บันทึกของพระคุณลุงคนเชียงใหม่ถึงหลานๆ เรื่องภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ลุงคนเชียงใหม่, 21 ตุลาคม 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Aqua-ma-rine

    Aqua-ma-rine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,242
    [​IMG]

    [​IMG]

    คิดว่านะ ตอนนั้น เสียงที่ดังสนั่น จนสั่นสะเทือนเลื่อนโลก คงมาจากใต้ดิน
     
  2. ต้นที่สาม

    ต้นที่สาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2011
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +1,074
    คิดว่านะ ตอนนั้น เสียงที่ดังสนั่น จนสั่นสะเทือนเลื่อนโลก คงมาจากใต้ดิน

    แฮะๆ อย่าให้ถึงกับมีก๊อดซิลล่ามุดดินรอยแตกแผ่นดินไหวออกมานะครับ
    หรือม่ายก็มิติไปเชื่อมกับนรกโลกันต์นรกนะครับ
    เพราะสัตว์นรกเหล่านั้นตามที่อ่านมามีขนาดใหญ่ยักษ์
    เล็บยาว ไม่มีตาชินกับอยู่ในที่มืด เจออะไรกินดะ

    เพราะที่เตรียมๆ มาไม่น่าจะป้องกันได้ครับ สาธุๆๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2014
  3. คนเมืองเว้

    คนเมืองเว้ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +8
    ทำเป็นเล่น ซีเรียสนะ
    เอ แต่ถ้ามีจริงๆทำไงดี 5555
     
  4. Humra

    Humra สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2011
    โพสต์:
    149
    ค่าพลัง:
    +5
    ข้อมูลจากพระอาจารย์รัตน์
    สุริยจักรวาลของเรามีระบบการโคจรหมุนรอบกาแลคซี่ถึง 3 กาแลคซี่ด้วยกัน ได้แก่

    1 กาแลคซี่อันโดรเมดา (Andromeda Galaxy) เป็นกาแลคซี่ที่มีขนาดใหญ่มาก แผ่อิทธิพล แรงดึงดูดครอบคลุมอีกทั้งสองกาแลคซี่
    2 กาแลคซี่ทางช้างเผือก (Miky Way Galaxy) ตั้งอยู่ทางทิศตอนเหนือ
    3 กาแลคซี่ไตรแองกุลัม (Triangulum Galaxy) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกมีขนาดเล็กกว่ากาแลคซี่ทางช้างเผือก
    ใน 1 รอบของการโคจรผ่านกาแลคซี่ทั้ง 3 ของสุริยจักรวาลใช้เวลานานเท่ากับ 1 วันของจักรวาล หรือประมาณ 26,000 ปี ( 2012)ตามเวลาของโลกนั้น จะเกิดการพุ่งปะทะชนกันระหว่างพลังงานที่มีค่าเป็นลบ หรือแรงลบ กับพลังงานที่มีค่าเป็นบวก หรือแรงบวก ซึ่งมีสาเหตุเนื่องมาจากการที่ระบบสุริยะของเราถูกดึงไปติดขอบกาแลคซี่ทั้ง 3 ถึง 5 ครั้งด้วยกัน ซึ่งการถูกดึงติดขอบแต่ละครั้งจะทำให้พลังงานแรงดึงดูดจากศูนย์กลางหรือเส้น แรงแม่เหล็กเกิดการหมุนย้อยกลับมีค่าเป็นลบ ในขณะที่พลังงานแรงดึงดูด หรือเส้นแรงแม่เหล็กจากศูนย์กลางกาแลคซี่ใหญ่ หรือกาแลคซี่อันโดรเมดา มีค่าเป็นบวกหรือแรงบวก หากเมื่อใดระบบสุริยะโคจรมาอยู่ในแนวกึ่งกลางระหว่างกาแลคซี่ทั้ง 3 และอยู่ในแนวทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อนั้น จะเกิดการปะทะพุ่งชนอย่างรุนแรง ระหว่างพลังงาน แรงดึงดูดที่มีค่าเป็นบวกของกาแลคซี่อันโดรเมดากับพลังงานแรงดึงดูที่มีค่า เป็นลบของสองกาแลคซี่ คือ กาแลคซี่ทางช้างเผือก กับกาแลคซี่ไตรแองกุลัม ทำให้เกิดประกายไฟสว่างจ้าไปทั่วจักรวาล
    (เหมื่อนกับฟ้าผ่า) ดาวฤกษ์ทุกดวงในกาแลคซี่ทั้ง 3 ต่างได้รับแสงสว่างนี้โดยทั่วถึงกัน สุริยจักรวาลได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง จนทำให้เกิดการยุบตัวลงของทวีปและเกิดน้ำท่วม

    ความเห็นส่วนตัวเสียงที่ดังมาก คงจะมาจากสาเหตุนี้:cool:
     
  5. คนเมืองเว้

    คนเมืองเว้ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +8

    ถ้าตามข้อมูลนี้ถูกต้องก็ต้องเรียกว่า
    แสงสว่างที่เกิดขึ้นต้องเรียกว่า จักรวาลแลบ(ใหญ่กว่าฟ้าแลบ)
    และตามมาด้วยจักรวาลร้อง(ดังกว่าฟ้าร้อง)
    คงไม่เฮงขนาดจักรวาลผ่ามาที่โลกนะครับ ม่ายงั้นคงเกรียมไปทั้งโลก
     
  6. rawats_99

    rawats_99 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +1,947
    ผมว่าน่าจะต้องเตรียมตัวในการบันทึกปรากฏการอย่างนี้เอาไว้น่ะครับ...เพราะ
    1) เราเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ของจักรวาลใช่ว่าจะมีประสบการณ์แบบนี้กันได้ง่าย 26000 ปีมีครั้งเดียว
    2) เพื่อให้ชนรุ่นหลังไม่ต้องสงสัยกันอีกว่าจะเกิดมั้ย..อะไรจะเกิด..หรือเกิดอะไรขึ้น...ทำไมคนตายกันหมดโลก...หรือทั้งหมดเป็นเพียงประสบการณ์เดียวกับการลวงโลกอย่างอื่น...โอล่ะพ่อ..
    3) เพื่อเป็นขอพิสูจน์เรื่องสมมติฐานต่างๆที่แต่ละสำนักแต่ละอาจารย์ได้ให้ข้อมูลกันมา...อ้อแล้วอย่างลืมบันทึกข้อมูลต่างๆที่ได้จากแต่ละสำนักด้วยน่ะครับจะได้อ้างอิงได้ว่าใครให้ข้องมูลผลเป็นอย่างไร...ความคลาดเคลื่อนของข้อมูล +/- 100 ปี..ดีมั้ย?
    4) เพื่อไขข้อข้องใจต่างๆเกี่ยวกับชาวมายัน...ชาวกรีก...ชาวอียิป...ชาวเขมร...ชากังราว...ชาวมุ้ง..หรือจะชาวอะไรก็ว่ากัน... ว่าที่เขาให้ปริศนามานั้นมันคืออะไรซึ่งทำให้คนยุคปัจจุบันต่างให้ความสนใจกันอย่างกว้างขวาง
    5) ถ้าหากว่าใครรอดพ้นจากการเปลี่ยนแปลงของจักรวาลในครั้งนี้ก็เป็นหน้าที่ของเขาที่จะเล่าประวัติศาสตร์ต่อจากนี้ไป...ให้ผู้คนได้รับรู้..และจะมีองค์ความรู้ไปจนกว่าเผ่าพันธ์มนุษย์จะสิ้นสูญไป...แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น...ปีหน้าเท่านั้นเองน่ะอย่างเพิ่งรีบชิงตายกันไปก่อน...เราจะได้มีประสบการณ์ระดับจักรวาลลลลไปพร้อมกัน...ระดับโลกมันน้อยไป..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤศจิกายน 2011
  7. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379


    เรื่องช่วงเวลาที่เกิดนั้น ความน่าจะเป็นคือ
    ช่วงปีใหม่ที่เป็นรอยต่อระหว่างปี
    พ.ศ.2555 - 2556 มากกว่า
    (รอยต่อระหว่าง ค.ศ 2012 - 2013 )


    ข้อมูลจากกระทู้
    ประวัติและผลงานของพระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ



    ข่าวจากพระอาจารย์รัตน์

    พระ อาจารย์ยังยืนยันว่าอิลินิน คือ ดาวถ่วงดุลย์ในปฏิทินมายัน เป็นดาวที่ให้คุณ ตอนนี้เค้าโดนความว่างของดวงอาทิตย์กลืนอยู่ (จากการโคจรเข้าไปใกล้ดวงอาทิตย์และธาตุลบของอิลินินปะทะกับธาตุลบของดวง อาทิตย์จนกลายเป็นความว่าง) แต่จะกลับมาให้เห็นอีกในกาลหน้า ส่วนนิบิรูพระอาจารย์ยังไม่ให้ความสำคัญในตอนนี้

    ส่วน วันที่ 21 ธันวาคม 2012 ช่วงนั้นจะยังไม่มีอะไรหนักๆ ให้เห็น แต่พระอาจารย์ ให้ช่วงเวลานั้นปลายปี 2012 ถึง กุมภาพันธ์ 2013 ซึ่งตอนนั้นจะมีทั้งแกนโลกพลิก ภัยธรรมชาติใหญ่ๆ มากมาย และผู้คนจะล้มตายกันมาก

    ตอน นี้ พลังงานที่อยู่กาแลคซี่ของเราถูกบีบอัด ดาวต่างๆ ในระบบสุริยะเปรียบเสมือนพายเรือในอ่าง ข้ามขอบไปไม่ได้ เพราะพลังจากกาแลคซี่ใหญ่อันโดรเมดร้าเบียดอยู่ จะเป็นอย่างนี้เรื่อยๆ จนในที่สุดกาแลคซี่เราจะถูกเบียดจนไปอยู่ในกาแลคซี่ไตรแองกูลั่ม (ซึ่งวงโคจรของระบบสุริยะเราคือ 26,000 ปี เราจะไปอยู่ไตรแองกูลั่ม 13,000 ปี และกลับมาอยู่ทางช้างเผือก 13,000 ปี) ซึ่งพวกเราจะอยู่ในระดับพลังงานที่ดี และจะมีความเจริญทางจิตมาก ปฏิบัติธรรมก็จะได้ผลเร็ว เป็นต้น ในช่วงปลายปี 2012-กุมภา 2013 ทางกายภาพของโลกจะมีการเปลี่ยนแปลง เพราะ แรงอัด อีกพร้อมทั้งทางด้านพลังงาน พลังงานที่ไม่ดีจะเข้ามามาก คนไหนที่จิตใจมีพลังงานเป็นสีดำพลังงานก็จะเข้ามารวมและทำให้เสียชีวิตในที่ สุด ส่วนจิตใจของคนที่เป็นสีขาวพลังงานลบอาจทำอะไรไม่ได้หรือทำได้ก็เล็กน้อย อาจมีการบอบช้ำบ้างแต่ก็จะมีโอกาสรอดได้มาก

    วงโคจรของดวงจันทร์ผิดเพี้ยนไป ตรงนี้มีผลโดยตรงกับน้ำที่มีต่อโลก

    ส่วน ดวงอาทิตย์ พวกเราอาจจะมีโอกาสเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก ก่อนหน้าที่จะมีเหตุการณ์ใหญ่ (การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพครั้งใหญ่) ให้สังเกตดีๆ ดวงอาทิตย์จะเคลื่อนไปเรื่อยๆ จนในที่สุดจะขึ้นทางทิศตะวันตก อ้างอิง


    อ่านเพิ่มเติมจาก
    วิเคราะห์เรื่องเด็กชายปลาบู่และภัยพิบัติ พ.ศ. 2555 - 2556
     
  8. ต้นที่สาม

    ต้นที่สาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2011
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +1,074
    สรุปว่าเสียงดังเกิดจากโลกชนขอบจักรวาล
    และแสงสว่างเกิดจาก จักรวาลเอาขอบมาชนกัน
    แล้วเกิดไฟสปาร์ค ประมาณนั้นหรือเปล่า

    แต่ก็น่าเป็นห่วงนะครับ เราเหมือนฝุ่นที่ติดกับลูกฟุตบอล
    กำลังจะโดนอัดโดย บาโลตอลี่ หรือเปล่า เฮ้อ หนักจริงๆคราวนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2014
  9. ปรีชาญาน

    ปรีชาญาน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +83
    *ใครที่เข้ามาโดยจิตที่อ่อนแอ แล้ว จะถูกดวงวิญญานเหล่านี้พยายามที่จะเข้ามหาคำตอบ น่ากลัวจนคนไม่กล้ามาจนกลายเป็นเมืองร้าง**
    ถ้าดูตามนี้แสดงว่ากรุงเทพจะกลายเป็นเมืองร้างไปทันทีนะครับ
    เป็นเมืองผีสิงที่คนไม่กล้าเข้ามาเลย น่ากลัวจัง

    มีทางทำให้หนักกลายเป็นเบาได้หรือเปล่า
    น่าจะมีคนหาทางร่วมกันนะ เพราะเท่าที่ตามอ่านๆดูมีแต่คนเสนอ
    ให้ย้ายอย่างเดียว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤศจิกายน 2011
  10. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    ธรรมนาวา เรือนธรรม นำพาในใจตน

    [​IMG]



    สังสารวัฏฏ์เปรียบด้วยทะเลไฟที่ภูเขาพ่นออกมาล้อมท่วมอยู่รอบทิศ.
    "ธรรมะ" เป็นสิ่งเดียวที่จะเป็น"เรือ"ที่ปลอดภัย, ร่มเย็น, ในท่ามกลางทะเลไฟอันแอดเผานี้.

    "เรือธรรม" นั้น ลอยอยู่ในทะเลไฟ, นั่นคือจุดเย็นที่สุดกลางเตาหลอมเหล็กที่ร้อนระอุ!
    นั่นคือ นิพพานเป็นสิ่งที่อาจหาพบได้ท่ามกลางสังสารวัฎฎ์นี่เอง


    [​IMG]



    มหาอนุโมทนากุศลส่งบุญพระคุณ
    ๑) ข้อมูล/ภาพ : เรือธรรม (มหรสพทางวิญญาณ ท่านพุทธทาสภิกขุ)
    ๒) เสียงธรรมบรรยายเตือนสติ เรื่อง "ภัยพิบัติ" โดย หลวงพ่อดำ วัดป่าดงหวายสกลนคร



    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1752375/[/MUSIC]​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    มีครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งอยากจะพบพระคุณลุง พอจะมีหนทางไหม?
     
  12. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    <table id="post5264912" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr valign="top"></tr><tr valign="top"><td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175">ลุงคนเชียงใหม่
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Nov 2004
    ข้อความ: 151
    พลังการให้คะแนน: 238 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td><td class="alt1" id="td_post_5264912" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นนั้น ลุงขอเรียกว่าวันฟ้าดับก็แล้วกัน เพราะในยามนั้น สิ่งที่เกิดขึ้น ทุกด้านมืดสนิท แม้แต่ในยามที่เราหลับตายังมีความสว่างมากกว่าเสียอีก ลุงบันทึกหลังจากอธิฐาน ไปยังวันก่อนหน้า ที่จะเกิดภัยพิบัติแก่บ้านเรา 3วันเจ็ดวัน
    ก่อนหน้านั้นลุงเห็น คนที่มีจิตเป็นอกุศลกรรม ได้มีการฉลอง จุดพลุ ร้องเพลงปีใหม่และนับย้อนหลังในวันสิ้นปี (ลุงจึงคาดว่าเหตุการจะเกิดขึ้นหลังฉลองสิ้นปีใหม่ )
    ลุงเห็นดาวเหนือเปลี่ยนไป ในลักษณะที่อธิบายไม่ถูก แต่มีความแตกต่างและเห็นได้เจนทั้งขนาดและความสว่าง (จุดนี้น่าจะเป็นสัญญานเตือนให้มีการเตรียมการกันนานหลายวัน)
    ในวันฟ้าดับ ก่อนหน้านั้นจะมีฝนตกต่อเนื่องกันหลายวัน แล้วในวันนั้นไร้ฝน ฟ้าหม่นหมองยิ่งนัก ใบไม้ เงียบจนไม่ฟลิกใบ ฝูงสัตว์เลี้ยง สัตว์ป่า จะครวญครางแอบบหมอบ



    </td></tr></tbody></table>

    ตรงข้อความที่ผมเน้นสีแดง
    ให้สังเกตว่าเหตุการณ์อาจไม่ได้เกิดในคืนวันปีใหม่นะครับ
    คุณลุงให้สังเกตความเปลี่ยนไปของดาวเหนือ


    วันก่อนหน้า ที่จะเกิดภัยพิบัติแก่บ้านเรา 3วันเจ็ดวัน
    ก่อนหน้านั้นลุงเห็น คนที่มีจิตเป็นอกุศลกรรม ได้มีการฉลอง จุดพลุ ร้องเพลงปีใหม่และนับย้อนหลังในวันสิ้นปี
    (ลุงจึงคาดว่าเหตุการจะเกิดขึ้นหลังฉลองสิ้นปีใหม่ )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤศจิกายน 2011
  13. ต้นที่สาม

    ต้นที่สาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2011
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +1,074
    ลองติดต่อลุงไชยดูน่าจะติดต่อได้ครับ
    เพราะช่วงหลังๆ เห็นคูณลุงมาตอบแทนหลานพระคุณลุงครับ
     
  14. ลุงไชย

    ลุงไชย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +2,436
    ผมก็เหมือนสมาชิกทุกๆท่าน ผมอ่านบทความพระคุณลุง และสงสัยในบางประเด็น
    เลยติดต่อสอบถามผ่านทางpm ของ user name ลุงคนเชียงใหม่
    โดยคุณวิกรม(หลานพระคุณลุง)ช่วยไขข้อข้องใจ
    (..และคุณวิกรมได้ฝากให้ผมดำเนินการช่วยโพสต์ ในบางเรื่อง....)

    ถ้าหากจะติดต่อผมแนะนำให้ติดต่อผ่านทาง pm ของลุงคนเชียงใหม่
    ..นะครับ
     
  15. ปรีชาญาน

    ปรีชาญาน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +83
    หลายคนครำ่ควรญ
    หลายคนเตรียมตัว
    หลายคนไม่รู้
    หลายคนรู้แต่ไม่เชื่อ
    หลายคนเชื่อแต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่

    ทุกสรรพสัตว์ในโลก แม้แต่โลกใบนี้
    ล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปในที่สุด
    เข้าใจการเปลี่ยนแปลงแล้ว ก็มีทางคือ
    การตามกระแสการเปลี่ยนแปลง
    การสวนกระแสการเปลี่ยนแปลง
    หรือการก้าวพ้นการเปลี่ยนแปลงนั้นๆ

    ทุกชีวิตล้วนมีกรรมเป็นของตัวเอง
    แต่ในภพภูมิมนุษย์นั้นกลับมีโอกาสพิเศษมากกว่าทุกภพ
    คือการสามารถสร้างกรรมใหม่ได้

    กรรมเกิดจากการกระทำจาก
    กาย วาจา ใจ ที่กระทบต่อโลก
    ทั้งภายนอกและภายใน

    ทิ้งโลกทิ้งการเปลี่ยนแปลงได้ก็หลุดพ้น
     
  16. ต้นที่สาม

    ต้นที่สาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2011
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +1,074
    ตกลงให้เตรียมยังไงต่อครับ แฮะๆๆ
     
  17. คนเมืองเว้

    คนเมืองเว้ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +8
    สอบถามเรื่องที่อ้างมา
    การฝึกตายก่อนตายนี่ฝึกยังไงครับ
    แล้วจะสามารถหาอ่านตำหรับตำราได้ที่ใหน
    หรือกับพระอาจารย์องค์ไหน
    ขอข้อแนะนำด้วยครับ
     
  18. rawats_99

    rawats_99 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +1,947
    ฝึกคิดให้เป็นนิสัยอยู่ทุกวันเวลาว่าเราต้องตายเป็นแน่แท้...ไม่มีวันที่เราไม่ตาย...เพราะว่าเราตายอยู่ทุกๆเวลา...แล้ววันนี้เราพร้อมตายหรือยัง(ถามตัวเองในใจ)..ถึงไม่พร้อมความตายจะมาถึงเราเป็นแน่แท้ไม่มีทางเลี่ยง...สิ่งที่ต้องทำคือทำใจไม่ให้ยึดติดกับสิ่งใดให้ยึดติดอยู่กับพระพุทธเจ้า...คิดอยู่เสมอว่าเมื่อตายเราจะไปอยู่กับพระพุทธเจ้า...ถ้าท่านรู้ว่าพระพุทธเจ้าอยู่ที่ไหน...รู้มั้ย?
     
  19. นูร์

    นูร์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +36
    มรณานุสสติ หรือมรณกรรมฐาน คือการนึกถึงความตายเป็นอารมณ์
    พระพุทธองค์สอนไว้ในพระสูตรก็มี และมีครูบาอาจารย์หลายท่านสอนไว้เช่นกันค่ะ
    หาอ่านศึกษาได้ไม่ยากค่ะ ลองเสิร์ชหาจากในกูเกิลด้วยคำว่า "มรณานุสติ" หรือ "มรณกรรมฐาน" แล้วเลือกหาอ่านดูค่ะ
    ยกมาให้สองลิงก์ก่อนค่ะ


    จากคำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ




    จากคำสอนหลวงปู่สิม พุทธาจาโร
    Code:
    http://www.fungdham.com/download/book/article/sim/004.pdf


    ขออภัยนะคะยังใส่ลิงก์ไฟล์ pdf ไม่เป็นน่ะค่ะ เข้าไปที่ไฟล์แนบด้านล่างนี้แล้วกันค่ะ อีกอันเป็นคำสอนพระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป วัดอรัญวิเวก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • pdf-2.html
      ขนาดไฟล์:
      42.1 KB
      เปิดดู:
      181
    • 004.pdf
      ขนาดไฟล์:
      83.8 KB
      เปิดดู:
      268
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤศจิกายน 2011
  20. ปรีชาญาน

    ปรีชาญาน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +83
    การฝึกตายก่อนตายนั้น
    เป็นการซ้อมเหมือนให้จิดเกิดออโตเมติก
    เหมือนคนที่ถูกฝึกให้มีการต่อสู่ประชิดตัวเมื่อถูกล๊อค
    จะทำ 1-2-3 ตามสเตปอย่างไร
    เมื่อฝึกจนเคยชินแล้วร่างกายจะปฏิบัติออกเป็นอัตโนมัติ
    โดยปฏิกริยาแทบจะไม่ผ่านกระบวนการคิดของสมองส่วนคิดเลย
    หรือเหมือนการซ้อมก่อนไปสอบสัมภาษณ์ แต่ถึงอย่างไรก็ตามในขณะ
    ที่สอบสัมภาษณ์เกิดเหตุการที่นอกเหนือจากความคาดคิดหรือเตรียมการไปก่อนก้
    อาจเกิดอาการเหวอ หรือเหมือนนางงามถูกคำถามที่ไม่คาดคิดบนเวที

    แต่จิตสุดท้ายนั้นถ้าเราสับสนก่อนตาย หรือกลัวกับความตายนั้นน่ากลัวครับ

    จิตสุดท้ายเป็นห่วงคนที่ยังอยู่ จิตจะไปตกในภูมิสัตว์เดรัจฉานเพราะมีความประสงค์
    ที่จะเกิดให้เร็วที่สุดในขณะที่คนที่เขาห่วงยังอยู่เพื่อไปอยู่ร่วมภพ
    ส่วนมากก็จะเป็นจิ๊งจก ตุ๊กแก หมาแมว ในบ้านของคนที่เขาห่วง

    จิตสุดท้ายตกอยู่ในห้วงแห่งการโกรธแค้น นั้นจิตจะถูกไฟนรกเผา หรือตกในภูมินรกทันที

    จิตสุดท้ายห่วงของทรัพย์สิน ก็จะไปเกิดในภูมิเปรต ปู่โสมเฝ้าทรัพย์จนกว่าจะเลิกห่วงในทรัพย์นั้น

    จิตสุดท้ายหวาดกลัว ก็จะไปเกิดเป็นอสูรเล็กๆที่ต้องคอยหวาดผวาหวาดกลัวหลบซ่อนๆ

    จิตสุดท้ายเจ็บปวดครำ่ครวญนั้น จะไปตกในห้วงขอบนรกครำ่ครวญ

    แล้วที่น่ากลัวคือภาพกรรมชั่วที่จะวิ่งเข้ามานั้นจะกลายเป็นจุดกลมใหญ่ๆที่จะวิ่่งเข้ามาปิดจิต
    ให้ไม่สามารถนึกถึงกรรมดีได้ เมื่อบวกกับเวทนาที่เกิดขึ้นนั้น
    กรรมที่จะมาลำดับแรกคือ ปาณาติบาต เพราะภาพของกรรมที่ติดในชั้นจิต
    จะเรียงตามลำดับข้อศิล วิ่งมาเป็นชุดๆ
    ดังนั้นคนที่ฆ่ามามากหรือมีส่วนในการฆ่ามากก็จะมีจิตไปตกในห้วงอบายภูมิ

    สภาพตอนนั้นเหมือนคนตกใจเสียงอะไรดังๆ
    ก็จะแสดงออกมา เช่นอุทานตกใจ ตะลึงงันคิดอะไรไม่ออก
    จะต่างกับคนที่ฝึกมาอย่างทหารที่ชินกับเสียงดังปฏิกริยาในการหนีภัยป้องกันตัวจะทำงานทันที

    ปฏิกริยาสะท้อนเช่นการอุทาน ด้วยภาษาแปลกๆออกมาส่วนมากจะเกิดจากห้วงสำนึก
    สามารถที่จะฝึกได้ ให้สามารถฝึกอุทานเวลาตกใจเป็นคำที่ดีได้
    เหมือนคนโบราญชอบ ฝึกอุทานด้วยคำว่าพุทธธรรมโมสังโฆ
    แต่ปัจจุบันส่วนมากเราจะเจอคนที่อุทานด้วยคำว่าอวัยวะเพศหรือต่างๆที่ทำให้คนเหล่านั้นไปเกิดเกี่ยวหรือใกล้ชิดกับอวัยวะเพศ เช่น โลน

    ดังนั้นการฝึกตายก่อนตายก็จะช่วยให้จิตเรามีความพร้อมและความเคยชินกับภาวะจิตนั้นๆ
    แต่ต้องสอบผ่านคำตอบแรกและยอมรับก่อนนะว่า
    เราต้องตายหรือเรายังไงก็ต้องผ่านการสอบในบทนี้ครับ

    เพราะฉนั้นการทำทานมาก จะทำให้เราไม่ห่วงของอันเป็นเหตุที่ไปเกิดในแดนเปรต
    การเลี้ยงลูกด้วยธรรมแห่งพรหม ให้เขาเป็นคนดี ก็จะไม่ห่วงของ
    การไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข ทำให้ภาพการโลภโกรธหลง ก็จะนำไปสู่แดนเปรต
    การพยายามรักษาศิล นั้น จะทำให้จิตเราไม่แบกภาระมาก
    ในการเข้าห้องสอบสัมภาษณ์เพื่อเลือกตำแหน่งยืนในบริษัทภูมิใหม่
    จากนั้นกรรมที่เหลือทั้งดีชั่วก็จะไปจัดสรรให้เรารู้ต่อไปว่าจะไปเกิดในสถานะได

    การฝึกตายก่อนตายจะช่วยให้ผ่านการสอบสัมภาณ์โดยนายอาสัญกรรม
    ได้โดยไม่ยาก แต่ก็ยากที่จะผ่านเพราะยังไงก็ยังไม่เคยตายจริง
    แต่ไม่ยากสำหรับคนที่ผ่านการถอดร่างจิตเพราะเข้าใจว่า
    การตายคือการแตกดับของกายเนื่อเท่านั้นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2011
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...