บันทึกกรรมของฉัน

ฉันไม่มีรอยปลูกฝีที่แขนทั้งสองข้าง…

ฉัน งง มากเลยค่ะ คุณพ่อของฉันทราบล่วงหน้า 20 ปีว่าฉันจะประกวดนางสาวไทย ท่านเลยไม่ให้ปลูกฝีที่แขนค่ะ

ฉันโดนคุณลุง สฤษดิ์ คุมตัว ตั้งแต่แรกคลอดเลยค่ะ

 

องค์หลุด ทำอย่างไร ?

หากเจอ ถอดองค์ นะคะ ให้เขาถอดไปให้หมดเลยค่ะ จนกระทั่งอยู่ในสภาวะที่จำตัวเองไม่ได้เช่น เป็นอัลไซเมอร์ หรืออาจร้ายแรงขนาด ทุบตีตนเอง อันเป็นเครื่องบ่งชี้ว่า องค์ทั้งหมด ได้หลุดออกไปแล้วจริงๆ ทั้งหมด !!!

จากนั้น ให้รับองค์เข้าร่างใหม่ค่ะ โดยอาจจะไปตั้งฐานดวงใหม่กับอาจารย์ที่เก่งๆ ที่รับตั้งฐานดวง วิธีนี้จะเสมือน ได้เกิดใหม่เลยนะคะ แล้วทำการไหว้ครู รับองค์เข้าตัวใหม่ทั้งหมดค่ะ จากนั้นให้ถือศีล 5 และปฏิบัติธรรมทุกวันเป็นกิจวัตรประจำวันเลยนะคะ ก็จะเสมือนได้เกิดใหม่จริงๆ เลยค่ะเพื่อนๆ

ในขั้นนี้ เอาภาพเก่าๆ มาเทียบกับภาพใหม่นะคะจะพบว่าแตกต่างกันราวฟ้ากับดินเลยนะคะเสมือนเป็นคนละคนกันเลย เราแนะนำให้เปลี่ยนชื่อใหม่ไปเลยนะคะ จะได้เหมือนว่าคนเดิมได้เสียชีวิตไปแล้วจริงๆ มีแต่คนใหม่เท่านั้นค่ะ

 

อย่าไปยึดกับองค์…

พอชำแหละออกมาแล้ว ตัวเราไม่ได้เป็นองค์นั้น องค์นี้ อย่างหวงองค์ เพราะตัวเราพอแยกออกมาแล้ว มิใช่ตัวของเราเลยสักตัวตนเลยจริงๆ

มิใช่ว่า เราจะหวงองค์อัปสราไว้ เพื่อให้หน้าตาของเราสวยงาม มันไม่ใช่อย่างนั้น เราจะสวยงามหรือไม่ อยู่ที่ศีล ศีลครบหรือไม่ หากศีลครบก็สวยงาม มันเป็นเช่นนี้ต่างหาก มิใช่ว่าอัปสรามีองค์ที่สวยงาม ทำให้เราสวยงามตามไปด้วย อย่าเข้าใจผิดนะคะ ตรงนี้สำคัญมาก เพราะหากอัปสราประพฤติผิดศีลข้อ 3 แต่ยังสวยงามอยู่ นั่นไม่ใช่สวยเพราะอัปสราแล้วค่ะ

 

อัปสราที่แท้จริง…ผู้ชายเข้าไม่ถึง

ที่ฉันจะเล่าให้ฟังนี้ ผู้ชายอาจจะเอาไปคุยกันในหมู่ผู้ชายว่า ได้เคยนอนกับอัปสราคนโน้นคนนี้มาแล้วนั้น ฉันการันตีได้เลยว่า ไม่เป็นความจริงค่ะ

ทั้งนี้เนื่องจาก การจะได้นอนกับอัปสรานั้น ต้องอาศัย medium อีกชั้นหนึ่งค่ะ นั่นหมายถึง อัปสราต้องอาศัยร่างของสาวอื่นเป็นสื่อกลางในการนอนค่ะ ไม่มีทางที่ผู้ชายจะนอนกับร่างของอัปสราได้โดยตรง

สันนิษฐานว่า เป็นเพราะอัปสราจัดว่าเป็นเทพชั้นสูงกว่าระดับปกติค่ะ ฉะนั้น ใครมาคุยโวว่านอนกับอัปสรานั้นไม่เป็นความจริงค่ะ ยกเว้น … ขออุบไว้ค่ะ

ที่สี่ที่ขึ้นจาก ชลา ลัยฤา

คือคณาอัปสร เฉิดแฉล้ม

รูปโฉมสุดโสภา หาเปรียบ ไม่เลย

งามเนตรงามเกศแก้ม ก่องฉวี

ท่วงทีมารยาทล้วน ยวนใจ

เสียงเสนาะขับรำ ร่ำร้อง

แต่หาสุรเทพใด รับบ่ มีเลย

เหตุฉะนั้นจึงต้อง อยู่ลอย

คอยบำเรอเทพไท้ เปรมปรีดิ์

ยามเทพใดมีทุกข์ ช่วยแก้

เปรียบโสภิณีนางในโลก มนุษย์แล

เป็นแบบแต่นั่นแล้ สืบมา...

พระราชนิพนธ์เรื่องนารายณ์สิบปาง ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ทรงบรรยายไว้

 

ลืมบอกไปอย่างนึงค่ะว่า อัปสรา borderless ค่ะ
คือสื่อสารหรือ merge ได้ทุกภาษา
เพราะมีอายุยาวนานตั้งแต่สมัยพราหมณ์
ฉะนั้น She goes around the world ได้ค่ะ
จึงเรียกอัปสราว่า Miss Universe หรือ Miss World ค่ะ
นี่คือที่มา

 

อ๋อ…
คนธรรมดา ต้องได้รับการคัดเลือกค่ะ ถึงจะได้เป็นอัปสรา
แต่ได้รับคัดเลือกจากใคร ขออุบเอาไว้นะคะ

คือดวงจิตของอัปสราเก่า ต้องได้รับการซ่อมแซมจากอัปสราใหม่ค่ะ เพื่อ rejuvenate เสมอค่ะ มิเช่นนั้น อัปสราจะแก่ งั่ก งั่ก ค่ะ

ถามลึกจัง …

 

เบนไซเทนใช่อัปสราไหม?

เจอคำถามนี้เข้าไปก็อึ้งนะคะ เอาเป็นว่า คนถามคงระดับพระโพธิสัตว์อ่ะค่ะ เลยตั้งคำถามแบบนี้

ขออภัยที่เลี่ยงไม่ตอบนะคะ ถามกลับนิดนึงว่า องค์ของพระมารดาของอิคคิวซังตอนที่ต้องมาเป็นพระชายาของโชกุนองค์ใหม่นั้น ใช่เบนไซเทนหรืออัปสราคะ ?

 

เฮ้อ…วันนี้โพสต์เยอะมากๆ
จบลงที่คลิปนี้นะคะ

 

ดารา มิใช่ อัปสราเหรอ ?

ข้อแตกต่างระหว่างเกอิชา กับ โสเภณี คืออะไร ?
เอาแบบ เกอิชาออริจินัล นะคะ
นั่นแหละคือ อัปสรา

ทีนี้คำถามว่า ดาราคืออัปสราไหม ?
ต้องถามใหม่ว่า อัปสราคือดาราหรือเปล่า ?
เพราะส่วนใหญ่ อัปสราจะเป็นดารา ค่ะ

 

การแย่งองค์อัปสรา…

เป็นไปไม่ได้นะคะ แต่หากเป็นการแย่งองค์ดารา-นางฟ้า สามารถทำได้ค่ะ เพราะอัปสราจะได้รับการคัดเลือกโดยตรงจาก…(ขออุบไว้)
การรีดองค์ดารา-นางฟ้า ทำได้ง่ายดายค่ะ แค่ปล่อยให้ยากจน ขัดสนเงินทอง เท่านี้เองค่ะ
การรีดองค์อัปสรา ทำไม่ได้ค่ะ และถือว่าเป็นความผิดด้วยค่ะ เพราะอัปสราจะย้ายไปสังกัดในที่ที่มีเงินทองและไม่ขัดสน ทำให้ประเทศต้นทางขาดอัปสราได้ค่ะ เช่น อัปสราไทยโดนกลั่นแกล้งให้ขัดสนและยากจน อัปสราไทยจะย้ายไปมีชีวิตใหม่ต่างศาสนาเช่นไปเป็นอัปสราของศาสนาอิสลาม ทำให้อัปสราไทยขาดช่วง และไม่มีการซ่อมแซมดวงจิต ทำให้อัปสราไทยแก่ชรา เพราะไทยกลั่นแกล้งอัปสราไทยเอง อัปสราไทยที่ถูกกลั่นแกล้งมีสิทธิ์โอนย้ายไปเป็นอัปสราอิสลามได้เพราะถูกกลั่นแกล้งโดยคนไทยค่ะ นี่คือกฎหมาย
ดวงจิตของอัปสราจะ universal ค่ะ ไร้ข้อจำกัดทางศาสนาและไร้พรมแดนค่ะ ประเทศไหนที่ดูแลอัปสราไม่ดี สังเกตง่ายๆ สถาบันจะไม่ดีค่ะ

 

ฉันทำ ซะกาต และ กุรบ่าน โดยหวังว่าสักวัน จะได้พบเขาสักครั้งจริงๆ

 

เพื่อนในฮาเร็มที่ชื่อ แซฟไฟร์ Sapphire…

ฉันเคยถูกย้ายไปอยู่ในฮาเร็มตอนที่ไม่สบายหนัก และมีเพื่อนชื่อแซฟไฟร์ เธอตาสีฟ้าอมเขียวเหมือนแซฟไฟร์ ผมสีดำสนิท ผิวสีขาวเหมือนหยวกกล้วย

เธอเป็นคนโปรดของเชค เธอนิสัยอ่อนน้อมถ่อมตน เธอพูดน้อย เธอเป็นแรงบันดาลใจให้ฉันแต่งเรื่อง ไดอารี่ของฉันในวันที่ไม่ใช่เชคคา

ที่ฮาเร็ม ผู้ชายจะมอบสร้อยคอให้ผู้หญิงเป็นรางวัล จะใส่ให้ตามมิติ คนในมิติที่ต่ำกว่าจะถอดออกไม่ได้ ต้องให้คนในมิติเดียวกันหรือเจ้าของเป็นผู้ถอดออกให้ เวลาผู้หญิงเดือดร้อนจะหมดตัวก็ขายสร้อยนี้ นับว่าเป็นสมบัติติดตัวของผู้หญิงค่ะ

ฉันเองก็ได้มาเส้นนึงค่ะ แต่หายไปไหนไม่ทราบค่ะ

กว่าฉันจะหลุดออกมาจากมิติฮาเร็มได้ ฉันแทบตาย

 

ถึง ผู้ที่มาลองของ…

เราเป็นเพียงนักเดินทางที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการเดินทางแล้วนำมาเล่าให้เพื่อนสมาชิกฟัง เราไม่เคยเรียนไสยศาสตร์ใดๆเลย และต้องเทคยาจิตเวชทุกวันเพื่อรักษาอาการเหลื่อมมิติ ขอให้เห็นใจเราและอย่าทำร้ายเราเลย

ขอบคุณค่ะ

Suryar
202h
13 Dec 24

 

กฎของไสยเวทย์…

ไสยเวทย์มีกฎอยู่ข้อหนึ่งคือห้ามทำร้ายคนบ้าค่ะ มิเช่นนั้นของจะวิ่งเข้าตัวเอง อันนี้เป็นกฎหมายเลยนะคะ เช่นเดียวกับกฎหมายที่ว่า ห้ามลักพาตัวคนบ้าไปขายตัวที่ต่างประเทศ เช่น หากเพื่อนๆ เห็นคนบ้าแล้วจะหลอกเอาคนบ้าไปขายที่เขมรนั้น เพื่อนๆทำไม่ได้ เพราะเขาเป็นคนบ้า มีกฎหมายคุ้มครองอยู่ว่าห้ามซื้อขายองค์ของคนบ้าค่ะ

ฉะนั้น คนบ้าจะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายวิญญาณ นับว่า แฟร์ มากๆ ค่ะ เสียอย่างเดียวคือคนบ้านั่งสมาธิไม่ได้ แต่ประเด็นนี้ถูกคัดค้านโดยนายแพทย์ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ค่ะ เพราะท่านกล่าวว่า คนบ้านั่งสมาธิได้

 

มีวิธีปฏิบัติที่แตกต่างกันอยู่มากมาย มีรูปแบบและวิธีการที่แตกต่างกันอยู่มากมาย เราได้เคยพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้กันมาแล้ว ก็เมื่อคนอเมริกันรับประทานอาหาร พวกเขาใช้มีดและส้อม เมื่อคนเกาหลีรับประทานอาหาร พวกเขาใช้ช้อนและตะเกียบ คนญี่ปุ่นนั้นใช้แค่ตะเกียบ และมีผู้คนมากมายในอินเดียและแอฟริกาที่ไม่ใช้ทั้งตะเกียบ ช้อน หรือส้อมเลย พวกเขาแค่ใช้นิ้วเมือของพวกเขาหยิบอาหารเข้าปาก อั้มมม! เหล่านี้คือวิธีการในการรับประทานอาหาร สิ่งสำคัญในการพิจารณารูปแบบเหล่านี้ไม่ใช่ตัวเทคนิคเองว่ามัน “ถูกต้อง”หรือไม่ แต่คือเธออิ่มท้องหรือไม่? วิธีการนั้นอาจแตกต่างกันไป แต่ความอิ่มท้องนั้นเหมือนกัน นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงใช่เครื่องมือที่แตกต่างกันในการปฏิบัติเซน เครื่องมือทั้งหลายมีรูปแบบที่แตกต่างกัน แต่ถ้าหากใช้ด้วยทิศทางเหมาะสมภายในจิตใจ แต่ละอันนั้นก็สามารถทำให้เราค้นพบหนทางของเรา

ในการปฏิบัติทางพุทธศาสนา เราอาจกล่าวได้ว่ามีสี่วิธีการหลักในการศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า ได้แก่ การอ่านดระสูตร, การสวดนามพระพุทผธเจ้า, การปฏิบัติมนตร์, และการภาวนา และแม้ว่าการภาวนาจะเป็นที่ทราบกันว่าเป็นวิธีที่ชัดตรงที่สุดในการตระหนักรู้คำสอนของพระพุทธเจ้า ทว่าแต่ละวิธีการเหล่านี้ก็สามารถช่วยเหลือเราได้อย่างมาก แต่ถ้าหากเธอไปยึดติดกับพระสูตร กับการสวดนามพระพุทธเจ้า หรือกับมนตร์ หรือแม้แต่แง่มุมใดของการนั่งภาวนาในรูปแบบ เมื่อนั้นวิธีการเหล่านี้ก็จะบดบังเธอและดึงเธอออกจากหนทาง ดังนั้น สิ่งสำคัญที่ต้องจดจำไว้ก็คือ อย่าได้ยึดติดกับสิ่งใดๆ แต่จงใช้แต่ละการปฏิบัติหรือแต่ละวิธีการอย่างถูกต้องเพื่อค้นพบธรรมชาติแท้จริงของเธอ

/พระอาจารย์ซุงซาน(พ.ศ.๒๔๗๐-๒๕๔๗) ผู้เผยแผ่พุทธศาสนานิกายซอน (เซ็น) จากเกาหลี สู่อเมริกา

ที่มาภาพ : FB Zen Master Seung Sahn

 

/\
||
||
จากข้างบนนะคะ หากเป็นสายมาร จะใช้ให้คนอื่นทานข้าวให้อิ่มแทน เพื่อว่าเวลาตัวเองเข้าไปสิงร่างแล้วจะได้ไม่หิว

วิธีนี้ก็ทำให้อิ่มได้

ที่เล่ามาให้ฟังนี้ อยากจะบอกว่า มีวิธีมากมายที่ทำให้บรรลุธรรม มารก็สามารถบรรลุธรรมได้ค่ะ หากสภาวะถึงพร้อม

บนโลกนี้ไม่มีเกณฑ์วัดระดับความดีความชั่วที่จะระบุว่า ความชั่วเท่านี้จึงเรียกว่ามาร ความดีระดับนี้จึงเรียกว่าเทพ ดังนั้น ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัวค่ะ