ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    [​IMG]

    Forecast ของอาทิตย์หน้าจาก sos

    เค้าบอกว่า ความรูนแรงจะเกิดขึ้นแล้วเกิดขึ้นอีกระหว่างกลุ่มของมุสลิมกับพุทธ ที่คาดว่าจะมีความรุนแรงมากในภาคใต้ของประเทศไทย จากการยิ่งครูผู้หญิงชาวพุทธสองคนที่จังหวัดนราธิวาสเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน. การลอบยิงนี้ก่อให้เกิดความกลัวในหมู่ครูและทำให้โรงเรียนจำนวนมากต้องปิดตัวลงบริเวณนั้น. การลงมือครั้งนี้ทำให้เหมือนการกระตุ้นให้เกิดความรุนแรงที่จะต่อต้านพวกมุสลิม ที่จะเกิดขึ้นในอาทิตย์หน้านี้ ในตอนนี้จะเห็นความขัดแย้งระหว่างสองพวกได้เพิ่มขึ้น.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • sos.JPG
      sos.JPG
      ขนาดไฟล์:
      23.4 KB
      เปิดดู:
      979
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2007
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    [​IMG]

    จากคำพยากรณ์ของ อ.ปริญญา ตันสกุล ได้กล่าวถึงเหตุการณ์วันชำระโลกเอาไว้ว่า

    ดาวเคราะห์โลกจะค่อย ๆ ม้วนตัวก้มหัวเอาขั้วโลกเหนือ คว่ำลงแทนที่ตำแหน่งขั้วโลกใต้อย่างช้า ๆ โดยมีน้ำหนักจากขั้วโลกเหนือที่ไหลลงสู่ด้านล่าง และก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์ทางด้านขั้วโลกใต้ช่วยส่งเสริม กระบวนการทางเทคนิคนี้ให้แนบเนียนกลมกลืนยิ่งขึ้น เมื่อขั้วโลกเหนือย้ายตนเองไปสู่ขั้วโลกใต้แล้วก็จะค่อย ๆ พลิกม้วนตัวขึ้นเพื่อย้อนคืนสู่ตำแหน่งเดิมของตนต่อไป โดยไม่ย้อนรอยเดิม แนวแกนหมุนรอบตัวเองตำแหน่งใหม่ในยุคพลังงานใหม่ก็คือ 22 องศากับแนวดิ่ง เพื่อสร้างฤดูกาลใหม่ที่สมดุลให้กับมนุษย์ยุคพลังงานใหม่แห่งโลกเสรี ระยะเวลาที่โลกม้วนตัวตีลังกาครบ 1 รอบ จะใช้เวลาดำเนินการทั้งสิ้น 30 วัน!
    ____________________________________________________

    คำพยากรณ์นี้สอดคล้องกับคำทำนายของศาสนาอิสลาม ที่บอกเอาไว้ว่าในวันเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่นั้น ผู้คนจะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก ซึ่งถ้าเกิดปรากฎการณ์โลกม้วนตัวตีลังกา เกิดขึ้นจริงก็จะทำให้ทิศต่างๆ เกิดการกลับด้านขึ้นเนื่องจากโลกหมุนผิดทิศทางไปจากเดิมนั่นเอง จึงทำให้ผู้คนมองเห็นว่าพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก

    ในปัจจุบันนี้นักวิทยาศาสตร์ก็กำลังค้นพบแล้วว่า สนามแม่เหล็กโลกกำลังพลิกกลับขั้วจากขั้วโลกเหนือเป็นขั้วโลกใต้อย่างช้าๆ ถ้าในวันข้างหน้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายใน 30 วัน (ทำให้เกิดแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิดพร้อมกันหลายๆ ลูก) ก็จะเป็นวันล้างโลกตามที่ได้ระบุไว้ในคำพยากรณ์โบราณอย่างไม่ต้องสงสัย
    <!-- / message -->
    ที่มา http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=43313
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2007
  3. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    ได้ดูข่าว เห็นพระสงฆ์องคเจ้า ชุมนุมกันที่รัฐสภา
    และพยายามพังประตูรั้วเข้าไป รู้สึกหดหู่ใจ

    พระสงฆ์ คือผู้ปฏิบัติธรรม แล้วนำมาเผยแพร่
    ให้ศาสนิกชนได้เรียนรู้ นำไปใช้ให้เกิดปัญญา
    นำพาชีวิตให้พ้นทุกข์

    แต่ภาพของพระสงฆ์ ที่ออกมาตามข่าว
    มองดูแล้ว น่ากลัว...ศรัทธาที่เคยมี สำหรับบางคน
    อาจลดลง...จะไปเข้าทางใครบ้างหรือเปล่าก็ยากจะคาดเดา

    แล้วก็มาถึงข่าวม็อบ การเมือง ที่เริ่มร้อนแรงขึ้นทุกวัน
    ขอให้ติดตามสถานการณ์ตรงจุดนี้ให้ใกล้ชิดนะครับ
    เพราะใกล้ตัวเรามาก......คงต้องเร่งภาวนาช่วยให้มากขึ้น
    ให้จิตใจคนที่รุ่มร้อน จะได้ผ่อนคลาย
    ประเทศชาติจะได้ปลอดภัย ไม่อยู่ในสภาวะคับขัน

    ขอบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่พิทักษ์ปกป้องประเทศของเรา
    ได้ช่วยเหลือให้เหตุการณ์อย่าได้รุนแรง
    ความผาสุกจงบังเกิดขึ้นโดยเร็วพลัน.สาธุ
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    วันโลกาวินาศฉบับจีน

    [​IMG]

    พระอนุตตรธรรมมารดาเจ้าสิบบัญญัตินำบทข้อที่ห้า


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2007
  5. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** สมณะวิบัติชัยยัง ****

    *** ถึง พระสงฆ์ที่เดินออกนอกทางตรง ****

    ----------------------------------------------------
    ................หน้าที่ของ พระ....................
    ----------------------------------------------------
    ๑. ศึกษา "หลักสัจจะธรรม" ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้
    ๒. ปฏิบัติตนด้วย "สัจจะ" ทุกวันเป็นประจำ
    ๓. เผยแพร่ "หลักสัจจะธรรม" สู่มวลมนุษย์

    -----------------------------------------------------

    ผู้เป็นพระ....ไม่กระทำความเดือดร้อนให้มนุษย์ และสัตว์โลก
    ผู้เป็นพระ.....ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด...จนทำให้หมู่สงฆ์แตกแยก....และประชาชนแตกแยก
    กฎหมาย...ไม่ได้ช่วยให้เราหลุดพ้น
    พระสงฆ์....เหมือนเดินอยู่ขอบบ่อนรก...ที่มีบันไดขึ้นสวรรค์อยู่ข้างหน้า
    เดินหลงทาง ออกนอกหน้าที่...ผลการกระทำไม่ดี จะย้อนกลับมา
    อย่านำ "สัจจะ"...มาใช้ผิดทาง....ชีวิตจะวิบัติ !!!!!!!

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  6. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** ฝึกแปลสาร พระโอวาทจากพระแม่องค์ธรรมถึงลูกๆทุกคน ****

    ปลายวาระ ๓ มหัตภัยใหญ่
    บัญชาเปิดประตูฟ้า
    ถ่ายทอดวิถีธรรมสู่ครัวเรือน
    เร่งตามหาผู้มีบุญ กลับคืนเบื้องบน"

    --- แปล ---- เมื่อถึงปลายยุคที่ ๓ คือ ธรรมกาลยุคขาว หมายถึง ยุคหลังกึ่งพุทธกาล พระสมณโคดม...เบื้องบนจะเมตตา นำพาผู้มีบุญทั้งหมดที่ลงมาทำงานต่างๆ อยู่บนโลกมนุษย์ ให้กลับสู่สรวงสวรรค์แดนนิพพาน ดั่งเดิม.... เป็นช่วงเวลาที่
     
  7. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ความขัดแย้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของศตวรรษที่ 20:

    สงครามโลกครั้งที่สอง (ค.ศ.1939
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สถานะการณ์โลกในวันนี้

    เหยื่ออุทกภัยใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปีของบังกลาเทศใกล้หลักร้อยราย

    [​IMG]

    ธากา 12 มิ.ย.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2007
  9. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    เอามาลงให้แล้ว

    http://palungjit.org/attachments/a.180108/

    http://palungjit.org/attachments/a.180109/
     
  10. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
    แผนที่จากหลวงปู่เครา

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2007
  11. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    11/27/48-49-50

    รหัสอะไรหว่า?????
     
  12. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** The King of ภูริทัต of Thailand ****

    ภูริทัต.......
    คือ พระพุทธเจ้า ที่ตรัสรู้ได้เอง
    รู้ธรรม ด้วยตนเอง
    คือ ผู้ทรงสัจจะ หลักสัจจะธรรม ของ Thailand

    ภูริทัต.......
    คือ พระพุทธเจ้า ของ โลกุตตระ
    จึงไม่มีชื่อปรากฏ ในธรรรมของศาสนาอื่น
    ชีวิตของพระองค์ จึงถูกจัดสรร มีโลกุตตระ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นพี่เลี้ยงมาโดยตลอด
    ปฏิหาริย์ ความปลอดภัย จึงเกิดกับพระองค์เสมอ

    ภูริทัต.......
    คือ พระพุทธเจ้า ที่ปรากฏลงบนโลกมนุษย์ ในช่วงกึ่งพุทธกาล
    ได้เรียนรู้ธรรมจากโลกุตตระ ผ่านทางนิมิต ความฝัน
    พระองค์ ต้องผ่ามรสุมแห่งกรรม ที่โหมกระหน่ำ

    ภูริทัต.......
    คือ พระพุทธเจ้า ที่ต้อนรับการมาปรากฏของโลกุตตระ บนโลกมนุษย์
    พระองค์ จะเดินทางไปรับคำสอน จากโลกุตตระ
    เพื่อ นำสัจจะปฏิบัติ มาประกาศให้ประชาชน และโลกได้รับรู้ในหนทางหลุดพ้น

    ภูริทัต.......
    คือ พระพุทธเจ้า ที่ทรงนิมิต
    ลูกระเบิดตกลงในเมืองหลวง
    ชายผู้ยิ่งใหญ่ หญิงผู้ใกล้ชิด หนีลงเรือ
    ผู้วิเศษนำราชรถมารับ เหาะทางอากาศ
    หญิงปฏิเสธไม่ชอบหน้า ออกแรงกระทำจนผู้วิเศษตกน้ำ
    ภูริทัตทรงช่วยผู้วิเศษขึ้นมา
    ผู้วิเศษจึงพาเพียงพระองค์ ขึ้นราชรถหนีภัยไป

    ภูริทัต.......
    คือ พระพุทธเจ้า ที่มานะอดทนค้นหาหนทางรอดของบ้านเมือง
    พระองค์คลางแคลงใจ ในที่มาของสัจจะ
    เพราะ ผู้เป็นที่มาของสัจจะ กลับเป็นผู้กล้าเคยขวางทางพระองค์
    แต่ พระองค์ยังมิรู้ นั้นคือปัญหาธรรมจากโลกุตตระ
    การต้อนรับโลกุตตระ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงไม่ปรากฏขึ้น
    กลายเป็นกรรม ชะตาลิขิตของผู้ปฏิเสธสัจจะ ตั้งแต่นั้นมา

    ภูริทัต.......
    คือ พระพุทธเจ้า ที่จะเผชิญกรรมหลังกึ่งพุทธกาล
    พระองค์เข้าใจดี ในบทกลอน โอ้...ชะตาฟ้าลิขิต
    พระองค์มีคำถามเสมอว่า
     
  13. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ภูริทัต คือ หลวงปู่มั่นหรือเปล่า คุณหนุมาน

    ลป มั่น ภูริทัตโต
     
  14. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    ในวาระแห่งพิบัติภัย กลุ่มที่น่าห่วงคือ เด็ก คนชรา สตรีตั้งครรภ์ ผู้ป่วยเรื้อรัง และผู้พิการทุกประเภท
     
  15. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>สัญญาณการเตือนมหันตภัยของโลก <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=style50 colSpan=3>
    โดย Dr.G.G.Junior
    http://www.universal-signal.com
    </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=style50 colSpan=3> </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=style50 colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"> </TD><TD class="style50 style50" width="96%">สัญญาธาตุรู้ที่อยู่คู่กับทุกอณูในสรรพสิ่งบอกข้าว่า มีการเปลี่ยนแปลง และมีการเตรียมตัวของสรรพชีวิตมากมาย รวมทั้งมนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับการเตือนภัยจากมหันตภัย ที่มันมาถึงโลกและจักรวาลของเราแล้ว บางส่วนที่สามารถรับข้อมูลข่าวสารได้ ซึ่งมีทั้งการถ่ายทอดความรู้สู่บุคคลรอบข้าง หรือส่งสารสู่สาธารณะทั่วไปก็มี แต่ก็ยังน้อยเกินไป และยังไม่ทราบถึงวิธีการของมนุษย์ที่ช่วยในการลดความรุนแรง หรือจนสามารถเปลี่ยนสถานการณ์ให้มหันตภัยนั้นไม่เกิดขึ้นได้ การแผ่เมตตา และการปฏิบัติต่อโลก เพื่อให้เกิดความสมดุลโดยด่วนที่สุดนั้นสำคัญมากที่สุด ได้กล่าวไว้ในเว็บไซต์ www.universal-signal.com แล้ว และจงพิจารณาการเตือนภัยทั้งหลาย ให้เป็นข้อการปฏิบัติในการสร้างสมดุลของธรรมชาติ คือ การสร้างสนามพลังงานแห่งธรรมชาติร่วมกันทั้งโลกไม่เลือกชาติ ไม่เลือกศาสนา ไม่เลือกไม่ถือวรรณะ ไม่ถือเป็นของเราหรือของเขา จงเลือกแต่ทุกชีวิตเป็นหนึ่งเดียวร่วมกัน โดยไม่มีความแตกต่างใดๆ ทุกๆ สรรพชีวิตเหมือนกัน คือ ได้รับผลจากความไม่สมดุลของธรรมชาติถ้วนหน้ากัน มหันตภัยไม่เลือกตามหน้าตามนุษย์และสรรพชีวิต แต่ความโหดร้ายของมันนั้น เป็นไปตามกรรมเวรของแต่ละบุคคลแต่ละชีวิต จนถึงเวลานี้ กรรมเวรของมนุษย์ รวมกันได้ผลออกมาเป็นมหันตภัยล้างโลกเลยทีเดียว สรุปมนุษย์ทุกคนคือ ต้นตอของสาเหตุในการทำลายล้างโลกในครั้งนี้ ที่ร้ายกว่านั้น สรรพชีวิตอื่นที่บริสุทธิ์ ยังต้องรับผลนั้นไปด้วย จงตระหนักถึง ผลแห่งการทำลายล้างโลก จักรวาล ดาราจักร และเอกภพแห่งนี้เป็นสำคัญ อย่างน้อยที่สุด จงเหลือพื้นที่บนดาวดวงนี้ให้ลูกหลาน เด็กเล็กๆ ทั้งหลาย ที่บริสุทธิ์ให้สามารถต่อมีลมหายใจของตน เพื่อการเข้าสู่ยุคพลังงานใหม่ต่อไปด้วยเถิด
    ทั้งหลายทั้งมวลเหล่านี้ข้าได้สัญญาณมาส่งถึงมนุษย์ทั้งหลายให้ตื่น และจงตื่นขึ้นมาสร้างสมดุลแห่งสนามพลังงานแห่งธรรมชาติ ที่เรียกกันว่า Natural Morphic Field โดยการคิดเห็นจริงจากการเปลี่ยนแปลงของโลกปัจจุบัน เป็นตัวอย่างดังต่อไปนี้
    ๑. เส้นแรงสนามแม่เหล็กของโลกขาดและมีการสะบัดของเส้นแรงตลอดเวลา ส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหวแผ่นดินยุบ มีพายุที่รุนแรงขึ้น เกิดขึ้นในพื้นที่เดิม และพื้นที่ที่ไม่เคยเกิดมาก่อน เกิดคลื่นยักษ์ถล่มมนุษย์ที่มีกรรมหนักให้ร่างจมลง จบชีวิตก่อนกำหนด
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="38%">
    [​IMG]
    </TD><TD width="31%">
    [​IMG]
    </TD><TD width="31%">
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD>
    การกลับของขั้วแม่เหล็กโลก​
    </TD><TD>
    ความเสียหายจากแผ่นดินไหว​
    </TD><TD>
    แผ่นดินทรุด​
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]
    </TD><TD>
    [​IMG]
    </TD><TD>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD>
    พายุที่เกิดอย่างรุนแรง​
    </TD><TD>
    คลื่นลมที่รุนแรงในทะเล​
    </TD><TD>
    ซึนามิ​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>๒. มนุษย์พบเห็นว่าดาวศุกร์มีความสว่างมากขึ้น เสมือนดวงดาวนี้มีขนาดใหญ่ขึ้น เนื่องจากโลกปรับตำแน่งของตนคือแกนขั้วของโลกเปลี่ยนแปลงองศาไปนั่นเอง เพื่อให้ตนนั้นสมดุลให้มากที่สุด
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]
    </TD><TD>
    [​IMG]
    </TD><TD>
    </TD></TR><TR><TD>
    ตำแหน่งขั้วโลกที่แกว่ง​
    </TD><TD>
    ดาวศุกร์ที่สุกสว่างกว่าเดิม​
    </TD><TD>
    ิ​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>๓. มนุษย์จะสามารถพบเห็นค้นพบดวงดาวมากขึ้นในขณะนี้ และพบดาวดวงเล็กๆ มากมาย จากการทำมุมของโลกกับดวงอาทิตย์นั้นเปลี่ยนแปลงไปนั่นเอง เป็นสัญญาณบอกถึงการเปลี่ยนตำแหน่ง และการหมุนรอบดวงอาทิตย์ และการหมุนรอบตัวเองของโลกใบนี้ที่เปลี่ยนไป มีผลต่อปฏิทินของโลกที่มนุษย์ใช้อยู่ ขาดความเที่ยงตรง ปี ๒๕๔๓ เป็นต้นมาโลกค่อยๆ หมุนรอบดวงอาทิตย์ จนปีปัจจุบัน ๒๕๕๐ การหมุนครบรอบ ๑ ครั้ง เป็นเวลาตามปฏิทินมนุษย์จำนวน ๓๕๔ วันเท่านั้น
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]
    </TD><TD>
    </TD><TD>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD height=16>
    การหมุนรอบดวงอาทิตย์ของโลก​
    </TD><TD>
    </TD><TD>
    UFO​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>๔. การพบเห็นมนุษย์ต่างดาวน้อยลงกว่าเดิม ด้วยมนุษย์ต่างดาวสำรวจโลกใบนี้ประมาณ ๓๐๐ ปีที่แล้ว และพบว่าโลกนี้กำลังพบกับมหันตภัยล้างโลก จึงเดินทางกลับไป เป็นส่วนใหญ่ หลงเหลือแต่ผู้ที่ไม่สามารถเดินทางกลับได้ ด้วยยานสำหรับการเดินทางเสื่อมสภาพลง
    ๕. โลกเผชิญกับภาวะโลกร้อนขึ้นอย่างรวดเร็วจากความร้อนบนพื้นผิว เนื่องจากความร้อนจากแสงอาทิตย์ที่มีสาเหตุจากโลกมีป่าไม้ลดลงมาก มีก๊าซบางชนิดทำลายชั้นบรรยากาศ
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="28%">
    [​IMG]
    </TD><TD width="40%">
    [​IMG]
    </TD><TD width="32%">
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD height=16>
    ความร้อนจากแสงอาทิตย์​
    </TD><TD>
    การตัดไม้ทำลายป่า​
    </TD><TD>
    น้ำแข็งขั้วโลกละลาย​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>๖. โลกเผชิญกับภาวะโลกร้อนขึ้นอย่างรวดเร็วจากความร้อนใต้พื้นพิภพ เนื่องด้วยน้ำมันดิบ ที่หล่ออยู่ใต้ผิวโลก มีหน้าที่เป็นฉนวนกันความร้อนระหว่างชั้นใต้ผิว จนถึงแกนโลกกับพื้นที่ผิวโลก เมื่อน้ำมันใกล้หมดลง หมายถึงความร้อนจากใต้พิภพ ก็ผุดขึ้นมาแล้ว มีพลังงานความร้อนประทุขึ้นมา มากกว่าที่ได้รับจากความร้อน จากบนผิวเปลือกโลกมากมายนัก ทุกคนใช้น้ำมัน ดังนั้นทุกคนทำให้ความร้อนผุดขึ้นมา ร่วมกัน อีกสาเหตุหนึ่งการใช้เครื่องจักรหนัก การระเบิดหิน การขุดเจาะพื้นหินแข็ง มีผลให้เกิดรอยรั่วรอยร้าวของแผ่นหินกันความร้อนภายใต้พิภพ ความร้อนผุดขึ้น จากใต้พิภพอย่างมากมายเช่นกัน สุดท้ายแสดงด้วยหิมะบนที่สูงและภูเขาน้ำแข็งละลาย
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]
    </TD><TD>
    [​IMG]
    </TD><TD>
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD height=16>
    ความร้อนใต้ภิภพ​
    </TD><TD>
    น้ำมันเป็นฉนวนกั้นความร้อน​
    </TD><TD>
    การชุดน้ำมันขึ้นมาใช้​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>๗. สัตว์ใต้ผิวโลกและบนผิวโลกเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
    ๗.๑ สัตว์ใต้ทะเลลึกหนีความร้อนขึ้นมาอาศัยบริเวณน้ำตื่นหรือชายฝั่ง เช่น ปลาโบราณ ปลาหมึกขนาดใหญ่ ปูน้ำลึก การเข้ามาเกยตื้นของสัตว์น้ำหลายชนิด เป็นต้น ​
    ๗.๒ สัตว์ที่อยู่ใต้พื้นดินทำรังหรือขุดรูที่ตื่นขึ้นและบางชนิด เริ่มอาศัยอยู่บนผิวดิน หรือโพรงไม้ เช่น ตุ่น งูบางชนิด และยังมีพิษมากขึ้นด้วย เป็นต้น
    ๗.๓ สัตว์พาหะนำโรคเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เพื่อรับเชื้อโรคที่รุนแรงมากขึ้น ยุงบางชนิดบินได้สูงขึ้น รับเชื้อไวรัสที่กำลังปรับตัวให้สามารถทำลายมนุษย์ทั้งโลก ได้อย่างเฉียบพลันในอนาคตอันใกล้นี้ หนูมีขนที่เริ่มตั้งขึ้นวิ่งเร็วขึ้น มีอาการตกใจมากขึ้น เพื่อรอรับเชื้อกาฬโรคสายพันธุ์ใหม่เช่นกัน ริ้นทะเลและตัวคุ่น (ภาษาภาคเหนือ) คือ แมลงวันดูดเลือดเพิ่มขีดความสามารถในการขยายพันธุ์ และกำลังปรับตัวให้อาศัยอยู่ได ้ในพื้นที่กว้างขึ้น สัตว์ทั้งหมดบนโลกนี้ก็กำลังปรับตัวเพื่อการมีชีวิตรอดเช่นกัน โดยสัตว์มีความสามารถที่จะรับรู้ข่าวสาร จากสัญญาณธาตุรู้ของจักรวาลได้โดยตรง ไม่ต้องแปลออกมาเหมือนที่ให้มนุษย์อย่างนี้
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="35%">
    [​IMG]
    </TD><TD width="32%">
    [​IMG]
    </TD><TD width="33%">
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD height=16>
    ยุงที่มีเชื้อรุนแรงมากขึ้น​
    </TD><TD>
    ตัวคุ่น​
    </TD><TD>
    ปลาซีลาแคนท์ที่ชาวประมงจับได้​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>๘. มนุษย์มีอารมณ์รุนแรงขึ้นทุกคนทั่วโลก มีการตายด้วยวิธีแปลกๆ และเป็นกลุ่มใหญ่เป็นหมู่คณะทั้งกระทำเองและธรรมชาติลงโทษ มนุษย์มีวิธีเอาเปรียบกัน เบียดเบียนกันที่รุนแรงและใช้ศาสนาเป็นอาวุธในการทำสงครามไปทั่วโลกแล้วขณะนี้ สุดท้ายมนุษย์ทำร้ายตนเองจนสิ้นโลกไปด้วยสภาวะยุคน้ำแข็ง หรือไม่ก็ความร้อนใต้ผิวโลกร้อนจนพืชสัตว์ตายไปจนหมดและมนุษย์กินกันเอง จนสิ้นทุกตัวตนด้วยโรคร้ายเป็นวาระสุดท้ายของยุคนี้อีกเพียง ๑๐-๑๑ ปีเท่านั้น
    ๙. มนุษย์มีความต้องการเสพในวัตถุที่ตนมองเห็น หรือสัมผัสได้มากขึ้นๆ โดยไม่สนใจ ความเที่ยงธรรม และความสมดุลบนพื้นฐานของข้อเท็จจริง แต่ในขณะเดียวกัน มนุษย์มีความเข้าใจพลังงานแห่งธรรมชาติน้อยลงๆ เช่นกัน เป็นสาเหตุจากการปรับ สภาพแวดล้อมเข้าหาตนอย่างเดียว จนสัญชาตญาณของตนพิการใช้งานไม่ได้ สุดท้ายมองสิ่งที่มีชีวิตอื่นในแง่ร้าย และทำลายทุกสิ่งทุกอย่างเพียงเท่านั้น
    ๑๐. เกิดภัยพิบัติต่อไปนี้บนโลกนี้ทุกวัน เช่น แผ่นดินไหว แผ่นดินยุบ แผ่นดินแยก มีพายุ ลมฝนฟ้าคะนองรุนแรง น้ำอยู่ในระดับสูงกว่าปกติ เป็นสัญญาณเตือนมนุษย์ให้ระวังไว้ว่า เหตุมหันตภัยครั้งยิ่งใหญ่กำลังจะมาเร็วๆ นี้ อย่างที่มนุษย์คาดไม่ถึงทีเดียว
    เพียงเท่านี้คงพอสำหรับการสื่อสารแจ้งข่าวบอกแก่มนุษย์ทั้งหลายได้ว่า มหันตภัยเกิดขึ้น และมีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้จริงจากสัญญาณอะไรบ้าง จงตื่นมาพบกับสถานการณ์ความเป็นจริงของธรรมชาติ จงตื่นมาเพื่อค้นพบตนเอง จงตื่นมาร่วมสร้างความสมดุลของธรรมชาติ ไปกับข้าคือธาตุรู้ในทุกอณูของสรรพสิ่ง
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    จาก... http://www.universal-signal.com/html/armagedon/signalofnature.htm
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
     
  17. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom background=images/brkn_red_midtop.gif>ประจำวันที่ 13 มิถุนายน 2550
    [​IMG]
    [​IMG][​IMG]<!--[​IMG]-->[​IMG][​IMG]</TD><TD width=8>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width=1 bgColor=#000000>[​IMG]</TD><TD bgColor=#dddddd><!-- CONTENT --><TABLE height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width="85%">
    <!--<TABLE width=501 cellpadding=0 cellspacing=0 align=center border=0>--><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><!--<TD width=1 bgcolor="#000000">[​IMG]</TD>--><TD width=468 bgColor=#dddddd>[​IMG]
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD height=70>"เหวง"แจงชุมนุมใหญ่วันเสาร์เคลื่อนขบวนปชช.ไล่ </TD></TR><TR><TD vAlign=top bgColor=#ededed>18:28 น. แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ ประกอบด้วย น.พ.เหวง โตจิราการ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย นางประทีป อึ๊งทรงธรรม ฮาตะ นายชูวงศ์ ถี่ถ้วน และนายชัยวัฒน์ หาบุญพาด ร่วมแถลงข่าวโต้ปัดข้อกล่าวหารับท่อน้ำเลี้ยงในการชุมนุม พร้อมแสดงจุดยืนในการเคลื่อนไหวเดินขบวนเรียกร้อง คมช.คืนอำนาจให้ประชาชน น.พ.เหวง บอกว่ากลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ขอยืนยันว่า ในการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในวันเสาร์ที่ 16 มิ.ย.ที่จะมีการเคลื่อนขบวนไปยังกองทัพบก ยืนยันว่าจะเป็นการชุมนุมในรูปแบบสันติวิธี ไม่มีการก่อเหตุรุนแรง หากมีกลุ่มประชาชนที่เข้าร่วมออกนอกขบวนจะยับยั้งทันที เนื่องจาก นปก.ต้องการเพียงเรียกร้องให้คมช.ลาออกคืนระบอบประชาธิปไตยกลับคืนสู่ประชาชนโดยเร็ว ส่วนข้อกล่าวหาของพล.อ.สนธิ บุญยรัตนกลิน ประธาน คมช.นั้น เราขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง เป็นเพียงการกล่าวหาลอยๆ หากเป็นความจริงขอให้นำหลักฐานมาแสดงจะเป็นการดีกว่าการกล่าวหา ซึ่งการกล่าวเช่นนี้ถือเป็นการโกหก ดังนั้นตนอยากตั้งฉายาให้กับพล.อ.สนธิว่าเป็น “จอมโกหก” เพราะกล่าวหาประชาชน ส่วนที่ระบุว่าเป็นการชุมนุมเพื่อให้ทักษิณกลับประเทศก็ไม่เป็นความจริง หากแต่ทุกคนที่มาร่วมกันต้องการไล่เผด็จการที่ทำลายล้างระบอบประชาธิปไตย นอกจากนี้การที่พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผบ.ทบ และเลขาธิการ คมช.ประณามว่า ผู้ที่ร่วมชุมนุมถ่อยถือว่า แสดงถึงพฤติกรรมที่ชอบใช้ความรุนแรง ดังนั้นน่าจะได้รับการตั้งฉายาว่า “สพรั่งคนอัปรีย์” น่าจะเหมาะสม ซึ่งการที่ขู่ว่าจะใช้กฎหมายจัดการกับผู้ชุมนุมก็ไม่ชอบ หากทำจริงก็เป็นการยึดแบบอย่างนายพรพตที่เป็นอดีตผู้นำเขมรแดงที่ได้สังหารคนฝ่ายตรงข้ามที่ไม่เห็นด้วยจำนวนนับล้านคนด้วยการนำเอาไปฆ่าทิ้ง
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เห็นข้างบนมีเลขรหัสแปลกๆด้วยครับ11/27/48-49-50
    รหัสวันเวลารึเปล่า?
    รหัสเดือน 11 วันที่ 27 (2+7 = รหัส 9) ปี 48-49-50 เป็นปีสุดท้าย

    เก้าเก้าจะนำซึ่งมหันตภัย (เป็นรหัสวันเวลาจากอนุตรธรรม)
    รหัส 11:11 นี่ก็ของอ.ปริญญา บอกไว้
    คิดเล่นๆ ครับ - mead<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_597161", true); </SCRIPT>

    วันเวลาที่ 11-11 รหัสแห่งหายนะโลก ตามนัยยะที่ อ.ปริญญา ตันสกุล ได้บอกเอาไว้ 11 ตัวแรกน่าจะหมายถึงวันที่ 11 และ 11 ตัวที่สองน่าจะหมายถึงวันเดือนปี ที่รวมกันได้เป็นเลข 11 เช่นวันที่ 11 กันยายน ค.ศ.2007

    11+09+2007=2027
    2+0+2+7=11

    วันที่ 11 กันยายน ค.ศ.2007 จึงเป็นวันที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง


    11/27/48-49-50
    11/2+7/48-49-50
    11/9/50 = 11+09+2007=2027
    2+0+2+7=11

    คิดเล่นๆ ครับ เกษม<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_595618", true); </SCRIPT>

    <!-- / message --><!-- edit note --><!-- / message --><!-- sig -->
     
  19. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    อดคิดไม่ได้ครับพี่เกษม เพราะเห็น รหัส 11 บ่อยๆ เท่าที่สังเกตดู สายอนุตรธรรมกับ อ.ปริญญา นี่ข้อมูลตรงเหมือนกันมากครับ - (ยังมาเจอเลข 11 ของลป. เคราอีก) แล้วก็เรื่องรหัส 7:7:49 ที่ตรงกัน พันธะสัญญา 60,000 ปีอีกด้วยครับ
    กับเรื่องรหัส "เก้าเก้า" ที่ยังไม่ทราบแน่ชัดครับ อาจเป็นสัญญาณบางอย่าง
    แต่เคยทราบว่าพระอาจารย์จี้กงพูดถึงเก้าโมงเช้าเหมือนกัน ไม่ประมาทไว้ก่อนดีที่สุดครับ

    สำนักอนุตรธรรมแจ้งเตือนมาว่า...

    “วันที่ 11 เดือน 11 ปี 51” ซึ่งหมายถึง วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน 2551 ซึ่งอาจจะมีเหตุการณ์ร้ายแรงของมนุษยชาติ

    - วันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม 2551 ให้สังเกตท้องฟ้า อาจจะมีสัญญาณการเปลี่ยนสี และมีลมประหลาดเกิดขึ้นพร้อมหายนะที่จะติดตามมา
    - วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2551 ให้ระวังภัยที่อาจเกิดขึ้นทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน
    - วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม 2551 จะเกิดสงครามถึงขั้นใช้อาวุธนิวเคลียร์ถล่ม อาจเป็นเหตุให้ท้องฟ้าเกิดมืดมิดเป็นเวลา 49 วัน ทั้งพืชและสัตว์เสียชีวิตมหาศาลได้
    - วันเวลาทั้งหลายเล่านี้ อาจคลาดเคลื่อนหมดก็ได้ เพราะทั้งฝ่ายธรรมะและฝ่ายอธรรม ไม่มีฝ่ายใดอยู่นิ่งเฉย

    ของอ.ปริญญาล่าสุดให้ระวังปี 2009 (2+9=11) ช่วงเวลาใกล้เคียงกัน
    และช่วง 6 เดือนต่อจากนี้นี้ก็ไทยเราจะเกิดภัยที่หนักและสาหัสมาก
     
  20. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD>
    ข่าว<BLINK>วิกฤติการณ์</BLINK>ของโลก <BLINK>ด่วน! </BLINK>
    </TD><TD> </TD></TR><TR><TD></TD><TD>
    </TD><TD> </TD></TR><TR><TD></TD><TD>
    โดย Dr.G.G. Junior ​
    </TD><TD> </TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD><TD> </TD></TR><TR><TD></TD><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR><TD></TD><TD>
    <BLINK>ชมข้อมูลการเกิดแผ่นดินไหวในรอบสัปดาห์ได้ที่
    </BLINK>http://earthquake.usgs.gov/eqcenter/recenteqsww/
    </TD><TD> </TD></TR><TR><TD></TD><TD>
    รายงานการเกิดแผ่นดินไหวในรอบสัปดาห์ กรมอุตุนิยมวิทยา
    http://www.tmd.go.th/earthquake_report.php
    </TD><TD> </TD></TR><TR><TD></TD><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR><TD></TD><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"> </TD><TD width="47%"><< ข่าวเดือนพฤษภาคม</TD><TD width="48%"> </TD><TD width="3%"> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD> </TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD><TD> </TD></TR><TR><TD></TD><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>
    • ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมและโคลนถล่มในบังกลาเทศยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดอยู่ที่ 108 คนแล้ว[​IMG]
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ [ 2007-06-13 | 13:10 น.]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">พายุฝนได้พัดกระหน่ำบังกลาเทศในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ซึ่งนับว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 7 ปี โดยในเมืองท่าจิตตะกองทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ได้รับความ เสียหายหนักสุดจากน้ำท่วมและโคลนถล่ม ซึ่งหลายพื้นที่ ยังคงไม่มีกระแสไฟฟ้า และน้ำใช้ เช่นเดียวกับในกรุงทากาเมืองหลวง หลายส่วนของเมืองจมอยู่ใต้กระแสน้ำ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตได้เพิ่มขึ้นเป็น 108 คนแล้ว และอีกจำนวนมากยังคงสูญหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังช่วยกันค้นหาอยู่ ด้านความช่วยเหลือผู้ประสบภัยนั้น ทางการ ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปจัดตั้งที่พักชั่วคราวให้แก่ผู้ประสบภัย พร้อมนำสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปแจกจ่าย
    ขณะที่นายบัน กี-มุน เลขาธิการสหประชาชาติได้แสดงความเสียใจต่อภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ในบังกลาเทศ พร้อมยืนยันจะให้ความช่วยเหลือตามที่ร้องขอ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%" height=20> </TD><TD colSpan=2>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>
    • พาดหัวข่าว CCTV[​IMG]
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 2007-06-13 | 07:07:18 น.]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">มลฑลเหอหลงเจียง ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เผชิญพายุฝนและลูกเห็บตกรุนแรง นานกว่า 4 ชั่วโมง แรงลมฉีกพัดหลังคาบ้านเรือนและอาคารหลายหลัง หักโค่นต้นไม้ และเสาไฟฟ้าหลายต้น พื้นที่การเกษตรเสียหาย แต่ไม่มีรายงานการสูญเสียชีวิต ส่วนพื้นที่ภาคใต้ ฝนตกและน้ำท่วมหนักคร่าชีวิตผู้คนแล้วรวม 76 คน สูญหาย 13 คน หลายเมืองในมลฑลกวางตุ้ง น้ำท่วมนานแล้วถึง 1 สัปดาห์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่าง เร่งช่วยเหลือและอพยพผู้ประสบภัย ขณะที่เขตปกครองตนเองกวางสีจ้วง มีรายงานเขื่อนร้าว ต้องเร่งซ่อมแซมก่อนสายเกินแก้
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%" height=20> </TD><TD colSpan=2>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>
    • ออสเตรเลีย มุ่งให้ความสำคัญอันแรกกับภารกิจช่วยประชาชน ที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก[​IMG]
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 2007-06-12 | 14:03:15 น.]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ทางการออสเตรเลีย มุ่งให้ความสำคัญอันแรกกับภารกิจช่วยประชาชนที่ถูกตัดขาด จากโลกภายนอก รวมทั้งซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดจากพายุ
    ขณะนี้ระดับน้ำที่เอ่อท่วมพื้นที่แถบชายฝั่งรัฐนิวเซาธ์เวลส์ของออสเตรเลีย ยังคง ลดลงเรื่อยๆ หลังจากที่พายุฝนส่งผลให้เกิดน้ำท่วมหนักเมื่อ 5 วันก่อน สภาพโดยรวม ของพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำฮันเตอร์และทะเลสาบทักการาห์ ได้รับความเสียหายหนัก เจ้าหน้าที่ของหน่วยฉุกเฉิน ได้รับคำร้องขอความช่วยเหลือจากโทรศัพท์ทางบ้านราว 2 พันสาย ให้ช่วยซ่อมแซมหลังคาบ้านเรือนและเก็บต้นไม้ที่ถูกแรงพายุพัด จนถอน รากถอนโคน ขณะที่ชาวบ้านจำนวนมากในพื้นที่ดังกล่าว ยังคงไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%" height=20> </TD><TD colSpan=2>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>
    • เหยื่ออุทกภัยครั้งใหญ่ของบังกลาเทศใกล้หลัก 100 ราย[​IMG]
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ทีมข่าว INN News [ 2007-06-12 | 12:34:45 น.]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">สถานการณ์อุทกภัยในบังกลาเทศจากฝนที่ตกกระหน่ำอย่างหนัก เป็นประวัติการณ์ ในรอบหลายทศวรรษ ยังคงรุนแรง ล่าสุดเจ้าหน้าที่กู้ภัยพบศพผู้เสียชีวิตแล้ว 87 ราย ส่วนใหญ่เสียชีวิตจากเหตุโคลนถล่ม
    รายงานระบุว่า ถนนแทบทุกสายในเมืองจิตตะกองถูกน้ำท่วมไม่สามารถสัญจร ไปมาได้ การเดินทางทั้งโดยรถไฟและเครื่องบินถูกตัดขาดทั้งหมดติดต่อกันเป็นวันที่ 2 โดยสำนักงานพยากรณ์อากาศคาดว่าฝนจะยังคงตกต่อเนื่องในพื้นที่ไปอีกอย่างน้อย 1-2 วัน
    รายงานจากสำนักงานภัยพิบัติบังกลาเทศรายงานเพิ่มเติมว่า ฝนยังคงตกหนักอย่าง ต่อเนื่องเป็นวงกว้าง ทำให้ประชาชนจำนวนมากที่อาศัยอยู่บริเวณริมแม่น้ำหลายแห่ง ต้องอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย โดยเฉพาะบริเวณริมแม่น้ำโควาอี ในเมืองฮาบีกันจ์ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ น้ำทะลักล้นฝั่งแม่น้ำตอนหนึ่ง ทำให้ชาวบ้าน หลายร้อยครอบครัวไร้ที่อยู่อาศัย
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%" height=20> </TD><TD colSpan=2>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>
    • สภาพอากาศร้อนจัดในช่วงฤดูร้อนของอินเดียได้คร่าชีวิตผู้คนไปเกือบ 140 คนแล้ว[​IMG]
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ [ 2007-06-12 | 12:11 น.]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">คลื่นความร้อนที่แผ่ปกคลุมพื้นที่ภาคเหนือ และภาคกลางของอินเดีย ได้ทำให้สภาพ อากาศทั่วไปในประเทศร้อนจัดและอบอ้าว โดยวัดอุณหภูมิได้สูงสุด เมื่อวันเสาร์ ที่ผ่านมา 44.9 องศาเซลเซียส ส่งผลให้ชาวอินเดียเสียชีวิตไปแล้วเกือบ 140 คน ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในรัฐอุตตรประเทศทางภาคเหนือ ซึ่งก็มีรายงาน ผู้เสียชีวิตรายใหม่เมื่อวานนี้เพียงวันเดียวถึง 13 คน
    ส่วนสภาพอากาศในกรุงนิวเดลี ซึ่งเป็นเหมืองหลวงก็ร้อนอบอ้าวในช่วงนี้เช่นเดียวกัน โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตเมื่อวานนี้ 9 คน อย่างไรก็ตาม หน่วยงานพยากรณ์อากาศ ของอินเดียได้รายงานข่าวดีว่า มีแนวโน้มที่อุณหภูมิในประเทศจะลดต่ำลงกว่า 44 องศาเซลเซียสภายในวันสองวันนี้
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%" height=20> </TD><TD colSpan=2>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>
    • แผ่นดินไหวที่อินโดนีเซีย[​IMG]
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 2007-06-12 | 10:51 น.]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%" height=20> </TD><TD colSpan=2>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>
    • ชาวบ้านทางตอนเหนือของโคลอมเบียต้องอพยพละทิ้งบ้านเรือน หนีภัยน้ำท่วม[​IMG]
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 2007-06-12 | 10:04:29 น.]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ชาวบ้านทางตอนเหนือของโคลอมเบียจำนวนมาก ต้องอพยพละทิ้งบ้านเรือน หลังจากภัยน้ำท่วมหนักยังคงสร้างความเสียหายไม่เลิก
    พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมหนักครั้งนี้มากที่สุดคือ เมืองเนจิ เมืองเล็กๆ ในแคว้นอันติโอเกีย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของโคลอมเบีย ซึ่งถูกน้ำท่วมถึงร้อยละ 90 นอกจากนี้ กระแสน้ำท่วมที่ไหลบ่ายังทำให้เด็กเสียชีวิตไป 1 คน และประชาชน อีกหลายร้อยคน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน ไปอยู่ยังที่พักชั่วคราวตามโรงพยาบาล และโบสถ์
    ด้าน ประธานาธิบดีอัลวาโร อูริเบ้ ของโคลอมเบีย ได้ออกตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบภัย พร้อมทั้งประกาศว่า ทางการต้องดำเนินมาตรการรับมือ กับปัญหาที่กำลังเผชิญ ให้มากขึ้น ทั้งนี้ ในช่วงฤดูฝนของแต่ละปี ชาวโคลอมเบียต้องสูญเสียชีวิต และทรัพย์สินไปจำนวนไม่น้อย ส่วนใหญ่เป็นประชาชนยากจนที่อาศัยอยู่แถบเชิงเขา ที่เสี่ยงต่อการเกิดโคลนถล่ม
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%" height=20> </TD><TD colSpan=2>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>
    • อุทกภัยครั้งใหญ่ใน 4 ประเทศ สังเวยชีวิตผู้คนไปหลายร้อยศพ[​IMG]
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 2007-06-12 | 07:32:45 น.]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">อุทกภัยครั้งใหญ่ใน 4 ประเทศทั้งเอเชีย อเมริกา และออสเตรเลีย สังเวยชีวิตผู้คน ไปหลายร้อยศพ
    พายุฤดูร้อนในจีนคร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 71 คน หลังเกิดอุทกภัย และน้ำป่าไหล หลากจนทำให้บ้านเรือน และก้อนหินบนภูเขาในภาคใต้ของจีนพังทลาย สำนักพยากรณ์อากาศของจีนคาดการณ์ว่า ภาวะฝนตกหนักจะดำเนินต่อไป อีกหลายวัน ซึ่งจะส่งผลให้แม่น้ำแยงซีซึ่งเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดของจีนล้นตลิ่ง และทื่เมืองเหม่ยโจวในมณฑลกวางตุ้ง ระดับน้ำที่ไหลบ่าเข้าท่วมสูงถึงครึ่งเอว บ้านเรือน 5 หมื่น 6 พันหลังพังย่อยยับ อีก 1 แสน 4 พันหลังเสียหาย
    ส่วนที่บังกลาเทศได้เกิดภาวะดินถล่มในเมืองท่าจิตตะกอง คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 100 คน หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง และดินบนภูเขาถล่มลงมาฝังบ้านเรือน ประชาชนที่อยู่เชิงเขา นอกจากนั้นภาวะฝนตกหนักต่อเนื่อง ยังทำให้เกิดอุทกภัย อย่างหนัก จนธุรกิจต่างๆ ต้องหยุดชะงักโดยสิ้นเชิง
    ส่วนที่ออสเตรเลีย ทางการได้ออกประกาศเตือนภาวะอุทกภัยครั้งใหญ่ ในเขต เซนทรัลโคสต์ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ จะดำเนินต่อไป นายกรัฐมนตรีจอห์น เฮาเวิร์ด ได้รุดไปเยี่ยมผู้ประสบภัย และยกย่องเจ้าหน้าที่กู้ภัย ที่ออกช่วยเหลือประชาชน อย่างไม่ย่อท้อ สำหรับอุทกภัยครั้งใหญ่ของออสเตรเลียนี้ เกิดจากพายุพัดถล่ม เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไป 9 คน
    ส่วนที่โคลัมเบีย ประธานาธิบดีอัลวาโร อูริเบ ได้ออกตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบอุทกภัย ในเมืองเนนชี ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก จากระดับน้ำในแม่น้ำที่ไหลบ่า เข้าท่วมทำลายบ้านเรือนไปกว่า 2 พันหลัง
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%" height=20> </TD><TD colSpan=2>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>
    • คลื่นความร้อนในอินเดียทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 100 คนแล้ว[​IMG]
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ทีมข่าว INN News [ 2007-06-12 | 07:23:54 น.]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">คลื่นความร้อนที่เกิดขึ้นในอินเดีย โดยเฉพาะที่รัฐอุตตระประเทศในภาคเหนือ ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 100 คนแล้ว
    คลื่นความร้อนที่เกิดขึ้นในภาคกลางและภาคเหนือของอินเดีย ทำให้มีผู้เสียชีวิต เพิ่มขึ้นอีก 28 ราย ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด นับตั้งแต่เริ่มต้นฤดูร้อนที่ผ่านมา เป็นจำนวนถึง 100 คนแล้ว โดยเฉพาะที่รัฐอุตตระประเทศในภาคเหนือของอินเดีย ซึ่งเป็นรัฐหนึ่งที่ประชาชนมีความยากจนมากที่สุด และได้รับผลกระทบจากคลื่น ความร้อนอย่างรุนแรงที่สุด โดยมีรายงานวันนี้ว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 13 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมดในรัฐนี้เป็นจำนวนถึง 62 ราย นับตั้งแต่กลางเดือนเมษายน เป็นต้นมา
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...