เว็บพลังจิต ปฎิทินพลังจิตธรรมสัญจร 54

แจ้งผังที่นั่ง... ธรรมสัญจร (๓)

... เรียนสมาชิกร่วมเดินทางทุกท่านทราบ ขออนุญาตแจ้งความคืบหน้าเรื่อง ทริปธรรมสัญจร (๓) พิธีสมโภชพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง-กราบพระสุปฎิปันโน-นมัสการสักการะพระพุทธบาทเขาวงพระจันทร์-ย้อนรอยโครงการพระราชดำริลุ่มน้ำป่าสัก "เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์" จ.ชัยภูมิ-ลพบุรี วันที่ ๑๒-๑๓ ก.พ. ๕๔ รวม ๒ วัน ๑ คืน ให้ทุกท่านทราบโดยพร้อมเพรียงกัน ดังนี้

๑. การเดินทาง
รถตู้ปรับอากาศ VIP ๑๐ ที่นั่ง จำนวน ๔ คัน
- ลับแล ๑ จำนวน ๑๐ คน
- ลับแล ๒ จำนวน ๑๐ คน
- ลับแล ๓ จำนวน ๑๐ คน
- ลับแล ๔ จำนวน ๑๐ คน
รวมสมาชิกร่วมเดินทาง ๔๐ คน

๒. ผังที่นั่ง
เมื่อสมาชิกเดินทางถึงจุดนัดพบ ขอให้แจ้งชื่อ-หมายเลขรถ (ลับแล ๑-ลับแล ๔) และแถวที่นั่งให้กับเจ้าหน้าที่ทราบ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการตรวจสอบรายชื่อก่อนขึ้นรถ

​

๓. วัน, เวลา/สถานที่ขึ้นรถ
วันเสาร์ ที่ ๑๒ ก.พ.๕๔
เวลา ๐๕.๐๐ น. จุดนัดพบ ปั๊มน้ำมัน ปตท.สนามเป้า
๐๕.๑๕ น. ล้อหมุน

๔. การแต่งกาย
- เสื้อบึงลับแลสีครีม* กางเกงตามอัธยาศัย
- ชุดขาว
- ผ้าไทย หรือตามอัธยาศัย

๕. อาหารและน้ำดื่ม
โรงทาน และตามอัธยาศัย

๖. กิจกรรมบุญในทริปนี้
- ร่วมถวายปัจจัย-วิหารทาน-ธรรมทาน-สังฆทาน-ชำระหนี้สงฆ์ สำนักสงฆ์ชัยผาผึ้ง
- ร่วมถวายปัจจัย-วิหารทาน-ธรรมทาน-สังฆทาน-ชำระหนี้สงฆ์ วัดเขาวงพระจันทร์

๗. ยอดเงินรวมบุญ ณ วันที่ ๖ ก.พ.๕๔ จำนวน ๒,๐๑๑ บาท
(อ้างอิงจากหน้าที่ ๗ คคห.ที่ ๑๓๔)

๘. ทั่วไป

- การปฎิบัติ
​

ทริปนี้สถานที่แรกที่ไ่ปคือ ร่วมพิธีสมโภชพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง มีพระเถรานุเถระผู้ใหญ่มาร่วมพีธีหลายองค์ การแต่งกายไปร่วมพิธีและการปฎิบัติตัวในการร่วมงาน ขอให้เคารพสถานที่และปฎิบัติตามระเบียบตามที่ผู้จัดงานได้แจ้งไว้
- สภาพเส้นทาง
เส้นทางของการไปนมัสการพระพุทธบาทเขาวงพระจันทร์ ต้องเดินเท้าขึ้นเขาระยะทาง ๑,๖๘๐ เมตร (บันได ๓,๗๙๙ ขั้น) ขอให้ทุกท่านเตรียมกายและใจให้พร้อม
- การพักผ่อน
การพักที่วัดที่ต้องนอนรวมกับคนหมู่มาก เพราะฉะนั้นความสะดวกสบายจะไม่เทียบเท่ากับที่บ้าน สมาชิกท่านใดที่เพิ่งร่วมเดินทางเป็นครั้งแรกและไม่เคยนอนพักที่วัด ขอให้วางกำลังใจให้เป็น
- สภาพอากาศ
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ขอให้ทุกท่านจัดเตรียมอุปกรณ์กันแดด-กันหนาว อาทิ แว่นกันแดด ,หมวก ,ร่ม ,เสื้อกันหนาว รวมถึงท่านที่มีโรคประจำตัว อย่าลืม นำยาของท่านไปด้วย


หมายเหตุ
* เสื้อบึงลับแล

​

 

แผนที่ สำนักสงฆ์ชัยผาผึ้ง

เอาแผนที่เส้นทางไปสำนักสงฆ์ชัยผาผึ้ง สำหรับกัลยาณธรรมที่ต้องการเดินทางไปด้วยตัวเองมาฝากกันค่ะ

จุดเริ่มต้น

๑. ปั๊มน้ำมัน ปตท. สาขาสนามเป้า ใช้เส้นทาง ถ.วิภาวดีรังสิต เข้าสู่ถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข ๑) จนถึงสระบุรี
๒. เลี้ยวขวาเข้าถนนมิตรภาพ (ทางหลวงหมายเลข ๒) จากสระบุรีถึงสี่แยก อ.สีคิ้ว ให้เลี้ยวซ้ายเข้า อ.ด่านขุนทด (ถนนหมายเลข ๒๐๑) ผ่านสี่แยกหนองบัวโคก ให้ตรงไป อ.จตุรัส (ถนนหมายเลข ๒๑๗๙) ผ่านหน้าโรงเรียนหนองบัวใหญ่ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนหมายเลข ๒๑๗๐ วิ่งตรงไปจนถึงแยกหนองบัวระเหวให้เลี้ยวขวาไปชัยภูิมิ (ถนนหมายเลข ๒๒๕)
๓. ทางเข้าสำนักสงฆ์ชัยผาผึ้ง อยู่ประมาณหลักกิโลเมตรที่ ๑๘ จุดสังเกตุหน้าปากทางเข้าเป็นสถานีอนามั<wbr>ยบ้านหลุบโพธิ์
๔. ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนข้างสถานีอนามั<wbr>ยบ้านหลุบโพธิ์ วิ่งตรงไปเรื<wbr>่อย ๆ ผ่านโรงเรียนบ้านหลุบโพธิ์<wbr> จนถึงสามแยกให้เลี้ยวซ้าย วิ่<wbr>งไปตามถนนลาดยาง จนถึงสี่แยกบ้<wbr>านดอนไฮให้เลี้ยวขวาข้ามสะพานคลองชลประทาน
๕. วิ่งตรงไปเรื่อย ๆ จนถึงหมู่บ้านตลาดแร้ง เมื่อไปสุดปลายทางหมู่บ้านให้เลี้ยวขวา เส้นทางต่อจากนี้เป็นถนนลูกรังแคบ ๆ ระยะทางประมาณ ๙ กม. ปลายทางคือ สำนักสงฆ์ชัยผาผึ้ง

​

อ้างอิงแผนที่ประกอบจากเว็บ http://thaipagoda.wordpress.com

 

ขอบคุณทุกคำอวยพรและของขวัญเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด (๙ ก.พ.) ทั้งทางหน้ากระทู้-PM-โทรศัพท์- SMS - ไปรษณีย์ - E-Mail และ Facebook ขอให้คำพรนั้นย้อนกลับไปสู่ผู้อวยพรทุกท่านด้วยทุกประการค่ะ

​

<style type="text/css">#avg_ls_inline_popup { padding: 0px; overflow: hidden; position: absolute; z-index: 9999; margin-left: 0px; margin-top: 0px; width: 240px; word-wrap: break-word; color: black; font-size: 10px; text-align: left; line-height: 13px; }</style>

 

ด่วน! ....เปิดรับสมาชิกร่วมเดินทางทดแทน

.....สืบเนื่องจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองที่กำลังดำเนินอยู่ ทำให้สมาชิกจำนวน ๒ ท่านงานเข้าไปไม่ได้ ตามรายชื่อ ดังนี้

๑. คุณอัสนี (๑)
๒. คุณอัสนี (๒)

คุณอัสนีแจ้งความประสงค์ขอร่วมบุญโดยการมอบที่นั่งจำนวน ๒ ที่ให้กับสมาชิกทุกท่านที่ประสงค์จะร่วมเดินทาง

จึงขอประกาศเปิดรับสมาชิกร่วมเดินทางทดแทน จำนวน ๒ ที่นั่ง (ฟรี)

กัลยาณธรรมท่านใดมีความประสงค์จะร่วมเดินทาง ขอให้มาโพสท์แจ้งชื่อที่หน้ากระทู้

ขออนุโมทนากับทั้ง ๒ ท่านด้วยทุกประการ


สำหรับสมาชิกที่เหลือ อย่าลืม พรุ่งนี้ (ส.ที่ ๑๒ ก.พ.) เวลา ๐๔.๕๐ น. เรามีนัดกันที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.สนามเป้า ล้อหมุน เวลา ๐๕.๐๐ น. ท่านใดไม่รักษาเวลา..... เราจะไปรอท่านที่ชัยภูมิค่ะ

 

ที่นั่งทดแทน (ฟรี) ๒ ที่ เต็มแล้วจ้ะ

ขออนุญาตแจ้งรายนามสมาชิกผู้ร่วมเดินทาง ณ วันที่ ๑๑ ก.พ. ๕๔ (ปรับปรุงใหม่) ดังนี้

รายนามผู้ร่วมเดินทาง
๑. คุณ ญ.ผู้หญิง
๒. คุณ Pirita
๓. คุณขวัญ09
๔. คุณเหมียว
๕. คุณชู
๖. คุณ sisne (๑)
๗. คุณ sisne (๒)
๘. คุณกาลกตา
๙. คุณ maithong (๑)
๑๐. คุณ PORNPIMOL
๑๑. คุณ kuppa20 (๑)
๑๒. คุณ kuppa20 (๒) (เมารถ)
๑๓. คุณชุติกาญจน์
๑๔. คุณ odinid
๑๕. คุณอัสนี (๑) คุณพิชญ์ ทดแทน
๑๖. คุณอรวรรณ
๑๗. คุณอุ่นเรือน
๑๘. คุณพรทิพย์
๑๙. คุณ HeartofDragon
๒๐. คุณภรภิตา
๒๑. คุณ อ.เหม
๒๒. คุณเบญจขันธ์
๒๓. คุณตาเถน (๑)
๒๔. คุณตาเถน (๒) (เมารถ)
๒๕. คุณ Ninana (สุวัฒน์)
๒๖. คุณ Ninana (นินันท์)
๒๗. คุณกอล์ฟ
๒๘. คุณหวาน
๒๙. คุณปรมภัทร
๓๐. คุณภวัคร
๓๑. คุณอัสนี (๒) (เมารถ) คุณละ ทดแทน
๓๒. คุณยุพิน (๑)
๓๓. คุณยุพิน (๒)
๓๔. คุณ interionut
๓๕. คุณเต็ง
๓๖. คุณสายท่าขนุน (สุขภาพขา)
๓๗. คุณฐานิดา (สุขภาพหลัง)
๓๘. คุณร่มบุญ (๑)
๓๙. คุณร่มบุญ (๒)
๔๐. คุณ maithong (๒)

รวมผู้ร่วมเดินทาง ณ วันที่ ๑๑ ก.พ. ๕๔ จำนวน ๔๐ คน (เต็ม)

 

งานจดทะเบียนสูงที่สุดในโลก ณ เขาวงพระจันทร์

ขออนุญาตแจ้งข่าวประชาสัมพั<wbr>นธ์ให้กับการท่องเที่ยว จ.ลพบุรีเสียหน่อยว่า เขาวงพระจันทร์มีการจัดงาน<wbr><wbr><wbr> "สูงเสียดฟ้า วิวาห์รักเขาวงพระจันทร์ ครั้งที่ ๑" ณ ลานวัดเขาวงพระจันทร์ ตำบลห้วยโป่ง อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี

รายละเีอียด
๑. สมัครได้ตั้งแต่วันที่ ๑-๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ณ ที่ว่าการอำเภอโคกสำโรง
๒. คู่รักต้องแต่งกายในชุดไทยเสื้อคอจีน นุ่งโจงกระเบนสำเร็จ
๓. ระหว่างทางมีฐานเล่นเกมจำนวน ๔ ฐาน คู่ไหนมีคะแนนสะสมมากที่สุดเป็นผู้ชนะ
๔. ทุกคู่ที่ขึ้นไปถึง จะได้รับการจดทะเบียนสมรสบนยอดเขาโดยนายทะเบียนพร้อมกับจัดเตรียมชุดวิวาห์ และจัดห้องภาพไว้บนยอดเขาเพื่อบันทึกภาพของคู่วิวาห์ไว้เป็นที่ระลึก

รางวัล
ผู้ชนะเลิศ : แหวนเพชรมูลค่า ๓ หมื่นบาท และแหวนทองคำมูลค่า ๑ หมื่นบาท
รองชนะเลิศ : ลำดับที่ ๒-๙ แหวนทองคำมูลค่า ๑ หมื่นบาท
รางวัลปลอบใจ : ประกาศนียบัตร

คู่รักคู่ใดสนใจจะร่วมกิจกรรมขอเรียนเิชิญได้ค่ะ ส่วนชาวคณะฯ เมื่อวานว่าจะส่งตัวแทนเข้าร่วมสมัครแต่ แหม! รับสมัครแต่คู่รัก (ว่าที่สามี-ภรรยา) ไม่มีการรับสมัครคู่รัก (เพื่้อน) ไม่เช่นนั้นอาจจะได้อีกหลายคู่ แต่ข่าวล่ามาเร็วที่ชัวร์ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานจดทะเบียนเลย คือวันเดินทางกลับสมาชิกหลายคนออกอาการเดี้ยงและตอนจะเดินข้ามสะพานลอยแค่เห็นขั้นบันไดก็ผวาเชียวค่ะ ฮิ ฮิ ฮิ
​

 

แจ้งสรุปจำนวนเิงินร่วมบุญในทริปธรรมสัญจร (๓)

.. ชาวคณะเดินทางกลับมาถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ ผ่านการพิชิตบันไดขึ้นเขาวงพระจันทร์ไป-กลับ จำนวน ๗,๕๘๙ ขั้น ได้อย่างไม่มีผู้ใดบอบช้ำ เรียกว่างานนี้ "สอบผ่าน" กันแบบ.... ทั่วทุกคน

ขออนุญาตแจ้งยอดเงินที่ชาวคณะและกัลยาณธรรมทุกท่านร่วมบริจาคทำบุญในทริปธรรมสัญจร (๓) พิธีสมโภชพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง-สักการะพระพุทธบาทเขาวงพระจันทร์-ย้อนรอย โครงการพระราชดำริลุ่มน้ำป่าสัก "เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์" เพื่อให้ทุกท่านได้รับทราบและอนุโมทนาบุญร่วมกัน ดังนี้

- ถวายปัจจัยพระเถรานุเถระ วิหารทาน ธรรมทาน สังฆทาน ชำระหนี้สงฆ์ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง จำนวน ๗,๑๐๐ บาท
- ถวายวิหารทาน ธรรมทาน สังฆทาน ชำระหนี้สงฆ์ วัดเขาวงพระจันทร์ จำนวน ๔,๐๐๐ บาท
- ถวายวิหารทาน ธรรมทาน สังฆทาน ชำระหนี้สงฆ์ วัดเกริ่นกฐิน จำนวน ๑,๔๐๐ บาท

รวมเิงินร่วมบุญ จำนวน ๑๒,๕๐๐ บาท

- กราบขอบพระคุณเว็บพลังจิต/วัดท่าขนุน/สะพานบุญ และเจ้าหน้าที่ที่ได้มอบพื้นที่สำหรับกิจกรรมบุญในครั้งนี้
- กราบโมทนากัลยาณธรรมทุกท่านที่ได้ร่วมบุญ ร่วมโมทนาในครั้งนี้
- และขอขอบคุณสมาชิกทั้ง ๓๙ ท่านที่ไ่ด้ร่วมเดินทางสืบสานต่อกิจกรรมบุญกันตามวาระธรรมะจัดสรร

พบกันใหม่กับกิจกรรมบุญประจำเดือน มีนาคม
- ธรรมเฉพาะกิจ (๑) พิธีพระราชทานเพลิงศพ "หลวงตามหาบัว" จ.อุดรธานี วันที่ ๕ มี.ค.
- ธรรมสัญจร (๔) นมัสการสักการะรอยพระพุทธบาทพลวง (คิชฌกูฎ) วันที่ ๒๖ มี.ค.

โมทนาค่ะ


หมายเหตุ
- ติดตามอ่านบันทึกการเดินทางกับความรู้สึกตอน.... ขึ้นเขาวงพระจันทร์ กับร่วมรับชมภาพจากกล้องของสมาชิกทุกท่านได้ที่นี่เร็ว ๆ นี้

 

บันทึกการเดินทาง ตอน...ธรรมะจัดสรร

.....ทริปนี้เป็นกิจกรรมบุญธรรมสัญจรที่ ๓ ตามปฎิทินธรรมสัญจร ๒๕๕๔ ครั้งแรกที่เตรียมการเดินทาง หัวใจหลัก คือการไปร่วมงานเทศกาลนมัสการสักการะพระพุทธบาทเขาวงพระจันทร์ ซึ่งจะมีการเปิดเขาปีละ ๑ ครั้ง ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ ๒ ก.พ.-๑๖ ก.พ.

กำหนดการพร้อม มีสมาชิกหลายท่านโทรสอบถามหลังไมค์มาตลอดตั้งแต่กำหนดการยังไม่คลอดว่า จะเดินทางไปวันไหน? ค่าเดินทางคนละเท่าไร? ได้ตอบไปว่าจะนำกำหนดการมาแจ้งให้ทราบทางหน้ากระทู้ในวันศุกร์ที่ ๗ ม.ค. คืนวันศุกร์ขณะที่กำลังจะนำกำหนดการมาลง เกิดความรู้สึกว่าวันอาทิตย์ต้องเข้าไปร่วมพิธีมุทิตาจิตสักการะพระอาจารย์ รอกลับมาจากบ้านอนุสาวรีย์แล้วค่อยเอากำหนดการมาลงดีกว่า เผื่อมีการเปลี่ยนแปลงอะไรจะได้ไม่ต้องแก้ไขมาก

เช้าวันอาทิตย์ หลังจากเข้าไปถวายสังฆทานเสร็จ ช่วงสาย ๆ หลวงพี่นิลได้เดินทางเข้ามากราบนิมนต์พระอาจารย์ไปร่วมพิธีสมโภชพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง เพียงเท่านี้ก็ทำให้ทราบถึงสาเหตุ....ที่ไม่ได้ลงกำหนดการได้ทันที ครั้งแรกที่ทราบข่าวได้แต่คิดในใจว่าจะทำอย่างไรดีเพราะถ้าตัดสินใจไปชัยภูมิก็ทำให้ไม่ได้ขึ้นเขา แต่ถ้าขึ้นเขา ชัยภูมิก็อาจจะไม่ได้ไป กำหนดการเิปิดเขาก็ใกล้จะปิด ส่วนพิธีสมโภชฯ ก็ไม่ใช่ว่าจะมีอีก กลับถึงบ้านรีบเปิดแผนที่ดูเส้นทาง เท่านั้นล่ะ..... รู้ได้ว่าสามารถวิ่งไปทั้ง ๒ สถานที่โดยไม่กระทบกับกำหนดการเดิมที่วางแผนไว้มากนัก จัดแจงปรับเปลี่ยนกำหนดการใหม่และประกาศลงกระทู้เปิดรับสมาชิกร่วมเดินทางใน วันที่ ๑๐ ม.ค.

ระหว่างการเปิดรับ ทราบดีว่า.... บททดสอบกำลังใจที่หนักมากคือ การเดินขึ้นบันไดจำนวน ๓,๗๙๙ ขั้น เพราะต่อให้กำลังใจดีขนาดไหน แต่ถ้าสภาพร่างกายไม่พร้อม สุขภาพไม่พร้อม งานนี้จบแน่นอน สมาชิกที่กำลังใจและกำลังกายพร้อมหลายท่านทยอยลงชื่อกันเข้ามาเรื่อย ๆ ตั้งใจว่าจะเปิดรับเพียงแค่ ๒๐ คน แต่จำนวนสมาชิกแจ้งความประสงค์เข้ามาถึง ๓๑ คนในวันที่ ๓๑ ม.ค. ได้ประกาศปิดรับ ณ วันนั้น

หลังจากประกาศปิดรับได้ไม่ถึงครึ่งวัน มีสมาชิกแจ้งความประสงค์ขอลงชื่อร่วมเดินทางเข้ามาอีก ๔ คน ได้แจ้งทุกคนไปตรง ๆ ว่าจะลงชื่อเป็นที่นั่งสำรองก่อนถ้ามีสมาชิกถอนตัวจากการเดินทางจะจัดที่ นั่งทดแทน แต่ถ้าลงชื่อครบ ๑๐ คนจะจัดรถเพิ่มให้ จนในที่สุดก็ครบ ๔๐ คนบริบูรณ์ .....ก่อนวันเดินทางหนึ่งวันเกิดเหตุการณ์ชุมนุมฯ ทำให้มีสมาชิกงานเข้าแต่ได้เปิดรับทดแทนและเต็มอย่างรวดเร็ว ทำให้คิดว่าทริปนี้จำนวนสมาชิกเป็นเลขคู่ไม่คี่แล้วหลังจากจำนวนสมาชิกลงท้ายเลขคี่มาทั้ง ๒ ทริป (ธรรมฯ ๑-๒)

แต่แล้วในเช้าของวันเดินทางสมาิชิกท่านหนึ่งถูกบล็อกทำให้ในที่สุด..... ก็เหลือจำนวนผู้ร่วมเดินทางเพียง ๓๙ คน ลงท้ายด้วยเลขคี่ของทริปฯ ที่ ๓ ไปอย่างเป็นที่น่าแปลกใจ.......

 

บันทึกการเดินทาง ตอน...พิธีสมโภชพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง

สมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศฯ และพระเถรานุเถระ
​

.... นัดสมาชิกทุกคนไว้พร้อมกัน ณ จุดนัดพบ ปั้มน้ำมัน ปตท.สนามเป้าในเวลา ๐๔.๕๐ น. สมาชิกทุกคนเดินทางมาตามกำหนด ยกเว้น ๑ คนที่ติดต่อไม่ได้ตัดสินใจรอตามหลักสากล คือ ๑๕ นาที ครบตามกำหนดได้เวลาล้อหมุนกันในเวลา ๐๕.๑๕ น. จากเดิมที่เลื่อนเวลาล้อหมุนมาเป็น ๐๕.๐๐ น. (ธรรมะจัดสรร ๒)

ระหว่างการเดินทางได้แจกของว่างเป็นขนมและน้ำดื่มให้กับสมาชิกทุกคน ๆ ละ ๑ กล่อง เดินทางกันอย่างสบาย ๆ ไม่เร่งรีบ แวะพักเข้าห้องน้ำกันเป็นระยะ ๆ จนเข้าสู่เส้นทางช่วงสุดท้ายที่เป็นถนนลูกรังซึ่งรถทำเวลาได้ไม่ดีนักแต่ก็ยังเร็วกว่ากำหนดเพราะมาถึงในเวลา ๑๐.๐๐ น. ชาวคณะร่วมกันถวายปัจจัย แยกย้ายกันรับประทานอาหารตามโรงทานและพักผ่อนตามอัธยาศัยเพราะเวลาที่เหลือคือ รอสมเด็จฯ ท่านเสด็จมาเป็นองค์ประธาน ระหว่างนั้นหลายคนเลือกที่จะไปกราบและขอความเมตตาจากพระเถรานุเถระที่มาร่วมพิธี ชาวคณะฯ ส่วนใหญ่ปักหลักกันที่หน้าพระอาจารย์-ครูบาวิฑูรย์-ครูบาเหนือชัย กำหนดการล่าช้าจากเดิมไป ๑ ชม.

​

พระอาจารย์เมตตาถ่ายรูปกับชาวคณะ

​

เวลา ๑๓.๓๐ น. สมเด็จฯ เสด็จมาถึง คณะพระสงฆ์ตั้งแถวรอรับท่ามกลางแสงแดดยามบ่าย พิธีการต่าง ๆ ดำเนินไปตามขั้นตอนที่คณะทำงานได้เตรียมการไว้สำเร็จลุล่วง งดงามสมบูรณ์ทุึกประการ

เวลา ๑๖.๐๐ น. ชาวคณะฯ ล้อหมุนออกจากพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง สถานที่ต่อไปคือ วัดเขาวงพระจันทร์


ขอบคุณภาพจากกล้องของคุณ Pinkcivil/คุณกาลกตา

 

บันทึกการเดินทาง ตอน...โหด มันส์ เดี้ยง ณ เขาวงพระจันทร์

รอยพระพุทธบาทที่ ๔ เขาวงพระจันทร์
​

ก่อนออกเดินทางได้แจ้งสมาชิกทุกคนไปว่าเราจะไปแวะรับประทานอาหารเย็นกันระหว่างทางถ้าหิวรอบดึกค่อยไปฝากท้องกับข้าวต้มที่วัด หลายคนรับทราบและพูดคุยกันถึงเส้นทางขึ้นเขาวงพระจันทร์อย่างสนุกสนาน (เรียกว่ายังไม่รู้ชะตากรรม) เดินทางออกจากสำนักสงฆ์ผาผึ้ง ชาวคณะใช้เส้นทางผ่าน อ.เทพสถิต-อ.ลำสนธิ-อ.ชัยบาดาล-อ.โคกสำโรง สภาพเส้นทางช่วง อ.เทพสถิตเป็นเส้นทางขึ้นเขา ระหว่างทางพบเจออุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงตกเขาซึ่งคิดว่าน่าจะเพิ่งเกิดเหตุได้ไม่นานเพราะมีเจ้าหน้าที่กำลังให้ึความช่วยเหลือ คณะฯ แวะพักรับประทานอาหารเย็นกันที่จุดพักรถระหว่างทางในช่วงนี้มีสมาชิกในคณะคนหนึ่งไม่สบายมีอาการเป็นลม เลยถือโอกาสแวะพักยาวกันตรงนี้

แสงสว่างบนยอดเขา ซ้ายมือคือ รอยพระพุทธบาท ขวามือที่มีจุดสีแดงคือ ผานางฟ้า
​

๑๘.๓๐ น. ได้เวลาล้อหมุนกันอีกครั้ง เส้นทางต่อไปคือ เขาวงพระจันทร์ที่ทุกคนรอคอย จวบจนเข้าอำเภอโคกสำโรงดูนาฬิกาเป็นเวลาเกือบ ๒๐.๐๐ น. รถแล่นผ่านตลาดอันเงียบเหงา ร้านค้าปิดเกือบหมดระยะทางอีกไม่นานนั่นคือ เขาวงพระจันทร์ เพียงเลี้ยวซ้ายออกจากถนนใหญ่เพื่อเข้าสู่ถนนลาดยางที่นำทางไปสู่วัดระยะทาง ๕ กิโลเมตร ภาพเบื้องหน้าในสายตาของทุกคู่ คือ แนวดำของภูเขาลูกใหญ่ที่มีแนวไฟทอดยาวจากเบื้องล่างขึ้นสู่ยอดเขา ดูงดงามและเรียกความตื่นตาตื่นใจจากสมาชิกหลายคนที่เพิ่งเคยเดินทางมาเป็นครั้งแรก

​

ยิ้มหวานหน้ากุฎิหลวงปู่ ก่อนเดินขึ้นเขา แบบคนไม่รู้ชะตากรรม
​

จากความสูงของภูเขาที่ดูเล็กในระยะไกล ค่อย ๆ กลายเป็นสูงมากขึ้นเมื่อรถแล่นเข้ามาใกล้ ผ่านบริเวณวัดที่มีการจัดงานมหรสพ บรรดาพ่อค้าแม่ค้าขายของละเล่นและของกินสารพัด รถแล่นไปจอดสนิทหน้าโรงเจ ลงจากรถได้หญิงรีบติดต่อเจ้าหน้าที่วัดที่ได้ประสานงานไว้เพื่อนำสัมภาระเข้าที่พักและอาบน้ำก่อนขึ้นเขา จากเดิมชาวคณะฯ ทั้งหมดจะพากันเดินเท้าขึ้นสู่ยอดเขาและไปพักค้างคืนด้านบน แต่จากสภาพความสูงที่มองเห็น สมาชิกที่เป็น สว. ๒ คนประกาศขอสละสิทธิ์ เลือกใช้ตัวช่วยที่จะนอนพักด้านล่าง ที่เหลืออยู่ระหว่างการตัดสินใจ (อีกครั้ง) เมื่อกาลกลับกลายเป็นเช่นนี้ จึงขอความเมตตาจากหลวงพ่อที่ดูแลเรื่องที่พักขอเปิดห้องด้านล่างเพิ่มอีก ๒ ห้อง (แยกชาย-หญิง) สำหรับให้ได้พักพร้อมกับแจ้งทุกคนว่า ให้ทุกคนตัดสินใจด้วยตัวเองและให้เกาะกลุ่มเดินขึ้นตามอัธยาศัย ใครจะอาบน้ำด้านล่างก่อนขึ้นหรือจะขึ้นไปอาบน้ำด้านบนก็ตามใจ แต่ขอให้ทุกคนทำตัวให้เบาที่สุด นำไปเฉพาะสิ่งของที่จำเป็น สัมภาระที่เหลือให้เก็บไว้ในห้อง สมาชิกท่านใดขึ้นไปถึงก่อนให้แจ้งเจ้าหน้าที่เรื่องที่พักเพราะได้จองไว้แล้ว เวลาที่เดินลงจากเขาในตอนเช้าจะเลือกลงเวลาใดก็ได้ แต่ ๐๙.๐๐ น. ทุกคนต้องพร้อมกันที่หน้าเรือนนอน เพื่อไปกราบหลวงปู่ฟักและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในบริเวณวัด และจะล้อหมุนออกจากวัดในเวลา ๑๐.๓๐ น. เพื่อเดินทางตามโปรแกรมต่อไป ทุกคนรับทราบและหลายคนเลือกที่จะเดินขึ้นทันที หลายคนเลือกที่จะไปเดินดูสิ่งของที่วางขายสารพัดภายในบริเวณงาน หลายคนเลือกที่จะอาบน้ำก่อน แต่ก็มีอีกหลายคนที่ขอนอนเก็บแรงก่อนเดิน

​

เคลียร์ทุกอย่างด้านล่างพร้อม เวลา ๒๑.๐๐ น. หญิงและสมาชิกกลุ่มเล็ก ๆ เริ่มก้าวเดินจากที่พัก เพื่อขึ้นสู่ยอดเขาวงพระจันทร์ในสภาพเป้หลังที่บรรจุของใช้ส่วนตัวที่จำเป็นคนละ ๑ ใบ ถุงนอนคนละ ๑ ถุง ไม่มีใครเลือกอาบน้ำก่อนสักคน หลายคนตื่นเต้นกับการเดินว่าจะขึ้นไหวหรือไม่ ช่วงแรกของการเดินทางเพื่อไปสู่จุดเริ่มต้น ทุกคนยังร่าเริง เดินไป แวะกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และถ่ายรูปกันไป สภาพเส้นทางเป็นถนนปูนเทลาดไปตามไหล่เขาก่อนที่จะถึงลานกว้างหน้าต้นโพธิ์ใหญ่ สถานที่นี้เอง คือ ซุ้มประตูที่จะนำไปสู่เส้นทางขึ้นยอดเขากับบันได ๓,๗๙๙ ขั้น

บันไดที่นำทางขึ้นไปสู่บริเวณลานโพธิ์

​

ทรุดตัวลงนั่งกราบขอพรตรงบันไดขั้นแรก ขอบารมีหลวงปู่ หลวงพ่อท่านช่วยสงเคราะห์แล้วก็ได้เวลาเดินผ่านซุ้มประตูขึ้นไป สภาพเบื้องหน้าคือถนนปูนแคบ ๆ ระยะทางยาวประมาณ ๒๐๐ เมตรลาดสูงขึ้นไปตามไหล่เขา ด้านซ้ายมือคือสระน้ำขนาดกลางและแนวป่าตลอดสองข้างทาง ผ่านต้นตะเคียนใหญ่ซึ่งมีผ้าแพรสีผูกมากมายพร้อมกับรอยแป้ง เบื้องหน้าคือ สภาพบันไดปูนขนาดกว้างประมาณ ๒ เมตร แยกออกเป็นด้านซ้าย-ขวาโดยมีราวบันไดเป็นตัวกั้นสำหรับให้ยึดจับตรงกลาง มองไล่ตามแนวบันไดขึ้นไปเห็นจุดพักเป็นระยะ ๆ ก้าวขาขึ้นบันไดกำหนดจิตภาวนาไปเรื่อย ๆ กำหนดจุดพักในใจว่าจะพักทุกชานพักด้านบน ระยะทาง ๑๐๐ เมตรแรกมีผู้คนเดินสวนลงมาหนาตาแต่ไม่ถึงกับแน่น ส่วนมากจะเป็นวัยรุ่นที่มากันเป็นกลุ่มเปิดเพลงจากโทรศัพท์และพูดจาส่งเสียงดัง ถึงจุดพักแรก ที่นี่มีน้ำ-เครื่องดื่มทุกประเภททั้งร้อนและเย็นจำหน่าย และที่ขาดไม่ได้คือ ไส้กรอก-ข้าวโพดอบเนย ราคาน้ำดื่มอยู่ที่ ๒๐ บาท ส่วนไส้กรอกและข้าวโพดอยู่ที่ชุดละ ๑๐ บาท ณ จุดพักนี้เจอสมาชิกหลายคนที่เดินขึ้นมาล่วงหน้านั่งพักดื่มน้ำคลายความเหนื่อย หลายคนยังยิ้มแย้มแจ่มใส น้ำเสียงร่าเริง รอจนสมาชิกอีกหลายท่านเดินขึ้นมาสมทบ พร้อม.....ได้เวลาออกเดินเป็นกลุ่มใหญ่กันเสียที

ชาวคณะ ณ ชานพักแรก
​

ช่วง ๘๐๐ เมตรแรกสภาพเส้นทางเดินขึ้นแบบสบาย ๆ เริ่มชันในช่วง ๔๐๐ เมตรหลัง สมาชิกหลายคนเริ่มเกิดอาการยิ้มไม่ออก พูดไม่เป็นและหายใจทางปากแทนจมูก จากนั่งพักตามจุดพักกลายเป็นเริ่มจะออกอาการนอนพัก จากที่เกาะกลุ่มเดินมาเป็นคณะใหญ่แถวเริ่มแตก ใครไหวเดินขึ้นไปก่อน ใครไม่ไหวนั่งพักให้หายเหนื่อยแล้วค่อยเดินต่อ จนเหลืออีกเพียง ๓ ชานพักจะถึงยอดเขา ซึ่งเป็นช่วงที่ชันที่สุด แคบที่สุดและอันตรายที่สุด เนื่องจากเป็นบันไดโค้งหักศอกและเมื่อโผล่พ้นโค้ง สิ่งที่เข้ามาปะทะทันที คือลมที่พัดกรรโชกแรงชนิดคนตัวเล็กหรือรูปร่างบอบบางมีสิทธิ์ปลิว หรือถ้าก้าวพลาดลื่นไถลพ้นออกนอกขั้นบันไดมีหวังได้ร่วงตกเขาตาย ได้แต่คุมสติไว้ให้มั่นและภาวนาไปตลอด ขาเริ่มหนักชนิดยกเกือบไม่ขึ้น เนื่องจากต้องระวังเรื่องกระแสลมที่กรรโชกมาเป็นระยะ ๆ ระวังเรื่องสัมภาระที่แบกขึ้น ระวังเรื่องคนที่ไม่รักษาระเบียบเดินผิดฝั่งสวนมา ใจได้แต่วางและคิดว่า ใกล้ถึงแล้ว.... อีกไม่ไกลก็ถึงแล้ว...จนขึ้นถึงซุ้มประตูด้านบนที่มีก้อนหินใหญ่ตั้งอยู่หน้าซุ้มเป็นอันสิ้นสุดระยะทางจำนวนบันได ๓,๗๙๙ ขั้นของเขาวงพระจันทร์

ก้อนหินใหญ่และซุ้มประตูด้านบน สัญลักษณ์ว่าถึงจุดสิ้นสุดของบันไดแล้ว
​

รีบเดินไปตีระฆังที่แขวนเรียงรายใกล้ ๆ ซุ้มประตูเป็นเครื่องสักการะ ก่อนที่จะเดินไปกราบพระประธานในศาลา และกราบเรียนถามหลวงพี่ถึงเรื่องที่พักที่ได้ติดต่อไว้ ท่านเมตตาให้เ้จ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้ ที่เหลือจากนั้นคือ แยกย้ายกันอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย กราบรอยพระพุทธบาท และที่ขาดไม่ได้ คือข้าวต้มมื้อดึก ณ ยอดเขาวงพระจันทร์ ดูนาฬิกาข้อมือ พวกเรานั่งกินข้าวต้มกันในเวลา ๒๔.๐๐ น.

เส้นทางไปผานางฟ้า
​

กินเสร็จกลุ่มหนึ่งแยกย้ายกันไปพักผ่อน หญิงและสมาชิกอีก ๕ ท่านเดินเท้าต่อกันไปที่ผานางฟ้า ตลอดแนวเส้นทางทั้งกระแสลมและหมอกลอยผ่านร่างไปมา อากาศเย็นยะเยือก แต่ไม่เป็นที่ครณา.....กำลังใจสูงเสียอย่าง สภาพแวดล้อมที่เหลือก็กลายเป็นสสารไปในทันที กลับมาถึงศาลาที่พัก หญิงพาทุกคนเดินเท้าลงไปด้านหลังรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมเพื่อลงถ้ำไปลอดใต้รอยพระพุทธบาท เมื่อเข้าไปในโพรงถ้ำนางศรีประจันต์ แหงนมองด้านบนนั้นคือส่วนใต้ของหินที่มีรอยพระพุทธบาทที่ ๔ ประดิษฐานอยู่ (กัลยาณธรรมท่านใดเดินทางไป อย่าลืมไปมุดลอดรอยพระพุทธบาท เพราะที่พระพุทธบาทเขาวงพระจันทร์แห่งเดียวเท่านั้นที่สามารถลอดใต้รอยพระพุทธบาทเพื่อความเป็นสิริมงคลได้) เวลาที่เหลือจากนั้น คือการนอนพักผ่อนเก็บแรงไว้สำหรับเดินลงเขาในช่วงเช้า ปิดสวิทซ์ไม่รับรู้ ไม่สนใจเสียงดังจากผู้คนที่ขึ้น-ลงเพื่อมาสักการะรอยพระพุทธบาทตลอดทั้งคืน

จวบจนเวลา ๐๕.๐๐ น. รู้สึกตัวตื่นแต่อยากนอนต่อ เนื่องจากคิดว่าใช้เวลาเดินลงเขาไม่นาน แค่ ๑ ชม. ก็ถึงแล้ว แต่หลวงพี่ท่านมาประกาศบอกว่า หลวงปู่จะมารับบาตร เพียงเท่านั้น ตัวเหมือนติดสปริงรีบดีดตัวออกจากถุงนอนแถบไม่ทัน ปลุกสมาชิกที่ยังนอนให้ตื่นขึ้น บอกสั้น ๆ แต่เพียงว่า ใครเดินลงตอนเช้าจะได้ใส่บาตรหลวงปู่ หลายคนรีบตื่นลุกขึ้นไปล้างหน้าแปรงฟัน รวมตัวกันติดเวลา ๐๖.๐๐ น. ได้เวลาก้าวลงจากยอดเขาสู่เบื้องล่าง ตลอดเส้นทางเดินพบเจอผู้คนหลากหลายวัยทยอยเดินขึ้นมาเรื่อย ๆ ได้แต่้ร้องบอกให้กำลังใจทุกคนไปว่า อีกไม่กี่ขั้นก็ถึงแล้ว หลายคนยิ้มรับด้วยความสดชื่น แต่หลายคนก็ยิ้มรับด้วยอาการป้อแป้ไปมา ได้แต่คิดในใจโดยไม่กล้าพูดว่า "ผู้คนที่เดินขึ้นกันในเวลาเช้ากว่าจะถึงยอดเขาก็ไม่ต่ำกว่า ๐๙.๐๐ น. ไหว้พระและนั่งพักให้หายเหนื่อยแล้วเดินกลับลงมาก็คือตอนเที่ยง แล้วจะไม่ทั้งร้อนหรือเหนื่อยยิ่งกว่านี้หรือ เราเองเดินขึ้นตอนกลางคืนอากาศไม่ร้อนยังเหนื่อยเลย นับถือกำลังใจของพวกเขาจริง ๆ " เดินลงถึงเชิงเขาเข้าสู่ที่พักในเวลา ๐๗.๐๐ น. พอดิบพอดี รีบจัดกระเป๋าและอาบน้ำให้สดชื่น ก่อนที่จะไปใส่บาตรและรับประทานอาหารเช้าที่โรงทานของหลวงปู่ ระหว่างนั้น สมาชิกทยอยเดินลงมาจากเขากันเรื่อย ๆ บอกทุกคนว่าให้ทำธุระส่วนตัวให้เสร็จ

หลวงปู่เมตตาถ่ายรูปกับชาวคณะ

​

เวลา ๐๙.๐๐ น. คณะฯ พร้อมกันไปกราบหลวงปู่ ร่วมกันถวายปัจจัย ชุดสังฆทานและน้ำปานะ ก่อนที่จะกราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และไปชมพิพิธภัณฑ์มูลค่า ๑ พันล้านที่เก็บรวบรวมสิ่งของที่หลวงปู่สะสมไว้ อาคารพิพิธภัณฑ์มีทั้งหมด ๓ ชั้น ชั้นที่ ๑ จัดแสดงในส่วนของเครื่องลายคราม ชุดเบญจรงค์และข้าวของเครื่องใช้ อาทิ แหวน กำไล งาช้าง สัตว์สต๊าฟ ฯลฯ ชั้นที่ ๒ จัดแสดงพระเครื่อง มีดหมอ ชั้นนี้เป็นที่ถูกใจของสมาชิกที่มีความชื่นชอบในเรื่องพระเครื่องมาก และชั้นที่ ๓ จัดแสดงรูปภาพเก่าแก่หายากของรัชกาลที่ ๕ และของใช้่ส่วนตัวของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จบจากการเดินชมพิพิธภัณฑ์ ชาวคณะมาพร้อมกันที่หน้าเรือนนอน ระหว่างที่นั่งรอสมาชิกอีกหลายท่าน วาระเปิดที่วัดเกริ่นกฐินจึงได้เกิดขึ้น

ขอบคุณภาพจากกล้องคุณกาลกตา
ภาพที่ ๑ รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม
ภาพที่ ๒ เส้นทางลงไปใต้รอยพระพุทธบาท
ภาพที่ ๓ รูปหลวงพ่อผัก
ภาพที่ ๔ สรีระสังขารหลวงพ่อผัก ภายในโลงแก้ว
ภาพที่ ๕ มุมหนึ่งของวัดเขาวง
ภาพที่ ๖ ซุ้มประตูด้านบนยอดเขา