ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

เศียรพระที่วัดมหาธาตุ จ.อยุธยา ​

​

อยากจะขอให้อธิบายให้ฟังว่า เศียรพระที่อยู่ใต้ต้นไม้ที่วัดนี้มีที่มาที่ไปยังไง รบกวนเพื่อนๆ พี่ๆ ช่วยบอกด้วย ขอบคุณค่ะ

จาก : ไกด์ใหม่ 07/11/08 - 18:03 น.

มีสองประเ้ด็นนะครับ

1. คือมีโจรมาตัดเศียร แล้วก็พอดีกัีบตำรวจมา เลยเอาวางไว้ที่ต้นไม้ แล้วก็ไม่มีคนสนใจ จนวันเวลาผ่านไปต้นไม้ก็โอบเศียรพระไว้ไม่ให้ใครเอาไปได้อีกครับ

2. คือเมื่อตอนเสียกรุงมีการเผาเมือง พระถูกไฟเผาแล้วเศียรหักกลิ้งลงมาอยู่โคนต้นไม้ วันเวลาผ่านไป ต้นไม้ก็โอบเศียรพระเอาไว้ครับ

ที่ผมได้ทราบมา และอธิบายก็ประมาณนี้นะครับ

จาก : บริษัทกำจัดปลวก 07/11/08 - 22:58 น.

เศียรพระที่วัดมหาธาตุ อยุธยา....ความเดิม:- ตกอยู่ที่พื้นดินห่างจากต้นโพธิ์ต้นที่ว่านี่แหละ ประมาณ 2-3 เมตร เคียรนี้มาอยู่จุดนี้เมื่อไหร่ไม่ทราบ ที่ไม่น่าดูอย่างมากก็เมื่อตอนฝนตก มีน้ำขัง สกปรกมาก ฝรั่งเดินข้ามไปมา เวลานั้นผมไปทำทัวร์ที่นั่นบ่อยๆ เห็นแล้วไม่สบายใจ จนวันหนึ่ง จำไม่ได้แน่ว่าปีไหน ก็ประมาณ 2523-24 เผอิญวันนั้นมีทัวร์ไปกันหลายบัส รวมทั้งผมด้วย

ช่วงที่เราปล่อยแขกเดินถ่ายรูป ก็ได้มีเวลายืนคุยกัน มีผม 1 ไกด์จากทูริสโม 1 ท่าน จาก โอเรียลทัวร์ 1 ท่าน ส่วนอีก 1 จำไม่ได้แน่นอนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ที่นั่นหรือว่าเป็นไกด์จากเวิลด์ ทราเวิลหรือเปล่า เราได้คุยและปรึกษาและสุดท้ายก็ช่วยกันยกเศียรๆนี้ ไปวางพิงใว้กับโคนต้นโพธิ์ต้นนี้ เนื่องจากสมัยนั้นจะหันไปปรึกษาใครก็ไม่ได้ว่าจะต้องนำไปตั้งหรือเก็บไว้ที่ไหนดี และตั้งแต่วันนั้นจนกระทั่งถึงปัจจุบัน เศียรนี้ก็ยังอยู่ ณ.จุดเดิม จนกระทั่งรากโพธิ์หรือไทรก็ตามแต่ ได้งอกโอบจนเกือบจะมิดอยู่แล้ว

จาก : ไกด์เฒ่า/The Guide 07/11/08 - 23:01 น.

ก่อนได้รับการรับรองขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ของกรมศิลปากร (ปีค.ศ.1963) ทางจังหวัดได้มีการเตรียมสถานที่เพื่อการสำรวจ วัดมหาธาตุเป็นวัดหนึ่งที่มีการ ลักลอบขุดหาสมบัติและได้พบจำนวนมาก(ตามข่าวจากชาวบ้าน) ดังนั้นจึงเป็นวัดที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ โดยให้คนคอยดูแล และจ้างคนมารักษาภูมิทัศน์ วัดมหาธาตุ มีความน่าสนใจมากโดยเฉพาะเจดีย์องค์ประธาน ที่ถูกเจาะถูกขุด จนมองดูคล้ายจะทะลายลงมา มีพระพุธรูปหินสลักหลายองค์น่าสนใจโผล่พ้นยอดหญ้าที่ขึ้นรกเกือบท่วมหัว เหลือเพียงทางเดินเล็กๆ เพื่อเดินไปยังวิหารและตัวพระเจดีย์องค์ประธาน (ตอนนั้นแม้กลางวันบางครั้งยังมีกลุ่มแสวงโชค เข้าไปขุดเจาะโดยอาศัยความรกทึบเป็นฉากบัง )

จึงมีการป้องกันโดยถางหญ้าออกให้มองเห็นสถานที่ได้ชัดเจน จากการถางปรับพื้นที่ได้พบชิ้นส่วนพระพุธรูปหินสลักจำนวนหนึ่ง ก็เก็บรวบรวมไว้โคนต้นไม้ แล้วพยายามหาที่มาที่ รวบรวมปะติดปะต่อเป็นองค์ได้บ้าง มีแต่เศียรพระองค์นี้ที่หาที่มาไม่ได้ เพราะขนาดไม่พอดีกับชิ้นส่วนอื่นที่พบ จึงหาที่เหมาะวางไว้ หลีกการเดินผ่านไปมาของผู้คนที่มาชมสถานที่ ซึ่งไม่งามสำหรับชาวพุทธ อนึ่งในบริเวณส่วนมากจะเป็นต้นพุทรา ต้นโพธิ์จึงเหมาะที่สุด เจตนาเดิมคือเพียงเพื่อพักรอการหาที่เหมาะสมกว่า หลังจากการขึ้นทะเบียนเมื่อปี 1965 ก็ไม่มีใครคิดจะย้ายเศียรนี้ จนรากโพธิ์เริ่มโอบเข้ามา แรกๆก็พอขยับได้ นานวันเข้าก็ยิ่งแน่นจนไม่ขยับได้ และผู้มาชมวัดเห็นแปลกก็ถ่ายรูปไว้ ซึ่งต่อมาก็กลายเป็น สัญญลักษณ์ของวัดมหาธาตุอยุธยา

เราผูกพันธ์กับที่นี่ตั้งแต่เด็กก่อนการขึ้นทะเบียน หลังการถางแล้วเคยมีคนอุตริ ฉี่รดต้นโพธิ์ต้นนี้ จำได้ว่าต้องเข้าโรงพยาบาลโดยไม่ทราบสาเหตุ ต้องนำดอกไม้ธูปเทียนมาขอขมาจึงรอด ช่วงหนึ่งมีคนมาบนบานศาลกล่าวมากมาย โดยสังเกตุจากเครื่องเซ่นมากมาย จนกรมศิลปากรต้องออกกฏห้าม มีหลายเหตุการณ์ รวมทั้งไกด์ท่านหนึ่งได้บนขอให้ลูกสอบเข้าเรียนหมอให้ได้ และสมประสงค์โดยสัญญาถวายช้างม้า ตอนนี้ลูกจบแล้วและเป็นอาจารย์สอนอยู่ มหิดล จะลองบ้างก็ได้ แต่อย่าลืม ตอนแก้บนระวังกรมศิลป์เพราะเป็นข้อห้าม

จาก : ไกด์กล้วยทอด 07/22/08 - 16:07 น.

ที่มา http://www.guidescenter.com/message_board.php?msg_type=5&msg_id=19159

 

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ครูคลุ้มคลั่ง เสียใจลูกศิษย์ตาย </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
ความคืบหน้าเพิ่มเติมกรณีรถนักเรียนประสานงารถ10ล้อ ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอยู่นั้นนายกุมาดี ดาแว ซึ่งเป็นครูผู้ควบคุมทีมได้รับบาดเจ็บหลายแห่งเช่นกัน เกิดอาการคลุ้มคลั่ง

เนื่องจากเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ทำการรักษา โดยตะโกนเสียงดังบอกว่าให้รักษาลูกศิษย์ก่อน จะพาลูกศิษย์กลับบ้านไม่ต้องมาสนใจตัวเอง ทางเจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันจับและพาไปรักษาบาดแผลเนื่องจากได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน

<DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-TOP: 0px">
สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิตประกอบด้วย

1.ดช.อับดุล
2.ด.ช.อันฮัมมิน แวหะมะ
3.ด.ช.มาลุวน
4.ด.ช.อนันต์ อาแว
5.ด.ช.ณัฐนันฐ์ เพ็ญดารา
6.ด.ช.หาซัน
7.ด.ช.นาซะลี หะยีนะมะ
และ 8.คนขับรถตู้ ยังไม่ทราบชื่อ

ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทราบชื่อคือ 1. ด.ช.มูฮัมมิน มุซิมสะมาแอ 2.ด.ช.นูมา แวมามะ 3.ด.ช.อารีฟัน สะและ 4.นายกุมาดี ดาแว ครูผู้ควบคุม ที่เหลืออยู่ระหว่างการตรวจสอบรายชื่อ เพราะรายชื่อนักเรียนบางคนยังไม่ชัดเจน




</DD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

โลก..อนาคต



...

 

กรรมการมรดกโลกเผยยูเนสโกโชว์ภาพ “เศียรพระในรากต้นโพธิ์” มรดกโลกอยุธยา ยกเป็น 1 ในที่สุดของมรดกโลก 936 แห่งทั่วโลก มั่นใจส่งผลนักท่องเที่ยวอยุธยาเพิ่ม
นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร ในฐานะกรรมการมรดกโลก กล่าวว่า ในช่วงการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สำนักงานใหญ่ องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ประเทศฝรั่งเศส ได้มีการคัดเลือกภาพแหล่งมรดกโลกทั้งด้านทางธรรมชาติ และวัฒนธรรม ประมาณ 40-50 ภาพ ขนาด 1 x 1.5 เมตร จากแหล่งมรดกโลกทั้งหมด 936 แหล่ง เพื่อนำมาติดไว้บริเวณรั้วของสำนักงานใหญ่ทั้ง 4 ด้าน พร้อมทั้งเขียนบรรยายที่มาของภาพแหล่งมรดกโลกต่างๆ ไว้ด้วย จากการที่คณะผู้แทนจากประเทศไทยได้เดินทางไปร่วมประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ครั้งที่ผ่านมา ได้พบเห็นภาพเศียรพระที่อยู่ในรากไม้ต้นโพธิ์ วัดมหาธาตุ มรดกโลกพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็น 1 ในสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ติดอยู่บริเวณประตูใหญ่ด้านหน้าทางเข้าสำนักงานใหญ่ยูเนสโกด้วย
“สำหรับเศียรพระที่อยู่ในรากไม้ต้นโพธิ์เป็นการเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ หรือเรียกอีกอย่างว่าเกิดขึ้นโดยบังเอิญ ช่วงบูรณะสมัยก่อน ซึ่งมีโบราณวัตถุมาเรียงกันไว้จำนวนมาก จนกระทั่งมีรากไม้มาหุ้มเศียรพระ ถือเป็นภาพที่น่าสนใจของไทย ซึ่งการที่ได้เห็นภาพดังกล่าวติดอยู่ริมรั้วของสำนักงานใหญ่ยูเนสโก อย่างน้อยก็ถือเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจที่ยูเนสโกได้คัดเลือกภาพเศียรพระที่อยู่ในรากไม้ต้นโพธิ์ ซึ่งเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ ส่วนหนึ่งของมรดกโลกอยุธยา แทนที่จะเลือกวัดมหาธาตุ หรือวัดไชยวัฒนาราม ซึ่งเป็นสถานที่เก่าแก่มีคนรู้จักมากจากมรดกโลกพระนครศรีอยุธยา หรือเลือกมรดกโลกบ้านเชียงมาติดไว้ อย่างไรก็ตาม ในครั้งต่อไปอาจจะมีการนำภาพมรดกโลกอื่น ๆ มาติดแทนก็ได้” นางโสมสุดากล่าว

กรรมการมรดกโลกกล่าวต่อไปว่า ส่วนภาพอื่น ๆ ที่ได้นำมาติดไว้บริเวณรั้วของสำนักงานใหญ่ยูเนสโกนั้น ส่วนใหญ่เป็นภาพไฮไลต์สุดยอดและมีความโดดเด่นของมรดกโลกของแต่ละประเทศ เช่น มรดกโลก มาชูปิกชู เมืองสาบสูญแห่งเมืองอินคา ประเทศเปรู ซึ่งในส่วนของไทยก็รู้สึกประหลาดใจ และประทับใจเล็ก ๆ ที่เห็นภาพดังกล่าวปรากฏ เพราะคิดว่าเป็นเพียงแค่ส่วนประกอบเล็ก ๆ ของวัดมหาธาตุ แหล่งมรดกโลกอยุธยาเท่านั้น ซึ่งจากการวิเคราะห์เบื้องต้น อาจจะมีความแปลก หรืออาจจะเป็นสิ่งที่เกิดจากธรรมชาติ และเศียรพระยังมีความสมบูรณ์ แสดงให้เห็นว่าแหล่งมรดกโลกอยุธยามีหลายจุดที่น่าเยี่ยมชม แม้จะเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ ในวัดมหาธาตุยังมีผู้ที่ให้ความสนใจและคัดเลือกภาพมาเผยแพร่สู่สายตาชาวโลก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพเศียรพระในรากต้นโพธิ์เคยปรากฏในเว็บไซต์ Tripadvisor อยู่ในเครือข่ายของเว็บไซต์ยูเนสโก ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวยุโรปนิยมหาข้อมูลท่องเที่ยวในเอเชีย พบว่านักท่องเที่ยวจะไม่พลาดที่จะมาชมแหล่งอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เศียรพระพุทธรูปหินทรายที่ถูกห่อหุ้มด้วยรากของต้นโพธิ์ภายในวัดมหาธาตุ ถือว่าเป็นอันซีนอินไทยแลนด์ เพราะนักท่องเที่ยวเข้าใจว่าพระอยู่ใต้ต้นโพธิ์ผุดขึ้นมา จึงทำให้นักท่องเที่ยวสนใจเป็นอย่างมาก ที่สำคัญได้มีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพเศียรพระพุทธรูปหินทรายที่ถูก ห่อหุ้มด้วยรากต้นโพธิ์ด้วย
ทั้งนี้ ในปี 2553 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในยุโรปและเอเชียมาเที่ยวชมอยุธยามากถึง 1.2 ล้านคน จาก 92 ประเทศ อาทิ โปรตุเกส เยอรมนี ญี่ปุ่น ซึ่งประเทศแถบยุโรปถือเป็นอันดับ 1 ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด ล่าสุด กรมศิลปากรได้ทำสถิตินักท่องเที่ยวเข้าชมและใช้บริการแหล่งโบราณสถาน และมรดกโลก เดือนตุลาคม 2553-พฤษภาคม 2554 มีนักท่องเที่ยวเข้าชมอุทยานฯพระนครศรีอยุธยาแล้วถึง 719,378 คน.
สำนักข่าวไทย
Mthai News
เกาะติดทุกข่าวเด่น

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>UN แถลงเสียใจ 'มาเลย์' ใช้กำลังสลายชุมนุม </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพข่าวจาก INN</TD></TR></TBODY></TABLE>
คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ แสดงความเสียใจต่อการสลายการชุมนุมของกลุ่มผู้ประท้วงในมาเลเซีย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

นายรูเพิร์ต โคลวิลล์ โฆษกของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ระบุในแถลงการณ์ว่า สหประชาชาติ กังวลอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์สลายการชุมนุมของรัฐบาลมาเลเซีย และผิดหวังต่อภาพตำรวจใช้กำลังเกินกว่าเหตุ ปราบปรามฝูงชนจำนวนมาก ซึ่งรวมตัวชุมนุมโดยสงบ

โดย คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ยังคงกังวลเกี่ยวกับกรณีการตามเล่นงานบุคคลเหล่านี้ย้อนหลัง รวมทั้งคนอื่นๆ ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้าการประท้วง เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว และรูปภาพ คุณภาพดี โดย: INN NEWS
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ทั่วทกภาคยังมีฝนตกกระจาย-กทม.มีฝน70%ของพื้นที่ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 13 กรกฏาคม 2554 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.

ร่องมรสุมยังคงพาดผ่านประเทศพม่า ลาว และเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วประเทศมีฝนกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ฝั่งตะวันตก จึงขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะนี้
สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามัน และด้านตะวันออกของอ่าวไทยตอนบน มีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 13-16 ก.ค. นี้

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรีประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง และพังงา อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

นายแพทย์เปโดร คาวาดาส
Mthai News: สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า แพทย์ได้ผ่าตัดปลูกถ่ายเนื้อเยื่อที่ขาให้กับหนุ่มสเปนวัย 20 ปี ได้สำเร็จเป็นรายแรกของโลก และจะเดินได้ในอีก ราว 6-7 เดือนข้างหน้า
โดยชายวัย 20 ปีคนนี้สูญเสียขาทั้งสองข้างตั้งแต่ช่วงเหนือเข่าลงไปจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ และเมื่ออาทิตย์ก่อนเขาได้เข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายขา ที่โรงพยาบาลลาเฟ เมืองวาเลนเซีย ทางตะวันออกของประเทศ โดยใช้เวลาทั้งสิ้น 10 ชั่วโมง จึงเสร็จสิ้นเมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา คนไข้ฟื้นจากการผ่าตัดในช่วงบ่ายวันเดียวกัน
ทั้งนี้ นายแพทย์เปโดร คาวาดาส เผยว่า ในระยะแรกต้องดูว่าการฟื้นฟูสภาพของคนไข้เป็นไปได้ดีเพียงใด เพราะหากเลือดไม่สามารถลงไปเลี้ยงขาที่ปลูกถ่ายใหม่ ขาทั้ง 2 ข้างก็ไม่สามารถใช้การได้ แต่หากเลือดไหลเวียนได้ดี เขาจะสามารถขยับขาได้ในอีก 3 สัปดาห์ข้างหน้า และขาใหม่จะสามารถรับน้ำหนักร่างกายของเขาได้ภายใน 3 เดือน
อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดครั้งนี้ ใช้บุคลากรทางการแพทย์ทั้งสิ้น 50 คน ทั้งศัลยแพทย์ พยาบาล วิสัญญีแพทย์ ผู้ประสานงานด้านการปลูกถ่าย โดยแพทย์ต้องทำการผ่าตัดเพื่อเช่อมต่อเส้นประสาท หลอดเลือด กล้ามเนื้อ เอ็นกล้ามเนื้อ และโครงสร้างกระดูก
ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการผ่าตัดปลูกถ่ายขา เนื่องจากคนไข้ถูกตัดขาในบริเวณที่สูงกว่าเข่า หากไม่ผ่าตัดด้วยวิธีนี้เขาอาจจะต้องนั่งรถเข็นไปทั้งชีวิต
Mthai News
เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย

ติดต่อทีมข่าว MThai News : news@mthai.com

ภาพจำลองการทำงานของขาที่ปลูกถ่ายเข้าไป




13 ก.ค. 54 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ที่บ้านหลังหนึ่ง ในเขต อ.บี่งแจ๋ง (Binh Chanh) ของเวียดนาม ได้เกิดเรื่องชวนสยองขึ้น ภายหลังเจ้าของบ้านที่ได้กลับจากญี่ปุ่นหลังไปทำงาน ต้องมาผงะ พบกับกองศพจำนวนกว่า 39ชีวิต ถูกยัดอยู่ในถุงซุกอยู่ภายในบ้าน
ซึ่งนาย เลเหวียดถวี (Le Viet Thuy) วัย 42 ปี เจ้าของบ้านเล่าว่า “บ้านหลังดังกล่าวตนได้ซื้อไว้เมื่อปีก่อนโดยใช้ชื่อเพื่อน ก่อนที่จะไปทำงานที่ญี่ปุ่น จากนั้นในปี 2547 มีคนได้โทรศัพท์ไปหา และขอเช่าบ้าน เพื่อทำเป็นร้านจำหน่ายโลงศพ ตนตึงได้ตกลงไปตามนั้น ซึ่งตนก้ไม่คิดไม่ฝันว่าเมื่อกลับมาบ้านแล้วต้องมาพบกับภาพสุดสยองดังกล่าว “หนุ่มเจ้าของบ้านเผย
ขณะที่การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวเคยเปิดเป็นร้านขายโลงศพมาก่อน อีกทั้งผู้ขอเช่าได้ทำสัญญาไว้กับทางการท้องถิ่นของอ.บี่งแจ๋ง ในการขุดศพออกจากสุสานแห่งหนึ่งเพื่อนำเอาที่ดินไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น ทางเจ้าหน้าที่จึงสันนิษฐานว่าศพทั้งหมดอาจเป็นศพที่ถูกขุดมาจากสุสานก็เป็นได้
แต่อย่างไรก็ตามยังไม่พบหลักฐานใดๆ ที่ระบุได้แน่ชัดว่าทั้ง 39ศพถูกขุดออกจากสุสานจริง จึงได้สั่งให้หาหลักฐานเพิ่ม เพื่อสืบค้นว่าศพทั้งหมดมีที่มา มาจากไหน และใครเป็นคนนำศพทั้งหมดมาทิ้งไว้ที่บ้านหลังดังกล่าว

Mthai News

 

วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7531 ข่าวสดรายวัน


ภัยอี.โคไลพันธุ์ใหม่ ยุติแล้ว-แต่ไม่ประมาท

คอลัมน์ หมุนก่อนโลก
วิทยา ผาสุก wittayapasuk@hotmail.com


<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>

</TD></TR></TBODY></TABLE>สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อแบคทีเรียอี.โคไล สายพันธุ์รุนแรง "โอ 104" (O104) ที่เคยระบาดหนักในทวีปยุโรปนั้น

ทุกวันนี้จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ภูมิภาคยุโรป ไม่พบการแพร่ระบาดครั้งใหม่ในแต่ละประเทศ

เท่ากับว่า ความหวาดหวั่นเจ้าเชื้ออี.โคไลมหาภัยพันธุ์ใหม่ "โอ 104" ก็ยุติลงชั่วคราว

ต้องขอบคุณสำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบ คุมโรค ไว้ตรงนี้ด้วย

เพราะแม้ข่าว "โอ 104" จะซามาระยะหนึ่งแล้ว แต่เว็บไซต์กรมควบคุมโรค กรมควบคุมโรค ก็ยังคงเกาะติดข่าวสารความคืบหน้าจากองค์การอนามัยโลกตลอดเวลา

เอาเป็นว่าวันนี้มาสรุปข้อมูลสถานการณ์ "โอ 104" ส่งท้าย ว่า มีชาติไหนต้องเดือดร้อนหรือพบความสูญเสียกันบ้าง

สำหรับประเทศที่พบผู้ป่วย และผู้ติดเชื้อ "อี.โคไล โอ 104" ประกอบด้วย

1. เยอรมนี 2. สวีเดน 3. เดนมาร์ค 4. อังกฤษ 5. ฝรั่งเสส

6. เนเธอร์แลนด์ 7. สวิตเซอร์แลนด์ 8. ออสเตรีย 9. สเปน 10. สาธารณรัฐเช็ก

11. โปแลนด์ 12. นอร์เวย์ 13. ลักเซมเบิร์ก 14. กรีซ และ 15. แคนาดา

แน่นอนว่าในกลุ่มนี้ เยอรมนี ซึ่งเป็นจุดพบการระบาดเริ่มแรกในวงกว้าง มีผู้ป่วยติดเชื้อสูงสุดเกือบ 4 พันราย เสียชีวิต 48 ราย

ส่วนประเทศอื่นๆ นั้น จริงๆ แล้วก็พบผู้ติดเชื้อในระดับหลักสิบ หรือหลักหน่วย

การที่วิกฤต "โอ 104" หนนี้ผ่านพ้นไปได้ ก็ต้องยกความดีให้ประชาคมโลก ซึ่งไม่ประมาทวางมาตรการเฝ้าระวังกันอย่างเข้มงวด

โดยเฉพาะเรื่องการตั้งด่านตรวจเชื้ออี.โคไลมรณะ ที่อาจปนเปื้อนมากับผลิตภัณฑ์อาหารจำพวกพืชผัก และธัญพืชต่างๆ

อย่างไรก็ตาม ข่าวบางกระแสบอกว่า หลังจากนี้ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางการยุโรป ยังต้องเฝ้าระวังเชื้อ "โอ 104" กันต่อไปอีกอย่างน้อยๆ 3 ปี

เพราะสำนักงานความปลอดภัยอาหารยุโรป พบว่า ผลิตภัณฑ์ "ลูกซัด" เครื่องเทศชนิดหนึ่งที่นำเข้ามาจากอียิปต์สู่ยุโรปนั้นเป็นหนึ่งในตัวการแพร่เชื้ออีโคไล "โอ 104" และเมื่อมาถึงยุโรปก็ได้กระจายไปวางจำหน่ายในหลายประเทศในยุโรป อาทิ เยอรมนี สเปน ออสเตรีย และอังกฤษ เป็นต้น

ไม่ว่าจะอยู่ในภาวะโรคระบาด หรือยังไม่มีโรคระบาด การตรวจสอบให้ถี่ถ้วน ป้องกันแต่เนิ่นๆ ย่อมเป็นเรื่องดีที่สุด

หวั่นภัยแย่งขุดเหมืองแร่ใต้ทะเลลึก ทำร้ายระบบนิเวศ-มหาอำนาจเอาเปรียบชาติจน



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>

</TD></TR></TBODY></TABLE>มนุษย์รู้จักขุดหาแร่ธาตุมาใช้ในอุตสาหกรรม เพื่อสร้างความเจริญให้ประเทศมานมนาน ไล่ขุดกันตั้งแต่บนบกเรื่อยไปจนถึงในน้ำ เรื่องการขุดเหมืองแร่ในทะเลลึกจึงไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นประเด็นที่สหรัฐกับ ประเทศกำลังพัฒนาถกกันมาเกือบ 30 ปีแล้ว

ใจความตอนหนึ่งของบทบัญญัติว่าด้วยการทำเหมืองแร่ใต้ทะเลลึกในอนุสัญญา ปี 2525 ในกฎหมายทะเลของสหประชาชาติระบุว่า พื้นทะเลตลอดทั้งทรัพยากรที่ได้จากพื้นทะเลนั้น ให้ถือเป็นมรดกร่วมกันของมนุษยชาติ แม้สหรัฐจะยอมรับความคิดนี้ แต่ยังยืนยันว่า ทรัพยากรใต้ทะเลเป็นทรัพย์ไม่มีเจ้าของ ใครครอบครองได้ก่อนจึงมีสิทธิ์ ซึ่งหมายความว่าสหรัฐและกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมที่มีทั้งทุนและเทคโนโลยีย่อมได้เปรียบ ความเหลื่อมล้ำตรงนี้จึงต้องให้มีการลงนามข้อตกลงร่วมกันว่า ประเทศพัฒนาแล้วจะต้องให้ความช่วยเหลือประเทศอื่นๆ เพื่อให้มีเทคโนโลยีทัดเทียมกัน แต่แนวคิดดังกล่าวก็ไม่สำเร็จเป็นรูปธรรม

ทุกวันนี้ มีผู้ดำเนินกิจการทำเหมืองแร่ใต้ทะเลลึกถึง 9 กลุ่ม ในจำนวนนี้ 4 กลุ่มเป็นบรรษัทข้ามชาติ อีกสองกลุ่มเป็นวิสาหกิจของฝรั่งเศสและญี่ปุ่น ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย อินเดีย และจีน

สำหรับสินแร่ในท้องทะเลลึกจะรวมตัวกันเป็นก้อนและมีส่วนผสมของแร่ธาตุต่างกันตามสถานที่ แร่ที่สำคัญคือ ทองแดง นิกเกิล โคบอลตŒ และแมงกานีส ก้อนแร่เหล่านี้จะอยู่ในระดับความลึกจากผิวน้ำ 3,500-6,000 เมตร

ยาสุชิโร กาโตะ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ คณะโลกศาสตร์ มหาวิทยาลัยโตเกียว ของญี่ปุ่น กล่าวว่า ในน่านน้ำสากลตั้งแต่ฝั่งตะวันออกและตะวันตกของเกาะฮาวายไปถึงทางตะวันออกของเกาะตาฮีติ ในเฟรนช์ โพลีนีเชีย พบก้อนแร่ 78 แห่ง รวมแล้ว 80,000-100,000 ล้านตัน กระบวนการทำเหมืองแร่ใต้น้ำ คือ การขุดเอาดินโคลนจากพื้นมหาสมุทรขึ้นมาเพื่อสกัดเลือกหาแร่ธาตุที่ต้องการด้วยการใช้กรดเจือจาง เป็นขั้นตอนที่ทำได้รวดเร็วในเวลาไม่กี่ชั่วโมง จะสกัดแร่ธาตุออกมาได้ 80-90%

อย่างไรก็ตาม นักนิเวศวิทยาและนักสิ่งแวดล้อมระบุว่า การทำเหมืองแร่ใต้ทะเลลึกทำร้ายระบบนิเวศวิทยาเลวร้ายไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการใช้อวนจับปลาที่ครูดหน้าดิน ทำลายหญ้าทะเลและปะการัง มนุษย์ต้องตั้งคำถามกับตัวเองให้มากขึ้นว่าคุ้มหรือไม่กับการพัฒนาที่มีรากฐานมาจากการบ่อนทำลายโลกซึ่งเป็นบ้านของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด

นาซ่าผลิตถุงรีไซเคิล"ฉี่"เป็นน้ำดื่ม



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>

</TD></TR></TBODY></TABLE>การดื่มปัสสาวะเป็นเรื่องชวนแหวะแม้จะนิยมในกลุ่มผู้รักสุขภาพทางเลือกบางกลุ่ม แต่สำหรับในพื้นที่แห้งแล้ง ขาดแคลนน้ำดื่ม การดื่มปัสสาวะเป็นเรื่องจำเป็นมาก เพื่อป้องกันร่างกายขาดน้ำ

นักบินอวกาศก็จำเป็นต้องดื่มน้ำ แต่จะให้ดื่มฉี่ก็กระไร ส่วนการขนน้ำขึ้นไปในอวกาศเป็นภาระหนักและสิ้นเปลือง องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ หรือนาซ่า จึงพัฒนาถุงวิเศษที่เปลี่ยนปัสสาวะให้เป็นน้ำดื่มได้

เจ้าถุงที่ว่านี้ชื่อว่า ฟอร์เวิร์ด ออสโมซิส แบ๊ก (Forward Osmosis Bag หรือ FOB) ได้ขึ้นไปทดลองใช้ในเที่ยวบินของยานแอตแลนติสเมื่อสุดสัปดาห์ ใช‰หลักของการออสโมซิส หรือการซึมผ่านของของเหลวผ่านเยื่อบางๆ จากบริเวณที่มีความหนาแน่นของน้ำมากไปสู่บริเวณที่มีความหนาแน่นของน้ำน้อย ซึ่งเยื่อดังกล่าวจะทำหน้าที่เหมือนปราการที่อนุญาตให้โมเลกุลขนาดเล็ก เช่น น้ำผ่านได้ แต่ดักโมเลกุลใหญ่ๆ เช่น เกลือ น้ำตาล แป้ง โปรตีน ไวรัส แบคทีเรียและปรสิตเอาไว้ โดยเพียงแค่เติมของเหลวลงไปในถุง จากนั้นโมเลกุลของน้ำจะซึมผ่านฟิลเตอร์เข้าไปยังสารละลายที่มีน้ำตาลเข้มข้น และรอราว 4-6 ชั่วโมง ก็จะได้น้ำดื่ม 1 ลิตรที่แน่นอนว่าสะอาดแต่มีรสหวานปะแล่มๆ จากน้ำตาลมาดื่ม

"เห็ดเรืองแสง"โผล่รอบ170ปี



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>

</TD></TR></TBODY></TABLE>ตำนานของเห็ดเรืองแสงในแวดวงนักพฤกษศาสตร์และชีววิทยาผุดขึ้นมาอีกครั้งเมื่อวารสารไมโคโลเจียรายงานว่า เห็ดเรืองแสงที่หายไปเมื่อ 170 ปีก่อน โผล่มาอีกครั้งที่ป่าฝนในบราซิล

ย้อนไปเมื่อปี 2383 จอร์จ การ์ดเนอร์ นักพฤกษศาสตร์ชื่อดังของอังกฤษรายงานการค้นพบที่แปลกประหลาดในบราซิลว่า เห็นกลุ่มเด็กผู้ชายเล่นเห็ดเรืองแสง เด็กๆ โชว์ให้การ์ดเนอร์ดูและชี้ว่าเห็ดงอกขึ้นมาจากกองใบไม้เน่าเปื่อยในป่าต้นปาล์มแคระ

การ์ดเนอร์ส่งเห็ดดังกล่าวกลับไปยังอังกฤษ จากนั้นจึงมีการตั้งชื่อเห็ดเพื่อเป็นเกียรติแก่เขาในฐานะผู้ค้นพบว่า Agaricus gardneri แต่เห็ดชนิดนี้ไม่มีใครพบเห็นอีกเลยกระทั่งเมื่อปี 2552 เดนนิส เดสจาร์ดิน นักวิทยาศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยซานฟรานซิสโก สหรัฐ และทีมวิจัยค้นพบมันอีกครั้ง

เดนนิส และ ดร.คาสเซียส สเตฟานี ทีมงานในบราซิล ออกไปเดินท่องป่าในค่ำคืนที่แสงจันทร์สว่าง สอดส่องมอง หาเห็ดแล้วถ่ายภาพเห็ดต่างๆ กลับมาวิเคราะห์และหวังว่าสักวันจะไขข้อสงสัยได้ว่าเห็ดเรืองแสงได้อย่างไรและเพื่ออะไร สำหรับกลุ่มเห็ดเรืองแสงในไทยมีชื่อว่า กลุ่มเห็ดกระสือ โดยเรืองแสงแบบไบโอลูมิเนสเซนต์ (bioluminescent) กล่าวคือ เป็นแสงที่เกิดจากการทำปฏิกิริยาชีวเคมีของสิ่งมีชีวิต โดยเปลี่ยนพลังงานออกมาเป็นแสง ซึ่งสัตว์อีกหลายชนิดก็ทำได้เช่น หิ่งห้อย แมงกะพรุน ปลาหมึกบางชนิด สัตว์ทะเลน้ำลึก

แจกฟรีซีดี"พุทธศาสดา" เทิดพระเกียรติ84พรรษาในหลวง



พระพรหมโมลี กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เปิดเผยถึงการจัดโครงการส่งเสริมพระพุทธศาสนาเนื่องในวันอาสาฬหบูชาและเทศกาลวันเข้าพรรษา เชิดชูวัดพิชยญาติการาม ศาสนสถานคู่รัตนโกสินทร์ ในวาระครบรอบ 170 ปี ระหว่างวันที่ 14-16 กรกฎาคม 2554 ว่า เนื่องในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษานี้ อยากให้ประชาชนคนไทยยึดหลัก 2 อย่างในการดำเนินชีวิต คือ การมีศีลเสมอกันและมีทิฐิเสมอกัน เพื่อให้ประเทศชาติเกิดความสงบเรียบร้อย โดยศีลเสมอกันหมายถึง การรักษาศีล 5 ไม่ละเมิดคิดร้ายผู้อื่น ส่วนการมีทิฐิเสมอกัน หมายถึง รู้จักลดทิฐิของตัวเองและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง นอกจากนี้ ทางโครงการภาพยนตร์พุทธศาสดาเฉลิม พระเกียรติ 84 พรรษามหาราชา ยังได้จัดทำดีวีดีภาพยนตร์พุทธศาสดา มามอบให้แก่ศูนย์เผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อนำไปมอบให้แก่วัดและสถานศึกษาในการศึกษาพุทธประวัติ และหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา เพื่อเป็นพุทธบูชาในวันเข้าพรรษานี้ด้วย ซึ่งจะทำให้เยาวชนเข้าใจและเข้าถึงพระพุทธศาสนามากขึ้น โดยจะมีพิธีมอบดีวีดีให้ผู้แทนในวันที่ 14 กรกฎาคม 2554

นายธัชชัย ถาวรธวัช เลขานุการคณะกรรมการโครงการภาพยนตร์พุทธศาสดา เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษามหาราชา กล่าวว่า สำหรับภาพยนตร์พุทธศาสดา เหล่าข้าราชบริพารในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ จัดทำถวายเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ทรงเจริญพระชนมายุครบ 80 พรรษา เมื่อปี 2546 และดำเนินการสร้างเสร็จในปี 2554 ใช้ระยะเวลา 8 ปี ซึ่งประจวบเหมาะเป็นปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทางโครงการจึงเห็นว่าควรนำดีวีดีภาพยนตร์พุทธศาสดา จำนวน 84,000 ชุด แจกให้แก่โรงเรียนในสังกัดคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ 32,000 โรง โรงเรียนสังกัดกทม. 400 โรง วัด 40,000 แห่ง รวมถึงพุทธศาสนิกชนทั่วไป เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา "เนื้อหาของภาพยนตร์พุทธศาสดา ได้รับการตรวจเนื้อหาจากพระเถรานุเถระผู้มีความรู้ อาทิ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน และกรมการศาสนา โดยภาพยนตร์จะเป็นเรื่องราวพุทธประวัติตั้งแต่ประสูติ ตรัสรู้ เผยแผ่พระธรรม จนถึงเสด็จดับขันธปรินิพพาน ลำดับเรื่องราวตามหลักฐานตามพระไตรปิฎก อรรถกถา ฎีกา และปฐมสมโพธิกถา ซึ่งจะมีเนื้อหาที่เข้าใจง่ายและมีภาพที่สวยงาม เข้าไปดูได้ที่ www.buddha-thushaveiheard.com"

สถานการณ์ข้าวครึ่งปีหลัง

คอลัมน์ เศรษฐกิจติดดิน
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด


ในเดือนมิ.ย.54 ดัชนีราคาข้าวทุกประเภทปรับเพิ่มสูงขึ้น เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค.54 และเดือนมิ.ย.53 โดยดัชนีราคาข้าวที่เกษตรกรขายได้ในเดือนมิ.ย.อยู่ในระดับ 182.70 เพิ่มขึ้น 3.5% จากเดือนก่อนหน้า (MoM) และเพิ่มขึ้น 11.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) ส่วนดัชนีราคาส่งออกข้าวทุกประเภทของไทยเพิ่มขึ้นไปที่ระดับ 138.38 หรือเพิ่มขึ้น 2.1% MoM และ 6.9% YoY

ส่วนแนวโน้มราคาข้าวในช่วงครึ่งหลังปี"54 นั้น ในช่วงเดือน ม.ค.-พ.ค.54 ไทยส่งออกได้ 5.13 ล้านตัน มูลค่า 2,894 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 87,692 ล้านบาท) วงการค้าข้าวคาดการณ์ว่าการส่งออกข้าวของไทยในปีนี้น่าจะเกิน 10 ล้านตัน ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ 9-9.5 ล้านตัน ซึ่งจะเป็นปริมาณส่งออกข้าวที่สูงสุดในรอบ 10 ปี

ขณะที่กระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทของเวียดนามคาดการณ์ว่า เวียดนามจะส่งออกข้าวในปี"54 ปริมาณ 7.4 ล้านตัน เทียบกับที่เคยตั้งเป้าหมายการส่งออกไว้เพียง 6 ล้านตัน ซึ่งหมายถึงในช่วงที่เหลือของปีนี้ การแข่งขันส่งออกข้าวระหว่างไทยกับเวียดนามยังคงรุนแรง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้

ปัจจัยที่ยังต้องติดตามคือ อินเดีย แม้ว่ารัฐบาลยังคงยืนยันที่จะไม่อนุญาตให้มีการส่งออกข้าวและข้าวสาลีจากสต๊อกของรัฐบาลในปีนี้ แต่เนื่องจากสต๊อกธัญพืชในอินเดียที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 65 ล้านตัน ซึ่งเกินกว่าความสามารถความจุของคลังสินค้าที่มีอยู่เพียง 62 ล้านตัน ทำให้มีสต๊อกธัญพืชบางส่วนเก็บไว้โดยไม่มีวัสดุคลุม ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเสียหายในช่วงฤดูมรสุม

ทำให้ยังคงมีความพยายามที่จะเสนอให้รัฐบาลอนุญาตให้ส่งออกข้าวที่ไม่ใช่ข้าวบัสมาติเพื่อช่วยพยุงราคาธัญพืชในประเทศที่ตกต่ำ ซึ่งการกลับมาส่งออกข้าวของอินเดียส่งผลต่อตลาดข้าวนึ่งของไทย และส่งผลต่อราคาข้าวในไทยด้วย

กระทรวงพาณิชย์จัดทำยุทธศาสตร์การค้าข้าวไทย เน้นส่งเสริมการส่งออกเชิงมูลค่ามากกว่าปริมาณ โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิมีการจัดทำมาตรฐานส่งออกให้หลากหลายมากขึ้น เป็น 2-3 มาตรฐาน เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับข้าวหอมมะลิ คาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนในการส่งออกข้าวหอมมะลิในช่วงที่เหลือของปีนี้ และคาดว่าราคาข้าวส่งออกในช่วงครึ่งหลังของปี"54 น่าจะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากความต้องการข้าวในตลาดโลกยังอยู่ในเกณฑ์สูง

อย่างไรก็ตาม ราคาข้าวอาจจะผันผวนในบางช่วงที่ประเทศผู้ซื้อชะลอการรับซื้อเพื่อรอดูสถานการณ์ โดยเฉพาะการปรับนโยบายการแทรกแซงตลาดข้าวของรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งอาจมีผลต่อราคาข้าวส่งออก

เจ๊งแน่

คอลัมน์ ถุงแดง


ผู้ประกอบการโรงงานผลิตและส่งออกเครื่องนุ่งห่มของไทย ถึงกับพูดไม่ออกบอกไม่ถูก และอาจถึงขั้นปิดโรงงานสูญพันธุ์กันเลยทีเดียว เพราะเจอปัญหาสาหัสหลายเด้ง คือ

จากประกาศอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือรวม 22 สาขาอาชีพ ของคณะกรรมการค่าจ้างที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.54 เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้ต้นทุนด้านค่าจ้างแรงงานปรับตัวสูงขึ้นมาก

โดยสาขาช่างเย็บสำหรับมาตรฐานจะมีฝีมือ 3 ระดับ คือ ระดับ 1 เป็นผู้ที่มีฝีมือและความรู้พื้นฐานในการทำงาน ระดับ 2 เป็นผู้ที่มีฝีมือระดับกลาง และระดับ 3 เป็นผู้ที่มีฝีมือระดับสูง

หากผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือในแต่ละระดับจะได้รับค่าจ้างไม่น้อยกว่า 250, 340 และ 430 บาท/วัน ตามลำดับ จากปัจจุบันอัตราค่าจ้างแรกเข้าของอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มเฉลี่ยที่ 170 บาท/วัน และแรงงานที่มีทักษะเฉลี่ยที่ 250 บาท/วัน

และค่าแรงจะปรับขึ้นมากไปอีก หากขั้นต่ำเพิ่มขึ้นเป็น 300 บาท/วัน ตามที่พรรคเพื่อไทยได้หาเสียงไว้ รวมถึงการปรับเพิ่มตามมาตรฐานฝีมือที่ต้องจ้างสูงกว่า 300 บาท

อีกทั้งขณะนี้ปัญหาขาดแคลนแรงงานยังคงหนักหน่วงชนิดที่มีการชิงตัวกันสุดฤทธิ์

ทั้งหมดนี้จะยิ่งเป็นตัวเร่งให้โรงงานการ์เมนต์ในภาพรวมปิดตัวเร็วขึ้น แทนที่จะอยู่ได้อีก 5 ปี 10 ปี อาจอยู่ได้แค่ 2 ปี

รัฐบาลชุดใหม่คงต้องหาทางออกอย่างเร่งด่วน

เอกชนเต้นชง"ยิ่งลักษณ์"รื้อค่าแรง ค้านขึ้นพรวด300บาท-อุตฯขนาดใหญ่ขู่ลดคน



นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับคณะกรรมการบริหารส.อ.ท. ถึงนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท/วัน ของรัฐบาลชุดใหม่ ว่า สัปดาห์หน้าจะหารือประเด็นค่าแรงในที่ประชุมคณะกรรมการร่วมเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) นัดพิเศษ หลังจากมีข้อสรุปจากกกร. แล้วจะนำเสนอไปยังน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรีต่อไป

ทั้งนี้ ในการประชุมกับคณะกรรมการบริหารส.อ.ท. ครั้งนี้มีข้อสรุปที่จะเสนอแนวคิดเรื่องการปรับขึ้นค่าแรงไปยังรัฐบาลชุดใหม่ 4 ประเด็นคือ 1.ไม่เห็นด้วยกับการปรับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทให้เท่ากันทั่วประเทศ 2.การปรับค่าแรงควรเป็นไปตามกลไกตลาด ควรให้คณะกรรมการไตรภาคีพิจารณา การเมืองไม่ควรแทรกแซง 3.รัฐบาลควรเข้ามาชดเชยส่วนต่างค่าแรงให้ผู้ประกอบการ อาทิ ในจังหวัดที่จ่ายค่าแรง 200 บาทหากขึ้น 300 บาท ในส่วนต่างที่ขึ้น 100 บาท รัฐบาลต้องเข้ามาชดเชยให้ 4.ส.อ.ท.พร้อมจะหารือกับภาครัฐเพื่อให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย

"ผู้ประกอบการมีความเห็นที่สอดคล้องกันคือ อยากให้ปรับขึ้นค่าแรงแบบค่อยเป็นค่อยไป บางบริษัทเสนอให้ทยอยปรับขึ้นในช่วง 4-5 ปี" นายพยุงศักดิ์ กล่าว

ด้านนายทวีกิจ จตุรเจริญคุณ รองประธานส.อ.ท. สายงานแรงงาน กล่าวว่า ผู้ประกอบการแต่ละจังหวัดเห็นว่าหากปรับขึ้นค่าแรงถึง 300 บาท คงอยู่ไม่ได้ ภาครัฐต้องเข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี 2.9 ล้านราย เพราะไม่มีประเทศไหนในโลกที่ปรับขึ้นค่าแรงสูงขนาดนี้

นายสมมาต ขุนเศษฐ เลขาธิการส.อ.ท. กล่าวว่า ได้สำรวจผลกระทบต่อการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำตามนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองจากสมาชิกส.อ.ท.จำนวน 513 ราย ครอบคลุม 40 กลุ่มอุตสาหกรรม พบว่าผู้ประกอบการ กว่า 90% ระบุว่าได้รับผลกระทบมากถึงปานกลาง และผลการสำรวจยังพบว่าผู้ประกอบการมีแนวโน้มจะจ้างงานลดลงโดยกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ลดลงสูงสุดถึง 27.33% และมีผู้ประกอบการ 16.9% ระบุว่าอาจปิดกิจการ ทั้งนี้ ค่าแรงขั้นต่ำที่กลุ่มผู้ประกอบการรับได้จะอยู่ระหว่าง 192-223 บาท/วัน หรืออัตราค่าจ้างที่จะปรับที่ผู้ประกอบการรับได้เฉลี่ยที่ 11.22% ซึ่งค่าจ้างถือเป็นต้นทุนของผู้ประกอบการ 10-20% หากปรับขึ้นมากผู้ประกอบการคงรับไม่ไหว

ส่วนนายธนิต โสรัตน์ รองประธานส.อ.ท.กล่าวว่า การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศเป็น 300 บาท จะเป็นการกดดันให้มีแรงงานผิดกฎหมายไหลเข้าสู่ประเทศไทยมากขึ้นเป็นทวีคูณจากปัจจุบันมีแรงงานต่างด้าวประมาณ 3.8 ล้านคน เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านค่าจ้างต่ำกว่าไทยมาก

นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กรณีที่ระบุว่าการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำไม่รวมแรงงานต่างด้าวนั้นไม่เป็นความจริงเพราะตามพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ระบุไว้ชัดเจนว่าการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำจะครอบคลุมแรงงานต่างด้าวที่ถูกกฎหมาย หากผู้ประกอบการไม่ปฏิบัติตามต้องโดนปรับ 1 แสนบาทจำคุก 1 ปี

จับตาฟองสบู่ภาคอสังหาฯ-ก่อสร้างอ่วม



นายธำรง ปัญญาสกุลวงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า สมาคมเตรียมหารือกับสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เพื่อเสนอแนวทางต่อรัฐบาลใหม่ ถึงการขอให้ทยอยปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำปีละ 10% ภายใน 4 ปี เพื่อให้อัตราค่าแรงขั้นต่ำได้ตามนโยบายรัฐบาลใหม่จากวันละ 215 บาท เป็น 300 บาท เพื่อให้ธุรกิจสามารถปรับตัวได้ ขณะเดียวกันเห็นด้วยกับมาตรการ กู้เงินซื้อบ้านหลังแรก 0% นาน 5 ปี ทำให้ผู้บริโภคซื้อบ้านถูกลง 25% ยังไม่นับรวมมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอน จด จำนอง และเพิ่มค่าลดหย่อนภาษีเงินได้เป็น 5 แสนบาท ล้วนเป็นการส่งเสริมผู้ซื้อบ้านได้ประโยชน์ แต่ต้องระมัด ระวังการให้สินเชื่อของสถาบันการเงิน จะมีผลให้คนซื้อบ้านแฝงมาด้วยการเก็งกำไร ซึ่งจะก่อปัญหาฟองสบู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต

ด้านนายพลพัฒ กรรณสูต นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย แสดงความกังวลว่า มีโอกาสที่บริษัทรับเหมาก่อสร้างจะประสบปัญหาขาดทุน หากรัฐบาลปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาทจริง เพราะจะทำให้ต้นทุนค่าแรงงานในอุตสาหกรรมก่อสร้างเพิ่มขึ้นจาก 20-25% เป็น 40% ประกอบกับขณะนี้เกิดปัญหาแรงงานภาคก่อสร้างขาดแคลน เนื่องจากแรงงานได้เคลื่อนย้ายไปสู่ภาคเกษตรกรรม

น.ส.สมจิตร เดิมธรณินทร์ ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาและสนับสนุนงานดัชนี สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า แนวโน้มราคาวัสดุก่อสร้างจากนี้ไปมีโอกาสปรับขึ้นต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 2 ปี"55 จากที่คาดการณ์ว่าภายในสิ้นปีนี้จะปรับขึ้น 5-6% ตามความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น

นายชูชีพ จิตร์อำไพ ผู้อำนวยการสำนักประเมินราคาทรัพย์สิน กรมธนารักษ์ กล่าวว่า แนวโน้มราคาประเมินที่ดินปี"55 อย่างไม่เป็นทางการ เบื้องต้นพบว่าราคาที่ดินทั่วประเทศปรับขึ้น 15% โดยในเขตกรุงเทพฯ ปรับขึ้นเฉลี่ย 30% เพิ่มขึ้นจากรอบปีที่แล้วที่ปรับขึ้นโดยเฉลี่ยที่ 6% โดยราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้า จะเพิ่มสูงสุดเฉลี่ย 50% สำหรับราคาที่ดินในเขตกรุงเทพฯ ที่มีราคาสูงสุดอยู่ที่บริเวณถนนสีลม เพลิน จิต และเยาวราช ราคาตร.ว.ละ 7 แสนบาท เพิ่มขึ้นจาก 6.5 แสนบาท


http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=38&contentID=150870

ชาวพุทธไม่เคยตักบาตรร้อยละ 25.79

มจร.ตะลึงข้อมูลวิจัย เผย ชาวพุทธไม่เคยทำบุญตักบาตรมากถึงร้อยละ 25.79 ขณะศีลที่คนไทยรักษายากทึ่สุดคือฆ่าสัตว์
เมื่อวันที่ 13 ก.ค. พระครูปลัดสุวัฒนจริยคุณ(ประสาน จันทสาโร) รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร.) เปิดเผยว่า จากการที่มจร.ได้รวบรวมงานวิจัยตั้งแต่ปี 2549-2553 เกี่ยวกับพฤติกรรมการทำบุญของพุทธศาสนิกชน โดยเฉพาะงานวิจัยเรื่องบทบาทของอุบาสกอุบาสิกาในการบำรุงพระพุทธศาสนา พบข้อมูลที่น่าสนใจหลายด้าน ดังนี้ ด้านการปฏิบัติตามแนวทางพระพุทธศาสนา กลุ่มตัวอย่างชาวพุทธทั่วประเทศจำนวน 310 ราย ให้ข้อมูลว่า เคยสวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำ ร้อยละ 30.66 เป็นบางครั้ง ร้อยละ 54.26 ไม่เคยปฏิบัติ 15.09 ที่น่าสนใจ คือหัวข้อการทำบุญตักบาตร พบว่า มีชาวพุทธไม่เคยทำบุญตักบาตรถึงร้อยละ 25.79 ปฏิบัติประจำ ร้อยละ10.22 เมื่อมีโอกาส ร้อยละ 18.73 ปฏิบัติเฉพาะวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ร้อยละ 45.26

พระครูปลัดสุวัฒนจริยคุณ กล่าวต่อไปว่า สำหรับศีลข้อที่รักษายากที่สุด คือ ศีลข้อ 1 ร้อยละ 31.39 รองลงมาข้อ 5 ร้อยละ 28.47 เมื่อแยกรายละเอียดตามภูมิภาค กลุ่มตัวอย่างภาคเหนือ บอกว่า เคยสวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำ ร้อยละ 27.78 เป็นบางครั้ง ร้อยละ56.67 และไม่เคยปฏิบัติ ร้อยละ 15.56 การทำบุญตักบาตร ทำประจำ ร้อยละ 11.11 เมื่อมีโอกาส ร้อยละ23.33 เฉพาะวันสำคัญฯร้อยละ46.67 ไม่เคยปฏิบัติ ร้อยละ 18.89 ส่วนศีลข้อที่รักษายากที่สุด อันดับ 1 ข้อ 5 ร้อยละ37.78 รองลงมาข้อ 1 ร้อยละ28.98 ในกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บอกว่า เคยสวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำ ร้อยละ 36.92 เป็นบางครั้ง ร้อยละ49.23 และไม่เคยปฏิบัติ ร้อยละ 13.85 การทำบุญตักบาตร ทำประจำ ร้อยละ 15.38 เมื่อมีโอกาส ร้อยละ21.54 เฉพาะวันสำคัญฯ ร้อยละ 40 ไม่เคยปฏิบัติร้อยละ 23.08 ส่วนศีลข้อที่รักษายากที่สุด อันดับ 1 ข้อ 5 และข้อ 1 ร้อยละ27.69 รองลงมาข้อ 2 ร้อยละ 20

รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์ฯมจร. กล่าวอีกว่า กลุ่มภาคกลาง บอกว่า เคยสวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำ ร้อยละ 34.44 เป็นบางครั้ง ร้อยละ56.67 และไม่เคยปฏิบัติ ร้อยละ 8.89 การทำบุญตักบาตร ทำประจำ ร้อยละ 10 เมื่อมีโอกาส ร้อยละ14.44 เฉพาะวันสำคัญฯร้อยละ52.22 ไม่เคยปฏิบัติร้อยละ 23.33 ส่วนศีลข้อที่รักษายากที่สุด อันดับ 1 ข้อ 5 ร้อยละ27.78 รองลงมาข้อ 4 ร้อยละ23.33 กลุ่มภาคใต้ บอกว่า เคยสวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำ ร้อยละ 24.24 เป็นบางครั้ง ร้อยละ57.58 และไม่เคยปฏิบัติ ร้อยละ 18.18 การทำบุญตักบาตรประจำ ร้อยละ 4.55 เมื่อมีโอกาส ร้อยละ12.12 เฉพาะวันสำคัญฯร้อยละ53.03 ไม่เคยปฏิบัติร้อยละ 30.30 ส่วนศีลข้อที่รักษายากที่สุด อันดับ 1 ข้อ 1 ร้อยละ40.91 รองลงมาข้อ 2 ร้อยละ24.24
“งานวิจัยที่มจร.ได้รวบรวมเกี่ยวกับการปฏิบัติตนชาวพุทธสะท้อนให้เห็นความเปลี่ยนแปลงของสังคมที่มีความเร่งรีบ ในขณะเดียวกันก็สะท้อนให้เห็นปัญหาสังคมที่มีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะการดื่มสุรา และการฆ่าสัตว์ หรือฆ่าคนด้วยกันเอง แต่ที่รู้สึกตกใจเห็นจะเป็นเรื่องของชาวพุทธบางส่วนไม่เคยทำบุญตักบาตร สวดมนต์ไหว้พระ ถึงแม้จะมีไม่มาก แต่ก็น่าห่วงว่า หากต่อไปในอนาคตคนไม่ใส่บาตร พระสงฆ์ สามเณรก็อยู่ไม่ได้ ดังนั้น ในช่วงวันสำคัญอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา จึงอยากชวนชาวพุทธคนใดที่ไม่เคยใส่บาตรให้มาทำบุญสักครั้ง เพื่อช่วยสืบทอดพระพุทธศาสนา”พระครูปลัดสุวัฒนจริยคุณ กล่าว



<FORM id=CFForm_1 name=CFForm_1 onsubmit="return _CF_checkCFForm_1(this)" action=# method=post></FORM>

 

พระสงฆ์สาวกของสมเด็จองค์พระสัมมาสัมพุทธพุทธเจ้าหากปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้ว ชาวบ้านไม่ใส่บาตรเทวดายังมาโปรดได้ ไม่เห็นต้องไปกลัวพระอด การ:z2พูดว่าพระจะอยู่ไม่ได้ฟังดูไม่เหมาะเหมือนผู้ใช้แรงงาน

 

สงสารประเทศไทย ไม่ยอมรับผลความต้องการของประชาชน พยายามทำลาย พวกเขาคงต้องการให้เกิดความวุ่นวายในประเทศเพื่ออ้างเหตุยึดครองอำนาจเพื่อรักษาอำนาจของตน ไม่ต้องการให้ประชาชนมีความสุข ไม่ต้องการให้ประเทศพัฒนาต่อไป คงต้องการให้เขาเป็นคนยากคนจนตลอดไป เพื่อการควบคุม ครั้งนี้ทหารคงยากจะควบคุม หรือว่าเราจะสิ้นแผ่นดินประเทศแตกออกเป็นส่วนๆดังที่เขาวิเคราะห์และทำนายกันไว้ และอาจจะทำให้หลายๆระบบล่มสลายไปด้วย

 

พวกเขาที่ท่านว่าหมายถึงผู้ใดเหรอครับ...หลายคนคงอยากจะรู้รวมถึงตัวกระผมเองด้วย...เอาแจ่มๆชัดๆเลยครับ..พอดีว่าผมโง่คิดไม่ออกอ่ะครับ

 

นิวซีแลนด์..เผชิญกับหิมะตกหนัก​

​

สภาพอากาศเลวร้ายยังคงเล่นงานนิวซีแลนด์เมื่อวานนี้ โดยพายุหิมะที่รุนแรงบนเกาะใต้ บังคับให้ต้องมีการปิดโรงเรียน ถนนและแหล่งพักผ่อนเล่นสกี

พนักงานดูแลถนนของท้องถิ่น เปิดเผยว่า หิมะตกลงมาเร็วกว่าพนักงานจะสามารถเก็บกวาดได้ทัน ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้เลวร้ายที่สุดในรอบ 15 ปี ผู้ขับขี่ยวดยานได้รับคำแนะนำให้ติดโซ่หิมะเข้ากับยางรถยนต์ของพวกเขา และนักเล่นสกีที่หวังจะไปให้ถึงเนินหิมะใกล้กับเมืองควีนส์ทาวน์ ก็ต้องสกีลงมาตามถนนที่เต็มไปด้วยหิมะ

ผู้ชายคนหนึ่งกล่าวว่า เมื่อขึ้นไปบนภูเขาไม่ได้ เราก็สกีลงมาตามเส้นทางคู่ขนาน ทรัพย์สินต่างๆ ในเมืองเกรย์เมาท์ริมชายฝั่งก็ได้รับความเสียหายจากลมแรง แอแลน แม็คเอแรนีย์ ผู้บัญชาการตำรวจดับเพลิงเมืองเกรซเมาท์ กล่าวว่า ลมแรงมาก แรงมากจริงๆ ฟ้าร้องฟ้าแลบลูกเห็บทุกอย่างถาโถมเข้าใส่เรา

สำนักงานลมฟ้าอากาศเม็ทเซอร์วิสแห่งชาติของนิวซีแลนด์ กล่าวว่า ลมแรงเหนือครึ่งล่างของเกาะเหนืออาจจะสร้างความเสียหายให้กับอาคารบ้านเรือน ต้นไม้ และสายไฟฟ้าและทำให้การขับขี่ยวดยานอันตราย ลมแรงยังเป็นอุปสรรคต่อการบินของนกในท้องถิ่นอีกด้วย

คลีนิกสัตวแพทย์แห่งหนึ่งในกรุงเวลลิงตัน นครหลวงของนิวซีแลนด์ กำลังให้ที่หลบภัยที่ปลอดภัยกับนกทะเลที่บาดเจ็บบางตัว ขณะเดียวกันคลื่นลมในทะเลที่แรงจัดก็ยังคงถาโถมเข้าเล่นงานชายฝั่งตะวันตกของเมืองโอกแลนด์ นิวซีแลนด์ถูกพายุฝนฟ้าคะนองเล่นงานตลอดช่วง 2 ถึง 3 วันที่ผ่านมา พายุทอร์นาโด นัดถล่มชายฝั่งคาปิตี ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเวลลิงตันเมื่อวันเสาร์ ทำให้บ้านเรือนบางส่วนเสียหายและทำให้ต้นไม้ถอนรากถอนโคน

ข่าวทีวีช่อง 3 วันพฤหัสบดี ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

จีน..น้ำท่วมดินถล่มที่เสฉวน​

​

ฝนที่ตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมและโคลนถล่มขึ้นในมณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ทำให้เกิดไฟฟ้าดับและการขนส่งหยุดชะงักเป็นการชั่วคราว

น้ำท่วมฉับพลันจากฝนที่ตกหนักในอำเภอยาเจียง ของมณฑลเสฉวน ช่วงบ่ายวันอังคาร ทำให้บ้านเรือนบางส่วนเสียหาย ตำรวจดับเพลิงและเจ้าหน้าที่กู้ภ้ยท้องถิ่น ถูกส่งไปปฏิบัติค้นหาและช่วยเหลือประชาชนที่ติดค้างอยู่ในเขตอุทกภัย แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานการเสียชีวิตและบาดเจ็บ

ฝนที่ตกหนักก่อให้เกิดความโกลาหลขึ้นในมณฑลเสฉวนมาตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 คน และบังคับให้ประชาชนเกือบ 170,000 คนต้องย้ายที่อยู่ ภัยพิบัติธรรมชาติประเภทต่างๆ คร่าชีวิตประชาชนไป 449 คน และอีก 100 คนสูญหายในจีน ช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้

ข่าวทีวีช่อง 3 วันพฤหัสบดี ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

อินเดีย..ระเบิด 3 ครั้งซ้อนที่มุมไบ​

​

เกิดระเบิด 3 ครั้ง ที่แหล่งชุมชนในนครมุมไบ ศูนย์กลางทางการเงินของอินเดีย เมื่อเย็นวานนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 21 คน

เหตุระเบิด 3 ครั้งเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.ที่เกิดเหตุมีทั้งตลาดเพชรชื่อดัง, ย่านธุรกิจทางใต้ของนครมุมไบ และย่านชุมชนแออัดใจกลางเมือง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 21 คน และบาดเจ็บกว่า 141 คน นับเป็นเหตุโจมตีก่อการร้ายที่รุนแรงที่สุดของอินเดีย นับตั้งแต่เกิดเหตุโจมตีมุมไบเมื่อเกือบ 3 ปีที่แล้ว เชื่อว่าครั้งนี้คนร้ายต้องการให้มีคนบาดเจ็บล้มตายมากที่สุด เพราะเลือกเป้าหมายที่เป็นแหล่งชุมชน และเป็นช่วงเลิกงานพอดี

ด้านรัฐมนตรีมหาดไทยของรัฐบาลกลางอินเดีย ได้สั่งยกระดับเตือนภัยขั้นสูงสุดทั่วนครมุมไบ พร้อมกับส่งทีมสืบสวนเข้าไปแล้ว ขณะเดียวกันก็ขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ ทันทีที่ทราบข่าว รัฐบาลปากีสถานได้ออกมาแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บที่เกิดขึ้น ขณะที่ประธานาธิบดี บารัค โอบาม่า ผู้นำสหรัฐฯได้ออกแถลงการณ์ประนามว่าเป็นการก่อการร้ายที่น่าเศร้า พร้อมกับเสนอให้ความช่วยเหลืออินเดียนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ

ข่าวทีวีช่อง 3 วันพฤหัสบดี ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ที่มา http://www.krobkruakao.com

 

“พระรักเกียรติ” เผยชีวิตนักการเมืองเต็มไปด้วยกิเลส​

​

สำนักข่าวเนชั่น 13 ก.ค. - “พระรักเกียรติ” เทศน์ขรก.ทำเนียบฯเผยชีวิตนักการเมืองเต็มไปด้วยกิเลส แนะทักษิณกลับมารับผิดติดคุกในไทยก่อน เชื่อได้อภัยโทษ-สร้างความปรองดองได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พระรักเกียรติ รักขิตะธัมโม (สุขธนะ) อดีตรมว.สาธารณสุข กล่าวบรรยายแก่ข้าราชการทำเนียบรัฐบาล เรื่อง “ธรรมะเปลี่ยนชีวิต” ซึ่งจัดโดยคณะทำงานดำเนินการตามมาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล

พระรักเกียรติ กล่าวตอนหนึ่งว่า ในสมัยที่เป็นนักการเมือง เคยดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีถึง 5 สมัย ตกอยู่ในวังวนของสุรา นารี ภาชี กีฬาบัตร ถ้าอยากไปต่างประเทศก็มีคนพาไป เมื่อไปทุกประเทศต้องได้ผู้หญิงหมดทุกประเทศ มิฉะนั้นเรียกว่าไปไม่ถึง และถ้าอยากนอนกับนางงามจักรวาลคนไหน ก็ชี้ได้เลยเดี๋ยวจัดมาให้ อีกทั้งถ้าอยากเล่นคาสิโน ก็ได้เล่น ถ้าเล่นเสียก็มีคนมาตามจ่าย เป็นการใช้ชีวิตแบบสุดๆบนความประมาท

พระรักเกียรติ กล่าวว่า ตอนนั้นคิดว่ามีความสุขที่สุดแล้ว แต่ที่จริงไม่ใช่เลย และเมื่อเกิดทุกข์และต้องรับโทษ อาตมาจึงไม่โทษใคร เพราะทั้งหมดเป็นผลจากการกระทำของตัวเอง อาตมาถือเป็นนักการเมืองคนแรกที่ถูกพิจารณาคดีโดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อศาลเห็นว่าเป็นถึงข้าราชการการเมือง และได้ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าพระพักตร์ แต่กลับเป็นผู้กระทำผิดเสียเอง จึงให้ถูกลงโทษสถานหนัก 3 เท่าของโทษปกติ

พระรักเกียรติ กล่าวอีกว่า อาตมาจึงขอเตือนข้าราชการให้ตระหนักด้วยว่าถ้ากระทำผิด จะต้องรับโทษหนักกว่าคนทั่วไปหลายเท่า และขออย่าได้มีความหลงใหลในอำนาจและความอยากได้ใคร่มี เพราะจะนำมาซึ่งความทุกข์ในทุกด้าน ชื่อเสียงป่นปี้ ทรัพย์สินถูกยึด และลูกเมียลำบากตกเป็นจำเลยสังคม
<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O></O>
พระรักเกียรติ กล่าวว่า ยกตัวอย่างคดีของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะมีการนิรโทษกรรมหรือการให้คนเสื้อแดงรวมชื่อกันเพื่อขออภัยโทษนั้น เป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ และผิดหลักของบ้านเมือง แต่ถ้าเขาอยากพ้นทุกข์และอยากกลับบ้าน ต้องรับโทษจำคุกก่อน ทำตัวดี แล้วจึงขออภัยโทษ

“อาตมารู้จักทักษิณ ดี เคยบอกแล้วว่าโทษจำคุก 2 ปี แต่เมื่อจำคุกจริงๆไม่ถึงหรอก อย่างมากไม่กี่เดือน เมื่อมาจำคุกจริงแล้ว ให้รัฐบาลของน้องตัวเองขออภัยโทษตามหลักปรองดองเลย อาตมาเขียนร่างขออภัยโทษให้เองก็ได้ คนจะยอมรับ ปัญหาจะได้จบ ความสามัคคีจะได้เกิด มิฉะนั้นจะตอบคำถามคนอื่นอย่างไร จะต้องยอมนิรโทษกรรมให้คนอื่น เช่น วัฒนา อัศวเหม และสมชาย คุณปลื้ม ด้วยหรือไม่ และจะตอบคำถามคนที่ติดคุกยอมรับโทษตามกฎหมายได้อย่างไร” พระรักเกียรติ กล่าว

พระรักเกียรติ กล่าวว่า ดังนั้นสิ่งที่จะทำเพื่อคนคนเดียวนั้น ไม่มีวันที่จะสร้างความปรองดองได้ ตราบเท่าที่ยังมีคนไม่ยอมรับ และไม่ได้รับการปฎิบัติบนมาตรฐานเดียวกับพ.ต.ท.ทักษิณ

สมัชชา หุ่นสาระ…สำนักข่าวเนชั่น twitter @Samudcha_nna

ที่มา http://www.suthichaiyoon.com/detail/12063

 

ผมคิดว่าน่าจะเป็นนักการเมืองไทยนะครับ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยทุกวันนี้มาจากนักการเมืองทั้งนั้น ละเมิดกฎหมายบ้านเมืองสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน ข่มขู่คุกคามเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชน เกิดจากการกระทำของนักการเมืองทั้งนั้น หากผมคิดไม่ผิดไปจาก คุณ gun 2555

 

คงอีกไม่นาน โลกทั้งโลกคงรวมเป็นประเทศเดียว คงถูกประเทศที่มีเปรียบทุกอย่างกลืนกินหมด ประเทศที่ด้อยพัฒนา คนที่ด้อยไร้ความสามารถเช่นคนพิการคนชราคงถูกกำจัดไป นอกนั้นก็เป็นทาสเหมือนหุ่นยนต์ เช่นในภาพยนต์ที่สร้างออกมาแล้ว ทรัพยากรของโลกคงถูกชาติที่มีเปรียบทุกอย่างยึดไปเป็นของตนหมด เป็นโลกที่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก เป็นโลกทุนนิยมสามานย์มือใครยาวสาวได้สาวเอา

 

ด้วยความเคารพครับ (เรื่องการเมือง),(เรื่องความเท่าเทียมทางเพศ) ถ้าไม่จำเป็นผมว่าอย่านำมาเป็นประเด็นถกเถียงกันเลยครับ จากพูดคุยแบบมิตร จะกลับกลายเป็นศัตรูกัน เก็บความคิดเห็นไว้วิจารย์กันที่อื่น ที่ไม่ใช่ที่นี่ น่าจะดีกว่านะครับ

 

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพข่าวจาก INN</TD></TR></TBODY></TABLE>
พายุไต้ฝุ่น มา-ออน ที่ก่อตัวอยู่บริเวณ ทิศตะวันตกของ มหาสมุทรแปซิฟิก มีกำลังแรงถึง 655 ไมล์ต่อชั่วโมง กำลังพัดผ่านเข้าบริเวณเกาะอิโว จิม่า ประเทศญี่ปุ่น ศูนย์เตือนภัยพายุ รายงานประกาศเตือนว่า ไต้ฝุ่น มา-ออน ที่มีกำลังแรงถึง 655 ไมล์ต่อชั่วโมง จะพัดผ่านเข้าทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะอิโว จิม่า ในประเทศญี่ปุ่น โดยประกาศเตือนให้จับตาดูความเคลื่อนไหวกับพายุนี้


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว และรูปภาพ คุณภาพดี โดย: INN NEWS
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>กรมอุตุชี้ฝนตกทั่วไทยระวังพื้นที่น้ำท่วมฉับพลัน </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>
อุตุพยากรณ์ ฝนตกทั่วประเทศหลังร่องมรสุมจากพม่าเลื่อนผ่านภาคเหนือ-อีสาน ลมทะเลแรง เตือนชาวประมงงดเดินเรือเล็กในทะเลอันดามัน ส่วนพื้นที่เสี่ยงภัยให้ระวังน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก


วันนี้ (14 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวัน ลักษณะอากาศทั่วไปตั้งแต่เวลา 06.00 น. จนถึง เวลา 06.00 น. วันพรุ่งนี้ว่า ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศพม่า ลาว และเวียดนามตอนบนจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของ ประเทศไทยในวันนี้ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วประเทศมีฝนกระจายถึงเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียง เหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากสภาวะฝนที่ ตกต่อเนื่องอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามัน และด้านตะวันออกของอ่าวไทยตอนบน มีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 14-16 ก.ค. นี้


สำหรับพยากรณ์อากาศทั่วประเทศไทยมีดังต่อไปนี้


ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
และกระโชกแรง บริเวณจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง และลมกระโชกแรง บริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา
อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรีประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง และพังงา
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฆล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่
กับมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>บึ้มมุมไบ3ครั้งซ้อนตายกว่า20เจ็บเพียบ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบจากคมชัดลึก</TD></TR></TBODY></TABLE>
เกิดเหตุระเบิด 3 ครั้งซ้อน ในย่านการค้าของเมืองมุมไบ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย บาดเจ็บอีก 113 คน

นายพริธวิราช ชวาล มุขมนตรีรัฐมหาราษฎระ ของอินเดีย เปิดเผย วันที่ 13 ก.ค. 54 ว่า เกิดเหตุระเบิดขึ้น 3 ครั้งซ้อน ช่วงเวลาเร่งด่วนตอนเย็น ในย่านการค้า และชุมชนหนาแน่นทางตอนใต้ และตอนกลาง ของนครมุมไบ เมืองเอกของรัฐ
จนถึงล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตไว้ที่ 17 รายแล้ว และบาดเจ็บอีกถึง 81 ราย
ด้านนายพี ชิดัมบาราม รัฐมนตรีมหาดไทยของอินเดีย ออกแถลงการณ์ว่า เป็นการร่วมมือกันโจมตีของกลุ่มก่อการร้าย
ล่าสุด มีรายงานว่า อินเดียได้ประกาศเตือนภัย ในกรุงนิวเดลี และอีกหลายเมืองใหญ่แล้ว
ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดระเบิด 3 ครั้งซ้อนถล่มแหล่งชุมชนในมุมไบ ศูนย์กลางทางการเงินของอินเดียเมื่อเย็นวันที่ 13ก.ค.54 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 รายและบาดเจ็บ 113 ซึ่งนับเป็นเหตุโจมตีก่อการร้ายต่อดินแดนภารตะครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายปี
นายพี ชิดัมบาราม รัฐมนตรีมหาดไทย ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวจากนิวเดลี ระบุว่า ได้รับรายงานเพิ่มเติมว่า ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งเป็นอย่างน้อย 20 รายและบาดเจ็บ 113 คน และระบุว่า มันคือการโจมตี พร้อม ๆ กัน ของพวกก่อการร้าย ซึ่งมีการยกระดับเตือนภัยขั้นสูงสุด ทั่วเมืองมุมไบ ผมวิงวอนประชาชนมุมไบ และทั่วทั้งประเทศจงอยู่ในความสงบ"
นายพี ยังบอกด้วยว่า ทีมสืบสวนจากรัฐบาลกลางกำลังมุ่งหน้าไปยังมุมไบ
รายงานข่าวระบุว่า คนร้ายใช้ระเบิดแสวงเครื่อง โจมตีแหล่งชุมชนของชนชั้นกลาง ขณะที่โฆษกสำนักงานตำรวจเมืองมุมไบ เปิดเผยว่า ระเบิดลูกแรก โจมตีเขตดาดาร์ ย่านใจกลางเมือง ลูกที่ 2 ระเบิดกลางตลาดค้าอัญมณีชาห์เวรี บาซาร์ และลูกที่ 3 ที่ย่านธุรกิจการค้าโอเปร่า เฮาส์


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>



“ทำงานด้วยกัน ต้องตายด้วยกัน ” สุนัขตรอมใจตาย หลังเพื่อนทหารถูกยิงในสนามรบ
Mthainews: สำนักข่าวต่างประเทศนำเสนอเรื่องราวความสัมพันธ์ของสุนัขกับทหารนายหนึ่งเมื่อ สุนัขแสนรู้ที่ร่วมปฏิบัติการฝ่ายค้นหาในสงครามอัฟกานิสถาน เกิดตรอมใจตายตาม หลังจากที่ทหารเพื่อนร่วมภารกิจถูกผู้ก่อการร้ายสังหารเสียชีวิต เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
สิบตรีไลแอม แทสเกอร์ ทหารวัย 26 ปี หนึ่งในกองกำลังทหารจากเมือง คิกคาล์ดี สหราชอาณาจักร ถูกผู้ก่อการร้ายยิง ขณะลาดตระเวนที่กรุงเฮลมันด์ ทางภาคใต้ของอัฟกานิสถาน การสอบสวนทราบว่า ทหารคนดังกล่าว คาดว่าถูกคนร้ายใช้ปินกลยิงเข้าที่ใบหน้า
เพียงไม่กี่ชั่วโมงถัดมา พบร่างของเจ้าธีโอ สุนัขพันธ์สปริงเกอร์ สเปเนียล วัย22เดือน นอนตายตามภายหลังที่เพื่อนผู้ร่วมภารกิจของมันจากไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง รายงานระบุว่า คาดว่ามันน่าจะตรอมใจตาย (broken heart)

เพื่อนตาย: ภาพแทสเกอร์ และธีโอ กำลังฝึกเก็บกู้วัตถุระเบิดในอัฟกานิสถาน
นางเจน แม่ของแทสเกอร์ ทหารผู้เสียชีวิตกล่าวว่า ทั้งคู่นั้นได้ปฏิบัติภารกิเป็นหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดร่วมกันมา จนผูกพัน ฉะนั้น หากมีใครตายจากไป ก็ต้องตายด้วยกัน
เจ้าธีโอ เป็นสุนัขค้นหา ช่วยทหารสอดแนม ค้นหาอาวุธและระเบิด โดยได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี จนถูกส่งไปปฏิบัติในพื้นที่เสี่ยงอันตรายของกรุงเฮลมันด์ จนกระทั่งจบชีวิตลงครอบครัวของแทสเกอร์ กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจในความกล้าหาญของ ลูกชายและเจ้าธีโอ ที่เป็นเยี่ยงวีรบุรุษ สละชีวิตในสมรภูมิรบในครั้งนี้
สำหรับพิธีศพจัดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า

Mthainews





ภาพประกอบ ไม่เกี่ยวข้องกับข่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า นายปลอดประสพ สุรัสวัสดี สส.ปาร์ตี้ลิสต์พรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงเรื่องนโยบายถมทะเล สร้างเมืองใหม่ ที่ จ.สมุทรปราการ ว่า
พรรคเพื่อไทยไม่ได้ประกาศว่า หากได้เป็นรัฐบาล แล้วจะดำเนินโครงการหรือตอกเสาเข็มทันที แต่รัฐบาลใหม่จะใช้เวลาศึกษาโครงการดังกล่าว หรืออาจหาแนวทางอื่นที่ป้องกันน้ำท่วม ภายใน 6 เดือน ถึง 1 ปี
ทั้งนี้ นายปลอดประสพ ยังกล่าวต่อว่า รัฐบาลใหม่ยืนยันว่า จะลงมือแก้ปัญหาน้ำท่วมแน่นอน เพราะทุกวันนี้ปริมาณน้ำสูงขึ้นปีละ 2 มิลลิเมตร ถ้าปล่อยไว้น้ำจะท่วมกรุงเทพ บวกกับแผ่นดินที่จะทรุดอีก
ขอบคุณภาพประกอบจาก varintra.multiply.com
Mthai News






แม่น้ำอามู
MThai News: สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่าโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นอีพี) เผยรายงานการประเมินสภาพแวดล้อม “อามู-ดารยา” ระบุว่าการปลูกฝ้ายเพื่อป้อนผลผลิตสู่ระบบอุตสาหกรรม หลังยุคอดีตสหภาพโซเวียตล่มสลาย เมื่อ 50 ปีที่ผ่านมา เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้แม่น้ำสายดังกล่าวได้รับผลกระทบ รวมทั้ง การใช้ยาฆ่าแมลงที่มีส่วนผสมจากสารเคมีเพื่อปลูกฝ้ายก็เป็นสาเหตุหนึ่งซึ่งทำลายความอุดมสมบูรณ์ของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ
นอกจากนี้ โครงการสร้างเขื่อนทำให้แม่น้ำเปลี่ยนทิศทางจนบางช่วงแห้งขอด ชนพื้นเมืองซึ่งเคยทำประมงน้ำจืดต้องเปลี่ยนอาชีพและวิถีชีวิต อีกทั้งการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรในรอบ 50 ปี จากเดิม 14 ล้านคนในปี 2503 กลายเป็น 50 ล้านคนในปี 2553 ส่งผลให้ภูมิภาคริมแม่น้ำอามู-ดารยาเสี่ยงต่อภัยแล้งอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง และอาจนำไปสู่การทำสงครามแย่งชิงน้ำในอนาคต
อย่างไรก็ตาม อามู-ดารยา คือ แม่น้ำสายหลักยาว 2,500 กม. ที่ไหลผ่าน 4 ประเทศในเอเชียกลาง คือ ทาจิกิสถาน อุซเบกิสถาน เติร์กเมนิสถาน และอัฟกานิสถาน
Mthai News

 

ใครที่ฟังภาษาอังกฤษได้ อาจจะสนใจไปฟัง (เสียงสังเคราะห์จากคอมพิวเตอร์) หรือไป อ่านตัวหนังสือวิ่งในวีดิโอก็ได้ครับ เป็นการถามและตอบระหว่างคนชาวโลก กับ มนุษย์จากอันโดรเมดา เป็นนักวิจัย ชื่อ มิทธี ตอนล่าสุดคือตอนนี้ มิทธีเขาพูดถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดในอีก ๒ เดือนข้างหน้าด้วย คือ ดาวแคระจะโคจรมาใกล้โลกที่สุดในปลายเดือนกันยายนนี้ แต่ตอนนี้ น่าซ่ายังปิดข่าวอยู่ (โดยคนจะเริ่มเห็นดาวแคระได้ด้วยตาเปล่าชัดเจนตั้งแต่สิงหาคมนี้เป็นต้นไป)
‪ช่องของ atlanticobr‬&rlm; - YouTube

และถ้าใครฟังแล้วสนใจก็ไปดูตอนเก่าๆได้ครับ ตอนนี้มีถามตอบอยู่ ๕๒ ตอน ส่วนตัวผมไปฟังมาหมดแล้ว ก็คิดว่า ถ้ามิทธีไม่ใช่มนุษย์จากแอนโดรเมดาจริง เขาก็แต่งเรื่องได้น่าเชื่อถือ เนียนมากเลย ถ้าปะติดปะต่อคำถามคำตอบจากทั้ง ๕๒ ตอน ก็จะเห็นภาพเหตุการณ์ทั้งหมด
ถ้าเรื่องถามตอบในวีดิโอไม่ใช่เรื่องจริง ก็ถือว่าฟังสนุกๆได้ครับ

 

ใช่อันนี้ไหม ท่าน bluejet เครดิต ลุง OM
http://palungjit.org/threads/สถานีถ่ายทอดสัญญาเซตาร์-ภาคตามล่าหา-px.297203/

 

วันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7532 ข่าวสดรายวัน


หมาฝรั่งอยู่ไทยร้อนลิ้นห้อย



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>
</TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อ 13 ก.ค. เอพีรายงานว่า สภาพอากาศร้อนในกรุง เทพฯ ไม่เหมาะกับการเลี้ยงสุนัขพันธุ์เซนต์ เบอร์นาร์ด สุนัขเมืองหนาวที่มีต้นกำเนิดในแถบเทือกเขาแอลป์ที่สวิตเซอร์แลนด์ ทำให้มันต้องปรับตัว โดยใช้ลิ้นห้อยยาวออกมา ดูได้จากเจ้าไมโล ที่เจ้านายพาออกมาเดินตามถนน ลิ้นของมันห้อยยาวมาก เพราะตามที่รู้กัน ลิ้นของสุนัขจะยาวขึ้นเพื่อช่วยดูดความชื้นเข้าไปปรับร่างกายให้เย็นลง



แฉพม่าใช้นักโทษเยี่ยงทาส'นรก'




<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>
"ทาส"นรก- ภาพเผยแพร่โดยกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลพม่า แสดงให้เห็นโครงกระดูกนักโทษชาย มีรูกระสุนที่กะโหลกศีรษะ คาดว่าถูกทหารพม่ายิงทิ้ง นักโทษเหล่านี้ กองทัพเกณฑ์มาทำหน้าที่ขนสัมภาระแทนทหารในพื้นที่แนวปะทะกับกบฏชนกลุ่มน้อย (เอพี)

</TD></TR></TBODY></TABLE>
เอเอฟพีรายงานเมื่อ 13 ก.ค. ว่า องค์กรฮิวแมนไรต์ วอตช์ แถลงการณ์ประณามรัฐบาลพม่า หลังพบว่ากองทัพพม่าใช้นักโทษเป็นเสมือนกับลาขนของ โดยให้แบกสัมภาระของทหารในสนามรบในระหว่างปฏิบัติการสู้รบกับกบฏชนกลุ่มน้อย และทางองค์กรสิทธิมนุษยชนชื่อดังยังเรียกร้องให้ สหประชาชาติดำเนินคดีประกอบอาชญากรรมสงครามแก่รัฐบาลพม่าอีกด้วย

จากรายงานดังกล่าวระบุว่า กองทัพพม่าใช้วิธีเกณฑ์นักโทษจากเรือนจำแล้วส่งไปอยู่ในแนวหน้า ให้ทำหน้าที่เป็นลูกหาบให้กับทหารหน่วยต่างๆ นอกจากจะเสี่ยงอันตรายจากการสู้รบแล้ว ยังพบรายงานการทรมานอีกมากมาย อาทิ ใช้ลูกหาบเหล่านี้เป็นโล่มนุษย์ในบางสถานการณ์ หรือแม้แต่สังหารทิ้งเมื่อเกิดความขัดแย้งกับฝ่ายทหาร เป็นต้น

"นักโทษเหล่านี้ถูกใช้ไม่ต่างอะไรกับลาขนของให้กับทหารพม่า โดยทหารมักใช้ให้ขนอาวุธหนักเดินผ่านพื้นที่ที่เต็มไปด้วยกับระเบิด" อีไลนี เพียร์สัน ตัวแทนฮิวแมนไรต์ วอตช์ ประจำภูมิภาคเอเชียกล่าวและว่า ระบบดังกล่าวเหมือนกับ 'เดด แมน วอล์กกิ้ง' หรือ ใช้คนตายทั้งเป็น ซึ่งเรื่องใช้นักโทษขนของผ่านกับระเบิด ตลอดจนการทรมานต่างๆ นี้ เป็นเพียงหนึ่งในหลายเรื่องที่รัฐบาลพม่ากระทำ

"นอกเหนือจากนี้ ยังมีเรื่องของการบุกโจมตีหมู่บ้านชาวบ้านที่ไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง การเข่นฆ่าผู้คนโดยไม่สนกฎหมาย การบังคับไล่ที่ การข่มขืน และการใช้ทหารเด็ก ทั้งหมดนี้ล้วนเพียงพอต่อการดำเนินคดีอาชญากรรมสงครามได้ทั้งสิ้น" นางเพียร์สัน กล่าวเสริม สำหรับรายงานชิ้นนี้ ทางฮิวแมนไรต์ วอตช์ อ้างว่าได้มาจากอดีตนักโทษ 58 คนที่หลบหนีทหารพม่าออกมาได้

พม่าในปัจจุบัน ถึงอ้างว่ามีรัฐบาลแรกที่มาจากภาคพลเรือน แต่แท้จริงแล้ว หลายคนในคณะรัฐบาลเป็นอดีตนายพลทหารที่ลาออกก่อนการเลือกตั้งไม่นาน และระบบการปกครองตกอยู่ในอิทธิพลของกองทัพมากว่า 50 ปี

ถูกหวย8พันล้าน ขึ้นชั้นเศรษฐีผู้ดี



วันที่ 13 ก.ค. เดลี่เมล์รายงานว่า มีผู้ถูกลอตเตอรี่ 'ยูโรมิลเลียน' รางวัลที่ 1 แต่เพียงผู้เดียวในอังกฤษ พิชิตเงินรางวัลมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในยุโรป กว่า 161 ล้านปอนด์ หรือราว 8,000 ล้านบาท ทะยานขึ้นแท่นตำแหน่งเศรษฐีที่รวยที่สุดในเกาะอังกฤษ ลำดับที่ 418 กระทบไหล่คนดังอย่างเดวิดและวิกตอเรีย เบ๊กแฮม ในทันที

แจ๊กพอตรางวัลดังกล่าว ผู้โชคดีทายเลขถูกทั้ง 5 หมายเลข ได้แก่ 19, 17, 42, 45, 38 ทั้งยังได้ดาวแห่งโชค หรือลักกี้ สตาร์ อีก 2 หมายเลข คือ 09 และ 10 จึงกลายเป็นผู้ถูกลอตเตอรี่ที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 2 ในโลก รองจากลอตเตอรี่ 'เมก้า มิลเลียน' ของสหรัฐ ที่ทำสถิติไว้ 11,700 ล้านบาท ในปี 2550 ผู้ถูกมีสองรายในรัฐนิวเจอร์ซีย์และจอร์เจีย ด้านโฆษกสำนักงานสลากกินแบ่งแห่งชาติอังกฤษ กล่าวว่า เป็นข่าวดีมากที่ผู้ถูกเป็นคนที่อยู่ในอังกฤษ ทางทีมงานเปิดแชมเปญฉลองกันแล้ว และรอพบผู้ที่จะมารายงานตัว

'เม็กซิโก'รีไซเคิลท่อน้ำทำโรงแรม




<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ฟังดูอาจจะไม่น่าอภิรมย์ใจเท่าไหร่นักกับการต้องไปนอนอยู่ในท่อระบายน้ำคอนกรีต แต่ "ที 3 อาร์ก" บริษัทนักออกแบบจากประเทศเม็กซิโก พบวิธีในการนำท่อน้ำคอนกรีตที่ใช้แล้วมาดัดแปลงทำเป็นสถานที่พักกายสำหรับนักท่องเที่ยวผู้เหน็ดเหนื่อย นามว่า 'ทูโบโฮเต็ล' เปิดตัวไปเมื่อปีที่ผ่านมา ที่เมืองมอเรโลส ตั้งอยู่ห่างออกไปทางใต้ของกรุงเม็กซิโกซิตี ราว 45 นาที ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบของชานเมือง กลายเป็นแหล่งดึงดูดขาเที่ยวที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์นอนแบบแปลกใหม่

การออกแบบทูโบโฮเต็ลของที 3 อาร์กนั้น ได้แรงบันดาลใจจากผลงานออกแบบของนายอันเดรียส์ สเตราส์ สถาปนิกชาวเยอรมัน ผู้ออกแบบโรงแรมดาส์ ปาร์ก ในเยอรมนี ที่นำท่อน้ำคอนกรีต มาทำเป็นห้องพักให้แขก เรียกเสียงฮือฮาไปทั่วโลก เมื่อปี 2549 ที่ผ่านมา โดยในส่วนของทูโบโฮเต็ลนั้นใช้คอนเซ็ปต์การจัดวางท่อน้ำในลักษณะ 2 ชั้น เป็นรูปสามเหลี่ยม ผลที่ได้ คือ ความโดดเด่นที่กลมกลืนใกล้ชิดกับแมกไม้รอบข้าง โดยไม่ทำลายทัศนียภาพอันผ่อนคลายของธรรมชาติชานเมือง

ทูโบโฮเต็ล มีห้องทั้งหมด 20 ห้อง แต่ละห้อง (ท่อ) กว้าง 2.44 เมตร ยาว 3.5 เมตร ได้รับการตกแต่งภายในใหม่ทั้งหมด ด้วยวัสดุปูผนังเชื่อมติดกับแผ่นกระดานที่เอาไว้รองรับฟูกนอนกลายเป็นเตียงคู่ควีนไซซ์ พร้อมโคมไฟน้อยส่องสว่าง พัดลมปรับอากาศ และช่องเก็บสัมภาระใต้เตียง โดยทุกห้องถูกวางเรียงโอบล้อมสนามผืนกว้างที่ถูกดัดแปลงตกแต่งด้วยบ่อน้ำเล็กๆ และกรวดหินไว้เป็นทางเดิน ท่ามกลางต้นไม้สีเขียวธรรมชาติรอบโรงแรม

สำหรับห้องอาบน้ำและส้วมนั้นทางโรงแรมได้ปลูกเรือนไว้ให้บริการต่างหาก เนื่องจากไม่สามารถจะรวมเข้าไปในท่อได้หมด ค่าบริการเช่าห้องราว 1,300 บาทต่อคืน และไม่ต้องห่วงเรื่องความเป็นส่วนตัว เพราะทุกห้องมีม่านอย่างหนากั้นสายตาคนภายนอก

เป็นไอเดีย 7749 สร้างบ้านอย่างนี้ก็ได้นะ

ญี่ปุ่นประหยัดไฟฟ้า-อึดสู้หน้าร้อน 10ปีสร้างบ้านพลังแดด10ล.หลัง



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>
</TD></TR></TBODY></TABLE>ญี่ปุ่นอยู่ในช่วงฟื้นฟูประเทศหลังจากได้รับความเสียหายจากหายนภัยแผ่นดินไหวและสึนามิ รวมถึงวิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เมื่อวันที่ 11 มี.ค.

องค์การพลังงานระหว่างประเทศ ระบุว่า ญี่ปุ่นตกอยู่ในช่วงขาดแคลนพลังงานครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติ ศาสตร์จากการที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ฟูกูชิมะและระบบสาธารณูปโภคอื่นๆ ได้รับความเสียหาย และสถานการณ์กำลังแย่ เมื่อมีกระแสต่อต้านการใช้พลังงานนิวเคลียร์เกิดขึ้น

ประเทศนี้ไม่มีแหล่งพลังงานเชื้อเพลิงเป็นของตัวเอง ที่ผ่านมาพึ่งกระแสไฟฟ้าที่ได้จากพลังงานนิวเคลียร์เป็นหลัก เวลานี้กำลังจะเผชิญบททดสอบในช่วงหน้าร้อน ก.ค.-ส.ค. ซึ่งอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 30 องศาเซลเซียส รัฐบาลขอให้ประชาชนใช้ไฟฟ้าเท่าที่จำเป็น โดยในกรุงโตเกียวตั้งเป้าให้ลดลง 25% โดยขอให้ตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศไว้ที่ 28 องศาเซลเซียส เลิกใส่สูท หันมาสวมรองเท้าแตะและเสื้อผ้าบางเบา

กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม ญี่ปุ่น ประกาศแผนตัวอย่างการประหยัดพลังงาน อาทิ งดใช้เครื่องปรินต์ เลิกใช้ประตูอัตโนมัติ ลดการใช้ลิฟต์และให้เริ่มชั่วโมงทำงานเร็วขึ้น ขณะที่รัฐบาลผลัก ดันการใช้แผงพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซลาร์เซลล์ โดยที่เห็นในภาพติดตั้งบนหลังคาของสำนัก งานใหญ่บริษัทอีโตชู ในกรุงโตเกียว มีเป้าหมายให้มีบ้านที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ 10 ล้านหลัง ภายในปี 2563

ด้าน ศ.เคอิโกะ ทานากะ อาจารย์มหาวิทยาลัยเมจิ กาคุอิน ในกรุงโตเกียว เผยว่า เมื่อก่อนญี่ปุ่นเป็นประเทศที่นักเรียนหญิงวัย 18 ปี จะใช้ลิฟต์ถ้าต้องการขึ้นไปเพียงชั้นเดียวเพราะไม่อยากให้เหงื่อออก และเป็นประเทศที่โถส้วมส่วนใหญ่ติดตั้งเครื่องทำความร้อน อีกทั้งมีเครื่องกำเนิดเสียงอิเล็กทรอนิกส์ในห้องน้ำหญิง เพื่อกลบเสียงไม่พึงประสงค์ให้กับสาวๆ

คนญี่ปุ่นชินกับความสะดวกสบายที่ต้องใช้ต้นทุนพลังงานสูง ตนยังสงสัยว่า เพื่อนร่วมชาติจะหวนกลับสู่การใช้พลังงานระดับต่ำเพื่อสนองความจำเป็นของประเทศได้หรือไม่ โดยเวลานี้ตนสอนหนังสือโดยเปิดไฟเพียงครึ่งห้องและไม่ค่อยพึ่งคอมพิวเตอร์ รวมถึงอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ แล้วหันกลับมาสู่การเรียนการสอนแบบใช้ชอล์กและแปรงลบกระดานแทน

หมูเอเชียทุบสถิติบี้ไทยเร่งลอยตัว



นายประพันธ์ ตั้งจารุวัฒนชัย อุปนายกคนที่ 1 สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ปริมาณผลผลิตสุกรของไทยและในภูมิภาคเอเชียลดลงเข้าสู่ภาวะขาดแคลน ส่งผลให้ราคาสุกรหน้าฟาร์มปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ เช่น ไต้หวัน จากเดิมราคากิโลกรัม (ก.ก.) ละ 112 บาท ขยับขึ้นเป็น 118 บาท จีนจาก 100 บาท ขยับเป็น 102 บาท กัมพูชา 92-94 บาท และลาว 88-92 บาท เป็นต้น ที่สำคัญคือราคายังมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สุกรของไทยยังคงอยู่ที่ราคา 70 บาท/ก.ก. เป็นราคาต่ำสุดในภูมิภาคนี้ เนื่องจากถูกคุมราคาโดยภาครัฐ จึงมองว่าเป็นโอกาสที่รัฐบาลควรปล่อยให้ราคาหมูในประเทศปรับไปตามกลไกตลาด เพื่อเป็นผลดีต่อเกษตรกร ส่วนผลผลิตสุกรที่ลดลงจำนวนมาก เกิดมาจากฟาร์มเลี้ยงสุกรในประเทศเอเชียหลายแห่งยังมีการป้องกันโรคที่ไม่เพียงพอ ส่งผลให้เกิดโรคระบาดได้ง่าย

พณ.คุมเข้มไม่ให้ข้าวถุงโขกคนกิน



นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์(พณ.) กล่าวถึงภาวะการซื้อ-ขายข้าวในประเทศ ว่า ขณะนี้เป็นช่วงปลายฤดูกาลผลิต ทำให้ผลผลิตข้าวมีน้อย เช่นเดียวกับผลผลิตข้าวในตลาดโลกมีการซื้อขายไม่มากทำให้มีการกว้านหาซื้อข้าว ซึ่งเป็นภาวะปกติที่ราคาข้าวในประเทศจะปรับตัวสูงขึ้น ถือเป็นเรื่องดีที่ปีนี้ราคาข้าวเปลือกจะปรับฐานราคาสูงขึ้น จากที่ราคาต่ำมาตลอดเกือบ 10 ปี สภาพตลาดข้าวขณะนี้ถือว่าตลาดเป็นของผู้ขาย จากที่ก่อนหน้านี้ตลาดเป็นของผู้ซื้อ

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์จะดูแลโครงสร้างราคาข้าวถุงให้เกิดความเป็นธรรม จะไม่ปล่อยให้ราคาสูงจนผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อน ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ได้ส่งฐานข้อมูลการ วิเคราะห์โครงสร้างต้นทุนราคาสินค้าอุปโภคบริโภคไปให้คณะทำงานของพรรคเพื่อไทย เพื่อเป็นข้อมูลการกำหนดนโยบายดูแลราคาสินค้าให้เกิดความต่อเนื่อง ส่วนการดูแลเครื่องสังฆภัณฑ์ โดยเฉพาะเครื่องสังฆทานในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา กรมการค้าภายในส่งทีมเฉพาะกิจดูแลการจำหน่ายในร้านค้าทั่วประเทศ โดยเน้นการตรวจสอบคุณภาพ ซึ่งต้องมีการติดป้ายแสดงราคาและแยกรายการสินค้าแต่ละชนิดให้ชัดเจน

 

=====================================


13 ก.ค. 54

โลภ โกรธ หลง เหตุและผล

พ่อค้าใส่หน้ากาก-----------ถือดาบฟันกลางหลัง
ผู้ค้ารับไม่ทัน---------------เพราะมือกำไม้สนุ๊ก
แทงแดงและแทงเขียว-------ลูกเลื่อนไปรวมกระจุก
ประชาจึงเกิดทุกข์-----------เพราะน้ำผึ้งเพียงหยดเดียว

ผมมีความรู้น้อย------------จึงไม่ค่อยรู้หนังสือ
เอาเลขออกมาถือ----------แล้วนับดูไม่ครบสิบ
นับหนึ่งถึงเลขเก้า----------ถ้าให้เดาก็ต้องสิบ
นับแล้วก็ถูกริบ-------------เพราะเลขสิบไม่มีเอย




องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน

======================================
ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"

 

"หนึ่งนารีขี่ม้าขาว" ?​

​

หมอนิดขา สตรีขี่ม้าขาวที่พูดถึง คือสาวชุดแดง คนที่มาแรงตอนนี้หรือเปล่าค่ะ ไม่อยากได้เลย
<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O></O>
“น้องดาว” Fri, July 1,2011
<O></O>
ตอบ น้องดาวไม่ต้องกังวลครับ ผมไม่คิดว่าจะเป็นคนนี้ครับ ...ยังมีสตรีขี่ม้าขาวอย่างสง่างามมาปกครองประเทศ ไม่ใช่เป็นนายกครับ... สตรีที่มาแรงในตอนนี้คงอีกไม่นานจะ......น้องดาวใจดีๆไว้ ขอให้รอดูไปอีกพักหนึ่ง
<O></O>
หมอนิด 11 กค. 54

ที่มา http://www.mornid.com/home.php

13 ก.ค. 2011 – แกนนำพันธมิตรฯ ยื่นร้องศาลฎีกาแผนกเลือกตั้ง สั่งให้เลือกตั้ง 3 ก.ค.เป็นโมฆะ เหตุไม่เที่ยงธรรม มีผู้เสียสิทธิ์กว่า 2 ล้านคน ศาลนัดฟังคำสั่ง 20 ก.ค.นี้

'จำลอง'ร้องศาลฎีกา เลือกตั้งโมฆะ-นัดฟัง 20 ก.ค. - กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์

มิ.ย. 2011 – โหรใหญ่"กรหริศ"วิเคราะห์ดวง"ยิ่งลักษณ์"ไปไม่ถึงดวงดาว รัฐบาลใหม่อายุสั้น ฟันธง ทักษิณไม่ได้กลับบ้าน!

โหรใหญ่"กรหริศ"วิเคราะห์ดวง"ยิ่งลักษณ์"ไปไม่ถึงดวงดาว รัฐบาลใหม่ ...

 

ไม่เห็นสัจจะ !!!

- " หนุมาน ผู้นำสาร "