ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “มิคาอิล กอร์บาชอฟ” แนะรัสเซีย-เยอรมนีฟื้นความเชื่อมั่น หลังสัมพันธ์ดิ่งเหวเพราะปัญหายูเครน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 กรกฎาคม 2558 09:23 น. (แก้ไขล่าสุด 22 กรกฎาคม 2558 14:11 น.)

    [​IMG]

    @มิกาอิล กอร์บาชอฟ อดีตผู้นำสหภาพโซเวียต วัย 84 ปี

    เอเอฟพี - มิคาอิล กอร์บาชอฟ อดีตประธานาธิบดีสหภาพโซเวียต ออกมาเรียกร้องวานนี้ (21 ก.ค.) ให้รัฐบาลรัสเซียและเยอรมนีเร่ง “ฟื้นความเชื่อมั่น” หลังความสัมพันธ์ระหว่างประเทศย่ำแย่ลงทุกขณะเพราะวิกฤตการณ์ในยูเครน

    อดีตผู้นำวัยชรายอมรับว่า ตนรู้สึกไม่สบายใจที่เห็นความบาดหมางระหว่างรัสเซียกับโลกตะวันตก ทั้งที่เมื่อไม่ถึง 30 ปีก่อน อดีตประธานาธิบดีโรนัลด์ รีแกน แห่งสหรัฐฯ เป็นผู้ขอให้ กอร์บาชอฟ “ทลายกำแพง” ที่กั้นระหว่างโลกตะวันออกและตะวันตกเสีย

    “ที่สร้างความหนักใจกับเรามากที่สุดในวันนี้ คือความสัมพันธ์ระหว่างเยอรมนีและรัสเซีย” กอร์บาชอฟ วัย 84 ปี ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวทาสส์ของรัสเซีย

    กอร์บาชอฟซึ่งมีบทบาทสำคัญในการทลายกำแพงเบอร์ลินเมื่อปี 1989 ชี้ว่า หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง “ไม่มีใครเชื่อว่ารัสเซียกับเยอรมนีจะร่วมมือกันได้ แต่เราทั้ง 2 ชาติก็ทำสำเร็จมาแล้ว”

    เขาเรียกร้องให้ผู้นำมอสโกและเบอร์ลิน “แสดงความเฉียบแหลมและความรับผิดชอบ เพื่อฟื้นคืนความเชื่อมั่น และการเจรจาพูดคุยกัน” พร้อมเตือนว่า “ไม่มีเวลาจะให้เสียอีกต่อไป”

    คำเตือนจากกอร์บาชอฟมีขึ้นในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างแดนหมีขาวกับโลกตะวันตกเสื่อมทรามถึงขีดสุด นับตั้งแต่สหภาพโซเวียตล่มสลายลงในปี 1991

    ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ผนึกกำลังกับสหภาพยุโรปตอบโต้รัสเซียด้วยมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ หลังคาบสมุทรไครเมียซึ่งเป็นเขตปกครองตนเองภายใต้อาณัติของยูเครนถูกรัสเซียผนวกกลับไปเป็นของตนเมื่อปี 2014 จนนำมาสู่สงครามแบ่งแยกดินแดนในยูเครนตะวันออกที่คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 6,500 คนในเวลาเพียงปีเดียว

    ด้านรัสเซียเองก็โต้กลับด้วยการสั่งแบนสินค้านำเข้าจากยุโรปหลายรายการ

    นายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี ยังคงยืนหยัดสนับสนุนโอบามาในการคว่ำบาตรมอสโก

    “มิคาอิล กอร์บาชอฟ” แนะรัสเซีย-เยอรมนีฟื้นความเชื่อมั่น หลังสัมพันธ์ดิ่งเหวเพราะปัญหายูเครน

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นายกฯอยากฟัง “หม่อมอุ๋ย” พล่ามไม่รู้เรื่อง ศก.สั่งล่าคลิปเสียงฉบับเต็มมาให้ได้ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 กรกฎาคม 2558 02:40 น. (แก้ไขล่าสุด 23 กรกฎาคม 2558 09:13 น.)

    [​IMG]

    @พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

    “หม่อมอุ๋ย” นั่งเงียบเผชิญหน้านายกฯ ถก กนช. “บิ๊กตู่” อยากรู้สั่งไล่ล่าคลิปเต็มป้ายสีไม่รู้ไม่เข้าใจเรื่องเศรษฐกิจ ด้าน “บิ๊กอ้อ” ไม่ยืนยันคลิปเสียงดังกล่าวมีจริงหรือไม่

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 21 ก.ค. พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องคลิปเสียงที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ วิพากษ์วิจารณ์นายกฯไม่รู้ ไม่เข้าใจเรื่องเศรษฐกิจ ในการประชุมสมาคมธนาคารไทย เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่า ตนยังไม่เคยเห็นหรือได้ยินคลิปเสียงดังกล่าวเลย ส่วนนายกฯจะได้ฟังคลิปเสียงหรือยัง ตนไม่รู้จริง ๆ และคลิปจะมีจริงหรือไม่จริงตนก็ไม่รู้เหมือนกัน

    ขณะที่บรรยากาศในการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน มี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เข้าร่วมประชุมและนั่งติดกับนายกฯ โดยตลอดการประชุมทั้งนายกฯ และม.ร.ว.ปรีดิยาธร มีสีหน้าเรียบเฉย ขณะที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรในที่ประชุม มีเพียงแต่นายกฯ สั่ง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ไปพิจารณาปรับแผนงบประมาณปี 58 มาแก้ปัญหาภัยแล้ง โดยย้ำให้พิจารณาใช้งบประมาณให้ดี ขณะเดียวกัน ก่อนและหลังการประชุมทั้งคู่ไม่ได้มีการพูดคุยกันสองต่อสอง

    อย่างไรก็ดี ช่วงเย็น หลังจากปรากฏเป็นการข่าวตรงกันหลายฉบับถึงคำพูดของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร และหลังสื่อมวลชนสอบถาม พล.อ.วิลาศ ถึงเรื่องนี้ พล.อ.วิลาศ ได้สอบถามไปยังทีมงานนายกฯ ว่า มีคลิปเสียงฉบับเต็มหรือไม่ และเป็นคลิปวิดีโอหรือคลิปเสียง ตอนนี้นายกฯยังไม่ได้ฟัง เห็นแค่จากสื่อเท่านั้น ที่เสนอข่าวเนื้อหาเพียงบางส่วนของการพูด ให้ไปหาคลิปเสียงฉบับเต็มมาให้ได้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการที่จะฟังเนื้อหาทั้งหมด เพื่อดูอารมณ์ในการพูดของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ว่าเป็นในลักษณะใด และดูเจตนาการพูด


     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ศิษย์อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร

    [​IMG]

    ดาวมฤตยูวิกลคติเพื่อที่จะพักร (ถอยหลัง) ๒๒-๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๘
    ดาวมฤตยูเป็นดาวเคราะห์ใหม่พบในปี พศ. ๒๓๒๔ ก่อนตั่งกรุงแค่ ๑ ปี ดังนั้นดาวนี้จึงไม่มีในปูมโหรสมัยก่อน โดยถูกบันทึกว่าพบอย่างเป็นทางการโดยนักดาราศาสตร์ชื่อ วิลเลี่ยม เฮอร์เชล ในวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๓๒๔ ในขณะที่โคจรอยู่ที่ราศีเมถุน
    อย่างไรก็ตามในตำราเกี่ยวกับโหราศาสตร์ที่ใช้ทางประเทศเนปาลมีดาวดวงนี้บันทึกไว้มากว่าพันปีแล้ว (อ้างอิงหนังสือ อ.ยอดธง ที่ได้ค้นคว้ามา)
    ในเมื่อดาวดวงนี้ไม่มีบันทึกหรือถูกใช้อย่างเป็นทางการมาก่อนในตำราของไทยในอดีด ดังนั้นจึงไม่ต้องถกเถียงกันในเรื่องการคำนวณอย่างที่มีผู้กล่าวกันบ่อยว่า การคำนวณทางดาราศาสตร์ ทีตรงกับความจริงบนท้องฟ้าไม่ใช่การคำนวณทางโหราศาสตร์ ซึ่งก็ยังไม่รู้เลยว่าดาวทางดาราศาสตร์กับทางโหราศาสตร์จะแตกต่างกันอย่างที่โหรน้อยโหรใหญ่ในบ้านเราเถียงกัน
    โดยเราต้องใช้สูตรตามสากลหรือตามแบบดาราศาสตร์ในการคำนวณตำแหน่งของดาวมฤตยู "ซึ่งดาวมฤตยูจะยังไม่ยกไปที่ราศีเมษในปีนี้" อย่างที่โหรน้อยโหรใหญ่ในบ้านเราพร่ำเพ้อกันอยู่ว่าดาวมฤตยูทับดวงเมือง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทับอย่างไร
    สิ่งที่เป็นจุดอ่อนอย่างมากในวงการโหรบ้านเราก็คือ "การไม่ใช้สมผุสหรือตำแหน่งของดาวในการทำนาย" ดังนั้นจึงทำนายกันแบบเหวียงแห โดยสมมุติว่าดาวมฤตยูยกไปที่ราศีเมษจริงๆ แต่ว่าดามฤตยูมีอัตราการโคจรราศีละประมาณ ๗ ปี และเมื่อเทียบกับตำแหน่งลัคนาของดวงเมืองที่อยู่ที่นวางค์ลูกที่ ๗ แล้วจะเห็นได้ว่า อีกหลายปีนักที่ดาวมฤตยูจะไปทับลัคนาของดวงเมืองจริงๆ
    ย้อนกลับมาที่ความหมายของดาวมฤตยู ดาวนี้จะแทนการคิดค้นสิ่งใหม่ๆ การปฏิวัติ การวิทยาศาสตร์ การทำลาย ฯลฯในชาตาของนักวิทยาศาสตร์ ผู้ที่มีหัวคิดก้าวหน้า นักโหราศาสตร์ที่มีชื่อเสียง ฯลฯ ส่วนใหญ่จะมีโยคเกณฑ์ที่ดีของดาวมฤตยูอยู่ด้วยทั้งนั้น
    ดาวมฤตยูวิกลคติเพื่อที่จะพักร (ถอยหลัง) ในราศีมินครั้งนี้ ผู้ที่มีลัคนา, ดาว, จุดศูนย์กลางภพตามดวง “ภวจักร” ราหูสารัมภ์ ที่ราศีมินและราศีกันย์ประมาณ ๒๖ +/- ๓ องศาให้พึงระวังอุปัทวันตรายให้มาก ดาวมฤตยูนี้มักให้ทุกข์โทษแบบปัจจุบันทันด่วน เหตุที่คาดไม่ถึง ฯลฯ
    ในดวงเมืองมีพระราหูสารัมภ์อยู่ในตำแหน่งที่ดาวมฤตยูวิกลคติพอดี ซึ่งราหูสารัมภ์แทนได้กับพวกอันธพาลสันดานหยาบศัตรูลับตามเรือนที่สถิตย์อยู่ ดังนั้นมีโอกาสที่จะเกิดความวุ่นวายหรือปัญหากับเรื่องพวกนี้ได้ แต่อย่างไรก็ตามดาวพฤหัสบดี ดาวประธานฝ่ายศุภเคราะห์ก็ส่งแสงไปที่ลัคนาของดวงเมืองอยู่ ดังนั้นจึงสามารถบรรเทาทุกข์โทษได้
    เหตุการณ์ทั่วๆไปในโลกโลกใบนี้ มีโอกาสจะเกิดภัยธรรมชาติ พายุ อุบัติเหตุฟืนไฟต่างๆได้
    เราท่านพึงมีสติและไม่ประมาท ตลอดจนสวดมนต์ภาวนากันไว้เถิด เหตุหนักอาจจะกลายเป็นเบา เหตุเบาก็อาจจะไม่เกิดขึ้นได้
    admin ดิลก แสงอุทัย
    ปล.รูปดาวมฤตยูกับดาวบริวาร จาก Nasa
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นักเศรษฐศาสตร์มองเศรษฐกิจไทยยังถดถอย เหตุปัจจัยขับเคลื่อน 3 ใน 5 ไม่ทำงาน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 กรกฎาคม 2558 10:02 น. (แก้ไขล่าสุด 22 กรกฎาคม 2558 11:09 น.)

    [​IMG]

    “กรุงเทพโพลล์” สำรวจนักเศรษฐศาสตร์ ส่วนใหญ่เห็นว่าเศรษฐกิจไทยยังถดถอย โอกาสฟื้นตัวยังห่างไกล เนื่องจากปัจจัยขับเคลื่อน 3 ใน 5 ได้แก่ การส่งออกสินค้า การลงทุนภาคเอกชน และการบริโภคภาคเอกชนไม่ทำงาจน คาด 3-6 เดือนข้างหน้าจะปรับตัวดีขึ้นแต่เป็นไปในลักษณะเชื่องช้า

    กรุงเทพโพลล์ โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ร่วมกับคณะเศรษฐศาสตร์ เปิดเผยผลสำรวจความเห็น นักเศรษฐศาสตร์จากองค์กรชั้นนำ 27 แห่ง จำนวน 63 คน เรื่อง “ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยใน 3-6 เดือนข้างหน้า” โดยเก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 3-14 กรกฎาคม 58 ที่ผ่านมา

    ผลสำรวจพบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ที่มีต่อสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 28.94 (เต็ม 100) เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งที่ผ่านมาที่อยู่ในระดับ 24.03 ทั้งนี้ การที่ค่าดัชนีอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ค่อนข้างมากสะท้อนให้เห็นถึงสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันที่ยังอ่อนแอเป็นอย่างมาก เมื่อวิเคราะห์ลงไปในแต่ละปัจจัยขับเคลื่อนพบว่าปัจจัยที่ค่าดัชนีอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 50 ค่อนข้างมาก ได้แก่ การส่งออกสินค้า (ดัชนีเท่ากับ 4.03) การลงทุนภาคเอกชน (ดัชนีเท่ากับ 9.02) และการบริโภคภาคเอกชน(ดัชนีเท่ากับ 13.11) ขณะที่ปัจจัยด้านการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐยังคงขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ไม่เต็มที่ เห็นได้จากค่าดัชนีที่อยู่ในระดับ 47.58 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าระดับ 50 เช่นกัน ขณะที่การท่องเที่ยวจากต่างประเทศเป็นปัจจัยเดียวที่ทำงานได้ดีโดยมีค่าดัชนีเท่ากับ 70.97 เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อนและเป็นระดับที่สูงที่สุดนับจากเดือนมกราคม 2557

    เมื่อมองออกไปในระยะ 3 เดือนข้างหน้า ค่าดัชนีอยู่ที่ 59.51 เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งที่ผ่านมา (ค่าดัชนีเท่ากับ 58.41) และเมื่อมองออกไปในระยะ 6 เดือนข้างหน้าที่ค่าดัชนีอยู่ที่ 71.01 ลดลงอย่างต่อเนื่องนับจากเดือนกรกฎาคม 2557 ทั้งนี้ การที่ค่าดัชนียังอยู่ในระดับที่สูงกว่า 50 สะท้อนให้เห็นว่านักเศรษฐศาสตร์ยังคงมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจในอีก 3-6 เดือนข้างหน้าจะยังคงปรับตัวดีขึ้นกว่าปัจจุบัน แต่การดีขึ้นดังกล่าวจะอยู่ในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปและเชื่องช้า

    ด้านความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ในประเด็นวัฏจักรเศรษฐกิจว่าปัจจุบันเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงใดของ วัฏจักร พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 65.1 เห็นว่าอยู่ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย (Recession) รองลงมาร้อยละ 14.3 เห็นว่าอยู่ในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว (Recovery) และร้อยละ 3.2 เห็นว่าเศรษฐกิจอยู่ในช่วงตกต่ำ (Trough) และไม่มีนักเศรษฐศาสตร์คนใดเลยที่เห็นว่าเศรษฐกิจอยู่ในช่วงรุ่งเรือง (Peak) เมื่อแบ่งวัฏจักรออกเป็น 2 ฟาก คือ ฟากเศรษฐกิจขยายตัวจนถึงจุดสูงสุด(ร้อยละ 14.3) และ ฟากเศรษฐกิจถดถอยจนถึงจุดต่ำสุด (ร้อยละ 68.3) แล้วเปรียบเทียบกับการสำรวจครั้งก่อนหน้าในเดือนมกราคมที่ผ่านมาจะพบว่า เศรษฐกิจปัจจุบันอยู่ในภาวะถดถอยหรือชะลอตัว

    ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า (1) ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย 3 ใน 5 ไม่ทำงานซึ่งได้แก่ การส่งออก การลงทุนภาคเอกชน และการบริโภคภาคเอกชน (2) แม้เศรษฐกิจข้างหน้าจะดีขึ้นกว่าปัจจุบัน แต่การดีขึ้นดังกล่าวจะอยู่ในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปและเชื่องช้า โดยปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ คือ การท่องเที่ยวจากต่างประเทศและการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ (3) นักเศรษฐศาสตร์มองเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในช่วง “เศรษฐกิจถดถอย”

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    [​IMG]

    [​IMG]

    (Jul 21) บทความจากธปท. "บทเรียนจากต่างประเทศของการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเพื่อทางออกที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย" ในอีกประมาณ 5 เดือนข้างหน้า ก็จะครบกำหนดตามประกาศของกระทรวงแรงงาน ที่ให้ใช้ฐานค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาท เป็นอัตราเดียวทั่วประเทศ ซึ่งได้เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ ม.ค.2556 และจะครบกำหนดในสิ้นปี 2558 ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งสามฝ่ายคือ ลูกจ้าง นายจ้าง และรัฐบาล คงจะต้องมีการทบทวนถึงความเหมาะสม และผลกระทบต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งต่อระบบเศรษฐกิจ

    ด้วยเหตุนี้ ประเด็นการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ จึงเป็นที่สนใจของผู้คนอย่างมากว่า ทิศทางการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างค่าจ้างใหม่ในปี 2559 จะเป็นอย่างไร บทความนี้จะนำเสนอบทเรียนจากต่างประเทศของการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ ข้อดีและข้อเสีย และแนวทางแก้ไข เพื่อลดข้อจำกัดของแต่ละรูปแบบ และนัยต่อการตัดสินใจทางนโยบายเรื่องนี้ในระยะต่อไป

    ก่อนอื่นหลายท่านอาจสงสัยว่า "ทำไมเราต้องให้ความสำคัญกับการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ? และมีความเกี่ยวข้องกับเราอย่างไร?" คำตอบมี 3 ข้อคือ

    1) ด้านลูกจ้าง การขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำมีส่วนช่วยให้แรงงานหลุดพ้นจากความยากจน (Poverty safety net) และสร้างความเป็นธรรมทางรายได้ (Fair wage) ให้แก่แรงงานระดับล่าง ให้ได้รับประโยชน์จากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ

    2) ด้านนายจ้าง การขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ ส่งผลกระทบทางตรงต่อต้นทุนค่าแรงงานของผู้ประกอบการ ซึ่งผลกระทบนี้จะมากหรือน้อยขึ้นกับจำนวน "แรงงานแรกเข้าทำงาน" หรือ "แรงงานเพื่อพัฒนาฝีมือ" ที่นายจ้างว่าจ้าง และผลกระทบทางอ้อม จากการที่ค่าจ้างขั้นต่ำ มักถูกใช้อ้างอิงในการปรับค่าจ้างอื่นๆ และ

    3) ด้านเศรษฐกิจมหภาคเป็นการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่แรงงาน ซึ่งจะส่งผลต่อการใช้จ่ายภายในประเทศ สร้างสมดุล และความเข้มแข็งอย่างมีคุณภาพแก่ระบบเศรษฐกิจ โดยอัตราค่าจ้างที่เหมาะสม ควรอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับผลิตภาพของแรงงาน จูงใจให้แรงงานพัฒนาฝีมือและทักษะ และผลักดันให้ธุรกิจปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อเพิ่มผลิตภาพด้วย

    จากการศึกษา Global Wage Report ปี 2009 ขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) พบว่าร้อยละ 60 ของประเทศที่ทำการศึกษาใช้ "รูปแบบอัตราค่าจ้างขั้นต่ำอัตราเดียวทั่วประเทศ" ซึ่งในกลุ่มนี้รวมถึงประเทศพัฒนาแล้ว เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา และร้อยละ 40 ใช้ "รูปแบบอัตราค่าจ้างขั้นต่ำหลายอัตราตามสาขาการผลิตและอาชีพ" (ภาพ 1) ซึ่งประเทศในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก และละตินอเมริกาและแคริบเบียน จะใช้รูปแบบหลังมากกว่ารูปแบบแรก โดยเห็นว่ารูปแบบนี้ สามารถลดปัญหาการยึดติดหล่มอยู่ในอัตราค่าจ้างขั้นต่ำอัตราเดียวเป็นเวลานานได้ และคุ้มครองแรงงานในบางสาขาการผลิตที่มีความอ่อนไหว แต่ขณะเดียวกัน อัตราค่าจ้างขั้นต่ำหลายอัตรานี้มักถูกกำหนดและแทรกแซงจากทางการค่อนข้างมาก หากเรามาดูบทเรียนจากต่างประเทศของการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ จากงานวิจัย ECFIN Country Focus (2007) จัดทำโดยสหภาพยุโรปชี้ว่า การกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่มีการบังคับใช้ในแต่ละประเทศสมาชิก แตกต่างกันไปตามโครงสร้างตลาดแรงงาน และระดับผลิตภาพการผลิต (Productivity) ของแต่ละสาขาการผลิต โดยยกตัวอย่าง 2 แนวทาง คือ

    1) ในกรณีของประเทศฟินแลนด์ ที่ใช้อัตราค่าจ้างขั้นต่ำแบบบริหารจัดการ (Managed Wage-setting) อัตราเดียวในทุกสาขาการผลิต (ดูตาราง) ซึ่งมีข้อดีคือ ทำให้เกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และสนับสนุนให้สาขาการผลิตหรือธุรกิจที่มีผลิตภาพสูง พัฒนากระบวนการผลิตของตัวเอง และสร้างภูมิต้านทานต่อต้นทุนค่าแรงที่สูงขึ้นได้ เช่น สาขาการผลิตไฟฟ้า และสาขาการผลิตวิศวะโลหะ เป็นต้น แต่ก็มีข้อเสียคือ จะก่อให้เกิดความยากลำบากแก่สาขาการผลิตหรือธุรกิจที่อ่อนแอมีผลิตภาพต่ำ ที่ไม่สามารถแบกรับต้นทุนค่าแรงที่สูงขึ้นได้ซึ่งภาครัฐควรผ่อนปรนและหาแนวทางช่วยเหลือแก่ภาคธุรกิจที่อ่อนแอในช่วงที่กำลังปรับตัว

    2) ในกรณีของประเทศเอสโตเนีย ที่ใช้อัตราค่าจ้างขั้นต่ำแบบลอยตัว (Free Wage-setting) หลายอัตราตามสาขาการผลิตและอาชีพ (ดูตาราง) โดยอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่ยืดหยุ่นนี้สามารถปรับขึ้นลงให้สอดคล้องกับสภาวะทางเศรษฐกิจ เพื่อรักษาดุลภาพไว้ ซึ่งมีข้อดีคือ ช่วยภาคอุตสาหกรรมหรือธุรกิจที่มีผลิตภาพต่ำให้สามารถอยู่ได้ แต่มีข้อเสียคือ หากเกิดปัญหาขาดแคลนแรงงาน ค่าจ้างจะปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งส่งผลถึงต้นทุน และในที่สุดราคาสินค้าทั่วไปจะปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย สร้างแรงกดดันให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ ในกรณีนี้ ภาครัฐควรใช้นโยบายการคลังที่มีลักษณะผันผวนไปตรงกันข้ามกับวัฏจักรเศรษฐกิจ (CounterCyclical Fiscal Policy) ในการจัดการปัญหาดังกล่าว

    นอกจากนี้ ผลการศึกษาจัดทำโดย World Bank (2014) เรื่องค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งมีการศึกษาถึงผลกระทบของการปรับโครงสร้างค่าจ้าง ที่ไม่สอดคล้องกับโครงสร้างและสภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และชี้ให้เห็นตัวอย่างอีก 2 กรณี คือ

    3) ในกรณีของประเทศฟิลิปปินส์ที่มีการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำหลายอัตราแตกต่างกัน ตามระดับค่าครองชีพของแต่ละภูมิภาค และ

    4) ในกรณีของประเทศเวียดนามที่กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำหลายอัตราแตกต่างกัน ตามระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจของแต่ละภูมิภาค ปัญหาที่พบคือ ในประเทศฟิลิปปินส์ค่าจ้างขั้นต่ำไม่มีการบังคับใช้อย่างครอบคลุมและจริงจัง และเป็นที่น่าสังเกตว่า ประสบการณ์ที่ทั้งสองประเทศต้องเจอเหมือนกันคือ การปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำทำให้เกิดการเลิกจ้างเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะแรงงานที่มีการศึกษาน้อย และ/หรือแรงงานประเภทสัญญาว่าจ้างไม่เป็นทางการ ส่งผลให้ต้องย้ายเข้าสู่ตลาดแรงงานนอกระบบมากขึ้น

    จากกรณีศึกษาทั้ง 4 ประเทศข้างต้น สรุปเป็นบทเรียนได้ว่า การกำหนดโครงสร้างอัตราค่าจ้างขั้นต่ำมีหลากหลายรูปแบบ และแต่ละประเทศก็เลือกให้เหมาะสมกับโครงสร้างตลาดแรงงาน ระดับผลิตภาพการผลิต และเงื่อนไขและสภาวะของเศรษฐกิจของประเทศตนเอง ซึ่งแต่ละรูปแบบต่างก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ในกรณีของไทย การขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท ได้ชดเชยในส่วนของค่าจ้างขั้นต่ำ ที่โตช้ากว่าค่าครองชีพและการเติบโตของเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งมีส่วนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงานด้วยแล้วในระดับหนึ่ง (ภาพ 2)

    ในระยะข้างหน้า บทเรียนจากต่างประเทศดังกล่าว มีนัยต่อการตัดสินใจนโยบายอัตราค่าจ้างขั้นต่ำครั้งต่อไป เพื่อให้เป็นทางเลือกที่เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

    1) กระบวนการออกนโยบายของภาครัฐโดยคณะกรรมการค่าจ้างระดับชาติ ควรตั้งอยู่บนหลักวิชาใช้ข้อมูลที่ทันสมัย ครบถ้วนและรอบด้าน ชั่งน้ำหนักผลดีและผลเสียโดยความเห็นของผู้เชี่ยวชาญแรงงาน รวมทั้งการถ่วงดุลอำนาจในการเจรจาต่อรองของทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้างอย่างเป็นธรรม ไม่ว่าจะใช้รูปแบบเดิมอัตราเดียวทั่วประเทศ แบบลอยตัว แบบตามระดับการพัฒนาเศรษฐกิจ แบบตามกลุ่มอุตสาหกรรม หรือแบบผสมผสาน และ

    2) เหนือสิ่งอื่นใด ผู้ประกอบการและนายจ้าง ก็ต้องเร่งพัฒนาผลิตภาพการผลิต ด้วยการลงทุนทั้งในด้านเทคโนโลยี และการฝึกอบรมแรงงานของตนอย่างต่อเนื่อง ส่วนลูกจ้างก็ต้องเร่งพัฒนาฝีมือและทักษะให้สอดคล้องกับค่าจ้างที่สูงขึ้น โดยทั้งสองฝ่ายต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกันตราบใดที่การทำธุรกิจต้องอาศัยกำลังคนในการทำงาน ก็คงต้องช่วยกันหาทางออกด้วยสันติวิธี ซึ่งหากแรงงานในชาติเจริญรุ่งเรือง.ชาติก็จะรุ่งเรืองไปด้วย

    คอลัมน์ แจงสี่เบี้ย โดย ดร.สาวณี จันทะพงษ์ และ ธันยพร สิมะสันติ
    ธนาคารแห่งประเทศไทย

    Source: กรุงเทพธุรกิจ
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ช็อก! อดีตแชมป์มวยไทยโลก “วัลเด็ต กาชิ” ถูกกลุ่มไอเอสจับประหาร หลังพยายามหนีกลับเยอรมันไปหาเมียนางแบบไทย โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 กรกฎาคม 2558 11:25 น.

    [​IMG]

    @วัลเด็ต เอ็นเวอร์ กาชิ หรือ “วรเดช”

    เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - กลุ่มนักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรีย ตกเป็นข่าวลงมือประหารชีวิต “อดีตแชมป์โลกมวยไทย” ชื่อก้อง วัลเด็ต กาชิ โดยรายงานข่าวระบุ อดีตนักมวยดังซึ่งเข้าร่วมกลุ่มไอเอสถูกปลิดชีพหลังพยายามหลบหนีกลับประเทศเยอรมนีเพื่อไปหาภรรยาที่เป็นอดีตนางแบบดังชาวไทยและลูกสาว

    รายงานข่าวล่าสุดซึ่งถูกเผยแพร่ผ่านสื่อต่างประเทศหลายสำนักระบุว่า “ วัลเด็ต เอ็นเวอร์ กาชิ” นักมวยไทยชื่อดังสัญชาติเยอรมันเชื้อสายแอลเบเนีย-โคโซโว วัย 29 ปี หรือที่กลุ่มแฟนกีฬาหมัดมวยชาวไทยที่อาศัยในยุโรป ตั้งชื่อภาษาไทยให้ว่า “วรเดช” ได้เสียชีวิตแล้วในประเทศซีเรีย หลังจากถูกนักรบของกลุ่มรัฐอิสลามจับตัวไปประหารชีวิตด้วยวิธีการซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยว่าเป็นวิธีการใด

    รายงานข่าวระบุว่า วัลเด็ต เอ็นเวอร์ กาชิ หรือ วรเดช เจ้าของตำแหน่งแชมเปี้ยนมวยไทยแห่งทวีปยุโรป และเป็นแชมป์มวยไทยโลกรุ่นซูเปอร์ไลต์เวทถึง 2 สมัย ได้แอบเดินทางออกจากบ้านพักของเขาที่เมืองซิงเงน ประเทศเยอรมนี เข้าไปยังซีเรียตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา เพื่อเข้าร่วมกับกลุ่มไอเอส โดยทิ้งภรรยาซึ่งเป็น “อดีตนางแบบชื่อดังชาวไทย” และลูกสาวตัวน้อยอีก 2 คนไว้เบื้องหลัง

    อดีตนักมวยไทยระดับแถวหน้าของโลก ถูกระบุว่าเคยขึ้นชกและเอาชนะชายน้อย สุขสัมฤทธิ์ นักมวยชาวไทยได้เมื่อปี 2009 และเคยผ่านสังเวียนมวยไทยมากกว่า 106 ไฟต์ตลอดระยะเวลา 4 ปีครึ่งที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทย

    ด้านแหล่งข่าวซึ่งเป็นคนใกล้ชิดของวัลเด็ต หรือ วรเดช ระบุ ยอดขุนพลมวยไทยซึ่งนับถือศาสนาอิสลามรายนี้ เข้าร่วมกับกลุ่มไอเอสในซีเรีย เพราะมีความเชื่อส่วนตัวว่า การได้ร่วมรบกับกลุ่มไอเอส จะทำให้ชาวมุสลิมอย่างเขา ได้สละชีพอย่างมีเกียรติ

    อย่างไรก็ดี กลุ่มเคลื่อนไหว “ซีเรียน ออบเซอร์วาทอรี ฟอร์ ฮิวแมน ไรต์ส” ซึ่งมีฐานอยู่ในอังกฤษ และทำหน้าที่คอยรายงานข่าวการสู้รบ และตัวเลขความสูญเสียของฝ่ายต่างๆในสงครามกลางเมืองซีเรียมาตั้งแต่ปี 2011 เปิดเผยเพิ่มเติมว่าวรเดชพยายามหลบหนีออกจากซีเรียหลายครั้ง ตั้งแต่ช่วงเดือนแรกที่เขาเดินทางไปถึงเนื่องจากรับไม่ได้กับพฤติกรรมโหดเหี้ยมต่างๆ ของกลุ่มไอเอส และตระหนักได้ว่า ในความเป็นจริงแล้ว กลุ่มไอเอสอาศัยศาสนาอิสลาม เพื่อเป็นเครื่องมือในการโฆษณาชวนเชื่อเท่านั้น หาได้มีจุดประสงค์ในการต่อสู้เพื่อปกป้องศาสนาอิสลามและชาวมุสลิมแต่อย่างใด

    รายงานข่าวระบุว่า อดีตแชมป์โลกมวยไทยชื่อดังรายนี้ ถูกหน่วยสอดแนมผู้แปรพักตร์ของกลุ่มไอเอสจับตัวได้ ขณะพยายามหลบหนีครั้งสุดท้ายเพื่อเดินทางกลับเยอรมนีไปหาภรรยาที่เป็นนางแบบชาวไทยและบุตรสาวทั้ง 2 คน และเขาถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยวิธีการที่ไม่เปิดเผยไปเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา

    ทั้งนี้ วัลเด็ต เอ็นเวอร์ กาชิ หรือชื่อที่คนไทยในยุโรปตั้งชื่อไทยให้ว่า วรเดช เกิดเมื่อวันที่ 10 เมษายน ปี 1986 ที่กรุงปริสตินาของโคโซโว ในครอบครัวของชนเชื้อสายมุสลิมแอลเบเนีย ก่อนที่ครอบครัวของเขาจะอพยพไปตั้งรกรากใหม่ในเยอรมนีเมื่อตอนที่เขามีอายุ 6 ปีที่เขตนอยมาร์คต์ของแคว้นบาวาเรีย

    โดยวัลเด็ตเริ่มชื่นชอบกีฬามวยไทยตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นจนหันมาเรียนวิชามวยไทยอย่างจริงจัง และเคยเดินทางมาฝึกซ้อมที่ค่าย “อีลีต ไฟต์ คลับ” ในกรุงเทพมหานครบ่อยครั้ง

    ในอีกด้านหนึ่งมีรายงานว่า วัลเด็ตได้นำเอาวิชามวยไทยที่ได้ร่ำเรียนจากครูมวยในไทยไปถ่ายทอดต่อให้กับเยาวชนที่สนใจในทวีปยุโรป โดยการเปิดโรงเรียนมวยไทยที่ชื่อว่า “เอ็มเอ็มเอ ซุนนา” ที่เมืองวินเทอร์ธูร์ ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ออสเตรเลียเผย “ระบบเตือนภัยก่อการร้ายแบบใหม่” หวังประชาชนเข้าใจได้ง่ายขึ้น โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 กรกฎาคม 2558 13:00 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี – ออสเตรเลียประกาศระบบเตือนภัยก่อการร้ายแบบใหม่ที่มีความชัดเจนกว่าเดิมในวันนี้ (23) ขณะที่ประเทศนี้กำลังเผชิญกับสิ่งที่นายกรัฐมนตรี โทนี แอ๊บบอตต์ เรียกว่าเป็นภัยคุกคามจากลัทธิหัวรุนแรงครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ และรัฐบาลได้ร่างยุทธศาสตร์ระยะยาวออกมาเพื่อรับมือกับหายนะดังกล่าวแล้ว

    [​IMG]

    ระบบใหม่ดังกล่าวจะถูกนำมาใช้ภายในปีนี้ โดยระดับเตือนภัยคุกคามใหม่นี้ประกอบด้วยระดับเกิดขึ้นแน่นนอน , คาดการณ์ว่าจะเกิด , น่าจะเกิด , เป็นไปได้ที่จะเกิด และไม่คาดว่าจะเกิด ซึ่ง แอ๊บบอตต์ ระบุว่า สาธารณะชนจะเข้าใจได้ง่ายมากกว่า

    “ณ เวลานี้ ระดับเตือนภัยคุกคามก่อการร้ายคือ สูงสุด , สูง , ปานกลาง และต่ำ เราได้มีการตีความระดับเหล่านั้นกันใหม่เล็กน้อย” เขากล่าวภายหลังการประชุมซัมมิทในนครซิดนีย์ร่วมกับผู้นำรัฐและดินแดน 9 แห่งของประเทศนี้

    “การเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็ตามกับระดับภัยคุกคามภายใต้ระบบใหม่นี้จะมาพร้อมการแถลงให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าระดับภัยคุกคามใหม่นี้หมายถึงอะไร , ภัยคุกคามกำลังมาจากที่ไหน , อะไรที่อาจตกเป็นเป้าหมาย และการโจมตีอาจมาในรูปแบบไหน”

    รัฐบาลมีความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับการไหลหลั่งของนักรบไปยังอิรักและซีเรียเพื่อเข้าร่วมกับกลุ่มติดอาวุธต่างๆ เช่นกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) โดยชาวออสเตรเลียตบเท้าเข้าไปในภูมิภาคดังกล่าวแล้วราว 120 คน และ 160 คนให้การสนับสนุนทางตรงกับองค์กรหัวรุนแรงต่างๆ ด้วยการจัดหาเงินทุนและสมาชิกใหม่ไปให้

    ระดับเตือนภัยก่อการร้ายของแดนจิงโจ้ถูกปรับขึ้นเป็นระดับสูงในเดือนกันยายนปีที่แล้ว และนับตั้งแต่นั้นมาได้มีเหตุโจมตีเกิดขึ้น 2 ครั้ง คือเหตุแทงตำรวจ 2 นายในเมืองเมลเบิร์น และเหตุจับตัวประกันที่คาเฟ่แห่งหนึ่งในนครซิดนีย์ และมีการโจมตี 6 ครั้งที่ถูกขัดขวางเอาไว้ได้ ทั้งนี้อ้างจากรัฐบาล

    “ปัจจุบันออสเตรเลียกำลังเผชิญกับภัยคุกคามอย่างมีนัยสำคัญที่สุดจากการก่อการร้ายในประวัติศาสตร์ของชาติเรา” แอ๊บบอตต์ กล่าว “ภัยคุกคามการก่อการร้ายมีอยู่จริงและยังคงค่อยๆ แผ่ขยายและพัฒนาขึ้น”

    ในฐานะส่วนหนึ่งของความพยายามรับมือกับพวกลัทธิหัวรุนแรง รัฐบาลได้เผยแพร่ยุทธศาสตร์ระยะยาวอันใหม่ที่มุ่งเน้นที่การให้ข้อมูลแก่สังคมเกี่ยวกับภัยคุกคามการก่อการร้ายและสิ่งรัฐบาลกำลังทำอยู่เพื่อตอบโต้ภัยคุกคามเหล่านั้น

    ยุทธศาสตร์นี้มุ่งเน้นที่องค์ประกอบหลัก 5 อย่าง รวมถึงการขัดขวางแนวคิดหัวรุนแรง , การยับยั้งไม่ให้ประชาชนกลายเป็นผู้ก่อการร้ายโดยการทำงานร่วมกับสมาชิกในชุมชนเพื่อระบุตัวผู้ที่มีความเสี่ยงสูงสุด และการสกัดกั้นกิจกรรมก่อการร้ายแต่เนิ่นๆ

    ยุทธศาสตร์นี้ยังให้ความสำคัญกับการปรับปรุงการตอบสนองและเตรียมความพร้อมเมื่อมีเหตุโจมตีเกิดขึ้น ขณะเดียวกันก็รักษาความสัมพันธ์อันเหนี่ยวแน่นกับกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ซึ่งกำลังปราบปราบกลุ่มติดอาวุธต่างๆ อย่างกลุ่มไอเอส

    “ความสามารในการฟื้นตัวและการร่วมไม้ร่วมมือกันของสังคมเราคือเครื่องป้องกันลัทธิหัวรุนแรงที่ดีที่สุดของเรา” แอ๊บบอตต์ กล่าว “มันคือสิ่งสำคัญที่สุดของเราในการป้องกัน , ตอบสนอง และฟื้นตัวจากการโจมตีครั้งใหญ่ของผู้ก่อการร้าย”

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผ่านฉลุย! รัฐสภากรีซโหวตไฟเขียว “กม.ปฏิรูปฉบับที่สอง” เปิดทางรับแพ็กเกจเงินกู้งวดใหม่ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 กรกฎาคม 2558 09:55 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี/ รอยเตอร์ – รัฐสภากรีซมีมติรับรองร่างกฎหมายปฏิรูปฉบับที่ 2 ตามเงื่อนไขที่รัฐบาลตกลงไว้กับองค์กรเจ้าหนี้วันนี้(23 ก.ค.) ซึ่งถือเป็นชัยชนะอีกครั้งสำหรับนายกรัฐมนตรี อเล็กซิส ซีปราส ในการที่จะปลดล็อกแพ็กเกจเงินช่วยเหลือให้ทันชำระหนี้รอบใหม่ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม

    ร่างกฎหมายชุดที่ 2 ซึ่งครอบคลุมการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมทางแพ่งของกรีซ มาตรการรับประกันเงินฝาก และแผนเสริมสภาพคล่องธนาคาร ได้รับการโหวตเห็นชอบจาก ส.ส. ส่วนใหญ่ 230 เสียงจากทั้งหมด 300 เสียงในรัฐสภา ซึ่งแน่นอนว่ามีเสียงของฝ่ายค้านช่วยหนุนด้วย

    การโหวตร่างกฎหมายฉบับนี้ถือเป็นบททดสอบสำคัญของ ซีปราส ที่เพิ่งเผชิญการก่อกบฏครั้งใหญ่ในรัฐสภาเมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว จากการที่ลูกพรรคไซรีซาของตนเอง 1 ใน 5 ออกเสียงคัดค้านร่างกฎหมายปฏิรูปฉบับแรกที่เป็นการเปลี่ยนแปลงระบบภาษี ระบบบำนาญ และกฎระเบียบในตลาดแรงงานครั้งใหญ่ รวมถึงการนำทรัพย์สินของรัฐออกขายใช้หนี้ ส่งผลให้เขาต้องหันไปพึ่งพรรคฝ่ายค้านในการผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว เพื่อให้บรรลุตามเงื่อนไขที่เจ้าหนี้กำหนดไว้สำหรับการเปิดเจรจาขอรับแพ็กเกจเงินกู้งวดที่ 3 มูลค่า 86,000 ล้านยูโรในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า

    นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า การโหวตร่างกฎหมายฉบับที่สองจะเป็นบทพิสูจน์ว่า ซีปราส สามารถหลีกเลี่ยงการแตกหักกับลูกพรรคไซรีซาได้หรือไม่ ในขณะที่ฝ่ายต่างๆ ก็บีบคั้นให้ต้องจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนด ทั้งที่นายกรัฐมนตรีฝ่ายซ้ายผู้นี้เพิ่งขึ้นบริหารประเทศได้เพียง 6 เดือน

    อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า ซีปราส ซึ่งยังมีคะแนนนิยมสูงจากโพลต่างๆ จะเผชิญแรงต่อต้านน้อยกว่าในการโหวตกฎหมายปฏิรูปฉบับแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

    ปิแอร์ มอสโกวิชี กรรมาธิการกิจการเศรษฐกิจและการเงินของสหภาพยุโรป ให้สัมภาษณ์ที่กรุงบรัสเซลส์ว่า ตนมั่นใจว่ารัฐสภากรีซจะยอมผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปชุดที่สอง และทางสถาบันเจ้าหนี้เองก็หวังที่จะสรุปข้อตกลงปล่อยกู้งวดที่ 3 ให้กรีซได้ภายในครึ่งหลังของเดือนสิงหาคมนี้

    ธนาคารกรีซเริ่มเปิดทำการได้อีกครั้งในวันจันทร์(20) หลังจากที่เอเธนส์เข้าถึงเงินกู้ฉุกเฉินระยะสั้น 7,160 ล้านยูโร ซึ่งอนุมัติโดยอียูเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว(17) จนมีเงินมาจ่ายคืนหนี้ให้แก่ธนาคารกลางแห่งยุโรป (อีซีบี) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)

    ต่อมาในวันอังคาร (21) สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (เอสแอนด์พี) บริษัทเครดิตเรตติ้งยักษ์ใหญ่ ก็ประกาศปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้กรีซ 2 ขั้นจาก CCC- เป็น CCC+ ซึ่งแม้ว่ายังอยู่ในสถานะขยะ แต่ถือเป็นความคืบหน้าที่ดีขึ้น

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผลสำรวจชี้คะแนนนิยม “โป๊ปฟรานซิส” ดิ่งรูดในสหรัฐฯ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 กรกฎาคม 2558 09:10 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี – ผลสำรวจความคิดเห็นที่เผยแพร่วานนี้ (22 ก.ค.) พบว่าคะแนนนิยมของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสเริ่มแผ่วลงในอเมริกา โดยเฉพาะในกลุ่มชาวคริสต์คาทอลิกสายอนุรักษ์นิยมที่ไม่พอใจในพระดำริแบบก้าวหน้าบางอย่างของโป๊ปพระองค์นี้

    ผลสำรวจโดยแกลลัปโพลพบว่า กระแสชื่นชมในตัวพระสันตะปาปาชาวอาร์เจนตินาลดลงจากระดับเมื่อปี 2013 ซึ่งพระองค์ทรงได้รับเลือกเป็นผู้นำคริสตจักรโรมันคาทอลิกที่มีศาสนิกชนอยู่กว่า 1,200 ล้านคนทั่วโลก

    จากการสุ่มสอบถามประชากรวัยผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ พบว่าคะแนนนิยมในภาพรวมของโป๊ปฟรานซิสลดลงจาก 76% เมื่อช่วงต้นปี 2014 เหลือเพียง 59% ในปัจจุบัน

    ทั้งนี้ เมื่อเดือนเมษายน ปี 2013 ก่อนที่พระองค์จะทรงก้าวขึ้นเป็นพระสันตะปาปา กระแสนิยมชมชอบพระองค์อยู่ที่ราวๆ 58% ในหมู่ชาวอเมริกันทั่วไป

    ในช่วงระหว่างปี 2014-2015 กระแส “ยี้” พระสันตะปาปาในหมู่ชาวอเมริกันคาทอลิกเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว จาก 9% ขึ้นมาเป็น 16%

    ผู้ตอบแบบสอบถามกลุ่มที่เหลือระบุว่า พวกเขาตัดสินไม่ได้ว่าโป๊ปทรงเป็นคนอย่างไร หรือไม่มีความเห็นโน้มเอียงไปทางใดทางหนึ่ง

    แกลลัปโพลยังพบว่า มีชาวอเมริกันที่ไม่เคยได้ยินชื่อโป๊ปฟรานซิสมาก่อน หรือไม่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับพระองค์มากถึง 25% เพิ่มขึ้นจาก 16% ในปี 2104

    ในกลุ่มชาวอเมริกันคาทอลิก กระแสนิยมโป๊ปฟรานซิสก็ลดน้อยลงเหลือเพียง 71% จากระดับ 89% เมื่อปีที่แล้ว

    แกลลัปชี้ว่า สาเหตุที่ทำให้คะแนนนิยมของโป๊ปฟรานซิสลดลงน่าจะเป็นเพราะชาวอเมริกันสายอนุรักษ์นิยมซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังสนับสนุนสถาบันพระสันตะปาปาอย่างแข็งขันในปัจจุบัน เริ่มไม่พอใจกับจุดยืนหัวก้าวหน้าของโป๊ปในบางประเด็น

    “คะแนนนิยมที่ลดลงนั้น ส่วนหนึ่งอาจเกิดจากการที่โป๊ปทรงประณามผู้ที่บูชาเงินเป็นพระเจ้า ทรงชี้ว่าภาวะโลกร้อนเกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ รวมถึงการที่ทรงใส่ใจปัญหารายได้ที่ไม่เท่าเทียม ซึ่งประเด็นเหล่านี้ขัดแย้งกับความเชื่อของพวกอนุรักษ์นิยมจำนวนมาก” นักวิจัยจากแกลลัปโพล ระบุ

    ถึงกระนั้น โป๊ปพระองค์ปัจจุบันก็ยังทรงมีกระแสดีกว่าอดีตพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ซึ่งระดับความนิยมอยู่ที่ 40% เท่านั้นในปี 2010 ท่ามกลางกระแสข่าวอื้อฉาวทางเพศของพวกบาทหลวงคาทอลิก

    โป๊ปฟรานซิสจะเสด็จฯ เยือนสหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 22-27 กันยายน โดยทรงมีกำหนดการเข้าพบประธานาธิบดี บารัค โอบามา และจะประทานพระดำรัสต่อสภาคองเกรส รวมถึงเสด็จฯ ไปยังสำนักงานใหญ่สหประชาชาติด้วย

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โอนหุ้น 228 ล้านให้ศึกษาวิธีเล่นมีด้วยหรือครับ ถ้าแค่ให้ศึกษา โอนให้ ซัก 1 - 2 ล้านก็ได้

    พริตตี้สาวคนสนิทเสี่ยชูวงษ์เครียดถูกสอบร่วม 3 ชั่วโมง ยันผู้ตายโอนหุ้น 228 ล้านให้ศึกษาวิธีเล่น โดย ทีมข่าวอาชญากรรม 23 กรกฎาคม 2558 15:26 น. (แก้ไขล่าสุด 23 กรกฎาคม 2558 15:29 น.)

    [​IMG]

    พริตตี้สาวคนสนิทเสี่ยชูวงษ์เครียดถูกสอบร่วม 3 ชั่วโมง ยันผู้ตายโอนหุ้น 228 ล้านให้ศึกษาวิธีเล่น
    น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล อายุ 26 ปี แคตดี้-พริตตี้สาวคนสนิทนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุซึ่งญาติสงสัยจะมีเงื่อนงำ ขณะเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเมื่อเช้านี้

    ASTVผู้จัดการ- พริตตี้สาวคนสนิทเสี่ยชูวงษ์เครียด ตำรวจสอบร่วม 3 ชั่วโมง เผยเสี่ยโอนหุ้น 228 ล้านเพื่อให้ศึกษาวิธีการเล่นหุ้นเท่านั้น เบื้องต้นยังไม่พบความผิดปกติของเอกสาร คาดคดีจะกระจ่างภายใน 2สัปดาห์นี้ ระบุ พริตตี้สาวยังไม่ถูกจัดสถานะแค่เป็นผู้มาให้ถ้อยคำแต่ถือเป็นบุคคลวงในใกล้ชิดเสี่ยผู้ตาย

    จากการที่ น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล อายุ 26 ปี พริตตี้สาวคนสนิทนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุซึ่งญาติสงสัยจะมีเงื่อนงำ พร้อมด้วยนาย เสกสรรค์ เสนาชู ทนายความ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษกตร. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม พนักงานสอบสวน ผู้ชำนาญการ กก.1 บก.1 ป. หลังจากตำรวจออกหมายเรียก เนื่องจากพบว่านายชูวงษ์มีการโอนหุ้นให้น.ส.กัญฐณาเป็นจำนวน9.5 ล้านหุ้น มูลค่ากว่า 228 ล้านบาทนั้น

    ล่าสุด พล.ต.ท. ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. ได้เปิดเผยหลังจากสอบปากคำน.ส. กัญฐณา เป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมง ว่า เบื้องต้นเป็นเพียงขั้นตอนการซัก-ถามข้อมูล ในประเด็นที่น.ส.กัญฐณา
    ได้รับการโอนหุ้นจากนายชูวงษ์ มูลค่ากว่า 228 ล้านบาท โดยน.ส.กัญฐณายืนยันว่าที่นายชูวงษ์โอนหุ้นให้เพราะว่าต้องการให้ศึกษาวิธีการเล่นหุ้นเพียงเท่านั้น และน.ส.กัญฐณามีความรู้เรื่องหุ้นเพียงเล็กน้อย ส่วนใครจะเป็นโบรกเกอร์นั้นขอให้เป็นข้อมูลในสำนวน โดยเอกสารการโอนหุ้นดังกล่าวจะมีการปลอมแปลงหรือเป็นเอกสารจริงนั้นต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ จากการตรวจสอบเบื้องต้นเอกสารดังกล่าวยังไม่ถึงกับเรียกว่าผิดปกติแต่อย่างใด

    ส่วนการตรวจสอบในส่วนของการเสียชีวิตว่าเป็นอุบัติเหตุหรือไม่นั้นเป็นหน้าที่รับผิดชอบของนครบาล อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่า คดีจะมีความคืบหน้าและกระจ่างไม่เกิน2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามน.ส.กัญฐณายังไม่ได้ระบุว่าอยู่ในสถานะใดเป็นเพียงผู้มาให้ถ้อยคำ และเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์และในคดีเท่านั้น ซึ่งต้องการให้บุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าให้ปากคำให้ครบทุกคนแต่ยอมรับว่าสิ่งที่เป็นกังวลคือการให้ข้อมูลของบุคคลที่เกี่ยวข้องเนื่องจากเกรงว่าจะมีการตกแต่งข้อมูลซึ่งถือเป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องนำข้อมูลเหล่านั้นมาคัดกรองเพื่อหาข้อเท็จจริงอีกครั้งหนึ่งขณะเดียวกันผู้ให้ข้อมูลบางรายอาจจะเปิดเผยข้อมูลไม่หมดจึงเป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องซัก-ถามหลายครั้ง เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง

    พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวต่อว่า ขณะนี้ถือว่าน.ส.กัญฐณา และ น.ส.อุรชาเป็นบุคคลวงในและเป็นบุคคลใกล้ชิดที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิตมากที่สุด ซึ่งนอกจากน.ส.กัญฐณาจะมาให้ถ้อยคำในวันนี้แล้ว วันที่ 24กรกฎาคม น.ส.อุรชาก็ประสานจะเข้าให้ข้อมูลเช่นกัน

    ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศภายในห้องประชุมชั้น1 บก.ป. ว่า ขณะที่พล.ต.ท.ฐิติราช ซัก-ถามข้อมูลจากน.ส.กัญฐณา นั้น พบว่าน.ส.กัญฐณามีท่าทางเคร่งเครียดตลอดเวลา โดยหลังจากสอบปากคำน.ส.กัญฐณาเรียบร้อยแล้วทางพ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี รองผบก.ป. และพ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1บก.ป.ได้นำตัวน.ส.กัญฐณา ขึ้นไปสอบปากคำต่อที่ห้องศูนย์ปฏิบัติการ กองกำกับการ1 โดยหลบผู้สื่อข่าวโดยการขึ้นไปบริเวณบันไดด้านข้าง

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    อั๊ยยะ! หมวยแผ่นดินใหญ่หลงไหลศิลปมวยไทย อดีตนักกีฬาชกมวยหญิงทีมชาติของจีนเปิดค่ายมวยไทยในจีน

    [​IMG]

    ----------
    คุยแต่เรื่องการเมืองต่างประเทศมาก เดี๋ยวแฟนเพจเครียด หรือคลั่งปูตินเกินไป (ก็ปูตินเขาเก่งอ่ะ น้อ) หันมาดูข่าวเบาๆแต่เจ็บๆ บ้างดีฝ่าาาา วันนี้ลองไปหลิ่วตามองสื่อฯจีนว่ามีข่าวอะไรน่าสนใจบ้าง โอ้… มีเยอะเลยครับท่านหนุกๆมันส์ๆทั้งนั้น แต่เห็นข่าวนี้แล้ว แบบว่า... เอ่อปิ๊งทันทีเลย ตรงที่มีธงชาติไทยที่นวมนักมวยนี่แหละ อยากรู้อ่ะมันคืออะไรกันแน่
    รายงานข่าวจากสำนักข่าว People's Daily Online ของจีนพาดหัวข่าวว่า "A boxer of tender and grace" แปลประมาณว่า "นักชกแห่งความอ่อนช้อยพริ้วไหวและสง่่างาม" ว้าว! พาดหัวได้ถูกใจมากกก มาดูในเนื้อข่าวบ้างนะเขาพูดว่าอย่างไร?
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า... เมื่อคุณเห็นหลี่ เซี่ย (Li Xia) เป็นครั้งแรก คุณอาจจะคิดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงที่อ่อนโยนสุภาพและเงียบๆ แบบนี้จะเป็นนักมวย ความจริงก็คือว่าเธอเคยเป็นนักชกอาชีพในทีมชาติมาก่อน และหลังจากลาออก (retirement) เธอก็ได้มาเปิดค่ายมวย (boxing club) ของตัวเองและเป็นครูฝึกด้วย
    Li Xia เริ่มอาชีพชกมวยของเธอตั้งแต่อายุ 13 ปี แม่ของเธอส่งเธอเข้าโรงเรียนฝึกศิลปะการต่อสู้ในต่างประเทศ ซึ่งหวังว่าการฝึกศิลปะการต่อสู้จะทำให้เธอมีสุขภาพดีขึ้น และเรียนรู้การป้องกันตัวเอง ครึ่งปีต่อมา Li ก็เลือกวิชาการชกมวยเป็นวิชาหลักและได้รับคัดเลือกให้เข้าศึกษาต่อในสถาบันพละศึกษา Wuhan (Wuhan Institute of Physical Education)
    Li Xia ได้ฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อพัฒนาฝีมือให้กับตัวเองเป็นเวลา 7 ปีติดต่อกันในสถาบันดังกล่าว และในที่สุดความพยายามของเธอก็ประสบผลสำเร็จ ในปี 2002 Li Xia ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในสมาชิกนักชกมวยหญิงทีมชาติของจีน และในปี 2004 เธอได้รองแชมป์อันดับหนึ่งจากสถาบัน WBC World Female
    คนทั่วไปอาจจะคิดว่ากีฬาที่รุนแรงอย่างการชกมวยนี้ไม่เหมาะกับผู้หญิง ในขณะที่ Li Xia มองว่าการชกมวยเป็นวิธีหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความงดงามของผู้หญิง (ว้าว!) ก็เหมือนกับหญิงสาวคนอื่นๆ Li ยังชอบรองเท้าส้นสูงและการแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสวยงาม เมื่อเธอไม่ได้อยู่บนเวทีและไม่ได้ใส่นวม เธอก็จะแต่งหน้า (จะเอาฮาไปถึงไหนนี่ ท่านสื่อฯจีน พูดอีกก็ถูกอีกนั่นแหละครับ คริๆ)
    เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา Li Xia ได้กลับไปที่บ้านเกิดของตัวเองที่เมือง Hefei และได้เปิดค่ายมวยเป็นของตัวเองกับพี่ชายของเธอ สำหรับเธอแล้วนี่คือฝันที่เป็นจริง
    ว้าวววว! เป็นไงเล่า... อาหมวยไม่สนกังฟง กังฟู กังแฟบแล้ว กำลังภายในแบบหนังจีนก็ไม่เอา จะวิชาจี้จุดหรือวิชาตัวเบาหมื่นลี้ เหยียบเมฆ ยืนอยู่บนยอดไผ่อย่างในหนังจีนกำลังภายในก็ไม่ ฝึกวิทยายุทธ์กำลังภายในก็ไม่เอา เดี๋ยวธาตุไฟเข้าแทรก มาฝึกมวยไทยดีกว่า ซัดหมัดเข้าปากเต็มๆ เสยปลายคาง (ไม่กัดหูนะ คริๆ) แทงเข่า สับศอก เตะก้านคอ จรเข้ฟาดหาง ฯลฯ แบบนี้มันกว่าเยอะ ดิสต์ดี ฮ่าๆๆ
    ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านในเมืองเห็นอะไรจากข่าวนี้บ้างหรือเปล่า? จีนเขากำลังบอกว่า ฉันสนับสนุนและส่งเสริมศิลปะวัฒนธรรมไทย (มวยไทย) อย่างเต็มที่เลยนะ แล้วผู้หลักผู้ใหญ่จะคิดต่อยอดในเรื่องนี้กันอย่างไรบ้างหรือไม่? โอกาสดีๆมาแล้วนะ ขยายไปเลย เปิดค่ายมวยไทยเพิ่มขึ้นในจีน แล้วก็จัดการแข่งขันรายเดือน รายปี ก็ว่าไป หนุกดีออก
    พักนี้เห็นอเมริกากับตะวันตกเขาลงข่าวอย่างนี้ให้ไทยบ้างไหม? นอกจากมันจะคอยเล่นเรื่องสิทธิมนุษยชนและสิทธิไก่ ที่มาแอบถ่ายคลิปลูกไก่ย้อมสีชมพูแล้วก็ไปโพสต์ในยูทูปว่าไปเที่ยวประเทศไทยแล้วเห็นภาพนี้รู้สึกหดหู่มาก เป็นการทรมานสัตว์อย่างหนึ่ง ประเทศออสเตรเลียสังหารแมวจรจัด 2 ล้านตัวมันไม่พูดไม่ลงข่าวกันซักคำ ทีประเทศสหรัฐฯอเมริกาตำรวจยิงหัวประชาชนตายรายวันหนะไม่ว่าอะไรเลยนะ แต่พอเห็นว่าเป็นคลิปเกี่ยวกับประเทศไทยเท่านั้นแหละ สื่อฯหัวเขียวขี้ข้าอเมริกาก็รีบเอามาลงข่าวในเว็บไซต์ของตัวเอง โจมตีประเทศตัวเองทันทีเลยว่า นั่น! เห็นไหมอเมริกาเขาว่าเราอีกแล้ว งามหน้าไหม? ประมาณนี้หละ มันงามหน้าก็ตอนที่สื่อฯไทยไร้สมองประจานบ้านตัวเองนี่แหละ ไม่เห็นจะแนะนำอะไรหรือแก้ต่างอะไรที่เป็นประโยชน์ให้กับบ้านเมืองของตัวเองเลยนอกจาก ซ้ำเติม อ่านสื่อฯขี้หมาแห้งพวกนี้แล้วเซ็ง! น่าจะส่งไปดูงานที่รัสเซียกับจีนบ้างนะว่าเขามีวิธีการปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีในความรักชาติปกป้องประเทศชาติของพวกเขาอย่างไรเมื่อถูกสื่อฯต่างชาติโจมตี
    The Eyes
    23/07/2558
    ----------
    A boxer of tender and grace - People's Daily Online
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    แหล่มป๊ะ? ตร.สาวสวยจีน ที่ซินเจียง

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ----------
    เป็นไงเล่า? ในขณะที่สื่อฯตะวันตกพยายามลงภาพเกี่ยวกับความโหดร้ายของทางการจีนในการปราบปรามกลุ่มหัวรุนแรงและผู้ก่อการร้ายในเขตปกครองตนเองมณฑลซินเจียง อุยกูร์ สื่อฯจีนก็สวนกลับด้วยภาพชุดนี้ซะเลย ไม่ต้องพูด ไม่ต้องบรรยายอะไรกันมาก แค่พาดหัวว่า "Photos of beautiful policewoman become online hit" แค่นี้ก็กลบการเต้าข่าวจากฝั่งตะวันตกและอเมริกาได้แล้ว ชะงัดนักแล สุดยอด! จึงเก็บมาฝากแฟนเพจ เบาๆ คริๆ น่ารักอ่ะ
    The Eyes
    23/07/2558
    ----------
    Photos of beautiful policewoman become online hit - People's Daily Online
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช

    มาดูหน้าตาเด็กอเมริกันที่โค่นแชมป์การแข่งคณิตศาสตร์โอลิมปิกสากล 2015 กันชัดๆซิ

    [​IMG]

    ----------
    ไหนๆก็อยู่ที่ข่าวจากฝั่งจีนแล้ว ขอต่ออีกซักข่าวนะครับ มีอีกข่าวหนึ่งที่สำนักข่าว People's Daily Online ของจีนพาดหัวข่าวว่า "Who beat China in International Mathematical Olympiad?" แปลว่า "ใครกันแน่ที่ล้มแชมป์แข่งขันโอลิมปิกคณิตศาสตร์สากลในปีนี้?"
    เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 58 ที่ผ่านมา ทีมชาติสหรัฐฯคว้ารางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่งในการแข่งขันโอลิมปิกคณิตศาสตร์สากลครั้งที่ 56 ในประเทศไทย (the 56th International Mathematical Olympiad - IMO) หลังจากที่พยายามมาเป็นเวลาถึง 21 ปี ในที่สุดสหรัฐฯก็คว้าชัยชนะ IMO ในครั้งนี้ได้จนสำเร็จ (อื่ม! ยินดีด้วยครับ ดูสื่อฯจีนเขาเย้ยสหรัฐฯสิ ฮ่าๆๆ)
    สื่อฯจีนรายงานอีกว่า ทันทีที่ข่าวดีในครั้งนี้กลายเป็นข่าวเด่นประเด็นร้อนขึ้นมา ตามรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์ Washington Post ของสหรัฐฯที่พาดหัวว่า "U.S.A. beats China in IMO, wins first place for the first time in 21 years" แปลว่า "สหรัฐอเมริกาล้มจีนในการแข่งขัน IMO ชนะได้ที่หนึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 21 ปี" (แหม… ตั้ง 21 ปีเชียวนะ ก็น่ายินดีอยู่หรอก ฮ่าๆๆ ก็ไหนว่าอเมริกาเก่งเรื่องวิทยาศาสตร์และเก่งกว่าชาติอื่นๆทุกเรื่องไม่ใช่รึ แล้วทำไมเด็กอเมริกันถึงแพ้ให้จีนได้ตั้ง 21 ปีหละนี่?)
    สื่อฯจีนรายงานต่ออีกว่า สำหรับแชมเปียนที่รอคอยมาอย่างยาวนาน ผู้คนต่างก็รู้ตื่นตะลึงเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่ว่าจีนแพ้มากกว่าข่าวการชนะ (ของอเมริกา) ซะอีก เป็นเวลาหลายปีมาก ที่ No.1 มักจะตกเป็นของจีน ลองมองย้อนหลังดูเมื่อ 20 ปีผ่านมา จากรายชื่อแชมป์ IMO พบว่าจีนครองแชมป์ถึง 14 ครั้ง
    ที่มันเจ็บมากๆก็คือตรงนี้อ่ะ... รายงานข่าวบอกว่า ทีมของสหรัฐอเมริกานั้นพบว่ามีความหลากหลาย (ทางเชื้อชาติมาก) มีเด็กนักเรียนชาวอเมริกันเชื้อสายจีนรวมอยู่ในทีมด้วยจำนวน 2 คน และในขณะที่โคชของทีมก็เป็นคนอเมริกันเชื้อสายจีนด้วยเช่นกัน (ฮ่าๆๆๆ) คนอเมริกันในอินเตอร์เน็ทให้ความเห็นว่า "ดูยังไงก็ไม่เหมือนอเมริกาเลยอ่ะ" ( American Netizens commented saying, "doesn't look like America.") (โอย… ขำกลิ้งเลยข้าพเจ้าอ่ะ ดูหน้าตาทีมอเมริกันที่ชนะดิ เป็นคนเอเซียเป็นส่วนมาก มีฝรั่งหัวแดงอยู่ 4 คน)
    หนังสือพิมพ์ China Daily ของจีนก็เลยเหน็บสหรัฐฯโดยการตั้งข้อสมมุติฐานว่า "จะเป็นอย่างไรบ้างนะถ้าทีมชาติ USA ไม่มีนักเรียนอเมริกันเชื้อสายจีนรวมอยู่ด้วย?" ตั้งแต่ปี 2000-2015 เป็นต้นมาพบว่ามี 10 ครั้ง ที่เปอร์เซ็นต์ของนักเรียนชาวอเมริกันเชื้อสายจีนมีมากกว่าครึ่งหนึ่งในทีมชาติของสหรัฐฯ คำถามก็มีอยู่ว่าตกลงว่าชัยชนะครั้งนี้เป็นของคนจีนหรือว่าของคนอเมริกัน กันแน่? ฮ่าๆๆ โอบาม่าพูดไม่ออกอ่ะดิ
    The Eyes
    23/07/2558
    ----------
    Who beat China in International Mathematical Olympiad? - People's Daily Online
    Winning formula: USA tops International Math Olympiad for first time in 21 years - The Washington Post
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช

    ยุทธการจีนตอบโต้สหรัฐฯกรณีหนุนหลังกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในซินเจียงอุยกูร์

    [​IMG]

    ----------
    มีข่าวสนุกๆจากฝั่งจีนมาเล่าให้ฟังอีกซักข่าวนะครับ อย่าพึ่งเบื่อก่อนหละครับ เดี๋ยวจะกลับไปเล่าข่าวทางตะวันตกในเวทีโลกอียูซัดอิสราเอลให้ฟัง นั่นก็มันส์ไม่ใช่น้อย แต่ของเล่าข่าวสั้นชิ้นนี้ก่อนนะครับ
    เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าสหรัฐฯอยู่เบื้องหลังของกลุ่มหัวรุนแรงแบ่งแยกดินแดนในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ซึ่งเป็นการเตะตัดขาของจีนเพื่อไม่ให้จีนแผ่อิทธิพลทางเศรษฐกิจผ่านโครงการเส้นทางสายไหมเชื่อมไปยังเอเซียใต้และเอเซียกลางตลอดจนถึงรัสเซียได้สำเร็จ ซึ่งจีนก็ไม่มีทางที่จะปล่อยให้แผนการสกัดดาวรุ่งของสหรัฐฯประสบผลสำเร็จแน่ ดังนั้นจีนจึงคิดหามาตรการบางอย่างออกมาตอบโต้สหรัฐฯในกรณีนี้
    ยกแรกจีนจวกสหรัฐฯกลับไปแล้วกรณีไทยส่งมอบตัวผู้กระทำผิดกฎหมายลอกลับเข้าเมืองที่เป็นชาวอุยกูร์มีคดีติดตัวและผ่านการพิสูจน์สัญชาติกับไปดำเนินคดีต่อที่จีน คราวนี้มาดูยกสองบ้าง เมื่อวานนี้ (22 ก.ค.58) สำนักข่าว People's Daily Online ของจีน พาดหัวข่าวว่า "Xinjiang invests 10 billion yuan to build helicopter manufacturing base" แปลว่า "ซินเจียงลงทุน 1 หมื่นล้านหยวนเพื่อสร้างฐานการผลิตเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์" นี่เป็นการสร้างความเจริญโดยรัฐบาลกลางในมณฑลซินเจียงนะ อ่านพาดหัวข่าวยังไม่เท่าไร ต้องดูเนื้อในต่อ
    รายงานข่าวบอกว่า บริษัท Xinjiang Production and Construction Corps ได้ร่วมมือกับบริษัท China Helicopter Industry Development Association (CHIDA) ของจีน และบริษัท United States and China Foundation (USCF) ของสหรัฐฯลงนามข้อตกลงกรอบความร่วมมือในการก่อสร้างโรงงานขนาดใหญ่เพื่อผลิตเฮลิค็อปเตอร์ในเขตปกครองตนเองซินเจียง
    การผลิตส่วนใหญ่จะสร้างด้วยเทคโนโลยี่การบินแนวดิ่งของสหรัฐฯ (Vertical Aviation Technology - VAT), hummingbird features helicopters (เฮลิค็อปเตอร์พลเรือนทั่วไปแบบสี่ที่นั่ง), เฮลิค็อปเตอร์สุดหรูสำหรับนักธุรกิจ และเฮลิค็อปเตอร์ที่ออกแบบเพื่อใช้งานสำหรับตำรวจและการแพทย์ เป็นต้น คาดว่าโครงการดังกล่าวจะมีการลงทุนราว 10,000 ล้านหยวน โดยจะมีเป้าหมายการผลิตอยู่ที่ 300-400 ลำต่อปี และสำหรับผลิตชิ้นส่วนเฮลิค็อปเตอร์ภายในประเทศด้วย
    ในขณะเดียวกันการประสานงานในการดำเนินงานให้ครอบคลุมโครงการการบินซินเจียงภายใต้โครงการขนาดใหญ่ "หนึ่งสายพานลำเลียงหนึ่งถนน" (One Belt and One Road) ทั้งสองฝ่ายพร้อมที่จะให้ความร่วมมือซึ่งกันและกันอย่างเต็มที่ไม่เพียงแต่ในโครงการนี้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการก่อสร้างสถาบันการบินระหว่างประเทศ, การท่องเที่ยวทางอากาศ และการฝึกอบรมการออกใบอนุญาตให้กับนักบิน ฯลฯ ด้วย
    ว้าว! จีนเขาไม่ได้มองแค่เรื่องสร้างเฮลิค็อปเตอร์อย่างเดียวอ่ะ เขามองไปไกลกว่านั้นมาก เงินทั้งนั้น มีธุรกิจอื่นๆและการสร้างงานเกิดขึ้นตามมาอีกมากมาย สหรัฐฯค้านดีนักก็ดึงเข้ามาเป็นหุ้นส่วนซะเลย ดูซิจะค้านต่อไปอีกไหมเมื่อมีผลประโยชน์ร่วมกัน แต่แน่นอนว่าจีนคงจะไม่ไว้ใจสหรัฐฯในเรื่องการเมืองระหว่างประเทศและภูมิรัฐศาสตร์แน่ แต่นี่ก็เป็นนิมิตรหมายที่ดีในการสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจด้วยกัน ถึงสหรัฐฯไม่เอาด้วย แต่ประชาชนชาวซินเจียงคงจะไม่ปฏิเสธแน่
    The Eyes
    23/07/2558
    ----------
    Xinjiang invests 10 billion yuan to build helicopter manufacturing base - People's Daily Online
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    โปรอิสราเอลรวมตัวกันประท้วงข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านในใจกลางกรุงนครนิวยอร์ก

    [​IMG]

    ----------
    นั่นไง... จนได้...! รายงานข่าววันนี้ (23 ก.ค. 58) บอกว่านักเคลื่อนไหวซึ่งส่วนมากเป็นโปร-อิสราเอล (pro-Israel supporters) โต้แย้งว่าข้อตกลงกับอิหร่านทำให้สหรัฐฯและพันธมิตรของตนตกอยู่ในความเสี่ยง นักเคลื่อนไหวเหล่านี้ยังกล่าวอ้างอีกว่า "ข้อตกลงดังกล่าวไม่เป็นประชาธิปไตย" (อุบ๊ะ! มามุกนี้อีกแล้ว!) เนื่องจากข้อตกลงดังกล่าวดำเนินการโดยปธน.บารัค โอบาม่า โดยไม่ผ่านสภาคองเกรส (กรรม! อยากจะเอาสนธิสัญญา Joint Plan of Action (JPOA) ใส่พานไปประเคนให้พวกนี้จริงๆพับผ่าสิ อ่านนะครับอ่าน ก็กำลังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินงาน ยังไม่ไปถึงตรงนั้น พวกนี้ก็โวยวายซะแล้วไม่ถูกต้องเพราะไม่ผ่านสภาฯ เฮ้ออออ)

    [​IMG]

    รายงานข่าวบอกว่า กลุ่มผู้ประท้วงหลายพันคนซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วย pro-Israel supporters ได้รวมตัวกันที่ Times Square นิวยอร์กเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา เพื่อประท้วงข้อตกลงปัญหานิวเคลียร์อิหร่าน กลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องให้สภาคองเกรสของสหรัฐฯปฏิเสธข้อตกลงดังกล่าว
    เมื่อวันที่ 14 ก.ค.58 ที่ผ่านมาประเทศมหาอำนาจด้านนิวเคลียร์หรือที่เรียกโดยย่อว่า "P5+1" ซึ่งประกอบด้วย สหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย จีน และเยอรมันนี ได้บรรลุข้อตกลงเพื่อรับประกันสันติภาพเกี่ยวกับโครงการพัฒนาด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยการแลกเปลี่ยนกับการยกเลิกแซงชั่นประเทศอิหร่าน คราวนี้ในส่วนของสหรัฐฯนั้นมีเวลาถึงวันที่ 17 กันยายน 58 เพื่อตัดสินใจว่าจะรับรองข้อตกลงดังกล่าวหรือไม่ สภาคองเกรสได้แบ่งประเด็นต่างๆออกมา พร้อมกับคำขู่ของฝั่งพรรครีพับริกันว่าจะทำให้ดีที่สุดเพื่อที่จะฉีกข้อตกลงดังกล่าวทิ้ง (กรรม!)

    [​IMG]

    ฝั่งโปรอิสราเอลก็รวมตัวกันเดินขบวนใน Times Square ซึ่งประสานงานโดย "สมาพันธ์ตอบโต้เร่งด่วนชาวยิว" (Jewish Rapid Response Coalition) ร่วมกับองค์กรชาวยิวอื่นๆเป็นจำนวนมาก (Jewish organizations) (อันนี้แปลตามต้นฉบับให้เลยนะครับ อย่ามากล่าวหาว่าเพจนี้ใช้คำว่า "ยิว" ไปในทางดูถูกหรือ racist อีกหละ พวกนี้ถ้าไม่ได้อยู่ในอิสราเอลหรือไม่ใช่คนที่ถือสัญชาติอิสราเอลโดยตรง เขาก็เรียกพวกเขาเองว่า "ยิว" คงไม่ได้เรียกตัวเองว่าชาวพุทธ ชาวคริสต์ หรือชาวอิสลาม หรือแม้กระทั่งว่าเป็นชาวอย่างอื่นเช่นชาวโรฮิงญา อาข่า โม้ง แม้ว กระเหรี่ยง มูเซอร์ เป็นต้น อะไรทำนองนั้นหรอกนะ นี่หมายถึงในกรณีที่อยู่ต่างประเทศและเป็นชาวต่างชาติที่ไม่ใช่ชาวอิสราเอลนะครับ)
    ตามรายงานข่าวนั้น อิสราเอลไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เนื่องจากอิสราเอลมองว่าอิหร่านอาจจะสร้างอาวุธนิวเคลียร์ก็ได้ ซึ่งอ้างว่าจะกลายเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของโลก
    จริงดิ? เป็นภัยคุกคามต่ออิสราเอลกับซาอุดิฯสิไม่ว่า? นี่ขนาดสหรัฐฯเอาเงินตบปากไปแล้ว และบอกว่าจะส่งระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศไปให้ เขาก็ยังไม่พอใจอีก แล้วคุณจะเอาอะไรอีก? จะแซงชั่นอิหร่านไปทั้งปีทั้งชาติอย่างนั้นเลยใช่ไหม? งั้นช่วยอธิบายเรื่องสิทธิมนุษยชนให้ฟังหน่อยซิ ตอนนี้อิหร่านกำลังเอาคืนบ้างหละ ไม่ใช่ด้วยอาวุธหนักหรือสงคราม แต่ด้วยอาวุธเดียวกันกับที่สหรัฐฯเคยใช้โจมตีรัสค่าเงินรูเบิลของรัสเซียมาแล้ว ซึ่งก็คือน้ำมันดิบนั่นเอง วันนี้ราคามันดิบทั่วโลกเป็นอย่างไรบ้าง? เอาเฉพาะ WTI ของสหรัฐฯก็พอนะ ดูภาพที่สองประกอบนะครับ ดิ่งหัวทิ่มเลย ฮี่ๆๆ อ่ะของอังกฤษด้วยก็ได้ Brent ของอังกฤษก็กำลังดิ่งลงเช่นกัน สีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไร อาการทรุดลงเรื่อยๆ แล้วของบ้านเราหละ เป็นไงบ้าง? ลองเช็คดูคร่าวๆพบว่าเดือนนี้ลดไปแล้ว 4 ครั้ง ดูภาพที่ 4 ประกอบนะครับ ดีอันนี้ชอบ ฮี่ๆๆ
    The Eyes
    23/07/2558
    ----------
    Thousands Protest in New York Against Nuclear Deal With Iran / Sputnik International
    Joint Plan of Action (JPOA) Archive
    http://eeas.europa.eu/statements/docs/2013/131124_03_en.pdf
    https://www.armscontrol.org/Implementation-of-the-Joint-Plan-of-Action-At-A-Glance
    BBC NEWS | Business | Market Data | Commodities | LIFFE Ice Euro Exchange ICEEUR | West Texas Intermediate Crude Oil Future WBS
    BBC NEWS | Business | Market Data | Commodities | London Stock Exchange LSE | Brent Crude Oil Spot BRENT
    BANGCHAK PETROLEUM PUBLIC COMPANY LIMITED
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    เกาหลีใต้ประกาศจะไม่ร่วมมือกับสหรัฐฯแซงชั่นรัสเซีย! เกาหลีเหนือบอกว่าจะแซงฯ Oopz! ม้ายช่าย… บอกว่าอาจจะปล่อยดาวเทียมก่อนเดือนตุลาคมนี้

    [​IMG]

    ----------
    ไปเที่ยวเกาหลีบ้างดีไหม? แหล่มๆทั้งนั้น คริๆ ไม่ใช่ ไม่ได้ไปแบบนั้น ไปดูข่าวการเมืองนะขอรับ วันที่ 22 ก.ค.58 สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "Seoul Will Not Impose Sanctions on Russia – South Korean MP" แปลว่า "กรุงโซลจะไม่แซงชั่นรัสเซีย! (ตู้ม!) - ส.ส.เกาหลีใต้กล่าว" ว้าว! ช่างกล้าซะจริง อ่านข่าวต่อกันนะครับ แล้วค่อยเม้าท์กันทีหลัง รายงานข่าวบอกว่าเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ส.ส.ระดับแนวหน้าของเกาหลีใต้ออกมาประกาศว่า เกาหลีใต้จะไม่ร่วมมือกับสหรับฯและอียูในการแซงชั่นรัสเซีย แม้ว่าจะมีแรงกดดันที่หนักหน่วงจากภายนอกให้กระทำเช่นนั้น ก็บ่ยั่น

    [​IMG]

    Kim Han Gil ซึ่งเป็นประธานคณะมนตรีสภาระหว่างเกาหลีกับรัสเซีย กล่าวในที่ประชุมกับเพื่อนฝูงจากสภาบนของสหพันธรัฐรัสเซียว่า "แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากภายนอก พวกเราก็จะยึดอยู่กับจุดยืนของพวกเราในเรื่องนี้" (ชัดมะจักรวรรดิเฮเก!)
    ส่วนนาย Igor Zuga ซึ่งเป็นผู้แทนจากภูมิภาค Omsk ในสภาสหพันธรัฐฯ กล่าวว่า "รัสเซียขอหนุนหลังแนวความคิดในการดำรงไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพในแหลมเกาหลีอย่างสุดกำลัง" (นั่น! ท่องไว้่รัสเซีย เราชูสันติภาพ)
    Igor Zuga กล่าวต่ออีกว่า "พวกเราขอสนับสนุนแนวความคิดเกี่ยวกับการปรองดองสมานฉันท์ของเกาหลีใต้ และการสร้างความเชื่อมั่นด้วยสายตาที่มีต่อการวมชาติเกาหลีที่แบ่งแยกกันเข้าด้วยกัน" (ฟังสิ... "ปรองดอง" พี่แกจำไปจากไทยหรือเปล่านี่? เอ้า... เขาพูดอย่างนั้นจริงๆนะ คุณอายไม่ได้แกล้งพูดนะ เขาใช้คำว่า "reconciliation")

    [​IMG]

    นอกจากนี้แล้วทางรัสเซียยังได้เรียกร้องให้เพื่อนชาวเกาหลีหันมาสร้างความร่วมมือ 3 ฝ่าย (ไตรภาคี) ทางด้านเศรษฐกิจในโครงการต่างๆอย่างจริงจังร่วมกับจีนด้วย ซึ่งรวมทั้งเส้นทางการคมนาคมขนส่งทางรถไฟสาย Khasan-Rajin (บางครั้งก็เรียกว่า Rajin-Khasan) ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสที่ดีต่อความร่วมมือระหว่างรัสเซียและประเทศอื่นในภูมิภาคเอเซีย-แปซิฟิก
    วุฒิสมาชิก Zuga ของรัสเซียกล่าวว่า แม้จะมีการชะลอตัวในความก้าวหน้าของการพัฒนาเศรษฐกิจทั่วโลก รัสเซียและเกาหลีใต้ได้ดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าจะมีมูลค่าทางการค้าระดับทวิภาคีเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 8.5 ซึ่งขณะนี้เกินกว่า $27 billion แล้ว (ประมาณ 9.18 แสนล้านบาท)
    งานนี้ต้องบอกว่าเกาหลีใต้แข็งมาก อย่างที่เขาบอกนั่นแหละว่าแม้จะโดนแรงกดดันจากภายนอกมากแค่ไหนก็จะไม่ละทิ้งจุดยืนนี้เด็ดขาด แม้ว่าพึ่งจะโดนไวรัสเมิร์สมาหยกๆ ก็จะไม่เปลี่ยนจุดยืน ถึงใครจะเอาแบ็คทีเรียแอนแทร็กซ์มาขู่ก็จะไม่เปลี่ยนใจ จะคบกับรัสเซียซะอย่างจะทำไม? ถึงจักรวรรดิเฮเกจะเข้าไปตั้งฐานทัพในเกาหลีใต้ ทั้งขู่ทั้งบีบเกาหลีใต้ก็ไม่เปลี่ยนไปเป็นศัตรูกับรัสเซียเด็ดขาด
    ที่ไม่เปลี่ยนนี่เขาก็พอจะมีเหตุผลอยู่นะ คือเขาไม่อยากทำสงครามเข่นฆ่าพี่น้องชาติเดียวกันอีกแม้จะแยกประเทศไปแล้ว ไม่อยากหลงกลของสหรัฐฯอีกแล้ว และที่สำคัญก็คือโครงการเส้นทางรถไฟสาย Rajin-Khasan นี้เชื่อมโยงทั้ง 3 ประเทศเข้าด้วยกันคือรัสเซีย-เกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ โอกาสอย่างนี้ โครงการอย่างนี้สหรัฐฯไม่สามารถทำให้ชาวเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ได้ เพราะสหรัฐฯเข้ากับเกาหลีเหนือไม่ได้ ใครไม่ยอมก้มหัวให้ หรือหัวสูงกว่า พี่แกก็จะบอกว่าเป็นภัยคุกคามหรือเป็นศัตรูเอาดื้อๆ แต่รัสเซีย (และจีน) คบได้ทั้งสองฝั่งคือได้ทั้งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ดูสิว่าเกมนี้ใครเป็นต่อ ฮี่ๆๆ วุฒิภาวะในการเป็นผู้นำระหว่างปูตินกับโอบาม่ามันต่างกันครับ
    ไหนๆก็ไปเที่ยวเกาหลีกันแล้ว แวะขึ้นไปเยี่ยมบ้านของคิม จอง-อืน ผู้นำเกาหลีเหนือดูบ้างนะ วันที่ 23 ก.ค.58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า "เกาหลีเหนือ (โปรดฟังอีกครั้ง) เกาหลีเหนืออาจจะปล่อยดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศก่อนเดือนตุลาคม - รายงานข่าวจากกรุงโซล" ถ้าอ้างข่าวจากเกาหลีเหนือเดี๋ยวจักรวรรดิเฮเกและโปรอเมริกาก็จะพูดว่า "เกาหลีเหนือนี่นะจะปล่อยดาวเทียม? ขี้โม้!" เฮ้อ… เปิดหูเปิดตาบ้างเถอะครับ
    หนังสือพิมพ์เกาหลีใต้อ้างแหล่งข่าวจากรัฐบาลของกรุงโซลว่า "เกาหลีเหนืออาจจะส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรในอวกาศก่อนเดือนตุลาคม (ที่จะถึงนี้)"
    เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลเกาหลีใต้กล่าวกับหนังสือพิมพ์ JoongAng Ilbo ในเครือของหนังสือพิมพ์ Korea JoongAng Daily ของเกาหลีใต้ว่า "เรามีข่าวกรองมาว่า Kim Jong-un ซึ่งเป็นประธานคนที่หนึ่งในคณะกรรมาธิการกลาโหมแห่งชาติ ได้มีคำสั่งให้ปล่อยดาวเทียม ดังนั้นพวกเราจึงเชื่อว่าจะมีการปล่อยดาวเทียมก่อนเดือนตุลาคมนี้" รายงานข่าวบอกว่าเกาหลีเหนือได้ทำการทดสอบการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ (จรวด) จำนวน 2 เครื่องตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา
    เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีใต้ผู้ไม่ประสงค์ออกนามกล่าวเพิ่มเติมว่า "เมื่อคำนวนจากขอบเขตของการทดสอบแล้ว จรวดใหม่จะมีขนาดใหญ่กว่า Unha-3 และจะมีพิสัยไกลประมาณ 10,000 กิโลเมตร"
    สื่อฯเกาหลีใต้รายงานเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า "เกาหลีเหนือได้เปิดตัวฐานปล่อยจรวดที่มีศักยภาพในการยิงขีปนาวุธพิสัยไกล (long-range missiles) ที่มีขนาดใหญ่กว่าที่เคยมีมาในอดีต" (เกาหลีใต้ก็กลืนน้ำลายสิครับท่าน เฮือกใหญ่เลย จักรวรรดิเฮเกด้วย)
    แหล่งข่าวจากรัฐบาลของเกาหลีใต้ที่ไม่ประสงค์ออกนาม (อีกหละ มันจะกลัวอะไรนักหนา? เขาเป็นคนขี้อาย?) กล่าวกับสำนักข่าว Yonhap ว่า "กรุงเปียงยาง (Pyongyang) ได้เริ่มโครงการนี้เมื่อปลายปี 2013 เพื่อขยายฐานยิงจรวดที่สูง 50 เมตรออกไปอีก ในเมือง Dongchang-ri จังหวัด North Pyongan ใกล้กับชายแดนจีน ซึ่งดูเหมือนว่าใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว และพร้อมที่จะเปิดตัวฐานปล่อยจรวดที่มีความสูง 67 เมตร"
    รายงานข่าวเพิ่มเติมบอกว่า "เจ้าหน้าที่ทางกองทัพและหน่วยข่าวกรอง (ของเกาหลีใต้) เชื่อว่าฐานยิงจรวดแห่งใหม่นี้มีศักยภาพในการยิงขีปนาวุธพิสัยไกลถึงสองเท่าของจรวด Unha-3 ที่ยาว 30 เมตร ซึ่งเคยใช้ในการส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรมาแล้วในเดือนธันวาคมปี 2012"
    โอ๊ะแม่เจ้า! ทำเป็นเล่นไป เกาหลีเหนือ คิมจองอืน เขาไปไกลขนาดนั้นเลยหรือนี่? เกาหลีเหนือเคยพยายามปล่อยดาวเทียมของตนเองขึ้นสู่วงโคจรมาแล้วอย่างน้อย 3 ครั้ง คือ Unha-2 ในปี 2009 ล้มเหลว แต่ก็ไม่ยอมแพ้ วันสงกรานต์ปี 2012 พยายามปล่อยจรวจ Unha-3 อีกครั้ง แต่ก็ล้มเหลว และเกาหลีเหนือบอกกับตัวเองว่า ต้องทำได้สิน่า ไม่ยอมแพ้เด็ดขาด ต่อมาในปีเดียวกันนี้ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม เกาหลีเหนือปล่อย Unha-3 ลำที่ 2 ขึ้นสู่วงโคจรในอวกาศอีกครั้ง ปรากฏว่า "Yes!, man oh man, it works." มันได้ผล ความพยายามอยู่ที่ไหน (? ก็อยู่ที่เกาหลีเหนือไง) ความพยายามก็อยู่ที่นั่น ฮี่ๆๆ… มั่วหละมิน อ้าว… เขาไม่ได้พูดอย่างนี้หรอกรึ? ไม่ใช่ เขาพูดว่า "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น" ตะหากหละ นึกย้อนดูบางประเทศมีดาวเทียมสำรองเอาไว้ใช้งาน บางคนก็เอาไปขายกินหาผลประโยชน์ใส่กระเป๋าตัวเองซะนี่ ก็เลยไปไม่ถึงไหนซะที มันเศร้าอ่ะ พูดไปก็เหมือนควักไส้ให้กากิน
    The Eyes
    24/07/2558
    ----------
    Seoul Will Not Impose Sanctions on Russia – South Korean MP / Sputnik International
    North Korea May Launch Space Sat Before October - Seoul / Sputnik International
    Rajin-Khasan project to start its second trial run-INSIDE Korea JoongAng Daily
    N. Korea willing to host S. Korean investment in Rajin-Khasan project: official
    https://en.wikipedia.org/wiki/Unha
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    ไทยกำลังโดนสหรัฐและอียูรวมหัวกันแซงชั่นเหมือนที่รัสเซียโดน
    ลองเรียงลำดับข่าวอ่านดู จะเห็นได้ว่าไทยกำลังโดนสหรัฐและอียูรวมหัวกันแซงชั่นเหมือนกับที่ได้ทำกับรัสเซีย เพราะว่าไทยไม่ยอมเป็นเด็กดีให้ฝรั่งเขกหัว แต่บังอาจไปเพิ่มสัมพันธไมตรีกับจีนและรัสเซีย
    1. สมาชิกคณะกรรมาธิการด้านการประมงของยุโรปวันพฤหัสบดี(23ก.ค.) เรียกร้องให้ "ใบแดง" ห้ามนำสินค้าประมงของไทยเข้าสู่ตลาดอียู หลังไทยล้มเหลวในการใช้มาตรการอย่างพอเพียงสำหรับจัดการกับปัญหาแรงงานทาสและการประมงผิดกฎหมาย หลังจากให้ใบเหลืองมาแล้วเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
    นายกาเบรียล โกโต สมาชิกชาวสเปนของพรรคประชาชนยุโรปและคณกรรมาธิการด้านการประมงของรัฐสภายุโรป บอกว่าเขาสนับสนุนให้ "ใบแดง" แก่ไทย ห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์ประมงของไทย หากประเทศแห่งนี้ล้มเหลวในการยับยั้งการทำประมงผิดกฎหมายและเลิกใช้แรงงานทาส โดยเขาบอกว่าภายใต้กฎระเบียบว่าด้วยการป้องกัน ยับยั้งและขจัดการทาประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม (IUU) เจ้าหน้าที่ในรัฐสมาชิก อาจปฏิเสธนำเข้าผลิตภัณฑ์ประมงจากประเทศนั้นๆที่ถูกอียูระบุว่าไม่ยอมให้ความร่วมมือในการต่อสู้กับการทำประมงผิดกฎหมาย
    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx…
    2. วันนี้(18 มิ.ย.58) เมื่อเช้าวันนี้เว็บไซต์ของ ICAO ได้รายงานการลดอันดับความน่าเชื่อถือของมาตรฐานการบินประเทศไทย โดยบนเว็บไซต์มีธงแดงอยู่หน้าชื่อประเทศไทย จะส่งผลทำให้กรมการบินพลเรือนของประเทศต่างๆอาทิ สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อาจจะประกาศห้ามสายการบินที่จดทะเบียนในประเทศไทยบินเข้าประเทศเหล่านีั
    TNN24
    3. อียูออกแถลงการณ์ประณาม ไทยส่งกลับชาวอุยกูร์ให้จีน | เดลินิวส์
    „"อียู"ออกแถลงการณ์ประณามกรณีไทยส่งตัวชาวอุยกูร์ราว 100 คน ให้แก่จีน ระบุเป็นการที่กระทำละเมิดกฎหมายสากลหลายประการ“
    อียูออกแถลงการณ์ประณาม ไทยส่งกลับชาวอุยกูร์ให้จีน | เดลินิวส์
    4. นายจอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ได้แถลงข่าวประณามการกระทำของไทย ที่ได้ส่งตัวชาวอุยกูร์กลับไปยังประเทศจีนโดยไม่สมัครใจมากกว่า 100 คนไปยังจีน เมื่อวันที่ 9 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งบุคคลเหล่านั้นอาจต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรงในประเทศจีน http://www.posttoday.com/…/www.posttoday.…/world/news/375387
    5. ชาวตุรกีไม่พอใจทางการไทย ก่อเหตุโจมตีสถานกงสุลในเมืองอิสตันบูล หลังไทยส่งผู้ลี้ภัยอุยกูร์กลับประเทศจีน ล่าสุด เตือนปชช.และจนท.ไทยระวังอันตราย
    กงสุลไทยในตุรกีถูกโจมตีหลังไทยส่งผู้ลี้ภัยอุยกูร์กลับจีน : INN News
    6. หรือนี่คือแผนมะกัน! ทำเอเชียป่วน ปมให้ไทยอุ้มโรฮิงญา
    หรือนี่คือแผนมะกัน! ทำเอเชียป่วน ปมให้ไทยอุ้มโรฮิงญา
    7. กำชับสถานทูตทั่วโลกดูแลคนไทย หลังปมอุยกูร์ส่อเค้าลาม
    กำชับสถานทูตทั่วโลกดูแลคนไทย หลังปมอุยกูร์ส่อเค้าลาม | Bangkok Voice News Blog and Internet TV
    8. ระหว่างพิธีเปิดการฝึก โคบร้าโกลด์ ปีนี้ อุปทูตสหรัฐอเมริกา กล่าวเรียกร้อง ให้รัฐบาลไทย กลับคืนสู่ประชาธิปไตยโดยเร็วที่สุด
    ผู้แทนจากประเทศภาคีในความร่วมมือการฝึกโคบร้า โกลด์ ประจำปี 2558 จำนวน 24 ประเทศ ร่วมพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ โดยระหว่างกล่าวเปิดพิธี นายแพทริค เมอร์ฟี อุปทูตสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นประเทศก่อตั้งความร่วมมือนี้ ได้เรียกร้องให้ไทย กลับสู่ประชาธิปไตยโดยเร็ว และจัดการเลือกตั้ง
    พร้อมทั้งกล่าวว่า สถานการณ์ภายในประเทศไทยขณะนี้ ทำให้สหรัฐฯ ต้องปรับลดการฝึก ซึ่งปีนี้ จะเน้นที่การฝึกซ้อมด้านการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมและบรรเทาสาธารณะภัย
    สหรัฐฯเรียกร้องไทยกลับสู่ ปชต.ในพิธีเปิดโคบร้าโกลด์ | Bangkok Voice News Blog and Internet TV
    9. ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้รัฐบาลไทยปล่อยตัวนักศึกษา และทบทวนกฎหมายที่จำกัดเสรีภาพในการแสดงออก และเสรีภาพในการชุมนุม
    ในวันอังคาร สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (OHCHR) เรียกร้องให้รัฐบาลไทยยุติการดำเนินคดีอาญาต่อนักศึกษาซึ่งถูกจับกุมเนื่องจากการชุมนุมโดยสงบในที่สาธารณะในกรุงเทพฯ และปล่อยตัวนักศึกษาเหล่านั้นโดยทันที
    นอกจากนี้ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ฯยังเรียกร้องให้รัฐบาลไทยทบทวนการใช้กฎหมายที่จำกัดเสรีภาพในการแสดงออกและเสรีภาพในการชุมนุม เพื่อให้สอดคล้องกับพันธกรณีของไทยภายใต้กฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ.
    UN เรียกร้องรัฐบาลไทย ‘ปล่อยตัวนักศึกษาโดยทันที’ | Bangkok Voice News Blog and Internet TV
    10. ในวันอังคาร เฟซบุ๊ค European Union in Thailand เผยแพร่ถ้อยแถลงของคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย มีใจความระบุว่า
    การจับกุมนักศึกษาจำนวน 14 คน จากข้อหาที่ถูกตั้งขึ้นอันเนื่องมาจากการชุมนุมอย่างสันติของพวกเขาในวันที่ 22 พฤษภาคมเป็นพัฒนาการที่น่ากังวล
    สหภาพยุโรปมีความเชื่อในสิทธิของคนทุกคนในการแสดงออกทางความคิดเห็นอย่างสันติและขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ทางการไทยปฏิบัติตามข้อผูกพันของประเทศไทยภายใต้กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและการเมือง การเคารพซึ่งสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐานนั้นจะต้องได้รับการค้ำชูและศาลทหารไม่ควรถูกนำมาใช้กับพลเรือน
    อียูวอนไทย ยุติใช้ ‘ศาลทหาร’ | Bangkok Voice News Blog and Internet TV
    ต่อไปไทยจะโดนแซงชั่นหนักขึ้นไปเรื่อยๆ ให้ดูตลาดหุ้นและทิศทางของเงินให้ดีๆ อาจจะโดนถล่มและเงินน่าจะไหลออกมากกว่าไหลเข้า เพราะว่ารูเบิ้ลรัสเซียโดนโจมตีไปแล้ว และตลาดหุ้นจีนโดนถล่มในช่วงที่ผ่านมา
    thanong
    24/7/2015
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    บาทร่วงอย่างรวดเร็ว
    เงินบาทร่วงลงอย่างรวดเร็วในวันพฤหัสฯเฉียดใกล้35บาทต่อดอลลาร์ เข้าไปทุกที
    หลังเปิดตลาดที่ 34.71 แล้วเคลืี่อนไหวในทิศทางอ่อนค่าลงเรื่อยๆมาอยู่ที่ 34.87 บาทต่อดอลลาร์ในช่วงบ่ายโมง 10 นาที อ่อนตัวจากวันพุธถึง 20สตางค์
    ถ้าดูในช่วง1เดือนย้อนหลัง เงินบาทอ่อนค่าเป็นอันดับ2ในเอเชีย โดยอ่อนค่าลง3.5% รองจากเงินวอนเกาหลีใต้ที่อ่อนค่ามากที่สุดถึง5%
    เป็นที่น่าจับตาว่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงมากอย่างไม่ค่อยปกติ ขณะที่เงินทุนต่างชาติที่อยู่ในตลาดหุ้นมีการไหลออกเฉพาะเดือนก.ค.ถึง 2หมื่นล้านบาท จากการขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ
    ขณะที่ตั้งแต่ต้นปีนี้ มีการขายสุทธิแล้ว 3.5หมื่นล้านบาท
    Thanong
    23/7/2015
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    ฝรั่งเศสเล่นลับลวงพราง
    ในขณะที่สีปาดโดนWolfgang Schaeuble รมว คลังของเยอรมัน เจ้าของฉายา Dr Evil ไล่บี้เพื่อปลดทรัพย์สินของกรีซทั้งหมดมาคืนหนี้ นายฟรองซัวส์ อ็อลล็อง ผู้นำฝรั่งเศสยืนตำตาปริบๆ ไม่ขยับอะไรมาก แม้ว่าในใจจะเห็นใจกรีซ แต่เขาต้องเล่นบทผู้ตามที่ดี เพราะว่าในแผนดินใหญ่ยุโรปเวลานี้ ป้าแองจี้เป็นสตรีหมายเลข1 ส่วนอ็อลล็องเป็นแค่บุรุษหมายเลข2
    ก็เงินในกระเป๋ามันมีมากไม่เท่ากัน
    แต่ก็เป็นที่รู้กันว่าแบงค์เยอรมันและแบงค์ฝรั่งเศสได้มากที่สุดจากการถลกหนังหัวกรีซ เพราะว่าโปรแกรมการช่วยเหลือกรีซคือการช่วยแบงค์เยอรมันและแบงค์ฝรั่งเศสนั้นเองในทางอ้อม สมประโยชน์กันทั้่งสองฝ่าย
    ป้าแองจี้ต้องการส่งสัญญานให้ประเทศยูโรทั้่งหมดที่ลงเรือใช้เงินสกุลร่วมว่า กฎกติกาของการอยู่บนเรือด้วยกันคืออะไร เมื่อชอบประชานิยมมากๆและไม่มีวินัยการเงินการคลังแล้วถังแตก ต้องยอมเจ็บตัว เอาทรัพย์สินของแผ่นดินไม่ว่าจะเป็นสนามบิน ท่าเรือ เกาะแก่งต่างๆ มาเลหลังขายใช้หนี้ให้เจ้าหนี้ซะดีๆ เข้าโรงซ่อมสุขภาพทางการเงินการคลัง และผ่าตัดกินยาตามDr Evilสั่ง แล้วหลังจากนั้นค่อยมาคุยกันว่าจะได้รับการช่วยแบ่งเบาภาระหนี้กันอย่างไร ป้าแองจี้พูดชัดเจนว่า สำหรับกรีซแล้วจะไม่มีการลดหนี้ให้ แต่อาจจะยืดเวลาการชำระหนี้ออกไปถึงศตวรรษหน้า หรือลดดอกเบี้ยให้เพื่อให้พอหายใจได้
    พูดง่ายๆว่าไม่ให้ตาย แต่เลี้ยงไม่โต
    ประเทศยูโรอื่นๆเห็นสิ่งที่ประเทศกรีซและประชาชนกรีกต้องลำบากลำบนยิ่งกว่าช่วงตกเป็นทาสของโรมันโบราณเสียอีก ต้องหนาว จะเดินหน้าอยู่ต่อในยูโร ต้องลดการใช้จ่ายและพยายามเพิ่มรายได้เพื่อให้การชำระหนี้อยู่ในระดับที่ยั่งยืนเลี้ยงตัวเองได้ แต่หนี้ในเขตยูโรโซนสูงเกือบถึง100%ต่อจีดีพีทั้งนั้น ยิ่งหนี้นอกงบประมาณไม่ต้องพูดถึง แทบทุกประเทศเดินอยู่บนเส้นทางของกรีซทั้งนั้น เพียงแต่ว่ากรีซถึงความหายนะก่อนเพื่อน
    วิกฤติกรีซทำให้เกิดคำฮิต Grexit คือการลาออกจากเขตยูโร เพื่อกลับไปใช้เงินสกุลเดิม สีปาดพลิกล๊อค แม้ว่าประชาชนจะหนุนในการโหวตประชามติให้ปฏิเสธแนวทางของเขตยูโร แต่เขากลับทรยศต่อประชามติและจุดยืนทางการเมืองของตัวเองมาตลอดด้วยการดึงดันก้มหัวคุกเข่าให้่Dr Evilเชือด โดยอ้างว่า ถ้าไม่ยอมเจ้าหนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่เห็นด้วยกับเงื่อนไขสุดโหดของเจ้าหนี้ กรีซจะประสบกับหายนะที่เลวร้ายมากกว่าถ้าหากต้องออกจากยูโร เพราะว่าระบบแบงค์จะพังทันที เงินฝากประชาชนจะเป็นศูนย์
    ท่ามกลางกระแสGrexit นายอ็อลล็องสร้างเซอร์ไพรซ์ด้วยการเสนอให้เขตยูโร19ประเทศรวมตัวกันเป็นสหรัฐแห่งยุโรป (United States of Europe)
    ข่าวรอยเตอร์มีรายงานดังนี้:
    "นายฟรองซัวส์ อ็อลล็อง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เรียกร้องให้มีการก่อตั้งรัฐบาลปกครองกลุ่มยูโรโซน เพื่อกู้คืนศรัทธาจากประชาชนในภูมิภาค ที่ลดความเชื่อมั่นในองค์กรลงเนื่องจากสาเหตุวิกฤตการณ์การเงินในประเทศกรีซที่ส่งผลกระทบกลุ่ม
    "โดยความเห็นเพื่อการฟื้นฟูดังกล่าว เป็นโครงการดั้งเดิมของ นายแจ๊คโคส เดอโลส อดีตประธานคณะกรรมการยุโรป ซึ่งผู้นำฝรั่งเศสกล่าวว่า รัฐบาลของยูโรโซนจะมีอำนาจเทียบเท่ากับสภายุโรป เพื่อควบคุมให้การทำงานเป็นไปโดยเท่าเทียมกัน
    "พร้อมกันนี้ยังกล่าวด้วยว่า ประเทศสมาชิกยูโรโซน 19 ชาติ จะได้รับเลือกร่วมเป็นสมาชิกสภาองค์กรยูโรโซน เนื่องจากความก้าวหน้านี้ อยู่ในความรับผิดชอบของสมาชิกทุกราย และไม่มีใครออกจากการรับผิดชอบในองค์กรได้ตัวเลือกดังกล่าว เพื่อสร้างความมั่นคงให้แก่กลุ่มยูโรโซน ซึ่งเป็นการรักษาความก้าวหน้าของประเทศผู้ที่ตัดสินใจในโครงการดังกล่าว
    "ทั้งนี้นายอ็อลล็องกล่าวด้วยว่า สิ่งที่เป็นภัยกับยุโรป ไม่ใช่การรวมตัวกันมากไป แต่รวมตัวกันน้อยไปต่างหาก และสถาบันยุโรปถูกลดความเชื่อมั่นลงกลายเป็นความอ่อนแอ และรัฐสภายังห่างไกลจากการตัดสินใจที่จะป้องกัน 28 ชาติ ในยุโรป เพื่อดิ้นรนหาจุดก้าวหน้าร่วมกัน ทำให้ความน่าเชื่อถือของประชาชนเปลี่ยนแปลงไป การเปลี่ยนแปลงตามระบอบประชาธิปไตยที่เสนอขึ้น ยึดตามสถานการณ์ความอ่อนแอของยุโรปกับปัญหาของสถาบันยุโรป เนื่องจากประชาชนยังไม่มีมั่นใจและต้องการการป้องกันและความเชื่อมั่นที่จะกลับมา"
    นายอ็อลล็องคิดอะไรอยู่ในใจ ที่เสนอให้เขตยูโร19ประเทศ ซึ่งเป็นเปลือกในของสหภาพยุโรปที่มีสมาชิกทั้งหมด28ประเทศรวมตัวกันเป็นประเทศเดียวเหมือนสหรัฐอเมริกา โดยต้องยกอำนาจอธิปไตยทั้งหมดให้กับบรัซเซลล์ และให้เยอรมันคุมรัฐบาลสหสหรัฐแห่งยุโรปอีกต่อ เท่ากับว่าอาณาจักรไรซ์จะได้ยึดทั้งยุโรปโดยไม่ต้องก่อสงครามโลกกระนั้นหรือ?
    นอกจากGrexitก็เกิดมีคำศัพท์Frexitเหมือนกัน เพราะว่า Marine Le Penคู่แข่งทางการเมืองของนายอ็อลล็องได้เรียกร้องให้ฝรั่งเศสออกจากยูโร เธอเป็นนักการเมืองฝ่ายขวาสุดและมีโอกาสเป็นประธานาธิบดีฝรั่งเศส ถ้าหากมีการเลือกตั้งอีกครั้งในอีก2ปีข้างหน้า เพราะว่าประชาชนฝรั่งเศสเร่ิมเบื่อหน่ายนายอ็อลล็องที่ไม่สามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจได้ แม้ว่าจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสมีอัตราว่างงานสูงเป็นเวลา80เดือนติดต่อกันแล้ว
    สิ่งที่คุณปากกา หรือMadame Frexitเรียกร้องได้รับการตอบสนองดีจากชาวฝรั่งเศสพอสมควร เพราะว่าเห็นหายนะของกรีซ แต่อย่างว่าเราต้องระวังนักการเมืองฝ่ายขวาหรือฝ่ายซ้ายของยุโรปให้ดีๆ เพราะว่าเอาเข้าจริง นักการเมืองขวาจัดและนักการเมืองซ้ายตกเวทีที่มีจุดยืนหรืออุดมการณ์ทางการเมืองคนละขั้ว เวลาเป็นรัฐบาลแล้่ว กลับดำเนินนโยบายเหมือนกันเป๊ะ ให้ดูนายสีปาดซ้ายคอมมิวนิสต์เป็นตัวอย่างที่ทรยศต่อเสียงของประชาชนและอุดมการณ์ของตัวเองเป็นตัวอย่าง
    และให้ดูพวกหัวเอียงซ้ายบ้านเราที่ต้องการล้มสถาบันหลักทุกอย่างของประเทศ แต่กลับรับเงินทำงานรับใช้นายทุนสามานย์เป็นตัวอย่างจะได้เห็นโลกแห่งความเป็นจริงชัดขึ้น
    ความจริงฐานะการเงินของฝรั่งเศสไม่ได้ดีกว่ากรีซเท่าใดนัก ถ้านับหนี้นอกงบประมาณแล้ว ฝรั่งเศสมีหนี้ที่ไม่สามารถจะชำระได้ ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่อัตราการเจริญเติบโตอ่อนแอ แต่การใช้จ่ายภาคสวัสดิการสังคมด้านต่างๆสูงลิ่ว รวมทั้งภาคแรงงานที่ไม่มีความยืดหยุ่น ฝรั่งเศสจะเจอวิกฤติการเงินในอนาคต ไม่ต่างจากโปรตุเกส เสปน หรืออิตาลี
    การที่นายอ็อลล็องต้องการสร้างสหรัฐแห่งยุโรปเพื่อเอาหนี้ของฝรั่งเศสไปเกลี่ยกับงบประมาณของประเทศยูโรทั้งหมดหรือเปล่า เพื่อต่อเวลาอายุหนี้ของฝรั่งเศส และเพื่อสกัดMadame Frexitที่อาจจะโค่นเขาในการชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีในอีก2ปีข้างหน้า
    นอกจากGrexit และFrexitแล้ว เรายังได้ข่าวBrexitอีก เพราะว่าอังกฤษแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในเขตยูโร แต่ตีรวนต้องการออกจากสหภาพยุโรป โดยอ้่างโน้นอ้างนี้สาระพัด อังกฤษเจ้าเล่ห์อยู่แล้ว ขาข้างหนึ่งแหย่เข้าไปในแผ่นดินใหญ่ยุโรปเพื่อตีกินการการเงินและการเมืองและตีรวนเพื่อให้ยุโรปแตกจะได้อ่อนแอ รอดูว่านายเดวิด คาเมรอนจะทำจะทำประชามติให้อังกฤษออกจากสหภาพยุโรปหรือไม่
    นายเบน เบอร์แนงกี้ อดีดประธานธนาคารกลางของสหรัฐบอกว่าเยอรมันได้ประโยชน์มากที่สุดในการอยู่ในเขตยูโร เพราะว่าในช่วงที่ผ่านมา ค่าเงินยูโรอ่อน แต่อุตสาหกรรมการส่งออกของเยอรมันแข็งแกร่งมาก ทำให้เยอรมันได้เปรียบอย่างมากในการส่งออก ถ้าหากว่าเยอรมันไม่ใช้ยูโร จะเหมือนกับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่ค่าเงินจะแข็งมากเมื่อเทียบกับยูโร จะทำให้การส่งออกมีปัญหา
    แล้วป้าแองจี้คิดอะไรอยู่? ความจริงเยอรมันเล่นไพ่ได้สองหน้า จะอยู่ยูโรก็คุมยุโรปได้ทั้งหมดอยู่แล้ว เพราะว่าเข้มแข็งมากในด้านเศรษฐกิจ จะออกจากยูโรไปใช้มาร์ค ก็ตีกินยุโรปได้สบาย เนื่องจากมีความสามารถในการแข่งขันเหนือทุกประเทศในยุโรป แต่เรื่องเศรษฐกิจหรือผลประโยชน์ของประชาชนพับเอาไว้ก่อน เพราะว่านักการเมืองจะคิดอย่างนักการเมือง
    เอาเข้าจริงป้าแองจี้เป็นลูกไล่ให้สหรัฐและอังกฤษ หรือกลุ่มแองโกล แซกซั่นในทางการเมือง จะเห็นได้ว่าเยอรมันไม่ได้มีเรื่องอะไรกับพี่ปู แต่กลับดำเนินนโยบายห้าวและกร้าวร้าวกับรัสเซียมากโดยอ้างวิกฤติยุเครน ทั้งๆที่รู้ทั้งรู้ว่าสหรัฐก่อวิกฤติยูเครน เพื่อหาเรื่องสกัดไม่ให้รัสเซียผงาด หรือสร้างชาติใหม่ให้เข้มแข็งผ่านเขตเศรษฐกิจยูเรเซีย รัสเซียเป็นมหาอำนาจทางนิวเคลียร์ที่สามารถท้าท้ายความเป็นมหาอำนาจแต่เพียงผู้เดียวของสหรัฐได้
    ในสงครามโลกครั้งที่2 เยอรมันพ่ายแพ้อย่างย่อยยับต่อพันธมิตรสหรัฐ อังกฤษและรัสเซีย ที่จับมือร่วมกันทำลายฮิตเลอร์ และช่วยให้ฝรั่งเศสได้อิสระภาพจากการยึดครองของนาซีเยอรมัน แต่70ปีให้หลัง ป้าแองจี้กลับไปจับมือกับอังกฤษและสหรัฐในการท้าทายรัสเซีย
    ในขั้วมหาอำนาจที่กำลังชิงดำกันอยู่
    ส่วนอ็อลล็อลไม่ต้องการรบกับรัสเซีย พยายามทำดีกับรัสเซียมาตลอด แต่โดนสั่งสอนด้วยการก่อการร้ายCharlie Hebdoกลางกรุงปารีส ธนาคารBNP Paribasโดนสหรัฐปรับ$9,000ล้าน และฝรั่งเศสต้องจำยอมจ่ายค่าปรับที่ไม่ส่งเรือรบสองลำให้รัสเซียตามสัญญาว่าจ้าง เพียงเพราะว่าไม่ต้องการทำตามนโยบายแซงชั่นรัสเซียที่อังกฤษและสหรัฐร่วมกันกำหนด
    แต่ลึกๆแล้ว อ็อลล็องต้องแอบไปเจรจากับพี่ปูว่า ถ้ายูจะนุ๊คอังกฤษ หรือเยอรมันก็ยิงข้ามหัวฝรั่งเศสได้เลย ขออย่างเดียว อย่าให้หอไอเฟลต้องพังลงมา เพราะว่ารายได้การท่องเที่ยวฝรั่งเศสต้องพึ่งพาหอไอเฟล อ็อลล็องมาไม้นี้ นาโต้ต้องคิดหนัก เพราะว่าฝรั่งเศสอยู่ท่ามกลางเยอรมันและอังกฤษ ไม่มีฝรั่งเศสร่วมด้วย แผนการของนาโต้ในการปิดล้อมและเผชิญหน้ารัสเซียจะล่มไม่เป็นกระบวน
    ในขณะเดียวกัน การนำเสนอสหรัฐแห่งยุโรป ในขณะที่เขตยูโรมีทีท่าจะล้มของอ็อลล็อง เข้าล๊อคของโรมพอดีที่ต้องการได้ทั้งยุโรปมาอยู่ภายใต้การกำกับหลังจากรอคอยมาเป็นเวลาเป็นพันๆปี ทั้งโรม ลอนดอนและดีซีต่างก็เป็นศูนย์กลางของโลกที่ทำงานเชื่อมโยงกัน โดยมีบรัสเซลล์เป็นลูกไล่อีกที
    ตกลงนายอ็อลล็องเสนอการสร้างสหรัฐแห่งยุโรป เพื่อ
    1. ตีกันMadame Frexitที่อาจจะมาแย่งตำแหน่งประธานาธิบดีของเขาไป
    2. เอาหนี้อนาคตของฝรั่งเศสไปให้เยอรมันช่วยจ่ายผ่านงบประมาณร่วมของสหรัฐแห่งยุโรป
    3. ทำความฝันของโรมให้เป็นจริงที่ต้องการต้อนทั้งยุโรปเข้าคอกในนิวเวิร์ลออร์เดอร์
    4. เขี่ยอังกฤษออกไป โดยหวังว่าฝรั่งเศสจะเป็นผู้นำของพวกลาตินยุโรปคือเสปนและอิตาลี่ในการคานเยอรมันอีกที
    5. ให้ฝรั่งเศสอยู่รอด โดยแอบจับมือลับๆกับพี่ปูของรัสเซียว่า เราไม่ยิงนุ๊คใส่กันนะ
    ทั้งหลายทั้งปวงต้องดูกันต่อไป ว่าทีเด็ดที่แท้จริงของอ็องล็องคืออะไร แค่สีปาดเรายังถูกหลอกจนช๊อคคาจอ แล้วลับลวงพรางของอ็อลล็อง เรายิ่งจะไม่รู้สึกต๊กกะใจหมกเลยจนหัวใจวายหรือ
    thanong
    21/7/2015
    French President Calls For The Creation Of United States Of Europe | Zero Hedge
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    1. โลกเข้าสู่ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการหรือยุคชะงักงันทางฆราวาส
    ในวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายPhilipp Michael Hildebrandเป็นแขกพิเศษของธนาคารแห่งประเทศไทย เขาได้รับเชิญมาเป็นวิทยากรประจำปี เพื่อพูดให้ฝ่ายบริหารของแบงค์ชาติและบุคคลที่อยู่ในแวดวงแบงค์และตลาดการเงินได้รับรู้ถึงแนวคิดของเขาเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในฐานะที่เขาเป็นถึงรองประธานของBlackRock บริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยขนาดพอร์ต$4.8ล้านล้าน และเป็นอดีตผู้ว่าการธนาคารกลางสวิส
    ค่อนข้างจะชัดเจนว่านายHildebrandอยู่ค่ายของคนที่มองโลกในแง่ดี โดยโปรยนำว่า เศรษฐกิจโลกมีการฟื้นตัวในประเทศที่เป็นเศรษฐกิจหลักของโลก ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐ ญี่ปุ่น เยอรมันนี โดยเงินเฟ้อหยุดที่จะชะลอตัวลง และการจ้างงานมีแนวโน้มดีขึ้น ค่าแรงงานที่แท้จริงมีการขยับขึ้น ส่วนตลาดเกิดใหม่เจอภาวะการชลอตัวของเศรษฐกิจ แต่ยังไปดีกว่าประเทศอื่นๆ รวมทั้งจีน ซึ่งถึงแม้ว่ากำลังมีปัญหาฟองสบู่ตลาดหุ้นแตก และทางการพยายามที่จะประคองสถานการณ์ให้ดีที่สุด แต่ก็จะยังสามารถที่จะดันให้จีดีพีโตได้อย่างน้อย6%ในปีนี้
    แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น Hildebrandกล่าวว่า ความไม่แน่นอนในอนาคตยังคงมีอยู่สูง เพราะว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกเวลานี้จะถือว่าเป็นการฟื้นตัวทางวงจร (cyclical rebound) หรือว่าเป็นการฟื้นตัวจากการปรับโครงสร้าง (structural growth recovery) ถ้าเป็นอย่างแรก การฟื้นตัวจะไม่คงทนถาวร แต่ถ้าเป็นอย่างหลังจะช่วยให้เศรษฐกิจโลกมีการปรับตัวให้เข้าสุ่หนทางของการเจริญเติบโตที่ยั่งยืน
    แล้วปัจจัยของความเสี่ยง หรือความไม่แน่นอนมีอะไรบ้าง? นายHildebrandอธิบายว่า ความไม่แน่นอนที่อาจจะมีผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก คือ
    1. ความพยายามที่จะลดหนี้ (deleveraging)ของทั้งภาครัฐและเอกชน หลังจากก่อหนี้กันมาหลายปีจากสภาพแวดล้อมดอกเบี้ยที่ถูก ต่อไปดอกเบี้ยมีแนวโน้มสูงขึ้น จำต้องลดหนี้กันถ้วน หน้าซึ่งจะมีผลต่อการเจริญเติบโต
    2. การแทรกแซงตลาดการเงินเป็นเวลานานของธนาคารกลางหลักของโลกเป็นเวลานาน ตั้งแต่หลังวิกฤติการเงินปี2008 ทำให้เบี่ยงเบนราคาทรัพย์สินจากความเป็นจริง เขาใช้คำว่าdistort asset prices ต่อไปธนาคารกลางจำต้องปล่อยทรัพย์สินที่ซื้อเข้ามาในงบดุล ออกไปสู่ตลาด ผลกระทบต่อการการเงินหรือเศรษฐกิจโดยรวมจะเป็นเช่นใด
    3. ตลาดอ่อนไหวง่ายต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายของทางการ ไม่ว่าการที่ธนาคารกลางสวิสจะเลิกผูกค่าเงินสวิสฟรังค์กับยูโร อดีตประธานเฟด เบน เบอร์แนงกี้รีบร้อนบอกว่าจะเลิกสนับสนุนการซื้อทรัพย์สินเข้างบดุลเฟดในปี2013 และทางการจีนจะต้องปล่อยทรัพย์สินที่เข้าไปแทรกแซงในตลาดหุ้นและตลาดการเงินกลับออกมาในอนาคต
    4. การเปลี่ยนแปลงทางกำกับและตรวจสอบแบงค์และสถาบันการเงิน ที่จะทำให้ภูมิทัศน์ของโลกการเงินเปลียนไป
    5. และประการสุดท้าย การปฏิวัติของไอทีที่จะทำให้ระบบเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไปในทางที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าข้อเสียคือการจ้างงานจะลดลง และจะก่อให้เกิดปัญหาทางสังคม
    thanong
    21/7/2015
     

แชร์หน้านี้

Loading...