้างๆกันก็เห็นยานดังกล่าว อีกทั้งเมื่อเขารายงานต่อสำนักงานควบคุมการบิน ก็พบว่ามีการแจ้งการพบ UFO จากนักบินอีก 10 คน ที่บินอยู่ในบริเวณนั้น

    <OBJECT codeBase="http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=6,0,40,0" classid=clsid:d27cdb6e-ae6d-11cf-96b8-444553540000 width=420 height=345>
























    <embedwidth="420" height="345" type="application/x-shockwave-flash" src="http://www.youtube.com/v/PO_J5niLrLc?version=3&hl=en_US&rel=0" allowFullScreen="true" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" /></OBJECT></P>เมื่อคลิปดังกล่าวถูกโพสขึ้นในเว็บไซต์ ก็กลายเป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งมีทั้งคนเชื่อและคนที่ไม่เชื่อ โดยในคลิปที่ถูกถ่ายบนรถโดยสารประจำทาง มีคนที่อยู่ในวงการผลิตภาพยนต์นำมาวิเคราะห์และให้ความเห็นว่า มีหลายจุดที่น่าเชื่อว่าเป็นภาพจริง เช่น ภาพขณะที่ยูเอฟโอเคลื่อนผ่านเสาไฟฟ้า จะเห็นว่าตัวยานไม่ได้เคลื่อนทับเสาไฟฟ้า ซึ่งหากเป็นการตัดต่ออาจทำได้ยาก
    แต่หลายๆ ความเห็นก็ไม่เชื่อในเรื่องนี้ ซึ่งบางคนบอกว่า เป็นคลิป UFO ที่ทำได้เนียนกว่าฝั่งตะวันตก
    อย่างไรก็ตามแม้เรื่องดังกล่าวเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่มีหน่วยงานทางการออกมายืนยัน หรือตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง
    Mthai News
    เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย
    [​IMG]
    ติดต่อทีมข่าว MThai News : news@mthai.com
    ……………………………………………………………………..
    คลิป UFO ยูเอฟโอ ที่จีน


    <OBJECT codeBase="http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=6,0,40,0" classid=clsid:d27cdb6e-ae6d-11cf-96b8-444553540000 width=420 height=345>
























    <embedwidth="420" height="345" type="application/x-shockwave-flash" src="http://www.youtube.com/v/I3i9ODSCb2w?version=3&hl=en_US&rel=0" allowFullScreen="true" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" /></OBJECT>
    </P>
    แท็ก : UFO, คลิป, จีน, ยูเอฟโอ


    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>คนกรุงตื่น!แห่กราบรอยพญานาค </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>แห่กราบไหว้รอยพญานาค โผล่กลางบ้านเจ้าของร้านอาหารย่านทองหล่อ เชื่อปาฏิหาริย์พ่อปู่พญานาคราช


    จากกรณีนางสำอาง เอ็ดเวิร์ด อายุ 46 ปี เจ้าของร้านอาหารย่านทองหล่อ พบเห็นร่องรอยประหลาดคล้ายกับรอยเลื้อยของพญานาค อยู่ภายในห้องพระชั้น 3 ของบ้านพักเลขที่ 197/4 ซอยสุขุมวิท 31 หรือซอยสวัสดี แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา จนมีชาวบ้านที่ทราบข่าว ต่างพากันแห่มาดูกันจนแน่นขนัด พร้อมวิพากษ์วิจารณ์ว่ารอยที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นปาฏิหาริย์ของพ่อปู่พญานาคราช ที่ นางสำอาง ศรัทธาและกราบไหว้บูชามาตั้งแต่ปี 52 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

    ความคืบหน้า วันนี้( 1 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ ที่บ้านเลขที่ 197/4 ของนางสำอางว่า

    ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมายังคงมีชาวบ้านภายในซอยสุขุมวิท 31 และชาวบ้านที่ทราบข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์ เดินทางมาดูร่อยรอยดังกล่าวกันอยู่ตลอดเวลา โดยชาวบ้านที่เดินทางมานั้น ส่วนใหญ่จะมากราบไหว้ พร้อมทั้งโยนเงินเข้าไปด้านใต้โต๊ะหมู่บูชาเป็นตามความเชื่อที่ว่า พญานาคราชจะช่วยเสริมบุญบารมี ให้มีศิริมงคลกับตัวเอง บางรายก็เดินทางมาขอหวย หรือนำกล้องมาถ่ายรูปเก็บไว้ นอกจากนี้ยังมีแม่ค้าล็อตเตอรี่ แวะเวียนมาขายล็อตเตอรี่กันอยู่เป็นระยะ

    ต่อมาเวลา 11.00 น. นางสำอาง ได้นิมนต์พระสำราญ ญาณโสภโณ พระวัดปากบ่อ ซอยอ่อนนุช 35 พร้อมพระลูกวัดอีก 2 รูป มาสวดมนต์ให้ศีลให้พร และสวดขันธะปะรัตตะคาถา ซึ่งเป็นคาถาเกี่ยวกับพญางูทั้ง 7 พร้อมทั้งถวายภัตตาหารเพล โดยพระสำราญ ได้แนะนำให้นางสำอาง นิมนต์พระ 15 รูป มาเจริญพระพุทธมนต์เพื่อเสริมดวงให้เป็นศิริมงคลอีกด้วย

    นางสำอาง กล่าวว่า หลังจากมีข่าวออกไปผ่านทางหน้าหนังสือพิมพ์ มีชาวบ้านพากันเดินทางมากราบไหว้ตามความเชื่อกันอยู่ตลอดเวลา

    โดยเมื่อวันที่ 31 ส.ค. เดินทางกันมาเป็นระยะตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงค่ำ จนวันนี้ก็ยังมีชาวบ้านพากันเดินทางมาดูและกราบไหว้อยู่ตลอดเวลา บางคนที่มาก็มีความเชื่อว่า เป็นร่องรอยของพ่อปู่พญานาคราช มาแสดงปาฏิหาริย์ให้เห็น แต่ก็มีบางคนสงสัยและถามตนว่า เป็นคนเพ้นท์เองหรือเปล่า ตนขอยืนยันว่าไม่ได้ทำแบบนั้นแน่นอน นอกจากนี้ยังมีคนเดินทางมาขอหวยบ้าง ซึ่งก็แล้วแต่ว่าใครจะตีเป็นเลขอะไร ทั้งนี้ทางหุ้นส่วนของร้านอาหารของตน ได้นิมนต์พระสำราญ ให้มาที่บ้านตนในวันนี้ เพื่อสวดให้ศีลให้พร และเพื่อความเป็นศิริมงคล ซึ่งในวันเสาร์ที่ 3 ก.ย.ก็จะนิมนต์พระ 15 รูปมาทำบุญที่บ้านด้วย ทำตามคำแนะนำของพระสำราญ

    ด้านนายชูโชค ฤทธิ์นอก อายุ 34 ปี นักแสดงคิวบู๊ (สตั๊นท์แมน) ซึ่งเชื่อในเรื่องของพญานาคราช ได้เดินทางมาดูด้วย

    พร้อมทั้งเปิดเผยว่า ตนไม่เคยรู้จักกับนางสำอางมาก่อน จนเมื่อเช้าเห็นข่าวจากทางหน้าหนังสือพิมพ์ จึงเดินทางมากราบไหว้เพื่อเสริมดวงบารมี เพราะโดยส่วนตัวตนศรัทธาในเรื่องนี้อยู่แล้ว โดยร่อยรอยที่เกิดขึ้นน่าจะเกิดจากพญานาคราชที่ติดตามนางสำอางมานานแล้ว เพราะบุญบารมีของนางสำอางที่ปฏิบัติธรรมมาตลอด แต่ก่อนหน้านี้ยังไม่ถึงเวลาที่ท่านจะแสดงปาฏิหาริย์ให้เห็นเท่านั้น จนกระทั่งท่านพญานาคราชแสดงปาฏิหาริย์ให้เห็นเมื่อคืนวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งน่าจะเป็นวันเวลาที่เหมาะสม.



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>อุตุฯเตือนภาคเหนือ-อิสานมีฝนตกหนักบางแห่ง/ไปญี่ปุ่นระวังไต้ฝุ่น'ตาลัส </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 2 กันยายน 2554 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.

    มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนอยู่ในเกณฑ์กระจายและมีฝนตกหนักได้บางแห่งบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในระยะ 1-2 วันนี้

    อนึ่ง ในช่วงวันที่ 2-4 ก.ย. ผู้ที่จะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ขอให้ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง เนื่องจากมีพายุไต้ฝุ่น “ตาลัส”(Talas) อยู่ใกล้บริเวณดังกล่าว โดยพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ
    มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา และตาก
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี และกาญจนบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.





    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เราจะทำอย่างไรเมื่อเกิดสงคราม?

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    หลายคนอาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องไกลตัวที่จะเฝ้าตระหนักถึง ภัยสงครามแต่ถ้าหากว่าโลกนี้มันไม่มีอะไรแน่นอน สภาพการเมืองเศรฐกิจของโลกที่นับวันเริ่มพบแต่เรื่องวุ่นวายมากมาย การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นให้ได้มาซึ่งอำนาจ เงินทองและเกียติยศนั้น เริ่มมีความรุนแรง อย่างเช่นในปัจจุบันนี้ ปัญหาชายแดนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านเอง หรือปัญหาภายในประเทศนั้น ส่อเค้าความรุนแรงและมีการประทุไปแล้ว

    ถ้าหากการเจรจานั้นไม่สำเร็จ สงครามนั้นอาจจะอยู่ไม่ไกล และพร้อมที่จะปะทุได้ทุกเมื่อ คนปกติไม่มีใครต้องการสงคราม และเนื่องจากว่าสงครามไม่เคยให้อะไรกับใคร แต่หากว่าสงครามจะเกิดขึ้นมาแล้ว มันอยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา สิ่งที่เราสามารถทำได้ก็เพียงแค่เราจะทำอย่างไรเมื่อเกิดสงคราม การเอาชีวิตรอดในช่วงกลียุคนี้ เราควรเตรียมตัวอย่างไรกันดี

    ในเบื้องต้นเมื่อเกิดภาวะสงครามนั้น จะเกิดความวุ่นวายในหมู่ประชาชนด้วยกันเอง ซึ่งทุกคนต่างพากันเอาตัวรอดจากความวุ่นวายในภาวะสงคราม ดังนั้นสิ่งแรกที่คุณควรทำนั่นคือสติ เมื่อมีสติแล้วควรคิดว่าเราควรทำสิ่งต่อไปนี้ ตามลำดับ

    1.กักตุนอาหาร น้ำ ยารักษาโรค และของใช้ที่จำเป็น ปัจจัย 4 นั้นสำคัญที่สุดที่จะทำให้คุณสามารถมีชีวิตรอดได้ และในช่วงสงครามเองสิ่งของเหล่านี้จะมีราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะอาหาร อาหารที่ควรเก็บและกักตุนนั้น ควรมีปริมาณพอสมควร โดยคิดตามจำนวนคนที่ต้องใช้และต้องเป็นของที่สามารถเก็บไว้ได้นานในสภาวะปกติ ลืมตู้เย็นไปได้เลย ยานั้นสำคัญและจำเป็นมากในช่วงสงครามนั้นคงไม่มีร้านขายยาที่ไหนเปิดขายอย่างแน่นอน หากมีโรคประจำตัวด้วยแล้ว ควรอย่างยิ่งที่จะต้องเก็บยาที่จำเป็นไว้ใช้ด้วย ยาและเวชภัณฑ์ที่ควรกักตุนนั้นได้แก่ ยาทำแผล ลดไข้ แก้อักเสบ และอื่นๆที่คิดว่าจำเป็น

    2.อุปกรณ์ป้องกันตัว และหลุมหลบภัย สองสิ่งนี้สำคัญรองลงมาจาก อาหารและน้ำ โดยหลุมหลบภัยนั้นเอาไว้ซ่อนตัวจากการเป็นเป้านิ่ง และหลบเศษระเบิดที่ยิงเข้ามาจากแนวรบ โดยไม่มีใครรู้ว่าระเบิดนั้นจกตกที่ไหนและบ้านนั้นก็เป็นสถานที่ ที่ไม่มีความแข็งแรงพอที่จะป้องกันเราจากระเบิดได้ ซึ่งหลุมหลบภัยที่ดีนั้นควรตั้งอยู่ใต้ดิน ซึ่งข้อดีก็คือ จะมีเพีบงส่วนบนเท่านั้นที่ได้รับความเสียหายและพื้นดินนั้นสามารถป้องกันและดูดซับแรงระเบิดได้ดีที่สุด หลุมหลบภัยที่ดีควรมีความลึกจากพื้นดินอย่างน้อย 50 เซ็นติเมตร และมีความกว้างพอสำหรับทุกคน มีความมั่นคงแข็งแรงสูงอีกด้วย สำหรับอุปกรณ์ป้องกันตัว ได้แก่ รองเท้า กางเกงขายาว เสื้อแขนยาวหมวกแข็ง หน้ากากกันฝุ่นและแก๊สพิษ เตรียมไว้

    3.เงินสด ลืมธนาคารไปได้เลย ในภาวะสงครามคงไม่มีธนาคารแห่งใดที่จะเปิดให้บริการ หรือตูเอทีเอ็มจะไม่สามารถใช้งานได้ด้วย เนื่องจากอาจถูกปล้นได้ และควรเก็บเงินสดไว้ในที่ปลอดภัยเพื่อป้องกันการถูกปล้นด้วย เนื่องจากในสภาวะสงครามนั้นบ้านเมืองอยู่ในสภาพที่ไร้ขื่อแป โจรและปัญหาการปล้นนั้นมักพบเป็นประจำ

    ไม่มีคนปกติที่ไหนต้องการให้เกิดสงคราม ไม่มีใครต้องการความรุนแรง ต่างคนต่างต้องการความสงบด้วยกันทั้งนั้น หากเจรจากันได้ก็ให้รีบเจรจา ก่อนที่คุณเองจะไม่มีโอกาสได้ทำมัน…..

    Posted by ฟันธง

    ที่มา เราจะทำอย่างไรเมื่อเกิดสงคราม | ฟันธง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    =====================================


    31 ส.ค. 54



    กลียุค


    กลียุค------------คือหมดยุค-----------การเป็นอยู่
    ต้องเฝ้าดู--------การเคลื่อนไหว--------ธรรมชาติ
    ฝนก็ตก----------แผ่นดินไหว-----------กันซ้ำซาก
    ประชาชาติ-------ทุกประเทศ------------ต่างระทม

    โอ้อนาถ----------ท่วมซ้ำซาก---------กันทุกปี
    โชคยังดี----------น้ำใจคน------------นั้นล้นกว่า
    คนละเล็ก---------คนละน้อย----------ช่วยกันมา
    ซับน้ำตา----------ชาวประชา----------ให้พ้นทุกข์

    บางระกำ----------ถูกกระทำ-----------ซ้ำนานปี
    ประชาชี-----------ทุกข์เหลือทน-------กันทุกวัน
    พรหมพิราม--------ไม่ใช่ย่อย----------ต่างก็อาน
    ต้องช่วยกัน--------คนละแรง----------ไม่แล้งใจ

    เตือนบ่อยๆ---------ไม่พูดพร่อย--------เพื่อให้ตื่น
    ลุกขึ้นยืน-----------เข้าประจัญ---------เรื่องที่เกิด
    เป็นเรื่องใหญ่-------ที่ทุกท่าน----------จะต้องเปิด(ใจ)
    ถ้ามันเกิด-----------ท่านจะได้----------เตรียมตัวทัน

    เอาความดี----------เข้าปกป้อง---------จะดีกว่า
    เพราะชาวฟ้า--------ท่านเฝ้าดู----------ไปทั่วหล้า
    เร่งกระทำ-----------แข่งเวลา-----------อย่าชักช้า
    เมื่อมารมา----------หมดเวลา-----------ที่จะทำ






    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน


    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เดินตามรอยเท้าพ่อ...คือทางรอดจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก !!!

    [​IMG]

    เศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ

    “…การพัฒนาประเทศจำเป็นต้องทำตามลำดับขั้นตอน ต้องสร้างพื้นฐาน คือความพอมี พอกิน พอใช้ของประชาชนส่วนใหญ่เป็นเบื้องต้นก่อนโดยวิธีการและอุปกรณ์ที่ประหยัด แต่ถูกต้องตามหลักวิชาการเพื่อได้พื้นฐานที่มั่นคงพร้อมพอสมควรและปฏิบัติได้แล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญ และฐานะทางเศรษฐกิจขั้นที่สูงขึ้นไปตามลำดับต่อไป หากมุ่งแต่จะทุ่มเทสร้างความเจริญยกเศรษฐกิจโดยไม่ให้แผนปฏิบัติการสัมพันธ์กับสภาวะประเทศ และประชาชนไทยสอดคล้องด้วย ก็จะเกิดความไม่สมดุลในเรื่องต่าง ๆ ขึ้น ซึ่งอาจกลายเป็นความยุ่งยากล้มเหลวได้ในที่สุด ดังเห็นได้ที่อารยประเทศหลายประเทศกำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงในเวลานี้..”

    กล่าวโดยสรุป คือ การหันกลับมายึดเส้นทางสายกลาง (มัชฌิมาปฏิปทา) ในการดำรงชีวิต โดยใช้หลักการพึ่งตนเอง 5 ประการ คือ

    1) พึ่งตนเองทางจิตใจ คนที่สมบูรณ์พร้อมต้องมีจิตใจที่เข้มแข็ง มีจิตสำนึกว่าตนนั้นสามารถพึ่งตนเองได้ ดังนั้นนั้นจึงควรที่จะสร้างพลังผลักดันให้มีภาวะจิตใจฮึกเหิมต่อสู้ชีวิตด้วยความสุจริต แม้อาจจะไม่ประสบผลสำเร็จบ้างก็ตาม มิพึงควรท้อแท้ ให้พยายามต่อไป พึงยึดพระราช “การพัฒนาคน” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    “…บุคคลต้องมีรากฐานทางจิตใจที่ดี คือความหนักแน่นมั่นคงในสุจริตธรรม และความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่ให้จนสำเร็จ ทั้งต้องมีกุศโลบายหรือวิธีการอันแยบยลในการปฏิบัติงานประกอบพร้อมกันด้วยจึงจะสัมฤทธิผลที่แน่นอน และบังเกิดประโยชน์อันยั่งยืน แก่ตนเองและแผ่นดิน…”

    2) พึ่งตนเองทางสังคม ควรเสริมสร้างให้แต่ละชุมชนในท้องถิ่นได้ร่วมมือช่วยเหลือเกื้อกูลกัน นำความรู้ที่ได้รับมาถ่ายทอดและเผยแพร่ให้ได้รับประโยชน์ซึ่งกันและกัน ดัง พระบรมราโชวาทที่ว่า

    “…เพื่อให้งานรุดหน้าไปพร้อมเพรียงกันไม่ลดหลั่น จึงขอให้ทุกคนพยายามที่จะทำงานในหน้าที่จะทำงานในหน้าที่อย่างเต็มที่ และให้มีการประชาสัมพันธ์กันให้ดี เพื่อให้งานทั้งหมดเป็นงานที่เกื้อหนุนสนับสนุนกัน…”

    3) พึ่งตนเองได้ทางทรัพยากรธรรมชาติ คือการส่งเสริมให้มีการนำเอาศักยภาพของผู้คนในท้องถิ่นสามารถเสาะแสวงหาทรัพยากรธรรมชาติหรือวัสดุในท้องถิ่นที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งส่งผลให้เกิดการพัฒนาประเทศได้อย่างดียิ่ง สิ่งดีก็คือการประยุกต์ใช้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น (Local Wisdom) ซึ่งมีมากมายในประเทศ

    4) พึ่งตนเองได้ทางเทคโนโลยี ควรส่งเสริมให้มีการศึกษา ทดลองทดสอบเพื่อให้ได้มาซึ่งเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่สอดคล้องกับสภาพภูมิประเทศและสังคมไทย และสิ่งสำคัญสามารถนำไปใช้ปฏิบัติได้อย่างเหมาะสม ซึ่งสอดคล้องกับพระราชดำรัสที่ว่า

    “…จุดประสงค์ของศูนย์การศึกษาฯ คือ เป็นสถานที่สำหรับค้นคว้าวิจัยในท้องที่ เพราะว่าแต่ละท้องที่ สภาพฝนฟ้าอากาศ และประชาชนในท้องที่ต่าง ๆ กันก็มีลักษณะ แตกต่างกันมากเหมือนเดิม…”

    5) พึ่งตนเองได้ในทางเศรษฐกิจ หมายถึงสามารถอยู่ได้ด้วยตนเองในระดับเบื้องต้น กล่าวคือ แม้ไม่มีเงินก็ยังมีข้าว ปลา ผัก ผลไม้ ในท้องถิ่นของตนเองเพื่อการยังชีพ และสามารถนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระดับมหภาคต่อไปได้ด้วย

    การปฏิบัติตนตามแนวทางเศรษฐกิจแบบพอเพียงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

    1. ยึดความประหยัด ตัดทอนค่าใช้จ่ายในทุกด้าน ลดละความฟุ่มเฟือยในการดำรงชีพอย่างจริงจัง ดังพระราชดำริที่ว่า

    “…ความเป็นอยู่ที่ต้องไม่ฟุ้งเฟ้อ ต้องประหยัดไปในทางที่ถูกต้อง…”

    2. ยึดถือการประกอบอาชีพด้วยความถูกต้องสุจริต แม้จะตกอยู่ในภาวะขาดแคลนในการดำรงชีพก็ตาม ดังพระราชดำริที่ว่า

    “…ความเจริญของคนทั้งหลาย ย่อมเกิดมาจากการประพฤติชอบและการหาเลี้ยงชีพชอบเป็นหลักสำคัญ…”

    3. ละเลิกการแก่งแย่งผลประโยชน์และแข่งขันกันในทางการค้าขาย ประกอบอาชีพแบบต่อสู้กันอย่างรุนแรงดังอดีต ซึ่งมีพระราชดำรัสเรื่องนี้ว่า

    “…ความสุขความเจริญอันแท้จริงนั้น หมายถึงความสุขความเจริญที่บุคคลแสวงหามาได้ด้วยความเป็นธรรมทั้งในเจตนาและการกระทำ ไม่ใช่ได้มาด้วยความบังเอิญ หรือด้วยการแก่งแย่งเบียดบังมาจากผู้อื่น…”

    4. ไม่หยุดนิ่งที่จะหาทางให้ชีวิตหลุดพ้นจากความทุกข์ยากครั้งนี้ โดยต้องขวนขวายใฝ่หาความรู้ให้เกิดมีรายได้เพิ่มพูนขึ้นจนถึงขั้นพอเพียงเป็นเป้าหมายสำคัญ พระราชดำรัสตอนหนึ่งที่ให้ความชัดเจนว่า

    “…การที่ต้องการให้ทุกคนพยายามที่จะหาความรู้ และสร้างตนเองให้มั่นคงนี้เพื่อ ตนเอง เพื่อที่จะให้ตัวเองมีความเป็นอยู่ที่ก้าวหน้า ที่มีความสุข พอมีพอกินเป็นขั้นหนึ่ง และขั้นต่อไปก็คือให้มีเกียรติว่ายืนได้ด้วยตนเอง…”

    5. ปฏิบัติตนในแนวทางที่ดี ลดละสิ่งชั่วให้หมดสิ้นไป ทั้งนี้ด้วยสังคมไทยที่ล่มสลายลงในครั้งนี้ เพราะยังมีบุคคลจำนวนมิใช่น้อยที่ดำเนินการโดยปราศจากละอายต่อแผ่นดิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ประราชทานพระราโชวาทว่า

    “…พยายามไม่ก่อความชั่วให้เป็นเครื่องทำลายตัว ทำลายผู้อื่น พยายามลดพยายามละความชั่วที่ตัวเองมีอยู่ พยายามก่อความดีให้แก่ตัวอยู่เสมอ พยายามรักษาและเพิ่มพูนความดีที่มีอยู่นั้นให้งอกงามสมบูรณ์ขึ้น…”

    แหล่งข้อมูล สุเมธ ตันติเวชกุล “เศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ" ใน ใต้เบื้องพระยุคลบาท พิมพ์ครั้งที่ 6 สำนักพิมพ์มติชน พฤษภาคม 2544 หน้า 284-291.


    ***************************************************
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กันยายน 2011
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    [​IMG]

    ครูบุญเลิศ ไทยทัตกุล ปราชญ์เดินดินผู้นำการเพาะเห็ด จะมาบอกกับคุณว่า "ความรู้ยิ่งให้ ยิ่งได้กลับคืนมา ยิ่งใหญ่กว่าเสมอ"

    ชายผู้นำทฤษฎีทางวิชาการด้านการเกษตรมาผสานกับประสบการณ์จริง ในการเพาะเห็ดด้วยตนเอง เป็นเวลาหลายสิบปี จนกลายเป็นครูผู้เชี่ยวชาญเรื่องเห็ดคนสำคัญของประเทศไทย เขาได้ถ่ายทอดความรู้ความมหัศจรรย์เกี่ยวกับเห็ดนานาชนิดที่สะสมมา ให้แก่ศิษย์ทุกคนอย่างหมดเปลือก ให้แพร่กระจายเหมือนดั่งสปอร์เห็ด เป็นเวลากว่า ๓๐ ปี จนถึงปัจจุบัน ด้วยความคิดที่ว่า "ยิ่งให้ ยิ่งได้" โดยไม่กลัวว่าใครจะมาแย่งอาชีพ หรือแย่งทำธุรกิจไป

    คำว่า "ยิ่งให้ ยิ่งได้" หมายความว่า ถ้าเราให้ได้มากเท่าไร องค์ความรู้ของเรา ก็จะแตกฉานมากเท่านั้น ธุรกิจ หรือกิจการของเรา ก็จะเจริญเติบโตมากยิ่งขึ้น ลำพังแต่ความรู้ที่มีเพียงอย่างเดียว หากเราไม่เผยแพร่ออกไป เราก็จะมีความรู้อยู่เพียงเท่านั้น หากเราได้ถ่ายทอดความรู้นั้นออกไป ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานต่าง ๆ รวมทั้ง ความคิดในการต่อยอด ก็จะยิ่งทำให้เราแตกฉานในองค์ความรู้มากยิ่งขึ้นเท่านั้น

    ครูบุญเลิศ ไทยทัตกุล สำเร็จการศึกษาจากสถาบันราชภัฏจันทร์เกษม และได้เข้าศึกษาต่อ ในระดับปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ต่อมา ศาสตราจารย์ ดร. พัฒนา สุขประเสริฐ ประธานหลักสูตรเกษตรพอเพียง โครงการลูกพระดาบส ซึ่งดำเนินการส่งเสริมองค์ความรู้ทางการเกษตร ได้ชวนครูบุญเลิศ ไทยทัตกุล เข้าร่วมเป็นวิทยากรในโครงการฯ เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านเห็ดแก่ผู้ที่สนใจ
    ประวัติความเ
    เป็นโครงการพระราชดำริ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้จัดตั้งขึ้นเมื่อ ๑๕ มิ.ย. ๒๕๔๑ ตั้งอยู่ที่ ๘๙ หมู่ ๑๔ ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยใช้ที่ดินราชพัสดุของกรมธนารักษ์ และที่ดินพระราชทาน รวม ๔๖๖ ไร่ ซึ่งได้ดำเนินกิจกรรมเกษตรแบบผสมผสานในลักษณะพึ่งพาตนเองและอื่น ๆ

    เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการเกษตร การเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร สมุนไพร การใช้พลังงานทดแทนและอื่น ๆ ตามแนวพระราชดำริ เพื่อสนับสนุนการเรียนการสอนของศิษย์พระดาบส หลักสูตรการเกษตรพอเพียงและช่างไม้เครื่องเรือนของโรงเรียนพระดาบส การศึกษาค้นคว้าวิจัยและพัฒนา การถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน การท่องเที่ยวเชิงเกษตร ตลอดจนใช้เป็นสถานที่ฝึกอบรม ฝึกปฏิบัติงานและศึกษาดูงานของ นักเรียน นิสิต นักศึกษา เกษตรกร และประชาชนทั่วไป โดยให้อยู่ในความรับผิดชอบร่วมกัน ของมูลนิธิพระดาบส สำนักพระราชวัง และจังหวัดสมุทรปราการาะเห็ดขายไปได้สวยในประเทศไทย

    เห็ดที่สามารถเพาะได้ในไทย มีอยู่หลายชนิด เช่น เห็ดหอม เห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า เห็ดหูหนู เห็ดลินหจือ เห็ดภูฏาน เห็ดยานางิ เห็ดเป๋าฮื้อ และอื่น ๆ อีกมากมาย

    ครูบุญเลิศ บอกว่า "อาชีพเพาะเห็ดขายยังไปได้สวยในประเทศไทย เพราะคนไทยชอบกินเห็ดกันมาก เป็นอาหารสุขภาพที่สำคัญ ผลผลิตเห็ดในประเทศยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ประเทศไทยเรายังสั่งซื้อเห็ดจากจีนมากมาย จึงเป็นโอกาสทองของธุรกิจเห็ดเลยก็ว่าได้

    ผมรับประกันว่า ทุกภูมิภาคในประเทศไทย สามารถเพาะเห็ดได้หมด ภูมิอากาศแถบภาคเหนือ เหมาะกับเห็ดเมืองหนาว เช่น เห็ดตระกูลนางรม เห็นขอนขาว เห็ดยานางิ ภาคใต้เหมาะกับเห็ดเมืองร้อน ส่วนภาคอีสานจะโชคดี เพราะเหมาะกับการเพาะเห็ดทุกชนิด" ไม่เพียงรู้ใจเห็ดเท่านั้น แต่ครูบุญเลิศยังรู้ใจคนกินเห็ด รู้ใจคนซื้อเห็ด แถมยังรู้ใจตลาดเห็ดอีกด้วยยว

    อาหารจานเห็ด คนทั่วไปอาจทำเพียงนำเห็ดมาต้ม ผัด แกง หรือทอด แต่ครูบุญเลิศ มองต่อยอดออกไปอีกไกลทีเดียว มองเห็นขนมจีนน้ำยาจากเห็ดนานาชนิด ข้าวเกรียบเห็ด แหนมเห็ด เยลลี่เห็ด เฉาก๊วยเห็ด คุกกี้เห็ด และอื่น ๆ อีกมากมาย ครูบุญเลิศ ยังแปรรูปเห็ดเพื่อเพิ่มมูลค่า ให้มีความแปลกใหม่ น่าลิ้มลองมากกว่าเดิมมากมายลูกพระดาบส

    โครงการลูกพระดาบส เปิดการอบรมการเพาะเห็ดแบบครบวงจร ที่ ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ โดยใช้เวลาอบรมเพียง ๖ วันเท่านั้น

    ปัจจุบัน การเพาะเห็ดเป็นเรื่องง่ายใกล้ตัว เพราะมีการผลิตก้อนเห็ดสำเร็จที่บรรจุเชื้อเห็ดพร้อมปลูก เพียงนำก้อนเห็ดที่เชื้อเดินเต็มก้อนแล้ว มาวางเรียงกันไว้ในที่ปิดมิดชิดอย่าให้โดนแดด รดน้ำเช้า-เย็น ทุกวัน ไม่ถึงเดือนดอกเห็ดก็จะออกมาให้เก็บกินได้ เรื่อยไปนาน ๓-๔ เดือน

    การเพาะเห็ด มี ๔ ขั้นตอน

    ๑. การผลิตเชื้อวุ้น
    ๒. การผลิตเชื้อข้าวฟ่าง
    ๓. การผลิตก้อนเชื้อเห็ด
    ๔. การผลิตดอกเห็ด

    แต่ขั้นตอนที่ ๑ - ๓ ต้องใช้อุปกรณ์และความรู้ ซึ่งต้องลงทุนมาก ไม่เหมาะกับผู้ที่เริ่มต้นใหม่ ๆ โดยเฉพาะการผลิตเชื้อวุ้นและข้าวฟ่างมีขั้นตอนมาก ต้องอาศัยความชำนาญและความละเอียดสูง โดยทั่วไปแล้ว จะแนะนำให้ข้ามมาทำขั้นตอนที่ ๔ คือเปิดดอกเห็ด เพราะมีผู้ผลิตก้อนเห็ดที่เส้นใยเจริญเต็มก้อนจำหน่าย สามารถสั่งซื้อได้ราคาก้อนละ ๘ - ๑๐ บาท

    การเพาะเห็ดในถุงพลาสติก

    การเปิดดอกเห็ด

    หลังจากเรียงก้อนเห็ดซ้อนสลับกัน ให้ดึงจุกสำลีออกจากปากถุงเห็ด ใช้ด้ามช้อนแคะเมล็ดข้าวบริเวณปากถุงออกให้หมด ห้ามรดน้ำจนกว่าเห็ดจะเริ่มออกดอกจึงเริ่มรดน้ำได้

    การดูแล

    ๑. รดน้ำวันละ ๒ ครั้ง ใช้กระบอกฉีดเป็นฝอย หรือผักบัว ห้ามฉีดเข้าไปในปากถุงเห็ด
    ๒. ฉีด EM ผสมน้ำ ๑:๑๐๐๐ วันละ ๑ ครั้ง เช้าหรือบ่ายก็ได้

    การเก็บดอกเห็ด

    ๑. ควรเก็บดอกตอนเช้า ๆ เลือกเก็บเฉพาะดอกที่บานเต้มที่
    ๒. วิธีการเก็บให้จับบริเวณโคนเห็ดดึงเข้าหาตัวคนเก็บ แล้วโยกไปมา เพื่อให้หลุดมาทั้งช่อ
    ๓. อย่าให้โคนเห็ดตกค้างที่ปากถุง ควรทำความสะอาดปากถุง ใช้โคนช้อนแคะเศษที่ค้างออก จะได้ไม่เป็นที่สะสมของเชื้อโรค
    ๔. ดอกเห็ดจะเริ่มออกอีกครั้ง ประมาณ ๑๔ - ๒๐ วัน
    ๕. เชื้อเห็ดจะมีอายุประมาณ ๓ - ๕ เดือน ให้ทยอยเก็บถ้อนเก่าออกทิ้ง

    สำหรับเด็กนักเรียน หรือผู้ที่ไม่มีสถานที่ อาจทดลองเพาะในห้องน้ำ หรือในภาชนะที่ไม่ได้ใช้แล้ว เช่น โอ่งหรือลังไม้ โดยใช้ผ้าปิดปากโอ่งป้องกันแสง ระวังอย่าให้แมลง ยุง และมดมารบกวน

    ที่มา : "ใจอาสา" เพื่อชีวิตที่ดีกว่าของตัวเราและสังคม http://www.jairsa.com/ - ขอขอบคุณรายการปราชญ์เดินดิน บุญเลิศ ไทยทัตกุล คนรักเห็ด๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ จาก Mthai TV

    http://tv.mthai.com/tv-archive/prach-dern-din/9100.html

    (หมายเหตุ : สถานที่แคบ ๆ ในบ้าน ก็สามารถเพาะเห็ดได้ โดยดูตัวอย่างจากทีวี) การเพาะเห็ดนั้น นอกจากไว้รับประทานในครอบครัวเป็นอาหารสุขภาพที่ดี ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บได้มากมายแล้ว ยังเป็นการพึ่งพาตนเองได้ในระดับหนึ่งด้วย และยังเป็นช่องทางในการทำธุรกิจเกี่ยวกับการแปรรูปเห็ดได้เป็นอย่างดี และเมื่อรู้แล้ว ก็ควรช่วยกันเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการเพาะเห็ดและการทำธุรกิจเห็ดให้แพร่หลายยิ่งขึ้นด้วย ตามที่ครูบุญเลิศ ไทยทัตกุล ได้บอกไว้ว่า "ความรู้ยิ่งให้ ยิ่งได้กลับคืนมา ยิ่งใหญ่กว่าเสมอ"

    สุรศักดิ์ - คัดย่อและเรียบเรียง

    ที่มา http://www.oknation.net/blog/print.php?id=659856
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กันยายน 2011
  13. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>เหนือ อีสาน ตอ. กทม.ยังมีฝนร้อยละ60-70ของพื้นที่ </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศ ประจำวันที่ 3 กันยายน 2554 ดังนี้

    ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนอยู่ในเกณฑ์กระจายและมีฝนตกหนักได้บางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน

    อนึ่ง ผู้ที่จะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ขอให้ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง เนื่องจากมีพายุโซนร้อนกำลังแรง “ตาลัส” (Talas) อยู่ใกล้บริเวณดังกล่าว โดยพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา
    อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา
    ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
    มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    บริเวณจังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา
    อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา
    ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


    ภาคกลาง
    มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี และกาญจนบุรี
    อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา
    อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด
    อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร


    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
    อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร


    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และสตูล
    อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร


    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
    อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>สถานการณ์น้ำท่วมสุโขทัย เริ่มคลี่คลาย </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>สถานการณ์น้ำท่วมสุโขทัย เริ่มคลี่คลาย ประชาชน วอน เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมถนน บ้านเรือนกลับสู่สภาพปกติ


    สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.สุโขทัย เริ่มคลี่คลายหลายจุด ทั้งที่หมู่ 3,4,6 ต.วังทอง อ.ศรีสำโรง และที่หมู่ 6 บ้านบางคลอง ต.ปากแคว อ.เมืองสุโขทัย ระดับน้ำในแม่น้ำยม ลดลงยู่ที่ 5.6 เมตร ทำให้กระแสน้ำที่ผ่านเข้ามาทำคันดินน้ำยมพังลง พื้นที่ ๆ เคยถูกน้ำท่วมขังก็ลดลงจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติ คงมีเพียงบางส่วนที่ยังคงถูกน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะ ชาวบ้านที่บ้านคลองยัง คงต้องใช้สะพานไม้ยูคา

    ที่ทาง อบต.ปากแคว ที่สร้างไว้ใช้ในการเดินทางเข้าออกระหว่างบ้าน ตลาด

    และที่ทำงาน รวมถึง ที่รับส่งเด็กนักเรียน เนื่องจากถนนสาย 1195 ช่วงบ้านบางกลอง ม.6 และ 7 ขาดออกเป็น 3 ช่วง ยังไม่สามารถเข้าไปซ่อมแซมได้ ขณะที่ ชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมต่างวิงวอนขอให้ทางจังหวัด เร่งเข้ามาซ่อมแซมถนนที่ขาด ให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ

    สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.สุโขทัย ยังคงมีน้ำท่วมขังใน 2 อำเภอ

    คือ อ.เมืองสุโขทัย ต.บ้านกล้วย ต.ยางซ้าย ถนนปากพระ และที่ อ.กงไกรลาศ ทาง จ.สุโขทัย โดย นายจักรินทร์ เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการ จ.สุโขทัย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจความเสียหายและเข้าไปให้การซ่อมแซมพื้นที่ชำรุดเสียหายให้กลับมาอยู่ในสภาพที่ดีเหมือนเดิมให้เร็วที่สุด


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว และรูปภาพ คุณภาพดี โดย: INN NEWS
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>แฉรีสอร์ตวังน้ำเขียวส่งส่วยเดือนละล้าน </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>เอ็นจีโอแฉแหลกรีสอร์ตวังน้ำเขียว-ปากช่อง

    ส่งส่วยเดือนละล้าน พร้อมขู่ถวายฎีกาหากป่าไม้ยังใช้ไม้แข็ง ด้าน “ปรีชา-โชติ” ยันเดินหน้าฟันรุกป่าวังน้ำเขียว ลั่นใครก็มาบีบให้หยุดไม่ได้


    วันนี้ (2 ก.ย.) นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์ กรณีที่มีนักการเมืองใน จ.นครราชสีมา ทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน รวมทั้งนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เข้ายื่นหนังสือขอความชัดเจน และขอให้ชะลอการดำเนินคดี กรณีการบุกรุกที่ดิน ในเขตป่าสงวนป่าเขาภูหลวง อ.วังน้ำเขียว ว่า ตนทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และได้ให้นโยบายชัดเจนไปกับผู้บริหารของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แล้ว ว่า ทุกอย่างจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย หากใครที่พิสูจน์ชัดเจนแล้วว่าเข้าข่ายทำผิดกฎหมาย บุกรุกพื้นที่ป่าสงวน หรือบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ให้แจ้งความดำเนินคดีได้ทันที ไม่ต้องยกเว้นใคร ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองท้องถิ่น หรือนักการเมืองระดับชาติ ส่วนคดีจะสิ้นสุดอย่างไรขึ้นอยู่กับศาล

    “เรื่องให้ชะลอการดำเนินคดีนั้น คงชะลอไม่ได้ เพราะเมื่อเขาทำผิดกฎหมาย และเราก็รู้ หากเราชะลอถือว่าเราละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้น จึงชะลอ หรือยุติการดำเนินการเรื่องนี้ไม่ได้ ไม่ต้องกลัวว่าเรื่องนี้จะล้มกระดาน หรือยุติการดำเนินการ เพราะยุติไม่ได้ต้องเดินต่อตามขั้นตอน” นายปรีชา กล่าว

    เมื่อถามว่า คิดอย่างไรกับการที่ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ แกนนำ นปช. และอดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย

    และ นายประนอม โพธิ์คำ ส.ส. นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย นำคนมากดดัน และพยายามโยงเรื่องการเมือง นายปรีชา กล่าวว่า อย่าไปมองว่าเป็นเรื่องการเมือง เพราะตนบอกมาตลอดว่า ถูกก็ว่าถูก และไม่อยากให้โยงเป็นประเด็นทางการเมือง ซึ่งขอประกาศอีกครั้งว่า ใครก็มาบีบบังคับตนไม่ได้ ในฐานะที่เป็นเจ้ากระทรวงนี้ ต้องแก้ปัญหาให้จบ อย่างไรก็ตาม เมื่อมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ทางอธิบดีกรมป่าไม้ และอธิบดีกรมอุทยานฯ ก็จะรายงานความคืบหน้าให้ทราบทุกสัปดาห์อยู่แล้ว อีกทั้ง ในสัปดาห์หน้าจะมีการตั้งคณะทำงานติดตามการทำงานชุดกลาง ที่จะมีทั้งหน่วยงานในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ทั้งกรมป่าไม้ กรมอุทยาน รวมทั้งกองบังคับการการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ร่วมเป็นกรรมการด้วย

    ด้าน นายโชติ ตราชู ปลัด ทส. กล่าวว่า เวลานี้รัฐบาล และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ เอง มีความชัดเจนอย่างมาก

    เรื่องการดำเนินการจัดการกับผู้ที่บุกรุกป่าสงวนในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว โดยจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย ไม่มียกเว้นให้ใครอย่างเด็ดขาด ตนไม่เข้าใจว่าการที่มีทั้งนักการเมือง และเอ็นจีโอมากันที่กระทรวง เมื่อวันที่ 1 ก.ย.นั้น เขามาเพื่อจุดประสงค์อะไรกันแน่ เพราะถ้ามาเพื่อขอให้เราชะลอการดำเนินคดีตามที่เป็นข่าว บอกได้เลยว่าทำไม่ได้ ไม่รู้จะเอาเหตุอะไรมาอ้างเพื่อชะลอ เพราะเราแจ้งความไปแล้วในกรณีรุกป่าสงวนของกรมป่าไม้ และในส่วนของการบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ ทับลาน หลายคดีศาลตัดสินแล้วด้วยว่าผิด ซึ่งแบบนี้ใครก็ชะลอไม่ได้ ต้องเดินหน้าทำงานต่อ เพราะถ้าชะลอ หรือไม่ทำ เราก็จะโดนข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เสียเอง

    “ขอเรียนอีกครั้งว่าในส่วนของประชาชนที่เข้าไปอยู่ในพื้นที่ เข้าข่ายข้อยกเว้นตามมติ ครม.วันที่ 30 มิ.ย.2541 นั้น ก็สามารถอยู่อาศัยได้ตามปกติ เข้าใจว่าชาวบ้านส่วนใหญ่ก็เข้าข่ายดังกล่าว ที่เราต้องการดำเนินการเอาที่ดินคืน คือ พวกรายใหญ่ที่บุกเข้าไปสร้างบ้านพัก สร้างรีสอร์ต พวกนี้ทำผิดกฎหมายชัดเจน ต้องยอมรับ ผมไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าพวกที่มาเรียกร้องเขาเรียกร้องให้ใครกันแน่ ถ้าจะบอกว่าเรียกร้องให้ชาวบ้านคนยากจนนั้น ไม่ต้องเรียกร้อง เพราะเราไม่ทำอะไรอยู่แล้ว ถ้าอยู่แบบถูกเราก็ไม่ทำอะไร ที่ต้องทำเวลานี้ คือ 22 ราย ซึ่งเท่าที่ดูไม่มีรายไหนที่ยากจนเลย” นายโชติ กล่าว

    ส่วน นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตรองประธานคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า คิดว่าฝ่ายการเมือง ไม่ว่าทั้งจากรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน ไม่ควรไปกดดันการปฎิบัติงานของข้าราชการ ข้อเรียกร้องบางข้อก็จะทำให้ข้าราชการละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ตาม มาตรา 157 ได้ ทั้งนี้ ถ้าเป็นกรณีข้าราชการรังแกชาวบ้านนักการเมืองเข้าไปช่วยได้ แต่ถ้าข้าราชการทำงานอย่างตรงไปตรงมาไม่ควรกดดัน เรื่องนี้ข้อเสนอของตนคือ ผู้กระทำผิดไม่ว่าจนหรือรวย ถ้าทำผิดโดยเจตนาต้องเอาผิดให้ได้ แต่ถ้าขาดเจตนา เช่น ถูกหลอกให้ซื้อเอกสารสิทธิ์ปลอม ก็ต้องให้ความเป็นธรรม นอกจากนั้น หากมีข้าราชการร่วมในการทำผิด ก็ต้องได้รับโทษด้วย

    นายกฤษณ์ สุขมังสา ประธานเครือข่ายรักษ์เขาใหญ่ กล่าวว่า จากการที่ได้เข้ายื่นหนังสือ และประชุมร่วมกับอธิบดีกรมป่าไม้ ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา รู้สึกผิดหวัง เพราะท่าทีของทางกรมป่าไม้ไม่ได้แสดงความเข้าใจ หรือเห็นใจประชาชนที่เป็นเหยื่อของการใช้อำนาจในทางที่ผิด ซึ่งหลังจากนี้ ถ้าทางกระทรวงยังใช้ไม้แข็ง โดยเอากฎหมายมาบังคับใช้กับประชาชนอย่างเดียว ก็จะร่วมตัวกันถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพราะพื้นที่วังน้ำเขียวเป็นพื้นที่ชุมชนเก่าแก่ และอยู่มาตั้งแต่ก่อนประกาศพื้นที่ป่าสงวน และ ส.ป.ก. ซึ่งในตอนนั้นทางภาครัฐใช้อำนาจในการแบ่งเขต โดยขีดเส้นอยู่แต่ในห้องแอร์ ไม่ได้ไปลงพื้นที่จริง ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน และจำกัดสิทธิ์พื้นฐานในการทำมาหากิน นอกจากนั้น ภายในเดือน ก.ย.นี้ ทางกลุ่มจะเข้ายื่นหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกคำสั่งทบทวนการกระทำของ ทส.ในกรณีวังน้ำเขียวด้วย ก่อนจะถวายฎีกาตามลำดับ

    “นอกจากนั้น ผมทราบว่าในพื้นที่วังน้ำเขียว และปากช่อง มีการเรียกเก็บส่วยจากรีสอร์ทหลายแห่งในพื้นที่ แต่ละเดือนรายได้กว่า 1 ล้านบาท หน้าฉากก็พยายามบังคับใช้กฎหมาย แต่หลังฉากก็กินกันทั้งนั้น ส่วนกรณีที่นายปรีชาระบุว่า จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่นั้น ผมขอบอกว่าอย่าฟิตจนเกินไป เพราะใน จ.เลย ของนายปรีชา มีการบุกรุกกันมากกว่านี้ ทั้งบุกรุกป่าสงวน ป่าอุทยานฯ และการทำเหมืองแร่ ทำไมจึงไม่รีบเข้าไปแก้ไข ไม่อยากเห็น 2 มาตรฐานในการปฎิบัติงาน โดยทำแค่จังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง” ประธานเครือข่ายรักษ์เขาใหญ่ กล่าว.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>โอบามาพร้อมประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ 8 ก.ย.นี้ </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เตรียมแถลงนโยบายเศรษฐกิจต่อสภาคองเกรส
    8 กันยายนนี้

    เน้นแก้ปัญหาการว่างงานเป็นหลัก
    มาตรการจะเป็นแนวทางในการสร้างงาน เพราะในขณะนี้อัตราการว่างงานในสหรัฐยังคงอยู่ที่ร้อยละ 9 ทั้งๆ ที่รัฐบาลสหรัฐใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไปหลายครั้งแล้วก็ตาม การแถลงนโยบายเศรษฐกิจในครั้งนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เนื่องจากโอบามาต้องการแถลงนโยบายในวันพุธที่ 7 กันยายน ซึ่งตรงกับวันที่ผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ มีกำหนดจะเปิดการโต้วาทีผ่านทางสถานีโทรทัศน์ ซึ่งฝ่ายค้านมองเป็นการเอาเปรียบ



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>นายกฯหญิงออสซี่ ยืนยันไม่ลาออก หลังมรสุมการเมืองกระหน่ำ </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>

    นายกฯหญิงออสซี่ ยืนยันไม่ลาออก หลังมรสุมการเมืองกระหน่ำ เชื่อตนเองเหมาะสมที่สุด

    นายกรัฐมนตรีจูเลีย กิลลาร์ด ของออสเตรเลีย ปัดกระแสข่าวที่ว่า ส.ส.ของพรรคบางคนเริ่มหมดศรัทธาในตัวเธอ และจะยังคงทำหน้าที่ผู้นำรัฐบาลต่อไป หลังจากนโยบายเกิดการสะดุดครั้งใหม่ เมื่อศาลฎีกาประกาศให้ข้อตกลงแลกเปลี่ยนผู้ลี้ภัยกับมาเลเซียเป็นโมฆะ

    โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ศาลสูงแห่งออสเตรเลียระงับนโยบายการส่งผู้ลักลอบอพยพทางเรือกลับมาเลเซียกว่า 800 คน ซึ่งสร้างความอับอายให้แก่นางกิลลาร์ดและรัฐบาลที่มีความเปราะบางของเธออย่างมาก และก่อให้เกิดกระแสที่ว่ารัฐบาลของเธออาจกำลังนับวันรอ

    หนังสือพิมพ์ซิดนีย์ มอร์นิง เฮรัลด์ รายงานว่า พรรคแรงงานกำลังตกอยู่ท่ามกลางเสียงลือที่ว่าอาจมีความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนตัวผู้นำที่เป็นสตรีคนแรกของประเทศ ซึ่งความน่าเชื่อถือของเธอกำลังถดถอยลง หลังการถูกปฏิเสธจากศาล

    ด้านนายเควิน รัดด์ ผู้นำพรรคคนก่อนซึ่งถูกกิลลาร์ดเขี่ยลงจากตำแหน่ง กลายเป็นตัวเต็งในตำแหน่งดังกล่าว ขณะที่นายสตีเฟน สมิธ รัฐมนตรีกลาโหม ได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นตัวเก็งสำคัญเช่นกัน

    ทั้งนี้ กิลลาร์ดได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุเอบีซีในวันนี้ (2 ก.ย.)ว่า เธอจะไม่ยอมไปไหน เธอเชื่อว่าเธอคือบุคคลที่เหมาะสมที่สุดในการดำรงตำแหน่งนี้ และเตรียมที่จะขับเคลื่อนนโยบายต่างๆเพื่อนำประเทศไปสู่อนาคตที่สดใสกว่า ก่อนหน้านี้ กิลลาร์ดให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์สกายทีวีหลังจากขึ้นดำรงตำแหน่งได้เกือบปีโดยยืนยันว่าจะไม่ลาออก

    สื่อออสเตรเลียรายงานว่า กิลลาร์ดเผชิญกระแสไม่พอใจมากขึ้นจนคะแนนนิยมต่ำกว่าเมื่อครั้งขึ้นดำรงตำแหน่งแทนนายเควิน รัดด์ ขณะที่นักลงทุนคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลในเร็ว ๆ นี้ และเกิดความไม่แน่ใจเกี่ยวกับมาตรการจัดเก็บภาษีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และภาษีกำไรการทำเหมืองแร่เหล็กและถ่านหิน ผลการสำรวจพบว่า หากมีการเลือกตั้งในขณะนี้ กิลลาร์ดและพรรคแรงงานของเธอจะพ่ายการเลือกตั้งอย่างแน่นอน

    อย่างไรก็ดี กำหนดการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้าจะมีขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้า รัฐบาลเสียงข้างน้อยของกิลลาร์ด อาศัย ส.ส.อิสระ 3 เสียง และ ส.ส.พรรคกรีน 1 เสียงทำให้มีเสียงข้างมากในสภาเกินมา 1 เสียง แต่หากเธอถูกเปลี่ยนตัวเสียงสนับสนุนนี้ก็อาจหายไป

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    ฮือฮา! ชาวกัวเตมาลาพบ หมูประหลาดหน้าคน เชื่อ เป็นฝีมือเอเลี่ยน
    Mthainews: สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ชาวบ้านซานตา ครูซ เอล ชอล ต่างแตกตื่นเมื่อพบว่า หมูตัวหนึ่งมีรูปร่างลักษณะที่แปลกจากตัวอื่นๆ โดยมันมีหน้าตาละม้ายคล้ายกับมนุษย์ เชื่อว่าเหตุที่เป็นเช่นนี้เนื่องจาก มนุษย์ต่างดาวที่อยู่นอกโลกมีส่วนในการให้กำเนิดมันขึ้นมา
    ทั้งนี้ หมูน้อยประหลาดหน้าตาคล้ายมนุษย์ เป็นหนึ่งใน11 ตัวที่อยู่ในคอก ซึ่ง เลอเรอาโน เอสโคบา อาเรียส เจ้าของหมูกล่าวว่า ตนเองประหลาดใจ เพราะหน้าตามันเหมือนกับมนุษย์ต่างดาว
    ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ยังไม่สามารถฟันธงได้ว่า เหตุหมูประหลาดหน้าตาคล้ายมนุษย์ตัวนี้เกิดจากสาเหตุใดกันแน่ เพราะมีหลายสาเหตุที่ทำให้สัตว์หน้าตาประหลาด บางทีอาจเกิดความปกติทางพันธุกรรม หรือสิ่งภาวะสิ่งแวดล้อมก็เป็นได้
    Mthainews


    [​IMG]
    เกิดเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกัน พกอาวุธทั้งมีด ปืน และระเบิด ในงานคอนเสิร์ต Honda Scoopy i Regga On The Rock ครั้งที่ 3 บริเวณชายหาดชะอำ จังหวัดเพชรบุรี มีผู้บาดเจ็บนับร้อยคน เสียชีวิตแล้ว 1 คน ยังไม่รู้สึกตัวอีก 1 คน
    โดย คอนเสิร์ตเร็กเก้ดังกล่าวเริ่มขึ้นตั้งแต่เที่ยงวานนี้ ( 3 ก.ย.) โดยมีศิลปินจากค่าย แกรมมี่ ร่วมแสดงในงาน มีผู้ร่วมงานเป็นวัยรุ่นกว่าแสนคน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดกำลังในพื้นที่ ทั้งภาคพื้นดิน อากาศ แลน้ำ ร่วมกันป้องกันเหตุ พร้อมกับประสานสารวัตรทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และอาสาสมัคร เข้าดูแลความเรียบร้อยระหว่างงาน
    ทั้งนี้ ได้เกิดเหตุตีกันฟันกันและยิงกัน ปาระเบิดขวดใส่กัน บางรายถูกปาน้ำกรดเข้าที่บริเวณหลังด้วย นอกจากนี้มีเสียงปืน และระเบิดควันเกิดขึ้นในงานมีผู้ถูกอาวุธปืนและถูกฟันบริเวณกลางหลังได้รับบาดเจ็บสาหัส คือ นายวิษณุ กัมเจริญสร้าง อายุ 17 ปี
    และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกมีดแทงเข้าบริเวณกลางหลัง ซึ่งแพทย์ รพ.ชะอำได้ทำการเจาะปอดและส่งตัวรักษาต่อที่ รพ.พระจอมเกล้า ทราบชื่อต่อมาคือ นายชัยพงษ์ ศรทอง อายุ 17 ปี
    นอกจากนี้ ยังมีผู้ถูกอาวุธมีดฟัน แทง แขนหัก ข้อมือหัก โดนระเบิดปิงปอง และแผลจากการถูกน้ำกรดสาด จากสาเหตุทะเลาะวิวาทกันเกือบ 200 ราย ทำให้ผู้จัดจำเป็นต้องยุติการแสดงในเวลา 23.30 น.ก่อนกำหนดการเลิกเวลา 00.30น
    Mthainews


    [​IMG]
    พายุไต้ฝุ่นทาลัส ถล่ม ญี่ปุ่น
    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า อิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นทาลัสที่พัดถล่มพื้นที่ทางภาคตะวันตกของญี่ปุ่น สร้างความเสียหายอย่างหนักในหลายจังหวัด
    โดยที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ จ.นาระ มีฝนตกต่อเนื่องมาตั้งแต่วันอังคาร วัดปริมาณฝนได้กว่า 170 เซนติเมตร ขณะที่หมู่บ้านอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดเดียวกัน มีบ้านเรือน 2 หลังถูกกระแสน้ำที่เอ่อล้นตลิ่งพัดพาไปเมื่อคืนนี้ ท่ำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และสูญหายไปอีก 7 คน
    ส่วนที่ จ.วากายามะ บ้านเรือน 3 หลังพังทลายจากเหตุดินถล่ม เมื่อช่วงเช้าตรู่วันนี้ ทำให้มีผู้เสียหาย 5 คน ประชาชนราว 180,000 ครัวเรือนในหลายจังหวัดทางภาคตะวันตกได้รับคำแนะนำและคำสั่งให้อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดล่าสุดอยู่ที่ 3 คน สูญหาย 19 คน และมีผู้บาดเจ็บอีก 86 คน
    ทั้งนี้ สำนักงานอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า อาจจะมีฝนตกต่อเนื่องในบางพื้นที่ทางภาคตะวันตกและภาคกลางตลอดทั้งวันนี้ และมีคำเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ ซึ่งได้รับผลกระทบให้ระวังอันตรายจากน้ำท่วมและดินถล่ม
    สำหรับพายุไต้ฝุ่นทาลัสหลังจากพัดถล่มพื้นที่ทางภาคตะวันตกแล้ว ขณะนี้ได้เคลื่อนตัวไปทางภาคเหนือและลงสู่ทะเลญี่ปุ่นแล้ว
    Mthainews
    เกาะติดทุกข่าวเด่น
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ปลายปี 2012 ถึง กุมภาพันธ์ 2013 !!!

    [​IMG]

    ข่าวจากพระอาจารย์รัตน์

    พระอาจารย์ยังยืนยันว่าอิลินิน คือ ดาวถ่วงดุลย์ในปฏิทินมายัน เป็นดาวที่ให้คุณ ตอนนี้เค้าโดนความว่างของดวงอาทิตย์กลืนอยู่ (จากการโคจรเข้าไปใกล้ดวงอาทิตย์และธาตุลบของอิลินินปะทะกับธาตุลบของดวง อาทิตย์จนกลายเป็นความว่าง) แต่จะกลับมาให้เห็นอีกในกาลหน้า ส่วนนิบิรูพระอาจารย์ยังไม่ให้ความสำคัญในตอนนี้​

    ส่วนวันที่ 21 ธันวาคม 2012 ช่วงนั้นจะยังไม่มีอะไรหนักๆ ให้เห็น แต่พระอาจารย์ ให้ช่วงเวลานั้นปลายปี 2012 ถึง กุมภาพันธ์ 2013 ซึ่งตอนนั้นจะมีทั้งแกนโลกพลิก ภัยธรรมชาติใหญ่ๆ มากมาย และผู้คนจะล้มตายกันมาก

    ตอนนี้พลังงานที่อยู่กาแลคซี่ของเราถูกบีบอัด ดาวต่างๆ ในระบบสุริยะเปรียบเสมือนพายเรือในอ่าง ข้ามขอบไปไม่ได้ เพราะพลังจากกาแลคซี่ใหญ่อันโดรเมดร้าเบียดอยู่ จะเป็นอย่างนี้เรื่อยๆ จนในที่สุดกาแลคซี่เราจะถูกเบียดจนไปอยู่ในกาแลคซี่ไตรแองกูลั่ม (ซึ่งวงโคจรของระบบสุริยะเราคือ 26,000 ปี เราจะไปอยู่ไตรแองกูลั่ม 13,000 ปี และกลับมาอยู่ทางช้างเผือก 13,000 ปี) ​

    ซึ่งพวกเราจะอยู่ในระดับพลังงานที่ดี และจะมีความเจริญทางจิตมาก ปฏิบัติธรรมก็จะได้ผลเร็ว เป็นต้น ในช่วงปลายปี 2012-กุมภา 2013 ทางกายภาพของโลกจะมีการเปลี่ยนแปลง เพราะแรงอัด อีกพร้อมทั้งทางด้านพลังงาน พลังงานที่ไม่ดีจะเข้ามามาก คนไหนที่จิตใจมีพลังงานเป็นสีดำ พลังงานก็จะเข้ามารวมและทำให้เสียชีวิตในที่สุด ส่วนจิตใจของคนที่เป็นสีขาว พลังงานลบอาจทำอะไรไม่ได้หรือทำได้ก็เล็กน้อย อาจมีการบอบช้ำบ้างแต่ก็จะมีโอกาสรอดได้มาก วงโคจรของดวงจันทร์ผิดเพี้ยนไป ตรงนี้มีผลโดยตรงกับน้ำที่มีต่อโลก

    ส่วนดวงอาทิตย์ พวกเราอาจจะมีโอกาสเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก ก่อนหน้าที่จะมีเหตุการณ์ใหญ่ (การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพครั้งใหญ่) ให้สังเกตดีๆ ดวงอาทิตย์จะเคลื่อนไปเรื่อยๆ จนในที่สุดจะขึ้นทางทิศตะวันตก

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Falkman<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5072738", true); </SCRIPT> สมาชิก

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ไม่รู้ว่ามีใครเห็น-planet-x-หรือยัง.253139/page-191
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Haeundae.jpg
      Haeundae.jpg
      ขนาดไฟล์:
      82.2 KB
      เปิดดู:
      1,404
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2011
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    พระธิเบตกล่าว"เห็นเอเลี่ยนปกป้องโลกจากสงครามนิวเคลียร์ในปี 2012"

    [​IMG]

    จากเว็บ : Tibetan Monks See Aliens Saving Earth From Humans In 2012!, page 1 เป็นการโพสต์ของนาย Mike Singh ชาวฮินดู

    พูดตรงๆ ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับเรื่องนี้ ที่พระทิเบตผู้ได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นผู้มีความสามารถ'ในการนั่งทางใน' ได้มองเห็นว่า ETs จะช่วยปกป้องโลกจากหายนะที่จะมาถึงในปี 2012​

    ตามที่ผู้มีญาณทัศนะเหล่านั้น ได้เห็นมหาอำนาจกำลังนำพาโลกไปสู่ภาวะการทำลายล้างตนเอง นอกจากนี้ยังเห็นว่าโลกจะไม่ถูกทำลาย ตั้งแต่บัดนี้(โพสต์ปี 2008) จนถึงปี 2012 ชาติมหาอำนาจจะยังคงร่วมในสงครามในระดับภูมิภาค การก่อการร้ายและสงครามแอบแฝงจะเป็นปัญหาหลัก ในโลกของการเมืองจะเกิดเหตุการณ์สำคัญประมาณปี 2010 ในขณะที่ชาติมหาอำนาจต่างข่มขู่ที่จะทำสงครามกัน​

    ในระหว่าง ปี 2010 ถึง 2012, โลกทั้งโลกจะได้รับข่าวสารและเตรียมการสำหรับวันสิ้นโลก มีการซ้อมรบทั่วโลก และมีการเจรจาที่ได้ผลเพียงเล็กน้อย ในปี 2012 โลกจะเริ่มเข้าสู่สงครามนิวเคลียร์ทำลายล้างอย่างรวดเร็ว การตีความจากคำกล่าวของงพระทิเบตนี้ ทำให้เห็นว่า มนุษ์ต่างดาวกำลังจับตาดูการกระทำของมนุษย์โลกทุกขั้นตอน พวกเขาจึงจะแทรกแซงในปี 2012 และช่วยโลกจากการทำลายล้างกันของมนุษย์โลก​

    เมื่อถามว่ามนุษย์พิเศษเหล่านี้ จะปรากฏขึ้นในปี 2012 จริงหรือไม่ คำตอบได้ที่จากผู้มีฌานคือ พวกเขาจะเปิดเผยตัวเองในโดยที่พวกเราไม่ได้แสดงความหวาดกลัว พวกเขาจะเปิดเผยตัวเองเท่าที่จำเป็น และเมื่อวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเราพัฒนามากขึ้น พวกเราจะต้องการเห็นพวกเขาและติดต่อสื่อสารกับพวกเขาต่อไป​

    ตอนนี้เชื่อมต่อกับวันที่แพร่หลายนี้ของปี 2012 คือการเชื่อมต่อน่าพิศวงระหว่างปฏิทินมายันและพยากรณ์ฮินดู แต่โบราณของสองวัฒนธรรมที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกันคือ เมื่อผ่านพ้น วัฏจักร 5,000 ปี โลกเราก็จะกลับเข้าสู่ยุคทอง
    ต่อไป​


    ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกัน




     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2011
  17. warrrior

    warrrior Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +64
    รก สมองดี ครับ งงง มาก พระธิเบต หรือพระของคริส น้อ
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    แปลกแต่จริง...

    บอกว่ารกสมอง...แต่ก็ยังชอบเข้ามาอ่านอยู่ได้...ถ้าไม่เชื่อแล้วจะเข้ามาอ่านให้เสียเวลาทำไมหนอ...แปลกแต่จริง...
     
  19. ธีรยุทธ

    ธีรยุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +750
    เดี๋ยวนี้ คนที่มีจิตใจเป็นพลังงานสีดำ เข้ามาเยอะ ผมติดตาม อ่าน กระทู้นี้ตั้งแต่สมัครมาใหม่ๆ จนตอนนี้ผมอยู่ต่างประเทศ ก็ยังเข้ามาอ่านกระทู้นี้ แทบจะทุกวัน แต่ไม่ค่อย โพสอะไรมากเหมือนเมื่อก่อน ต้องขอบคุณ คุณเกษม และทุกๆคนที่นำข้อมูลต่างๆมาโพส เพื่อให้คนที่มีจิตใจเป็นพลังงานสีขาว ได้รับรู้และเตรียมตัว กับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า ติดตามข่าวสารทุกวันครับ เป็นกำลังใจให้ครับผม
     
  20. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    ผมขอส่งกำลังใจแก่ท่านเกษมและวรเดชครับ
    จาก ผู้ชอบอ่านขาประจำ
     

แชร์หน้านี้

Loading...