ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. lowprofile

    lowprofile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,391
    ค่าพลัง:
    +6,023
    ช่วยเสริม ๆๆๆๆๆๆไม่ใช่เรื่องยากครับ ๆๆ

    ปล่อยปลานั้น ปลาเป้นสัตว์เลือดเย็นนะครับ !!!!!!!!!!!!
    ควรเอาปลาแช่น้ำไว้ในถุงซักพัก ให้ปลาปรับตัวเข้ากับอุณหภูมิของน้ำก่อนนะครับ
    แล้วค่อยๆๆปล่อยลงไปช้าๆๆ ปกติปลาที่เราซื้อมาจะถูกขังรวมกัน ไม่มีน้ำ หากเราเทไปในบ่อหรือที่ที่จะปล่อยทันทีปลาที่เราปล่อยอาจป่วย ไม่ก้อช๊อกนำตายได้ โอกาสรอดก้อน้อยลงครับ ๆๆๆๆๆๆ

    สถานที่ปล่อยปลา ริมตลิ่งน้ำตื้นดีที่สุด ตามความเห้นของผม
    ปลาจะได้พักซักครู่ ปรับตัวและอุณหภูมิ ก่อนจะว่ายต่อไป
    หลายท่านเทปลาไปลงบนน้ำลึก ด้านบนน้ำนิ่งแต่ข้างล่างไหลเชียว
    ปลาไม่มีโอกาสได้พักเลย และมีผลต่อการรอดของปลาได้นะครับๆๆๆ
    ขอท่านที่จะปล่อยปลาก่อน ปล่อยลองพิจารณาดู ทำเลต่างๆๆที่จะนำปลาไปปล่อย
    อาทิเช่น บริเวณที่จะปล่อยเป้นไงบ้าง ปล่อยปลาตัวเล็กแต่มีปลาใหญ่มากแถวนั้น
    โอกาสโดนถูกจับกินมีสูง น้ำเชียวไปไหม สภาพปลาที่ซื้อมาแข็งแรงหรือไม่
    ปลาที่บ่อยลงไปเป้นศัตรูกันโดยธรรมชาติหรือเปล่าว ปลา-เต่าบางพวกอยู่ในสภาพ
    น้ำบางแบบเท่านั้น เพื่อความสะดวกของท่าน และโอกาสรอดของปลาด้วยครับๆๆๆๆ

    กราบอนุโมทนาสาธุการกับทุกท่านเป้นอย่างสูง ครับๆๆๆ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ


    เสียก่อนให้ถ่องแท้ ๆๆๆๆ
     
  2. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>[​IMG] “สุวิทย์”เตือนไทยรับมือภัยพิบัติครั้งใหญ่ </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>ทธ.รับรอยเลื่อน“แม่จัน”ทำดินไหว4 ริกเตอร์ สั่งจับตาเป็นพิเศษ ยันรอยเลื่อน“นครนายก” ไร้พลังยังไม่เพิ่มเฝ้าระวัง


    เมื่อวันที่ 30มี.ค. ที่กรมทรัพยากรธรณี (ทธ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นายพรทิพย์ ปั่นเจริญ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี ร่วมกันแถลงกรณี “คนไทยจะอยู่กับธรณีพิบัติภัยอย่างเป็นสุขได้อย่างไร” โดยนายสุวิทย์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ทางธรณีพิบัติภัยทั้งน้ำท่วม แผ่นดินไหวในช่วงสัปดาห์นี้ พบว่าคนไทยยังขาดการเตรียมความพร้อมที่ดี แม้แต่หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องเองก็ยังขาดแผนรับมือ ไม่มีการจัดมาตรการและวางระบบการให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันที ทำให้บางจุดจึงกลายเป็นลักษณะการเข้าไปมะรุมมะตุ้มกันมากกว่า ดังนั้นในที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ตนจึงขอให้มีการตรวจสอบความแข็งแรงโครงสร้างอาคาร พร้อมทั้งเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดให้ความรู้ความเข้าใจสาธารณชน และสถานศึกษา เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับประ ชาชน เหมือนกับที่ญี่ปุ่นที่เตรียมความพร้อมคนในประเทศตั้งแต่ในสถานศึกษา


    “ นอกจากนี้ยังเสนอให้พื้นที่เสี่ยงภัยได้ซักซ้อมรับมือสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาการซ้อมรับมือสึนามิ เหมือนกับการแสดงโชว์ คนส่วนใหญ่ไม่ได้มีส่วนร่วมด้วยเลย สถานประกอบการโรงแรมต่างๆ ก็ต้องมีความพร้อมในการรับมือด้วย ระบบเตือนภัยต้องเป็นระบบ และให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเป็นผู้มีส่วนรับผิดชอบในกรณีการเกิดปัญหาธรณีพิบัติภัย โดยต้องมีการจัดทำคู่มือเพื่อเตรียมความพร้อมด้วย ไม่ได้ต้องการให้ประชาชนตื่นเต้นตกใจ แต่ขอให้มีการเตรียมความพร้อมรับมือไว้ด้วย” นายสุวิทย์ กล่าว


    รมว.ทรัพยากรฯ กล่าวอีกว่า หลังจากเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2547 ในทะเลอันดามัน

    ตนได้ติดตามมาข้อมูลมาโดยตลอด เพราะคิดว่ามันต้องเกิดขึ้นอีก ซึ่งก็เกิดขึ้นที่ญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มี.ค.นี้ และเชื่อว่าในวงแหวนไฟมีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ได้อีกในอนาคต ซึ่งในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาเกิดแผ่นดินไหวรอบๆ ประเทศไทยมีความถี่มากขึ้นเรื่อยๆ และยังขยับเข้าใกล้ประเทศไทยอีกเช่นกัน ทั้งนี้ตั้งแต่ปี 2518-2554 พบมีแผ่นดินไหวขนาด 5-5.9 ริกเตอร์ เกิดขึ้น 303 ครั้ง และเกิดถี่มากตั้งแต่ปี 52 เป็นต้นมา โดยรอยเลื่อนที่น่าเป็นห่วงจากประเทศพม่าคือรอยเลื่อนสะแกง ที่พาดผ่านมาทางด้านตะวันตกและลงไปในทะเลอันดามัน ซึ่งห่างจาก กทม.เพียง 530 กม. จึงน่าเป็นห่วงมาก เพราะหากด้านบนขยับเมื่อไร กทม. ก็จะได้รับผลกระทบด้วย ส่วนจากเกาะสุมาตราจะมีระยะทางประมาณ 1000 กม. ดังนั้นจึงต้องเร่งเตรียมความพร้อมประชาชนให้สามารถอยู่ได้กับภัยพิบัติที่มีมากขึ้นเพื่อลดความสูญเสีย

    ด้านนายเลิศสิน รักษาสกุลวงศ์ ผอ.กองธรณีพิบัติภัยและสิ่งแวดล้อม ทธ. กล่าวว่า

    กรณีที่กรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่าพบแผ่นดินไหวที่รอยเลื่อนปัว จ.น่าน ขนาด 4 ริกเตอร์ 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ที่ผ่านมานั้น จากการตรวจสอบของ ทธ. ยอมรับว่าเป็นแผ่นดินไหวที่มีศูนย์กลางที่เกิดจากรอยเลื่อนแม่จันของไทยเอง โดยอยู่ระหว่างรอยต่อของอ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ กับ อ.แม่ฟ้าหลวง เชียงราย และเป็นพื้นที่ภูเขาสูง ไม่ใช่อาฟเตอร์ช็อกจากการไหวของรอยเลื่อนน้ำมาขนาด 6.7 ริกเตอร์ ที่เกิดขึ้นในพม่าเมื่อวันที่ 24 มี.ค. ซึ่งขณะนี้ทาง ทธ. ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบข้อมูลทางธรณีวิทยาบริเวณรอยเลื่อนที่มีการขยับในครั้งนี้แล้วโดยจับตาเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก เนื่องจากรอยเลื่อนดังกล่าวในอดีตเคยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 5 ริกเตอร์มาแล้ว ดังนั้นโอกาสที่จะไหวระดับรุนแรงขึ้นไม่น่าจะเป็นไปได้ ส่วนที่ระบุว่ามีการไหวอีกจุดที่เกิดจากรอยเลื่อนปัว จ.น่านนั้น กรมทรัพยากรธรณีได้ทำการตรวจสอบข้อมูลแล้ว ยังไม่ตรวจพบการสั่นไหวในรอยเลื่อนนี้



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>นายเลิศสิน ยังกล่าวถึงกรณีที่นักวิชาการระบุว่าพบรอยเลื่อนนครนายกเป็นรอยเลื่อนใหม่ ว่า รอยเลื่อนดังกล่าวเป็นหนึ่งในหลายๆ รอยเลื่อนที่มีในประเทศไทย

    แต่ขณะนี้ไม่มีพลังแล้ว และไม่จำเป็นต้องอยู่ในบัญชี 13 รอยเลื่อน ที่กรมเคยประกาศไว้ในช่วงปี 2549 เนื่องจากการจะประกาศรอยเลื่อนมีพลังนั้น ต้องใช้หลักการอย่างน้อย 5 ข้อ คือ 1. ในช่วง 1 หมื่นปีที่ผ่านมา ต้องเคยมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น ซึ่งสามารถตรวจสอบจากตะกอนดิน 2.เคยเป็นจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวขนาดเล็กหรือไม่ 3. ต้องเห็นรูปร่างลักษณะที่ทำให้ภูมิประเทศเปลี่ยนแปลง 4.สัมพันธ์กับรอยเลื่อนที่มีพลังอื่นๆ และ 5.เกิดลักษณะของทางน้ำไหลหรือร่องน้ำ เช่น กรณีแม่น้ำโขง ที่มีลักษณะคดโค้งเพื่อหลีกเลี่ยงรอยเลื่อนตามเส้นทาง

    “ ในอนาคตถ้ามีการศึกษาพฤติกรรมของรอยเลื่อนในประเทศไทย แล้วพบว่ามีรอยเลื่อนที่มีพลังและมีหลักฐานทางวิชาการเพียงพอก็อาจจะมีการประกาศเพิ่มเป็นรอยเลื่อนที่ 14 หรือ 15 จากเดิมที่มีอยู่ 13 รอยเลื่อนก็ได้ ซึ่งขณะนี้กำลังมีการทบทวนและวิจัยพฤติกรรมของรอยเลื่อนอื่นๆเพิ่มเติมอาทิ แถว จ.ตรัง ซึ่งพบร่องรอยของหินที่ร่วงหล่นลงมาแปลกและมีน้ำพุร้อนอยู่ในพื้นที่ด้วย รวมทั้งรอยเลื่อนท่าอุเทน จ.อุตรดิตถ์ ส่วนรอยเลื่อนนครนายกนั้น ผลการตรวจสอบยืนยันว่ายังไม่สามารถจับความสั่นไหวได้เลย แต่ก็ยังไม่อาจชี้ชัดได้อย่างชัดเจนว่าเป็นรอยเลื่อนที่ตายแล้วหรือไม่ สำหรับข้อเป็นห่วงของนักวิชาการทาง ทธ. จะเชิญนักวิชาการที่มีข้อมูลมาหารือกันในเรื่องนี้ต่อไป ” นายเลิศสินกล่าว


    เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้ทางกรมธรณียืนยันว่ารอยเลื่อนน้ำมา ในพม่าและลาว กับรอยเลื่อนแม่จัน เป็นรอยเลื่อนขนานกันและมีระยะห่างราว 70 กม.

    ในทางทฤษฎีจะไม่ส่งผลกระทบให้เกิดการไหวได้นั้น นายอดิชาติ สุรินทร์คำ โฆษกกรมทรัพยากรธรณี ชี้แจงว่าในทางผลกระทบโดยตรงจากรอยเลื่อนน้ำมาจะทำให้เกิดอาฟเตอร์ช็อกในรอยเลื่อนแขนงต่างๆ แต่กรณีที่รอยเลื่อนแม่จัน มีการไหวระดับ 4 ริกเตอร์ได้นั้นเป็นผลกระทบทางอ้อม


    นายสุทธิศักดิ์ ศรลัมพ์ อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า จากงานวิจัยของ ม.เกษตร ร่วมกับกรมทรัพยากรธรณี

    ข้อมูลความลึกของชั้นดินเหนียวอ่อน กทม.ยิ่งใกล้ปากแม่น้ำยิ่งมีความเสี่ยงต่อการรับคลื่นแผ่นดินไหว โดยเฉพาะบริเวณ สนามบินสุวรรณภูมิเป็นบริเวณที่มีคุณภาพดินแย่ที่สุด เพราะอ่อนไหวและรับคลื่นแผ่นดินไหวมากที่สุด นอกจากนี้ในส่วนของเขื่อนที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวในภาพรวมข้อมูลจากทุกประเทศมีข้อมูลที่ตรงกันว่า สาเหตุที่ทำให้เขื่อนพังนั้น มาจากการใช้งานปกติอันดับแรก ตามมาด้วยการรั่วซึม สำหรับเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่จะทำให้เขื่อนพังมีแค่ 1% เท่านั้น ยืนยันว่าไม่เคยเกิดขึ้นในโลกถ้าเขื่อนนั้นถูกออกแบบโดยวิศวกร


    นายสุทธิศักดิ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ต้องระวังมากที่สุดหลังเกิดแผ่นดินไหวที่พม่า

    คือเขื่อนขนาดเล็กของกรมชลประทานที่ถ่ายโอนให้กับองค์การบริหารปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเขื่อนทั้งประเทศมีทั้งหมด 5000 แห่ง และ80% ที่อยู่กับท้องถิ่นน่าเป็นห่วง เพราะไม่ทราบว่าฝ่ายท้องถิ่นได้มีการตรวจสอบโครงสร้างหรือไม่ ทั้งนี้เขื่อนยิ่งขนาดใหญ่การก่อสร้างก็ยิ่งมีการออกแบบอย่างถูกหลักวิศวกรและมีมาตรฐานมาก


    ขณะที่นายวีรชัย ไชยสระแก้ว ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายบำรุงรักษาโยธา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)

    ได้ชี้แจงต่อนายสุวิทย์ ว่า กฟผ.ได้มีการดำเนินการทบทวนการออกแบบเขื่อนศรีนครินทร์ต่อแรงกระทำแผ่นดินไหวเมื่อปี 2549 โดยใช้วิธี Dynamic Response Analysis พบว่าสามารถทนแรงจากคลื่นแผ่นดินไหวได้ 7 ริกเตอร์ โดยใช้ค่าอัตราเร่งสูงสุดจากการสั่นไหวมาคำนวณ กรณีเกิดคลื่นแผ่นดินไหวในอ่างเก็บน้ำ ได้มีการคำนวณว่าเกิดคลื่นน้ำและได้กำหนดความสูงของสันเขื่อนกับระดับน้ำที่กักเก็บ 5 เมตร ซึ่งพอเพียงกันน้ำไหลออกจากเขื่อน ส่วนรอยเลื่อนสะแกง ที่มีเขื่อนวชิลาลงกรณ์ห่างจากรอยเลื่อน 350 กิโลเมตรและเขื่อนศรีนครินทร์ ห่าง 400 กิโลเมตร หากเกิดแผ่นดินไหว 7.5 ริกเตอร์จะส่งผลกระทบกับเขื่อนทั้งสองน้อยมาก เนื่องจากอยู่ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหว ยืนยันว่า กฟผ.มีมาตรการเฝ้าระวังและแผ่นดินไหว พฤติกรรมของเขื่อน มีการตรวจสอบด้วยเครื่องมือและสายตาทุกสัปดาห์ หากเกิดสิ่งผิดปกติจะทราบได้ทันที


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>[​IMG] น้ำท่วมตายแล้ว21ศพ เกาะเต่าขาดอาหาร </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>“ในหลวง-พระราชินี”ทรงห่วงพสกนิกร ใต้อ่วม เกาะเต่าวิกฤติอาหารเริ่มขาด เหยื่อน้ำท่วมดับแล้ว 21 ศพ
    เมื่อเวลา 04.00น. วันที่ 1 เม.ย. กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ลักษณะอากาศทั่วไประบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และกรุงเทพมหานคร มีอุณหภูมิสูงขึ้นและเข้าสู่สภาวะหน้าร้อนตามปกติ สำหรับลมตะวันออกพัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทยทำให้ภาคใต้มีฝนกระจาย ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง
    "ในหลวง-พระราชินี"ทรงห่วง
    ก่อนหน้านั้นที่กองการบินกรมการขนส่งทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เสนาธิการทหารบก และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.กระบี่ และพื้นที่ใกล้เคียงที่ประสบปัญหาอุทกภัย เพื่อตรวจเยี่ยมและนำสิ่งของไปบรรเทาทุกข์ โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้จะเข้าไปดูแลเรื่องการบริหารจัดการของกองทัพภาคที่ 4 ซึ่งได้มีการจัดศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมาตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งเริ่มเกิดอุทกภัย โดยขณะนี้ได้รับรายงานว่ามี 8 จังหวัด 10 อำเภอ ซึ่งรวมประชาชนกว่าหลายแสนคนที่ได้รับความเดือดร้อน ทั้งนี้ในส่วนของกองทัพบกได้สั่งการลงไปให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก กองทัพภาคที่ 4 ได้เข้าไปดูแลในเรื่องของการจัดสรร กำลังพลและยุทโธปกรณ์ รวมทั้งถุงยังชีพที่พี่น้องประชาชนได้ร่วมกันบริจาค และส่งไปเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน
    "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถท่านทรงเป็นห่วงประชาชนและพสกนิกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุอกภัยในครั้งนี้ ซึ่งท่านทรงพระราชเงินส่วนหนึ่งผ่านสภากาชาดไทยและผมคิดว่าพระองค์ท่านคงส่งความห่วงใยไปถึงประชาชนทุกคนที่ยากลำบากในขณะนี้ และในส่วนของราชวงศ์อื่นๆด้วยทุกพระองค์ก็เป็นห่วง เพราะเหตุอุทกภัยในครั้งนี้ค่อนข้างรุนแรงมากกว่าครั้งที่แล้ว ซึ่งอาจจะเป็นความเดือดร้อนในระยะยาว และอีกเรื่องหนึ่งที่พระองค์ท่านทรงเป็นห่วง คือ อาชีพของประชาชนที่ทำสวนยางพาราและสวนปาล์ม ซึ่งอาจจะเสียหายมากซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในอนาคตด้วย
    พระราชทานถุงยังชีพแก่ชาวตรัง
    ที่วัดแจ้ง ต.บางรัก อ.เมือง จ.ตรัง นายดิสธร วัชโรทัย ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นผู้แทนพระองค์นำสิ่งของพระราชทานไปให้ราษฎรที่ประสบอุทกภัยในท้องที่จังหวัดจังหวัดตรัง ประกอบด้วยพื้นที่ตำบลนาบางรัก ตำบลนาท่าเหนือ ตำบลนาท่าใต้ ตำบลหนองตรุด ตำบลนาตาล่วง คำบลควนปริง อำเภอเมืองตรัง จำนวน 1,000 ชุด สร้างความปลาบปลื้มในพะกรุณาธิคุณของพระองค์ที่ทรงห่วงใยในความเดือดร้อนของราษฎรเป็นอย่างมาก
    สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดตรัง ขณะนี้ประสบภัยครบทั้ง 10 อำเภอ ในพื้นที่ 68 ตำบล 5 เทศบาล 499 หมู่บ้าน มีราษฎรประสบภัยแล้ว 28,435 ครัวเรือน หรือ 51,865 คน โดยมีแนวโน้มสถานการณ์ ในช่วงต่อไป ระดับน้ำในพื้นที่แนวเทือกเขาบรรทัด บริเวณ อ.นาโยง อ.ย่านตาขาว อ.ปะเหลียน จะลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่จะเพิ่มสูงขึ้นในบริเวณลุ่มริมฝั่งแม่น้ำตรังของ อ.วังวิเศษ อ.เมืองตรัง อ.สิเกา อ.กันตัง ซึ่งเป็นพื้นที่รองรับน้ำจากแนวเทือกเขาบรรทัด และจาก จ.นครศรีธรรมราช ส่วนสถานการณ์ฉุกเฉินเพิ่มเติม มีพนังกั้นแม่น้ำตรังชำรุด 2 จุด คือ บริเวณ หมู่ .6 ต.บางรัก และ หมู่ 2 ต.หนองตรุด อ.เมืองตรัง โดยได้อพยพราษฎรไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว
    สุราษฎร์ธานีอ่วม 19 จังหวัดจมบาดาล
    สถานการณ์น้ำทั้ง 19 อำเภอของ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ยังถือว่าอยู่ในระดับวิกฤติ เนื่องจากสภาพฝนที่ตกลงมาไม่หยุดและมีน้ำป่าจาก จ.นครศรีธรรมราช และ จ.กระบี่ ไหลบ่าลงมาสมทบ โดยการอพยพประชาชนมีตลอดทั้งกลางวันและกลางคืนโดยเฉพาะในพื้นที่ ชัยบุรี พระแสง บ้านนาเดิม เคียนซา และ อ.พุนพิน ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำก่อนน้ำจากแม่น้ำตาปีจะไหลลงสู่อ่าวไทยทำให้ระดับน้ำในคลองพุมดวงซึ่งเป็นคลองสาขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และไหล่บ่าเข้าท่วมถนนสาย เอเซีย 41 ตั้งแต่หนองขรี ต.หนองไทร ไปจนถึงแยก กม. 18 ระยะทางประมาณ 10 กม. ทำให้การสัญจรเส้นทางล่องใต้ต้องตัดขาดไปอีกครั้งรวมถึงได้ไหลเข้าท่วมโรงพยาบาลท่าโรงช้าง เจ้าหน้าที่ต้องขนย้ายผู้ป่วยขึ้นไปอยู่ชั้น 2 ของตัวอาคาร เนื่องจากไม่สามารถเคลื่อนย้ายออกนอกพื้นที่
    กาญจนดิษฐ์ภูเขาถล่มซ้ำ
    ขณะเดียวกันยังมีอีกหลายอำเภอที่ติดอยู่ในบ้านกลางน้ำป่าท่วมสูงและเชี่ยวกราก ร้องขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปรับออกมา เนื่องจากไม่มีเรือและขาดอาหารมาหลายวัน เช่น ที่ ต.สองแพรก อ.ชัยบุรี ต.บางสวรรค์ อ.พระแสงนับร้อยครัวเรือน และที่ ต.คลองสระ อ.กาญจนดิษฐ์ ถูกภูเขาถล่มปิดทางออกมาไม่ได้อีกร่วม 50 ครัวเรือน 170 คนโดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่สามารถเข้าไปได้ โดยสรุปปัญหาที่พบคือเรือท้องแบนไม่เพียงพอ และการขาดแคลนน้ำและอาหารของผู้ประสบภัยที่การเข้าช่วยเหลือเข้าถึงยาก
    ทั้งนี้นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผวจ.สุราษฎร์ธานี ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งนำถุงยังชีพเครื่องอุปโภคบริโภค อาหารและเครื่องดื่ม พร้อมรับประทานได้ทันทีเข้าช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนและสั่งอพยพประชาชนในพื้นที่ล่อแหลมออกไปในจุดที่ปลอดภัย โดยเฉพาะที่ อ.พระแสง เวียงสระ เคียนซา พุนพิน เนื่องจากมีปริมาณน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและเน้นดูแลความปลอดภัยแก่ชีวิตเป็นหลัก
    ทหารเดินเท้าเข้าค้นหาเหยื่อดินถล่ม
    ส่วนกรณีได้เกิดดินถล่มในพื้นที่บ้านห้วยหอย หมู่ 10 ต.คลองสระ อ.กาญจนดิษฐ์ เบื้องต้นทราบว่ามีผู้สูญหายไปประมาณ 5 คน แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเดินทางเข้าไปตรวจสอบและช่วยเหลือได้ ล่าสุด พล.ต.สนอง บุญซื่อ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานี จัดส่งทหารจาก ร.25 พัน 3 จำนวน 20 นาย ร่วมกับตำรวจ สภ.กาญจนดิษฐ์ และผู้นำชุมชน เดินเท้าเข้าไปยังจุดเกิดเหตุระยะทางประมาณ 5 กม. เนื่องจากถนนถูกตัดขาด คอสะพานชำรุด
    สะพานข้ามแม่น้ำตาปีทรุด
    ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าล่าสุด มีรายงานว่า ตอม่อสะพานข้ามแม่น้ำตาปี บนถนนสายเซาร์เทิอร์น เส้นทางกระบี่ขนอม ช่วงเขตรอยต่อ อ.บ้านนาเดิม-อ.เคียนซา ได้เกิดทรุดตัวลงประมาณ 1 เมตร โดยคาดว่าสาเหตุมาจากกระแสน้ำในแม่น้ำตาปีที่เชี่ยวกราก และดินอ่อนตัว ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ทางหลวง อย่างไรก็ตามได้มีการปิดเส้นทางดังกล่าว 1 ช่องทางโดยเปิดให้ใช้สะพานเพียงตัวเดียวเท่านั้น.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>เมืองคอนจมบาดาน 9 พันคนถูกตัดขาด
    ส่วนที่ จ.นครศรีธรรมราช หลังฝนตกลงมาอย่างหนักทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก ดินภูเขาสไลด์ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี ต.นบพิตำ ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ ถนนถูกตัดขาดจนพื้นที่ถูกตัดขาจากโลกภายใน ทำให้การช่วยเหลือประชาชนมีปัญหาอย่างหนักโดยชาวบ้าน ต.กรุงชิง ทั้งตำบลกว่า 9,000 คนไม่สามารถสัญจรออกนอกพื้นที่ได้ ทางกองทัพภาคที่ 4 ต้องจัดส่งอาหารให้กับประชาชนทางเฮลิคอปเตอร์ ทางด้าน ต.ทุ่งปรัง ต.เสาเภา อ.สิชล น้ำท่วมสูงในรอบ 30 ปี ประชาชนติดอยู่ตามจุดต่าง ๆ จำนวนมาก เช่น หมู่ 16 ต.ทุ่งปรัง บ้านเรือนของชาวบ้านถูกน้ำท่วมอย่างหนักชาวบ้านจากหลายครัวเรือนได้หนีน้ำมารวมตัวกันอยู่ที่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 16 ต.ทุ่งปรัง จำนวน 50 คน ได้แจ้งขอความช่วยเหลืออพยพออกนอกพื้นที่ ทางตำรวจภูธรสิชล และตำรวจตระเวนชายแดนที่ 424 กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ระดมกำลังเข้าช่วยเหลืออพยพประชาชนมาอยู่ในที่ปลอดภัยด้วยความยากลำบาก ส่วนพื้นที่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ทั้งรอบนอกรอบในถูกน้ำท่วมอย่างหนัก
    กรมคุ้มครองสิทธิฯรุดเจรจาปัญหาหนี้
    นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนัก และภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งขณะนี้มีประชาชนในพื้นที่ 8 จังหวัด 81 อำเภอ กว่า 4,000 หมู่บ้าน หรือประมาณ 230,000 ครัวเรือน กว่า 800,000 คน ได้รับความเดือดร้อน ทั้งทรัพย์สินและพื้นที่ทำกิน ซึ่งปัญหาที่จะตามมาหลังน้ำลด คือ ปัญหาหนี้สินและการฉ้อโกง ตนจึงได้สั่งการให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เตรียมความพร้อมของทีมนักกฎหมายและเจ้าหน้าที่ยุติธรรมเคลื่อนที่ ลงพื้นที่พบชาวบ้านทันทีที่น้ำลด เพื่อสำรวจความเสียหายของชาวบ้าน และรับเรื่องร้องทุกข์โดยเฉพาะปัญหาหนี้สิน ทั้งในและนอกระบบ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมจะช่วยเหลือในการเจรจากับเจ้าหนี้ เพื่อขอผัดผ่อนลดความเดือดร้อนให้กับผู้ประสบภัย และลดปัญหาการฉ้อโกง หลอกลวงที่ซ้ำเติมผู้ประสบภัย
    เรือจักรีนฤเบศรช่วยนักท่องเที่ยวจากเกาะเต่า
    ส่วนช่วงเช้า เรือหลวงจักรีนฤเบศร ได้นำนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างประเทศ ประมาณ 700 คน จากเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี มาถึงท่าเทียบเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ โดยมี พล.ร.ท.ฆนัท ทองพูล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 พร้อมนายทหารชั้นผู้ใหญ่ กองทัพเรือ ให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวก จัดนักท่องเที่ยวที่มีความต้องการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ลงมาจากเรือ โดยมี นายวิชิตชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้ให้ผู้แทนมาอำนวยความสะดวก พร้อมทั้งหน่วยงานภาครัฐ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ การท่าเรือสัตหีบ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ฯลฯ มาช่วยกันจัดนักท่องเที่ยวขึ้นรถบัส รถตู้ที่ได้เตรียมรองรับไว้จำนวนมาก
    เรือหลวงเจ้าพระยาพานักท่องเที่ยวเข้าฝั่ง
    พล.ร.ท. ฆนัท ทองพูล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 กล่าวว่า ในเวลาบ่ายเรือหลวงเจ้าพระยา จะพานักท่องเที่ยวประมาณ 500 คน เข้ามาส่งที่ท่าเรือสัตหีบ และยังมีเรือ กำลังพลของทัพเรือภาคที่ 2 ทัพเรือภาคที่ 3 ดำเนินการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ อยู่อย่างต่อเนื่อง ส่วนภารกิจของ เรือหลวงจักรีนฤเบศร ขณะนี้ได้ดำเนินการจัดเตรียมเสบียงอาหารไว้ เพื่อเตรียมตัวที่จะออกเดินทางไปรับนักท่องเที่ยวที่ยังติดเกาะ แต่ถ้าสถานการณ์ในพื้นที่ดีขึ้น ก็คงไม่มีปัญหาเรือเล็ก เรือรับนักท่องเที่ยว เรือเฟอรี่ เดินทางได้ก็ให้ดำเนินการไป แต่ยังมีเรือรบขนาดเล็กดำเนินการในทุกพื้นที่ในขณะนี้
    เกาะเต่าเริ่มวิกฤติเสบียงเริ่มหมด
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เกาะเต่ายังมีนักท่องเที่ยวติดอยู่อีกประมาณ 700-800 คน สถานการณ์เริ่มตรึงเครียดเพราะเสบียงอาหาร น้ำดื่ม และน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ในการปั่นไฟ เริ่มหมด ไฟดับ สัญญาณโทรศัพท์เริ่มมีปัญหา การติดต่อสื่อสารไม่สะดวก ส่วนการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเป็นไปด้วยความยากลำบาก ฝนตก คลื่นลมแรง อยู่ตลอดเวลา จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังให้มาก โดยเฉพาะการนำนักท่องเที่ยวมาที่เรือ และการใช้เฮลิคอปเตอร์รับนักท่องเที่ยวที่เป็นคนแก่ ผุ้หญิง เด็ก ๆ และคนพิการ
    เรือหลวงสุโขทัยรับนักท่องเที่ยวส่งถึงจุกเสม็ด
    เมื่อเวลา 13.30 น. นาวาโท ศศิน สวรรคทัต ผู้บังคับการเรือหลวงสุโขทัย ได้นำนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างประเทศ จำนวน 125 คน รวม 14 สัญชาติ ที่ติดค้างอยู่บนเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี หลังถูกพายุเข้าโหมกระหน่ำอย่างหนักในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ออกเดินทางจากเกาะมาขึ้นที่ท่าเทียบเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมี พล.ร.ท.ฆนัท ทองพูล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 พร้อมนายทหารชั้นผู้ใหญ่ กองทัพเรือ ให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวก จัดนักท่องเที่ยวที่มีความต้องการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ โดย นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผวจ.ชลบุรี ได้ให้ผู้แทนมาอำนวยความสะดวก พร้อมทั้งหน่วยงานภาครัฐ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ การท่าเรือสัตหีบ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ฯลฯ มาช่วยกันจัดนักท่องเที่ยวขึ้นรถบัส รถตู้ที่ได้เตรียมรองรับไว้จำนวนมาก
    อุตุฯเตือน 8 จังหวัดใต้ระวังน้ำป่า
    กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนภัย"สภาวะน้ำท่วมในภาคใต้"ฉบับที่ 21 ระบุว่า เมื่อเวลา 16.00 น. หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณภาคใต้ตอนกลาง มีกำลังอ่อนลงอีก แต่ยังคงทำให้ภาคใต้มีฝนชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ได้ในวันนี้ หลังจากนั้นปริมาณฝนจะลดลง จึงขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล ยังคงต้องระวังอันตรายจากสภาวะน้ำป่าไหลหลากต่อไปอีก ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยและทะเลอันดามันสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และกรุงเทพมหานคร มีอุณหภูมิสูงขึ้น
    “ป้อง-ณวัฒน์”เผยชีวิตติดเกาะเต่า
    ที่ศูนย์การค้าสยามเซนเตอร์ พระเอกหนุ่มชื่อดัง ป้อง-ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ ได้ออกงานอีเวนท์ครั้งแรก หลังจากเดินทางไปร่วมงาน ไปโครงการอนุรักษ์เต่าทะเล ที่เกาะเต่า จ.สุราษฎ์ธานี พร้อมกับเพื่อนนักแสดง อ้อม พิยดา และ สามี อาร์ท ศรา จุฑารัตนกุล แต่ฝนตกหนักและคลื่นสูงมาก ทำให้ออกจากฝั่งไม่ได้ จนต้องติดอยู่บนเกาะนานถึง 5 วัน โดย ป้อง กล่าวว่า "ได้กลับถึงบ้านเมื่อคืนที่ผ่านมาโดย ไปร่วมโครงการอนุรักษ์เต่าทะเล ที่เกาะเต่ากับ พี่อ้อม อาร์ท แล้วก็เพื่อนๆจากนิตยสารฮันนีมูนแอนด์ทราเวล ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้น เพราะว่าปกติช่วงนี้แดดเปรี้ยง แต่ว่าฝนตกทุกวัน คลื่นสูงเรือออกจากเกาะไม่ได้ ส่วนตัวเครียดเรื่องงานเพราะเพิ่งเปิดกล้องละครในรอยรัก แต่โชคดีตรงที่อยู่ไม่ได้ลำบากมาก ก็มีอาหาร มีไฟใช้ แต่ถ้าอีก2-3 วันหลังจากนั้นก็จะลำบาก เพราะอาหารจะไม่พอกับคนบนเกาะที่มีเกือบ 2,000 คน เท่าที่สำรวจ ก็มีแผ่นดินทรุด ร้านอาหารบางร้านก็เทกระจาดไปเลย
    นายกฯไปดูดินโคลนถล่มจัดงานรับบริจาค
    ส่วนที่ขส.ทบ. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ออกเดินทางด้วยเครื่องบินแอมแบร์ไปยังจ.กระบี่ เพื่อเดินทางไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ดินโคลนถล่มใน อ.เขาพนม และมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.กระบี่ ทั้งนี้ในช่วงค่ำของวันเดียวกันรัฐบาลได้จัดงาน “ ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัย น้ำท่วม “ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 อสมท. โดยเวลา 21.00 น. นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปรับมอบเงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วย
    ผวจ.กระบี่ย้ำไม่น่ากลัวตาย2ศพหาย6
    นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผวจ.กระบี่ ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ถึงปัญหาน้ำท่วม และดินถล่ม ตามที่มีกระแสข่าวออกไปตามสื่อต่างๆว่ามีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่ 7 ต.หน้าเขา อ.เขาพนม พบว่ามีผู้เสียชีวิตเพียง 2 ราย เป็นชาย 1 ราย หญิง 1 ราย สูญหาย 6 ราย บาดเจ็บ 24 ราย บ้านเรือนเสียหาย 17 หลัง ซึ่งต่างกับที่มีข่าวออกไปว่ามีผู้สูญหายนับร้อยราย และเสียชีวิตจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวว่าเขื่อนจะแตกอีกแห่งนั้น ขอยืนยันว่าในพื้นที่อ.เขาพนม ไม่มีเขื่อน ส่วนที่มีเป็นเพียงอ่างเก็บน้ำซึ่งยังสร้างไม่เสร็จ จึงขอฝากไปยังประชาชนว่าอย่าตื่นตระหนกกับข่าวลือ
    ปูพรมค้นหาเจออีก2ศพจมโคลน
    นอกจากนี้มีรายงานด้วยว่าเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่กู้ภัย และอส.ประมาณ 150 นาย ได้เดินเท้าปูพรมค้นหาผู้เสียชีวิตที่คาดว่าติดอยู่ใต้โคลน ในพื้นที่หมู่ 7 บ้านต้นหาร ต.หน้าเขา อ.เขาพนม จากการเดินค้นหาพบซากรถปิกอัพ สภาพพังเสียหายย่อยยับ 5 คัน หลังจากการใช้เวลาในการค้นหาประมาณ 2 ชั่วโมง พบศพชาย-หญิงไม่ทราบชื่อ 2 ศพ ติดอยู่กับท่อนซุง สภาพเนื้อตัวเปื้อนโคลน ต้องใช้เลื่อยยนต์ตัดท่อนซุงเพื่อเอาศพออกมาด้วยความทุลักทุเล ก่อนจะเดินหน้าค้นหาร่างผู้เสียชีวิตกันต่อไป โดยมีคณะของนายกรัฐมนตรีเดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ชุดค้นหาศพ จากนั้นนายอภิสิทธิ์ได้เดินทางมาที่วัดถ้ำโกบ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้กัน เพื่อกราบศพผู้เสียชีวิตที่ตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ภายในวัด พร้อมทั้งเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยที่พักอยู่ภายในวัดดังกล่าว
    ลูกทุ่งสาว”บิว-กัลยาณี”เยี่ยมบ้านไม่ได้
    บิว-กัลยาณี เจียมสกุล นักร้องสาวลูกทุ่งชื่อดัง เปิดเผยว่า บ้านพ่อ-แม่ และญาติๆ อยู่ใน ต.ท่าทอง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ขณะนี้บ้านลุงซึ่งสูง 2 ชั้น น้ำท่วมมิดถึงหลังคา ส่วนบ้านพ่อแม่ตนอยู่คนละฝั่งถนน น้ำยังมาไม่ถึง ลุงและญาติๆจึงต้องมาอาศัยอยู่ในบ้านตน ส่วนชาวบ้านบางคนต้องไปอาศัยตามวัด แต่วัดก็มีคนนำศพมาตั้งไว้ สุดท้ายต้องหลบไปอาศัยตามบ้านญาติ เนื่องจากปีนี้นำท่วมมากผิดปกติ ชนิดที่ไม่เคยท่วมหนักแบบนี้มาก่อน เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนนั่งเครื่องบินเพื่อไปเยี่ยมบ้าน แต่เครื่องลงที่สนามบินสุราษฎร์ธานีไม่ได้ สุดท้ายต้องนั่งเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ
    500ชีวิตผวาเผ่นหนีหวั่นภูเขาถล่ม
    ต่อมาเวลา 19.00 น. ชาวบ้านหมู่ 6 ต.เขาขาว อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ประมาณ 400-500 คน ต่างพากันผวาหนีตาย รีบขับรถยนต์และรถจยย.พาสมาชิกในครอบครัวออกจากบ้าน แล้วไปรวมตัวกันที่บ้านของนายกอบต.เขาขาว หลังจากชาวบ้านได้ยินเสียงลั่นครืนๆ ดังมาจากภูเขาที่ตั้งรายล้อมหมู่บ้าน เป็นเวลาประมาณ 10 นาที โดยชาวบ้านเกรงว่าจะเกิดเหตุภูเขาถล่มเช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจ.กระบี่ และชาวบ้านที่หนีมารวมตัวกันคืนนี้ จะไม่กลับไปนอนบ้าน และจะรอจนถึงวันที่ 1 เม.ย.54 เพื่อความปลอดภัย
    เหยื่อน้ำท่วมตายแล้ว 21ศพ
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.45 น. ศูนย์ปฏิบัติการรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ( ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ได้สรุปสถานการณ์น้ำท่วมในช่วงค่ำของวันที่ 31 มี.ค. ว่า ขณะนี้ หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณภาคใต้ตอนกลาง ได้กำลังอ่อนลงอีก แต่ยังคงทำให้ภาคใต้มีฝนชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ได้ จึงขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล ยังคงต้องระวังอันตรายจากสภาวะน้ำป่าไหลหลากต่อไป โดยพื้นที่ประสบภัย มี 8 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฎร์ธานี ตรัง ชุมพร สงขลา กระบี่ และจังหวัดพังงา รวม 87 อำเภอ 568ตำบล 4,615หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 294,097 ครัวเรือน 998,867 คน มีผู้เสียชีวิต 21 ราย ประกอบด้วยนครศรีธรรมราช 9 ราย สุราษฎร์ธานี 4 ราย พัทลุง 2 ราย กระบี่ 6ราย บาดเจ็บ 181 คน
    รพ.ท่าศาลาตั้งเต็นท์ให้บริการ
    ทั้งนี้ ในส่วนความเสียหายอื่นๆ โรงพยาบาลท่าศาลา ยังเปิดให้บริการไม่ได้ ยังไม่มีการอพยพผู้ป่วยกลับ แต่มีหน่วยบริการประชาชนของ รพ.มหาราชตั้งเต็นท์ให้บริการที่ฝั่งตรงข้าม คาดว่าอีกประมาณ 1-2วัน จะสามารถเปิดให้บริการได้ มีดินถล่มที่ ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ ถนนถูกตัดขาดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ในส่วนของ จ.สุราษฎร์ธานี มีผู้อพยพ 965 คน ติดเกาะ 1,200 คน จ.พัทลุง อพยพ 45 ครัวเรือน 191 คน จ.กระบี่ อพยพ จำนวน 3,800 คน


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================


    31 มี.ค. 54


    เพิ่มเติมความรู้

    หลวงปู่เทพอุดร ตามความเข้าใจของผมจะเป็นพระพุทธเจ้าหนึ่งในสี่พระองค์ที่
    ไม่ใช่พระพุทธโคดมองค์ปัจจุบัน ซึ่งพุทธลักษณะสมติจะคล้ายกับพระพุทธเจ้า
    หนึ่งในสามพระองค์ ที่ในเว็บฯนี้เคยลงพระนามของพระพุทธองค์ท่านไปแล้ว
    ขออนุญาตไม่เอ่ยพระพุทธองค์ท่าน

    วันอาทิตย์ที่จะถึงนี้อาจจะมีข่าวดีสำหรับแนวร่วมฐานผาแบ่นทุกคน แล้วจะมา
    คุยให้ฟัง

    แนวร่วมที่เข้ามาคุยแล้วขาดหายไป ผมขออนุญาตผ่านการรับเข้าร่วมเป็นแนว
    ร่วมที่ฐานฯ





    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน

    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"
     
  4. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    กรุงเทพฯ 31 มี.ค. – นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในการลงนามร่วมกันระหว่างกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน บริษัทบางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้รับผิดชอบการผลิตน้ำมันจากสาหร่าย บริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง ในฐานะผู้สนับสนุนการพัฒนาพลังงานสาหร่ายและบริษัทล็อกซ์เลย์ ในฐานะผู้สนับสนุนเทคโนโลยีการแยกน้ำมันจากสาหร่าย เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพจากสาหร่ายน้ำมันเป็นครั้งแรกของประเทศไทย
    นพ.วรรณรัตน์กล่าวว่า พืชสาหร่ายเป็นพืชที่มีศักยภาพสูง โดยหลายประเทศ เช่น สหรัฐ ออสเตรเลีย และจีน กำลังวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์การสกัดน้ำมันจากสาหร่าย ซึ่งกระทรวงพลังงานได้นำเงินจากกองทุนส่งเสริมอนุรักษ์พลังงาน 10 ล้านบาท มาทำการวิจัยเรื่องนี้ เพราะสาหร่ายสามารถผลิตเป็นน้ำมันสูงถึง 30 เท่า เมื่อเทียบกับปาล์มน้ำมัน แต่มีต้นทุนที่ถูกกว่า และเป็นพลังงานสะอาดลดคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเมื่อทำการผลิตน้ำมันจากสาหร่ายเป็นไบโอดีเซลได้แล้ว ก็จะมีการพัฒนาเป็นโครงการเชิงพาณิชย์ในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยคาดว่าจะมีกำลังการผลิตประมาณ 30,000 ลิตรต่อวัน ใช้เงินลงทุน 1,000 ล้านบาท
    ด้านนายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจาก กล่าวว่า สำหรับน้ำมันสาหร่ายมีต้นทุนต่ำกว่าไบโอดีเซลประเภทอื่น เฉลี่ยที่ 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ไบโอดีเซลจากปาล์มอยู่ที่ 160 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และกำลังมีการพัฒนาเพื่อนำมาใช้เป็นน้ำมันเครื่องบิน ส่วนที่เป็นกากสาหร่าย สามารถนำไปผสมเป็นอาหารสัตว์ที่มีคุณภาพสูง ซึ่งมั่นใจว่า ไบโอดีเซลจากสาหร่ายมีประสิทธิภาพดี สามารถใช้ได้กับเครื่องยนต์ทุกประเภท.
    สำนักข่าวไทย
    <LI class=news_src_item>[​IMG]

    [​IMG]โรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ

    นํ้าทะเลพบกัมมันตรังสีสูงกว่า 4 พันเท่า ผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวและสึนามิเพิ่มเป็น 11,417 คน
    31 มี.ค. สำนักข่าวเกียวโดเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีนาโอโตะ คังได้ กล่าวระหว่างการหารือกับนายคาสุโอะ ชิอิ หัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์ว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ หมายเลข 1 ควรต้องถูกทำลายทิ้ง หลังจากสถานการณ์ของโรงไฟฟ้ายังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น นับจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิมาเมื่อเกือบ 3 สัปดาห์แล้ว
    ทั้งนี้ ระบบหล่อเย็นถูกทำลาย เกิดการระเบิดทำให้อาคารเตาปฏิกรณ์เสียหาย โดยมีสารกัมมันตรังสีรั่วไหลออกมา ขณะที่แท่งเชื้อเพลิงนิวเคลียร์บางส่วนอาจหลอมละลาย ซึ่งอาจทำให้ต้องพิจารณาทบทวนโครงการที่จะเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์อีก อย่างน้อย 14 เตาภายในปี 2573 ด้วย
    ส่วนเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นตรวจพบสารกัมมันตรังสีสูงกว่าระดับปกติกว่า 4,000 เท่า ในทะเลรอบโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ ซึ่งเป็นปริมาณรีงสีที่มากจนน่าวิตก
    ด้านเอ็นเอชเค รายงานว่า นับจนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิถล่มทางตะวันออก เฉียงเหนือของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเป็น 11,417 คนแล้ว

    เรียบเรียงข่าวโดยMthainews
    <LI class=news_src_item>[​IMG]<LI class=news_src_item>[​IMG]นํ้าท่วมภาคใต้

    ภาพความเสียหายจากอุทกภัยในจังหวัดภาคใต้
    31 มี.ค. บรรยากาศในหลายจังหวัดของภาคใต้ที่ต้องเจอกับภัยพิบัตินํ้าท่วม ดินถล่ม จนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งทรัพย์สินและชีวิตเป็นจำนวนมาก

    โดยMthainews

    [​IMG]นํ้าท่วมภาคใต้

    [​IMG]นํ้าท่วมภาคใต้



    [​IMG]นํ้าท่วมภาคใต้

    [​IMG]นํ้าท่วมภาคใต้

    [​IMG]นํ้าท่วมภาคใต้

    [​IMG]นํ้าท่วมภาคใต้

    [​IMG]นํ้าท่วมภาคใต้



    [​IMG]นํ้าท่วมภาคใต้

    [​IMG]นํ้าท่วมภาคใต้

    [​IMG]นํ้าท่วมภาคใต้

    [​IMG]นํ้าท่วมภาคใต้

    [​IMG]นํ้าท่วมภาคใต้

    [​IMG]นํ้าท่วมภาคใต้

    [​IMG]นํ้าท่วมภาคใต้

    [​IMG]นํ้าท่วมภาคใต้

    [​IMG]นํ้าท่วมภาคใต้

    [​IMG]นํ้าท่วมภาคใต้



    [​IMG]นํ้าท่วมภาคใต้

    ขอบคุณภาพประกอบจาก
    Flickr: thaigov's Photostream
    Breaking News, Current Events, Latest News and World Events at allvoices.com
    facebook Shaiwat
    ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
    [​IMG] รวมบัญชีช่วยเหลือ นํ้าท่วมภาคใต้
    <SMALL></SMALL>ช่องทางการส่งความช่วยเหลือพี่น้องที่ประสบอุทกภัยในภาคใต้
    <LI class=news_src_item>[​IMG]<LI class=news_src_item>
     
  5. Nat_usp

    Nat_usp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    676
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,394
    กำลังหาอยู่พอดี ขอบคุณมากๆครับ ส่งไปแล้วด้วยครับ ^_^
     
  6. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    ไม่ว่ากันครับ
    สรุปเอาเป็นว่า"หลวงปู่เทพโลกอุดร" เป็นพระผู้อยู่เหนือโลก
     
  7. โชตนา

    โชตนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +773
    กรุณาฝาก sms เตือนด้วยนะคะ ต้องรับ sms ข่าว ช่อง 9 หรือ inn เพิ่มอีกดี ใครเคยใช้แบบไหนบ้างล่ะ
     
  8. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]ดินถล่ม เขาพนม

    ภาพความเสียหายจากเหตุการณ์ดินถล่มในพื้นที่ อำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่
    1 เม.ย. ความเสียหายเหตุการณ์ดินถล่มในพื้นที่ อ.เขาพนม จ.กระบี่ เป็นเหตุให้ประชาชนบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก บ้านเรือนและพื้นที่เกษตรถูกกระแสน้ำและดินโคลนพัดจนพังเสียหายหมด
    สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ใน หมู่7 และหมู่6 ที่เป็นพื้นที่ประสบภัย ต้องอพยพมาอาศัยวัดถ้ำโกบ บ้านถ้ำโกบ อ.เขาพนม จ.กระบี่ โดยคณะแพทย์จากจังหวัดภูเก็ตได้เดินทางมาช่วยดูแลผู้ประสบภัยที่ได้รับบาดเจ็บ
    ทั้งนี้ นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุดินถล่ม อ.เขาพนมนั้นมีจำนวน 5 คน ส่วนยอดผู้สูญหายประมาณ 7 คน โดยมีด้รับความเดือดร้อนไร้ที่อยู่ 7 ครอบครัว ซึ่งฃผู้ว่าฯได้เร่งจัดหาที่อยู่อาศัย เพื่อให้ความช่วยเหลือได้เบื้องต้นแล้ว

    เรียบเรียงข่าวโดยMthainews

    [​IMG]ดินถล่ม เขาพนม

    [​IMG]ดินถล่ม เขาพนม



    [​IMG]ดินถล่ม เขาพนม



    [​IMG]ดินถล่ม เขาพนม

    [​IMG]ดินถล่ม เขาพนม

    [​IMG]ดินถล่ม เขาพนม


    <LI class=news_src_item>[​IMG]
     
  9. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    อย่ากังวลใจกับสภาวะสงครามใหญ่ และอุทกภัยที่จักเกิดขึ้นในปลาย<wbr>ปีนี้ ให้ตั้งจิตมั่นคงในศีล-สมาธิ-ปั<wbr>ญญา ชำระกิเลสในขณะนี้ให้ลดน้อยหรือ<wbr>สิ้นยังจักดีกว่า เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องของอนา<wbr>คต ชีวิตของพวกเจ้าเองก็ยังไม่เที่<wbr>ยง มันอาจจักตายลงไปในขณะจิตนี้ก็ไ<wbr>ด้

    เรื่องสงครามหลังกึ่งพุทธกาลนั้<wbr>นมีแน่ ทุกอย่างเป็นไปตามพุทธพยากรณ์ขอ<wbr>งองค์สมเด็จปัจจุบัน แต่จิตไม่ควรจักตื่นตกใจให้มากเกิน<wbr>ไป ให้ปลงเสียว่า ถ้ากฎของกรรมมีอยู่ ให้ชีวิตของร่างกายจักต้องทรงอย<wbr>ู่ และมีอันจักต้องประสบเหตุการณ์เ<wbr>ช่นนั้น

    ภัยอย่างนี้เลี่ยงไม่ได้ เราพึงเตรียมจิตเตรียมใจรับสภาว<wbr>ะกฎของกรรมอย่างไรดี จุดนี้ต่างหากที่พึงจักสนใจ เมื่อภัยพิบัติมาถึงเข้าจริง ๆ ในเวลานั้น ถ้าหากกฎของกรรมมีอันทำให้ถึงตา<wbr>ย ก็พึงเตรียมจิตเตรียมใจทิ้งขันธ<wbr>์ ๕ เพื่อเข้าสู่พระนิพพานอย่างเดีย<wbr>ว อะไรจักเกิดมันก็ต้องเกิด อย่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงเสียอย่า<wbr>งเดียว ตัวสติก็คุมจิตให้มีสัมปชัญญะได<wbr>้

    เรื่องหนีไม่จำต้องหนีไปไหน เพราะภัยที่จักเกิดขึ้นกับผู้ใด<wbr> ไปที่ไหนก็หนีไม่พ้นภัยนั้น ๆ ยกเว้นเสียจากผู้ที่ทำจิตได้เข้<wbr>าสู่พระนิพพานแล้ว ภัยทั้งหลายเหล่าใดก็เข้าถึงผู้<wbr>นั้นมิได้

    เพราะฉะนั้นผู้ที่มีชีวิตอยู่ใน<wbr>กึ่งพุทธันดรนี้ จึงพึงเป็นผู้ไม่ประมาทอย่างยิ่<wbr>ง ควรเร่งรัดในศีล-สมาธิ-ปัญญา ให้ตั้งมั่นอยู่ในจิต แล้วชีวิตจักรอดพ้นจากความตาย หากโชคดีละขันธ์ ๕ ได้ ก็ถึงซึ่งพระนิพานพ้นทุกข์ก่อนไ<wbr>ด้เห็นภัยพิบัติอีกยิ่งดี

    คำสอนสมเด็จองค์ปฐม

    ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น (พระธรรม เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๔๐)
    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    รวบรวมโดย พล.ต.ท.น.พ.สมศักดิ์ สืบสงวน


    [​IMG]
     
  10. A+O

    A+O เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2007
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +120
    วัดเขาคิชกูฎก็ปิดแล้วเหมือนกัน


    [VDO]AP91YFo-rrs&feature=youtu.be[/VDO]
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ระบาดในเวเนซุเอลา

    [​IMG]


    เวเนซุเอลา 1 เม.ย. - ชาวเวเนซุเอลาจำนวนมากพากันเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    ตามศูนย์สุขภาพหลายแห่งในเวเนซุเอลา คลาคล่ำไปด้วยผู้คนจำนวนมากที่พากันมารอรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ ล่าสุดยอดผู้ติดเชื้อที่ยืนยันได้อยู่ที่ 586 คนแล้ว โดยพบการระบาดใน 19 รัฐ จากทั้งหมด 24 รัฐ

    ทางการรายงานด้วยว่า นับแต่เริ่มพบการแพร่ระบาดในรอบนี้ เมื่อวันที่ 17 มีนาคมมี ผู้เสียชีวิตแล้ว 2 คน รัฐบาลเวเนซุเอลาระบุว่ามีวัคซีนอยู่กว่า 1 ล้านชุด สำหรับฉีดให้ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ เด็ก และบุคลากรทางการแพทย์

    เวเนซุเอลาเคยเผชิญกับการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่มาแล้ว เมื่อปี 2552 ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน.-สำนักข่าวไทย

    วันศุกร์ ที่ 1 เม.ย. 2554

    พบสารกัมมันตรังสีในน้ำบาดาลที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ

    [​IMG]

    โตเกียว 1 เม.ย. – บรรษัทกระจายเสียงของญี่ปุ่น หรือเอ็นเอชเค รายงานอ้างบริษัทโตเกียว อิเลคทริค พาวเวอร์ หรือเทปโก ว่า ตรวจพบสารกัมมันตรังสีในน้ำบาดาลที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ ไดอิจิ ของญี่ปุ่น

    เทปโก ผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ ตรวจสอบการปนเปื้อนในน้ำบาดาลตามคำแนะนำของคณะกรรมาธิการความปลอดภัยนิวเคลียร์ของญี่ปุ่น โดยพบการปนเปื้อนในน้ำบาดาลบริเวณใกล้ที่ตั้งของอาคารกังหันผลิตไฟฟ้าของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 5 เตา จากทั้งหมด 6 เตา แต่เตาปฏิกรณ์หมายเลข 4 ยังไม่ได้รับการตรวจสอบ เพราะซากอาคารปิดขวางทางเข้าออก เทปโก เปิดเผยว่า สารกัมมันตรังสีที่ฟุ้งกระจายในอากาศ อาจค่อย ๆ แทรกซึมลงในชั้นดินโดยปนเปื้อนในน้ำฝนและน้ำที่มีการระดมฉีดพ่นเพื่อลดความร้อนของเตาปฏิกรณ์ ทั้งนี้ เทปโกจะวิเคราะห์ข้อมูลน้ำบาดาลเพิ่มเติมและจะเปิดเผยผลสรุปอีกครั้งในบ่ายวันนี้

    ด้าน นายยูกิโอะ เอดาโนะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยเช้าวันนี้ว่า รัฐบาลจะคุมเข้มการตรวจสอบน้ำทะเลและพื้นที่ใกล้เคียง.- สำนักข่าวไทย

    วันศุกร์ ที่ 1 เม.ย. 2554

    กรุงมอสโกตรวจพบอนุภาคกัมมันตรังสีจากญี่ปุ่น

    [​IMG]

    มอสโก 1 เม.ย.- รัสเซียตรวจพบกัมมันตภาพรังสีจากเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ได้รับความเสียหายของญี่ปุ่น ในบรรยากาศรอบกรุงมอสโก นครหลวงของประเทศ

    นายโอเลก โพลสกี รองผู้อำนวยการบริษัทเรดอน ซึ่งตั้งขึ้นในกรุงมอสโก เพื่อตรวจสอบกัมมันตภาพรังสีและกำจัดกากนิวเคลียร์ในพื้นที่ภาคกลางของรัสเซีย กล่าวว่าได้ตรวจพบร่องรอยของไอโซโทปไอโอดีนและสตรอนเทียม ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว แต่มีปริมาณเล็กน้อยและไม่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพร่างกาย

    สารกัมมันตรังสีที่พบ นอกจากสองชนิดดังกล่าว ยังประกอบด้วยซีเซียม-134 ซีเซียม-137 และเทลลูเลียม -132 ทั้งหมดได้รับการยืนยันว่าเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในญี่ปุ่น แต่ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์.- สำนักข่าวไทย

    วันศุกร์ ที่ 1 เม.ย. 2554

    ที่มา http://www.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** หมดเวลา ****

    หนทางรอดพ้น เป็นเรื่องเฉพาะคน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เรื่องเล่าจากนาเกลือสมุทร
    เครื่องปรุงรสแห่งชีวิต วิถีแห่งภูมิปัญญาบนความเค็ม โดย อาจารย์ปริศนา เพียรจริง

    [​IMG]

    “จงรักษาความดี ดุจเกลือรักษาความเค็ม” เป็นคำสุภาษิตที่คนไทยใช้เพื่อสอนลูกหลานให้รู้จักทำความดีอย่างสม่ำเสมอ เสมอต้นเสมอปลายดุจดัง เกลือ ที่ไม่ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด อยู่แห่งหนไหน ก็จะรักษาความเค็มเอาไว้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย เพราะเกลือก็คือเกลือ เป็นเครื่องชูรสเค็มอยู่คู่มนุษยชาติมาช้านาน

    เกลือ สารเคมีอัศจรรย์ พบได้ในธรรมชาติมากมาย เจือปนในน้ำทะเลมหาศาลเหลือคณานับ และอยู่ตามดิน หินใต้พื้นปฐพี ซ่อนเร้นความยิ่งใหญ่ใต้ชั้นดิน รอวันถูกขุดค้นมาใช้ประโยชน์

    ประวัติศาสตร์มนุษยชาติ ประวัติเกลือ

    เกลือมีประวัติศาสตร์ยาวนานดังเช่นกับประวัติศาสตร์มนุษย์ มนุษย์รู้จักทำเกลือมาตั้งแต่สมัย นิโอลิทิค (Neolithic) หรือ สมัยตั้งถิ่นฐานทำเกษตรกรรมอยู่กับที่ ประมาณ 10,000 ปี ก่อนคริสต์ศักราช แต่การใช้เกลือจากธรรมชาติมีมาก่อนหน้านี้หลายพันปี หลักฐานทางโบราณคดีแสดงว่าคนรู้แหล่งเกลือสินเธาว์ โดยสังเกตจุดดินโป่งที่สัตว์ชอบเลียเอาความเค็ม

    ในอดีต เกลือ เป็นสิ่งที่มีค่ามาก เพราะเกลือเป็นสิ่งหายากในสังคมมนุษย์ เนื่องจากแหล่งผลิตเกลือมีน้อย ปริมาณการผลิตไม่มากนัก ดังนั้น ผู้คนในโลกจำต้องแสวงหาเกลือมาบริโภค เพราะเกลือเป็นเครื่องปรุงรสโบราณที่ทุกบ้านเรือนต้องใช้ เกลือจึงกลายเป็นสิ่งของที่ผู้คนนำไปแลกเปลี่ยนเอาสินค้าอย่างอื่น จนอาจกล่าวได้ว่าเกลือเป็นสินค้าชิ้นแรกที่มนุษย์มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนกัน นอกจากนี้คนยังใช้เกลือเป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยน ดังเช่น เมื่อครั้ง มาร์โคโปโลไปเยือนจีน

    เขาพบว่า ในเขตทิเบต ประชาชนใช้ก้อนเกลือเป็นเงินตราสื่อกลางแลกเปลี่ยน ทำนองเดียวกันในอินเดียโบราณเกลือถูกใช้เป็นสื่อการค้าขายและแลกเปลี่ยน โดยเฉพาะระหว่างชาวเมือง และชาวภูที่ไม่มีเกลือใช้เอง ในสมัยโรมันเกลือถูกใช้เป็นค่าตอบแทนทหาร ต่อมาเป็นรากศัพท์ภาษาอังกฤษ “ salary” แปลว่า เงินเดือน ซึ่งมาจากคำภาษาละตินว่า “salarium” อันมีความหมายถึงการแลกเปลี่ยนโดยใช้เกลือเป็นสื่อกลาง แม้ในปัจจุบันสำนวนภาษาอังกฤษที่ว่า “ not worth their salt” เปรียบเปรยถึง คนที่ทำงานบกพร่อง จนไม่คุ้มค่าเกลือ

    ความที่เกลือมีบทบาทอย่างมากในอดีต เมืองหลาย ๆ เมืองที่ผลิตเกลือ หรือเป็นศูนย์กลางการค้าเกลือ จึงมักมีชื่อขึ้นต้นหรือ ลงท้ายด้วยคำว่าเกลือ เมืองสำคัญในอดีตหลาย ๆ เมืองจึงมักขึ้นต้นด้วยคำกรีกโบราณ อันมีความหมายว่า เกลือ คือ “Hal” หรือ “Sal” อาทิ Halle Hallein Reichenhall,Salies,La Salle, Salcott นอกจากนั้น ชื่อเมืองที่ลงท้ายด้วยคำว่า wich เช่น Norwich Middlewich Droitwich Greenwich,Sandwich ล้วนเป็นเมืองที่มีแหล่งทำเกลือมาก่อน ซึ่งคำว่า wich เป็นภาษา แองโกลแซกซัน แปลว่า “ถิ่นที่มีเกลือ”

    เพราะความเค็มของเกลือ มีความดีหลายประการ ซึ่งนอกจากจะให้รสชาติที่เป็น อมตะคุ้นลิ้นมนุษย์มาช้านานแล้ว เกลือ ยังช่วยถนอมอาหารให้เก็บไว้กินได้นาน จากที่ในอดีต ไม่มีระบบการแช่เย็น หรือ การแปรรูปอาหารที่ทันสมัยเช่นทุกวันนี้ อาหารสดเก็บไว้ได้ไม่นาน มนุษย์จึงนำเกลือมาใส่ในอาหารหลายประเภทเพื่อถนอมอาหารให้สามารถรับประทานได้แม้จะเก็บไว้นาน นับปี เกลือมีบทบาทมากที่สุดในการนำมาถนอมอาหารโดยเฉพาะการ ดองเค็ม หรือ การหมัก

    อุตสาหกรรมอาหารแห้ง เนื้อสัตว์เค็ม และ เครื่องปรุงรสเค็ม จึงถูกผลิตออกมาตามแต่วัฒนธรรม และวัตถุดิบของแต่ละท้องถิ่น เช่น หากเมืองใดในอดีตเป็นแหล่งค้าเกลือ ก็มักจะมีอุตสาหกรรมปลาเค็ม เนื้อเค็ม และ อาหารแห้งอื่น ๆ มากมาย ดังเช่น ในคริสต์ศตวรรษที่ 15 การประมงจับปลาคอด (Cod) ในแถบทะเลนิวฟาวด์แลนด์ ทางยุโรปตอนเหนือ เป็นกิจการที่ขึ้นหน้าขึ้นตามาก ทั้งนี้เพราะปลาคอดที่จับได้จากเรือประมงที่ทำประมงในแถบนี้จะถูกดองเค็มบนเรือ หลังจากนำขึ้นจากทะเล และเมื่อกลับถึงฝั่งปลาคอดจะเค็มและแห้งได้ที่ กลายเป็นอาหารขึ้นชื่อในสมัยนั้น

    ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นแหล่งทำนาเกลือที่สำคัญของโลกเช่นกัน เนื่องจากมีเมืองชายทะเลหลายแห่ง ต้นศตวรรษที่ 16 เมืองท่าต่าง ๆ ทางชายฝั่งตะวันออกของเกาะชวา เป็นแหล่งผลิต และ ค้าขายเกลือทะเลกับดินแดนอื่นๆ ส่วนประเทศไทยนั้น เป็นเมืองผลิตเกลือและค้าเกลือเช่นเดียวกัน ในอดีต มีการทำนาเกลือตามฝั่งทะเลอ่าวไทยหลายเมือง เช่น เมืองสมุทรปราการ เมืองชลบุรี เมืองสมุทรสาคร เมืองสมุทรสงคราม และ เมืองเพชรบุรี โดยเฉพาะเมืองเพชรบุรีนั้น ว่ากันว่าเป็นแหล่งผลิตเกลือที่สำคัญ เป็นแหล่งป้อนเกลือสู่ตลาดในเมืองสยาม และ แหลมมาลายู

    และเพราะความที่เมืองไทยมีเกลือสมุทรอยู่หลากหลาย อาหารแห้ง อาหารหมักดองจากเกลือ จึงเป็นสินค้าที่มีการค้าขายแลกเปลี่ยน ควบคู่กันไปด้วย ประกอบกับเมืองไทยในอดีตอุดมสมบูรณ์ ชุกชุมด้วยปลานานาพันธุ์ ปลาแห้ง ปลาเค็ม จึงเป็นสินค้าส่งออกไปขายต่างประเทศ ซึ่งได้แก่ ปลาช่อน ปลาสลิด ปลาทู ปลากุเลา ปลาอินทรี ฯลฯ

    การที่เมืองไทยมีเกลือเหลือเฟือ ทำให้เกลือราคาถูก ดังนั้นจึงได้มีการนำเกลือมาฟอกหนังวัว หนังควาย ที่ล่ามาได้ และ นำไปขายต่างประเทศ

    นอกจากอาหารแห้งจากปลา และ สัตว์อื่น ๆ เกลือ ยังมีบทบาทในการทำเครื่องปรุงรสของคนในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ และ เอเชียตะวันออก เครื่องปรุงรสที่รู้จักกันดีคือ น้ำปลา ซึ่งได้จากการหมักปลา กับเกลือ ซีอิ้ว คือ การหมักถั่วเหลืองกับเกลือ นอกจากนี้ เครื่องปรุงรสตามท้องถิ่น เช่น ปลาร้า กะปิ น้ำบูดู น้ำปู๋ ต้องใช้เกลือเพื่อหมักทั้งสิ้น

    ความที่เกลือเป็นของหายากในอดีต เกลือ จึงกลายเป็น เหตุให้เกิด เหตุการณ์ต่าง ๆในประวัติศาสตร์มากมาย เช่น เกลือเป็นชนวนให้เกิด การต่อสู้ทางการเมือง ระหว่างภาครัฐ มีการผูกขาดการการผลิตเกลือโดยคนกลุ่มชนชั้นสูงในสังคม เช่น ในอียิปต์ โบราณ ฟาโรห์ เป็นผู้ผูกขาดเกลือ ในจีนสมัยราชวงศ์ถัง รัฐบาลผูกขาดการผลิต และ ขาย ส่วนในอินเดียโบราณ เกลือถูกเก็บภาษีซ้ำซ้อน ระหว่าง ผู้ผลิต และ ผู้ซื้อเกลือ

    มีเรื่องเล่า จากคนไทยในภาคใต้ว่า ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อ่าวไทยตอนบน ได้รับผลกระทบจากสงคราม การปิดอ่าวจากกองทัพญี่ปุ่น ทำให้เกลือซึ่งจะผลิตกันมากแถบอ่าวไทยตอนบน ไม่สามารถส่งไปยังทางใต้ได้ เกลือจึงขาดแคลนมาก ชาวบ้านในแถบ สงขลา ปัตตานี ต้องเผาก้านต้นจาก เพื่อให้เป็นเถ้า และ นำมากินแทนเกลือ เนื่องจากรู้กันโดยภูมิปัญญาว่า ต้นจาก สะสมเกลือไว้ที่ก้านใบ

    ความหมาย และ ความเชื่อเกี่ยวกับเกลือ

    ความผูกพันของเกลือกับชีวิตมนุษย์ที่มีมาอย่างช้านาน ทำให้เกลือเข้าสู่วิถีชีวิต วัฒนธรรม ความเชื่อ ได้อย่างน่าอัศจรรย์

    พระเยซู เปรียบสาวกของพระองค์เป็น “เกลือของโลก” หรือ “the salt of the earth” อันมีนัยว่า คนเหล่านี้แม้จะน้อย แต่จำเป็นมากสำหรับการประกาศศาสนา

    ชาวญี่ปุ่น มีความเชื่อว่าเกลือเป็นสิ่งบริสุทธิ์ เป็นธรรมชาติ สะอาด จึงนำเกลือไปขับไล่วิ่งอัปมงคล โดยการโรยเกลือลงไปในที่ต่าง ๆ เช่น นักกีฬาซูโม่ จะโรยเกลือลงบนสนามแข่งเพื่อขับไล่สิ่งไม่เป็นมงคล ก่อนการแข่งขัน

    ฝรั่งมีความเชื่อว่า หากใครทำเกลือหกบนโต๊ะอาหาร ถือว่าเป็นโชคร้าย ต้องแก้เคล็ดโดยโรยเกลือที่ไหล่ซ้ายของผู้นั้น ในยุโรปสมัยก่อนเกลือเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพและไมตรีจิต เมื่อเชิญแขกมารับประทานอาหารที่บ้าน กระปุกเกลืออันเป็นของสวยงาม ขาดไม่ได้เลยบนโต๊ะอาหาร ในหลายวัฒนธรรม หากได้กินเกลือและขนมปังด้วยกันก็ถือเป็นเพื่อนกัน ไม่ประสงค์ร้ายต่อกัน ฝรั่งถือว่าของสำคัญอย่างเลือดและเกลือต้องอยู่ในที่ของมัน เลือดต้องอยู่ในที่ของมัน เกลือก็ต้องอยู่ในกระปุก ดังนั้นจึงถือว่าการทำเกลือหกเป็นโชคร้าย

    คนไทยมีความเชื่อเกี่ยวกับเกลือมากมาย สำนวน ต่างๆในภาษาไทย มีความเกี่ยวข้องกับเกลือไม่น้อย เช่น คำว่า “ใกล้เกลือกินด่าง” มีความหมายว่า “อะไรที่อยู่ใกล้กว่า และ ดีกว่าไม่ถือเอา ไปถือเอาที่เลวต่ำกว่า” สำนวนที่ว่า “กัดเกลือกิน” หรือ “กัดก้อนเกลือกิน” แสดงให้เห็นถึงความขัดสนของสภาพเศรษฐกิจขณะนั้น ซึ่งจำต้องกินเกลือ ที่ให้รสชาติอาหารได้อร่อย แม้ยามขัดสนปัจจัยในการหุงหา ในบางกรณี คนไทยมักจะเปรียบเปรยคนตระหนี่ ถี่เหนียว ว่า เป็นคนเค็ม ซึ่งหมายถึง เป็นคนขี้เหนียวไม่ค่อยใช้จ่ายตามสมควร

    นอกจากนี้ ภาษิตโบราณใช้เกลือไว้สอนคนมีมากมายในสังคมไทย เช่น เกลือเป็นหนอน ,เกลือจิ้มเกลือ , อย่าเอาพิมเสนแลกกับเกลือ, ต่อเมื่อแกงจืดจึงรู้คุณเกลือ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าเกลือแทรกซึมอยู่ในวิญญาณคนไทย แม้เกลือจะด้อยค่ากว่าเพชร แต่ลึกลงไปเกลือเป็นสิ่งดี เป็นสัญลักษณ์ของความดีโดยธรรมชาติ

    อย่างไรก็ตาม เกลือไม่ใช่จะมีนัยในทางดีเท่านั้น แต่เกลือมีบทบาทต่อความเชื่อทางไสย ของคนไทย เช่น การนำพลังอำนาจบริสุทธิ์ของเกลือไปใช้ไล่สิ่งชั่วร้ายดังเช่น ชาวอาทิตย์อุทัย หรือ นำไปเป็นเครื่องสาปแช่ง โดยการ”เผาพริก เผาเกลือ”

    นาเกลือไทย...ชีวิตแห่งท้องทุ่งชายทะเล

    คนไทยรู้จักวิธีการจะดึงเกลือจากธรรมชาติมาใช้ประโยชน์เนิ่นนานตั้งแต่บรรพบุรุษ อย่างเช่น เกลือสมุทร จากน้ำทะเลนั้น ต้องใช้ความอุสาหะอย่างมากเพื่อรอให้ผลึกสีขาวของเกลือ ตกผลึกจากที่นาและเก็บเกี่ยวมาขาย แต่ปัจจุบัน คนไทยลืมกันไปหมดแล้วว่า เกลือจากนาเกลือสมุทร เคยยิ่งใหญ่เมื่อใดอดีตอย่างไร ไม่มีใครสนใจว่าเกลือที่กินในครัว

    นาเกลือ หยาดเหงื่อ และ แรงงาน ที่ถูกลืม

    ทุกวันนี้เกลือมีราคาค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับสรรพคุณที่ใช้ประโยชน์ได้ ราคาขายถุงละ 1 – 2 บาท หรือ ตกเกวียนละ 800 – 1000 บาท และกว่าจะใช้หมดกินเวลานาน พ่อค้า แม่ค้าเกลืออาจต้องเร่ขายเกลือนานซักหน่อยกว่าจะได้กำไร

    เกลือสมุทรที่คนไทยบริโภคกันนี้ทำจากการทำนาเกลือ ในเมืองแถบชายทะเล โดยอาศัยเพียงสายลม แสงแดดช่วย อาจมีเครื่องจักรบ้างในบางขั้นตอน ซึ่งกว่าจะได้เกลือมา นั้นต้องใช้แรงงานคน ทำงานท่ามกลางแสงแดดอันร้อนระอุ เพื่อเกลือคุณภาพดีที่สุด

    กว่า นาเกลือจะได้เกลือออกมาต้องใช้พื้นที่กว่า 40 ไร่ เพื่อเก็บเกี่ยวเกลือ เพียง 2 ไร่ ใน 40 ไร่ แบ่งออกเป็น “วัง” ซึ่งหมายถึง ที่นากักน้ำทะเล ก่อนจะระบายเข้านาชนิดอื่น

    การนำน้ำเข้าวังนั้น อาจใช้กังหันวิดน้ำจากคลองส่งน้ำขนาดเล็กที่ส่งน้ำตรงจากทะเลเรื่อยมาจนถึงนาเกลือด้านในสุด ในอดีต ชาวนาเกลือ มักใช้กังหันลมเพื่ออาศัยพลังงานจากลมวิดน้ำเข้านา แต่ปัจจุบันกังหันหมดความสำคัญลงไป

    ที่มา http://www.watcharina.com/board/index.php?topic=516.0
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    การเตรียมการอพยพมนุษย์โลก เพื่อช่วยเหลือระหว่างการชำระโลก ของมิตรจากต่างพิภพ

    [​IMG]</O>

    คำบรรยายภาพ:

    ชาวจักรวาลได้มีการเตรียมการอพยพชาวโลกมาอย่างต่อเนื่อง ในกรณีที่อาจจะมีกระบวนการที่ซับซ้อนในการชำระโลกเกิดขึ้น การอพยพสัตว์ต่างๆ ได้เริ่มดำเนินการอย่างต่อเนื่องไปบ้างแล้ว เพื่อให้เสร็จสิ้นในเวลาไม่กี่ปี

    ท่านได้ถามเราใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้ ท่านรู้แล้วนี่ที่มีผู้เขียนไว้ว่า “ลูกไฟจะตกจากฟากฟ้า” นั่นแหละคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นตอนนั้น ชั้นบรรยากาศของโลกจะถูกเผาไหม้ เพราะที่นั่นเต็มไปด้วยเมฆสีดำของความคิดด้านลบที่พวกท่านสร้างขึ้นมา

    แกนของโลกจะถูกกลับด้าน และแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงจะทำให้แผ่นทวีปต่างๆเคลื่อนตัว ไฟจะเผาไหม้กระแสพลังความคิดด้านลบทั้งหลายให้หมดไป และเมื่อนั้นโลกก็จะสามารถเข้าสู่ยุกต์ของมิติที่สูงขึ้นได้

    ชาวโลกที่ถูกช่วยชีวิตจะถูกย้ายให้ไปอยู่ดาวเคราะห์ดวงอื่น ที่ถูกเตรียมไว้ แล้วเป็นการชั่วคราว ซึ่งที่นั่นชาวโลกจะถูกสอน จากนั้นพวกเขาก็จะถูกพากลับลงมาอยู่บนโลกอีกครั้งหนึ่ง จิตวิญญาณของพระคริสต์จะนำพาพวกเขาลงมาสู่โลกยุกต์ใหม่แห่งดาว Aquarius

    เราขออวยพรให้แก่ท่านทุกคน<O></O>
    Ashtar Sheran


    ข้อความจาก โรเบิร์ต์จี บาร์บาเรีย

    [​IMG]

    หลังจากได้มีประสบการณ์ ครั้งแรกกับพระเจ้าในปี 1997, ข้าพเจ้าได้พูดกับพระเจ้าทุกวัน และการสนทนาของพวกเรานั้น พระเจ้าได้เตือนข้าพเจ้าในความทรงจำเกี่ยวกับ เหตุการณ์การรอคอย การถูกรับไปกลางอากาศจะเกิดขึ้นในไม่ช้า

    หมายสำคัญ เกือบทั้งหมดได้เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว เกี่ยวกับยุคสุดท้าย ในพระคำภีร์ไบเบิ้ลได้บันทึกไว้ ดังนั้นมีคำถามเกิดขึ้นว่า เป็นวันและ เวลาไหน ที่จะมีการถูกรับไปกลางอากาศจะมาถึง เพราะว่าแน่นอนที่สุดว่าไกล้เข้ามา จนถึงกับกำลังเคาะประตู

    พระเจ้าได้บอกข้าพเจ้าเกี่ยวกับจำนวน ของคนที่ได้ถูกรับไปในกลางอากาศ รอบแรก ซึ่งการถูกรับไปกลางอากาศ สมาชิกในโบสถ์ มีจำนวนน้อยมาก(อยู่นอกโบสถ์จะถูกรับไปมากกว่า) และพระคำภีร์ไบเบิ้ลได้เรียกว่า เจ้าสาวของพระคริสต์ ซึ่งประกอบด้วย ผู้ใหญ่ เพียง 800,000 คน และเด็ก(ต่ำกว่ายี่สิบ) 9,600,000 คน เมื่อรวมเปรียบเทียบ 10,400,000 คน( 800,000 + 9,600,000 = 10,400,000 ) กับจำนวนผู้คนในโลกทั้งหมดมากกว่า 6,000,000,000 คน ซึ่งจำนวนนี้เป็นแสดงให้เห็นว่า น้อยกว่าหนึ่งในสิบ ของหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของประชากรโลก

    สำหรับจำนวนประชากรที่เหลือในโลก ยังคงหลงอยู่ภายในโลก ที่ต้องเข้าสู่ 21 เดือน ของการทุกข์ยากลำบากในโลก( Great Tribulation ) ขณะที่รอคอยรอบสอง ของการถูกรับไปกลางอากาศ (จะมาถึง) ซึ่งเรียกว่าการถูกรับไปกลางอากาศกับธรรมมิกชนผู้บริสุทธิ์(ไม่มีมลทินใดๆ) 144,000 คน ร่วมกับ 389,600,000 คน

    ในพระคำไบเบิ้ล เรียกว่า แขกรับเชิญมางานเลี้ยง(ที่ถูกเลือก) นี้คือคนทั้งหมดที่จะถูกรับไปจากโลก ขณะมีชีวิตอยู่ ผู้ซึ่งที่ได้เข้าอาณาจักรสวรรค์ หลังจากที่ มิลลิเนียม (หนึ่งพันปีได้เสร็จสิ้น ) ดังนั้นตรงกันข้ามกับสิ่งที่ได้สอนจากที่โบสถ์ เพราะผู้คนที่ได้เข้าสวรรค์ ท่ามกลางคนที่มีชีวิตอยู่ในระหว่างยุคสุดท้าย ประมาณ 400,000,000 คน จากประชากรโลกมากกว่าขณะนี้ 6,000,000,000 คน

    ผู้ที่เหลืออยู่บนโลก หลังจากไม่การถูกรับไปกลางอากาศรอบสอง กับธรรมิกชนที่ไร้มลทิน ประมาณ 2,000,000,000, หนึ่งในสามของประชากรโลก รอการฟื้นคืนชีพ จากความตายและมีชีวิตอีกครั้ง และพระเยซูคริสต์จะได้ปกครองในระหว่างหนึ่งพันปี สวรรค์บนโลกซึ่งเรียกว่า มิลลิเนียม คนเหล่านี้ เรียกจากพระคำภีร์ไบเบิ้ลว่า ผู้ที่วิญญาณถูกตัดหัว และพวกเขาไม่ได้เข้าสวรรค์ หลังจากหนึ่งพันปี ที่ผ่านไปเรียบร้อยแล้ว แต่พวกเขาจะกลายเป็นผงคลีดิน

    ในโลก ผู้คนเหล่านี้ที่ถูกตัดหัว เพราะปฎิเสธการรับ เครื่องหมายของสัตว์ร้าย (หก - หก - หก ( 666 ) ที่มือขวา และที่หน้าฝาก) ที่จะมีชีวิต และได้ร่วมเห็นการปกครองของพระเยซูคริสต์ 1,000 ปี ซึ่งเป็นรางวัลที่เขาไม่ได้ปฎิเสธพระนามของพระเจ้าจึงได้ถูกฆ่า และเห็นการปรากฏของพระเยซูคริสต์ (เสด็จมากลางอากาศที่ทุกคนเห็นว่าเป็นพระเจ้า)

    และหนังสือ 3 เล่ม ที่ข้าพเจ้าได้เขียน สำหรับพระเจ้า คือกุญแจของพวกท่านที่จะไม่พลาดการถูกรับกลางอากาศ เพราะหนังสื่อสามเล่มเป็นการช่วยเหลือ ที่ท่านสามารถจะได้รับ น้ำแห่งชีวิต ซึ่งประกอบด้วยพระคำของเจ้า ซึ่งเป็นน้ำแห่งชีวิต จำเป็นสำหรับ การบัพติสมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์ ของท่านและความรอดด้วยพระคุณ เรียกตามพระเยซูคริสต์ ในพระคำภีร์ไบเบิ้ลว่า คำสัญญาของพระบิดา


    โรเบิร์ต์จี บาร์บาเรีย (ผู้เขียนข้อความ)

    ที่มา http://purifysoul.com
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 เมษายน 2011
  15. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ไปบริจาค และไปแอบดู อาสาดุสิต ทำงานครับ

    อยากช่วยแพ็ค แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไรดี

    เผอิญวิ่งงานนิดหน่อย ด้วยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 001.jpg
      001.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.4 KB
      เปิดดู:
      62
    • 002.jpg
      002.jpg
      ขนาดไฟล์:
      66.8 KB
      เปิดดู:
      59
    • 003.jpg
      003.jpg
      ขนาดไฟล์:
      67.1 KB
      เปิดดู:
      54
    • 004.jpg
      004.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51.1 KB
      เปิดดู:
      56
    • 005.jpg
      005.jpg
      ขนาดไฟล์:
      55 KB
      เปิดดู:
      70
    • 006.jpg
      006.jpg
      ขนาดไฟล์:
      56.8 KB
      เปิดดู:
      62
  16. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================


    1 เม.ย. 54


    ฐานผาแบ่น

    เมื่อคืนหน่วยเหนือมารักษาสุขภาพให้กับผม ผมเลยเรียนท่านไปว่ามีแพทย์
    หญิงท่านหนึ่งมีความประสงค์อยากจะซื้อที่ดินที่ติดกับผมและจะช่วยผมทำงาน
    ที่ฐานฯด้วย ขอให้หน่วยเหนือช่วยเรื่องการซื้อที่ดินด้วย

    ความจริงแพทย์หญิงท่านนี้ได้นัดกับผมผ่านหลานจิ๊บว่าวันอาทิตย์ที่จะถึงจะมา
    หาผมเพื่อพูดคุยกันเรื่องฐานฯ เช้านี้หลานจิ๊บได้โทรฯมาหาผมว่าคุณหมอจะมา
    หาผมในเย็นวันนี้เลย

    เย็นนี้หลานจิ๊บพร้อมแฟนสาวได้พาคุณหมอมาที่บ้าน มารถสองคัน คุณหมอมา
    พร้อมเพื่อนสาวด้วยรถเบ็นซ์ส่วนหลานจิ๊บขับรถกะบะมา คุณหมอเพื่อนสาวและ
    หลานจิ๊บได้กรุณาซื้อนมและน้ำผลไม้มาฝากสามถุงใหญ่เพราะทราบว่าผมป่วยอยู่

    ช่วงที่คุยกันหลานจิ๊บได้ถามผมว่าถ้าผมมีเงินล้านผมจะทำอะไรที่ฐานฯบ้าง?
    ผมก็ตอบว่าผมอยากซื้อแผ่นปูนมาวางให้สำหรับตั้งเต็นท์ก่อนและจะซื้อของจำ
    เป็นอื่นๆ ผมมีความประสงค์อยากจะนำคนมาอยู่หนึ่งพันคน

    สรุปก็คือคุณหมอและเพื่อนสาวจะช่วยกันออกเงินเพื่อที่จะซื้อที่ข้างเคียง(จะขึ้น
    ไปในวันที่ 13 ถึง 15นี้ ผมไปด้วย)ถ้าเจ้าของไม่ขายก็จะซื้อที่ตรงข้ามแทน
    และจะสร้างบ้านเรือนแถวยกพื้นสูงสามเมตร(ตามสัญญาณผมน้ำจะท่วม
    เชียงคานด้วย)มีทีมแพทย์ ยารักษาโรคและอาหารพร้อม

    คงต้องรอให้ผมขึ้นไปพูดคุยกับเจ้าของที่ให้เรียบร้อยแล้วจะทำการสร้างทันที
    นับว่าเป็นข่าวดีสำหรับแนวร่วมฐานผาแบ่นทุกคน




    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน

    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"
     
  17. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    ภาพดาวเทียม เผย รูปร่างที่แท้จริง ของโลก
    Mthai news: หากมองแบบผิวเผินจะเห็นว่า รูปต่อไปนี้คล้ายกับอุกกาบาต โคจรอยู่ในอวกาศ แต่ภาพวัตถุหลากสีนี้ แท้จริงแล้วก็คือโลกของเรา ที่แสดงให้เห็นถึงแรงดึงดูดที่มีผลต่อรูปร่างในพื้นที่ต่างๆ บนโลก
    โดยทีมสำรวจ ดาวเทียมที่ชื่อว่า GOCE เผยแพร่ภาพออกมา โดยระบุว่า เป็นรูปร่างที่แท้จริงของโลก ซึ่งสีเหลืองเป็นพื้นที่ทีมีแรงดึงดูดมากที่สุด ส่วนสีฟ้าคือพื้นที่ที่มีแรงดึงดูดของโลกน้อยที่สุด
    จะเห็นได้ว่า ภาพที่ปรากฎยังไม่มีความแตกต่างที่ชัดเจนของแรงดึงดูดระหว่างพื้นดินกับพื้นทะเล และแรงดึงดูดที่อเมริกาเหนือ ต่ำกว่าทวีปแอฟริกา ข้อมูลที่ได้จะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาระบบมหาสมุทร การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำ และสภาพน้ำแข็งบนผิวโลก อีกทั้งยังทำให้เราเข้าใจถึงสภาพการเปลี่ยนแปลงของภูมิประเทศด้วย
    นอกจากนี้ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการศึกษาว่า ภัยพิบัติต่างๆ นั้นเกิดจากสาเหตุใด และเราจะสามารถทำนายเพื่อวางแผนหาทางป้องกันโดยมีข้อมูลอ้างอิง
    โดย Mthai news
    <EMBED height=349 type=application/x-shockwave-flash width=560 src=http://www.youtube.com/v/Ik8FNwPlf3U?fs=1&hl=th_TH allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true">
    <LI class=news_src_item>[​IMG]
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>[​IMG] ทุกภาคร้อนขึ้น-ใต้ฝนกระจาย </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>อุตุฯ ชี้ความกดอากาศสูงกำลังอ่อน ทั่วประเทศอุณหภูมิสูงขึ้น แต่ใต้ยังมีฝนกระจาย


    วันนี้ (2 เม.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป ว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อน ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกและกรุงเทพมหานคร มีอุณหภูมิสูงขึ้นและอากาศร้อนในตอนกลางวัน สำหรับหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมภาคใต้มีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ภาคใต้มีฝนกระจาย ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลงโดยทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    สำหรับการพยากรณ์อากาศมีดังนี้

    ภาคเหนือ อากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิจะสูงขึ้น 3-5 องศา กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศา ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศา กับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง อากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศา กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งส่วนมากทางตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก อากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศา กับมีฝนเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาอุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-30 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อน อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศา กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>[​IMG] "สุราษฎร์"วิกฤตน้ำล้อมเมือง ทางหลวงจมมิด "เมืองคอน"ดินถล่มซ้ำ </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 1 เมษายน ถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี

    ว่าช่วงเช้ามืดของวันที่ 1 เมษายน มีปริมาณน้ำมหาศาลที่ไหลบ่าลงแม่น้ำตาปี ล้นเข้าท่วมโรงพยาบาลท่าโรงช้าง ริมถนนทางหลวงเอเชีย 41 ต.ท่าโรงช้าง อ.พุนพิน มีระดับสูงเกือบ 2 เมตร ทางโรงพยาบาลต้องตัดกระแสไฟฟ้าและขนของย้ายขึ้นที่สูง ด้าน นพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า น้ำไหลท่วมพื้นที่โรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมาย้ายผู้ป่วยหนักไปอยู่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี 8 คน เหลือผู้ป่วยบางส่วน จนกระทั่งช่วงกลางดึกน้ำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จำเป็นต้องย้ายผู้ป่วยออกหมด ความเสียหายทั้งอาคารสถานที่และเวชภัณฑ์ ประมาณ 5 ล้านบาท


    ขณะที่นายสมพล พรหมเจียม ผู้อำนวยการแขวงการทางสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การสัญจรอยู่ในขั้นวิกฤตโดยถนนสายหลัก

    ถนนทางหลวงเอเชีย 41 ขาดช่วง อ.พุนพินกับ อ.บ้านนาเดิม บริเวณหลัก กม.153-169 ต.ท่าโรงช้าง อ.พุนพิน กับ หลัก กม.165-166 ต.ท่าเรือ อ.บ้านนาเดิม และถนนทางหลวง 417 สายท่าอากาศยาน-ตัวเมืองสุราษฎร์ธานี บริเวณ กม.14-17 ต.คลองน้อย อ.เมือง และถนนทางหลวง 41 หนองขรี-สุราษฎร์ฯ น้ำท่วมคอสะพานพระจุลจอมเกล้า ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน และถนนมหาดไทยสุราษฎร์-ภูเก็ต น้ำท่วมบริเวณบ้านบางอ้อ ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน โดยไม่มีเส้นทางใดเข้าตัวเมืองสุราษฎร์ธานีได้


    วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าว จ.นครศรีธรรมราช รายงานสถานการณ์ว่า เวลา 03.00 น. วันที่ 1 เมษายน

    เกิดเหตุดินถล่มลงมาจากน้ำตกวังด้ง บนเทือกเขาเผียน หมู่ที่ 15 บ้านเผียนบน ต.เทพราช อ.สิชล โดยน้ำป่าได้ไหลหลากลงมาพร้อมโคลน ลำคลองกว้าง 15 เมตร ประชาชนบางส่วนต้องหนีไปอยู่บนเขากว่า 60 คน ยังไม่สามารถติดต่อหรือสื่อสารกับใครได้ เส้นทางเข้าไปไม่ได้ ดินโคลนได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนหลายหลังคาเรือน


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    "ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ ซักคำให้ลึกซึ้ง"

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ประท้วงเผาอัลกุรอานเดือดในอัฟกัน บุก สนง.UN สังหารเจ้าหน้าที่</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=middle align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=middle align=left>2 เมษายน 2554 01:12 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>มีเจ้าหน้าที่ต่างชาติของสหประชาชาติอย่างน้อย 8 รายถูกฆ่าตายและ 2 ในนั้นถูกตัดศีรษะอย่างโหดเหี้ยม ที่สำนักงานยูเอ็นในเมืองมาซาร์-ไอ-ชารีฟ ทางเหนือของอัฟกานิสถานเมื่อวันศุกร์ (1 เมย.) การโจมตีที่มีขึ้นท่ามกลางเหตุชุมนุมอันโกรธเกรี้ยวต่อการเผาคัมภีร์อัลกุรอานของบาทหลวงสหรัฐฯ

    ฟาร์ฮาน ฮัก รองโฆษกของยูเอ็นระบุว่า "เรายืนยันได้ว่ามีเหตุโจมตีคณะของยูเอ็นในศูนย์ปฏิบัติการประจำอัฟกานิสถานที่เมืองมาซาร์-ไอ-ชารีฟ และยืนยันว่ามีบุคลากรของสหประชาชาติเสียชีวิตหลายคน"

    เขาไม่ได้ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวนเท่าใด แต่ตำรวจในอัฟกานิสถานบอกว่ามีผู้เสียชีวิต 11 คน ในจำนวนนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ต่างชาติของสหประชาชาติ ซึ่งถูกฆ่าอย่างโหดร้ายหลังถูกกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านการเผาคัมภีร์อัลกุรอ่านของบาทหลวงสหรัฐฯรายหนึ่งเมื่อเดือนมีนาคม บุกเข้าไปในรั้วของสำนักงานในวันศุกร์ (1 เมย.)

    อย่างไรก็ตาม มีความคาดหมายว่า ยอดผู้เสียชีวิตน่าจะสูงขึ้นกว่านี้ หลังจากเจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติรายหนึ่งบอกกับรอยเตอร์ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตน่าจะสูงถึง 20 คน



    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ทหารกัดดาฟีถล่มกบฏจนป้อแป้ จ่อยึดเมืองสำคัญคืน ปัด ข้อเสนอหยุดยิง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=middle align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=middle align=left>2 เมษายน 2554 04:00 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=335><TBODY><TR><TD vAlign=top width=335 align=center>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>สภาพเมืองมิสราตา ที่ถูกฝ่ายหนุนกัดดาฟีปิดล้อมและถล่มอย่างหนัก</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>เอเอฟพี - กองกำลังผู้ภักดีต่อมูอัมมาร์ กัดดาฟี ประธานาธิบดีลิเบีย ระดมยิงถล่มมิสราตา เมืองที่อยู่ในการครอบครองของฝ่ายกบฏหนักหน่วงขึ้นเมื่อวันศุกร์ (1 เมย.) ในความพยายามยึดคืนเมืองด่านสำคัญแห่งนี้ ขณะที่ชาวบ้านแฉทหารของกัดดาฟีทุบทำลายร้านค้าและบ้านเรือนหลายหลังในย่านกลางเมือง

    มิสราตาคือป้อมปราการใหญ่สุดท้ายทางตะวันตกของลิเบียของฝ่ายกบฏ ทั้งนี้หลังยิงถล่มและล้อมกรอบเป็นเวลาหลายสัปดาห์ กองกำลังรัฐบาลก็ค่อยๆรุกคืบปลดเปลื้องเมืองจากฝ่ายต่อต้าน แม้ว่าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของชาติตะวันตกมีเป้าหมายอยู่ที่ฝ่ายสนับสนุนกัดดาฟีในเมืองแห่งนี้ด้วยก็ตาม

    ชาวบ้านรายหนึ่งเปิดเผยว่ากองกำลังฝ่ายรัฐบาลพยาบาลเข้าควบคุมใจกลางเมืองแต่ถูกขัดขวางโดยฝ่ายกบฏ ทว่าหลังจากนั้นทหารของกัดดาฟีก็ยิงถล่มท่าเรือและศูนย์กลางของเมืองโดยไม่เลือก

    "พวกเขาใช้รถถัง อาร์พีจี ปืนครกและจรวดอื่นๆยิงถล่มเมืองในวันนี้ มันเป็นการสุ่มยิงโดยไม่เลือกและเป็นการกระหน่ำโจมตึอย่างรุนแรง" โฆษกของฝ่ายกบฏบอกกับเอเอฟพีผ่านโทรศัพท์ "เราแทบจำเมืองแห่งนี้ไม่ได้เลย ภาพความเสียหายไม่สามารถบรรยายได้เลยจริงๆ"

    "ทหารของกัดดาฟีที่เข้ามาภายในเมืองผ่านถนนตริโปลี ได้ปล้นสดมภ์สถานที่ต่างๆ ร้านค้าหรือแม้กระทั่งบ้านเรือนของประชาชน และทำลายทุกอย่างที่ขว้างหน้า" เขากล่าว "เป้าหมายของพวกเขาคือทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่บ้านเรือนของชาวบ้าน"

    ด้านสถานีโทรทัศน์อัญจาซีเราะห์รายงานโดยอ้างคำสัมภาษณ์ของโฆษกของฝ่ายกบฏอีกคนบอกว่า มีประชาชนถูกสังหารไป 5 คน ในจำนวนนั้นเป็นเด็กชายอายุเพียง 6 ขวบ หลังรถยนต์ที่เด็กน้อยรายนี้นั่งอยู่ถูกกระสุนปืนใหญ่ซัดเข้าอย่างจัง

    ก่อนหน้านี้ มุสตาฟา อับดุล จาลิล ผู้นำสภาถ่ายโอนอำนาจแห่งชาติของลิเบียเผย กลุ่มกบฏพร้อมแล้วที่จะหยุดยิง เพื่อให้กองกำลังของมูอัมมาร์ กัดดาฟียุติการโจมตีเมืองต่างๆ ที่ฝ่ายต่อต้านนั้นยึดครองอยู่

    อย่างไรก็ตามในช่วงค่ำวันศุกร์ (1 เมย.) ทางโฆษกรัฐบาลปฏิเสธเงื่อนไขต่างๆสำหรับการหยุดยิงของฝ่ายกบฏและประกาศลั่นจะไม่ออกจากเมืองต่างๆตามคำร้องขอของฝ่ายต่อต้าน "พวกเขากำลังร้องขอให้เราถอนกำลังจากเมืองของเรา ถ้านี่ไม่ใช่เรื่องบ้าๆ ผมก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่ามันอะไรแล้ว เราไม่มีทางจะที่ออกจากเมือง"

    นอกจากนี้โฆษกของรัฐบาลลิเบีย ยังกล่าวหาปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของชาติตะวันตกว่าเป็นการก่ออาชญากรรมต่อมนุษย์
    "นายกรัฐมนตรีกับประธานาธิบดีบ้าๆบางคนของยุโรป กำลังทำสงครามครูเสดกับชาวมุสลิม และฟังดูเหมือนเป็นการก่ออาชญากรรมต่อมนุษย์"
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]


    วานก้า หรือชื่อจริงวานเกเลีย ปานเดว่า กุชเตโรว่า เป็นชาวบัลแกเรีย ซึ่งตายไปเมื่อหลายปีก่อน คุณยายผู้นี้เกิดเมื่อ 31 มกราคม 1911 ในครอบครัวชาวนายากจนที่หมู่บ้าน สตรูมิซ่า ที่ปัจจุบันอยู่ใน มาเซโดเนีย เมื่อคลอดออกมา คุณยายทำท่าว่าจะไม่รอดตั้งแต่หลังคลอด แต่ไม่ยักกะตาย และหลังจากมีอายุได้ 2 เดือน เด็กน้อยก็กลับมาแข็งแรงเหมือนเด็กปกติ ตอนอายุ 3 ขวบ แม่คุณยายก็เกิดมาตาย ไม่นานหลังจากนั้น พ่อก็ถูกเกณฑ์ไปรบในสงครามโลกครั้งแรก เพื่อนบ้านต้องช่วยกันดูแลเด็กน้อยแทน หลังจากพ่อกลับมา ชีวิตของท่านก็ดีขึ้น เมื่อพ่อมีเมียใหม่ แม่ใหม่ก็ไม่ได้รังเกียจลูกเลี้ยง

    พอคุณยายมีอายุได้ 12 ขวบ ก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดกับตัวท่าน กล่าวคือได้เกิดพายุหมุนในหมู่บ้าน (โดยก่อนและหลังเหตุการณ์ครั้งนั้น ไม่เคยมีปรากฏการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเลย) พายุได้หอบเอาคุณยายขึ้นไปเบื้องบน ก่อนจะปล่อยตกลงมาในภายหลัง และหลังจากนั้นตาของคุณยายก็เริ่มมองไม่เห็น หลังการผ่าตัดก็ไม่หาย และมองไม่เห็นโดยสิ้นเชิง 3 ปีหลังเหตุการณ์นั้น

    ปี 1925 คุณยายถูกส่งตัวเข้าโรงเรียนคนตาบอด และใช้เวลาอยู่ที่นี่ 3 ปี เมื่อกลับมาบ้าน ก็ต้องเจอกับชีวิตที่ยากลำบาก ทั้งความยากจน งานหนัก และโรคภัยไข้เจ็บที่เกือบจะคร่าชีวิต แต่ในช่วงนั้นเองที่คุณยายเริ่มรู้สึกตัวว่ามีอำนาจพิเศษ นั่นก็คือการมองเห็นเหตุการณ์ต่างๆทั้งจากในความฝัน พรายกระซิบ และอื่นๆ ทำให้สามารถทำนายทายทักเหตุการณ์ทั้งที่จะเกิดในอนาคต และเกิดมาแล้วได้อย่างแม่นยำมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องทหารที่สูญหายไปในแนวหน้า แต่ตอนแรก คุณยายไม่กล้าพูดเรื่องนี้กับใคร กลัวจะถูกหาว่า นอกจากบอดแล้วยังบ้า

    คำทำนายครั้งแรกของคุณยาย มีขึ้นเมื่ออายุ 16 ปี คือการบอกถึงสถานที่ที่แพะของพ่อที่ถูกลักไป ถูกนำไปซ่อน คุณยายบอกว่า ท่านเห็นสิ่งนี้ในฝัน

    ปี 1942 คุณยายแต่งงานกับหนุ่มที่รู้จักกันที่โรงเรียนคนตาบอด และเริ่มเป็นนักทำนายอย่างเป็นงานเป็นการตอนอายุ 30 ช่วงนี้คุณยายเริ่มโด่งดังมากขึ้น เมื่อทำนายทายทักว่า ทหารคนไหน จะกลับมาจากแนวหน้า หรือไม่ได้กลับ ทำให้ผู้คนแห่แหนกันมาหาคุณยาย ให้ช่วยทำนายทายทัก ทั้งเรื่องทหาร เรื่องโรคที่ป่วย

    จากการประเมิน เชื่อว่า มีผู้มาขอความช่วยเหลือจากคุณยายมากถึงกว่าล้านคน แต่ไม่มีหลักฐานอะไรมายืยยันเรื่องนี้ได้ เพราะไม่ได้มีการจดบันทึกใดๆทั้งสิ้น นอกจากนั้น บางคนก็ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเขาหรือเธอ มาขอความช่วยเหลือจากคุณยายบ้านนอกตาบอด ว่ากันว่า หนึ่งในผู้ที่มาหาคุณยาย เพื่อให้ทำนายโชคชะตาก็คือ ฮิตเลอร์

    เมื่อบัลแกเรีย กลายเป็นประเทศสังคมนิยม ทางการก็เข้ามาตรวจสอบคุณยาย แถมยังส่งคุณยายไปนอนถึงอยู่ครึ่งปี เพราะดันไปทำนายทายทักเรื่องการตายของสตาลิน แต่เมื่อเรื่องการตายเกิดขึ้นจริง พวกเขาก็ปล่อยคุณนายออกมา ฝ่ายศาสนาเองก็ไม่ชอบหน้าคุณยาย เพราะคำทำนายหลายข้อขัดแย้งกับความเชื่อทางศาสนาของกรีกออโธดอกซ์

    ในส่วนของความแม่นยำนั้น จากการทำวิจัยของนักวิทยาศาสตร์บัลแกเรียผู้หนึ่งที่ติด ตามคำทำนายมากกว่า 7 พันคำทำนายของคุณยาย ก็สรุปว่า ถูกต้องถึง 80 เปอร์เซ็นต์ โดยคำว่าแม่นในที่นี่ ระบุด้วยว่า เกินกว่าระดับที่จะถือได้ว่าเป็นการประจวบเหมาะ

    และเมื่อไม่สามารถสยบกระแสนิยมการมาใช้บริการ ทางการก็เลยหาทางทำเงินทำทองจากเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ ปี 1967 จนถึง 1990 คุณยาย ถือเป็นข้าราชการคนหนึ่ง และมีการกำหนดสนนราคาการเข้ามาขอใช้บริการของคุณยายวานก้า ไว้อย่างเป็นกิจลักษณะ โดยคนจากประเทศสังคมนิยม 15 ประเทศคิดค่าบริการคนละ 10 เลียฟ (ประมาณ 2 ดอลล่าร์) ส่วนจากประเทศอื่นๆที่เหลือคิดคนละ 50 ดอลล่าร์ งานนี้ทางการรับเข้ากระเป๋าไปหมด ในส่วนของตัวคุณยาย ก็จะได้เงินเดือนเดือนละ 200 เลียฟ นอกจากนั้นก็ยังได้รถยนต์ บ้าน และคนรับใช้

    จากคนที่เคยถูกทางการจับ คุณยายวานก้า ได้กลายเป็น ความภาคภูมิใจของบัลแกเรียไปเสียแล้ว
    เมื่อมีคนชอบ ก็มีคนชัง คนที่ชิงชังคุณยายตาบอดรายนี้มากที่สุด ออกมาติติงคุณยายว่า ทีอันไหนทายถูกแล้วละก็ จำได้จำดี ส่วนอันไหนทายผิด ดันลืมไปหมดนานแล้ว นอกจากนั้น ก็ยังบอกว่าคุณยายทำงานประสานกับหน่วยข่าวกรองบัลแกเรียในการทำนายโชคชะตาผู้คน คือให้หน่วยข่าวกรองไปสืบข้อมูลของคนที่จะมาพบคุณยายเป็นการล่วงหน้า เขาบอกว่าหลักฐานในเรื่องนี้ก็คือหลังจากรัฐบาลคอมมิวนิสต์ล้มลง ฝ่ายข้าวกรองไม่ได้เข้ามาช่วยเหลืออีกต่อไป การทายของคุณยายก็แย่ลง


    เรือดำน้ำคูร์สค์
    ตัวอย่างการทำนายของคุณยายวานก้าที่ว่าแม่นๆนั้น ก็อย่างเช่นเรื่องเรือดำน้ำคูร์สค์ ของรัสเซียที่ระเบิดเมื่อหลายปีก่อน ที่คุณยายทำนายไว้ตั้งแต่ปี 1980 คุณยายทำนายเรื่องนี้ว่า ' ในปี 1999 หรือ 2000 คูร์สค์ จะจมอยู่ใต้น้ำ ผู้คนทั้งโลกจะเศร้าใจกับมัน ' แต่ตอนนั้นไม่มีใครเชื่อ เพราะเมืองคูร์สค์ อยู่ไกลจากทะเล หรือแม่น้ำ และไม่มีใครฉุกคิดว่าคุณยายทำนายถึงเรื่องดำน้ำคูร์สค์


    นอกจากนั้น คุณยายวานก้า ก็ยังทำนายตั้งแต่ปี 1979 ถึงการที่สหภาพโซเวียต จะกลับคืนมาเป็นรัสเซียเหมือนเดิม เรื่องที่สหรัฐถูกผู้ก่อการร้ายโจมตี ในเหตุการณ์ 11 กันยายน 2001 ตั้งแต่ปี 1989 เรื่องการลงนามในสนธิสัญญาจำกัดอาวุธนิวเคลียร์ระหว่างกอร์บาชอฟกับเรแกน การเข้ามาอยู่ในกลุ่ม จี 8 ของรัสเซีย การกลับมาเป็นมหาอำนาจอีกครั้งของรัสเซีย การขึ้นมายิ่งใหญ่ของคนชื่อ วลาดิมีร์ และเรื่องวันตายของคุณยายเอง

    คุณยายตายเมื่อ 11 สิงหาคม 1996 เวลา 10:10 น. ตรงตามที่ทำนายเอาไว้ทั้งวันที่ และเวลา

    และต่อไปนี้คือคำทำนายถึงโลกในอนาคต


    2008 - ผู้นำ 4 ประเทศถูกลอบสังหาร กรณีพิพาทในอินโดสถาน เป็นปัจจัยหนึ่งที่นำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3

    2010 - เริ่มสงครามโลกครั้งที่ 3 ( พฤศจิกายน 2010 - ตุลาคม 2014 ) ตอนแรกก็ใช้อาวุธธรรมดา ต่อมาก็ตามด้วยนิวเคลียร์และอาวุธเคมี การนำอาวุธนิวเคลียร์มาใช้ ทำให้ซีกโลกเหนือ จะไม่เหลือทั้งพืชและสัตว์ จากนั้นพวกมุสลิม จะใช้อาวุธเคมีเข้าจัดการกับชาวยุโรปที่ยังหลงเหลืออยู่ ผู้คนจะป่วยเป็นฝีหนองและมะเร็งผิวหนังกันมากจากผลของอาวุธเคมี

    2016 - ยุโรปแทบจะร้างผู้คน

    2018 - จีนเป็นมหาอำนาจของโลกรายใหม่ ประเทศกำลังพัฒนา กลับกลายจากประเทศผู้ถูกกดขี่ มาเป็นผู้กดขี่เสียเอง


    2023 - วงโคจรของโลกเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

    2028 - เกิดแหล่งพลังงานใหม่ (คาดว่า น่าจะเป็น เทอร์โมนิวเคลียร์ รีแอ็คชั่น ) โลกเริ่มเอาชนะปัญหาความอดอยากได้ มนุษย์เริ่มเดินทางไปยังดาวศุกร์

    2033 - น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น

    2043 - เศรษฐกิจโลกรุ่งเรือง มุสลิมปกครองยุโรป

    2046 - มนุษย์ปลูกอวัยวะได้ทุกอย่าง การเปลี่ยนอวัยวะ เป็นวิธีการรักษาโรคที่ดีที่สุด

    2066 - สหรัฐโจมตีกรุงโรมของพวกมุสลิมด้วยอาวุธใหม่ คืออาวุธสภาพอากาศ ซึ่งทำให้อากาศหนาวเย็นลง

    2076 - สังคมไร้ชนชั้น (คอมมิวนิสต์)

    2084 - ธรรมชาติได้รับการฟื้นฟู

    2088 - เกิดโรคใหม่ โรคแก่ติดจรวด (แก่ในไม่กี่วินาที)

    2097 - เอาชนะโรคแก่ติดจรวดได้

    2100 - ดวงอาทิตย์เทียมให้แสงสว่างกับโลกส่วนที่มืด

    2111 - มนุษย์กลายเป็นมนุษย์ไซบอร์ก (หุ่นยนต์มีชีวิต)

    2125 - โลกได้รับสัญญาณจากอวกาศ

    2130 - โลกไปตั้งอาณานิคมใต้น้ำ (จากคำแนะนำของมนุษย์ต่างดาว)

    2164 - สัตว์กลายเป็นสัตว์กึ่งมนุษย์

    2167 - เกิดศาสนาใหม่

    2183 - อาณานิคมบนดาวอังคารมีอาวุธนิวเคลียร์ และต้องการเป็นเอกราชจากโลก

    2187 - โลกหยุดยั้งการระเบิดของภูเขาไฟขนาดใหญ่ 2 ลูก

    2195 - อาณานิคมใต้น้ำ เลี้ยงตัวเองได้โดยสมบูรณ์ ทั้งอาหารและพลังงาน

    2196 - ชาวเอเชียผสมกับชาวยุโรปโดยสมบูรณ์

    2221 - ในการติดตามหาชีวิตนอกโลก มนุษย์ต้องเจอกับอะไรบางอย่างที่น่ากลัว

    2256 - ยานอวกาศนำโรคร้ายกลับมายังโลก

    2262 - วงโคจรของโลกเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ดาวหางเกือบชนดาวอังคาร

    2273 - การผสมปนเปกันของคนผิวขาว ผิวเหลือง และผิวดำ ก่อเกิดเป็นคนสีผิวใหม่

    2279 - พบพลังที่ไม่ได้มาจากอะไรเลย (คาดว่าอาจจะมาจากสภาพสูญญากาศ หรือไม่ก็หลุมดำ )

    2288 - มีการเดินทางไปกับกาลเวลา การติดต่อครั้งใหม่กับมนุษย์ต่างดาว

    2291 - ดวงอาทิตย์เริ่มเย็นลง มีความพยายามที่จะจุดมันขึ้นมาใหม่

    2296 - เกิดระเบิดครั้งใหญ่บนดวงอาทิตย์ สถานีอวกาศและดาวเทียมเก่าเริ่มตก

    2299 - ในฝรั่งเศสเกิดการจลาจลต่อต้านมุสลิม

    2302 - เปิดกฏใหม่เรื่องความลับของจักรวาล

    2304 - พบความลับของดวงจันทร์

    2354 - เกิดความผิดพลาดกับดวงอาทิตย์เทียม ก่อให้เกิดความแห้งแล้ง

    2371 - เกิดปัญหาความอดอยากครั้งใหญ่

    2480 - ดวงอาทิตย์เทียม 2 ดวงชนกัน

    3005 - สงครามบนดาวอังคาร

    3010 - ดาวหางชนดวงจันทร์ เศษซากที่กระจาย พากันโคจรรอบโลก

    3797 - ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเหลือบนโลก แต่มนุษย์ได้ไปวางสิ่งจำเป็นพื้นฐานสำหรับการดำรงชีวิตบนดาวดวงอื่นแล้ว



    ขอขอบคุณผู้แปลบทความนี้ http://www.oknation.net/blog/russky/2008/01/29/entry-1

    ขอขอบคุณบทความจาก http://atcloud.com/stories/29931
     
  19. ดูที่จิต

    ดูที่จิต Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2010
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +75
    เพื่อไม่ประมาทจากพระโยคาวจร

    <!-- main-content-block --><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 504px; HEIGHT: 30px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.thaipost.net/news/020411/36555&layout=standard&show_faces=true&width=450&action=like&colorscheme=light&height=80" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME><!--2 เมษายน 2554 - 00:00-->
    2 เมษายน 2554 - 00:00


    ไปอินเดีย ไม่มีหมู-ไม่มีเนื้อ ครั้นไปไต้หวัน มีแต่หมู-แต่เนื้อ โชคดีที่ผมนอกจากเป็นคน "ว่านอนสอนง่าย" แล้ว ยังเป็นคนประเภท "กินง่าย-อยู่ง่าย" อะไรที่กินไม่ตายแล้วส่งมาเถอะ ฉะนั้น ไปไหนๆ เรื่องการกินจึงไม่ใช่ปัญหา แต่พอกลับมาต้องเปิดตู้เย็นควานหา "กากหมูผัดพริกขิง" ที่ซ่อนไว้มาคลุกข้าวกิน (ซะให้หายอยาก) ๓ วันติด หมดเกลี้ยงไป ๒ กระปุก ก็ขอบคุณด้วยซาบซึ้งต่อเจ้าของรสมือกากหมูผัดพริกขิงที่ต่อให้ฮ่องเต้ก็ยังต้องโหยหา
    พี่น้องชาวใต้ของเราล่ะ ตอนนี้ขาดข้าวปลาอาหาร ลำบากยากเข็ญจริงๆ นะครับ...ยามนี้เรียกว่า "ทุกข์ซ้ำกรรมซัดวิบัติเป็น" ใครที่ "ปากดี" คือพูดแค่เห็นใจ..เห็นใจ..อย่างผม คงช่วยอะไรเขาไม่ได้
    ต้อง "ทำดี" เท่านั้น ทำอย่างที่พี่น้องคนไทยด้วยกันทั้ง เหนือ-อีสาน-ออก-กลาง-ตก-กทม.กำลังทำอยู่ขณะนี้ มีเงิน-ให้เงิน, มีของ-ให้ของ, มีแรง-ให้แรง, มีใจ-ให้กำลังใจ จึงจะช่วยบรรเทาทุกข์ให้พี่น้องชาวใต้ ๘-๙ จังหวัดของเราได้
    ดูรูปการณ์จาก "ปรากฏการณ์ธรรมชาติ" แล้ว บอกได้เลยว่า "ยังไม่จบสิ้นเพียงแค่นี้" ด้านอุทกศาสตร์ ด้านธรณีศาสตร์ ด้านอุตุศาสตร์ และด้านวิทยาศาสตร์ ก็พยากรณ์บอกกล่าวกันมามากแล้ว ทั้งด้านดาราศาสตร์ในรูปแบบโหราศาสตร์ก็พยากรณ์กันมาข้ามปี-ข้ามเดือน พอดีคุณ Mancharee ส่งอีกศาสตร์หนึ่งที่ "ใครรู้ไม่ถึงก็อย่าลบหลู่" มาให้ เพื่อความไม่ประมาทอ่านดูนะครับ
    สำนักสงฆ์ป่าถ้ำธารน้ำลอด หมู่ที่๙
    ตำบลทุ่งระยะ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร
    ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๔
    เรื่อง แจ้งเตือนเตรียมรับมือภัยพิบัติแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิ
    เจริญพร ท่านผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ
    อาตมภาพพระภิกษุกัมมัฏฐาน ปวตฺตโน มีความประสงค์จะแจ้งเตือนภัยพิบัติอันเป็นผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดของท่าน เนื่องด้วยแหล่งข่าวใกล้ชิดของอาตมภาพที่มีความแม่นยำและความน่าเชื่อถือสูงในวงของผู้ปฏิบัติสมาธิภาวนา ได้แจ้งเตือนภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ ทั้งในและต่างประเทศกับอาตมภาพไว้ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ไว้คือ
    -จะเกิดแผ่นดินไหวแถบเทือกเขาตะนาวศรี จังหวัดราชบุรี ราวๆ กลางปี ๒๕๕๔ จะส่งผลต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในจังหวัดราชบุรีเป็นวงกว้าง
    -จะเกิดแผ่นดินไหวที่กรุงเวียงจันทน์ ประเทศลาว (เกิดขึ้นจริงแล้ว)
    -จะเกิดแผ่นไหวและเกิดสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่น (เกิดขึ้นจริงแล้ว)
    -จะเกิดแผ่นดินไหวและแผ่นดินยุบตัวที่จังหวัดเชียงใหม่ (จะเกิดก่อนเดือนมิถุนายนและจะเป็นข่าวใหญ่)
    -*** จะเกิดแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิ ส่งผลกระทบในพื้นที่ภาคใต้ ๓ ระลอก ภายในปี ๒๕๕๔ คือ ระลอกที่ ๑ ช่วงวันที่ ๔-๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๔ โดยจะเกิดแผ่นดินไหวแถบทะเลอันดามันประเทศอินโดนีเซีย ประมาณ ๕ ทุ่ม และเกิดคลื่นยักษ์สึนามิที่มีความรุนแรงมากกว่าปี ๔๗ คลื่นเดินทางถึงชายฝั่งประเทศไทยเวลาตีสอง ๕๐ นาที จังหวัดที่ได้รับการปะทะโดยตรงจากคลื่นสึนามิในระลอกแรก
    ๑.กระบี่ ๒.ตรัง ๓.สตูล ๔.ภูเก็ต ๕.พังงา ๖.ระนอง
    จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวโดยเกิดแผ่นดินถล่ม, ยุบตัว และน้ำที่ดันขึ้นมาจากโพรงใต้ดิน (โพรงหรืออุโมงค์ใต้ดินขนาดใหญ่เกิดจากแรงแผ่นดินไหว และการเคลื่อนของแผ่นเปลือกโลก ซึ่งปัจจุบันแหล่งข่าวกล่าวว่าเกิดขึ้นแล้วเป็นแนวยาวผ่านตั้งแต่ภาคใต้จนถึงภาคกลางของประเทศไทย) โดยมีความเสียหายหลายจังหวัด คือ
    ๑.นครศรีธรรมราช ๒.สงขลา (หนักที่หาดใหญ่) ๓.พัทลุง ๔.ชุมพร
    แผ่นดินไหวครั้งนี้จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงสู่หลายๆ ประเทศ ทั้งอินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย พม่า รวมถึงประเทศรอบๆ ทะเลอันดามัน ประเทศไทยจะเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินมาก เนื่องจากความประมาทของเจ้าหน้าที่และประชาชน แต่บางประเทศเช่นอินเดียสามารถอพยพได้ทัน เพราะมีเวลาเตรียมตัวหลังจากทราบเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิ
    ***แหล่งข่าวบอกว่าระบบแจ้งเตือนภัยสึนามิที่ติดตั้งไว้ในทะเลอันดามัน ถึงเวลาจริงๆ ไม่ได้แจ้งเตือนเพราะระบบขัดข้อง
    ระลอกที่ ๒ จะเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ครั้งแรกประมาณ ๑ เดือน โดยแหล่งข่าวบอกว่าเก็บกู้ความเสียหายยังไม่ทันเสร็จระลอกใหม่ก็เกิดขึ้นอีก *** เหตุการณ์จะรุนแรงกว่าระลอกแรก โดยมีความรุนแรงมากที่สุดในสามระลอก จะเกิดเหตุการณ์ขึ้นทั้งสองฝั่งคือทั้งอ่าวไทยและอันดามัน ผลกระทบเกิดขึ้นทุกจังหวัดในภาคใต้
    ระลอกที่ ๓ จะเกิดขึ้นระหว่างปลายเดือนพฤศจิกายนจนถึงต้นเดือนธันวาคม ๒๕๕๔ มีความรุนแรงน้อยกว่าระลอกที่สองทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน
    *** แหล่งข่าวระบุว่าผลกระทบของแผ่นดินไหวจะส่งผลเป็นลูกโซ่ (สู่เหตุการณ์ต่างๆ) และจะมีข่าวปรากฏในสื่อว่า พายุเซิร์ส (อาตมาไม่เข้าใจแต่ได้ยินมาว่าเคยเกิดขึ้นแถบๆ อเมริกา มีความรุนแรงมาก กรุณาศึกษาเพิ่มเติม)
    ขออนุญาตแจ้งเหตุการณ์ปี ๒๕๕๔ ที่สำคัญๆ ไว้เพียงเท่านี้ แต่ที่ได้รับแจ้งมาจากแหล่งข่าวนั้น ในปีหน้า ๒๕๕๕ มีเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับภัยธรรมชาติซึ่งส่งผลกระทบต่อมนุษย์อย่างรุนแรงและแปลกประหลาดอีกหลายเหตุการณ์ ซึ่งจะแจ้งเตือนในคราวต่อไป
    ในการทำหนังสือแจ้งเตือนมาในครั้งนี้ อาตมภาพทราบดีว่าจะเกิดความตื่นตระหนกและความลังเลสงสัยต่อท่านและผู้ที่รับทราบ เพราะเป็นเหตุการณ์ในอนาคต พ้นวิสัยการรู้เห็นโดยทั่วไปของมนุษย์เรา
    การแจ้งเตือนครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลดีต่อตัวอาตมภาพเองเลย ซ้ำอาจจะเกิดโทษดังเช่นกรณีของคุณสมิทธ ธรรมสโรช ที่ออกมาเตือนเรื่องโอกาสที่จะเกิดสึนามิในฝั่งทะเลอันดามันก่อนปี พ.ศ.๒๕๔๗ ซึ่งในครั้งนั้น มีผู้โจมตีการแจ้งเตือนของคุณสมิทธอย่างมาก ซึ่งท้ายที่สุดเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นจริงๆ โดยไม่ได้เตรียมการรับมือ เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
    ซึ่งขณะนั้นอาตมภาพยังเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ ๓ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เดินทางร่วมกับคณะเพื่อนนักศึกษาไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่จังหวัดพังงา เดินทางถึงวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๔๗ และอยู่เป็นอาสาสมัครอยู่ในทีมพิสูจน์ศพของทีมแพทย์ศิริราชและแพทย์รามาฯ ที่วัดบางม่วงและวัดย่านยาว ได้เกิดความสังเวชที่ได้เห็นพี่น้องชาวไทยและต่างประเทศ ลูกเล็กเด็กแดงล้มตายเป็นจำนวนมาก แต่ในการเพียรพยายามทำหนังสือแจ้งเตือนมายังท่านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเตรียมการป้องกันและรับมือภัยพิบัติในครั้งนี้ เป็นความเมตตาสงสารเพื่อนร่วมโลกไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือประเทศไหนๆ ของอาตมภาพที่ไม่อยากให้มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น และอาตมภาพและแหล่งข่าวไม่ได้ต้องการชื่อเสียงอันเป็นเรื่องของโลกและไม่ต้องการเป็นข่าวใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากต้องการความสงบวิเวกในการปฏิบัติธรรม ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ
    ......................................................................
    สำหรับรายละเอียดของเหตุการณ์นั้น แหล่งข่าวเพื่อนสหธรรมิกท่านทราบรายละเอียดอีกมากที่ได้แจ้งให้อาตมภาพได้ทราบ และปัจจุบันพำนักปฏิบัติธรรมอยู่ที่เดียวกัน อาตมภาพและเพื่อนสหธรรมิกพร้อมจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมและร่วมดำเนินการรับมือกับภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นร่วมกับท่านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกำลังและวิธีการที่จะช่วยได้ โดยสามารถติดต่อมายังอาตมภาพหรือเดินทางมาสอบถามด้วยตนเองที่สำนักสงฆ์ป่าถ้ำธารน้ำลอด โดยอาตมภาพไม่ต้องการให้จดหมายแจ้งเตือนนี้ปรากฏสู่สาธารณะอันจะปรากฏเป็นข่าวในสื่อต่างๆ ประเทศไทยโชคดีอยู่อย่างหนึ่งคือ เป็นดินแดนที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง มีผู้มีบุญบารมีลงมาเกิดเพื่อบำเพ็ญเพียรหรือสะสมบุญบารมีอยู่มาก และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยคุ้มครองดูแลรักษาชาวพุทธและประเทศไทยเพื่อให้พระศาสนาดำรงอยู่จนตลอดอายุพระศาสนาคือ ๕,๐๐๐ ปี และการแจ้งเตือนครั้งนี้ก็มาจากวิธีพิเศษที่มีปรากฏขึ้นจริงในผู้ปฏิบัติตามหลักธรรมคำสั่งสอนของพระบรมศาสดา เพื่อช่วยประชาชนชาวสยามบนถิ่นแหลมทองแห่งนี้
    ด้วยอำนาจของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์สาวก และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ปกปักรักษาสยามประเทศ ได้โปรดอำนวยพรให้ท่านและผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องนำไปพิจารณา และประสบความสำเร็จในการเตรียมการรับมือกับมหาภัยพิบัติ อันจะเป็นเครื่องป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องเพื่อนร่วมโลกที่หวังความช่วยเหลือจากท่านเป็นจำนวนมาก และเหลือระยะเวลาเตรียมการเพียงแค่ประมาณ ๓ เดือนในครั้งนี้ด้วยเทอญ
    ขอเจริญพร
    พระกัมมัฏฐาน ปวตฺตโน
    สำนักสงฆ์ป่าถ้ำธารน้ำลอด หมู่ที่ ๙
    ตำบลทุ่งระยะ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร
    ครับ...๑.จดหมายนี้พระท่านไม่ได้ส่งให้ผม ๒.ระบุว่า "ไม่ต้องการให้จดหมายแจ้งเตือนนี้ปรากฏต่อสาธารณะ" ฉะนั้น ที่ผมนำเผยแพร่นี้ถือว่าผิดต่อเจตนาท่าน แต่ที่นำลงก็ด้วยประสงค์สร้าง "ทางไม่ประมาท" ทั่วๆ กันเท่านั้น จึงโปรดเมตตาอภัย.
     
  20. ดูที่จิต

    ดูที่จิต Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2010
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +75
    เพื่อไม่ประมาทจากพระโยคาวจร

    <!-- main-content-block --><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 504px; HEIGHT: 30px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.thaipost.net/news/020411/36555&layout=standard&show_faces=true&width=450&action=like&colorscheme=light&height=80" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME><!--2 เมษายน 2554 - 00:00-->
    2 เมษายน 2554 - 00:00


    ไปอินเดีย ไม่มีหมู-ไม่มีเนื้อ ครั้นไปไต้หวัน มีแต่หมู-แต่เนื้อ โชคดีที่ผมนอกจากเป็นคน "ว่านอนสอนง่าย" แล้ว ยังเป็นคนประเภท "กินง่าย-อยู่ง่าย" อะไรที่กินไม่ตายแล้วส่งมาเถอะ ฉะนั้น ไปไหนๆ เรื่องการกินจึงไม่ใช่ปัญหา แต่พอกลับมาต้องเปิดตู้เย็นควานหา "กากหมูผัดพริกขิง" ที่ซ่อนไว้มาคลุกข้าวกิน (ซะให้หายอยาก) ๓ วันติด หมดเกลี้ยงไป ๒ กระปุก ก็ขอบคุณด้วยซาบซึ้งต่อเจ้าของรสมือกากหมูผัดพริกขิงที่ต่อให้ฮ่องเต้ก็ยังต้องโหยหา
    พี่น้องชาวใต้ของเราล่ะ ตอนนี้ขาดข้าวปลาอาหาร ลำบากยากเข็ญจริงๆ นะครับ...ยามนี้เรียกว่า "ทุกข์ซ้ำกรรมซัดวิบัติเป็น" ใครที่ "ปากดี" คือพูดแค่เห็นใจ..เห็นใจ..อย่างผม คงช่วยอะไรเขาไม่ได้
    ต้อง "ทำดี" เท่านั้น ทำอย่างที่พี่น้องคนไทยด้วยกันทั้ง เหนือ-อีสาน-ออก-กลาง-ตก-กทม.กำลังทำอยู่ขณะนี้ มีเงิน-ให้เงิน, มีของ-ให้ของ, มีแรง-ให้แรง, มีใจ-ให้กำลังใจ จึงจะช่วยบรรเทาทุกข์ให้พี่น้องชาวใต้ ๘-๙ จังหวัดของเราได้
    ดูรูปการณ์จาก "ปรากฏการณ์ธรรมชาติ" แล้ว บอกได้เลยว่า "ยังไม่จบสิ้นเพียงแค่นี้" ด้านอุทกศาสตร์ ด้านธรณีศาสตร์ ด้านอุตุศาสตร์ และด้านวิทยาศาสตร์ ก็พยากรณ์บอกกล่าวกันมามากแล้ว ทั้งด้านดาราศาสตร์ในรูปแบบโหราศาสตร์ก็พยากรณ์กันมาข้ามปี-ข้ามเดือน พอดีคุณ Mancharee ส่งอีกศาสตร์หนึ่งที่ "ใครรู้ไม่ถึงก็อย่าลบหลู่" มาให้ เพื่อความไม่ประมาทอ่านดูนะครับ
    สำนักสงฆ์ป่าถ้ำธารน้ำลอด หมู่ที่๙
    ตำบลทุ่งระยะ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร
    ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๔
    เรื่อง แจ้งเตือนเตรียมรับมือภัยพิบัติแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิ
    เจริญพร ท่านผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ
    อาตมภาพพระภิกษุกัมมัฏฐาน ปวตฺตโน มีความประสงค์จะแจ้งเตือนภัยพิบัติอันเป็นผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดของท่าน เนื่องด้วยแหล่งข่าวใกล้ชิดของอาตมภาพที่มีความแม่นยำและความน่าเชื่อถือสูงในวงของผู้ปฏิบัติสมาธิภาวนา ได้แจ้งเตือนภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ ทั้งในและต่างประเทศกับอาตมภาพไว้ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ไว้คือ
    -จะเกิดแผ่นดินไหวแถบเทือกเขาตะนาวศรี จังหวัดราชบุรี ราวๆ กลางปี ๒๕๕๔ จะส่งผลต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในจังหวัดราชบุรีเป็นวงกว้าง
    -จะเกิดแผ่นดินไหวที่กรุงเวียงจันทน์ ประเทศลาว (เกิดขึ้นจริงแล้ว)
    -จะเกิดแผ่นไหวและเกิดสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่น (เกิดขึ้นจริงแล้ว)
    -จะเกิดแผ่นดินไหวและแผ่นดินยุบตัวที่จังหวัดเชียงใหม่ (จะเกิดก่อนเดือนมิถุนายนและจะเป็นข่าวใหญ่)
    -*** จะเกิดแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิ ส่งผลกระทบในพื้นที่ภาคใต้ ๓ ระลอก ภายในปี ๒๕๕๔ คือ ระลอกที่ ๑ ช่วงวันที่ ๔-๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๔ โดยจะเกิดแผ่นดินไหวแถบทะเลอันดามันประเทศอินโดนีเซีย ประมาณ ๕ ทุ่ม และเกิดคลื่นยักษ์สึนามิที่มีความรุนแรงมากกว่าปี ๔๗ คลื่นเดินทางถึงชายฝั่งประเทศไทยเวลาตีสอง ๕๐ นาที จังหวัดที่ได้รับการปะทะโดยตรงจากคลื่นสึนามิในระลอกแรก
    ๑.กระบี่ ๒.ตรัง ๓.สตูล ๔.ภูเก็ต ๕.พังงา ๖.ระนอง
    จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวโดยเกิดแผ่นดินถล่ม, ยุบตัว และน้ำที่ดันขึ้นมาจากโพรงใต้ดิน (โพรงหรืออุโมงค์ใต้ดินขนาดใหญ่เกิดจากแรงแผ่นดินไหว และการเคลื่อนของแผ่นเปลือกโลก ซึ่งปัจจุบันแหล่งข่าวกล่าวว่าเกิดขึ้นแล้วเป็นแนวยาวผ่านตั้งแต่ภาคใต้จนถึงภาคกลางของประเทศไทย) โดยมีความเสียหายหลายจังหวัด คือ
    ๑.นครศรีธรรมราช ๒.สงขลา (หนักที่หาดใหญ่) ๓.พัทลุง ๔.ชุมพร
    แผ่นดินไหวครั้งนี้จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงสู่หลายๆ ประเทศ ทั้งอินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย พม่า รวมถึงประเทศรอบๆ ทะเลอันดามัน ประเทศไทยจะเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินมาก เนื่องจากความประมาทของเจ้าหน้าที่และประชาชน แต่บางประเทศเช่นอินเดียสามารถอพยพได้ทัน เพราะมีเวลาเตรียมตัวหลังจากทราบเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิ
    ***แหล่งข่าวบอกว่าระบบแจ้งเตือนภัยสึนามิที่ติดตั้งไว้ในทะเลอันดามัน ถึงเวลาจริงๆ ไม่ได้แจ้งเตือนเพราะระบบขัดข้อง
    ระลอกที่ ๒ จะเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ครั้งแรกประมาณ ๑ เดือน โดยแหล่งข่าวบอกว่าเก็บกู้ความเสียหายยังไม่ทันเสร็จระลอกใหม่ก็เกิดขึ้นอีก *** เหตุการณ์จะรุนแรงกว่าระลอกแรก โดยมีความรุนแรงมากที่สุดในสามระลอก จะเกิดเหตุการณ์ขึ้นทั้งสองฝั่งคือทั้งอ่าวไทยและอันดามัน ผลกระทบเกิดขึ้นทุกจังหวัดในภาคใต้
    ระลอกที่ ๓ จะเกิดขึ้นระหว่างปลายเดือนพฤศจิกายนจนถึงต้นเดือนธันวาคม ๒๕๕๔ มีความรุนแรงน้อยกว่าระลอกที่สองทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน
    *** แหล่งข่าวระบุว่าผลกระทบของแผ่นดินไหวจะส่งผลเป็นลูกโซ่ (สู่เหตุการณ์ต่างๆ) และจะมีข่าวปรากฏในสื่อว่า พายุเซิร์ส (อาตมาไม่เข้าใจแต่ได้ยินมาว่าเคยเกิดขึ้นแถบๆ อเมริกา มีความรุนแรงมาก กรุณาศึกษาเพิ่มเติม)
    ขออนุญาตแจ้งเหตุการณ์ปี ๒๕๕๔ ที่สำคัญๆ ไว้เพียงเท่านี้ แต่ที่ได้รับแจ้งมาจากแหล่งข่าวนั้น ในปีหน้า ๒๕๕๕ มีเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับภัยธรรมชาติซึ่งส่งผลกระทบต่อมนุษย์อย่างรุนแรงและแปลกประหลาดอีกหลายเหตุการณ์ ซึ่งจะแจ้งเตือนในคราวต่อไป
    ในการทำหนังสือแจ้งเตือนมาในครั้งนี้ อาตมภาพทราบดีว่าจะเกิดความตื่นตระหนกและความลังเลสงสัยต่อท่านและผู้ที่รับทราบ เพราะเป็นเหตุการณ์ในอนาคต พ้นวิสัยการรู้เห็นโดยทั่วไปของมนุษย์เรา
    การแจ้งเตือนครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลดีต่อตัวอาตมภาพเองเลย ซ้ำอาจจะเกิดโทษดังเช่นกรณีของคุณสมิทธ ธรรมสโรช ที่ออกมาเตือนเรื่องโอกาสที่จะเกิดสึนามิในฝั่งทะเลอันดามันก่อนปี พ.ศ.๒๕๔๗ ซึ่งในครั้งนั้น มีผู้โจมตีการแจ้งเตือนของคุณสมิทธอย่างมาก ซึ่งท้ายที่สุดเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นจริงๆ โดยไม่ได้เตรียมการรับมือ เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
    ซึ่งขณะนั้นอาตมภาพยังเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ ๓ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เดินทางร่วมกับคณะเพื่อนนักศึกษาไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่จังหวัดพังงา เดินทางถึงวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๔๗ และอยู่เป็นอาสาสมัครอยู่ในทีมพิสูจน์ศพของทีมแพทย์ศิริราชและแพทย์รามาฯ ที่วัดบางม่วงและวัดย่านยาว ได้เกิดความสังเวชที่ได้เห็นพี่น้องชาวไทยและต่างประเทศ ลูกเล็กเด็กแดงล้มตายเป็นจำนวนมาก แต่ในการเพียรพยายามทำหนังสือแจ้งเตือนมายังท่านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเตรียมการป้องกันและรับมือภัยพิบัติในครั้งนี้ เป็นความเมตตาสงสารเพื่อนร่วมโลกไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือประเทศไหนๆ ของอาตมภาพที่ไม่อยากให้มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น และอาตมภาพและแหล่งข่าวไม่ได้ต้องการชื่อเสียงอันเป็นเรื่องของโลกและไม่ต้องการเป็นข่าวใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากต้องการความสงบวิเวกในการปฏิบัติธรรม ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ
    ......................................................................
    สำหรับรายละเอียดของเหตุการณ์นั้น แหล่งข่าวเพื่อนสหธรรมิกท่านทราบรายละเอียดอีกมากที่ได้แจ้งให้อาตมภาพได้ทราบ และปัจจุบันพำนักปฏิบัติธรรมอยู่ที่เดียวกัน อาตมภาพและเพื่อนสหธรรมิกพร้อมจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมและร่วมดำเนินการรับมือกับภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นร่วมกับท่านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกำลังและวิธีการที่จะช่วยได้ โดยสามารถติดต่อมายังอาตมภาพหรือเดินทางมาสอบถามด้วยตนเองที่สำนักสงฆ์ป่าถ้ำธารน้ำลอด โดยอาตมภาพไม่ต้องการให้จดหมายแจ้งเตือนนี้ปรากฏสู่สาธารณะอันจะปรากฏเป็นข่าวในสื่อต่างๆ ประเทศไทยโชคดีอยู่อย่างหนึ่งคือ เป็นดินแดนที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง มีผู้มีบุญบารมีลงมาเกิดเพื่อบำเพ็ญเพียรหรือสะสมบุญบารมีอยู่มาก และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยคุ้มครองดูแลรักษาชาวพุทธและประเทศไทยเพื่อให้พระศาสนาดำรงอยู่จนตลอดอายุพระศาสนาคือ ๕,๐๐๐ ปี และการแจ้งเตือนครั้งนี้ก็มาจากวิธีพิเศษที่มีปรากฏขึ้นจริงในผู้ปฏิบัติตามหลักธรรมคำสั่งสอนของพระบรมศาสดา เพื่อช่วยประชาชนชาวสยามบนถิ่นแหลมทองแห่งนี้
    ด้วยอำนาจของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์สาวก และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ปกปักรักษาสยามประเทศ ได้โปรดอำนวยพรให้ท่านและผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องนำไปพิจารณา และประสบความสำเร็จในการเตรียมการรับมือกับมหาภัยพิบัติ อันจะเป็นเครื่องป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องเพื่อนร่วมโลกที่หวังความช่วยเหลือจากท่านเป็นจำนวนมาก และเหลือระยะเวลาเตรียมการเพียงแค่ประมาณ ๓ เดือนในครั้งนี้ด้วยเทอญ
    ขอเจริญพร
    พระกัมมัฏฐาน ปวตฺตโน
    สำนักสงฆ์ป่าถ้ำธารน้ำลอด หมู่ที่ ๙
    ตำบลทุ่งระยะ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร
    ครับ...๑.จดหมายนี้พระท่านไม่ได้ส่งให้ผม ๒.ระบุว่า "ไม่ต้องการให้จดหมายแจ้งเตือนนี้ปรากฏต่อสาธารณะ" ฉะนั้น ที่ผมนำเผยแพร่นี้ถือว่าผิดต่อเจตนาท่าน แต่ที่นำลงก็ด้วยประสงค์สร้าง "ทางไม่ประมาท" ทั่วๆ กันเท่านั้น จึงโปรดเมตตาอภัย.
     

แชร์หน้านี้

Loading...