ทำไมมีแต่คนอ้างคำสอนของครูบาต่างๆมากกว่าพระไตรปิฏก

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย I2D2, 4 กันยายน 2011.

  1. Tawee gibb

    Tawee gibb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    1,175
    ค่าพลัง:
    +1,721
    I2D2เจ๋ง
    สู้เค้า I2D2....สู้เค้า!



    เนี่ย อย่าฟุ้งกะอภิธรรมมากไปล่ะ เห็นมัวแต่วุ่ยวายกะเรื่องนิยาม พลอยทำให้อาจารย์พุทธทาสถูกมองไม่ดี ทั้งยุบหนอ-พองหนอพลอยเสียไปล่วย

    อ่ะ ให้! ที่มาของเทคนิคแนวยุบหนอ-พองหนอ
    ไปลองอ่านดูเส่(กดที่ภาพ)มีสืบมาแต่สมัยพระเจ้าอโศกมหาราชแล้ว
    แต่อาจารย์ใหญ่ท่านว่า สืบมาจากสมัยพุทธกาลน่ะ
    (แล่วแต๊ จะเชื่อม่ายเชื่อก็ตามจาย)
    เหล่าฮูปฏิบัติแล้ว ดีจินๆ
    ทางพม่าที่อภิธรรมจ๋ากั่วเรา ยังปฏิบัติแนวท่านมหาสีสยาดอเลยอ่า!
    อภิธรรมมัตถสังคหะที่เราเรียนๆกัน พม่าเค้าว่าเอาไว้ให้พระหลงตาเรียนน่ะ เหอๆๆ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2011
  2. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    มีลักษณะไม่ฟุ้งซ่าน ตั้งมั่นเป็นกิจ ผลคือสงบ เกิดสุขเวทนา

    ส่วนสัมมาสมาธิ ลักษณะ กิจ เหมือนกัน ต่างตรง ละการตั้งมั่นในทางผิด

    ซึ่งโยงมาจากสัมมาสติ .....ไล่ย้อนขึ้นไปที่สัมมาทิฏฐิ

    ลองสังเกตุดูครับ :cool:
     
  3. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    พระวจนะ "อุทเทสแห่งสัมมาสมาธิ" ภิกษุทั้งหลาย สัมมาสมาธิเป็นอย่างไรเล่า? ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในกรณีนี้ สงัดแล้วจากกามทั้งหลาย สงัดแล้วจาก อกุศลธรรมทั้งหลาย เข้าถึงปฐมฌาน ประกอบด้วย วิตก วิจาร มีปิติ สุข อันเกิดจากวิเวก แล้วแลอยู่ เพราะความที่วิตก วิจารทั้งสองระงับลง เข้าถึง ทุติฌาน เป็นเครื่องผ่องใสแห่งใจในภายใน ให้สมาธิเป็นธรรมอันเอกมีผุดขึ้น ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีแต่ ปิติและสุขอันเกิด จาก สมาธิแล้วแลอยู่ อนึ่งเพราะความจางคลายไปแห่งปิติ ย่อมเป็นผู้อยู่อุเบกขามีสติและ สัมปชัญญะ และย่อมเสวยสุขด้วยนามกาย ชนิดที่พระ อริยเจ้าทั้งหลายย่อมกล่าวสรรเสริญผู้นั้นว่า เป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติอยู่เป็นปรกติสุข ดังนี้เข้าถึง ตติฌานแล้วแลอยู่ เพราะละสุขเสียได้ และเพราะละทุกข์เสียได้ เพราะความดับไปแห่ง โสมนัสและโทมนัสทั้งสองในกาลก่อน เข้าถึง จตุตถฌานไม่มีทุกข์ไม่มีสุข มีแต่ความที่สติเป็นธรรมชาติ บริสุทธฺ์เพราะอุเบกขา แล้วแลอยู่ ภิกษุทั้งหลายอันนี้เรากล่าวว่า สัมมาสมาธิ...............(อริยสัจจากพระโอษฐ์ ท่านพุทธทาส)
     
  4. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    [๒๙๔] มิจฉาสมาธิ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน ?

    ธรรมเป็นอกุศล เป็นไฉน?

    ต้องถามกลับไปว่า ขณะนั้นมีความตั้งมั่นนั้น ตั้งมั่นอะไร
     
  5. meng2010

    meng2010 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +35
    ทำไมมีแต่คนอ้างคำสอนของครูบาต่างๆมากกว่าพระไตรปิฏก ขอตอบครับอาจจะมาช้าไป555 แต่หวังว่ายังทันเจ้าของกระทู้น่ะครับ มันคงง่ายกว่ามั้งครับ


    พระไตรปิฏกคงเข้าใจยากมั้งครับ สำหรับผมน่ะ มันก็คงคล้ายกับเรียนหนังสือมั้งก็คงต้องหัดมาจากบันไดขั้นแรกก่อนพอเรียนไปเรื่อยๆเริ่มมีพื้นฐานบ้างเค้าคงไปหาความจริงกันเอง บางคนก็เก่งมากบางคนก็ธรรมดาบางคนก็โง่ บัวยังมีสี่เหล่าเลย เพราะบัวมีสี่เหล่าจึงต้องมีคำสอนหลายอย่างเพื่อที่จะเหมาะสมกับแต่ล่ะเหล่าแต่ใจความสำคัญคงเพื่อการพ้นทุกข์ ถัดมาคงเป็นการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและเป็นคนดีมั้งครับ แล้วเรื่องพระอรหันต์ในความคิดน่ะครับ น่าจะมีอยู่น่ะครับผมว่าคงเป็นไม่ยากมั้ง พาหิยะฟังธรรมเพียงครั้งเดียวก็สำเร็จแล้วองคุลีมารอีกฆ่าคนมาเยอะมากก็ัยังสำเร็จได้ แต่ถ้าจะบอกว่าสำเร็จเพราะสะสมมาเยอะอันนี้ผมไม่รู้น่ะครับ รู้แต่ว่าสำเร็จได้เพราะวางได้ครับ....มีคนบอกว่ามะพร้าวถ้าปลอกเปลือกออกแล้วก็คงขยายพันธุ์ไม่ได้แต่ถ้ามีเปลือกอยู่ก็จะมีหน่อเป็นต้นดำรงพันธุ์ไว้ได้ทั้งๆที่เราถ้าจะเอามากินก็ต้องปลอกเปลือกทิ้ง
     
  6. เชอะกราว

    เชอะกราว สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2011
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +0
    ที่อ้างคำสอนของอาจารเพราะถูกกิเลสตังงัย
     

แชร์หน้านี้

Loading...