ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    20ก.ค.54 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจในเมือง เวสต์ ปาล์ม บีช รัฐฟลอริดา สหัฐอเมริกา ได้บุกเข้าจับกุมนายไทเลอร์ ฮัดลีย์ วัย 17 ปี ที่บ้านหลังหนึ่ง
    ภายหลังเขาได้ ก่อเหตุสยองใช้ค้อนทุบหัว เพื่อฆ่าพ่อแม่แท้ๆ จนเสียชีวิต ก่อนจะลากศพของทั้งคู่เข้าไปไว้ในห้องนอน จากนั้นเขาก็ได้ชวนเพื่อนๆ มาร่วมปาร์ตี้ฉลองในบ้านหลังดังกล่าว
    เบื้องต้นนายไทเลอร์ ยังไม่ได้เผยถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไปยังศูนย์คุมขังเยาวชน และยังไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว พร้อมทั้งเตรียมนำตัวขึ้นศาล เพื่อรับทราบข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และไตร่ตรองไว้ก่อน

    Mthai News

    <OBJECT id=ep codeBase="http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=6,0,40,0" classid=clsid:d27cdb6e-ae6d-11cf-96b8-444553540000 width=416 height=374>
























    <embed id="ep" width="416" height="374" type="application/x-shockwave-flash" src="http://i.cdn.turner.com/cnn/.element/apps/cvp/3.0/swf/cnn_416x234_embed.swf?context=embed&videoId=us/2011/07/18/dnt.florida.parents.killed.wptv.cnn" allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always" wmode="transparent"/></OBJECT></P>
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    [​IMG]

    เขียนงงบอกตรงต้องกั๊กไว้-------เป็นภัยบอกไปตามเป็นจริง
    เรื่องลงเคยได้ยิน---------------เรื่องจริงอาจไม่ใช่ที่รู้มา
    เรื่องจริงคนลงมักตายก่อน-------ไม่ช่วยผ่อนชีวิตข้าฯ
    เรื่องลงบางทีต้องปิดนา-------.--เปิดให้รู้เป็นนัยๆ

    บอกเท่าที่จะบอกได้ก็พอแล้วครับ รักษาชีวิตของเราเอาไว้ช่วยงานของพระญาธัมมิกราชโพธิสัตว์ทั้งสามพระองค์ (สามร่มโพธิ์ศรี) เพื่อยกยอพระพุทธศาสนาให้อยู่ยืนยาวไปจนครบ 5,000 ปี ดีกว่าครับ เพราะยุคนี้เป็นยุคของคนชั่วเขากำลังเข่นฆ่ากันเอง ปล่อยพวกเขาให้ไปตามกรรมของเขาดีกว่าครับ

    พวกเรามาตั้งใจรักษาศีล บำเพ็ญภาวนา แล้วแผ่เมตตาจิตให้กับดวงวิญญาณทั้งหลายที่กำลังจะต้องจากโลกนี้ ให้ไปสู่สุขคติในภพหน้าเถิดครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1260236588.jpg
      1260236588.jpg
      ขนาดไฟล์:
      46 KB
      เปิดดู:
      1,325
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2011
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** ทุกการกระทำ ย่อมมีผลตอบแทน ****

    สัจจะ คือ เครื่องป้องกันตนเอง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  4. สิบหก

    สิบหก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    680
    ค่าพลัง:
    +603
    ถ้ามาแล้ว..........ยินดีที่จะช่วยงานใหญ่นี้ด้วย ถึงว่ารออะไรอยู่ตั้งนาน ...............เพื่อพระพุทธศาสนาครบ 5000 ปี
     
  5. doodee1

    doodee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7539 ข่าวสดรายวัน


    สึนามิโมเดล นวัตกรรมเรียนรู้ภัยพิบัติ


    พลาดิศัย จันทรทัต


    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ภาพเหตุการณ์คลื่นยักษ์พิโรธ ถาโถมเข้ากลืนกินชีวิตและทรัพย์สินของมวลมนุษยชาติด้านชายฝั่งอันดามัน ในเช้าวันบ๊อกซิ่งเดย์ 26 ธันวาคม 2547 ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าภัยธรรมชาติไม่เคยปรานีผู้ใด ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ไหนบนโลกใบนี้

    โดยเฉพาะบ้านเรา เมื่อ "สึนามิ" เข้าโจมตี 6 จังหวัดภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามัน กลุ่มผู้สูญเสียจึงทำได้เพียงก้มหน้ายอมรับสภาพ และตระหนักว่าภัยธรรมชาติทุกรูปแบบสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา และอาจเกิดขึ้นอีกในไม่ช้า

    ภัยพิบัติดังกล่าวยังคงปรากฏขึ้นอีก ล่าสุดได้กลับมาสร้างความสูญเสียแก่ชาติพันธุ์ที่บัญญัตินามมันขึ้นมา คือ ญี่ปุ่น จากศูนย์กลางทางเศรษฐกิจในภูมิภาค แปรเปลี่ยนเป็นเมืองร้างชั่วข้ามคืน

    ฉะนั้นการเจาะลึกไปที่ต้นตอของสาเหตุ ศึกษาพฤติกรรม ผลกระทบ เพื่อนำไปประมวลผลจัดทำเป็นองค์ความรู้ที่ถูกต้อง ตรงเป้า เผยแพร่แก่ประชาชนด้วยวิธีการที่เข้าใจง่าย สามารถป้องกันการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน จึงเป็นโจทย์สำคัญในการเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติ ที่นับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน หรือ สสค. จึงได้เปิดตัว "สื่อการเรียนรู้ต้นแบบจำลองการเกิด 'สึนามิ' เสมือนจริงแห่งแรกในประเทศไทย" ฝีมือน้องๆ โรงเรียนสตรีวัดมหาพฤฒาราม ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ทั้ง "น้องเกรซ"อิสราภรณ์ เศรษฐ์นันท์ "น้องชิง"ศิวรรจน์ ศศิไพสิฐ "น้องหลี"บุษรา หิรัญสาโรจน์ "น้องพลอย"พิชชาพร ประพิณศรี และ "น้องแป้ง"แป้ง วรฐิติ โดยมี ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการมูลนิธิเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เข้าร่วมชมผลงาน

    โมเดลที่ว่ามีลักษณะเป็นตู้กระจกสี่เหลี่ยมผืนผ้า ภายในด้านซ้ายสมมติเป็นท้องสมุทร ไล่ระดับขึ้นไปจนถึงชายฝั่งด้านขวา โดยน้องๆ ใช้น้ำเปล่าผสมสีน้ำเงินแทนน้ำทะเล จากนั้นเติมน้ำมันคาร์เนชั่นที่มีคุณสมบัติใส ไม่ละลายในน้ำ และมีความหนาแน่นน้อยกว่าน้ำลงไป ทำให้เวลาแผ่นเหล็กที่จำลองเป็นแผ่นเปลือกโลกยกตัวจากการอัดลมผ่านกระบอกสูบระบบนิวเมติกส์ จะเกิดแรงดันจากใต้ทะเล ท้องคลื่นเคลื่อนตัว น้ำทะเลชายฝั่งลดลง และคลื่นยกตัวเคลื่อนที่เข้าถล่มชายฝั่งอย่างชัดเจน

    "เกรซ"อิสราภรณ์ เล่าให้ฟังถึงแรงบันดาลใจในการคิดโมเดลต้นแบบเสมือนจริงนี้ว่า เกิดจากเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี ཫ มีเด็กผู้ชายชาวอังกฤษคนหนึ่งเห็นน้ำทะเลลดลงอย่างรวดเร็ว จึงตะโกนบอกนักท่องเที่ยวที่วิ่งลงไปดูที่ชายหาด และที่พักอยู่ในโรงแรมให้รีบหนีขึ้นที่สูง เนื่องจากเป็นสัญญาณบอกเหตุก่อนเกิดสึนามิ ส่งผลให้สามารถรักษาชีวิตของผู้คนไว้ได้จำนวนมาก ทั้งๆ ที่เด็กคนนั้นไม่ได้อยู่ในประเทศที่เคยเกิดสึนามิ แต่กลับมีองค์ความรู้ที่ได้รับจากห้องเรียน จึงคิดว่าประเทศไทยอยู่ติดทะเล แต่ไม่เคยมีองค์ความรู้เกี่ยวกับสึนามิ จำเป็นต้องได้รับความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง

    "โมเดลนี้เป็นสื่อนวัตกรรมที่พวกเราทั้ง 5 คน ร่วมกันประดิษฐ์ขึ้นมา โดยได้รับกำลังใจ และคำแนะนำดีๆ จากเพื่อนๆ อาจารย์ และผู้ปกครอง นอกจากนี้ยังค้นพบวิธีการสรุปบทเรียนที่ดี อย่างการใช้ตารางจดบันทึกปัญหาที่พบระหว่างดำเนินงาน ซึ่งทำให้การดำเนินงานนี้มีลำดับขั้นตอน รู้จักเรียบเรียงข้อมูล กระบวนการคิด จนทำให้เรามีวิธีการจัดระบบข้อมูลที่ดีมากๆ"

    "น้องเกรซ" อธิบายด้วยว่า การเรียนวิทยาศาสตร์ผ่านโมเดลจำลองพฤติกรรมการเกิดสึนามิ ช่วยให้ผู้ศึกษาเห็นภาพเสมือนจริง เกิดการเรียนรู้ เข้าใจ และไม่จำเป็นต้องเสียเวลาท่องจำ นอกจากนี้ยังเกิดกระบวนการคิดแบบมาย แม็ป ที่ช่วยในการจำตลอดจนเรียบเรียงข้อมูล และสามารถช่วยเหลือสังคมได้เป็นอย่างดี

    "หนูคิดว่าความรู้ที่แท้จริงไม่ได้อยู่ในห้องเรียนเพียงอย่างเดียว เพราะวิทยาศาสตร์ที่อยู่รอบตัวเรามีเหตุและผลในตัวของมันเอง เพียงแค่คิดนอกกรอบและลงมือทำก็จะได้คำตอบที่แท้จริง" ตัวแทนเยาวชนคนเก่งกล่าว

    ด้านน.พ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการ สสค. กล่าวว่า สึนามิโมเดลเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ได้รับการสนับสนุนภายใต้โครงการส่งเสริมนวัตกรรมสร้างสรรค์การเรียนรู้ระดับมัธยมศึกษา ครั้งที่ 1/2553 เป็นโครงการที่สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามที่จะสร้างการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน โดยมีครูเป็นผู้ดูแล ส่งผลให้เกิดการกระตุ้น และปรับใช้นวัตกรรมที่มีอยู่ให้ตรงตามความต้องการของคนในพื้นที่ สิ่งสำคัญอีกประการคือครูและนักเรียนเกิดการเรียนรู้ทั้งนอกและในบทเรียน สามารถแบ่งปันองค์ความรู้ในการสร้างโมเดลให้กับโรงเรียนที่อยู่ใกล้พื้นที่เสี่ยงภัย

    ผู้จัดการ สสค.กล่าวด้วยว่า สสค.จัดตั้งขึ้นมาเพื่อปฏิรูปการศึกษาให้ตรงเป้า คือปฏิรูปที่กระบวนการเรียนการสอน นักเรียน ครู สามารถริเริ่มสร้างนวัตกรรมการเรียนการสอนที่เหมาะสมได้ โดย สสค.จะคอยสนับสนุนผลักดันให้เกิดเป็นโครงการขึ้นมา

    "โครงการนี้เป็น 1 ใน 226 โครงการ ที่เราสนับสนุนทุนให้เริ่มสร้างโครงการ และถือเป็นตัวอย่างของการปฏิรูปการศึกษา โดยคนที่เรียน คนที่สอน ได้ริเริ่มคิดค้นวิธีการเรียนการสอนให้เกิดการเรียนรู้จริงๆ จากการปฏิบัติ คาดหวังว่าปีนี้ สสค.จะสนับสนุนโครงการดีๆ จากโรงเรียนทั่วประเทศเพิ่มจากเดิมได้ถึง 2,000 โรง" น.พ.สุภกรกล่าว

    ขณะที่ ดร.สมิทธกล่าวว่า ผลลัพธ์ที่ได้จากโมเดลตัวนี้คือ ชุมชน สังคม เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องให้การสนับสนุน ต่อยอดการเรียนรู้นอกตำรา เพื่อเสริมให้เยาวชนเกิดกระบวนการคิด เรียนรู้ว่าผลกระทบที่จะได้รับ และเรียนรู้วิธีเอาตัวรอดเมื่อประสบภัยทั้งสึนามิ เเผ่นดินไหว หรือแม้กระทั่งภาวะเรือนกระจก เพราะขณะนี้ยังไม่ค่อยมีสูตรที่สอดคล้องกับสภาพเหตุการณ์ปัจจุบัน

    "ขณะที่เยาวชนสนใจเรื่องภัยธรรมชาติ พร้อมทั้งสร้างองค์ความรู้ วิธีการเกิด ผลกระทบที่ตามมา เพื่อเป็นข้อสังเกตให้คนในพื้นที่เสี่ยงภัยได้รักษาชีวิตเมื่อเกิดเหตุ แต่ทำไมรัฐบาล กลับดำเนินการเป็นรูปธรรมได้น้อยกว่า ทั้งๆ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง"

    ประธานกรรมการมูลนิธิเตือนภัยพิบัติแห่งชาติกล่าวด้วยว่า สิ่งนี้คือบทเรียนให้ผู้บริหารประเทศเอาเยี่ยงอย่าง ว่าการหามาตรการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยไม่ใช่ทุ่มงบประมาณลงไปเพียงอย่างเดียว แต่จำเป็นต้องให้องค์ความรู้ที่ถูกต้อง เพื่อช่วยเหลือตัวเองให้ผ่านพ้นภัยพิบัติไปได้

    "โมเดลนี้เมื่อลงไปสู่ 6 จังหวัดภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามัน จะทำให้คนในพื้นที่เกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริง โดยไม่ต้องใช้งบประมาณมากมาย" ดร.สมิทธกล่าว

    สึนามิโมเดลฝีมือเยาวชนไทยถือเป็นนวัตกรรมชิ้นโบว์แดงผลงานล่าสุด ซึ่งเป็นต้นแบบเสมือนจริงแห่งแรกในประเทศไทย
     
  6. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    21 ก.ค. 54

    ฃอบคุณที่เป็นห่วงครับ คุณเกษม

    องค์อินทร์ ๙๗
     
  7. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    =====================================


    21 ก.ค. 54


    จะหนีไม่ช่วยเหลือ--------เอื้อเฟื้อคนรอบข้าง
    ทรัพย์สินเงินนับล้าน------ไม่ช่วยท่านให้ปลอดภัย
    ต้องหนีที่ดวงจิต---------ไม่ยึดติดให้มลาย
    จิตหนักต้องทำลาย-------ให้คงไว้ครอบครัวตัว

    หนีภัยไปทำไม?--------ไม่มีใจจะช่วยเขา
    หนีไปก็เสียเปล่า--------หลงมัวเมากิเลสตน
    จะหนีให้ได้รอด---------ผมขอบอกต้องช่วยคน
    ฟ้าดินจะช่วยดล--------ให้ครอบครัวได้ปลอดภัย

    รีบเถิดเร่งเตรียมการ------เหล่าหมู่มารจ้องคอยท่า
    ถ้าขืนมัวชักช้า-----------เมื่อมารมาไม่ทันกาล
    รีบเร่งที่ความดี----------เพื่อชีวีหนีภัยพาล
    ชักช้าไม่ได้การ----------เมื่อมารมาแก้ไม่ทัน

    พื้นที่มีเอาไว้------------อีกฟืนไฟใช้นานๆ
    น้ำท่าต้องจัดการ--------ทั้งอาหารต้องพอเพียง
    ที่อยู่ที่อาศัย------------ยูกยาอย่าให้เกลี้ยง
    บริหารอย่าลำเอียง------ผู้อาศัยพึงพอใจ

    ช่วยกันคนละแรง--------อย่าแอบแฝงความเกียจคร้าน
    ช่วยกันผจญมาร---------เอาความดีเข้าพันตู
    หลายแรงเข้าร่วมกัน-----รวมความดีเข้าต่อสู้
    อย่ามัวนั่งคุดคู้----------ชีวิตเราไม่ปลอดภัย

    ที่ไหน?ที่ชอบใจ--------ก็เข้าไปช่วยเขาทำ
    อย่ามัวทำงึมงำ---------เดี๋ยวไม่ทันกาลเวลา
    เวลาไม่คอยท่า---------มัวชักช้ามารมันมา
    เข้าร่วมได้พึ่งพา--------ทั้งครอบครัวและตัวเอง

    เข้าร่วมที่กำหนด--------ไม่โป้ปดต้องปลอดภัย
    ทวยเทพก็เป็นใจ--------เข้าคุ้มครองยามภัยมี
    หรือไม่เข้าอยู่ใกล้-------เหล่าเทพไท้ช่วยพาหนี
    เข้าสู่จุดที่ๆ-------------รอยพระบาทคุ้มครองเอย




    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน

    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    แผ่นดินไหวในเอเชียกลาง ตายกว่า 10 คน

    [​IMG]

    เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.1 ริกเตอร์ในเอเชียกลาง สร้างความเสียหายในหลายประเทศ

    แผ่นดินไหวในเอเชียกลาง เมื่อเช้าวานนี้ มีความลึก 18 กิโลเมตรประมาณ 42 กิโลเมตรทางตะวันตกเฉียงใต้ของหุบเขาเฟอร์กานา ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างอุซเบกิสถาน ทาจิกิสถาน และคีร์กีซสถาน ได้สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนเป็นจำนวนมาก และมีจำนวนผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 14 คนในหุบเขาเฟอร์กานา ซึ่ง 13 คนได้เสียชีวิตขณะหลบหนีแผ่นดินไหว

    ขณะเดียวกันกระแสไฟฟ้าดับในคีร์กีซสถานหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน บ้านเรือนในเมือง Kan ถูกทำลาย 7 หลัง และได้รับความเสียหายประมาณ 400 หลังจากทั้งหมด 470 หลังคาเรือน โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตามรัฐบาลได้เตรียมเต็นท์ไว้ให้ผู้ประสบภัยพักชั่วคราว และส่งทีมงานเข้าไปสำรวจความเสียหายแล้ว

    ส่วนประเทศทาจิกิสถาน มีรายงานว่าชายคนหนึ่งได้เสียชีวิตหลังจากกระโดดออกนอกหน้าต่างอพาร์ทเม้นต์ระหว่างเกิดเหตุ นอกจากนี้ไม่มีรายงานความเสียหายอื่นๆ ทั้งนี้ประเทศอุซเบกิสถานได้รับความเสียหายมากที่สุดจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ แม้จะไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ จากกรุงทาชเคนต์ เมืองหลวงของประเทศ ซึ่งดูเหมือนจะโดนแผ่นดินไหวด้วย

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันพฤหัสบดี ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

    คลื่นความร้อนที่สหรัฐฯ เฮอริเคนโดราจ่อพัดถล่มเม็กซิโก

    [​IMG]

    คลื่นความร้อนที่แผ่ปกคลุมพื้นที่ตอนกลางและใต้ของสหรัฐฯ ทำให้ประชาชนเสียชีวิตแล้ว 22 คน และอาจต้องเผชิญความร้อนผิดปกติยาวไปจนถึงเดือนสิงหาคม ขณะที่ทางตอนใต้เม็กซิโก เกิดฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุเฮอริเคนโดรา

    หลายพื้นที่ของรัฐวาฮากา ทางตอนใต้ของเม็กซิโก ได้รับอิทธิพลจากพายุเฮอริเคน"โดรา" ซึ่งล่าสุดได้ทวีกำลังแรงสู่ระดับ 3 จากความรุนแรงทั้งหมด 5 ระดับ ขณะเคลื่อนตัวในมหาสมุทรแปซิฟิค ด้วยความแรง 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งอิทธิพลของเฮอริเคน ทำให้เกิดฝนตกหนักในหมู่บ้านชาวประมงที่อยู่ริมชายฝั่งในรัฐวาฮากา จนเกิดน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน เสียหายกว่า 20 หลังคาเรือน คาดว่าเฮอริเคนโดรา จะทวีความแรง เป็นระดับ 4 ในวันนี้ ก่อนจะอ่อนกำลังลงในช่วงปลายสัปดาห์

    ขณะที่สหรัฐ พื้นที่กว่า 20 รัฐ ทางตอนกลางและตอนใต้ของประเทศ ยังเผชิญกับคลื่นความร้อน ล่าสุด มีรายงานว่าอากาศที่ร้อนจัดในช่วงสัปดาห์นี้ มีประชาชนเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 22 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่กรมอุตุนิยมวิทยาสหรัฐฯ เตือนว่า อุณหภูมิจะร้อนผิดปกติต่อเนื่องไปจนถึงเดือนสิงหาคมนี้ และว่าคลื่นความร้อนจะแผ่ปกคลุมไปยังพื้นที่ตะวันออกด้วย

    รายงานระบุว่า ขณะนี้ประชาชนกว่า 141 ล้านคน ในกว่า 20 รัฐทั่วประเทศ ยังตกอยู่ภายใต้คำเตือนเกี่ยวกับคลื่นความร้อน โดยเฉพาะที่เมืองฟิลาเดลเฟีย ที่เผชิญกับอากาศร้อนจัดต่อเนื่อง อุณหภูมิสูงถึง 35 องศาเซลเซียส และคาดว่าอุณหภูมิจะสูงสุดเป็น 38 องศาเซลเซียส ด้านผู้ค้าเมล็ดพืช ในชิคาโก และแคนซัส ซิตี้ วิตกกังวลว่าสภาพอากาศที่ร้อนจัดจะทำให้ผลิตผลด้านเกษตรกรรม จะได้ไม่ตรงตามเป้า นอกจากนี้ยังเป็นอันตรายกับเหล่าปศุสัตว์อีกด้วย ล่าสุดมีรายงานว่า ปศุสัตว์กว่า 1,500 ตัว ในเซาท์ดาโคต้า ล้มตายจากอากาศร้อนแล้ว

    ทั้งนี้จากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ทำให้หลายเมืองจัดกิจกรรมคลายร้อนในรูปแบบต่างๆ อย่างเช่น นายกเทศมนตรีโคลัมบัส เปิดลานคลายร้อน หรือ Operation Cool Down ให้เด็กๆมาเล่นน้ำคลายร้อนกัน ขณะที่เจ้าหน้าที่สวนสัตว์บรู๊คฟิวด์ ในชิคาโก นำเอาผลไม้เบอร์รี่ ,น้ำผลไม้แช่แข็ง แจกจ่ายให้กับเหล่าบรรดาสัตว์ได้กัดกิน เพื่อคลายความร้อนกันด้วย

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันพฤหัสบดี ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

    ไต้หวัน..ดินถล่มในภาคใต้

    [​IMG]

    ฝนที่ตกหนักทั่วภาคใต้ของไต้หวัน ทำให้เกิดดินถล่มขึ้นในเขตภูเขา บังคับให้ประชาชนหลายร้อยคนต้องอพยพ คาดว่าฝนจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ถูกนำมาโดยพายุไต้ฝุ่นหมาง้อนจะตกต่อไปจนถึงวันนี้

    สำนักงานอนุรักษ์ดินและน้ำของไต้หวัน เปิดเผยว่า ทางการได้ออกคำเตือนให้ระวังแผ่นดินถล่มรุนแรง เมื่อวันอังคารและสั่งอพยพประชาชนออกจาก 45 เขตโดยรอบแม่น้ำสายสำคัญต่างๆ ใน 5 เมือง ในเขตภูเขาโดยรอบเมืองเกาเสียง และเทศมณฑลเชียยี่ เมืองอีก 9 เมือง ในเขตต่างๆ โดยรอบแม่น้ำก็ได้รับคำสั่งอพยพด้วย

    ประชาชน 960 คน เข้าไปพักอาศัยเป็นการชั่วคราวตามวัด โบสถ์ และศูนย์ชุมชนต่างๆ ถนน 13 สายในเมืองนันทู เชียยี่ และเกาเสียงยังคงถูกปิด แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต หรือบาดเจ็บ

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันพฤหัสบดี ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

    สภาพอากาศเลวร้ายที่ญี่ปุ่น จีน ชิลี

    [​IMG]

    ไต้ฝุ่นหมาง้อนพัดถล่มขึ้นฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่นแล้ว วันนี้ ขณะที่ทางใต้ของชิลี เกิดหิมะตกหนัก ทำให้หลายพื้นที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

    พยากรณ์อากาศญี่ปุ่น เผยว่า ไต้ฝุ่นหมาง้อนขึ้นฝั่งที่จังหวัดโตคุชิม่ะ ในตอนเช้าวันนี้ ทำให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ รายงานระบุว่า ที่เมืองโคชิ มีรายงานผู้สูญหาย 1 คน ขณะที่อีก 49 คน ใน 15จังหวัด ได้รับบาดเจ็บ พยากรณ์อากาศเตือนญี่ปุ่นก่อนหน้านี้ให้ระวังคลื่นสูง ดินถล่ม และน้ำท่วมฉับพลัน ซึ่งบ้านพักตากอากาศริมทะเลหลายแห่งได้ปิดให้บริการก่อนที่ไต้ฝุ่นจะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่ง การจราจรในพื้นที่ตอนกลางของญี่ปุ่นได้รับผลกระทบ ถนนหลวงหลายสายปิดให้บริการ และต้องยกเลิกเที่ยบินหลายร้อยเที่ยว คาดว่า ไต้ฝุ่นหมาง้อนจะอ่อนกำลังลงเป็นโซนร้อนในวันนี้

    ขณะที่เมืองนานกิง ในมณทลเจียงซูของจีน เผชิญกับพายุฝนครั้งรุนแรงตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา เส้นทางรถไฟในเมืองระหว่างนานกิง-เซี่ยงไฮ้ ต้องจมอยู่ใต้น้ำ ขณะที่รถไฟความเร็วสูงต้องลดความเร็วลง ทำให้การเดินทางต้องล่าช้ากว่ากำหนด สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักครั้งนี้รุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปีของนานกิง ศูนย์พยากรณ์อากาศของจีน เตือนว่าจะเกิดฝนตกหนักต่อไปอีกในช่วง 2-3 วันนี้

    ข้ามไปที่ชิลี ซึ่งตอนนี้ที่แคว้นอะเรากานิอา ทางใต้ของประเทศกำลังเผชิญกับพายุหิมะครั้งรุนแรง บางพื้นที่หิมะท่วมสูงถึง 6 ฟุต ชุมชนหลายแห่งถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ประชาชนราว 1 หมื่น 5 พันคนอยู่โดยไม่มีไฟฟ้าใช้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเร่งเก็บกวาดหิมะออกไปจากถนนสายสำคัญเพื่อให้การขนส่งและการเดินทางในพื้นที่ที่ถูกตัดขาดสามารถใช้งานได้ ซึ่งตอนนี้ผู้ประสบภัยเริ่มขาดแคลนอาหาร

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันพุธ ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2554


    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1311225255.jpg
      1311225255.jpg
      ขนาดไฟล์:
      28.9 KB
      เปิดดู:
      1,627
    • 1311223438.jpg
      1311223438.jpg
      ขนาดไฟล์:
      23.2 KB
      เปิดดู:
      1,591
    • 1311145982.jpg
      1311145982.jpg
      ขนาดไฟล์:
      30.3 KB
      เปิดดู:
      1,595
    • 1311206045.jpg
      1311206045.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35 KB
      เปิดดู:
      1,584
  9. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    MThai News: สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทีมนักสำรวจสมบัติใต้น้ำจากสวีเดน พบร่องรอยประหลาดที่อาจเป็นจานบินของมนุษย์ต่างดาวหรือ ยูเอฟโอ บริเวณก้นทะเลบอลติค ใกล้รอยต่อพรมแดนสวีเดน-ฟินแลนด์
    โดยทีม “โอเชียน เอ็กซ์พลอเรอร์” จำนวน9 คน ซึ่งทำเงินเป็นจำนวนมากจากการค้นหาและขายสมบัติใต้ทะเลจากน่านน้ำต่างๆ ทั่วโลก ได้พบวงกลมประหลาดวงหนึ่งที่อาจเป็นร่องรอยยานยูเอฟโอ ที่ระดับความลึกกว่า 87 เมตร บริเวณก้นทะเลบอลติค เมื่อวันที่ 19 ม.ย. ที่ผ่านมา
    ทั้งนี้ ปีเตอร์ ลินด์เบิร์ก หัวหน้าทีมสำรวจเผยว่า วันนั้นพวกเขากำลังเตรียมความพร้อมสำหรับการค้นหา เหล้าโบราณ ที่อาจจมไปพร้อมกับเรือสินค้าในอดีต ทว่าสมาชิก 3 คนในทีมกลับได้รับสัญญาณโซนาร์ที่สะท้อนกลับมาจากก้นทะเลบอลติค โดยสิ่งที่โซนาร์ตรวจพบเป็นวงกลมประหลาดที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 60 ฟุต พร้อมกับการเคลื่อนที่ของวัตถุบางอย่างเป็นทาง ยาวกว่า 300 เมตรอยู่ถัดจากวงกลมปริศนา พวกเขาจึงเดาว่าอาจเป็นการลงจอดของยูเอฟโอ
    อย่างไรก็ตาม ลินด์เบิร์ก ยืนยันว่า เขาไม่เคยเห็นวงกลมลักษณะเช่นนี้มาก่อนตลอดอาชีพนักดำน้ำ 18 ปีของเขา แต่ยืนยันว่า เป้าหมายหลักของทีมสำรวจของเขายังคงอยู่ที่การสำรวจหาสมบัติใต้ทะเลเช่นเดิม ทีมของเขาไม่สามารถทุ่มเงินอย่างสูญเปล่าไปกับการพิสูจน์ความจริงเรื่องมนุษย์ต่างดาว หรือยูเอฟโอแต่อย่างใด
    Mthai News


    [​IMG] ด่านตรวจ

    พร้อมดำเนินการทั่วกรุงเทพฯ เชื่อลดปัญหาเด็กแว้น-ขโมย หลังนำร่อง บางมด ได้ผลดี
    21 ก.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจ นครบาล (บช.น.) รับผิดชอบงานจราจร เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน พบส่วนหนึ่งมาจากผู้ขับขี่เสพยาเสพติดเข้าไปแล้วมาขับขี่บนท้องถนน ทำให้เกิดอุบัติเหตุ การตั้งจุดตรวจสกัดอาจจะยังไม่ทั่วถึง เนื่องจากกำลังไม่เพียงพอ
    ทั้งนี้ จึงเสนอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรตั้งจุดตรวจทำการตรวจปัสสาวะผู้ขับขี่ด้วย นอกเหนือจากการกวดขันวินัยจราจรตามปกติ ซึ่งอาศัยอำนาจเจ้าพนักงานจราจรสามารถทำการเรียกตรวจในลักษณะเดียวกับการเรียกตรวจวัดแอลกอฮอล์ แต่เพื่อให้เกิดความชัดเจนและสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น จะส่งนายตำรวจระดับ สว.จร. และรอง สว.จร. โดยป็นหัวหน้าชุดตั้งจุดตรวจเข้ารับการอบรมเรื่องยาเสพติดจาก สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เพื่อให้ทราบถึงขั้นตอนและวิธีการตรวจสอบสีปัสสาวะ
    อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบ อาจจะต่างกันขึ้นอยู่กับยาเสพติดแต่ละชนิด และลักษณะอาการของผู้ที่เสพยาเสพติด โดยแต่เดิมตำรวจจราจรทำหน้าที่ตรงนี้อยู่แล้ว แต่จะเน้นมากขึ้นพร้อมจัดอบรมให้ความรู้ เพื่อให้สามารถทำงานได้แม่นยำมากขึ้น ขณะนี้ สน.บางมด ได้ทดลองทำแล้ว พบว่า ปัญหาเด็กซิ่งจักรยานยนต์ และ คดีลักขโมยในท้องที่ลดลง
    Mthai News


    [​IMG] ตำรวจตั้งด่าน

    แฟนเพจพุ่งนับหมื่น แยกกันทำหลายจังหวัด ตำรวจติง เหมือนช่วยผู้ร้าย
    21 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกลุ่มคนที่ชอบออกไปสังสรรค์ในเวลากลางคืน เมื่อเมาแล้วต้องการจะขับรถ รวมถึงคนที่ทำผิดกฏจราจร อาทิ ไม่ต่อทะเบียน ไม่สวมหมวกกันน็อก ตั้ง แฟนเพจในเว็บไซต์ facebook ชื่อ มีด่านบอกด้วย โดยใช้เป็นพื้นที่ช่วยกันการแจ้งจุดที่มีด่านตำรวจ พร้อมอ้างว่าเพื่อหลี่กเลี่ยงการถูกจับกุม และไม่ให้ถูกตำรวจรีดไถเงิน
    ทั้งยี้ หน้าแฟนเพจ มีด่านบอกด้วย มีคนเป็นสมาชิกมากขึ้นในระยะเวลาอันสั้น โดยขณะนี้มีถึงหลายหมื่นคนที่เข้าไปกดไลค์ จนเป็นแฟนเพจที่สิงห์ขี้เมารู้จักกันเป็นอย่างดี เนื่องจากเอาไว้ใช้ตรวจสอบเส้นทางเดินทางกลับบ้านหลังสังสรรค์ เมื่อพบว่ามีด่านก็จะเลี่ยงใช้ทางกลับเส้นอื่นแทน
    นอกจากนี้ แฟนเพจ มีด่านบอกด้วย ยังลามไปเขตย่อยในกรุงเทพฯหรือตามต่างจังหวัด โดยมีการตั้งเป็นกลุ่มเฉพาะ อาทิ มีด่านบอกด้วย รัชโยธิน มีด่านบอกด้วย ฝั่งธน มีด่านบอกด้วย บุรีรัมย์ มีด่านบอกด้วย โคราช มีด่านบอกด้วย ขอนแก่น มีด่านบอกด้วย เชียงใหม่ ฯ
    อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า การตั้งกลุ่มดังกล่าวมีมาแล้วสักระยะแล้ว ยอมรับว่าต้องทำงานหนักขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคใดๆ มากนัก เนื่องจากปกติการตั้งด่านไม่ใช่เป็นการจ้องจับผิดประชาชน แต่เป็นการป้องปรามอาชญากรรมหรืออุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นกับคนส่วนรวมเพียงเท่านั้น ซึ่งการแจ้งเตือนดังกล่าว เข้าข่ายช่วยคนที่ทำผิดกฏหมาย หรือ บางครั้งอาจจะช่วยคนร้ายในคดีต่างๆให้รอดพ้นจากการถูกจับกุมได้
    ดังนั้น อยากจะฝากเตือนประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีการแจ้งเตือนดังกล่าวว่า อยากให้เปลี่ยนทัศนคติที่เป็นอยู่ อยากให้มองว่าเราต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาส่วนรวม ยกตัวอย่างเช่นคนเมาคนหนึ่งขับรถหลบด่านได้ แต่เกิดขับรถไปชนจนเสียชีวิตหรือบาดเจ็บ มันจะมีผลกระทบตามมาหลายอย่าง เรื่องแบบนี้แก้ไขไม่ยาก ถ้าคุณเมาก็กลับแท็กซี่หรือให้เพื่อนที่ไม่ได้ดื่มสุราไปส่งก็ได้

    Mthai News
     
  10. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกชุกหนาแน่นและตกหนักบางแห่ง กทม.ฝนตก 80% ของพื้นที่ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 22 กรกฏาคม 2554 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.

    มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่งต่อไปอีก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะนี้ ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนด้านตะวันออกสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในช่วงวันที่ 22-23 ก.ค. 2554

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดตาก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์
    อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครพนม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด
    อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี
    และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-30 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>คลื่นความร้อนในสหรัฐฯตายแล้ว22ชีวิต </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    จากอิทธิพลคลื่นความร้อนถล่มสหรัฐฯ พบ ดับ 22 เตือนประชาชน 141 ล้านคน ระวังอันตรายจากอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น


    คลื่นความร้อนที่แผ่ปกคลุมพื้นที่ตอนกลาง และตอนใต้ของสหรัฐฯ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว อย่างน้อย 22 ราย

    ขณะที่ทางสำนักงานบริการด้านสภาพอากาศแห่งชาติของสหรัฐ ออกคำเตือนประชาชน 141 ล้านคน ใน 20 รัฐ ให้ระวังอันตรายจากอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น พร้อมเตือนว่า คลื่นความร้อนอาจแผ่อิทธิพลไปจนถึงเดือนสิงหาคม และอาจเคลื่อนตัวไปทางตะวันออกของประเทศ




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว และรูปภาพ คุณภาพดี โดย: INN NEWS
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. อนิจฺจํ

    อนิจฺจํ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,374
    ค่าพลัง:
    +2,949
    ภัยพิบัตินั้นเกิดขึ้นแทบจะตลอดเวลา ทั่วทุกมุมโลก ซึ่งบางครั้งอาจดูธรรมดาไปบ้าง หนักบ้าง แต่หากสังเกตุจะพบว่า ภัยทางธรรมชาติเริ่มรุนแรงขึ้นและถี่ขึ้น จนบางครั้งเหมือนกันภัยพิบัตอยู่ข้างตัวมนุษย์ไปแล้ว หากประมาทหรือชะล่าใจอาจเจอแบบที่ตั้งตัวไม่ทันก็เป็นได้
     
  12. doodee1

    doodee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7540 ข่าวสดรายวัน


    ซิดนีย์ โอเปร่า เฮาส์ผวา




    เอเอฟพีรายงานว่า วันที่ 21 ก.ค. ออสเตรเลียหวั่นว่า ซิดนีย์ โอเปร่า เฮาส์ โรงอุปรากรชื่อดังในนครซิดนีย์กำลังตกเป็นเป้าโจมตีของกลุ่มก่อการร้าย หลังจากมีรูปไปปรากฏในเว็บไซต์ชื่อ 'อินสไปร์' ซึ่งเชื่อมโยงกับเครือข่ายอัล ไคด้า ในคาบสมุทรอาหรับ โรเบิร์ต แม็กเคลแลนด์ อัยการสูงสุด กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่มีสัญลักษณ์ของออสเตรเลียไปปรากฏในนั้น จึงน่าวิตกมาก แต่ยังไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มระดับระวังภัยจนกว่าจะมีคำขู่หรือข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองที่ชัดเจน

    ที่แท้'ฟิตเนส'เขย่าตึกโสม



    เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ยอนฮัปรายงานว่า ศาสตราจารย์ชุง หลัน อาจารย์มหาวิทยาลัยแดนคุ้กในเกาหลีใต้ หนึ่งในทีมผู้เชี่ยวชาญที่เข้าไปตรวจสอบอาคารเทคโน มาร์ต ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าสูง 39 ชั้นในย่านกวางจิ้นกลางกรุงโซล เผยว่า สาเหตุที่ทำให้ตึกดังกล่าวสั่นสะเทือนร่วม 10 นาที เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา จนต้องอพยพคนออกจากตึกอาจมีสาเหตุมาจากการกระโดดของคนที่มาเล่นฟิตเนส จากการทดสอบให้กลุ่มคนไปกระโดดพร้อมกันใน ฟิตเนสพบว่าทำให้ตึกสั่นแบบเดียวกัน


    'พระวิหาร'ยุคหิน

    รุ้งตัดแวง
    สปาย-กลาส


    ประเด็นขัดแย้ง 'ปราสาทพระวิหาร' น่าจะทุเลาไปอีก 1-2 ปีจากนี้

    ภายหลัง 'ศาลโลก' อ่านคำสั่งมาตร การคุ้มครองชั่วคราว เมื่อ 18 ก.ค. 54

    ระบุให้ทั้งฝ่ายไทย-กัมพูชา ถอนทหารจาก 'เขตปลอดทหารชั่วคราว' ในบริเวณปราสาทพระวิหาร ซึ่งศาลโลกกำหนดขึ้น

    ขณะเดียวกัน รัฐบาลใหม่ ภายใต้การ นำของพรรคเพื่อไทย คงไม่ไปจุดกระแส 'คลั่งชาติ' ทะเลาะกับรัฐบาลฮุนเซน

    อย่างไรก็ตาม จุดที่ต้องระวังมากกว่าก็คือ การเจรจาผลประโยชน์ด้านพลังงานในพื้นที่ทับซ้อน 'ทางทะเล' กับฝ่ายกัมพูชา

    เพราะเชื่อว่า ฝ่ายขวาจัด รวมถึงอริทาง การเมืองของ 'รัฐบาลยิ่งลักษณ์-ทักษิณ' ต่างรองับขยายผลปมปัญหานี้ทุกลมหายใจ!

    สำหรับบทสรุป 'ผลลัพธ์' คร่าวๆ หลังจากนี้ ซึ่งคาดว่าตกราวๆ 1-2 ปี กว่าที่ศาลโลกจะตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร ปี 2505 เสร็จสิ้นนั้น

    1.ไทยต้องไม่ขัดขวางให้ฝ่ายกัมพูชา เข้าถึงปราสาทพระวิหาร ทั้งต้องเปิดทางให้มีการส่ง 'เสบียง' ไปให้เจ้าหน้าที่ปกครองกัมพูชาในปราสาทพระวิหาร

    2.ไทย-กัมพูชา ต้องร่วมมือกันตามกรอบสมาคมอาเซียน โดยอนุญาตให้คณะผู้สังเกตการณ์ เข้าไปในเขตปลอดทหารได้

    3.ไทย-กัมพูชา ต้องยุติการสร้างสถาน การณ์อันจะทำให้เรื่องเลวร้ายลงไปอีก

    4.ทั้งสองชาติต้องรายงานผลจากการ ปฏิบัติตาม 'คำสั่งมาตรการคุ้มครองชั่วคราว' ให้ศาลโลกได้รับทราบ

    ในส่วนของการกำหนดเขตปลอดทหาร พบว่า ไม่ได้มีผลผูกพันหรือทำให้ไทยเสียดินแดนใดๆ และจะหมดสภาพไปโดยอัตโนมัติเมื่อศาลโลกมีคำวินิจฉัยเรื่องการตีความคำพิพากษา ปี 2505 ออกมา

    ที่สำคัญ ทั้งสองฝ่ายสามารถถอนคดีออกจากศาลโลกได้ ถ้าเจรจาคุยกันรู้เรื่อง!

    ถามว่า รัฐบาลไทยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลโลกได้หรือไม่?

    ตอบ...ถ้ากล้าทำตัวเป็น 'เด็กอมมือ' ลงมือฉีกสนธิสัญญาสากลต่างๆ ที่ไทยเคยไปลงนามเอาไว้ก็โอเค...

    ทีนี้คนไทยทั้งชาติจะได้ย้อนไปอยู่ในถ้ำเหมือนมนุษย์ยุคหินกันเสียที!?!


    ขยะดิจิตอลล้นระบบก่อมลพิษ นักวิทย์แนะรีดิวซ์-รียูส-รีไซเคิลเหมือนขยะจริง



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ถุงพลาสติกและเศษอาหารไม่ใช่ขยะเพียงอย่างเดียวที่สร้างมลพิษให้กับโลกสมัยใหม่ ข้อมูลขยะคอมพิวเตอร์ก็นับเป็นมลพิษอย่างหนึ่งด้วย ซึ่งทำให้เกิดการสูญเสียพลังงานอย่างไม่จำเป็นและทำลายระบบคอมพิวเตอร์

    ราจิบ ฮาซัน และรันดัล เบิร์น จากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ สหรัฐ ร่วมกันเขียนรายงานระบุว่า ข้อมูลที่ไม่เป็นที่ต้องการและไม่ได้ใช้ประโยชน์ ก่อให้เกิดมลพิษในสภาพแวด ล้อมดิจิตอล ไม่แตกต่างจากขยะทางกายภาพ โดยทำให้สิ้นเปลืองเนื้อที่ของระบบจัดเก็บและการแสดงผล อีกทั้งยังต้องใช้ต้นทุนในการกำจัดทิ้ง

    ขยะข้อมูลส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคมและการปฏิบัติการ กินเนื้อที่หน่วยความจำ แบนด์วิธและเวลาการประมวลผล รวมถึงบั่นทอนอายุการใช้งานของอุปกรณ์จัดเก็บ พลังงานและเวลา ซึ่งนับเป็นต้นทุนทั้งสิ้น

    สองนักวิจัยยกตัวอย่างปัญหา ด้วยการ วิเคราะห์แล็ปท็อป แม็กบุ๊ก คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะซึ่งใช้ระบบปฏิบัติการลีนุกซ์และเซิร์ฟเวอร์ในห้องทดลองของมหาวิทยาลัย พบว่า ในบรรดาไฟล์ข้อมูลบนคอมพิวเตอร์ มีร้อยละ 20-57 ไม่เคยถูกใช้งานนับตั้งแต่การแก้ไขไฟล์ครั้งสุดท้าย ในแง่ของพื้นที่การใช้งาน ไฟล์ขยะเหล่านี้กินเนื้อที่สูงถึงร้อยละ 38-99 จากเนื้อที่ทั้ง หมดของเครื่อง

    เพื่อปรับปรุงระบบการจัดการข้อมูลขยะ นักวิจัยเสนอให้ใช้วิธีจัดการขยะดิจิตอลที่มีการ รีดิวซ์-ลดจำนวน รียูส-นำกลับมาใช้ใหม่ และรีไซเคิล-ปรับปรุงแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งไม่แตกต่างจากการจัดการขยะในชีวิตจริง

    "บทเรียนจากชีวิตจริงในการกำจัดของเสียมีประสิทธิภาพดีต่อการกำจัดขยะดิจิตอลได้เช่นกัน" นักวิจัยกล่าว

    ด้านดร.โรเบิร์ต เบล จากกลุ่มคอมพิวเตอร์ขั้นสูง องค์กรซีไซโร ประเทศออสเตรเลีย เห็นด้วยกับรายงานดังกล่าว โดยระบุว่า เราจำเป็นต้องใส่ใจกับข้อมูลขยะ เพราะมันใช้ทรัพยากรบุคคลในการจัดการสูง เสียเวลาในการวิเคราะห์และจำแนกแยกแยะ

    ปัจจุบันที่ซีไซโรเองมีข้อมูลราว 10,000 เทราไบต์ ซึ่งเทียบได้กับหนังสือ 10,000 ล้านเล่ม เป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าข้อมูลใดเป็นขยะ ปัญหาอีกประการคือ ข้อมูลหนึ่งอาจเป็นขยะสำหรับคนหนึ่ง แต่อาจจะเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับอีกคน ซึ่งต้องอาศัยการจัดการที่ระมัด ระวัง

    'ตรัง'เร่งติดตั้งระบบเตือนภัย



    ตรัง - นายสุรพล วิชัยดิษฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันอุบัติภัยจังหวัดตรัง กล่าวว่า ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากกรมทรัพยากรน้ำ และจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จัดสัมมนาในโครงการติดตั้งระบบเตือนภัยล่วงหน้าในพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ภัยธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้น เนื่องจากจังหวัดตรังอาจจะมีฝนตกต่อเนื่องไปถึงปลายปี พร้อมกันนั้น ยังให้ผู้ที่เข้าร่วมสัมมนาได้แสดงความคิดเห็น ตลอดจนเสนอแนะภูมิปัญญาและประสบการณ์จริง ซึ่งล้วนแต่จะสามารถนำไปผสมผสาน เพื่อเป็นพื้นฐานในการเตรียมรับมืออุทกภัยหรือดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะการจะได้นำไปใช้ในท้องถิ่น เพื่อแจ้งเตือนผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงได้รู้เท่าทันต่อเหตุการณ์ ควบคู่กับการติดตั้งระบบเตือนภัยล่วงหน้าตามขั้นตอนปฏิบัติ

    นายโส เหมกุล ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง กล่าวว่า กรมทรัพยากรน้ำดำเนินการติดตั้งระบบเตือนภัยล่วงหน้า โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัย ไม่ว่าจะเป็นอุทกภัย หรือดินโคลนถล่ม ซึ่งจากการสำรวจพบว่าทั่วประเทศมีพื้นที่เสี่ยงภัย จำนวน 1,567 หมู่บ้าน ดังนั้น จึงต้อง เตรียมการเตือนภัยจากน้ำท่วมฉับพลัน ฝนตก หนัก หรือดินโคลนถล่ม ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะการติดตั้งอุปกรณ์ระบบเตือนภัยล่วงหน้า เช่น สถานีเตือนภัย ซึ่งติดตั้งขึ้นบริเวณพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัย หรือดินถล่ม


    หนุ่มโสมดัง-คนดูคลิป10ล้านครั้ง



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อ 21 ก.ค. ชอย ซุง บง หนุ่มก่อสร้างสู้ชีวิตชาวเกาหลีใต้ วัย 21 ปี โด่งดังขึ้นมาระดับประเทศ หลังจากเข้าประกวดร้องเพลงในรายการ 'โคเรีย ก๊อต ทาเลนต์' แบบเดียวกับซูซาน บอยล์ ในอังกฤษ คือหน้าตาไม่หล่อเหลา แต่กลับร้องเพลงโอเปร่าได้ด้วยเสียงทรงพลัง คลิปในยูทูบมีผู้คลิกเข้าชมกว่า 10 ล้านครั้ง

    ชอยปรากฏตัวบนเวทีด้วยท่าทางตื่นเวที แต่งกายธรรมดา สวมกางเกงยีนส์ และเล่าให้ฟังว่า ถูกทิ้งไว้ที่บ้านเด็กกำพร้าตั้งแต่ 3 ขวบ และหนีออกมาตอน 5 ขวบเพราะถูกรังแก จากนั้นอยู่ตัวคนเดียวมาตลอด 10 ปี หาเงินด้วยการขายหมากฝรั่งและเครื่องดื่มชูกำลัง โดยอาศัยหลับบนบันไดและตามส้วมสาธารณะและส่งตัวเองเข้าโรงเรียนศิลปะตอนอายุ 16 ปี ตัวเองไม่ใช่คนร้องเพลงเก่ง แต่ชอบร้องเพลงหลังจากเห็นนักร้องในไนต์คลับ จึงฝึกฝนด้วยตัวเอง หนุ่มชอยเลือกร้องเพลงเนลล่า แฟนเทเชีย ซึ่งเป็นเพลง โอเปร่า จนทำให้ผู้ชมอึ้งและกรรมการน้ำตาซึม โดยผลการตัดสินรอบสุดท้ายจะมีขึ้นวันที่ 20 ส.ค.นี้
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "รามเกียรติ์"ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ข้อมูลทั่วไป - เขาวงพระจันทร์

    เขาวงพระจันทร์ บริเวณเชิงเขาจะเป็นที่ตั้งของวัดเขาวงพระจันทร์ จะมีทางบันไดขึ้นไปสู่ยอดเขาประมาณ 3,790 ชั้น ยอดเขานี้สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 650 เมตร ถ้าวัดจากเชิงเขาถึงยอดเขาโดยแนวบันไดจะยาว 1,680 เมตร ใช้เวลาเดินทางจากเชิงเขาถึงยอดเขาประมาณ 2 ชั่วโมง สองข้างทางจะเต็มไปด้วยป่าไม้ขึ้นสลับซับซ้อนเต็มไปหมด บางแห่งจะเป็นที่ลาด บางแห่งจะเป็นที่ชัน เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขาวงพระจันทร์จะมองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างได้ไกลสุดสายตา

    ในหน้าเทศกาลเดือนสาม ประชาชนโดยเฉพาะชาวไทยเชื้อสายจีนทั้งใกล้และไกลจะหลั่งไหลกันมานมัสการรอยพระพุทธบาทและพระพุทธรูปบนยอดเขาแห่งนี้อย่างเนืองแน่นเป็นประจำทุกปี สิ่งก่อสร้างและรูปแบบของการแสดงความเคารพที่วัดนี้จึงค่อนข้างจะมีอิทธิพลจีนหรือฝ่ายมหายานอยู่มาก เขาวงพระจันทร์ได้ชื่อว่าเป็นเขาที่สูงที่สุดของจังหวัดลพบุรี และเป็นภูเขาที่สร้างชื่อเสียงให้ผู้คนรู้จักเมืองลพบุรีมาช้านานแล้ว นอกจากนั้นภูเขานี้ยังเป็นที่มาแห่งตำนานเมืองเรื่องท้าวกกขนาก และเรื่องพระเจ้ากงจีน อีกด้วย

    ประวัติท้าวกกขนาก

    ครั้งนั้นมีอสูรตนหนึ่งชื่อ "ท้าวกกขนาก" ซึ่งเป็นเพื่อนกับปู่เจ้าเขาเขียว ยักษ์ตนนี้ตั้งตนเป็นใหญ่เที่ยวไล่จับมนุษย์กินเป็นอาหาร ร้อนถึงพระรามต้องลงมาปราบ พระองค์ทรงใช้เขากระต่ายมาทำเป็นคันศร ใช้หนวดเต่ามาขึงเป็นสายและใช้หญ้าปล้องทำเป็นลูกศรแผลงไปฆ่าท้าวกกขนาก ฤทธิ์ศรทำให้พญายักษ์กระเด็นจากกรุงลงกาในชมพูทวีปมาตกบริเวณเขาวงพระจันทร์ จังหวัดลพบุรี แต่ยักษ์ตนนี้ยังไม่ตายเพียงแต่สลบไปเพราะฤทธิ์ศรของพระรามเท่านั้น พระรามจึงทรงสาปให้ศรดังกล่าวปักอกตรึงยักษ์ตรงนี้ไว้บนยอดเขาชั่วกัลป์ จะได้ไม่ไปทำอันตรายใครๆ ได้อีก

    ศรที่ปักอกท้าวกกขนากนั้นจะคลายความแน่นลงทุกๆ สามปี และถ้าปล่อยให้ลูกศรหลุดจากอกได้เมื่อท้าวกกขนากก็จะกลับฟื้นคืนชีวิต ลุกขึ้นมาจับคนกินหมดทั้งเมือง นอกจากนี้ยังทรงสาปต่ออีกว่า เมื่อใดที่บุตรีของท้าวกกขนากซึ่งมีนามว่านางนงประจันต์ หรือนางพระจันทร์ นำใยบัวมาทอเป็นจีวรจนสำเร็จเป็นผืน เพื่อนำไปถวายแด่พระศรีอาริยะเมตไตรย ที่จะทรงเสด็จมาตรัสรู้ในกาลข้างหน้า ท้าวกกขนากจึงจะพ้นคำสาป ดังนั้นบุตรสาวของงท้าวกกขนาก จึงต้องอยู่คอยปรนนิบัติดูแลพระบิดา และพยายามทอจีวรด้วยใยบัว เพื่อให้เสร็จทันถวายพระศรีอาริยะเมตไตรย ที่เสด็จมาตรัสรู้ในอนาคตกาล

    ที่มา http://www3.cdd.go.th/khoksamrong/page3.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,926
    <TABLE id=post3960674 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>26-10-2010, 02:43 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#[​IMG]
    เรื่องราวในรามเกียรติ์ เกิดขึ้น บนพื้นแผ่นดินไทย หรือ แผ่นดินอินเดีย?

    มาแกะรอย จาก ตำนาน นิทาน ที่อาจไม่มีอ่านที่ อินเดียปัจจุบัน แต่สืบทอดอยู่ใน อินเดียโบราณซึ่งเป็นแผ่นดินไทยปัจจุบัน (อ่านแล้วอย่างงครับ เพราะในแผนที่โบราณ อินเดียมี ๒ ที่)



    ตำนานนางกวัก
    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>


    <O:p></O:p>

    <O:p></O:p>
    ครั้งนั้นมีอสูรตนหนึ่งชื่อ”ท้าวกกขนาก”ซึ่งเป็นเพื่อนกับปู่เจ้าเขาเขียว ยักษ์ตนนี้ตั้งตนเป็นใหญ่เที่ยวไล่จับมนุษย์กินเป็นอาหาร ร้อนถึงพระรามต้องลงมาปราบ พระองค์ทรงใช้เขากระต่ายมาทำเป็นคันศร ใช้หนวดเต่ามาขึงเป็นสายและใช้หญ้าปล้องทำเป็นลูกศรแผลงไปฆ่าท้าวกกขนาก ฤทธิ์ศรทำให้พญายักษ์กระเด็นจากกรุงลงกาในชมพูทวีปมาตกบริเวณเขาวงพระจันทร์ จังหวัดลพบุรี แต่ยักษ์ตนนี้ยังไม่ตายเพียงแต่สลบไปเพราะฤทธิ์ศรของพระรามเท่านั้น พระรามจึงทรงสาปให้ศรดังกล่าวปักอกตรึงยักษ์ตรงนี้ไว้บนยอดเขาชั่วกัลป์ จะได้ไม่ไปทำอันตรายใครๆ ได้ อีก ศรที่ปักอกท้าวกกขนากนั้นจะคลายความแน่นลงทุกๆ สามปี และถ้าปล่อยให้ลูกศรหลุดจากอกได้เมื่อท้าวกกขนากก็จะกลับฟื้นคืนชีวิต ลุกขึ้นมาจับคนกินหมดทั้งเมือง นอกจากนี้ยังทรงสาปต่ออีกว่า

    เมื่อใดที่บุตรีของท้าวกกขนาก
    ซึ่งมีนามว่า นางนงประจันต์ หรือนางพระจันทร์
    นำใยบัวมาทอเป็นจีวรจนสำเร็จเป็นผืน
    เพื่อนำไปถวายแด่พระศรีอาริยะเมตไตรย
    ที่จะทรงเสด็จมาตรัสรู้ในกาลข้างหน้า
    ท้าวกกขนากจึงจะพ้นคำสาป

    ดังนั้นบุตรสาวของงท้าวกกขนาก จึงต้องอยู่คอยปรนนิบัติดูแลพระบิดา
    และพยายามทอจีวรด้วยใยบัว เพื่อให้เสร็จทันถวายพระศรีอาริยะเมตไตรย ที่เสด็จมาตรัสรู้ในอนาคตกาล
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    เมื่อบุตรสาวของท้าวกกขนากมาคอยปรนนิบัติพระบิดา และทอจีวรด้วยใยบัวอยู่ที่เขาพระสุเมรุนั้น ทำให้ฐานะความเป็นอยู่ของนางลำบากยากจนขัดสนยิ่งนัก ฝ่ายปู่เจ้าเขาเขียวหรือ ท้าวพนัสบดี ซึ่งเป็นเทพเจ้าชั้นจาตุมหาราชิกาภูมิ คือสวรรค์ชั้นที่หนึ่ง มีตำแหน่งเป็น <O:p></O:p>
    จ้าวแห่งป่าเขาลำเนาไพรทั้งปวงเมื่อทราบเรื่องจึงเกิดความสงสาร ได้ส่งแม่นางกวักบุตรสาวมาอยู่เป็นเพื่อน ด้วยบุญฤทธิ์ของนางกวัก จึงบันดาลให้พ่อค้าวานิชและผู้คน เกิดความเมตตาสงสาร พากับเอาทรัพย์สินเงินทอง พร้อมทั้งเครื่องอุปโภค บริโภคมาสู่ที่พักของบุตรีท้าวกกขนากเป็นจำนวนมาก ทำให้ความเป็นอยู่ของนางยักษ์มีความสมบูรณ์พูนสุขและเจริญด้วยลาภทั้งปวง
    <O:p></O:p>
    อีกสิ่งหนึ่งที่จะทำให้ท้าวกกขนากหลุดพ้นจากอำนาจของศรของพระรามนั้นมาจากศรที่ปักอกท้าวกกขนากเองจะคลายความแน่นลงทุกๆ สามปี ด้วยความรอบคอบพระรามจึงทรงสั่งให้ไก่แก้วมาคอยเฝ้าท้าวกกขนากไว้ ถ้าเห็นศรเขยื้อนขึ้นเมื่อใด ให้ไก่แก้วขันขึ้นเป็นสัญญาณให้หนุมานได้ยิน หนุมานจะเหาะมาตอกศรกลับตรึงให้แน่นตามเดิม ตามตำนานยังเล่าอีกว่าขณะที่หนุมานตอกศรจะเกิดเป็นประกายไฟกระเด็นลุกไปเผาผลาญบ้านเรือนของชาวเมืองลพบุรี เชื่อกันว่าด้วยเหตุนี้เองจะทำให้เกิดไฟไหม้ ครั้งใหญ่ขึ้นในจังหวัดลพบุรีทุกๆ สามปี นอกจากนี้ศรพระรามที่ปักอกท้าวกกขนาก จะหลุดถอนออกได้โดยง่ายถ้าถูกราดด้วยน้ำส้มสายชู ทำให้ชาวเมืองลพบุรีในสมัยก่อนไม่มีใครกล้านำน้ำส้มสายชูเข้าเมืองเพราะเกรงว่าบุตรีของท้าวกกขนากจะแอบมาขอซื้อไปช่วยบิดาของนาง <O:p></O:p>
    ลักษณะของแม่นางกวัก เป็นรูปศักดิ์สิทธิ์ที่แกะจากปลายจะงอยของงวงช้าง ซึ่งค่อนข้างหายากในปัจจุบันนี้ จะเห็นกันก็เป็นแต่เพียงรูปปั้นผู้หญิงนั่งพับเพียบ นุ่งซิ่น และห่มผ้าสไบเฉียงแบบคนโบราณ มือซ้ายวางข้างลำตัว หรือถือถุงเงิน มือขวายกขึ้นในลักษณะกวัก ปลายนิ้วงอเข้าหาลำตัว “การยกมือขึ้นในลักษณะกวัก ถ้ามือยกสูงระดับปาก มีความหมายว่า กินไม่หมด หากว่ามือที่กวักอยู่ต่ำกว่าระดับปาก เขาถือว่ากินไม่พอ



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    *** บุรุษผู้หนึ่ง ****

    พระพุทธเจ้าองค์หนึ่งเสด็จมาโปรด
    บอกให้บวช
    ไปรับ บาตร ... ที่ ดวงอาทิตย์
    ไปรับ จีวร .... ที่ เขาวงพระจันทร์
    ไปรับ กาน้ำ ... ที่ ซับเหล็ก
    จีวรเขาทอเสร็จพอดี

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กรกฎาคม 2011
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "รามเกียรติ์" ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา

    [​IMG]

    จากหนังสือ "นางแก้วคู่บารมี" นี้ได้รวบรวมอดีตชาติของนางแก้วคู่บารมีของพระโพธิสัตว์ที่ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน สรุปได้ว่า:​

    พระเจ้าทศรถ มาเกิดเป็น พระเจ้าสุทโธทนะ
    พระราชมารดา มาเกิดเป็นพระนางสิริมหามายา
    พระราม มาเกิดเป็น พระพุทธเจ้า
    นางสีดา มาเกิดเป็นพระนางพิมพา
    พระลักษณ์ มาเกิดเป็น พระสารีบุตร
    พระภรต มาเกิดเป็นพระอานนท์​

    และจาก เล่ม ๖๐ อรรถกถา พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๑ ตอนท้ายของอรรถกถานี้มีดังนี้:- พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประกาศสัจจะในเวลาจบสัจจะ กุฎุมพีดำรงในโสดาปัตติผล ทรงประชุมชาดกว่า ​

    พระทส-รถมหาราชครั้งนั้น ได้มาเป็นสุทโธทนมหาราช
    พระมารดาได้มาเป็นพระมหามายา
    สีดา ได้มาเป็นมารดาของราหุล
    เจ้าภรตะ ได้มาเป็นอานนท์
    เจ้าลักขณ์ ได้มาเป็นสารีบุตร
    บริษัท ได้มาเป็นพุทธบริษัท
    ส่วนรามบัณฑิต ได้มาเป็นเราตถาคตแล.​

    จบอรรถกถาทสรถชาดก

    ****************************************************************​

    พระบรมโพธิสัตว์เคยฆ่ายักษ์ มีบันทึกอยู่ในพระไตรปิฏก ดังนี้:-

    เหตุที่พระพุทธเจ้าต้องมีอายุ 80 ปี
    โดย..หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

    สำหรับวันนี้ ก็จะขอเทศน์เป็นการตัดอายุ....เนื้อความก็มีอยู่ว่า เมื่อองค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังทรงพระชนม์อยู่ ในวันนั้นองค์สมเด็จพระบรมครูได้ทรงกล่าวกับบรรดาท่านพุทธบริษัทว่า.... ​

    “ภิกขเว..ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัพเพ สัตตา มริสสันติ มรณันตัง หิ ชีวิตัง คนเราเกิดมาเท่าไร ตายหมดเท่านั้น”

    หมายความว่า คนทุกคนและสัตว์ทุกประเภท ที่เกิดมาแล้วมันก็ต้องตาย และต่อมาภายหลังจากนั้นไซร้ เมื่ออายุ 80 ปี องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เสด็จดับขันธ์ คือ "ตาย" ในตอนนี้ไซร้ก็ปรากฏว่า มีอรรถกถาจารย์ทั้งหลาย พยายามรวบรวมคำสอนขององค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เทศน์ไว้ อยากจะทราบว่า เมื่อองค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาเคยเทศน์ไว้ว่า...คนที่มีการคล่องใน อิทธิบาท 4 คือ.... ​


    ฉันทะ ความพอใจ
    วิริยะ ความเพียร
    จิตตะ การจดจ่อ การเพียรในกิจการงานที่ทำ
    วิมังสา การใคร่ครวญการงานที่ทำเสมอ

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การคล่องในอิทธิบาท 4 ในด้านของการปฏิบัติธรรม ผู้ที่คล่องจริง ๆ ในอันดับต้น ได้แก่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ว่าที่คล่องรองลงมาก็คือ บรรดาพระอรหันต์ทั้งหลาย ก็ท่านทั้งสองประเภทนี้ คือพระพุทธเจ้าก็ดี พระอรหันต์ก็ดี ถ้ามีอิทธิบาทไม่ครบถ้วนบริบูรณ์จะบรรลุ คือ ตัดกิเลสเป็นสมุจเฉทปหานไม่ได้

    แต่ว่าทำไมองค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาทรงเคยกล่าวไว้ว่า ผู้ที่เคยคล่องในอิทธิบาท 4 ประเภทนี้ สามารถจะอธิษฐานตนให้อยู่ได้ถึงกัปหนึ่งหรือกัลป์หนึ่งก็ได้ และองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากลับมานิพพาน เมื่อระหว่างอายุของพระองค์ได้ 80 ปี

    ตอนนี้ พระอรหันต์ทั้งหลาย ก็มีความสงสัย แต่ทว่าบรรดาพระอรหันต์ตั้งแต่ปฏิสัมภิทาญาณก็ดี ได้อภิญญาหกก็ดี วิชชาสามก็ดี ท่านทั้งหลายเหล่านี้ไม่สงสัย รู้ด้วยอำนาจของอตีตังสญาณ แต่ทว่าสำหรับพระอรหันต์ขั้นสุกขวิปัสสโกนี้ต้องสงสัย เพราะว่าไม่ได้ญานวิเศษ จึงต้องค้นคว้าคำแนะนำขององค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์

    ในที่สุดก็พบว่า สมเด็จพระนราสภ คือ...องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แทนที่จะมีอายุ 1 กัป อย่างที่กล่าวไว้ แต่ทว่าการที่องค์สมเด็จพระทรงธรรม์บรมศาสดา ต้องมีอายุ 80 ปี เหตุผลก็เป็นมาอย่างนี้ ตามที่องค์สมเด็จพระชินศรี ทรงกล่าวว่า....

    อตีเต กาเล ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย...ในอดีตกาล ตถาคตเสวยพระชาติเป็นหน่อพระบรมโพธิสัตว์ บำเพ็ญบารมีเพื่อจะได้ตรัสเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถอยหลังจากชาตินี้กลับไปหลายพันชาติ เวลานั้นสมเด็จพระบรมโลกนาถ ทรงบำเพ็ญบารมีใกล้จะถึงปรมัตถบารมี พระวรกายของพระองค์นี้ มีส่วนพิเศษอยู่จุดหนึ่ง คือ..เท้าทั้งสอง ในอุ้งระหว่างกลางเท้าทั้งสองนี่ มีรูปกงจักรอยู่ด้วยเป็นสีแดง

    ในเวลานั้น องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า เกิดเป็นลูกคนจนทำมาหากินอยู่ในป่า ต่อมาท่านบิดาก็ตายเหลือแต่มารดาผู้เดียว ท่านก็ปฏิบัติตนเป็นคนประกอบไปด้วยความกตัญญูรู้คุณ หาเช้ากินค่ำหรือหาค่ำกินเช้า นำเอาอาหารมาเลี้ยงมารดาเป็นที่รัก คือว่าท่านเป็นคนป่า ก็ตัดฟืนขาย เข้าป่าก็แต่เช้า กลับมาจนบ่าย จนเย็น อาบน้ำอาบท่า กินน้ำบริโภคอาหาร เสร็จแล้วก็นำฟืนเอาไปขาย ได้เงินมาเท่าไร ก็มามอบให้แก่มารดา มารดาก็จัดเงินทั้งหลายเหล่านี้ จัดอาหารมาเลี้ยงดูกัน เป็นอันว่า รายได้ขององค์สมเด็จพระทรงธรรม์บรมศาสดา เวลานั้นก็เต็มไปด้วยการฝืดเคืองมาก

    ในคราวนั้น พระราชามีความลำบากด้วยยักษ์ตนหนึ่ง ที่เขาเรียกว่า “รากษส” นี่มีสภาพเหมือนยักษ์ แต่เป็นยักษ์ที่อยู่ในโพรง และอุโมงค์ใต้ดิน น่ากลัวจะเป็นยักษ์ปลาไหลเพราะอยู่ในโพรง และใต้ดินมันมีบ่ออยู่ แต่ทว่าทางขึ้น ก็ทำเป็นปล่องขึ้น การขุดอุโมงค์อยู่ใต้ดิน

    เจ้ารากษสตัวนี้ ปรากฏว่าถึงเวลาฤดูหนึ่ง ถ้าเปรียบเทียบกับเวลา ตรุษสงกรานต์ เป็นงานเกี่ยวกับนักขัตฤกษ์ประจำปี เจ้ารากษสตัวนี้ ก็ขึ้นมาจับคนเอาไปกินเป็นอาหาร ทำอย่างนี้ เป็นเวลา 2 – 3 ปี ในแดนไกล

    ต่อมา พระราชาทรงทราบจากบรรดาประชาชนทั้งหลายว่า.. เจ้ารากษสขึ้นมาอาละวาด เจ้ารากษสตัวนี้ขึ้นมาเป็นเวลากาล ถ้าถึงฤดูนั้น ถึงเดือนนั้น วันนั้น มันก็ขึ้นมาจับคนกินเป็นอาหาร เพื่อเป็นเสบียงกรัง ทำอย่างนี้ เป็นเวลา 2 – 3 ปี จนเป็นที่แน่ใจของประชาชนทั้งหลายว่า วันนี้แหละเจ้ารากษสจะขึ้นมาจับคนไปกิน จึงไปกราบทูลพระราชาให้ทรงทราบ

    พระราชาก็ให้ป่าวประกาศหาคนดีมีฝีมือให้ไปสู้กับเจ้ารากษส ไปดักอยู่ปากปล่องของรากษสที่จะขึ้นมา ถ้ารากษสขึ้นมา ก็จะฆ่ารากษสให้ตาย แต่ว่าบรรดาผู้ฟังทั้งหลาย รากษสมีสภาพเป็นยักษ์ มีความดุร้าย มีกำลังมาก แทนที่คนทั้งหลายที่รับอาสาพระราชาจะไปฆ่ารากษส ก็กลายเป็นอาหารของรากษส อย่างดี คือ รากษส ไม่ต้องไปหากินไกล จับคนทั้งหลายที่จะไปฆ่าเขานำกลับไปกินเป็นอาหาร

    ต่อมาพระราชาเห็นว่า คนทั้งหลายไม่สามารถสู้รากษสได้ การประกาศให้บรรดาคนที่มีฝีมือทั้งหลาย ภายในขอบเขตของพระราชฐาน หรือใกล้พระราชฐาน ก็ไม่มีใครรับอาสาไปปราบรากษส พระราชาได้ประชุมอำมาตย์ ข้าราชบริพารว่า...เราไม่สามารถปราบรากษสนี้ได้เพียงใด ความเป็นพระราชาของเราก็ไม่อาจจะคงอยู่ เพราะเราไม่สามารถจะให้ความปลอดภัยกับบรรดาประชาชนได้

    แล้วอาศัยที่พระราชาพระองค์นี้ ใช้ทศพิธราชธรรมอันดี เป็นที่รักของปวงชนทั้งหลาย บรรดาอำมาตย์ข้าราชบริพารจึงประชุมกันว่า ถ้าหากพวกเราไม่สามารถฆ่ารากษสได้ พระราชาก็จะสละราชสมบัติ แล้วคนที่มาใหม่จะดีเท่าองค์นี้ หรือไม่ดีก็ยังไม่แน่นัก จึงปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรดี จะให้พระราชาครองราชย์ต่อไป

    ในที่ประชุมก็กล่าวกันว่า ทางที่ดีควรประกาศให้บรรดาประชาชนทั้งหลายทั่วประเทศ ที่มีความสามารถเข้าใจตรงกันว่า พระราชามีบุญญาธิการอย่างนี้ และมีความเดือดร้อนอย่างนี้ ราษฎรจนที่ไหน พระองค์ก็ทรงจนด้วย ราษฎรลำบากที่ไหน พระองค์ก็ทรงลำบากด้วย หาทางช่วยราษฎรให้เป็นสุข พระราชาอย่างนี้หาได้ยาก

    ถ้ากระไรก็ดี ก็ควรกราบทูลให้พระองค์ทรงทราบว่า...คนในประเทศของเรา ไม่มีเท่าที่เห็น เพราะอยู่ในแดนไกล ในขอบเขตต่าง ๆ มีมากมาย ควรจะประกาศให้บรรดาประชาชนทั้งหลายที่มีความสามารถ แต่ไม่มีโอกาสเข้าเฝ้าพระราชา ที่จะรับอาสาฆ่ารากษส ในที่สุดเขาก็กราบทูลให้พระราชาทรงทราบ แล้วก็ทำตามนั้น มอบทองคำเท่าลูกฟักสำหรับผู้รับอาสา

    ต่อมาพระราชาก็ส่งคนไปประกาศว่า ถ้าบุคคลใดสามารถจะฆ่ารากษสให้ตายได้ ในช่วงแห่งการรับอาสาจะมอบทองคำเท่าลูกฟัก หนักเท่าตัวบุคคลผู้รับอาสาให้เป็นทุนสำรองไว้ก่อน ทั้งนี้ก็เผื่อว่าไปพลาดพลั้งถูกรากษสฆ่าตาย ทางบ้านก็จะได้ใช้ทองคำนี้จับจ่ายใช้สอย เป็นการประทังชีวิตให้มีความสุขสบายแทนผู้ตาย

    ถ้าบุคคลใดฆ่า รากษส ตาย แล้วตัวเองก็ไม่ตาย ทองคำก็ได้เป็นสิทธิ์อยู่แล้ว แต่เมื่อเวลาที่กลับมาประเทศเขตพระนคร พระราชาจะให้เป็นมหาอุปราช คือไปมีตำแหน่งรองจากพระราชา วันนั้น ก็ปรากฏว่าหน่อพระบรมโพธิสัตว์จะเข้าป่าไปหาฟืน แต่ยังไม่ทันจะเข้าเดินออกจากบ้าน ก็ได้ยินเสียงประกาศจากอำมาตย์ข้าราชบริพารว่า

    ถ้าบุคคลผู้ใดรับอาสาฆ่ารากษสได้ พระราชาจะประทานทองคำเท่าลูกฟักหนักเท่าตัวคนผู้อาสาเป็นเดิมพัน แต่ถ้าฆ่ารากษสไม่ได้ต้องตายไป ทองคำนี้ก็จะเลี้ยงครอบครัว และถ้าฆ่าได้ก็จะแถมรางวัลพิเศษ คือให้เป็นมหาอุปราช

    หน่อพระบรมโพธิสัตว์จึงคิดว่า เราเป็นลูกคนเดียวของแม่คนเดียวหาเช้ากินค่ำ ทรัพย์สมบัติที่หามาได้ ก็พอกินบ้างไม่พอกินบ้าง มีความลำบาก ถ้าหากว่าเราจะยอมเสี่ยงชีวิตของเราตายแต่เพียงผู้เดียว ให้แม่ได้มีโอกาสรับทองคำเท่าลูกฟักหนักเท่าตัวเรา แม่ก็จะกินอยู่แบบสบาย ๆ แม้กระทั่งตาย ทองคำก็ยังไม่หมด

    เมื่อหน่อพระบรมโพธิสัตว์กำหนดอย่างนี้แล้ว จึงได้ขันรับอาสาแล้วก็รับทองคำมามอบให้แก่แม่ ตอนนี้แม่คัดค้านอย่างหนัก ไม่อยากจะให้ลูกตาย ในที่สุดก็ต้องจำยอม เพราะตกลงกับเขาแล้ว จึงได้มอบทองคำให้แม่ ตัวเองก็ไปเฝ้าพระราชาพร้อมกับอำมาตย์ เข้าไปเฝ้าแล้ว พระราชาถามถึงผลของความต้องการ เธอสามารถแน่ใจที่จะฆ่ารากษสได้หรือ

    พระโพธิสัตว์ก็บอกว่ามั่นใจ ต่อไปพระราชาถามว่า เจ้าต้องการทหารเท่าไร ต้องการอาวุธอะไรบ้าง จะไปฆ่ารากษส หน่อพระบรมโพธิสัตว์ก็ตอบว่า ไม่ต้องการอะไรอะไรทั้งหมด ต้องการฆ่าด้วยมือเปล่า พระราชาก็หนักใจ แต่ว่าเขาขันรับอาสาตามนั้นก็ต้องปล่อยไป เขาก็นำไปส่งที่ปล่องของรากษส

    หน่อพระบรมโพธิสัตว์ขึ้นไปคอยอยู่ประมาณ 2 วัน พระราชาทรงให้ทหารไปเป็นเพื่อนนำอาหารไปบริโภค ไปคอยอยู่ที่ปากปล่องที่รากษสจะขึ้น ต่อมา เมื่อถึงวันนั้น คือวันกำหนดที่รากษสจะขึ้นมา มีเวลาเป็นประจำก็ขึ้นมาพอดี พอรากษสขึ้นมาไม่ทันจะพ้นปล่อง หัวขึ้นมาพ้นปล่อง หน่อพระบรมโพธิสัตว์ ยกเท้าขึ้นหวังจะกระทืบ คือจะกระทืบให้รากษสคอหักตาย

    รากษส แหงนหน้าขึ้นมา เห็นอุ้งเท้าของหน่อพระจอมไตรบรมโพธิสัตว์มี "กงจักร" ในระหว่างท่ามกลางฝ่าเท้า ก็คิดว่าคราวนี้เราตายแน่ เราสู้ไม่ได้ เพราะคนนี้ต้องเป็นหน่อพระบรมโพธิสัตว์ เพราะกลางระหว่างเท้ามีกงจักรสีแดง จึงได้พูดว่า....

    ช้าก่อน..ท่านอย่าพึ่งฆ่าเรา ท่านนี่เป็นหน่อพระบรมโพธิสัตว์ จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอีกไม่นานนัก เพราะว่ากลางเท้าของท่านมีกงจักร หากท่านฆ่าเราเราก็ตาย ถ้าท่านฆ่าเราไซร้ ท่านจะมีอายุสั้น ถ้าเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ตามธรรมดาพระพุทธเจ้าจะต้องมีอายุสองหมื่นปีบ้าง ถึงสี่หมื่นบ้างก็มี

    อีกประการหนึ่ง พระพุทธเจ้าสามารถจะอธิษฐานตนให้มีอายุถึงกัปหนึ่งก็ได้ หากว่าท่านฆ่าเราตาย ในเวลานี้เวลานี้เรามีอายุ 80 ปี ถ้าหากว่าท่านฆ่าเราตายในเวลานี้ เมื่อท่านเป็นพระพุทธเจ้า ท่านก็ต้องมีอายุ 80 ปี เท่านั้น การประกาศพระศาสนาของท่าน จะไม่มีผลตามความประสงค์

    หน่อพระบรมโพธิสัตว์ ก็กล่าวว่า.. เจ้าเป็นสัตว์ที่มีความดุร้ายมาก ไล่พิฆาตเข่นฆ่าคนเป็นอาหาร ถึงแม้นว่าเราจะบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้า มีอายุแค่ 80 ปี เราพร้อมยอมตามนั้น ในที่สุด หน่อพระบรมโพธิสัตว์ก็กระทืบศีรษะยักษ์ รากษส ยักษ์ก็คอหักตาย

    นี่แหละบรรดาพุทธบริษัททั้งหลาย ตามที่องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือว่าพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าสามารถจะอธิษฐานอายุของตนให้อยู่ได้ถึงกัปหนึ่งก็ย่อมเป็นได้ เพราะคล่องในอิทธิบาท 4

    แต่ว่าที่องค์สมเด็จพระมหามุนีบรมศาสดา จะต้องนิพพาน ภายในอายุ 80 ปี ตามพระบาลีท่านกล่าวว่า เหตุของการฆ่ารากษสตนนั้น จึงเป็นเหตุให้สมเด็จพระภควันต์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ต้องนิพพานในอายุยังสั้น

    ในที่สุดแห่งพระธรรมเทศนานี้ อาตมภาพในฐานะพรสงฆ์ในพระพุทธศาสนา ขอตั้งสัตยาธิษฐาน อ้างคุณพระศรีรัตนตรัย มีพระพุทธรัตนะ พระธรรมรัตนะ และพระสังฆรัตนะ ทั้ง 3 ประการ ขอจงดลบันดาลให้บรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน มีความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผล ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระทศพลบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบรรลุแล้ว ขอบรรดาสาวกขององค์สมเด็จพระประทีปแก้ว จงเห็นธรรมนั้น ในชาติปัจจุบันนี้เทอญ..เอวัง..ก็มีด้วยประการฉะนี้.


    ที่มา : หนังสือ "ธัมมวิโมกข์ ปีที่ 27 ฉบับที่ 297 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2548
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กรกฎาคม 2011
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,926
    <TABLE id=post3922169 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>16-10-2010, 03:18 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#2792 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3922169", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 11,850
    พลังการให้คะแนน: 5129 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]





    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_3922169 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->*** ฝัน...เรื่อง ปากท่อ กับ อินเดีย ****

    ยืนอยู่บนสะพานโค้งสูงมาก สูงเหมือนรุ้ง
    สะพานโค้งยาวมาก มีทิศทางตะวันออก ตะวันตก
    มองลงมา หันหน้าไปทางเหนือ เห็นภูมิประเทศเป็นพื้นราบมีแต่สีเขียวของต้นไม้
    มีเทือกเขา เป็นแนวโค้งจากทางตะวันออกไปตะวันตก
    ตามเทือกเขา มีวัดวิหารเป็นหิน อยู่ในภูเขา จำนวนมาก
    แต่ทางตะวันออก มีภูเขาแกะสกัดหินเป็น รูปยักษ์สีขาว เหมือนยักษ์วัดพระแก้ว
    เรารู้สึกว่า สะพานที่ยืนอยู่เป็นสะพานถนนข้ามทางรถไฟ ที่บริเวณปากท่อ แถววังมะนาว ราชบุรี
    แต่มีเสียงผู้ชายท่านยืนข้างๆ บอกว่า ข้างล่างนั่นคือ อินเดีย

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->



    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    *** ความจริงปรากฏ ****

    รูปยักษ์สีขาว...คือ ท้าวกกขนาก อยู่ที่เขาวงพระจันทร์ ลพบุรี
    เทือกเขา มีวัดวิหารเป็นหิน อยู่ในภูเขา ... คือ ถ้ำอชันตา อินเดีย
    แถว ราชบุรี... คือ อินเดียในยุคโบราณ

    อันดามัน...คือ หัวละมาน หมายถึง หนุมาน
    เรื่องราว รามเกียรติ์....เกิดขึ้น เมื่อภัทรกัป ผ่านมาได้พันปี

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
    วันเสาร์ที่ ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๔
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กรกฎาคม 2011
  17. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** อชันตา...วิหารเป็นหินในภูเขา ****

    <TABLE id=post4017169 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>09-11-2010, 10:05 AM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#2705 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4017169", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 11,850
    พลังการให้คะแนน: 5129 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]






    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_4017169 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->*** โบราณสถานเก่าแก่ ถ้ำอชันตา... อินเดีย ****

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->




    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กรกฎาคม 2011
  18. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** อันดามัน ****

    ที่มาของชื่อทะเลอันดามัน


    <HR style="COLOR: #d1d1e1" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->หลายคนคงชอบชื่ออันไพเราะของ "อันดามัน" ที่ให้ความรู้สึกของท้องทะเลแห่งสีสัน ให้ความรู้สึกอันมีตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์ แม้นจะเรียกขานกันจนติดปากติดหู แต่จะมีใครสักกี่คนรู้ว่าชื่ออันดามันนั้นมีที่มาอย่ างไร ซึ่งเมื่อสืบเสาะค้นหากันจริงๆ ก็มีข้อมูลที่พอจะเชื่อได้ว่า "อันดามัน" นั้นมีต้นรากมาจากคำว่า "หัวละมาน" ในภาษาอินเดียที่หมายถึงหนุมาน ตัวละครเอกในเรื่องรามเกียรติ์วรรณกรรมยิ่งใหญ่อันเป ็นมหากาพย์ของผู้คนใน แถบนี้นี่เอง แต่เอ... แล้วหนุมานจะมาเกี่ยวอะไรกับทะเลอันดามันล่ะ

    [​IMG]


    เมื่อลองมาจับต้นชนปลายกันก็พอจะเกี่ยวข้องกันอยู่มากทีเดียว โดยเฉพาะตอนพระรามจองถนน หรือบางคนก็เรียกตอนหนุมานจองถนน ซึ่งเป็นตอนพระรามจะกรีฑาทัพไปรบกับทศกัณฐ์ที่กรุงลงกา ซึ่งจะต้องข้ามน้ำข้ามทะเลไปนั้น ชามพูวราชได้กราบทูลว่าการที่พระรามจะใช้ฤทธิ์อำนาจย กพลข้ามไปกรุงลงกาเลย นั้นย่อมทำได้ แต่ก็จะไม่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรสมพระเกียรติ จึงเสนอให้พระรามสั่งไพรพลจองถนนข้ามมหาสมุทรไปยังกร ุงลงกา นัยว่าจะเป็นถนนสายยุทธศาสตร์อย่างที่มักจะสร้างกันทำกันในพื้นที่ชายแดน หรือพื้นที่สู้รบที่ต้องช่วงชิงความได้เปรียบเสียเปรียบเหมือนที่นิยมทำกันในปัจจุบัน

    พระรามเห็นด้วยจึงสั่งให้สุครีพเป็นผู้นำ พาไพร่พลไปสร้างถนน สุครีพให้นิลพัทควบคุมไพร่พลเมืองชมพู หนุมานควบคุมไพร่พลเมืองขีดขิน ทำการขนหินจากภูเขามาช่วยกันถมทะเล แต่นิลพัทกับหนุมานซึ่งมีฤทธานุภาพด้วยกันทั้งคู่สร้ างถนนไปก็เกิดเขม่นกัน ไป และมีการประลองอิทธิฤทธิ์กันไปมา กระทั่งเกิดการต่อสู้กันดังกึกก้อง พระรามได้ยินคิดว่าถูกฝ่ายยักษ์โจมตีจึงให้พระลักษณ์ ไปดู เมื่อทราบความจริงจึงทรงกริ้ว เปรียบทั้งสองเหมือนช้างบ้าตกมันเห็นจะทำงานร่วมกันไ ม่ได้ จึงตรัสสั่งให้นิลพัทไปรั้งเมืองขีดขินทำหน้าที่ส่งเ สบียงให้กองทัพเดือนละ ครั้ง หากขาดการส่งจะทำการประหารเสีย และสั่งให้หนุมานทำการจองถนนไปกรุงลงกาให้แล้วเสร็จภ ายในเจ็ดวัน ไม่เช่นนั้นก็จะมีโทษถึงประหารชีวิตเช่นกัน

    หนุมานจึงตั้ง หน้าตั้งตาควบคุมไพร่พลขนหินมาจองถนนกันอย่างสุดฤทธิ์ แต่ไม่ว่าจะสร้างเท่าไหร่ถนนที่ทำไว้ก็ยุบพังทลายหาย ไปในท้องทะเลเสียทุกที ทั้งที่ไม่ได้มีการทุจริตคอรัปชั่นกรวดหินดินทรายกัน สักนิด หนุมานจึงขันอาสาพระรามดำดิ่งลงไปดูใต้ท้องทะเล เห็นไหมครับกองทัพพระรามก็มีหน่วยมนุษย์กบหรือหน่วยจ ู่โจมทำลายใต้น้ำมา ตั้งแต่สมัยนั้นแล้ว หนุมานดำลงไปก็พบนางสุพรรณมัจฉา บุตรีของทศกัณฐ์ที่มีแม่เป็นปลากำลังนำพลพรรคปลานานา ชนิดช่วยกันขนหินที่ ฝ่ายลิงถมลงมาไปทิ้งเสีย หนุมานโกรธจึงจับนางสุพรรณมัจฉาไว้ และขู่จะทำร้ายเสีย นางสุพรรณมัจฉาจึงเกิดความกลัวร้องขอชีวิตและยอมสารภ าพความจริงว่าทศกัณฑ์ เป็นผู้สั่งให้มาปฏิบัติการ

    เมื่อสอบสวนไปสอบสวนมาที่สุดหนุ มานก็ได้นางสุพรรณมัจฉาเป็นเมีย ทั้งยังได้รับความช่วยเหลือจากนางสั่งให้ปลาทั้งหลาย ช่วยกันขนหินมาคืนตาม เดิม หนุมานจึงทำการจองถนนเสร็จในเจ็ดวันตามที่พระรามสั่ง และยังมีลูกด้วยกันกับนางสุพรรณมัจฉาเกิดเป็นมัจฉานุอีกด้วย

    เรื่อง ราวของหนุมานจองถนนเริ่มจะเกี่ยวข้องกับทะเลอันดามัน อยู่นิดๆ แต่ก็ยังไม่เห็นว่าน่าจะมีอะไรที่เกี่ยวข้องกันสักเท ่าไหร่ กระทั่งเมื่อครั้งไปพิจารณาดูแผนที่ของท้องทะเลอันดา มัน อันเป็น ทะเลที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอ่าวเบงกอลและเป็น ส่วนหนึ่งของมหาสมุทร อินเดีย ซึ่งเริ่มจากตอนบนบริเวณปากแม่น้ำอิระวดีของพม่าเรื่ อยลงมาตามแนวชายฝั่ง ตะวันตกด้ามขวานทองของไทยลงไปยังช่องแคบมะละกาไปสิ้น สุดบริเวณเกาะสุมาตรา ของอินโดนีเซีย ส่วนด้านตะวันตกซึ่งเป็นขอบอีกด้านหนึ่งของทะเลอันดา มันนั้นไม่ใช่แนวชาย ฝั่งของผืนแผ่นดินแต่กลับเป็นแนวยาวของหมู่เกาะกลางม หาสมุทรอินเดียที่ชื่อ ว่าหมู่เกาะอันดามันที่ทอดเป็นแนวยาวจากเหนือลงใต้ ลงไปเชื่อมต่อกับแนวของหมู่เกาะนิโคบาร์ ทั้งสองหมู่เกาะอยู่ภายใต้การปกครองของอินเดีย

    [​IMG]


    หาก มองจากแผนที่ซึ่งแสดงเป็นภาพสามมิติแล้วจะเห็นว่าแนว ของหมู่เกาะอันดามันและ หมู่เกาะนิโคบาร์นั้นเป็นแนวภูเขาที่ทอดเชื่อมต่อจาก แนวสันเขาของผืนแผ่นดิน ในเขตพม่าลงมากลางมหาสมุทรอินเดียราวกับเป็นแนวถนนที ่ธรรมชาติหรืออาจจะเป็น หนุมานและพลพรรคมาสร้างสรรค์ไว้อย่างน่าอัศจรรย์ หมู่เกาะอันดามันหรือหมู่เกาะของหนุมานจึงน่าจะเป็นท ี่มาของชื่อทะเล อันดามันที่น่าจะมีความเกี่ยวพันกันและน่าจะมีน้ำหนั กอยู่มาก เอาไว้โอกาสหน้า หากเป็นไปได้ผมจะเดินทางไปค้นหาที่มาของชื่อทะเลอันด ามันกันให้ถึงถิ่นหมู่ เกาะอันดามันกันสักครั้ง

    ทะเลอันดามันนั้น เกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลกซึ่งทุกวันนี้ก็ยังคงยุ บตัวอยู่เรื่อยๆ ทำให้แนวชายฝั่งโดยเฉพาะฝั่งตะวันตกของไทยนับตั้งแต่ จังหวัดระนองลงมา จังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล มีลักษณะเป็นแนวชายฝั่งที่ตัดชันลงไปในทะเล โดยมีพื้นที่ชายหาดและอ่าวอยู่เป็นช่วงๆ ท้องทะเลค่อนข้างลึก น้ำทะเลค่อนข้างใสและมีสีสันสวยงาม ทะเลอันดามันมีความยาวจากเหนือจดใต้ราว 1,200 กิโลเมตร กว้าง 650กิโลเมตรมีพื้นที่กว้างราว 797,700 ตารางกิโลเมตร ลึกเฉลี่ยราว 870 เมตรและมีจุดที่ลึกสุดบริเวณร่องน้ำระหว่างหมู่เกาะอ ันดามันกับหมู่เกาะ นิโคบาร์ซึ่งลึกราว 3,777 เมตรหรือลึกเกือบ 4 กิโลเมตรเลยทีเดียว

    และ ด้วยความเป็นทะเลเขตร้อนจึงเป็นทะเลที่มีความอุดมสมบ ูรณ์และมีความหลากหลาย ของสิ่งมีชีวิตสูง และเป็นทะเลที่มีความสวยงามยิ่ง เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่กลายเป็นจุดหมายปลายขอ งคนจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งมีภูเก็ตเป็นศูนย์กลางการเดินทางท่องเที่ยวทะเลอ ันดามันของไทย โดยแบ่งเป็นอันดามันเหนือซึ่งมีพังงา ระนอง และอันดามันใต้ที่นับจากกระบี่ ลงไปตรัง จนสิ้นสุดที่สตูล

    หน้าร้อนปีนี้ดูจะเป็นปี ที่อากาศร้อนอย่างแสนสาหัส หากมีเวลาว่างก็อย่าลืมลงไปดับร้อนด้วยการท่องเที่ยว พักผ่อนริมฝั่งอันดามัน ทะเลแห่งสีสัน ทะเลของหนุมานกันดูบ้าง.

    ที่มา manager.co.th
    <!-- / message -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กรกฎาคม 2011
  19. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,926
    <TABLE id=post3780915 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>13-09-2010, 09:03 AM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#29 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3780915", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 11,850
    พลังการให้คะแนน: 5129 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]




    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_3780915 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->*** นิยาย ****

    เมื่อ ภัทรกัป ผ่านมาได้พันปี
    มีคนผู้หนึ่งมาเกิด มีอำนาจมากคอยเอารัดเอาเปรียบ
    รีดไถภาษีผู้ที่เข้ามาอาศัยแผ่นดินของเขา โดยไม่ดูว่ามีรายได้มากน้อยอย่างไร
    ทำผู้คนสัตว์โลกเดือดร้อนมาก จิตใจจะว่าเหมือนไม่ใข่มนุษย์ ก็ใช่
    จะว่าเป็นสัตว์ร้าย ก็ใช่ จะว่าเป็นยักษ์ ก็ใช่
    เขามีอำนาจอิทธิฤทธิ์มาก แบบทศกัณฑ์
    จึงไม่สมควรเป็นเยี่ยงอย่างให้กับชาวโลกต่อไป
    โลกุตตระ จึงอวตารเป็นมนุษย์เหนือโลกผู้หนึ่ง
    มาปราบ ไม่ให้มาทำลายศาสนาของโลกุตตระ

    เรื่องพวกนี้ อินเดียจึงเขียนขึ้นเป็นนิยายประจำประเทศ
    แต่เขาให้ความเคารพ
    อย่างพระวิษณุ พระลักษมี และอีกมาก
    คือ มีจริง เป็นผู้สำเร็จไปแล้ว เป็นอมตะ
    ศาสนราฮินดู จึงมีมานานมาก

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "

    สมเด็จพระพุทธองค์ ศรีอาริยเมตไตรย์ กับ ช่วงกึ่งพุทธกาลของพระโคดม
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กรกฎาคม 2011
  20. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,926
    <TABLE id=post3999714 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>04-11-2010, 09:39 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> #2673 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3999714", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 11,854
    พลังการให้คะแนน: 5129 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_3999714 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->*** โบราณสถานเก่าแก่...อินเดีย ****

    Tiger Cave

    Mahabalipuram, Tamil Nadu, อินเดีย
    ริมชายทะเล ทางตะวันออกของประเทศอินดีย ในปัจจุบัน

    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    http://maps.google.co.th/maps?hl=th&tab=wl<!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]
    </FIELDSET>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...