เรื่องเด่น นานาเรื่องราวหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย Wannachai001, 16 กันยายน 2014.

  1. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,809
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    [​IMG]


    (จากหนังสือรวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม 6 หน้า 29)



    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Doc2015/DSC_0092_5.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Doc2015/DSC_0092_5.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0092_5.jpg"/></a>

    (จากหนังสือรวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม 6 หน้า 31)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2016
  2. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112

    น้อมกราบหลวงพ่อสมเด็จองค์ปฐม หลวงปู่ปาน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    สวัสดีตอนเช้าวันพระครับพี่ปู พี่วรรณ พี่นอร์ พี่น็อตและพี่ๆลูกหลานหลวงพ่อทุกๆท่าน



    [​IMG]
     
  3. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,435
    น้อมกราบสมเด็จองค์ปฐม หลวงปู่ปาน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    สวัสดีพี่วรรณ พี่ปู คุณน๊อต และทุกๆท่าน


    [​IMG]
     
  4. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,809
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กุมภาพันธ์ 2024
  5. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,809
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    หลวงพ่อพูดถึงท้าวพกาพรหมและท้าวมหาชมภู

    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Doc2015/DSC_0107_2.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Doc2015/DSC_0107_2.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0107_2.jpg"/></a>

    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Doc2015/DSC_0116_6.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Doc2015/DSC_0116_6.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0116_6.jpg"/></a>

    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Doc2015/DSC_0123_2.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Doc2015/DSC_0123_2.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0123_2.jpg"/></a>

    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Doc2015/DSC_0127_2.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Doc2015/DSC_0127_2.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0127_2.jpg"/></a>

    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Doc2015/DSC_0135_3.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Doc2015/DSC_0135_3.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0135_3.jpg"/></a>


    (จากหนังสือรวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม 7 หน้า 432 - 436)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กุมภาพันธ์ 2024
  6. เช่นนี้เอง

    เช่นนี้เอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2014
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +1,817

    น้อมกราบครูผึ้งด้วยเคารพยิ่ง
     
  7. berbapor

    berbapor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,845
    ค่าพลัง:
    +21,862
    สวัสดียามดึกครับพี่วรรณชัย,ท่านพี่วุฒิ,คุณsupatach,คุณtaoreedman,คุณfive304,คุณThis_old_man,คุณpalmcc38,คุณyommatood, คุณizeberry , คุณtossa ,คุณช่างชิต,คุณjj85,คุณ6ThSense,น้องแพน, พี่รุ่ง, พี่กฤต, คุณเพชร,คุณชาตรี ช้างน้อย ,คุณออกพราน,คุณrung847,พี่chopper,คุณระงับ,คุณsylvenus,คุณรัก_ในหลวง ,คุณramo , คุณCobraa ,คุณนิช,คุณpowergen, คุณKRITVEE ,คุณบารมี10 คุณเมฆดำ ,คุณหมาอ้วน และศิษย์วัดท่าซุงผู้มีจิตใจดีงามทุกๆท่าน.(^__^)
     
  8. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]



    สมเด็จองค์ปฐมรุ่น๕ เนื้อสัมฤทธิ์นอก
     
  9. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,809
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    [​IMG]
     
  10. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,809
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    ศิษย์บันทึก

    อัญเชิญ มณีจักร




    ข้าพเจ้า เป็นลูกศิษย์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน เมื่อปี พ.ศ.2511 ได้พบสิ่งมหัศจรรย์แปลกๆ ใหม่ๆ ที่เกิดจากความศักดิ์สิทธิ์ของพระคุณท่านหลายครั้งหลายหน จนนับไม่ถ้วน เหมือนกับที่ท่านทั้งหลายเขียนในลูกศิษย์บันทึก เล่ม 1 – 2 และ 3 นี้ ยิ่งนานปี ยิ่งมีลูกศิษย์ลูกหลานพุทธบริษัทเพิ่มขึ้นมากขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะทำอะไรที่เกี่ยวเนื่องกับพระคุณท่าน พวกลูกศิษย์จะเต็มใจช่วยเหลือรับใช้โดยไม่เกี่ยงงอน ไม่ต้องพูดขอร้องกันต่างคนต่างทำเต็มที่ ระยะหลังนี้พระเดชพระคุณท่าน ป่วยหนักติดๆ กันหลายครั้ง ดร.ปริญญา นุตาลัย คิดจะบวชพระเพื่อถวายกุศลให้พระคุณท่าน 100 องค์

    เมื่อเริ่มแรกจะบวช ยังคิดว่าจะหานาคที่ไหนมาบวชให้ครบ 100 องค์ ที่ไหนได้ เพียงไม่กี่วันมีผู้สมัครถึง 180 องค์ ครั้งนี้มีพิเศษอีกครั้งคือผู้หญิงก็มีสิทธิ์บวชชีพราหมณ์ด้วย จึงมีถึง 500 กว่าโดยไม่ได้นัดกัน หลายท่านเสียดายไม่ทราบ จึงไม่ได้เตรียมชุดขาวไปบวชนุ่งขาวห่มขาว แต่ก็บวชใจโดยถือศีล 8 บ้าง กรรมบถ 10 บ้าง ชีพราหมณ์มีอุปัชฌาย์บวชให้ เกิดมา ข้าพเจ้าเพิ่งเคยบวชชีพราหมณ์ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ด้วยความดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ผู้หญิงมีสิทธิบวชได้เหมือนกัน ทุกครั้งเป็นแต่เพียงกองเสบียงเลี้ยงอาหารกับน้ำเท่านั้น

    เช้ามืด วันที่ 24 ธันวาคม 2534 ข้าพเจ้าโดยสารรถปรับอากาศประจำทางออกจากสถานีขนส่ง 07.30 น. นั่งเก้าอี้แถวที่ 2 ซ้ายมือ รถแล่นไปเรื่อยๆ ข้าพเจ้าหลับตาภาวนา สวดมนต์ท่องคาถาทุกบทที่จำได้ในใจ ขณะที่ภาวนาอยู่ ใจนึกว่า อาจเกิดอุบัติเหตุเพราะงานวัดครั้งนี้เป็นงานบุญใหญ่ ผู้ที่จะบวชหลายท่านเป็นผู้ที่ปฏิบัติธรรมะอยู่แล้ว เมื่อเป็นพระที่วัดท่าซุงจะต้องปฏิบัติธรรมด้วย เพราะเป็นวัดที่สอนวิปัสสนากรรมฐานเป็นประจำ เขาว่าบุญใหญ่หรือจะได้ลาภใหญ่มักจะพบอุปสรรคก่อน จึงนึกขอบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน และต่อด้วยอีกหลายพระองค์จนถึงหลวงปู่ปาน วัดบางนมโคกับพระคุณท่านหลวงพ่อเป็นที่สุด ว่าถ้าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น ขออย่าให้ตกใจและคนในรถคันนี้ทังหมดปลอดภัยด้วย

    ขณะที่สวดมนต์ว่าคาถาบนไหนเป็นของท่านองค์ใด ก็นึกถึงท่านองค์นั้นๆ ให้คุ้มครอง ส่วนมากเป็นคาถาที่พระคุณท่านหลวงพ่อให้ และท่านมักจะบอกให้ทราบว่าเป็นคาถาของใคร เช่น

    คาถา “สหัสเนตโต เทวินโท ทิพจักขุง วิธสทายิ” เป็นคาถาของท่านปู่พระอินทร์ก็นึกถึงท่านปู่พระอินทร์

    “มหาวิชชะโญ โหหิอะสังวาโส” เป็นของท่านท้าวมหาชมพู หรือ “อิติปิโสภควา ยมมะราชาโน ท้าวเวสสุวัณโณ มรณังสุขัง สุขคะโต นะโมพุทธายะ” เป็นต้น ชื่อบอกอยู่แล้วว่าเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระยายมราช ท่านท้าวเวสสุวรรณ

    ว่าคาถาในใจทุกบทแล้ว นับลูกประคำซึ่งมีพระคำข้าวมหาลาภ กับพระหางหมากของพระคุณท่านเลี่ยมผูกติดที่ชายสายลูกประคำ เช้านั้นว่าบทของมีดหมอชาตรี ซึ่งอยู่ในกระเป๋าด้วย

    (มีดหมอชาตรีรุ่น 1) “ทุกขา ทุกขัง ปฏิฐิตัง สัมปะติจฉามิ” 100 จบ
    แล้วต่อด้วยน้ำมันชาตรี คือ “อิทธิฤทธิพุทธนิมิตตัง ขอเดชะ เดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่งแก่มะอะอุนี้เถิด สัมปะติจฉามิ” 100 จบ
    แล้ว “โหตุ โหตุ อาภากะโร อิมะสะมิง” ของท่านเสด็จกรมหลวงชุมพรฯ 100 จบ


    แล้วกำลังต่อด้วยคาถาที่พระคุณท่านหลวงพ่อให้ของขวัญปีใหม่แก่ลูกหลานพุทธบริษัทของท่าน เมื่อปี 2534 ทุกท่านคงทราบดีแล้ว คาถารวบ หลับตาว่าคาถา นึกถึงพระคุณท่านหลวงพ่อมือเลื่อนลุกประคำไปเรื่อยๆ กำลังเพลิน ความรู้สึกคล้ายๆ รถจะเบรกเอาแล้ว

    มาเปลี่ยนคาถาเป็น “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร” ทันที พูดดังดังออกมาเลย เสียงดังโครม ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ๆ ๆ รถหยุดเสียงเงียบลืมตาดูเห็นรถปิคอัพไม่มีหลังคาตกไปข้างถนนใกล้ๆ กับที่ข้าพเจ้านั่ง ไม่เป็นไรๆ ทีนี้ว่าแทนคนรถปิคอัพด้วย

    เห็น 2 คนนั่งหน้ารถเปิดประตูรถออกได้เอง ไม่เป็นไรจริงๆ ทีนี้เขาไปหาผู้หญิงกำลังนอนสลบอยู่ข้างๆ รถ ข้าพเจ้านึกถามพระพุทธองค์ ท่านบอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวก็ฟื้นๆ ขึ้นจริงๆ แต่ก็ต้องพาไปโรงพยาบาลตรวจอีกทีเพื่อความแน่ใจ ดีว่าตรงที่กระเด็นตกลงไปเป็นอกหญ้าหนามาก ด้วยบารมีของพระคุณท่านหลวงพ่อ ช่วยให้ปลอดภัยได้จริงๆ ทั้งคันรถ ตามที่อธิษฐานขอไว้ ถ้ารถที่ข้าพเจ้านั่งมาเบนออกขวามือนิด จะต้องชนกับรถ 10 ล้อที่สวนมา ถ้าเบนซ้ายหน่อยต้องตกถนน จอดในทางที่กำลังเหมาะจริงๆ ไม่มีรถคันอื่นมาชนซ้ำเลย

    จากผู้ที่ลืมตาเล่าว่า รถปิคอัพที่ลงข้างทางแซงรถ 10 ล้อไม่พ้น ถูกชนลอยหมุนมาชนหน้ารถเราอีก แล้วตกถนนโดยตั้งขึ้น ถ้าตะแคงต้องทับคนตาย ข้าพเจ้าไม่ตกใจเลยเพราะหลับตา ท่องไม่เป็นไร ไม่เป็นไร มือเลื่อนลูกประคำหรือเปล่าไม่รู้

    ลูกศิษย์หลวงพ่อคนหนึ่ง นั่งหลังคนขับบอกว่าเห็นหลวงพ่อท่าน เอาไม้เท้าจิ้มที่หน้าเขา รถก็หยุดพอดี จากที่คนเห็นเหตุการณ์พูดว่ารอดมาได้อย่างไร ไม่ตายไม่มีใครเจ็บเลย ไม่รอดได้อย่างไร ก็เพราะว่าในรถคันนั้นมีลูกศิษย์รีบไปให้ทันงานวัด

    ข้าพเจ้าหยิบผ้าไตรที่เจ้าประคุณสมเด็จวัดสามพระยา ให้ทำบุญงานศพ คุณน้าพิพัฒน รัตนอุบล 12 ไตรก่อนวันเดินทางวันเดียว เหลือผ้าไตร
    กราบเรียนท่านว่า จะเอาไปถวายหลวงพ่อที่วัดท่าซุงเพื่อบวชพระ พระคุณท่านก็ทราบดีอยู่แล้ว ใครไม่ทราบพูดขึ้นว่า ของพระอรหันต์เอาไปถวายพระอรหันต์ บุญมากจะไม่ปลอดภัยได้ยังไง ข้าพเจ้าจึงหยิบมีดหมอกับขวดน้ำมันชาตรีของพระคุณท่านหลวงพ่อในกระเป๋าให้ดูอีก

    ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ท่านสอนว่า ถ้าเราทำสมาธิภาวนา หรือกำลังนั่งวิปัสสนากรรมฐาน จากตัวเราออกไป 2 วา จะมีเทวดาอย่างน้อย 2 องค์ คอยคุ้มครองป้องกันภัยให้ เป็นจริงแน่นอน

    คนขับรถนั่งไม่เกิน 2 วา ที่ข้าพเจ้ากำลังภาวนาพุทโธด้วย รถที่นั่งมาไม่เป็นไร เครื่องยังดีหมด กระจกไม่แตก แต่คนขับตกใจขับต่อไม่ได้ จึงต้องคอยให้รถคันใหม่ไปเปลี่ยน คอย 2 ชั่วโมงกว่า รถไม่มาเปลี่ยน ข้าพเจ้าและลูกศิษย์หลวงพ่อท่านอีกหลายคน จึงขึ้นรถโดยสารประจำทางกรุงเทพฯ ไปอุทัยต่อ พบลูกศิษย์หลวงพ่อท่านอีกหลายคน ถึงวัดบ่าย 2 โมง

    โชคดีเปลี่ยนเป็นว่าบวชเณร บวชชีพราหมณ์วันรุ่งขึ้นคือวันที่ 25 ธันวาคม 2534 เช้าวันที่ 25 เวลา 6 โมงเช้า ไปพร้อมกันที่หน้าโบสถ์ แตรวงของนักเรียนชาย โรงเรียนพระสุธรรมบรรเลงนำหน้านาคนุ่งห่มขาว 180 องค์ เดินเรียงแถวๆ ละ 3 องค์ ถือธูปเทียนดอกบัวขาว ถือไตรพนมด้วย ต่อด้วยผู้ชายนุ่งขาวทั้งชุดเดิน แล้วเป็นผู้ที่จะบวชชีพราหมณ์เดินตามพี่ชอ อัญชัน ศุทธรัตน์ เป็นผู้แทนถือธูปเทียนแพดอกบัว วางบนพานถือนำหน้า หมดผู้จะบวชชีพราหมณ์ แล้วจึงเป็นพ่อแม่ญาติพี่น้องนาค กับผู้ที่ร่วมบุญเดินตาม เดินรอบโบสถ์นอกกำแพงแก้ว ม่ายงั้น หัวกับหางขบวนต้องซ้อนกันแน่ๆ

    เวียนครบ 3 รอบนาคเข้าโบสถ์ ส่วนชีพราหมณ์ขึ้นรถรางวัด ไปคอยพระอุปัชฌาย์บวชให้ที่มหาวิหารแก้ว 100 เมตร

    ระหว่างที่นั่งคอย หลวงพ่อพระครูอุทัยธรรมโกศล มาทำพิธีบวชชีพราหมณ์ให้ พวกเราก็เตรียมการซักซ้อมกันก่อน

    ข้าพเจ้าพึ่งรู้ว่าชีห้ามนั่งท้าวแขน ห้ามยืนรับประทาน แม้แต่เครื่องดื่มก็ไม่ได้จึงประกาศให้ทราบทั่วกัน

    นั่งพับเพียบนานๆ ไม่ให้ท้าวแขนจึงเมื่อย เผลอเท้าแขนเรื่อย นึกได้ท้าวที่ขาตัวเองอีกแล้ว จึงตัดปัญหานั่งขัดสมาธิ มือวางบนตัก ทำสมาธิคอยหมดเรื่องนั่งสมาธิแบบมโนมยิทธิ ที่พระคุณท่านหลวงพ่อเมตตาสอนให้ ใจนึกขึ้นว่าเราตายแล้ว กายในพุ่งไปที่สำนักพระยายมราชทันที

    กราบท่านเรียนท่านว่า ลูกตายแล้วเจ้าค่ะ ขอเมตตา ให้ความชั่วความเลวร้ายทั้งหลายจงพินาศไปด้วย ทีนี้ขอเกิดใหม่

    กายในพุ่งขึ้นไปที่บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์โน่น เข้ากราบที่พระบาทท่านปู่พระอินทร์ เรียนว่า ลูกเกิดใหม่เจ้าค่ะ ขอประทานพรให้แข็งแรงมีแต่สิ่งที่ดีๆ ขอให้พระคุณท่านหลวงพ่อจงแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย ไปธุระที่ไหน หรือไปสอนธรรม ลูกขอตามไปด้วย ด้วยร่างกายที่แข็งแรง ไม่ป่วยเจ็บ มีปัญญาที่พระคุณท่านหลวงพ่อเมตตาสอนให้ลูก

    สามารถถ่ายทอดสอนผู้อื่นได้โดยถูกต้อง สอนไม่ผิด ขอให้มีเงินกำลังทรัพย์ไปด้วย อยากทำบุญทำทานอะไร ขอให้มีเงินไม่ขาดมือ ว่าไปเรื่อยๆ ขออะไรอีกดีหนอ แจ้งตายที่พระยายมราชไม่ผิดแน่ๆ

    แจ้งเกิด ไปหาองค์ไหนถึงจะไม่ผิด เกิดความลังเลสงสัยนิวรณ์มาแล้ว ต้องหยุดลงมานั่งคอยใหม่ คอยอีกประมาณ 10 กว่านาที พระอุปัชฌาย์ไปทำพิธีให้ พี่ชอเป็นผู้แทนเอาพานธูปเทียนแพดอกบัว ไปถวายท่าน เรียนท่านว่า “เป็นตัวแทนของลูกศิษย์พระราชพรหมยาน

    พวกเรามีความประสงค์ที่จะบวชชีพราหมณ์ ถวายกุศลให้พระคุณท่านหลวงพ่อให้ท่านหายป่วย ขอรับศีลและโอวาท ขอให้ท่านนำพูดทุกอย่างด้วย” เป็นว่าไม่มีใครกล่าวเป็น เป็นแบบไม่แน่ใจ บอกท่านกล่าวนำสบายใจดี ขนาดพูดตามบางคำไม่เคยได้ยินด้วยซ้ำ

    เสร็จพิธีเป็นชีแล้วเข้าที่พัก ต่างทำงานตามหน้าที่ บ่ายโมงครึ่งวันนั้น พลตำรวจโทสมศักดิ์ สืบสงวน นำบายศรี พูดนำคณะศิษย์ลูกหลานหลวงพ่อท่านทั้งหมดที่อยู่ในศาลารับแขก กล่าวคำขอขมา ทุกคนว่าตาม

    บวชพระ 180 องค์วันเดียวไม่เสร็จ บวชจนถึงเที่ยงคืนหยุดพัก วันที่ 26 บวชตั้งแต่เช้าจนถึงทุ่มกว่า จึงเสร็จหมดทุกองค์ บวชพราหมณ์ 500 กว่าชั่วโมงเดียวเสร็จแล้ว ฤกษ์สึกมี 2 วันคือ วันที่ 29 ธันวาคม 2534 ซึ่งเป็นวันพระ พระคุณท่านหลวงพ่อจะลงเทศน์ก่อนแล้วบวงสรวงที่วิหารท้าวมหาราชทั้ง 4 จึงจะสึกพระและพราหมณ์ (ผู้ชายหลายท่านนุ่งขาวห่มขาวด้วย)

    วันที่ 12 มกราคม 2535 มีสึกอีกรุ่นหนึ่ง จึงเป็นว่าบวชข้ามปี พวกเราคณะกองทุนบวชหลายท่าน และทุกๆ ท่านบวช เพื่อถวายกุศลตอบแทนพระคุณท่านหลวงพ่อ เพื่อให้ท่านหายป่วย มีร่างกายแข็งแรงเหมือนเดิมหรือดีกว่านั้น ที่พาคณะศิษย์ไปโปรด ทหารตำรวจตระเวนชายแดน

    สมัยที่บ้านเมืองไม่สงบสุขมีภัยจากผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ภัยจากประเทศใกล้เคียง พาไปกราบพระอาจารย์หลวงปู่อีกหลายองค์ ที่พระคุณท่านหลวงพ่อเห็นว่าสมควรให้ลูกศิษย์ เอาเป็นแบบอย่างปฏิบัติธรรมและจริยาวัตรที่ดีงาม ต่างเป็นปลื้ม เมื่อทราบว่าพระคุณท่านหลวงพ่อ จะเป็นผู้สึกชีพราหมณ์ให้ด้วยในวันที่ 29 ธันวาคม 2534 นับเป็นมหามงคลอันยิ่งใหญ่ แด่ลูกหลานพุทธบริษัทของพระคุณท่านอย่างยิ่ง หาที่เปรียบมิได้เลย จึงพร้อมใจกัน ช่วยงานของท่านต่อไปอีกด้วยความเต็มใจ ทำจนสุดกำลัง ความสามารถที่มีอยู่ในตัว และจะเรียนรู้สิ่งดีๆ ไปอีกเรื่อยๆ ทำเพื่อสนองตอบแทน พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่าน จนกว่าจะสิ้นใจเข้าสู่พระนิพพานในชาตินี้ ตามคำสอน คำอธิษฐาน ที่พระคุณท่านสอนไว้กับพวกเราทุกๆ คน


    (จากหนังสือลูกศิษย์บันทึกเล่ม 3 หน้า 65 - 68)

    http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=1170#19


    [​IMG]

    ภาพปัาอัญเชิญ มณีจักรและป้านิภา คงสุข
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2016
  11. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,809
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    ลูกกราบถวายชีวิตให้แก่ท่านพ่อ

    นิภา คงสุข


    คุณชอ (อัญชัน) ได้โทรมาบอกว่า ลูกศิษย์บันทึกเล่ม 3 จะออกอีก คุณภาจะเขียนอะไรมั้ย มีอะไรจะเขียนมั้ย ก็รีบตอบไปโดยไม่ต้องคิดว่าเยอะเลย ตามประสบการณ์ของครูบ้านนอก ถามคุณชอว่าหลวงพ่อคือท่านพ่ออนุญาตรึ คุณชอบอก เออ เขียนมาถ้าเกี่ยวกับมโนมยิทธินั้นมีมาก ก็เลยกำหนดจิตถามขอบารมีพระพุทธองค์ทุกๆ พระองค์ และหลวงปู่ปานและท่านพ่อของเรา ท่านพ่อในที่นี้คือ พระราชพรหมยาน วัดท่าซุง ที่ไม่เรียกท่านว่าหลวงพ่อ ก็เพราะหลวงพ่อนั้นมีมากมาย

    แม้เพียงนักบวชแก่ๆ เขาก็เรียกกันว่าหลวงพ่อ รู้สึกพอเรียกแล้วดูซ้ำซ้อน ดีชั่วยังปนกันอยู่ แต่ท่านพ่อของเราท่านไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน จึงไม่อยากให้ปะปน อ้อ ผู้พูดนี้สังโยชน์ข้อ 9 ยังทำไม่ได้ ก็เป็นธรรมดานะ บอกเสียก่อน พูดไปแล้วรู้สึกมีความภาคภูมิใจในท่านพ่อของเรา และภูมิใจที่ได้เข้ามาพบหนทางสายท่าน เป็นปลื้มจริงจริ๊ง สมกับที่ลงทุน

    ค้นพระมาตั้งแต่เด็กกว่าจะพบพระก็ปาเข้าไปอายุ 43 ปี เพราะผู้เขียนอายุ 60 เต็มย่าง 61 พบพระท่านพ่อเมื่อ พ.ศ.2517 รวมกับ 43 ก็เท่ากับ 60 ปี พบพระแก้วสารพัดนึกเสียด้วยซี ความจริงยิ่งกว่า แต่ครูบ้านนอกไม่รู้จะเปรียบอย่างไร จึงขอพูดว่าท่านพ่อของเราเป็นที่สุดที่สุดที่สุดของความดี ในโลกนี้และโลกหน้า

    ท่านพ่อทำให้เรารู้ที่มา และรู้ที่กำลังจะไป มีองค์ไหนบ้าง สอนอย่างท่านพ่อของเรา หายากเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร ตามโบราณท่านว่าไว้นั่นแหละ วิชาของท่านพ่อของเราไม่เหมือนใครแล้วก็ไม่มีใครเหมือน เพราะเป็นวิชาของโลก เราจะนึกไปไหนก็ได้ โดยไม่ต้องตะเกียกตะกายเอาร่างกายขันธ์ 5 ไป เราก็ไปได้ ไปอย่างเบาๆ สบายๆ จนกระทั่ง พระนิพพาน

    แม้พวกนักวิทยาศาสตร์ด้านคอมพิวเตอร์นิวเคลียร์ไปโลกพระจันทร์อังคาร แต่ไม่มีใครพูดสักคนว่าพบโลกนิพพาน มีองค์เดียวในโลก ที่มีจิตอิสระ กล้าพูด กล้าสอนพวกเรา เอ! พูดๆ ไม่รู้จะมีใครเป็นพวกหรือเปล่า กราบขอขมาและอภัยด้วยเจ้าค่ะ

    ที่พูดว่า วิชาของท่านพ่อเป็นวิชาของโลก ก็เพราะว่าวิชาของพระพุทธคุณ ท่านพ่อใช้ได้ทั้งทางโลกและทางธรรม ทางโลกก็วิชาโลกีย์ การหาเลี้ยงชีพเข้าถึงความสำเร็จในชีวิต เข้าถึงความร่ำรวยและมีความสุข เรียกว่าเข้าถึงเมืองมั่งมี เป็นหมอดูก็ได้ดังเช่นผู้เขียน ถ้ายังโลภหลงอยู่ก็คงรวยได้อย่างสบายๆ เพราะมีคนมาชวนให้ไปเป็นหมอดูห้องแอร์หุ้นกัน แต่ผู้เขียนก็คิดว่าไม่รู้จะเอาไปไหนอีก ทุกวันนี้ก็สุขสบายแล้ว คืนนี้ก็ไม่รู้จะหายใจหรือไม่ หมดความกระวนกระวาย เฉพาะลูกศิษย์ให้ใช้จ่ายตามอัธยาศัยก็หลายสตางค์อยู่

    พูดถึงโลกุตระวิชา ก็คือรู้ลดรู้ละรู้ว่าตอนนี้จะต้องทำอย่างไร รู้ที่มีรู้ที่ไป ตอนนี้กำลังหาเวลาที่จะไปเท่านั้น คนเราดูๆ ไปก็น่าขัน ตอนไม่รู้ก็อยาก พอรู้แล้วก็ยุ่งอีก ครั้งแรกก็ยุ่งเพราะอยากรู้ พอรู้ได้ก็ยุ่งอีกแบบ ก็จะหาไปให้รู้อีกคือหาดับอีก

    อย่างเช่น จะเล่าให้ฟังนิดหนึ่งที่พูดนี่ มันมีที่มาของมัน มีอยู่วันหนึ่งนอนอยู่บ้านบอลลูนเขาก็หลับกันหมด ผู้เขียนนอนตรงกับหลอดนีออนบนเพดานพอดี ก็นอนมองคือนอนไม่หลับ ก็คิดถึงคำสั่งสอนของท่านพ่อ พร้อมกับมองหลอดนีออน นึกสนุก ลองรวมพลังจิตเพ่งภาวนาเตโชกสิณัง ให้หลอดนีออนติดที

    ก็ว่าไปว่าไป พอมองเพลินๆ เกือบชั่วโมง ไฟเริ่มมีตรงสตาร์ทเตอร์ ไม่รู้เรียกผิดหรือถูก ตรงหลอดน้อยๆ ติดกับหลอดนีออน เพ่งนานเข้านานเข้า ชั่วโมงกว่าหลอดนีออนติดได้จริง และไฟก็เต็มดวงเสียด้วย พอไฟติดได้ก็นึกขึ้นมาได้ว่า จะต้องดับ เอ้! เราจะดับอย่างไร ในเมื่อเราไม่ได้กดสวิทช์

    เอาหละซีเรา นึกกลัวไฟไหม้บ้านเขา ยิ่งภาวนาเตโชก็ยิ่งติด จึงเปลี่ยนเป็นพุทโธก็ไม่ดับ เรียกเพื่อนคือลูกศิษย์ขึ้นมาดู และเขาดูแล้วก็หลับต่อ ประมาณตี 2 ยิ่งภาวนาก็ยิ่งโพลงใหญ่ นึกได้ว่าภาวนาดับๆ ก็ไม่ดับ เริ่มว้าวุ่น ก็ตั้งสติและนึกว่าเราต้องดับที่จิตเราก่อนซิ

    ก็หลับตาภาวนาอธิษฐานด้วย ภาวนาด้วยหลับตาด้วย พอเคลิ้มๆ ทำท่าจะหลับจริงๆ นึกถึงไฟขึ้นมาได้ก็ลืมตามอง นึกดีใจเพราะไฟหรี่ลงมากเหลือเหมือนไฟค้าง ยังขาวนวลๆ ก็ภาวนาต่อเคลิ้มอีกเคลิ้มเดียว ลืมตามาดับหมด ดูนาฬิกาทำให้เกิดเพียงชั่วโมงกว่า แต่ทำให้ดับเกือบ 3 ชั่วโมง นี่เอง

    พึ่งรู้วันนี้เองการทำให้เกิดง่ายกว่าดับ ไม่ว่าอะไรทั้งนั้น โมโหวูบเดียวทำร้ายเขาได้ เมื่อทำได้แล้วเกิดเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลยากที่จะจบ เช่นเดียวกัน เกิดเป็นคนว่ายากแล้ว ก็ยังไม่ยากเท่าไม่อยากเกิด แต่เราพบท่านพ่อมั่นใจว่าไม่เกิดแน่ นิพพานแน่ หมั่นคิดหมั่นค้น หมั่นถามตัวเอง หมั่นกำหนดจิต หมั่นแยกแยะความผิดถูกชั่วดี

    รักษาศีล 5 ให้ได้ ศีล 8 ก็ทำได้แล้วแต่กาลเวลา สุขสบายใจก็ทำไป แรกๆ ก็ฝืนหน่อย พอสะสมสะสานไว้เรื่อยก็เกิดความเคยชิน ก็เป็นธรรมดาไปเอง เบาๆ สบายๆ ไม่เครียดจนเกินไป นี่แหละวิชามโนมยิทธิ

    เราทำได้แต่ต้องมีความจริงจัง จริงใจ มีสัจจะ ไม่โลเลเหลวไหล ทำตามหนังสือท่านพ่อเรานั่นแหละง่ายดี และก็สบายด้วย อ่านไปทำไปด้วย ท่านพ่อมักจะย้ำละความชั่ว ทำความดี ทำจิตให้ผ่องแผ้ว ทำไปถ้ารู้ว่าสมองมึนงงก็รีบหาของเล่นใหม่ ฟังเพลงบ้าง ลองฟังเพลงเรือมนุษย์ ธรรมะทั้งนั้นเลย

    เดี๋ยวนี้ทั้งคนแต่งคนร้องคนฟัง เข้าถึงธรรมะ บางคนอ่านแล้ว คงคิดว่าอะไรทำถึงขั้นนี้ยังฟังเพลงอยู่ เพลงผิดตรงไหน ผิดศีลข้อไหน คนเราเห็นผิดก็ผิดหมด ฟังเพลงนั้นดีกว่าเพ่งโทษผู้อื่นนะ ควรพิจารณาใคร่ครวญไว้เสมอๆ คำว่าบุญคือสบาย ทำแล้วสบายไม่ผิดศีลใช้ได้

    พูดไปพูดมา ทั้งนี้แหละทั้งนั้นก็แล้วแต่จริตของคนนะ ใครทำอย่างไรถูกกับจริตก็ทำไป ความดีทั้งหมดที่ได้รับจากท่านพ่อนั้นลูกขอมอบกายถวายชีวิต และจะรักษาไว้ยิ่งกว่าชีวิตทีเดียวเจ้าค่ะ ไม่มีอะไรที่ลูกๆ ท่านพ่อจะทำให้เสื่อมเสียถึงท่านพ่อ

    ลูกไปอยู่วัดท่ามะขาม โดยมีท่านเจ้าคุณพระวิสุทธรังสีเป็นเจ้าอาวาส ลูกอยู่ 1 พรรษา ทำหน้าที่เป็นครูบ้านนอก สอนมโนมยิทธิบ้าง สุกขวิปัสสโกบ้าง ปนญาณ 8 บ้าง ทำหน้าที่จบ โดยมีปัญหาก็แก้ไขได้และที่แปลกที่สุดก็คือพระธาตุเสด็จทุกคืน ผู้ไปปฏิบัติก็ได้มโนมยิทธิกันมาก ทั้งคนแก่อายุ 70 กว่า

    วิชามโนมยิทธินี้คือวิชาหมอดู มีประโยชน์มาก สามารถสร้างบารมีได้ด้วย ทำให้คนหันเข้ามาปฏิบัติ คนแก่บางคนดูหมอแล้ว พอทายว่าจะป่วยและเข้าโรงพยาบาลให้อดเหล้า (ผู้หญิง) แกกลับถึงบ้างเทเหล้าทิ้ง มารับศีลห้าถวายตัวเป็นศิษย์มานั่งพระกรรมฐาน จนได้มโนมยิทธิมาทุกวัน

    วิชานี้เหมาะสำหรับญาณ ดีมากเพราะใช้ได้ทีละหลายๆ อย่างรวมกัน เพราะต้องดู ทั้งอดีตชาติ ทั้งปัจจุบัน ต้องใช้ทั้งจุตูปปาตญาณ เจโตปริญญาณ นึกถึงเจโต มีกะเทยมาดู เขากวนๆ ตั้งแต่ตั้งขัน เขาบอก 50 บาทเท่านั้นเองเคยดู 500 บาท ผู้เขียนก็ไม่โต้ตอบ แต่มองด้วยความสมเพชเวทนา

    พอถามอดีต พอบอกไป ก็เผอิญได้ยินเสียงเขาในใจ เขาอาจคิดดังไปหน่อย ได้ยินคำว่าเพ้อเจ้อ พอดี

    เขาถามว่าเมื่อไรหนูจะรวย
    ก็ตอบเขาไปว่า คุณจะรวยได้ก็เมื่อระวังความก้าวร้าว สามหาว ถ้าคุณปรับอันนี้ได้คุณก็จะดีขึ้น
    เขาถามว่ารู้ได้อย่างไรว่า หนูก้าวร้าว เอ้า เมื่อกี้นี้ถามอดีต พอตอบไปคุณก็นึกว่าเพ้อเจ้อ เขางงๆ มองหน้า เพื่อนเขามาด้วย เขาก็พูดว่า มึงพูดจริง

    ตั้งแต่มาจากบ้านแล้ว ป้าเขารู้นะมึง และมีท่านด็อกเตอร์ปรุงจันทร์ ท่านก็เลื่อมใสในวิชานี้ ท่านไปนอนวัดกันหลายคน ส่วนท่านด็อกเตอร์ศรีสมบูรณ์ เครื่องคอมพิวเตอร์หายหาไม่พบ ไปหาที่ท่ามะขามดูให้ว่า ยังอยู่ไม่หาย อยู่ข้างประตูบนชั้น

    ท่านกลับมาหาพบ เมื่อกี้นี้ขณะเขียนอยู่ท่านโทรฯ มาขอบคุณ และรายงานมาว่ามีเพื่อนๆ ท่านสนใจกันมากว่า ดูแม่นมาก ขนาดที่ทำงาน คุณป้าไม่รู้จักไม่เคยเห็นยังดูเห็นพวกท่าน หากันมาตั้งหลายวันไม่เห็นยังเห็นได้

    ทั้งนี้และทั้งนั้น ท่านพ่อของเราท่านมีวาจาสิทธิ์ เมื่อ พ.ศ.2522
    ท่านพ่อพูดที่ศาลานวราชว่า เอ้า ภา รับวิชาหมอดูไป หลวงพ่อจะเลิกแล้ว
    ผู้เขียนก็พนมมือ แล้วพูดว่า ลูกไม่กล้าเพราะลูกไม่มีความรู้
    ท่านพ่อพูดต่อว่า รับไปเถอะวันละ 40 คนๆ ละ 20 บาท ถวายหลวงพ่อ 10 ให้ใช้ 10 บาท เราก็ได้แต่ยิ้ม
    และท่านก็พูดต่อว่าเรามีความละเอียดอ่อนทำได้ เรานิ่งก็เหมือนรับโดยปริยาย แต่ก็ไม่ดู พอดีท่านผู้ว่ากาจ รักษ์มณีย้ายมาเป็นผู้ว่าอุตรดิตถ์ ท่านก็ใช้อยู่เสมอคนเดียว

    ต่อมาเกิดสงครามร่มเกล้า มีพวกแม่บ้านนายทหารมาให้ดู ก็ตั้งท่าหมอดูเต็มอัตรา ตั้งขันครูด้วย และให้สัจจะกับพระพุทธองค์ว่า วันนี้ถ้าดูหมอแม่นก็จะดูไปเรื่อยๆ ถ้าไม่แม่นก็จะเลิกไม่ดูสงเคราะห์ใครอีก ก็ทายไป

    อ้อ ก่อนทายนั้น กำหนดจิตขึ้นนมัสการพระพุทธองค์ พร้อมกับเอากายในของผู้มาให้ดูขึ้นไปนมัสการแล้วถาม พระองค์ท่านก็จะตรัสมาเป็นขั้นตอน คงมีคนอยากถามก็ขอตอบเสียว่า เห็นพระพุทธองค์เหมือนกับ เรานั่งคุยกับท่านพ่อเรานี่แหละ

    ยิ่งตอนนี้ เห็นพระเนตรท่านเลย พระเนตรท่านดำ สีดำนั้นแปลกแล้วก็ประหลาดคือดำ ไม่ใช่ดำมืดเหมือนนิลนะ ดำออกมันเขียวเคลือบสวยมาก ไม่รู้สินะ ใครเคยสังเกตบ้าง ถ้าไม่สังเกตขึ้นไปสังเกตอีกครั้งเถอะ ชื่นใจ

    อาจเป็นเพราะผู้เขียนชอบซ่อมพระเนตรพระ คราวนี้ก็ร่วมกับคุณหมอนพพร ถวายพระเนตร เคยซ่อมพระเนตรพระที่อุตรดิตถ์ พระเนตรเก่าถูกขโมยไป ต่อมาก็ไปพบที่วัดเกาะหลัก จ.ประจวบ โบ๋เลย ก็ซ่อมถวายอีก หน้ากุฏิหลวงพ่อเจ้าคุณเกตุ เป็นญาติกันทางคุณย่า เป็นพี่น้องใกล้ชิดกันมาก อ๋อ เกือบลืมนึกว่าจบแล้ว

    เมื่อถามพระพุทธองค์ ก็ชี้มือบอกเลยว่าคนนี้ตายแล้ว เขามายืนอยู่ พรุ่งนี้ศพจะมา คนนั้นขาขาด คนนั้นต้องรีบไปบนบวช เมื่อกลับมา คนนั้นไม่ได้ศพแต่ตาย เพราะวิญญาณมายืนอยู่ด้านหลัง และบอกเขาว่า ถ้ารู้ข่าวให้กลับมารายงานด้วย

    เพราะจะได้ดูกันต่อไป พอ 9 โมงเช้าเขาก็มาตาย และจริงๆ มีมากมายขืนพูดก็เก่งใหญ่ อยากดังก็อย่าหวังสงบ แต่ตอนนี้ไม่สงบแล้ว ไปรอบอีสาน ใต้ เหนือ ภาคตะวันออกเดินสายขึ้นรถไฟรถยนต์ช้าไปเสียแล้ว วันที่ 17 ธันวาคม 2534 ก็ต้องขึ้นเครื่องบินไปลงอุบล 3 วัน สงบมั้ยคะ

    นี่แหละคือวาจาสิทธิ์ แต่ต้องทำด้วยนะคะ ไม่ใช่คอยรับแต่วาจาสิทธิ์ คนเรามักเห็นแก่ตัว มักชอบแต่ขอไม่ชอบลงทุน ต้องลงทุนด้วยชีวิต รักษาศีล 5 ให้มีให้เกิดในตัวตน ทรงพรหมวิหาร 4 ให้ได้ เข้าที่ไหน ก็เย็นที่นั่น นี่ตามคุณประดิษฐ์ สกุลเวียงกาญจน์ ท่านพูดอยู่เสมอว่า คุณป้าทรงพรหมวิหาร 4 ใครมาเข้าใกล้ก็เย็นสุขไปหมด

    ท่านผู้นี้รักเคารพท่านพ่อมาก แม้พระบูชาที่บ้านก็มีแต่พระท่านพ่อ พระอื่นจะไม่รับเลย เขาเจาะถุงลมมาถึง 2 ครั้ง แล้วผ่าตัดปอดเหลือซีกเดียว แต่เขาอยู่ได้ด้วยการจับพระอานาปา คือจับลมหายใจเข้าออก จิตจะได้ไม่ไปยุ่งกับขันธ์ 5 บางทีเรานั่งคิดอะไรเพลินๆ มีคนมายืนเรายังไม่รู้เลย

    ก็จริงอย่างท่านว่านั่นแหละ ละความชั่ว ทำความดี ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว เขาจะทำตามท่านพ่อเสมอ แต่ไม่กล้าเข้าใกล้ท่านพ่อ กลัวเกรงมากทีเดียว แต่ไปไหนมาไหนก็พกแต่พระท่านพ่อ และจะกล่าวว่า ท่านพ่อเราองค์เดียวก็พอแล้ว มีพระที่ไหนอย่างหลวงพ่อเรา ไม่ต้องหาที่ไหนอีกแล้วมีองค์เดียวในโลก เขาจะพูดอย่างภาคภูมิใจ และมีความสุข ยิ่งตอนนี้ เขาได้รับมโนมยิทธิด้วยแล้ว รู้สึกจะเบากายใจมาก มโนมยิทธิได้ช่วยชีวิตคน

    เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมนี้ ร้านแจ๊คบริการเป็นร้านส่งน้ำแข็งเครื่องดื่ม เจ้าของร้านฝ่ายแม่บ้าน ถ่ายท้องและอาเจียนเป็นเลือดออกมาแล้วก็แน่นิ่งไป ก่อนแน่นิ่งไปเขาพูดถึงรูปพระนางเรือล่มมา เขาบอกเขาได้ล็อกเก็ตรูปพระนางเรือล่มมา ถูกแย่งไปสักครู่ เขาก็ยิ้มแล้วพูดว่า นิพพานเบาๆ แล้วก็น็อคไปเลย

    เราก็ดูลมหายใจเงียบ ชีพจรหยุด ขณะนั้นก็มีผู้เขียน บอลลูน สุดใจดูแลอยู่ พ่อบ้านและลูกๆ ค้าขายอยู่ชั้นล่าง ไม่รู้เรื่องว่าน็อคไป ผู้เขียนก็เริ่มกำหนดจิต ขึ้นข้างบน สำนักพระยายม พอไปถึงกราบท่านปู่พระยายมราช แล้วขอดูชื่อในบัญชี พอเปิดบัญชีของสำนักพระยายม มีชื่อจำปีเต็มหน้าสมุด (สีขาว) หัวหนังสือพอเห็นแล้วก็ขอบารมีท่าน

    แล้วก็บอกว่าจำปีเขามีลูก เขามีภาระ บอลลูนก็ร้องไห้ เอาหนูไปเถอะเพราะหนูตัวคนเดียว พอได้ยินทำให้ผู้เขียนต้องร้องไห ร้องเพราะนึกถึงความดีของท่านพ่อ ที่มีลูกๆ รักกันสามัคคีกันแล้วก็มีความจริงใจต่อกัน แม้ชีวิตก็ให้กันได้ นี่แหละทำให้ตื้นตันใจ ปีติจนน้ำตาร่วง

    แต่ที่น่าเสียดายที่สุดก็คือ คนป่วยพูดว่า นิพพานก่อนน็อค เราก็ยังขอชีวิตคืนอีก น่าเสียดายอย่างยิ่ง และขอสั่งลูกหลานและศิษย์ไว้เลยว่า ถ้าวันใดผู้เขียนพูดถึงนิพพานแล้วน็อคอย่างนี้ ใครมาขอหรือดึงไว้อีกจะสาปแช่งทีเดียว พูดไว้ก่อน แทนที่จะพ้นทุกข์ ดันดึงมาให้ทุกข์ต่อไปอีก ไม่รู้ว่าจะนานอีกเท่าไร

    สรุปว่า ผลสุดท้ายไปโรงพยาบาล พอคนไข้ฟื้นก็บอกว่าขึ้นนิพพาน ไม่อยากกลับมา และบอกท่านย่าท่านแม่ให้กลับบ้าน ไม่ให้อยู่โรงพยาบาล พวกเราก็นำคนไข้กลับต้องเซ็นชื่อสามีในใบแพทย์ว่า เราไม่ให้ทางโรงพยาบาลรักษา จะให้รักษาได้อย่างไร

    คนไข้เล่าว่า เข้าห้องตรวจ นายแพทย์ (หมอ) อ่านใบรายงานก็พูดขึ้นมาว่า “ไปแดกยาไทยมาซี” คนไข้ฟื้นพอดี แปลกแต่จริง เป็นนายแพทย์ปัจจุบัน แต่พูดใช้คำโบราณแถมแอนตี้ยาแผนโบราณ ไม่รู้เอาไงกันแน่

    ผู้เขียนก็เลยบอกคนไข้ว่า ตอนนั้น น่าจะรวบรวมกำลังแล้วสงเคราะห์เขาให้รู้ตัว จะได้ไม่ไปใช้กับคนไข้อื่นให้เสียกำลังใจ

    ถ้าเป็นผู้เขียนก็จะตอบว่า ไอ้เหี้ยเล่นมั่ว เขาจะได้รู้ว่า เขาใช้ภาษามั่วจนลืมจรรยาแพทย์ไป พูดแล้วเราก็เห็นเป็นเรื่องขำขัน

    ถ้าตอนนั้นไม่พูดอย่างนี้ สามีคนไข้คงเอาเรื่องแน่ ตอนนั้น แพทย์คงนึกว่า คนนี้ไม่รอดมั้ง เพราะไม่หายใจ ชีพจรก็หยุดเต้น จริงๆ นะไม่น่าฟื้น อ้อ ตกลงที่สอบบัญชีเบื้องบน ปรากฏว่า นางจำปี นาคขำ ถึงที่จะตาย แต่นางจำปีของเรา นาคสวัสดิ์ (นามสกุลผิด) ท่านปู่พระยายม ปิดปัญชีขว้างปังลงบนโต๊ะ

    แล้วคนไข้กลับถึงบ้าน ผู้เขียนก็เอาน้ำสไปรท์เทออกนิดหนึ่ง แล้วตอกไข่ไก่ไข่แดงใส่ลงในขวดสไปร์ท เอาหัวแม่มือปิดปากขวดเขย่า น้ำสไปรท์พุ่งเป็นสายยาว หัวหูเสื้อผ้าพวกที่ยืนข้างเตียงจะเป็นอย่างไร

    ผู้อ่านลองนึกภาพดู หน้าตาเปียกปอนด้วยน้ำสไปรท์ ก็ได้หัวเราะกันอีกครั้ง ทั้งคนไข้ ผู้พยาบาลไข่ไก่แดงกับสไปท์ บำรุงหัวใจได้ดียิ่งกว่ายาบำรุงยี่ห้อดังอีกนะ ลองดูซี่ ไม่ต้องใส่ขวด ใส่แก้วปลอดภัยกว่า ไม่เบียดเบียนหน้าตาหัวหูเสื้อผ้า

    ขอเนื้อที่อีกนิดเถอะค่ะ ถ้าคิดว่ามีประโยชน์บ้าง เพราะผู้เขียนก็มีความรู้ทางโลกแค่ ป.4 มัธยม 1 ยังไม่ได้สอบเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ประจวบคีรีขันธ์ (บ้านเกิด) ส่วนทางธรรมก็ยังรบกับโลกีย์อยู่ ยังไม่เข้าโลกุตระ ความละเอียดยังไม่มี จึงมีความนุ่มนิ่มในการเขียนน้อยมาก

    แต่เขียนมาได้ ก็เพราะบุญบารมีของท่านพ่อควบคุมอยู่ ถ้าจะอ่านที่มีความรู้และนุ่มนิ่ม ต้องเปิดหารูปถ่ายพี่หมอสมศักดิ์ สืบสงวน นั่นแหละได้เนื้อหาดี ตู้พระไตรปิฎกเคลื่อนที่แห่งวัดท่าซุง ใจดีไม่รำคาญคนถาม ไม่เหนื่อยหน่ายในการตอบ (ไม่แน่นะถ้าหมอเถลไถลก็อาจต้องเกิดมา สังคายนาพระไตรปิฎกอีกก็ได้ใครจะรู้) อย่าช้านะพี่หมอ

    ท่านพ่อเราจะหนีเรา พระอรหันต์ทุกๆ พระองค์ พอสำเร็จพระอรหันต์ ท่านก็ทิ้งเราไปแล้ว ทีนี้แหละจะเคว้งคว้างเหมือนใบไม้ที่หลุดลอย ไม่รู้ว่าจะร่วงลงตรงไหน กลัวลงโลกพระจันทร์ ขอขมาอภัยพี่หมอและผู้ตรวจด้วยที่บังอาจพูดล้อ ถ้าเป็นหนังจีนก็ตองบอกว่า ข้าสมควรตายและนั่งคุกเข่ารอคำสั่งให้ลุก

    เรื่องอธิษฐานบารมีที่ได้ผล

    เมื่อเป่ายันต์เกราะเพชร ครั้งแล้วๆ มา เข้าเฝ้าท่านพ่อที่ศาลารับแขก ท่านพ่อบ่นว่าเมื่อนี้ป่วยมาก พอฟังแล้วก็พุ่งจิตขึ้นเฝ้านมัสการพระพุทธองค์ ขอบารมีพระองค์ท่าน ขอให้เจ้ากรรมนายเวรที่ไม่ยอมอโหสิกรรมให้ท่านพ่อ ข้าพระพุทธเจ้าขอรับกรรมนี้แทน อย่าให้ท่านพ่อป่วยอีกเลย

    พอคืนนั้นได้ผล เพราะอาเจียนแล้วก็มีเสมหะมาก ตลอดคืน อันนี้มีคุณชอคุณเชิญรู้ เพราะเพราะนอนห้องเดียวกัน จนไม่ได้เข้าเป่ายันต์เกราะเพชร คุณชอยังพูดเลยว่าทำไมคุณไม่แผ่ส่วนบุญที่เราทำให้แทน ทำไมคุณจะต้องเอาตัวเข้ารับ ก็ตอบคุณชอไปว่าบุญท่านพ่อมีให้อยู่และศิษย์และลูกๆ ก็ให้อยู่แล้ว ยังไม่พอเราจึงคิดว่าเอาตัวเองรับคงมีผล แต่ก็มีผลจริงๆ

    พอกลับบ้าน โทรฯ ถามคุณเพชร ว่าท่านพ่อเป็นอย่างไรบ้าง ก็บอกปีนี้ดีไม่เป็นอะไร ครั้งก่อน หมายถึงไม่ใช่ครั้งที่ผ่านมาก่อน ครั้งที่แล้ว เมื่อเห็นว่ามีผล ผู้เขียนก็ดีใจ มาเมือวันที่ 27 พ.ย. นี้นิมิตเห็นพ่อ ความรู้สึกว่าเหมือนจะป่วยโรคใหม่

    ก็ขออธิษฐานอีกครั้งที่พระพุทธองค์ ขอรับก่อน อย่าให้เกิดกับท่านพ่อ ก็อยู่ดีๆ นะ พอกินอาหารเสร็จจะลุกขึ้น ก็เกิดปวดซีกด้านซ้ายมือ ปวดลึกๆ เย็นๆ ตั้งแต่ตะโพก ชายโครงปวดร้าว เกร็งๆ เหมือนตะคริวเข็งซีกหนึ่ง เดินปวดมาก พอปวดทีไรก็หน้ามืด

    หมอนพพรให้ยารักษาอยู่ในเมืองกาญจน์ 6 วัน กลับกรุงเทพฯ พอบรรเทา พอเข้ากรุงเทพฯ วันที่ 10 ได้รับข่าวจากคุณชอว่า ท่านพ่อเป็นตะคริว ทุกวันนี้ผู้เขียนก็ยังไม่หายดี แต่บรรเทาบ้างเท่านั้น ลองใช้กันดู ถ้าใครอยากไปนิพพานเร็ว ก็อธิษฐานรับไว้ ช่วยท่านพ่อได้แน่นอน พูดตามประสาคนบ้าๆ บอๆ ผิดถูกประการใด ผู้เขียนขอยืนยันและขอรับผิดแต่ผู้เดียว

    ความดีทั้งหมดที่ผู้เขียนมีบ้าง ก็ได้มาจากท่านพ่อพระราชพรหมยาน ส่วนความบ๊องก็มาจากสันดานของผู้เขียนเอง


    (จากหนังสือลูกศิษย์บันทึกเล่ม 3 หน้า 78 - 83)

    http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=1225#23


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2016
  12. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,809
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2020
  13. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,809
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2020
  14. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,809
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2020
  15. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,809
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2020
  16. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,809
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    รูปหลวงพ่อรูปนี้จะใช้เป็นแบบในการแกะแม่พิมพ์รูปเหมือนหลวงพ่อสำหรับเททองหล่อรูปเหมือนหลวงพ่อทองคำ ในงานทำบุญฉลองครบรอบ 100 ปีหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ปีนี้ครับ
     
  17. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    [​IMG]

    จิตกับวิญญาน


    "คำว่าจิตกับวิญญานต่างกันอย่างไรเจ้าคะ เพราะได้ไปอ่านหนังสือเขาว่าเป็นความต่อเนื่องของชาติภพ คนเราสำคัญว่ารางกายมีความต่อเนื่อง แต่จริงๆ แล้วมีการตายเกิดตลอดเวลา อ่านแล้วไม่เข้าใจ ขอหลวงพ่อโปรดสงเคราะห์ดด้วยเถิดเจ้าค่ะ"

    ฉันก็ไม่เข้าใจ เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน จิตกับวิญญานต่างกันอย่างนี้นะ จิตเขาใช้ตัว จ. วิญญาน ใช้ ตัว ว. ขึ้นหน้า (หัวเราะ) ความจริงหนังสือที่เขียน เขียนเคล้ากัน บางทีเอาเรื่องของจิตไปเขียนกับวิญญาน ความจริงจิตกับวิญญานควรจะแยกกันออก จิตมีสภาพคิด วิญญานคือความรู้สึก สมัยนี้เขาเรียกประสาท ไอ้ตัววิญญานมันตายไปพร้อมกับร่างกายที่ตาย จิตไม่ตายด้วย จิตไปสู่ภพต่างๆ ตามบุญบาปของเรา ถ้าบาปเกาะจิต จิตก็ไปนรกก่อน สู่อบายภูมิก่อน ถ้าบุญเกาะจิต จิตก็ไปสวรรรค์ ไปพรหม ไปนิพพาน ต่างกันตรงนี้นะ นอกจากนั้นฉันไม่รู้เรื่องหรอก

    เรื่องความต่อเนื่องของชาติภพ อย่าไปคิดมันเลย คิดให้มันยุ่งเปล่าๆ เอาว่าตายจริงๆก็แล้วกัน หมดเรื่องหมดราว ถ้ายิ่งคิดไปตามนั้นอารมณ์ยิ่งหมุน ฉันเคยคิดตามนั้นแหละหมุนทุกคราว มาจับเอาตัวจริงๆ ดีกว่า แค่ร่างกายนี่มันพังแน่ ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง แต่ความตายเป็นของเที่ยง เอาง่ายๆดีกว่า ขึ้นชื่อว่าการเกิดแล้วมันต้องตาย ถ้าเกิดทีไรก็มีความทุกข์ อย่างนี้เราไม่ต้องการเกิดอีก ต้องการจุดเดียวคือนิพพาน เขาทำอย่างไรนิพพานก็ทำวิธีนั้น



    นิพพานเขาทำแบบไหน แบบต้นๆ ของนิพพานก็คือ

    ๑.มีความรู้สึกว่าชีวิตนี้จะต้องตาย อย่าไปนึกว่ามันไม่ตาย

    ๒.ไม่สงสัยในคุณของพระพุทธเจ้า พระธรรม และ พระอริยสงฆ์

    ๓.ทรงศีล ๕ ให้บริสุทธิ์ สำหรับฆราวาส


    นี่เป็นการขึ้นต้นพระนิพพาน เข้ากระแสนิพพานเลยแค่ ๓ ข้อนะ ปฎิบัติง่ายๆ ไม่ยาก ยากไหม.


    ที่มา : หนังสือธรรมปฎิบัติ เล่ม ๔๗ รวมคำสอนหลวงพ่อพระราชพรหมยาน


    จิตกับวิญญาน โดย หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
     
  18. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112

    น้อมกราบหลวงพ่อสมเด็จองค์ปฐม หลวงปู่ปาน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    สวัสดีพี่ปู พี่วรรณ พี่นอร์ พี่น็อตและพี่ๆลูกหลานหลวงพ่อทุกๆท่านครับ

    [​IMG]



    หลวงพ่อสมเด็จองค์ปฐมลอยองค์ เนื้อสัมฤทธิ์นอกงดงามมากๆครับ
     
  19. crystalnirvana

    crystalnirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2014
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +1,563
    พอมีพี่ท่านใดมีปสก.เกี่ยวกับเชือกแดงเล่าให้ฟังได้บ้างครับ
     
  20. jj85

    jj85 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +7,599
    อยากได้คาถาเจิมที่หลวงพ่ออนันต์ท่านได้จากหลวงพ่อฤาษีครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...