ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>[​IMG] บุรีรัมย์แล้ง ชาวบ้านพลิกวิกฤติงมหอย-จับปลาขาย </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center>ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>
    จากสภาพปัญหาความแห้งแล้งที่ขยายวงกว้างครอบคลุมในหลายอำเภอที่จ.บุรีรัมย์ ขณะที่ชาวบ้านบ้านดงใหญ่ หมู่ที่ 13

    และหมู่ที่ 14 ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ ได้พลิกวิกฤตช่วงหน้าแล้งให้เป็นโอกาส โดยการออกหางมหอยขมและจับปลา ตามแหล่งน้ำต่างๆที่เริ่มตื้นเขิน เพื่อนำไปประกอบอาหารรับประทานในครัวเรือน เหลือก็จะนำไปขายในหมู่บ้านและตามตลาด เพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัวในช่วงหน้าแล้ง โดยชาวบ้านได้ใช้เครื่องมือในการประมงที่มีอยู่ ทั้งแห สวิง ตะแกรง และอวน ในการลากหอยขมและดักจับสัตว์น้ำต่างๆ ที่อาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำต่างๆ ใกล้บริเวณหมู่บ้าน โดยแต่ละวันชาวบ้านสามารถงมหอยขม และจับปลา ได้เฉลี่ยคนละไม่ประมาณ 15 - 20 กิโลกรัม สามารถนำไปขายได้ในกิโลกรัมละ 25 - 30 บาท ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านเฉลี่ยวันละ 200 - 500 บาท


    ด้านนางบุญยัง วงค์สุวรรณ อายุ 50 ปี หนึ่งในชาวบ้านบ้านดงใหญ่ ต.โคกมะม่วง ที่มางมหอย บอกว่า ในแต่ละวันได้พากันตระเวนออกหางมหอยขมและจับปลา ตามแหล่งน้ำที่ตื้นเขินรอบๆ บริเวณหมู่บ้าน โดยเฉพาะหอยขมสามารถหาได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 15 - 20 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังจะมีพวกกุ้งฝอย ปลา รวมถึงกบและเขียดด้วย โดยจะนำไปทำเป็นกับข้าวไว้รับประทาน ในเมนูต่างๆ ทั้งแกงคั่วหอยขม แกงหอยขม และหอยขมลวกจิ้ม ส่วนหอยขมที่เหลือก็จะนำไปขายให้กับเพื่อนบ้าน และขายที่ตลาดสดในเทศบาลตำบลปะคำ ในราคากิโลกรัมละ 25 - 30 บาท ซึ่งในวันๆหนึ่ง เฉพาะตนเองจะขายได้ไม่ต่ำวันละกว่า 200 - 500 บาท


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> อุตุฯเตือน38จังหวัดรับมือพายุฤดูร้อน </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>วันนี้ (20เม.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนภัย"พายุฤดูร้อน"ฉบับที่ 9

    ระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนแล้ว ในขณะที่บริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อนอบอ้าว ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนในระยะ 1-2 วันนี้ไว้ด้วย

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00น.วันนี้ถึง 06.00น.วันพรุ่งนี้

    ภาคเหนือ
    อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง น่าน แพร่ ตาก กำแพงเพชร พิจิตรและเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศา ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
    อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ และ อุบลราชธานีอุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


    ภาคกลาง
    อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


    ภาคตะวันออก
    ทางตอนบนของภาคมีอากาศร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร


    ภาคใต้ฝั่งตะวันออก
    มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร


    ภาคใต้ฝั่งตะวันตก
    มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร


    กรุงเทพฯและปริมณฑล
    อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]หนูน้อย เอเดน รอดปาฏิหาริย์ หลังพายุพัดถล่มบ้าน

    เผยมีเพียงโคลนเปรอะเปื้อนตามใบหน้าเท่านั้น
    20เม.ย.54 สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า หนูน้อยเอเดน วัยแค่ 3เดือนได้รอดตายอย่างปาฏิหาริย์ หลังจากรถบ้านของครอบครัวเขา ที่ในเมืองดันน์ รัฐนอร์ทแคโรไลนา ถูกพายุทอร์นาโดพัดถล่มพังยับ
    ซึ่งนางโรบินสัน ญาติของเด็กเล่าว่า ขณะที่พายุได้โหมซัดกระหน่ำตัวบ้านอยู่นั้น โจนาธาน วัย 21ลูกพี่ลูกน้องของหนูน้อยคนดังกล่าว ก็ได้คว้าตัวของทารกน้อยเอาไว้ แต่กระแสลมหมุนแรงมากจนกระชากทำให้เด็กหลุดจากอ้อมแขน
    จึงทำให้หนุ่มโจนาธานตกใจมาก จึงเร่งออกตามหาหนูน้อยเอเดนทันที จนกระทั่งเขาได้ไปพบกับทารกน้อยนอนอยู่ใต้บานประตู ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า เอเดนไม่มีบาดแผลใดๆ มีเพียงแค่โคลนที่เปรอะเปื้อนบนใบหน้าเท่านั้น
    สำหรับพายุทอร์นาโดนั้น ได้พัดเข้าฝั่งถล่มหลายพื้นที่ในสหรัฐมาร่วมสัปดาห์แล้ว ซึ่งจากเหตุที่เกิดขึ้นทำให้ประชาชนชาวสหรัฐเสียชีวิตไปแล้วกว่า 45ราย
    Mthai News
    <LI class=news_src_item>[​IMG]
     
  2. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    มีครูบาท่านหนึ่งได้เมตตาเตือนว่าให้อัญเชิญพระมาห้อยคอได้แล้วครับ ที่ญี่ปุ่นนอกเหนือจากที่กระจายไปในทะเลแล้วยังกระจายไปทางอากาศด้วย

    มีผลทำให้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงรุนแรงในหลายประเทศครับ

    หากท่านใดมีศรัทธาวันเสาร์ที่ 7 พค. นี้ที่วัดท่าซุงมีพิธีพุทธาภิเษกเสาร์ห้า นำพระบูชาหรือวัตถุมงคลที่ท่านเคารพไปร่วมพิธีได้ครับ และอธิษฐานเอาคุ้มครอง แคล้วคลาด กันรังสี หรือทุกๆประการตามจิตศรัทธาและมั่นคงเชื่อมั่นในพุทธานุภาพ ธรรมมานุภาพ สังฆานุภาพครับ

    คุณพระพุทธเจ้าหาที่สุดหาประมาณมิได้
     
  3. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    พวกคนอยู่ทางใต้รู้ว่าตรงไหนจะมีภัย ยิ่งรู้ว่าหนักแต่ยังคงอาศัยเฝ้ารออยู่ไม่หนีไปไหนแต่มีความคิดทางปลอยภัยไว้ในใจเสมอ เตรียมการไว้เสมอๆ เตรียมความพร้อมไว้เสมอทั้งกายและใจที่เน้นไปในด้านกุศลต่างๆ คิดเรื่อยภัยพิบัติต่างๆแต่มิขลาดกลัวแม้แต่น้อยเลย พวกนี้คิดว่าเป็นคอยเฝ้ารอช่วยคนที่รอดยากใช่ไหม ถ้ามีข้าอยู่ซักคนข้าจะช่วยได้หลายคนว้อยถ้าข้าไม่ตายซะก่อนคิดแบบนี้ป่ะ ขอถามหน่อยครับว่ามีใครคิดแบบนี้ทั้งหมดบ้าง
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    กำลังใจของท่านที่ปรารถนาพระโพธิญาณ

    [​IMG]

    สำหรับท่านที่บำเพ็ญ ตนปรารถนาเป็นพระโพธิสัตว์ ปรารถนาพุทธภูมิ ต้องสร้างกำลังใจให้ถูกต้อง มิฉะนั้นการก้าวเข้าสู่ฐานะพุทธภูมิจะไม่มีผล การปรารถนาพุทธภูมิเป็นของดี แต่จะต้องทำความรู้สึกไว้เสมอว่า เราปฏิบัตินี้เพื่อประโยชน์แก่ชาวโลก เราต้องการรื้อสัตว์ขนสัตว์ที่มีความทุกข์ให้มีความสุข จิตจะต้องคิดอยู่เสมอว่า ทุกข์ของตนไม่มีความหมาย แต่ทุกข์ของชาวประชาทั้งหลายเป็นภาระของเรา เขาทำกำลังใจกันแบบนี้

    หมายความว่า เราจะทุกข์แค่ไหนนั้นมันเป็นเรื่องของเรา ไม่มีความสำคัญ จิตใจของเรานั้น เราคิดว่าเราจะพ้นทุกข์ได้ เพราะว่าเราช่วยเหลือความสุขแก่บรรดาประชาชนที่มีความทุกข์ ถ้าเราเปลื้องทุกข์เขาได้ เราก็เป็นคนหมดทุกข์ เราสร้างให้เขาเป็นคนมีความสุขได้เราก็เป็นคนมีความสุข จิตใจของพระโพธิสัตว์มีอารมณ์อย่างนี้ แต่ทว่าให้เป็นไปตามบารมี

    บารมี ของพระโพธิสัตว์นั้น แม้จะเป็นการเริ่มต้นแห่งการปรารถนาพุทธภูมิ กำลังใจเต็มเปี่ยมด้วยเมตตาปรานี ก็จะมีบริษัทมาก จะมีบริวารมาก เป็นการฝึกกำลังใจของนักปฏิบัติเพื่อจะได้ซ้อมกำลังใจของเราว่ามีความหนัก แน่นเพียงใด

    นักปรารถนาพุทธภูมิจะต้องมีทั้งขันติและโสรัจจะ ขันติ อดทนต่อความยากลำบากทุกประการ เพื่อความสุขของปวงชน โสรัจจะ แม้จะกระทบกระทั่งทำให้ใจตนไม่สบายเพียงใดก็ตาม ก็ทำหน้าแช่มชื้นไว้เสมอ นี่ก้าวแรกสำหรับพุทธภูมิ และกำลังใจอีกส่วนหนึ่งที่จะเว้นไม่ได้นั่นคือ พระนิพพาน จงอย่าคิดว่าถ้าจิตเราเกาะพระนิพพานแล้วความเป็นพุทธภูมิจะหายไป ถ้ามีอารมณ์อย่างนี้ต้องถือว่า เป็นผู้มีกำลังใจต่ำ ก้าวไม่ถึงก้าวสำคัญของพุทธภูมิ

    พุทธภูมิจะต้องมีความรู้สึกอยู่เสมอ ว่าเราเป็นผู้ที่ต้องการพระนิพพาน อารมณ์ใดที่องค์สมเด็จพระพิชิตมารทรงแนะนำในด้านวิปัสสนาญาณ ต้องเกาะให้ติด และมีกำลังจิตใช้ปัญญาพิจารณาไว้เสมอ เพื่อความสุขของจิต เพื่อปัญญาเลิศแล้ว ก็มีจิตตั้งไว้เสมอว่า ถ้าหากจิตของเราบริสุทธิ์ผุดผ่องเมื่อไหร่ เมื่อนั้นบารมีของเรานั้นไซร้ จะเข้าเต็มเปี่ยมในขั้น พุทธวิสัย ชื่อว่า การที่เราจะเข้าพระนิพพานคนเดียว เราไม่เข้าใจ มองไว้เข้าใจว่า บุคคลใดที่มีความทุกข์ในโลกที่ยังมีความฉลาดไม่พอ บุคคลนั้นเราเองจะเป็นผู้อุ้มเขาไปสู่แดนเอกันตบรมสุขคือพระนิพพาน อันนี้เป็นกำลังใจของท่านที่ปรารถนาพระโพธิญาณ

    ที่มา พุทธภูมิ และ พระโพธิสัตว์ (โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน-ฤาษีลิงดำ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • fa1_2.jpg
      fa1_2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      127.9 KB
      เปิดดู:
      1,520
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2011
  5. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    อิทธิพลของดาวพระเคราะห์ที่สร้างอุบัติภัยให้แก่โลก <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td valign="middle"><table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" valign="middle" align="left">โดย พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์</td> <td class="date" valign="middle" align="left">20 เมษายน 2554 16:43 น.</td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td>
    </td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> </tbody></table> <table width="100%" border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td valign="middle" align="center">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr> <td class="body" valign="baseline" align="left"> ได้มีท่านผู้อ่านบทความเรื่อง “พลูโตเจ้าการที่สร้างภัยพิบัติให้แก่โลก?” ปรารภมาว่า เนื้อหาสาระที่ได้กล่าวไว้ค่อนข้างสั้นผมยินดียอมรับข้อปรารภดังกล่าว จึงตกลงใจปรับปรุงบทความดังกล่าวใหม่ และขอซ้อมความเข้าใจของท่านผู้อ่านว่า บทความเกี่ยวกับวิชาการโหราศาสตร์ดวงดาวต่างๆ ที่ผมได้เขียนไว้มีลักษณะเป็นกรณีศึกษาเพื่อวิเคราะห์วิจัยเกี่ยวกับอิทธิพล ของดาวพระเคราะห์ต่างๆ ที่สร้างผลกระทบแก่โลก และมนุษยชาติ โดยน้อมเอาคำสอนของครูบาอาจารย์ที่มีอยู่ในตำราต่างๆ เป็นเอกสารอ้างอิง มิได้กล่าวอย่างลอยๆ ไม่มีที่มาที่ไป หรือคิดเอาเอง และท่านผู้อ่านจะเข้าใจเนื้อหาสาระของเรื่องได้มากยิ่งขึ้น ถ้าท่านคุ้นเคยกับความหมายของราศีจักร และดาวพระเคราะห์ต่างๆ

    หนังสือ The Rulership Book โดย Rex E.Bills เป็นหนังสือคู่มือสำคัญของผมในการเขียนบทความต่างๆ มาโดยตลอด (หนังสือเล่มนี้คงจะหาได้ยากในตลาดหนังสือทั่วไป) ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเหตุภัยพิบัติเกิดแผ่นดินไหวที่ Christchurch,New ประเทศนิวซีแลนด์เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2554 และที่ Miyake ประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นเหตุให้เกิดสึนามิขนาดใหญ่ติดตาม ทำให้อาคารบ้านเรือน รวมเตาผลิตพลังนิวเคลียร์ระเบิดหลายแห่ง มีประชาชนบาดเจ็บล้มตายสูญหายเป็นเรือนหมื่นนั้น ผมได้กล่าวถึงดาวพระเคราะห์ คือ ดาวพลูโต และดาวมฤตยูกับราหูเท่านั้น

    แต่เมื่อผมได้ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจากหนังสือ Planetary Influences on Human Affairs โดย R.V.Raman ท่านผู้นี้เป็นโหราจารย์ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของประเทศอินเดีย ท่านได้กล่าวไว้เป็นสาระสำคัญว่า ดาวพระเคราะห์ต่างๆ ที่มีอิทธิพลเกี่ยวกับเรื่องแผ่นดินไหวได้แก่ ดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวมฤตยูและราหู (ท่านไม่ได้กล่าวถึงดาวเนปจูน และพลูโต เนื่องจากดาวทั้งสองนี้เป็นดวงดาวขนาดเล็กที่อยู่ห่างไกลจากโลกมาก อย่างไรวิชาการโหราศาสตร์ฮินดูในยุคสมัยนี้ก็ได้ยอมรับดาวทั้งองนี้แล้ว)

    หากดาวพระเคราะห์เหล่านี้ทำมุมสัมพันธ์กัน คือ ทับกัน เล็งกัน ทำมุมเบียนเป็นทุกข์โทษแก่กัน 90 องศา แล้วจะเกิดภัยพิบัติต่างๆ แก่โลก และมนุษยชาติ ลักษณะของภัยพิบัตินั้นขึ้นอยู่กับราศีธาตุซึ่งมี 4 อย่างได้แก่ธาตุน้ำ (ราศีกรกฎ พิจิก และมีน) ซึ่งทำให้เกิดอุทกภัย ธาตุไฟ (ราศีเมษ สิงห์ และธนู) ซึ่งทำให้เกิดเพลิงใหม้ ธาตุลม (ราศีเมถุน ตุลย์ และกุมภ์) ซึ่งทำให้เกิดวายุภัย และธาตุดิน (ราศีพฤษภ กันย์ และมังกร) ซึ่งทำให้เกิดแผ่นดินไหว

    ท่าน B.V.Raman ได้กล่าวถึงเรื่องแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2465 (ค.ศ. 1923) เป็นเหตุให้ประชาชนเสียชีวิตมากถึง 1,400,000 คน เมื่อได้ผูกดวงตรวจสอบจุดที่ตั้งของดาวพระเคราะห์ที่สถิตในราศีธาตุต่างๆ แล้ว ได้พบว่า ดาวเสาร์สถิตอยู่ในราศีกันย์ ซึ่งเป็นราศีธาตุดิน จึงเป็นเหตุให้เกิดแผ่นดินไหว ดาวอังคารสถิตอยู่ในราศีสิงห์ ร่วมกับราหู ราศีสิงห์เป็นราศีธาตุไฟจึงเป็นเหตุให้เกิดอัคคีภัยเกิดขึ้นด้วย ดาวพฤหัสบดีสถิตอยู่ในราศีตุลย์ซึ่งเป็นราศีธาตุลม ดาวมฤตยูสถิตในราศีตุลย์ซึ่งเป็นราศีธาตุลม และดาวพลูโตสถิตในราศีเมถุนซึ่งเป็นราศีธาตุลม (ในดวงที่ท่าน B.V.Raman ได้ผูกไว้ไม่มีดาวมฤตยูและดาวพลูโต)

    เมื่อได้นำดวงนี้มาเปรียบเทียบกับดวงในวันที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวที่ Miyake ประเทศญี่ปุนเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 ปรากฏว่า ดาวเสาร์สถิตในราศีกันย์ซึ่งเป็นราศีธาตุดินเช่นกัน มีดาวอังคารสถิตในราศีกุมภ์ซึ่งเป็นราศีธาตุลม ดาวพฤหัสบดี และดาวมฤตยูสถิตในราศีมีนซึ่งเป็นราศีธาตุน้ำจึงเป็นให้เกิดอุทกภัยสึนามิ ขึ้น ดาวพลูโต และราหูสถิตในราศีธนูซึ่งเป็นราศีธาตุไฟจึงทำให้อาคารบ้านเรือนเกิดอัคคีภัย และเตาผลิตพลังนิวเคลียร์ระเบิดเกิดเพลิงไหม้หลายแห่งดังปรากฏเป็นข่าวประจำ วันอยู่ในขณะนี้ ซึ่งผมได้เรียงลำดับดวงทั้งสองไว้เพื่อประกอบการพิจารณาด้วย

    นับว่า ทฤษฎีที่ท่าน B.V.Raman ได้เขียนไว้มีความถูกต้องสมควรนำมาประยุกต์ใช้การได้ในโอกาสต่อไป

    </td> </tr> <tr> <td class="body" valign="baseline" align="left"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td valign="top" align="center"> <table width="500" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td valign="Top" width="500" align="center"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top" align="center" height="5">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>

    </td> </tr> <tr> <td class="body" valign="baseline" align="left"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td valign="top" align="center"> <table width="500" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td valign="Top" width="500" align="center"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top" align="center" height="5">[​IMG]</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    การสังเกตสัญชาตญาณเตือนภัยของสัตว์ต่างๆ

    [​IMG]

    สิ่งบอกเหตุจากภัยพิบัติของธรรมชาติบางอย่างรู้ไว้ก็ดีครับ ภัยธรรมชาติอย่างแผ่นดินไหวนั้นไม่มีใครทำนายได้ล่วงหน้าเลย ว่าจะเกิดขึ้นที่ไหนเมื่อไร นักวิทยาศาสตร์หลายชาติหลายคณะในปัจจุบัน กำลังศึกษาหาทางที่จะให้รู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดเหตุขึ้นที่ไหนเมื่อไร แต่จนบัดนี้ยังไม่มีคณะไหนไขปัญหานี้ได้

    แต่ว่ามีศาสตร์ชาวบ้านจากประเทศจีนบอกว่า ให้สังเกตสัตว์ที่อยู่ใต้ดินเช่น หนู ถ้าหากสัตว์เหล่านี้แตกตื่น ออกมาวิ่งเพ่นพ่านข้างบนพื้นดินอย่างโกลาหลแล้ว สิ่งที่ตามมาคือแผ่นดินไหว ดังนั้น ถ้าหากพบเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ขอให้รู้ไว้มันอาจเป็นสัญญาณเตือนภัยแผ่นดินไหวจากสัตว์ใต้ดินก็ได้

    นักสัตววิทยาฝรั่งเศสเฝ้าสังเกตสัตว์จากภาพทีวีวงจรปิด พบว่าในช่วงเกิดภัยสึนามิถาโถมเข้าประเทศศรีลังกา พวกมันแสดงพฤติกรรมบางอย่างที่รับรู้ล่วงหน้าก่อนที่ภัยร้ายจะถึงตัว แถมยังส่งเสียงแจ้งเตือนพรรคพวกให้รีบลี้ภัยขึ้นบนที่สูง ภาพทีวีวงจรปิดในมุมสูงของสวนสัตว์แห่งชาติ ยาลาในศรีลังกา แสดงให้เห็นสวนสัตว์ที่ถูกน้ำไหลบ่าเข้าท่วมจากคลื่นยักษ์สึนามิ แต่ไม่มีสัญญาณเลยว่าสัตว์สงวนอย่างช้าง เสือดาว กวาง หมาไน และจระเข้ ล้มตาย

    สภาพการณ์ดังกล่าวช่วยเพิ่มข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ให้เราได้รับทราบเกี่ยวกับภัยพิบัติอย่างคลื่นยักษ์ แผ่นดินไหว และภูเขาไฟระเบิด ซึ่งเมื่อเกิดปรากฏการณ์เหล่านี้ นกจะพากันบินหนี สุนัขหอนโหยหวน ฝูงสัตว์จะวิ่งแตกตื่น ไปหาสถานที่ปลอดภัยก่อนที่ภัยพิบัติจะมาเยือน

    "ในเรื่องของการสั่นไหว แรงสั่นสะเทือน หรือเสียงคลื่นนั้น สัตว์มีความสามารถ ซึ่งมนุษย์ไม่มี อาทิ ช้าง มีการสื่อสารของคลื่นเสียง ซึ่งมีย่านความถี่ต่ำกว่าระดับที่มนุษย์สามารถได้ยิน ช้างสามารถจับเสียงเหล่านี้ได้จากระยะไกลมาก เรียกได้ว่าอยู่ห่างไปหลายกิโลเมตรก็สามารถจับสัญญาณได้" เฮอร์เว ฟริตซ์" นักวิจัยพฤติกรรมสัตว์แห่งศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์แห่งชาติของฝรั่งเศส กล่าว

    ทั้งนี้ คลื่นเสียงความถี่ต่ำแบบที่เรียกว่าอัลฟราซาวนด์ มักมีความถี่ต่ำกว่า 20 เฮิรตซ์ ซึ่งต่ำกว่าระดับที่มนุษย์จะสามารถได้ยิน โดย ฟริตซ์นำเสนอทฤษฎี เพื่ออธิบายว่าเหตุใดช้างจึงอาจมีสัญญาณเตือนว่าจะเกิดคลื่น นั่นเป็นเพราะว่า ช้างน่าจะสามารถจับ "สัญญาณภาคพื้นดิน" ของการสั่นสะเทือนหรือเสียงจากอากาศที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนที่ของสัตว์หรือสิ่งอะไรก็ตามที่มีขนาดใหญ่ อันเป็นเสียงที่มนุษย์ไม่สามารถได้ยิน

    แต่ช้างก็ไม่ใช่สัตว์ประเภทเดียวที่สามารถจับสัญญาณอันตรายจากการสั่นสะเทือนได้ เพราะ กระต่ายและสัตว์สี่เท้าอื่นๆ ก็สามารถรับรู้ภัยล่วงหน้าได้ ผ่านทางพื้นดิน รวมถึง นกพิราบ ซึ่งอ่อนไหวมากกับการเปลี่ยนแปลงของความกดอากาศ

    ส่วน ผึ้ง ก็มีประสาทสัมผัสที่มีความแม่นยำสูงมาก และจะมีปฏิกิริยาต่อการเปลี่ยนแปลงของสนามแม่เหล็กในโลก ขณะที่ ค้างคาว อาศัยการรับฟังคลื่นเสียงและเสียงสะท้อน เพื่อจับตำแหน่งของสิ่งนั้นๆ นอกจากนั้น สัตว์ซึ่งอยู่ร่วมกันเป็นฝูงอย่างช้าง กวาง และนก ยังมี "รหัสเตือนภัย" อันทรงประสิทธิภาพ นั่นคือ เสียงร้องในแบบพิเศษที่สามารถเตือนเพื่อนร่วมฝูงให้หนีได้ทันเมื่อเห็นอันตรายใกล้เข้ามาก

    ประสาทสัมผัสเหล่านี้เชื่อว่า ช่วยให้สัตว์ต่างๆ ตรวจจับภัยอันตรายล่วงหน้าได้ เพียงแค่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเล็กน้อย หรือในกรณีที่วัตถุเกิดการสั่นไหว จึงไม่แปลกเลยที่คลื่นสึนามิไม่สามารถทำอันตรายพวกมัน

    เกณฑ์สัตว์เตือนภัยแจ้งแผ่นดินไหว มีสัญชาตญาณล่วงรู้โดยธรรมชาติ

    สำนักข่าวซินหวาของทางการจีนรายงานว่า สำนักงานข่ายติดตามภัยแผ่นดินไหวได้เกณฑ์เอาสัตว์จากสวนสัตว์ เมืองอันชาน ที่มณฑลเหลียวหนิงมาเลี้ยง เพื่อจะได้คอยติดตามดูปฏิกิริยาของมัน ที่อาจจะแสดงออกมาให้รู้ เมื่อรู้ว่ากำลังจะเกิดแผ่นดินไหวขึ้น

    ผู้ช่วยวิศวกรของสำนักงานกล่าวแจ้งว่า "สัตว์บางชนิดจะแสดงอาการแปลกๆให้รู้ก่อนหน้าจะเกิดแผ่นดินไหว ได้ก่อนถึงหนึ่งอาทิตย์ และยิ่งมันแสดงกิริยาแตกตื่นมากเท่าใด ก็ส่อว่าจะเกิดภัยธรรมชาติรุนแรงขึ้นเท่านั้น"

    ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตววิทยาเชื่อว่า สัตว์ หลายชนิดล้วนแต่มีสัญชาตญาณรู้ถึงภัยของการเกิดแผ่นดินไหวในตัว ตั้งแต่ ม้า ลา หมูวัว ควาย หมา แมว ไก่ เป็ด ห่าน หนู งู แม้ กระทั่งปลา พวกมันจะแสดงอาการหลายแบบหลายอย่าง ตั้งแต่อาการผิดปกติธรรมดาไปจนตื่นตระหนก

    สำนักข่าวแจ้งว่า จีนเคยโดนแผ่นดินไหวใหญ่มาหลายหนแล้ว เฉพาะมณฑลเหลียวหนิงเอง ก็เคยเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ขนาดความรุนแรงไม่ต่ำกว่า 5 ริกเตอร์ นับแต่ปี พ.ศ. 2513 มาถึงสามหนด้วยกันแล้ว
    หรือจะเป็นแบบไทยๆเรา ก็มีครับ เช่นมดขนไข่ของมันขึ้นที่สูงแสดงว่าฝนจะตกหนัก หญ้าคาออกดอกเร็ว นกกระแตแต้แวดออกหากินยามเช้าตรู่และส่งเสียงเจื่อยแจ้วนั่นแสดงว่าฤดูหนาวกำลังจะมาเยือน

    เจเจได 22 พ.ค. 2551 เวลา 21:31:08 น.

    ที่มา http://board.goosiam.com/html/0074025.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 002-32.jpg
      002-32.jpg
      ขนาดไฟล์:
      38.2 KB
      เปิดดู:
      1,230
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2011
  7. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    =====================================



    20 เม.ย. 54


    เตรียมความพร้อม

    จากสัญญาณของตัวเองและของสมาชิกในเว็บฯ ผมคิดว่าแนวร่วมฐานผาแบ่น
    ที่ยังไม่ได้เตรียมอะไรเลยควรจะเริ่มเตรียมจัดซื้อจัดหาของใช้จำเป็นได้แล้ว
    เพราะถ้าเหตุการณ์เกิดขึ้นไม่ว่าที่ใดของประเทศจะทำให้ของที่จะซื้อขาดแคลน
    หรือแพงเกินกว่าเหตุ สิ่งของที่จำเป็นจะซื้อในอันดับต้นๆคือ เต็นท์นอน ถุงนอน
    เสื้อชูชีพ เสื้อกันหนาว ถุงมือกันหนาว หมวกไหมพรหม ที่ปิดหูกันเสียงดังและ
    อื่นๆที่ท่านคิดว่าจำเป็นในการดำรงค์ชีวิต อาหารและยาควรซื้อตอนก่อนขึ้น
    ฐานฯ จะได้ยืดอายุของใช้ ถ้าซื้อก่อนอายุก็จะสั้น

    แนวร่วมคนใดถ้าสงสัยว่าจะเตรียมอะไรเพิ่มอีกก็เมล์มาสอบถาม


    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน

    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"
     
  8. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,705
    ค่าพลัง:
    +51,934
    *** โลก...เขามาทวงสัจจะแล้ว ****

    จะเป็นจะตายร้ายดีอย่างไร...ก็ลืมสัจจะไม่ได้
    ถ้าลืม ก็วิบัติ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  9. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    อ้างอิง
    กำลังใจของท่านที่ปรารถนาพระโพธิญาณ

    ขอกราบอนุโมทนาคุณเกษมที่นำพระเดชพระคุณหลวงพ่อมาเผยแพร่อีกครั้งให้รู้ข้อมูลกัน

    ด้วยยุคสัมยที่เกิดภัยนี้ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติภัยมนุษย์ภัยจากวิบากกรรมของโลกธาติที่มีการเปลี่ยนแปลงของมิติที่มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วเช่นนี้
    จึงเป็นการที่เกิดเหตุการณ์ เหล่าพระมหาโพธิสัตว์เจ้าหลายพระองค์ที่มีหน้าที่ต่างๆในท่ามกลางยุคสมัยของช่วงกึ่งพุทธกาลต้องเป็นอันลาจากพุทธภูมิเข้าสู่กระแสพระนิพพานกันหลายพระองค์ ที่เรียกพระองค์นั้นจะขออนุญาตกล่าวถึงพระโพธิสัตว์ที่ท่านมีกำลังใจปานกลางจนถึงละเอียดนั้น บางพระองค์ยังมิสามารถทนต่อการบีบรัดจากกาเห็นกองทุกข์ที่อยู่เบื่องหน้าจนเกิดอารมณ์ที่จะขอลาพุทธภูมิเพื่อเข้าสู่กระแสพระนิพพานกันหลากหลายกรณีด้วยเหตุปัจจัยของวิบากกรรมที่บำเพ็ญกันมาในสมัยของหลวงพ่อท่านต้องพบกับข้อพิสูตรใหญ่ด้วยภัยของโรคภัยจากประชาชนส่วนใหญ่ในยุคนั้นต้องพาลพบ ที่ทำให้หลวงพ่อต้องลาพุทธภูมิเพื่อเข้าสู่กระแสพระนิพพานแต่ว่าด้วยโรคภัยนั้นเป็นเพียงการยกตัวอย่างของผมในสิ่งที่มองเห็นเป็นทุกข์ปลงอนิจจังในส่วนของกำลังใจของกระผมเอง แต่ในส่วนของหลวงพ่อในการที่ท่านลาพระโพธิญาณนั้นผมไม่ขอปรารภในสิ่งที่พระโพธิสัตว์กำลังใจยอดเยี่ยมเช่นท่านว่านั้นคือเหตุผลเพราะเป็นสิ่งที่เหล่าบรรดาพระโพธิสัตว์กำลังใจเบาหรือปานกลางจะหยั่งถึง
    ฉนั้นที่กล่าวมานี้ อยากจะขอให้กำลังใจแก่ ผู้ปราถนาพระโพธิญาณ ที่ท่านกำลังสั่งสมมหาบารมีในยุคสมัยแห่งภัยพิบัตินี้ ซึ่งในช่วงของการสั่งสมบารมีในช่วงต้นนั้นสำหรับผู้ที่กำลังใจเบาถึงปานกลางมักจะหลีกเลี้ยงการเกิดในช่วงกลางกึ่งพุทธกาลหรือมาพาลพบกับต้นพุทธกาลเว้นเสียแต่แต่พระองค์นั้นจะมีกำลังใจเต็มแบบเข็มข้นเพื่อสร้างมหาบารมีใหญ่ ส่วนกำลังใจเบาและปานกลางก็จะพาลพบกับการบำเพ็ญใหญ่เช่นกันจะมีการเปลี่ยนแปลงของกำลังใจแน่นอนแต่จะเป็นในด้านกำลังใจแน่นอนแต่จะขึ้นในทางใดนั้นจะขึ้นอยู่กับกำลังใจและผลของการอธิฐาน และ ผลของวิบากกรรม ขออารธนาพระโพธิสัตว์ทุกพะองค์ และ ทุกท่าน ขอให้ท่านบรรลุแก่การบำเพ็ญเพียงที่ท่านตั้งตั้งใจไว้ทุกประการและจงอย่าย่อท้อต่ออุปสรค์นานานับการที่กองอยู่เบื้องหน้าท่านจักสามารถฝ่าฟันผ่านไปได้

    ที่กล่าวมานี้กระผมคาดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ทุกท่านที่ทำงานเพื่อผู้อื่นอยู่จะทราบว่าท่านทำเพื่ออะไร เหตุผลใด แต่ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุผลใดจงรู้ไว้ว่านั้นเป็นสิ่งที่ดีที่หน่อเนื้อของชาวพุทธ และอย่างน้อยสากภูมิควรทำเป็นสิ่งที่ท่านปราถนาอธิฐานมาทั้งสิ้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2011
  10. DukeSonic

    DukeSonic เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    241
    ค่าพลัง:
    +831
    ชาวสุราษฎร์ผวา!!น้ำจากภูเขาทะลักท่วมบ้านเรือนสูงกว่า 180 ซ.ม.

    21 เมษายน 2554 11:31 น.

    ชาวบ้านเขาวง ต.เขาวง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี จำนวนมาก ออกมาดูระดับน้ำ
    หลังจากที่น้ำจากภูเขาและน้ำจากบ่อบาดาลพุ่งขึ้นจากใต้ดินไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือน และส่วนยางพาราประมาณ 200 ไร่ ระดับสูง บางจุดสูงประมาณ 180 เซนติเมตร นอกจากนี้ น้ำยังไหลเข้าท่วมถนนระหว่างเขาวง สูงประมาณ 70 เซนติเมตรด้วย ชาวบ้าน บอกว่า หลังเกิดวิกฤตน้ำท่วมเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา และนำลดลงจนกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ กลับมีน้ำจากภูเขาและจากใต้ดินไหลหลากเข้าท่วมอีกครั้ง ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกวันละประมาณ 10 เซนติเมตร
    สร้างความแตกตื่นให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2011
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ชาวบ้านเขาวงผวาหลังมีน้ำจากใต้ดินและภูเขาทะลักเข้าท่วม

    [​IMG]

    สุราษฎร์ธานี 21 เม.ย. - ชาวบ้านตำบลเขาวง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ผวาหลังมีน้ำจากใต้ดินและจากภูเขา ทะลักเข้าท่วมสวนยางพาราและบ้านเรือนเป็นบริเวณกว้าง

    ชาวบ้านเขาวง ตำบลเขาวง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวนมาก ออกมาดูระดับน้ำ หลังน้ำจากภูเขา และน้ำจากบ่อบาดาล พุ่งขึ้นจากใต้ดินไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและสวนยางพารา ประมาณ 200 ไร่ ระดับน้ำสูงบางจุดสูงประมาณ 180 เซนติเมตร นอกจากนี้ น้ำยังไหลเข้าท่วมถนนระหว่างเขาวง - วังพลาย สูงประมาณ 70 เซนติเมตร

    ชาวบ้านบอกว่า หลังเกิดวิกฤติน้ำท่วม เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา และน้ำลดลงจนกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่กลับมีน้ำจากภูเขาและจากใต้ดินไหลหลากเข้าท่วมอีกครั้ง ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นวันละประมาณ 10 เซนติเมตร สร้างความแตกตื่นให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก.-สำนักข่าวไทย

    วันพฤหัสบดี ที่ 21 เม.ย. 2554

    ที่มา http://www.mcot.net/cfcustom/cache_page/198532.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>[​IMG] ฮือต้นวาสนาบานออกดอกผิดฤดูทั่วไทย </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>คมชัดลึก : ฮือฮาปรากฏการณ์ "ต้นวาสนาบาน" ไม้มงคลผลิดอกนอกฤดูทั่วไทย นักวิชาการเชื่ออากาศเปลี่ยนรวดเร็วต้นไม้หลงฤดู นายกไม้ประดับฯ ชี้ต้นไม้เครียดกลัวไม่รอดแน่จึงเร่งขยายพันธุ์ ขณะที่โหรทำนายโยงชะตาเมือง คาดการเมืองพลิกครั้งใหญ่แบบหน้ามือเป็นหลังมือ-โลกเผชิญภัยพิบัติ




    ความตื่นเต้นที่เห็น "ต้นวาสนา" ผลิดอกนอกฤดูกาลบานสะพรั่งทั่วประเทศ ขัดกับธรรมชาติที่จะออกดอกฤดูหนาว

    แถมยังเป็นไม้ที่ออกดอกยาก แต่ละครั้งที่ออกดอกเจ้าของจึงนำดอกไม้ธูปเทียนมาไหว้สักการะ ตามความโบราณที่ว่าใครปลูกต้นวาสนาประจำบ้านเจ้าของจะมีวาสนา โชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา หน้าที่การงานเจริญรุ่งเรือง



    ปรากฏการณ์ "วาสนาบาน" ทำให้นักเลงไม้ดอกไม้ประดับที่นิยมปลูกไม้มงคลชนิดนี้ไว้ในบริเวณบ้าน หรือสถานที่ทำงาน เพื่อเสริมโชคลาภและมงคลชีวิต ต่างโพสต์ข้อความและภาพถ่ายดอกวาสนาในโลกไซเบอร์อวดกันอย่างคึกคัก


    "noo" สมาชิกเว็บบอร์ดจาก www.magnoliathailand.com นำภาพดอกวาสนามาโพสต์ไว้ เมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมา ระบุว่า "ดอกวาสนาออกผิดฤดู" มาชมกันค่ะ ปกติแล้ว ดอกวาสนาจะออกในเดือนพฤศจิกายน-มกราคม ปีนี้ออกดอก 2 รอบ ครั้งแรกออกมา 9 ช่อ ครั้งนี้ออกมา 10 ช่อ"


    "megaxx" จากหว้ากอ เว็บไซต์พันทิปดอทคอมโพสต์ว่า "บ้านใคร มีต้นไม้ที่ออกดอกผิดฤดูแบบบ้านผมบ้าง มาแชร์กันครับ"...ต้นวาสนาที่บ้าน (กทม.) ปกติจะออกดอกช่วงหน้าหนาว ประมาณเดือนธันวาคมซึ่งก็เพิ่งจะออกดอกไปในปีที่ผ่านมา ดอกมาอีกแล้วครับ คราวนี้ออกรวดเดียว 10 กว่าช่อเลย น่าตื่นเต้นดี แถมด้วยกล้วยไม้อีกหลายต้นที่ปลูกไว้ ก็ออกดอกด้วยแข่งกันใหญ่ครับ ไม้ดอกนอกฤดูกาล โดยมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์ประสบการณ์กันที่ต่างเห็นความผิดปกติที่ดอกวาสนาบานในช่วงนี้


    "MoonGlade" แสดงความคิดเห็นในกระทู้นี้ว่า ต้นวาสนาของผมก็ออกดอกในรอบ 7 ปี กลิ่นหอมมาก ต้นอ้อยก็ออกดอก และก็ต้นคล้ายๆ บอนใบสีชมพูที่เพิ่งซื้อมาไม่นานก็ออกดอกเพียบเลย ซึ่งดอกเหมือนดอกหน้าวัวมาก แต่สีและรูปร่างไม่สวยเท่าดอกหน้าวัว


    ส่วนในเฟซบุ๊ก "เฉลียว คงตุก" โพสต์เมื่อวันที่ 12 เมษายน ระบุว่า "สุดแท้แต่วาสนา...สุดแท้แต่วาสนา (ต้นวาสนาที่บ้านออกดอกทุกกิ่ง) โดยมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก และมองว่าการที่ดอกวาสนาออกดอกผิดฤดูกาลเช่นนี้เป็นผลมาจากสภาพที่หนาวเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บ้างก็แปรเป็นเลขเด็ดในหวยงวดต่อไป"




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>"คม ชัด ลึก" พยายามค้นหาคำตอบจากปรากฏการณ์ "วาสนาบาน"

    โดยผู้เชี่ยวชาญด้านไม้ดอกไม้ประดับ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อธิบายว่า ต้นวาสนาในประเทศไทยมี 2 ชนิด คือวาสนาราชินี และวาสนาอธิษฐาน เป็นพืชเขตร้อนในตระกูลหรือวงศ์ AGAVACEAE ถือเป็นไม้ประดับที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่สมัยโบราณ พรรณไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นสูง 4-10 เมตร ลำต้นกลม ต้นตรง ไม่มีกิ่งก้าน แต่มีใบเดี่ยวแตกออกจากลำต้นที่ส่วนยอดเรียงซ้อนกันเวียนรอบลำต้นเป็นทรงพุ่มกลม ปกติออกดอกยาก หากขึ้นตามธรรมชาติกว่าจะออกดอกเฉพาะต้นที่สมบูรณ์มีอายุมาก และจะออกดอกในฤดหนาว

    "การที่วาสนาออกดอกแทบทุกต้นในช่วงนี้ เกิดจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง มีฝนตก อากาศหนาวเย็นไปทั่วประเทศ ผมก็เคยปลูก แต่ออกดอกน้อย เชื่อว่าการออกดอกในช่วงนี้เป็นเรื่องดี เพราะคนไทยถือว่าหากวาสนาออกดอก เจ้าของบ้านจะมีโชควาสนา แต่อย่างน้อยที่สุดเราก็ได้ชมความสวยงาม" ผู้เชี่ยวชาญด้านไม้ดอกไม้ประดับกล่าว


    สอดคล้องกับ นายทวีศักดิ์ ด้วงทอง ผู้อำนวยการกลุ่มพืชสมุนไพร กรมส่งเสริมการเกษตร เล่าว่า

    ปีนี้อากาศเปลี่ยนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้ต้นไม้บางชนิดเกิดหลงฤดู ออกดอกออกผลนอกฤดูกาล ที่เห็นชัดเจนตอนนี้คือ ต้นวาสนาออกดอกแทบทุกบ้าน ทั้งที่ความเป็นจริงเป็นต้นไม้ที่ออกดอกยากชนิดหนึ่ง กว่าจะออกดอกได้ต้องมีอายุพอสมควร และต้องสมบูรณ์ด้วย ที่สำคัญต้นวาสนาจะออกดอกช่วงฤดูหนาว แต่ปีที่เกิดฝนตก อากาศหนาวนานในช่วงฤดูร้อน ต้นไม้บางชนิดที่ออกผลในฤดูหนาวคิดว่าถึงหน้าหนาวแล้วจึงออกดอกในช่วงนี้ เช่นเดียวกันกับต้นมะลิ ซึ่งช่วงฤดูร้อนออกผลผลิตน้อยมาก แต่ปีนี้ออกดอกผิดปกติ และมากกว่าช่วงฤดูหนาวอีกด้วย


    นายอุดม ฐิตวัฒนะสกุล นายกสมาคมไม้ประดับแห่งประเทศไทย บอกว่า การที่ต้นวาสนาออกดอกเกิดมาจากอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

    โดยเฉพาะอากาศหนาวทำให้วาสนาออกดอกในช่วงนี้ ทั้งที่ปกติต้นวาสนาออกดอกยากพอสมควร แม้กระทั่งต้นวาสนาที่ขึ้นในป่าธรรมชาติกว่าจะออกดอก ต้นต้องสมบูรณ์ มีอายุหลายปีจะออกดอกเฉพาะช่วงฤดูหนาวระหว่างเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ แต่ปีนี้ออกดอกช่วงฤดูร้อน และทราบว่าไม่เฉพาะแต่ในกรุงเทพฯ เท่านั้น หากแต่ออกดอกทั่วทุกภาครวมถึงประเทศเพื่อนบ้านด้วยไม่ว่าจะเป็นกัมพูชา เวียดนาม ลาว และพม่า


    "ต้นไม้บางอย่าง หากเกิดความเครียด มันคิดว่าตัวเองไม่รอด ต้องสืบพันธุ์หรือขยายพันธุ์ เพื่อคงสายพันธุ์หรือชาติพันธุ์ นั่นคือต้องออกดอก ออกผล เพื่อให้มีลูกหลานสืบทอดต่อไป จะเห็นได้ว่าต้นมะม่วง หรือต้นไม่อื่นหากต้องการให้ออกนอกฤดูกาล ชาวสวนจะใช้ของมีคมไปสับตามต้น หากเป็นมะนาว หรือส้ม ให้ลดการให้น้ำ ทำให้ต้นคิดว่ามันถูกคุกคาม อาจจะตายไปจึงต้องขยายพันธุ์ อย่างที่ผ่านมาในวันเดียวอากาศเปลี่ยนแปลงถึง 3 ฤดู คือฝนตกเช้า ช่วงบ่ายแดดจัด พอกลางคืนหนาวเย็น และปีนี้หนาวนานด้วย ทำให้ต้นไม้บางชนิดรวมถึงต้นวาสนาด้วย คิดว่าตัวเองถูกคุกคาม และคงไม่ไหวแล้ว จึงขยายพันธุ์ด้วยการออกดอกในช่วงนี้ ไม่ใช่วาสนาอย่างเดียวนะครับ แม้แต่ยูคาลิปตัส ซึ่งเป็นต้นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ แต่ในสวนของผมต้นเล็กนิดเดียวก็ออกดอกเช่นกัน แม้สับปะรดบางตระกูลเช่นเทียร์เลียนเซียร์ทั้งที่ออกดอกไปแล้วเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ตอนนี้ออกดอกอีกแล้ว" นายอุดมกล่าว


    นายกสมาคมไม้ประดับฯ ระบุว่า การที่ต้นวาสนาออกดอกไปทั่วประเทศเป็นเรื่องที่ดี เพราะต้นวาสนาเป็นไม้ประดับที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเล่นต้นไม้มงคลมาตั้งแต่สมัยโบราณกาลแล้ว เนื่องจากมีความเชื่อว่า หากปลูกต้นวาสนาภายในบริเวณบ้าน คอยดูแลรดน้ำพรวนดิน ใส่ปุ๋ยให้สวยงดงามและออกดอก จะทำให้คนในบ้านหรือในครอบครัวจะมีอำนาจวาสนา บารมี ได้รับโชคลาภ ทั้งเป็นข้าวของ เงินทอง แม้ยศถาบรรดาศักดิ์ และจะได้เลื่อนตำแหน่งหน้าที่การงาน


    "ตามความเชื่อของคนไทยนั้น หากต้องการปลูกต้นวาสนาให้เป็นความมงคลยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นวาสนาราชินี หรือวาสนาอธิษฐานควรจะเป็นสุภาพสตรี เพราะไม่ว่าจะเป็นวาสนาอธิษฐาน หรือวาสนาราชินี ดูจะสอดคล้องจองให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายปลูก และควรปลูกในวันอังคาร ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ถือเป็นทิศที่เหมาะสำหรับการปลูกต้นวาสนาที่สุด เพราะจะช่วยเพิ่มพลังของต้นไม้ และเสริมความเป็นสิริมงคลให้แก่ครอบครัวเป็นต้น" นายอุดมกล่าว


    ขณะเดียวกัน นายภิญโญ พงษ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ กล่าวว่า ปีนี้ถือเป็นปีที่มีความเปลี่ยนแปลงที่เกินความคาดหมายหลายๆ อย่าง

    เช่นกรณีดอกวาสนาซึ่งเท่าที่ทราบมักจะบานในฤดูหนาว แต่ปีนี้กลับบ้านในฤดูร้อน ในส่วนตัวไม่มีความรู้เรื่องของดอกไม้และต้นไม้ แต่หากอ้างถึงทางโหราศาสตร์ในระยะนี้มีเรื่องผิดปกติหลายอย่าง ดวงดาวซึ่งมีอิทธิพลต่อดวงชะตาของบ้านเมืองมีการเล็งและกุมกันหลายคู่ อย่างดาวพฤหัสเล็งกับดาวเสาร์ไปจนถึงวันที่ 4 พฤษภาคม ก่อนจะย้ายเข้าสู่ราศีเมษ ปรากฏการณ์ดังกล่าวขอทำนายว่า อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทางการเมือง อย่างเกินความคาดหมาย ชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ


    นายภิญโญกล่าวต่อว่า นอกจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองแล้ว เรื่องภัยพิบัติที่เกิดจากธรรมชาติ ก็ต้องระมัดระวัง

    เพราะประเทศไทยมีเกณฑ์ที่จะต้องเผชิญกับภัยพิบัติธรรมชาติ เพราะดาวราหูเคลื่อนเข้าสู่ราศีพิจิก แถมเกิดอุปราคาในราศีพฤษภและราศีพิจิก สอดคล้องกับทางวิทยาศาสตร์ที่มีการระบุกันว่า แกนโลกเอียง ส่งผลต่อการปรับแนวโคจรของโลกและดวงจันทร์ อาจทำให้เกิดภัยพิบัติต่างๆ เกิดขึ้นบนโลกรวมถึงประเทศไทยด้วย


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    พบวัตถุลึกลับ บินเหนือโรงไฟฟ้าฟูกุชิมะ ก่อนเกิดสึนามิ
    21 เม.ย.มีการเปิดเผยเรื่องราวลึกลับของวัตถุประหลาด ที่สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นได้รายงานว่า มีการพบวัตถุลึกลับ หรือ ยูเอฟโอ กลุ่มหนึ่งบริเวณสนามบินฮาเนดะ เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ก่อนที่จะเกิดสึนามิ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม โดยภาพที่ปรากฎเป็นลักษณะแสงไฟที่แตกต่างแสงจากยานอื่นๆที่เคยพบ อย่างเครื่องบิน หรือ จรวด และไม่สามารถระบุได้ว่า วัตถุดังกล่าวเป็นวัตถุชนิดใด
    [​IMG]
    <EMBED height=349 type=application/x-shockwave-flash width=425 src=http://www.youtube-nocookie.com/v/bDznPw4TFf0?fs=1&hl=th_TH allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true">
    ทั้งนี้ บริเวณที่วัตถุลึกลับบินฉวัดเฉวียนนั้น อยู่บริเวณเดียวกับจุดที่เกิดสึนามิ และบริเวณรอบๆโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ
    [​IMG][​IMG]
    <EMBED height=349 type=application/x-shockwave-flash width=425 src=http://www.youtube-nocookie.com/v/b6kEoYH043I?fs=1&hl=th_TH allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true">
    นอกจากนี้วันที่ 12 21 26 และ31 มีนาคม ช่วงที่เกิดอาฟเตอร์ช็อค ก็มีภาพเช่นเดียวกันที่สามารถบันทึกได้ ซึ่งภาพดังกล่าวเป็นที่ถกเถียงจากผู้ที่เห็นว่า สิ่งที่เห็นเป็นวัตถุชนิดใด
    Mthai news
     
  13. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    ต้นวาสนาที่บ้าน ก็ออกดอกเหมือนกัน

    ปกติจะออกช่วงปลายปี

    แต่ดันมาออกกลางปี

    งงเลย ...เกิดมาไม่เคยเจอ

    ขอให้เป็นลางดีละกัน อย่าเป็นลางร้ายเลย...สาธุๆๆ
     
  14. chan2

    chan2 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2008
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +23
    ลางบอกเหตุบนหน้าจอทีวี ดาวเที่ยมหลุดวงโคจร เตรียมรับดีกว่าประมาท
     
  15. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    ต้นวาสนาที่บ้านก็ออก สวยเชียว หอมด้วย
     
  16. doodee1

    doodee1 คนละพวก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2554 เวลา 10:51 น. ข่าวสดออนไลน์


    พังงาพบรอยดินแยกยาว300เมตรในพื้นที่เสี่ยงดินถล่ม

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    เมื่อวันที่ 21 เม.ย. นายวิเชียร การะสังข์ อายุ 49 ปี อาชีพทำสวนยางพารา อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ที่ 2 ต.ทุ่งคาโงก อ.เมือง จ.พังงา เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 2-3 วัน มีชาวบ้านมาบอกว่าพบรอยแยกเป็นทางยาวหลังฝนตกหนักไม่นาน จึงได้ไปตรวจสอบ ซึ่งหากมีปริมาณน้ำฝนที่มากพอคาดว่าหน้าดินที่เป็นรอยแยกอยู่จะสไลด์หรือดินถล่มลงมาได้ โดยก่อนหน้านี้ประมาณเมื่อปี 2540 มีเจ้าหน้าที่มาปักป้ายข้อความว่า “พื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่ม” จนกระทั่งมีการก่อสร้างถนนลาดยางและถนนคอนกรีตเข้าหมู่บ้านป้ายดังกล่าวไม่มีใครพบเห็นอีกเลย ซึ่งชาวบ้านที่ทราบเรื่องนี้พบว่าเกิดอาการหวาดกลัวบางรายเมื่อฝนตกหนักได้นำครอบครัวไปอาศัยอยู่กับญาติที่หมู่บ้านอื่น หรือไปอาศัยบ้านญาติที่ปลอดภัยซึ่งห่างจากที่เกิดเหตุ จึงต้องการให้ทางหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบหรือให้ความมั่นใจกับชาวบ้านในหมู่บ้านนี้ด้วย

    นายสายัณห์ วรรณเวช ผญบ.หมู่ที่ 2 บ้านบางม่า ต.ทุ่งคาโงก อ.เมือง จ.พังงา กล่าวว่า พอทราบแหตุที่เกิดขึ้นเรื่องรอยแยกในหมู่บ้านแล้ว โดยพร้อมที่จะเดินทางเข้าไปดูและจะรายงานให้ทางอำเภอทราบต่อไป ส่วนชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกที่เกิดเหตุประมาณ 4-5 ครัวเรือน อาจจะต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาแนะนำ เท่าที่ทราบคือมีรอยแยกจากสวนยางพาราของชาวบ้านในหมู่บ้านรายหนึ่ งซึ่งพื้นที่เกิดเหตุดังกล่าวอยู่ติดกับถนนคอนกรีตสายทางเข้าประปาหมู่บ้าน และยอมรับว่าก่อนหน้านี้มีดินสไลด์ลงมาทับเส้นทางถนนสายทางเข้าหมู่บ้านบางม่าอยู่บ่อยครั้ง

    สำหรับรอยแยกที่เกิดอยู่บริเวณทางเข้าหมู่บ้านบางม่าห่างจากเส้นทางลาดยางประมาณ 400 เมตร เป็นถนนคอนกรีตด้านขวาเป็นสวนยางพาราเพิ่งปลูกใหม่ มีความสูงชันประมาณ 25 องศา เมื่อเดินขึ้นไปห่างจากถนนคอนกรีตประมาณ 100 เมตร พบรอยแยกกของดินมีความยาวประมาณ 300 เมตร ความลึกเป็นช่วงๆบางช่วงลึกถึง 1-2 เมตร โดยมีลักษณะเป็นแนวเดียวกัน เมื่อตรวจสอบพบว่าลักษณะเป็นแนวดินแยกออกจากกัน

    อังกฤษห้ามม็อบชุมนุมเผาหุ่น'เคต'




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]
    โดนแบน- ชาวมุสลิมกลุ่มต้านสงครามครูเสด (ขวา) ยื่นใบอนุญาตขอชุมนุมและเผาหุ่นเคต มิดเดิลตัน คู่หมั้นของเจ้าชายวิลเลียม ในวันอภิเษกสมรส แต่ถูกแบนเมื่อ 20 เม.ย. (เดลี่เมล์)


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    วันที่ 20 เม.ย. เอพีรายงานว่า ตำรวจสกอตแลนด์ยาร์ดของอังกฤษปฏิเสธคำขออนุญาตชุมนุมของกลุ่มอิสลามสายเคร่งสุดโต่งที่จะนัดชุมนุมกันที่หน้าสถานที่จัดงานอภิเษกสมรสระหว่างเจ้าชายวิลเลียม และเคต มิดเดิลตัน ในวันที่ 29 เม.ย. โดย ลีนน์ โอเวนส์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลลอนดอน กล่าวว่า จะไม่ยอมให้เกิดสงครามครูเสด หรือความขัดแย้งทางด้านศาสนาใดๆ เบื้องหน้างานพิธีโดยเด็ดขาด และได้ส่งเจ้าหน้าที่เจรจากับทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว

    สำหรับกลุ่มมุสลิมดังกล่าวประกาศจะเผาหุ่นจำลองของสาวเคต เพื่อตอบโต้อังกฤษที่ส่งทหารเข้ารุกรานประเทศอาหรับหลายประเทศ ขณะเดียวกัน กลุ่มขวาจัดผู้รักชาติชาวอังกฤษก็ประกาศจะออกมาปะทะกลุ่มมุสลิมเช่นเดียวกัน

    ด้านเดลี่เมล์รายงานว่า พิธีอภิเษกสมรสของเจ้าชายวิลเลียมจะถ่ายทอดสดผ่านเว็บไซต์ยูทูบ โดยสำนักพระราชวังอังกฤษจะอัพเดตข้อมูลรูปภาพและวิดีโอในเว็บไซต์ต่างๆ เช่น ฟลิก ทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ก

    บุรีรัมย์ประกาศพท.ภัยพิบัติ




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]
    แล้งหนัก- บุรีรัมย์แล้งหนักประชาชนเดือดร้อนขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคกว่า 154,000 ครัวเรือน จังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว 12 อำเภอ และอีก 6 อำเภออยู่ระหว่างเสนอพิจารณาประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัย


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    บุรีรัมย์ - นายพรเชษฐ์ แสงทอง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบุรีรัมย์ เผยว่าขณะนี้ได้รับรายงานมีพื้นที่ประสบภัยแล้ง ราษฎรประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค น้ำในการทำการเกษตร และปศุสัตว์ แล้วจำนวน 18 อำเภอ จากทั้งจังหวัดมี 23 อำเภอ และล่าสุดทางจังหวัดได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้งแล้ว 12 อำเภอ มี อ.ลำปลายมาศ, นางรอง, กระสัง, หนองกี่, สตึก, บ้านกรวด, หนองหงส์, บ้านใหม่ไชยพจน์, พุทไธสง, แคนดง, ปะคำ และ อ.คูเมือง มีราษฎรได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำกว่า 154,000 ครัวเรือน

    ส่วนอีก 6 อำเภอ คือ อ.เมือง, โนนสุวรรณ, พลับพลาชัย, เฉลิมพระเกียรติ, ละหานทราย และ อ.นาโพธิ์ ขณะนี้อยู่ในระหว่างเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัย ขณะที่ทางจังหวัดได้สั่งการให้อำเภอที่ถูกประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัย เร่งออกสำรวจและให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากภาวะภัยแล้ง โดยเบื้องต้นสามารถอนุมัติเงินทดรองราชการที่มีอยู่อำเภอละ 500,000 บาท พิจารณาให้ความช่วยเหลือได้ทันที

    นอกจากนั้นยังให้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ระดมรถบรรทุกน้ำออกแจกจ่ายช่วยเหลือราษฎรที่เดือดร้อนในอีกทางหนึ่งด้วย อย่างไรก็ตามหากงบประมาณไม่เพียงพอ ก็ให้เสนอมายังทางจังหวัด เพื่อที่จะได้พิจารณาดำเนินการให้ความช่วยเหลือคลายความเดือดร้อนให้กับราษฎรดังกล่าวต่อไป

    สร้างเกาะให้ลีเมอร์

    เลาะโลก



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ครอบครัวตัวลีเมอร์ชะเง้อมองคนอย่างสนอกสนใจ พวกมันกำลังจะมีบ้านใหม่ เนื่องจาก ริชาร์ด แบรนสัน มหาเศรษฐีพันล้านของอังกฤษ มีแผนจะสร้างอาณาจักรลีเมอร์ บนเกาะมอสกิโต ในหมู่เกาะเวอร์จิน กลางทะเลแคริบเบียน เขต ปกครองของอังกฤษ ซึ่งแบรนสันซื้อไว้และยังมีสภาพรกร้าง แม้จะเป็นแนวคิดน่าขำที่จะช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่กำลังเสี่ยงสูญพันธุ์ชนิดนี้ให้อยู่ในบ้านใหม่ที่ห่างไกลจากแอฟริกาถิ่นเดิม แต่เศรษฐีจอมไอเดียกระฉูดก็จะทำ (ภาพ-เอพี)


    แก้โลกร้อนงดเผาซังข้าว



    นายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า การเผาตอซังมีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ก่อให้เกิดมลพิษ ทำลายอินทรียวัตถุในดิน และทำให้โครงสร้างของดินแน่นทึบ จุลินทรีย์ในดินที่เป็นประโยชน์ต่อพืชถูกทำลาย สูญเสียธาตุอาหารและน้ำในดิน นอกจากนี้การเผาตอซังยังปล่อยก๊าซพิษสู่บรรยากาศของโลก ซึ่งก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก หรือโลกร้อนได้

    ดังนั้น เพื่อช่วยลดปัญหาดังกล่าว ทางกรมพัฒนาที่ดินจึงมีการรณรงค์ส่งเสริมให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนทัศนคติการเผาตอซังข้าว เช่น ในพื้นที่ปลูกข้าว มันสำปะหลัง อ้อย และข้าวโพด ซึ่งยังช่วยลดผลกระทบจากการเผาตอซังหลังเก็บเกี่ยวในพื้นที่เกษตรกรรมที่มีผลต่อภาวะโลกร้อนแล้ว ยังเป็นการปรับปรุงบำรุงดินให้อุดมสมบูรณ์ ช่วยเพิ่มผลผลิตและรายได้ให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

    ทั้งนี้ทางกระทรวงได้รณรงค์เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ปลุกจิตสำนึกให้ประชาชนรักสิ่งแวดล้อม โดยมอบหมายให้กรมพัฒนาที่ดินเป็นหน่วยงานหลักในการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน ในแผนงานการอนุรักษ์ดินและน้ำเพื่อป้องกันผลกระทบจากภาวะโลกร้อน ยุติการทำลายหน้าดิน ลดการใช้สารเคมี

    เจาะประวัติ'หลวงปู่คำ' (1) 'พระอาจารย์'มิตร ชัยบัญชา

    มุมพระเก่า
    อภิญญา


    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>วัดหน่อพุทธางกูร ตั้งอยู่ในเขต ต.พิหารแดง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี โดยอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำสุพรรณบุรี ประวัติความเป็นมาของวัดนี้สร้างขึ้นในสมัยใดไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด ชาวบ้านเล่าลือสืบต่อกันมาว่า ชาวลาวที่ถูกกวาดต้อนมาจากเวียงจันทน์ เมื่อคราวกบฏเจ้าอนุวงศ์ พ.ศ.2369 ได้อพยพมาตั้งถิ่นฐานบริเวณนี้ และได้สร้างสำนักสงฆ์ขึ้นในบริเวณที่มีฐานพระอุโบสถเก่าอยู่ก่อนแล้ว แต่ไม่สามารถสืบหาอายุได้ว่าสำนักสงฆ์นี้สร้างขึ้นเมื่อใด

    ต่อมา "ขุนพระพิมุข" ข้าหลวงในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มาสร้างวัดขึ้น ให้ชื่อว่า "วัดมะขามหน่อ" จนกระทั่งในสมัย "พระครูสุวรรณวรคุณ" หรือ "หลวงปู่คำ จันทโชโต" เป็นเจ้าอาวาสจึงได้เปลี่ยนชื่อวัดนี้เป็น "วัดหน่อพุทธางกูร" <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=right border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    พระอุโบสถเก่าของวัดนี้มีภาพจิตรกรรมฝาผนังซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย เนื่องจากลักษณะของฐานที่แอ่นโค้งแบบท้องเรือสำเภาอันเป็นรูปแบบที่นิยมมากในสมัยอยุธยาตอนปลาย จิตรกรรมของวัดนี้เขียนอยู่ภายในและภายนอกพระอุโบสถ ผู้เขียนคือ "นายคำ" ช่างหลวงที่ถูกกวาดต้อนมาจากเวียงจันทน์เมื่อคราวกบฏเจ้าอนุวงศ์

    ภาพจิตรกรรมที่พระอุโบสถวัดหน่อพุทธางกูรเป็นจิตรกรรมแบบไทย ภาพจิตรกรรมระบายสีแบนเรียบด้วยสีสันสดใสแล้วตัดเส้น เป็นภาพสองมิติที่ให้ความรู้สึกเพียงด้านกว้างและด้านยาว เนื้อเรื่องที่เขียนเป็นเรื่องราวในพุทธศาสนา มีทั้งทศชาติชาดก พุทธประวัติ เทพยดาต่างๆ และเรื่องราวในไตรภูมิ ซึ่งเป็นที่นิยมโดยทั่วไปในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น

    หลวงปู่คำ อดีตเจ้าอาวาสวัดหน่อพุทธางกูร เป็นหนึ่งในสุดยอดคณาจารย์เมืองสุพรรณที่เชี่ยวชาญด้านแพทย์แผนโบราณมาก เป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์, หลวงพ่อปิ่น วัดหน่อพุทธางกูร, หลวงพ่อทองหยด วัดชีสุขเกษม สมัยที่มีชีวิตอยู่เป็นพระเถราจารย์ที่ชาวบ้านในตำบลนั้นรวมไปถึงชาวตลาดจังหวัดสุพรรณบุรี มีความเคารพนับถือมากองค์หนึ่ง เพราะท่านเป็นพระที่สันโดษ มักน้อย มีความเมตตาปรานีสูงยิ่ง

    ท่านเกิดเมื่อวันที่ 30 พ.ค.2430 เวลา 19.19 น.โดยประมาณ ตรงกับวันพุธ ขึ้น 15 ค่ำ เดือนอ้าย ปีกุน ร.ศ.106 ณ บ้านพิหารแดง หมู่ 1 ต.พิหารแดง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ห่างจากตัวจังหวัดขึ้นไปทางทิศเหนือตามลำน้ำท่าจีนประมาณ 4 กิโลเมตร และห่างจากวัดหน่อพุทธางกูรราว 27 เส้นเศษ เป็นบุตรจีนฮั้ว แซ่ตัน หรือแซ่ตั้ง มารดาชื่อจันทร์ มีเชื้อสายเป็นชาวเวียงจันทน์

    เมื่ออายุได้ไม่กี่ขวบก็ต้องกำพร้าบิดามารดา และอาศัยอยู่กับน้าชาย ชื่อทอง น้าสาวชื่อหริ่ม จนกระทั่งอายุ 16 ปีจึงบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดมะนาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันอังคารที่ 8 เม.ย.2445 โดยได้รับความอนุเคราะห์จากพระอาจารย์คำตา และอยู่กุฏิเดียวกับพระปลัดบุญมี ซึ่งเป็นญาติกับท่าน พร้อมกับศึกษามูลกัจจายน์และอักขระขอมไทยกับขอมลาว

    ต่อมาญาติของท่านชื่อพระอาจารย์บุญมา บวชอยู่ที่วัดภาวนาภิรตาราม อ.บางกอกน้อย ธนบุรี ได้ชักชวนให้ไปเรียนหนังสือต่อที่วัดแห่งนี้




    เจาะประวัติ"หลวงปู่คำ"(2) "พระอาจารย์"มิตร ชัยบัญชา

    คอลัมน์ มุมพระเก่า
    อภิญญา



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    "พระครูสุวรรณวรคุณ" หรือ "หลวงปู่คำ จันทโชโต" วัดหน่อพุทธางกูร ต.พิหารแดง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ท่านได้ตั้งหน้าตั้งตาศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยและมูลกัจจายน์ กับหนังสือใหญ่ (หนังสือขอม) ด้วยความขยันขันแข็ง แต่ดวงของท่านต้องกลับมาอยู่บ้านเกิด เพราะเกิดเหน็บชาไม่สามารถที่จะอยู่วัดภาวนาภิตารามได้ เมื่อกลับมาอยู่วัดหน่อพุทธางกูร ไม่นานก็หายเป็นเหน็บชา เพราะได้ฉันข้าวซ้อมมือซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยวิตามินบี

    เมื่ออายุ 21 ปีเต็ม ท่านได้กลับไปอุปสมบทที่วัดนะนาว เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2451 โดยมีพระครูวินยานุโยค วัดอู่ทอง เป็นอุปัชฌาย์ พระปลัดบุญมี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระช้าง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่า "จันทโชโต"

    จากนั้นได้จำพรรษาอยู่ที่วัดมะนาวเรื่อยมา

    ต่อมาพระอาจารย์บุญมา ได้กลับมาจำพรรษาและดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหน่อพุทธางกูร ในราวปีพ.ศ 2452 ได้ชักชวนให้ท่าน มาอยู่ที่วัดหน่อพุทธางกูร (วัดมะขามหน่อในขณะนั้น) เพื่อช่วยพัฒนาวัด เมื่อมาจำพรรษาอยู่ที่วัดนี้ ท่านได้ตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัยจนมีความรู้แตกฉานยิ่งขึ้นทั้งพระธรรมวินัย และอักขระขอมไทย-ลาว ตลอดจนขนบธรรมเนียมและแบบแผนอันดีงามสืบต่อติดมาจนเป็นนิสัย จนชาวบ้านแถวนั้นต่างกล่าวขวัญว่า เป็นพระที่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยดีมาก

    "พระอธิการบุญมา" กับ "หลวงพ่อคำ" ได้พยายามพัฒนาวัดหน่อพุทธางกูรเรื่อยมาจนวัดเจริญขึ้นตามลำดับ ภายหลังจากที่พระอธิการบุญมาถึงแก่มรณภาพในราวพ.ศ. 2458 คณะสงฆ์จึงแต่งตั้งให้หลวงปู่คำ รักษาการแทน เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2458 ขณะมีอายุได้ 28 ปี พรรษาที่ 8

    ก่อนที่จะเป็นเจ้าอาวาสอย่างสมบูรณ์แบบเมื่อวันที่ 3 ม.ค. 2471 อายุได้ 41 ปี พรรษาที่ 21 ผ่านไปอีก 10 ปี ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการศึกษาเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2481 ต่อมาวันที่ 5 ธ.ค. 2498 ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตรที่ "พระครูสุวรรณวรคุณ" ขณะอายุได้ 78 ปี พรรษาที่ 48

    อุปนิสัยใจคอของหลวงปู่คำนั้นเยือกเย็น ถ้าใครได้ไปพบเห็นจะมีความรู้สึกเคารพนับถือขึ้นมาทันที เพราะใบหน้าท่านยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา พูดค่อยและช้า แต่วาจาศักดิ์สิทธิ์มาก ภายในกุฏิของท่าน ของมีค่าหาได้น้อย มีหัวกะโหลกมนุษย์ตั้งอยู่ นอกนั้นเป็นสิ่งหาค่าไม่ได้วางอยู่อย่างไม่เป็นระเบียบ ท่านมีความมักน้อยในจิตใจ แต่มักใหญ่ในการก่อสร้างเสนาสนะ เช่น การสร้างพระอุโบสถ ศาลาการเปรียญคอนกรีต และโรงเรียนประชาบาลจนกระทั่งมรณภาพ

    ในด้านการปกครอง ท่านมีปฏิปทาในหลักธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด ได้แนะนำสั่งสอนพระภิกษุสามเณร ให้ประพฤติอยู่ในระเบียบวินัยสงฆ์ โดยเฉพาะพระภิกษุสามเณรที่จำพรรษาอยู่ในวัดหน่อพุทธางกูร ไม่ว่าจะบวชนาน หรือบวช 3 เดือน จะต้องศึกษาพระธรรมวินัยและต้องสอบธรรมสนามหลวง

    ใครก็ตามที่มาบวชต้องได้รับการอบรมแบบตัวต่อตัวจากท่านทุกรูป เริ่มต้นด้วยการสอนอนุศาสน์ 8 นิสสัย 4 ส่วนมากที่เฝ้าสั่งสอนด้วยใจเป็นห่วงคือ ปาราชิก 4 สอนด้วย การยกอุปมาอุปไมย นอกจากนั้น สอนสังฆาทิเสส นิสสัคคียปาจิตตีย์ ในข้อนี้ชาวพุทธทราบดีว่าหลวงปู่คำไม่ยอมหยิบเงินทองที่เขาถวาย เมื่อท่านไปไหนๆ มีเด็กลูกศิษย์ติดตามท่านไปด้วยหนึ่งคนเสมอ




    เจาะประวัติ'หลวงปู่คำ'(จบ) 'พระอาจารย์'มิตร ชัยบัญชา

    มุมพระเก่า
    อภิญญา



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    เมื่อมีงานวัดหน่อพุทธางกูร ต.พิหารแดง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี "หลวงปู่คำ จันทโชโต" จะห้ามเด็ดขาดมิให้ภิกษุสามเณรไปเที่ยวจุ้นจ้านกับฆราวาส อ้างว่าไม่ใช่กิจของสงฆ์ ถึงแม้วัดอื่นมีงาน ท่านก็ไม่อนุญาตให้ไปเที่ยว โดยได้พิมพ์กฎข้อบังคับของวัดใส่กรอบไว้ที่หอสวดมนต์

    ในส่วนของวิชาอาคม เชื่อกันว่าท่านได้ไปเรียนเวทมนตร์คาถาและวิปัสสนากรรมฐานจาก หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกับ หลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาว พระเกจิอาจารย์ดังของเมืองสุพรรณอีกองค์หนึ่ง และมีความเชี่ยวชาญถึงขั้นเล่นแร่แปรธาตุได้

    นอกจากนี้ ยังมีความรู้ในทางแพทย์โบราณ รักษาโรคภัยไข้เจ็บด้วยสมุนไพร และเวทมนตร์คาถา รวมทั้งมีความเชี่ยวชาญในการดูฤกษ์ยามต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานมงคลสมรส อุปสมบท ปลูกบ้าน ขึ้นบ้านใหม่ โกนจุก จนกระทั่งปลูกยุ้งข้าว

    กิจพิเศษที่พิเศษยิ่งของท่านคือ การรักษาคนที่ถูกสุนัขบ้ากัดอย่างที่เรียกกันว่า "โรคกลัวน้ำ" ความศักดิ์สิทธิ์ในตัวยาของท่านทำให้ชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่ว โดยในช่วงชีวิตของหลวงปู่คำได้ช่วยชีวิตคนที่ถูกสุนัขบ้ากัดเอาไว้หลายหมื่นคนทีเดียว

    "หลวงปู่คำ" สร้างมงคลวัตถุขึ้นหลายอย่าง อาทิ รูปหล่อรุ่นแรก เนื้อทองเหลืองรมดำ ปี 2498 รุ่น 2 เนื้อทองเหลือง ปี 2504, รุ่น 3 เนื้อทองเหลืองรมดำ ปี 2511 เป็นพิมพ์เดียวกับรุ่นแรก แต่ฐานสูงกว่า และตรงฐานมีชื่อท่านอยู่ด้วย, เหรียญรุ่นแรก รูปอาร์ม เนื้อทองแดงรมดำ ปี 2498, รุ่น 2 รูปไข่ ด้านหลังพระประจำวันพุธ (วันเกิดของท่าน) เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง และเนื้อฝาบาตรรมดำ ปี 2504, รุ่น 3 รูปไข่ เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง และเนื้อฝาบาตรรมดำ ปี 2509 ด้านหลังพระประจำวัน 7 วัน, รุ่น 4 ปี 2511, รุ่น 5 ปี 2513

    นอกจากนี้ ยังมีพระเครื่องเนื้อดิน เนื้อว่าน เนื้อผง และผงใบลานเผา อีกหลายพิมพ์ เช่น พระพิมพ์นาคปรกเศียรแหลม ปี 2498, พระพิมพ์ท้าวชมพูบดี ปี 2498, พระผงสุพรรณหลังยันต์ ปี 2504, พระชินราชใหญ่-เล็ก ปี 2498, พระพิมพ์ซุ้มกอ, พิมพ์ยันต์อุ, พิมพ์นางกวัก เป็นต้น

    พระเครื่องของท่านทุกรุ่นมีประสบการณ์ดังในด้านแคล้วคลาด ปลอดภัย ยิงไม่ออก ฟันแทงไม่เข้า ทำให้บางรุ่นหายากมาก โดยเฉพาะรูปหล่อรุ่นแรก ตอนนี้เช่าหาอยู่ที่ราคาหลักหมื่น ไม่มีคนอยากปล่อย เพราะถือว่า "มีพระหลวงพ่อคำแล้วไม่ตายโหง"

    ลูกศิษย์ที่เป็นฆราวาสของท่านมีอยู่หลายคน ที่มีชื่อเสียงคือ พระเอกยอดนิยม "มิตร ชัยบัญชา" ซึ่งให้ความเคารพนับถือท่านมากครับ เมื่อครั้งที่ มิตร ชัยบัญชา เสียชีวิต ท่านได้เล่าให้ศิษย์ฟังว่า วันที่มิตรเสีย ไม่ได้ห้อยพระของท่าน ไม่งั้นคงไม่ตาย นอกจากนี้ ยังมี "สุรพล สมบัติเจริญ" ราชาเพลงลูกทุ่งไทย คนบ้านวัดไชนาวาสที่ให้ความนับถือท่าน และฝากตัวเป็นลูกศิษย์ตั้งแต่สมัยที่หลวงปู่คำยังไม่โด่งดังเลย

    วาระสุดท้าย หลวงปู่คำมรณภาพเมื่อวันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ 2513 เวลา 17.43 น. ตรงกับแรม 5 ค่ำ เดือน 3 ปีระกา สิริอายุ 83 ปี โดยจัดงานพระราชทานเพลิงศพท่านเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2514 ในงานมีพระเกจิอาจารย์มากันมากมายหลายองค์ รวมทั้งลูกศิษย์ลูกหาประชาชนที่เลื่อมใสศรัทธา ก็มากันล้นหลามชนิดที่ว่าแน่นศาลาวัดจนต้องลงมาอยู่ข้างล่างกันเลย

    แสดงให้เห็นถึงบารมีอันสูงส่งของหลวงปู่คำ

    พลพรรคสัตว์แปลก

    คอลัมน์ เพื่อนตัวเล็ก


    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ปิดเทอมนี้มายลโฉมเพื่อนรักสัตว์เลี้ยงตัวกะเปี๊ยกหน้าตาประหลาด หาดูยากในงาน "The Mall Exotic Pet 2011" อาทิ

    เจ้าจิ้งจอกจิ๋ว เฟนเน็กฟ็อกซ์ ซึ่งเป็นจิ้งจอกที่เล็กที่สุดในโลกแห่งทะเลทรายซาฮาร่า เป็นสัตว์กินทั้งพืชและสัตว์ ตัวเต็มวัยของเจ้าเฟนเน็กมีน้ำหนักเฉลี่ยเพียง 1.75 กิโลกรัมสำหรับตัวผู้ และ 1.25 กิโลกรัมสำหรับตัวเมีย พวกมันต้องดำรงชีวิตท่ามกลางทะเลทรายจึงมีขนที่อุ้งเท้าหนาเพื่อช่วยให้พวกมันเดินบนทรายที่ร้อนระอุได้ และขนสีน้ำตาลช่วยให้มันอำพรางตัวได้ในทะเลทราย

    ลิงมาโมเซ็ต ลิงขนาดเล็กที่สุดในโลก มีถิ่นที่อยู่ตามป่าเขตร้อนบริเวณบราซิลตะวันออก มีสายพันธุ์มากกว่า 10 ชนิด ชอบอยู่เป็นกลุ่มตั้งแต่ 8-20 ตัว คล่องแคล่วปราดเปรียว ตัวเล็กอย่างนี้จึงกินแมลงนานาชนิดเป็นอาหาร รวมทั้งหอยทาก ไข่นก จิ้งหรีด จิ้งจก ผลไม้พวกกล้วยกับแอป เปิ้ล

    ชูการ์ไกรเดอร์ สัตว์ประเภทกระ รอกบิน จัดอยู่ในตระกูลจิงโจ้ เพราะ ชูการ์ไกรเดอร์เพศเมียจะมีถุงหน้าท้องเหมือนเจ้าจิงโจ้ พวกมันเป็นสัตว์ตื่นตอนกลางคืนและนอนกลางวันบนต้นไม้ แม้จะมีชื่อว่ากระรอกบิน แต่จริงๆ มันบินไม่ได้ เพียงแต่ร่อนจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำเท่านั้น

    ปีนี้ปีกระต่าย พลพรรคกระต่าย มากันมากมาย เช่น กระต่ายหูตั้งสายพันธุ์เนเธอร์แลนด์วอฟ เป็นกระต่ายเล็กที่สุดในโลก มีน้ำหนักของตัวโตเต็มที่ตั้งแต่ 7 ขีด ถึงไม่เกิน 1.15 กิโลกรัม กระต่ายพันธุ์นี้ได้ชื่อว่าเป็น "อัญมณีแห่งกระต่ายสวยงาม" นิยมเลี้ยงกันอย่างแพร่หลายทั้งในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และในยุโรป ส่วน กระต่ายหูตกสายพันธุ์ฮอลแลนด์ ลอป เป็นกระต่ายกลุ่มหูตกที่มีขนาดเล็กที่สุด

    ยังมี พังพอนลายหินอ่อนแอฟริกา เป็นสัตว์จำพวกพังพอน พบได้ทั่วไปในพื้นที่แห้งและทุ่งหญ้าของตะวันออกเฉียงใต้ของยุโรปและตะวันตกของจีน

    มาเยี่ยมเพื่อนตัวเล็กเหล่านี้ได้ที่บริเวณแฟชั่น ฮอลล์ ชั้น G เดอะมอลล์ บางแค 21-27 เม.ย.นี้

    แผ่นดินไหว-รอยเลื่อน เงื่อนไขบูรณะโบราณสถาน

    ณัฐพงษ์ บุณยพรหม


    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ประเทศไทยเป็นอีกประเทศที่เผชิญเหตุแผ่นดินไหวในปีนี้ ** ความเสียหายจากแผ่นดินไหวขนาด 5.6 ริกเตอร์ ที่ประเทศพม่า เมื่อวันที่ 24 มี.ค. นอกจากกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินแล้ว แรงสั่นสะเทือนยังเลื่อนลั่นไปถึง "โบราณสถานเก่าแก่" ให้ได้รับความ "เสียหาย" เช่นกัน โดยเฉพาะโบราณสถานในภาคเหนือ

    ยอดเจดีย์เก่าแก่วัดพระธาตุเจดีย์หลวงที่ "หักโค่น" ลงมานั้นน่าตกใจไม่น้อย

    จากเหตุการณ์นี้เองจึงมีภารกิจการบูรณะโบราณสถานตามมา

    กรมศิลปากรในฐานะที่รับผิดชอบโดยตรง จะมีแผนระยะยาวป้องกันโบราณสถานล้ำค่าให้รอดพ้นจากภัยพิบัติธรรมชาติได้อย่างไร

    นายเอนก สีหามาตย์ รองอธิบดีกรมศิลปากร หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณสถานของไทย ให้มุมมองต่อเรื่องนี้ว่า โบราณสถานที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว ประกอบด้วย

    "วัดพระธาตุเจดีย์หลวง" ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลเวียงเชียงแสน สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.1887 เป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ ฐานกว้าง 24 เมตร สูง 88 เมตร

    ส่วนที่หักเป็นแกนเหล็กที่เสียบไว้ในส่วนยอดเหนือระฆังคว่ำลงมา ตัวยอดของเจดีย์ตกลงมากระทบกับเจดีย์บริวาร ซึ่งตั้งอยู่ตรงฐานด้านทิศตะวันออก ด้านหลังพระวิหาร ทำให้เจดีย์เล็กเสียหาย และยอดเจดีย์ที่ตกลงมาแตกละเอียด นอกจากนี้ส่วนระฆังคว่ำด้านบนบิดงอไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ตรงส่วนระฆังโดยเฉพาะส่วนกลางแตกร้าว และมีการแตกของอิฐจนเป็นโพรงใหญ่

    "เจดีย์ประธานวัดปราสาทคุ้ม" (ร้าง) ตั้งอยู่หลังตลาดสดเชียงแสน บริเวณองค์ระฆังมีรอยร้าว อิฐยุบตัว รอยดังกล่าวเป็นรอยเดิมที่ร้าว และขยายตัวออกเนื่องจากแผ่นดินไหว ส่วนฐานเจดีย์มีรอยแตกตลอดความสูง

    "เจดีย์วัดพระธาตุจอมกิตติ" บนยอดดอยจอมกิตติ อายุราวพุทธศตวรรษที่ 19-20 แกนฉัตรชำรุด และเอนออกจากองค์ 15-20 องศา ส่วนองค์เรือนพระธาตุพบรอยร้าวเดิมขยายตัวกว้างมากขึ้น และเกิดรอยร้าวใหม่หลายแห่ง แผ่นทองจังโกบริเวณเรือนยอดบิดตัว และฉีกขาด ปล้องไฉนหักงอ

    นายเอนกกล่าวว่า เบื้องต้นสำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ ดำเนินการซ่อมแซมด่วน โดยตั้งนั่งร้าน และค้ำยันเรือนพระธาตุเอียง และมีรอยแตกร้าวใหม่ เพื่อป้องกันการพังทลายอันเกิดจากอาฟเตอร์ช็อก โดยส่วนที่มีทองจังโกหุ้มจะเปิดออกเพื่อสำรวจความเสียหายภายใน และจะออกแบบบูรณะต่อไป <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=right border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    นอกจากนี้ยังมี "วัดพระธาตุภูเข้า" อายุราวพุทธศตวรรษที่ 19 เป็นมณฑปก่ออิฐอยู่บนเนินเขา มีรอยร้าว ผนังแยกออก โครง สร้างอันตราย

    "เจดีย์วัดป่าสัก" (ร้าง) ตั้งอยู่นอกกำแพงเมืองเชียงแสนไปทางทิศตะวันตก ปลียอดยาวประมาณ 1 ศอก ตกลงมา ซึ่งเป็นส่วนที่ได้รับการบูรณะใหม่ เรือนยอดเอียงผิดปกติ มีรอยแตกร้าวขององค์บัลลังก์รอง รับระฆังหลายแห่ง พบรอยแตกร้าวเก่าขยายตัว และเกิดรอยร้าวใหม่หลายจุด

    นายเอนกกล่าวว่า ทางกรมศิลปากรสำรวจเพื่อออกแบบเตรียมการ บูรณะให้มั่นคง โดยเจาะเย็บในส่วนที่แตกร้าวที่อยู่ภายในให้คงสภาพ ไม่พังทลายลงมา

    สำหรับ วัดภูมินทร์ จ.น่าน พระอุโบสถจัตุรมุข ภาพจิตรกรรมฝาผนังมีรอยร้าว และ วัดพระเจ้าตนหลวง จ.พะเยา บริเวณพระกรด้านขวาของพระเจ้าตนหลวงมีรอยแตกร้าวประมาณ 60 เซนติเมตร

    "ขณะนี้เจ้าหน้าที่ของสำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ รวมถึงองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น จัดทำเขตหวงห้ามพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้ามาเก็บรวบรวมชิ้นส่วนโบราณสถานที่หลุดร่อนลงมา สำหรับนำมาใช้เป็นหลักฐานในการบูรณะ"

    การบูรณะในครั้งนี้ไม่เพียงต้องบูรณะซ่อมแซมส่วนที่ชำรุด ยังต้องทำ "เผื่อ" เกิดแผ่นดินไหวในครั้งหน้า

    รองอธิบดีกรมศิลป์กล่าวด้วยความหนักใจว่า การบูรณะโบราณสถานแต่ละแห่งจะใช้งบประมาณแตกต่างกัน ปกติกรมศิลป์มีงบฯ ฉุกเฉินในการซ่อมแซมแค่ 4-5 ล้านบาท การประเมินค่าเสียหายในครั้งนี้จึงยังไม่ชัดเจน เพราะต้องออกแบบ และคำนวณ เพื่อรองรับการเกิดแผ่นดินไหวขึ้นอีก ซึ่งไม่เหมือนกับการบูรณะธรรมดา ถ้าเกิดขึ้นอีกรอบ แล้วบูรณะแบบเดิมก็จะพังอีก จึงยังสรุปตัวเลขไม่ได้

    ที่ผ่านมาการบูรณะโบราณสถานไม่เคยคำนึงถึงการเกิดแผ่นดินไหว คำนึงแค่ให้มั่นคงแข็งแรง แต่ต่อไปนี้จะทำให้แข็งแรงอย่างเดียวไม่ได้ ต้องทำให้มีแรงยืดหยุ่น เพื่อให้ลู่ลมไม่มีแรงต้าน เพราะหากแข็งแรงอย่างเดียวเมื่อเกิดแผ่นดินไหวเจดีย์อาจพังลงมาทั้งองค์ แต่ตอนนี้ยังเป็นเพียงทฤษฎีที่คิดไว้ ยังไม่สามารถออกแบบได้

    อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องคำนึงถึง คือ "ระดับความรุนแรง" อย่างครั้งนี้ 5.6 ริกเตอร์

    นายเอนกบอกว่า ขณะนี้วิศวกรจะรังวัดโบราณสถานที่ได้รับผลกระทบ ตั้งแต่ส่วนฐานถึงยอด และกำหนดจุดความเสียหาย ความกว้าง ความยาว ชนิดของวัสดุ เทคนิควิธีทำในสมัยโบราณ จากนั้นจะนำรูปแบบที่สำรวจและวิเคราะห์แล้วมาขึ้นรูปใหม่ เพื่อบูรณะตามเดิม นอกจากนี้วิศวกรจะคำนวณแรงที่ถูกกระทบจากแผ่นดินไหว เช่น ขนาด 5.6 ริกเตอร์ ถ้าจะไม่ให้เสียหายในความแรงขนาดนี้จะต้องเพิ่มปริมาณและวัสดุแบบใด หากจำเป็นก็ต้องใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง และเบา เหมือนเช่นประเทศญี่ปุ่นใช้ออกแบบอาคาร แต่คิดว่าขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องใช้วัสดุประเภทนั้น เพราะที่ผ่านมาส่วนฐานยังไม่ได้รับความเสียหาย มีเพียงแค่ยอดเท่านั้น

    "เรายังไม่มีวิธีพิเศษในการบูรณะ แต่กำลังคิดกันว่าหากแข็งแรงไปก็ไม่ดี เพราะจะมีแรงปะทะ แต่หากปะทะแล้วมีแรงเบาที่ผ่อนให้แรงออกไปทางอื่นได้ ก็จะไม่เสียหาย คนสมัยโบราณเขาไม่ได้ใช้ซีเมนต์ เขาใช้ก่ออิฐ บางทีเป็นดินที่ทับกัน เวลาเปียกจะเป็นโคลนเหนียว แต่พอแห้งจะติดแน่นเหมือนกาว ตรงนี้ทำให้ผมสันนิษฐานว่ามันอาจจะเป็นส่วนหนึ่งหรือไม่ที่ไม่ปะทะกับแรงของแผ่นดินไหว หรือพายุ ในสมัยนั้น เพราะหากจะทำให้แข็งแรงก็น่าจะใช้เหล็กแทน มันอาจเป็นวิธีที่ช่วยให้ตัวโบราณสถานเสียหายน้อย เมื่อมีแรงจากภัยธรรมชาติมาปะทะก็ได้"

    รองอธิบดีบอกอีกว่า วางแผนใช้เวลาในการบูรณะประมาณ 7-8 เดือน เพราะต้องอาศัยขั้นตอนในการทำงานทุกอย่าง และต้องคำนวณผลกระทบที่ได้รับว่าจุดไหนเสียหายมาก ต้องใช้จุดนั้นเป็นหลัก บุคลากรจะใช้วิศวกรของสำนักโบราณคดีเป็นหลัก นอกจากนั้นเป็นช่างโยธา และช่างศิลปกรรม ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของส่วนกลางทั้งหมด ทั้งนี้ บุคลากรที่ทำงานด้านนี้มีจำนวนจำกัด หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นอีกก็จะลำบาก

    สําหรับโบราณสถานที่ "เสี่ยง" หากมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นอีกครั้งว่า ข้อมูลที่สำนักโบราณคดีสำรวจไว้ทั้ง 4 ภาค มีรอยเลื่อนที่ผ่านโบราณสถาน รัศมี 5 กิโลเมตร ทั้งหมด 44 แห่ง รัศมี 10 กิโลเมตร มีจำนวน 75 แห่ง รัศมี 20 กิโลเมตร มีจำนวน 178 แห่ง ทั่วประเทศมีประมาณ 200 แห่ง

    ส่วนที่มีปัญหามากสุดคือที่ จ.เชียงใหม่ เชียงราย เลย และพะเยา ที่ผ่านมากรมศิลป์ร่วมกับสถาบันในประเทศญี่ปุ่นสำรวจรอยเลื่อนดังกล่าว และศึกษาการแก้ไขปัญหาอุบัติภัย ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหว พายุ และน้ำท่วม ที่จะเกิดกับโบราณสถาน อย่างกรณีน้ำท่วมเคยแก้ปัญหาที่วัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนแผ่นดินไหวที่ดำเนินการแล้วคือที่พระธาตุดอย สุเทพ จ.เชียงใหม่ มีโครงการเพิ่มเสถียรภาพที่ราบเชิงเขา ป้องกันไม่ให้ดินสไลด์ตัว ขณะที่พระธาตุจอมกิตติ เคยได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวในปี 2549 ทางกรมศิลป์เข้าบูรณะ แต่แก้ไขมากไม่ได้ เพราะเราคาดการณ์ความแรงของแผ่นดินไหวไม่ได้

    ในฐานะที่เรามีข้อมูลจากแผ่นดินไหว หรือว่ามีรอยเลื่อนที่ใด ช่วงไหนจะเกิด จึงน่าจะมีการศึกษารอยเลื่อน หรือพื้นที่เสี่ยงภัยเบื้องต้น เพื่อที่จะแก้ปัญหาถ้าเกิดเหตุการณ์ขึ้น เราจะคำนวณการออกแบบในการสร้างโบราณสถานได้ ยกตัวอย่างพระธาตุดอยสุเทพ ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาใหญ่ อีกฝั่งเป็นดินข้างในมีแกนภูเขา เมื่อมีฝนตกลงมาดินจะเริ่มไหลไปเรื่อยๆ จึงใช้คอนกรีตเสริมเหล็กป้องกันดินสไลด์ หากเรานำโครงการลักษณะนี้ไปปรับใช้ป้องกันโบราณสถานภาคเหนือแต่ละแห่งก็อาจป้องกันเรื่อง นี้ได้

    "นี่คืองานใหญ่ของกรมศิลปากร เป็นแผนระยะยาวที่ต้องทำ เท่าที่ต้องตรวจสอบกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีรอยเลื่อนทั้งหมด 22 แห่ง ที่มีโบราณสถานสำคัญๆ ตั้งอยู่ นอกจากนี้ยังพบรอยเลื่อนนครนายก ที่เป็นรอยเลื่อนใหม่ กินพื้นที่ภาคกลางหลายจังหวัด มีโบราณสถานสำคัญๆ อยู่หลายแห่ง จึงจำเป็นต้องทำแผนระยะยาวครอบ คลุมทั้งประเทศ"

    รองอธิบดีกรมศิลปากรกล่าวว่า ต่อไปอยากให้มีการจัดทำคู่มือป้องกันโบราณสถานกรณีเกิดภัยพิบัติ ให้เป็นเหมือน "คัมภีร์" ที่เตรียมการวางแผนบูรณะได้ง่าย เพราะที่ผ่านมาประ เทศไทยไม่มีเรื่องนี้ จึงต้องแก้ไขไปตามสถาน การณ์ มันเลยไม่ทัน อย่างที่ซ่อมพระธาตุจอมกิตติครั้งที่แล้ว ก็คิดว่าคงมีแค่นี้

    "แต่หากเราทำวัดเจดีย์หลวง ทำที่อื่นๆ ในแบบเดียวกัน คงจะแก้ปัญหาได้มากกว่าเดิม"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2011
  17. ปิยนาถ

    ปิยนาถ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +298
    สวัสดีจ้าคุณเกษมและสมาชิกท่านอื่น ๆ นก มีข่าวจะบอกกล่าวซะนิดนะจ๊ะ นกได้รู้จักนักวิทยาศาสตร์ท่านนี้ (เพราะเขาเป็นลูกค้าบุคตั๋วเครื่องบินของทางบริษัทนกเอง) เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน นกอยากให้ท่านที่เก่งภาษาอังกฤษหรือสามารถแปลได้เป็นอย่างดี(นกพูดได้ ฟัง ออก แต่ไม่ชำนาญ) เข้าไปในเว็บไซด์นี้ www.supernovae-energy.com มีข้อมูลเกี่ยวกับการเกิดภัยต่าง ๆ รอบโลก เขาบอกนกว่า เคยมีผู้หญิงชาวต่างชาติมองเห็นอนาคต ของพัทยาว่าจะมีเคลื่อนใหญ่โถมเข้าใส่ด้วย ลองเข้าไปดูที่ข้อมูลนะจ๊ะ ถ้าเกิดอยากติดต่อกับเขา นกมีเบอร์และเมลของลูกค้าคนนี้ด้วยจ้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2011
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    สหรัฐฯเผชิญทั้งทอร์นาโดและไฟป่า

    [​IMG]

    สภาพอากาศเลวร้ายทั้งในสหรัฐฯ ซึ่งตอนนี้เผชิญทั้งทอร์นาโดและไฟป่า

    หลังจากที่รัฐทางใต้และตะวันออกต้องเผชิญกับพายุทอร์นาโดครั้งรุนแรงไปตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้พื้นที่ตอนกลางของสหรัฐฯโดยเฉพาะรัฐมิสซูรี่และอิลลินอยล์ถูกทอร์นาโดขนาดใหญ่ 2 ลูกพัดถล่ม พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย ขณะที่ต้นไม้จำนวนมากหักโค่น แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ ขณะที่บ้านเรือนประชาชนและอาคารในย่านธุรกิจกว่า 3 หมื่น 5 พันหลังคาเรือนกระแสไฟฟ้าถูกตัดขาด ทั้งนี้มีช่างภาพสามารถจับภาพการก่อตัวของทอร์นาโดทั้งที่มิสซูรี่และอิลลินอยลืไว้ได้ พายุทอร์นาโดเริ่มพัดถล่มพื้นที่ทางใต้และตะวันออกของสหรัฐฯตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา คร่าชีวิตประชาชนไปอย่างน้อย 45 คน

    ส่วนสถานการณ์ไฟป่าที่รัฐเท็กซัส ยังไม่ยุติ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังทุ่มเทความพยายามอย่างหนักเพื่อควบคุมไฟป่า รายงานระบุว่า ภาวะแห้งแล้งประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดและลมแรงทำให้ไฟลุกกลามอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ได้ลุกลามข้ามมายังอีกฟากฝั่งหนึ่งของเท็กซัสแล้ว และเมื่อวานนี้เกิดไฟป่าในพื้นที่ใหม่อีก 11 จุด พื้นที่ป่ากว่า 1 ล้านเอเคอร์ หรือ 2 ล้าน 5 แสนไร่ถูกเผาไหม้ บ้านเรือนเกือบ 200 หลังได้รับความเสียหาย ทางการต้องระดมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจาก 34 รัฐมาช่วยควบคุมไฟป่า ล่าสุดต้องเร่งอพยพประชาชนในหลายเมืองออกจากพื้นที่ อย่างไรก็ตามพยากรณ์อากาศคาดว่า โอกาสที่จะเกิดฝนตกมีประมาณ 30 เปอร์เซนต์ในวันนี้และพรุ่งนี้ ซึ่งก็จะทำให้สถานการณ์ไฟป่าคลี่ตลายลงได้

    ที่ยุโรปที่ตอนนี้หลายประเทศทั้งเยอรมนี ฝรั่งเศส เบลเยี่ยมและเนเธอร์แลนด์กำลังเผชิญกับอากาศร้อนในช่วงฤดูใบไม้ผลิ โดยเฉพาะที่นครแฟรงค์เฟิร์ตอากาศร้อนผิดปกติในช่วงนี้ วัดอุณหภูมิได้ 29 องศาเซลเซียส คาดว่า สภาพอากาศร้อนเช่นนี้จะมีไปจนถึงช่วงสุดสัปดาห์ ขณะที่หลายคนถือโอกาสอาบแดดตามสวนสาธารณะ ส่วนที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ประชาชนพากันมาปิคนิคที่สนามหญ้า

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันพฤหัสบดี ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2554

    นาโต้เดินหน้าถล่มกรุงทริโปลี ประเทศลิเบีย

    [​IMG]

    ลิเบียเผยเครื่องบินรบของนาโต้ปฏิบัติโจมตีเป้าหมายด้านการสื่อสารเพื่อเปิดทางให้กับกองกำลังฝ่ายต่อต้านจากทางตะวันออก ขณะเดียวกันก็ออกมาเตือนอังกฤษกำลังจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายหากส่งทีมทหารเข้าไปเป็นที่ปรึกษาของฝ่ายต่อต้าน

    รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศลิเบียเผยว่าเครื่องบินรบของนาโต้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของกองทัพอังกฤษได้ออกปฏิบัติการถล่มเครือข่ายสื่อสารที่ตั้งอยู่ทางใต้ ตะวันออกและตะวันตกของเมืองเซอร์เต้ เพื่อช่วยกองกำลังฝ่ายต่อต้านรุกคืบมาจากทางด้านตะวันออก ขณะที่นาโต้ระบุปฏิบัติการโจมตีทางอากาศหลายระลอกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมามุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานทางด้านโทรคมนาคมของพันเอก มูอัมมาร์ กัดดาฟี่ และศูนย์บัญชาการต่างๆของกองกำลังที่ 32 ทางใต้ของกรุงทริโปลี

    กระทรวงกลาโหมของอังกฤษได้เผยภาพวิดีโอปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเป้าหมายเครือข่ายการสื่อสารลิเบียของเครื่องบินรบอังกฤษเมื่อวานนี้

    ล่าสุดรัฐมนตรีต่างประเทศลิเบียได้ออกมาเตือนรัฐบาลอังกฤษที่มีแผนจะส่งทีมทหารไปเป็นที่ปรึกษาด้านการรบให้กับกองกำลังฝ่ายต่อต้านว่าจะเป็นการทำลายสันติภาพในลิเบียและจะยิ่งทำให้การสู้รบยืดเยื้อออกไปอีก ขณะที่นายวิลเลี่ยม เฮค รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษเผยว่า การส่งทีมทหารไปช่วยฝ่ายต่อต้านจะกระทำภายใต้มติสหประชาชาติในการปกป้องพลเรือนชาวลิเบีย และทีมทหารที่ว่านี้จะไปช่วยในเรื่องการส่งกองกำลังบำรุงและการฝึกฝนด้านข่าวกรองในเมืองเบงกาซี

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันพุธ ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554

    ฝรั่งเศส.. ซาร์โกซี สั่งเพิ่มการโจมตีลิเบีย

    [​IMG]

    ฝรั่งเศสให้คำมั่นว่าจะเพิ่มการโจมตีทางอากาศต่อกองกำลังพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย และยอมรับ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทางทหารของฝรั่งเศสเข้าไปปฏิบัติการภาคพื้นดินร่วมกับกบฎลิเบียแล้ว

    กริสติน ฟาแชส โฆษกกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส แถลงในกรงปารีสว่า ฝรั่งเศสได้ส่งเจ้าหน้าที่ติดต่อประสานงานจำนวนหนึ่งไปทำงานร่วมกับทูตพิเศษฝรั่งเศส ในเมืองท่าเบงกาซี ฐานมีมั่นของกบฎทางภาคตะวันออกของลิเบีย

    นักการทูตฝรั่งเศสคนหนึ่ง เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสกลุ่มนี้ไม่ใช่กองกำลังรบ และพวกเขากำลังสอนทักษะเรื่องอาวุธให้กับนักรบกบฎ และทำงานด้านการส่งกำลังบำรุงหรือโลจิสติกส์และช่วยเหลือในการจัดองค์กร ฝรั่งเศสส่งทูตพิเศษคนหนึ่งไปยังเมืองเบงกาซี เมื่อต้นเดือนนี้

    นายฟรองซัวส์ บารอง โฆษกรัฐบาลฝรั่งเศส แถลงว่ามีเจ้าหน้าที่ทางทหารฝรั่งเศสเพียงไม่ถึง 10 คน ที่เกี่ยวข้องในปฏิบัติการนี้ และยืนกรานว่าภารกิจดังกล่าวเป็นไปตามมติ UNSC ที่ให้อำนาจปฏิบัติการทางทหารนานาชาติในลิเบีย

    ฝรั่งเศสเป็นแกนนำในการรณรงค์ของนานาชาติในลิเบีย นายนีโกลา ซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศส พบหารือกับนายมุสดาฟา อับเดล-จาลีล ผู้นำฝ่ายค้านลิเบีย ที่เดินทางมาเยือนกรุงปารีส เมื่อวานนี้

    ที่ปรึกษาประธานาธิบดี ซาร์โกซี คนหนึ่งเปิดเผยว่าระหว่างการหารือ นายอับเดล - จาลีล ได้ร้องขอให้ฝรั่งเศสเพิ่มความเข้มข้นการสนับสนุนการปฏิวัติลิเบีย ซึ่งนายซาร์โกซี ตอบกลับไปว่า เราจะเพิ่มความเข้มข้นการโจมตีทางอากาศในลิเบีย พร้อมให้คำมั่นกับผู้นำฝ่ายค้านลิเบียว่า เราจะช่ว่ยพวกคุณ เจ้าหน้าที่นาโต้ คนหนึ่งเปิดเผยว่า ไม่มีการกดดันจากฝรั่งเศสให้นาโต้เพิ่มการโจมตีทางอากาศ แต่ฝรั่งเศสอาจจะเพิ่มการสนับสนุนของตัวเอง

    ในกรุงโรม นายอิกนาซีโอ ลา รุสซา รัฐมนตรีกลาโหมอิตาลี แถลงว่า ครูฝึกทางทหารของอิตาลี จำนวน 10 นาย กำลังจะเดินทางไปลิเบียเพื่อช่วยกบฎ แต่ชี้แจงว่าอิตาลีจะไม่ส่งกองกำลังภาคนั้นกับอิตาลี ไปลิเบีย-นายลา รุสซา แถลงหลังพบหารือ นายเลียม ฟ็อกซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษ ที่กล่าวว่ากบฎลิเบียจำนวนมากไม่มีประสบการณ์ทางทหาร พวกเขามีความเข้าใจเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับอาวุธยุทโธปกรณ์ หรือยุทธวิธีทางทหาร อังกฤษประกาศเมื่อวันอังคารว่าจะส่งที่ปรึกษาทางทหาร 10 นาย ไปช่วยกบฎลิเบีย-เมื่อวานนี้

    พลเรือเอก เจมส์ สตาฟรีดีส แห่งกองทัพเรือสหรัฐ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของนาโต้ อยู่ในกรุงปราก นครหลวงของสาธารณรัฐเช็ก เพื่อพบหารือนายคาเรล ชวาร์เซนเบิร์ก รัฐมนตรีต่างประเทศเช็ก และในวันนี้จะพบหารือนายอเล็กซานดร์ วอนดรา รัฐมนตรีกลาโหมเช็ก การเยือนของพลเรือเอกสตาฟรีดีส มีขึ้นขณะที่นาโต้กำลังหาการสนับสนุนทางทหารจากชาติสมาชิกนาโต้ ที่ยังไม่ได้เข้าร่วมในการปฏิบัติการทางทหารในลิเบียต่าง ๆ อย่างเช็ก

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันพฤหัสบดี ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2554

    นานาชาติเรียกร้องซีเรียหยุดกวาดล้างผู้ประท้วง

    [​IMG]

    สถานการณ์ในซีเรีย ซึ่งการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลเมื่อวานนี้ถึงขั้นนองเลือด ล่าสุดนานาชาติออกมาเรียกร้องประธานาธิบดีบาชาห์ อัล อั๊ดซ้าด ยุติการใช้กำลังกวาดล้างกลุ่มผู้ชุมนุม

    กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองในซีเรียเผยว่า การกวาดล้างกลุ่มผู้ประท้วงที่เมือง Homs เมื่อวานนี้ที่กองกำลังความมั่นคงใช้กระสุนจริงและแก๊สน้ำตา กราดยิงเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลหลายร้อยคน ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 3 คน การชุมนุมประท้วงในเยเมนเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งองค์การนิรโทษกรรมสากลเผยว่า มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 200 คน

    ขณะที่เมื่อวานนี้รัฐบาลซีเรียภายใต้การนำของประธานาธิบดีอั๊ดซ้าดได้ผ่านร่างกฏหมายยกเลิกการประกาศใช้ภาวะฉุกเฉินที่ดำเนินมาตลอด 48 ปี อย่างไรก็ตามรัฐบาลซีเรียได้ออกกฏหมายใหม่ที่เกี่ยวกับการชุมนุมประท้วงของประชาชน ซึ่งจะต้องได้รับการอนุญาตจากรัฐบาลก่อน

    แม้ว่ารัฐบาลซีเรียจะเริ่มทำตามข้อเรียกร้องของผู้ประท้วงด้วยการยกเลิกการใช้ภาวะฉุกเฉิน แต่รัฐบาลสหรัฐฯและอังกฤษก็ออกมาเรียกร้องให้ประธานาธิบดีอั๊ดซ้าด เร่งการปฏิรูปการเมืองโดยทันทีและยุติการใช้กำลังกวาดล้างกลุ่มผู้ประท้วง

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันพุธ ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554

    ตำรวจเยเมนเปิดฉากยิงใส่ผู้ประท้วง

    [​IMG]

    ขณะที่การชุมนุมประท้วงขับไล่ผู้นำเยเมนเมื่อวานนี้ ก็บานปลายกลายเป็นเหตุรุนแรง ตำรวจเยเมนเปิดฉากยิงเข้าใส่ผู้ประท้วงเสียชีวิตไป 3 รายบาดเจ็บเกือบ 100 คน

    กลุ่มผู้ประท้วงเยเมนเริ่มเคลื่อนไหวหนักมากขึ้นเพื่อขับไล่ประธานาธิบดีอาลี อับดุลเลาะห์ ซาเลห์ ที่ครองอำนาจมายาวนาน 32 ปี โดยเมื่อวานนี้สถานการณ์ที่เมืองทาอิซและกรุงซาน่า ทวีความรุนแรง ตำรวจใช้ปืนกราดยิงเข้าใส่ผู้ประท้วง หลังจากที่ผู้ประท้วงขว้างปาก้อนหินเข้าใส่ตำรวจและจุดไฟเผารถยนต์เจ้าหน้าที่

    เหตุปะทะดังกล่าวทำให้ผู้ชุมนุมเสียชีวิตไป 3 คนบาดเจ็บเกือบ 100 คน ทั้งนี้การชุมนุมประท้วงต่อต้านประธานาธิบดีซาเลห์ ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 117 คน

    ขณะที่สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายในเยเมนใช้ความอดทนอดกลั้นและหันมาเจรจากันเพื่อยุติวิกฤตการณ์ทางการเมือง ซึ่งเมื่อวานนี้เป็นครั้งแรกที่คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นนำเรื่องเยเมนเข้ามาหารือ และปรากฏว่าล้มเหลวไม่สามารถหาข้อยุติได้เนื่องจากสถานการณ์เยเมนเป็นเรื่องอ่อนไหวและซับซ้อน

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันพุธ ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554

    สหรัฐ..ราคาทองคำเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์

    [​IMG]

    ราคาทองคำและเงิน เพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง โดยทองคำเพิ่มสูงขึ้นถึงระดับสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ขณะที่ราคาเงินพุ่งสูงสุดในรอบ 31 ปี เนื่องจากเงินเฟ้อ และความไม่แน่นอนของโลกเติมเชื้อเพลิงให้กับความต้องการหรืออุปสงค์ ในทองคำและเงิน

    ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นอีกครั้งจนถึงระดับสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยพุ่งสูงขึ้นกว่าราคาสูงสุดตลอดกาลที่ 1,500 ดอลล่าร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่ราคาเงินก็พุ่งขึ้นสูงสุดในรอย 31 ปี ไปอยู่ที่ต่ำกว่า 44 ดอลล่าร์สหรัฐต่อออนซ์ เพียงเล็กน้อย

    ทรัพย์สินที่จับต้องได้ กลายเป็นการลงทุนที่ทำให้โล่งใจอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทรัพย์สินนั้นสามารถถูกนำไปแลกเปลี่ยนที่ใดก็ได้ในโลก-รอเจอร์ ไนติงเคล นักกลยุทธ์โลกที่บริษัทปอยตัน ยอร์ก กล่าวว่าสถานการณ์โลกขณะนี้ เป็นตัวกระตุ้นราคาทองคำและเงินที่สำคัญ แต่เตือนว่าสภาพเช่นนี้จะไม่ยืนยาวตลอดไป

    นับแต่ช่วงทศวรรษหลังปี 2523 จนกระทั่งถึงครึ่งปีแรกของทศวรรษหลังปี 2553 ทองคำซื้อขายกันในราคาเฉลี่ยเพียง 360 ดอลล่าร์สหรัฐต่อออนซ์ แต่ต่อมา เนื่องจากการเติบโตของโภคภัณฑ์ ความสนใจของนักลงทุนจึงเริ่มพุ่งสูงขึ้น

    เงินดอลล่าร์ที่อ่อนค่า และเงินเฟ้อในหลายเขตเศรษฐกิจของเอเซีย ได้เพิ่มค่าของทองคำให้สูงขึ้น ในฐานะเครื่องป้องกันการสูญเสียทางการเงิน

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันพฤหัสบดี ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2554

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1303361228.jpg
      1303361228.jpg
      ขนาดไฟล์:
      16.5 KB
      เปิดดู:
      2,932
    • 1303278316.jpg
      1303278316.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36.3 KB
      เปิดดู:
      2,709
    • 1303278487.jpg
      1303278487.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.3 KB
      เปิดดู:
      3,035
    • 1303278671.jpg
      1303278671.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.7 KB
      เปิดดู:
      3,158
    • 1303353479.jpg
      1303353479.jpg
      ขนาดไฟล์:
      21.6 KB
      เปิดดู:
      2,996
    • 1303351083.jpg
      1303351083.jpg
      ขนาดไฟล์:
      19 KB
      เปิดดู:
      2,671
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2011
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ขอขอบคุณ คุณปิยนาถ มากครับ ท่านใดที่เก่งภาษาอังกฤษหรือสามารถแปลได้เป็นอย่างดี ก็ขอเชิญเข้าไปศึกษาข้อมูลตามลิ้งค์ข้างล่างนี้นะครับ ส่วนท่านที่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษ ก็ใช้บริการแปลภาษาของ google ได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้เช่นเดียวกันครับ

    Supernovae Energy Technology- [ แปลหน้านี้ ]

    japan disaster tsunami nuclear disaster erdbeben earthquakes kalifornien california usa 2011 2012 new tsunami warnung warning 2011 biographie j.m.h. lehner ...
     
  20. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>[​IMG] ส้มตำ-ไก่ย่างสุดทนจ่อปรับราคา </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>อ่วมส้มตำ-ไก่ย่างแผงลอยเมืองกาฬสินธุ์เตรียมปรับราคา หลังต้นทุนขยับตัวสูงขึ้น การค้าภายในเป็นไปตามกลไกตลาด


    เมื่อวันที่ 20 เม.ย. นายศิริพงษ์ วิวัฒน์เกษมชัย การค้าภายในจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบปัญหาราคาส้มตำราคาแพงภายในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ซึ่งจากการตรวจสอบยอมรับว่าราคาสินค้าที่ปรับตัวเกิดขึ้นเป็นเพียงบางร้านค้าเท่านั้น แต่ในภาพรวมยังมีการจำหน่ายอยู่ที่ครกละ 20 บาทและราคาถูกแพงขึ้นอยู่ตามแต่ลูกค้าสั่ง แต่ราคา ไก่ย่าง หมูย่าง เนื้อย่าง แคบหมู ไข่ต้ม ที่ประชาชนนิยมรับประทานกับส้มตำที่ขายเป็นไม้มีการปรับราคาถึงไม้ละ 5- 10 บาท ซึ่งก็เป็นไปตามกลไกของตลาด แต่ก็ขอให้พ่อค้าแม่ค้าปิดป้ายแสดงราคาเพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชนและให้จำหน่ายในราคายุติธรรม

    ด้านนางละไม จุทางกูล เจ้าของร้านส้มตำนกเป้า เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า

    ปัญหาการขึ้นราคาส้มตำเกิดจากราคาต้นทุนเพิ่มขึ้น เพราะส่วนประกอบของส้มตำจะมี มะนาวปัจจุบันก็ลูกละ 5 บาท พริกทุกวันนี้ก็ตกเม็ดละ 1 บาท มะละกอ ดิบตกกิโลกรัมละ 15 บาท รวมทั้งส่วนประกอบที่ใช้ตำส้มตำต่างๆปรับขึ้นราคาเกือบเท่าตัว จึงไม่แปลกที่แม่ค้าส้มตำอื่นๆจะต้องขึ้นราคาเพราะในจำนวนนี้ยังไม่รวมปลาร้าที่เป็นส่วนผสมหลักในการปรุง แต่ในส่วนร้านของตนยังไม่ขึ้นราคาเพราะยังคงแบกรับภาระได้อยู่ อีกทั้งจะเน้นปริมาณการขาย แต่ทั้งนี้จะขึ้นราคาเพียง ไก่ย่าง หมูย่าง เนื้อย่าง เท่านั้น เนื่องจากซื้อมาแพง แต่หากราคาสินค้ายังแพงมากขึ้นอนาคตก็จำเป็นอาจจะต้องมีการปรับราคาส้มตำเช่นกัน



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>+
    [​IMG]ดาวเทียมไทยคม

    ICT แจ้งดาวเทียมไทยคม 5 หลุดวงโคจร คาดใช้เวลาซ่อม 3 ชั่วโมง
    Mthainews : เกิดเหตุสถานีดาวเทียมไทยคมล่มทั่วประเทศ ทั้งในระบบ C-band (จานดำ) KU-band (จานทึบ) จานแดงของทรูวิชั่นส์ ขณะนี้ระบบสัญญาณดาวเทียม รับชมภาพหรือเสียงไม่ชัดบางจังหวัด แต่กรุงเทพและปริมณฑลไม่มีปัญหาในการรับชม
    ทั้งนี้ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า ดาวเทียมไทยคม 5 เกิดปัญหาหลุดจากวงโคจร ทำให้สัญญาณมีปัญหา คาดใช้เวลาซ่อมประมาณ 3 ชั่วโมง
    อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของไทยคมแจ้งให้รอการแก้ไข โดยคาดว่าประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง น่าจะรับชมทีวีดาวเทียมได้ตามปกติ
    ล่าสุด ไทยคมออกแถลงการณ์แจ้งดาวเทียมไทยคม 5 ประสบปัญหาเทคนิค แต่ยังอยู่ในวงโคจรเดิม ไม่ได้หลุด เชื่อเจ้าหน้าที่จะสามารถกู้สถานการณ์เพื่อให้บริการตามปกติในเวลาไม่นาน
    Mthai News
    <LI class=news_src_item>[​IMG]<LI class=news_src_item>[​IMG]
    ตํ่ากว่า มาเลเซีย ไต้หวัน จีน สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจี้รัฐบาลแก้ไขปัญหา
    นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่อง เที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า World Economic Forum (WEF) ได้จัดอันดับความสามารถในการแข่งขันทางด้านการท่องเที่ยว หรือ The Travel & Tourism Competitiveness Index ที่จัดเป็นประจำทุกปียกเว้นปี 2553 มีประเทศเข้าร่วม 139 ประเทศทั่วโลก
    ทั้งนี้ ประเทศไทยถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 41 ลดลงจากปี 2552 ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 39 จาก 133 ประเทศ ขณะเดียวกัน ไทยอยู่อันดับ 10 เมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่มทวีปเอเชียและแปซิฟิก ลดจากปี 2552 ที่อยู่อันดับ 8 เป็นรอง จีน ไต้หวัน และมาเลเซียที่อยู่ในอันดับที่ 7 ติดต่อกัน 2 ปีซ้อน
    สำหรับดัชนีชี้วัดดังกล่าวจะพิจารณานาจาก 3 หัวข้อ คือ กรอบการทำงานด้านกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง โครงสร้างพื้นฐาน เช่น เส้นทางการเดินทาง และสภาวะแวดล้อมทางธุรกิจ ทรัพยากรธรราชาติ วัฒนธรรม และทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งรัฐบาลจะต้องเร่งศึกษาปัญหาและแก้ไขอย่างเร่งด่วนก่อนที่ไทยจะถูกลด อันดับลงไปเรื่อยๆ และในที่สุดจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในประเทศไทย
    ส่วนหัวข้อที่ประเทศไทยมีจุดอ่อนมากที่สุด หรืออยู่ในอันดับที่ 77 ได้แก่ กรอบการทำงานด้านกฎหมายระเบียบที่เกี่ยวข้อง ในประเด็นความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กสูง ปล่อยให้พืชและสัตว์หลายชนิดสูญพันธุ์ ความปลอดภัยและมั่นคงในประเด็นต้นทุนธุรกิจด้านผู้ก่อการร้าย ความไม่เพียงพอของปัจจัยทางการรักษาพยาบาล รวมถึง กฎระเบียบที่ไม่เอื้อ ต่อการพัฒนาธุรกิจด้านการท่องเที่ยว เช่น การปฏิบัติตามข้อตลกลงทั่วไปว่าด้วยการค้าบริการ เป็นความตกลงระหว่างประเทศ (GATs) สิทธิบัตร การขอวีซ่า เป็นต้น
    ขณะเดียวกัน ยังมีข้อด้อยในเรื่องของการจัดทำข้อมูลด้านการท่องเที่ยวอย่างบูรณการ การใช้จ่ายงบประมาณด้านการท่องเที่ยวที่ยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ส่วนประเด็นเรื่องโครงสร้างพื้นฐานและสภาวะแวดล้อมทางธุรกิจ ที่อยู่ในอันดับปานกลาง แต่มีปัจจัยที่ถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องได้รับการแก้ไข คือ ความหนาแน่นของสนามบิน
    ด้านโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายโทรศัพท์ การเข้าถึงอินเตอร์เน็ต และการให้บริการอินเตอร์เตบอร์ดแบนด์ที่ยังคงมีจำนวนจำกัดและไม่กระจายไปสู่ ชุมชน หมูบ้าน อย่างทั่วถึง และแม้ว่าดัชนีราคาโรงแรมของประเทศไทยจะอยู่ในอันดับที่ 8 แต่ก็แสดงให้เห็นว่า ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเรื่องรายได้มากกว่าจำนวน
    อย่างไรก็ดี ในเรื่องทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรม และทรัพยากรมนุษย์ เป็นหัวข้อที่ประเทศไทยถูกจัดอันดับให้อยู่ที่ 21 โดยสิ่งที่น่าเป็นห่วงและต้องให้สำคัญเร่งแก้ไข คือ ประเทศไทยถูกมองว่ามีปัญหาเรื่องการศึกษาในระดับประถมและมัธยมที่มีสัดส่วน ไม่สูงพอ ปัญหาเรื่องโรคเอดส์ ปริมาณสนามกีฬาที่ไม่เพียงพอ และคุณภาพสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติที่ถูกมองว่าแย่ลง และจำนวนแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมรดกโลก
    Mthai News
    <LI class=news_src_item>[​IMG]<LI class=news_src_item>
     

แชร์หน้านี้

Loading...