นิทาน เรื่อง "พญานาค"

ดีใจด้วยค่ะ น้องมล.. เป็นอย่างที่นึกไว้นะคะ

 

สวัสดีค่ะ ทุกๆท่านในกระทู้นิทานแห่งนี้ค่ะ
แวะมาอ่านนิทานต่อจากเมื่อวานค่ะ กำลังลุ้นๆอยู่ว่าจะเป็นยังไง55+ แบบว่าท่านประธานเล่าไม่จบเลยอารมณ์ค้างซะงั้น เห่อๆ มาวันนี้หวังว่าจะได้รับความกรุณาเล่าให้ฟังจนจบน่ะค่ะ อิอิ เอ่อหนูคงไม่มีความเกี่ยวข้องกับนิทานที่เล่าในกระทู้นี้ แต่ก็อยากรู้ชื่อด้วยคนค่ะ 55+ มาแบบเนียนๆค่ะ ถ้ากรุณาจะขอบคุณมากคร่า^^

 

ขอบคุณค่ะพี่รั้ง หนูมีความรู้สึกว่าพี่เป็นพี่ที่ใจดีและมีเมตตากับน้องๆทุกคนค่ะ. ได้เข้ามาเป็นสมาชิกคนหนึ่งของบ้านนี้แล้วอบอุ่นมาก. ท่านประธานก็ใจดี(บางครั้งก็ต้องลุ้น. นิทานตลอดเวลา หนุกดีค่ะ)

 

มีลักษณะเป็นแผ่นพื้นปูกระเบื้อง ออกสีน้ำตาล คล้ายๆในหนังจีนวัดเส้าหลิน ครับ
บรรยากาศโดยรอบ ปกคลุมไปด้วยปุยเมฆสีขาว....สะอาดมาก
มีคฤหาส คล้ายๆวังหลวง คือมีประตูทางเข้า และกำแพงร้อมรอบ....
ข้าพเจ้าจะเคลื่อนตัวไปไหนนั้น เพียงแค่นึก ก็ลอยไปตามสถานที่ต่างๆได้โดยไม่ต้องเดินครับ!

เข้าไปโผล่ ช่วงที่เขามีพิธีเลือกคู่แต่งงานกันพอดีครับ.....อ๊ะ!

มีใครอยากจะฟังต่อบ้างครับ?

 

มิทราบว่า ท่านหน่อฯ...ไปฝึกวิชา "พลิ้ว" มาจากสำนักไหนหรือเจ้าคะ...แหม..เข้าใจกั๊กนะเนี่ย...เล่ามาให้ว่องหนอ

 

ข้าพเจ้าแปลกใจที่เขารู้จักข้าพเจ้า....และเรียกชื่อ(ลืมไปแล้วครับไม่ใช่ชื่อในปัจจุบัน)
ก็พอดีในเมืองนั้นมีพระธิดาอยู่สองนาง ผู้ปกครองบนวิมาณนั้นดันจะเลือกคู่ให้เราซะงั้น
ยังไม่ทันได้เห็นหน้าพระธิดาเลย.....ได้ยินเขาซุบซิบตกลงกัน ทำนองว่าท่านนั้นต้องคู่กับองค์นี้ ฯลฯ (ในสภาวะทิพย์นั้นรู้กันได้เองครับ ไม่ต้องพูดเป็นภาษาอะไรกันเลย ใช้จิตสัมผัสล้วนๆ....ที่เค้าสนทนาพูดคุยกันนั้นพอเป็นกริยาพิธีเฉยๆครับ)

เอ๊...ไม่เห็นเกี่ยวกับพญานาคเลยนิ?

 

อยากรู้สิคะ แต่ต้องเก็บอาการนิสสสสสนึง เดี๋ยวโดนพาดพิง ^^

 

วันก่อนฝันว่าคนที่ตายไปแล้วมาบอกหวย เขามายืนหน้าประตูห้องยืนทำหน้าเศร้า ๆ เหมือนว่าไม่มีใครมองเห็นก็เลยเศร้า ผมหันไปเห็นเขายืนที่ประตูและเห็นว่าในห้องผมมีคนนั่งเล่นคอมในห้องผมอยู่ ผมก็เลยเรียกและบอกว่า "ปู่มา" แต่เหมือนเขาจะไม่ได้ยินยังนั่งเล่นคอมหน้าตาเฉย แล้วปู่ก็เห็นว่าผมมองเห็น เลยทำหน้ายิ้ม ๆ นิดนึง คือยิ้มไม่มาก ผมเห็นตัวเลข 3 ตัวบนใบหน้า คือปู่จะมาบอกหวย แล้วปู่ก็เข้ามาใกล้ขึ้น พยายามยื่นหน้าเข้ามาใกล้เหมือนกลัวผมจะมองไม่ชัด ผมก็รู้ว่าปู่ตายไปนานแล้วเลยบอกว่า "เฮ้ยไม่ต้องมาใกล้ ๆ เห็นแล้ว" แต่ก็ยังเข้ามาใกล้ขึ้นอีกจนหน้าจะชนกันแล้วผมก็หันหน้าหนี แล้วพูดอีกทีว่า "เฮ้ยบอกว่าเห็นแล้ว จะเข้ามาใกล้ทำไมเนีย" แล้วผมก็ตื่นขึ้นมา ก็มันสยองอะ หน้าตาปู่แบบดำ ๆ แห้ง ๆ เหมือนศพแห้งแล้วที่ปากมีน้ำลายนิด ๆ ปิ่ม ๆ อยู่ตรงริมฝีปาก พอผมตื่นขึ้นมาก็เห็นว่ามีคนนั่งเล่นคอมอยู่ในห้องผมจริง ๆ ด้วย และประตูห้องผมก็เปิดทิ้งเอาไว้แบบที่เห็นในฝันเลย อันนี้ฝันก่อนหวยออก พอหวยออกปรากฏว่าผิดไป 1 ตัว แต่ผมไม่ได้ซื้อ คนอื่นในบ้านเขาซื้อกัน

หลังจากหวยออก 1 วันก็ฝันอีก ฝันว่าปู่มาอีกแล้วมาบอกหวยอีกตามเคย ผมก็ถามว่าแน่ใจรึป่าว ปู่ก็บอกว่าไม่แน่ใจ เหมือนจะวังวลเพราะรอบที่แล้วบอกผิด แต่ดีหน่อยที่รอบนี้ไม่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ ปู่ก็บอกเลขให้ผม 3 ตัว แต่ที่ใบหน้านั้นผมได้มองเห็นเลขถึง 6 ตัว แต่ผมก็ไม่ได้สนใจ สนใจแต่เลขที่ได้ยินเท่านั้นและก็คิดว่าเอาไงดีจะลืมไหมเนีย ในที่สุดก็กลัวจะลืม เลยกำหนดให้ตัวเองตื่นขึ้นมาแล้วก็จดเลขลงโทรศัพท์จากนั้นก็หลับต่อ รอดูงวดหน้าจะถูกรึป่าว ถ้าไม่ถูกอีกผมรู้สึกว่าปู่คงไม่มาบอกอีกแล้ว

 

อย่ามาทำกั๊ก...เล่ามาให้หมดนะเจ้าเหมียวน้อย...

 

พอ อยากจะรู้ ก็หายไปล่ะ ท่านคุรุ 55

 

ไปๆมาๆเข้าเรื่องของตนเองอีกแล้ว (น้อยครั้งที่จะนิมิตถึงเรื่องราวของคนอื่น)

ก็เลยตกใจครับ แต่เราไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดีเพราัะมีแต่กำแพงล้อมรอบ
(ยังไม่ทันได้เห็นหน้าพระธิดาเลย...สงสัยถ้าเห็นแล้วคงจะไม่หนีครับ ฮ่า ฮ่า ฮ่าๆๆๆ)
ด้วยความที่เรารักนวลสงวนตัว! ก็เลย...เลย กำหนดจิตแหวกกระเบื้องหนีลงไป ใต้พื้นครับ
เพราะจำได้ว่าตอนขามา เราลอยขึ้นมา
ความรู้สึกเหมือนเป็นสูญญากาศ ครับ...
แหวกลงไปสัก สองสามชั้นบรรยากาศ...เห็นแม่ชีผู้หนึ่งนั่งสมาธิอยู่ ลักษณะคล้ายๆเหมือนท่านนั่งอยู่ในโบสถ์ ครับ
เลยตะโกนเรียกให้แม่ชีช่วย เพราะตนเองเหมือนกำลังจะถูกดูดให้ลอยขึ้นไปที่เดิม!
แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ เพราะแม่ชีท่านไม่ตอบรับ (ตอนนั้นรู้สึกกลัวตายครับ)
เลยรวบรวมกำลังครั้งสุดท้าย พุ่งตัวลงมา....ความรู้ทางจิตบอกว่ามาถึงโลกมนุษย์แล้ว
แต่สัญญาหายไปหมด คือจำไม่ได้เลยว่าเราคือใคร เราอยู่ ณ ตำแหน่งใด ร่างกายหยาบก็ไม่มีปรากฎ...เราจะทำอย่างไรดี? มีแต่ความรู้สึกเบา โปร่งโล่งไปหมด (แต่ยังแฝงไปด้วยความกลัวตาย)

ในขณะที่กายละเอียดกำลังปรับเข้าสู่กายหยาบนั้นเอง! พลันสัญชาติญาณหนึ่งก็ปรากฎขึ้นว่า "ถ้ายังมีลมหายใจอยู่ก็แสดงว่าเรายังไม่ตาย"
ดั่งนั้นข้าพเจ้าจึงนึกถึงลมหายใจ ปรากฎว่าได้ผลครับ
มีความรู้สึกเหมือนมีกองลมหมุนวนตั้งแต่ศีษะ ส่วนหัวก็ปรากฎขึ้น ค่อยๆไล่ลงไปถึงกลางตัวถึงปลายเท้า(อุปมาเหมื่อนเครื่องสแกน) สุดท้ายข้าพเจ้าก็ลืมตาตื่นขึ้นมา
พร้อมกับจิตที่สดชื่นมีพลังอย่างบอกไม่ถูก!
จบแล้วครับ...หวังว่าคงพอจะเป็นประโยชน์ในการปฎิบัติบ้าง ไม่มากก็น้อย

 

ไปดีกว่าครับได้เวลาแล้ว!

 

นิทานก่อนนอนครับ
อดีตที่ผ่านมา มีคนที่อาศัยอยู่ใกล้ป่า เขามีนามว่า มนต์เมือง เขามีอาชีพหาของป่าและล่าสัตว์ป่า เพื่อยังชีพและนำไปขายครับ วันหนึ่งเขาไปล่าสัตว์ใหญ่นั้นได้ครับ แต่...

 

สัตว์ตัวนั้น เมื่อใกล้จะตายได้กระเสือกกระสน ดิ้นรนไปถึงที่มีพระธุดงค์มาปักกลดอยู่ครับ ฝ่าน นมต์เมือง ก็ตามรอยเลือดนั้นไป เขาก็เคารพพระอยู่ แต่ก็อยากได้ซากสัตว์ตัวนั้นครับ เขาเลยกล่าวว่า สัตว์นั้นเป็นของเขา ขอให้ตุ๊เจ้าคืนให้เขาด้วยขอรับ พระนั้น ไม่กล่าวอะไร แต่ท่านสวดมนต์ว่า สัพเพสัตตา...
เพื่อเตือนสติ มนต์เมืองครับ เหตุการณ์ในวันนั้นทำให้ สัญญานั้นผูกพันมาถึงปัจจุบัน การเจริญกรรมฐานนั้น ไม่ก้าวหน้าเพราะติดบ่วงกรรมนั้นอยู่ครับ

 

เล่าเรื่องเกี่ยวกับพญานาคให้ฟังดีกว่าครับ มีชื่อเรื่องว่า ธิดานาคินครับ
โสม ฟังหรือไม่ครับ

 

ได้อ่านพบ ติดตามนิทานเรื่อง พญานาค จนถึงหน้าที่แปดแล้ว คงนานโขถึงจะตามมาถึงเนื้อเรื่องในปัจจุบันครับ สนในเรื่องของภพภูมิต่างๆ แต่คงด้อยในด้านวาสนา และการปฏิบัติ แต่ก็มีความสนใจอย่างยิ่ง เพราะรู้สึกถึงความถูกชะตาอย่างบอกไม่ถูก^^
ขอบคุณครับ

 

ได้อ่านพบ ติดตามนิทานเรื่อง พญานาค จนถึงหน้าที่แปดแล้ว คงนานโขถึงจะตามมาถึงเนื้อเรื่องในปัจจุบันครับ สนในเรื่องของภพภูมิต่างๆ แต่คงด้อยในด้านวาสนา และการปฏิบัติ แต่ก็มีความสนใจอย่างยิ่ง เพราะรู้สึกถึงความถูกชะตาอย่างบอกไม่ถูก^^
ตามธรรมเนียมต้องเล่าเรื่องเล่าให้สมาชิกฟังครับ
เพราะการเล่าจากตนเองนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ผู้ครองนครแห่งนี้ (อยากรู้เหลือเกินครับ) หวังว่าคงได้รับสิ่งดีๆ กลับไปนะครับ

<!-- google_ad_section_end -->

 

ไม่มีใครตอบงั้นงดเล่าให้ฟังแล้วกันครับ ให้ทิพย์อักษรเล่าให้ฟังก็ได้ครับ เพราะเขารู้จักกันดีครับ

 

ขอบพระคุณสำหรับนิทานเรื่องมนต์เมือง แล้วเค้าผู้นั้นมีวิธีการแก้ไขหรือบรรเทาบ่วงกรรมนั้นได้บ้างไหมหนอ..

 

ต้องให้ นราวดี สมุนาเทวี และทิพย์อักษรนั้น เล่าให้ฟังครับ หรือที่ปรึกษาอย่าง ปาลาวันตีก็ได้ครับ เพราะกล่าวไว้หลายครั้งในกระทู้แล้วครับ