ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. ฟาสิรี

    ฟาสิรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2011
    โพสต์:
    396
    ค่าพลัง:
    +729
    ต้นตาล มันก็ออกดอกของมันทุกปี ไม่เห็นแปลก ผมว่าที่บอกเป็นช่อ ชั้น น่าจะหมายถึงต้น ลาน มากกว่า จะออกดอกเป็นรูปคล้าย ๆ ฉัตร มีหลายชั้นและใหญ่มาก มองเห็นเด่นเป็นสง่า แต่ไกล ซึ่งจะเหมือนต้นไผ่ คือ ออกดอกแล้ว จะตาย (เหมือนพวก อากาเว่ ของต่างประเทศก็เช่นเดียวกัน) แต่ดอกที่ร่วงมาก็จะงอกออกเป็นต้นใหม่ได้ภายหลัง ซึ่งก็ไม่เห็นว่าจะเกี่ยวอะไรกับ ภัยพิบัติหรือสิ่งร้าย ๆ ต่าง ๆ เลยสักนิด....
     
  2. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> อุตุฯเตือนแทบทุกภาคผจญฝนตก-ตกหนัก ระวังอันตรายน้ำท่วม-น้ำหลาก </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>
    กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป เมื่อวันที่ 15 พ.ค.

    ร่องมรสุมกำลังปานกลางยังคงพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออกของประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ในพื้นที่เสี่ยงภัย ตามที่ลาดเชิงเขา หรือใกล้ทางน้ำไหล ในระยะนี้

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>[​IMG] อุตุฯเตือนแทบทุกภาค รวมกทม.-ปริมณฑลมีฝนร้อยละ60-70ของพื้นที่ </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประจำวันที่ 16 พ.ค. 2554 ดังนี้

    ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ร่องมรสุมกำลังปานกลางยังคงพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนของประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนมีฝนกระจายถึงเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักได้บางแห่ง ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาหรือใกล้ทางน้ำไหลได้ระยะนี้

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่
    โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย และเพชรบูรณ์
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศา
    ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง
    บริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร ชัยภูมิ นครราชสีมา
    บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
    อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา
    ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
    บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา
    กาญจนบุรี และราชบุรี
    อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.


    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    บริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
    อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร


    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และ นครศรีธรรมราช
    อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร


    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต
    อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร


    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
    อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    ข่าวต่างประเทศรายงานว่า พบลูกหมูประหลาดมีปากและจมูกอย่างละ 2 อันที่เมืองจางเจีย(Zhangjia) มณฑลจี้หลิน(Jilin) ทางตอนเหนือของจีน ซึ่งทำให้มันกินมากกว่าพี่น้องตัวอื่นๆเป็น 2 เท่า
    นายป๋าย เสว จิ้น (Bai xue jin) ชาวนาเจ้าของลูกหมูประหลาดตัวนี้ เล่าว่า เขารู้สึกว่าหัวของมันใหญ่กว่าปกติตั้งแต่ตอนทำคลอด และตั้งแต่เลี้ยงหมูมา 15 ปี ก็ไม่เคยพบหมูประหลาดแบบนี้มาก่อน และมันไม่สามารถกินนมจากเต้าของแม่ได้ เนื้องจากใบหน้าที่ติดกัน เขาจึงต้องป้อนนมมันด้วยมือ จนกว่ามันจะโตพอที่จะกินอาหารได้
    นอกจากนี้ได้นายป๋ายยังตั้งใจจะเลี้ยงเจ้าลูกหมูประหลาดนี้ไว้เพื่อให้คนทั่วไปได้มาชมความประหลาดของมันอีกด้วย
    Photo:: CEN
    Mthai News
     
  3. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    ฮาวายยังระอุ!!พื้นถล่มเพราะลาวา

    ฮาวายยังระอุ!!พื้นถล่มเพราะลาวา คลิป คลิปจากหมวด ข่าวและเหตุการณ์ โพสต์โดย Miracle Boy แหล่งรวมค



    นางวิสาขา
    เอตทัคคะในฝ่ายผู้เป็นทายิกา



    [​IMG]นางวิสาขา เกิดในตระกูลเศรษฐี ในเมืองภัททิยะ แคว้นอังคะ บิดาชื่อว่า ธนญชัย มารดาชื่อว่าสุมนาเทวี และปู่ชื่อ เมณฑกเศรษฐี ขณะที่เธอมีอายุอยู่ในวัย ๗ ขวบ เป็นที่รักดุจแก้วตาดวงใจของเมณฑกะผู้เป็นปู่ยิ่งนัก

    • [FONT=arial, helvetica, sans-serif]หญิงงามเบญจกัลยาณี
      [/FONT]
      ในเมืองสาวัตถีนั้น มีเศรษฐีตระกูลหนึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า มิคารเศรษฐี มีบุตรชายชื่อ ปุณณวัฒนกุมาร เมื่อเจริญวัยสมควรที่จะมีภรรยาได้แล้ว บิดามารดาขอให้เขาแต่งงานเพื่อสืบทอดวงศ์ตระกูล แต่เขาเองไม่มีความประสงค์จะแต่งเมื่อบิดามารดารบเร้ามากขึ้น เขาจึงหาอุบายเลี่ยงโดยบอกแก่บิดามารดาว่า ถ้าได้หญิงที่มีความงามครบทั้ง ๕ อย่าง ซึ่งเรียกว่า เบญจกัลยาณี
      แล้วจึงจะยอมแต่งงาน

      [FONT=arial, helvetica, sans-serif]




      [/FONT]
    • [FONT=arial, helvetica, sans-serif]ภาพโดย สุภร พลินทรากูล

      เบญจกัลยาณี ความงามของสตรี ๕ อย่าง คือ

      [/FONT]๑. เกสกลฺยาณํ ผมงาม คือ หญิงที่มีผมยาวถึงสะเอวแล้วปลายผมงอนขึ้น

      ๒. มงฺสกลฺยาณํ เนื้องาม คือหญิงที่มีริมฝีปากแดงดุจผลตำลึงสุกและเรียบชิดสนิทกันดี

      ๓. อฏฺฐิกลฺยาณํ กระดูกงาม คือหญิงที่มีฟันสีขาวประดุจสังข์ และเรียบเสมอกัน

      ๔. ฉวิกลฺยาณํ ผิวงาม คือหญิงที่มีผิวงามละเอียด ถ้าดำก็ดำดังดอกบัวเขียว ถ้าขาวก็ขาวดังดอกกรรณิกา

      ๕. วยกลฺยาณํ วัยงาม คือ หญิงที่แม้จะคลอดบุตรถึง ๑๐ ครั้ง ก็ยังคงสภาพร่างกายสาวสวยดุจคลอดครั้งเดียว
    บิดามารดาเมื่อได้ฟังแล้วจึงให้เชิญพราหมณ์ผู้เชี่ยวชาญในด้านอิตถีลักษณะมาถามว่า หญิงผู้มีความงามดังกล่าวนี้มีหรือไม่ เมื่อพวกพราหมณ์ตอบว่ามี จึงส่งพราหมณ์เหล่านั้นออกเที่ยวแสวงหาตามเมืองต่าง ๆ พร้อมทั้งมอบพวงมาลัยและเครื่องทองหมั้นไปด้วย


    • [FONT=arial, helvetica, sans-serif]ชน ๔ พวกเมื่อวิ่งจะดูไม่งาม
      [/FONT]
      พวกพราหมณ์เที่ยวแสวงหาไปตามเมืองต่าง ๆ ทั้งเมืองเล็กเมืองใหญ่ จนมาถึงเมืองสาเกต ได้พบนางวิสาขามีลักษณะภายนอกถูกต้องตามตำราอิตถี ลักษณะครบทุกประการ ขณะที่นางพร้อมทั้งหญิงบริวารออกมาเที่ยวเล่นน้ำกันที่ท่าน้ำ ขณะนั้นฝนตกลงมาอย่างหนัก หญิงบริวารทั้งหลายพากันวิ่งหลบหนีฝนเข้าไปในศาลา แต่นางวิสาขายังคงเดินด้วยอาการปกติ ทำให้พวกพราหมณ์ทั้งหลายรู้สึกแปลกใจประกอบกับต้องการจะเห็นลักษณะฟันของนางด้วยจึงถามนางว่า

      ทำไม เธอจึงไม่วิ่งหลบหนีฝนเหมือนกับหญิงอื่น ๆ

      นางวิสาขาตอบว่า ชน ๔ พวกเมื่อวิ่งจะดูไม่งาม ได้แก่

      ๑. พระราชา ผู้ทรงประดับด้วยเครื่องอาภรณ์พร้อมสรรพ

      ๒. บรรพชิต ผู้ครองผ้ากาสาวพัสตร์

      ๓. สตรี ผู้ชื่อว่าเป็นหญิงทั้งหลาย นอกจากจะดูไม่งานแล้วถ้าเกิดอุบัติเหตุจนเสียโฉม หรือพิการ จะทำให้เสื่อมเสียและหมดคุณค่า

      ๔. ช้างมงคล ตัวประดับด้วยเครื่องอาภรณ์สำหรับช้าง

      พวกพราหมณ์ได้เห็นปัญญาอันชาญฉลาด และคุณสมบัติ เบญจกัลยาณี ครบทุกประการแล้ว จึงขอให้นางพาไปที่บ้านเพื่อทำการสู่ขอต่อพ่อแม่ตามประเพณี เมื่อสอบถามถึงชาติตระกูลและทรัพย์สมบัติก็ทราบว่า มีเสมอกัน จึงสวมพวงมาลัยทองให้นางวิสาขาเป็นการหมั้นหมายและกำหนดวันวิวาหมงคล

      ธนญชัยเศรษฐี ได้สั่งให้ช่างทองทำเครื่องประดับ ชื่อ มหาลดาปสาธน์ เพื่อมอบให้แก่ลูกสาว ซึ่งเป็นเครื่องประดับชนิดพิเศษ เป็นชุดยาวติดต่อกันตั้งแต่ ศีรษะจรดปลายเท้า ประดับด้วยเงินทองและรัตนอันมีค่าถึง ๙ โกฏิกหาปณะ ค่าแรงฝีมือช่างอีก ๑ แสน เป็นเครื่องประดับที่หญิงอื่น ๆ ไม่สามารถจะประดับได้เพราะมีน้ำหนักมาก นอกจากนี้ ธนญชัยเศรษฐี ยังได้มอบทรัพย์สินเงินทองของใช้ต่าง ๆ รวมทั้งข้าทาสบริวารและฝูงโคอีกจำนวนมากมายมหศาล อีกทั้งส่งกุฏุมพีผู้มีความชำนาญพิเศษด้าน
      ต่าง ๆ ไปเป็นที่ปรึกษาดูแลประจำตัวอีก ๘ นายด้วย



    • [FONT=arial, helvetica, sans-serif]ธนญชัยเศรษฐีให้โอวาทลูกสาว
      [/FONT]
      ก่อนที่นางวิสาขาจะไปสู่ตระกูลของสามี ธนญชัยเศรษฐีได้อบรมมารยาทสมบัติของ กุลสตรีผู้จะไปสู่ตระกูลของสามี โดยให้โอวาท ๑๐ ประการ เป็นแนวปฏิบัติ คือ

      โอวาทข้อที่ ๑ ไฟในอย่านำออก หมายความว่า อย่านำความไม่ดีของพ่อผัวแม่ผัวและสามีออกไปพูดให้คนภายนอกฟัง

      โอวาทข้อที่ ๒ ไฟนอกอย่านำเข้า หมายความว่า เมื่อคนภายนอกตำหนิพ่อผัวแม่ผัวและสามีอย่างไร อย่านำมาพูดให้คนในบ้านฟัง

      โอวาทข้อที่ ๓ ควรให้แก่คนที่ให้เท่านั้น หมายความว่า ควรให้แก่คนที่ยืมของไปแล้วแล้วนำมาส่งคืน

      โอวาทข้อที่ ๔ ไม่ควรให้แก่คนที่ไม่ให้ หมายความว่า ไม่ควรให้แก่คนที่ยืมของไปแล้ว แล้วไม่นำมาส่งคืน

      โอวาทข้อที่ ๕ ควรให้ทั้งแก่คนที่ให้และไม่ให้ หมายความว่า เมื่อมีญาติมิตรผู้ยากจนมาขอความช่วยเหลือพึ่งพาอาศัย เมื่อ ให้ไปแล้วจะให้คืนหรือไม่ให้คืน ก็ควรให้

      โอวาทข้อที่ ๖ พึงนั่งให้เป็นสุข หมายความว่า ไม่นั่งในที่กีดขวางพ่อผัว แม่ผัวและสามี

      โอวาทข้อที่ ๗ พึงนอนให้เป็นสุข หมายความว่า ไม่ควรนอนก่อนพ่อผัวแม่ผัวและสามี

      โอวาทข้อที่ ๘ พึงบริโภคให้เป็นสุข หมายความว่า ควรจัดให้พ่อผัว แม่ผัวและสามีบริโภคแล้ว ตนจึงบริโภคภายหลัง

      โอวาทข้อที่ ๙ พึงบำเรอไฟ หมายความว่า ให้มีความสำนึกอยู่เสมอว่า พ่อผัว แม่ผัวและสามีเป็นเหมืองกองไฟ และพญานาคที่จะต้องบำรุงดูแล

      โอวาทข้อที่ ๑๐ พึงนอบน้อมเทวดาภายใน หมายความว่า ให้มีความสำนึกอยู่เสอมว่า พ่อผัว แม่ผัว และสามีเป็นเหมือนเทวดาที่จะต้องให้ความนอบน้อม


      [​IMG]
    • [FONT=arial, helvetica, sans-serif]นางวิสาขาตำหนิพ่อผัว[/FONT]

      เมื่อนางวิสาขา เข้ามาสู่ตระกุลของสามีแล้ว เพราะความที่เป็นผู้ได้รับการอบรมสั่งสอนเป็นอย่างดีตั้งแต่วัยเด็ก และเป็นผู้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด มีน้ำใจเจรจาไพเราะ ให้ความเคารพผู้ที่มีวัยสูงกว่าตน จึงเป็นที่รักใคร่และชอบใจของคนทั่วไป ยกเว้น
      มิคารเศรษฐีของสามี ซึ่งมีจิตฝักใฝ่ในนักบวชอเจลกชีเปลือย โดยให้ความเคารพนับถือว่าเป็นพระอรหันต์ และนิมนต์ให้มา
      บริโภคโภชนาหารที่บ้านของตนแล้ว สั่งให้คนไปตามนางวิสาขามาไหว้พระอรหันต์ และให้มาช่วยจัดเลี้ยงอาหารแก่อเจลกชีเปลือยเหล่านั้นด้วย

      นางวิสาขา ผู้เป็นพระอริยสาวิกาชั้นโสดาบันพอได้ยินคำว่า อรหันต์ ก็รู้สึกปีติยินดีรีบมายังเรือนของมิคารเศรษฐี แต่พอได้เห็นอเจลกชีเปลือย ก็ตกใจจึงกล่าวว่า ผู้ไม่มีความละอาย เหล่านี้ จะเป็นพระอรหันต์ไม่ได้ พร้อมทั้งกล่าวติเตียนมิคารเศรษฐีแล้วกลับที่อยู่ของตนต่อมาอีกวันหนึ่ง ขณะที่มิคารเศรษฐีกำลังบริโภคอาหารอยู่ โดยมีนางวิสาขาคอย
      ปรนนิบัติอยู่ใกล้ ๆ ได้มีพระเถระเที่ยวบิณฑบาตผ่านมาหยุดยืนที่หน้าบ้านของมิคารเศรษฐี

      นางวิสาขาทราบดีว่าเศรษฐีแม้จะเห็นพระเถระแล้วก็ทำเป็นไม่เห็น นางจึงกล่าวกับพระเถระว่า
      นิมนต์พระคุณเจ้าไปข้างหน้าก่อนเถิด ท่านเศรษฐีกำลังบริโภคของเก่าอยู่
      เศรษฐี ได้ฟังดังนั้นแล้วจึงโกรธเป็นที่สุด หยุดบริโภคอาหารทันทีแล้วสั่งให้บริวารมาจับและขับไล่นางวิสาขาให้ออกจากบ้านไป แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาจับนางวิสาขาขอชี้แจงแก่กุฎุมพี ๘ นายที่คุณพ่อได้ส่งมาช่วยดูแลนางก่อน และเมื่อมิคารเศรษฐีให้คนไปเชิญกุฎุมพีมาแล้วแจ้งโทษของนางวิสาขาให้ฟัง ซึ่งนางก็แก้ด้วยคำว่า ที่ดิฉันกล่าวอย่างนั้น หมายถึง มิคารเศรษฐี บิดาของสามีกำลังบริโภคบุญเก่าอยู่ มิใช่บริโภคของบูดเน่าอย่างที่เข้าใจ กุฎุมพีทั้ง ๘ จึงกล่าวกับเศรษฐีว่า เรื่องนี้นางวิสาขาไม่มีความผิด

    • [FONT=arial, helvetica, sans-serif]พ่อผัวยกย่องนางวิสาขาในฐานะมารดา

      [/FONT]เมื่อมิคารเศรษฐี ฟังคำชี้แจงของลูกสะใภ้แล้วก็หายโกรธขัดเคือง และกล่าวขอโทษนาง พร้อมทั้งอนุญาตให้นางนิมนต์พระบรมศาสดาพร้อมภิกษุสงฆ์มารับอาหารบิณฑบาตในเรือนของตน ขณะที่นางวิสาขาจัดถวายภัตตาหารแด่พระบรมศาสดาและภิกษุสงฆ์อยู่นั้น ก็ได้ให้คนไปเชิญมิคารเศรษฐีมาร่วมถวายภัตตาหารด้วย แต่เศรษฐีเมื่อมาแล้วไม่กล้าที่ออกไปสู่ที่เฉพาะพระพักตร์พระศาสดา เพราะไม่มีศรัทธาเลื่อมใสจึงแอบนั่งอยู่หลังม่าน เมื่อเสร็จภัตกิจแล้วพระบรมศาสดาทรงแสดงพระธรรมเทศนา ส่วนมิคารเศรษฐีแม้จะหลบอยู่หลังม่านก็มีโอกาสได้ฟังธรรมด้วยจนจบ และได้สำเร็จเป็นพระโสดาบันบุคคลในพุทธศาสนาเป็นสัมมาทิฎฐิบุคคลตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

      ทันใดนั้น มิคารเศรษฐีได้ออกมาจากหลังม่านแล้วตรงเข้าไปหานางวิสาขาใช้ปากดูดถันของลูกสะใภ้ และประกาศให้ได้ยินทั่วกัน ณ ที่นั้นว่า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปขอเธอจงเป็นมารดาของข้าพเจ้า และตั้งแต่นั้นมานางวิสาขาก็ได้นามว่า มิคารมารดา คนทั่วไปนิยมเรียกนางว่า วิสาขามิคารมารดา

    • [FONT=arial, helvetica, sans-serif]คุณสมบัติพิเศษประจำตัวนางวิสาขา[/FONT]
      ในบรรดาอุบาสิกาทั้งหลาย นางวิสาขานับว่าเป็นผู้มีบุญสั่งสมมาตั้งแต่อดีตชาติมากเป็นพิเศษกว่าอุบาสิกาคนอื่น ๆ หลายประการ เช่น

      ๑. ลักษณะของผู้มีวัยงาม คือ แม้ว่านางจะมีอายุมาก มีลูกชาย-หญิง ถึง ๒๐ คน ลูกเหล่านั้นแต่งงานมีลูกอีกคนละ ๒๐ คน นางก็มีหลานนับได้ ๔๐๐ คน หลานเหล่านั้นแต่งงานมีลูกอีกคนละ ๒๐ คน นางวิสาขามีเหลนนับได้ ๘๐๐๐ คน ดังนั้น คนจำนวน ๘๔๒๐ คน มีต้นกำเนิดมาจากนางวิสาขา นางมีอายุยืนได้เห็นหลานได้เห็นเหลนทุกคน แม้นางมีอายุถึง ๑๒๐ ปี
      แต่ขณะเมื่อนางนั่งอยู่ในกลุ่มของลูก หลาน เหลน นางจะมีลักษณะวัยใกล้เคียงกับคนเหล่านั้น คนพวกอื่นจะไม่สามารถทราบได้ว่านางวิสาขาคือคนไหน แต่จะสังเกตได้เมื่อเวลาจะลุกขึ้นยืน ธรรมดาคนหนุ่มสาวจะลุกได้ทันที แต่สำหรับคนแก่จะต้องใช้มือยันพื้นช่วยพยุงกาย และจะยกก้นขึ้นก่อน นั่นแหละจึงจะทราบว่านางวิสาขาคือคนไหน

      ๒. นางมีกำลังมากเท่ากับช้าง ๕ เชือกรวมกัน ครั้งหนึ่งพระราชามีพระประสงค์จะทดลองกำลังของนาง จึงรับสั่งให้ปล่อยช้างพลายตัวที่มีกำลังมากเพื่อให้วิ่งชนนางวิสาขา นางเห็นช้างวิ่งตรงเข้ามา จึงคิดว่า ถ้ารับช้างนี้ด้วยมือข้างเดียวแล้วผลักไป ช้างก็จะเป็นอันตรายถึงชีวิต เราก็จะเป็นบาป ควรจะรักษาชีวิตช้างไว้จะดีกว่า นางจึงใช้นิ้วมือเพียงสองนิ้วจับช้างที่งวงแล้วเหวี่ยงไปปรากฏว่าช้างถึงกับล้มกลิ้งแต่ไม่เป็นอันตราย
      ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวนี้ชนทั้งหลายเมื่อขจัดงานมงคลในบ้านเรือนของตนจึงพากันเชิญนางวิสาขาให้ไปเป็นประธานในงาน มอบให้นางเป็นผู้นำในพีธีต่าง ๆ แม้แต่อาหารก็ให้นางทานก่อน เพื่อความเป็นสิริมงคล จนนางวิสาขาไม่มีเวลาดูแลปฏิบัติพระภิกษุที่มาฉันในบ้านของตน
      ต้องมอบให้ลูก ๆ หลาน ๆ ดำเนินการให้

    • [​IMG]

    • [FONT=arial, helvetica, sans-serif]เพราะพระเปลือยกายจึงถวายผ้าอาบน้ำฝน[/FONT]

      โดยปกตินางวิสาขา จะกราบทูลอาราธนาพระพุทธองค์พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์มาเสวยและฉันภัตตาหารที่บ้านของนางเป็นประจำ เมื่อการจัดเตรียมภัตตาหารเสร็จเรียบร้อยพร้อมแล้ว ก็จะให้สาวใช้ไปกราบทูลอาราธนาพระผู้มีพระภาคและภิกษุสงฆ์ให้เสด็จไปยังบ้านของนางวันหนึ่ง สาวใช้ได้มาตามปกติเหมือนทุกวัน แต่วันนั้นมีฝนตกลงมาพระสงฆ์ทั้งหลาย จึงพากันเปลือยกายอาบน้ำฝน เมื่อสาวใช้มาเห็นเข้าก็ตกใจเพราะความที่ตนมีปัญญาน้อยคิดว่าเป็นนักบวชชีเปลือย จึงรีบกลับไปแจ้งแก่นางวิสาขาว่า

      ข้าแต่แม่เจ้า วันนี้ที่วัดไม่มีพระอยู่เลย เห็นมีแต่ชีเปลือยแก้ผ้าอาบน้ำ กันอยู่

      นางวิสาขาได้ฟังคำบอกเล่าของสาวใช้แล้ว ด้วยความที่นางเป็นพระอริยบุคคลชั้นโสดาบัน เป็นมหาอุบาสิกา เป็นผู้มีปัญญาศรัทธาเลื่อมใส มีความใกล้ชิดกับพระภิกษุสงฆ์ จึงทราบ เหตุการณ์โดยตลอดว่า พระบรมศาสดาทรงอนุญาตให้พระภิกษุมีผ้าสำหรับใช้สอยเพียง ๓ ผืน คือ ผ้าจีวรสำหรับห่ม ผ้าสังฆาฎิสำหรับห่มซ้อน และผ้าสบงสำหรับนุ่ง ดังนั้นเมื่อเวลาพระภิกษุจะอาบน้ำจึงไม่มีผ้าสำหรับผลัดอาบน้ำ ก็จำเป็นต้องเปลือยกายอาบน้ำอาศัยเหตุนี้ เมื่อพระบรมศาสดาเสด็จมาประทับที่บ้านและเสร็จภัตกิจแล้ว นางวิสาขา จึงได้เข้าไปกราบทูลขอพร เพื่อถวายผ้าอาบน้ำฝนแก่พระภิกษุสงฆ์ พระพุทธองค์ประทานอนุญาต
      ตามที่ขอนั้น และนางวิสาขาก็เป็นบุคคลแรกที่ได้ถวายผ้าอาบน้ำฝนแก่พระภิกษุสงฆ์

    • พระภิกษุคิดว่านางเป็นบ้า

      นางวิสาขา ได้ชื่อว่าเป็นมหาอุบาสิกาผู้ยิ่งใหญ่ เป็นยอดแห่งอุปัฏฐายิกา ทะนุบำรุงพระพุทธศาสนาด้วยวัตถุจตุปัจจัยไทยทานต่าง ๆ ทั้งที่ถวายเป็นของสงฆ์ส่วนรวม และถวายเป็นของส่วนบุคคลคือแก่พระภิกษุแต่ละองค์ ๆ การทำบุญของนางนับว่าครบถ้วนทุกประการตามหลักบุญกิริยาวัตถุ ดังคำที่นางเปล่งอุทานในวันฉลองวิหาร คือ วัดบุพพาราม ที่นางสร้างถวายนั้นด้วย
      คำว่า

      ความปรารภนาใด ๆ ที่เราตั้งไว้ในกาลก่อน ความปรารถนานั้น ๆ ทั้งหมดของเราได้
      สำเร็จเสร็จสิ้นสมบูรณ์ทุกประการแล้ว
      ความปรารถนาเหล่านั้น คือ
      ๑. ความปรารถนาที่จะสร้างปราสาทฉาบด้วยปูนถวายเป็นวิหารทาน
      ๒. ความปรารถนาที่จะถวายเตียง ตั่ง ฟูก หมอน และเสนาสนภัณฑ์
      ๓. ความปรารถนาที่จะถวายสลากภัตเป็นโภชนาทาน
      ๔. ความปรารถนาที่จะถวายผ้ากาสาวพัสตร์ ผ้าเปลือกไม้ ผ้าฝ้าย เป็น จีวรทาน
      ๕. ความปรารถนาที่จะถวายเนยใส เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย เป็นเภสัชทาน
    ความปรารถนาเหล่านั้นของนางวิสาขาสำเร็จครบถ้วนทุกประการ สร้างความเอิบอิ่มใจแก่นางยิ่งนัก นางจึงเดินเวียนรอบปราสาทอันเป็นวิหารทานพร้อมทั้งเปล่งอุทานดังกล่าวพระภิกษุทั้งหลายได้เห็นกิริยาอาการของนางวิสาขาแล้ว ต่างก็รู้สึกประหลาดใจ ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับนาง จึงพร้อมใจกันเข้าไปกราบทูลถามพระบรมศาสดาว่า

    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญตั้งแต่ได้พบเห็นและรู้จักนางวิสาขาก็เป็นเวลานานพวกข้าพระองค์ทั้งหลาย ไม่เคยเห็นนางขับร้องเพลงและแสดงอาการอย่างนี้มาก่อนเลย แต่วันนี้ นางอยู่ในท่ามกลางการแวดล้อมของบรรดาบุตรธิดาและหลาน ๆ ได้เดินเวียนรอบปราสาทและบ่นพึมพำคล้ายกับร้องเพลง เข้าใจว่าดีของนางคงจะกำเริบ หรือไม่นางก็คงจะเสียจริตไปแล้วหรืออย่างไร พระเจ้าข้า ?

    พระพุทธองค์ตรัสแก่ภิกษุเหล่านั้นว่า

    ภิกษุทั้งหลาย ธิดาของเรามิได้ขับร้องเพลงหรือเสียจริตอย่างที่พวกเธอเข้าใจหรอก แต่ที่ธิดาของเราเป็นอย่างนั้นก็เพราะความปีติยินดีที่ความปรารถนาของตนที่ตั้งไว้นั้นสำเร็จลุล่วงสมบูรณ์ทุกประการ นางจึงเดินเปล่งอุทานออกมาด้วยความอิ่มเอมใจด้วยเหตุที่นางวิสาขาได้อุปถัมภ์บำรุงพระภิกษุสงฆ์ และได้ถวายวัตถุจตุปัจจัยในพระพุทธศาสนาเป็นจำนวนมาก ดังกล่าวมา พระผู้มีพระภาคจึงได้ทรงประกาศยกย่องนางในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นผู้เลิศกว่าอุบาสิกาทั้งหลายในฝ่าย ผู้เป็นทายิกา


    อ้างอิงข้อมูล http://www.84000.org/one/4/02.html


    เพลงบุญบันเทิง (นางวิสาขา)

    เพลงบุญบันเทิง (นางวิสาขา)ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่

     
  4. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    เผยเป็นเอเชียชาติที่2 ในรอบ 62ปี ที่ได้รับรางวัลนี้
    16 พ.ค.54 รายงานข่าวแจ้งว่า นายพรวสุ พงศ์ธีระวรรณ นางสาวธัญพิชชา พงศ์ชัยไพบูลย์ และนางสาวอารดา สังขนิตย์ จากโรงเรียนสุราษฎร์พิทยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เจ้าของโครงงานวิทยาศาสตร์เรื่อง “พลาสติกจากเกล็ดปลา” ได้รับรางวัลนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ “อินเทล ฟาวเดชั่น ยัง ไซเอนทิส อวอร์ด” และรางวัลยอดเยี่ยม สาขาการจัดการสิ่งแวดล้อมอีก 2 รางวัล
    จากมหกรรมประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์ระดับชาติ ที่สหรัฐอเมริกา และชื่อของทั้ง 3คน จะถูกนำไปตั้งเป็นชื่อดาวเคราะห์น้อยอีกด้วย นอกจากนี้ โครงการ “พลาสติกเกล็ดปลา” ยังได้รับรางวัล 1 เหรียญทอง และรางวัลพิเศษประเภททีมสาขาสิ่งแวดล้อม จากเวทีการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ระดับชาติ I-SWEEP
    ส่วนเด็กไทยอีก 2 ทีม คือ โครงงานเรื่องการออกแบบระบบควบคุมการปลูกพืช ในโรงเรือนด้วย Arduino จากโรงเรียนกันทรารมณ์ จังหวัดศรีสะเกษ ได้รับ 1 เหรียญเงินจากเวที I-SWEEP และโครงงาน “ผลของฟิล์มมิวซิเลจจากเมล็ดแมงลัก ต่อการยืดอายุการเก็บรักษาชมพู่หลังการเก็บเกี่ยว” จากโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย จังหวัดเพชรบุรี ได้รางวัลที่ 4 สาขาวัสดุศาสตร์จากเวที ISEF ด้วย.
    สำนักข่าวไทย


    [​IMG]
    นศ.ธรรมศาสตร์ ปี 4 ป่วยคล้าย บิ๊ก D2B นอนไม่ได้สติอยู่อเมริกา วอนผู้ใจบุญช่วย
    นางสาวสโรชา เนียมบุญนำ หรือ น้องกาว ปัจจุบันศึกษาอยู่ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 มีอาการทางสมอง นอนไม่มีสติ อยู่ที่โรงพยาบาล UTML Hospital the University of Texas,Galveston ประเทศสหรัฐอเมริกา
    ทั้งนี้เมื่อกลางเดือนมีนาคม 2554 ที่ผ่านมา น้องกาวได้เดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา ในโครงการ Work & Travel โดยประมาณต้นเดือน พฤษภาคม กาวเริ่มมีอาการป่วยเป็นไข้ ไม่สบาย ปวดศรีษะ ปวดท้อง มีน้ำมูก ทำให้คิดว่าเป็นไข้หวัดทั่วไป จนกระทั่งอาการหนักขึ้น โดยช่วงเช้าของวันที่ 13 พฤษภาคม น้องกาวช๊อค หมดสติ จึงถูกหามส่งโรงพยาบาล UTML Hospital the University of Texas,Galveston
    เบื้องต้น น้องกาว ถูกรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู แพทย์ระบุเบื้องต้น เป็นโรคเยื่อหุ้มในสมองอักเสบ เชื้อแบคทีเรียขึ้นสมอง และเบื้องต้น หมอระบุว่า โอกาสรอดเพียง 5%
    ขณะเดียวกัน ทุกฝ่ายได้พยายามหาทางช่วยเหลือ และสิ่งที่น่าหนักใจสำหรับครอบครัวของน้องกาวขณะนี้ คือค่ารักษาที่สูงมาก และค่านำตัวน้องกาวกลับมารักษาที่ประเทศไทย มีค่าใช้จ่ายสูงถึง 3 ล้านบาท โดยครอบครัว น้องกาว ต้องการผู้ใจบุญให้ความช่วยเหลือ
    อย่างไรก็ตามสามารถติดต่อเพื่อขอรายละเอียดการช่วยเหลือได้ทาง หน้า page facebook นี้
    http://www.facebook.com/pages/Gaos-Update-เราจะพากาวกลับไทยนะ/123500884397420
    หรือช่วยเหลือได้ทาง ชื่อบัญชี ชาญชัย เนียมบุญนำ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาอโศก เลขที่บัญชี 032-450604-7
    Mthai news
     
  5. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    แผนภาพแสดงปริมาณน้ำฝนใน 24 ชั่วโมง

    [​IMG] [​IMG]
     
  6. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    คลายเครียด...มาดูภาพแปลกกัน

    originales

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  7. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  8. ธรรมสถิต

    ธรรมสถิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,261
    ค่าพลัง:
    +15,736
  9. สิงห์สมุทร

    สิงห์สมุทร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +182
    วันนี้เป็น วันสำคัญของชาวโลก วันวิสาขบูชา ลดอบายมุข ถือศีล นั่งสมาธิ ทำบุญตักบาตร เวียนเทียน อนุโมทนา ถึงเพื่อนๆสมาชิก ทุกๆคน..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • a20.jpg
      a20.jpg
      ขนาดไฟล์:
      40.9 KB
      เปิดดู:
      98
  10. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    =====================================



    14 พ.ค. 54


    ผมได้กลับจากการประกอบบ้านที่ฐานผาแบ่นเป็นที่เรียบร้อยแล้วในค่ำวันนี้
    บ้านหลังนี้สร้างไว้สำหรับพักเมื่อขึ้นไปที่ฐานฯเพื่อทำงานช่วยเหลือผู้คน จะได้
    ไม่ต้องไปเช่ารีสอร์ตหรือโรงแรม วันนี้ขอนำสัญญาณที่ได้จากที่ฐานฯมาเล่าสู่
    กันฟังก่อน ส่วนภาพตัวบ้านและเหตุการณ์ที่ประสบมาในช่วง 14วันจะค่อยๆส่ง
    และเล่าให้ฟังในบทความต่อๆไป


    1 พ.ค. 2554 งานศพ ....?

    ในภาพผมได้ยืนเข้าแถวรวมอยู่กับแขกท่านผู้มีเกียรติ แต่ละท่านแต่งตัวเต็มยศ

    แต่ในใจผมคิดว่าผมไม่ได้ไปงานศพคนนานแล้ว แล้วผมมายืนอยู่ที่ตรงนี้ได้
    อย่างไร?

    ความหมายคือ จะมีผู้มีชื่อเสียงหรือผู้ที่คนเรารู้จักกันดีเสียชีวิต



    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน

    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ผมกลับมาเตือนทุกคนหน่อยนะครับ

    [​IMG]

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->echonight<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4382398", true); </SCRIPT> สมาชิก

    ผมกลับมาเตือนทุกคนหน่อยนะครับว่า หนักแน่ครับกลางปีนี้ ทั้งสงครามทั้งภัยพิบัติ

    ในช่วงเวลาอันไกล้เข้ามานี้ คงจะบอกได้แล้วว่าจะเป็นช่วงเวลาแห่งความน่าสะพรึงกลัวอย่างที่สุด และที่ผมมาเตือนนั้น ไม่ใช่ในด้านการเอาตัวรอดในทางตัวตน แต่เป็นการเอาตัวรอดทางจิตวิญญาณ

    อยากจะบอกให้ทุกท่านจงเตรียมตัว เตรียมจิตใจให้พร้อม เพราะสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นจะไม่มีใครหนีพ้นได้ และการเตรียมการที่ดีที่สุดในตอนนี้ตือ เตรียมพร้อมจิตวิญญาณให้มั่นคง เต็มไปด้วยความรักและเข้าใจในสรรพสิ่งรอบๆตัว ไม่กล่าวโทษสิ่งต่างๆหรือผู้คนต่างๆ ไม่ทำให้จิตวิญญาณตนเองตกต่ำ และพร้อมที่จะยกขั้นตัวตนและจิตวิญญาณให้สูงขึ้นอยู่เสมอ เพราะวันนั้นมันไกล้เข้ามามากโดยที่พวกคุณไม่รู้ตัว..

    และสำหรับข่าวคราวของวันที่ 21 พ.ค. 2011 นี้ที่ว่าเป็นวันสิ้นโลกนั้น ..จริงๆแล้วไม่ใช่ มันเป็นเพียงการเริ่มต้นของนาฬิกาแห่งวัฎจักรในบทวิววรณ์เท่านั้น ช่วงนี้คือช่วงเวลาแห่งการแร็พเจอร์หรือรวบรวมผู้คน และสลักตราที่สำคัญใบทวิวรณ์จะเริ่มถูกเปิดขึ้นในช่วงเวลานี้ แผนการณ์ต่างๆได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

    สำหรับในเดือนตุลาคมนี้ จะเป็นเดือนแห่งจุดเปลี่ยน ที่แท้จริง.. จงรักกันให้มากๆ<!-- google_ad_section_end -->

    16-05-2011, 08:37 PM

    ที่มา http://palungjit.org/threads/เรียบเรียงข้อมูลการวีวของผมทุกบทความ-มีทั้งปริศนา-nibiru-2010-2012-nwo-fallens-etc.253533/page-4

    [​IMG]

    วันพิพากษา ในวันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 2011

    วันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 2011 เกิดมีวันที่ สิบเจ็ด ของเดือนที่สอง ของปฏิทินฮีบรู ด้วยเหตุนี้เอง พระเจ้ากำลังยืนยันกับพวกเราว่าพวกเรามีความเข้าใจที่ถูกต้องมากขึ้นในเรื่องของ ช่วงเวลาเจ็ดฟันปีจากเหตุการณ์น้ำท่วมโลก วันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 2011 จึงเสมือนเป็นวันที่ ๆ พระเจ้า ปิดประตูเรือไม้ของโนอาห์ จากข้อมูลเหล่านี้และข้อมูลเกี่ยวกับพระคัมภีร์อื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมาก เราพบว่าวันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 2011 จะเป็นวันที่พระเจ้านำคนที่พระองค์ทรงเลือกไว้ไปสู่สรวงสวรรค์ วันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 2011 เป็นวันพิพากษาและจะเป็นวันที่พระเจ้าปิดประตูต่อการไถ่บาปบนโลกใบนี้

    วันสิ้นโลก : 21 ตุลาคม ค.ศ. 2011

    ด้วยความเมตตากรุณาอย่างใหญ่หลวงของพระเจ้า พระองค์กำลังส่งสัญญาณเตือนล่วงหน้าแก่พวกเราถึงสิ่งที่ท่านกำลังจะทำ ในวันพิพากษาซึ่งก็คือ

    วันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 2011 จะเป็นการเริ่มต้นของช่วงเวลาห้าเดือนของการทรมานอย่างแสนสาหัส แก่สรรพสิ่งที่อยู่อาศัยบนโลกนี้

    ในวันที่ 21 พฤษภาคมนั้นพระเจ้าจะปลุกผู้ตายให้ตื่นฟื้นจากความตาย และแผ่นดินโลกจะเปิดเผยโลหิตซึ่งหลั่งอยู่บนมัน และจะไม่ปิดบังผู้ถูกฆ่าของมันไว้อีก ( อิสยาห์ 26 : 21) ผู้ที่ตายไปแล้วจะได้รับการช่วยเหลือให้กลับฟื้นคืนชีวิตในร่างกายเดิมและอำลาโลกนี้ไปอยู่กับพระเจ้าตลอดกาล ส่วนคนที่ตายและไม่ได้รับการช่วยเหลือก็จะถูกปลุกขึ้นมาเช่นกัน แต่ปลุกขึ้นมาอยู่ในร่างที่ไร้ชีวิตที่มีกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป ความตายมีให้เห็นอยู่ทุกหนทุกแห่ง พระเจ้ายังทรงกล่าวย้ำถึงห้าเดือนของการทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัวนี้ในคำกล่าวสุดท้ายของหนังสือ เล่ม ปฐมกาล บทที่ 7 :

    วันที่ 21 ตุลาคม ค.ศ. 2011 พระเจ้าจะทำลายสิ่งที่ท่านสร้างไว้และรวมถึงทำลายบรรดาผู้คน ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ต่อการไถ่บาปของพระเจ้าลงทั้งหมด

    ค่าตอบแทนสำหรับความผิดที่เป็นบาปในการขัดขืนต่อพระเจ้าก็คือการสูญเสียชีวิตชั่วนิรันดร์ ในวันที่ 21 ตุลาคม ค.ศ. 2011 เหล่าบรรดาผู้คนที่น่าสงสารเหล่านี้จะพบกับจุดสิ้นสุด ช่างน่าเศร้าที่มนุษย์ที่สูงศักดิ์ ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาในรูปลักษณ์ของพระเจ้า กลับจะต้องมาตายลงเฉกเช่นกับสัตว์เดรัจฉานและต้องแตกดับไปตลอดกาล

    ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากให้ได้รับรู้ แต่ได้โปรดเถิด มนุษย์ที่รัก ที่ต่างก็ได้รับการเตือนถึงเวลาของการไถ่บาปที่กำลังจะถูกปิดลงอย่างรวดเร็ว! พระเจ้าได้ให้เวลาแก่โลกถึงเจ็ดพันปีนับจากวันน้ำท่วมโลก และขณะนี้เราเหลือเวลาอีกไม่กี่วันจนกระทั่งถึงวันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 2011 ก่อนที่เราจะรู้ เวลาก็ใกล้จะหมดลงเต็มทีแล้ว เม็ดทรายที่เหลืออยู่ในนาฬิกาทรายใกล้จะหมดลงและจะไม่มีเหลืออยู่อีกต่อไป ถึงแม้ว่ายังเหลือเวลาอีกน้อยนิด แต่ในวันนี้ก็ยังมีพอความหวังที่บรรเจิดสำหรับใครบางคนอยู่เช่นกัน

    ที่มา http://www.ebiblefellowship.com/th/may21_th.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2011
  12. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>[​IMG] อุตุฯเตือนแทบทุกภาครวมกทม.-ปริมณฑลฝนกระจายร้อยละ60ของพื้นที่ </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประจำวันที่ 17 พ.ค.2554 ดังนี้

    ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ร่องมรสุมกำลังปานกลางยังคงพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนของประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนมีฝนกระจายถึงเกือบทั่วไป ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากฝนที่ตกต่อเนื่องอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาหรือใกล้ทางน้ำไหลได้ระยะนี้

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน น่าน แพร่
    อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย และเพชรบูรณ์
    อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศา
    ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร ชัยภูมิ
    อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
    อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศา
    ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา
    กาญจนบุรี และราชบุรี
    อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
    อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
    อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต
    อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
    อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>[​IMG] สยบข่าวละสังขารศิษย์เข็นโชว์สื่อ </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ศิษย์พาโชว์ตัวออกข่าว สาธุชนโล่งใจ หลังมีข่าวลือ "พ่อคูณ" มรณภาพ


    กรณีมีข่าวลือว่าพระเทพวิทยาคมหรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา มรณภาพ จนทำให้ประชาชนที่อยู่ใน จ.นครราชสีมา รวมทั้งคนใกล้ชิดและลูกศิษย์คนสนิทหลวงพ่อคูณ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ รพ.มหาราช นครราชสีมา ต้องรับโทรศัพท์ถามข้อเท็จจริงกันวุ่นวาย

    ล่าสุดเมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 16 พ.ค. คณะลูกศิษย์คนสนิทนำโดย พล.ต.ต.มหัคฆพันธ์ สุรคุปต์ ประธานกรรมการวัดบ้านไร่ พร้อมด้วยลูกศิษย์คนสนิท จึงตัดสินใจนิมนต์หลวงพ่อคูณ นั่งรถเข็นออกมานอกห้อง เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่ได้เป็นจริงตามข่าวที่ลือกัน

    โดยได้เข็นหลวงพ่อไปชมแจกันดอกไม้พระราชทานของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ที่อยู่หน้าห้องพักเป็นเวลาประมาณ 3 นาที พร้อมอนุญาตให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพ

    ด้าน พล.ต.ต.มหัคฆพันธ์ กล่าวว่า หลวงพ่อยังอยู่ดีอย่างที่เห็นยังมีสติสัมปชัญญะ ดีทุกอย่าง เพราะได้รับการดูแลจากหมอที่มีความสามารถอย่างดียิ่ง และคาดว่าหลังจากนี้อาการหลวงพ่อคูคูณน่าจะดีขึ้น โดยเมื่อตอนที่เข้ามาหาหลวงพ่อก็พบว่า ท่านสามารถจำลูกศิษย์คนสนิทได้ทุกคนและได้พูดคุยกับหลาย ๆ คน โดยขณะนี้กำลังมีการปรับปรุงห้องพักของท่านเพื่อให้อากาศถ่ายเท ปลอดเชื้อโรค เพื่อรอให้ท่านกลับไปพักผ่อนอย่างสบายใจ โดยในขณะที่ท่านอยู่ที่นี่หมอแนะนำให้ลูกศิษย์สับเปลี่ยนกันมาพูดคุยกับหลวงพ่อคูณให้คลายเหงาเพื่อไม่ให้ท่านเครียด และขอยืนยันว่าท่านยังสุขภาพทีทั้งสุขภาพจิตร และสุขภาพกายที่หมอกำลังฟื้นฟูอยู่ คาดว่าอาการของท่านน่าจะดีขึ้นเรื่อย ๆ

    นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังได้รับการเปิดเผยจากลูกศิษย์คนสนิทที่ปรนนิบัติใกล้ชิด ว่า ในช่วงเย็นที่ผ่านมาหลวงพ่อยังอารมณ์ดี ร้องเพลงให้ลูกศิษย์ฟังด้วย จึงไม่รู้ว่าข่าวถูกลือออกไปได้อย่างไร จนทำให้ลูกศิษย์คนสนิทของหลวงพ่อคูณหลายคนต้องปิดโทรศัพท์ เนื่องจากถูกโทรถามถึงข่าวลือดังกล่าวจนแทบไม่มีเวลาพัก.




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>[​IMG] ฆ่าโหดตัดหัว27ศพในกัวเตมาลา </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    พบศพไร้หัวหมกฟาร์มติดพรมแดนเม็กซิโก จนท.คาดเป็นการสังหารหมู่ของขบวนการค้ายาเสพติดโหด


    วันนี้ (16 พ.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายโดนัลด์ กอนซาเลซ โฆษกตำรวจกัวเตมาลาเปิดเผยว่า พบศพไร้หัวไม่ต่ำกว่า 27 ราย ที่ฟาร์มเกษตรแห่งหนึ่งทางภาคเหนือของประเทศที่มีพรมแดนติดกับเม็กซิโก ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่า การสังหารหมู่ครั้งนี้ น่าจะเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่ โดยผู้เสียชีวิตดังกล่าว มีผู้หญิงรวมอยู่ด้วย 2 ศพ ทั้งหมดถูกตัดศีรษะ และศพทั้งหมดถูกพบอยู่ในฟาร์มของเมืองซาน อันเดรส ห่างจากกรุงกัวเตมาลา ซิตี้ ไปทางเหนือราว 500 กิโลเมตร ซึ่งหากการฆาตกรรมหมู่ครั้งนี้ เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดของเม็กซิโก นับเป็นการตายหมู่ครั้งใหญ่สุดที่เกี่ยวโยงกับแก๊งค้ายาเสพติด

    สำหรับกัวเตมาลา เป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการฆาตกรรมสูงสุดแห่งหนึ่งในลาตินอเมริกา โดยเฉลี่ยวันละ 18 ศพ ขณะเดียวกัน กัวเตมาลามีคณะกรรมการที่กำกับดูแลการสอบสวนและการดำเนินคดีการก่ออาชญากรรมรุนแรงในประเทศ แต่เท่าที่ผ่านมา อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงและอดีตผู้บัญชาการตำรวจหลายคนถูกจับกุม และเผชิญการฟ้องร้องจากคณะกรรมการฯ.





    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    ข่าวต่างประเทศรายงานว่าจากคดีที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2004 กรณีที่นางบาห์รามี ถูกนายมาจิด โมวาฮีดี วัย 30 ปีสาดน้ำกรด จนเธอเสียโฉมและตาบอด เพราะเธอปฎิเสธไม่แต่งงานด้วย นางบาห์รามีจึงขอร้องศาลว่าให้เธอสามารถแก้แค้นนายมาจิด ด้วยการทำให้เขาตาบอดนั้น ล่าสุดศาลอนุมัติคำขอของเธอแล้ว
    เมื่อวันที่ 14 พค. ที่ผ่านมา ศาลอิหร่านได้อนุญาตให้ นางบาห์รามี สามารถดำเนินการแก้แค้นด้วยการใช้น้ำกรดทำให้ นายมาจิด ตาบอดได้ตามที่เธอต้องการแล้ว โดยจะใช้วิธีทำให้นายมาจิดสลบ ก่อนที่นางบาห์รามีจะหยอดน้ำกรดใส่ตาของเขา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่อิหร่านมีคำพิพากษาให้เหยื่อสามารถทำให้ผู้ทำร้ายร่างกาย ตาบอดได้ด้วยการใช้น้ำกรดแก้แค้นในลักษณะตาต่อตา ฟันต่อฟัน
    โดยก่อนหน้านี้นายราจิดพยายามชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินแต่นางบาห์รามีปฎิเสธการรับเงิน โดยให้เหตุผลว่าเธอต้องการให้เขาได้รับความเจ็บปวดทรมานเช่นเดียวกับเธอ
    อย่างไรก็ตาม กลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชนได้เตือนว่า การตัดสินดังกล่าวเป็นวิธีการที่ไร้มนุษยธรรมในทางกลับกัน เจ้าหน้าที่อิหร่านเองได้สนับสนุนคำตัดสินดังกล่าวเพื่อหวังจะยุติคดีสาดน้ำกรดที่เพิ่มขึ้นสูง
    Mthai news
    เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  14. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    เชื่อเป็นศิริมงคล เล็งขยายพันธุ์
    17 พ.ค.54 Mthai News: เหตุการณ์พบกบสีทองครั้งนี้เกิดขึ้น ที่วัดวังดินสอ หมู่ 1 ต.วัง นกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก โดยพระอธิการปรีชา ฐานุตตโร ผู้เลี้ยงกบสีทองตัวดังกล่าวเผยว่า
    กบสีทอง 2ตัวได้มาหลังมีชาวบ้านในพื้นที่จับได้ที่ป่าแห่งหนึ่ง โดยชาวบ้านคนดังกล่าวบอกว่า ไม่กล้าฆ่า เนื่องจากเห็นเป็นกบประหลาดที่ไม่ค่อยพบเห็นบ่อยนัก จึงนำมาให้อาตมาเลี้ยงเพื่อเป็นศิริมงคล
    ซึ่งกบสีทองทั้ง 2 มีผิวหนังสีเหลืองทอง ดวงตาสีแดงเข้ม สภาพลำตัว แขน ขา ไม่แตกต่างจากกบทั่วไป เมื่อแสงแดดกระทบกับลำตัวทำให้เปล่งประกายสีทองอร่าม มองดูงดงามมาก นอกจากนี้ กบสีทองยังรักความสะอาด เพราะหากน้ำในตู้เริ่มส่งกลิ่นเหม็น กบตัวผู้จะกระโดดทั้งคืน หากเปลี่ยนน้ำกบจึงจะสงบลง ดังนั้นจำต้องเปลี่ยนน้ำให้ทุกๆ 3 วัน
    “อาตมาจะเลี้ยงไปเรื่อยๆ ที่น่าเป็นห่วง คือกบพ่อแม่จะกินไข่ลูกเป็นอาหาร ตอนนี้กำลังศึกษาวงจรชีวิตกบเพื่อขยายพันธุ์กบสีทองให้มากขึ้น หากชาวบ้านอยากเลี้ยง จะให้ลูกกบไปเลี้ยงเพื่อขยายพันธุ์เป็นสัตว์เศรษฐกิจสร้างรายได้ให้ชาวบ้าน เมื่อมีรายได้มากขึ้น จะได้มีคนมาทำบุญมากขึ้น
    Mthai News

    [​IMG]
    Photo/ เรื่องเล่าเช้านี้

    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>[​IMG] พุทธศาสนิกชนชาวโคราชร่วมกันตักบาตรวันวิสาขบูชา </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    เวลา 07.00 น. ที่ลานพระอาทิตย์หน้าห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์นครราชสีมา พุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดนครราชสีมากว่า 500 คน ร่วมกันประกอบพิธีสงฆ์พร้อมตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 59 รูป เนื่องวันวิสาขบูชา

    นอกจากนี้ตามวัดต่างๆ ใน 32 อำเภอของ จ.นครราชสีมา ก็มีพุทธศานิกชนไปร่วมทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารและปฏิบัติธรรมเนื่องในวันวิสาขบูชาเช่นเดียวกัน สำหรับวันวิสาขบูชานั้นถือเป็นสำคัญในทางพุทศาสนา ที่มีเหตุการณ์ที่สำคัญเกิดขึ้น 3 ประการ คือ เป็นวันที่สมเด็จพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน

    ซึ่งเกิดขึ้นในวันและเดือนเดียวกัน คือ ในวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 หรือเดือนเวสาขะ พระจันทร์เสวยวิสาขฤกษ์ เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ได้เกิดขึ้นเมื่อกว่าสองพันห้าร้อยปีมาแล้ว

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>[​IMG] อังกฤษผวา!ไออาร์เอขู่บึ้มลอนดอน </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    อังกฤษผวา!ไออาร์เอขู่บึ้มกลางกรุงลอนดอน สั่งคุมเข้มถนนสายหลักเส้นทอดสู่พระราวังบัคกิงแฮม


    วันนี้ (16 พ.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ว่า โฆษกสำนักงานตำรวจนครบาลมหานครลอนดอน แถลงเมื่อวันจันทร์ว่า ได้รับคำเตือนจะมีการลอบวางระเบิด ย่านใจกลางเมืองหลวงของอังกฤษ แต่ไม่ระบุวันเวลาและสถานที่ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นการข่มขู่ของกลุ่มย่อยกองทัพกู้ชาติไอริช (ไออาร์เอ) ที่ต่อต้านกระบวนการสันติภาพในไอร์แลนด์เหนือ และการขู่มีขึ้นเพียงวันเดียว


    ก่อนที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ของอังกฤษ จะเสด็จเยือนไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นการเยือนเป็นครั้งแรกในรอบ 100 ปีของราชวงศ์แห่งอังกฤษ และ 1 สัปดาห์ก่อนกำหนดการเยือนกรุงลอนดอน ของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ

    โฆษกฯ เผยอีกว่า คำเตือนทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มกำลังเตรียมพร้อม และประกาศให้ประชาชนดำเนินชีวิตตามปกติ เพียงแต่เพิ่มความระมัดระวัง นอกจากนั้นยังมีการปิดการสัญจรบนถนนเดอะ มอลล์ ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่ทอดไปสู่พระราวังบัคกิงแฮม ที่ประทับของสมเด็จพระราชินีนาถ เพื่อตรวจค้นหาสิ่งต้องสงสัยเป็นเวลาหลายชั่วโมงในวันจันทร์ แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด


    ทั้งนี้กลุ่มติดอาวุธไออาร์เอที่ต่อต้านอังกฤษควบคุมไอร์แลนด์เหนือ เป็นภัยคุกคามที่น่าวิตกที่สุด ระหว่างการเสด็จเยือนไอร์แลนด์เป็นเวลา 4 วัน ขององค์ประมุขแห่งเครือจักรภพ.





    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. วิปัสนะ

    วิปัสนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    601
    ค่าพลัง:
    +647
    พบรอยพระพุทธบาทสี่รอยทับเรียงราย อายุหลายพันปี

    17 พค. 2554 11:26 น.

    พระครูสันติพนารักษ์ เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทสี่รอย ห้วยลุด หมู่ที่ 3 บ้านสาแพะ ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง เปิดเผยว่า วัดพระพุทธบาทสี่รอย ห้วยลุด อยู่กลางหุบเขาในป่าลึก มีก้อนหินศิลาขนาดใหญ่มหึมาอยู่กลางหุบเขา ความกว้างของก้อนหินศิลา 3.40 เมตร ความยาว 7.33 เมตรและความสูง 2.50 เมตร และด้านบนพบประทับรอยพระพุทธบาทไว้บนศิลา เป็นรอยพระพุทธบาทข้างขวาสภาพสมบูรณ์ จำนวนสี่รอยทับซ้อนด้วยกัน
    ทั้งนี้ รอยพระพุทธบาทจะมีขนาดใหญ่และเล็กลงตามกาลเวลาที่พระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาทรงอุบัติขึ้น แล้วประทับรอยพระพุทธบาทไว้ ถือว่าเป็นรอยพระพุทธบาทสี่รอยอายุนับหลายพันปี ปัจุบันพบว่ามีโบราณสถานและร่องรอยของอายะธรรมของพระพุทธศาสนา และมีการดำรงชีพของคนในยุดโบราณ ซึ่งมีร่องรอยทางประวัติศาสตร์ คือ กำแพงดินล้อมรอบพื้นที่กว้างประมาณ 100 ไร่ มีอยู่สองที่ด้วยกัน และยังมีหลุมฝังสมบัติของคนโบราณที่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ จำนวนหลายแห่ง ตลอดจนร่องรอยสำคัญต่างๆทางพระพุทธศาสนา อยากจะเชิญชวน พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ช่วยพัฒนาทางเข้าให้สะดวกได้ทุกฤดูกาล และสร้างมณฑปครอบรอยพระพุทธบาทสี่รอย เพื่อรักษารอยพระพุทธบาทสี่รอย ให้ถาวรมั่นคง เป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์แสวงบุญมากราบนมัสการของพุทธศาสนิกชนต่อไป
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "สัตว์ที่มีร่างกายเป็นสีทอง"
    เพราะในอดีตชาติเคยบวชเป็นพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา

    [​IMG]

    [​IMG]


    จาก หนังสือ ตายแล้วไม่สูญ...แล้วไปไหน

    "..สุพรรณมัจฉา ปลาสีทองตัวนี้มาติดตาข่ายที่เด็กเอาไปขึงไว้ พ่อแม่เด็กเห็นเข้าว่า ปลามีเกล็ดเป็นทอง ไม่ควรเก็บไว้เองจึงนำมาถวายพระเจ้าปเสนทิโกศล พระเจ้าปเสนทิโกศลเห็นเป็นของแปลกก็นำไปถวายพระพุทธเจ้า แล้วกราบทูลถามว่า "ปลาตัวนี้ทำบุญอะไรไว้ เกล็ดจึงเป็นสีทอง" เมื่อพระพุทธเจ้าทรงเห็นเข้าก็บอกว่า

    "ปลาตัวนี้สมัยก่อนเคยบวชเป็นพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา ที่มีเกล็ดเป็นสีทอง ก็เพราะอาศัยเคยปฏิบัติศีลปฏิบัติธรรมในตอนต้นด้วยความเคารพ แต่ว่าในตอนปลายมือเป็นพระคณาจารย์ ด่าว่าพระภิกษุทั้งหลายที่มีความผิดบ้าง ไม่ผิดบ้าง โดยเจตนาร้าย เวลาตายไปแล้วจึงไปเกิดเป็นสัตว์นรกในอเวจีมหานรก"

    ยืนกางแขนกางขาอย่างพระเทวทัต และเมื่อกรรมเบาลงก็เลื่อนขึ้นมาตามลำดับจนกระทั่งมาเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานเป็นปลามีเกล็ดเป็นสีทอง แต่ว่าปากเหม็นเพราะด่าพระ

    พระพุทธเจ้าจึงถามว่า "กปิลมัจฉา เดิมทีเดียวเธอบวชเป็นพระใช่ไหม"
    พอปลาอ้าปากตอบว่า "ใช่" กลิ่นก็เหม็นคลุ้งไปทั้งพระวิหาร
    พระองค์ถามต่อไปว่า "เพราะอะไรเธอจึงตกอเวจีมหานรก"
    เธอก็ตอบว่า "เพราะเป็นพระปากร้าย ด่าไม่ว่าใคร ไม่มีเหตุไม่มีผล อิจฉาริษยาพระด้วยกัน กล่าวร้ายด้วยการนินทาให้ร้ายบ้าง"
    ชาวบ้านก็เหมือนกันที่ปากไม่ดีแบบนี้ ไปด่าพระด่าเจ้า ด่าผู้ทรงศีล ก็มีสภาพอย่างเดียวกับกปิลมัจฉา เมื่อพระพุทธเจ้าถามถึงแม่กับน้องสาว ปลาก็บอกว่า "ไปอเวจีมหานรกเหมือนกันเพราะทำกรรมอย่างเดียวกันคือด่าพระ" ท่านถามถึงพี่ชาย

    ปลาก็ตอบว่า "พี่ชายท่านไม่เอาด้วย ก็เลยเป็นพระอรหันต์แล้วไปพระนิพพาน" เมื่อปลาตอบเท่านี้ก็เสียใจ เอาหัวฟาดอ่างถึงแก่ความตายกลับลงไปอเวจีมหานรกใหม่.."

    ที่มา http://www.luangporruesi.com/794.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 8232.jpg
      8232.jpg
      ขนาดไฟล์:
      42.6 KB
      เปิดดู:
      2,447
    • 1232931644.jpg
      1232931644.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.7 KB
      เปิดดู:
      95
    • 1232931685.jpg
      1232931685.jpg
      ขนาดไฟล์:
      42.4 KB
      เปิดดู:
      123
    • 1232931736.jpg
      1232931736.jpg
      ขนาดไฟล์:
      40.4 KB
      เปิดดู:
      2,457
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤษภาคม 2011
  17. kumpeang

    kumpeang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    546
    ค่าพลัง:
    +1,984
    สงสัยมานานหละ ไอ้ปุ่มกดไลท์ เอ้ย กดอนุโมทนา มันหายไปไหนอะ :)
     
  18. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    ดร.ก้องภพ อยู่เย็น (ก่อนภัยพิบัติ 2012)

    เริ่มพูดคุยถึงภัยพิบัติตั้งแต่นาทีีที่ 30.00 โดยประมาณ
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=U3WziA7Dp8I&feature=related"]YouTube - ก้องภพ อยู่เย็น ก่อนภัยพิบัติ 2012.[/ame]





    ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา (ย้ายเมืองหลวง)

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=pk9PrP3cdzI&NR=1"]YouTube - ????????????? ?????? ? ??????.flv[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2011
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "ตำรวจ-ไอซีที" เตรียมประสานจัดการเฟซบุ๊กจาบจ้วงสถาบัน

    Sat, 2011-04-23 16:30

    ตำรวจบล็อกเฟซบุ๊ก จาบจ้วง หมิ่นสถาบันไม่ได้ อ้างต้องรอคณะกรรมการร่วมที่ไอซีทีกับตำรวจสอบความผิดเสนอศาลแล้วออกคำสั่งให้ดำเนินการ ขณะที่ในสังคมเฟซบุ๊กด่ากระหน่ำ คนโพสต์ข้อความ-รูปไม่เหมาะสม ตำรวจแนะนำ คนพบแจ้งเจ้าหน้าที่แล้ว อย่าไปโพสต์หรือดำเนินการต่อ

    23 เม.ย. 54 - เว็บไซต์เดลินิวส์รายงานว่า เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ในกลุ่มสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะเครือข่ายเฟซบุ๊กมีการพบบุคคลหนึ่งนำภาพที่ไม่เหมาะสมเกี่ยวกับสถาบันมาโพสต์ไว้ ซึ่งมีบุคคลหลายคนที่เห็นแล้วไม่พอใจเข้าไปในกระทู้แล้วโพสต์ต่อว่าเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว อีกทั้งยังมีข้อความบางข้อความที่ไม่เหมาะสมด้วย โดยยังไม่มีการปิดหรือบล็อกเฟซบุ๊กดังกล่าวแต่อย่างใด

    พ.ต.อ.ศิริพงษ์ ติมุลา รอง ผบก.ปอท. กล่าวว่า ในการโพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมนั้น ทางปอท.จะทำงานร่วมกับกระทรวงไอซีที มีการประสานข้อมูลกัน ที่ผ่านมามีคดีที่ให้ดำเนินการกว่า 100 คดี สำหรับข้อความใดที่เข้าข่ายผิดกฎหมายแต่ไม่ชัดแจ้ง ทาง ปอท.จะจัดให้มีการตั้งคณะกรรมการทำงานร่วมกันกับทางกระทรวงไอซีที ดูว่าการกระทำต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในโลกสังคมออนไลน์แต่ละอันเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ อย่างใด เมื่อผลจากคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงระบุว่าเข้าข่ายผิดกฎหมาย ทางพนักงานสอบสวนก็จะส่งเรื่องมายังปอท. ซึ่งทางปอท.ก็จะดำเนินการร้องขอไปยังผู้ให้บริการแต่ละราย ให้หยุดการกระทำนั้นเสีย ห้ามมิให้ผู้ใดโพสต์ข้อความหรือเผยแพร่ข้อมูลใดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว

    “การบล็อกเว็บไซต์หรือเว็บเพจนั้นทางกระทรวงไอซีทีจะเป็นผู้ดำเนินการทางปอท.ไม่มีอำนาจไปบล็อกโดยตรงหรือทันที และในส่วนของโลกสังคมออนไลน์และโซเชียลเน็ตเวิร์ก อย่างเฟซบุ๊กที่ถือว่าเป็นเว็บไซต์หนึ่งที่มีการโพสต์ข้อความบนกระดาน เราแบ่งการกระทำผิดของกลุ่มผู้ที่โพสต์ข้อความหรือเผยแพร่ข้อมูลออกเป็น 2 ประเภท โดยประเภทแรกจะเป็นกลุ่มพวกที่จงใจ เป็นบุคคลหรือกลุ่มคนใดที่ตั้งใจโพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสม สำหรับกลุ่มนี้ความผิดจะชัดเจนอยู่แล้ว มีโทษทางอาญาที่รุนแรง

    ส่วนอีกกลุ่มคือกลุ่มของผู้ที่ประสงค์ดี แต่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยการส่งต่อไฟล์หรือแบ่งปันลิ้งค์” พ.ต.อ.ศิริพงษ์ กล่าว

    พ.ต.อ.ศิริพงษ์ กล่าวต่อว่า ทุกวันนี้โลกอินเทอร์เน็ตเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มีการเกิดขึ้นของเว็บไซต์อย่างมากมาย ปัจจุบันมีเว็บไซต์อยู่ที่ประมาณ 312 ล้านเว็บ ซึ่งแต่ละเว็บมีเว็บเพจอีกเป็นหลักร้อย ซึ่งยากแก่การติดตาม ในส่วนของเว็บเพจที่แสดงออกว่าดูหมิ่นสถาบันอย่างชัดเจน ถ้าบุคคลท่านใดพบเห็นก็สามารถแจ้งให้กับปอท.หรือกระทรวงไอซีทีให้จัดการกับเว็บเพจดังกล่าวได้ เพราะที่ผ่านมาทางกระทรวงไอซีทีก็บล็อกเว็บไซต์ที่ดูหมิ่นสถาบันไปหลายรายแล้ว แต่กลุ่มบุคคลหรือบุคคลที่กระทำการเหล่านี้ก็สามารถที่จะเปลี่ยนชื่อเว็บเพจหรือเว็บไซต์ใหม่ได้ทันที ดังนั้นทางที่ดีที่สุดเมื่อพบเห็นเว็บไซต์เหล่านี้ควรแจ้งเจ้าหน้าที่จะดีกว่า ไม่ควรเข้าไปดูหรือโพสต์ข้อความใดเพิ่มเติม

    ที่มา http://www.prachatai3.info/journal/2011/04/34191
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤษภาคม 2011
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ข่าวสารจากจิตจักรวาล
    [​IMG]
    "ตำรวจวางแผนจะจับผู้ร้าย ต้องปิดเป็นความลับ"

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->แม่นายมล<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4720941", true); </SCRIPT> สมาชิก

    ช่วงนี้กระแสข่าวการเกิดภัยพิบัติมีเยอะมาก จึงขอนำคำตอบจาก อ.ปริญญา ใน FB มาให้อ่านและพิจารณากัน

    Visudhi Punya ‎:-

    จากนี้ไป ตามสื่อสารมวลชนและสังคมออนไลน์ทั้งหลาย จะมีผู้คนทั้งคุ้นหน้าคุ้นตาและหน้าตาแปลกๆ ออกมากล่าวถึงเรื่องราวเกี่ยวกับภัยพิบัติที่น่าสะพรึงกลัวกันมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติทั่วโลกรวมทั้งไทยด้วย มันก็จะเกิดขึ้นถี่ๆ และใกล้ตัวพวกเธอมากขึ้นจริงๆ ด้วย

    นักเรียนจักต้องรู้ว่า แผนปฏิบัติการชำระโลกของช่างเท็คนิก หรือเจ้ากรรมนายเวรนั้น พวกเขามิได้กำหนดแผนการอย่างชัดเจนเอาไว้ล่วงหน้าหรอกว่า ณ วันเวลาใดตรงพิกัดตำแหน่งใด พวกเขาจะปฏิบัติการอย่างไร จะสร้างความหายนะให้ได้แค่ไหน? แต่พวกเขาจะลงมือปฏิบัติการกันแบบกะทันหันเสมอ

    ด้วยเหตุนี้เอง คนที่ออกมากล่าวคำทำนายหรือพยากรณ์ในเรื่องเหล่านี้ โดยระบุวันที่เดือนปีเวลาและสถานที่ พร้อมรูปแบบภัยพิบัติที่จะเกิดกันล่วงหน้านั้น พอถึงเวลาก็ปรากฏว่า ไอ้สิ่งที่พยากรณ์กันไว้นั้นมันมิได้เกิดขึ้นดังที่กล่าวไว้แต่อย่างใด

    นักเรียนจะต้องจดจำเอาไว้ว่า ตามปกติแล้ว ต่อให้มนุษย์มีเท็คโนโลยีสูงล้ำขนาดไหนก็จะมิอาจบอกได้ว่า จะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ขึ้นที่ไหนบ้าง จะเกิดเมื่อไหร่ จะเกิดพายุหมุนรุนแรงพัดถล่มที่ไหน วันไหน จะเกิดคลื่นสึนามิที่ประเทศไหน เมื่อไหร่ หรือจะเกิดภูเขาไฟระเบิดรุนแรงเอาชีวิตมนุษย์หมู่มากขึ้นที่ไหน เมื่อไหร่ เป็นต้น เธอจะต้องจำไว้ว่านักวิทยาศาสตร์โลก ก็มิอาจบอกความจริงล่วงหน้าได้ นอกจากนั้น ต่อให้เป็นรูปธรรมทางพลังงานชั้นสูง หรือมนุษย์ที่มีหูทิพย์ตาทิพย์ ก็ยังมิอาจสามารถล่วงรู้เกี่ยวกับวันเวลาสถานที่ที่จะเกิดภัยพิบัติล่วงหน้าได้

    สาเหตุที่ไม่รู้ :

    เหตุที่ไม่มีผู้ใดบอกกล่าวล่วงหน้าได้ ก็เพราะมัน คือ "ความลับ" ที่ไม่มีใครล่วงรู้ไงล่ะ ไม่รู้แม้กระทั่งบรรดาช่างเท็คนิกด้วยกันเองด้วยซ้ำไป

    - ไม่รู้เพราะเป็นปฏิบัติการแบบกะทันหัน ไม่มีแผนการล่วงหน้า
    - ไม่รู้เพราะมันเป็นความลับ แพร่งพรายให้มนุษย์รู้ก่อนไม่ได้เลย ถ้ารู้แผนการนี้จะเป็นโมฆะไปทันที เช่น มนุษย์ในกลุ่มเป้าหมายของการเกิดมหันตภัย ก็จะพากันหลบหนีออกไปจากเป้าหมายบริเวณนั้นๆเสีย ซึ่งมันจะทำให้แผนการนั้นต้องล้มเหลว

    รูปธรรมชั้นสูงบางกลุ่มที่พอรับรู้เรื่องนี้อยู่บ้าง ก็ไม่อาจออกมาบอกกล่าวฟันธงให้มนุษย์ล่วงรู้ได้ เพราะมิใช่หน้าที่ของท่าน ซึ่งรูปธรรมชั้นสูงเหล่านี้เขาจะไม่กระทำในสิ่งที่ผิดสัจจะโดยเด็ดขาด มิหนำซ้ำยังจะต้องเข้ามาเกี่ยวเวรเกี่ยวกรรมกับเจ้ากรรมนายเวรและมนุษย์บาปหนา อันจะเป็นอุปสรรคบนเส้นทางนิพพานอีกต่างหากด้วย

    นักเรียนจึงรับรู้เอาไว้ตรงนี้ว่า หลังแผ่นดินไหวใหญ่ที่เกาะฮอนชูแล้ว ยังมีแผ่นดินไหวรุนแรงตามมาอีกเรื่อยๆ จนวันนี้ก็ยังมีไหวอยู่เป็นระยะๆ พวกเขาวิเคราะห์ว่าเป็น "อาฟเตอร์ช็อก" เป็นต้น แล้วในที่อื่นๆที่มันไหวอย่างต่อเนื่องทุกวันๆ เช่น แผ่นดินซีกตะวันตกของอเมริกา มาจนกระทั่งที่มันไหวอยู่ในพม่าทุกวันๆ ล่ะจะเรียกว่าอาฟเตอร์ช็อกอีกมั้ย?

    ขอบอกนักเรียนว่า ต่อนี้ไปภัยพิบัติมันจะเกิดไปทั่วโลก และรุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ มันจะเกิดจริง แต่ไม่มีใครบอกได้หรอกว่า มันจะเกิดตรงไหน เหมือนพายุทอร์นาโดนั่นแหละ ในอเมริกาตั้งแต่ต้นปีมาไม่รู้กี่ร้อยลูกแล้ว และไม่รู้ว่ามันจะไปเกิดที่ไหนบ้าง วันสองวันนี้ไปโผล่ที่กลางเมืองไต้หวัน โชว์ศักยภาพจิ้บๆ ดูดเอารถตู้ขึ้นไปในอากาศหนึ่งคัน ก่อนจะปล่อยให้มันหล่นลงมากระแทกรถอีกคัน ทั้งๆ ที่พายุหมุนแบบนี้ไม่เคยมีที่ไต้หวันมาก่อนเลยล่ะพี่น้อง!!!

    สาเหตุของการเกิดมหันตภัยเหล่านี้ พระบิดาคือองค์จิตจักรวาล ได้ทรงเมตตาพวกเธอกล่าวถึง เหตุแห่งการเกิด วิธีการเกิด เป้าหมายของการเกิด พิกัดตำแหน่งแห่งที่ๆ เป็นสีแดงที่มันจะเกิด รวมทั้งระยะเวลาแห่งการเกิด เอาไว้ให้พวกเธอผู้เจริญทางวิญญาณและปัญญา ได้ล่วงรู้ล่วงกันมานานแล้วใช่มั้ยล่ะ? หน้าที่ของพวกเธอมีอย่างเดียว คือ "เตรียมตนเองและจิตวิญญาณให้พร้อม เพื่อการผจญภัย" เท่านั้นแหละ จงอย่ารีบ "ตายก่อนตาย" เลยนะ

    เพราะเรารู้เบื้องลึกเบื้องหลังเหล่านี้ไงล่ะ เราจึงไม่อาจฟันธงบอกพวกเธอได้ว่า วันไหนเวลาใดจะเกิดอะไรขึ้นที่ไหนบ้าง เพราะมันเป็นเรื่องของช่างเท็คนิกเขา และมันเป็นเรื่องราวของมนุษย์ด้วยกันเอง เรารู้เท่าที่บอกไปและเรารู้ว่ามันจะเกิดตรงไหน...บนแผนที่โลกบ้างเท่านั้น (โปรดดูแผนที่ของจิตจักรวาล) ส่วนที่เราแอบกระซิบๆ ข่าวให้รู้ล่วงหน้าบ้างนั้น เป็นเพราะพระบิดาทรงเมตตาให้ช่างเท็คนิกบอกเรา เพื่อบอกพวกเธอต่อเพื่อขอทดสอบจิตสำนึกของพวกเธอบางคนก็เท่านั้นเอง อย่างไรก็ดี ข่าวสารเรื่องจริงที่จะเกิดขึ้น กับคำทำนายมันจึงต่างกัน

    ขอให้นักเรียนของเราโปรดใช้ปัญญาพิจารณาก่อนเสพข่าวเหล่านั้นด้วย

    (ป.วิสุทธิปัญญา)<!-- google_ad_section_end -->

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ข่าวสารจากจิตจักรวาล.66981/page-33

    เราจะได้เห็น"ไฟประลัยกัลป์ ลมหอบ แผ่นดินไหว แผ่นดินแยก"ในชาตินี้

    ท่านผู้อ่านที่เคารพ

    เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2552 เวลา 17.45 น.สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานพระราชวโรกาส ให้คณะบุคคลต่าง ๆ เฝ้าถวายฯ พระพรชัย เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา และได้พระราชทานพระราชดำรัส ถึงเรื่องการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว งานศิลปาชีพ ปะการังเทียม การพระราชทานพันธุ์ข้าว ฯลฯ ซึ่งล้วนเป็นประโยชน์ และเป็นพระมหากรุณาธิคุณ แก่ประชาชนชาวไทยอย่างยิ่ง

    มีเรื่องสำคัญยิ่งเรื่องหนึ่ง ที่ทรงมีพระราชดำรัสถึงหนังสือไตรภูมิพระร่วง ถึงพระฤาษีองคต ผู้มีอายุยืนยาวที่สุด ตั้งแต่สร้างโลกมา ซึ่งพระฤาษีได้เล่าว่า โลกของเราแบ่งออกเป็น 5 ยุค คือ

    กฤดายุค - ยุคที่บริบูรณ์ไปด้วยคุณงาม ความดี
    ไตรตายุค - ยุคที่มีความดี สามส่วน ความไม่ดีหนึ่งส่วน
    ทวาบรยุค - ยุคที่ความดี ความไม่ดี เสมอกันครึ่งต่อครึ่ง
    กลียุค - ยุคปัจจุบันที่ความดีมีส่วนเดียว ความไม่ดีสามส่วน
    ยุคไฟประลัยกัลป์ล้างโลก -มีลมหอบแผ่นดินไหว แผ่นดินแยก

    กระผมขออันเชิญกระแสพระราชดำรัส ในตอนนี้มาเป็นเครื่องเตือนสติ มนุษยชาติทั้งปวงที่กำลังหลงทาง ทำลายโลก ทำลายล้าง ตนเองอยู่ทุกวันในขณะนี้ เพื่อพิจารณาให้เห็นว่าชีวิตที่อยู่ในกลียุค เช่นทุกวันนี้ เป็นอย่างไร และชีวิตอันน่าสะพรึงกลัว เมื่อไฟประลัยกัลป์ แผ่นดินไหว แผ่นดินแยกมาถึง จะเป็นอย่างไร และจะดำรงรักษาชีวิต และเผ่าพันธุ์ของมนุษยชาติ ให้อยู่รอดต่อไปได้อย่างไร

    ปัจจุบันนี้กระผมให้ความสนใจ ในเรื่อง"จิตจักรวาล"มากเป็นพิเศษ เหตุที่ต้องสนใจเพราะได้สวดมนต์ ในบทยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก ที่ได้สาธยาย ความหยั่งรู้ของพระพุทธเจ้าในหลายๆ เรื่อง และในบทสวดนี้เอง ได้สาธยายการหยั่งรู้ของพระพุทธองค์ ด้วยปัญญาญาณของพระองค์ ในเรื่องธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ อากาศธาตุ วิญญาณธาตุ และจักรวาลธาตุ

    ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ เป็นสิ่งที่พอสัมผัสรู้ได้ง่าย แต่วิญญาณธาตุ และจักรวาลธาตุ เป็นสิ่งลึกซึ่งกว้างไกลยิ่ง เกินกว่ามนุษย์ธรรมดาจะเข้าใจ เข้าถึงได้ ประกอบกับพระพุทธองค์ ได้สอนพระภิกษุสงฆ์ ผู้เป็นศิษย์ตถาคต ว่าความรู้ที่ท่านนำมาสอนเปรียบได้กับใบไม้กำมือเดียว ในโลก และจักรวาลนี้ ยังมีความรู้อีกมากมาย เหมือนกับใบไม้ในป่า ที่มีมากมหาศาล จึงทำให้กระผมสนใจในเรื่องจิต และจักรวาลมากขึ้น

    โชคดีมีผู้แนะนำ ให้กระผมรู้จักอาจารย์ปริญญา ตันสกุล MBA.,M.S นักจิตวิทยาพฤติกรรมศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตจักรวาล และได้อ่านหนังสือหลายเล่ม ที่ท่านผู้นี้เขียนไว้ ทำให้กระผมมีความรู้ ความเข้าใจในเรื่อง "จิต" และ "จักรวาล" รวมถึง "จิตจักรวาล" มากขึ้น

    กล่าวคือ จักรวาล จะมีจิตเป็นแก่นแท้ จิตจักรวาล เป็นแหล่งความรู้ใหญ่ที่สุด คือใบไม้ในป่าใหญ่ที่พระพุทธองค์ทรงเปรียบเทียบไว้

    อาจารย์ปริญญา ตันสกุล ได้ฝึกฝนพัฒนา จิตของตนเองจนเข้าถึง "จิตจักรวาล"และสามารถสื่อคลื่นความคิด กับจิตจักรวาลได้ จนได้รับรู้ว่า จะมีการชำระโลก ครั้งสำคัญในอนาคตอันใกล้นี้

    ทั้งเรื่อง "การชำระโลก" และ " ไฟประลัยกัลป์ ลมหอบ แผ่นดินไหว แผ่นดินแยก" จึงเป็นเรื่องเดียวกันที่มนุษยชาติ ควรให้ความใส่ใจ แก้ไข เยียวยา รักษาตนให้พ้นจากหายนะ อันเกิดจากภัยธรรมชาติ ที่กำลังคืบคลานเข้ามาสู่โลกใบนี้

    จากการสื่อสารรับข้อมูลจาก"จิตจักรวาล"ของอาจารย์ปริญญาที่ได้รับบอกกล่าวกันไว้ เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2552 ผ่านทางรายการ "สำนึกรักแผ่นดิน" โทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่องสุวรรณภูมิ เวลา 18.00 - 20.00 น. อาจารย์ปริญญาได้บอกกล่าวถึงหายนภัยทางธรรมชาติ ไว้ล่วงหน้าเป็นการเตือนให้มนุษย์คิดตระหนัก และสร้างจิตสำนึกที่ถูกต้อง ดีงามกันใหม่ กระผมจึงนำมาเสนอไว้ ณ บทความนี้ คือ

    ค.ศ. 2012 ( พ.ศ. 2555) กรุงเทพฯ ธนบุรีน้ำท่วมหนัก - พายุใหญ่ถล่มกรุง - คอนโดใหญ่ และตึกสูงพัง ถล่มสะพานแขวนขาด เพราะพายุ และฟ้าผ่า จะมีผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง

    ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) ไทย-พม่า-อินเดีย-ศรีลังกา จะประสบภัยร้ายแรงระดับที่ต้องเขียนแผนที่โลกกันใหม่ แผ่นดินส่วนหนึ่งจะจมหายไปในทะเล จะมีผู้ประสบภัยไร้ที่อยู่ที่กิน-เสียชีวิตรวมกัน 3.23 ล้านคน/คนไทย 1.2 แสนคน เหตุการณ์นี้จะทำให้ด้ามขวานของไทยหักจมทะเล ตรงประมาณหลัก กม.ที่ 346 จากกทม. ไปตามถนนเพชรเกษม ทำให้ทะเลเชื่อมต่อกันสองด้าน เป็นระยะห่างประมาณ 1,823 เมตร ในส่วนที่หักจมทะเลหายไป

    ค.ศ.2018 (พ.ศ. 2561) เขื่อนใหญ่-เชี่ยวหลานทางภาคใต้อาจแตกเป็นเขื่อนแรกของไทย

    ค.ศ. 2018 ประเทศญี่ปุ่น เกาะฮอกไกโด จะประสบแผ่นดินไหวรุนแรง-แผ่นดินหักจม ทะเลเป็นเกาะแรกของประเทศ ตามด้วยหมู่เกาะกิวชิว

    ค.ศ. 2018 กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ และกรุงเปียงยาง ประเทศเกาหลีเหนือ อาจจะประสบภัย 2 เรื่อง (เกิดพร้อมญี่ปุ่น) 1.แผ่นดินไหวรุนแรง 2.เกิดโรคระบาดร้ายแรง

    ค.ศ. 2018 ประเทศรัสเซีย แผ่นดินไหวรุนแรง สถานที่สำคัญแห่งหนึ่งในกรุงมอสโก อาจจะถูกอสุนีบาต และแผ่นดินจะแยกแตกออกเป็น 2 ซีก ตามด้วยธรณีสูบ จนแผ่นดินซีกหนึ่งจมอยู่ใต้น้ำ

    ค.ศ. 2018 กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ตรงพิกัดเส้นแบ่งเวลาระหว่าง ASIA กับ EUROPE อาจจะเกิดแผ่นดินแยกธรณีสูบ

    ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) เวลา 13.00 น. อาจเกิด แผ่นดินไหว กทม.-นนทบุรี-ปทุมธานี คาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตถึงจำนวนหมื่นราย

    ค.ศ. 2019 เกาหลีเหนือ-ใต้ อาจจะแยกแตกออกเป็นสองซีก

    ค.ศ. 2019 อาจเกิดภูเขาไฟระเบิดที่เชียงใหม่ ในเขต อ.ฮอด และ อ.แม่แตง อาจเกิดภูเขาไฟระเบิดที่ จ.ตาก อาจเกิดภูเขาไฟระเบิดที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน

    ค.ศ. 2019 ทองผาภูมิ และด่านเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี อาจเกิดแผ่นดินแยก ทำให้ลาวา - แก๊สพิษจะผุดขึ้นมา และอาจทำให้เขื่อนใหญ่แตก เพราะภูเขาแยกตัวออก น้ำทะเลจะเข้าแทน

    ค.ศ. 2019 ในยามค่ำคืนวันหนึ่ง อาจมีเขื่อนแห่งหนึ่งในภาคอีสานแตก

    ค.ศ. 2019 เขื่อนภูมิพล อาจจะแตกเพราะรับน้ำไม่ไหว เหตุการณ์อาจจะเกิดตอนกลางวัน - ทุกคนรู้ตัวล่วงหน้าก่อนแล้ว

    ค.ศ. 2020 (พ.ศ.2563) เขื่อนศรีนครินทร์-เขื่อนใหญ่สุดของไทย อาจเป็นคิวต่อไปที่ต้องแตก ไม่มีใครเคยเชื่อว่ามันจะแตกได้ แต่โปรดอย่าประมาทเถิด

    ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) วันที่ 19 สิงหาคม 2022 - ทำเนียบขาว บริเวณสนามหญ้าหน้าทำเนียบขาว แผ่นดินจะแยกตัวออก น้ำใต้ดินจะท่วมขึ้นมาจนทำเนียบขาวเสียหายใช้การไม่ได้ ประธานาธิบดีเป็นหญิง ชื่อ "B" รองประธานาธิบดีเป็นหญิง ชื่อ Hillary

    ค.ศ. 2022 เหตุเกิดตอนกลางวัน (สิงหาคม-กันยายน ค.ศ. 2022) อเมริกาอาจจะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดในโลก ระดับ 19 ริกเตอร์ จนแผ่นดินใหญ่แตกหักหลายส่วน ทำให้แผ่นดินหักทรุดจมลงใต้ทะเล

    ค.ศ. 2022 กันยายน ค.ศ. 2022 อาจจะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิถล่มชายฝั่งของ Losangelis สหรัฐอเมริกา โดยเหตุจากแผ่นดินไหว และการทรุดตัวจมทะเล ของประเทศที่เป็นหมู่เกาะใหญ่ใต้เส้นศูนย์สูตร ซึ่งอยู่ในทวีปเอเชีย

    ค.ศ. 2022 อาจจะเกิดพายุทอร์นาโด Henna พัดเข้าถล่มผ่ากลางเมืองนิวยอร์ก อนุสาวรีย์แห่งเทพีสันติภาพ จะถูกอสุนีบาตจนแต่หักออกเป็น 4 ส่วน ยังผลให้เมืองนิวยอร์กพังเสียหายหมดแทบทั้งเมือง

    ค.ศ. 2030 (พ.ศ. 2573) อาจเกิดปฏิบัติการชำระโลกคาบสุดท้าย เป็นเวลา 56 วัน 7 ราตรี ติดต่อกัน หลังจากนั้น โลกจะเข้าสู่ยุคพลังงานใหม่

    ทั้งหมดที่กล่าวนี้ คือ การชำระโลก ไม่ใช่ การทำลายโลก เพื่อให้มนุษย์พลังใหม่ เข้ามาแทนที่มนุษย์พลังเก่าผู้ทำให้โลกเสียสมดุล ขาดความรักต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ต่อต้นไม้ สัตว์ และต่อโลกผู้มีอุปการคุณใบนี้
    โพสต์ข้อความโดยคุณ ประมวล รุจนเสรี วันที่ 23/8/2009

    ที่มา http://www.naewna.com/news.asp?ID=175558

    หมายเหตุ

    วันเวลาได้แจ้งเอาไว้นี้ คงถูกเปลี่ยนแปลงไปหมดแล้ว เพราะ อ.ปริญญา ตันสกุลได้บอกเอาไว้ในขณะนี้ว่า "แพร่งพรายให้มนุษย์รู้ก่อนไม่ได้เลย ถ้ารู้แผนการนี้จะเป็นโมฆะไปทันที" เช่น มนุษย์ในกลุ่มเป้าหมายของการเกิดมหันตภัย ก็จะพากันหลบหนีออกไปจากเป้าหมายบริเวณนั้นๆเสีย ซึ่งมันจะทำให้แผนการนั้นต้องล้มเหลว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤษภาคม 2011

แชร์หน้านี้

Loading...