ทำอย่างไรให้ได้โสดาบัน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย เจริญจิต, 5 ตุลาคม 2010.

  1. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    1.มีสติครับ 2.อนุสัยแปลว่ากิเลสละเอียด จะละได้เด็ดขาดทั้งหมดก็พระอรหันต์ 3.พระอนาคามีไม่มีความขัดใจ พี่ผ่านประสบการณ์ในการปฏิบัติธรรมภาคปฏิบัติมานาน ความขัดใจนั้นเป็นตัวทุกข์ สามารถทำให้บุคคลบันดาลโทสะได้ แต่ปัจจุบันความขัดใจพี่ไม่มี 3.แนะนำน้องว่าพยายามฝึกละอหังการและมมังการคือความคิดขัดใจไม่พอใจและอกจะแตกตาย 4.พี่เคยปฏิบัติธรรมแล้วเกิดอตัมยตา คือ"กูไม่เอากับมึงแล้วโว๊ยยยยยยยย..." คำสอนของท่านพุทธทาส แต่ปัจจุบันไม่มีแล้ว 4.ยินดีสนทนาธรรมด้วยครับ...เรียนหรือทำงานครับ...
     
  2. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    1. กิเลสหยาบ กลาง ละเอียด มีสภาพต่างกันอย่างไร อย่างไรถึงจำแนกหยาบ ละเอียด ได้?
    2. ดูหนัง ฟังเพลง ร้องคาราโอเกะ เป็นกิเลสละเอียดได้อย่างไร?
    3. ไม่มีความขัดใจ แล้วความขุ่นมัว คืออะไร?
    4. ถ้าไม่มีการบันดาลโทสะ แล้วนี่เรียกอะไร?
    http://palungjit.org/posts/6350845
    5. ปฏิบัติธรรมมานาน นานเท่าไหร่? ทำไมถึงได้กล่าวแย้งพระพุทธเจ้า?
    http://palungjit.org/threads/คาถาอุณหิสสวิชัยอันศักดิ์สิทธิ์.347025/page-2#post6352622
     
  3. นาย Huoto

    นาย Huoto Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +43
    ( ส่วนตัวนะครับ ) ผมก็ยังเพิ่งศึกษาธรรมะใหม่ๆ เข้าใจบ้างไม่เข้าบ้าง งูๆปลาๆ ลองฟังท่านผู้นี้ดูครับ
     
  4. นาย Huoto

    นาย Huoto Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +43
    ( ส่วนตัวนะครับ ) ผมก็ยังเพิ่งศึกษาธรรมะใหม่ๆ เข้าใจบ้างไม่เข้าบ้าง งูๆปลาๆ ลองฟังท่านผู้นี้ดูครับ [ame=http://www.youtube.com/watch?v=qFAqPrzsrUY&feature=relmfu]สู่เส้นทางแห่งพระโสดาบัน 1/4 - YouTube[/ame]
     
  5. somchai_eee

    somchai_eee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    332
    ค่าพลัง:
    +413
    ใช่หรือไม่ ก็อย่าไปยึดมั่น เพียรต่อไป ครับ ระวังจะตกหลุม มารนะครับ จิตยังไม่สว่าง โดนหลอกเอาง่ายๆ ละวาง ให้หมด ครับ

     
  6. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    ใครแย้งพระพุทธเจ้า ผมคือคนที่ศรัทธาพระพุทธเจ้ามากที่สุดในโลก คุณอ่านบทความของผมไม่รู้เรื่องแล้วก็หยุดไปเสีย รำคาญ............................
     
  7. รอยตะวัน

    รอยตะวัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +116
    ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันค่ะ คิดว่าน่าจะเอาสังโยชน์10นั้นมาทำเป็นวางแผนกำหนดยุทธศาสตร์ที่เหมาะสมกับตนเองวางแผนเป้าหมายตามแนวทางที่ตนสามารถปฏิบัติได้สูตรใครก็สูตรใครแล้วแต่จริตของคน ขอให้เจริญในธรรมค่ะ
     
  8. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    คาถาอุณหิสฯ ไม่ใช่คาถาสวดให้ผู้อื่นได้รับความทุกข์ พระพุทธเจ้าสวดโปรดให้เทวดารูปนึงฟัง เพื่อต่ออายุของเทวดารูปนั้น กดตาม link เข้าไปดู จะเห็นทันทีว่าคุณกลับบอกว่า เป็นคาถาสวดให้ผู้อื่นทุกข์ทรมาน...

    ว่าแต่ ความรำคาญนี่เป็นอวิชชาตัวไหนครับ พระอริยชั้นไหนที่ละได้แล้ว ชั้นไหนที่ยังละไม่ได้บ้าง?
    แล้วก็ อย่าลืมตอบคำถามที่ค้างไว้ด้วยนะครับ
     
  9. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    สวดพระคาถายอดพระกัณฐ์ไตรปิฎกดีกว่า หรือไม่ก็พระคาถาชินบัญชร คาถาอุณหิตนั้นเป็นคาถาอัปมงคล ส่วนความรำคาญพระพุทธเจ้าก็รำคาญได้..........
     
  10. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    จะแก้ตัวอย่างไรดีครับ
     
  11. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    ครับ แก้ตัวว่า ปัจจุบันมีผู้ไม่ประสงค์ดีนำคาถาอุณหิตมาสวดใส่บุคคลต่างๆ(ภาษาไทยแท้นะครับคำว่าใส่น่ะ) โดยอาจจะมีการแก้ไขดัดแปลงหรืออธิษฐานอะไรต่างๆ อย่างผมผมก็เคยโดนคาถานี้ ผมแก้ด้วยยาบ้าง แก้ด้วยไปรดน้ำมนต์กับพระบ้าง แก้ด้วยพระคาถาโพชฌังคปริตบ้าง แก้ด้วยพระคาถาชินบัญชรบ้าง คือเรื่องคาถาเราสวดเราต้องระวังด้วย เพราะคำสวดเป็นภาษาบาลี คนทั่วไปไม่รู้ความหมาย ควรจะค่อยๆศึกษาไปและเลือกสวดมนต์ การสวดมนต์อย่าสวดสุ่มสี่สุ่มห้า บางคาถาไม่ใช่คาถาของพระพุทธเจ้า คาถาอุณหิตเป็นของใครผมไม่ทราบ และผมก็ไม่เคยสวด ผมสวดพระคาถาชินบัญชรและบทบูชาพระรัตนตรัยเป็นหลัก แก้อย่างนี้พอจะฟังขึ้นไหมครับ และอีกอย่าง คุณปุณบพิธศึกษาและปฏิบัติธรรมโดยอ้างพุทธดำรัสนั้นก็ถูกต้องแล้ว แต่ตำราและพระไตรปิฎกนั้นพระพุทธเจ้าท่านไม่ใช่คนแต่ง และทำการสังคายนามาหลายครั้งแล้ว กว่าจะมาเป็นภาษาไทยให้เราอ่านในปัจจุบันก็ถูกแปลมาหลายทอด หลายยุคหลายสมัย ท่านพุทธทาสท่านยังบอกเลยว่าพระไตรปิฎกน่ะตัดออกบางส่วนเสียบ้างก็ได้ ผมก็เชื่อ เพราะผมอ่านพระไตรปิฎกมาพอสมควร เห็นว่าหลายแง่ที่แย้งกับภาคปฏิบัติ ก็ต้องปฏิบัติด้วยน่ะครับ แล้วเราจะไม่ยึดตำรา วิมุตติที่เกิดขึ้นคือเกิดที่ใจหรือปัญญานี่แหละจะเป็นความรู้ของเรา...
     
  12. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    งั้นใช้เศษเสี้ยวของปัญญา แปลบาลีบทสวด อุณหิสฯ ดูไหมครับ แปลว่าอะไร?

    จินตนาการคุณนี่แจ๋วจริงๆ นะครับ... จะทำบทสวดคุณไสย์ต้องไปหาบทพุทธคุณมาแปลง?

    ว่าแต่ คุณโดนคาถาอุณหิสฯ แล้วป่วย แล้วคุณแก้ด้วยโพชฌัง กับ ชินบัญชรได้ยังไงครับ รู้ได้ไงว่า โพชฌัง พระพุทธเจ้าสวด? เอามาจากไหน? พระไตรปิฏกเล่มเดียวกับผม เปิดไปอีกไม่กี่หน้าหรือเปล่า???
    แล้วคุณรู้ไหม ว่าคาถาชินบัญชร พระพุทธเจ้าไม่ได้สวด?
     
  13. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    เอาล่ะพอ ขี้เกียจตอบ คุยกันไม่รู้เรื่องหรอก..........
     
  14. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    ทำไมคุยไม่รู้เรื่องหละครับ ก็ผมยกพระไตรปิฏกมา ผมไม่ได้พูดเองเออเอง คุณหาว่าพระพุทธเจ้าสอนไม่รู้เรื่องหรือครับ?
     
  15. โมกขทรัพย์

    โมกขทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    474
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,849


    อุณหิสสะวิชชะยะคาถา

    อัตถิ อุณหิสสะ วิชะโย ธัมโม โลเก อะนุตตะโร
    สัพพะสัตตะหิตัตถายะ ตังตวังคัณหาหิ เทวะเต
    ปะริวัชเช ระชะทัณเฑ อะมะนุสเสหิ ปาวะเก
    พะยัคเฆ นาเค วิเส ภูเต อะกาละมะระเณนะ วา
    สัพพัสมา มะระณา มุตโต ฐะเปตวา กะละมาริตัง
    ตัสเสวะ อานุภาเวนะ โหตุ เทโว สุขี สะทา
    สุทธะ สีลัง สะมาทายะ ธัมมัง สุจะริตัง จะเร
    ตัสเสวะ อานุภาเวนะ โหตุ เทโว สุข สะทา
    ลิกขิตัง จินติตัง ปูชัง ธาระนัง วาจะนัง คะรุง
    ปะเรสัง เทสะนังสุตวา ตัสสะ อายุ ปะวัฑฒะตีติ


    ******************************************
    พระคาถาบทนี้ อยู่ในสมัยพุทธกาล
    ที่พระพุทธเจ้าได้ทรงเมตตาให้เทวดาองค์หนึ่งที่กำลังหมดอายุขัย
    จะต้องลงไปเสวยกรรมในนรก
    แต่เทวดาองค์นี้ มีความกลัวมากที่จะต้องลงไปเกิดในเมืองนรกจึงดิ้นรนทุกวิถีทาง
    ที่จะไม่ไปแต่ก็ไม่มีใครจะช่วยเหลือได้
    แม้แต่องค์ พระอินทร์ แต่ยังโชคดีที่ได้พบพระพุทธเจ้า
    และทรงแนะให้ภาวนาคาถาบทนี้ จะได้มีอายุยืนยาวนานต่อไป
    เพื่อที่จะได้ใช้เวลาที่เหลืออยู่นี้ บำเพ็ญภาวนา ใช้หนี้กรรมที่มีอยู่
    ให้หมดไปพระคาถาบทนี้ จึงมีพุทธานุภาพมาก
    ในเรื่องของการมีอายุยืนยาวและยังทำให้สุขภาพแข็งแรง
    ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยอย่างง่าย ๆ อีกด้วย
    ผู้ที่มีสุขภาพไม่ดี หรือขี้โรค หรือป่วยเป็นโรคที่รักษายากแล้ว
    ควรหมั่นท่องภาวนาเป็นประจำ จะหายได้โดยเร็ววัน




    ในสมัยหนึ่งพระบรมศาสดาเสด็จประทับอยู่เหนือพระแท่นศิลาอาสน์ภาย
    ใต้ต้นปาริกชาติ ณ ดาวดึงสพิภพ ตรัสพระสัทธรรม เทศนา อภิธรรม 7 คัมภีร์ โปรดพุทธมารดา ใน
    กาลครั้งหนึ่งนั้นมีเทพบุตรองค์หนึ่ง นามว่าสุปติฏฐิตา ได้เสวยทิพย์สมบัติอยู่ชั้นดาวดึงส์มาช้านาน ก็
    อีก 7 วัน จะสิ้นบุญจุติจากดาวดึงส์ ลงไปอุบัติในนรกเสวยทุขเวทนาอยู่ตลอดแสนปี ครั้นสิ้นกรรมใน
    นรกนั้นแล้วก็จะไปบังเกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉาน 7 จำพวก เสวย วิบากกรรมอยู่ 500 ชาติ ทุก ๆ จำพวก

    ยังมีเทพบุตรองค์หนึ่งชื่อว่า อากาสจารินี ซึ่งเป็นผู้รู้ บุรพกรรมของสุปติฏฐิตาเทพบุตร อาศัยความคุ้นเคย
    สนิทสนมกลมเกลียวกันตั้งแต่ครั้งเป็นมนุษย์ เคยได้รักษาอุโบสถศีลด้วยกันในอดีตชาติล่วงมาแล้ว
    มองเห็นอกุศลกรรมตามทัน จะสนองผลแก่สหายของตนก็มีจิตปรานีใคร่จะอนุเคราะห์ จึงเข้าไปสู่
    สำนักของสุปติฏฐิตาเทพบุตร แล้วก็บอกเหตุที่จะสิ้นอายุภายในอันเร็ว ๆ นี้ ตลอดทั้งที่จะไปเกิดในนรก
    ครั้งพ้นจากนรกแล้ว จะต้องไปกำเนิดสัตว์ดิรัจฉานให้ทราบสิ้นทุกประการ ฝ่ายสุปติฏฐิตาเทพบุตร ได้
    ทราบเหตุดังนั้นแล้ว ก็มีความสะดุ้งตกใจกลัว คิดปริวิตก บุพพนิมิต 4 ประการ คือ
    ดอกไม้ทิพย์ร่วงโรย ประการหนึ่ง สรีระ ร่างกายมัวหมองไม่ผ่องใส ประการหนึ่ง
    ผ้าทิพย์ภูษา เครื่องทรงเศร้าหมองไม่ผ่องใส ประการหนึ่ง ครั้งทรงผ้าสไบเข้าก็ร้อนกระวนกระวายไปประการหนึ่ง
    บุพพนิมิตเหล่านี้ก็ปรากฏแก่สุปติฏฐิตาเทพบุตร บุพพนิมิต 4 ประการนี้
    ปรากฏแก่เทพบุตรหรือเทพธิดาองค์ใดแล้ว เทพบุตรธิดาองค์นั้น จะต้องจุติจากเทวโลกอย่างแน่นอน

    เมื่อ สุปติฏฐิตาเทพบุตร ทราบชัดเจนเช่นนั้นแล้ว ก็ไม่นิ่งนอนใจใคร่จะหาเครื่องป้องกัน จึงเข้าไปสู่
    สำนักท้าวอเมรินทราธิราชเจ้า ถวายอภิวาทแล้วกราบทูลเหตุการณ์ให้ทรงทราบ แล้วทูลอ้อนวอนขอ
    ชีวิตในสำนักอมรินทร์ โดยอเนกปริยายท้าวเธอตรัสตอบว่า ชื่อว่าความตายนี้เราเห็นผู้ใหญ่ในสรวง
    สวรรค์ ก็ไม่อาจห้ามบุพพกรรมอันมีกรรมแรงนี้ได้ เราเห็นอยู่แต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้เป็นที่
    พึ่งของสัตว์โลกทั่ว 3 ภพ พระองค์เสด็จประทับอยู่ใต้ต้นปาริกชาติ มาเราจะพาเข้าเฝ้ากราบทูล
    อาราธนา ให้พระองค์ทรงช่วยเหลือ สุปติฏฐิตาเทพบุตร ถือเครื่องสักการบูชาตามเสด็จท้าว
    อมรินทราธิราช เข้าสำนักพระมหามุนีนาถพระศาสดาจารย์แล้ว กราบทูลเหตุการณ์เหล่านั้น ให้พระ
    องค์ทรงทราบโดยสิ้นเชิง แล้วพระองค์ทรงแสดงบุพพกรรมของ สุปติฏฐิตาเทพบุตร องค์นี้เกิดเป็น
    มนุษย์มีความเห็นผิด เป็นผู้ประมาทตั้งอยู่ในมิจฉาทิฏฐิเป็นพรานฆ่าเนื้อเบื่อปลาเป็นผู้มีใจแข็งกระด้าง
    ตบตีบิดามารดาต่อสมณชีพราหมณ์ ไม่ลุกรับนิมนต์ให้อาสนะที่นั่งภิกษุสงฆ์ผู้เข้าไปสู่สำนัก แม้เห็น
    แล้วก็ทำเป็นไม่เห็นเสีย ด้วยวิบากผลอกุศลกรรมอันนี้ตามทันเข้า สุปติฏฐิตาเทพบุตรจึงได้ไปเกิดใน
    นรกตลอดแสนปี ครั้นพ้นจากนรกขึ้นมาก็จะไปกำเนิดแห่งสัตว์ 7 จำพวก คือเป็นแร้ง เป็นรุ้ง เป็นกา
    เป็นเต่า เป็นหนู เป็นสุนัข และเป็นคนหูหนวกตาบอดอย่างละ 500 ชาติ ด้วยอำนาจอกุศลกรรมนั้น
    แหละ ขอมหาบพิตรจงทราบด้วยประการฉะนี้

    เมื่อท้าวอมรินทร์ทรงทราบแล้ว ก็มีความเมตตาสงสารแก่สุปติฏฐิตาเทพบุตร ยิ่งนัก จึงกราบ
    ทูลให้พระองค์ทรงแสดงพระสัจธรรมเทศนาอันจะเป็นที่พึ่งแก่สัตว์โลก ช่วยชีวิตเทพบุตรองค์นี้ไว้ไม่
    ให้ตายลงภายใน 7 วันนี้ สมเด็จพระบรมศาสดาจึงตรัสเทศนาคาถาอุณหิสสวิชัย มีใจความดังต่อไปนี้

    อตฺถิ อุณฺหิสฺสวิชโย ธมฺโม โลเก อนุตฺตโร สพฺพสตฺตหิตตฺถาย ตํ ตฺวํ คณฺหาหิ เทวเต ปริวชฺ
    เช ราชทณฺเฑ อมนุสฺเสหิ ปาวเก พยคฺเฆ นาเค วิเสภูเต อกาลเรเณน วา สพฺพสฺมา มรณา มุตฺโต
    ฐเปตุวา กาลมาริตํ ตสฺเสว อานุภาเวน โหตุ เทโว สุขี สทาสุทฺธสีลํ สมทาย ธมฺมํ สุจริตํ จเร ตสฺ
    เสว อานุภาเวน โหตุ เทโว สุขี สทา ลิกฺขิตตํ ปูชํ ธารณํ วาจนํ ครุ ปเรสํ สุตฺวา ตสฺส อายุปวฑฺฒตี
    ติ ฯ

    เทวเต ดูกรเทวดาทั้งหลาย พระธรรมนี้ชื่อว่าอุณหิสสวิชัย เป็นยอดแห่งพระธรรมทั้งหลายเป็น
    ประโยชน์แก่สัตว์ทั้งมวล ท่านจงเอาพระธรรมนี้เป็นที่พึ่ง อุตสาห์สวดบ่นสาธยายทุกเช้าค่ำ ย่อมห้าม
    เสียซึ่งภัยทั้งปวง อันจะเกิดขึ้นจากผีปิศาจหมู่พยัคฆะงูใหญ่น้อย และพญาเสนาอำมาตย์ทั้งหลายจะไม่
    ตาย ผู้ใดได้เขียนไว้ก็ดี ได้ฟังก็ดี ได้สวดมนต์ภาวนาอยู่ทุกวันก็ดี จะมีอายุยืน เทวเต ดูกรเทวดา ทั้ง
    หลายท่านจงมีความสุขเถิด
    อนึ่งบุคคลผู้ใดบูชาแก้วทั้ง 3 คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นี้เป็นยาอันอุดม ย่อมคุ้ม
    ครองผู้นั้นให้พ้นจากทุกข์ภัยพยาธิทั้งปวง ด้วยอำนาจพระอุณหิสสวิชัยนี้ จะรักษาคุ้มครองให้ชีวิตของ
    ท่านเจริญสืบต่อไป ท่านจงรักษาไว้ให้มั่นอย่าให้ขาดเถิด เมื่อจบพระสัทธรรมเทศนาลง เทวดาทั้ง
    หลายมีท้าวอมรินทร์เป็นประธานได้ดื่มรสแห่งพระสัทธรรมเป็นอันมาก ฝ่าย สุปติฏฐิตาเทพบุตร มีจิต
    น้อมไปตามกระแสแห่งพระธรรมเทศนานั้น ได้กลับอัตตภาพใหม่ คือ มีกายอันผ่องใส เป็นเทวบุตร
    หนุ่มคืนมาแล้วจะมีอายุยืนตลอดไปถึงพระพุทธพระนามว่า ศรีอริยเมตไตรยลงมาตรัสจึงจะจุติจากเทว
    โลกลงมาสู่มนุษย์โลก เป็นพระอรหันตขีณาสวะองค์หนึ่ง ดังนั้นขอพุทธบริษัททั้งหลาย จงสำเนียกไว้
    ในใจแล้วประพฤติปฏิบัติในพระคาถา อุณหิสสวิชัย ก็จะสมมโนมัยตามความปรารถนาทุกประการ

    แนะนำ :-
    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗
    ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
    จวมานสูตร


    ที่มาจาก:-
    01



    ผมไม่เห็นมีสักประโยคที่่กล่าวว่าคาถานี้เป็น คาถาอัปมงคลเลยครับ ผมเห็นก็มีแต่ว่าคำเป็นมงคลทั้งนั้น ภายหลังพระพุทธองค์พระคาถากล่าวแล้ว เหล่าเทวา ต่างก็โสมนัสยินดีกันทั้งสิ้น หากเป็นอัปมงคล ฉไน..? พระพุทธองค์จักทรงตรัสเล่า..? สิ่งใดไม่เป็นประโยชน์พระพุทธองค์ไม่ตรัสหรอกครับ หากจะศึกษาธรรมะ ต้องรู้ด้วยว่าสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด

    อีกอย่างที่บอกว่าพระพุทธเจ้ารำคาญก็เป็นนั้น อันนี้เห็นจะมีทิฏฐิที่ไม่ถูกต้องนะครับ พระพุทธเจ้าเป็นเอกบุรุษในสามโลกที่สิ้นแล้ว ทั้ง อำนาจแห่ง โลภ โกรธ หลงแล้ว ความรำคาญฟุ้งซ่านในใจนั้นจัดเป็น อารมณ์โทสะประเภทหนึ่ง พระองค์ทรงบริสุทธิ์สิ้นแล้วทั้งกิเลสอาสวะทั้งหลาย เรื่องรำคาญนั้นคงไม่มีเป็นแน่แท้ครับ


    อีกประการหนึ่ง เรื่องพระไตรปิฏกนั้น ก็กระทำสังคายนาโดยพระอรหันต์ ซึ่งหลวงปู่หลวงพ่อทั้งหลาย ท่านก็ได้ใช้หลักธรรมคำสอนในพระไตรปิฏกมาขัดเกลาตนจนเกิดสภาวะที่เรียกว่าพระอริยะมากมาย และพระอริยเหล่านั้นก็ไม่เห็นว่าท่านค้านพระไตรปิฏกเลยซักรูปเดียวเลย พระไตรปิฏกก็เปรียบไปแล้วก็เหมือนหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ กระผมไม่เถียงครับหากปฏิบัติจนรู้แจ้ง แต่การรู้แจ้งนั้นต้องไม่เห็นแตกต่างจากคำสอนของพระพุทธองค์ มิเช่นนั้นจะกลายเป็นสัทธรรมปฏิรูปไป การปฏิบัติเพื่อหลุดพ้นนั้น ต้องมีทั้ง ปฏิบัติ ปริยัติ และปฏิเวธ หากสามสิ่งนี้ไม่สมดุลกัน ก็ยากที่บรรลุธรรมได้ครับ อันนี้เป็นความเห็นนะครับ แย้งตามเหตุผลได้ครับ

    กระผมมิได้มีเจตนาโต้เถียงเพื่อเอาชนะแต่ประการใดครับ แต่เนื่องจากคำที่่ท่านได้กล่าวอ้างนั้น ผิดจากหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ อันจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้ กลายเป็นสัทธรรมปฏิรูปไป จึงได้ชี้แจงแถลงไขไป เพื่อจรรโลงไว้ซึ่งสิ่งที่ถูกต้องในพระพุทธศาสนา อันนี้ก็สุดแล้วปัญญาของท่านจะพิจารณาเห็นสมควรประการใดก็แล้วกันครับ หากทำให้ขุ่นข้องหมองใจ ก็ต้องขออโหสิมาณ.ที่นี้ด้วยครับ หากยังยืนยันว่า ทิฏฐิของตนถูกต้องแล้ว ก็ตามแต่ใจเถิดครับ


    อ้อ..! อีกประการนะครับ การเป็นพระอริยะเจ้านั้น ท่านมิประกาศตัวกันดอกครับ ยิ่งพระอริยะเจ้าขั้นใกล้หมดกิเลสระดับพระอนาคามีแล้ว เรืื่องโลภ โกรธนี้ ท่านไม่มีแล้วครับ จะมีก็เพียงแต่ อวิชา ซึ่งเป็นกิเลสนอนเนื่องในอนุสัยเท่านั้น กระผมก็ฟังจากหลวงปู่หลวงพ่อท่านกล่าวมาอีกที มิได้เป็นผู้รู้ธรรมแต่ประการใด ยังเป็นปุถุชนอยู่เต็มขั้น ผิดพลาดประการใด ขออโหสิกรรมมา ณ. ที่นี้ครับ

    ขอทรงไว้ซึ่งพรหมวิหาร๔ ครับ

    ขอโมทนาในกุศลกรรมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2012
  16. wechza

    wechza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +246
    ต่ออีกนิด หากว่าได้ถึงขั้นพระอนาคามีแล้วท่านไม่มานั่งเล่นเน็ตคับท่านจะมุงต่บำเพ็ญเพียรเป็นหลักรึไม่ก็อกบวช ง่ายๆคือพพระอนาคามีท่านพอใจในศิล8แล้วครับแล้วท่านก็ไม่มานั่งเถียงกับใครในเน็ตให้ชาวโลกอย่าเราๆวิจารหรอกครับเพราะมันจะเป็นบาปแก่ตัวเราที่จะไปวิจารท่าน
     
  17. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    บำเพ็ญเพียร นี่ อาจจะไม่ใช่การปฏิบัติตามรูปแบบนะครับ แต่จะหมายถึงการเพียรจิตเพื่อความหลุดพ้น ซึ่งอาจจะดูเหมือนการใช้ชีวิตปกติก็ได้
    เรื่อง internet นี่ อยู่ที่จุดประสงค์การใช้ครับ แต่ถ้าเพื่อบันเทิง อันนี้ไม่มีอีกแล้ว
    เรื่องเถียงนี่ก็จริงครับ พระอนาคามี จะไม่เถียงกับใครอีกแล้วครับ
    ป.ล. จากที่ผมเห็นนะครับ ไม่ใช่จากที่ผมเป็น
     
  18. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    คุณเคยเป็นเหรอพระอนาคามีน่ะถึงบอกว่าพระอนาคามีท่านไม่เถียงใคร พระอนาคามีท่านไม่ใช่คนโง่และคนใบ้หนิ ปากท่านก็มี เอางี้ ผมถามคุณหน่อยว่า ถวายเงินให้พระ คนแรกถวาย 1 บาท คนที่ 2 ถวาย 1 ล้านบาท ใครได้บุญมากกว่ากัน ตอบมา ถ้าตอบไม่ถูกต้องก็ยังไม่ใช่แม้พระโสดาบัน และอย่ามาประกาศตัวเป็นพระอริยะแถวนี้ คุณไม่ใช่!
     
  19. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    แล้วเคยเป็นเหรอพระโสดาบันน่ะ...
     
  20. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +687
    พระโสดาบัน ท่านรู้อะไรครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...